คำเตือนก่อนทำพิธี ข้อที่ ๑ : พิจารณาเลือกเฟ้นนางตานีที่ต้องการอย่างรอบคอบ เพราะหากพลาดพลั้งผลลัพธ์นั้นอาจจะไม่เป็นที่พอใจของท่าน (อย่างแรง) "อยากจะมีใคร....คอยห่วงใยดูแลกัน ในวันที่ฉันเหงาใจ
อยากจะมีใคร...ที่เดินจับมือเคียงกันไป ในคืนที่ฟ้ามืดหม่น
แต่มันเหมือนทั้งโลกว่างเปล่า ไม่มีคนเข้าใจ....เหมือนไม่มีใครซักคน (บลาๆๆๆ)"
เสียงเพลงรุ่นเก่าที่ดังระเบิดในสมัยที่ยังเป็นเด็กน้อยดังก้องไปทั่วสวนเขียวชอุ่ม สอดแทรกเพิ่มจังหวะด้วยเสียงตุบๆตับๆของโคลนเหลวๆที่ถูกโยนขึ้นจากท้องร่องเป็นระยะด้วยฝีมือของชายหนุ่มผิวคร้ามแดดที่ก้มๆเงยๆตัวเลอะโคลนอยู่กลางท้องร่อง
สวัสดีครับทุกโค้นนนนน!!!!
กระผมชื่อนาย กวิราช พงษ์เกษตร เรียกผมว่ากลอนหรือมียศนำหน้าว่าไอ้กลอนก็ได้นะครับ....
ก็ตามนามสกุลที่บ่งบอกที่มาของปู่ย่าตายายวงศ์ตระกูลนั่นแหละครับ อาชีพหลักของผมจึงเป็นการทำสวนผลไม้ที่อยู่แถบชานเมืองสืบต่อจากพ่อราชที่จูงมือแม่อังกาบคนสวยของผมตีตั๋วไปทัศนาจรบนสวรรค์ตั้งแต่ผมยังเป็นวัยรุ่นด้วยอุบัติเหตุรถหงาย
ถึงผมจะเป็นหนุ่มเจอเรเนชั่นใหม่ยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีวิ่งเร็วจนตามแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่ได้เกลียดอาชีพประจำตระกูลนี่เท่าไหร่ เลยเต็มใจหมกตัวอยู่ในสวนที่เป็นมรดกจากบรรพบุรุษอย่างเต็มตัวนับตั้งแต่เรียนจบโดยไม่สนใจที่จะไปหางานในตัวเมืองกรุงอย่างเพื่อนๆอีกหลายคน
อาชีพนี้มันก็มีข้อดีหลายอย่างนะครับ....ไม่ต้องปวดหัวประจบเจ้านาย ยิ้มเอาใจเพื่อนร่วมงาน หน้าเครียดกับการจราจรที่เป็นการจลาจล แม้จะไม่ได้แต่งตัวโก้ควงสาวๆสวยๆและทำอะไรสนุกๆอีกหลายอย่างเหมือนอยู่ในตัวเมืองก็จริงอยู่
แต่ผมไม่ได้สนเรื่องพวกนั้นซะเท่าไหร่อยู่แล้วนี่.....
ได้ทำงานตามใจตัวเอง- -จะติดลบหรือกำไรก็อยู่ที่ตัวเองหมด
ไม่ต้องใช้รถไปทำงาน- -แค่ลงบันไดเท้าแตะถึงพื้นก็เข้าพื้นที่ทำงานแล้ว แถมอากาศยังดีกว่าอีกตั้งหลายเท่า
แต่งตัวหล่อ- -จะแต่งหล่อไปทำบ้าอะไร เข้าสวนแป๊บเดียวก็เลอะล่ะ ประหยัดตังค์ค่าเสื้อผ้า ไม่เสียเวลาแต่งตัวยืดเวลานอนเพิ่มได้อีกเป็นชั่วโมง!
ควงสาว- -บ้านผมอยู่ชานเมืองไม่ใช่ต่างจังหวัด ขับรถชั่วโมงกว่าๆก็เข้าไปร่อนในตัวเมืองแล้ว หน้าตาระดับไอ้กลอนจะตกสาวสักกี่คนก็ด๊ายยย!!
ด้วยเหตุนี้ผมจึงยึดอาชีพชาวสวนเป็นอาชีพหลักอย่างยินยอมพร้อมใจ
อาชีพหลัก?
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีอาชีพรองสิ.....
ครับผม....เกมนี้เราเปิดให้คุณมีอาชีพถึงสองอาชีพเพื่อความหลากหลาย วุ้ย! ไม่ใช่ล่ะ....ผมทำงานเป็นนักบัญชีอิสระอีกงานหนึ่งครับ เป็นงานตามสายอาชีพที่ได้ร่ำได้เรียนมา รับงานจากคนรู้จักกันมาทำนิดๆหน่อยๆจะได้ไม่คืนวิชาความรู้ให้อาจารย์ไปซะหมด
ฟังดูดีสินะ....แต่ความจริงอีกครึ่งคือไอ้อาชีพนักบัญชีนี่ทำเพราะเอาไว้เป็นเหตุผลพาตัวเองเข้าไปร่อนในตัวเมืองได้บ่อยๆ พร้อมพบปะสังสรรค์ร่วมวงน้ำเมากับเพื่อนๆในยามค่ำคืน แถมตอนอ่อยสาวบอกว่าเป็นนักบัญชีมันก็ต้องดูดีมีภาษีกว่าการเป็นไอ้หนุ่มชาวสวนอยู่แล้ว
แหม~~ไอ้กลอนก็คนธรรมดานะคร้าบ ยังมีความอยากอยู่เหมือนกันแหละ อย่าคิดว่าผมเป็นหนุ่มโลโซในสวนเปลี่ยวแล้วจะไม่อยากเที่ยวโน่นนี่นั่นสิครับ ถึงจะรักความสงบแต่ไม่ชอบความโดดเดี่ยวนะเออ
~รับสายด้วยคร้าบบบบ รับสายด้วยคร้าบบบบบบ~
ผมจุ่มมือล้างโคลนกับน้ำโคลน(?)ในท้องร่องที่กำลังขุดลอกพอให้โคลนหนาๆหลุดออกไปบ้าง ก่อนจะแงะเอามือถือออกจากถุงพลาสติกกันน้ำที่รัดด้วยหนังยางอย่างแน่นหนา เพราะงั้นกว่าจะแงะออกมาได้คนโทรมาก็วางสายไปแล้ว แต่อย่าคิดว่าไอ้กลอนจะยอมเสียตังค์โทรกลับนะครับ เรื่องสิ- -ทางโน้นโทรมาก็แสดงว่าเป็นฝ่ายที่มีธุระ และถ้ามีธุระจริงเดี๋ยวมันก็ต้องโทรมาอีกรอบหนึ่ง
~รับสายด้วยคร้าบบบบบบ รับสายด้วยคร้าบบบบบบ~
"เหี้ย ว่าไงวะ?"
ไม่ต้องตกใจกับความสุภาพของไอ้กลอนนะครับ เวลาพูดคุยกับเพื่อนกับฝูงก็ต้องแบบนี้แหละ ยิ่งหยาบเท่าไหร่ก็แสดงว่าสนิทมากกกกก (สนิทหรือว่าสถุนกันแน่ยะ? /เกรย์เอง)
"คืนนี้?...เอาดิ ช่วงนี้งานสวนไม่ชุก บัญชีก็เพิ่งส่ง เออ...แล้วเจอกันที่เดิม"
รวบรัดและฉับไว....จะลีลาไปทำไมกันล่ะครับ นัดกินเหล้ากับเพื่อนฝูงเป็นเรื่องสำคัญนะ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ต่อให้ผมปลีกวิเวกมาอยู่ใจกลางสวนแบบนี้ก็ต้องเอาหน้าหล่อๆไปให้เพื่อนเห็นบ้าง อย่างน้อยๆก็สัก- -สามวันครั้ง
แหะๆ ผมหนุ่มโฉด เอ๊ย! โสดนะครับ หน้าตาก็ดี ตังค์ก็พอมี....แล้วจะหวงหน้าหวงตังค์เอาไว้ทำไมไม่ทราบ ถ้าคุณอยากอ่านเรื่องไอ้หนุ่มคนสวนแสนซื่อน่ารัก เรียบร้อย จริงใจและรักสันโดษ ขอแนะนำว่ากดปิดแล้วอ่านเรื่องอื่นก็ยังทันนะครับ
ในเมื่อมีนัดดื่มในคืนนี้ผมก็เร่งมือขุดลอกท้องร่องให้ว่องกว่าเดิม อย่างน้อยๆงานจะได้เสร็จเยอะๆ พรุ่งนี้จะได้เมาค้างอย่างสบายใจ!
+++++++++++++++++
"ทางนี้โว้ยไอ้กลอน!"
ผมเดินฝ่าฝูงคนไปหาไอ้เพื่อนเหี้ยที่ทั้งเรียกทั้งโบกมือให้อย่างจะกลัวว่าไม่เด่น อื้อหือ....ผับนี้มีแต่สาวแจ่มๆเหมือนเดิม เพราะงี้แหละถึงน่ามาเที่ยวบ่อยๆ
"ช้านะมึง กูนึกว่าโดนฉุดไปเป็นเมียใครซะแล้ว"
หางคิ้วผมกระตุกกับคำทักทายสุดมงคลจากไอ้หมาติน พอคิ้วกระตุกตีนผมก็กระดิกตามซัดป้าบไปที่หน้าขามันทันที เล่นเอามันทรุดเกาะโต๊ะเอาไว้แทบไม่ทันหมดมาดเพลย์บอยที่เก๊กไว้อ่อยสาวทันที แหงล่ะ- -ผมออกแรงทำสวนทุกวันมือตีนต้องหนักกว่าไอ้หนุ่มออฟฟิศอย่างมันอยู่แล้ว
"เหี้ย! เกือบโดนไข่กูแล้วนะโว้ย!"
"สมน้ำหน้า อยากปากเสียนักนี่ไอ้ตีนเอ๊ย"
"ดีๆ มันปากหมาชิบหาย พวกกูจะซวยเพราะมันหลายรอบแล้วเนี่ย มึงช่วยสั่งสอนมันเยอะๆดิไอ้กลอน" ไอ้หมูอบที่นั่งวางมาดจิบเหล้ากวาดตามองหาสาวหันมาสนับสนุนโดยไม่สนใจไอ้ตินที่ร้องโอดโอยสักนิด
"เอ้า! เข้มพิเศษ จะได้ตามพวกกูทัน"
แก้วเหล้าเย็นๆถูกยื่นมาจากไอ้โรม มันเป็นบาร์เทนเดอร์ประจำกลุ่มเราครับ ขอบอกว่ามันชงเหล้าได้แจ่มมากกกก สมควรไปเปิดร้านเหล้ามากกว่าทำงานบริหารซะอีก
ก่อนอื่นก็มารู้จักกับเพื่อนร่วมกินร่วมก๊งของผมกันก่อนดีกว่า (อย่าถามหาคำว่าร่วมทุกข์กับพวกมันเล๊ยยย! เอาแค่ยอมนั่งฟังคำพร่ำรำพันเวลากลุ้มก็ดีเท่าไหร่แล้ว)
คนแรกไอ้หมาติน....ที่มักจะถูกพวกผมเรียกเพี้ยนเป็นตีนอย่างจงใจบ่อยๆตามดีกรีความปากหมาจนน่าถวายตีนให้ของมัน มันดูดีนะครับ- -บ้านก็มีฐานะพอควร เป็นคนที่อกหักบ่อยที่สุดเร็วที่สุด และเก้าสิบเปอร์เซ็นของการเลิกราจะได้รับรอยฝ่ามือประทับบนหน้าขาวๆเป็นของแถมจากสาวๆก่อนลาจาก แน่นอน- -สาเหตุก็มาจากปากเสียๆของมันนั่นแหละ
คนที่สองชื่อไอ้หมูอบ....ความจริงมันชื่อน้ำอบครับ (ชื่อผู้หญิงชัดๆ) แต่ด้วยรูปร่างที่ถอดแบบจากโอ่งมังกรราชบุรีของมันเลยได้รับฉายาหมูอบจากพี่ๆในคณะตั้งแต่ปีหนึ่ง มันเป็นคนหลงตัวเองมากกกกก...ถึงมันจะมีหุ่นทรมานสาว (ถ้าถูกมันล้มทับใส่) ด้วยหุ่นระยะอวบปลายๆค่อนไปทางจ่ำม่ำ แต่มันก็นั่งยันนอนยันว่ามันหล่อ! มันเท่! และที่สำคัญสาวตรึม!!!
(เท่าที่เห็นก็มีแค่อาหมวยหลิว สาวหุ่นพอฟัดพอเหวี่ยงกับไอ้ตี๋อย่างมันซึ่งเป็นคู่หมั้นที่ทางบ้านจัดไว้ให้เท่านั้นแหละครับที่ปลื้มมันเอาเป็นเอาตาย)
คนสุดท้ายคือไอ้โรม...นอกจากชื่อจะไฮโซหรูหราแล้วมันก็ยังเป็นคุณชายจากตระกูลดังเข้าขั้นมหาเศรษฐีด้วย แถมหน้าตา...(ไม่อยากยอมรับเล๊ยยย แต่เสือกแตกต่างกันชัดเกินไปจนต้องก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้) มัน- หล่อ- มาก!!!
เอาเป็นว่ามันเป็นผู้ชายสำเร็จรูปของสาวๆ (ที่เปิดกระป๋องก็แดกได้เลย) เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง จนบางทีผมก็แอบคิดว่ามันกินยาผิดหรือเปล่าถึงได้มึนจนมารวมกลุ่มกับผู้ชายเหี้ยๆระดับกลางค่อนไปทางต่ำอย่างพวกผมแทนที่จะเป็นพวกไฮโซเหมือนมันที่ขับรถหรูราคาแพงว่อนมหา'ลัย
"ไอ้กลอน คืนนี้จะไม่หิ้วสาวไปต่อใช่มะ? แล้วจะค้างกับไอ้หมูอบหรือกลับไปนอนบ้านสวน"
ไอ้โรมถามหลังจากเห็นผมซัดเอาๆไม่มีหยุด พักเดียวก็หน้าแดงเข้มแข่งกับพวกมันที่ดื่มก่อนเป็นชั่วโมง ผมหยุดคิดนิดหนึ่ง....ปกติถ้าผมเมาต้องไปค้างที่บ้านไอ้หมูอบ ส่วนไอ้โรมต้องลากไอ้ตินที่เมาแล้วเรื้อนอาละวาดไปนอนที่คอนโด ซึ่งไอ้ตินเวลาเมานี่เป็นอะไรที่ป่วนมากผมขอเจอครั้งเดียวก็ขอบายครับ ไม่ใจเย็นกล่อมมันเหมือนไอ้โรมหรอก
"ถ้าอยากเจอไอ้เอมก็มาดิ มันเพิ่งกลับบ้านพอดี" ไอ้หมูอบบอกขำๆ ผมหน้าแหยตัดสินใจได้ทันที
"งั้นกูกลับบ้านสวนดีกว่า ห่า...งั้นวันนี้กูก็ดื่มเยอะไม่ได้สิเนี่ย"
หมวยเอมเป็นน้องสวยไอ้หมูอบครับ เรียนอยู่โรงเรียนประจำชื่อดังกลับบ้านเป็นช่วงๆ หน้าตาหมวยเอมก็น่ารักดีครับไม่ได้อวบอิ่มสมบูรณ์เกินไปอย่างเฮียมันด้วย แต่ไม่รู้ว่าหมวยเอมไปถูกตาต้องใจผมเอาอีท่าไหน เจอผมทีไรต้องมานัวๆเนียๆจับเนื้อต้องตัวอยู่เรื่อย ตาตี่ๆตามประสาหมวยงี้วาวเชียว
ถ้ามันเป็นแววตาของสาวน้อยที่ปลื้มเพื่อนพี่ชายอยากจะจีบเป็นแฟนผมคงไม่ขยาดหมวยสักเท่าไหร่ ยังไงหมวยเอมก็เพิ่งอยู่ม.ห้าแถมยังเป็นน้องสาวเพื่อน ไอ้กลอนเห็นเป็นน้องเป็นนุ่งอยู่แล้วต่อให้หมวยรุกแค่ไหนผมก็มั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางคิดเกินเลยกับหมวยแน่
แต่ไอ้สายตาที่หมวยมองผมมันเหมือนสิงโตเห็นเหยื่อยังไงชอบกล บางทียังเผลอมองตาลอยยิ้มแปลกๆพึมพำเคะๆอึนๆอะไรสักอย่างพานให้ผมขนลุกซู่เย็นสันหลังวาบ....ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ผมจะหลีกเลี่ยงการเจอหน้าหมวยเอมเอาไว้ก่อน
"แม่ง- - วันหลังพวกมึงขนเหล้าไปดื่มที่สวนดีกว่าว่ะ เมาก็นอนที่นั่นได้เลย" ไอ้กลอนเริ่มเซ็งที่เมาไม่ได้....วู้~~ตั้งใจมาเมานะเนี่ย
"ไม่เอาโว้ย! สวนมึงน่ากลัวจะตาย!" ไอ้ตินที่ส่องสาวจนผมเกือบลืมว่ามีมันอยู่ด้วยรีบหันมาโวยวายทันที แล้วไอ้สองตัวที่เหลือก็เสือกพยักหน้าสนับสนุนอีกต่างหาก
"กลัวอะไรกันวะ ก็แค่กอกล้วยธรรมดา กูอยู่มาตั้งแต่เกิดยังไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย"
"ธรรมดาที่ไหนวะ นั่นกล้วยตานีนะโว้ย!!!"
อธิบายหน่อย....ใกล้ๆตัวบ้านผมเป็นดงกล้วยครับ ปลูกสารพัดกล้วยเอาไว้ขายทั้งผลทั้งใบ ที่มีเยอะสุดคือกล้วยหอม กล้วยน้ำว้า แล้วก็กล้วยไข่ อันเป็นเหล่ากล้วยยอดนิยม ส่วนกล้วยตานีที่พวกมันกลัวนักกลัวหนานั่นมีแค่กอเดียวเท่านั้นแหละ ผมปลูกเอาไว้ขายใบตองโดยเฉพาะ ลูกมันน่ะไม่อร่อยหรอกแถมเม็ดเยอะแต่ตองตานีใบใหญ่กว้างสีเข้มสวยเหมาะสำหรับทำงานใบตองครับ ดังนั้นจึงมีคนซื้ออยู่เรื่อยๆ
พวกมันเคยยกโขยงกันไปดื่มเหล้าที่บ้านสวนครั้งหนึ่งสมัยยังเรียนอยู่ปีสอง ตอนนั้นคือสนิทกันมากจนรู้จักมักจี่ถึงบ้านช่องห้องหับแล้ว จู่ๆไอ้ตินก็เกิดนึกครึ้มอยากร่ำสุราท่ามกลางเสียงหริ่งหรีดเรไรของบ้านสวนขึ้นมา ทุกคนเลยพากันขนเหล้ายาปลาปิ้งกับแกล้มพร้อมสรรพออกจากหอพักมาที่บ้านสวนในเย็นวันหยุด
ผมน่ะยอมรับเลยว่าเมาเยี่ยงหมา...หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น พอตื่นขึ้นมาก็ปรากฎว่าพวกมันชิ่งหนีกลับหอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทิ้งให้ผมนอนตายคาวงเหล้าอยู่คนเดียว (รักเพื่อนไหมล่ะครับ) แล้วหลังจากนั้นพวกมันก็ไม่เคยไปเหยียบบ้านสวนในยามวิกาลอีกเลย
ไอ้ตินโวยวายใส่ผมยกใหญ่ว่ากล้วยตานีบ้านผมเฮี้ยนหลอกมันทั้งคืนจนผมร่วง ไอ้หมูอบบอกเสียงอ้อมแอ้มว่ามันเคลิ้มๆเมาๆไม่แน่ใจว่าจริงหรือฝัน เด็ดสุดคือไอ้โรมที่ตาคล้ำเป็นแพนด้าบอกผมสั้นๆแต่หนักหน่วงว่าผีตานีบ้านผมแรง!
"มึงนี่น้า ขี้เหงา ไม่ชอบอยู่คนเดียวแต่เสือกไปหลบอยู่ในสวนซะไกล เหงามากก็หาแฟนสักคนสิวะ...แฟนจริงๆนะมึง ไม่ใช่คั่วแค่คืนเดียวแบบที่ผ่านๆมา" ไอ้หมูอบว่าให้ผมเป็นรอบที่ร้อยอย่างหวังดีแต่ประสงค์ร้าย
ความจริงคือมันแห้วเป็นรอบที่ล้านเลยเกิดอาการหมั่นไส้สุดหล่ออย่างไอ้กลอน รีบยุยงให้ผมมีแฟนจะได้เลิกได้สาวตัดหน้ามันซะที
"สวนกูอยู่ลึกกว่าเพื่อนนี่มันเลือกได้ที่ไหน เรื่องแฟนกูกูอยากมีแต่สาวที่ไหนจะอยากไปขุดดินตัวเปื้อโคลนกับกูวะ?" ผมเริ่มมึนๆเลยมองข้ามจุดประสงค์แอบแฝงของไอ้หมูอบแล้วรำพันระบายความในใจ แต่อย่าหวังว่าพวกมันจะปลอบใจนะ...
"ก็สเป็คสาวที่มึงเข้าไปจีบแต่ละคนติดหรูกันทั้งนั้นนี่ แม่นางพวกนั้นคงจะยอมไปหมกตัวกับมึงที่บ้านสวนหรอก"
"จะหาเมียทั้งทีกูก็อยากได้ขาว สวย หมวย อึ๋มสิวะ เวลาขุดดินเหนื่อยๆมองแล้วจะได้ชุ่มชื่นหัวใจ"
"งั้นมึงก็หาผัวแทนเหอะ เรื่องมากขนาดนี้นะ" ไอ้ตินยื่นหน้ามาเสนอ ผมเลยให้รางวัลด้วยการซัดหน้าผากมันไปป้าบหนึ่ง
"กูหล่อและแมนเต็มร้อยโว้ย! มึงจะยุให้มีผัวอะไรนักหนา!?"
"มึงหล่อ แต่ก็น่าเอา" ไอ้โรมพูดนิ่มๆมือก็ชงเหล้ายื่นให้ ไอ้กลอนนี่หน้าเหวอไปแล้วเพราะมันไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน "ไม่รู้ตัวเลยสิท่าว่ามึงน่ะหน้าตาน่าขยี้ให้ร้องครางสุดๆ"
พวกเราสามคนพากันมองหน้ามันอึ้งๆ กระทั่งไอ้ตินที่ยุนักยุหนาให้ผมมีผัวก็ยังพูดไม่ออก ไอ้ตินน่ะก็แค่ปากหมาไปตามประสามันไง แต่ไอ้โรมกลับพูดเป็นจริงเป็นจัง!
"มองอะไรแบบนั้น?" ไอ้โรมขำก๊ากที่เห็นพวกผมขยับถอยห่างออกจากมัน "กูแค่พูดตามที่เคยมีคนเขาบอกมา ไม่ได้คิดจะงาบมึงหรอกน่า"
"เหี้ยแล้ว มีตัวผู้คิดกับกูแบบนั้นด้วยเหรอวะ!?"
"มีดิ เยอะด้วย แต่มึงมันเซ่อ คิดว่าพวกผู้ชายที่คอยซื้อน้ำซื้อขนมหรือคอยชวนมึงติวสมัยเรียนมันแค่อยากเป็นเพื่อนกับมึงหรือไง? ดีนะที่มึงนอกจากจะเซ่อแล้วยังอึนจนพวกมันถอดใจ"
"แม่ง- -กูรีบหาเมียดีกว่า"
"เฮ้ยๆ ไอ้กลอนกูมีความคิดดีๆว่ะ"
ผมมองหน้าไอ้ตินที่ฉีกยิ้มตาวาววับอย่างระแวง เพราะความคิดบรรเจิดๆของมันทำให้พวกผมเกือบได้ไปเกิดใหม่ก็หลายรอบแล้ว
"มึงก็เอานางตานีมาเป็นเมียเลยสิวะ!"
พรูดดดดดดด!!!!
"อะ- -ไอ้ตีน มึงพูดเหี้ยอะไรวะ!?" ไอ้หมูอบร้องเสียงหลง ตาตี่ๆของมันเบิกกว้างจนเท่าไข่นกกระทา ส่วนไอ้โรมพอตั้งสติได้ก็รีบลูบหน้าลูบหลังให้ผมที่สำลักเหล้าไอค่อกแค่กจนแสบจมูกไปหมด
"ไม่ดีเหรอ? นางตานีเค้าว่าสวยสุดๆนะโว้ย แถมเป็นแม่บ้านแม่เรือนต้องดูแลรังหนูของมึงให้เป็นบ้านคนได้แน่ เรื่องบนเตียงก็น่าจะไม่เบาเหมือนกัน เห็นในหนังสือผีพวกหมอผีอยากได้นางตานีเป็นเมียกันทั้งนั้น ที่สำคัญ- -ต้องไม่รังเกียจที่จะอยู่บ้านสวนกับมึงแน่ เพราะนางชอบอยู่ในสวนอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ"
"ไอ้เวร! แนะนำแต่ละอย่างดีๆทั้งนั้นเลยนะมึง!"
แน่นอน....ผมให้รางวัลความคิดดีๆของไอ้ตินไปอีกหลายผัวะ!....
++++++++++++++
กว่าจะขับรถกระบะคู่ใจมาถึงบ้านได้ก็ปาเข้าไปตีสามกว่าๆ ผมเดินเซนิดหน่อยถึงไม่เมาแต่ก็กรึ่มๆล่ะครับ พอเปิดไฟสว่างจ้าเห็นสภาพบ้านที่รกกว่ารังหนูแล้วผมก็ถอนใจเฮือก จะเอาอะไรกับชายโสดนิสัยโฉดอย่างผมกันล่ะ....ให้ทำสวนผมทำได้ แต่เรื่องงานบ้านงานเรือนนี่- -นรกชัดๆ
ตั้งแต่ท่านแม่อังกาบฝึกให้ผมหุงข้าวแล้วผมทำเตาไฟพังถ่านแดงๆกระจายว่อนครัวแทบไหม้ ห้องครัวก็กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตจากท่านแม่ เรื่องกวาดถูนี่ดีกว่าหน่อย...พอจะปัดๆถูๆได้บ้างแต่ก็ทิ้งคราบฝุ่นเป็นทางยาวอยู่ดี เพราะงั้นอย่าแปลกใจเลยที่สภาพบ้านไอ้กลอนจะเป็นเยี่ยงนี้ ทุกวันนี้กระทั่งข้าวปลาผมยังต้องซื้อกินเล๊ยยย....ซื้อทั้งๆที่บ้านตัวเองเป็นสวนมีผักมีปลาพร้อมสรรพนี่แหละ!
มีแต่ทำแดกไม่เป็นก็ไร้ค่าครับ.....
ส่วนข้าวของที่กองสุมๆกันอยู่นี่พอครบสามเดือนผมก็ลากถุงดำใบใหญ่แล้วจับกองขยะโกยใส่ถุงไปทิ้งทีหนึ่ง ขยะถึงไม่ค่อยจะรกล้นบ้านเท่าไหร่ (?)
"แม่ง....อยากมีเมียโว้ยยยย!!!!"
มึงก็เอานางตานีมาเป็นเมียเลยสิวะ.... คำพูดของไอ้ตินแว่บเข้ามาในหัวทันที ด้วยความเมาหรือความสังเวชกับสภาพรังหนูในบ้านหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมคว้าพร้าคู่มือที่ใช้เข้าสวนเป็นประจำเดินตรงไปทางกอกล้วยตานีทันที สภาพสวนตอนกลางคืนที่มีแต่เงาตะคุ่มๆ เสียงเสียดสีของกิ่งไม้ใบไม้ และเสียงแมลงกลางคืนนี่มันก็น่ากลัวไม่น้อย ถ้าไม่คุ้นล่ะก็คงได้เดินเหลียวหน้าเหลียวหลังนึกระแวงกระทั่งยอดไม้ที่ถูกลมพัดเป็นแน่ แต่ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเลยด้านพอที่จะเดินท่อมๆในเวลาตีสามกว่าๆแบบนี้ได้
"แล้วมันต้องทำยังไงวะ?"
ผมเกาหัวแกรกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่รู้สักนิดว่าการเลือกนางตานีไปเป็นเมียนี่ต้องทำอย่างไรบ้าง ดงตานีหนาทึบเงียบสนิทมีเพียงใบใหญ่กว้างที่โบกไหวๆ กระทั่งแมลงต่างๆก็เงียบเสียงหลังจากที่รับรู้ถึงผู้บุกรุก
"แม่ง- -มั่วเอาก็ได้ว่ะ"
จะให้ล้มเลิกเหรอไม่มีทางไหนๆก็เดินมาแล้วก็ต้องลองดูหน่อยถ้าไม่ได้ผลวันหลังค่อยถามป๋ากู (เกิ้ล) เอาก็ได้ ปกติจะขอสาวมาเป็นเมียต้องมีของหมั้นแทนใจ ผมเอียงคอคิดนิดหน่อยก็ถอดแหวนทองเกลี้ยงที่นิ้วนางข้างขวาออกมาทันที
เอาว่ะ...ไม่ได้ผลค่อยมาเอาคืน "เอ๊ะ! ต้องเลือกด้วยสิว่าเอาต้นไหนเดี๋ยวโผล่มาทั้งดงก็ยุ่งอีก"
ไอ้กลอนเลยต้องชะงักมือที่กำลังจะหย่อนแหวนลงดินแล้วเดินวนหาต้นกล้วยที่ถูกใจ จะว่าไปแล้วกล้วยตานี่ถึงจะมีแค่กอเดียว แต่มันก็ขึ้นเป็นดงใหญ่มากเหมือนกันครับ ตัดต้นที่ขึ้นอยู่กลางดงออกไปเลย...ขี้เกียจมุดเข้าไป ดังนั้นเป้าหมายหลักจึงเป็นต้นที่อยู่นอกๆทำพิธีขอสะดวกๆนั่นแหละ
"โว้ย! ใหญ่ชิบหาย"
พอเดินอ้อมมาอีกหน่อยหนึ่งไอ้กลอนก็ตาค้างกับกล้วยตานีต้นหนึ่งที่ใหญ่โคตรๆ มันสูงกว่าต้นอื่นในดงเกือบวาแถมต้นทั้งอวบทั้งใหญ่จนต้องโอบสุดมือ วินาทีนั้นผมเดินเข้าไปกอดหมับเพื่อวัดขนาดทันทีลืมไปสนิทว่านั่นอาจจะมีนางตานีว่าที่เมียอยู่
โอบเกือบไม่รอดจริงด้วย.... กระทั่งลำต้นมันก็สวยมากครับสีเขียวอิ่มน้ำใบก็กว้างสวยไม่แตก แถมยังขึ้นโดดเดี่ยวแยกออกมาจากต้นอื่นในดงเป็นวา ทั้งสวยทั้งแปลกแบบนี้ต้องมีนางตานีอยู่ชัวร์
"น้องตานีจ๋าพี่กลอนเหง้าเหงา อยากได้น้องตานีไปอยู่ด้วยนะจ๊ะ อ่ะ- -นี่ถือว่าเป็นของหมั้น"
ไอ้กลอนพยายามพูดด้วยเสียงที่หวานที่สุด แหวนที่ตั้งใจว่าจะฝังไว้โคนต้นก็เปลี่ยนใจยัดไว้ที่กาบกล้วยแทน....ให้ของหมั้นแล้วก็ต้องมีของแทนใจกลับมาสินะ
"เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนพี่กลอนขอชิ้นส่วนจากต้นของน้องตานีเป็นของแทนใจด้วยนะจ๊ะ"
ผมกวาดตาดูทั่วทั้งต้นเพื่อเลือกของแทนใจ...ใบก็สูงไป กาบ- -ไม่เอาล่ะเดี๋ยวผิวน้องตานีเป็นแผล ผมไล่สายตาจนมาหยุดที่รากข้างล่าง
"พี่กลอนเอารากของน้องตานีไปนะจ๊ะ น้องจะได้ย้ายไปฝังรากฝังชีวิตอยู่กับพี่กลอน"
ว่าแล้วผมก็เอาพร้าที่พกมาด้วยขุดเอารากกล้วยมาหน่อยหนึ่ง พอกลบดินให้เหมือนเดิมแล้วผมก็เดินฮัมเพลงขึ้นเรือนอย่างตื่นเต้น รากกล้วยถูกล้างอย่างบรรจงก่อนห่อผ้าเช็ดหน้าใส่พานแล้ววางเอาไว้บนหัวเตียง
พอทำทุกอย่างเสร็จผมก็ไปอาบน้ำ หลังจากโดนน้ำเย็นๆเข้าไปสติไอ้กลอนเลยวิ่งกลับเข้าตัวจนต้องมายืนเท้าเอวมองพานบนหัวเตียงด้วยความขำ
"กูอยากมีเมียจนบ้าไปแล้วแหง"
ผมหัวเราะให้กับความบ้าของตัวเองก่อนใส่กางเกงบอล แล้วเดินเอาผ้าเช็ดตัวที่พันเอวสลัดตากที่หน้าต่าง หลังจากนั้นก็พุ่งขึ้นเตียงหลับสนิทลืมเรื่องบ้าบอที่ตัวเองทำไปเพราะความเมาทันที
++++++++++++++++
"อื้ออออ"
หลับไปได้พักหนึ่งไอ้กลอนก็ครางเบาๆนึกรำคาญอะไรบางอย่างที่ลากลูบไล้เหมือนจะยั่วไปตามร่างกาย ผมปัดมันออกแล้วเอาหน้าซุกหมอนหลับต่อ แต่สัมผัสปริศนาก็ยังไม่หายไป แถมยังอัพเลเวลด้วยการเพิ่มสัมผัสนุ่มเย็นชื้นลากไล่ไปตามลำคอ
ไอ้หมูอบเล่นบ้าอะไรวะ.... ผมลืมตาพรึบทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองนอนอยู่บ้านสวนตามลำพัง ไม่ใช่บ้านไอ้หมูอบอย่างที่เข้าใจ พอตะกายลุกขึ้นก็อ้าปากจะร้องตะโกน แต่ก็ถูกปิดด้วยอวัยวะชนิดเดียวกัน ทว่ากระด้างกว่า...อุณหภูมิก็เย็นกว่าด้วย
"อื้อๆๆๆๆ"
หลังจากที่รู้ตัวไอ้กลอนก็รัวกำปั้นใส่ตัวหนาๆทว่าไม่ได้ทำให้ไอ้คนโรคจิตนี่สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย แต่มันก็ยอมละริมฝีปากออกไป
"น้องกลอนอย่ารุนแรงซิจ๊ะ"
ไอ้หล่อนี่เป็นใครวะ? ไอ้กลอนแน่ใจว่าไม่มีคนรู้จักหน้าหล่อแบบนี้แน่ๆ มันหล่อเข้มดูเถื่อนนิดๆ ตัวก็สูงใหญ่กล้ามเนื้อหนาเป็นมัด โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าอกกับหน้าท้องที่เปลือยเปล่า อวดผิวคร้ามนิดๆนั่น- -น่าอิจฉามากกกกก ทำไมกูไม่มีอย่างมันบ้างวะ?
"น้องกลอน" มันเรียกผมอีกครั้งเมื่อเห็นผมนิ่งไป
"เฮ้ย! มึงเป็นใครวะ!?"
หลังจากค้างไปหลายวินาทีผมก็ถามสิ่งที่ควรจะถามตั้งแต่แรกออกไป ตอนนี้เองไอ้กลอนถึงเริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในตัวมัน
ตัวเย็น- -ไม่เย็นจัดเป็นน้ำแข็งก็จริงแต่ก็ถือว่าเย็นกว่าคนทั่วไป นุ่งโจงกระเบนสีเขียวเข้ม สมัยนี้ไม่มีใครเขาใส่กันแล้วครับพี่ ที่สำคัญ- -สิ่งที่ผิดปกติมากที่สุดคือนัยน์ตา....
ตามันเป็นสีดำก็จริงแต่เสือกมีสีเขียวเรืองๆเห็นได้โคตรชัดในความมืด....
"อะไรกันน้องกลอนเรียกพี่มาเองนะจ๊ะ"
มันยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวก่อนยกมือซ้ายให้เห็น ไอ้กลอนอึ้งทันทีที่เห็นแหวนทองเกลี้ยงคุ้นตาในนิ้วนางข้างซ้้ายของมัน
"พี่เป็นนายตานีที่น้องกลอนเรียกมาไงจ๊ะ แต่พี่เป็นเมียให้น้องไม่ได้ ดังนั้นพี่คงได้แต่แก้ตัวด้วยการเป็นผัวให้น้องกลอนแทนก็แล้วกันนะจ๊ะ"
ฮะ!!!! นายตานี !!!! ±+++++++++++++++++++++
เพื่อความต่อเนื่องและความฟินก็ย้อนกลับไปอ่านบทนำอีกรอบหนึ่งนะคะ 555555 อยากบอกว่าเมื่อยมือมากกกกก กว่าจะพิมพ์เสร็จร่วมสามชั่วโมงค่ะ (เขียนในสมุดเรียบเรียงเนื้อหาแล้วพิมพ์ลงแท็บเล็ตอีกทีค่ะ) ยังดีนะที่เป็นแท็บเล็ตอย่างน้อยก็หน้าจอใหญ่กว่ามือถือ
แต่พอพิมพ์เสร็จแล้วมีความสุขมากค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นท์มาอ่านมากๆนะคะ แล้วเจอกันใหม่เมื่อนายตานียอมปล่อยน้องกลอนออกจากห้องนอนค่า~~~
*ชื่อน้องกลอนมาจากคำว่า กวี + ราช แปลง่ายๆก็คือเจ้าแห่งกวี (กาพย์ กลอน) น้องเลยได้ชื่อเล่นว่ากลอนค่ะ*