แผนที่ 16 แทรกซึม
อินทัช
เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่ผมจะต้องตื่นเช้า ขับรถไปรับน้องไม้ ที่บ้านและตอนเย็นไปรับที่คณะอักษรฯ
วันไหนที่เรียนไม่ตรงกันผมก็จะไปนั่งรอน้องบ้างไปหาขนมมาไว้ให้บ้างหรือแม้แต่ไปรับแม่นุ่นแทนน้องที่ยังยุ่งๆกับชั่วโมงเรียน
เหลืออย่างเดียวที่ผมยังไม่ได้ทำแทนน้องคือพาพี่มาร์คกับน้องมาลีไปอาบน้ำตัดขน ดูเหมือนน้องจะทำให้พฤติกรรมเดิมๆของผมเปลี่ยนไป
จากที่เคยปากหนักไม่ค่อยพูดกับใคร ไม่ทำความรู้จักกับใครยกเว้นกลุ่มเพื่อน ตอนนี้ผมเลิกตั้งกำแพงแล้ว
จนเพื่อนๆในคณะบอกว่าผมเปลี่ยนไปและนั่นมันทำให้มีหลายคนเริ่มเข้าหาผม ถึงจะทำให้อึดอัดบ้างแต่ผมก็โอเคดี
ผมจะมองน้องเป็นตัวอย่าง ขนาดน้องที่โดนมาสาหัสขนาดนั้นน้องยังเปิดรับเพื่อนใหม่เลย แล้วผมที่ไม่เคยมีปมอะไรกับใครเขา ทำไมจะปรับตัวแก้ไขไม่ได้
วันนี้เป็นวันว่างที่ผมนัดกลุ่มเพื่อนๆมาปาร์ตี้ที่ห้องเหตุผลหลักคือการสารภาพบาป ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดของน้องให้พวกมันฟัง
ทั้งเรื่องที่ผมชอบน้องด้วย ทุกเรื่องผมเล่าอย่างละเอียดและอยากให้พวกมันเข้าใจ เลยเป็นเหตุให้พวกมันทำหน้าเหวออ้าปากกว้างจนขากรรไกรค้างในห้องผมตอนนี้
“อย่าๆเพื่อน มึงอย่า อะไรยังไง ถึงกูจะสงสัยมาตลอดแต่พอได้ยินแบบนี้กูอึ้งครับอึ้งๆๆๆๆๆ”
ไอ้วันปีย์เพื่อนที่แสนดี(เหรอวะ)ของผมพูดรัวยิ่งกว่าข้าวโพดคั่วในหม้อทันทีที่มันตั้งสติได้
“เออ ก็ไม่มีอะไรให้ปฏิเสธนี่หว่า แค่จะบอกพวกมึงว่าการพนันครั้งนั้นกูยกเลิกนะ แต่เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าพวกมึงเอง เดี๋ยวๆๆไอ้นายอย่าพึ่งตาเขียวใส่กู แค่กูโดนพี่อาร์ตเทศนาสั่งสอนมาก็พอละกูสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะงั้นเรื่องนี้กูกับไอ้ปีย์เลิกเด็ดขาดยิ่งได้รู้จักน้องกูยิ่งรู้สึกแย่ พวกมึงจะเห็นเป็นเรื่องเล่นๆไม่ได้ กูไม่อยากให้น้องรู้สึกแย่ถ้าน้องรู้เรื่องนี้”
“มึงคิดจะบอกน้องไหมวะ”ไอ้โอมถามขึ้น
“ทีแรกกูก็คิดจะบอกน้องนะ แต่กูทบทวนแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรกับการบอกน้องนอกจากทำน้องเสียใจและรู้สึกแย่ ดีไม่ดีน้องกลับไปเป็นแบบเดิมอีกกูว่ามันจะยิ่งแย่กว่าเดิม กูเลยคิดว่าเรื่องนั้นเราจะไม่เอ่ยถึงอีกให้มันตายไปกับนิสัยเหี้ยๆของกูซะ”
“เอาจริงๆนะเว้ย กูก็คิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องบอกน้องหรอก แต่ในเรื่องชั่วๆที่พวกมึงสองตัวคิดทำ ก็ยังมีเรื่องดีๆนะเว้ย”
ไอ้คุณนายเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน
“ยังไง”ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้เรื่องการพนันแย่งแฟนชาวบ้านเนี่ยถือเป็นเรื่องแย่สุดเลยมั้ง
“ก็มึงคิดดูนะโอ๊ตหากว่ามังกับไอ้ปีย์ไม่คิดทำเรื่องนี้ขึ้นมาคนอย่างมึงจะได้รู้จักน้องมันไหมวะ กูว่าคนอย่างมึงน่ะอยู่ดีๆจะเดินเข้าไปหาคนอื่นแล้วชวนพูดคุยหรือทำความรู้จักหรอกนะ”
ก็จริงของมันนะครับ หากไม่มีเรื่องของไอ้ปีย์ผมคงจะยังเป็นเจ้าชายน้ำแข็งคนเดิมยังเป็นคนที่ไม่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้ายังเป็นคนที่เข้าถึงยาก และคงไม่สนใจใครอยู่อย่างนั้น
“แต่ถึงยังไงกูก็ไม่อยากให้น้องรู้เรื่องนี้ พวกมึงเข้าใจกูไหม กูไม่อยากเห็นน้องเสียใจ ”
“กูเห็นในละครพระเอกต้องสารภาพความจริงนี่หว่ามึงไม่ลองบอกน้องจะได้ไม่มีอะไรค้างคา”
“กูไม่ใช่พระเอก กูยอมคาใจ ค้างคาแบบนี้ไปตลอดชีวิตถ้ามันทำให้น้องร่าเริงยิ้มได้แบบตอนนี้ “
ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะบอก เพราะผมไม่รู้ว่าถ้าผมบอกออกไปน้องจะรู้สึกยังไง ผมมันแย่ผมรู้ แต่ผมไม่อยากเห็นน้องเสียใจ
“เออๆแล้วแต่มึงเพื่อน พวกกูไม่ได้คิดจะอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่พนันกันเพราะขำๆไว้แกล้งมึง แต่ใครจะคิดว่ามึงจะตกหลุมน้องมันจริงๆวะ”
“เออนั่นดิ แม่งเสียดาย “ไอ้กระต่ายร่างควายเอ่ยขึ้นเบาๆ
“มึงเสียดายอะไรวะต่าย”ไอ้คนขี้สงสัยอย่างไอ้โอมก็ถามแทบจะทันที
“เสียดายของพนัน”
“เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าน่า”
ผมว่าขึ้นพลางคิดถึงว่าหากวันนึงผมจีบน้องติดได้ดูแลน้องแล้วผมอาจจะบอกถึงเรื่องนี้ก็เป็นได้หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นน้องคงไม่ได้โกรธเคืองผมเพราะผมจริงจังมากบอกเลย
จากนี้ผมจะดูแลน้องจะไม่ทำน้องเสียใจแม้ว่าผมจะบอกน้องไม่ได้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับน้อง ผมยินดีที่จะแอบจีบแอบรักแบบนี้ไปจนกว่าน้องจะหายจากอาการที่เป็นอยู่ ผมทนได้ถ้าน้องมีความสุข ผมยอมเป็นพี่ชายให้น้องแล้วเก็บความรู้สึกของผมเอาไว้ ผมยอมจริงๆนะ
XS Cute Boy ได้โพสต์1 ชั่วโมงที่แล้ว
เอาล่ะค่ะแอดคิดไม่ตกมาหลายวัน เลยเอามาแชร์เผื่อมีคนช่วยคิด เจ้าชายน้ำแข็งของพวกเราช่วงนี้ดูเหมือนว่าน้ำแข็งจะโดนละลายจากใครบางคนซะแล้ว
เดิมทีพี่โอ๊ตของเรานี่หน้านิ่งยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็ง ไม่พูดคุยกับคนไม่สนิทตัวติดเพื่อนๆจนคิดว่าชาตินี้คงไม่มีผู้ใดหาญกล้าทำลายกำแพงน้ำแข็งหนุ่มหล่อแห่งวิศวะคนนี้
แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูค่ะคุณขาาาาาาาดูหน้าอีพ่อเวลาอยู่กับน้องคนสวยมันชั่งละมุนละไม..ฮื้ออออออออออออออออออออออ
โฮ่ยยยยยสำลักความหวาน ออร่าสีชมพูววววววนี่มันอะไร #โอ๊ตไม้
แนบรูป
1254 like 621 แชร์
ผมยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นรูปที่แอดมินเพจโพสต์ไว้
เป็นภาพที่น้องไม้หัวเราะสดใสให้กับหนูบัวที่กำลังงอนไอ้ปีย์เพื่อนผม หน้าตาท่าทางของทั้งคู่คงทำให้ไม้ต้องหัวเราะจนตาปิด
และด้วยความที่น้องมันทำอะไรก็น่ารักไปซะหมด ผมเลยอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ในภาพมันเลยออกมาแบบที่ผมส่งสายตาอ่อนโยนขนาดนั้น
ไปให้น้องทั้งรอยยิ้มที่ผมเองไม่ค่อยจะได้ยิ้มสักเท่าไหร่ก็ถูกมือดีถ่ายเอาไว้ได้ บางทีผมก็สงสัยว่า ผมเคยมองใครด้วยสายตาแบบนี้หรือเปล่านะ
ผมเพ่งมองภาพนั้นอยู่นานเพราะภาพสวยมากคนถ่ายคงเป็นมืออาชีพด้านนี้เพราะ ภาพออกมาดีมาก ดีจนผมกดเซฟทันทีโดยไม่ลังเล
“ฮั่นแน่ ยิ้มกับโทรศัพท์ว่ะ เพื่อนกูพัฒนาการก้าวกระโดดมาก “//วันปีย์
“กูว่าโลกนี้คงมีแค่น้อลลลลลล”//โอม
“อะไรมันจะชัดเจนปานนั้นวะเหลือแค่ยกขันหมากนะกูว่า”//ต่าย
“กูไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นมันทำหน้าตกหลุมรักราวกับสาวน้อยแบบนี้”//นาย
เสียงแซวดังมาเป็นระยะของกลุ่มเพื่อนผมที่นั่งล้อมวงอยู่ด้วยกันถามว่าผมสนไหมก็ไม่นะความรู้สึกมันชัดเจนจนผมไม่อยากจะเก็บไว้คนเดียวเลย
ห่วงก็แต่ความรู้สึกของน้องที่ผมต้องระวังเป็นพิเศษไม่รู้ว่าเรื่องที่ฝังใจน้องอยู่มันบรรเทาไปบ้างหรือยัง
แม้ว่าเพื่อนของน้องอีกสองคนจะเข้าใจกันดีแล้ว แต่ผมก็ยังเป็นห่วงและแอบกลัวว่าถ้าน้องรู้ว่าผมคิดไม่ซื่อน้องจะยังไว้ใจผมอยู่อีกไหม
ถึงแม้ว่าผมจะไม่บอกน้องว่ารู้สึกอย่างไร แต่ผมจะเนียนหยอดเนียนจีบไปเรื่อยๆฮ่าๆๆๆ ก็หวังอยู่นะที่จริงน่ะ แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่...
“เฮ้อออออ”
“อ้าว เพื่อนกูไบโพล่าแดกซะละ ฮ่าๆๆ เมื่อกี๊ยังดี๊ด๊าหน้าบานอยู่เลย”
“กูคิดไม่ตกเลยว่ะปีย์ มึงว่ากูควรทำไงดีวะ “
“เอาน่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
“พี่โอ๊ตครับ”ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรต่อ เสียงเรียกของคนคุ้นเคยทำให้ผมหันไปยิ้มรับอัตโนมัติ
“กูว่าเพื่อนเรามันเป็นไบโพล่าแน่ๆ” จะว่ายังไงก็ช่างตอนนี้ดีใจที่น้องมาหาครับ
“ว่าไงครับ”
“โอ้โห เสียงอ่อนโยนเบอร์นี้กูขนลุกกกกก”ไอ้กระต่ายควายทำท่าลูบแขนไปมาแล้วทำหน้าสยองใส่ผม แต่ผมจะสนเหรอ ก็ไม่นะ หึหึ
“วันนี้พ่อกับแม่ชวนวีกับบูไปทานข้าวที่บ้านครับ”
“อืม”ผมรู้สึกใจห่อเหี่ยวยังไงชอบกล เหมือนว่าพอน้องคืนดีกับเพื่อนๆแล้วน้องไม่มีเวลาให้ผมเลย
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็ไม่มีอะไรครับ น้องไม้ไปกับเพื่อนพี่คงกลับห้องไปนอนเหงา”
“แหวะ”เสียงเพื่อนผมครับ ไอ้พวกบ้านี่ขัดจังหวะจริง
“จะกลับห้องเหรอครับไม่ไปด้วยกันเหรอครับ เนี่ยพ่อกับแม่บอกให้ชวนพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ด้วยนะครับ ถ้าพี่ไม่ว่างพ่อกับแม่คงเสียใจแย่เลย”
เสียงทะเล้นที่เอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีทำให้ผมอดที่จะยื่นมือไปบีบจมูกโด่งรั้นนั่นไม่ได้
“โอ๊ย เจ็บๆครับ อย่าแกล้งฮื่อ”สองมือเรียวไขว่คว้าดึงมือผมออกจากหน้าเนียนใสอย่างรวดเร็ว แล้วทำหน้ามุ่ยใส่ราวกับว่าจะประท้วงที่ผมทำร้ายร่างกายน้อง
“พี่ไปด้วยได้เหรอ ดีเลยกำลังคิดถึงพี่มาร์คกับน้องมาลี”
“ไม่คิดถึงผมเหรอพูดแบบนี้น้อยใจนะเนี่ย”แม้ว่าน้องจะพูดเล่นแค่แกล้งเย้าผมแต่ใจไม่รักดีดันกระตุกสั่นไหวด้วยความดีใจ
“คิดถึงสิครับไม่คิดถึงคนนี้จะไปคิดถึงใครล่ะฮึ”
“พอๆน้ำตาลขึ้นตากูหมดละ จรีบกันเบาๆครับคนโสดอิจฉา”
“จีบอะไรพี่นายเข้าใจผิดแล้วพี่โอ๊ตน่ะชอบแกล้งผมแบบนี้จนชินแล้ว เนี่ยดีนะที่ยัยตัวแสบไม่อยู่ด้วยไม่งั้นโดนจับคู่อีกแหงเลย”
น้องบ่นเบาๆให้ไอ้นายฟังแม้จะรู้ว่าน้องแค่พูดเล่นๆด้วยความเคยชินแต่ใจผมมันไม่เคยเล่นเลยสักครั้งแต่ก็นะเลือกทางนี้เองจะว่าใครได้
ผมก็ได้แต่หวังว่าน้องจะรู้ด้วยตัวเองและหวังว่าเมื่อวันนั้นมาถึงน้องจะเปิดใจรับผมเข้าไปแทนการหนีห่างจากกัน
“งั้นเดี๋ยวพี่รอรับหนูบัวเอง”
เสียงไอ้ปีย์พูดขัดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของผม อยากขอบใจมันแต่ก็อยากบอกว่ากูไม่เป็นไรว่ะเพื่อนแค่นี้ กูชิลว่ะครับ หึหึ
“พวกพี่ๆไปด้วยกันนะครับ ”น้องเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มหวานที่ผมไม่อยากให้น้องมันยิ้มให้ใครเรี่ยราด ก็หวงนี่นา เชอะ
“ได้เลยครับเดี๋ยวจะตามไปพร้อมกันเลยนะไม่มีอะไรกันนี่นาวันนี้ งานก็ส่งแล้วว่างงงงงงงง”
“ได้ข่าวว่าอาหารฝีมือแม่นุ่นอร่อยพวกพี่ขอไปฝากท้องด้วยนะครับ”
“แม่ต้องดีใจมากแน่ๆเลย”รอยยิ้มของน้องยังคงสดใส เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่อยากจะเห็นน้องเศร้าอีก เพราะรอยยิ้มของน้องมันสวยมากเลย
วนันต์เย็นวันนี้ครึกครื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานมากแล้ว แม่เอาเตาบาร์บีคิวและเตาย่างเนื้อมาตั้งที่สวน แล้วทำหม้อไฟไว้หลายหม้อ
ไหนจะเนื้อวากิว A-5 ที่ได้มาจากบ้านหนูบัว ปาตีร์ที่มีกลุ่มเพื่อนที่ผมอยากเจอมากที่สุด วันนี้มีพี่โอ๊ตและกลุ่มเพื่อนทุกคนที่มา
ยัยตัวแสบบัวที่ตัวติดกับพี่ปีย์จนผมอิจฉา วีกับบู ที่มาพร้อมกันและอีกคนที่ผมไม่ได้เจอมานาน จีน่า
“ขอบคุณที่ชวนเรามานะไม้ เราได้ฟังจากวีกับบูแล้ว จีน่าขอโทษนะ ทุกเรื่องที่ผ่านมาเลย ยกโทษให้จีน่าได้ไหม”
เป็นครั้งแรกที่มองหน้าเพื่อนได้สนิทใจ ผมยิ้มให้กับใบหน้าสวยหวานที่ยังคงมีแววตาเศร้าสร้อย
“ไม่เป็นไรหรอกไม้เองก็ต้องขอโทษจีน่าเหมือนกันนะ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็เพื่อนกันทั้งนั้น วันนี้ถือว่าเรามาเริ่มต้นมิตรภาพดีๆอีกครั้งเถอะนะ ที่ผ่านมาถือว่าฝันร้ายก็แล้วกัน “
จีน่าปล่อยโฮ ลั่นบ้านจนพวกผมต้องนั่งรุมล้อมปลอบใจกันอยู่นานสองนาน และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนที่คอยดูแลจีน่าอยู่ใกล้ๆ
พี่ต่ายยักษ์เพื่อนของพี่โอ๊ตคอยย่างเนื้อและดูแลอาหารให้เพื่อนผมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดูท่าแล้วผมคงจะมีเพื่อนเขยเร็วๆนี้แน่ๆ
หลังมื้ออาหาร ก็นั่งล้มวงฟังพ่อไผ่เล่นกีต้าร์ เห็นเป็นนักบิดแบบนี้พ่อผมก็เกือบได้เดบิ้วต์เป็นนักร้องนะ
บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักแบบนี้ผมจะไม่ลืมเลย นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่มีบรรยากาศดีๆร่วมกับเพื่อนๆแบบนี้
“เอ้า หนุ่มๆสาวๆมานี่มา พ่อมีอะไรจะให้ดู “
เสียงพ่อไผ่ที่ดังขึ้นทำให้กลุ่มพวกพี่โอ๊ตกับกลุ่มเพื่อนของผมแทบจะเฮโลเข้าไปรุมพ่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกพี่นายพี่ต่ายและพี่โอมได้เจอพ่อผมส่วนพี่ปีย์เจอวันที่ผมเข้าโรงพยาบาลเลยไม่ได้พูดคุยกับพ่อสักเท่าไหร่
แววตาเป็นประกายชื่นชมหลงไหลอย่างปิดไม่มิดของพวกพี่โอ๊ตทำให้ผมหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุข
ดูๆแล้วพ่อผมก็ชอบกลุ่มพี่โอ๊ตมากๆเลย ไม่ใช่ใครก็ได้ที่พ่อจะแนะเคล็ดลับและเทคนิคการขับขี่ให้และเปิดห้องเก็บโมเดลรถมอเตอร์ไซค์
ให้เข้าชม เพราะพ่อน่ะหวงพวกโมเดลรถมาก พ่อเป็นนักสะสมตัวยงด้วยถึงขั้นสร้างห้องไว้เก็บโมเดลต่างหากเลยล่ะครับ
“ไงคะคนเก่งของแม่”เสียงอ่อนโยนของแม่ดึงสติผมให้หันมายิ้มรับ
“ครับแม่ “
“ทำไมนั่งเงียบอยู่ตรงนี้ล่ะไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆเหรอคะ”
“ไม้อยากมองภาพนี้ด้วยสองตาไปนานๆครับแม่ ไม้มีความสุขมากเลยครับ”
ผมว่าพลางมองไปที่พ่อที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนๆของผมกลับมาแล้วไม่อยากจะเชื่อเลย
“น้ำครับ”น้ำส้มคั้นสด สองแก้วถูกส่งมาให้ผมกับแม่ ด้วยมือของผู้ชายตัวสูงใหญ่และหน้าตาดีคนนั้น
พี่โอ๊ต เป็นคนที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปจะว่าไปเพราะมีพี่โอ๊ตผมเลยได้มีโอกาสได้อยู่กับเพื่อนๆพร้อมๆหน้ากันแบบนี้
“ขอบคุณค่ะพี่โอ๊ต งั้นแม่ฝากน้องหน่อยแม่จะไปดูของว่างมาให้”เสียงแม่เอ่ยขั้นตอนที่รับแก้วน้ำส้มและเดินออกไป
พี่โอ๊ตขยับมานั่งแทนที่มือหนาวางแหมะลงบนหัวของผมก่อนจะลูบเบาๆราวกับจะปลอบใจ
“ขอบคุณพี่โอ๊ตที่เข้ามาในชีวิตผมนะครับ “ผมเอ่ยออกไปอย่างที่คิด
“หืม..ไม่เห็นจะต้องขอบคุณเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณน้องไม้ ดูสิ พี่ได้เจอไอดอลของพี่ได้เจอคนที่น่ารักอย่างน้องไม้พี่ว่าพี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ”
พี่โอ๊ตว่ายิ้มๆก่อนจะหันไปมองพ่อผมที่ยังคงนั่งเล่าประสบการณ์ตอนแข่งรถโดยมีพี่โอมนั่งซักถามเป็นระยะๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าคนน่ารักอย่างพี่โอมจะชอบความเร็ว”
“พี่ก็น่ารักนะชมพี่บ้าง”
“ฮ่าๆๆ โอ๋ๆครับ พี่โอ๊ตของผมน่ารักที่สุด”
ผมเอ่ยคำที่บอกถึงความเป็นเจ้าของอย่างแนบเนียน ผมน่ะโตแล้วจริงๆนะแม้ทุกคนจะทำเหมือนว่าผมยังเป็นเด็ก
ผมโตพอที่จะรู้ว่าตัวผมรู้สึกเช่นไรกับพี่โอ๊ต แต่ผมก็ยังขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับมัน ตอนนี้ยอมรับว่าผมกลัวมากๆ
พี่โอ๊ตใจดี พี่โอ๊ตเป็นทุกอย่างให้ผม เป็นคนที่ฉุดดึงผมออกจากห้องแคบๆห้องนั้น เป็นคนที่ผมวางใจ
อยู่กับพี่เขาผมสบายใจมากจนผมอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ด้วยความเป็นคนน่ารักของพี่โอ๊ต
มันไม่ยากเลยที่จะทำให้คนที่ขลาดเขลากลัวการมีรักอย่างผมจะเปิดใจ ไม่ว่าการรักในรูปแบบไหน
ต่อจากนี้ผมจะไม่กลัวเพราะผมมีวัคซีนดีๆแบบพี่โอ๊ต แต่ถึงผมจะรู้ว่าใจตัวเองคิดอย่างไรผมก็ต้องเก็บงำมันเอาไว้ เงียบๆ
ผมเคยคิดว่าการสารภาพรักกับหนูบัวถือเป็นความกล้าของผมที่สุด นั่นไม่ใช่เลย เพราะผมไม่ได้รักหนูบัวอย่างคนรักผมจึงกล้าบอก
ผมผูกพันกับยัยตัวแสบจนคิดว่ามันคือความรัก ตอนที่หนูบัวบอกตอนนั้น
ผมยังเถียงในใจจนอยากจะร้องให้ ว่าผมรักหนูบัวจริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเพื่อนรักของผมพูดถูก เราแค่ผูกพันเราแค่ไม่เคยมีใคร
เราแค่รักกันในรูปแบบพี่น้อง และหวงกันในรูปแบบเพื่อนไม่ใช่ความรักแบบที่ผมกำลังคิดกับพี่โอ๊ตตอนนี้ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ
เพราะความรู้สึกที่ผมมีกับหนูบัวกับความรู้สึกที่ผมมีกับพี่โอ๊ตมันแตกต่างกันมากเลย ความรู้สึกที่มีกับพี่โอ๊ตมันไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร
มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย แต่ผมรู้แค่ว่ามันดีมากๆเลย แต่ถึงจะรู้สึกดีมากแค่ไหนผมก็ยังกลัวอยู่ดี
ผมกลัวไปหมดไม่กล้าแม้จะแสดงออกว่ารักพี่มันขนาดไหน ผมกลัวจะเสียพี่มันไปหากผมบอกให้รู้
ผมกลัวที่จะผิดหวังผมกลัวว่าหากบอกออกไปแล้ว ระหว่างเรามันจะไม่เหมือนเดิม ความใจดีความอ่อนโยนของพี่โอ๊ต
ผมอยากเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆ เป็นแบบนี้ก็ดีหากว่าพี่มันยังไม่มีใครผมจะเกาะอยู่ข้างๆไม่ไปไหนเลยล่ะ
“อ้าวเหม่ออีก บ๊องแล้วนะเราเนี่ยเรียกก็ไม่ได้ยินเอาแต่ยิ้มให้แก้วน้ำส้ม “
“อ่า..แหะๆผมคิดอะไรเรือยเปื่อยน่ะครับ ดีใจที่เพื่อนๆมาหา ดีใจที่ทุกคนยังให้อภัยและรักกัน”
“น้องไม้ของพี่คนดีที่หนึ่งขนาดนี้ใครไม่รักก็ช่างสิพี่โอ๊ตจะรักน้องไม้เองนะครับ”
ใจกระตุกไหวไปกับคำว่ารักแม้ว่าพี่มันจะไม่ได้หมายความอย่างที่ผมอยากให้เป็นแต่ผมก็อดทีจะยิ้มกว้างไม่ได้
ก็น่ารักซะขนาดนี้ไม้ให้ผมรักได้ยังไงไหว ตกลงไปในหลุมรักจนปีนขึ้นมาไม่ได้แล้วพี่จะรู้หรือเปล่าครับ
“ห้ามทิ้งน้องนะบอกก่อน”อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทีเล่นทีจริงไปแต่ใจคิดจริงจังจนผมเองกลัวว่าสักวันมันจะเผยให้พี่เขารู้
“พี่โอ๊ต บัวมีเรื่องจะถาม”ยังไม่ทันที่พี่โอ๊ตจะเอ่ยอะไรเสียงแจ้วๆของยัยตัวแสบก็ดังมมาก่อนตัว
ร่างเพรียวบางของเพื่อนรักผมถลาเข้ามากอดแขนพี่โอ๊ตไว้แน่นก่อนจะเอ่ยถามจริงจัง”
“พี่โอ๊ตมีคนที่ชอบหรือยังคะ”คำถามของเพื่อนตัวแสบทำให้ใจผมหวั่นๆเพราะกลัวคำตอบ
“ทำไม่ถามแบบนี้ล่ะฮึ ไอ้ปีย์มันมองพี่ตาขวางแล้วนั่น”
“ช่างพี่ปีย์สิคะ บัวอยากรู้นี่นา ว่าไงคะตอบบัวมาเลย”เจ้าตัวแสบคาดคั้นจนพี่โอ๊ตหัวเราะเบาๆสายตาเอ็นดูเพื่อนผมจนน่าหมั่นไส้ ฮึ
“อืม..คนที่ชอบเหรอ มีสิ แต่ พี่ไม่กล้าบอกเขาหรอก กลัวเขาตกใจแล้วหนีหน้าพี่ฮ่าๆๆๆ”แม้คำตอบพี่โอ๊ตจะดูคล้ายๆกับว่าตอบเล่นๆ
ไม่จริงจังแต่ผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นความจริง นั่นเลยทำให้ผมอดที่จะซึมเล็กๆในใจไม่ได้ คนที่พี่ชอบงั้นเหรอ เป็นคนแบบไหนกันนะ
“โธ่พี่โอ๊ตอ่า อย่ามากั๊กน้องนะบอกน้องมาเดี๋ยวนี้เลยนะ “
“นี่คุณครับสนใจแฟนหน่อยครับ แฟนอยู่นี่ครับยู้ฮู “พี่ปีย์ว่าพลางดึงแขนเจ้าตัวแสบไปที่วงบาร์บีคิวอีกครั้ง
แม้จะมีเสียงงอแงไม่ได้ดั่งใจ แต่หนูบัวก็ไม่ขัดพี่ปี่ที่คอยดึงให้ไปนั่งกินดีๆ วันนี้ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล
พ่อบอกว่าปาร์ตี้ไม่จำเป็นต้องมีก็สนุกได้ เพราะแบบนั้นวันนี้ผมเลยได้โชว์ฝีมือทำเรื่องดื่มสมุนไพรให้ทุกคนได้ชิม
“น้ำมะตูมอร่อยอ่ะไม้ จีน่าไม่คิดว่าไม้จะทำของพวกนี้เป็นนะ “
“ในช่วงที่เราพักรักษาตัว มันว่างน่ะหมอแนะนำให้เราหาอะไรทำ เราเลยลองทำพวกน้ำหวานเพราะเราชอบดื่มน้ำหวาน
แต่บางทีน้ำที่เราซื้อกินข้างนอกมันก็หวานเกินไป เราเลยได้ลองทำเองน่ะ”
“เราขอโทษนะ “หน้าสวยๆของเพื่อนผมสลดลงเมื่อฟังคำผมจบ
“อย่าคิดมาก เราหายแล้วนะ ตอนนี้เราสบายดีมากเลย”
“แต่มันก็ทำให้ไม้ไม่มีความสุขตอนนั้น เราเองต้องขอโทษด้วยเหมือนกันนะ เพราะเราไม้ต้องเจ็บปวดขนาดนั้น “
เสียงของบูรพาเอ่ยสมทบจีน่าแทบจะทันที
“เรื่องมันผ่านไปแล้วและไม่ได้มีแค่ไม้ที่เจ็บปวดกับเรื่องนั้น พวกนายขอโทษเรามาพอแล้วจากนี้ก็เราจะรักกันให้มากขึ้นเนอะ”
ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด แม้ว่าในอดีตผมจะเจ็บปวดมากแต่ผมก็คิดว่าเพื่อนๆของผมก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน
มันถึงเวลาที่เราจะต้องมีความสุขกันได้แล้วล่ะ
“เอางี้ นับจากนี้ไป พวกเราขอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนรักกันอย่างนี้ตลอดไป นะ “
นาวีเดินเข้ามาสมทบพร้อมๆกับหนูบัวที่เดินกลับมาเช่นกัน ตอนนี้พวกเราทั้ง ห้าคน ต่างยิ้มให้กันและจับมือกันไว้บีบมือเบาๆราวกับว่าคำสัญญานั้นเราจะไม่ลืมเลือน
เสร็จจากการปาร์ตี้เราทุกคนต่างก็มานั่งล้อมวงเล่นไพ่ในบ้าน เอ เรียกว่าการกินข้าวพร้อมหน้าจะดีกว่าไหมนะ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยืนอยู่ท่ามกลางคนที่ผมรักไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ผมยิ้มได้อย่างสบายใจจริงๆ
ทั้งหมดนี้คงต้องขอบคุณพี่โอ๊ตสินะ แต่ว่า ถ้าหากพี่รู้ว่าผมคิดไม่ซื่อขึ้นมาพี่จะไปจากผมหรือเปล่านะ
จากที่เคยกังวลว่าคนอื่นจะคิดในแง่นั้นกับผม กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นผมเองที่กำลังกังวลและคิดมาก
พอจะเข้า ใจความรู้สึกของคนที่คิดเกินจากความสัมพันธ์ที่มีซะแล้วสิ เฮ้อ
“เป็นอะไรมานั่งถอนหายใจแบบนี้ฮึ”เสียงเอ่ยถามจากด้านหลังทำให้ผมต้องเอี้ยวตัวไปดูพร้อมทั้งส่งยิ้มอ้อนให้อย่างเคยชิน
“พ่อมาตอนไหน ไม้ไม่เห็นได้ยินเลยเสียงเดินมาเลยครับ”
“ก็เรามัวแต่เหม่อนั่งถอนหายใจอยู่ตรงนี้ จะเห็นพ่อได้ไงล่ะฮึเจ้าลูกหมู”
“เปล่าเหม่อสักหน่อยครับ เห็นทุกคนมารวมกันแบบนี้ผมก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้ พานจะคิดถึงชลขึ้นมาด้วย”
“พ่อไม่อยากให้ลูกคิดมากนะ ชลน่ะเขาจากไปแล้ว ลูกต้องรักษาคนที่อยู่ตรงนี้ มองไปรอบๆสิ ทุกคนคือคนที่ลูกรัก
พ่อไม่ได้บอกว่าชลไม่สำคัญ แต่ลูกรักของพ่อต้องเดินออกจากตรงนั้นได้แล้ว ความรู้สึกผิด มีได้แต่อย่ามีมากจนมันทำลายตัวเรานะครับ”
ฝ่ามืออุ่นๆลูบเบาบนหัวของผม ทำให้ผมรู้สึกว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีครอบครัวอยู่ข้างๆเวลาที่ผมแย่
“ครับ จากนี้ไปไม้จะมีความสุข”ผมยิ้มกว้างให้พ่อพร้อมทั้งหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนๆและพวกกลุ่มรุ่นพี่ของผมที่มากันวันนี้
ชล เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิต แต่ชลก็เป็นเพื่อนรักของผมเช่นเดียวกับทุกคน แม้ว่าวันนี้ชลจะจากไป แต่ผมจะก้าวเดินต่อ
จากนี้ ชีวิตนี้ผมจะไม่มองผ่านมันอีก ผมจะมีความสุข ผมจะทำทุกอย่างที่ผมมีความสุข ผมบอกตัวเองแบบนั้นและผมจะทำมันจริงจัง
TBC....มาล้าวววววววววววววววววววววววว
ก่อนอื่นกราบงามๆขออภัยคนอ่านอย่างมากมายเลยค่ะ พันวา ร่างกายไม่แข็งแรง อีกทั้งงานก็เยอะด้วยเลยไม่มีได้มาอัพนานมาก
แต่ไม่ทิ้งนะคะ เราจะไปส่งน้องๆถึงปลายทางด้วยกันค่ะ 5555555
ช่วงนี้ร่างกายดีขึ้น แต่ก็ต้องหาหมอบ่อยๆ จะพยายามมาอัพให้ได้ อาทิตย์ละ 1 วันนะคะ ถ้าโชคดีร่างกายไม่แย่ ก็จะมาอัพเพิ่มให้
ไม่รู้ว่ายังอยู่กันไหม นะคนอ่าน แต่พันวาอยากบอกว่าคิดถึงมากๆๆๆ เลยค่าาา :