บทที่ 17. 3
ข่าวลือ
ผมรีบออกจากบ้านก่อนที่พี่มันจะตื่นผมเขียนใส่กระดาษและวางเอาไว้ ผมไม่อยากให้พี่มันต้องลำบากพาผมออกมาส่งเพราะไม่รู้ว่าระหว่างทางจะต้องเจออะไร ทำให้ผมเลือกที่จะออกมาเสี่ยงคนเดียว พี่กรมมันเสี่ยงมาเยอะแล้วครับ หลังจากนี้ผมจะเป็นคนทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพี่มันแทน....
วันจันทร์
ผมอดทนรอให้ถึงวันจันทร์เพื่อที่จะได้มาเคลียร์กับไอ้บิวให้รู้เรื่อง เพราะทุกอย่างมันดูเป็นเหตุให้ผมปลักใจเชื่อว่าเป็นมันทั้งรูปถ่ายที่ผมกำลังปีนขึ้นบ้านถึงมันจะไม่เห็นหน้าผมก็ตาม และข้อความที่เสียๆหายอีกมากมาย ตอนนี้ทุกคนในคณะก็ตามหาว่าผู้ชายในนั้นคือใคร ส่วนหนึ่งก็คิดว่าเป็นผมครับเพราะผมเองก็สนิทกับพี่มันไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ไม่แปลกที่จะคนอื่นจะคิดว่าเป็นผม
“ ไอ้บิวอยู่ไหน?” ผมเดินเข้ามาในห้องเรียนเวลาเช้า ตรงไปถามไอ้เจ๋งที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านในห้อง
“ กูถามว่าไอ้บิวอยู่ไหนไง” ไอ้เจ๋งมีท่าทีแปลกๆเหมือนว่ามันกำลังกลัวอะไรบางอย่าง หรือว่าพวกมันจะรู้เห็นเป็นใจกัน
“ ใจเย็นดิวะ พวกมึงมีอะไรกัน” ไอ้เจ๋งปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่พร้อมกับลุกขึ้นยืนประชันหน้าผม “ ข่าวลือนั้นเป็นมึงหรอ?”
“ เออ กูเอง” ผมกล้าพูดออกไปเพราะตอนนี้ในห้องเรียนยังไม่มีเพื่อนคนไหนเข้ามาเลยสักคน มีเพียงแค่ผมกับไอ้เจ๋งเท่านั้น
“ มึงคบกับพี่เขาหรอวะ?”
“แล้วทำไม มึงมองกูแบบนั้นหมายความว่าไง” สายตาของไอ้เจ๋งที่ดูแปลกไปจนผมเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงทำสีหน้าแบบนี้ออกมา แต่สายตาผมดันไปเหลือบเห็นอะไรบางอย่าง..
“ เปล่า ไม่มีอะไร” ไอ้เจ๋งตอบปัดๆ ก่อนที่มันจะหันกลับไปนั่งลงหมือนเดิม ไม่นานคนที่ผมรอก็วิ่งเข้ามาในห้องหน้าตาตื่น
“ ไอ้พี!” ไอ้บิวรีบวิ่งเข้ามาหาผมทันทีด้วยสภาพที่บ่งบอกว่ามันรีบแค่ไหน
“ ว่า?”
“ มึงมากับกูก่อนเลย ด่วน” ไอ้บิวลากผมให้ออกไปจากห้องเรียนทันทีโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ถามอะไรมัน จนกระทั่งมันลากผมมาที่ลับตาคน
“ กูโทรหามึงตั้งแต่วันศุกร์ ส่งข้อความไปมึงก็ไม่รับ”
“ แล้วมึงโทรหากูทำไม?” ผมลองหยั่งเชิงทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร เพื่อรอให้ไอ้บิวพูดและอธิบายมา
“ กูว่ามีคนตามเราไปว่ะ”
“ ....? คืออย่างไง”
“ ก็มึงเห็นรูปที่ถ่ายไหม นั่นตอนที่มึงปีนละตอนนั้นกูก็ดูต้นทางให้มึง....มึงสงสัยกูใช่ไหม?” ไอ้บิวพูดออกมาตรงๆเหมือนว่ามันรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ผ่านสายตาที่ผมมองมัน
“ ใช่ กูคิดว่าเป็นมึงไอ้บิว กูเล่าให้แค่มึงฟัง”
“ กูกะไว้แล้วแหละ แต่ที่มาวันนี้กูไม่ได้จะมาแก้ตัวนะเพราะกูไม่ได้ทำ” ไอ้บิวยื่นโทรศัพท์มันมาให้ผมดู พร้อมกับเปิดรูปพร้อมกับข้อความที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง
“ .....”
“ เวลาที่โพสต์มึงกับกูแยกกันแล้วก็จริง แต่ตอนที่กูดูต้นทางให้มึงกูเอาโทรศัพท์เก็บไว้ในรถ มึงคิดดีๆว่ากูไม่ได้เอาลงมาด้วย กูมั่นใจ” ผมคิดย้อนไปในตอนนั้นไอ้บิวมันบอกผมว่าโทรศัพท์มันแบตจะหมดเลยไม่ได้เอาลงไปด้วย ก็จริงอย่างที่มันพูด
“ แล้วใครหวะ”
“ ไอ้พีตอนนี้มึงใจร้อนมึงมีหลายเรื่องให้คิดให้กังวล แต่กูอยากให้มึงใจเย็นๆก่อน” ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอ้บิวไปก่อนจะเดินกลับมาที่ห้อง แต่ยังไม่ทันที่ผมและไอ้บิวจะเดินเข้าไป ผมขว้าแขนมันเอาไว้ก่อน “ มึงไปนั่งที่อื่นนะไอ้บิว กูจะทำอะไรบางอย่าง”
“ อะไรหวะ”
“ จับคนปล่อยข่าว” ผมมองเข้าไปในห้องตอนนี้มีคนอยู่ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆเริ่มถยอยกันเข้ามาแล้ว ผมเดินกลับเข้าไปนั่งข้างๆไอ้เจ๋งเหมือนเดิม
“ ทำไมไอ้บิวไปนั่งนั่นหวะ” ผมนั่งลงข้างๆส่วนไอ้เจ๋งเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่มันกำลังอ่านอยู่มองไปที่ไอ้บิวที่ไปนั่งกับเพื่อนอีกกลุ่ม
“ มีปัญหากันนิดหน่อย”
“ ทำไมหวะมึง เล่าให้กูฟังได้นะเว้ย” ไอ้เจ๋งหันมาสนใจมากขึ้นกว่าเดิม แววตาที่มันส่งมาให้ผมด้วยความเป็นห่วงผมโคตรจะรักมันเลยครับ
“ ไอ้เหี้ยบิวเอาข่าวกูไปขาย”
“ ห้ะ??”
“ ช่างแม่งเหอะหวะ” ผมทำเหมือนไม่สนใจก่อนจะนอนราบไปกับโต๊ะอยู่อย่างนั้น “ ไอ้เหี้ยบิว กูไม่น่าเลยมึง”
“ กูเข้าใจ” ผมไม่สนใจว่าไอ้เจ๋งจะพูดว่าอย่างไง
จนกระทั่งถึงเวลาเรียน ผมยกกระเป๋าเป้ขึ้นาเปิดกว้างๆเพื่อเตรียมเอาสมุดขึ้นมาจด จนกระทั่งเวลาผ่านไปในช่วงพักกลางวันผมมานั่งกินข้าวกับพวกพี่เทพพี่วินและพี่คินที่ร้านอาหารนอกมหาลัย
“ มึงไปหาไอ้กรมมาหรอหวะ?” ทันทีที่ผมเข้ามานั่งที่โต๊ะได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีไอ้พวกพี่ๆก็เริ่มซักถาม
“ ครับ” ผมตอบยอมรับออกไป เพราะรูปแม่งก็เด่นขนาดนั้นอย่างไงพวกพี่แม่งก็รู้อยู่แล้วว่านั้นเป็นผมจะมีใครบ้าที่ไหนไปปีนบ้านพี่มันได้นอกจากคนบ้าอย่างผมอะครับ
“ รู้ไหมว่ามันเสี่ยง” พี่คินที่เงียบอยู่พูดขึ้น
“ ครับรู้ แต่ผมคิดถึง”
“ พี มึงโตแล้วทำอะไรก็คิดให้ดีๆกว่านี้หน่อย” ผมพยักหน้าฟังพวกพี่ๆสอน ผมรู้ว่าผมแม่งชอบทำอะไรวู่วามใจร้อน และจุดจบของคนใจร้อนอย่างผมก็ไม่น่าจะรอดพ้นความฉิบหายแน่ๆ
“ ช่วงนี้ไอ้กรมมันถูกจับตาเป็นพิเศษ มึงอาจจะคิดว่าเป็นแค่เรื่องของพวกมึงสองคน มันไม่ใช่เว้ย อย่าลืมว่าไอ้กรมมันเป็นที่รู้จัก แล้วยิ่งสมัยนี้การเมืองแรงอะไรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หน่อยแม่งก็เป็นกระแสแล้วไง ฐานเสียงมันอ่อนไหวง่าย”
“ ผมเข้าใจแต่ผมทำอะไรไม่ได้เลยอะครับ ความรู้สึกของผมแม่งเอ้ย! คิดถึงพี่กรมหวะครับ” ผมเอาหน้าโขกกับโต๊ะแรงๆเพื่อเรียกสติให้ตัวเอง
“ ไอ้พีเอ้ย มึงนี่นะโคตรบ้าเลย” ไอ้พี่เทพที่นั่งอยู่ข้างๆตบหัวผมเบาๆเพื่อเรียกสติ “ บ้าผู้ชายนะเรา”
“ ก็ใครใช้ให้เพื่อนพี่มันน่ารักขนาดนั้นหละ โทษผมไม่ได้หรอก” ขอโทษนะครับผมแพ้ความอบอุ่นของพี่กรมเอามากๆเลย เรียกว่าเสพติดไปแล้วก็ได้ ไอ้ฉิบหายเป็นผู้ชายมาเกือบๆยี่สิบปีพึ่งอยากจะเป็นผู้หญิงก็ครั้งนี้แหละ จะได้อ้าขาให้พี่กรมมันเลย
“ ไอ้กรมได้ยินคงจะดีใจ” ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าพี่แม่งประชดครับ
“ เห้ย!” ผมสะดุ้งลุกขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงไอ้พี่วินมันตะโกน “ อะไรอีกวะเนี่ย” พี่มันยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ข้อความปริศนานั้นมาอีกแล้ว
‘ สดจากวันนี้เลยจ้า พกเสื้อนักศึกษามาเรียนด้วย ดูก็รู้ว่าแอบไปทำอะไรกันมา กลิ่นคาวหึ่งๆ สาวๆที่อินบ๊อกซ์มา จะบอกตรงนี้เลยนะว่า เขาที่พวกเธอกรี๊ดกันไม่สนผู้หญิงจ้า ต่อให้อ้าขาเขาก็ไม่เอาเธอ เขาชอบ...เข้าข้างหลัง’
ผมพอจะรู้แล้วครับว่าใครเป็นคนทำ!
“ เห้ย ไอ้พีไปไหน ใจเย็นมึง” ผมไม่สนเสียงเรียกของพี่มันแล้วครับ จังหวะนี้จะแย่แม่งก็แย่ให้สุด มึงไม่ตายดีแน่กูจะทำให้มึงแย่กว่าข่าวที่เขียนมา
ปึง!
ผมเตะประตูห้องเรียนเข้าไป เห็นว่าตอนนี้มีแค่ไอ้ตัวต้นเหตุนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่คนเดียวภายในห้อง ทันทีที่มันเห็นผมมันรีบเก็บโทรศัพท์ลงทันทีก่อนจะรีบลุกขึ้น
“ ไอ้พี”
“ เออ กูเอง!”
ผั๊วะ!!
ผมเดินเข้าไปตรงหน้าไอ้เจ๋งก่อนจะปล่อยหมัดใส่หน้ามันเต็มๆโดยที่มันเองไม่ทันได้ตั้งตัว จนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ผมก้มตามมันลงไปกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาอีก
“ มึงทำแบบนี้ทำไมวะ!!!” ผมตะโกนถามมันออกมาด้วยความโมโห แต่มันก็ยิ่งนิ่งและยิ้มออกมาแทนที่จะสลด “ ไอ้เหี้ยเจ๋ง!! มึงเป็นเพื่อนกูเปล่าวะ”
“ เหอะ กูไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนอย่างมึง” คำพูดนั้นทำให้ผมนิ่งไปทันที แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา วันแรกที่เรารู้จักกันมันเข้ามาทักผม..ไม่ซิ ผมเข้าไปทักมัน แต่ทุกอย่างมันเหมือนจะดีแล้วทำไมมันถึงทำแบบนี้กับผม มันมีเหตุจูงใจอะไรทำให้ไอ้เจ๋งมันทำแบบนี้
ผั๊วะ!!
ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไปแล้วครับ ในเมื่อมันบอกว่าผมไม่ใช่เพื่อนมัน ดังนั้นผมก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น เพราะข่าวที่มันเขียนเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แต่....ทำไมมันต้องทำให้พี่กรมเสียหาย ทั้งๆที่รู้ว่าทุกอย่างมันส่งผลกระทบ หรือว่ามันตั้งใจให้เป็นแบบนั้น
ผั๊วะ!!
“ ไอ้พีหยุด!!” ผมไม่รู้ว่าเสียงของใคร แต่จังหวะนี้ผมมีโอกาสได้ต่อยผมก็แม่งต่อยมันไม่ยั้ง มันเองก็นิ่งครับไม่สู้ผมเลยนอนให้ผมต่อย
หมับ
“ มึง! มีสติหน่อยดิหวะ” ผมถูกใครบางคนกระชากออกมาจากตัวของไอ้เจ๋ง ส่วนมันที่นอนอยู่ก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
“ เกย์สัด!”
“ เหี้ยเอ้ย!!” ผมพยายามจะพุ่งตัวไปต่อยให้เจ๋งแต่แม่งก็ไปไม่ได้เพราะถูกไอ้พี่เทพดึงตัวเองไว้ก่อน ส่วนไอ้เจ๋งมันเดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย...
ผม...ผม...ผมไม่รู้หวะ
“ ไอ้พี! เลือด” พี่คินรีบหาทิชชูมาซับเลือกที่ไหลออกจากมือของผม...ใช่ครับ ผมไม่ได้ต่อยหน้าไอ้เจ๋ง ผมต่อยมันแค่หมัดเดียวจนมันล้ม แต่หลังจากนั้นผมก็ต่อยพื้นเพื่อระบายความโกรธ ผมทำใจต่อยหน้ามันอีกไม่ได้จริงๆ อย่างไงมันก็เป็นเพื่อนของผม
“ ไอ้พี มึงเป็นไรบ้างวะ!” เสียงไอ้บิววิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้องและตรงมาหาผมที่ถูกพี่ๆมันยืนล้อมเอาไว้ไม่ให้ผมได้ลุกไปไหน
“ โอเค” ผมตอบไอ้บิวไปสั้นๆ
“ กูเดินสวนกับไอ้เจ๋ง...มันเดินออกไป” ไอ้บิวพูดเสียงเบามันเองก็คงจะสับสนไม่ต่างจากผมเหมือนกัน รู้อะไรไหมครับว่าทำไมผมรู้ ก็เพราะว่าผมเอาเสื้อบอลของพี่กรมติดกระเป๋ามาด้วยจะฝากพี่เทพเอาไปคืนให้พี่มันเพราะตอนที่ผมกลับออกมาจากบ้านพี่กรมคืนนั้นผมใส่เสื้อบอลของพี่มันออกมา และจังหวะที่ผมเปิดกระเป๋ากว้างๆในคาบเมื่อเช้าที่นั่งข้างมัน ผมแน่ใจว่ามันต้องเห็นเสื้อบอลที่สกรีนชื่อพี่กรมเอาไว้และแน่นอนว่าบริเวณนั้นมีแค่ผมกับมันสองคน....มันดันไปสอดคล้องกับสเตตัสข่าวลือนั้นพอดี บังเอิญไปไหมละครับ...ถ้าไอ้เจ๋งไม่ใช่เป็นคนโพสต์แล้วใครจะโพสต์
“ แล้วทำไม...มือมึง” ไอ้บิวเหลือบสายตามามองมือของผมก่อนที่มันจะเลื่อนสายตาขึ้นมาถาม
“ ช่างแม่งเหอะ” ผมก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากถ้าเทียบกับความรู้สึกที่ผมเสียไป ผมคิดว่ามันจะเห็นว่าผมเป็นเพื่อนมันคนหนึ่งแต่เปล่าเลยครับ มันไมเคยเห็นผมเป็นเพื่อนมันเลย..
“ กูเป็นเพื่อนมึงเสมอนะเว้ยไอ้พี” ไอ้บิวเดินมาแตะที่ไหล่ของผมเบาๆ
“ คืออย่างไงวะ พวกกูไม่เข้าใจ” ไอ้พี่เทพที่ยืนฟังบทสนทนาของผมกับไอ้บิวถามขึ้น
“ ไม่มีอะไรพี่ มันน่าจะจบแล้วแหละ” แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่พีคิดว่ามันจะจบลงแล้ว มันเป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าคิดจะมีความรักก็ต้องคิดถึงหนทางข้างหน้า มันไม่มีอะไรที่จะราบรื่นเสมอไป ถ้าจะใช้ชีวิตในทางนี้ต้องรู้จักเอาตัวรอดให้ได้
“ ท่านครับ มันรู้เรื่องแล้ว”
( เดี๋ยวจัดการเอง ขอบใจมาก)
ขอโทษนะไอ้พี...เพื่อนกับเงิน กูคงให้ควาสำคัญกับเงินมากกว่า ขอบคุณที่ทำให้กูได้เงินก้อนนี้มาโดยที่ไม่ต้องลงแรงอะไรมาก
Jaokom’s talk
ตั้งแต่เหตุการณ์ณ์วันที่ไอ้พีใจร้อนไปบอกพ่อเรื่องมันอยากจะคบกับผม ผมบอกตรงๆเลยครับว่าไม่คิดว่าคนอย่างไอ้พีมันจะกล้าและบ้าบิ่นขนาดนี้ แต่....มันไม่ง่ายเลยที่มันคิดว่าแค่การเดินไปบอกพ่อผมเพื่อขอคบ แล้วทุกอย่างจะเป็นอย่างที่ใจมันหวัง ไม่อย่างนั้นผมก็คงไม่นั่งอุดอู้อยู่กับบ้านมาเกือบๆสองอาทิตย์โดยที่ไม่ได้ไปเรียนแบบนี้หรอกครับ โทรศัพท์ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆแม่งก็ใช้ไม่ได้สักอย่าง จนวันก่อนที่ไอ้พีมันบุกมาที่บ้านผมโคตรบ้าเลยครับ ผมไม่คิดว่ามันจะกล้าบุกมาขนาดนี้ แต่ก็ดีครับ...ดีมากเลย
“ ได้ข่าวว่าพ่อขังเลยมาหา” ผมหันไปมองไอ้เจ้าท่าที่เดี๋ยวนี้เข้าออกบ้านผมเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยโผล่หัวมาเลย
“ มาทำไม”
“ หาน้องชาย น้องชายเหงาพี่รู้” มาทิ้งตัวนั่งลงโซฟาข้างๆผมก่อนจะยื่นมือมาโอบรอบคอ “ ไม่ได้ไปเรียนนานเท่าไหร่แล้ว”
“ สองอาทิตย์มั้ง”
“ โง่หมดแล้วน้องกู” ไอ้เจ้าท่าทำหน้าตาเห็นใจได้ปลอมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา “ กูไปเรียนแทนไหม?”
“ ตลก?”
“ ไม่ตลก พูดจริง เอาไหม?? อยากรู้ว่าไอ้คนที่มึงเคยบอกว่าชอบหาเรื่องมึงเป็นอย่างไง” ผมขมวดคิ้วทันทีที่ไอ้ท่ามันพูดออกมาแบบนั้น
“ ไอ้ท่ากูไม่เคยเล่า กูว่าแล้วไอ้เหี้ยนี่!” ผมเอาแขนมันออกจากคอผมทันที “ สืบเก่ง เรื่องของกูสืบเก่ง ไอ้เวร” อย่างที่รู้ๆกันครับว่าผมกับมันไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วเรื่องของผมไอ้ท่ามันชอบมาตามสืบเสาะเรื่องของผมไปรายงานแม่ให้รู้ ทั้งๆที่ผมไม่เคยไปยุ่งเรื่องของมันเลย มีแต่พ่อแหละครับที่ตามสืบเองทั้งนั้น
“ ก็น้องกูไหมละ อยากรู้เป็นธรรมดา เป็นห่วงจ้ะ”
“ เป็นห่วงกับเสือกมันมีเส้นบางๆคั่นกันอยู่นะ”
“ ไม่รับรู้ครับ กูไปเป็นมึงนะ แบบเซอร์ไพร์สไง” ผมพยักหน้าส่งๆให้มันไปแบบนั้น ให้มันอยากทำอะไรก็ทำไป แม้ว่าผมจะไม่ได้ไปเรียนแต่ไอ้เทพ ไอ้คิน ไอ้วินก็ส่งเลคเชอร์มาให้ตลอดผ่านป้าแม่บ้านครับ เหมือนผมติดคุกอย่างไงอย่างนั้นเลยครับ
“ ถ้าพ่อรู้”
“ กูจัดการเองน้องชาย เอาตารางเรียนมึงมา” ผมจดตารางเรียนใส่โทรศัพท์ให้ไอ้ท่า...ในเมื่อมันมีโทรศัพท์ผมก็สามารถโทรหาไอ้พีได้แล้วใช่ไหมละครับ งั้น...
“ ทำอะไรคะคุณกรม” ผมรีบปล่อยมือออกจากโทรศัพท์ทันทีที่ป้าแม่บ้านยืนจ้องผมกับไอ้ท่าเสียงดุพร้อมกับสายตาที่จ้องจับผิด
“ จดงานให้ไอ้ท่าครับ”
“ คุณท่าก็กลับบ้านไปได้แล้วนะคะ ถ้าคุณอัศวินมาเดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา”
“ ครับป้า ป้าอย่าบอกนะ” ไอ้ท่าเดินไปอ้อนป้าแม่บ้านจนกระทั่งป้าเธอพยักหน้าว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อ ไอ้ท่าก็กลับบ้านไป ส่วนผมก็ได้แต่นั่งอ่านหนังสือต่อไป เอาจริงๆนะผมว่าผมอยู่บ้าน ผมได้อ่านหนังสือมากกว่าไปเรียนอีก มิดเทอมนี้ไม่ท็อปเซคก็ให้มันรู้ไปครับ
ไอ้ท่าหันมามองผมแล้วยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้ายให้หนึ่งทีก่อนที่มันจะเดินออกไป ผมขออย่างเดียวคืออย่าให้มันสร้างความวุ่นวายและป่วนไปให้เหตุการณ์มันยุ่งไปกว่านี้ แค่นี้ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อจัดการกับไอ้พีอย่างไรบ้างไม่รู้ว่ามันจะเอาชนะอุปสรรค์ที่พ่อวางไว้ได้ไหม คิดถึงมันจังครับ
Pee’s talk
“ ต่อไปนี้กูไม่มีเพื่อนชื่อเจ๋ง!” ผมลั่นวาจาออกมาหลังจากที่ทุกอย่างจบลง ผมโดนอาจารย์เรียกไปตักเตือนและถูกปลดออกจากการแข่งขัน ส่วนไอ้เจ๋งเองไม่โดนอะไรเพราะมันไม่ได้ต่อยผมกลับ ส่วนสาเหตุมันไม่ได้บอกว่าทำไมผมถึงต่อยมัน ผมก็ไม่พูด ทำให้อาจารย์เหนื่อยใจที่จะถามเลยปล่อยให้พวกผมกลับไปเรียน ไอ้เจ๋งมันก็มีหน้าไปเรียนต่อครับท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนในห้อง ข่าวไวฉิบหาย! คณะนี้แม่งขี้เสือกกันทุกคน
“ ใจเย็นไอ้พี เพื่อนหันมามองมึงหมดแล้ว” ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ส่วนไอ้บิวมันก็ทำหน้าที่ไล่ให้เพื่อนที่หันมามองผมหันกลับไป
“ เชี่ยเอ้ย หงุดหงิดว่ะมึง” ผมไม่มีสมาธิเรียนอะไรเลยครับ แค่คิดก็โมโหทุกอย่าง ทำไมหวะ ทำไมต้องเป็นไอ้เจ๋งด้วย ทำไมมันต้องทำแบบนี้กับผม ผม...ผมเสียใจหวะ
“ ไอ้พี โดดไหม?” ไอ้บิวหันมาถามผมเบาๆหลังจากที่อาจารย์ปล่อยให้ไปพักเบรกขึ้นหลังและกลับมาเรียนต่ออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
“ เอาดิ” จะมีหรอครับที่ผมจะไม่ไป ทำให้ตอนนี้พวกเราสองคนออกมาจากห้องเรียนอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางว่าจะไปที่ไหนดี จนกระทั่งเลือกมานั่งที่คอมม่อนของคณะแทน
“ ช่วงนี้ไม่เห็นหน้าไอ้กรมเลยหวะ” ผมนั่งดูดน้ำอยู่ ก็ได้ยินเสียงของพี่ๆในคณะพูดชื่อพี่กรมขึ้น ทำให้ผมเงียบและเงี่ยงหูฟังว่าพวกพี่ๆมันจะพูดว่าอะไร
“ เออ ตั้งแต่ข่าวลือ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริงวะ คนอย่างไอ้กรมเนี่ยนะไม่สนใจหญิง เสียดายหน้าตาสัดๆอะ”
“ แต่เรื่องของมันป่าววะ” ผมยิ้มทันทีที่ยังพอจะมีคนเข้าข้างพี่มันบ้าง “ เรื่องเพศเปิดกว้างจะตาย กูว่าไอ้คนเขียนข่าวลือแม่งประสาทแดก” บวกหนึ่งไปเลยครับ
“ ขึ้นอะไรว่ะมึงอะ เป็นไอ้กรมรึไง”
“ กูก็แค่คิดไงว่ามันจะมาเอาเรื่องนี้มาเล่นทำไม ก็อย่างว่าพฤติกรรมดี เรียนเก่ง พ่อรวย โปรไฟล์ดีขนาดนี้ไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องนี้แหละมั้ง ถึงได้เอามาเล่นเป็นประเด็น”
“ อิจฉา ถ้ากูหน้าหล่อได้ครึ่งของมันนะกูแม่งฟันหญิงให้หมด”
“ ฟันตีนกูหนิ” มันอดไม่ได้จริงๆครับที่จะห้ามไม่ให้พูดออกไปแบบนั้น
“ ไอ้เชี่ยพี” ส่วนไอ้บิวที่นั่งอยู่ข้างๆก็ด่าผมออกมาเบาๆ
“ เหมือนได้ยินใครด่าเลยหวะ” ไอ้พี่ๆข้างหลังบ่นเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีท่าทีสนใจ จนกระทั่งผมรู้สึกเบื่อเลยหนีกลับหอนอนดีกว่า ไม่รู้จะไปไหนละครับ พี่กรมก็ไม่อยู่ให้เกาะ ส่วนไอ้บิวก็รีบกลับบ้านไปธุระกับครอบครับ เห็นสมควรว่าผมควรจะกลับไปพักผ่อนสมองบ้าง แล้วพรุ่งนี้มาลุยกันต่อครับ
PS.เจ๋งมันมีมูลมากกว่านั้น.....
มาลงชดเชยเด้อ เมื่อวานไรท์ไม่มีอารมณ์จริงๆ
ขอโทษนะคะไรท์อินกับการเลือกตั้งไปหน่อย อยากบอกว่าผิดหวังและหมด passion กับประเทศนี้จริงๆ ใครจะว่าไรท์อินเกินก็ได้นะ เพราะทุกอย่างต่อจากนี้มันก็คือเรื่องของชีวิตเราทั้งนั้น... ถ้าผู้นำไม่ดีแล้วใครจะรับประกันชีวิตเรา อนาคตเรา