ตอนที่ ๑๕ รถปี่เป้วิ่งออกจากเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงบ้านใน หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แห่งหนึ่ง หลังใหญ่โตดีแท้ แต่ทำไมดูเงียบจัง
“ลงมาสิ” ผมมัวแต่มองบ้านของพี่เป้จนลืมไปเลยว่าตอนนี้พี่เป้ได้ลงจากรถไปแล้ว ผมค่อยๆ เปิดประตูเดินตามพี่เป้ลงไป
“สงสัยคนในบ้านพี่เป้หลับกันหมดแล้วทั้ง”
“ยังไม่หลับยังตื่นกันอยู่”
“อ้าว เหรอ แต่ทำไมเงียบจัง”
“ก็ทั้งบ้านมีพี่คนเดียว”
“พี่อยู่คนเดียวเหรอ”
“ใช่ อยู่คนเดียว พี่ปีย์อยู่บ้านอีกหลัง ส่วนพ่อกับแม่พี่ก็อยู่อีกหลัง”
“อ้าว แล้วตอนนั้นเอ่อ.....”
“อ๋อ ตอนที่ติณซาดิสกับพี่นะเหรอ5555”
“ก็ป่วยไงเลยกลับเข้าไปอยู่บ้าน มาๆๆ ไม่ต้องพูดมากจะกินเหล้าไม่ใช่เหรอ” ประตูบ้านถูกเปิดออก ผมก้าวเท้าเข้าไปภายใน บ้านถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ เครื่องใช้ไม้สอยมีครบถ้วน พี่เป้พาผมมานั่งในห้องรับแขก
“รอตรงนี้นี้พี่ไปเอาเหล้ามาให้” ไม่ถึง 10 นาทีพี่เป้ก็ยกเหล้าพร้อมโซดาน้ำแข็งออกมา พร้อมกับชงให้ผมเรียบร้อย
“พี่ดีใจจัง ที่วันนี้ติณยอมมานั่งกับพี่แถมยังยอมมาเที่ยวบ้านพี่อีก”
“ไม่เป็นไร พี่อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ บ้านก็หลังใหญ่”
“พี่ชินแล้วละ ตอนเด็ก พี่ก็อยู่บ้านคนเดียวบ่อย ๆ อยากได้อะไร แค่บอกแม่ พี่ก็ได้” มิน่าชอบเอาแต่ใจตัวเอง
“พี่ยังชอบผมอยู่เหรอป่าว ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ผมทำพี่แบบนั้น”
“หึหึ พี่ไม่ได้ชอบติณแล้ว”
“ดีแล้วพี่ นั้นคือสิ่งที่ผมอยากได้ยิน” โล่งใจ
“พี่รักติณต่างหาก” หนักกว่าเดิม
“พี่........” ก่อนที่ผมจะพูดอะไรอีก พี่เป้ก็เอามือมาปิดปากผมไว้
“ไม่ต้องพูดอะไรนะติณ ติณห้ามพี่ไม่ให้รักติณไม่ได้หรอก”
“งั้นก็ตามใจ”
“หะ ว่าไงนะ ตามใจพี่เหรอ งั้นพี่รักติณนะ” ทำไมต้องแสดงสีหน้าดีใจขนาดนั้นพี่เป้ ผมไม่บอกว่ายอมรับรักพี่นะแค่บอกว่าอยากรักก็เชิญรักผมไปฝ่ายเดียว
“แล้วถ้าผมห้ามไม่ให้พี่รักผมพี่ทำได้ไหมละ”
“ไม่ได้”
“แต่ถ้าพี่ถามผมว่ารักพี่ไหม ผมตอบได้เลยว่าไม่รัก ชอบไหม ตอบไม่ได้ เกลียดไหม ไม่รู้ สรุปแล้วผมไม่มีคำตอบอะไรให้พี่แม้แต่อย่างเดียว” สีหน้าพี่เป้ดูสลดลงไปเล็กน้อย
“อืม ฟังเพลงนะ เดี๋ยวพี่เปิดเพลงให้”
“อืม” พี่เป้ลุกไปเปิดเพลง แล้วแกก็หายไปในครัว กลับออกมาพร้อมกับกับแกล้ม
“กินด้วยนะ เดี๋ยวจะปวดท้อง จะตี 3 แล้วนะ พรุ่งนี้ไปเรียนไหม”
“ไม่รู้พี่ตื่นทันก็ไป ไม่ทันก็ไม่ไป”
“อะกินด้วย” พี่เป้ตักเบคอนที่แกเวฟมาเมื่อกี้มาจ่อใกล้ๆปากผม อะไหน ๆก็อุตส่าป้อน ผมก็รับเบคอนแกมากิน
“พี่ไม่มีแฟนเหรอ”
“เคยมีนะตอน ม.3 ตอนนั้นพี่รักเขามากนะ” พี่เป้หันหน้าออกไปมองข้างนอกพร้อมกับถอนใจ
“แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งพี่ไปเอาแฟนเป็นทอม”
“เหรอ”
“ใช่ 555 ตลกไหมละ ผู้ชายสู้ทอมยังไม่ได้เลย”
“พี่เสียใจมากไหม”
“มากสิ แต่ก็พยายามเข้าใจนะ ถ้าเขาไม่ใช่คนของเราทำยังไงมันก็ไม่ใช่”
“เหรอ”
“ใช่ แต่ตอนนี้พี่รักติณนะ”
“หึหึหึ ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย” พูดบ่อยๆ กูก็อายเป็นนะ ผมกินจนรู้ตัวเองว่ากินไม่ไหวแล้ว
“พี่ผมห่วงแล้ว”
“งั้นขึ้นไปนอนข้างบนสิ”
“หึหึ รู้นะคิดอะไรอยู่” ผมพูดเสร็จพี่เป้ก็หน้าแดง ทำเป็นอายเดี๋ยวเถอะ
“ป่าว ๆ พี่ไม่ได้คิดอะไรนะ ก็ติณบอกว่าง่วงไง ง่วงก็ขึ้นไปนอน พี่ไม่ทำอะไรหรอก” พี่เป้พาผมเดินขึ้นมาชั้นบน แล้วเปิดประตูเข้าห้องแรกด้านซ้าย คิดว่าน่าจะเป็นห้องของพี่เป้
“ติณนอนห้องนี้นะ เดี๋ยวพี่จะไปนอนห้องข้าง ติณจะได้สะบายใจ”
“ไม่นอนกับผมละ ผมรู้น่าว่าพี่อยากด้วย”
“ไม่อะ พี่กลัว”
“อย่ามาแหล มานอนกับผมนี้” พี่เป้ค่อยๆ เดินมานอนกับผม แล้วเราทั้งสองก็หลับไปด้วยสภาพของชุดเดิม ๆ และหลับไปด้วยสภาพที่เราไม่ได้มีอะไรกัน ผมตื่นมาด้วยอาการปวดหัวมมาก สงสัยเมื่อคืนจะหนักไปหน่อยและก็รู้สึกอึดอัดเพราะชุดที่ใส่ยังเป็นชุดเมื่อคืน ผมหันไปข้าง ๆ ก็ปรากฏว่าพี่เป้ หายไป ผมเลยลุกมาถอดเสื้อผ้าออกหมดเหลือแต่บ๊อกเซอร์ แล้วนอนหลับต่อ จนมาสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาเรียก
“ติณ ๆ ๆ” ผมพยายามลืมตามอง
“อืมพี่เป้” พี่เป้นั้นเองที่มาเรียกผม แต่ผมยังง่วงอยู่เลย
“ตื่นได้แล้วติณ บ่าย4โมงแล้วนะ”
“4โมงแล้วเหรอ งั้นผมนอนต่อนะ6โมงค่อยตื่น”
“ไม่ได้ ๆ ตื่นมาก่อนยังไม่ได้กินอะไรเลยล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วกินข้าว กินข้าวเสร็จจะมานอนต่อพี่ไม่ว่า” ลำคาญวะ คนจะนอน พี่เป้ดึงผ้าห่มออกจากตัวผมแล้วจะลากแขนผมลุก แต่จู่ ๆ แกก็หยุดไป ผมมองไปที่แกเห็นแกหน้าแดง อ๋อ นึกว่าอะไร ที่แท้แกเห็นน้องชายผมมันแข็งทะลุบ๊อกเซอร์ออกมานี้เอง
“ได้ ๆ เดี๋ยวผมลุกเอง” ผมลุกขึ้นยืนโดยที่น้องชายผมยังชี้หน้าด่าพี่เป้อยู่ หุหุหุ หน้าแดงใหญ่เลยวุ๊ย
“แปรงฟันอยู่ที่ซิงค์ล้างหน้านะ” พี่เป้ตะโกนตามหลังผม ขณะที่ผมกำลังจะเขาห้องน้ำ ที่ซิงค์ มีผ้าเช็ดตัวพาดอยู่พร้อมกับ แปรงฟันที่ถูกวางไว้รอโดยที่มียาสีฟันให้พร้อม อืม ก็ดีเหมือนกัน ผมรีบอาบน้ำแล้วเดินออกมา พี่เป้ยังอยู่ในห้อง
“ใส่ชุดพี่ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวลงไปกินข้าวนะ พี่ทำไว้เรียบร้อย” พูดเสร็จแกก็เดินลงไปเลย สงสัยอาย ผมเดินแกลงมารู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ก็เพราะว่าชุดที่พี่เป้ให้ผมใส่มันรัด ๆ ยังไงไม่รู้บ๊อกเซอร์ที่ให้ก็ตัวเล็กจนรัดน้องชายผมจนนูนอย่างเห็นได้ชัด
“อ้าว ลงมาแล้วเหรอ มานั่งตรงนี้สิ” พี่เป้ลากเก้าออกแล้วให้ผมนั่งลง แล้วอาหารก็ถูกยกมาตั้ง มีต้มยำกุ้งน้ำข้น ไข่เจียวหมูสับ แล้วก็หมูทอด
“ติณพี่ทำ อร่อยไหม”
“อืมดีกว่าเอาไม้ดีดปาก”..................