ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocksช็อตที่ 14ตี๊ดดดด.... ตี๊ดดดด....
อือ...
เสียงอะไรวะ
บินหลางึมงำกับตัวเอง เอื้อมมือควานสะเปะสะปะ
หยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งยังคงสั่นไม่หยุดอยู่บนหัวเตียง
กดรับ กรอกเสียงลงไป ทั้ง ๆ ที่ตายังคงปิดสนิทซุกอยู่กับหมอน
“ฮัลโหล ว่าไงคร้าบบ...”
“เฮ้ยบิน มึงว่างเปล่า”
ไอ้เผือกเพื่อนรักถามมาตามสาย
ส่วนเขาเองก็ตอบกลับไปตามความจริง
“ไม่ว่าง กูนอนอยู่”
“เออ งั้นมึงตื่นได้แล้ว
วันนี้พี่ไผ่เขาติดธุระ
มาช่วยร้องแทนมึงไม่ได้
มึงต้องมาร้องเอง”
คำสั่งสายฟ้าแลบทำให้คนฟังเผลอขมวดคิ้ว
โห...ไรวะ คนเพิ่งหายป่วยคิดจะใช้ยันเลย
แต่จะไม่ไปก็ใช่ที่
รู้ ๆ กันอยู่ว่าทำงานเท่ากับมีเงิน
แล้วเขาต้องรีบหาให้ได้เยอะ ๆ
เพื่อไปใช้หนี้ค่าโรงพยาบาลไอ้หน้ามึนด้วย
คนมีภาระค้ำคอถอนหายใจเซ็ง
ถามกลับไปอย่างหน่าย ๆ
“ที่ไหน กี่โมง”
“ร้านเฮียเอก ทุ่มหนึ่ง”
เขาเงยหน้าออกจากหมอน สะลึมสะลือมองนาฬิกา
แล้วก็แทบจะสะดุ้งตื่นเต็มตา
เมื่อพบว่าเข็มยาวชี้อยู่เลขสิบเอ็ด
ส่วนเข็มสั้นใกล้จนแนบเลขเจ็ด
“เฮ้ย! มันอีกห้านาทีไม่ใช่เร๊อะ!!”
“ใช่มั้ง มึงก็รีบมาล่ะกัน แค่นี้นะ”
ตื๊ดดด.... ตี๊ดดดด...
วางสายไปแล้ว
สมคอนเซปต์มาเร็วเคลมเร็ว
แต่ช่วยถามกูสักนิดก็ดีว่า
จะเร็วตามมึงทันมั้ย
“ไอ้ควายเผือกกกก!!!”
เขาสบถสาปส่งกับโทรศัพท์ทิ้งท้าย
ก่อนรีบพุ่งไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วทำลายสถิติ
แล้ววิ่งโกยแนบข้ามตึกไปอีกสองตึก
โชคดีที่ร้านเฮียอยู่ใกล้แค่นี้
เพราะมอเตอร์ไซต์ของเขายังจอดคาร้านไอ้เผือกอยู่เลย
ต้องโทษไอ้หน้ามึนที่ปล่อยให้เขาไปไหนมาไหนโดยนั่งรถมัน
ถึงจะเป็นรถหรูแค่ไหน แต่ตราบใดที่คนขับไม่ใช่เขา
ก็นับได้ว่าไม่มีประโยชน์อยู่ดีนั้นแหละ
บินเปิดประตูร้านเข้าไปอย่างเร่งรีบ
พลางกวาดตามองบนเวที
เห็นสมาชิกวงกำลังเช็คซาวน์เตรียมพร้อมอยู่แล้ว
เขาจึงเดินตามไปสมทบข้างหลัง
ปากก็ตะโกนถามมือกีตาร์ที่โทรเร่งตาม
“กูมาแล้ว ไมค์อยู่ไหนวะ”
“ไมค์อยู่ตรงบาร์”
คนฟังชะงักกึก
เบรกเท้าที่กำลังจะเหยียบขึ้นเวที
ขมวดคิ้วร้องถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ
“ห่ะ? มึงว่าไมค์อยู่ตรงไหนนะ”
“ไมค์อยู่ตรงบาร์เหล้า
พี่เขายืมไปใช้
มึงไปตามเอาเองแล้วกัน”
คำตอบที่ย้ำชัดเจนอีกรอบทำเอาดวงตาคมกระพริบปริบ
เออ...มันใช่ที่ที่ควรอยู่มั้ย
ทำไมไปอยู่ตรงนั่นได้วะ
หรือพี่เขาจะเอาไมค์ไปผสมเหล้ารึไง
“ไปสิมึง เดี๋ยวก็เริ่มแล้ว”
คนที่ยังคงงงได้ยินเสียงตะโกนเร่ง
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิด
เขารีบเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์บาร์เหล้าที่อยู่ห่างเวทีไปไม่ไกล
พร้อมกับร้องถามหาสิ่งที่ต้องการ
“พี่ครับ ขอไมค์ผมหน่อยครับ”
บาร์เทนเดอร์ชายวัยกลางคนละสายตาจากแก้วเหล้า
เงยหน้าขึ้นมองก่อนถามกลับอย่างงง ๆ
“ไมค์อะไรน้อง”
“ไมโครโฟนไงพี่ ผมจะขึ้นไปร้องเพลง””
เขาขยายความซ้ำ แต่คู่สนทนากลับยังทำหน้างงไม่เลิก
“ไม่ได้อยู่ที่พี่นะ”
“อ้าว แล้วมันอยู่ไหนอ่ะ”
ตอนนี้เป็นบินเองที่เริ่มงงบ้างแล้ว
ไหนไอ้เผือกบอกว่าอยู่ที่บาร์เหล้าไงวะ
แล้วตกลงมันอะไรกันแน่เนี่ย!?
ยังไม่ทันจะได้สงสัยต่อ
คำตอบกลับลอยมาตรงหน้า
เมื่อพี่บาร์เทนเดอร์ชี้นิ้วผ่านเลยไปด้านหลัง
“ไมค์มันอยู่ที่นักร้องบนเวทีแล้วไม่ใช่เหรอ”
...นักร้องไหน
ก็เขานี่ไงนักร้อง
หรือว่า...
บินหลาหันกลับไปมองทันที
และก็ต้องนิ่งอึ้ง
เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ท่ามกลางไฟสลัว
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร
เจ้าของไมค์หน้ามึน ๆ แบบนี้
มีเพียงคนเดียว
...ไอ้พี่ศร
ทะ...
ทำไมถึงไปอยู่บนนั่นได้...
คำถามมากมายผุดขึ้นในห้วงความคิด
หากแต่คำเฉลย
กลับกลายเป็นเสียงดนตรีที่ค่อย ๆ ดังขึ้นเป็นทำนองเพลงเบา ๆ
พร้อม ๆ กับแสงสปอร์ตไลท์เริ่มส่องสว่างรวมจุดไปยังตรงกลางเวที
คีย์บอร์ดซึ่งถูกเล่นโดยมือเบสแว่วผ่านเมโลดี้แผ่วหวานของเพลงที่ไม่คุ้นหู
ก่อนร่างสูงจะพูดกรอกลงตามไมค์ให้ได้ยินกันทั่วร้าน
“เพลงนี้ผมขอมอบให้คนสำคัญของผมครับ”
ถ้อยคำกำกวม...
ทว่าสายตาของคนบนเวที
กลับมองตรงมายังเขาที่กำลังยืนมึนงงอยู่หน้าเคาท์เตอร์บาร์เหล้าอย่างแน่วแน่
เหมือนต้องการจะย้ำชัดว่า คนสำคัญคนนั้นคือใคร
และเพียงไม่นานเสียงทุ้มนุ่มก็ร้องผ่านออกมาเป็นเพลง
เพลง....
...ซึ่งทำให้บินต้องนิ่งฟังอยู่อย่างนั้น
http://www.youtube.com/v/qoXzVYynZ4g? “ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้และไม่เข้าใจ
ว่าทำไมต้องรักเธอ ไม่เข้าใจ
เหตุผลฉันก็ไม่มี ก็รู้ว่ามันไม่ดี
ที่ไม่อาจควบคุมจิตใจตัวเอง
คำว่ารัก มันบงการให้ฉันทำไป
แม้มันจะเจ็บ ก็ยังจะรัก
ผิดไหม...หากรักเธอฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีฉันควรหยุดใจตัวเอง
หรือต้องทำใจไม่คิดอะไร หรือควรทำอย่างไร
เธอ...บอกฉันทีฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีให้ฉันได้เจอความจริงให้ฉันทำใจ
เลิกหวังไปไกล และรับความจริงเสียที
สุดท้ายไม่รู้เป็นไง ที่รู้ที่ฉันเข้าใจ
คือวันนี้ฉันรักเธอ รักล้นใจ
จากนี้ฉันต้องทำไง ก็ยังไม่รู้จริงจริง
ยังไม่เจอหนทางใดให้เดินไป
คำว่ารัก มันบงการให้ฉันทำไป
แม้มันจะเจ็บ ก็ยังจะรัก
ผิดไหม หากรักเธอฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีฉันควรหยุดใจตัวเอง
หรือต้องทำใจไม่คิดอะไรหรือควรทำอย่างไร
เธอ...บอกฉันทีฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีให้ฉันได้เจอความจริงให้ฉันทำใจ
เลิกหวังไปไกล และรับความจริงเสียที...”
เนื้อเพลงจบลง
ทว่าคำพูดของคนร้องยังคงดังขึ้นเป็นคำสุดท้าย
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ บิน”
...สุขสันต์วันเกิด?
วันเกิดใคร...
วันเกิดเขา...
เออว่ะ ใช่...
วันเกิด!!
เฮ้ย!! เขาลืมไปได้ไงวะเนี่ย
วันสำคัญขนาดนี้ไม่น่าพลาดเลยนี่หว่า
แต่ให้ทำไงได้
เพราะช่วงนี้มัวแต่เจออะไรยุ่ง ๆ
ไหนจะไม่สบาย...
แล้วไหนจะต้องมาวุ่นวายกับใครบางคนอีก
ใครบางคน....
ที่เพิ่งร้องเพลงจบไปบนเวที
...ผิดไหมที่ฉันรักเธอ
เพลงอะไรวะ
ร้องออกมาได้ยังไง
น้ำเน่าฉิบหาย
ถามออกมาได้ว่าทำผิดไหม
เออ!
เขาจะบอกให้ก็ได้ว่ามันผิด
ผิด...
...ที่ทำให้เขาไม่กล้าเงยหน้ามองขึ้นไปบนเวทีแบบนี้ไงเล่า!!
บินหลารีบหมุนตัวกลับไปยังบาร์เหล้าทันที
นึกหงุดหงิดใจที่ตัวเองตกหลุมพรางไอ้เผือก
โดนหลอกเสียสนิทเลยกู
มันตั้งใจให้ไอ้หน้ามึนมาร้องเพลงอยู่แล้วนี่หว่า
แล้วดันปล่อยให้เขามาถามหาไมโครโฟนตรงบาร์ซะได้
แม่ง ไอ้ควายเผือกทำแสบนัก!!
“วู้ววว!! เจ้าของวันเกิดอยู่ไหนวะ
มานั่งนี่เร็วววว
พวกกูสั่งอาหารไว้รอแล้วววว”
เสียงตัวการจอมวางแผนตะโกนดังข้ามร้านขัดความคิด
แค่ได้ยินว่ามีอาหารไว้รอ
ท้องเจ้ากรรมก็ร้องตามขึ้นทันที
อยากจะทำเป็นหงุดหงิดใส่นักหรอก
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจ
เดินไปนั่งโต๊ะที่มีกับข้าวเสิร์ฟพร้อมรอเรียบร้อย
เหมือนรู้เวลาที่วงจะเลิกเล่น
เอ๊ะ...
แล้วอยู่ดี ๆ มันเลิกเฉยเลยได้ไงวะ
“ทำไมไม่ไปเล่นต่อล่ะ”
บินรีบถามทันทีที่ลากเก้าอี้นั่ง
ไอ้เผือกแค่ยักไหล่ ตอบคำขณะเทเบียร์เย็น ๆ ลงแก้ว
“วันนี้ไม่มีคิว กูไปขอแทรกเขามาเฉย ๆ
เดี๋ยวไม่มีเวลาเลี้ยงฉลองวันเกิดมึง”
โห...พูดจาดูเป็นคนดีเนอะ
แต่ได้ข่าวว่าต้มกูซะเปื่อยเลย
“ไหนบอกว่าขาดคนร้อง
แล้วทำไมไอ้พี่ศรถึงขึ้นไปได้
แถมให้กูไปตามหาไมค์จนหน้าแตกอีก”
“ก็เซอร์ไพรส์มึงไง
พวกกูอุตส่าห์เตี๊ยมกับพี่ศรล่วงหน้าตั้งหลายวัน
ตอนแรกกูเรียกเขาไปร้องกันและกัน
กะว่าให้เหมือนหนังรักแห่งสยาม
แต่พี่แกมาขอเปลี่ยนเพลงเมื่อเย็นนี้เอง
เล่นเอาซึมเลย ทะเลาะกันเหรอวะ
พี่เขาถึงอุตส่าห์มาร้องเพลงง้อขนาดนี้
ยอม ๆ เขาหน่อยเหอะ
ตอนร้องอย่างเท่เลยนะ เสียงก็ดี
มึงว่าเอาเป็นนักร้องนำดีมั้ย”
คนฟังคิ้วกระตุกให้กับคำชมที่จ้อไม่หยุด
อ้าว ๆ ไอ้เผือกครับ
ได้ใหม่แล้วลืมเก่า
หัวนักร้องนำเห็นตำตาอยู่ทนโท่แท้ ๆ
มองข้ามไปเฉยเลย
“เออ อยากได้ก็เอา
กูจะได้จำไว้ว่าเพื่อนกันมันให้กันแค่นี้”
เขาบ่นประชดจนคนข้างตัวต้องรีบพูดอ้อน
“โอ๋ๆ อย่าน้อยใจซีวะ
เดี๋ยวนี้ขี้งอนนะมึง
อ่ะ เอานี่ไป”
คำง้อมาพร้อมสินบนที่อีกฝ่ายยื่นมาให้
...แก้วค็อกเทลบรรจุน้ำสีส้มอมแดง
ด้านบนปักก้านเชอร์รี่กับร่มคันเล็ก ๆ ไว้
ดูคิกคุอาโนเนะไม่เหมาะกับหน้าตา
และความเถื่อนของสมาชิกในวงเหล้านี้เลยแม้แต่น้อย
“กูเพิ่งหายไข้มึงจะให้กูกิน”
คนยัดเยียดพยักหน้ารีบเอ่ยสนับสนุน
“เออ มึงเป็นเจ้าของวันเกิดทั้งที่
สักหน่อยเหอะ รับรองไม่มึนหรอก
แก้วนี้มันผสมเหล้านิดเดียวเอง
ชื่อ Sex on the beach”
“ห่ะ? ชื่ออะไรนะแม่งโคตรส่อ”
บินถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ
แต่คนฟังกลับยักคิ้วกวน ๆ
“เอาไว้เผด็จศึกพี่ศรคืนนี้ไง”
“พ่องสิ!”
คนถูกแหย่รีบสบถด่าออกไปทันควัน
ไอ้เผือกหัวเราะให้กับคำสรรเสริญ
ก่อนจะหันไปจัดการกับหม้อต้มยำกุ้งตรงหน้า
ทิ้งเขาไว้กับแก้วบรรจุน้ำเมาสีสวย
เอาว่ะ...
ไหน ๆ ก็เป็นวันเกิดทั้งที่
ค็อกเทลผู้หญิงแบบนี้มันจะมึนสักแค่ไหนกันเชียว
บินตัดสินใจยกแก้วขึ้นจิบ
ทันทีที่น้ำสัมผัสลิ้น...
รสหวานอมเปรี้ยวกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ก็ลอยขึ้นจมูก
แปลกดี...
ไม่ขมปร่าจนบาดคอเหมือนเหล้าที่เคยดื่ม
กลับให้ความรู้สึกคล้ายน้ำผลไม้รวมมากกว่า
รสชาติอร่อยใช้ได้ แต่ยังไงซะมันก็คือเหล้า
ดื่มมาก ๆ ก็มีสิทธิ์เมาได้เหมือนกัน
เขายิ่งคออ่อนอยู่ด้วย
ซัดเข้าไปไม่ระวังมีหวังได้เมาเหมือนหมาแน่
เออ...พูดถึงไอ้คนที่เมาไม่ต่างจากหมา
...ไอ้หน้ามึน
มันหายไปไหนวะ
ตั้งแต่ลงจากเวทีมาก็ไม่เห็นเลยนี่หว่า
หรือจะแอบไปก๊งเหล้าล่วงหน้าก่อนอีกแล้ว
บินชะเง้อมองซ้ายขวา
ทว่ายังไม่ทันได้เหลียวดูรอบร้าน
เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก
เมื่ออยู่ ๆ ไฟตรงบริเวณโต๊ะกลับดับพรึ่บ
และก่อนจะทันได้พูดอะไร
แสงวอมแวมจากเทียนเล่มเล็ก ๆ ซึ่งปักบนเค้ก
ก็ถูกถือออกมาโดยคนที่เพิ่งอยู่ในห้วงความคิด
พร้อมกับเพลงอวยพรดังขึ้นจากบรรดาเพื่อน ๆ
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู~~ บิน
วู้ววววว!!!! เป่าเลย ๆ”
เจ้าของวันเกิดก้มหน้าลงเป่าตามเสียงเชียร์จนเทียนดับ
แสงจากหลอดไฟกลับมาส่องสว่างอีกครั้ง
ไอ้เผือก ไอ้ต้น ไอ้แมน หยุดยื่นยิ้มหน้าแฉล้ม
ยื่นกล่องห่อกระดาษสีสวยมาให้
“อ่ะนี่ ของขวัญจากพวกกู
จะแกะดูเลยก็ได้นะ”
ได้ยินคำอนุญาตอย่างนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว
คนรับไม่รอช้า รีบแกะกระดาษออกอย่างรวดเร็ว
แล้วดวงตาคมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นของที่นอนนิ่งอยู่ด้านใน
...โมเดลกีตาร์ GIBSON ของ ZAKK WYLDE
นักกีตาร์มืออันดับต้น ๆ ของโลกที่เขาโคตรปลื้ม
แถมไม่ได้มีตัวเดียว ยังมาถึงสองรุ่นนิยมด้วย
งานแฮดเมดฝีมือเนี๊ยบขนาดนี้
มองแวบเดียวก็รู้ว่าคงมีราคาน่าดู
“ของจริงพวกกูคงต้องขายบ้านซื้อ
เอาโมเดลไปนอนกอดก่อนล่ะกันนะมึง”
ไอ้ต้นแซวเล่นขำ ๆ
แต่สำหรับเขา...
น้ำใจจากเพื่อนแค่นี้ก็ถือมากเพียงพอแล้ว
“ขอบใจว่ะ”
บินพูดพร้อมยิ้มกว้าง
...รอยยิ้ม
ที่ทำให้ไกรศรได้แต่นั่งมองเงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น
เขาไม่กล้าเข้าไปแทรกการคุยระหว่างเพื่อนหรอก
เพราะกลัวจะโดนบินหาว่ารำคาญอีก
แค่อยู่ดี ๆ ขึ้นไปร้องเพลงผิดแผนจากที่อุตส่าห์วางกันไว้
ก็เหมือนกับเขาเอาแต่ใจมากพอแล้ว
ไม่รู้ว่าบินหายโกรธหรือยัง
หรือทำให้โมโหไปมากกว่าเดิม
ที่เขาดันประกาศออกไปโต้ง ๆ ว่าบินเป็นคนสำคัญกลางร้าน
บินคงไม่ชอบที่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นอย่างนั้น
เขาเองก็รู้...
ผู้ชายเหมือน ๆ กันมันคงทำใจลำบาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงขยะแขยง
แต่ตอนนี้ เขาพอจะเข้าใจแล้ว
...เข้าใจในความหมายของคำนั้น
‘ความรักมันไม่มีแบ่งแยกเพศ’
มันคงจะจริง...
เพราะแค่เห็นรอยยิ้มบิน
ไม่รู้ทำไม...
เขาถึงดีใจมากขนาดนี้
อยากจะรู้ว่าบินคิดเหมือนกันรึเปล่า
แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป
...บินจะพอมีใจให้กันบ้างมั้ย
...บินจะรับรู้ถึงความพยายามที่เขาทำมากแค่ไหน
แล้ว...
...บินจะยอมให้เขาเป็นแฟนต่อไปได้รึเปล่า
“มา ๆ ชนแก้ว ๆ กัน
พี่ศรอวยพรให้บินหน่อยสิครับ”
คำเรียกทำให้คนคิดไกลหลุดจากภวังค์
ไกรศรรีบดึงสติกลับมา
เห็นบรรดาน้อง ๆ ถือแก้วรอคำอวยพร
พร้อมกับเจ้าของวันเกิดคนสำคัญที่ยืนอยู่ตรงข้ามไม่ห่างกัน
เขามองสบนัยน์ตาคมอันคุ้นเคย
พยายามเรียบเรียงคำพูดอยู่ในสมอง
ก่อนจะเอ่ยคำจากใจออกมาให้ได้ยิน
“วันนี้บินอายุครบ 24 ปี
งั้นพี่ขออวยพรให้บินมีความสุขตลอด 24 ชั่วโมง
ขอให้บินแข็งแรงตลอด 24 ชั่วโมง
ขอให้บินเจอสิ่งที่ดีตลอด 24 ชั่วโมง
แล้วพี่ก็ขอให้บิน...
...อนุญาตให้พี่รักบินได้ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ”
“ฮิ้วววววววววววว!!!!”
สิ้นคำอวยพร
เสียงโห่แซวก็ดังขึ้นตามมาทันที
บินรู้สึกได้ว่าแก้วในมือตัวเองสั่น
...คำอวยพรบ้าอะไรวะ
คิดเข้าไปได้ยังไง
ใครที่ไหนเขาอวยพรกันอย่างนี้
ไอ้สามประโยคแรกพอเข้าใจ
แต่ประโยคสุดท้ายไม่ต้องพูดก็ได้มั้ง
แล้วดูมัน...
ยังจะมาทำหน้ามึนใส่อีก
ไอ้พวกนี้ก็โห่กันไม่เลิก
สนุกเลยสิมึง
“โอยยย เงียบกันได้แล้วโว้ยย!!
เอ้า!! ชน ชน ชน!!”
บินรีบร้องโวยวายชนแก้วเหล้าส่ง ๆ ไปทั่ว
ก่อนกระดก Sex on the beach เข้าปากไม่ยั้ง
ปกติเขาไม่ชอบเมา
แต่งานนี้เมา ๆ ไปเลยได้ก็ดี
เมาซะให้มันมึน...
เผื่อจะได้ลืม...
...ลืมว่าหน้าตัวเองกำลังร้อน
...ลืมว่าถูกใครบางคนมอง
และเผื่อจะได้ลืมว่าตัวเองมีแฟน...
...แฟนที่สามารถทำให้เขายิ้มกว้างออกมาได้ขนาดนี้โดยไม่รู้ตัว
------------------------------------------------------------------------------------------------------
TBC