เสียงกระซิบจากลมหนาว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงกระซิบจากลมหนาว  (อ่าน 47461 ครั้ง)

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
เสียงกระซิบจากลมหนาว
« เมื่อ05-04-2010 20:02:22 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





บทนำ


    ช่วงเวลาที่พระเจ้าทำหล่นหาย คือช่วงเวลาแห่งความสุขของผม.....



ผมเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆ ที่มีความรักและความฝัน......

ผมคือคนๆนึงที่เจ็บปวด ร้องไห้ ทุกข์ทุน และทรมาณเป็นไม่ต่างไปจากใคร.....

วันเวลาหล่อหลอมผมจนกลายมาเป็นตัว'ผม'ในวันนี้..............

แต่ผมคนนี้.....กลับไม่เคยมีตัวตนในสายตาของใคร

เสียงนี้....ไม่เคยมีใครได้ยิน

ลมหายใจนี้......ไม่เคยมีใครจะรับรู้

ผม......ที่แม้แต่ครอบครัวก็ไม่ต้องการ

แล้วใครกัน......จะเห็นผม.....ซึ่งอยู่ในความมืดมนแห่งนี้กัน

ถ้าเห็น.....ได้โปรด หยิบยื่นมือของคุณมาให้ผมที.....

ฉุดผมขึ้นจากความทรมาณนี้ที.......


    อีกไม่กี่วันความฝันของผมก็จะเป็นจริงเสียที วันที่ผมจะได้พบหน้าพี่ชายทั้งสองคนของตนเอง พี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน พี่ชายที่ไม่เคยได้รับรู้ว่ามีน้องชายคนนี้อยู่อีกคน

อยากจะรู้นัก......ว่าครอบครัวนั้นจะอบอุ่นเพียงไหน

อยากจะรู้นัก.....ว่าจะมีช่องว่างให้ส่วนเกินอย่างผมแทรกเข้าไปได้ไหม

อยากจะรู้นัก....ว่าผู้ให้กำเนิดผม.....ยังจำลูกคนสุดท้องคนนี้หรือเปล่า

อยากจะรู้จริงๆ......


ผมไม่ได้มาเรียกร้องอะไรจากพวกเค้าทั้งนั้น

เพียงแค่.....ขอเพียงแค่รอยยิ้มอันอบอุ่น.......ที่จะจารึกอยู่ในความทรงจำของผมแม้วันสุดท้ายของลมหายใจ

แค่นี้ให้ผมได้ไหมครับ.....คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย.......

****
นิยายเรื่องนี้แต่งจบแล้วค่ะ
จะทยอยมาลงเรื่อยๆ
และอาจจะมีการแก้ไขเนื้อหาหรือเพิ่มเนื้อหาบางส่วน
จะทยอยลงวันละตอนถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดค่ะ
ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ^^

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 21:05:25 โดย THIP »

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระ
«ตอบ #1 เมื่อ05-04-2010 20:19:08 »

เสียงกระซิบจากลมหนาว 1





"ดูแลตัวเองด้วยนะ ลม"

"ครับแม่ ผมไปเรียนนะครับ" ผมบอกลาแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถมุ่งตรงไปยังโรงเรียนแห่งใหม่ แม่เป็นห่วงผมมากๆเพราะร่างกายของผมไม่แข็งแรงเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป

แม่คนนี้ที่รักผมสุดหัวใจ แม้ว่าผมจะเป็นลูกนอกไส้ของท่าน

แม่คนนี้ที่อยู่เคียงข้างผมมา แม้ในนาทีเป็นนาทีตายของชีวิต

แม่คนนี้ที่ยอมเสียทุกอย่าง แต่ไม่ยอมเสียผมไป

แม่คนนี้ที่เห็นคุณค่าของชีวิตผม ซึ่งแม้พ่อแม่แท้ๆของผมยังไม่เคยเห็นค่ามันด้วยซ้ำ

ขอบคุณครับแม่......ผมขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ให้ผมมา

ผมสัญญา......ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ผมสัญญาว่าแม่ก็ยังจะเป็นแม่ของผม แม่ก็ยังจะเป็นแม่ที่ผมรักสุดหัวใจเหมือนเดิมครับ




"ถึงแล้วครับคุณลม"
   
    ผมบอกขอบคุณลุงหนอมคนขับรถเบาๆก่อนจะเดินลงจากรถมา โรงเรียนแห่งนี้คือโรงเรียนที่พี่ชายทั้งสองของผมเรียนอยู่ ผมย้ายมาจากเหนือเพื่อมาตามหาพวกเค้า โดยที่ผมให้สัญญากับแม่ว่าจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีต จะไม่บอกพวกเค้าว่าผมเป็นน้อง ไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับครอบครัวนั้นให้ใครฟัง เพียงแค่ให้ผมมาพบ....และเฝ้าดู แค่นี้.....ผมก็พอใจแล้วล่ะ

เพียงแค่เฝ้าดู........ก็เพียงพอแล้ว

ผมรู้ว่าแม่กลัว......กลัวว่าจะเสียผมไป

    ผมไม่อยากอกตัญญูกับผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงผมมาจนเติบใหญ่ ผมจึงเลือกทำตามคำขอของท่านอย่างไม่ลังเล


   เดินเรียบไปตามทางเดินโดยไม่มีใครสนใจใคร หรือว่าพวกเค้าไม่สนใจผมก็ไม่อาจจะรู้ได้ ปกติผมมันก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว ผมไอ้แว่นขี้เหร่ขี้ก้างเหลาะแหละและอ่อนแอ ไม่มีใครอยากรู้จัก ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วยหรอก ตัวที่สูงไม่ถึง 170 ซม.ดี ผิวขาวจัดจนเกือบซีดเพราะไม่ค่อยได้ออกแดด ใบหน้าเรียวเล็กกับรูปร่างที่ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ทำให้ผมถูกเพื่อนๆแกล้งอยู่บ่อยๆ ทั้งชีวิตของผมมีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน

พวกเค้าจึงเป็นเกือบทุกสิ่งทุกอย่างของผม

แต่ตอนนี้.....ผมหนีเพื่อนมาเพื่อตามหา ตามหาสิ่งที่เป็นความฝันของผม

หวังว่าจะเข้าใจกันนะ.......

"เอาล่ะค่ะ นักเรียนทุกคนมารู้จักเพื่อนใหม่กัน แนะนำตัวจ๊ะ"

"สวัสดีครับ ผมชื่อนายวายุ .... เรียกลมก็ได้ครับ"

   ผมแนะนำชื่อไปซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจฟัง เป็นอย่างนี้เสมอๆแหละ ผมมันไม่เคยมีตัวตนอยู่แล้วนี่....... ผมกวาดสายตามองไปรอบๆก่อนจะไปสดุดตากับร่างสูงโปร่ง ผิวขาวแต่ไม่เท่าผม นัยส์ตาสีดำสนิทเช่นเดียวกับสีผม รอยยิ้มของเขาเหมือนพระอาทิตย์ตอนหน้าร้อนเช่นเดียวกับชื่อของเขา.....ซัมเมอร์

   พี่ชายฝาแฝดของผมเอง.....ผมรู้สึกหายใจติดขัด เหมือนมีอะไรมาจุกในอก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ 

เขาคือพี่ชายของผม......พี่ชายของผม.....

     แม่บอกว่าเขาคือพี่ชายฝาแฝดของผม เราเป็นแฝดคนละฝา จึงมีหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกัน พี่ซัมเมอร์มีหน้าตาน่ารักๆ ยิ้มเก่ง ใครได้เข้าใกล้ก็รู้สึกอบอุ่น

อาจารย์บอกให้ผมไปนั่งข้างเขา.....ดีใจจัง ผมแอบยิ้มในใจ

"นายย้ายมาจากไหนเหรอ อ่อ....เราชื่อซัมเมอร์ ยินดีที่รู้จักนะ" พี่ซัมเมอร์หันมาทักผมพร้อมรอยยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ เขายิ้มให้ผม......

ผมรู้สึกตื้นตันใจจัง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว....สำหรับต่อชีวิตของผม

"มาจากเชียงใหม่......ชื่อลม" ผมตอบเสียงค่อย ผมเป็นคนเสียงหวานแม่บอกอย่างนั้น แต่ผมไม่ชอบเสียงแบบนี้เลย.....มันจึงทำให้ผมไม่ค่อยชอบพูดกับใคร

"ชื่อลมเหรอ....."

    ใช่ครับ ลม.....ที่มาจากคำว่า วินด์........วินเทอร์.......แม้จะต่างความหมายกัน แต่มันก็บ่งบอกถึงอุปนิสัยของผมได้เป็นอย่างดี วินเทอร์ที่ต่างจากซัมเมอร์ ฤดูหนาวที่แสนหนาวเหน็บ ต่างจากฤดูร้อนที่อบอวลไปด้วยความสุข.....

ลม.....ชื่อนี้ แม่เป็นคนตั้งให้ และผมก็รักมันเหลือเกิน.....เพราะมันคือชีวิตใหม่ของผม แม่บอกว่าแม้ลมจะเป็นลมหนาว แต่เมื่อพัดผ่านมายังแม่ ลมคือสายลมแห่งความอบอุ่นที่ห่อหุ้มแม่เอาไว้และช่วยปัดเป่าท่านจากความว้าเหว่

"........."

    แล้วเราก็เงียบกันไป ทั้งๆที่ผมมีเรื่องราวมากมายอยากจะพูดคุย อยากจะถามไถ่แต่ผมก็ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถามเพราะกลัวเขาจะรังเกียจ กลัวว่าเขาไม่อยากจะคุยกับผม กลัวว่าถ้าผมรีบร้อนเค้าจะตีตัวจากผมไป แล้วผมจะพลาดทำความรู้จักกับพี่ชาย

"ลม....ลม" เสียงเรียกของพี่ซัมเมอร์ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิด หันมามองหน้าเขาอย่างสงนสงสัย แต่ก็ดีใจที่เขาจำชื่อผมได้

"ไปกินข้าวด้วยกันไหม"

    พี่ซัมเมอร์เอ่ยชวน เพื่อนๆของเขาทั้งชายหญิงส่งสายตาห้ามปราม แต่เขาก็ทำเหมือนไม่รับรู้ดึงมึงผมให้ลุกตามไป

ไปกินข้าวกับพี่ชาย......มื้อแรกของผมและเค้าจะเป็นยังไงนะ

"ลมจะกินอะไรดี เอ.....กินสุกี้ทะเลกันมั้ย" พี่ซัมเมอร์หันมาถามผมเสียงใส เพื่อนๆของเขาคนอื่นๆต่างพากันเขม่นผม จนผมตัวลีบเหลือไม่กี่เซ็น ผมรู้ว่าพี่ซัมเมอร์ชอบกินอาหารทะเล แต่ทั้งๆที่เราเป็นฝาแฝดกันแต่ผมกลับแพ้อาหารทะเลทุกชนิด......

"เราแพ้อาหารทะเล" ผมก้มหน้าบอกเสียงค่อย พี่ซัมเมอร์ทำตาโตก่อนจะพึมพำว่าถ้าเขาแพ้มั่งชีวิตนี้คงจะไม่มีความสุข

"หึ นอกจากขี้เหร่แล้วยังขี้โรคอีกนะ" เพื่อนผู้ชายคนนึงซึ่งผมจำชื่อไม่ได้แดกดันเบาๆให้พอได้ยินไม่กี่คน ผมรู้ตัวดี.....ไม่ต้องตอกย้ำจุดต้อยของผมก็ได้

"ตัวก็เตี้ย ผิวก็ซีดอย่างกะศพ ใส่แว่นเทอะทะ ผมก็ยาวรุงรังคงจะไว้ยาวเพื่อปกปิดใบหน้าขี้เหร่ๆของตัวเองล่ะสิ อย่ามาอยู่ใกล้ซัมเมอร์เดี๋ยวเค้าจะมีเสนียดติด" เมื่อพี่ซัมเมอร์ออกเดินไปซื้ออาหารแล้วทิ้งผมอยู่กับเพื่อนๆของเค้า พวกเพื่อนๆของเค้าก็พากันรุมต่อว่าเสียดสีผมทันที

"แล้วรู้เอาไว้ด้วย ว่าพี่ออทัมไม่ยอมให้คนอย่างมึงมาเข้าใกล้น้องชายเค้าให้เป็นจัญไรหรอก" ออทัมคือพี่ชายคนโตของผม เขาคงจะรักพี่ซัมเมอร์มากๆล่ะสิ ถึงได้จัดการให้พี่ซัมเมอร์ทุกอย่างแม้แต่การเลือกคบเพื่อนฝูง

    พี่ออทัม.....พี่ชายคนโต เปรียบเสมอฤดูใบไม้ร่วง เย็นชาแต่ก็อบอุ่น แม้จะขัดแย้งกันแต่นั่นก็คือตัวเขา เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวที่เปรียบเสมอชีวิตของเค้า

    หากถามว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องราวของพวกเค้ามากมาย คำตอบคือ.....ผมให้คนไปสืบมาหมดแล้ว รู้แม้กระทั่งอาหารที่ชอบหรือไม่ชอบกิน แม่เป็นคนจัดการทุกอย่างให้ตามคำขอของผม อย่างที่บอกท่านรักผมมาก เพียงแต่ท่านขอให้ผมให้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งท่านไป ไม่ว่าเดือนหรือดาวท่านก็จะไปคว้ามาหากลูกนอกไส้คนนี้ต้องการ.......

"อ่าว.....ลม ยังไม่ได้ไปซื้ออีกเหรอ" พี่ซัมเมอร์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่าผมยังย่ำอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน ในมือพี่เค้าถือสุกี้ทะเลชามใหญ่กลิ่นหอมฉุน พี่ซัมเมอร์ยิ้มให้ผมก่อนจะโบกมือให้ไปซื้อขาวแล้วตามเขาไปที่โต๊ะ

ผมรู้ว่าพวกพี่ชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร......

แล้วพวกพี่จะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมบ้างมั้ยนะ......

     คงไม่รู้สินะ.........ทั้งๆที่สัญญากับตัวเองแล้วแท้ๆว่าจะไม่เสียใจ......แต่สุดท้ายมันก็จุกจนพูดไม่ออกเลย ทั้งๆที่ตั้งใจจะแค่เฝ้าดู.....แต่เวลานี้ผมได้รู้จัก

แล้วเรื่องไม่คาดคิดอีกมากมายที่จะตามมา.....ผมจะรับมันได้มั้ยนะ.......



****
ส่วนเรื่องโทษที ขอติดไว้ก่อนนะคะ ยุ่งๆอยู่ค่ะ
แบบว่ากำลังยุ่งเรื่องเรียนอยู่ค่ะ
ส่วนเรื่องนี้อาจจะเศร้าไปนิด แต่ก็เป็นเรื่องแรกที่แต่งจบ
ยังไงก็ฝากไวเนอ้อมใจด้วยนะคะ><

ทำไมพอแก้ชื่อเรื่องแล้วมานเปนแบบนั้นทุกทีเลยอ่ะคะ
แบบว่าเปนภาษาต่างดาวอ่ะ T^T
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2010 21:07:34 โดย nanohuman »

cipher

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #2 เมื่อ05-04-2010 20:51:31 »

คนแรก เย้
ตามมาอ่านเรื่องใหม่ :mc4:
คนละแนวกับเรื่องขอโทษทีฯ เลย
เป็นกำลังใจให้น๊า
ปล.พี่น้องชื่อน่ารักจัง ออทัม ซัมเมอร์ วินเทอร์

Nurofen

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #3 เมื่อ05-04-2010 20:54:42 »

ความเปรียบเหมือนฤดูสินะครับ

ทุกๆฤดูก็มีความเเตกต่างซึ่งกันเเละกะน

เนื้อเรื่องดูเศร้าๆน่าอ่านดีนะครับ

มาเจิมซะเลย  :mc4:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #4 เมื่อ05-04-2010 22:22:08 »

ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  :L2:

เรื่องนี้จะจบเศร้าไหมนะ  :impress:

ปอหล๋ออออ~ ชื่อเรื่องขาดๆแหว่งๆอีกแล้วนะ

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซ
«ตอบ #5 เมื่อ05-04-2010 23:55:39 »

เรื่องนี้น่าสนุกมาต่อบ่อยๆเเล้วก็เยอะๆนะครับ
อยากอ่าน
 :call:

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
[นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 2
«ตอบ #6 เมื่อ06-04-2010 13:56:05 »

เสียงกระซิบจากลมหนาว 2



    ผมเดินถือชามแกงจืดวุ้นเส้นตรงไปยังโต๊ะของพี่ซัมเมอร์ เขาโบกมือเรียกผมหยอยๆทำให้ผมรีบสับขาเร็วกว่าเดิม แต่ขณะที่ผมเดินเกือบจะถึงโต๊ะมีใครซักคนยืนเท้ามาขัดขาผม ทำให้ผมล้มลงและแกงจืดที่ร้อนๆอยู่หกเลอะตัวของพี่ซัมเมอร์เต็มไปหมด

"โอ๊ยยยยยย ร้อนนนนนน"

"ซัมเมอร์!!!"

    เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจดังขึ้นเรื่อยๆก่อนจะเงียบลงเมื่อพี่ออทัมวิ่งเข้ามาดูอย่างเป็นห่วง แขนของพี่ซัมเมอร์แดงเถือกไปหมดมันทำให้ผมสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปดูอาการแต่กลับโดยพี่ออทัมผลักอกจนล้มกระแทกพื้น

"มึงทำให้ซัมเมอร์เจ็บ!!ไอ้ระยำ!!!"

"ผะ.....ผมไม่ได้ตั้งใจ" ผมตอบเสียงสั่น รู้สึกเหมือนมีก้อนสะอึกจุกตรงคอ ขอบตาร้อนผ่าวก่อนน้ำใสๆจะหยดลงมาอย่างไม่อาจสะกัดกั้น

"ไม่ได้ตั้งใจ!แต่มึงก็ทำร้ายน้องกูอยู่ดี!!"

"แต่พี่ครับ......"

"อย่าเรียกกูว่าพี่!กูไม่ใช่พี่มึง!!"

   คำด่าทอของเขาทำให้ผมเจ็บร้าวลงไปในอก ไม่ใช่พี่.....พี่ไม่ใช่พี่ของผมเหรอครับ ผมไม่ใช่น้องพี่......ผมมันเป็นไอ้ระยำที่ทำให้พี่ซัมเมอร์เจ็บใช่มั้ยครับ......ผมทำร้ายคนที่พี่รักด้วยมือของผมเอง.....ผมจึงไม่สมควรเป็นน้องของพี่ใช่มั้ย

"ฮึก......"ผมกัดฟันแน่นเพื่อนสะกัดกั้นเสียงสะอึก

"อย่ามาสำออย! ออกไปให้พ้นหน้ากู!!ไอ้ชินพามันออกไป!!" พี่ชินคนที่น่าจะเป็นเพื่อนของพี่ออทัมเดินตรงมาลากผมออกไปจากบริเวรนั้น พี่ซัมเมอร์ร้องบอกให้บ่อยผมแต่ก็ไม่อาจต้านแรงพายุแห่งความโกรธของพี่ออทัมได้เลย.....

"มึง......ไอ้แว่น กูขอเตือนมึงด้วยความหวังดี อย่าเข้าใกล้ซัมเมอร์อีกหรือไม่ก็ออกจากโรงเรียนนี้ไปซะ...."พี่เขาบีบข้อมือผมแน่น จนเจ็บไปหมด

"ผม.....ผิดเหรอครับ"

"........."

"พี่เคยมีความฝันมั้ย......ความฝันของผมคือยืนอยู่ตรงนี้ และผมก็จะพยายามอย่างยิ่งในการรักษามันเอาไว้.....พี่อย่าไล่ผมไปไหนเลยครับ ขอเพียงแค่ช่วงสั้นๆแล้วผมจะเดินจากไปเอง"

   ผมไม่เคยพูดประโยคยาวๆกับคนแปลกหน้า แต่วันนี้ผมเลือก.....เลือกที่จะขอร้องให้เขาช่วย หรือแค่เข้าใจเห็นใจผมซักนิดก็ยังดี.......

"ถ้ามึงอยากจะอยู่ที่นี่อย่างสงบก็ห่างจากซัมเมอร์ซะ......แล้วไอ้ออทัมจะไม่ทำร้ายมึง กูเตือนด้วยความหวังดี"

   แล้วพี่เค้าก็เดินจากไป ทิ้งผมซึ่งตกอยู่ในห้วงความคิดไว้เพียงลำพัง.....ที่นี่คือดาดฟ้าของโรงเรียน ผมเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ใต้ท้องฟ้าสีสดใส มันสดใสเหมือนรอยยิ้มของเธอผู้นั้น........

ฟ้า......เธอชื่อฟ้า

  เธอคือเพื่อนของผมและคือคนที่ผมรัก ผมฝันเอาไว้ว่าจะได้แต่งงานกับเธอ ผมสวมชุดเจ้าบ่าวส่วนเธอสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดถือดอกไม้ช่อโต เราส่งยิ้มให้กันในโบสถ์พร้อมด้วยสักขีผยานนับร้อยที่มาร่วมยินดี แหวนเพชรวงโตถูกสวมลงบนนิ้วเรียวสวย

แต่สุดท้าย.....

   เธอสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาด รอบตัวของเธอปรกคลุมไปด้วยดอกไม้สีขาว เราไม่ได้จูบกันเพราะปากของเธอสวมเครื่องช่วยหายใจเอาไว้ ไม่มีรอยยิ้มในวันนั้น มีเพียงหยดน้ำตาแห่งการสูญเสีย.....เราบอกรักกันผ่านทางสายตาก่อนเธอจะจากผมไปตลอดกาล.......

"ฟ้า.....ยิ้มของฟ้าสดใสเสมอเลยนะ ยังรอเราอยู่รึเปล่า.....อีกไม่นานเราจะตามไปนะ ข้างบนนั้นหนุ่มๆเยอะล่ะสิ อย่านอกใจเราล่ะ" ผมส่งยิ้มขื่นๆไปให้'ฟ้า'

    เนิ่นนานจนผมเผลอหลับไป อากาศเย็นสบายช่วยทำให้สภาพจิตใจของผมดีขึ้น ผมฝัน....ฝันว่าฟ้ามาหาผม เธอส่งยิ้มให้ผมและบอกว่าอีกไม่นานผมจะมีความสุข

  ความสุขเหรอ.....สิ่งนี้ไม่มีอยู่จริงหรอกฟ้า คนเรามีเพียงทุกข์มากหรือทุกข์น้อยเท่านั้น ความสุขคือสิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้นมา ซึ่ง.....มันไม่มีอยู่ในชีวิตจริง


  วันนั้นผมกลับบ้านอย่างรู้สึกโหวงๆ ผมทำให้พี่ซัมเมอร์เจ็บตัวตั้งแต่วันแรกที่เจอ แล้วยังทำให้พี่ออทัมเกลียดขี้หน้าอีก แล้วชีวิตผมจะเหลืออะไรอีกนะ.....





"กลับมาแล้วเหรอลม มากินข้าวสิลูก"

   ทุกครั้งที่ผมทุกใจหรือรู้สึกไม่เหลือใคร ผู้หญิงคนนี้จะอยู่เคียงข้างผมเสมอ เธอจะส่งยิ้มอ่อนโยนช่วยปัดเป่าความทุกข์ในใจผมออกไปราวกับมีเวทย์มนต์ เธอคือคนที่รักผมอย่างไม่มีเงื่อนไข.....

"ครับแม่......"

   คำตอบของทุกคำถามในใจผมว่าผมจะเหลืออะไร ยังจะเหลือใครมักจะปรากฏขึ้นมาเมื่อผมคิดถึงเธอคนนี้ แม่ของผม....


RRRRRrrrrrrrrrrr

    เสียงริงโทนดังขึ้นขณะที่ผมกำลังหมกมุ่นอยู่กับสมุดไดอารี่ของตัวเอง ผมรีบหยิบขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าเป็นไอดินที่โทรเข้ามา

"ฮะ...ฮัลโหล"ผมทักเสียงอ่อย

[..............]

"อะ.....ไอดิน ได้ยินมั้ย" ผมเริ่มเสียงสั่น ผมทำผิดกับมันมาก ผมจากมาโดยไม่บอกกล่าวกับใคร มันคงจะโกรธผมมากถึงโทรมาแต่ไม่ยอมพูดยอมจากับผม ที่มันโทรมาเพราะผมไม่ยอมโทรไปหามัน ผมกลัว.....กลัวว่ามันจะเกลียดผมจนไม่ยอมพูดคุยกันอีกเลย

[ทำไมไม่บอกกันซักคำ.......]

   เสียงของมันแข็งๆซึ่งนั่นแสดงว่ามันโกรธอยู่ ผมรู้จักมันพอๆกับที่มันรู้จักผม ผมกับไอดินเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เราอยู่บ้านใกล้กันแต่เรียนอยู่คนละโรงเรียนแม้แต่ตอนม.ปลายนี้ แต่มันรู้เรื่องของผมทุกอย่างรวมถึงเรื่องพี่ชายของผมด้วย

"ไอดิน.....กู.....ขอโทษ"

[แล้วตอนนี้มึงอยู่กรุงเทพฯใช่ไหม]

"อืม....."

[เจอพี่มึงรึยัง]

"จะ.....เจอแล้ว" พอเจอถามจี้จุด เสียงของผมมันก็สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ เรื่องเมื่อตอนกลางวันตีย้อนเข้ามาในหัวราวกับภาพฉายซ้ำ

[.............] มันเงียบไป

"กู......พี่เค้าเกลียดกูแล้ว......กูทำให้พี่เค้าเกลียด.....มะ.....มึงก็รู้กูมันโง่......"ผมกลั้นเสียงสะอึกเอาไว้ ผมไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับแม่ เพราะมันจะทำให้แม่ไม่สบายใจ ตลอดเวลาที่อยู่เชียงใหม่ก็มีไอดินนี่แหละคอยเป็นที่ปรึกษาและเป็นที่พึ่งพาให้กับผม

[วินเทอร์......]

   ไอดินเป็นคนเดียวที่เรียกผมด้วยชื่อนี้ แต่ว่าต่อหน้าคนอื่นมันก็จะเรียกผมว่าลม......และที่มันเรียกผมด้วยชื่อนี้คงเพราะต้องการจะปลอบโยนผม

"ไอดิน.....กูทำพี่เค้าเจ็บตัว.....ฮึก...."

[ไม่เป็นไรนะวินด์....รออีกอาทิตย์เดียวกูจะไปอยู่เป็นเพื่อนมึงนะ......] ผมรีบเช็ดน้ำหูน้ำตาก่อนจะละล่ำละลักถาม

"มึงจะมา!"

[อืม.....กูกำลังทำเรื่องย้ายที่เรียน กูจะไปอยู่กับพ่อแม่ที่โน่น] พ่อกับแม่ของมันทำงานที่กรุงเทพ นานๆจะกลับบ้านที ทำให้ไอ้ไอดินอยู่บ้านคนเดียว แต่มันก็ไม่ยอมย้ายไปอยู่กรุงเทพกับครอบครัวซะที ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะผม.....ผมรู้ดี

แต่ผมก็ทิ้งมันมา.......ผมมันเลว สมควรแล้วล่ะที่จะถูกพี่ออทัมเกลียด

[มึงกินยาแล้วรีบเข้านอนซะ.....ห่มผ้าหนาๆเดี๋ยวจะไม่สบาย] มันสั่งฉอดๆยิ่งกว่าแม่ผมอีก มันรู้ว่าถ้าผมร้องไห้มากๆตื่นมาจะทำให้ผมเป็นหวัด

"มึงก็รีบเข้านอนได้แล้ว เดี๋ยวไม่หล่อสาวๆหนีมาหากูไม่รู้ด้วย" มันหัวเราะเบาๆ

[สาวๆไม่หนีกูเหมือนมึงหรอกน่า อย่าลืมกินยาล่ะ แค่นี้แหละ.....ฝันดีครับ] โดนเล่นงานไปแล้วหนึ่งดอก แต่การได้คุยกับมันทำให้ผมสบายใจขึ้นมามากๆเลยล่ะ

เอาล่ะ......ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของผมก็คงต้องเดินต่อไป.......


     ผ่านไปสามวันพี่ซัมเมอร์ก็ยังไม่มาโรงเรียนทำให้ผมเป็นห่วงเขาเป็นอย่างมาก พี่จะเป็นอะไรมากมั้ยนะ......ผมขอโทษครับพี่

ถ้าเลือกได้.......ผมขอเจ็บแทนยังจะดีเสียกว่า........

   ตลอดเวลาสามมานี้ ผมโดนกลั่นแกล้งสารพัดจากเพื่อนๆ ทุกคนเกลียดผมเพราะผมทำให้คนที่พวกเค้ารักต้องเจ็บตัว พี่ซัมเมอร์เป็นที่รักของทุกคนในโรงเรียน ทั้งครูบาอาจารย์ รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนๆ

ก็พี่ซัมเมอร์น่ารักและสดใส.......ทุกคนก็ต้องรักสิ

ไม่เหมือนผม......ผมที่เหมือนฤดูหนาว ผมที่ใครอยู่ใกล้ก็ต้องพากันเกลียด

"พามันไปดาดฟ้า" ชายร่างใหญ่ออกคำสั่งก่อนที่ตัวของผมจะถูกลากไปตามทางเดิน คงจะพาผมไปแกล้งอีกล่ะสิ

ปัง!!

"ลากมันมาแล้วครับ......" ชายร่างใหญ่เอ่ยกับรุ่นพี่กลุ่มนึงที่ยืนหันหลังให้ผม พวกเค้าค่อยๆหันนมาทีละคน.......เป็นกลุ่มของพี่ออทัมนั่นเอง

พี่คงจะเกลียดผมมาก.......ผมก็เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้เหมือนกันครับพี่

"พวกมึงออกไป" พี่ออทัมออกคำสั่ง คนพวกนั้นออกไปเหลือทิ้งไว้เพียงผม พี่ออทัมและเพื่อนๆของเขาอีกสามสี่คน ซึ่งรวมไปถึงพี่ชินด้วย

"มึง.....ไอ้แว่น มึงทำน้องกูเข้าโรงบาล!!"

ผมทำพี่ซัมเมอร์เข้าโรงบาล......เพราะความโง่ของผม

ถ้าเป็นไปได้.....คนที่เข้าไปน่าจะเป็นผมแทน

พระเจ้าครับ.....จะลงโทษผมยังไงก็ได้

แต่ได้โปรด.....ขออย่าให้พี่ซัมเมอ์เป็นอะไรมากเลย

"มึงอย่าคิดว่าจะอยู่อย่างสุขสบายในโรงเรียนนี้!!"



******
มาต่อแหละค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายนะคะ
ที่ชื่อตอนมันขาดๆหายๆ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ(แบบว่าทำไม่เป็น555+)


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: [นิยาย]เสียงกระซ
«ตอบ #7 เมื่อ06-04-2010 14:08:57 »

เรื่องมันจะเศร้ามั้ยละเนี่ย อ่านไปสงสารลมไป ไอดินมาเร็วๆๆ เข้า

~EnSlAvE_tO_dEsIrE~

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซ
«ตอบ #8 เมื่อ06-04-2010 15:05:05 »

 :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:


เส้าอ่า

cipher

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซ
«ตอบ #9 เมื่อ06-04-2010 21:03:58 »

 :sad11:สงสารลม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]เสียงกระซ
« ตอบ #9 เมื่อ: 06-04-2010 21:03:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซ
«ตอบ #10 เมื่อ06-04-2010 21:15:00 »

 :monkeysad: สงสารลมเป็นอย่างมาก
มาต่อเร็วๆได้มั้ยอยากอ่านมากมายเลยอ่ะ

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว 3
«ตอบ #11 เมื่อ06-04-2010 23:42:50 »

เสียงกระซิบจากลมหนาว 3


"มึงอย่าคิดว่าจะอยู่อย่างสุขสบายในโรงเรียนนี้!!"

ผลัก!!

  ผมล้มลงไปกองกับพื้น หน้าของผมชาไปครึ่งแถบเพราะแรงหมัด ของเหลวหนืดสีแดงสดไหลลงมาจากริมฝีปากและจมูก

ผมทำให้พี่ซัมเมอร์เจ็บตัว.....สมควรแล้วที่ผมจะโดนแบบนี้!!!

"จับมันแก้ผ้า!! แล้วถ่ายรูปไปติดทั่วโรงเรียน!!!" เพื่อนๆของพี่ออทัมกรู่เข้ามากระชากเสื้อผ้าออกจากตัวผม ผมได้แต่ปัดป้องและอ้อนวอนขอความเห็นใจ

"พี่.....อย่าทำผม.......ฮึก.....ม่ายยยยยยย"

   เสื้อผ้าของผมถูกฉีกกระชากออก ผมร้องไห้อย่างหนักกับการกระทำของคนพวกนั้น เนื้อตัวของผมเปลือยเปล่าล่อนจ้อนจนผมรู้สึกหนาวสั่น

"ไอ้ออทัม พอเถอะ......." พี่ชินเอ่ยห้าม พี่ออทัมมองพี่ชินอย่างเย็นชาก่อนจะหันมามองทางผมด้วยสายตาเย็นเหยียบ ริมฝีปากยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน

"รูปร่างมึงนี่เหมือนผู้หญิงเลยนะ.....เพื่อนกูคงชอบ.......ลองถอดแว่นมันดูสิ เผื่อมันจะสวยขึ้น......" พี่ออทัมหันไปพูดกับเพื่อนๆ พี่คนนึงเดินมาดึงแว่นผมออกก่อนจะบีบคางผมเชิดขึ้นไปมองหน้าเขา

"อืม......ตาโต ขนตาก็ยาวเป็นแพร ผิวขาวนุ่มกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก หน้าตาก็จัดว่าดี อยากจะรู้นัก.......ว่ารสชาติจะหวานซักเพียงไหน"

"........." ผมตัวสั่นงั่นงกเมื่อมือของพี่เขาลูบคลำตัวผม ผมมองไปยังพี่ชินอย่างขอความช่วยเหลือ

"หยุดเถอะไอ้เฟส......ไอ้ออทัมจะหมดพักกลางวันแล้ว รีบกลับไปเรียนกันเถอะ"

"มึงไม่ต้องไปช่วยมันไอ้ชิน ไอ้เฟสตามสบายพวก อ่อ......อย่าลืมถ่ายรูปตอนที่มึงเข้าไปในตัวมันเก็บไว้ด้วยล่ะ กูจะเอาไปติดทั่วโรงเรียนเพื่อประจานย์มัน!!"

ปัง!!

     พี่ออทัมเดินจากไปแล้ว ซ้ำยังลากพี่ชินกับเพื่อนๆของเขาไปด้วย เหลือทิ้งไว้เพียงผมกับพี่คนที่ชื่อเฟสไว้บนดาดฟ้าสองคน

มันเจ็บลึกเหลือเกิน......กับการกระทำของพี่ออทัม

โทษทันต์ของผมมันสาหัสขนาดนี้เลยเหรอ?

"ฮึก......รุ่นพี่ครับ....อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ....." พี่เฟสมองผมด้วยสายตายากเกินคาดเดา เขาถอดเสื้อคลุมออกก่อนจะโยนให้ผม ผมมองมันอย่างงๆจนพี่เขาถอนหายใจ

"เฮ้อ......พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกน่า.....ไอ้ออทัมก็เป็นแบบนี้แหละ มันรู้ว่าพี่ไม่ทำอะไรเราจริงๆหรอก รีบใส่เสื้อผ้าแล้วไปเรียนซะ......"

".........."

"แล้วเลิกร้องไห้ซะ.......ใส่เสื้อผ้าซะสิ อยากให้พี่ทำอะไรเรารึไงล่ะ" พี่เขาหันหลังให้ ผมจึงรีบใส่เสื้อผ้าแล้วใส่เสื้อพี่เค้าทับอีกชั้นนึง เพราะเสื้อของผมเละไม่มีชิ้นดี

"ขะ.....ขอบคุณครับ....ระ....รุ่นพี่" พี่เขาโบกมือไหวๆก่อนจะเดินออกไป ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีซ่อนอยู่เหมือนกันแฮะ

"เราเหนื่อยเหลือเกิน.......ฟ้า" ผมพึมพำกับท้องฟ้าเบาๆ เธอคงได้ยินผมนะ 'ฟ้า'

แหวนของเธอ......ผมยังเก็บมันไว้อย่างดีและติดตัวผมไปตลอดเวลา

รอยยิ้มของเธอ.....ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดลมหายใจ

พอๆกับหัวใจของผม......ที่จะมั่นคงในรักที่มีต่อเธอเสมอไป

     เช้าวันศุกร์พี่ซัมเมอร์กลับมาเรียนตามปกติ แขนของเขาถูกพันด้วยผ้าขาวๆ นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด ผมมักจะทำให้คนรอบๆตัวเดือดร้อนเสมอเลย

"ไม่ได้เจอกันสามวันเป็นยังไงบ้าง"

    พี่ซัมเมอร์เดินมาตบบ่าผมแบะๆแล้วนั่งลงข้างๆ ผมก้มหน้าไม่กล้าสบตาสีดำสนิทลึกล้ำนั้น พี่วางมือบนหัวผมแล้วลูบอย่างอ่อนโยน

"ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกน่า มันเป็นอุบัติเหตุ อย่าคิดมากๆ ฮะๆ" มืออุ่นๆจับหน้าผมให้เงยขึ้นมามองหน้ากัน แววตาอ่อนโยนกับรอยยิ้มนิดๆนั่นทำให้ผมอบอุ่นที่หัวใจอย่างประหลาด

"เรา.....ขอโทษ"

"ก็บอกมันเป็นอุบัติเหตุ นายนี่ก็พูดไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าถ้ารู้สึกผิดจริงๆ วันนี้ไปบ้านเรามั้ย เราจะพาลมไปสำเร็จโทษ!!"

   พี่ซัมเมอร์บอกว่าจะพาผมไปบ้าน! ผมมองหน้าเขาอย่างตกใจ ผมจะได้ไปเจอหน้าพ่อแม่แท้ๆของผม.....จะได้สัมผัสกับครอบครัวนั้นแล้ว ผมจะได้รู้เสียทีว่าครอบครัวที่ไม่มีผม.....มันจะสุขเพียงไหนกัน

"พี่ไม่ให้มันไป!! จะเอามันไปทำไมกัน!!"

"โธ่.....พี่อ่ะ ก็ลมเค้าอยากไปเที่ยวบ้านเรา อีกอย่างนะ....ผมก็ชอบเค้ามากด้วย อยากพาไปแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักอ่ะ!!"

"ซัมเมอร์!!!"

"นะๆๆๆ นะพี่"

   พี่ซัมเมอร์เขย่าแขนพี่ออทัมอย่างออดอ้อน ผมตัวสั่นงั่นงกเมื่อพี่ออทัมกราดสายตาดุดันและมาดร้ายมาทางผม

"ตามใจ....ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็รับผิดชอบเองละกัน" พี่ออทัมพูดจบแค่นั้นก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไป พี่ซัมเมอร์รีบดึงผมที่ยืนเซ่อๆให้เดินตามไป

     ตลอดทางผมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถ เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของพี่ออทัมผ่านกระจก มันทำให้ผมหวาดกลัวจนเหงื่อชื้นขึ้นตามไรผม พี่ซัมเมอร์ที่นั่งข้างคนขับก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วตลอดทาง ทำให้การเดินทางไม่วังเวงมากเกินไป


RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrr

"ครับ....."

    ผมกดรับโทรศัพท์ด้วยหัวใจหวาดหวั่น แม่ผมโทรมาซึ่งท่านคงจะรู้แล้วล่ะ......ว่าตอนนี้ผมอยู่บนรถของพี่ชายทั้งสอง

[ลม......อยู่ไหน]

"ผม.....อยู่บนรถของพี่ซัม.....เอ่อซัมเมอร์เพื่อนที่โรงเรียนครับ" ผมรีบแก้คำพูดที่เผลอหลุดออกไป พี่ซัมเมอร์หันมาสนใจผมที่คุยโทรศัพท์กับแม่ก่อนจะถามแทรก

"แม่ลมโทรมาเหรอ......" ผมผยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะให้ความสนใจกับปลายสายต่อ

[จะไปบ้านนั้นเหรอ......] แม่ผมถามเสียงเบา

อย่าให้ผมต้องเลือกได้ไหมครับแม่

เพราะไม่ว่าคำตอบไหน.......มันก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องอยู่ดี

"ครับ....." เสียงผมเบาหวิวไม่แพ้กัน

[ลม......อย่าลืมสัญญาของเราได้ไหม]

"ลมขอแม่มาค้างบ้านเราเลยดิ นะๆๆๆๆๆๆ"พี่ซัมเมอร์เอ่ยแทรกอีกครั้ง ผมได้แต่มองเขาอย่างลำบากใจแต่สุดท้ายก็ทนคำรบเร้านั่นไม่ไหว

"แม่ครับ....ผมไม่ลืมหรอกครับ และไม่คิดจะผิดคำสัญญาด้วย และถึงแม้ไม่ได้สัญญากับแม่เอาไว้ ผมก็ไม่ทอดทิ้งแม่ของผมหรอกครับ"

[จริงนะลม.....]

"ครับแม่......แม่ครับ ผมขอไปนอนค้างบ้านซัมเมอร์....."

"ลม!!!"

    มีไม่กี่ครั้งที่แม่ขึ้นเสียงกับผม ผมรู้สึกใจเสียอีกครั้ง ไม่รู้จะปฏิเสธพี่ซัมเมอร์ยังไง และจะพูดกับแม่ยังไง แต่เหนือสิ่งใดผมก็อยากไปค้างบ้านนั้นดูซักครั้ง



........ขอโทษนะครับแม่........



"แม่ครับ ผมขอร้อง...."

    แม่เงียบไปก่อนจะตอบรับเบาๆ รถจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ประตูเปิดออกก่อนที่รถจะแล่นเข้าไปภายในตัวบ้าน ผมเห็นหญิงวัยกลางคนวิ่งออกมารอรับ ท่านยังดูสวยแม้จะล่วงเลยวัยมานานมากแล้วก็ตาม เธอคงจะเป็นคุณแม่ของพี่ออทัมกับพี่ซัมเมอร์.....นั่นก็หมายถึงแม่ของผมด้วย!!!

"กลับมาแล้วคร๊าบบบบบบ"

   พี่ซัมเมอร์วิ่งเข้าไปหาแม่แล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ ผมเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆปนตื่นเต้น แม่หอมแก้มพี่ซัมเมอร์ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับผู้มาใหม่อย่างผม

"สะ....สวัสดีครับ......" ผมยกมือขึ้นไหว้ท่าน ท่านยกมือรับไหว้ก่อนจะมองหน้าผมอย่างพิจารณา เหงื่อซึมออกมาตามไรผมทั้งๆที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรมาก หัวใจของผมก็เต้นตึกๆอย่างตื่นเต้น คนๆนี้คือแม่ของผม......ท่านคือผู้ให้กำเนิดผม

ท่านที่มีบ้านหลังใหญ่

ท่านมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย

แล้วใย.....ท่านถึงไม่ต้องการผมกัน

ทำไมถึงทิ้งผมได้ลงคอนะ


ดูท่าน......คงจะรักพี่ซัมเมอร์กับพี่ออทัมมาก

เหมือนท่านมีลูกชายสองคน.....ที่ท่านรักดั่งแก้วตาดวงใจ

แล้วผมล่ะ.......ผมที่ท่านทิ้งไป.......ท่านรักผมไหม? จำผมคนนี้ได้หรือเปล่า??

   น้ำตารื้นที่ขอบตาอย่างห้ามไม่อยู่ ก้อนสะอึกจุกอกพูดไม่ออกบอกไม่ได้.....เพราะสัญญาค้ำคอ ผมจึงไม่มีสิทธิ์ทวงถามอะไรทั้งนั้น

"อ่าว.....ลมเป็นอะไรรึเปล่า จมูกแดงๆเหมือนจะร้องไห้" พี่ซัมเมอร์หันมาถาม ก่อนจะเดินจูงมือผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน ผมเพียงส่ายหน้าไม่พูดออกไป เพราะผมกลัวว่าเสียงตัวเองจะสั่นจนพี่ซัมเมอร์จับได้

"ชื่อลมเหรอจ๊ะ"

"ครับ.....คุณป้า"

    ผมเลือกที่จะเรียกท่านว่าป้า.....ผมไม่กล้าเรียกท่านว่าแม่หรอก เพราะถ้าทานอยากให้ผมเรียกว่าแม่จริง.....คงไม่ทอดทิ้งผมไว้กับอดีตหรอก......


****
ที่ขยันอัพเพราะยังไม่ถึงตอนที่ต้องแก้ไข

แฮ่ๆๆๆ

><

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #12 เมื่อ06-04-2010 23:57:14 »

                                                             เสียงกระซิบจากลมหนาว 4

"ทานนี่สิลม"

     พี่ซัมเมอร์ระดมตักอาหารนานาชนิดมาให้ผม ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วเขี่ยอาหารไปมาเพราะกินไม่ลง หรือจะเอาจริงๆคือกินไม่ได้ พี่คงจะลืมไปแล้ว......ว่าผมแพ้อาหารทะเล

    คุณป้า.....ผมของเรียกท่านว่าคุณป้าแล้วกันจะได้ชิน.......คุณป้าทำอาหารทะเลไว้เต็มโต๊ะเพื่อเอาใจพี่ซัมเมอร์ ตอนนี้ผมนั่งร่วมทานอาหารกับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น มีพ่อ....แม่....พี่.....น้อง

แต่ในนั้น.....ไม่มีผม ผมที่เป็นดั่งฤดูหนาว ผมที่อาจจะทำให้บ้านนี้มีแต่ความทุกข์

     ผมได้แต่มองภาพครอบครัวสุขสันต์อย่างกระอักกระอ่วนใจ ผมรับรู้ได้ทันทีที่เข้ามาในบ้านนี้.....บ้านนี้ไม่เหลือที่ว่างให้ผมอีกแล้ว

หรือมันไม่มีที่สำหรับผมแต่แรกกันนะ

"ทำไมไม่ทานจ๊ะ......" คุณป้าหันมาถามผมด้วยรอยยิ้ม ผมอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

"ผมแพ้อาหารทะเล.....ทุกชนิดครับ....."

    คุณป้านิ่งไปก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างประหลาดใจ ก่อนที่พี่ซัมเมอร์จะแทรกขึ้นมาขอโทษขอโพยผม คุณลุงเองก็ตกใจไม่น้อย

"ตายจริง......ขอโทษที่ไม่ถามก่อนนะจ๊ะ"

"มะ.....ไม่เป็นไรครับ"

"แม่ไม่ต้องไปขอโทษหรอกครับ ลมมันก็ทำผิดกับซัมเมอร์ไว้ไม่ใช่น้อยๆ คนที่ทำให้ซัมเมอร์ต้องเข้าโรงบาลก็มันนี่แหละครับ" พี่ออทัมที่นั่งอยู่เงียบๆตั้งแต่ทีแรกรีบฟ้องคุณป้า ท่านเอามือกุมอกตัวเองแล้วมองหน้าผมด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป มันทำให้ผม.....รู้สึกเศร้าอย่างประหลาด

"มันเป็นอุบัติเหตุครับแม่ พี่นี่ก็เว่อร์เกินไป ลมเค้าไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย" พี่ซัมเมอร์บุ้ยปากก่อนจะตักกุ้งอบวุ้นเส้นเข้าปาก แต่....แต่คุณป้าก็ยังคงมองผมด้วยสายตาแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ดีที่คุณลุงไม่ได้มองผมด้วยสายตาแบบนั้น.....ท่านดูจะเอ็นดูผมด้วยซ้ำ

ผมทำเรื่องอีกแล้วสินะ.......ผมทำพี่ออทัมเกลียดผมคนเดียวไม่พอ ผมยังทำให้แม่ไม่ชอบขี้หน้าผมอีกด้วย

สายใยของเรา.......มันขาดลงตั้งแต่แม่ตัดสินใจทิ้งผมไปในตอนนั้นใช่ไหมครับ

บอกผมได้ไหมครับแม่


"ลม......ใส่เสื้อผ้าเราได้ไหม มันใหญ่ไปรึเปล่า.....เอ......ว่าแต่ลมตอนไม่ใส่แว่นนี่น่ารักนะเนี่ย เราใจเต้นตึกตักเลยล่ะ" พี่ซัมเมอร์เดินเข้ามาประชิดตัวผม ก่อนจะช้อนหน้าผมขึ้นให้ไปสบตากับเขา รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ ก่อนจะประทับริมฝีปากแผ่วเบาลงบนหน้าผากผม

"ดูสิ.....หน้าใส๊ ใส ไร้สิวไร้ริ้วรอย"

".....เราว่าเราง่วงแล้วล่ะ......"

"แน่ะ.....เขินล่ะสิ" ผมก้มหน้านิ่ง ไม่ได้เขิน....ผมออกจะดีใจด้วยซ้ำที่พี่ไม่รังเกียจผม

"และขอโทษนะ ที่ลืมไปว่านายแพ้อาหารทะเล คราวหน้าเราจะระวังให้มากกว่านี้" พี่ซัมเมอร์เปลี่ยนจากประคองหน้าผมมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ผมส่งยิ้มให้เขาอย่างตื้นตันใจและดีใจที่พี่จะจำจดเรื่องราวของผม แม้......แม้นิดเดียวก็ยังดี


   ผมดีใจ......ที่ครั้งนึงในชีวิต เรื่องราวของผม ตัวตนของผมจะถูกบันทึกในความทรงจำของพี่....พี่ชายคนนี้ พี่ชายที่แสนดี


   พี่ซัมเมอร์เดินออกไปได้ซักพักแล้วล่ะ ผมนั่งอยู่ในห้องนอนสำหรับรับรองแขก ห้องนี้มีเฟอนิเจอร์ครบครัน ห้องตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาวเหมือนท้องฟ้า

อา.....ผมคิดถึงเธออีกแล้ว



RRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr


    เสียงริงโทนปลุกผมจากภวังค์ เป็นไอดินที่โทรมา ผมรีบกดรับเพราะกลัวว่าเค้าจะโกรธ

"ฮัลโหล......"

[เมื่อไหร่มึงจะเลิกรับสายด้วยเสียงหงอยๆอย่างนี้เนี่ย]

"ก็.....ก็กูเป็นของกูแบบนี้มาตั้งนาน มึงยังไม่ชินอีกเหรอ"

[เออๆ กูชินแล้วล่ะ แล้วนี่มึงอยู่ไหนเนี่ย อยู่บ้านป่ะ....พรุ่งนี้เจอกันเว้ยย]

"กูอยู่บ้าน....บ้านพี่" ผมตอบไม่เต็มเสียงนัก ไอดินเงียบไปซักพักก่อนจะถามเสียงเรียบ เสียงแบบนี้แหละ.....น่ากลัวเป็นที่สุด

[ไปทำไม.........]

"กูแค่.....กูแค่อยากรู้"

[รู้แล้วเป็นไงล่ะ!! ไปตอกย้ำตัวเองทำไม ทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง!!]

"ไอดิน" น้ำตาผมร่วงผอยๆ เมื่อมันตะหวาดผม บวกกับที่ผมเจอเรื่องสะเทือนใจมาก่อนหน้านี้ ทำเอาผมปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ทำไมผมอ่อนแออย่างนี้นะ......เมื่อไหร่กัน.....เมื่อไหร่จะเข้มแข็งเสียที



ก๊อก ก๊อก ก๊อก


   เสียงเคาะประตูดังมาสองสามที ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูทำให้ผมหันไปดูด้วยความตกใจ ก็คนที่เดินเข้ามาเป็นพี่ออทัมน่ะสิ!!


"พี่ออทัม...." ผมรีบปาดน้ำตาตัวเองแล้วละล่ำละลักบอกลาไอดินที่รอสายอยู่


"ไอดินแค่นี้ก่อนนะ"


[เดี๋ยววินด์ ไอ้พี่นั่นเข้ามาทำไม ตอบกู......] ผมรีบกดวางสายไอดินแล้วมองไปยังผู้มาใหม่ด้วยความหวาดหวั่นในใจ


"เอ่อ...พี่ออทัมมีอะไรครับ"


"กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาเรียกกูพี่!!" สะอึกครับ รู้สึกสะอึกกับคำพูดตอกย้ำของเขา ผมกัดปากตัวเองจนมันเป็นเส้นตรง ส่วนมือก็กำหมัดจนแน่น

"รุ่นพี่มีอะไรกับผมก็ว่ามา....." ไม่ใช่อวดดี เพียงแต่อยากจะรู้จุดประสงค์ของเขาเท่านั้นว่าต้องการอะไรจากผมกันแน่ จะเข้ามาทำร้าย....ทุบตี หรือมาด่าให้ช้ำใจเล่นกัน

     พี่ออทัมเดินเข้ามาอย่างมุ่งร้าย ทำให้ผมถอยหนีด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาผลักผมล้มลงเตียงก่อนจะคร่อมผมไว้ มือหนาจิกผมผมให้เงยหน้าไปสบตาวาวโรจน์

"อย่ามาอวดดีกับกู......."

"ผมเปล่า....."พี่ออทัมจิกหัวผมแรงขึ้น จนตอนนี้มันเจ็บไปหมด ผมได้แต่กัดปากแน่นด้วยกลัวว่าจะส่งเสียงแสดงความอ่อนแอออกไป

"กูจะเตือนมึงอีกครั้งนะ......อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก!!"

"ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ.....โอ๊ย"

"อย่ามาปากเก่ง ไอ้สัด" พี่ออทัมดูเหมือนว่าจะโกรธจัด แต่ผมก็ไม่อยากยอมแพ้เขา ทำไมนะ...ทำไม แค่ผมอยากเข้าใกล้พี่ชายตัวเอง อยากรู้จักทุกคนในครอบครัวนี้มันผิดตรงไหน!!

"ผมไม่ได้ปากเก่ง!"

"อยากลองดีใช่ไหม.....คราวที่แล้วไอ้เฟสคงสั่งสอนมึงไม่พอสินะ ดี!! เจอกูหน่อยเป็นไง" ผมเบิกตากว้าง เมื่อพี่ออทัมประกบปากลงมา มันป่าเถื่อน รุนแรง จนปากผมเจ็บไปหมด พี่จะจูบผมไม่ได้นะ.....พี่จะทำอะไรผมไม่ได้นะ....!!

"อื้อๆ"

    ผมส่งเสียงท้วงในลำคอ มือก็ทุบตีเขาไม่หยุด จนพี่ออทัมรำคาญรวบมือทั้งสองของผมไว้เหนือศรีษะ รสจูบจากที่รุนแรงเปลี่ยนมาเป็นเร่าร้องและวาบหวามแทน......จูบครั้งแล้วครั้งเล่าเนิ่นนานราวกับชั่วกัปชั่วกาลทำเอาผมเริ่มเคลิ้ม ทำไมพี่ออทัมจูบเก่งขนาดนี้.....พอมารู้ตัวอีกที เสื้อผ้าของผมก็หลุดออกจากตัวไปหมดแล้ว

"กูก็ไม่เคยกับผู้ชายซะด้วยสิ......แต่แทงมั่วๆก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"

"อย่า......มะ......ไม่นะพี่ อย่าทำผมเลย"

"ทำไมจะไม่ได้ กูพอใจมึงจะทำไม"

ที่ไม่ได้.....เพราะเราเป็นพี่น้องกันยังไงล่ะ และผมก็เป็นผู้ชาย พี่ก็ผู้ชาย เราจะมีอะไรกันได้ยังไง


"ลมมมมมม เปิดประตูหน่อย~ เราซัมเมอร์เอง" พี่ออทัมรีบเด้งตัวขึ้นก่อนจะวิ่งแล้วออกไปทางหน้าต่าง ผมหันรีหันขวางอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก จนในที่สุดพี่ซัมเมอร์ก็เปิดประตูเข้ามาจนได้ ในมือของเค้ามีกุญแจสำรองอยู่ ที่เตรียมมาคงกลัวผมไม่เปิดให้ล่ะสิ

"นอนด้วยคนสิ.....เป็นห่วงลมน่ะ กลัวจะมีคนมาลอบทำร้าย อิอิ" พี่ซัมเมอร์กระโจนเข้ามาในผ้าห่มกับผม ก่อนจะสวมกอดผมจากทางด้านหลัง มือหนาพาดผ่านเอวของผมทำเอาผมขนลุกซู่ ลืมไปว่าผมกำลังล่อนจ้อนอยู่ พี่ซัมเมอร์ซุกหน้าเข้ากับหลังเปื่อยเปล่าของผมก่อนจะพูดเบาๆ

"น่าแปลกใจจัง ว่าลมของเราทำไมไม่ใส่เสื้อผ้านอน กลัวไม่เป็นหวัดหรือไงครับ......อื้ม......แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อิอิ

".....ปล่อยเรา"

"อะไรกัน......นอนกอดกันแบบนี้แหละ อุ่นดีออก อีกอย่างตัวลลมก็ห้อมหอมดีด้วย อิอิ"

"......."

"แต่อย่าขยับตัวบ่อยล่ะ เดี๋ยวเราจะอดใจไม่ไหว" ว่าแล้วก็มุดหน้าลงกับหลังผมแล้วก็เงียบไป ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ

ดีเหมือนกัน......ที่คืนนี้ผมไม่ต้องหลับไปอย่างเดียวดาย

คืนนี้.....ผมมีพี่ที่เฝ้าตามหามาตลอด นอนกอดทั้งคืน

แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ


*****
มนุษย์ไม่มีวันรู้จักกับคำว่าเพียงพอ หากไม่ตัดความโลภออกไปจากสามัญสำนึก
แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น มันก็ตัดออกไปไม่ได้อยู่ดี
เหมือนกับตัวเอกของเรื่องนี้ ที่ตัดมันออกไปไม่ได้
ทำให้ชีวิตของเขาต้องพัวพันกับคำว่า....ไม่สิ้นสุด

ฮ่า....เป็นบทความที่เด็ดดวงจริงๆ(คนอะไรชมตัวเองก็เป็น :laugh:)
 :z3:
ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายค่ะ :o8:

Nurofen

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #13 เมื่อ07-04-2010 00:07:15 »

อะ


เเล้ว ลม จะเลือกใครหล่ะ

ทั้งพี่ออทัม ซัมเมอร์

หวังว่าไม่เจอ วินเทอร์อีกนะ :sad4:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #14 เมื่อ07-04-2010 00:45:21 »

 :sad4:เศร้าอะ

สงสาร ลม ขอเป็นแฟนคลับด้วยนะครับ :mc4:

cipher

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #15 เมื่อ07-04-2010 01:01:58 »

ลมจะทำยังไงล่ะเนี้ย :m17:

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #16 เมื่อ07-04-2010 05:09:35 »

เฮ้อออ
หนูลมน่าสงสาร

คนเขียน เอาอีกๆ
 :L2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: [นิยาย]เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #17 เมื่อ07-04-2010 13:18:55 »

โอ๊ย มันอะไรกันไอ้พี่น้องบ้านนี้ คนพี่ก็เอะอะลงไม้ลงมือ ไอ้คนน้องก็ดีแปลกๆๆ
สงสารลมอย่างเดียวเลย

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #18 เมื่อ07-04-2010 13:34:53 »


รีบนพูดถูก


เจ้สอง  :bye2:

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #19 เมื่อ07-04-2010 13:46:09 »

เย้ เย้ ได้อ่านสองตอน  :กอด1:
เเล้วตกลงใครเป็นพระเอกอ่ะอยากรู้
พี่ออทั่มจะโหดไปเเละส่วนซัมเมอร์ก็ดี
เเต่ไม่ใช่ว่าสองคนนี้จะตกหลุมรักลมทั้งคู่นะ

เรื่องมันเศร้า สงสารลม เเละอยากอ่านต่อ
มาต่อเร็วนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
« ตอบ #19 เมื่อ: 07-04-2010 13:46:09 »





nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว 5
«ตอบ #20 เมื่อ07-04-2010 15:59:44 »

                                               เสียงกระซิบจากลมหนาว 5

     ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเมื่อยขบไปหมด แขนของพี่ซัมเมอร์ยังพาดอยู่กับเอวผม ตัวของเราแนบชิดติดกันจนแทบไม่มีที่ว่าง ผมยกแขนนั้นออกก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ โดยไม่ลืมจะหยิบชุดตัวเองมาใส่ พออาบน้ำเสร็จผมเดินออกมาก็พบว่าพี่ซัมเมอร์เองก็ตื่นแล้วเช่นกัน

"ตื่นเช้าจังเลยนะลม เรากะว่าจะมอร์นิ่งคิสซะหน่อย"

"อย่าเล่นบ้าๆน่าซัมเมอร์"

"ไม่ได้เล่นนะ เอาจริงหรอก" พี่ซัมเมอร์บุ้ยปาก ทำเอาผมหลุดขำออกมานิดๆ พี่เค้าเดินเข้าห้องน้ำไปซักพักก็เดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าตัวใหม่ เราเดินลงไปข้างล่างพร้อมกัน

"อ่าว.....ตื่นเช้าจังเลยนะลม" คุณลุงที่นั่งดูหนังสือพิมพ์เอ่ยทัก พร้อมส่งยิ้มให้ท่านนิดๆก่อนจะเดินไปนั่งดูทีวีกับพี่ซัมเมอร์ คุณป้าก็ทำอาหารอยู่ในครัวกับแม่บ้าน ส่วนพี่ออทัมคงยังไม่ตื่นมั้ง

    ผมมานั่งบรรยายครอบครัวอบอุ่นในเช้าที่สดใส รู้สึกอะอึกเสียเองเมื่อลืมตัวไปว่า........ผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ แต่ผมเป็นเพียงแขกของลูกชายเขาคนนึงเท่านั้น


RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

 เสียงริงโทนแผดเสียงขึ้น ผมควานหาก่อนจะกดรับมันอย่างรวดเร็ว

"ฮัลโหล......"

[กลับได้แล้ววินด์ กูรออยู่หน้าบ้าน] ไอดินสั่งเสียงเฉียบขาด

"แต่......" แต่ผมยังอยากอยู่ต่ออีกหน่อย.....

[ไม่มีแต่ แม่กูให้มาตามมึง และตอนนี้ท่านกำลังทุกข์ใจเพราะมึง] ไอดินฉลาดที่จะหยิบยกเอาจุดอ่อนผมมาเล่นงาน เพราะเขารู้ดีว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ยกเอาเรื่องแม่มาอ้าง ผมก็มักจะยอมเสมอ และตอนนี้ก็เช่นกัน

     ผมขอตัวกลับบ้านก่อนแต่พี่ซัมเมอร์ก็ไม่ยอม ซ้ำยังคะยั้นคะยอให้ผมออกไปชวนไอดินเข้ามาด้วยกัน พี่ยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของไอดิน......

"ไอดิน"

"กลับกันได้แล้ว......." ไอดินพูดกลับผมก่อนจะมองเลยไปยังบุคคลสองคนที่อยู่เบื้องหลัง คือพี่ชายทั้งสองคนของผม เมื่อกี้ตอนที่พี่ออทัมเดินลงมาจากข้างบน พอเขาเห็นว่าพี่ซัมเมอร์จะออกมาส่งผมจึงขอตามมาด้วย รู้สึกกระอักกระอ่วนใจแปลกๆเวลาที่มองหน้าเขา ก็เรื่องที่เราทำกันเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยแม้แต่น้อย

"ขอโทษนะ พอดีว่าผมยังไม่อยากให้ลมกลับอ่ะ ให้เขาอยู่ต่อได้ไหม อ่อ....นายก็เข้ามาทานเข้าด้วยกันก่อนสิ"

"ไม่จำเป็น ลมกลับกันเดี๋ยวนี้" ไอดินสั่งเสียงเฉียบเช่นเคย พี่ออทัมมองมาทางผมกับไอดินด้วยสายตาอำมหิต แต่ไอดินกลับแสยะยิ้มอย่างท้าทายก่อนพูดขึ้นมาอีก

"ขอตัวก่อนนะ พอดีว่าลมไม่ได้มีเวลาว่างพอจะมาทานข้าวเช้ากับบ้านนี้"

"แต่......"พี่ซัมเมอร์จะท้วงแต่ถูกพี่ออทัมตัดบทซะก่อน

"บ้านนี้ก็ไม่ได้ต้อนรับนักหรอก อย่ามาอีกล่ะ......ขี้เกียจไปนิมนต์พระมาสวดไล่เสนียด"

อึก.....คำด่าทอของพี่ออทัมช่างบาดลึกลงไปในใจเหลือเกิน ที่ว่าบ้านนี้ไม่ต้อนรับผมก็คงจะจริง เพราะแม้แต่คุณป้าท่านยังไม่ต้อนรับผมเลย

ผลัก!!

ไอดินพุ่งไปวกหน้าพี่ออทัมด้วยความเร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว แต่พอตั้งตัวได้ก็สวนหมัดกันไปมาจนผมกับพี่ซัมเมอร์ต้องรีบไปแยกทั้งออกจากกัน

"ไอ้เหี้ย มึงจำคำพูดที่มึงพูดกับไอ้วินด์ไว้ให้ดี!!"

   ผมกอดเอวของไอดินแน่น เมื่อเขาทำท่าจะพุ่งเข้าไปตะลุมบอนกับพี่ออทัมอีกครั้ง พี่ออทัมถุยน้ำลายปนเลือดลงดินก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็นบ้าง

"กูจะจำเอาไว้ และจะไม่ลืมคำพูดตัวเองหรอก"

"มึงจะต้องเสียใจที่ทำกับมันแบบนี้!! เรื่องที่คนโง่ๆอย่างมึงไม่รู้......"

"ไอดิน!!!"

   ผมแผดเสียงขึ้นก่อนจะกระชากไอดินให้หันมามองหน้าอย่างโกรธๆ เขามองผมด้วยสายตาที่อ่อนลงแล้วก้มหน้านิ่ง

"กลับ!!!"

   ลากแขนมาที่รถแล้วจับยัดเข้าไปเบาะหลังแล้วเข้าไปนั่ง บอกลุงคนขับรถให้ออกรถโดยไม่แม้จะหันไปบอกลากับพี่ซัมเมอร์ เพราะผมกำลังโกรธ.....โกรธมาก ไอดินกำลังจะทำให้ทุกอย่างพัง!! พี่ออทัมจะเกลียดผมมากขึ้น ซ้ำพี่ซัมเมอร์ก็อาจจะเกียจผมตามไปด้วย เพราะผมเป็นต้นเหตุทำให้พี่ออทัมเจ็บตัว

"วินด์......."

"..........."

"กูแค่ไม่อยากให้มันพูดดูถูกมึงแบบนั้น......"

"..........."

"กูแค่ไม่อยากให้มึงร้องไห้ กูไม่อยากให้มึงต้องเสียใจ" ไอดินกุมมือผมเอาไว้ มือหนาคู่นี้อบอุ่นเสมอ ไม่ว่าเวลาใดเขาก็จะหยิบยื่นความอบอุ่นมาให้ลมหนาวอย่างผมเสมอ

แต่ลมหนาวก็ทำให้เขาลำบากใจเสมอไม่แพ้กัน

เป็นผมเองมั้ง......ที่คอยแต่สร้างเรื่องขึ้นมา แล้วไม่อาจแก้ไขด้วยตัวเอง

เป็นผมรึเปล่า......ที่ไม่ควรจะมีแต่แรก ทุกคนเขาจะได้มีความสุขกันเสียที

ความผิดทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวผมเอง......ผมควรจะโกรธตัวเองมากกว่าสิ่งใดทั้งหมดสินะ



"ไม่มีใครเสียใจที่มึงเกิดมาหรอกนะ วินด์"

"ขอบคุณนะ......ขอบคุณที่อย่างน้อยมึงก็เป็นอีกคนที่ยินดีที่กูเกิดมา......"


อย่างน้อย.....คนที่ยินดีที่ผมเกิดมาก็มีแม่ ไอดิน และกลิ่นฟ้า

แค่ 3 คนก็ไม่เป็นไร ก็เพียงพอแล้ว......มั้งนะ



"ขอบคุณนะ"


   ไอดินยิ้มให้ผมก่อนจะดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั่น กลิ่นโคโลญอ่อนๆทำให้ผู้รู้สึกเคลิ้มๆ ผมพิงหัวกับอกอุ่นๆของมันเนิ่นนานจนรถมาถึงบ้านของผมเสียที

บ้านที่ผมสามารถเรียกว่าบ้านจริงๆ

แม้มันจะไม่ได้มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นเหมือนครอบครัวนั้น

แต่ก็มีแม่ที่แสนดี......กับที่ๆผมควรยืน

และเป็นที่ของผมอย่างแท้จริง......


    ผมรู้สึกแปลกใจที่แม่ไม่ได้ออกมารอรับผมเหมือนที่เคยเป็น ภายในบ้านเงียบสะงัด ผมเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะตรงขึ้นไปยังห้องนอนของแม่ด้วยความเป็นห่วง

แม่ไม่สบายเพราะผม......ข้อนี้ผมจะจดจำมันไปชั่วชีวิต

"แม่ครับ...."

    ผมเดินนำเข้าไปหาท่านที่นอนอยู่บนเตียง ท่านหันมายิ้มให้ผมอย่างเหนื่อยอ่อน ผมคุกเข่าลงก่อนจะจับมือหยาบกร้านนั้นมาแนบกับหน้า

"ผมขอโทษครับแม่.....ผมสัญญา......"

"อย่าสัญญากับแม่อีกเลย ถ้าลมจะทำมันไม่ได้ และมันจะทำให้ลมรู้สึกผิด"

"แม่....."

   น้ำตาของผมไหลอาบหน้า ทั้งๆที่ผมมีแม่ที่แสนดีอยู่อย่างนี้ ใยผมถึงต้องขวนขวายหาอดีตของตัวเองอีกนะ ถึงจะรู้และบอกกับตัวเองอย่างนี้ แต่ความเห็นแก่ตัวของตัวเองก็ตีตื้นขึ้นมาได้ไม่ยาก

มนุษย์ก็แบบนี้

ผมรู้ดี และทุกคนก็รู้ดีเช่นกัน

"แม่ไม่อยากได้คำสัญญาของลมอีก แค่ข้อเดียวที่แม่ขอลูก แค่ลูกรักษามันให้ดีที่สุดก็เพียงพอ"

"ครับแม่....."




*****
ที่มาลงเร็วเพราะช่วงนี้ว่างจากการเรียนนิดหน่อยอ่ะค่ะ 55+
แบบว่าแล้วตอนพวกนี้ก็ไม่ต้องแก้ไขอะไรมากด้วย
แต่ช่วงตอนท้ายๆนี่สิ :serius2:

~EnSlAvE_tO_dEsIrE~

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #21 เมื่อ07-04-2010 16:15:28 »

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:


ไม่ไหวแว้ว......สงสารลมอ่า

cipher

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #22 เมื่อ07-04-2010 17:59:47 »

สงสัยทั้งออทัม ซัมเมอร์
จะรักลมทั้งคู่ละมั้ง :o9:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #23 เมื่อ07-04-2010 20:42:17 »

เศร้าได้อีก

ลม+ไอดิน ใช่ไหม?

ปล. :กอด1:คนแต่ง คิคิ

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว 6
«ตอบ #24 เมื่อ07-04-2010 22:43:29 »

                              เสียงกระซิจากลมหนาว 6


"ไอดิน ตื่นได้แล้ว"

    ผมปลุกเพื่อนตัวดีให้ตื่นจากนิทรา ไอดินมักจะนอนขี้เซาเสมอ ผมชินซะแล้วล่ะเพราะตอนอยู่เชียงใหม่ก็เป็นผมนี่แหละปลุกมันตอนเช้าก่อนจะไปโรงเรียน

"ฮื่ออ ขออีก 5 นาทีนะวินด์~"

   ไอดินมุดหน้าลงหมอนผมแต่ผมไม่ยอมเขย่าจนตื่นขึ้นมาจนได้ วันนี้ไอดินมานอนที่บ้านผมเป็นวันที่สองแล้ว ตั้งแต่มันมากรุงเทพมันยังไม่ได้กลับไปหาพ่อแม่มันซักครั้ง ผมไม่รู้จะขอบคุณมันยังไงที่มันเป็นห่วงผมถึงขนาดนี้

แต่ผมก็มักจะทำให้มันลำบากใจเสมอๆไม่แพ้กัน.....ผมนี่มันแย่ได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ


     รถแล่นด้วยความเร็วไม่มากนัก ผมนั่งคู่กับไอดินที่เบาะหลัง เรานั่งกันคนละฟากผินหน้ามองหน้าต่าง ต่างคนต่างตกในห้วงความคิดของตัวเอง เพียงเวลาไม่นานก็มาหยุดลงตรงหน้าโรงเรียน


"ขอบคุณครับ"


   ผมกับไอดินเอ่ยขอบคุณลุงคนขับรถ เราเดินเข้าไปโรงเรียนพร้อมกันก่อนผมจะพาไอดินไปรายงานตัวที่ห้องธุรการ ตลอดทางที่เดินผ่านมาผู้คนต่างให้ความสนใจไอดิน เพราะเขาหน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

  ไม่เหมือนผมที่ไม่เคยจะอยู่ในสายตาของใคร......ในตอนนี้ก็เช่นกัน เพราะในแววตาของทุกคนสะท้อนออกมาแค่ภาพของไอดิน

"ไปกันเถอะ......."

     ไอดินเดินมากอดคอผมก่อนจะลากให้เดินไปด้วยกัน กลิ่นโคโลญกลิ่นเดียวกับวันก่อนๆทำให้ผมรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เขาบอกผมว่าเราได้อยู่ห้องเดียวกัน นั่นเป็นสิ่งที่จะว่าดีก็ดี จะว่าแย่ก็แย่ ดีที่ไอดินอยู่จะได้มีไม่ใครกล้ามารังแกผม แต่ที่แย่คือในห้องนั้นมีพี่ซัมเมอร์ด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าไอดินจะทำให้เสียเรื่องรึเปล่า

แต่จะคิดไปถึงอนาคตก็ป่วยการเปล่าๆ.....


"วินด์ กูขออย่างได้ไหม" ไอดินหยุดเดินและจ้องหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง

"อะไร"

"อย่าเข้าใกล้สองพี่น้องนั่นจนเกินไป"

"แต่ว่า......."

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถึงมึงจะเป็นน้องแต่คนพวกนั้นไม่รู้ และอาจไม่ได้จะคิดกับมึงแค่พี่น้องก็ได้"

"กูไม่เข้าใจ......ไม่ได้คิดกับกูพี่น้อง แล้วจะคิดกับกูยังไง??"

"มากกว่านั้น"

     แววตาของไอดินไม่ได้ฉายแววล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าต้องการสื่ออยู่ดี ไม่ได้คิดกับผมแค่พี่น้อง แล้วจะให้คิดยังไงล่ะ.......เพื่อน???




หรือศัตรู!!!





"ทำไมต้องพามันมาด้วย" พี่ซัมเมอร์กระซิบผมเสียงเครียด ไอดินนั่งอยู่หลังห้องซึ่งห่างจากพวกเราพอสมควร ผมได้แต่มองหน้าพี่ซัมเมอร์อย่างไม่รู้จะตอบว่าอะไร

"ทำไมหมอนั่นต้องอยู่ห้องนี้ด้วยวะ.......งี้มันต้องตามลมแจแน่เลย" พี่ซัมเมอร์พึมพำกับตัวเองเสียงเครียด เขาดึงมือผมที่วางอยู่บนโต๊ะผมไปวางบนโต๊ะ ก่อนจะพิจารณามือผมอย่างไม่วางตา มือเขาลูบตั้งแต่เล็บเรื่อยมากจนหยุดอยู่ที่แหวนเงินวงหนึ่งที่สวมอยู่ที่นิ้วก้อยของผม

"แหวนสวยจัง ยืมใส่มั่งสิ"

"........."

"นะลม ได้ไหมอ่ะ" ผมไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่มองมือตัวเองนิ่ง ก็แหวนวงนี้เป็นแหวนของฟ้า ผมลูบมันอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะเข้าสู่ภวังค์ความคิดของตัวเอง ผินหน้าออกไปมองท้องฟ้าสีฟ้าสดใส


เธอกำลังส่งยิ้มให้ผม


อย่าร้องไห้นะฟ้า......น้ำตาของเธอจะทำให้เราไม่สบาย


และมันจะเปียกปอนไปทั้งหัวใจ



"ลม.....ลม.....ร้องไห้ทำไม" พี่ซัมเมอร์ถอดแว่นออกให้ผม ก่อนจะซับน้ำตาอย่างอ่อนโยน นัยส์ตาสีดำสนิทไหววูบดังเปลียวเทียนต้องลม

"ไม่ร้องนะครับคนเก่ง เราจะไม่ยืมมันแล้วล่ะ มันคงสำคัญกับลมมาก" ผมผยักหน้าก่อนจะซบหน้าลงกับโต๊ะ

"ลม ไม่สบายเหรอ" ไอดินเดินมาด้านหลังก่อนจะแตะหลังผมเบาๆ ผมส่ายหน้ากับแขนตัวเองแต่ไอดินก็ยังดึงดัน

"ออกไปข้างนอกกันเถอะ"

"อืม"

"เราไปด้วย"

     เราสามคนเดินมาถึงดาดฟ้าของโรงเรียน ที่ๆคราวที่แล้วผมถูกจับมาที่นี่ มันยังคงเหมือนกับวันนั้น เพียงแต่วันนี้ผมมาเองไม่ได้ถูกบังคับให้มา

"ไอดิน"ผมหันไปหาไอดิน

"หืม"

"......" ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้า เราสามคนเงียบกันไปโดยไม่มีใครคิดจะปริปากพูด ไอดินรู้ว่าผมกำลังอยู่ในอาการไหน และเขารู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้ ไอดินนั่งลงกับพื้นตามด้วยผมที่นอนหนุนตัก มันลูบหัวผมอ่อนโยนอย่างที่เคยทำ ส่วนพี่ซัมเมอร์นั่งอยู่ข้างๆผมอีกทีนึง


    อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าจะมีคนเฝ้ามองผมอยู่ไหม และคนๆนั้นเป็นคนที่ผมรักสุดหัวใจรึเปล่า แล้วเธอจะมองเห็นหรือรับรู้ความรู้สึกของผมตอนนี้ไหม


คำตอบอยู่ ณ แห่งหนใด


ผมไม่มีวันจะรู้เลย

   รับรู้เพียงมือหนาที่ลูบศรีษะผมอย่างปลอบโยน คนๆนี้คนที่เห็นตัวตนของผม คนที่ยืนข้างๆเสมอ ไม่ว่าผมจะเจอปัญหาใหญ่น้อย ผมรู้จะขอบคุณยังไงแล้ว








อีกด้านหนึ่งของประตู


    ร่างสูงมองภาพนั้นด้วยสายตาที่คุกกุร่นไปด้วยไฟแห่งโทสะ โกรธที่เจ้าคนที่ชกเค้ากำลังลูบหัวเจ้าตัวดีนั่น มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะชกกำแพงเสียงดังปัง


"ใจเย็นน่าไอ้ออทัม....." ชินเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มยกมือขึ้นแตะที่บ่าของออทัมเบาๆ

"กูจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกมัน....." เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็น ดวงตาทอแสงอย่างประหลาดเมื่อคิดถึงแผนการที่แยบยลของตัวเอง และผลอันแสนคุ้มค่าที่จะตาม หากทำมันสำเร็จ

"มึงจะทำยังไง......อย่าให้ถึงเลือดตกยางออกเลยว่ะ กูสงสารไอ้ลมมัน"เฟสพูด

"อย่าบอกว่ามึงหลงเสน่ห์มันเข้าแล้ว" ออทัมเอ่ยดักเฟสอย่างรู้ทัน ทำเอาเขาสะอึกก่อนจะรีบแย้ง

"ไอ้เหี้ย!! กูมีแฟนแล้วเว้ย" ใช่......เขามีแฟนแล้ว และรักเดียวใจเดียวไม่คิดเปลี่ยนใจแน่นอน ถึงแม้ว่าลมจะดูน่ารักและหน้าหวานเกินชายบางคน แต่เขาก็ชอบผู้หญิงจริงๆมากกว่า

"หึ......" ออทัมแค่นหัวเราะ ชินมองรอยยิ้มนั้นอย่างเคลือบแคลงใจ แต่ก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา เขาจะดูอยู่ห่างๆ แต่หากออทัมทำเกินไปจริงๆ เขาก็ทนดูไม่ได้เหมือนกัน คงต้องสอดมือเข้าไปช่วยอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

   ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันแต่เขาก็สงสารฝ่ายนั้นไม่น้อย เมื่อต้องมาสู้รบปรบมือกับมารร้าย อย่างเพื่อนเขา


แต่เอาเข้าจริงๆก็คงไม่ต้องห่วงอะไรมาก


เมื่อฝ่ายนั้นมีอัศวินทั้งสองคอยพิทักษ์อยู่ไม่ห่าง ศึกครั้งนี้ใครจะชนะกันแน่


แต่ที่แน่ๆ หากบทสรุปมันออกมาไม่สวยงาม ก็คงต้องเจ็บกันทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน


อย่าหลงรักศัตรูเข้าล่ะ......ออทัม


แต่เมื่อมองเข้าไปในแววตาเรียบนิ่งนั้นอีกที......เหมือนคำตอบจะออกมากลายๆแล้วล่ะ



ว่ามันไม่ทันเสียแล้ว


****
 :กอด1: ทุกคนค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #25 เมื่อ07-04-2010 23:01:54 »

 :call:to be follow na ka.

Nurofen

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #26 เมื่อ08-04-2010 00:37:36 »

 :serius2:

อย่าทะเลาะกันน๊า
 :z3:

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #27 เมื่อ08-04-2010 01:10:09 »

เข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่องครับ

ผูกเรื่องสุดยอด  o13

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #28 เมื่อ08-04-2010 02:49:50 »

 :z1:
ออทัม มีแววจำหัวปักหัวปำกับเจ้าลมนะเนี่ย

น่าจะมีสปริงมาเป็นอัศวินของวินเทอร์อีกคน

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว
«ตอบ #29 เมื่อ08-04-2010 11:13:37 »

อ่านตอนไหนก้เศร้า

แต่ชอบมากมายผุกเรื่องได้ o13มากเลย

 :pig4:นะครับคนไรเตอร์ ไอดิน+สายลม :mc4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด