Politics of love รักถะศาสตร์ #เจ้ากรมขย่มปฐพี เล่มออกละเด้อ พร้อมส่ง 10/6/2563
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Politics of love รักถะศาสตร์ #เจ้ากรมขย่มปฐพี เล่มออกละเด้อ พร้อมส่ง 10/6/2563  (อ่าน 60754 ครั้ง)

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 14.2

เหมือนจะดี


        ความรักมันเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว พี่เริ่มก่อนผมก็แค่สนองต่อเท่านั้น


   “ น้องผี ทำไมทำหน้าชั่วจังวะ” ผมค่อยๆหันหน้าไปมองพี่กรมพร้อมกับค่อยๆหุบยิ้มแบบตัวร้ายในละคร ผมแสดงสีหน้าออกไปขนาดนั้นเลยหรอครับ?


        “ ชั่วฟ้าดินสลายผมก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น” พี่มันทำหน้างงกับคำที่ผมพูดออกมาอย่างไม่สอดคล้องกับสิ่งที่พี่มันถาม
ทั้งคืนพวกผมห้าคนต่างช่วยกันปั่นงานแก้แล้วแก้อีกจนกระทั่งตอนนี้เป็นเวลาตีห้าทุกคนก็ยังคงปั่นงานอยู่ ผมจากที่เคยง่วงก็ตื่นขึ้นทันทีเพราะมือของไอ้พี่กรมแม่งยื่นมาเกาหัวของผมอยู่อย่างนั้น คือผมไม่ใช่ไอ้เฉลิมนะเว้ย แต่เอาเถอะเพลินดี ผมจะไม่ด่าละกันครับ


   “ พี่...ผมทำอันนี้ไม่ได้” เมื่อเห็นว่าตอนนี้พวกพี่ๆทั้งสี่ไม่ได้มีทีท่าสนใจผมสองคนเท่าไหร่ ผมค่อยๆขยับเข้าไปหาพี่กรมพร้อมกับยื่นกระดาษไปด้านหน้าพี่กรม ทำให้พี่มันละมือออกจากคอมเพื่อมาสนใจในกระดาษของผมแทน


   “ อะไรวะ” พี่มันหยิบกระดาษขึ้นมาเพ่งเล็งอยู่นานเพราะกระดาษนั้นผมไม่ได้เขียนอะไรไว้


   “ พี่จะเห็นได้ไง ผมไม่ได้เขียนอะไรไว้เลย”


ชิ้ง!


   สายตาของพี่มันจ้องมาที่ผมดุๆ เหมือนอยากจะสื่อว่าผมเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง แต่ยังไม่ทันที่พี่มันจะหันหน้าหนีผมกลับไปทำงานต่อ ผมขว้าไหล่พี่มันเอาไว้ก่อน


   “ ผมเขียนไว้ในนี้หมดแล้วครับ” ผมชี้มาที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง เมื่อพี่มันเห็นดังนั้นจากอารมณ์เกรี้ยวกราดในตอนแรกก็กลายเป็นรอยยิ้มบางๆส่งมาให้ผมแทน “ อยากรู้ไหมว่าเขียนว่าอะไร?”


   “ อะไร??”


   “ อยากรู้ต้องเข้ามาดูเอง”


   “ กูยังไม่ได้เข้าไปอีกหรอวะ?” พี่มันเลิกคิ้วส่งมาให้ผมเป็นคำถาม


   “ ไม่บอก” ผมพูดแค่นั้นก่อนจะหันหน้าหนีพี่มันไปทันที ไม่ใช่อะไรครับกูเขิน ผมไม่รู้ว่าเป็นโรคจิตหรือเปล่าที่ชอบให้พี่มันทำหน้าขมวดคิ้วหรือทำหน้าหงุดหงิด มันได้ใจดีครับ


ฟอดดดด


   “ หมันไส้!”


   “ O_O!” ผมนั่งตัวแข็งทันทีที่เหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่พี่มันทำ ก็เพราะ...ไอ้พี่กรมมันยื่นหน้าเข้ามาจูบแก้มผมแรงๆไอ้จูบอย่างเดียวไม่เท่าไหร่หรอกครับ พี่แม่งแอบดูดแก้มผมด้วย ผมว่ามันเกิดไปแล้วจริงๆ!


   “ หึ” พี่มันส่ายหัวเมื่อเห็นว่าผมยังคงนั่งตัวแข็งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ไม่รู้ดิครับ ไอ้อาการที่เขาเรียกว่าเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้องมันเป็นแบบนี้นี่เอง ส่วนไอ้มือทั้งสองข้างของผมดันยกขึ้นมาสัมผัสบริเวณที่ไอ้พี่มันหอมไปเมื่อสักครู่


   งื้อออออ น้องพีรู้สึกตัวเล็กขึ้นมาอีกแล้วววววววว


   “ เอาจริงนะพวกมึง คือกูเห็นไง แล้วกูก็ไม่อยากจะดูด้วย” พี่เทพหมุนเก้าอี้มาทางผมกับพี่กรมที่ยังคงแหย่กันไปกันมา เพราะตอนนี้ผมไม่มีสมาธิทำงานอะไรแล้วและรู้สึกว่าพี่มันก็เหมือนจะไม่มีสมาธิทำงานเหมือนผมด้วยเหมือนกัน


   “ ขอร้อง หยุดเถอะนะ สงสารกูเถอะ” พี่เทพยกสองมือของตัวเองขึ้นมาประกบเข้าหากันพร้อมกับทำสีหน้าเว้าวอนสุดๆ


   “ พี่เห็นได้ไง”


   “ ไอ้พี คอมกูอะมันสะท้อนเว้ย ถึงจะเป็นแค่เงากูก็ไม่อยากเห็นครับ”


   “ เหมือนพี่อิจฉาอะ”


   “ ดูปากกูนะ กู ไม่ ได้ อิจ ฉา กู รำ คาญ ตา!!” เมื่อพี่มันพูดเน้นๆที่ละคำจบก็หมุนเก้ากลับไปทันที อย่างนี้แหละครับไม่อิจฉาก็คือหึงผม หรือว่าพี่มันหึงพี่กรมกันวะครับ


   “ พี่กรม”


   “ หื้มม” ครั้งนี้พี่มันไม่หันหน้ามามองผมเหมือนตอนแรก เพราะสายตาของพี่มันจ้องอยู่ที่หน้าจอด้วยสายตาที่จริงจัง คือผมอยากถามนะว่าพี่มันเปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้ไงไวขนาดนี้ แต่เอาเถอะผมไม่กวนพี่มันแล้วครับ เริ่มง่วงแล้ว


   “ ง่วงหรอ?” พี่กรมพูดขึ้นผมได้แต่พยักหน้าให้เป็นคำตอบ “ อะ นอนบนมือก็ได้ จะได้ไม่เจ็บหน้าผาก” ผมหันไปยิ้มให้พี่มันน้อยๆเมื่อพี่มันยื่นมือมาให้ผม


   “ ขอบคุณครับ” ผมจับมือพี่กรมวางลงบนโต๊ะเหมือนเดิมก่อนจะค่อยๆวางหน้าผากของตัวเองลงไปบนฝ่ามือของพี่มันที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่ผมเคยนอนมา


   เมื่อเห็นว่าคนที่นอนทับมือของเขาหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนตัวเล็กได้เข้าไปสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อย ทำให้เขาค่อยๆเอื้อมมืออีกข้างที่ว่างอยู่ห่มผ้าให้พีและจัดให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้แอร์โดนตัวมากเกินไป


   “ ไอ้กรมมึงชัดไปว่ะ” คินที่ตอนแรกนั่งอยู่ที่โซฟาอีกด้านหนึ่งของห้องเดินถือโน๊ตบุ๊คมาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นที่กรมนั่งทำงานอยู่


   “ มึงรู้หรอ?”


   “ กูรู้แค่ไม่ได้พูดเหมือนไอ้เทพ” คินไม่ได้สนใจอะไรเพื่อนของเขามาก เพียงแค่การกระทำบางอย่างที่มันไม่ชัดเจนมันทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “ เห็นแก่ตัว มึงรู้ใช่ไหม”


   “ อืม” กรมถอนหายใจออกมา ช่วงนี้เขาเจอคำว่าเห็นแก่ตัวบ่อยมากทั้งๆที่เขารู้ว่าการกระทำนี้ของเขาเห็นแก่ตัว เขาเองก็รู้ตัวดีทุกอย่าง


 มือข้างหนึ่งให้พีหนุนนอนหลับสบายและอีกมือนั่งตอบแชทของเมย์ที่กำลังงอนเขาอยู่เพราะไม่ได้ไปหาทั้งๆที่ตกลงจะไปหา


   “ แต่มึงก็ยังจะทำ มันดูก็เห็นว่ามึงชัดเจนกับใคร” มือของกรมที่กำลังพิมพ์ตอบเมย์อยู่ชะงักค้างบนแป้นคีย์บอร์ดทันที


   “ กูไม่อยากดึงมันมาเสี่ยงกับกู”


   “ แล้วมึงถามน้องมันหรือยังว่ามันพร้อมจะเสี่ยงกับมึงไหม” เจ้ากรมคิดตามคำพูดของเพื่อน มันก็จริงเพราะเขามัวแต่กลัว กลัวว่าชีวิตของไอ้เด็กนี่จะเปลี่ยนไปตลอดกาลโดยที่ไม่เคยถามมันเลยว่าจะกล้าเสี่ยงไหมและยอมให้ชีวิตของมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือเปล่า แต่นั่นเขาคิดเองคนเดียวเท่านั้น


   “ .....”


   “ หรือตัวมึงเองที่ไม่กล้า?” เหมือนคำพูดของคินไปจี้จุดบางอย่างของเขา ใช่! เขาไม่กล้า ไม่กล้าดึงใครเข้ามาในชีวิตที่ไม่มีความสุขของเขา


   “ กู.....”


   “ มึงทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้วกรม” คินยื่นมือไปตบไหล่ของเจ้ากรมเบาๆเพื่อให้กำลังใจเพื่อนที่สับสนอยู่ตอนนี้ แววตาของเจ้ากรมเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความสับสนและกังวลทำไมเขาจะดูไม่ออก เขาเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเพื่อนสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเพื่อนเขามันช้าไปมาก กว่านี้มีหวังไอ้เด็กพีโดนคาบไปกินแน่ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ไอ้พีมันมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะกว่าเดิมแก้มยุ้ยเป็นซาลาเป่าของมันทำให้บางครั้งเขาก็อยากลองกัดดูบ้าง แต่ติดที่ว่าถ้ากัดไปเขาอาจจะได้เลิกคบกับไอ้กรมที่นั่งหน้ายักษ์อยู่ตรงนี้แน่ๆ


   “ มึงมองแก้มไอ้พีทำไม? มึงคิดอะไรอยู่ไอ้คิน” เมื่อเจ้ากรมเห็นว่าเพื่อนเขามองแก้มของพีนานเกินไปด้วยความหวงทำให้เจ้ากรมดึงไอ้พีเข้ามาใกล้ตัวของเขามากยิ่งขึ้นพร้อมกับกระชับอ้อมแขน


   “ เปล่าๆ กูก็แค่มองไปเรื่อยเห็นว่ามันเริ่มมีแก้มแล้ว” คินมองไปที่พีพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆจนเจ้ากรมเองก็รู้สึกหวั่นๆรอยยิ้มของคิน


   “ มีแก้มแล้วไง? มึงจะทำไมไอ้คิน”


   “ ฮ่าๆ ไอ้กรม มึงนี่ชัดเกินไปละหวะ” คินตลกเพื่อนตรงหน้าของเขาที่ดูเสียอาการไปหมด มาดหล่อๆลุคลูกชายนักการเมืองดังที่เป็นหัวโขนที่เจ้ากรมใส่ไว้มันได้หายไปเมื่อเจ้ากรมอยู่กับเด็กผู้ชายธรรมดาอย่างพี


   “ ก็รู้ไว้ด้วยว่าของใคร”


   “ เออๆ กูไปนอนละ เบื่อมึง” คินส่ายหน้าให้เพื่อนของเขาก่อนจะเดินกลับไปนอนที่โซฟา เมื่อเจ้ากรมเผลอเขาก็หันมายิ้มให้กับไอ้เด็กแสบที่แอบลืมตามามองเขาพร้อมกับรอยยิ้มขอบคุณที่ทำให้พีได้ยินอะไรแบบนี้ พีไม่ได้หลับแต่แค่อยากรอฟังอะไรบางอย่าง จนตอนนี้เขากำลังจะหลับฝันดีต่อจากนี้ถ้าหากว่า.......


   “ เมย์มาเจอกับกรมได้ไหม พรุ่งนี้ที่ XXXX”


   เขาจะตามไปด้วยโดยที่ไม่ให้เจ้ากรมรู้ตัว...... แล้วเจอกันครับพี่กรมของพี ถ้าเจ้ากรมไม่ยอมจบเรื่องนี้ เขาเองที่จะจบทุกอย่างให้มันชัดเจนไปเลย และพีเองมีความมั่นหน้าเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าอย่างไรเจ้ากรมก็เลือกเขามากกว่าผู้หญิงชื่อเมย์ พีไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เขายังคอนเซป เก่งกับหมาซ่ากับเด็กและสตรีมีครรภ์ ถึงเมย์จะไม่มีครรภ์พีก็พร้อมที่จะเสี่ยงดู






PS. ทุกอย่างจะจบพี่กรมจะเลือกทำอย่างไรต่อไปน้าา

ขอโทษนะคะที่ไม่ได้มาอัพ พอดียายเราเสีย เลยต้องคอยช่วยงาน

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:01:08 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เราเสียใจด้วยนะคะคุณไก่ทอด ตอนสุดท้ายอิน้องผีมั่นหน้ามากแต่ชอบทำให้มันชัดเจนไปเลยเราสนับสนุน เชียร์พี่คินหนักมากจีบน้องผีเลย เบื่อคนคิดมากทำอะไรก็ไม่รู้ชื่อพี่กรม รอตอนต่อไปนะอยากเห็นความเกรียนของน้องผี เราเป็นกลจให้คุณไก่ทอดนะคะสู้ๆ มาต่อเร็วๆนะ :pig4: :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ก็คือพี่กรมไม่เคลียร์ก็ยกน้องผีให้เราก็ได้ น้องที่ยอมพี่ขนาดนี้มันจะมีที่ไหนอีกกก //ปล. ยังแอบมีคำผิดแบบ พลาน>พาล งี้ แอบขัดใจนิดๆค่ะ แจ้งไว้เผื่อคุณนักเขียนอยากรีไรท์ในอนาคต

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เสียใจด้วยนะคะคุณไก่ทอด   :กอด1:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 15

ผิดตัว

Jaokom’s talk


   คืนที่ผ่านมาเรียกได้ว่าผมไม่ได้นอนเลยครับ มีเรื่องให้คิดทั้งคืน ผมว่าผมต้องจบเรื่องยุ่งๆนี่สักที ในเมื่อไอ้คินมันบอกว่าผมทำเพื่อคนอื่นมาตลอด เรื่องความรักผมขอเป็นคนจัดการเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมเองก็พอจะมีเงินเก็บจนสามารถส่งตัวเองเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ ถ้าพ่อจะตัดขาดผมเพราะเรื่องนี้ ผมเองก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น ผมกดดันตัวเองมามากพอแล้ว ทำตามพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ลึกๆผมแอบคิดเอาไว้ว่าพ่อจะเข้าใจและเปิดรับเรื่องพวกนี้มากขึ้น


   “ กรม เมย์ขอซื้ออันนี้ได้ไหม” ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้างตามที่นัดกับเมย์เอาไว้เพื่อจบเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะผมเองก็รู้สึกผิดที่ดึงเธอกลับมาอีกครั้ง เมย์ยังคงเป็นผู้หญิงที่แสนดีกับผมเสมอ แต่ตอนนี้ผมกำลังจะทำเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกแย่กับผม


   “ เอาดิ กรมซื้อให้” ผมเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าผู้หญิงแนวหวานๆ เดินตามหลังเมย์เข้ามาในร้าน เมื่อเห็นว่าเธอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ได้เดินดูเสื้อผ้าน่ารักๆแบบนี้ก็ทำให้ไม่อดที่จะยิ้มตามเธอไปด้วยไม่ได้


   “ เมย์เกรงใจ เดี๋ยวเมย์ซื้อเอง” เมย์เดินไปหยิบเสื้อแขนสั้นเอวลอยสีพีชขึ้นมาทาบกับตัวพร้อมหมุนตัวมาทางผมพร้อมรอยยิ้มที่มาพร้อมกับลักยิ้มและตาสระอิของเธอ “ น่ารักไหมกรม”


   “ กรมว่า...อื้มม” ผมหลี่ตามองชุดของเธอพร้อมกับพยักหน้าให้เธอเบาๆ “ เมย์ต้องใส่แล้วน่ารักมากแน่ๆ”


   “ ปากหวานนะกรม” เมย์เดินมาหยิกไหล่ผมเบาๆก่อนจะเดินไปจ่ายเงินค่าเสื้อที่เธอซื้อ เมื่อเราซื้อเสร็จผมก็อาสาถือถุงเสื้อผ้าให้เธอ ก่อนจะกวาดสายตาไปมองร้านอาหารแถวๆนี้


   “ กรมขอเลี้ยงข้าวเมย์นะ ห้ามหาร เมย์ชอบหารกรมดูไม่เท่เลย” ผมพูดแล้วก็ตลกทุกทีเวลาที่ผมจะจ่ายค่าอาหารหรือค่าอะไรที่เรากินเราใช้ด้วยกันเมย์ก็จะชอบหารตลอด ผมจะเลี้ยงก็ไม่ยอม ทำให้ผมคิดถึงใครอีกคน รายนั้นนะมันไม่เคยเอ่ยปากหารผมเลยสักครั้ง ครั้งแรกก็คงเมื่อวานมั้งครับที่มันเดินเอาเงินมายัดใส่มือผม ดูก็รู้ว่ามันไม่ค่อยเต็มใจที่จะให้ผมเท่าไหร่ ถ้าผมเดินไปตื้อมันอีกรอบว่าไม่เอา เชื่อไหมครับว่ามันก็จะเอาเงินคือ ไอ้พีก็คือไอ้พีอะครับ แต่ผมก็เต็มใจที่จะจ่ายให้ทุกบาททุกสตางค์เลย


   “ กรมยิ้มอะไร” เมย์เอียงคอถามผม


   “ กรมยิ้มหรอ?”


   “ ใช่ ยิ้มแบบเหมือนคิดถึงใครอยู่เลย” เธอเอ่ยปากแซวและไม่ได้มีทีท่าว่าหึงผมเลยแม้แต่น้อย ผมพอจะมั่นใจแล้วครับว่าวันนี้ผมจะจบสวย


   “ ครับ คิดถึงมั้ง” ผมไม่ได้ตอบอะไรเมย์อีก ผมพาเมย์เดินเข้ามาร้านอาหาเกาหลีร้านดังและปล่อยให้เมย์สั่งได้ตามใจ ผมไม่ค่อยถนัดอาหารเกาหลีสักเท่าไหร่แต่ก็พอทานได้อยู่ครับ


   “ แค่นี้ค่ะ” เธอปิดเมนูพร้อมกับยื่นให้พนักงาน เมย์หันหน้ามามองหน้าผมพร้อมรอยยิ้ม “ กรมมีอะไรจะคุยกับเมย์ใช่ไหม?”


   “ เมย์ เมื่อวานเราขอโทษที่ทิ้งให้เมย์รอนะ” เมื่อวานผมอาสาจะพาเมย์ไปร้านหนังสือที่เมย์อยากไป แต่ผมก็ผิดนัดเพราะดันไปลงพื้นที่อย่างกระทันหัน


   “ เราไม่โกรธแต่เราแค่...” เธอเว้นช่วงเอาไว้ก่อนที่จะพูดออกมา “ แค่ไม่เข้าใจว่ากรมจะกลับมาหาเมย์ทำไม ทั้งๆที่เราเอ่อ....เลิกคุยกันไปนานแล้ว” น้ำเสียงของเธอไม่ได้มีแววหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูไม่เข้าใจมากกว่า


   “ กรมขอโทษนะ” ผมเลื่อนมือไปกุมมือของเมย์ด้วยสายตารู้สึกผิดจริงๆ “ ขอโทษที่กลับมา เมย์กำลังจะไปได้ดีอยู่แล้วแท้ๆ”


   “ โถ่กรม แค่ไม่กี่วันเอง อีกอย่างเมย์คุยกับกรมก็เพราะเห็นกรมเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น”

 
   “ ห้ะ? เมย์ว่าอะไรนะ”


   “ เมย์ดูออกตั้งแต่แรกว่ากรมกลับมาเพราะกรมสับสนอะไรบางอย่าง” เธอดึงมือของตัวเองกลับ “ กรมใช้เมย์เป็นเครื่องมือ”
   “ เมย์...” ผมไม่รู้เลยครับว่าท่าทีของผมมันแสดงออกชัดขนาดนั้นเลยหรอจนทำให้เมย์ดูออก


   “ กรมอย่าทำหน้าเศร้าดิ เมย์ไม่ได้ว่าอะไรกรมเลยนะ” เมื่อเห็นว่าผมหน้าสลดลงเธอก็รีบยกมือขึ้นปัดๆที่หน้าของผม “ เราเป็นเพื่อนกันได้ ชิวๆ เมย์ไม่อยากมีแฟน อีกอย่างการที่กรมใช้เมย์เป็นเครื่องมือมันก็ทำให้กรมรู้ใจตัวเองมากขึ้น ใช่ไหม?”


   “ เราขอโทษจริงๆนะเมย์ เรามันแย่ เรามันเห็นแก่ตัวว่ะ”


   “ ใช่ กรมก็รู้ตัวว่ากรมเห็นแก่ตัวและเลวมากๆ เมย์ว่านะน้องคนนั้นที่แอบตามมาใช่ไหมที่ทำให้กรมสับสน เอ๊ะ อย่าพึ่งหันไป” เธอลุกขึ้นโน้มตัวลงมาจับหน้าผมเอาไว้เมื่อเห็นว่าผมกำลังจะหันไปด้านหลังตามที่เธอทำปากยื่นไป


   “ ไอ้พีหรอ?”


   “ เมย์ไม่รู้จักหรอกนะว่าน้องเขาชื่ออะไร แต่น้องเขาน่ารักมาเลย” เธอปล่อยมืออกจากหน้าของผมก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม


   “ อื้ม มันน่ารักมาเลยเมย์ แก้มมันก็นุ่มน่ากัดมาก ปากมันก็น่าจ....”


   “ กรมเพ้อขนาดนี้ เมย์ก็รู้แล้วแหละค่ะ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะและคุยเล่นกับเมย์ไปจนกระทั่งอาหารมา ในเมื่อไอ้พีมันแอบตาผมมาผมก็จะแกล้งมันไปก่อนก็แล้วกัน แสบดีนักไอ้เด็กผีของพี่


   “ กรมน้องเขาเดินหน้างอไปแล้ว”


   “ ปล่อยมันไปครับ”



Pee’s talk


   ตอนนี้ผมแอบนั่งแท็กซี่ตามพี่กรมออกมาในเวลาเช้าๆทั้งที่ผมยังไม่ได้อาบน้ำ เพราะรู้ตัวอีกทีพี่กรมมันก็ออกมาแล้ว ทำให้ผมมีเวลาไม่มากขนาดที่จะอาบน้ำได้แค่ผมตื่นก็ดีแล้วแหละครับ


   “ 250 บาท” ผมที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถแท็กซี่ด้วยความลืมตัวคุณลุงคนขับพูดขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้ลง ผมมองที่มิเตอร์ที่มีเลข 250 อยู่จริงๆก่อนจะหยิบเงินออกมาจ่าย


   “ แพงฉิบหายเลยครับลุง นั่งมาไม่ถึงห้าโล อย่าไปโกงใครอีกหละเห็นใจกันหน่อย อย่าให้ผมเจอลุงอีกนะเดี๋ยวจะไม่ได้แก่ก่อนตาย”



ปึง!!


   ผมปิดประตูรถแรงๆ เพื่อระบายความโมโหไอ้แท็กซี่โกงมิเตอร์ไปนั่งไม่ถึงห้ากิโลเก็บผมซะ 250 บาท เก็บแพงขนาดนี้แนะนำลุงไปขับให้พ่อลุงนั่งเถอะครับ ผมมัวแต่โมโหแท็กซี่จนลืมสังเกตว่าพี่กรมไปไหนจนกระทั่งผมเห็นหลังไวๆ ผมไม่รอช้ารีบวิ่งตามพี่มันเข้าห้างไปทันที ผมทิ้งระยะห่างเอาไว้ไม่ให้พี่มันรู้ตัวจนกระทั่งเห็นผู้หญิงน่ารักๆคนหนึ่งยืนรอพี่มันอยู่ด้านหน้า เอาจริงๆนะครับถ้าไอ้พี่กรมไม่จีบอยู่ ผมสาบานได้ว่าผมไปจีบเธอแน่ๆ ยิ่งเธอยิ้มนะผมนี่อยากจะฟันเลยครับ เอ้ย! ขอดูฟันครับ


   ผมมองเห็นว่าพี่กรมมันยิ้มให้พี่ผู้หญิงขอเรียกว่าพี่เมย์ก็แล้วกันครับ ก่อนจะพากันเดินเล่นหยอกล้อกันเข้าไปในห้าง เห็นแล้วหงุดหงิดฉิบหาย เมื่อวานดูดคอผมจะเป็นจะตายถ้ากลืนผมได้ผมว่าพี่มันกลืนไปแล้วแน่ๆ แต่พอมาวันนี้มาอี๋อ๋อกับผู้หญิงน่ารัก จิตใจพี่มันทำด้วยอะไรวะ!!!


   “ หงุดหงิด!!!” ผมเดินเตะถังขยะไปเรื่อยตามทาง


   “ แฮ่ม!” เสียงกะแอมดังๆทำให้ผมหันไปมองยังต้นเสียงก่อนจะเจอเข้ากับลุงยามหน้าโหดที่ยืนอยู่แถวนั้น ผมจึงก้มศีรษะขอโทษลุงพร้อมกับเก็บถังขยะขึ้นมาตั้งเหมือนเดิม วันนี้แม่งซวยตั้งแต่เช้าเลยครับ เตรียมใจไว้เลย


   “ ไปไหนกันละวะ” ผมเดินวนอยู่แถวนั้นอยู่นานกว่าจะเห็นว่าพี่มันเข้าไปในร้านเสื้อผ้าผู้หญิง ผมแอบๆเดินย่องไปที่มุมหน้าร้านเพื่อสังเกตว่าพี่มันทำอะไรกันอยู่ ก่อนที่ผมจะเห็นว่าพี่เมย์หยิบเสื้อสีพีชขึ้นมาทาบตัวเหมือนจะถามพี่กรมว่าสวยไหม ผมอยากให้พี่เมย์มาถามผมครับผมจะจับใส่ให้เลยคอยดู! น่ารักไปแล้วโว้ย!!!


   พี่เมย์เดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ก่อนจะเดินกลับออกมา ส่วนไอ้พี่กรมตัวดีก็เป็นสุภาพบุรุษเหลือเกินอาสาถือของให้ ทีกับผมพี่มันยังไม่คิดจะช่วยอะไรเลย น้อยใจครับ ผู้ชายก็น้อยใจเป็นครับ บอกตรง! ผมทะเลาะกับความคิดของตัวเองอยู่นานเมื่อเห็นว่าพี่มันเดินเข้าไปในร้านอาหารกันไปแล้ว ผมก็แอบตามมาเกาะอยู่ที่กระจกด้านหลังพี่กรมเพื่อไม่ให้พี่มันสังเกตเห็นผม


   พี่กรมนั่งคุยอะไรกับพี่เมย์ไม่รู้แต่สีหน้าของพี่มันดูไม่ดี จนกระทั่งพี่กรมมันเอื้อมมือไปกุมมือพี่เมย์เอาไว้


   “ เดี๋ยวตีมือหักเลยว่ะ!” ผมยกมือขึ้นมาตีกับอากาศและลืมสนใจสิ่งรอบข้างจนได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงขึ้นมาเบาๆ เหมือนว่าน้องพูดกับผม


   “ แม่ๆ พี่เขาตีแมลงวันหรอคะ”


   “ เอ่อ..ค่ะลูก” ผมหันไปมองมองเจ้าตัวเล็กที่ทำท่ากลัวๆและเดินเลี่ยงผมไปอีกทาง ด้วยความบ้าหรืออะไรรู้ดลใจให้ผมแยกเขี้ยวใส่เด็กผู้หญิงเล่นๆ แต่ใครจะคิดว่าน้องจะ....


   “ แงงงงงงงงงงงงงงง !!! แงงงง หนูกลัว” น้องจะแหกปากดังลั่นห้างพร้อมกับชี้มือมาทางผม ทำให้คนแถวนั้นๆหันมาส่งสายตาตำหนิใส่ผม ส่วนแม่ของเธอรีบอุ้มและวิ่งหายไปจากตรงนี้ กลายเป็นว่าผมทำให้น้องร้องไห้เฉยเลยครับ ผมเลิกสนใจน้องกลับมาอีกทีพี่เมย์ลุกขึ้นมากุมหน้าของพี่กรมเอาไว้....ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้กันมายิ่งขึ้น ภาพนั้นผมทนดูไม่ได้จริงๆ ทรุดครับ!!! บอกตรง


   ผมเดินหนีออกมาล้างหน้าเพื่อทำใจเพราะผมจะถามพี่มันตรงๆว่าจะเอาอย่างไงกับผม อยู่สามคนไม่ได้จริงๆ น้องต้องขอยาดเซย์โนไปก่อนถึงพี่เมย์จะน่ารักก็เถอะ แต่มันจะเป็น 3P ไม่ได้จริงๆ


ผั๊วะ!!!


   ผมตบหัวตัวเองแรงๆจนกระทั่งเดินออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ทันได้สังเกตคนที่เดินสวนกันไปมาจนกระทั่งผมดันซุ่มซ่ามสะดุดรองเท้าหูหนีบช้างดาวของตัวเองจนผมล้มลงไปกองอยู่ที่เท้าของใครสักคน


   “ เป็นอะไรไหมครับ” เจ้าของเท้าที่ผมกลิ้งมาทับค่อยๆย่อลงมาถามผม และนั่นทำให้ผมเห็นว่าเขาเป็นใคร


   “ พี่กรม!!!” ผมรีบลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะตั้งสติคิดคำแก้ตัวอะไรแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สติ สายตาผมดันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวโคตรเซ็กซี่เดินมาเกาะแขนพี่กรมจนนมของเธอเบียดเข้ากับแขนแกร่งของพี่กรมพร้อมแสดงสายตาบ่งบอกและแสดงความเป็นเจ้าของสุดๆ


   “ ครับ?” แม่งยังมาทำหน้าสงสัยอีก เมื่อกี้ก็พี่เมย์พอมาทีนี้ก็ผู้หญิงอีกคน เกินไปละ ผมจะไปไม่ทน!


ผลัก!


   “ พี่แม่งเลวฉิบหายเลยว่ะ รู้ว่าผมชอบพี่ แล้วพี่จะทำอะไรแบบนี้ก็ได้หรอวะ เมื่อกี้ก็อีกคนพอมาทีนี้ก็อีกคน มึงหยามหน้ากูมากไปแล้วพี่!” ผมผลักไหล่พี่มันแรงๆจนตัวพี่มันเซไปด้านหลังเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเก๊กหน้าทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรอยู่


   “ ...???”


   “ จะเอาไง! จูบก็จูบ ดูดก็ดูด! พี่น้องบ้านพ่อพี่หรอวะทำกันขนาดนี้!!!”


   “ ห้ะ??? เดี๋ยวก่อน” พี่แม่งทำหน้างงหนักไปกว่าเดิม ก่อนจะยกมือขึ้นมาห้ามเหมือนต้องการให้ผมหยุดพูด


   “ แม่ง! จะเอาไงก็ว่ามาเลย ไม่ไหวละวะ!!”


   “ น้อง...พี่ไม่ใช่”


   “ แม่งเอ้ย! ผมเกลียดพี่ไม่ลง....หมับ!” ผมคว้าเอวพี่มันมากอดเอาไว้พร้อมกับซบหน้าลงบนไหล่ของมันที่ผมเคยได้ซบมาตลอด แต่แปลก...ทำไมผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ สัมผัสมันไม่คุ้นเคยเหมือนพี่กรมเลย จนกระทั่ง....


   “ ไอ้พี กูอยู่นี่”


   “ ......??!!” ผมได้ยินเสียงเหมือนพี่กรมแต่ว่า...เสียงนั้นไม่ได้ดังมาจากคนที่ผมกอดอยู่อย่าบอกนะว่า....


   ผมค่อยๆผลักออกจากอ้อมกอดของคนที่ผมคิดว่าเป็นพี่กรมก่อนจะหันมาด้านหลัง และเห็นว่าเป็นพี่กรมอีกคนที่ยืนขมวดคิ้วมองผมด้วยความไม่พอใจ ผมมองสลับไปที่พี่กรมทั้งสองคนด้วยความสับสนและไม่เข้าใจจนกระทั่งคำพูดของพี่มันย้อนขึ้นมาว่าพี่มันเคยบอกว่าพี่มันมีฝาแฝด อย่าบอกนะว่า.....


ตุบ!


   “ เห้ย!”


   “ ไอ้พี”


   ทรุดครับ อันนี้ผมทรุดจริง หน่องไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว...........ลาก่อยหมู่นกกระยาง จ่าฝูงขอไปก่อน







PS. เปิดตัวพี่เจ้าท่าาาาาาาาาาาาาาาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:05:51 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตลกอิน้องผี5555เกรียนมากมีความตัดพ้อผิดคนไปอีก ดูแต่หน้าคงลืมดูชุด555  :m20: ชอบคุณหมอเมย์อ่ะ :katai2-1: ตอนนี้ความรู้สึกที่ชอบพี่กรมเริ่มกลับมาแล้ว แลดูพี่กรมแกหลงน้องผีมากเลยตอนเพ้อถึงคือน่ารักมาก :-[  เรื่องหมอเมย์ก็ถือว่าเคลียร์แล้วอย่าลืมไปเคลียร์เรื่องหัวใจกับน้องผีนะ สนุกมากๆเลยค่ะอยากอ่านตอนต่อไปแล้วน้องผีจะทรุดกลางห้างแบบนี้ไม่ได้ :m20: มาต่อเร็วๆนะคะ คุณไก่ทอดสู้ๆเราเป็นกลจให้นะ :กอด1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โถน้องผีต เกรียนไม่ออกล่ะสิทีนี้.
จะสงสารก็สงสาร จะไม่ขำก็อดไม่ได้.  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี...ผี.......เอ๊ย......  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ทำลงไปด้าย  o22

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 15.2




Jaokom’s talk


   เอาจริงๆนะครับที่ผมพูดออกไปว่าปล่อยให้ไอ้พีมันหน้างอและเข้าใจผิดต่อไป ผมก็ทำไม่ได้อย่างที่ปากของผมพูดจริงๆ เหมือนเมย์เองก็รู้เธอเลยให้ผมลุกขึ้นไปตามพีเพื่ออธิบายให้เข้าใจ แต่เหมือนว่าผมช้าไปเพราะไม่รู้ว่าไอ้พีเดินไปทิศทางไหนของห้าง และผมเองก็ไม่รู้จะไปตามมันตรงไหนจนกระทั่งผมสะดุดเข้ากับใครบางคนที่เหมือนกับผมทุกอย่าง ผมเลยจะเดินเข้าไปทักมันในฐานะน้องชายสักหน่อย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากเรียกไอ้คนที่ผมตามหาก็สะดุดล้มกลิ้งไปตรงหน้าของไอ้เจ้าท่าพี่ชายฝาแฝดของผม ในจังหวะนั้นในใจผมมันบอกว่าต้องเกิดเรื่องฉิบหายแน่ๆ และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเมื่อไอ้พีลุกขึ้นไปผลักอกไอ้เจ้าท่าแรงๆด้วยความโมโห ส่วนไอ้ท่าที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้แต่ทำหน้างงจนไอ้พีมันระเบิดความในใจออกมาใส่ และดึงตัวไอ้ท่าเข้ามากอดอย่างรวดเร็วจนผมเองก็ขว้าตัวมันออกมาไม่ทัน มันคงรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมเรียก สายตาของมันโคตรที่จะวางเปล่าเมื่อเห็นว่าผมตัวจริงยืนอยู่ด้านหลังและมันก็ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ไอ้เด็กผีทำผิดแล้วหนีเป็นลมเฉย


   “ เดี๋ยวกูอุ้มเอง” ผมย่อตัวลงไปหาไอ้พีที่นอนหลับตานิ่งอยู่ที่พื้นห้าง เมื่อเห็นว่าไอ้เจ้าท่ากำลังจะช้อนตัวไอ้พีขึ้น ผมก็ผลักมือมันให้ออกห่างจากตัวของไอ้พี


   “ ท่าคะ เนทงงไปหมดแล้วค่ะ” ผู้หญิงเซ็กซี่ที่คาดว่าน่าจะเป็นเด็กไอ้ท่าย่อตัวลงมาเกาะแขนไอ้ท่าด้วยความสับสน


   “ เนทอย่ามาจับผม กลับไปก่อนไว้ท่าจะโทรหา”


   “ แต่...”


   “ ผมว่าผมพูดเข้าใจละนะเนท” ไอ้ท่าหันไปมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาดุๆ จนเธอสะบัดหน้าและเดินหนีไปทางอื่น เมื่อมันจัดการคนของตัวเองเสร็จทีนี้ก็หันหน้ามามองผม


   “ เปลี่ยนรสนิยมแล้วหรอวะน้องชาย”


   “ เสือก” ผมพยายามจะอุ้มไอ้พีขึ้น แต่มันแม่งตัวหนักเกินไปครับ ผมยกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นจริงๆ จนไอ้ท่าหิ้วปีกมันอีกข้างส่วนผมก็หิ้วปีกมันอีกข้าง พยุงมันมานั่งแถวเก้าอี้แถวๆนั้น


   “ กูยังไม่เข้าใจ” เมื่อพาไอ้พีที่ยังไม่ได้สติมานั่งที่เก้าอี้ไอ้เจ้าท่าก็เอ่ยปากถามผมอีกรอบ


   “ ตามที่มึงได้ยิน”


   “ พ่อรู้ไหม?”


   “ ยังไม่ได้บอก”


   “ แล้วจะบอกไหม?”


        “ ไม่รู้”


        “ แล้วมึงจะปิดบังถึงเมื่อไหร่”


        “ .....”


        “ ถ้าคนนอกรู้มึงจะไม่โดนด่าหรอวะ”


        “ .....”


        “ แล้ว....”


        “ พอ! มึงเป็นพ่อกูรึไง ซักมากหวะ” เวลาที่ผมคุยกับมันทีไรไอ้อาการหงุดหงิดของผมมันก็กลับมาทุกที มันเป็นทุกครั้งที่ผมคุยกับมันแหละครับ ทั้งๆที่ปกติผมไม่ใช่คนขี้หงุดหงิดขนาดนี้


        “ กูก็แค่เป็นห่วงมึงนะไอ้กรม” ไอ้ท่ามองหน้าผมจริงจัง “ ถึงกูกับมึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน แต่กูก็เฝ้าดูมึงห่างๆ”


   “ ถุ้ย! แม่ใช้ให้มึงดูกู อย่าสร้างภาพครับกูรู้”


   “ โถ่น้องชาย”


   “ Kไร”


   “ ไอ้กรมมึงแม่ง กูพูดกับมึงดีๆนะสัดเอ้ย ต่อยกับกูสักตั้งไหมละ”


   “ กลัวที่ไหนอะ”


   “ เอ้า! มึงลุกมา!!”


   “ มึงก็ลุกก่อนกูดิไอ้ท่า อย่าลีลา”


   “ มึงแหละ ลีลา”


   “ มึงเลยไอ้ท่า”


   “ ไอ้กรม”


   “ ไอ้ท่า”


   “ ไอ้กรม!!”


   “ ไอ้ท่า!!!!!”


   “ โว้ยยยยย พอ!!” อยู่ๆคนที่ขั้นกลางระหว่างผมกับไอ้ท่าก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับโวยวายออกมาเสียงดังลั้นจนทั้งผมกับไอ้ท่าได้แต่หยุดทะเลาะกันและเงียบปากลงทันที “ โคตรรำคาญหูเลยอะ” ไอ้พีเอียงคอพร้อมกับใช้นิ้วแคะเข้าไปที่ข้างในรูหูของตัวเอง


   “ รำคาญมากไหม?” ผมเลื่อนหน้าเข้าไปหามันใกล้ๆ


   “ อันนี้ตัวจริงปะเนี่ย” ไอ้พีมันถามออกมาเหมือนคนโง่ แต่ผมเองก็ดันพยักหน้าให้ไอ้พีตามที่มันถาม “ แล้วนี่” เมื่อมันเห็นว่าผมพยักหน้าไอ้พีก็หันหน้าไปทางเจ้าท่าที่นั่งเงียบอยู่


   “ พี่ชายฝาแฝด” ไอ้เจ้าท่าตอบ ไอ้พีมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่มันก็พยายามเก๊กเพื่อเก็บอาการที่เป็นอยู่


   “ แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมว่าพี่ไม่ใช่พี่กรม”


   “ น้องถามพี่ไหมอะครับ พี่พยายามจะบอกแล้วแต่น้องก็ไม่ฟัง”


   “ ผม....พี่ไม่ได้ยินอะไรใช่ไหม?” ไอ้พีหันหน้ามาหาผมพร้อมกับความกังวลบางอย่างที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าของมัน


   “ เต็มสองหูเลย จูบ ดูด มึงพูดออกมาชัดเจน”


   “ หรือพี่จะเถียงว่าไม่ใช่ละ”


   “ ก็เถียงสักคำยัง? ร้อนตัวไปคนเดียวนะมึง” มันอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบแก้มของไอ้พีแรงๆ ยิ่งอ้วนแม่งก็ยิ่งหน้าบีบหน้าแกล้งฉิบหายไอ้เด็กเวร


   “ สรุป สรุปให้กูด้วย” ไอ้เจ้าท่าก็ยังคงไม่เลิกเซ้าซี้ในเรื่องของผมสักที


   “ คือ...ผมชอบพี่กรมครับ”


   “ .......” ผมไม่คิดว่าอยู่ๆไอ้พีจะพูดคำนี้ออกมาทั้งๆที่ผมเคยห้ามมันเอาไว้ด้วยจูบ แต่ครั้งนี้ผมจะห้ามด้วยวิธีนั้นออกมาไม่ได้ ก็เพราะในเมื่อผมเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้ว มันอาจจะยังไม่ใช่ความรักเลยสะที่เดียว แต่มันก็น่าจะเลยคำว่าชอบออกมามากพอสมควร


   “ อึ้งเลยน้องกู เจอเด็กมันรุก” ไอ้เจ้าท่ายิ้มมุมปากออกมาเมื่อเห็นว่าผมเงียบไป ส่วนไอ้ตัวการก็ได้แต่นั่งยิ้มด้วยความภาคภูมิใจว่ามันได้สารภาพความรู้สึกออกมาก่อนผม มันคงจะดีกว่านี้ถ้าไอ้เจ้าท่าไม่มานั่งเป็นก้างขวางคอ


   “ เสือก มึงกลับไปๆ”


   “ เดี๋ยวกูไปส่ง มึงขับรถไม่เป็น” และเรื่องการขับรถไม่เป็นนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกไม่เท่เอาสะเลย ผมว่าผมต้องไปเรียนขับรถแล้วแหละครับ


   “ รู้ดี”


   “ เรื่องของมึงกูรู้ดีทุกอย่าง”


   “ เอ่อ....บทสนทนาแปลกๆ แต่ผมจะพยายามเข้าใจว่าพี่น้องคุยกันแบบนี้นะครับ” ไอ้พีเกาหัวตัวเองเหมือนว่ามันงงกับคำพูดของไอ้เจ้าม่า


   “ เอาจริงๆนะกูไม่เคยสนใจจะคบเด็กผู้ชายคนไหนเลย...” อยู่ๆไอ้ท่าก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีจริงจัง ก่อนที่มันจะโน้มหน้าเข้ามาหาไอ้พีที่นั่งมึนอยู่กับสถานการณ์ “ จนกระทั่งมาเจอน้อง”


   “ พี่เป็นบ้าอะไรวะ” ไอ้พีผลักหน้าไอ้ท่าให้ออกห่างจากตัวของมัน “ บอกตรงนี้ ถ้าไม่ใช่พี่กรมผมก็ไม่ชอบผู้ชายคนไหนวะ ผมยังชอบผู้หญิงอยู่ แต่พี่มันแค่เสือกมาทำให้ผมหวั่นไหว......” เหมือนว่าไอ้พีจะลืมตัวและเสียความเป็นตัวเองไปมากพอสมควรที่มันจะพูดความรู้สึกของมันออกมา


   “ ไอ้เด็กโง่” ผมโอบไหล่มันให้เข้ามาชิดกับตัวผม ก่อนจะก้มลงเอาแก้มของผมแนบลงบนหัวของมัน “ แค่มึงเหมือนกัน”


   “ ใช่ แค่น้องเหมือนกัน” เหมือนผมจะเจอคนที่เนียนยิ่งกว่าเมื่อไอ้เวรเจ้าท่ามันใช้มือของมันโอบมาที่ไหล่ของพีเช่นกัน


   “ พี่! ผมจะสวีท” ไอ้พีมันดันมือเจ้าท่าให้ออกจากตัว


   “ ฮ่าๆ น่าสนใจ”


   เหมือนยิ่งไอ้พีไม่พอใจเท่าไหร่ ไอ้เจ้าท่ามันก็ยิ่งได้ใจแกล้งไอ้พีต่อ แต่ผมไม่ได้คิดมากแต่แค่รู้สึกสงสัยไอ้ท่ามันดีว่ามันอยากจะแค่แหย่เล่น เลยไม่ทำให้ผมหงุดหงิดเท่าไหร่ที่มันชอบมาวอแวกับคนของผม....มันเป็นคนของผมตั้งนานแล้วครับ







PS. พี่ท่าก็คือพี่ท่า พี่น้องชอบทะเลาะกันครับ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:10:11 โดย KJH177 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องพี่คนเกรียน เจอคนกวนคูณสอง จะรับมือยังงัยน้า  :hao3:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี้ท่าตั้งใจแกล้งน้องกรมมากกว่า5555 เหลือด่านพ่อจะเป็นยังไงต่อนะ สนุกมากๆเลยตลกตอนพี่น้องทะเลาะกัน  :pig4: :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 16.1

ตกลงจะเอาไง?


Pee’s talk


   การที่ผมได้พูดออกไปตรงๆมันก็ดีเหมือนกันนะครับ ผมไม่อึดอัดถึงแม้ว่าพี่มันจะยังไม่ตอบว่าพี่มันคิดอย่างไงกับผมก็ตาม เรื่องแบบนี้ก็แค่ปล่อยให้พี่มันได้ใช้เวลาคิดไปอีกสักพัก ผมว่าอะไรๆมันก็อาจจะเข้าที่ ผมต้องการพี่มันเป็นแฟนอยากดูแลและถูกดูแลให้มากกว่านี้เพราะการที่ทำอะไรครึ่งๆกลางๆบางที.. มันก็อึดอัด ถ้าเป็นแฟนกันไปเลยมันก็คงจะง่ายมากกว่าเดิม แต่ตอนนี้ผมอยากกลับหอมากกว่าที่ได้อยู่กับพี่กรมและแฝดของพี่มัน......


   “ น้องพี พี่ว่าน้องพีต้องกินเยอะๆนะครับ” พี่เจ้าท่าที่นั่งขนาบด้านข้างขวาตักเนื้อปูคำโตๆมาใส่จานผมด้วยท่าทางเอาอกเอาใจ


   “ คาร์เร็คเตอร์พี่เป็นอย่างไงอะครับ แบบพวกหน้าหม้ออย่างนี้หรอ?”


   “ เรื่องนี้ไอ้กรมเป็นพระเอก พี่ก็คงรับบทเป็นได้แค่พี่พระเอกแหละครับ”


   “ พี่ตอบไม่ตรงคำถามหวะ ” ผมตักข้าวเข้าปากตัวเอง เมื่อไอ้พี่เจ้าท่าไม่ยอมตอบคำถามที่ผมถามพี่มันออกไป


   “ เลอะ” ส่วนอีกข้างก็มีพี่กรมนั่งขนาบผมเอาไว้ ยื่นมือมาเช็ดที่มุมปากของผมด้วยท่าทางเอาอกเอาใจเช่นกัน


   “ พี่ ถ้านานไปจะทำแบบนี้อยู่ปะ” ผมเริ่มชักจะหวั่นๆใจกับท่าทางของพี่มัน


   “ กูก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แค่มึงไม่สังเกตเอง” ไอ้พี่กรมทำตัวเฉไฉหันไปตักอาหารมากินต่อ ผมลืมบอกไปครับว่าพี่ท่าอาสามาส่งผมกับพี่กรมที่บ้านของพี่เทพแต่พี่กรมบอกให้ผมมาบ้านพี่เขาแทนเพราะว่างานเสร็จตามเป้าที่วางเอาไว้ เหลือเพียงใส่ข้อมูลวิเคราะห์และหาตัววัดพื้นฐานเท่านั้น แต่ด้วยความลีลาของพี่เจ้าท่าเขาเลยพาพวกเราทั้งหมดแวะร้านอาหารที่พี่ท่าพยายามเสนอว่าอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิต เพราะอยากเลี้ยงผมในข้อหาถูกชะตาเป็นการส่วนตัว แต่ไอ้สายตาที่มองผมแต่ละครั้งมันมากกว่านั้นหวะผมรู้สึกได้ (รู้สึกหลงตัวเอง)


   “ พี่กรม” เมื่อพี่ท่ามันเดินออกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำ ผมค่อยๆสะกิดพี่กรมที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่อย่างเอร็ดอร่อยจนพี่มันหันมาเลิกคิ้วถามผมว่ามีอะไร


   “ ว่า?”


   “ ผมไม่ชอบสายตาของพี่ท่าเลย” อันนี้ผมค่อนข้างที่ซีเรียส “ ไม่ใช่ว่าผมชอบพี่แล้วกลายเป็นว่าจะต้องชอบผู้ชายทุกคน อีกอย่างนะพี่ผมอึดอัดพี่มันคุกคามเกินไป”


   “ คิดมาก ไอ้ท่ามันแค่แกล้งเล่นหนา” พี่กรมพูดเหมือนไม่มีอะไรพร้อมส่งมืออันอุ่นมาวางบนศีรษะของผมและขยี้เบาๆ เหมือนอยากจะสื่อว่าไม่อยากให้ผมคิดมาก


   “ ผมไม่ชอบ”


   “ เออ มานั่งนี่มา” คำพูดของพี่กรมเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจนะครับ แต่การกระทำกลับตรงกันข้ามเพราะพี่มันให้ผมย้ายมานั่งที่ของพี่มันแทน ส่วนพี่กรมก็มานั่งที่ผมที่ขั้นกลาง “ โอเคไหม?”


   “ ขอบคุณครับ” จากนั้นผมทั้งสองก็นั่งกินข้าวกันต่อ จนกระทั่งพี่มันเดินกลับมา เมื่อเห็นว่าผมเปลี่ยนที่นั่งพี่ท่าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา ยิ่งผมมองหน้าพี่ท่ามากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งดูออกเลยว่าคนไหนที่พี่คนไหนพี่กรม แม้ว่าใบหน้าของทั้งคู่จะเหมือนกันมากๆเลยก็ตาม และที่สำคัญหน้าของทั้งคู่ไม่มีตำหนิหรือจุดที่บ่งบอกให้สามารถแยกถึงความแตกต่างได้


   “ จะเข้าไปหาพ่อด้วยนะ” พี่ท่าพูดขึ้นมากลางวงทำให้พี่กรมที่กำลังจะคีบกุ้งเข้าปากถึงกับหยุดชะงักและมองหน้าพี่ท่าด้วยสายตาแปลกๆ


   “ ไม่กลัวแม่ว่า?”


   “ ก็พ่อกูไหมละ?”


   “ เรื่องของมึงแล้วกัน”


   “ ถามได้ไหมครับ” ผมเองก็ไม่ได้อยากจะละลาบละล้วงอะไรพวกพี่ๆมาก แต่ว่าผมอดไม่ได้จริงๆ


   “ ถามมาซิครับ” พี่ท่าเป็นคนตอบ


   “ ทำไมพ่อกับแม่พี่..เอ่อ” ผมจะถามไปดีไหมวะ


   “ เลิกกัน?” พี่ท่าพูดเสริมมาให้เมื่อเห็นว่าผมเงียบไป “ จะเล่าไงดีหละ ทัศนคติไม่ตรงกันมั้งพ่อพี่ไม่ยอม แม่พี่ก็ไม่อ่อน แม่ไม่ยอมพ่อพี่ก็ไม่อ่อน อยู่ด้วยกันนานไปมันก็สะสมไงจนถึงวันที่ทนไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือแยกกันอยู่” เป็นการเล่าที่สั้นแต่สามารถเข้าใจได้ ก็จริงนะครับถ้ารักกันแต่ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่ยอมและปล่อยให้ปัญหานี้มันอยู่นานไปและคิดว่าจะไม่เป็นอะไร ในอนาคตมันก็จะถึงจุดที่ไม่ไหวกันทั้งสองคน


   “ แล้วพวกพี่ทั้งคู่” ผมเองก็อยากจะรู้ว่าพี่ทั้งสองคนเป็นเหมือนกับพ่อแม่ของเขาไหม


   “ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร สบาย ชิว แยกก็ดีจะได้ไม่ทะเลาะกัน” พี่เจ้าท่ายกไหล่ขึ้นบ่งบอกว่าเขาเองก็ชิวๆ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการที่ต้องแยกกันอยู่ของพ่อแม่ “ แต่ไอ้กรมมันน่าสงสารที่ได้อยู่กับพ่อ”


   “ ไม่ต้องมาสงสารกู” พี่กรมพูดสวนขึ้นทันทีเมื่อพี่ท่าพูดออกมาแบบนั้น “ กูสบายดี”


   “ อย่าคิดว่ากูไม่รู้” ทำไมผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆวะครับ “ มึงอึดอัดที่ต้องมาอยู่กับพ่อที่เป็นที่รู้จัก เพราะกูเองถึงมาอยู่กับแม่ก็โดนไม่ต่างจากมึง ยิ่งตอนคลิปสัมภาษณ์แม่อยากจะให้มึงย้ายมาอยู่ด้วยจะตายห่า แต่พ่อไม่ยอม แล้วกูก็รู้ว่ามึงไม่ยอมเหมือนกัน” พี่กรมมีท่าทีเงียบไปเมื่อพี่เจ้าท่าพูดออกมาแบบนั้น สีหน้าของพี่กรมเริ่มบ่งบอกว่าเขาเองก็รู้สึกตามที่พี่ท่าพูดทุกอย่าง เรื่องนี้ผมรู้ดี


   “ .......”


   “ พี พี่ฝากดูแลมันด้วยนะ ไอ้กรมมันปิดตัวเองมานานแล้ว”


   “ ปิดตัว?”


   “ ช่างมันเถอะ มันผ่านมาแล้ว” พี่กรมรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่พี่มันจะก้มหน้ากินข้าวต่อ ทำให้ผมหันไปมองพี่ท่าแต่พี่มันกลับยักไหล่ให้ผม



   เมื่อทานเสร็จพี่ท่าก็พาผมกับพี่กรมกลับบ้าน ในตอนแรกที่บ้านท่านอัศวินไม่ได้อยู่เพราะยังไม่กลับมาจากต่างจังหวัด และไอ้พี่กรมเองก็ไม่รู้ด้วยว่าท่านอัศวินจะกลับมาตอนไหน ในตอนแรกพี่ท่าตั้งใจจะกลับบ้าน แต่แล้วด้วยความโชคดีหรือโชคร้ายที่ท่านอัศวินกลับบ้านมาพอดีทำให้พี่ท่าได้อยู่ต่อนั้นเอง ครั้งแรกที่ท่านอัศวินเห็นพี่ท่ายืนอยู่ท่านเองมีสีหน้าตกใจอยู่ไม่ใช่น้อย แต่แววตาของท่านไม่สามารถปิดบังได้เลยว่าท่านมีความสุขแค่ไหน เมื่อท่านตั้งสติได้ก็รีบดึงพี่ท่าเข้าไปกอด วันนี้เองที่ผมได้เห็นเต็มๆสองตาว่าความรักและความห่วงใยของคนเป็นพ่อมีให้ลูกทุกเมื่อแม้ว่าลูกจะโตแล้วก็ตาม


   “ นอนที่นี่ก็ได้นะท่า” ผมได้ยินเสียงท่านอัศวินดังออกมาจากห้องนั่งเล่น ส่วนผมถูกพี่กรมมันใช้ให้ไปตักน้ำใส่อ่างเพื่อเตรียมให้เฉลิมอาบน้ำหลังจากที่พี่มันบอกว่าปล่อยลูกชายเน่ามาหลายวัน ผมเองก็พึ่งรู้นะครับว่างูต้องอาบน้ำด้วย


   “ แม่จะสงสัย แต่ใจจริงของผมก็อยากนอน” ผมหยุดนิ่งและแอบฟังบทสนทนาของพี่ท่าและท่านอัศวิน


   “ แม่เราเป็นไงบ้างหละ”


   “ ก็สบายดีครับ แต่งานหนักอยู่ ไปต่างประเทศบ่อยๆครับ” ผมอมยิ้มทันทีที่ได้ยินท่านอัศวินถามถึงอดีตภรรยาแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ผมว่าลึกๆแล้วท่านอาจจะมีความรู้สึกดีๆให้กันและกันอยู่


   “ ก็ดูแลแม่เขาด้วยหละ เห็นว่าไม่สบาย”


   “ ครับ พ่อก็ด้วย” พี่ท่าเองก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คล้ายกับพี่กรมเหมือนกัน ไม่ใช่เพียงแค่หน้าตาเท่านั้น “ พ่อผมขออะไรอย่างดิ”


   “ อะไรไอ้ลูกชาย” ผมพยายามเงี่ยงหูฟังเต็มที่ว่าพี่ท่าจะขออะไรพ่อของเขา


   “ อะไรที่ทำให้ไอ้กรมมีความสุขพ่อก็ยอมมันบ้างนะ แม้ว่าเรื่องนั้นพ่ออาจจะรับไม่ได้”


   “ .....” ผมเม้มปากและตั้งใจฟังต่อว่าบทสนทนาจะเป็นอย่างไร


   “ มันหมายความว่าอย่างไงละลูก”


   “ เอาไว้ไอ้กรมมันพร้อมมันก็คงบอกพ่อเอง ที่ผมมาหาพ่อวันนี้ก็เพราะผมคิดถึงจริงๆ และที่สำคัญผมก็จะมาพูดเรื่องน้องมันด้วย ผมรู้ว่าพ่อรู้ว่ามันอึดอัดที่พ่อบังคับมันทำอะไรที่มันไม่ชอบ แต่พ่อรู้ไหมว่าแม่เคยไปดักรอมันตั้งหลายต่อหลายครั้งให้มันหนีมาอยู่ด้วย แต่ไอ้กรมมันก็ปฏิเสธทุกครั้งแม้ว่ามันจะอึดอัด ถึงแม้ว่ามันพยายามจะต่อต้านพ่อแต่มันก็ไม่ทิ้งพ่อทั้งๆที่มันทำได้”

 
   “ พ่อรู้....” น้ำเสียงของท่านเองก็ดูเศร้าไม่ต่างกัน  “ รู้ทุกอย่าง แต่แค่ไม่อยากให้กรมมันลำบาก พ่อพยายามปูทางให้กรมเข้ามาเล่นการเมือง พ่อเห็นว่ากรมมันมีพรสวรรค์”


   “ พ่อครับ บางทีพรสวรรค์ที่มันมีมันอาจจะไม่ชอบก็ได้” เสียงพี่ท่าดูเหนื่อยใจอย่างเห็นได้ชัด “ ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไอ้กรมมันก็คือลูกของพ่อ ถึงมันจะไม่เป็นอย่างที่พอคาดหวัง”


   “ อืม พ่อจะพยายามนะ”


   “ ครับ ผมรู้ว่าพ่อรักมันมากเหมือนกัน พ่อคงไม่อยากเห็นมันรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้.....” ผมว่าผมเสียมารยาทไปมากแล้วครับที่แอบฟังบทสนทนาของท่านอัศวินและพี่ท่า ทำให้ผมเดินออกมาเงียบๆเพื่อมาเอาน้ำใส่กะละมังรอพี่กรมมันพาเฉลิมออกมาอาบน้ำหน้าบ้าน




 







PS. ตัวเองเรามาดราม่ากันยกสุดท้ายกันเถอะนะ ใบ้ว่าคุณพ่อเขาไม่ยอม.....ณ จุดจุดนี้ ไม่มีใครเลยที่ไม่น่าสงสาร อิพี่ก็กดดัน อิน้องก็อยากชัดเจน คุณพ่อก็ไม่เข้าใจ แล้วมันจะจบอย่างไรวะเนี่ยยยย



สุดท้าย ข้าพเจ้าส่งต้นฉบับให้สนพ. แล้วนะจ๊ะ กลางๆปีนี้น่าจะเปิดพรี ใครเอ็นดูอิน้องผี อย่าลืมมาอุดหนุนหน้าา แต่เอาที่ทุกคนสะดวกและไม่เดือดร้อนกันเด้อออ อ่านในเว็บก็ได้ แต่ถ้าในเล่มจะมีตอนพิเศษฮะ



ไรท์ขอขอบพระคุณนักอ่านทุกคนมากๆเลยที่อยู่กับน้องผีมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ซึ้งใจจริงๆค่ะ ไรท์ขอบคุณจริงๆนะคะ พูดคุยกับไรท์ได้ทั้งในเฟสในทวิตได้เลยน้าา ^^



ฝากเรื่องที่ คิน หน่อยเด้อ ขออนุญาตขายของจ้าาาาา ดราม่าอุ่นๆๆ จิ้มที่เรื่องเลยเด้อ ใครใคร่เว็บไหนไปตำโลด แต่ตำทุกเว็บจะดีมาก



DEK D : BROTHER ZONE

RAW :      BROTHER ZONE

FIC :        BROTHER ZONE 

TB :        BROTHER ZONE   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:17:48 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณพ่อฮือ :sad4: ใจอ่อนให้น้องหน่อยนะ จะดราม่าอีกแล้วว :hao5: แต่ก็รออ่านเหมือนเดิมสู้ๆนะคะคุณไก่ทอด อยากเห็นหน้าของน้องผีกับพี่กรมเร็วๆจัง :impress2:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 16.2

ตกลงจะเอาอย่างไร



        ผมเปิดน้ำใส่กะละมังใบใหญ่ และรอจนกว่าน้ำมันจะนิ่งและอุณหภูมิเย็นลงเพราะไอ้พี่กรมมันบอกว่าเฉลิมไม่ชอบอาบน้ำอุ่น ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าพี่มันรู้ได้ไง ไม่ใช่ว่าเฉลิมมันเข้าฝันไปบอกพี่กรมหรอกมั้งครับ


   แต่แล้วผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่พี่ท่าพูดมันเกี่ยวกับผมไหม แต่ที่แน่ๆผมเองก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาว่าสักวันมันต้องแย่แน่ๆถ้าเราจับมือกันไม่แน่นพอ ผมไม่รู้ว่าพี่มันจะเสี่ยงกับผมไหม แต่ที่ผมรู้คือผมพร้อมที่จะเสี่ยงกับพี่มันเสมอและทุกเวลาขอแค่พี่มันมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง ผมแค่เท่านั้นครับ


ผั๊วะ!


   ผมนั่งคิดทบทวนกับตัวเองได้ไม่นาน อยู่ๆสัมผัสแรงๆบางอย่างก็กระแทกมาที่ศีรษะของผม และนั่นผมรู้เลยว่าเป็นฝีมือใคร มันจะเป็นใครไปไม่ได้หรอกครับถ้าไม่ใช่ ไอ้พี่กรม แม่งมีอยู่คนเดียวที่ชอบตบหัวผม


   “ พี่ ถ้าผมฉี่แตกนะ” ผมใช้หลังมือตบที่ใต้คางตัวเองเบาๆ โบราณเขาบอกมาว่าถ้าตบหัวต้องทำแบบนี้ไม่อย่างนั้นตอนกลางคืนจะฉี่แตก แต่ผมก็งงนะตัวเองนะครับว่าโดนพี่กรมตบหัวมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมพึ่งจะมาแก้เคล็ดเอาครั้งนี้


   “ เลอะเทอะ” พี่มันนั่งย่อลงข้างๆผมพร้อมกับใช้มือสัมผัสที่น้ำในกะละมังเพื่อตรวจเช็คอุณหภูมิ “ เฉลิมพร้อมนะครับ” พี่กรมค่อยๆจุมไอ้งูยักษ์ลงไปในน้ำด้วยความทะนุถนอมจนผมเองอดที่จะอิจฉามันไม่ได้ที่พี่กรมทำกับมันอย่างนั้น ผมว่านะถ้าเอามันเป็นเมียได้พี่กรมแม่งทำไปละครับ หงุดหงิดว่ะ


   “ เป็นอะไร?” เมื่อเห็นว่าผมมีท่าทีหงุดหงิดออกอย่างไม่ทราบสาเหตุไอ้คุณพี่ที่สนใจสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองก็หันหน้ามาถามผม


   “ อิจฉา พี่ไม่เคยทำกับผมแบบนี้เลย” ไม่รู้ด้วยว่าความอินหรืออะไรทำให้ผมทำสีหน้างอนแบบบ๊องแบ๊วออกไป จนไอ้พี่กรมมันหันมาสนใจผม ด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่


   “ มึงจะให้กูอาบน้ำให้มึงหรอ เอาดิ แก้ผ้าเลย กูจะได้อาบพร้อมเฉลิมไปเลย” ไอ้พี่กรมพูดด้วยสีหน้าเอาจริง พร้อมกับถกแขนเสื้อของเขาขึ้น ไอ้ท่าทางแบบนี้มันไม่เหมือนจะเตรียมอาบน้ำครับ แต่มันเหมือนว่าเตรียมจะต่อยผมมากกว่า


   “ พี่ ผมไม่ใช่เด็กนะเว้ยที่จะมาอาบน้ำกับเฉลิมอะ”


   “ แล้วมึงมาอิจฉาอะไรไอ้พี”


   “ ก็พี่อ่อนโยนกับมันอะ แต่กับผมพี่รุนแรงตลอดเลย”


   “ ฟังนะ” พี่มันเอามือที่เปียกน้ำของตัวเองมากุมใบหน้าของผมเอาไว้ “ เวลาที่กูอ่อนโยนมึงก็เสือกกวนตีนกูทุกที แล้วใครเขาอยากจะไปอ่อนโยนกับเด็กแบบนี้ว่ะ”


   “ ถ้าพี่จะให้ผมเลิกเกรียนเลิกกวนตีน ก็เหมือนพี่ห้ามไม่ให้คนกินข้าวอะ ผมทำไม่ได้หรอก”


   “ แล้วบอกว่าห้ามรึยัง”


   “ ก็ยัง แต่จะให้ผมตีความอย่างไงเล่า” ผมจับมือพี่มันที่จับหน้าผมออก “ ก็แค่อยากให้อ่อนโยน อยากดูตัวเล็กๆบ้าง”


   “ ไอ้พี มึงยังไม่เมา แต่ทำไมสาวจังว่ะ”


   “ พี่ครับ พูดงี้เดี๋ยวบดเอวโชว์เลย” ผมเตรียมที่จะลุกขึ้นร่อนเอวโชว์พี่มันอีกครั้ง แต่ว่าพี่มันจับมือของผมและดึงให้ผมกลับมานั่งลงเหมือนเดิม


   “ บดได้ แต่บดบนตัวกูนะ”


   “ พะ.....” ไอ้เชี่ยเอ้ย ไปไม่เป็นเลยครับ ไอ้พี่แม่งบอกให้ผมไปบดเอวบนตัวมัน จิตใจผมหยุดคิดอกุศลไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะตอนนี้หน้าผมแม่งโคตรร้อนเลยวะ


   “ ฮ่าๆ ไอ้พีเขิน” ยิ่งผมหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกไอ้พี่ก็ไอ้โอกาสล้อผมเลยครับ ไอ้บ้าเอ้ยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วคราวนี้ “ น่ารักดีหวะ”


   “ อย่ามาชมโผมมมมมม”


   “ มาหอมทีดิ” เหมือนไอ้พี่กรมมันคงลืมว่าอยู่ในบ้านและกลางที่โล่งแจ้ง เพราะยังพูดไม่ทันขาดคำพี่มันก็ดึงหน้าเข้าไปหาตัวเองและกดปากลงมาบนแก้มของผมเน้นๆทั้งสองข้าง พี่แม่งทำอย่างนี้จนกว่าพี่มันจะพอใจและผลักผมออกมา


   “ พี่ แก้มผมช้ำหมดเลยนะเว้ย” แล้วแม่งประเด็นที่สำคัญคือไรหนวดเล็กๆของพี่มันทิ่มแก้มผมเต็มๆ แสบๆคันๆสุดๆไปเลยครับ ผมอดไม่ได้ที่จะใช้มือจับที่บริเวณพี่มันหอมผมทั้งสองข้าง


   “ ให้หอมคืน” พี่กรมยิ้มออกมาจนลักยิ้มทั้งสองข้างของเขาปรากฏบนแก้มเล็กๆ ก่อนจะแก้มมาให้ผมหอมคืน


   “ ไม่เอาอะ”


   “ ทำไม?” เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมพี่มันก็หันกลับมาทำสีหน้าไม่พอใจผมใส่ผม


   “ จะจูบปาก” พูดจบผมก็ดึงหน้าพี่มันเข้ามาใกล้ตัวผมโดยที่พี่มันไม่ทันได้ตั้งตัว จนกระทั่งผมจรดริมฝีปากของตัวเองลงไปบนริมฝีปากของพี่มันเบาๆและค้างเอาไว้อย่างนั้นก่อนจะผลักออก และเห็นว่าสีหน้าของพี่มันดูไม่พอใจสักเท่าไหร่ที่ผมแค่แตะเฉยๆ


   “ กาก”


   “ พี่ ผมแค่อยากแตะดู มันน่ารักดี ใครจะแม่งบ้าจูบบนขยี้ตลอดเลยหวะ ปากคนนะไม่ใช่ตูดควาย จูบมากปากแม่งบวมหมด”


   “ ฮ่าๆ ไอ้เด็กผีเอ้ย” พี่มันหัวเราะออกมา มือทั้งสองข้างยื่นมาขยี้ลงบนศีรษะของผมอีกครั้ง


   ผมมีความสุขครับที่ได้อยู่กับพี่มันแบบนี้ มีความสุขมากๆเลย ไม่เคยคิดเคยฝันว่าผมจะมาลงเอยกับผู้ชาย ว่าแต่ผมลงเอยกับพี่มันแล้วหรอครับ ผมต้องรีบแล้วแหละ


   “ พี่”


   “ หื้มม” พี่กรมตอนนี้กลับไปสนใจเฉลิมที่นอนแช่อยู่ในน้ำอีกครั้ง


   “ เป็นแฟนกับผมไหม?”


   “ .....” พี่มันหันมามองหน้าผมทันทีที่ขอพี่มันออกไปตรงๆแบบนั้นจากรอยยิ้มในตอนแรก หลังจากที่พี่มันได้ยินคำที่ผมขอออกไป จากรอยยิ้มค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งเฉยแทน


   “ ตอบดิ เขินนะเว้ย” ยิ่งเห็นพี่มันนิ่งไปผมก็ยิ่งใจไม่ดี “ ในเมื่อเราคิดเหมือนกัน ก็เป็นแฟนกันไปเลยก็ได้หนิครับ ทำอะไรจะได้ง่ายๆ ไม่ใช่มาครึ่งๆกลางๆแบบนี้”


   “ .....”


   “ ถึงเรื่องอื่นผมจะไร้สาระ แต่เรื่องความรักผมจริงจัง ผมเองก็บอกไม่ได้ว่าผมถึงขนาดรักพี่ไหม แค่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าขาดพี่ไม่ได้”


   “ .....”


   “ ผมไม่อยากเป็นแค่น้องชายแล้วหวะ”


   “ .....” ไอ้พี่กรมมันยังคงเงียบอยู่ ไม่ตอบอะไรผมเลย เอาแต่มองและนั่งฟังในสิ่งที่ผมพูด แวบหนึ่งที่ผมเห็นว่าแววตาของพี่มันดูเป็นกังวลและเครียดอย่างเห็นได้ชัด พี่มันไม่ดีใจหรอครับที่เราจะเป็นแฟนกัน? ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้รู้สึกเองไปคนเดียว


   “ พี่ ไม่พูดอะไรหน่อยหรอ?”


   “ พี กูว่าอย่าพึ่งตอนนี้ได้ไหม? ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกแต่...กูไม่รู้จะพูดอะไร”


   เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเข้าใจคำว่าถูกตบจนหน้าชาด้วยคำพูดมันเป็นแบบนี้นี่เอง ก็ในเมื่อผมเข้าใจมาตลอดว่าพี่มันคิดเหมือนกับผม แล้วทำไมต้องปฏิเสธผมด้วยหวะ


   “ แต่พี่จูบผม”


   “ ไอ้พี โอเคกูยอมรับว่ากูชอบที่จะจูบมึง กูชอบที่จะอยู่ใกล้มึง แต่มึงเข้าใจไหมว่ามันต้องมีปัจจัยอื่นมากกว่าแค่ชอบ มึงอาจจะคิดว่า....กูชอบมึง มึงชอบกูมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้านั่นเป็นคนอื่นไม่ใช่กู” ผมพยายามจะฟังเหตุผลของพี่กรม ผมคิดตามนะแต่ผมว่าพี่มันคิดเยอะไป ผมไม่โอเค ผมเอาแต่ใจ ใช่ครับผมเอาแต่ใจ แต่ทำไมผมต้องทำตามที่พี่มันพูดด้วย ยิ่งพี่มันพูดแบบนี้ผมรู้สึกว่ามันคือข้ออ้าง


   “ ผมไม่เข้าใจ”


   “ พี มันยังไม่ถึงเวลา รอกูหน่อยไม่ได้หรอกหรอวะ” พี่กรมเอื้อมมือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของผม สายตาที่พี่มันมองผมมีแต่ความอ้อนวอนให้ผมเห็นใจพี่มัน


   “ รออะไรอีก หรือพี่ไม่อยากจะยอมรับว่าพี่ชอบกับผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง”


   “ พี....มันไม่ใช่แบบนั้น” พี่มันหันหน้าไปอีกทางเหมือนว่าไม่ต้องการมองหน้าผมก่อนจะยกมือขึ้นมาเสยผมตัวเองด้วยท่าทางที่พยายามจะระงับอารมณ์บางอย่าง


   “ แล้วมันอะไร” ผมยอมรับเลยว่าตอนนี้ผมโมโห อาจจะผิดหวังที่ขอเป็นแฟนแต่กลับถูกปฏิเสธทั้งๆที่เราคิดเหมือนกัน หรือแค่การคิดเหมือนกันมันยังไม่พอหรือสามารถที่จะเป็นแฟนกัน


   “ ใจเย็นก่อนได้ไหม” พี่กรมหันหน้ากลับมามองผมอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือมาจับผม “ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเป็น”


   “ พี่จะอ้างอะไรอีก”


   “ พี มันไม่ใช่ข้ออ้าง มึงก็รู้ว่ากูอยู่ในฐานะอะไร พ่อกู แม่กู คนรอบข้างจะมองว่าอย่างไง”


   “ อ่อ” ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่พี่มันพูด “ ถ้าพี่มัวแต่กังวลและกลัว ผมว่าเราก็ไม่ควรเป็นแฟนกันหรอกครับ ผมคงไม่เหมาะสมพอที่จะเป็นแฟนลูกชายนักการเมืองชื่อดัง” ด้วยความน้อยใจความเสียใจทำให้ผมพูดแบบนั้นออกมา เหมือนว่าคำพูดของผมมันไปจี้จุดอะไรบางอย่างของพี่กรม


   “ กูคิดว่ามึงจะเข้าใจกูที่สุดไอ้พี่” สายตาของพี่มันมองมาที่ผมด้วยความตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็เข้าใจพี่มันครับว่าพี่มันรู้สึกอย่างไร แต่มันก็แค่ความรัก พี่มันจะกลัวอะไรหนักหนา ผมเองก็พร้อมที่จะต่อสู้ไปกับพี่มันอยู่แล้ว


   “ ผมเข้าใจ แต่ผมทำไม่ได้”


   “ อืม กูว่าเราก็ไม่ควรเป็นแฟนกันจริงๆนั่นแหละว่ะ” ยิ่งพี่มันพูดตอกย้ำคำพูดของผมที่ผมพูดออกไป ผมแม่งโคตรเจ็บเลยครับ เจ็บกว่าเหตุการณ์วันนั้นที่ผมตื่นมาแล้วไม่เจอพี่มัน คือการที่ได้ฟังจากปากของพี่กรมว่าเราไม่เหมาะสมที่จะเป็นแฟนกัน “ มึงอาจจะเจอคนที่ดีกว่ากู”


   “ พี่ก็อาจจะเจอคนที่ดีกว่าผม” ขอโทษที่ปากของผมมันประชดออกไป ทั้งๆที่ในใจกำลังร้องไห้ออกมา ผมตัดสินใจลุกขึ้น ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ผม....ผมคิดไม่ออกจริงๆ


   “ .....”


   “ ....” เราทั้งสองคนต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมา ในความรู้สึกของผมในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ผมพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับความรัก ผมยอมทุกอย่าง แต่ในเมื่อเรามั่นใจว่าเราสองคนคิดเหมือนกัน ด้วยนิสัยลุยๆแมนๆ กล้าที่จะยอมรับความรู้สึก กล้าที่จะเสี่ยงแม้ว่าหนทางข้างหน้ามันจะเป็นอย่างไร ผมรู้ว่าพี่มันกังวลเรื่องของพ่อแต่นั่นผมเองก็มั่นใจว่าเราจะฝ่ามันไปได้ หรือจริงๆแล้วมันก็เป็นข้ออ้างเพราะพี่มันยังไม่พร้อม ทั้งๆที่วันนี้ผมคิดว่ามันจะเป็นวันที่ดีของเราทั้งสองคนอยู่แล้ว


   “ มึงจะเอาอย่างนี้จริงๆหรอวะพี” พี่กรมลุกขึ้นยืน “ มึงคุยด้วยเหตุผลไม่ได้หรอ”


   “ เหตุผลอะไรครับ?”


   “ มึงไม่เห็นหรอว่ารอบข้างกูเป็นอย่างไง การตัดสินใจทุกอย่างมันกระทบหมดทุกเรื่อง มึงคิดให้เยอะกว่านี้ไม่ได้หรอหวะ การที่ดูแลกันแบบนี้มันไม่ดีพอใช่ไหม?” พี่กรมพยายามจะอธิบายทุกอย่างให้ผมฟังอย่างใจเย็น แต่ผมที่มีวุฒิทางอารมณ์ต่ำมันกลับไม่ยอมฟังอะไรเลย และคิดว่าสิ่งที่พี่มันพูดมาเป็นแค่เพียงข้ออ้างไม่ใช่เหตุผล


   “ ผมคิดได้แค่นี้” ผมยอมรับเลยว่าตอนนี้ผมโคตรจะงี่เง่า


   “ พี มึงเคยมีเหตุผลมากกว่านี้นะ”


   “ แต่เรื่องของพี่ ผมไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น”


   “ ....เฮ้ยยย” พี่กรมถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ “ วันที่กูไปหาเมย์ก็เพราะว่าจะเคลียร์ความรู้สึกและขอโทษที่กูดึงเมย์เข้ามาเป็นเครื่องมือทดสอบความสับสนของกู เพราะอะไรรู้ไหม?”


   “ .......”


   “ กูไม่เคยคบกับผู้ชายมาก่อน กูไม่เคยรู้สึกดีกับผู้ชายคนไหนเท่ามึง ตั้งแต่กูรู้จักมึงทุกๆวันมันดีมาก และดีมากๆ ยอมรับเลยว่าสับสน กูไม่แคร์เรื่องเพศอยู่แล้ว แต่มึงเข้าใจไหมว่าคนรอบข้างกูแคร์ แล้วกูก็แคร์มึงด้วยพี” ผมกลืนน้ำลายลงคอและพยายามไม่มองหน้าพี่กรมตรงๆ


   “ ......”


   “ ถ้ามึงคบกับกูแล้วมึงโดนวิจารณ์ ครอบครัวมึงอาจจะโดนด่า คนรอบข้างมึงอาจจะเดือดร้อน กูไม่โอเคจริงๆ ไม่อยากทำให้มึงต้องมาเดือดร้องเพราะคบกับกู”


   “ .......”


   “ คุยกันแบบผู้ใหญ่เถอะนะพี ขอร้อง” พี่กรมเอื้อมมือมาจับมือของผม “ ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่ถ้าคบแล้วพามึงซวยเพราะกูเป็นต้นเหตุ กูว่า.....อย่าพึ่งดีกว่าไหม”


   “ อันนี้คือเหตุผลของพี่ใช่ไหมครับ?”


   “ ครับ”


   “ ผมเองก็มีเหตุผลเหมือนกัน พี่บอกว่าเหตุผลของพี่ว่าพี่ไม่โอเคที่ผมจะถูกวิจารณ์แล้วพี่ถามผมหรือยังว่าผมพร้อมที่จะถูกวิจารณ์ไปกับพี่ไหม ผมไม่สนผมไม่แคร์อะไรทั้งนั้น”


   “ แต่ครอบครัวมึง”


   “ พ่อผมเข้าใจครับ” ปากผมพูดออกไปก่อนว่าพ่อผมเข้าใจ แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่รู้ว่าพ่อจะเข้าใจไหม “ แต่มันขึ้นอยู่กับพี่ ผมไม่รู้ตัวเองเหมือนกันนะว่าทำไมผมต้องมารู้สึกกับพี่ขนาดนี้ด้วย” ผมก้มหน้ามองพื้น ทุกครั้งที่ต้องพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา


   “ กูเข้าใจ”


   “ พี่ครับ...เรามาทำให้เรื่องมันถูกต้องเถอะนะ ผมอึดอัดถ้าผมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ ผมทนมามากพอแล้ว วันนี้ผมพร้อมทุกอย่าง พี่เชื่อผมดิ”


   “ พี...”


   “ ผมจะไปจริงๆตามที่พูดเมื่อกี้ให้ผมไปเจอคนใหม่ก็ได้ ผมรู้ว่าสุดท้ายอย่างไงผมก็จะไม่เจอคนที่พี่อวยพรให้ผมอยู่ดี งานที่เราทำอยู่มันก็จะกลายเป็นการสร้างความอึดอัดให้ทั้งผมและพี่เหมือนตอนนั้น ผมเองก็ต้องมาคอยหลบหน้าพี่ ผมว่ามันไม่ใช่ ในเมื่อพี่ให้ผมคุยกับพี่แบบผู้ใหญ่ มันก็คือการพูดออกมาตรงๆและหาทางออกร่วมกันไม่ใช่หรอกหรอครับ?” จากตอนแรกที่ผมโมโหผมหัวร้อน แต่พอมาตอนนี้ ผมว่าผมจะลองใช้เหตุผลและความรู้สึกของผมเอาชนะความกลัวของพี่มันให้ได้ ผมเองก็ไม่อยากมาทะเลาะมาคอยหลบหน้ากันอีกแล้ว มันเด็กเกินกว่าที่ผมจะทำ ในเมื่อพี่มันให้ผมใช้วิธีแบบผู้ใหญ่ ผมก็ใช้ตามที่พี่มันต้องการ หมดยุคที่นางเอก เอ้ย! นายเอกอย่างผมจะมาหนีหน้าพระเอกหรือทำตามที่พระเอกต้องการทุกอย่าง ผมจะปฏิวัติ!!!


   “ ไอ้พี มึงจะไปไหน” เมื่อเห็นว่าพี่มันยังคงนิ่งอยู่หลังจากที่ผมพูดจบ ผมก็คิดอะไรออก ในเมื่อผมเป็นผู้ชายผมกล้าทำผมก็ต้องยอมรับ ไม่มีคำว่าเร็วไปสำหรับปฐพี!


   “ ท่านครับ ผมชอบลูกชายของท่าน”


   “ พวดดดดดดด” 


   เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก เมื่อผมคิดได้ดังนั้นผมเดินเข้ามาในบ้านและตรงมาหาท่านอัศวินที่ยังคุยอยู่กับพี่เจ้าท่าอยู่ในห้องนั่งเล่นเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าผมบุกเข้าไปเร็วเกินไปไหมเมื่อผมพูดออกไปท่านเองที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับพุ่งออกมาทันที ส่วนพี่กรมที่วิ่งตามผมมาก็ได้แต่ยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะผมได้พูดออกไปแล้ว


   ผมว่าผมกล้าไป....


   “ พ่อ....”


   “ อือ” ท่านอัศวินวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะก่อนที่จะใช้ทิชชู่เช็ดน้ำที่เปียกอยู่บริเวณรอบคางของเขาอย่างช้าๆเหมือนกำลังประมวลสถานการณ์บางอย่าง


   “ มันเร็วไปหวะ กูพึ่งจะขอให้พ่อเตรียมใจ แต่ไม่คิดว่าไอ้พีมันจะ...” พี่เจ้าท่าพูดแทรกขึ้นา เมื่อเห็นว่าทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ


   “ มันไม่มีคำว่าเร็วไปสำหรับความรักหรอกครับ” ผมพูดสวนพี่ท่าออกมา พร้อมกับหันไปมองหน้าท่านอัศวินตรงๆ “ ผมขอคบกับพี่กรมได้ไหมครับท่าน ผมชอบลูกชายท่านจริงๆ”


   “ เดี๋ยวๆ” พี่กรมก้าวเข้ามายืนแทรกระหว่างผมกับท่านอัศวินก่อนจะยกมือขึ้นมาห้าม


   “ ทำไมอะพี่ ก็ในเมื่อจะคบแบบผู้ใหญ่ก็ต้องขออนุญาตผู้ปกครองไม่ใช่หรอกหรอครับ” ผมมองเลยไปมองท่านอัศวินที่ท่านทำหน้าเหมือนว่าเรื่องที่ผมพูดไม่ใช่เรื่องจริง “ ท่านครับ ผมชอบพี่กรมจริงๆนะครับ ท่านเห็นใจผมเถอะนะครับ”


   “ ไอ้พี”


   “ เอ่อ...น้องพีพี่ว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันนะครับ” พี่เจ้าท่ารีบลุกขึ้นมาห้ามผมอีกคน


   “ ไม่ ผมจะคุยตอนนี้ วันนี้ ท่านครับโปรดเห็นใจผมเถอะ” ผมคุกเข่าลงตรงหน้าท่านอัศวิน ส่วนพี่กรมก็รีบเข้ามาห้ามผม แต่ท่านอัศวินยกมือห้ามเอาไว้ก่อน พร้อมกับเรียกให้พี่กรมไปนั่งข้างๆพี่เจ้าท่า


   “ กลับไปก่อนได้ไหม” ท่านพูดออกมาตรงๆ ผมเข้าใจว่าท่านเองก็คงจะยอมรับไม่ได้เหมือนกันที่อยู่ผมก็เดินมาบอกท่านว่าผมขอลูกชายท่าน มันอาจจะกะทันหันเกินไป


   “ ครับ ผมขอโทษที่ทำให้ท่านหนักใจ แต่ถึงอย่างไรผมก็จะไม่ยอมแพ้ เพราะผมรักพี่กรมและพี่กรมก็รักผม” ผมยกมือไหว้ท่านก่อนที่จะลุกเดินออกไป ผมได้ยินว่าพี่กรมจะลุกเดินตามผมออกมา แต่ถูกเรียกตัวเอาไว้ก่อน ทำให้ตอนนี้ผมเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ของพี่กรมคนเดียว


   ผมใจร้อนเกินไปซินะครับ....








DEK D : BROTHER ZONE

RAW :      BROTHER ZONE

FIC :        BROTHER ZONE 

TB :        BROTHER ZONE
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:26:15 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
น้องผี น้องจิใจกล้าบ้าบิ่นเกินไปแล้ว
 :ling3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องผีเอาความกล้ามาจากไหน บางทีน้องก็มีความบ้าอยู่ในตัวเยอะไปแล้วนะลูก

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เราชอบที่น้องผีพูดตรงๆนะแต่น้องผีใจร้อนเกินไปใจเย็นๆก่อนเด้อ เราเข้าใจพี่กรมอยู่นะ เอาใจช่วยทั้งสองคนเลย จะเป็นไงต่อ :katai1: ขอให้คุณพ่อเข้าใจ คุณไก่ทอดสู้ๆนะเราเป็นกลจให้ สนุกมากๆเลย รออ่านฉากดราม่าค่ะ :pig4: :L1:  :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี กล้า บ้าบิ่นมากกกกกกกกกกกก  o22 :z3:
แต่พี่กรม ก็เหมือนไม่ต่างจากเดิม คิดมากสุดๆ
ทั้งที่รู้ตัวว่าชอบพี แต่ไม่พอ ต้องมากกว่าชอบ    :เฮ้อ: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 17.1

ข่าวลือ



   ตั้งแต่วันที่ผมใจร้อนเข้าไปหาท่านอัศวิน นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วครับที่ผมไม่ได้เจอพี่กรมเลย ทั้งไลน์ทั้งโทรไปก็ไม่มีใครรับทั้งๆที่สัญญาณก็ติด จะเข้าไปบุกถึงบ้านก็เกรงว่าจะโดนไล่ออกมา แล้วอาทิตย์นี้ผมก็เริ่มมีงานกลุ่มด้วย ทำให้ผมไม่ได้มีโอกาสไปถามพวกพี่เทพเลย จะว่าไปก็วนมาถึงวันศุกร์อีกแล้วครับ ชอบเกิดเรื่องวันศุกร์ทุกทีเลย


   “ ไอ้พีมึงมาดู topic ใหม่นี่มา” ผมเดินเข้ามาในห้องเรียนพอดีไอ้บิวกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหามันที่โต๊ะ


   “ ไรวะ”


   “ กระแสมาจากไหนไม่รู้” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านเมื่อไอ้บิวมันไม่ได้ตอบว่าสิ่งที่มันพูดคืออะไร แต่กลับยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดูแทน


   ‘ แอบกินเด็กปีหนึ่งไม่ไว้หน้าพ่อ ได้ข่าวว่าความสัมพันธ์มีมากกว่าพี่น้อง จะใกล้เลือกตั้งแล้วแต่ข่าวคาวๆก็มีออกมาให้บ่อยๆ สาวๆที่หวังจะเคลมต้องเสียใจ เพราะเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ลูกนักการเมืองดังๆมีแค่ไม่กี่คนในคณะ’


   ผมอ่านวนไปหลายๆรอบ เพราะดูจากเนื้อหาของข้อความนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครถึงแม้จะจงใจไม่ชื่อ แต่มันก็เดาได้ไม่ยากครับ ยิ่งตอนนี้ยิ่งใกล้เลือกตั้งแล้วกระแสไปไวมาก ดูจากจำนวนแชร์และคอมเม้นต์ขนาดนี้


   “ ไอ้พี โอเคไหม?” ไอ้บิวจับไหล่ผมให้นั่งลงข้างๆมัน


   “ กูว่าเกินไปว่ะมึง” ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอ้บิว “ มึงว่ามันเป็นเกมส์การเมืองป่าววะ”


   “ อย่างไงวะ”


   “ เอาจริงนะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใครหลายๆคนมีสิทธิ์เลือกตั้ง แล้วพลังของคนเจ็นเราอะก็เยอะมากพอสมควร ไอ้พี่กรมแม่งก็เป็นที่รู้จักถ้าเกิดว่าพี่มันมีข่าวเสีย แน่นอนว่ากระทบแน่...เห้ย!!!” ผมรู้แล้วว่าทำไมพี่มันถึงยังไม่อยากคบกับผมทั้งๆที่ผมก็รู้แต่ทำไมผมคิดไม่ได้หวะ ทำไมผมต้องเอาอารมณ์ตอนนั้นมาตัดสินด้วยหวะ!!


   “ เป็นไรมึง!” ไอ้บิวเองก็มีทีท่าตกใจเมื่อเห็นว่าผมตะโกนออกมาแบบนั้น


   “ มึง....กูทำผิดกับพี่เขาหวะ เพราะอารมณ์กูล้วนๆเลย มึงกูเห็นแก่ตัวไปแล้ว” ผมเขย่าไหล่ไอ้บิวแรงๆจนหน้ามันสั่นไปตามแรงที่ผมเขย่า


   “ เล่าให้กูฟังได้ไหม”


   “ .....” ผมไม่รู้ว่าผมจะเล่าให้มันฟังได้ไหม เพราะผมกับไอ้บิวเองก็พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่ด้วยความที่ผมไว้ใจมัน เพราะอย่างไงมันก็เป็นเพื่อน ทำให้ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้ไอ้บิวฟังตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงเรื่องที่ผมกับไอ้พี่กรมมันเผลอจนเกือบมีอะไรที่ทะเลนั่นด้วย ผมรอดูว่าไอ้บิวมีปฏิกิริยาอย่างไร จะตกใจที่ผมชอบผู้ชายหรือเปล่า แต่ผิดคาดครับเพราะไอ้บิวดูไม่ตกใจอะไรเลย มันกลับทำหน้าเห็นอกเห็นใจผมในสิ่งที่ผมเล่าให้มันฟัง


   “ กูอยากไปหาพี่เขาวะมึง”


   “ แต่พ่อเขาดูเหมือนว่าไม่อยากให้มึงยุ่งกับลูกเขาเลยไอ้พี” อย่างที่ไอ้บิวพูดก็จริง ตามความรู้สึกของผมในตอนนี้คือพี่กรมแม่งเหมือนผู้หญิงอะครับที่พ่อรู้ว่าจะมีแฟนแล้วหวงขังไว้ในบ้าน ส่วนผมก็กลายเป็นผู้ชายจนๆที่อยากได้ลูกสาวของเขาจนต้องไปปีนบ้าน...เออ! ต้องปีนบ้าน


   “ ไอ้บิวไปปีนบ้านพี่กรมกับกูคืนนี้ มึงมีรถไปส่งกูด้วย”


   “ ห้ะ??? มึงคิดดีแล้วหรอวะพี ใจเย็น รู้ว่าอยากได้แต่มึงต้องมีสติ” ไอ้บิวพูดเตือนสติผมอีกครั้ง แต่ไม่ได้อะครับแค่ไม่ได้เจอหน้ากัน ผมก็รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรบางอย่าง ผมมั่นใจแล้วว่าตอนนี้ผมไม่ได้แค่ชอบพี่มันอย่างเดียวเท่านั้นความรู้สึกของผมแม่งโคตรชัดเลยครับ ชัดกว่านี้ก็จะไปขอพี่มันแต่งงานละ


   “ กูคิดดีแล้ว อย่าบอกใครนะบิวแค่กูกับมึง” ผมจับไหล่ไอ้บิวแน่น เพื่อให้มันสัญญากับผม ผมไม่รู้ว่าจะมีใครเอาข่าวไปเขียนเสียๆอีกไหม แต่ตอนนี้ผมต้องไปหาพี่กรมให้ได้


   “ เออๆ ถ้ามึงคิดดีแล้ว” ผมวางแผนเอาไว้ว่าพอเลิกเรียนแล้ว ให้มันไปส่งผมที่บ้านของพี่กรมช่วงค่ำๆเพราะปกติคนงานบ้านพี่กรมจะติดละครวันศุกร์แล้วไม่ค่อยออกมาบ้านใหญ่สักเท่าไหร่ นั้นน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของผมในการปีนเข้าไปหาพี่มัน


   ผมไม่ได้คิดเอาไว้ต่อว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปถ้าผมเข้าไปหาพี่มันแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่บนรถของไอ้ตี๋บิวกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปหาพี่กรมในช่วงสี่โมงเย็นเพราะกว่าที่ผมจะได้ออกจากมหาลัยไอ้บิวก็ย้ำอยู่นั้นว่าผมคิดดีแล้วหรอ ไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม จนผมรำคาญขึ้นมานั่งกดดันบนรถมันเลย


   “ มึงจะทำไงต่อไป” บิวถามขึ้นขณะที่ผมกดโทรออกหาพี่กรมหลายๆสาย


   “ ก็คงไปขอโทษที่กูวู่วาม กูรู้แล้วว่าวันนั้นกูเอาแต่ใจตัวเองเกินไป”


   “ วันนี้ก็คิดดีๆนะ”


   “ ไอ้บิวมึงย้ำกูทำไมเยอะแยะว่ะ ชักจะแปลกละนะมึง” ผมหยุดกดโทรออกก่อนจะหันหน้าไปมองไอ้บิวด้วยสายตาจับผิด


   “ กูแค่เป็นห่วงมึง ทำอะไรก็ระวัง มึงคิดว่าแถวบ้านพี่กรมมึงจะไม่มีคนมาเฝ้าหรอวะ”


   “ ใครเฝ้า”


   “ โง่จริง ก็พวกฝั่งตรงข้ามไง ถ้าเขาเห็นมึงปีนข่าวใหญ่แน่ไอ้พี” เออ หวะ ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปได้อย่างไร ถ้าใครถ่ายภาพตอนนั้นของผมไป ตายแน่ครับ ผมเนี่ยตายแน่เผลอๆหาว่าผมเป็นขโมยไปอีก


   “ เออว่ะ เอาไงดีหวะมึง กูคิดถึงพี่เขาว่ะ” ผมเขย่าแขนให้บิวเพื่อให้มันช่วยคิดว่าผมจะทำอย่างไงต่อไปจนลืมไปว่ามันขับรถอยู่ ผมจึงค่อยๆปล่อยแขนมันออก


   “ โทษนะพี ถึงมึงจะน่ารักแต่กูไม่หวั่นไหวหวะ”


   “ พูดเหี้ยไรเนี่ย” ผมผลักออกมาจากมันทันทีที่ผมว่าน่ารัก เกิดมากูโดนชมว่าน่ารักแค่สองคนเอง คนแรก...ก็พี่กรมไงครับ งื้อออ คิดถึงหวะ!! คนที่สองก็ไอ้เวรบิว มั้งนะครับถ้าผมจำไม่ผิด


   “ กูรู้ว่ามึงเขินที่กูชมไอ้พี แต่โทษนะกูคิดกับมึงแค่เพื่อนหวะ” ไอ้ตี๋บิวมันหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผม


   “ เดี๋ยวกูตบคว่ำนะ”


   “ สาวนะมึงตั้งแต่อมจู๋พี่กรมไปอะ”


ขวับ!


   ผมหันไปมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง ไอ้เวรนี่ก็ขุดมาล้อกูจนได้ ผมไม่น่าเล่าให้มันฟังเลยครับ ถ้ารู้ว่าเล่าแล้วแม่งล้อนะ ผมก็จะเล่าอะ มันอึดอัดถ้าไม่มีคนรับฟัง ผมเชื่อว่าไอ้บิวจะไม่บอกใคร....หวังว่ามันจะไม่บอกใคร


   “ มันเป็นไงวะ ฟินไหม?”


   “ ถามจริงหรือถามเอาฮา”


   “ จริง”


   “ ก็.....” ผมนึกคิดไปถึงเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง ครั้งที่ผมค่อยๆคอบปากตัวลงไปตามความยิ่งใหญ่ของพี่มัน และยิ่งเวลาที่พี่มันกดศีรษะของผมให้ขยับไปตามจังหวะนะ...อื้อหื้อประสบการณ์เสียวที่รู้สึกดีครับ


   “ ไอ้พีมึงไม่ต้องอ้าปาก กูแค่ถามไม่ได้ให้สาธิต”


   “ เออ!” ผมไม่รู้ตัวเลยนะครับว่าเผลออ้าปากตามที่ภาพในหัวมันคิดจนกระทั่งไอ้บิวมันพูดขึ้นมา “ ก็ดีมั้ง กูไม่ได้รังเกียจ แต่บอกก่อนว่าแค่พี่กรม ถ้าทำให้มึงกูไม่เอาอะ”


   “ พี กูไม่ได้อยากให้มึงทำเลย น้องอุ้มช่วยกูได้”


   “ ถ้ามึงลองใช้ปากกูว่าเสียวกว่าน้องอุ้มมึงแน่” และบทสนทนาระหว่างไปบ้านพี่กรมก็มีแต่เรื่องใต้สะดื้อทั้งนั้นครับ ผมบังคับให้มันเล่าเรื่องเสียวของมันให้ผมฟังบ้างเพราะผมเล่าให้มันฟังไปแล้ว มันก็บ้าจี้เล่านะครับแต่จะออกไปทางลามกจกเปรตมากครับ


   “ กูอะหญิงสองก็เคยมาแล้วไอ้พี เด็ดเชียวอย่าได้บอกใคร อีกคนปากอีกคนตูด ฟินสัส” ผมนี่อดคิดไม่ได้เลยครับว่ามันจะออกไปทางท่าไหน “ แต่กูชอบแค่หนึ่งหนึ่งพอ อย่างนั้นแม่งทรมานไป”


   “ กูเคยไปนะ พี่กรมพากูไปลองกับผู้หญิงแต่ว่ากูแม่งเมาชวนพี่ผู้หญิงเต้น แล้วกูเรอด้วยอะมึง”


   “ ไอ้พี พี่กรมใจกว้างจังวะ”


        “ เออ นั่นดิ ตอนนั้นอาจจะยังไม่ได้รู้สึกกับกูมั้ง”


        “ ไม่ต้องยิ้มก็ได้นะไอ้พี รู้แหละว่ารักว่าคิดถึง” ผมยิ้มออกไปอีก ผมว่าผมแม่งอาการหนักไปแล้วครับผม ตอนนี้ขอแค่ได้ไปถึงบ้านพี่กรมและเข้าไปในบ้านพี่มันได้ก็พอ



บ้านเจ้ากรม


   ผมกับไอ้บิวคิดอยู่นานว่าจะทำอย่างไรให้เข้าไปในบ้านของพี่มันได้ จนไอ้บิวมันคิดออกให้ผมปลอมตัวเป็นคนส่งพิซซ่าแต่แล้ว...ผมก็ได้แค่ส่งอยู่หน้าบ้านโดยที่ป้าแม่บ้านใช้ออกมาบอกว่าไม่มีใครสั่ง ทำให้ตอนนี้ผมมานั่งโง่อยู่กับไอ้บิวสองคนในรถเพื่อคิดวิธีว่าจะเอาอย่างไงต่อไป


   “ หลังบ้านไหม” ไอ้บิวเสนอ หลังบ้านผมไม่เคยไปหลังบ้านพี่กรมเลยจนกระทั่งไอ้บิวบอกแบบนั้น ผมก็เดินนำไอ้บิวไปบริเวณหลังบ้านของพี่กรมที่เป็นกำแพงสูง เมื่อเห็นว่าไม่น่าจะมีใครอยู่ผมก็ให้ไอ้บิวคอยดูต้นทางให้ว่ามีใครผ่านมาแถวนี้ไหมจนกระทั่งผมขึ้นไปบนกำแพงนั้นพอดี


   “ กูไปก่อนนะบิว โชคดีมึง” ก่อนที่ผมจะกระโดดลงไปอีกฝั่งผมหันมาบอกลาเพื่อนอย่างไอ้บิว ก่อนจะกระโดดลงไปเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนี้ จนกระทั่งผม....ตัดสินใจกระโดดลงไปวัดความสูง แต่ด้วยไม่ได้เห็นว่าบริเวณนั้นมีก้อนหินอยู่ทำให้เข่าของผมไปกระแทกก้อนหินเต็มๆ ผลออกมาก็คือเข่าแตกไปตามระเบียบเลยขอรับ


   “ เลือดไหลจนได้” ผมไม่ได้มีเวลาที่จะมานั่งทำแผลเช็ดเลือด ทำให้ตอนนี้ผมรีบเข้ามาในบ้านของพี่กรม ก่อนจะส่องดูว่าแม่บ้านทำอะไร เมื่อเห็นว่าทางสะดวกผมก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้านที่เป็นห้องของพี่กรม ง่ายดีครับ...ง่ายดีเหมือนกัน


ก๊อกๆ


   ผมเคาะประตูหน้าห้องพี่มันอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าของคนในห้อง ไม่นานประตูก็เปิดออกมาทันที สภาพที่ผมเห็นคือพี่กรมทำหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นผม พี่มันรีบดึงตัวผมให้เข้าไปในห้องนอนพร้อมกับล็อคประตูห้องอย่างหนาแน่น ก่อนจะหันกลับมาสนใจผมต่อ


   “ มาได้ไง”


หมับ!


   ผมไม่ตอบคำถามพี่มันแต่กลับพุ่งตัวเข้าไปกอดพี่กรมด้วยความคิดถึงที่มี หน้าของพี่มันซูบและค่อนข้างที่จะโทรมมาก มากกว่าตอนที่ผมเจอเมื่อครั้งที่แล้ว


   “ คิดถึงมากนะรู้ไหม?”


   “ คิดถึงเหมือนกัน แต่ไปหาไม่ได้” พี่กรมลูบศีรษะผมเบาๆขณะที่ผมยังคงกอดและซบไหล่พี่มันอยู่อย่างนั้น


   “ ผมเป็นห่วงพี่มากเลยนะ” ผมค่อยๆผลักออกจากอ้อมกอดของพี่กรม เพื่อให้ตอนนี้เรามานั่งคุยกันอย่างเป็นกิจลักษณะ


   “ พ่อเอาโทรศัพท์ไป ไม่ได้ไปเรียนด้วย ไม่ได้เล่นคอมด้วยเหมือนถูกตัดจากโลกภายนอก” พี่กรมบ่นให้ฟัง แต่ผมว่ามันแปลกๆนะครับ คนอย่างพี่กรมไม่น่ายอมทำตามพ่อง่าย


   “ ทำไม?”


   “ แค่ตกลงอะไรบางอย่าง แต่ไม่ต้องกังวลนะ ไม่มีอะไรหรอกแค่รอ” รอยยิ้มที่อบอุ่นที่ผมไม่ได้เห็นมานานมันสามารถช่วยเยียวยาหัวใจที่ห่อเหี่ยวของผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ


   “ ผมขอโทษนะพี่”


   “ เรื่องอะไรครับ”


   “ ก็เรื่องที่ผมใจร้อนวันนั้นผมน่าจะฟังพี่ ไม่น่าเลย ผมผิดเอง...” ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่เล่นกันอยู่ตอนนี้ให้ดูสำนึกผิดที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้


   “ รู้ตัวก็ดี ทีหลังอย่าทำอีก มันต้องคิดเยอะๆนะพี ในอนาคตเป็นผู้ใหญ่มันต้องมีมากกว่านั้น เข้าใจไหม” พี่กรมวางมือลงบนศีรษะของผมอีกครั้ง


   “ ผม...ขอโทษจริงๆ” ผมไม่รู้ว่าผมจะสรรหาคำไหนมาพูดได้อีกนอกจากพูดขอโทษพี่มันซ้ำๆและย้ำๆอยู่แบบนี้ จนกระทั่งพี่กรมหยุดคำพูดของผมด้วยปากของเขา...





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:34:18 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เป็นกลจให้น้องผีและก็พี่กรม พี่กรมแลกเปลี้ยนอะไรกับพ่ออ่ะ ชอบบิวอ่ะน้องดูเกรียน มาต่อเร็วๆน้าจะเป็นอยากรู้ใจจะขาดว่าจะเป็นยังไงต่อ คนปล่อยข่าวคือนิสัยเลวมาก :m31: คุณไก่ทอดสู้ๆ :pig4: :L1: :3123:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 17.2

ข่าวลือ

        นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้สัมผัสริมฝีปากของพี่กรม ตอนนี้ผมเองไม่สนใจอะไรแล้วครับพี่มันอยากจะลุกเข้ามามากเท่าไหร่ผมจะไม่ต่อต้านสัมผัสที่นุ่มนวลและอ่อนโยนที่พี่มันใช้กับผม มันบ่งบอกได้ว่าพี่กรมพยายามทะนุถนอมทั้งๆที่ผมเองก็เป็นผู้ชายไม่จำเป็นต้องทำกับผมอ่อนโยนขนาดนี้ แต่ผมปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าผมชอบ ทุกครั้งที่ริมฝีปากของเราประสานกันอย่างแนบแน่นผมมีความต้องการมากกว่านั้น มันมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งลิ้นร้อนของพี่มันตะหวัดลิ้นของผมเหมือนต้องการหยอกล้อและลิ้มรสความหวาน จากความอ่อนโยนในครั้งแรกพี่กรมค่อยๆขยับเพิ่มเลเวลโดยการค่อยๆผลักให้ผมล้มลงนอนราบไปกับเตียงใหญ่ของเขา พี่กรมทิ้งตัวลงมาคร่อมผมเอาไว้ ริมฝีปากที่ตอนแรกจูบผสานกันอย่างแนบแน่นตอนนี้พี่กรมค่อยๆขยับออก และยกหน้าของเขาให้ขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ดวงตาของเราสบกันอยู่อย่างนั้น


   “ อยากมากกว่านี้..” พี่กรมเลือนนิ้วมือของเขาสัมผัสที่สันจมูกของผมด้วยสัมผัสที่แผ่วเบา “ แต่ยังทำไม่ได้...” จากสันจมูกเลื่อนลงมาที่ริมฝีปาก ก่อนจะหยุดชะงักและค้างเอาไว้ตรงนั้น


   “ ทำไม...” ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงที่ผมถามพี่มันออกไปเป็นเสียงแบบไหน แต่ที่แน่ๆตอนนี้ผมเริ่มมีอารมกับการใช้นิ้วของพี่เขาเข้ามาสัมผัสด้านในปากของผม


   นิ้วร้อนของพี่กรมหยอกล้อเล่นกับลิ้นของผมอยู่อย่างนั้น สัมผัสเวลาที่ลิ้นของผมหยอกเย้ากับนิ้วมือของเขามันทำให้ผมรู้สึกปั่นปวนที่ท้อง ผมใช้ทั้งสองมือของผมจับเข้าที่มือข้างที่พี่กรมใช้นิ้วเข้ามาเล่นกับลิ้นของผมให้ยกขึ้น ครั้งนี้ผมจะทำให้พี่มันรู้สึก แม้ว่าจะเป็นนิ้วก็ตาม


   เมื่อยกมือของพี่กรมขึ้นมาให้อยู่บริเวณที่สูงกว่าปากของผม ผมยกศีรษะขึ้นจากเตียงเล็กน้อยเพื่อแลบลิ้นเสียที่นิ้วของพี่กรมทีละนิ้วจากนิ้วก้อยเลียไปถึงนิ้วโป้งก่อนจะหยุดเอาไว้ ผมอมนิ้วโป้งของพี่มันเข้ามาในปากจนมิดและแช่มันเอาไว้ในปากของผมอยู่อย่างนั้น เพื่อให้ลิ้นของผมทำงานดูดเลียนิ้วของพี่มันจนกว่าที่ผมและพี่จะพอใจ


   “ พี...พี่ไม่ไหวแล้ว อื้ม” พี่กรมหลับตาครางออกมาเมื่อผมลุกพี่มันหนักไปมากกว่าเดิม ผมปล่อยนิ้วพี่กรมเป็นอิสระก่อนจะผลักตัวของพี่กรมให้ลุกขึ้นและดันตัวของพวกเราทั้งคู่ลงมานั่งเอาหลังพิงเตียงเอาไว้ ผมปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำหลังจากที่เราย้ายลงมาที่พื้นด้านล่าง เมื่อเห็นว่าพี่มันเริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะเหมือนพยายามระงับอารมณ์บางอย่างอยู่ออกมา นั่นทำให้ผมค่อยเอื้อมมือของตัวเองวางลงบนต้นขาของพี่กรม


   “ .....”


   “ .....” ผมไม่ได้พูดอะไรออกมาปล่อยให้มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ปล่อยให้อารมณ์พัดพามือของผมสอดเข้าไปด้านในกางเกงของพี่กรมอย่างช้าๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ขยายตัวภายใต้กางเกงชั้นใน นิ้วมือของผมค่อยๆลูบลงบนนั้นของพี่กรมตามความยาวที่กำลังขยาย เมื่อขยายได้เต็มที่ค่อยๆขยับมือขึ้นลงตามจังหวะ ก่อนจะเหลือบสายตาขึ้นมามองพี่กรมที่ตอนนี้กัดปากของตัวเองอยู่


   “ ร้องออกมาครับ..ผมอยากได้ยินเสียงพี่มีความสุข..” ผมยังคงขยับขึ้นลงอยู่ภายใต้กางเกงของพี่มัน จนกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีมือใหญ่ของพี่กรมวางลงตรงกลางลำตัวของผมเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่พี่มันถอดกางเกงผมออกด้วยมือเดียวจนกระทั่งตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรให้ปกปิดบางสิ่งที่มันขยายตัวออกมาไม่ต่างจากของพี่กรม


   “ อื้อ..” ผมครางออกมาเมื่อมือของพี่มันขยี้อยู่ที่ปลายของผมซึ่งเป็นจุดที่ผมรู้สึกและเสียวมากที่สุด จากมือของผมที่ขยับขึ้นลงให้พี่กรมอย่างนั้นมันหยุดชะงักลงทันทีที่พี่มันบดขยี้บริเวณปลาย ยิ่งผมครางเสียงดังมากเท่าไหร่พี่มันก็ยิ่งขยี้แรงมากขึ้นเท่านั้น


   “ อื้มม” ผมจับปล่อยมือออกจากสิ่งนั้นของพี่กรมกลับมาจับมือของพี่กรมที่ขยี้ปลายของผมอยู่ให้ขยับขึ้นลงตามแรงมือที่ผมบังคับมือของเขานิ้วโป้งของพี่กรมยังทำหน้าที่ขยี้ แต่เมื่อผมเป็นผู้ควบคุมทำให้ตอนนี้มือของพี่กรมถูกบังคับด้วยจังหวะที่ผมจัดแจง


   “ มีความสุขไหม? หื้มม” พี่กรมเลื่อนตัวมาด้านหน้าผมก่อนที่พี่เขาจะก้มลงดูดเม้มบริเวณซอกคอของผมขึ้นไปจนกระทั่งใช้ลิ้นของเขาเลียบริเวณรอบหูของผม ทำแบบนั้นผมก็ยิ่งอยากปลดปล่อยขึ้นมา ในตอนแรกผมเพียงแค่ตั้งใจจะทำให้พี่มันมีความสุขและปลดปล่อยออกมา แต่ทำไม...ตอนนี้ผมกลับมีความสุขขึ้นมาเสียเองเมื่อพี่มันเป็นฝ่ายลุกผมเสียเอง


   “ อื้อ ครับ” ผมครางออกมาอย่างมีความสุขเมื่อพี่มันช่วยให้ผมรู้สึกดี มือของพี่กรมยังคงทำหน้าที่ขยับขึ้นลงได้ดีและปากของเขาเลื่อนลงมาดูดเม้มบริเวณหน้าอกของผมสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างรู้หน้าที่ ส่วนไหนที่ผมเสียวพี่กรมเขาทำให้ผมทุกอย่างโดยที่ผมไม่ต้องออกปากขอจนกระทั่งมือของพี่มันหยุดชะงักเมื่อผมกำลังจะปลดปล่อยออกมา และนั้นทำให้ผมโคตรทรมาน


   “ พี่...” ผมเปรยสายตาขึ้นมามองพี่กรมที่ยิ้มให้ผมอยู่ “ ผม...ต้องการ”


   “ ครับ” พี่กรมลุกขึ้นยืนถอดเสื้อผ้าของเขาออกหมดจนเหลือเพียงแค่ร่างกายเปลือยเปล่าเท่านั้นก่อนที่มันจะก้มลงมาถอดเสื้อผมออก พร้อมกับอุ้มผมขึ้นด้วยสองแขนของเขาในสภาพที่เราทั้งคู่ต่างไม่สวมเสื้อผ้าอะไรเลยสักชิ้นเดินเข้ามาในห้องน้ำภายในห้องของเขา พี่กรมค่อยๆปล่อยให้ลงและดันตัวผมเข้ามาในโซนฝักบัว พี่กรมดันตัวผมให้หันหลังชิดไปกับกำแพงห้องน้ำและเขาเดินมาประกบชิดด้านหลังของผมเอาไว้


ซ่า


   น้ำจากฝักบัวไหลลงมากระทบเราทั้งสองคนที่อยู่ภายในละอองน้ำนั้น มือของพี่กรมอ้อมมาจับที่แกนกลางของผมอีกครั้งโดยที่แกนกลางของเขาแนบชิดอยู่กับบั้นท้ายของผมอยู่อย่างนั้น ลิ้นร้อนโลมเลียอยู่บริเวณ เนินไหล่ซอกคอไล่ลงมาเลื่อนๆจนพี่กรมพอใจ สองมือขยับแกนกลางของผมขึ้นลงแรงๆเน้นๆ บางจังหวะหยอกล้อกับส่วนปลายจนกระทั่งผมทนไม่ไหวปลดปล่อยออกมาจนเลอะมือทั้งสองข้างของพี่มันที่ยังคงไม่หยุดรูดขึ้นลง


   “ สบายไหม”


   “ อื้อ ครับ” ผมหลับตาปล่อยให้ความรู้สึกไหลไปกับจังหวะและการควบคุมของพี่มัน จนกระทั่งผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างดันอยู่ที่บั้นท้ายของผมอยู่นาน บริเวณส่วนหัวของเขาหยอกล้อกับทางเข้าของผมอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พี่มันกลับไม่ดันเข้าไป จนกระทั่งพี่กรมจับไหล่ทั้งสองข้างของผมหมุนกลับเข้ามาหาตัวเอง


   “ ยังไม่อยากทำตอนนี้ อยากทำตอนที่ทุกอย่างมันแน่ชัด” พี่กรมค่อยๆจับผมด้านหน้าของผมเล่นอยู่อย่างนั้น สายตาที่ก้มต่ำลงของผมเห็นว่าพี่กรมยังคงตื่นตัวและยังไม่ถูกปลดปล่อย


   “ ผมช่วยนะ..” ไม่รอให้พี่มันอนุญาตเพราะผมก้มลงคุกเข่าอยู่ที่พื้นตรงหน้าของพี่มัน ก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นเลียความยิ่งใหญ่ของพี่มันอยู่อย่างนั้น สองมือลูดขึ้นลงตามจังหวะและใช้ลิ้นเลียส่วนหัว สองมือของพี่กรมสอดแทรกมาตามกลุ่มผมบนศีรษะของผมอยู่อย่างนั้น บางจังหวะที่มันเด้งและโยกตัวเข้ามาเพื่อให้แกนกลางของพี่มันดันเข้ามาลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้


   “ อื้ม” เสียงครางที่บ่งบอกว่ามีความสุขของพี่กรมมันทำให้ผมยิ่งได้ใจ เพิ่มความรุนแรงและความเสี่ยวให้พี่มันมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ลิ้นเลียและดูดเม้มบริเวณจุดเสียวของพี่มันจนกระทั่ง....


   “ อ่าส์” พี่มันปลดปล่อยออกมาเต็มปากและเลอะบริเวณหน้าของผม...


พรึบ!


   พี่มันใช้สองมือพยุงผมให้ลุกขึ้นมายืนเหมือนเดิมก่อนที่จะโน้มหน้าลงมาจูบผมครั้งแล้วครั้งเล่าภายใต้ละอองน้ำ ดูดเม้มจนปากของผมบวมเจ่อไปหมด จนกระทั่งพี่มันพอใจก็เล่นเอาหลายนาทีอยู่เหมือนกัน


   จนกระทั่งเราต่างคนต่างอาบน้ำภายใต้ละอองน้ำเดียวกัน โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนกระทั่งพี่มันเดินเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวให้ผมหลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จ


   “ โล่งไหม?” ผมเองไม่กล้าสบตาพี่มันตรงๆ เพราะครั้งนี้เราทั้งคู่ต่างมีสติด้วยกัน ไม่เหมือนครั้งนี้ที่ทั้งผมและพี่ต่างมีอารมณ์เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ถ้าพี่มันขอผมมากกว่านี้ แน่นอนว่าผมไม่ขัดอยู่แล้วแต่พี่กรมมันกลับบอกให้ผมรอให้บางสิ่งบางอย่างมันชัดเจนและแน่นอนว่านี้ก่อน ซึ่งผมก็โอเคไม่ได้รีบขนาดที่อยากจะให้พี่มันเข้ามาในตัวผมจนตัวสั่น
   “ ครับ” ไอ้ฉิบหาย ผมนี่ไม่กล้ามองหน้าพี่มันเลยครับ


   “ ไม่มองหน้า? พื้นห้องน้ำมันมีอะไรดีกว่าหน้ากูหวะ?” ผมเองก็บอกไม่ได้ว่าพื้นห้องน้ำมันมีอะไรดีกว่าหน้าพี่กรม แต่ที่แน่ๆพึ่งเสร็จกิจไปเมื่อครู่ผมไม่สามารถมองหน้าพี่เหมือนเดิมได้อีกต่อไป “ พีครับ มองหน้าพี่ก่อน” ผมยอมแพ้น้ำเสียงหวานๆของพี่กรมจนกระทั่งผมตัดสินใจเงยหน้ามองพี่มัน และนั่นที่ทำให้ผมอยากจะก้มหน้ามองพื้นอีกครั้ง ใครแม่งใช้ให้พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นว่ะ! แม่งเอ้ย อยากโดนปล้ำเลยกู


   “ อย่าหนี” มือของพี่มันล็อคหน้าของผมเอาไว้ก่อนที่จะได้จังหวะก้ม


   “ พี่ สายตาพี่มันบอกว่าอยากปล้ำผม”


   “ ชัดขนาดนั้นเลย?” พี่มันเลิกคิ้วขึ้นกวนๆเป็นเชิงถาม


   “ โว้ย ไม่คุยด้วยเล่า” ผมหยิบผ้าเช็ดตัวในมือของพี่มันมาก่อนจะเอามาพันรอบๆเอวของผมและหันหน้าเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ผมก็ดันพิเรนทร์เดินออกมาแบบขาถ่างจนพี่มันเรียกผมเอาไว้ก่อนที่จะเดินหนี


   “ พีเป็นไร ทำไมเดินขนาดนั้น?”


   “ ก็..” ผมหันกลับไปหาพี่มันด้วยรอยยิ้ม “ ซ้อมไงพี่ หลังมีเพศสัมพันธ์ผมว่าผมจะเดินขาห่างแน่ๆ” ผมพูดจบก็วิ่งหนีออกมาเลยครับ ไม่อยู่รอให้พี่มันด่าผม แม้ว่าพี่มันด่าผมตามออกมาก็เถอะ เวลาแบบนั้นผมพยายามที่จะไม่เกรียนแล้วนะ แต่แม่งเอ้ย ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็เหมือนไม่เป็นผล ผมเลยเลือกที่จะเงียบและครางออกมาในเวลาแบบนั้นมากกว่าที่ผมจะพูดอะไรมา แล้วทำให้พี่มันหมดอารมณ์ไปเสียก่อน ผมต้องกลับไปทำการบ้านใหม่เพื่อเตรียมตัวการเป็นเมียของพี่กรมอย่างเต็มตัว



   หลังจากที่เราอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ ผมก็กลับเข้ามาในโหมดปกติเหมือนเดิม พี่กรมเองก็เล่าให้ผมฟังเรื่องข้อตกลงของเขากับพ่อแต่ก็ไม่ได้พูดละเอียดว่าตกลงอะไรกันอย่างไร จนกระทั่งผมนอนกลิ้งเล่นบนเตียงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แต่แล้วก็ต้องสะดุดใจกับรูปภาพบางอย่างพร้อมกับข้อความ


   ‘ชัดเจนจ้า ความรักนำพาให้ปีนบ้านไปหาผู้กันเลยทีเดียว วงในบอกว่าผู้ถูกคุณพ่อกักบริเวณเพราะเรื่องคบเพศเดียวกัน แอบกระซิบมาความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาเลยนะ อมๆ ดูดๆ’


   “ ไอ้พีเป็นไรหวะ?” พี่กรมที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงข้างๆหันมาถามผมเมื่อเห็นว่าผมเงียบ ก่อนที่ผมจะเก็บโทรศัพท์วางไว้ข้างเตียง


   “ เปล่าพี่” ผมรู้ว่าพี่กรมมันไม่ได้รู้เรื่องข่าวลืออะไรพวกนี้แน่ๆ เพราะโทรศัพท์ของพี่มันรวมถึงอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดผู้เป็นพ่อเก็บเอาไว้ ไม่แปลกใจครับที่พี่มันจะไม่รู้เรื่อง


   “ นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงต้องออกจากบ้าน พ่อน่าจะมาตอนสายๆ” ผมพยักหน้าให้พี่มันโดยที่เลือกที่จะเก็บเอาเรื่องข่าวลือนั้นเอาไว้คนเดียว


   เรื่องนี้มีแค่ไอ้บิวที่รู้ มันมาส่งผม ผมเล่าให้มันฟัง แล้วทำไม....มันทำกับผมอย่างนี้ทั้งๆที่ผมไว้ใจมัน ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นฝีมือไอ้บิวจริงๆหรือไม่ ยิ่งตอนนี้พึ่งคบกันเป็นเพื่อนใหม่ๆ ผมตัดได้อยู่แล้วครับใครดีผมก็ดีด้วย ใครไม่ดีก็อย่าหวังว่าผมจะดีตอบ แล้วเจอกันไอ้บิว


   เสียงแจ้งเตือนมากมายดังขึ้นจากโทรศัพท์ของผม แต่ผมก็ไม่ได้เอามันขึ้นมาดูจนคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆถึงกับเลิกคิ้วถาม


   “ อยู่กับพี่ผมจะสนใจโทรศัพท์ทำไมละครับ?” ผมขยับตัวเข้าไปกอดแขนพี่กรมเอาไว้และซุกหน้าลงเบาๆ จนพี่มันยิ้มออกมากับท่าทางที่ดูจะอ้อนเป็นพิเศษ


   “ ปากดีนะมึง”   


   “ แค่กับพี่ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้พี่มันสบายใจและหันกลับมาเหมือนเดิม จากรอยยิ้มตอนนี้มันได้แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลเกี่ยวกับข่าวลือนั้นขึ้นมา.. ผมจะไม่ยอมให้ใครเอาข่าวนี้มาทำร้ายแม้ว่าจะมันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม รักกันมันจำกัดเพศด้วยหรอครับ




           
PS. ขอโทษถ้าเกิดว่า NC ไม่ถึงใจเด้ออ ไรท์บ่ค่อยถนัดแนวนี้งื้ออออออ

     ฝากเรื่องพี่คินด้วยนะทุกคน สนุกไม่แพ้กันนน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:37:48 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โห่บิวถ้าเป็นนายทำจริงๆคือนิสัยเลวมาก :m31: น้อผีกับพี่กรมขนาดนี้กันแล้ว :-[ อยากให้เป็นแฟนกันเร็วๆ อยากรู้ว่าน้องผีจะจัดการกับบิวยังไง เราเป็นกลจให้คุณไก่ทอดนะคะ :pig4: :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เพื่อนแบบนี้อย่ามีเลย
น้างพีแซบ

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Noina_Pn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 17. 3

ข่าวลือ

        ผมรีบออกจากบ้านก่อนที่พี่มันจะตื่นผมเขียนใส่กระดาษและวางเอาไว้ ผมไม่อยากให้พี่มันต้องลำบากพาผมออกมาส่งเพราะไม่รู้ว่าระหว่างทางจะต้องเจออะไร ทำให้ผมเลือกที่จะออกมาเสี่ยงคนเดียว พี่กรมมันเสี่ยงมาเยอะแล้วครับ หลังจากนี้ผมจะเป็นคนทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพี่มันแทน....



วันจันทร์


   ผมอดทนรอให้ถึงวันจันทร์เพื่อที่จะได้มาเคลียร์กับไอ้บิวให้รู้เรื่อง เพราะทุกอย่างมันดูเป็นเหตุให้ผมปลักใจเชื่อว่าเป็นมันทั้งรูปถ่ายที่ผมกำลังปีนขึ้นบ้านถึงมันจะไม่เห็นหน้าผมก็ตาม และข้อความที่เสียๆหายอีกมากมาย ตอนนี้ทุกคนในคณะก็ตามหาว่าผู้ชายในนั้นคือใคร ส่วนหนึ่งก็คิดว่าเป็นผมครับเพราะผมเองก็สนิทกับพี่มันไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ไม่แปลกที่จะคนอื่นจะคิดว่าเป็นผม


   “ ไอ้บิวอยู่ไหน?” ผมเดินเข้ามาในห้องเรียนเวลาเช้า ตรงไปถามไอ้เจ๋งที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านในห้อง


   “ กูถามว่าไอ้บิวอยู่ไหนไง” ไอ้เจ๋งมีท่าทีแปลกๆเหมือนว่ามันกำลังกลัวอะไรบางอย่าง หรือว่าพวกมันจะรู้เห็นเป็นใจกัน


   “ ใจเย็นดิวะ พวกมึงมีอะไรกัน” ไอ้เจ๋งปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่พร้อมกับลุกขึ้นยืนประชันหน้าผม “ ข่าวลือนั้นเป็นมึงหรอ?”


   “ เออ กูเอง” ผมกล้าพูดออกไปเพราะตอนนี้ในห้องเรียนยังไม่มีเพื่อนคนไหนเข้ามาเลยสักคน มีเพียงแค่ผมกับไอ้เจ๋งเท่านั้น


   “ มึงคบกับพี่เขาหรอวะ?”


   “แล้วทำไม มึงมองกูแบบนั้นหมายความว่าไง” สายตาของไอ้เจ๋งที่ดูแปลกไปจนผมเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงทำสีหน้าแบบนี้ออกมา แต่สายตาผมดันไปเหลือบเห็นอะไรบางอย่าง..


   “ เปล่า ไม่มีอะไร” ไอ้เจ๋งตอบปัดๆ ก่อนที่มันจะหันกลับไปนั่งลงหมือนเดิม ไม่นานคนที่ผมรอก็วิ่งเข้ามาในห้องหน้าตาตื่น


   “ ไอ้พี!” ไอ้บิวรีบวิ่งเข้ามาหาผมทันทีด้วยสภาพที่บ่งบอกว่ามันรีบแค่ไหน


   “ ว่า?”


   “ มึงมากับกูก่อนเลย ด่วน” ไอ้บิวลากผมให้ออกไปจากห้องเรียนทันทีโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ถามอะไรมัน จนกระทั่งมันลากผมมาที่ลับตาคน


   “ กูโทรหามึงตั้งแต่วันศุกร์ ส่งข้อความไปมึงก็ไม่รับ”


   “ แล้วมึงโทรหากูทำไม?” ผมลองหยั่งเชิงทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร เพื่อรอให้ไอ้บิวพูดและอธิบายมา


   “ กูว่ามีคนตามเราไปว่ะ”


   “ ....? คืออย่างไง”


   “ ก็มึงเห็นรูปที่ถ่ายไหม นั่นตอนที่มึงปีนละตอนนั้นกูก็ดูต้นทางให้มึง....มึงสงสัยกูใช่ไหม?” ไอ้บิวพูดออกมาตรงๆเหมือนว่ามันรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ผ่านสายตาที่ผมมองมัน


   “ ใช่ กูคิดว่าเป็นมึงไอ้บิว กูเล่าให้แค่มึงฟัง”


   “ กูกะไว้แล้วแหละ แต่ที่มาวันนี้กูไม่ได้จะมาแก้ตัวนะเพราะกูไม่ได้ทำ” ไอ้บิวยื่นโทรศัพท์มันมาให้ผมดู พร้อมกับเปิดรูปพร้อมกับข้อความที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง


   “ .....”


   “ เวลาที่โพสต์มึงกับกูแยกกันแล้วก็จริง แต่ตอนที่กูดูต้นทางให้มึงกูเอาโทรศัพท์เก็บไว้ในรถ มึงคิดดีๆว่ากูไม่ได้เอาลงมาด้วย กูมั่นใจ” ผมคิดย้อนไปในตอนนั้นไอ้บิวมันบอกผมว่าโทรศัพท์มันแบตจะหมดเลยไม่ได้เอาลงไปด้วย ก็จริงอย่างที่มันพูด


   “ แล้วใครหวะ”


   “ ไอ้พีตอนนี้มึงใจร้อนมึงมีหลายเรื่องให้คิดให้กังวล แต่กูอยากให้มึงใจเย็นๆก่อน” ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอ้บิวไปก่อนจะเดินกลับมาที่ห้อง แต่ยังไม่ทันที่ผมและไอ้บิวจะเดินเข้าไป ผมขว้าแขนมันเอาไว้ก่อน “ มึงไปนั่งที่อื่นนะไอ้บิว กูจะทำอะไรบางอย่าง”


   “ อะไรหวะ”


   “ จับคนปล่อยข่าว” ผมมองเข้าไปในห้องตอนนี้มีคนอยู่ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆเริ่มถยอยกันเข้ามาแล้ว ผมเดินกลับเข้าไปนั่งข้างๆไอ้เจ๋งเหมือนเดิม


   “ ทำไมไอ้บิวไปนั่งนั่นหวะ” ผมนั่งลงข้างๆส่วนไอ้เจ๋งเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่มันกำลังอ่านอยู่มองไปที่ไอ้บิวที่ไปนั่งกับเพื่อนอีกกลุ่ม


   “ มีปัญหากันนิดหน่อย”


   “ ทำไมหวะมึง เล่าให้กูฟังได้นะเว้ย” ไอ้เจ๋งหันมาสนใจมากขึ้นกว่าเดิม แววตาที่มันส่งมาให้ผมด้วยความเป็นห่วงผมโคตรจะรักมันเลยครับ


   “ ไอ้เหี้ยบิวเอาข่าวกูไปขาย”


   “ ห้ะ??”


   “ ช่างแม่งเหอะหวะ” ผมทำเหมือนไม่สนใจก่อนจะนอนราบไปกับโต๊ะอยู่อย่างนั้น “ ไอ้เหี้ยบิว กูไม่น่าเลยมึง”


   “ กูเข้าใจ” ผมไม่สนใจว่าไอ้เจ๋งจะพูดว่าอย่างไง


   จนกระทั่งถึงเวลาเรียน ผมยกกระเป๋าเป้ขึ้นาเปิดกว้างๆเพื่อเตรียมเอาสมุดขึ้นมาจด จนกระทั่งเวลาผ่านไปในช่วงพักกลางวันผมมานั่งกินข้าวกับพวกพี่เทพพี่วินและพี่คินที่ร้านอาหารนอกมหาลัย


   “ มึงไปหาไอ้กรมมาหรอหวะ?” ทันทีที่ผมเข้ามานั่งที่โต๊ะได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีไอ้พวกพี่ๆก็เริ่มซักถาม


   “ ครับ” ผมตอบยอมรับออกไป เพราะรูปแม่งก็เด่นขนาดนั้นอย่างไงพวกพี่แม่งก็รู้อยู่แล้วว่านั้นเป็นผมจะมีใครบ้าที่ไหนไปปีนบ้านพี่มันได้นอกจากคนบ้าอย่างผมอะครับ


   “ รู้ไหมว่ามันเสี่ยง” พี่คินที่เงียบอยู่พูดขึ้น


   “ ครับรู้ แต่ผมคิดถึง”


   “ พี มึงโตแล้วทำอะไรก็คิดให้ดีๆกว่านี้หน่อย” ผมพยักหน้าฟังพวกพี่ๆสอน ผมรู้ว่าผมแม่งชอบทำอะไรวู่วามใจร้อน และจุดจบของคนใจร้อนอย่างผมก็ไม่น่าจะรอดพ้นความฉิบหายแน่ๆ


   “ ช่วงนี้ไอ้กรมมันถูกจับตาเป็นพิเศษ มึงอาจจะคิดว่าเป็นแค่เรื่องของพวกมึงสองคน มันไม่ใช่เว้ย อย่าลืมว่าไอ้กรมมันเป็นที่รู้จัก แล้วยิ่งสมัยนี้การเมืองแรงอะไรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หน่อยแม่งก็เป็นกระแสแล้วไง ฐานเสียงมันอ่อนไหวง่าย”


   “ ผมเข้าใจแต่ผมทำอะไรไม่ได้เลยอะครับ ความรู้สึกของผมแม่งเอ้ย! คิดถึงพี่กรมหวะครับ” ผมเอาหน้าโขกกับโต๊ะแรงๆเพื่อเรียกสติให้ตัวเอง


   “ ไอ้พีเอ้ย มึงนี่นะโคตรบ้าเลย” ไอ้พี่เทพที่นั่งอยู่ข้างๆตบหัวผมเบาๆเพื่อเรียกสติ “ บ้าผู้ชายนะเรา”


   “ ก็ใครใช้ให้เพื่อนพี่มันน่ารักขนาดนั้นหละ โทษผมไม่ได้หรอก” ขอโทษนะครับผมแพ้ความอบอุ่นของพี่กรมเอามากๆเลย เรียกว่าเสพติดไปแล้วก็ได้ ไอ้ฉิบหายเป็นผู้ชายมาเกือบๆยี่สิบปีพึ่งอยากจะเป็นผู้หญิงก็ครั้งนี้แหละ จะได้อ้าขาให้พี่กรมมันเลย


   “ ไอ้กรมได้ยินคงจะดีใจ” ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าพี่แม่งประชดครับ


   “ เห้ย!” ผมสะดุ้งลุกขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงไอ้พี่วินมันตะโกน “ อะไรอีกวะเนี่ย” พี่มันยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ข้อความปริศนานั้นมาอีกแล้ว


   ‘ สดจากวันนี้เลยจ้า พกเสื้อนักศึกษามาเรียนด้วย ดูก็รู้ว่าแอบไปทำอะไรกันมา กลิ่นคาวหึ่งๆ สาวๆที่อินบ๊อกซ์มา จะบอกตรงนี้เลยนะว่า เขาที่พวกเธอกรี๊ดกันไม่สนผู้หญิงจ้า ต่อให้อ้าขาเขาก็ไม่เอาเธอ เขาชอบ...เข้าข้างหลัง’


   ผมพอจะรู้แล้วครับว่าใครเป็นคนทำ!


   “ เห้ย ไอ้พีไปไหน ใจเย็นมึง” ผมไม่สนเสียงเรียกของพี่มันแล้วครับ จังหวะนี้จะแย่แม่งก็แย่ให้สุด มึงไม่ตายดีแน่กูจะทำให้มึงแย่กว่าข่าวที่เขียนมา


ปึง!


   ผมเตะประตูห้องเรียนเข้าไป เห็นว่าตอนนี้มีแค่ไอ้ตัวต้นเหตุนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่คนเดียวภายในห้อง ทันทีที่มันเห็นผมมันรีบเก็บโทรศัพท์ลงทันทีก่อนจะรีบลุกขึ้น


   “ ไอ้พี”


   “ เออ กูเอง!”


ผั๊วะ!!


   ผมเดินเข้าไปตรงหน้าไอ้เจ๋งก่อนจะปล่อยหมัดใส่หน้ามันเต็มๆโดยที่มันเองไม่ทันได้ตั้งตัว จนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ผมก้มตามมันลงไปกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาอีก


   “ มึงทำแบบนี้ทำไมวะ!!!” ผมตะโกนถามมันออกมาด้วยความโมโห แต่มันก็ยิ่งนิ่งและยิ้มออกมาแทนที่จะสลด “ ไอ้เหี้ยเจ๋ง!! มึงเป็นเพื่อนกูเปล่าวะ”


   “ เหอะ กูไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนอย่างมึง” คำพูดนั้นทำให้ผมนิ่งไปทันที แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา วันแรกที่เรารู้จักกันมันเข้ามาทักผม..ไม่ซิ ผมเข้าไปทักมัน แต่ทุกอย่างมันเหมือนจะดีแล้วทำไมมันถึงทำแบบนี้กับผม มันมีเหตุจูงใจอะไรทำให้ไอ้เจ๋งมันทำแบบนี้


ผั๊วะ!!


   ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไปแล้วครับ ในเมื่อมันบอกว่าผมไม่ใช่เพื่อนมัน ดังนั้นผมก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น เพราะข่าวที่มันเขียนเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แต่....ทำไมมันต้องทำให้พี่กรมเสียหาย ทั้งๆที่รู้ว่าทุกอย่างมันส่งผลกระทบ หรือว่ามันตั้งใจให้เป็นแบบนั้น


ผั๊วะ!!


   “ ไอ้พีหยุด!!” ผมไม่รู้ว่าเสียงของใคร แต่จังหวะนี้ผมมีโอกาสได้ต่อยผมก็แม่งต่อยมันไม่ยั้ง มันเองก็นิ่งครับไม่สู้ผมเลยนอนให้ผมต่อย


หมับ


   “ มึง! มีสติหน่อยดิหวะ” ผมถูกใครบางคนกระชากออกมาจากตัวของไอ้เจ๋ง ส่วนมันที่นอนอยู่ก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมรอยยิ้มมุมปาก


   “ เกย์สัด!”


   “ เหี้ยเอ้ย!!” ผมพยายามจะพุ่งตัวไปต่อยให้เจ๋งแต่แม่งก็ไปไม่ได้เพราะถูกไอ้พี่เทพดึงตัวเองไว้ก่อน ส่วนไอ้เจ๋งมันเดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย...


   ผม...ผม...ผมไม่รู้หวะ


   “ ไอ้พี! เลือด” พี่คินรีบหาทิชชูมาซับเลือกที่ไหลออกจากมือของผม...ใช่ครับ ผมไม่ได้ต่อยหน้าไอ้เจ๋ง ผมต่อยมันแค่หมัดเดียวจนมันล้ม แต่หลังจากนั้นผมก็ต่อยพื้นเพื่อระบายความโกรธ ผมทำใจต่อยหน้ามันอีกไม่ได้จริงๆ อย่างไงมันก็เป็นเพื่อนของผม


   “ ไอ้พี มึงเป็นไรบ้างวะ!” เสียงไอ้บิววิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้องและตรงมาหาผมที่ถูกพี่ๆมันยืนล้อมเอาไว้ไม่ให้ผมได้ลุกไปไหน


   “ โอเค” ผมตอบไอ้บิวไปสั้นๆ


   “ กูเดินสวนกับไอ้เจ๋ง...มันเดินออกไป” ไอ้บิวพูดเสียงเบามันเองก็คงจะสับสนไม่ต่างจากผมเหมือนกัน รู้อะไรไหมครับว่าทำไมผมรู้ ก็เพราะว่าผมเอาเสื้อบอลของพี่กรมติดกระเป๋ามาด้วยจะฝากพี่เทพเอาไปคืนให้พี่มันเพราะตอนที่ผมกลับออกมาจากบ้านพี่กรมคืนนั้นผมใส่เสื้อบอลของพี่มันออกมา และจังหวะที่ผมเปิดกระเป๋ากว้างๆในคาบเมื่อเช้าที่นั่งข้างมัน ผมแน่ใจว่ามันต้องเห็นเสื้อบอลที่สกรีนชื่อพี่กรมเอาไว้และแน่นอนว่าบริเวณนั้นมีแค่ผมกับมันสองคน....มันดันไปสอดคล้องกับสเตตัสข่าวลือนั้นพอดี บังเอิญไปไหมละครับ...ถ้าไอ้เจ๋งไม่ใช่เป็นคนโพสต์แล้วใครจะโพสต์


   “ แล้วทำไม...มือมึง” ไอ้บิวเหลือบสายตามามองมือของผมก่อนที่มันจะเลื่อนสายตาขึ้นมาถาม


   “ ช่างแม่งเหอะ” ผมก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากถ้าเทียบกับความรู้สึกที่ผมเสียไป ผมคิดว่ามันจะเห็นว่าผมเป็นเพื่อนมันคนหนึ่งแต่เปล่าเลยครับ มันไมเคยเห็นผมเป็นเพื่อนมันเลย..


   “ กูเป็นเพื่อนมึงเสมอนะเว้ยไอ้พี” ไอ้บิวเดินมาแตะที่ไหล่ของผมเบาๆ


   “ คืออย่างไงวะ พวกกูไม่เข้าใจ” ไอ้พี่เทพที่ยืนฟังบทสนทนาของผมกับไอ้บิวถามขึ้น


   “ ไม่มีอะไรพี่ มันน่าจะจบแล้วแหละ” แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่พีคิดว่ามันจะจบลงแล้ว มันเป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าคิดจะมีความรักก็ต้องคิดถึงหนทางข้างหน้า มันไม่มีอะไรที่จะราบรื่นเสมอไป ถ้าจะใช้ชีวิตในทางนี้ต้องรู้จักเอาตัวรอดให้ได้
“ ท่านครับ มันรู้เรื่องแล้ว”


   ( เดี๋ยวจัดการเอง ขอบใจมาก)


   ขอโทษนะไอ้พี...เพื่อนกับเงิน กูคงให้ควาสำคัญกับเงินมากกว่า ขอบคุณที่ทำให้กูได้เงินก้อนนี้มาโดยที่ไม่ต้องลงแรงอะไรมาก



Jaokom’s talk


   ตั้งแต่เหตุการณ์ณ์วันที่ไอ้พีใจร้อนไปบอกพ่อเรื่องมันอยากจะคบกับผม ผมบอกตรงๆเลยครับว่าไม่คิดว่าคนอย่างไอ้พีมันจะกล้าและบ้าบิ่นขนาดนี้ แต่....มันไม่ง่ายเลยที่มันคิดว่าแค่การเดินไปบอกพ่อผมเพื่อขอคบ แล้วทุกอย่างจะเป็นอย่างที่ใจมันหวัง ไม่อย่างนั้นผมก็คงไม่นั่งอุดอู้อยู่กับบ้านมาเกือบๆสองอาทิตย์โดยที่ไม่ได้ไปเรียนแบบนี้หรอกครับ โทรศัพท์ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆแม่งก็ใช้ไม่ได้สักอย่าง จนวันก่อนที่ไอ้พีมันบุกมาที่บ้านผมโคตรบ้าเลยครับ ผมไม่คิดว่ามันจะกล้าบุกมาขนาดนี้ แต่ก็ดีครับ...ดีมากเลย


   “ ได้ข่าวว่าพ่อขังเลยมาหา” ผมหันไปมองไอ้เจ้าท่าที่เดี๋ยวนี้เข้าออกบ้านผมเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยโผล่หัวมาเลย


   “ มาทำไม”


   “ หาน้องชาย น้องชายเหงาพี่รู้” มาทิ้งตัวนั่งลงโซฟาข้างๆผมก่อนจะยื่นมือมาโอบรอบคอ “ ไม่ได้ไปเรียนนานเท่าไหร่แล้ว”


   “ สองอาทิตย์มั้ง”


   “ โง่หมดแล้วน้องกู” ไอ้เจ้าท่าทำหน้าตาเห็นใจได้ปลอมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา “ กูไปเรียนแทนไหม?”


   “ ตลก?”


   “ ไม่ตลก พูดจริง เอาไหม?? อยากรู้ว่าไอ้คนที่มึงเคยบอกว่าชอบหาเรื่องมึงเป็นอย่างไง” ผมขมวดคิ้วทันทีที่ไอ้ท่ามันพูดออกมาแบบนั้น


   “ ไอ้ท่ากูไม่เคยเล่า กูว่าแล้วไอ้เหี้ยนี่!” ผมเอาแขนมันออกจากคอผมทันที “ สืบเก่ง เรื่องของกูสืบเก่ง ไอ้เวร” อย่างที่รู้ๆกันครับว่าผมกับมันไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วเรื่องของผมไอ้ท่ามันชอบมาตามสืบเสาะเรื่องของผมไปรายงานแม่ให้รู้ ทั้งๆที่ผมไม่เคยไปยุ่งเรื่องของมันเลย มีแต่พ่อแหละครับที่ตามสืบเองทั้งนั้น


   “ ก็น้องกูไหมละ อยากรู้เป็นธรรมดา เป็นห่วงจ้ะ”


   “ เป็นห่วงกับเสือกมันมีเส้นบางๆคั่นกันอยู่นะ”


   “ ไม่รับรู้ครับ กูไปเป็นมึงนะ แบบเซอร์ไพร์สไง” ผมพยักหน้าส่งๆให้มันไปแบบนั้น ให้มันอยากทำอะไรก็ทำไป แม้ว่าผมจะไม่ได้ไปเรียนแต่ไอ้เทพ ไอ้คิน ไอ้วินก็ส่งเลคเชอร์มาให้ตลอดผ่านป้าแม่บ้านครับ เหมือนผมติดคุกอย่างไงอย่างนั้นเลยครับ


   “ ถ้าพ่อรู้”


   “ กูจัดการเองน้องชาย เอาตารางเรียนมึงมา” ผมจดตารางเรียนใส่โทรศัพท์ให้ไอ้ท่า...ในเมื่อมันมีโทรศัพท์ผมก็สามารถโทรหาไอ้พีได้แล้วใช่ไหมละครับ งั้น...


   “ ทำอะไรคะคุณกรม” ผมรีบปล่อยมือออกจากโทรศัพท์ทันทีที่ป้าแม่บ้านยืนจ้องผมกับไอ้ท่าเสียงดุพร้อมกับสายตาที่จ้องจับผิด


   “ จดงานให้ไอ้ท่าครับ”


   “ คุณท่าก็กลับบ้านไปได้แล้วนะคะ ถ้าคุณอัศวินมาเดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา”


   “ ครับป้า ป้าอย่าบอกนะ” ไอ้ท่าเดินไปอ้อนป้าแม่บ้านจนกระทั่งป้าเธอพยักหน้าว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อ ไอ้ท่าก็กลับบ้านไป ส่วนผมก็ได้แต่นั่งอ่านหนังสือต่อไป เอาจริงๆนะผมว่าผมอยู่บ้าน ผมได้อ่านหนังสือมากกว่าไปเรียนอีก มิดเทอมนี้ไม่ท็อปเซคก็ให้มันรู้ไปครับ


   ไอ้ท่าหันมามองผมแล้วยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้ายให้หนึ่งทีก่อนที่มันจะเดินออกไป ผมขออย่างเดียวคืออย่าให้มันสร้างความวุ่นวายและป่วนไปให้เหตุการณ์มันยุ่งไปกว่านี้ แค่นี้ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อจัดการกับไอ้พีอย่างไรบ้างไม่รู้ว่ามันจะเอาชนะอุปสรรค์ที่พ่อวางไว้ได้ไหม คิดถึงมันจังครับ



Pee’s talk


   “ ต่อไปนี้กูไม่มีเพื่อนชื่อเจ๋ง!” ผมลั่นวาจาออกมาหลังจากที่ทุกอย่างจบลง ผมโดนอาจารย์เรียกไปตักเตือนและถูกปลดออกจากการแข่งขัน ส่วนไอ้เจ๋งเองไม่โดนอะไรเพราะมันไม่ได้ต่อยผมกลับ ส่วนสาเหตุมันไม่ได้บอกว่าทำไมผมถึงต่อยมัน ผมก็ไม่พูด ทำให้อาจารย์เหนื่อยใจที่จะถามเลยปล่อยให้พวกผมกลับไปเรียน ไอ้เจ๋งมันก็มีหน้าไปเรียนต่อครับท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนในห้อง ข่าวไวฉิบหาย! คณะนี้แม่งขี้เสือกกันทุกคน


   “ ใจเย็นไอ้พี เพื่อนหันมามองมึงหมดแล้ว” ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ส่วนไอ้บิวมันก็ทำหน้าที่ไล่ให้เพื่อนที่หันมามองผมหันกลับไป


   “ เชี่ยเอ้ย หงุดหงิดว่ะมึง” ผมไม่มีสมาธิเรียนอะไรเลยครับ แค่คิดก็โมโหทุกอย่าง ทำไมหวะ ทำไมต้องเป็นไอ้เจ๋งด้วย ทำไมมันต้องทำแบบนี้กับผม ผม...ผมเสียใจหวะ


   “ ไอ้พี โดดไหม?” ไอ้บิวหันมาถามผมเบาๆหลังจากที่อาจารย์ปล่อยให้ไปพักเบรกขึ้นหลังและกลับมาเรียนต่ออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง


   “ เอาดิ” จะมีหรอครับที่ผมจะไม่ไป ทำให้ตอนนี้พวกเราสองคนออกมาจากห้องเรียนอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางว่าจะไปที่ไหนดี จนกระทั่งเลือกมานั่งที่คอมม่อนของคณะแทน


   “ ช่วงนี้ไม่เห็นหน้าไอ้กรมเลยหวะ” ผมนั่งดูดน้ำอยู่ ก็ได้ยินเสียงของพี่ๆในคณะพูดชื่อพี่กรมขึ้น ทำให้ผมเงียบและเงี่ยงหูฟังว่าพวกพี่ๆมันจะพูดว่าอะไร


   “ เออ ตั้งแต่ข่าวลือ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริงวะ คนอย่างไอ้กรมเนี่ยนะไม่สนใจหญิง เสียดายหน้าตาสัดๆอะ”


   “ แต่เรื่องของมันป่าววะ” ผมยิ้มทันทีที่ยังพอจะมีคนเข้าข้างพี่มันบ้าง “ เรื่องเพศเปิดกว้างจะตาย กูว่าไอ้คนเขียนข่าวลือแม่งประสาทแดก” บวกหนึ่งไปเลยครับ


   “ ขึ้นอะไรว่ะมึงอะ เป็นไอ้กรมรึไง”


   “ กูก็แค่คิดไงว่ามันจะมาเอาเรื่องนี้มาเล่นทำไม ก็อย่างว่าพฤติกรรมดี เรียนเก่ง พ่อรวย โปรไฟล์ดีขนาดนี้ไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องนี้แหละมั้ง ถึงได้เอามาเล่นเป็นประเด็น”


   “ อิจฉา ถ้ากูหน้าหล่อได้ครึ่งของมันนะกูแม่งฟันหญิงให้หมด”


   “ ฟันตีนกูหนิ” มันอดไม่ได้จริงๆครับที่จะห้ามไม่ให้พูดออกไปแบบนั้น


   “ ไอ้เชี่ยพี” ส่วนไอ้บิวที่นั่งอยู่ข้างๆก็ด่าผมออกมาเบาๆ


   “ เหมือนได้ยินใครด่าเลยหวะ” ไอ้พี่ๆข้างหลังบ่นเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีท่าทีสนใจ จนกระทั่งผมรู้สึกเบื่อเลยหนีกลับหอนอนดีกว่า ไม่รู้จะไปไหนละครับ พี่กรมก็ไม่อยู่ให้เกาะ ส่วนไอ้บิวก็รีบกลับบ้านไปธุระกับครอบครับ เห็นสมควรว่าผมควรจะกลับไปพักผ่อนสมองบ้าง แล้วพรุ่งนี้มาลุยกันต่อครับ



PS.เจ๋งมันมีมูลมากกว่านั้น.....

มาลงชดเชยเด้อ เมื่อวานไรท์ไม่มีอารมณ์จริงๆ

ขอโทษนะคะไรท์อินกับการเลือกตั้งไปหน่อย อยากบอกว่าผิดหวังและหมด passion กับประเทศนี้จริงๆ ใครจะว่าไรท์อินเกินก็ได้นะ เพราะทุกอย่างต่อจากนี้มันก็คือเรื่องของชีวิตเราทั้งนั้น... ถ้าผู้นำไม่ดีแล้วใครจะรับประกันชีวิตเรา อนาคตเรา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 13:43:29 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คนที่เจ็งทำงานให้ ใครกันนะ......  :katai1:
เจ๋งเรียกว่าท่านซะด้วย  ท่านไหนๆ   :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด