◭ OPEN RELATIONSHIT
ไม่ใช่รัก◭
[/size]
“หื้อออ ที่รักจะเสร็จแล้วหรอครับ”
“อะ อื้ม เธอใกล้ยัง”
“อื้มม ก็ได้”
“ฮะ ฮ่า อื้อ”
“ดะ เดี๋ยววินใช้มือก็ได้ ไม่เป็นไร”
“เดี๋ยวพี่ช่วยนะ วิน วินเดี๋ยวสิ”
ผมรู้ว่าที่เขาจบกิจกรรมอย่างว่าเร็วเพราะก่อนเข้าบ้านเขาไปร่วมกิจกรรมแบบนี้กับคนอื่นมาก่อนแล้วยังไงล่ะ ทั้งที่ผมไม่ควรน้อยใจหรือโกรธเขาแท้ๆ เพราะมันก็เป็นข้อตกลงตั้งแต่สี่ปีก่อนที่เราคบกัน แต่มันก็รู้สึกใจหายไม่ได้ที่เขาเพิ่งมาล้ำเลิกมันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา open relationship ที่เราตกลงกันไว้ ทรมานจริงๆ
ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำกว่าครึ่งชั่วโมงเพราะอยากให้พี่แทนหลับก่อน ไม่อยากเห็นใบหน้าที่เสมือนว่ารู้สึกผิดของเขาทั้งที่มันเป็นความรู้สึกผิดแค่ชั่วคราวเท่านั้น และผมก็เต็มใจที่จะยอมรับเรื่อยมา
“ถ้าวันหนึ่งเซ็กส์ของวินทำให้พี่แทนพอใจไม่ได้ พี่แทนจะไปทำกับคนอื่นก็ได้ แต่ต้องป้องกัน อย่ารู้สึกอะไรกับเขา อย่าให้เขามาทำให้เรามีปัญหา และอย่าให้วินรู้”
“พี่ไม่ทำหรอก พี่รักวินนะ ทำแบบนั้นวินก็เสียใจดิ”
“วินรู้ว่าเซ็กส์สำคัญสำหรับพี่ วินกลัวว่าบางทีวินจะทำให้ไม่ได้เต็มที่”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เซ็กส์สำคัญสำหรับพี่แต่วิสำคัญกับพี่มากกว่านะ”
“อื้ม วินแค่พูดเผื่อไว้ ถ้าจะทำวินก็ไม่โกรธนะ”
“ครับๆ พ่อพระของพี่”แอร์เย็นๆ ปะทะเข้ากับใบหน้าหลังจากแต่งตัวเรียบร้อย พี่แทนหลับไปอย่างที่คิด คงเหนื่อยทั้งงานทั้งกิจกรรมอย่างว่า หลังจากเราทั้งคู่เรียนจบพี่แทนก็ทำงานเป็นสจ๊วตของสายการบินระดับประเทศ ส่วนผมเป็นฟรีแลนซ์รับวาดการ์ตูน และทำกราฟฟิกอยู่ที่บ้าน บ้านที่ว่าคือบ้านของพี่แทนเขาซื้อหลังจากเรียนจบใหม่ๆ ด้วยเงินที่เขาหาเองจากการรับจ๊อบร้องเพลง เดินแบบ ถ่ายแบบ สมัยเรียนเรียนมหาวิทยาลัย เขาหน้าตาดีระดับที่เป็นเน็ตไอดอลในสมัยนั้น แต่ก็เลือกเส้นทางทำงานที่ได้รายรับแน่นอนมากกว่า
“หื้อออ มาแล้วหรอ พี่รอตั้งนาน”
“อื้อ พี่แทนนอนเถอะ พรุ่งนี้บินเช้าไม่ใช่หรอ” คนซะลึมซะลือคว้าเอวเข้าไปกอดแล้วซุกหน้าเข้ากับแผ่นหลังของผม เขาชอบนอนท่านี้บอกว่าสบายดี ผมเตี้ยกว่าพี่แทนสักห้าเซ็นติเมตรได้ แต่เขาตัวใหญ่กว่าผมเยอะมาก เวลากอดเลยเหมือนเขากอดหมอนข้างแฟบๆ
“โกรธพี่มั้ย” เสียงอู้อี้ด้านหลังดังขึ้น
ผมส่ายหัวและเขาก็คงรับรู้จากการใช้มือใหญ่ๆ ลูบหัวผมสองสามทีก่อนจะนิ่งไป คงหลับไปแล้ว แต่ในใจของผมมันเหมือนโดนบีบอีกครั้ง ทอดสายตามองไปริมระเบียงที่เห็นต้นฉ่ำฉาต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านอยู่นอกรั้วบ้าน เราสองคนเคยนอนกอดกันแล้วพูดเรื่องความฝันว่าจะมีบ้านที่ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่นี้ได้บ้าง แต่เหมือนตอนนี้มันจะกลายเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ ของผมคนเดียว
นอนเถอะวินเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว “วินจะไปกับพี่มั้ย งานวันเกิดโอปอล์อะ”
“วันไหนกี่โมงหรอ วินมีงานที่ต้องรีบส่งก่อนศุกร์นี้อะ”
“งั้นก็รีบทำสิ งานมีวันเสาร์ ปอล์มันอยากเจอวิน มันบอกคิดถึงลูกชาย”
“หึ พี่โอปอล์จะเอาอะไรมาคิดถึงวิน แฟนกัปตันออกจากหล่อขนาดนี้”
“นี่อย่ามาชมคนอื่นหล่อต่อหน้าพี่นะ”
“ฮ่าๆ ทำตัวเป็นลุงหัวล้านไปได้ งั้นคืนนี้พี่แทนห้ามเกะกะวินจะรีบปั่นงาน”
“จ้าๆ ไม่เกะกะครับผม!” เขาทำท่าตะเบ๊ะใส่ ก่อนจะถอดเครื่องแบบทำงานแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป พี่โอปอล์ที่ว่าคือเพื่อนผู้หญิงที่เป็นแอร์ฯ สายการบินเดียวกัน ซึ่งเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาลัย ผมรู้จักพี่โอปอล์ก่อนพี่วินเพราะผมเคยจีบเธอ ไม่ได้พูดเล่นนะ สวยระดับนางฟ้าไอ้วินก็จีบมาแล้ว แต่ดันมาตกม้าตายยอมเป็นเมียพี่แทนก็เพราะพี่มันรุกหนักนี่แหละ จำได้เลยตอนนั้นตกใจมากที่รู้ว่ามีผู้ชายแอบชอบ ตามตื้อ ตามส่งขนมให้ ช่วงแรกๆ ก็ขนลุกเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็แพ้ความใจดี ความใส่ใจ จนรักเขามาถึงทุกวันนี้แหละ
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้รักอีกนานแค่ไหน ปกติพี่แทนพกถุงยางตลอด และมันมักจะมีสองถึงสามอันในกระเป๋าเดินทางเสมอ แต่วันนี้มันหายไปหมด นั่นแปลว่า ระหว่างทางที่เขาทำงานหรือระหว่างทางที่กลับบ้าน มันถูกใช้สำหรับเขากับใครอีกคน มือที่จับเมาส์ปากกาสั่นจนวาดรูปไม่ได้ แต่ก็ต้องกลั้นใจตั้งสติแล้วทำงานต่อไป แม้ว่าหัวใจจะถูกบีบจนเจ็บก็ตาม
ร้านอาหารขนาดกลางบนดาดฟ้าแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเพทฯ ถูกจองโดยเจ้าของวันเกิดที่ทั้งสวยและรวยมาก เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ทุ่มเงินเพื่อนให้เพื่อนๆ มาร่วมฉลองให้กับตัวเอง
“เฮ้ ลูกชายคิดถึงจังเลย” ผมสวมกอดสาวสวยตรงหน้า พี่โอปอล์ในชุดแม็กซิมเดรสสีขาวโชว์เนินอกที่มีจนล้น เซ็กซี่ขยี้ใจสุดๆ
“สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่โอปอล์”
“ชุดมึงมันจะไม่โป๊เลยนะ ถ้าแฟนกูไม่มาเห็น แม่ง”
“ฮ่าๆๆ ทำไมวะ กลัวน้องวินจะกลับมาชอบกูหรือไง”
“ไม่มีทางแล้วโว้ย ใช่มั้ยวิน”
ผมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไรอะไร กะจะแหย่ให้มันเป็นโจ๊กขำๆ ซึ่งพี่แทนก็ดูจะหัวเสียตามที่ผมแกล้งจริงๆ ด้วย
“ฮ่าๆ พี่แทน โถ่ จะไปชอบพี่ปอได้ไงเล่า ดูแฟนเขาซะก่อนเหอะ”
“อิแทนมึงนี่มันขี้หึงไม่หยุดหย่อนจริงๆ นี่ถ้ามึงไม่เข้ามารุกน้องวินนะ กูได้กินเด็กไปละ นิสัย”
“อย่าตีกันๆ ไปหาไรกินกัน วินหิวแล้วอะ” ผมตัดบทก่อนที่เพื่อนสนิทสองคนจะทะเลาะกันด้วยเรื่องเก่าๆ ดึงแขนพี่แทนมาที่บาร์ค็อกเทลที่มีทั้งเครื่องดื่มและอาหารคาวหวาน ตักสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้พี่แทนและตักไปเผื่อตัวเอง ส่วนร่างสูงที่เดินตามหลังหยิบพวกซูชิและผลไม้เดินตามมา
“อ้าวแทน หวัดดีครับ ไม่เจอกันอีกเลยตั้งแต่ไฟล์ทเซี่ยงไฮ้” ผู้ชายหน้าตาดีที่ผมเคยเห็นคับคลายคับคลาว่าปรากฏตัวในไอจีสตอรี่ของพี่แทนเมื่อเร็วๆ นี้
“ดีครับบีม เป็นไงเห็นว่าไปเกาหลีทั้งเดือนเลยหรอ”
“เออดิ โคตรเซ็งอะ แล้วมีเราเป็นสจ๊วตคนเดียว เหี่ยวเลยไม่มีคนเล่นเกมด้วย แล้วนั่น..”
“อะ อ้อ นี่วิน แฟนเราเอง วินนี่บีม เพื่อนพี่ที่ทำงาน”
“แทนมีแฟนแล้วหรอเนี่ย”
ผมเอ่ยทักทายเขาครั้งแรกตั้งแต่ฟังบทสทนาของคนรักกับเพื่อนร่วมงานมาตั้งนาน “สวัสดีครับ”
“วินทำงานหรือเรียนอยู่หรอ ทำไมหน้าเด็กจัง”
“อ่อ ทำงานแล้วครับเป็นฟรีแลนซ์ ไม่เด็กแล้วครับพี่ ห่างกับพี่แทนแค่สองปีเอง”
“งั้นแทนหน้าไปแล้วน้า ต้องพบหมอแล้วหรือเปล่า”
ผมนั่งฟังผู้ชายสองคนพูดจากหยอกล้อกันอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเสมือนลืมไปว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ ถ้าผมไม่ทำท่าจะลุกไปเติมน้ำพ๊นซ์เขาสองคนก็คงยังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ อย่างที่ผมไม่สามารถรับรู้เรื่องที่เขาเข้าใจกันเพียงสองคนได้
“วินจะไปไหน”
“อ่อ ว่าจะไปเติมน้ำหน่อยอะ พี่แทนคุยกับเพื่อนไปเถอะ” คนรักของผมพยักหน้าแล้วตั้งหน้าตั้งตาคุยกับเพื่อนคนนี้ต่อ เหมือนหันมาถามตามหน้าที่แค่นั้น
พอมายืนที่บาร์อาหารทั้งที่ยังไม่อิ่ม แต่แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากกินอะไรต่ออีก และสงสัยว่าจะยืนอยู่ตรงนี้นานจนมีคนสังเกตได้
“วิน วิน เป็นอะไรหรือเปล่า เลือกไม่ถูกหรอว่าจะกินอะไร” สาวสวยเจ้าของงานเดินมาสะกิดตัวถึงจะรู้ว่าตัวเองสติลอยหายไปกับอากาศบนดาดฟ้าซะแล้ว
“คะ ครับ อะ อ่อ เปล่าๆ วินกำลังคำนวนแคลอยู่อะ กลัวอ้วนไง ฮ่าๆ”
“เดี๋ยวแม่ตีตายเลยเอาอะไรมาอ้วน แทนมันเลี้ยงยังไงผอมขนาดนี้ แล้วมันไปไหน”
“คุยกับเพื่อนน่ะครับ”
“ใครอะ บีมหรอ อินี่มันยังไม่เลิกอ่อยเขาไปทั่วอีกหรอเนี่ย มันมากับใครพี่ไม่เชิญซะหน่อย เดี๋ยวเจอแม่หรอก” พี่โอปอล์ทำท่าจะเดินเข้าไปหา ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดของคุณเธอแล้วผมคงปล่อยไปไม่ได้กลัวจะมีเรื่องกัน เลยบอกว่าปล่อยเขาไปไม่มีอะไรหรอก ทั้งที่ในใจร้อนรนไม่ต่างกัน
ผมไม่ใช่คนขี้หึงหรือขี้หวง และไม่ค่อยแสดงออกต่อหน้าใครเป็นเป็นว่าเป็นแฟนกับพี่แทน กลัวเขาจะอึดอัด แต่วันนี้พยายามยืนใกล้เขา จับมือเขาตลอดเวลาที่ทำได้ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าผมเป็นแฟนของผู้ชายคนนี้ ซึ่งยังดีที่พี่แทนไม่ผลักไสหรือว่าอะไร เขาเพียงแต่ยิ้มและโอบเอวผมไว้เท่านั้น
ก่อนกลับผมและพี่แทนเดินไปลาเจ้าภาพ ที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวเพราะแฟนเจ้าหล่อนเซอร์ไพร์สขอแต่งงานในวันนี้พอดี พี่โอปอล์ผู้เข้มแข็งร้องไห้กลางงานอย่างตื้นตัน ก็คงจะได้มางานฉลองอีกรอบแน่ๆ
“ดีใจด้วยนะพี่โอปอล์ เขินแทนเลยอะ”
“เนอะ พี่ก็เขิน เนี่ยพูดแล้วยังเขินอยู่เลย ขอบใจนะวิน แต๊งกิ้วนะแทน”
“ดีใจด้วยมึง มีผัวเป็นตัวเป็นตนซะที กัปตันจะได้เลิกตีกันเพราะมึง”
“จ้ะ มึงก็เหมือนกันมีแฟนแล้วนะ อย่าไปเฟรนด์ลี่กับใครเขามาก ถ้าน้องกูเสียใจกูจะฆ่ามึง”
“มั่ววุ้ย กูกลับละ แฮพฟันทูไนท์นะครับเฟรนด์”
“อิชั่ว!”
เดินลงมาลานจอดรถก็เจอกับผู้ชายคนนั้นอีก ดูกรึ่มๆ หน้าแดง ตัวแดงไปหมด สงสัยจะเมา เขานั่งบนกระโปรงรถตัวเองสูบบุหรี่ไปด้วย
“จะกลับแล้วหรอแทน”
“ใช่ นี่เมาหรอ”
“สงสัยเจอเตกิล่าสามช็อตตอนเล่นเกมนั่นแหละ มึนเลย” ในงานมีเล่นเกมหมุนขวด ผมไม่ได้เข้าร่วมหรอกอยากนั่งฟังเพลงชิลๆ มากกว่า มีแค่เพื่อนพี่โอปอล์นั่งล้อมวงกันเล่นเท่านั้น
“ก็บอกแล้วว่าจะช่วยช็อตนึงก็ไม่ยอมไง”
“เดี๋ยวแทนขับรถไปส่งแฟนไม่ได้” เขามองมาที่ผม และไม่รอช้าผมคว้ามือพี่แทนมาจับไว้ จะบอกว่านี่เป็นการแสดงออกแบบเด็กๆ ผมก็ไม่แคร์
“แล้วนี่จะกลับยังไง”
“ก็นั่งให้สร่างก่อนอะ แล้วค่อยขับรถกลับ”
“เอางี้เดี๋ยวเราไปส่งมั้ย” พี่แทนไม่ได้หันมาถามความเห็นผมด้วยซ้ำ คลายมือจากผู้ชายข้างๆ ตัวออก แล้วยกให้เป็นหน้าที่ของเขาจะทำอะไรก็ตามใจ รถของเขา เขาจะไปส่งใครมันก็เรื่องของเขา
“แทนใจดีแบบนี้ตลอดเลยเนอะ วินก็คงเหมือนกันใช่มั้ย ใจดี และใจกว้างมากๆ” คำพูดของผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังเอ่ยขึ้น ทำเอาผมตัวชาดิก
‘ใจกว้าง’ ของเขาในที่นี้ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง ได้แต่กำมือที่กุมกันอยู่ที่หน้าตักแน่น และเบนสายตาออกไปนอกรถที่กำลังเคลื่อนผ่านความมืดมีเพียงแสงไฟส่องถนนสลัวตัดผ่าน พี่แทนเอื้อมมือมาจับมือผมเอาไว้แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หัวใจอุ่นขึ้นเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว
ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ“ขอบคุณนะแทนที่มาส่ง ขอบคุณน้องวินด้วย” ฝืนยิ้มให้เขาบางๆ ก่อนรถจะออกตัวจากคอนโดสุดหรูแห่งหนึ่ง มันเกือบจะดีที่คนเมาหลับและไม่พูดอะไรอีก ถ้าไม่ใช่เพราะผมไม่ได้ยินสารถีถามทางว่าคอนโดของคนอาศัยรถอยู่ที่ไหน แต่กลับมาถูกนี่แหละ
ใจมันเหมือนสลายลอยไปกับลมเย็นๆ ในคืนนี้แล้ว“ที่ไปเซี่ยงไฮ้ ถุงยางใช้กับเขาหรอ”
“วิน…”
“ใช่มั้ย”
“ครับ”
“วินบอกแล้วไงว่าอย่าให้วินรู้ พี่จะไปเอากับใครก็เรื่องของพี่ ขอแค่อย่าให้วินรู้มันทำยากนักหรอ”
“พี่ไม่รู้ว่าบีมจะไปงานวันเกิดโอปอล์ด้วย”
“แต่มันมีวิธีตั้งมากมาย ทำเหมือนไม่รู้จักกันไม่ได้หรอ หรือแค่ทักกันแล้วจบไม่ได้หรือไง ทำไมต้องอี๋อ๋อกันด้วยวะ กลัวคนไม่รู้หรอว่าเอากันแล้วอะ”
“วิน! อย่ามาพูดแบบนี้นะ ทั้งที่กฏบ้าๆ นี่วินตั้งมันขึ้นมาเอง”
ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกแบบไหน เคยจินตนาการคำพูดร้ายแรงที่สุดที่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้จะออกจากปากเขา และคำพูดที่ว่านั่นมันก็เพิ่งถูกพูดออกมาจากปากผู้ชายที่ผมรักมากที่สุด รักจนยอมให้เขาทำเรื่องแบบนี้ แต่ตัวเองก็ดันรับไม่ได้ขึ้นมา
“อืม วินลืมไป วินขอโทษแล้วกันว่าวินไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายพี่เรื่องนี้”
“....”
“วินรู้นะว่าวินทำเรื่องแบบนั้นให้พี่ได้ไม่ดีพอ แต่...ขอร้องได้มั้ย อย่าให้วินรู้ว่าคนที่พี่มีเซ็กส์ด้วยคือใคร วินขอแค่นี้”
“วิน...พี่ขอโทษ พี่ผิดเองที่มีความต้องการมากเกินไป พี่คิดว่ามันจะหยุดได้”
“อืม ช่างมันเถอะ” เขารวบตัวผมเข้าไปกอดไว้ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกมั้งที่ผมรับรู้ได้ว่าคนตัวโตที่กำลังกอดอยู่ รู้สึกผิดจริงๆ เพราะผมเองก็ไม่เคยโวยวายหรือพูดถึงมาก่อน และผมก็ไม่อยากรับรู้ว่าเขาจะไปสนุกกับใคร แต่วันนี้มันเห็นและได้ยินเต็มตา ก็เลยฟิวส์ขาดขึ้นมา
“พี่จะพยายามนะ แต่สาบานได้ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับบีมจริงๆ”
“อื้ม”
ผมจะยอมเชื่อก็แล้วกัน แม้มันอาจจะเป็นความเชื่อถึงขั้นงมงายของผมคนเดียวก็ตาม
มีต่อ