(ต่อจ้า)
เราออกมากินข้าวที่ห้าง แล้วก็แวะซื้อของกันที่นั่นเลย จะได้ไม่เสียเวลา ไม่คิดว่าเค้าจะมีโมเมนต์แบบนี้เหมือนกัน เข็นรถเข็น ส่วนผมก็เดินอยู่ข้างๆ ......เราเดินไปสักพัก ซื้อนั่นซื้อนี่จนเต็มไปหมด แต่ไม่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนมีคนตาม พอหันกลับไปก็ไม่มีใครเลย หรือเรารู้สึกไปเอง ผมเลิกคิดแล้วเดินดูของต่อ
"คุณจะเข้าไปซื้อจริงดิ งั้นผมขอรออยู่ข้างนอกได้ไหมอะ?" คือเข้าไปคนเดียวยังพอว่านะ แต่ถ้าเข้าไปสองคน ผู้ชายทั้งสอง แถมยังซื้ออะไรแบบนั้นอีก ผมว่ายิ่งทำให้คนมองไปใหญ่
"ไม่ได้ ใช้ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน"
"งั้นไม่ต้องใช้ก็ได้" ก็คนมันเขินนี่หน่า
"ไม่งั้นนายจะเจ็บนะบอกไว้ก่อน" ผมรู้ แล้วก็เจอมากับตัวแล้ว แค่โลชั่นพวกน้นมันช่วยได้ไม่เท่าไหร่หรอก
"สั่งเอาทางเน็ตก็ได้ นะคุณ?" ผมร้องขอ
"แล้วคืนนี้ล่ะ?"
"ไม่ให้ ก็คุณเพิ่ง.... หึ!!" ผมงอน จะหื่นอะไรนักหนา แล้วตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เอาไปเก็บไว้ที่ไหน หรือระบายยังไง? อยากถามนัก
"ก็นั่นมันเมื่อกี้ แต่นี่สำหรับตอนกลางคืน"
"แต่คุณเพิ่งทำไปนะครับ สองวันครั้งไม่ได้เหรอ?" ผมต่อรอง
"ขี้งก!!"
"คุณนั่นแหละขี้หื่น" ผมพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
"ช่วยไม่ได้ก็นายมันน่ากินนิ" ตายไปเลยสิเจอประโยคนี้ ยังมีอะไรที่เซอร์ไพรส์ผมกว่านี้อีกไหมเนี๊ยะ หัวใจจะวาย จากคนที่ทื่อๆเหมือนท่อนไม้ บางครั้งก็ร้อยอารมณ์จนตามไม่ทัน กลับกลายมาเป็นแบบนี้ บอกเลยผมตั้งหลักไม่ไหว ดาเมจรุนแรงเกินไปละ ฟิตตี้เฉด ออฟ คราม
วันเว้นวัน" เขาต่อรอง แต่ทำไมเราต้องมายืนทำอะไรแบบนี้กันที่นี่ด้วยเนี๊ยะ ผมไม่เข้าใจ เรามาถึงจุดนี้กันได้ยังไง?? จะบ้าตาย
"ก็ได้" ก็ยังดีกว่าทุกวันล่ะวะ
"งั้นกลับกัน สัญญานี้เริ่มพรุ่งนี้นะ" ผมหันมาอย่างรวดเร็ว อ้าปากพะงาบๆ จะด่าก็ด่าไม่ออก เพราะสายตากรุ้มกริ่มแบบนี้ ทำให้พูดอะไรไม่ออก
"เป็นอันว่าตกลง งั้นกลับกัน" รู้สึกพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
"อิขิงงงงงง" ใครมาเรียก ผมหันไปก็เจอผู้หญิงตัวโตคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาหา แถมยิ้มให้ยิ่งกว่านางงามซะอีก
"เรียกผมเหรอครับ?" ตอนนี้คือมืน แล้วก็งงมาก ผมคิดว่าเราไม่น่าจะเคยรู้จักนะ ส่วนคุณครามก็กำลังยืนมองอยู่เหมือนกัน
"ก็เออน่ะสิ" ตอบเสียงห้าวขนาดนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงแล้วล่ะครับ
"เออ..ขอโทษนะครับ เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอครับ?" ไม่ว่าจะมุมไหน ผมว่า..ผมไม่น่าจะเคยรู้จักเธอนะ
"เคยสิยะ..ชั้นไง แพรรี่"
"แพรรี่ไหน?" ในชีวิตนี้รู้จักแค่ แพรรี่ พาย คนเดียวเท่านั้นแหละ แพรรี่แบบนี้ไม่เคยนะ ผมมองเธอ แล้วเธอก็มองผม
"อ่อลืมไป..นั่นชื่อใหม่ แกคงไม่ได้เข้าไลน์กลุ่ม เพื่อนตอนสมัยมัธยม ชั้นไงพนัสพงศ์ ห้องม.6/2 ชั้นเป็นเพื่อนห้องเดียวกับแกตอนสมัยมอปลายไง แถมยังอยู่ข้างบ้านยายแกด้วย" ในหัวมีภาพเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ตัวดำๆ แห้งๆ หัวเกรียนๆคนหนึ่ง
"พนัสเหรอ?" มันพยักหน้าแล้วยิ้มหวาน "เห้ย!! ไม่น่าเชื่ออะ" พูดไม่ออก นะจุดนี้บอกเลยว่าจำมันไม่ได้จริงๆ คือมันเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นผู้หญิงแล้ว สูงยาว ผิวขาวขึ้น เรียกว่าสีน้ำผึ้งน่าจะถูกกว่า แล้วก็มีหน้าอก ผมมองตาม แล้วมันก็ยิ้มให้จนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่
"เป็นไง สวยล่ะสิ" ผมพยักหน้าหงึกหงัก
"นึกว่าจะจำไม่ได้ จนต้องให้เล่าถึงวีรกรรมของชั้นตอนแอบลวมลามแกตอนไปเข้าค่ายลูกเสือ อิอิ" คุณครามขมวดคิ้ว ไม่มีอะไรมากหรอกครับแค่มันแอบจับของผมตอนอาบน้ำเสร็จเฉยๆ
"เห้ยไม่ต้องๆ จำได้แล้ว ว่าแต่สวยเนอะ"
"แน่นอนย่ะ ตลึงล่ะสิ" มันสบัดผมยาวเป็นลอนใส่
"แล้วนี่แกมาซื้ออะไร ชั้นมีเรื่องจะคุยกับแกเยอะเลย งั้นไปหาที่นั่งคุยกันไหม แกกินข้าวยัง?" ผมหันไปมองคุณคราม เค้าก็พยักหน้าตอบตกลง
"ได้ๆ เราก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย"
"มาโรงมาเรา พูดกูเหมือนเดิมเถอะค่ะ กูขนหนาวลุก" มันทำหน้าสยอง ผมเลยพยักหน้าใส่ ก็ไม่เจอกันมาตั้ง 6-7 แล้ว มันก็ต้องรู้สึกเขินๆกันบ้างสิ
"แล้วพ่อสุดหล่อที่ยืนข้างๆแกใครอะ เพื่อนเหรอ? หรือว่ารุ่นพี่?" ถ้าจะกระซิบเสียงดังขนาดนี้ พูดออกมาเลยเหอะ มันบุ้ยปากไปทางคุณคราม แล้วเขยิบเข้ามากระซิบผม สายตานี้ไม่บ่งบอกเลยนะว่าถูกใจ ส่วนคุณครามก็เก๊กขรึมไม่สนใจ แต่ก็ไม่ได้เขยิบหนีไปไหน
"เราว่า....ไปหาที่นั่งคุยกันก่อนไหม เริ่มปวดขาแล้วอะ คนก็เริ่มมองแล้วด้วย แหะๆ"
"ได้เลย ตามแพรรี่มาค่ะเพื่อนขิง" ผมหันไปมองคุณครามแล้วก็จูงแขนเดินตามมันไป เรามานั่งกินข้าวที่ซิสเลอร์ มันบอกว่าอยากกิน แต่ไม่มีเพื่อน มาเจอพอดี..เลยสรุปว่ากินอันที่มันอยากกินนี่แหละ เอ่อดีเนอะ..!!
"เอ้ากินสิคะ มองชั้นแล้วมันไม่ได้ช่วยให้อิ่มหรอกนะ ชั้นรู้ว่าสวย แต่แกมันไม่ใช่สเป็คชั้นหรอก บอกไว้ก่อน" โอ้..แม่คุณมั่นจริงๆ ขนาดว่าไม่ใช่สเป็ค ตอนมอปลายผมโดนมีลวมลามตั้งหลายครั้งแหนะ จะว่าไปผู้ชายในห้องก็โดนหมดแหละ ต้องผ่านมือมนัสหมดทุกคน คิดแล้วสยองปนตลก
"อยากชิมสเต็กปลาแซลมอน" ผมหันไปมองคนข้างๆ แล้วก้มมองจานตัวเอง ก็ได้..แบ่งให้นิดหน่อย ก็ได้ คุณครามยิ้มกริ่มแล้วตักสเต็กปลาแซลม่อนเข้าปาก ส่วนมนัสหรือแพรรี่ก็มองตาไม่กระพริบ
"นี่ขิง สรุปแกอะไรกับพ่อรูปหล่อคนนี้ ตอบชั้นมาเดี๋ยวนี้นะ?" ผมกำลังจะเอาสเต็กเข้าปาก ถึงกับชะงัก
"นี่..คุณคราม เจ้านายเราเอง"
"เหรอ? เจ้านายแล้วทำไมต้องตักนั่นตักนี่ให้กันกินด้วย ชั้นสังเกตตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ตอบความจริงมาเดี๋ยวนี้นะ" มนัสชี้ส้อมมาข้างหน้า อะไรเนี๊ยะวันนี้มันวันอะไรกัน ต้องมีให้ลุ้นได้ตลอดเลย
"ก็...ตามที่มึงสงสัยนั่นแหละ" ผมสารภาพ ปิดไปก็แค่นั้น ว่าแต่นี่มันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอวะ??
"ก็แค่เนี๊ยะ ตอบตั้งแต่ตอนแรกก็จบ ตักข้าวจนแทบป้อนกันอยู่แล้ว ยังจะกล้าตอบเจ้านายอยู่อีก"
"ก็นะ" ตอบได้แค่นี้แหละ โดนตอกมาแต่ละประโยคแรงๆทั้งนั้น
"ความจริงชั้นก็เห็นแววแกมาตั้งแต่ ม.ปลายแล้วแหละ ว่าแกอะ..ไม่เหมาะกับการมีเมียหรอก เป็นเมียเค้าอะเหมาะกว่า" ผมทำหน้าเหวอ ส่วนคุณครามได้แต่ยิ้มมุมปากนิดหน่อย คงจะชอบใจล่ะสิ เหอะ!!
"แล้วเป็นไง ชอบล่ะสิ? ชั้นบอกให้แกลองตั้งแต่มอปลายแล้วก็ไม่เชื่อ" แพรรี่เบ้ปากใส่ ส่วนผมก็นั่งเงียบ โต๊ะนี้ก็มีแต่คุณเธอนั่นแหละที่พูดเยอะที่สุด
"ชั้นไม่ถามหรอกนะว่าใครรุก-ใครรับ เพราะดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแกอะอยู่ข้างล่างให้เค้ากดแน่!!" คุณครามยิ้มกริ่ม ผมเลยถลึงตาใส่
"แล้วมนัสล่ะมาทำอะไรที่กระบี่?"
"อร๊ายยย!! อีนี่นิ ถ้าไม่เกรงใจว่าผัวแกอยู่นี่ชั้นจะตบปากแล้วนะ ทำไมพูดจาทำร้ายจิตใจสุภาพสตรีอย่างนี้" มันค้อนใส่ ...ก็เคยเรียกแบบนี้นิ จะให้เรียกแพรรี่ก็ไม่ชินอีก
"ขอโทษๆ มันติดปาก"
"ชั้นมาอยู่ที่นี่ได้เกือบ 2 ปีแล้ว เป็น ผจก ส่วนหน้าของโรงแรมxxx อะ"
"เป็นยามเหรอ?"
"อิบ้าขิง!! แหกตาดูก่อน สวยขนาดนี้ หุ่นขนาดนี้จะทำงานเป็นยาม" มันปรี๊ดใส่...ก็ไม่รู้นี่หว่า
"ขอโทษๆ แล้วทำอะไรอะ?"
"ทำฟร้อนท์ หรือรีเซฟชั่นอะ ออกจากที่เชียงใหม่ก็มาที่นี่นี่แหละ ที่นั่นเงินเดือนน้อย ที่นี่ให้เยอะกว่าแล้วก็แต่งหญิงได้ด้วย"
"แล้วไม่คิดถึงบ้านเหรอ มาทำงานที่นี่" เพราะมันเรียนที่ มช. ทำงานก็ที่นั่นเลย ไม่ได้มาเรียนตั้งแต่ปี1 แบบผม
"คิดถึงบ้างค่ะ แต่จะทำไงได้ อยู่ที่โน้นก็ดักดานไม่มีอนาคตสิคะ แถมพวกงี้เง้าก็เยอะ อยู่นี่มีโอกาสหาผัวฝรั่งกลับไปฝากพ่อกับแม่ด้วย ดีจะตาย" จบประโยคนี้แพรรี่ก็สาธยายชีวิตให้ฟังตั้งแต่อยู่เชียงใหม่ กรุงเทพฯ มาจนถึงที่นี่ว่าเป็นยังไงบ้าง? ชีวิตรักก็เช่นกัน บ่นว่ามีผัวไทยแล้วเลว
"ดูแลตั้งแต่เช้ายันเข้านอนยังไม่พอ มันดันด็อดไปเอากับชะนีเฉยเลย ชั้นล่ะเจ็บแค้นใจ เลยหนีมาอยู่ที่นี่แหละ" สรุปคือตอนนี้มันมีสามีเป็นฝรั่งเป็นชาวออสซี่ ชื่ออดัม เป็นกุ๊กอยู่โรงแรมเดียวกัน ถึงว่ามาเจอกันได้ ตอนนี้ชีวิตก็ราบรื่น มีความสุขดี อยู่ๆก็มีประโยคนี้ผลุดขึ้นมาในหัว "ดีแล้วทุนหัว..ที่มีผัวเป็นฝรั่ง" ผมว่ามันเหมาะกับสามีฝรั่งมากกว่านะ ทั้งลุคแล้วก็ไลฟ์สไตล์
"แล้วแกอะ มีผัวแบบนี้พ่อแม่แกรู้รึยังน่ะ?" วกกลับมาที่ผมอีกละ ไม่ชอบเลยอิคำที่มันใช้เนี๊ยะ จะอะไรนักหนา คำก็ผัว สองคำก็ผัว มันเป็นคำต้องห้ามนะรู้ไหม?
"เออๆก็ได้ ไม่เรียกแบบนั้นก็ได้"
"แล้วสรุปมีแฟนแบบนี้ พ่อกับแม่แกรู้ยัง?"
"ยัง แต่แม่ก็ถามนะ มีแซวบ้าง"
"แล้วแกตอบว่าไงอะ?"
"ก็ไม่ไงอะ บอกว่ายังไม่มี"
"ชั้นว่าถ้าพ่อแม่แกรู้ ..ไม่อยากนึกภาพเลย สงสารแฟนแก พ่อเลี้ยงคำปันดุอย่างกะเสือ"
"ว่าไป..พ่อกูไม่ได้ดุขนาดนั้น มึงก็พูดเวอร์" ผมพูดแล้วหันไปมองคุณคราม
"ว๊ายตาเถร..ตกใต้ถุน สองโมงกว่าแล้ว ชั้นต้องรีบไปรับอดัมแล้ว เค้าเลิกงานพอดี ไปนะจ๊ะ ม๊วฟๆ"
"ไปนะคะคุณคราม ถ้ามันดื้อจัดให้หนักเลยนะค่ะ อิอิ" ผมเบ้ปากใส่ ส่วนมันก็รีบเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว มาเร็ว เคลมเร็ว ผมหันกลับมามองคุณคราม
"ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงครับ?"
"เพื่อนนายตลกดีนะ" ผมพยักหน้า "ชั้นไม่เคยเห็นนายพูดแบบนี้เลยสักครั้ง ดูแปลกดี"
"ผมเลือกคนพูดครับ กับเพื่อนผู้ชาย หรือกับผู้หญิงห้าวๆเท่านั้น ส่วนคนน่ารักๆ เรียบร้อยก็พูดดี" นึกถึงสมัยเรียนผมมีเพื่อนทุกประเภทเลย ทั้งน่ารักเรียบร้อยแบบคีย์ ไปจนถึงหัวโจก เกเร อันนี้เพื่อนสมัยมัธยม เพื่อนแถวบ้าน
"ได้ข่าวว่าพ่อดุเหรอ หือ?"
"ก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น แค่ดูเป็นคนเสียงดัง โผงผางแค่นั้นเอง"
"นึกว่าดุ จะได้วางแผนพาหนี ถ้าไปขอแล้วไม่ยกให้"
"ตลกละ"
"หึๆๆ"
"กลับกันเถอะครับ"
.................................................
....................................
กลับมาถึงบ้าน คุณป้ากับพี่นุ้ยกำลังเข้าครัวอยู่พอดี ออกไปนอกบ้านก็เหมือนจะลืมความตึงเครียดไปได้บ้าง แต่พอกลับบ้านมาผมก็ยังกังวลอยู่เหมือนเดิม ยิ่งเห็นคุณป้ายิ้มให้มากเท่าไหร่ ทำดีกับเรามากเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดมาก
"นั่นไงมากันแล้ว ได้อะไรมาเยอะแยะเลยลูก? แอบหนีไปเที่ยวกันไม่ชวนแม่บ้างเลย" ผมยิ้มให้ท่านแต่ดูเหมือนจะเป็นหน้าชื่นอกตรมเสียมากกว่า
"ได้ของใช้ส่วนตัว แล้วก็ขนมเด็กน้อยนิดหน่อยครับ" คุณครามยิ้มแซว ขนมเด็กน้อยก็ขนมผมนี่แหละ
"แค่สองอย่างเอง ทำเป็นบ่น" ผมชอบกินสแน็คแจ็ค กับทาโร่เลยซื้อตุนไว้ในห้อง แล้วเอามากินตอนดูทีวี เล่นเน็ต คุณป้าหัวเราะเบาๆ
"น้องก็ยังเด็กอยู่นิ ห่างจากเราตั้งหลายปี" นึกถึงประโยคที่คีย์แซวเมื่อตอนสายเลย
"ยิ้มแบบนี้แอบว่าชั้นกินเด็กล่ะสิ?" คุณครามกระซิบ
"ก็มันจริง"
"ทำไงได้ก็เด็กมันน่ากินนิ" คุณครามกระซิบต่อแล้วยักคิ้วให้สองที
"อะไรกันพี่น้องคู่นี้ กระซิบกระซาบอะไรกัน หืม?"
"ขิงเค้าบอกอยากช่วยคุณแม่ทำกับข้าวน่ะครับ" ทำทำหน้าเหวอ!!
"อ้าวเหรอจ๊ะ? มาสิลูก แม่กำลังต้องการลูกมืออยู่พอดี"
"ครับ งั้นผมขอตัวเอาของไปเก็บแล้วมาช่วยนะครับ" กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำเป็นต้องรับปากนั่นแหละ
"จ้าลูก" คุณป้าตอบรับแล้วเอามือมาลูบหัวผม
"งั้นผมก็ขอตัวด้วยนะครับ จะเข้าไปเช็คอีเมล์ลูกค้าสักหน่อย"
"จ้าลูก ถ้ากับข้าวเสร็จเดี๋ยวแม่ไปตาม" ผมกับคุณครามขึ้นมาข้างบน
"เอาหน่า ทำตัวให้เป็นปกติ อย่ากังวล" คุณครามขยี้หัวเบาๆ แล้วเดินเข้าห้องไป ส่วนผมเอาของเก็บ ล้างหน้าล้างตา แล้วก็ลงมาข้างล่าง
วันนี้เราทำแกงเลียง ปลาทอดราดพริก ไก่ผัดพริกไทยดำ แล่วก็แกงจืดตำลึง ส่วนมากคุณป้าเป็นคนทำ ผมกับพี่นุ้ยยืนเป็นลูกมือ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ให้ หั่นผักบ้าง แล้วก็ชิม กับข้าวฝีมือคุณป้าก็อร่อยเด็ดเหมือนกันแหะ คุณป้าบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาเข้าครัว แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะทำให้คุณครามทานตลอด ช่วงเวลานี้คิดถึงคุณนายที่บ้านจัง คิดถึงกับข้าวฝีมือคุณนายด้วย
<< ...................................................................... >>
หลังจากทานข้าวเย็นกันพร้อมหน้าแล้ว คุณป้าก็ขึ้นไปอาบน้ำ บอกกับพี่นุ้ยจะลงมาดูละครด้วย เพิ่งรู้แหะว่าคุณป้าก็คอละครหลังข่าวกับเค้าเหมือนกัน ไม่แตกต่างจากคุณนายที่บ้านเลย รายนั้นอินยิ่งกว่านางเอกอีก บางครั้งนางเอกมันเจ้าน้ำตาแล้วก็โง่ ถูกตัวโกงทำร้ายสารพัด ด่าเค้าแต่ก็ยังดูอยู่ พี่ก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
คุณครามก็กลับห้องเค้า ส่วนผมก็กลับมาห้องผมสิ อาบน้ำเสร็จแล้วผมก็เอารูปมารีทัชนิดหน่อยแล้วก็อัพลงเพจ จะรูปใครอีกล่ะ ก็รูปนายหัวเกาะไข่นั่นแหละ ปกติผมไม่ค่อยถ่ายรูปคนหรอก ไม่ค่อยถนัดด้วย แต่ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร ออกจะดูดีด้วยซ้ำ เพราะสถานที่สวย หรือเพราะนายแบบหล่อก็ไม่รู้ ลงไปแป๊บเดียวก็มีคนมากดไลค์ตั้วเกือบสองพันคนแล้ว เร็วเหมือนกันแหะ
ลงรูปเสร็จก็นอนเล่น ไม่มีอะไรทำ จะว่าไปมาคิดถึงเรื่องพี่สา คุณครามบอกว่า เราไม่มีหลักฐานอะไรว่าเค้าเป็นคนทำจริงๆ ถึงมันจะจริงอย่างที่ผมว่าก็เหอะ เลยต้องปล่อยไป ผมเลยกำชับคุณครามให้ระวังตัวให้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้นจะทำอะไรเราไม่ได้ แล้วถ้าพลาดไปคือย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะ คุณครามก็รับปากว่าจะระวังตัวให้มากขึ้น
"ก๊อกๆๆ"
"ทำไมไม่เข้าไปหาชั้นที่ห้อง?"
"ผมเพิ่งเอารูปลง คุณอยากดูไหมครับ?" ผมเอาโน๊ตบุ๊คมาเล่นบนเตียง คุณครามเลยพยักหน้าแล้วเดินมานั่งลงข้างๆ
"Godfather??" ใช่ครับผมตั้งชื่อโฟลเดอร์แบบนั้น
"ทำไมต้องก็อดฟาเทอร์?" เค้าถาม
"ก็มันเหมาะกับลุคคุณ" มาเฟียภาคใต้ ฮ่าๆๆๆ
"หึ..แต่เจ้าพ่อมีเมียเยอะนะ ไม่กลัวชั้นจะกลายเป็นแบบนั้นเหรอ?" ช่างกล้าถาม
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมไม่รอให้คุณทำร้ายผมหรอก ผมก็จะมีบ้าง ยุติธรรมดี" เอาสิ๊??
"เก่งจังเมียเจ้าพ่อเนี๊ยะ"
"คุณ..." เรียกแบบนี้อีกละ เมื่อคืนยังไม่ได้ว่าเลยนะที่เรียกแบบนั้น นายหญิง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเป็นผู้หญิง จะใช้เรียกผู้ชายได้ไง ประสาท
"ก็ได้ๆ" คุณครามยกมือยอมแพ้
"ดูเสร็จแล้วกลับไปห้องคุณไปเลยนะ ผมก็จะนอนแล้วเหมือนกัน"
"ไม่เอาจะนอนนี่"
"ไม่ได้นะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น"
"ทำไมนายทำเหมือนชั้นเป็นเมียเก็บจัง" ผมยิ้ม ดูเป็นคำตัดพ้อที่น่ารักนะสำหรับผม
"ก็ผมกลัวทุกคนมาเห็นแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เรานะครับที่นอนอยู่ข้างบนนี่ มีแม่คุณอีกด้วยนะ"
"ไม่เป็นไร ตอนเข้ามาชั้นเห็นห้องคุณแม่ปิดไฟแล้ว ข้างล่างก็เหมือนกัน" ให้มันได้อย่างนี้สิ อะไรก็ดูเป็นใจไปหมด
"นะ???" คุณครามหันมาอ้อน อัพเวลแบบนี้ ...ผมก็แย่สิ
................................................................................
.................................................................
........................................