[Pontz x Joe]Forgotten Love รักที่ถูกลืม II:ฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยค่า:15/05/20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

เรื่องต่อไป>>>>

ไปป์ พลัสเตอร์
12 (19.7%)
ลิ้ม ท็อปเทล
4 (6.6%)
พีเจ ดล
12 (19.7%)
เมฆ แน็ต
25 (41%)
ฮอร์น
5 (8.2%)
ฮาว (น้องฮอร์น)
3 (4.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 52

ผู้เขียน หัวข้อ: [Pontz x Joe]Forgotten Love รักที่ถูกลืม II:ฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยค่า:15/05/20  (อ่าน 152505 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อืมมมม คิดทบทวนไปทบทวนมา รู้ืสึกว่าโจร้ายกว่าป๊อนซ์เยอะเลยอ่ะ
ตอนป๊อนทำ เพราะป๊อนซ์จำโจไม่ได้ จำความสัมพันธ์เก่าก่อนไม่ได้เลย
และป๊อนก็รับรู้ว่าแจงเป็นแฟน คิดดูซิถ้าเราฝังใจเชื่อไปว่าใครทำร้ายแฟนของตัวเอง
จนต้องเข้าโรงพยาบาล ใครบ้างจะไม่แค้น ตอนนั้นป๊อนซ์หลอกโจเพราะว่าอยากแก้แค้น
แก้แค้นโดยไม่รู้ เพราะโดยนิสัยป๊อนซ์ไม่ค่อยแคร์ใครที่ตนไม่รักอยู่แล้ว
พอรู้ตัวอีกทีก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าได้ทำร้ายคนที่ตัวเองได้หลงรักไปแล้ว (ความจำเสื่อมอยู่)
ส่วนกับแจงก็คงแค่รู้สึกว่าไม่รักแล้ว แต่ก็ยังคงดูแลในฐานะแฟน เพราะตอนนี้แจงยังเป็นแฟนป๊อนซ์
และก็ยังไม่มีความผิดอะไร ป๊อนซ์ก็คงรู้ืสึกผิดกับแจงด้วย ที่ไปหลงรักโจ ก็เลยยังไม่ตัดแจงออกไป
ถ้าจะมีคนผิดเพิ่ม ขอคิดแบบเห็นแก่ตัวว่า เพื่อนจองป๊อนซ์กับโจแหล่ะที่มีส่วนผิดด้วย ตอนป๊อนซ์ถามเรื่องโจ
ทำไมไม่บอกไปตามความจริง จะพยายามปิดบังกันเพื่ออะไร 555 คนอ่านเพ้อเจ้อ แต่ก็อยากมองอีกมุมอ่ะ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
เรามีความรู้สึกว่าในตอนแรกคืออยากแค่ให้โจแก้แค้นป๊อนซ์ แต่พอนั่งทบวนไปทบทวนมา
ป๊อนซ์ทำทุกอย่างไม่ได้ร้ายมากเหมือนที่โจทำ ที่ทำเพราะจำไมไ่ด้ แต่โจทำไป มันเกินกว่าที่เรารับได้
โจไม่ได้ทำลายแจง หรือทำลายป๊อนซ์อย่างจินตนาการเรา เพราะเราคิดว่าโจคงต้องเข้าไปพัวพันกับปอนซ์แบบให้แจงเจ็บ
เพราะต้นเรื่องมาจากแจง แต่ในคราวเดียวป๊อนซ์ก็เจ็บไปด้วย โดยใช้ความเหินห่างเย็นชา แต่คงความเป็นโจ หรือหาใครสักคน
แต่ไม่ใช่แรงแบบ เหมือนเอาตัวเข้าแลกมากกกว่า และตอนนี้เค้าของดื้อ(โจ) มันหายไปหมดเลย หายจนไม่ใช่โจอะ เหมือนจะทำให้ป๊อนซ์เจ็บ แต่ค่าของโจเหมือนจะหมดไปด้วย เราว่ายิ่งทำ โจก็เหมือนเดินตกลงในที่มืดเรื่อยๆ
เหมือนสุดท้ายคนที่เจ็บเป็นโจอยู่ดี :m15:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2013 12:42:49 โดย hotladyanyavee »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เจ็บมาก
หรือ
เจ็บน้อย

มันก็เรียกว่า..เจ็บ

ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
ถ้าเจ็บ..มันก็คือเจ็บ
เหมือนกัน

มีสติหรือเสียสติ
ถ้าทำผิด ยังงี้ กม.ยอมละเว้นให้คนเสียสติ

ตอนนี้โจมีสติ..ตอนนั้นป๊อนซก็มีสติ
ไม่ใช่เหรอ
แล้วยังไงถึงจะบอกได้ว่า..คนไหนตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

เพราะจริงๆแล้ว..มันก็คือเจ็บ
ในทำนองเดียวกัน

อิอิ..ขออนุญาตเม้นท์..ในโหมดดาร์ก บ้างเหอะ
นานๆๆๆที
 :-[

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
เพิ่งตามอ่านมาถึงตอนปัจุบันค่ะ
อ่านตอนนี้แล้ว เราไม่อยากให้โจร้ายสุดโต่งเลยความแค้นมีแต่ทำให้ทุกข์ และท้ายที่สุดคนที่จะเสียใจก็เป็นเราเอง
ชีวิตเรามีคุณค่ามากกว่านั้นนะ โจโจ้...

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
อ่านถึงตอนที่12แล้ว

นายเอกของเราไม่เข็มแข็ง จมอยู่กับความรักเดิมๆ

อ่อนแอ จนน่าหมั่นไส้ อ๊าากก ไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ชอบ อิอิ

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ตอนที่ 20








[Pontz x Joe]






[Joe]








“หวัดดีไอ้โจ หายไปไหนหลายวัน” พี่หมี พี่ว๊ากสุดโหดทักขึ้นทันทีที่ผมเดินไปนั่งข้างๆพี่แก

“จัดการอะไรนิดหน่อยอ่ะพี่” ผมตอบพร้อมกับหันมองรถสองคันที่กำลังขับเคี่ยวกับอย่างเมามันส์ในระยะทางโค้งสุดท้าย

“วันนี้ จัดซักหน่อยมั้ยล่ะ?” พี่หมีถามพร้อมกับมองหน้าผม

“ขอดูสถานการณ์ก่อนแล้วกันพี่” ผมตอบก่อนจะยิ้มออกมานิดๆ เมื่อเห็นลีลาการแข่งของเด็กใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“พี่หมี ไอ้รถคันนั้น เพิ่งมาใหม่เหรอ?” ผมถามพร้อมกับชี้ไปยังรถคันที่ชนะ

“ช่ายยย แต่ฝีมือนี่ ถือว่าระดับสูงเลย” พี่ฮอร์นที่เพิ่งจะเดินออกมาก็ตอบผมก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

คือ ผมรู้จักกับพี่ฮอร์นที่สนามแข่งนี่แหละ เพราะว่าวันนั้นผมรู้สึกหมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง เลยกะว่าจะมาแข่งสักครั้ง เอาให้ตายไป
เลยก็ดี แล้วก็มาเจอกับพี่หมีซึ่งเป็นเจ้าของสนามพี่แกเลยช่วยให้ผมลงแข่งได้ ทั้งๆที่ไม่มีประวัติการแข่งมาก่อน แต่ผลสรุป
กลายเป็นผมเป็นฝ่ายชนะเฉยเลย วันนั้นเราเลยฉลองกันจนเละ แล้ว คืนนั้นผมเลยต้องไปนอนบ้านพี่ฮอร์น ก็เลยลืมเสื้อไว้ตั้งแต่
ตอนนั้น ผมก็เลยสนิทกับพี่หมีและพี่ฮอร์นไปโดยปริยาย

“อืมมมมมม” ผมครางรับคำในลำคอ ก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าแล้วจุดไฟก่อนจะยกขึ้นสูบควันเข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่น
ออกมาช้าๆ

“เด็กนิสัยไม่ดี สูบบุหรี่เยอะ” พี่ฮอร์นพูดแซะผมก่อนจะยกมือขึ้นปิดจมูก

“โหย ฮอร์น มึงอย่ามากระแดะได้ป่ะ มึงก็เพิ่งจะเลิกได้ไม่ใช่เหรอ” พี่หมีชะโงกหน้ามาพูดแขวะพี่ฮอร์นก่อนจะกลับไปนั่งพิง
เก้าอี้เหมือนเดิม

“หึๆ” ผมหัวเราะในลำคอก่อนจะ ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าคนที่ผมค่อนข้างจะคุ้นเคยมาเดินอยู่ข้างๆสนาม

“ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในสนามได้ไงอ่ะพี่หมี” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ แจง ที่กำลังเดินอยู่ข้างสนาม

“อ๋อออ น้องเขาเป็นแฟนกะไอ้เด็กใหม่ ที่แข่งชนะไปเมื่อกี๊อ่ะ” แฟนงั้นเหรอ??? แล้วไอ้ป๊อนซ์ล่ะ

ผมพยักหน้ารับช้าๆก่อนจะมองตามร่างของแจงที่ตอนนี้ใส่แค่เดรสสั้นเหนือเข่าสีแดงเพลิงกับบูทสีดำมันวาว ดูแล้วยั่วยวนไม่น้อย
เลยทีเดียว

“พี่หมี ผมอยากแข่งแล้วว่ะ” ผมพูดก่อนจะโยนบุหรี่ลงกับพื้นแล้วใช่เท้าขยี้ให้ดับ

“กับใคร?”

“ไอ้เด็กใหม่นั่นไง” ผมพูดพร้อมกับพยักเพยิดไปทางเด็กใหม่ที่กอดเอวแจงไว้หลวมๆ

หึๆ มีอะไรสนุกๆให้เล่นแล้วซิ



“ตกลงของเดิมพันกันเองนะ” พี่หมีไปเรียกไอ้เด็กใหม่คนนั้นมาก่อนจะตกลงเรื่องการแข่งว่าเราจะแข่งกันแค่สองรอบ ไม่มีกติกาใดๆทั้งสิ้น

“อืมมม กูขอแสนห้า” ไอ้เด็กใหม่นั่นยื่นข้อเสนอ ผมพยักหน้ารับก่อนจะแสยะยิ้มออกมา

“ได้”

“แล้วมึงจะเอาอะไร?”

“กูอยากได้แฟนมึง” ผมพูดก่อนจะมองหน้ามัน

“หา!” มันอุทานออกมาเสียงดัง

“ทำไม ไม่ได้เหรอ?”

“เปล่า ไม่มีปัญหา ถ้ากูชนะเอามาแสนห้า ถ้ามึงชนะก็เอาแจงไป”

“อืม” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่ง


“โจ เล่นอะไรเนี่ย?” พี่ฮอร์นเกาะอยู่ที่กระจกรถพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาถาม

“เอาน่าพี่ หนุกๆ ถ้าผมชนะผมให้พี่เอาป่าว ผู้หญิงคนนั้นอ่ะ?”

“เหอะ ไม่เอาอ่ะ ไม่ใช่สเป็ค” พี่แกเบะปากก่อนจะส่ายหัวไปมา

“กลับไปนั่งรอดูชัยชนะผมได้แล้ว” ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดไว้ ส่วนเครื่องป้องกันอย่างอื่น ผมไม่มีเลย
เพราะวันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาแข่งเลยไม่ได้เตรียมมา

“เออ โชคดี” พี่ฮอร์นอวยพรก่อนจะจุ๊บบนหัวของผมหนึ่งทีแล้วเอามือขยี้เบาๆ

“เหอะ” ผมยิ้มก่อนจะขึ้นกระจกรถและเร่งเครื่องพร้อมออกตัว

เดี๋ยวเจอกันนะแจง!!



ผมเปิดประตูรถก่อนจะเดินลงมาด้วยท่าทีสบายๆ ไอ้เด็กนี่ ไม่ได้เก่งมากมาย แต่แค่บ้าบิ่น มันเลยชนะมาได้หลายคน แต่ความ
บ้าบิ่นของมันก็ไม่สามารถเอาชนะไหวพริบของผมได้

“ไงไอ้น้อง” พี่หมีทักพร้อมกับตบที่ไหล่ของผมเบาๆ ตอนนี้ทั้งสนามดังก้องไปด้วยเสียงโห่ร้องของผู้ชมหลังจากการแข่งขันของ
ผมเพิ่งจะจบไป

“หึ” ผมยิ้มออกมานิดๆก่อนจะเดินไปหาไอ้เด็กใหม่ที่ยืนหงุดหงิดเพราะเสียหน้าอยู่ข้างๆรถของตัวเอง

“ไหนล่ะ ของเดิมพัน” ผมพูดพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าแบบสบายๆ

“นี่ไง เอาไปดิ” มันพูดก่อนจะผลักแจงมาให้ผม

“หึ ไง?” ผมรับร่างของแจงไว้ก่อนจะเอ่ยทักทายพร้อมกับแสยะยิ้มไปให้เบาๆ

“โจ” แจงเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆก่อนจะพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนของผมซึ่งผมก็ปล่อยทันที ทำให้ร่างของแจงล้มลงไป
กับพื้น

“โอ๊ยยย” แจงร้องออกมาเมื่อล้มลงบนพื้นถนนสากๆแข็งๆ

“หึ เอาเป็นว่าเรียบร้อย เดินตามกูมาแล้วกัน” ผมหันไปพูดกับไอ้เด็กใหม่ก่อนจะพูดบอกแจง แล้วเดินหันหลังออกมาทันที

แจงพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล หึ! แค่นี้มันไม่สมกับที่กูเคยโดนหรอก




“ไงได้ของมาแล้วเหรอ?” พี่หมีถามพร้อมกับมองแจงที่ยืนอยู่หลังผม

“ครับ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปทำอะไรดี” ผมตอบก่อนจะเหลือบไปมองแจงนิดๆ ตอนนี้ตามแขนตามขาของแจงก็มีร่องรอย
ถลอกนิดๆ

“หึ” ผมแค่นเสียงออกมาจากลำคอก่อนจะส่งสายตาสมเพชไปให้แล้วจึงหันกลับมาพูดกับพี่หมีต่อ

“พี่เอาป่ะ?” ผมถามพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ

“ไม่เป็นไรว่ะ ไหนๆมึงก็ได้มาแล้วก็ทำเหมือนทุกๆทีที่ได้มาดิวะ” พี่หมีพูดก่อนจะยิ้มแบบสื่อความหมายมาให้ผม

“หึ ก็ดีเหมือนกัน” ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะดึงแจงให้เดินตามไปขึ้นรถ




“กลับไปได้แล้ว ต้องให้ไปส่งมั้ย?” ผมหยิบเสื้อแขนยาวสีขาวมาใส่ก่อนจะเหลือบไปมองแจงที่นอนกึ่งเปลือยอยู่บนเตียง หึ ถ้าไอ้ป๊อนซ์รู้จะเป็นไงเนี่ย สนุกแน่

“มะ..ไม่ต้อง” แจงรับตอบออกมาแบบตะกุกตะกักก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงขึ้นมาใส่อย่างทุลักทุเลก่อนจะหยิบ
กระเป๋าและเดินออกไปจากห้อง

“หึ” ผมเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นก่อนจะจิบทีละนิดเพื่อผ่อนคลายอารมณ์

มึงจะเจ็บได้เท่ากูรึเปล่านะป๊อนซ์??




Rrr

ผมเดินไปหยิบไอโฟนที่อยู่ข้างทีวีมาดูสายที่โทรเข้า

-PJ-

“ว่าไงพีเจ”

(โจ มึงอยู่ไหน?)

“อยู่ห้อง ทำไม?”

(เดี๋ยวไปหา) พีเจพูดจบก็ตัดสายทันที

อะไรของมันวะเนี่ย  ผมสายหัวอย่างงงๆก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาตามเดิม

ระหว่างที่นั่งดูทีวีไป รายการที่ฉายอยู่นั้นไม่ได้เข้าในหัวผมเลยแม้แต่น้อย มันก็เป็นแค่ภาพที่ผ่านตาไปอย่างเดียวเท่านั้น


ออดดดดด

เสียงกดออดดังขึ้นทำให้ผมต้องลุกไปเปิดประตูเพื่อดูว่าใครมา

“มีอะไรวะ?” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือพีเจกับดล

“พี่โจ” ดลเรียกชื่อผมอย่างเลื่อนลอยเมื่อเห็นว่าผมเปลี่ยนไปจากครั้งสุดท้ายที่เจอกันเยอะมาก

“เข้ามาก่อนดิ” ผมไม่ตอบอะไร แต่เปิดประตุให้กว้างขึ้นก่อนจะเอ่ยปากชวนทั้งสองนให้เข้ามาในห้อง

“ว่าไง ตกลงมีอะไร?” ผมถามพร้อมกับหยิบเบียร์กระป๋องเมื่อกี๊ขึ้นมาจิบต่อ

“กูจะถามว่า มึงได้ไปทำอะไรไว้รึเปล่า?” พีเจถามพร้อมกับจ้องผมเขม็ง

“มึงหมายถึงอะไรล่ะ?” ผมถามกลับด้วยท่าทางสบายๆ ถ้าทายไม่ผิดก็คงมีอยู่แค่เรื่องเดียว

“แจง”

“หึ” กูกะแล้ว ผมแสยะยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

“พี่โจ” ดลเรียกชื่อผมพร้อมกับจับมือผมเอาไว้

“ทำไมล่ะ มันไปบอกอะไรพวกมึง?” ผมจับมือดลทับไปอีกทีก่อนจะหันไปถามพีเจ

“เปล่า เค้าไม่ได้พูดอะไร แค่เดินมาหาป๊อนซ์แล้วก็มาบอกเลิกซะงั้น พวกกูเลยสงสัยกันว่ามันน่าจะมีสาเหตุ”  พีเจพูดออกมายาว
เหยียดพร้อมกับจ้องหน้าผมอย่างจับผิด

“แล้วทำไมมึงถึงคิดว่าเป็นกูล่ะ?”

“ก็ไม่รู้สินะ เซ้นส์กูบอกแบบนั้น”

“หึ เซ้นส์มึงดีเนอะ” ผมวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะก่อนจะเอนหลังพิงกับโซฟา

“โจ กูว่าหยุดเถอะ” พีเจพูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง

“หึ กูก็ไม่เห็นว่ากูจะทำอะไรนี่ กูก็อยู่ของกูเฉยๆ”

“โจ ทำแบบนี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยนะ กลับไปคุยกันดีๆดีกว่ามั้ย?”

“กูเบื่อกับการให้โอกาสเต็มทีแล้วพีเจ หวังว่ามึงจะเข้าใจ” ผมพูดยิ้มๆก่อนจะก้มหน้าลงช้าๆ

“อืมมม เอาเป็นว่ากูขอให้มึงไปคิดทบทวนดูอีกทีแล้วกัน”

“อืมม”

“พี่โจโทรหาแม่บ้างยัง?” ดลที่นั่งเงียบอยู่นานก็ถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“เพิ่งโทรเมื่อวาน ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ดูแลตัวเองได้” ผมพูดก่อนจะลูบหัวดลเบาๆ


“อืม งั้นพวกกูกลับก่อนแล้วกัน มีอะไรก็โทรหากูได้ตลอดนะ”

“อืม ขอบใจมากนะ” ผมพูดขอบคุณก่อนจะเดินไปส่งพีเจกับดลที่หน้าประตูก่อนจะเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิม

ความเงียบทำให้ผมได้อยู่กับตัวเอง และคิดทบทวนในสิ่งที่ทำไปทั้งหมด


ไม่รู้สินะ ผมว่าผมก็ไม่ได้ผิด ^^





“โจ” ป๊อนซ์เดินมาดักหน้าผมในระหว่างที่ผมกำลังจะเดินขึ้นตึกคณะ

“มีอะไร?” ผมถามนิ่งๆ

“เป็นไงบ้าง” ป๊อนซ์ถามพร้อมกับแสดงสีหน้าเป็นห่วง

“ปกติ แล้วมึงล่ะ ได้ข่าวว่าเมียมึงไปบอกเลิกนี่ หายเฮิร์ทรึยัง?”

“อืม ก็แปลกใจเหมือนกัน แต่กูก็คิดกับแจงเพื่อนมาสักพักแล้วแหละ แต่ไม่ได้บอก” ป๊อนซ์พูดออกมาเบาๆพร้อมกับมองหน้าผม

“อืม งั้นก็ดีเลยไม่ใช่เหรอ มึงจะได้ไม่ต้องบอกเลิกเค้าไง”

“อืมม แต่แจงดูแปลกๆ นี่เพื่อนเค้าเพิ่งมาบอกกูว่าเค้าดร็อปเรียนแล้วไปต่างประเทศ” หนักเอาการเลยนะนั่น

“อืม กูขึ้นไปเรียนก่อนนะ” ผมพูดตัดบทก่อนจะเดินขึ้นตึกเรียน

“เดี๋ยวตอนเที่ยงมารับไปกินข้าว อย่าไปกับคนอื่นอีกนะ”

“จะพยายาม” ผมตอบโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองป๊อนซ์เลย

หน้าตา น้ำเสียง ท่าทีของป๊อนซ์มันทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเฉยๆ



หรือว่าที่ผมทำไปทั้งหมดนี่มันเกินไปกับสิ่งที่ผมโดนกันนะ


........................................................................................TBC.........................................................................

มาอัพแล้วนะจ๊ะ  :katai4:

คาดว่าอัพตอนนี้ไปแม่ยกน้องโจคงอกแตกตายกันไปบ้างล่ะ  :z3:

ก็ต้องเข้าใจนะ ว่าบางทีโจนางก็เจ็บมาเยอะจนอาจจะ เรียกได้ว่า เจ็บจนชา  :hao5:


ตอนนี้เลยแสดงดาร์กไซด์ออกมาซะเลย  :katai1:

แม่ยกป๊อนซ์เพิ่มขึ้นบ้างรึยังนะ???? (เค้านึงแหละที่เป้นมาตั้งแต่แรกแล้ว 5555  :hao7: )

หลังจากอ่านคอมเม้นต์ก็เห็นได้ว่าคนอ่านมีความคิดที่หลากหลายมากกกก อ่านแล้วก็ แบบ เออเนอะ ทำให้มองเรื่องไปได่ในต่างมุมมองมากขึ้น

ขอบคุณคอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์เน้อออออ  :pig4:


อย่าเพิ่งวิ่งหนีน้องโจกันไปหมดน้าาาา




รักคนอ่านนะจ๊ะ  :mew1:









KATIEZZ

ออฟไลน์ GimNgek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยังรักโจเหมือนเดิม :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 o13 ชอบโจภาคนี้นะไม่ได้เลวมาแต่สันดานแต่อย่างว่าป๊อนซ์ก็ทำโจไว้เยอะแค่นี้ยังน้อยไปในความคิดเรา(ตกลงเรามาโซดิสเปล่าหว่า55+) แต่คิดอีกทีเราหมดใจกะป๊อนซ์ตั้งนานล่ะอยากให้โจเจอคนดีๆซะที ###โดนตบจากแม่ยกป๊อนซ์

ออฟไลน์ senty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ยังชูป้ายไฟเชียร์โจเหมือนเดิม โจเคยเจ็บยิ่งกว่านี้อีกตั้งไม่รู้กี่เท่า
ป๊อนซ์โดนแค่นี้อย่ามาทำเป็นทนไม่ได้   :m16:

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
นี่แหละที่เขาว่า ความเชื่อใจมีให้ได้แค่ครั้งเดียว การจะสร้างขึ้นมาใหม่มันยากเหมือนสร้างกำแพงเมืองจีน
ก็แอบหวังว่าเจ้าป๊อนซ์จะเอาความจริงใจและความอดทนเข้าสู้จนถึงที่สุด อย่าใช้ความรุนแรงแบบปล้ำเอาดื้อนะ(แม้เจ้จะนิยมก็เถอะ 555)
เพราะช่วงนี้คุณปวีณารณรงค์ไม่ให้ใช้ความรุนแรงในครอบครัวนะจ้ะ
เอาใจช่วยพระเอกให้สู้ชีวิต

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อืมมม สุดท้ายแจงก็ยอมแพ้ซินะ
โจนี่บทจะร้ายก็ใช่ย่อยเลยนะนั่น
แต่อย่างว่าอยากทำไรก็ทำไปเถอะ
ถ้าทำแล้วทำให้ตัวเองรู้สึกดีอ่ะนะ

nari

  • บุคคลทั่วไป
ที่แจงไปต่างประเทศ ไม่ใช่ว่าหลบไปวางแผนอะไรนะ ส่วนโจถ้าสนองกรรมเขาจนพอใจแล้วก็หยุดเถอะนะ :bye2:

ออฟไลน์ capool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ยังรู้สึกเฉยๆไม่สะใจเลย อยากให้ป๊อนซ์ได้รับความรู้สึกเจ็บใจที่โดนแจงสวมเขา คืออุตส่าห์ทำเรื่องเลวระยำเพื่ออีแจงยอมเสียคนที่รักตัวเองมากๆไปแต่สุดท้ายอีแจงกลับสวมเขายังเงี๊ยะให้มันอกแตกตายไปเลย สิ่งที่ป๊อนซ์ทำมันเกินกว่าจะกลับมารู้สึกดีได้ ความรู้สึกมันเสียไปแล้วอ่ะ เกลียดมันจนไม่อยากเห็นมันมีคามสุข  แต่ตอนจบก็อยากให้ได้คู่กันนะเพียงแต่ขอให้มันเจ็บจนเกือบตายก่อน และก็ไม่อยากให้โจรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเลยมันอ่อนแอ แค่นี้เองยังไม่เท่ากับสิ่งที่พวกมันทำกับโจเลย

ออฟไลน์ saradino1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ยังน้อยไป ลากนังผกาแจง มาชำระความแค้นก่อน โดยเฉพาะไอ้ป๊อนซ์ แสแสร้ง หายความจำเสื่อมมาหลอกโจ ยังน้อยไปๆๆๆๆ แค้นๆๆๆๆๆ อินจัด 55555 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

Azakura_Hibari

  • บุคคลทั่วไป
ขอเม้นต์บ้างงงง (เป็นนักอ่านเงามาตั้งนาน แต่ตอนนี้ทนไม่ไหวละ แหะๆ)

บอกตรงๆชอบโจเวอร์ชั่นนี้มากอ่ะ สะใจดี เชียร์ให้โจเอาคืนให้มันสาสมกับที่โจเคยได้รับ ตอนนี้ที่โจทำเราว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ไม่ว่ากี่ครั้งป๊อนซ์ทำให้โจเสียใจ โจก็ไม่เคยโกรธไม่เคยเกลียดเลย มีแต่ให้อภัยจนเรายังรู้สึกเลยว่าโจโง่มาก ที่ยอมทนกับคนคนนี้
ส่วนป๊อนซ์ปากก็บอกว่ารักๆ แต่ทำไมชอบทำให้โจเสียใจ นี่หรอ?คนรักกัน ตั้งแต่สมัยที่ไปเจอกับน้องพลัสเตอร์ละ
ครั้งนั้นถ้าน้องพลัสเตอร์ไม่ได้เสียกับไปป์ไปซะก่อน คิดว่าเรื่องมันจบมั้ย หรือคิดว่าเรื่องมันจะจบแบบไหน ทั้งหมดเป็นเพราะป๊อนซ์คนเดียว
แล้วพอมาตอนนี้ โอเค ป๊อนซ์ความจำเสื่อมอันนี้เข้าใจ แล้วตัวโจเองก็เข้าใจด้วยว่าป๊อนซ์จำตัวเองไม่ได้ โจเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร พยายามอยู่ห่างๆ
แต่แล้วก็ไม่สงบสุขเพราะสองผัวเมียป๊อนซ์กับแจงก็ยังพยายามเข้ามายุ่งวุ่นวายอยู่ในชีวิตโจ ทั้งๆทีโจก็อยู่เฉยๆ แต่ก็ยังหาเรื่องโจกันอยู่ได้
ป๊อนซ์อาจจะอยากหาคำตอบว่าตัวเองเคยเป็นอะไรกับโจ แต่แจงนี่สิ คิดจะฆ่า เราว่าที่โจทำกับแจงมันน้อยไปมากๆกับที่แจงทำ
แล้วป๊อนซ์นะ ก็รู้อยู่ว่าโจมีปัญหา โจมีอาการป่วยอยู่แล้วก็รู้ด้วยว่าโจป่วยเป็นอะไรเพราะอะไร แต่ทำไมต้องเอาความรักมาใช้มาทำกับโจแบบนี้
ไม่รู้สึกสงสารโจบ้างเลยหรอ? หรือว่าต้องให้โจเป็นบ้าจนต้องอยู่แต่ในโรงพยาบาลเลยใช่มั้ยถึงจะพอใจ แต่ก็ดีแล้วที่โจไม่เป็นอะไรจนต้องเข้าโรงพยาบาล
แล้วพอโจเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขอบอกเลยเราถูกใจมาก ในที่สุดโจก็เลิกโง่ได้ซะที ตอนแรกก็ไม่หวังว่าโจต้องแก้แค้นสองคนนั้นหรอก
เราอยากให้แค่โจเลิกงมงายกับป๊อนซ์ได้แล้ว อยากให้โจไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าด้วยซ้ำ
แล้วก็ขอบอกว่าเบื่อมาก กับคำว่าขอโอกาสของป๊อนซ์ ขอมากี่ครั้งแล้ว แล้วทุกครั้งก็ตอบแทนด้วยความเสียใจงั้นหรอ
ถึงตอนนี้หลายๆคนอาจจะสงสารป๊อนซ์บ้างแล้ว แต่เราคนนึงล่ะ ที่สงสารไม่ลงจริงๆ เพราะโจเจ็บมาเยอะเกินกว่าที่ป๊อนซ์จะมาขอโอกาสกันได้ง่ายๆ
แล้วก็อยากให้ป๊อนซ์รู้จริงๆว่าตัวเองก็โง่โดนชะนีสวมเขา โถ่ๆๆๆๆ คิดมาแก้แค้นโจ เพราะโจทำคนที่ตัวเองรักเจ็บ อยากจะรู้จริงๆว่าถ้าป๊อนซ์รู้ว่าแจงสวมเขาให้จะทำหน้ายังไง หึ ถึงตอนนี้จะบอกว่าไม่ได้รักแจงแล้วก็เถอะ แล้วก็นะไม่เข้าใจป๊อนซ์ ที่บอกว่าไม่ได้รักแจงแล้ว แต่ทำไมไม่บอกเลิกล่ะ จะเก็บมันไว้ทำไม เพราะสงสารหรอ? ทีกับโจไม่เห็นสงสารอย่างนี้เลย แต่ก็ช่างเถอะ เพราะยังไงตอนนี้ชะนีแจงก็มาบอกเลิกป๊อนซ์แล้ว ก็แค่สงสัยอ่ะนะ

เม้นต์เยอะมาก อินจัด ต้องขอโทษด้วยที่ผ่านมาไม่เคยเม้นต์ ที่ไม่เม้นต์เพราะมันอึดอัดจนเม้นต์ไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มด่าป๊อนซ์จากตรงไหนก่อน ฮ่าๆๆๆ
ยังไงก็อย่าคิดมากกับคอมเม้นต์ของเรานะคะ มันเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวน่ะ แค่อยากระบายบ้างเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆๆ
รอติดตามต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2013 13:05:21 โดย Azakura_Hibari »

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
โจเปลี่ยนไปมาก จนไม่เหลือเค้าโจคนเดิม เปลี่ยนบุคคลิกไปจนเรียกว่าเยอะจัด
จนไม่สมกับควาอ่อนโยนน่ารักที่ผ่านมา จนทำให้ตอนนี้เราพอชั่งใจ เอาความผิดป๊อนซ์มา
หาค่า เราว่าที่ป๊อนซ์ผิดคงผิดที่จำโจไม่ได้ แต่เมื่อจำได้ รักได้แล้วอย่างที่โจต้องการ ทำไม
โจจึงไม่ให้อภัย รู้ว่าเจ็บ แต่ความเจ็บทั้งหมด โทษเป็นความผิดใครไม่ได้หรอก หากจำเป็นจริง
คงไม่มีใครจะลืมคนรักหรอก หากไม่จำเป็น แต่พอมานึกตอนนี้เราว่า โจอาจจะร้ายและน่ากลัวไปสำหรับเรา
ภาพตอนนี้ของโจลบภาพโจ ดื้อคนเก่าของป๊อนซ์ไปหมด เราว่าโจกลับมาเป็นแบบเดิมดีกว่า ลองมา
เย็นชาเราว่าน่ารัดกว่าลุ๊คนี้อะ

ปล.แต่ไงก็รักโจเหมือนเดิม คงเจ็บเหมือนตายทั้งเป็นมานาน โจเลยเปลี่ยนทีซะสุดขั้ว

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
+1 บวกเป็ดจ๊ะ

ออฟไลน์ milkky way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอบคุณสำหรับนิยาย ดีๆ ค๊า  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :laugh:
อ่านตอนนี้แล้ว รู้อีกอย่างนึงเลย

อิแจง..เป็นผีเน่า

ที่ไปเลือกเช่า

ไอ่ป๊อนซ..เป็นโลงผุ

แค่ชั่วคราว


 :laugh5:
สะใจโว้ยยยยย

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Special






[PJ x Dol]








[Dol]








“ดล ไปดูหนังกันมั้ย?” พี่พีเจที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หันมาถามผม

“พี่พีเจอ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอครับ?” ผมวางการ์ตูนในมือลงก่อนจะหันหน้าไปมองพี่พีเจที่ตอนนี้ดูซูบเซียวลงไปเยอะเนื่อง
จากต้องโหมอ่านหนังสือหนักเพื่อการสอบไฟนอลที่กำลังจะมาถึง ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าบัญชีเค้าเรียนกันหนักขนาดนี้เลย

“ก็พี่เห็นดลดูเบื่อๆนี่ ก็เลยว่าจะพาออกไปข้างนอก”พี่พีเจตอบกลับพร้อมกับส่งยิ้มละมุนมาให้

“ไม่เป็นไรครับพี่พีเจอ่านไปเหอะ ดลไม่ได้เบื่ออะไร” ผมตอบพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมโอเค แต่เอาจริงๆ
ผมก็เบื่อนะครับ ต้องมานั่งๆนอนๆอยุ่ในห้องแบบนี้

“แน่นะ” พี่พีเจถามอีกครั้ง

“ครับ”

“งั้นขอพี่อ่านเรื่องที่จะสอบเสร็จก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพาไปดูฮังเกอร์เกมส์”

“เฮ้ยยย จริงนะ ดลอยากดูอยู่พอดีเลย” ผมกระโดดอยู่บนโซฟาด้วยความดีใจ

“ครับ แต่ตอนนี้ก็รอก่อนนะ”

“ครับผม” ผมพยักหน้ารับรัวๆก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปหาหนังสือการ์ตูนเล่มอื่นมาอ่านฆ่าเวลาต่อ




“ดล”

“อืมมมม” ผมครางออกมาในลำคอก่อนจะผลิกตัวหนีการรบกวนนั้น

“ดลครับ ไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว เดี๋ยวพี่พาไปดูฮังเกอร์เกมส์” ทันทีที่ได้ยินคำว่าฮังเกอร์เกมส์ผมก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที ทั้งๆที่
ตายังไม่เปิดด้วยซ้ำ

“รอดลแป๊ปนึงนะ” ผมพูดก่อนจะเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินออกมา

“ไปกันเหอะครับ” ผมพูดพร้อมกับเดินไปสะกิดบอกพี่พีเจที่ตอนนี้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอีกแล้ว

“โอเคครับ นี่ตื่นรึยังเนี่ย?”พี่พีเจถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมที่กำลังง่วงๆอยู่ถึงกับหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลย

“ตื่นแล้วซิครับ ไม่ตื่นจะเดินยังไง” ผมรีบพูดแก้เขินออกมาก่อนจะเดินนำหน้าออกจากห้องมาทันที



“โห คนเยอะมากอ่ะ” ผมมองไปที่เคาเตอร์ซื้อตั๋วที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่มาต่อแถว

“ไม่เป็นไรพี่ซื้อไว้แล้ว” พี่พีเจพูดก่อนจะหยิบตั๋วหนุงในกระเป๋าตังค์ออกมา

“เฮ้ยยย ซื้อเมื่อไหร่เนี่ย??” ผมถามพร้อมกับทำตาโตด้วยความแปลกใจ

“จะพาแฟนมาเที่ยวทั้งที ก็ต้องมีกรวางแผนล่วงหน้ากันหน่อยซิ” พี่พีเจพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ

“พี่พีเจอ่ะ” ผมหลบหนีสัมผัสก่อนจะเอามือขึ้นมาทาบที่หน้าเพื่อปิดสีแดงเรื่อที่เริ่มจะลามไปจนทั่วหน้า

“เขินเหรอเนี่ย” พี่พีเจพูดก่อนจะก้มหน้าลงมามองหน้าผม

“เปล่าซะหน่อย” ผมเถียงออกไปก่อนจะยืดตัวขึ้นมาแล้วเดินนำออกมาจากตรงนั้นทันที




“เราดูรอบกี่โมงอ่ะ?”ผมถามพร้อมกับหันไปมองพี่พีเจที่เดินตามหลังผมอยู่

“ทุ่มยี่สิบครับ”

“อืมมม นี่ก็หกโมงครึ่ง อีกตั้งนานแน่ะ” ผมก้มลงมองนาฬิกาก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกพี่พีเจ

“พูดแบบนี้ หิวล่ะซิ”

“ง่า รู้ได้ไงอ่ะ”

“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ งั้นไปหาอะไรกินกันก่อนก็ได้” พี่พีเจพูดก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือของผมไว้ แล้วเดินจูงไปยังร้านซูกิชิบุฟเฟ่ต์
ร้านโปรดของผม





“พี่พีเจ ดลอยากกินวุ้นเส้น” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่จานวุ้นเส้นที่กำลังเลื่อนมาเรื่อยๆตามสายพาน

“อ่ะ” พี่พีเจเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะยื่นมาให้ผม

“ขอบคุณครับ” ผมพูดขอบคุณก่อนจะยิ้มกว้างไปให้

“กินยังไงเนี่ยเรา” พี่พีเจพูดพร้อมกับส่ายหน้าหน่อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่แล้วซับตรงมุมปากของผม

“อ๊ะ ผมเช็ดเองก็ได้” ผมพูดพร้อมกับแย่งทิชชู่จากมือพี่พีเจมาเช็ดเอง

“หึๆ” พี่พีเจหัวเราะเบาๆก่อนจะนั่งมองผมกินต่อ

“ไม่กินเหรอครับ?” ผมถามเมื่อเห็นว่าในจานของพี่พีเจมีเพียงซูชิไม่กี่ชิ้น กับผักแค่นิดหน่อย ส่วนของในหม้อต้ม ผมเป็นคนกิน
เองเกือบทั้งหมด

“กินไปเหอะ” พี่พีเจพูดก่อนจะพยักเพยิดให้ผมกินต่อ

“ไม่อ่ะ” ผมวางตะเกียบก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก พร้อมกับทำแก้มป่องๆอย่าเอาใจ

“เป็นอะไรไปอีกล่ะครับ?”

“ก็พี่พีเจไม่กินอ่ะ”

“ซะงั้น อ่ะนี่พี่กินแล้วก็ได้” พี่พีเจส่ายหัวเบาๆก่อนจะตักหมูตักกุ้งในหม้อไปกิน

“ให้มันได้อย่างนี้สิ เด็กดี” ผมพูดก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวพี่พีเจเบาๆ

“ลามปามละ” พี่พีเจพูดเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะก้มลงกินต่อ

“แกดูผู้ชายสองคนนั้นดิ ไม่อายเลยเนอะ” ผมสะอึกกับคำพูดของโต๊ะข้างๆก่อนจะวางตะเกียบลงแล้วหยิบน้ำมาจิบนิดๆ

“เออนั่นดิ คนตัวสูงก็หล่อดีนะ ไม่น่ามาเอาผู้ชายเลย”

“แค่กๆ” ผมสำลักออกมานิดๆเมื่ออีกคนหนึ่งพูดตอบ

นั่นดิ พี่พีเจเพอร์เฟ็กขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกับผู้หญิงคงจะมีคนต้องอิจฉากันไม่น้อยเลยทีเดียว

พอคิดได้แบบนั้นขอบตามันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมต้องพยายามก้มหน้าลงแล้วแกล้งทำเป็นหยิบไอโฟนออกมา
จากกระเป๋าแล้วกดนั่นกดนี่เพราะไม่อยากเงยหน้าขึ้นไปมองพี่พีเจที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม

พี่พีเจถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากโต๊ะไป หึๆ ไม่แปลกหรอก พี่แกก็คงจะอายนั่นแหละ เป็นผม ผมก็
อายเหมือนกัน

ผมยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกแต่ปาดออกมาเท่าไหร่มันก็ยิ่งไหลออกมามากเท่านั้น บ้าจริงๆเลย เราต้องหยุดร้องก่อนที่พี่พีเจจะ
กลับมานะ

“ขอโทษนะครับ” เสียงของพี่พีเจดังขึ้นที่โต๊ะข้างๆทำให้ผมต้องหันไปมอง

“คะ?” ผู้หญิงโต๊ะนั้นทำหน้างง

“คือผมคิดว่าพวกคุณไม่มีสิทธิ์มาพูดเกี่ยวกับพวกผมแบบนั้นนะครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องอะไรของพวกคุณเลย” พี่พีเจพูดออกมา
ยาวเหยียดก่อนจะจ้องมองสองคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชาจนผมเองยังอดรู้สึกกลัวไม่ได้

“เอ่อ..” ผู้หญิงสองคนนั้นหน้าเสียลงอย่างเห็นได้ชัด

“อีกอย่างที่ผม ‘ไม่เอา’ ผู้หญิงก็เพราะผู้หญิงมีคนแบบพวกคุณอยู่นี่แหละ”

“.....”

“เพราะงั้น อย่ามาพูดวิจารณ์ผมกับแฟนผมแบบนั้นอีก หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ” พี่พีเจพูดด้วยน้ำเสียงกระชากเล็กน้อยก่อจะเดิน
กลับมานั่งตามเดิมแล้วยิ้มให้ผมเบาๆ

“ร้องทำไม?” พี่พีเจเอ่ยถามผมด้วยเสียงนุ่มๆก่อนจะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน

“อื้อๆๆๆ” ผมส่ายหัวไปมาพร้อมกับร้องไห้ออกมาอีก

“อิ่มรึยังครับ?”

“อืออๆๆๆ” ผมพยักหน้ารัวๆ

“งั้นไปกันเลยแล้วกัน” พี่พีเจเดินอ้อมโต๊ะมาถือกระเป๋าให้ผมก่อนจะพยุงให้ผมลุกขึ้นแล้วจับมือผมไว้แน่นก่อนจะเดินนำออกไป



หลังจากจ่ายตังค์เสร็จเราสองคนก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย เพราะนี่ก็เพิ่งจะทุ่มเดียวเอง

“นั่งรอตรงนี้ก่อนได้มั้ยครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อของก่อน”พี่พีเจพูดพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ

“ครับ”ผมพยักหน้าพร้อมกับรับคำสั้นๆแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ยาวที่ทางห้างจัดไว้ให้

พี่พีเจหายไปพักใหญ่ๆจนผมเริ่มจะกระวนกระวายเพราะอีกแค่ห้านาทีหนังก็จะเริ่มแล้วด้วย

“อ่ะ” เสียงพูดพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆตัวหนึ่งยื่นมาตรงหน้าของผม

“หืม??” ผมส่งเสียงในลำคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่พีเจที่กำลังยืนยิ้มอยุ่

“ก็เห็นอารมณ์ไม่ค่อยดี เลยไปหาอะไรมาปลอบใจ” พี่พีเจพูดพร้อมกับเขย่าตุ๊กตาหมีตัวนั้นไปมา

“ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” ผมพูดติดงอนๆก่อนจะรับตุ๊กตาตัวนั้นมากอดไว้แล้วเดินนำไปที่โรงหนัง

“ที่ทำอยู่นี่ไม่ใช่เด็กรึไง”

“อย่าคิดว่าไม่ได้ยินนะ” ผมหันมาแหวใส่พี่พีเจอีกครั้งก่อนจะเดินหน้างอเข้าโรงหนังไป




“หนาวมั้ย?”พี่พีเจกระซิบถามผมหลังจากที่เราดูหนังกันมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว

“นิดหน่อยครับ” ผมหันไปตอบเสียงเบาก่อนจะหันกลับมาสนใจกับหนังต่อ

“อ่ะ” พี่พีเจถอดเสื้อเจ๊กเก็ตออกแล้วเอามาคลุมให้ผม

“แล้วพี่ไม่หนาวเหรอ?”

“ไม่เท่าไหร่ คลุมไว้อ่ะดีแล้ว เดี๋ยวไม่สบายอีก” พี่พีเจพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ





“พี่พีเจ ตัวนั้นมันเป็นตัวแทนจากเขตไหนอ่ะ?” ผมสะกิดพี่พีเจพร้อมกับถามถึงตัวละครที่ผมจำไม่ได้ว่ามันมาจากไหน

“....” เงียบ นี่คือคำตอบเหรอ

แต่เมื่อผมหันไปมองก็ต้องยิ้มออกมานิดๆเมื่อเห็นว่าพี่พีเจนั่งหลับไปแล้ว คงจะเพลียจากการอ่านหนังสือล่ะมั้ง ผมเลยปล่อยให้พี่
แกพักผ่อนไปโดยไม่รบกวนเพราะเดี๋ยวพี่แกก็ต้องขับรถกลับคอนโดอีก ให้พักบ้างดีกว่า




“พี่พีเจครับ ตื่นได้แล้ว” ผมเขย่าตัวพี่พีเจเบาๆเมื่อหนังจบลง

“หืมม?? อ้าวจบแล้วเหรอ”

“ครับ ไปกันเถอะ” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเอาตุ๊กตาหมีมากอดไว้

“อืม” พี่พีเจรับคำเบาๆก่อนจะเอาเจ๊กเก็ตไปถือไว้เองแล้วเดินตามหลังผมออกมา

“กลับบ้านกันเถอะพีดี” ผมก้มลงพูดกับตุ๊กตาหมีก่อนจะจุ๊บเบาๆลงบนหัวของมัน

“หืมม ใครคือพีดี?” พี่พีเจถามพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“นี่ไง” ผมยื่นตุ๊กตาหมีไปตรงหน้าพี่พีเจก่อนจะเอากลับมากอดไว้ตามเดิม

“อะไรคือพีดีอ่ะ?”

“ก็พีเจ กับ ดล ไง” ผมตอบพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ

“หึๆ”

“หัวเราะอะไรอ่ะ?” ผมหันไปถามเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าพี่พีเจกำลังขำกับท่าทางของผม

“เปล่านะ พี่ไม่ได้หัวเราะ” พี่พีเจพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้

“โกหก ก็เห็นอยูว่าหัวเราะ” ผมพูดก่อนจะเดินหนีพี่พีเจออกมาด้านนอก

ปี๊นนนนนนนนนนนน

เสียงบีบแตรดังไปทั่วบริเวณลานจอดรถ ส่วนผมก็หลับตาปี๋เพราะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห้นว่ามีรถเก๋งคันนึงกำลังวิ่งตรงมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง

ตุ๊บ!!

เสียงคนกระทบพื้นดังขึ้น แต่ทำไมผมไม่เจ็บเลยล่ะ

ผมค่อยๆลืมตาก็พบว่าตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของพี่พีเจที่ตอนนี้แขนข้างซ้ายถลอกจนเลือดไหลออกมาไม่หยุดเลย

“เป็นอะไรมั้ยครับ” คนขับรถคันเมื่อกี๊รีบเดินลงมาดูอาการของพี่พีเจทันที

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากที่เป็นห่วง”พี่พีเจตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืนโดยมีผมช่วยประคองอยุ่ข้างๆ

“อ๋อครับๆ” คนขับรถคันนั้นรับคำก่อนจะเดินจากไป

“เดินระวังหน่อยสิดล” พี่พีเจดุผมเบาๆพร้อมกับจับผมหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อจะดูว่ามีร่องรอยบาดเจ็บอะไรรึเปล่า

“....” ผมเงียบเพราะยังคงตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่

“อืมม ไม่เป็นอะไรเลย งั้นกลับคอนโดกันเหอะ” พี่พีเจพูดพร้อมกับประคองผมไปที่รถ

“เอ่อ แต่แขนพี่..”

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยไปทำแผลที่คอนโดก็ได้”พี่พีเจพูดพร้อมกับยิ้มให้ผมนิดๆ

“ครับ”ผมรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินตรงไปขึ้นรถเพื่อจะกลับคอนโด




“อันนี้แสบนะครับ” ผมพูดก่อนจะราดแอลกอฮอล์ลงบนแผลของพี่พีเจ ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ถูกรึเปล่า ก็ผมไม่เคยทำแผลให้ใครมา
ก่อนเลย

“โอ๊ยยยยย” พี่พีเจร้องออกมาทันทีที่แอลกอฮอล์ราดลงบนแผล

“อ่า ทำไงดีๆๆๆ” ผมลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปทั่วห้องก่อนจะหันไปเจอพีดี

“อ่ะ พี่พีเจกอดพีดีไปด้วยแล้วกัน” ผมพูดพร้อมกับยื่นพีดีไปให้ พี่แกก็ยอมรับไปกอดไว้โดยดี

หลังจากนั้นผมก็ใส่ยาโน่นยานี่จนหมดแล้วปิดท้ายด้วยการปิดผ้าก็อตเอาไว้

“เสร็จแล้วครับ” ผมพูดก่อนจะเอาอุปกรณ์ทำแผลไปเก็บตามเดิม

“อืมขอบคุณนะ” พี่พีเจก้มมองที่แผลก่อนจะเอ่ยขอบคุณผม

“ดลดิต้องขอบคุณพี่” ผมพูดพร้อมกับกลับมานั่งลงข้างพี่พีเจตามเดิม

“พี่เต็มใจทำน่า ไม่ต้องขอบคุณหรอก”

ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่พีเจก่อนจะดึงพีดีออกมาจากแขนพี่แกแล้วเอามันไปจุ๊บที่แก้มของพี่พีเจเบาๆ

“แทนคำขอบคุณนะครับ”

“อยากได้จากดลมากกว่าอ่ะ พีดีมันขนเยอะพี่จั๊กจี้” พี่พีเจพูดพร้อมกับหัวเราะออกมานิดๆ

“ไม่ต้องมาพูดเลย ได้โอกาสแล้วชอบหื่นตลอด คืนนี้นอนกับพีดีไปเลย” ผมพูดแก้เขินก่อนจะเดินหันหลังเข้าห้องนอนไป

“ไม่เอาอ่ะ กอดพีดีไม่อุ่นเหมือนกอดดลอ่ะ” พี่พีเจพูดพร้อมกับมากอดผมไว้จากด้านหลัง

ผมยิ้มออกมานิดๆก่อนจะกอดแขนพี่แกตอบ

“อีกอย่างพีดีมันให้พี่ ‘กอด’ ไม่ได้ด้วย และพี่ก็คงดูวิปริตไปหน่อย ถ้าจะ ‘กอด’ กับตุ๊กตา”

“ทะลึ่ง!!!!” ผมพูดก่อนจะตีไปที่แขนของพี่แกเบาๆ



แต่ถึงจะทะลึ่งยังไง ผมก็รักอยู่ดี คนๆนี้แหละคือคนที่ใช่สำหรับผม ไม่ว่าใครจะมองยังไง ไม่สำคัญ เพราะความรักมันขึ้นอยู่กับคนแค่สองคนเท่านั้น ...



...............................................................EndOfSpecialPart........................................................................

มาอัพสเปเชียลคั่นอารมณ์จากตอนหลักกันก่อนน้าาา  :katai4:

อีกอย่างคือวันนี้คนเขียนเพิ่งไปดูฮังเกอร์เกมส์มา สนุกมากกกกกกกก :hao7:

และที่สำคัญตอนกลับเข้าดรงเรียนดันเจอดลกับพีเจอยู่ด้วยกัน ฟินเลยยยยยยยย  :ling1:

ก็เลยต้องมาระบายออกด้วยวิธีนี้แหละ  :katai5:


ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะคะ  :pig4:

คิดผิดแฮะนึกว่าจะมีคนไม่ชอบโจ กลับชอบกันเฉยเลย  :really2:

เอาเป็นว่าต้องรอดูกันต่อไปว่าคู่หลักของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป  :a5:






รักคนอ่านนะจ๊ะ  :mew1:










KATIEZZ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ดลให้รางวัลตอบแทนพี่พีเจ
ซะดีดี

 :oo1:

ต้องงี้ๆๆๆ ดีนะ
อิอิ

minimonmon

  • บุคคลทั่วไป
ว่ะ ฮะ ฮะ สะใจโว๊ย ชอบโจลุคนี้มากอ่ะ แอบชอบพี่ฮอร์นแฮะ =_=

ออฟไลน์ senty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ดลน่ารักงี้ พีเจหลงตาย.  :-[

banabasz

  • บุคคลทั่วไป
55555  :mew3: ชื่อตุ๊กตาหมีน่ารักเลยอ่ะ  :-[

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ตอนที่ 20 (100%)






[Pontz x Joe]






[Joe]







Rrr

เสียงสั่นเตือนข้อความดังขึ้นขณะที่ผมกำลังจกเลกเชอร์อยู่

“แน็ต จดดีๆนะมึง กูดูมือถือแปป” ผมวางปากกาแล้วหันไปบอกไอ้แน็ตที่นั่งจดอยู่ข้างๆก่อนจะหยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋า

Pontz:กูรออยู่หน้าคณะแล้วนะ

รีบเหลือเกินนะมึง กลัวกูจะไปกับใครล่ะ

Rrr

ไอโฟนของผมสั่นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นไลน์จากพี่ฮอร์น

P’Horn:กินข้าวกับพี่มั้ย??? *0*

ผมยิ้มขำๆกับอีโมของพี่แกก่อนจะพิมพ์ตอบไป

Joe:มีนัดแล้ว

P’Horn:ว้า มาช้าตลอดเบยย YY”

Joe:ครั้งหน้าแล้วกันพี่

P’Horn:จะไม่พลาดแล้ววว \(^^)/

ผมอ่านก่อนจะกดล็อคหน้าจอแล้วยัดไอโฟนกลับเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม

“คุยกะใคร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” ไอ้แน็ตถามผมโดยที่ตาไม่ได้ละมาจากสมุดเลยแม้แต่น้อย

“พี่ฮอร์น” ผมตอบสั้นๆก่อนจะจดต่อ

“ผัวใหม่เหรอ?”

ไวกว่าความคิด มือผมก็ฟาดลงไปเต็มๆกลางกบาลของไอ้แน็ต

“โอ๊ยยยย เชี่ย!!!” ไอ้แน็ตเผลออุทานออกมาเสียงดัง

“นักศึกษาตรงนั้นมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ?” อาจารย์ที่ยืนปิ้งสไลด์อยู่หน้าห้องชะงักก่อนจะหันมาถามไอ้แน็ตพร้อมกับจิดตามอง
ลอดแว่นออกมา

“เอ่อ ขอโทษครับอาจารย์”ไอ้แน็ตยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวก่อนจะก้มลงจดต่อ

อาจารย์ถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะก้มลงไปปิ้งสไลด์ต่อด้วยความเร็วมากกว่าเดิม

จารย์คร้าบบบบ โกรธไอ้แน็ตก็อย่ามาลงกับนักศึกษาคนอื่นๆแบบนี้สิครับ



“ไปกินข้าว” ผมเดินไปสะกิดไหล่ไอ้ป๊อนซ์ที่มานั่งรอผมพร้อมกับหนังสือกองโตที่เอามาอ่านระหว่างรอ

“อ่ะ อืมมม เรียนเสร็จแล้วเหรอ?” ป๊อนซ์หันมาถามผมก่อนจะก้มลงไปเก็บของแล้วเอามาถือไว้

“โจไปกินข้าวเหรอ?” ไอ้แน็ตที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จของวิ่งถลาลงมาจากตึกจนหน้าเกือบคว่ำลงจูบบันได

“เออ” ผมหันไปตอบสั้นๆก่อนจะเดินตามหลังป๊อนซ์ไปต่อ

“กูอ่ะ” มันพูดพร้อมกับชี้เข้าหาตัวเอง

“ผัวมึงโดดเรียนมารออยู่ใต้ต้นไม้โน่นนน” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปยังเมฆที่มาจอดรถยืนรออยู่ได้พักใหญ่ๆแล้ว

“ห๊ะ!! ไอ้ชิบหายเอ๊ยยย” ไอ้แน็ตโวยวายออกมาก่อนจะเดินตรงไปหาเมฆที่ยังคงยืนหน้านิ่งอยู่ ไม่รู้จะเก๊กเหี้ยไรนักหนา

“จะกินอะไรอ่ะ?” ป๊อนซ์เปิดประตูเอาหนังสือวางเบาะหลังก่อนจะเงยขึ้นมาถามผม

“ตอนบ่ายมีเรียนป่ะ?” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับไปแทน

“ไม่มี” มันตอบกลับมาสั้นๆพร้อมกับขมวดคิ้วเป็นเชิงสงสัย

“งั้นไปร้าน XXX แล้วกัน มันอยู่นอกเมืองหน่อยอ่ะ รู้จักป่ะ?”

“อืมรู้จักๆ เคยไปสองสามครั้งละ”

“งั้นก็ดี กูจะได้ไม่ต้องบอกทาง” พูดจบผมก็เปิดประตูแล้วนั่งลงตรงเบาะข้างคนขับทันที

ป๊อนซ์ขับรถเรื่อยๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไรเพราะตอนบ่ายเราสองคนไม่มีเรียนอยู่แล้ว




“มึงจะกินไรอ่ะ?” ป๊อนซ์มองเมนูผ่านๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามผม

“อยากกินกุ้งเผา” ผมดูเมนูก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ

“สั่งดิ กูกินด้วย” มันพูดพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ

“อืม งั้นเอากุ้งเผาครับ” ผมหันไปสั่งพนักงานที่ยืนรออยู่ข้างๆ

“ครับ” พนักงานพยักหน้ารับคำก่อนจะก้มลงจดรายการที่ผมสั่งไป

“เอาไรอีกอ่ะ?”

“เอ่อ แล้วก็...” ผมพูดเกริ่นออกมาก่อนจะทำหน้าคิดหนัก กินไรดีวะกู

“เอาข้าวสวย 2 จาน แกงจืดเต้าหู้ไข่ หมึกนึ่งมะนาว ทอดมันกุ้ง ยำรวมมิตร ครับ” ป๊อนซ์เงยหน้าขึ้นสั่งก่อนจะหันมายิ้มให้ผม

ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงแปลกใจ  ทำไมของที่มันสั่งไป แม่งของชอบผมทั้งนั้นเลยล่ะ??

“จะเอาอะไรอีกมั้ย?” ป๊อนซ์หันมาถามผมก่อนจะปิดเมนูและยื่นกลับไปให้พนักงาน

“ไม่อ่ะ แค่นี้ก่อนก็ได้” ผมส่ายหน้านิดๆก่อนจะปิดเมนูแล้วส่งคืนให้พนักงานเช่นกัน

พนักงานรับเมนูก่อนจะก้มให้นิดๆแล้วเดินเข้าครัวไป

“ไม่ได้มากินกันแบบนี้นานแล้วเนอะ” จู่ๆป๊อนซ์ที่นั่งเงียบมานานก็พูดขึ้นมา

“หึ! พูดอย่างกับจำได้แล้ว” ผมหัวเราะออกมานิดๆก่อนจะพูดประชดมันไป

“แล้วถ้ากูบอกว่าใช่ล่ะ” ป๊อนซ์พูดเสียงนิ่งพร้อมกับแสดงสีหน้าจริงจังออกมาจนผมอดคิดไม่ได้ว่ามันจะพูดความจริง

“กูไม่เชื่อ!” ผมพูดออกมาชัดเจนก่อนจะก้มลงเล่นไอโฟนโดยไม่ได้สนใจคนตรงหน้าว่าจะแสดงสีหน้าอย่างไรออกมา




“เดี๋ยวกูแกะให้” ป๊อนซ์นั่งมองผมเอาส้อมจิ้มๆกุ้งตัวโตในจานก่อนจะยกไปแกะซะเอง

“กูแกะได้” ผมพูดเสียงแข็งพร้อมกับพยายามจะเอากุ้งคืน

“อย่าดื้อได้มั้ย?” ป๊อนซ์พูดเสียงเหนื่อยๆก่อนจะลงมือแกะกุ้งโดยไม่สนใจคำท้วงติงของผม

“อ่ะ กินซะ” หลังจากแกะกุ้งจนเหลือแต่เนื้อ มันก็ยกมาใส่ในจานของผม

“ก็บอกว่าแกะได้ๆ” ผมยังคงพึมพำต่ออย่างไม่พอใจ มันทำอย่างกับผมไม่มีมือจะทำเองงั้นแหละ

“แต่กูอยากแกะให้ จบนะ” มันนิ่งก่อนจะพูดตอบกลับมาแล้วก็เริ่มเอากุ้งตัวที่สองไปแกะต่อ

“แก แกว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันป่ะ?” เสียงซุบซิบนินทาจากผู้หญิงโต๊ะข้างๆดังขึ้น

“เป็นแฟนดิแก ดูแลกันขนาดนั้น”

“หึๆ” ป๊อนซ์ที่น่าจะได้ยินบทสนทนานั้นเหมือนกันก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“หัวเราะอะไรของมึง?” ผมถามมันเสียงขุ่น

“เอาน่า ช่างเขาเหอะ อย่าอารมณ์เสียดิ” มันพูดพร้อมกับยกกุ้งตัวที่สองมาใส่ในจานของผม

“กินเองบ้างเหอะ” ผมแหวออกมาพร้อมกับยกกุ้งตัวนั้นกลับไปใส่จานของมัน

“มึงกินไปเหอะ กูเห็นมึงกินกูก็อิ่มแล้ว” มันพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม และยกกุ้งตัวนั้นกลับมาใส่จานผมอีกครั้ง

“เหอะ! โชว์แมนเรียกเรตติ้งรึไง?” ผมพูดออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะลงมือกินโดยไม่สนใจมันที่กำลังตัดโน่นตักนี่ให้อยู่เรื่อย

“แก เค้างอนกันน่ารักเนอะ” มาอีกละ โอ๊ยยยยย ให้กูได้กินแบบสงบๆเถอะขอร้อง

“เออ พี่อีกคนก็ดูแคร์จังเลยเนอะ ตักนั่นตักนี่ให้กินตลอดเลย”

“รำคาญ!!” สิ้นเสียงของผู้หญิงคนที่สองผมก็พูดออกมาเสียงดังจนหลายๆโต๊ะหันมามอง

“โจ” ป๊อนซ์พูดปรามผมพร้อมกับเอามือมาวางบนหลังมือผมแล้วบีบเบาๆ

“...” ผมไม่พูดอะไรแต่ตวัดสายตาไปมองป๊อนซ์แบบโกรธๆ

“กูขอ” ป๊อนซ์พูดเสียงอ่อนก่อนจะลูบบนหลังมือผมเบาๆ

“แต่กูไม่ชอบ!” ผมพูดพร้อมกับตวัดตาไปมองที่โต๊ะนั้น ทำให้ผู้หญิงสองคนนั้นถึงกับหน้าซีดจนเห็นได้ชัด

“เดี๋ยวกูไปพูดให้” ป๊อนซ์บอกผมก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะนั้นโดยมีสายตาของผมจับจ้องอยู่ตลอด

มันก้มลงพูดอะไรกับสองคนนั้นก็ไม่รู้ เพราะมันพูดเสียงเบามาก อาจจะเป็นเพราะเกรงใจโต๊ะอื่นๆ พูดจบสองคนนั้นก็กรี๊ดกร๊าด
ออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มและก้มหัวให้ผมนิดหน่อยเป็นเชิงขอโทษ

“มึงไปพูดอะไร?” ผมถามทันทีที่ป๊อนซ์เดินกลับมาถึงโต๊ะ

“ก็แค่บอกว่ามึงไม่ชอบให้มอง” มันตอบก่อนจะก้มลงแกะกุ้งต่อ

“ไม่เชื่อ! พูดแค่นั้นแล้วทำไมต้องยิ้มกรี๊กกร๊าดกันด้วย” ผมยังไม่พอใจในคำตอบของมัน เลยเริ่มทำการแค่นต่อ

“แล้วกูก็บอกไปว่ากูกำลังง้อมึงอยู่ กูพูดอะไรไปมึงก็ไม่เชื่อ น้องเค้าเลยกรี๊ดแล้วก็พูดให้กำลังใจกูมา” ป๊อนซ์พูดด้วยน้ำเสียงตัด
พ้อก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม

“ก็มึงชอบโกหกกู” ผมพูดออกไปตามความจริง

“นั่นมันเมื่อก่อนโจ ตอนนี้ไม่แล้ว” ป๊อนซ์พูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง

“หยุดพูดเรื่อยเปื่อยแล้วทำให้กูเห็นดีกว่า” ผมมองหน้ามันพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะก้มลงกินต่อโดยมีมันนั่ง
ยิ้มและมองตามการกระทำของผมตลอดเวลา




“จะไปกินอะไรอีกมั้ย?” ป๊อนซ์ถามหลังจากที่จ่ายตังค์แล้วเดินออกมาจากร้านเมื่อกี๊

“เดี๋ยวขับไปเรื่อยๆแล้วแวะร้านก๋วยเตี๋ยวให้กูหน่อย” ผมพูดก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งประจำที่

“ไม่อิ่มเหรอ?” ป๊อนซ์เปิดประตูแล้วนั่งลงประจำที่คนขับก่อนจะถามผมกลับด้วยสีหน้าแสดงความเป็นห่วง

“ก็แค่อยากกิน” ผมตอบกลับก่อนจะหยิบการ์ตูนในกระเป๋าขึ้นมาอ่าน

“โจ กูขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ตอนนี้กูจำทุกอย่างได้แล้วจริงๆ กูไม่รู้จะทำไงให้มึงเชื่อ”จู่ๆป๊อนซ์ก็พูดขึ้นพร้อมกับหันมา
มองหน้าผมนิดๆ

“มึงก็แค่ทำออกมาด้วยความจริงใจเท่านั้นก็พอ”ผมพูดตอบก่อนจะเอนเบาะแล้วหลับตาลง

“ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วปลุกกูด้วย” ผมหันไปสั่งเป็นครั้งสุดท้าย ป๊อนซ์ก็พยักหน้ารับคำ ก่อนที่ผมจะหลับไป





“พรุ่งนี้เดี๋ยวมารับนะ” ป๊อนซ์พูดขณะที่มาจอดส่งผมหน้าคอนโด

“อืม ถ้าช้าแม้แต่นาทีเดียวกูจะไปเอง” ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปบอก

“ครับ” มันรับคำก่อนจะช่วยหยิบของๆผมจากเบาะหลังแล้วยื่นมาให้

“โจ” หลังจากเอาของมาถือไว้จนหมดมันก็เรียกผมไว้

“หืม??” ผมส่งเสียงในลำคอด้วยความสงสัย

“กลับไปอยู่หอในกะไอ้แน็ตได้มั้ย อยู่แบบนี้กูเป็นห่วง” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับจับที่ไหล่ของผม

“กูอยู่มาได้ตั้งหลายเดือนแล้ว อยู่ต่อไปอีกก็คงไม่เป็นไรหรอก”

“แต่...”

“กูบอกว่ากูอยู่ได้” ป๊อนซ์กำลังจะแย้งต่อ แต่ผมก็รีบพูดขัดมันไว้เสียก่อน

“อืม งั้นก็ดูแลตัวเองดีๆแล้วกัน” ป๊อนซ์ปล่อยมือจากไหล่ของผมก่อนจะพูดออกมาเบาๆ

“อ่ะ” ผมยื่นถุงก๋วยเตี๋ยวที่เพิ่งแวะซื้อไปให้มัน

“หืม??”

“เอาดิ กูให้” ผมพูดร้อมกับยัดถุงก๋วยเตี๋ยวใส่มือมัน

“ให้กูทำไม ก็ไหนมึงบอกว่าอยากกินไง” ป๊อนซ์ถามพร้อมกับพยายามคืนให้กับผม

“กูจะซื้อให้มึงนั่นแหละ เมื่อกี๊ตอนอยู่ที่ร้านมึงก็ไม่ค่อยได้กินอะไรเท่าไหร่?” ผมพูดพร้อมกับเปิดประตูเพื่อจะลงจากรถ

“เอ่อ ขอบใจนะ” ป๊อนซ์ทำหน้าอึ้งๆก่อนจะพูดขอบคุณออกมา

“อืม” ผมรับคำในลำคอก่อนจะเดินลงจากรถและขึ้นห้องไป

Rrr

แรงสั่นในกระเป๋าทำให้ผมต้องหยุดเดินก่อนจะหยิบมันออกมาดู

ไลน์จากป๊อนซ์

Pontz:ขอบใจนะที่เป็นห่วงกู กูไม่รู้หรอกว่ามึงทำเพราะเป็นห่วงรึเปล่า แต่กูก็จะคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันใช่แล้วกันนะ

ผมอ่านจนจบนิ่งไปนิดนึงก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป

Joe:อืม


ในเมื่อมึงบอกว่าจำได้แล้ว กูก็มีวิธีทดสอบในแบบของกู และถ้าครั้งนี้มึงโกหกกูอีก มึงก็อย่าหวังว่าจะได้เจอกูอีกเลย!




..............................................................................TBC...................................................................................

มาต่อให้ครบร้อยเปอร์แล้วนะจ๊ะ  :katai4:

หลังจากเพิ่งอัพคู่ พีดี ระบายอารมณ์ไปวันก่อน  :hao7:

วันนี้ก็มาต่อคู่หลักกันต่อออออออ  :ling1:

อ๋อ จะบอกว่าให้โจกลับมาน่ารักใสๆเหมือนเดิมคงไม่ได้แล้วน้าาาา แต่อาจจะน่ารักแบบทื่อๆตามสไตล์ไป  o13

ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าโจจะเอาคืนป๊อนซ์ด้วยวิธีไหนอีก (ฤทธิ์น้องโจยังมีอีกเหลือล้น  :z6: )


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์เด้ออออออ
#อ่าน&บวก1 ให้ทุกเม้นต์เลยยย  :3123:







รักคนอ่านนะจ๊ะ
:mew1:












KATIEZZ

ออฟไลน์ senty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อยากไดัคืนก็ทนล่ะนะ. รอบททดสอบๆ อยากรู้ว่าโจจะจัดอะไรให้อีก  :katai5:

ออฟไลน์ saradino1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
จัดให้ป๊อนซ์แกหน่อยสิ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 o13 ใช่เราคิดว่าโจคงกลับมาใสๆไม่ได้แล้วล่ะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หันมาให้กำลังใจป๊อยซ์ดีกว่า
เพระาตอนนี้ป๊อนซ์บอกว่าจำโจได้แล้ว

Azakura_Hibari

  • บุคคลทั่วไป
มาแนวนี้แหละดีแล้วโจ อย่ากลับไปเป็นแบบเดิมเลย มันดูโง่เกินไป แบบนี้แหละอย่างน้อยป๊อนซ์จะได้เกรงๆหน่อย
แล้วต่อให้ป๊อนซ์จะบอกว่าจำได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งไปให้อภัย เพราะมันจะดูเหมือนเราง่าย
แค่บอกว่ารัก บอกว่าจำได้แล้วจะให้เรายอม เหอๆ ง่ายไป๊
ทดสอบต่อไปๆ อยากเห็นเหมือนกันความจริงใจของป๊อนซ์ว่ามันจะมีมากแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยจะเจอเลย
แล้วก็นะ “ก็มึงชอบโกหกกู” ประโยคนี้มันโดนใจเจ้ว่ะน้องโจ  ฮ่าๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด