ตอนที่35-เขิน
“เดี๋ยวคืนนี้มึงไปนอนในห้องกับกูก็ได้” เนปจูนพูดบอกติณที่ยืนเช็ดหัวอยู่ข้างหลังเสียงเบา
ไหนๆก็...มาขนาดนี้แล้ว นอนด้วยกันสักคืน คงไม่เป็นไรมั้ง
“หืม ว่าอะไรนะ” ติณเดินมานั่งยองๆเลิกคิ้วถาม มองเนปจูนนั่งวุ่นเอาเสื้อผ้าเข้าๆออกๆจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
“คืนนี้ไปนอนในห้องด้วยกันก็ได้ไง” จูนกระแทกเสียงตอบ หันไปตีแขนคนหัวเราะหึหึข้างหู
“เอางั้นเหรอ” ติณถามเพื่อความแน่ใจ
“เออดิ นอนเฉยๆนะ” จูนพูดบอก ชี้หน้าขู่
หึหึ กูคงไม่กล้าทำอะไรมึงกลางฝูงไอ้เหลืองหรอกจูน ไม่ต้องกลัว
ถ้ากูจะทำ กูลากมึงไปทำที่ห้องกูดีกว่าว่ะ เขาได้แต่คิดในใจ เพราะขืนพูดออกไป จูนมันคงหยิกเขาจนแขนเขียวก่อนไปแน่
ติณณภพผลักหัวจูนแล้วลุกขึ้นไปนั่งเช็ดผมบนโซฟาดีๆ
ปลายมีนาแบบนี้ต่อให้ใส่เสื้อกล้ามอยู่แต่ในห้องแอร์เขายังรู้สึกว่ามันโคตรร้อนอยู่เลย
แล้วดูจูน ชุดนอนยาวทั้งเสื้อและกางเกง มันไม่ร้อนรึไง -_-'
“มึงไม่ร้อนเหรอ ใส่ชุดนอนแขนยาว”
“ก็...ก็...ไม่ร้อนหรอก ชิลล์ๆ” จูนตอบเสียงเบา หน้าร้อนผ่าว จะมาเริ่มร้อนตอนมึงทักนี่แหละติณ
“หึ” ติณยกยิ้มมุมปากหัวเราะขึ้นจมูก คิดว่ารู้ไม่ทันล่ะสิ
“อะไร!” จูนหันไปเหวี่ยง โยนกล่องแปรงสีฟันใส่มัน
ติณลอยหน้าลอยตาไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องพูด “พรุ่งนี้ต้องไปไหนมั้ย”
“อือ กลับบ้านตอนเช้า ต้องเอาของที่ห้องไปเก็บ”
“ไปกี่โมง”
“7ครึ่งหน่อยๆ ออกสายเดี๋ยวรถติด กูต้องไปซื้อของด้วยแล้วกลับมาจัดกระเป๋าต่อ”
“อืม เดี๋ยวไปส่ง” ติณบอก กดรีโมทหาช่องดูหนัง
“เห้ย ไม่เป็นไร มึงนอนไปเถอะ วันนี้เพิ่งสอบเสร็จ พรุ่งนี้ไม่ต้องตื่นเช้าหรอก”
“กูขออยู่กับมึงตั้งแต่ตื่นนอนจนมึงขึ้นเครื่องเลยไม่ได้เหรอ”
มาอีกแล้ว...ไอ้ติณโหมดนี้ โหมดที่เขาไม่ค่อยคุ้น
ถึงตัวมันจะนั่งอยู่บนโซฟาแต่เสียงอ้อนที่ส่งมาก็สามารถทำให้ริมฝีปากเขาฉีกยิ้มกว้างได้เหมือนกัน
“อือ งั้นตามใจ” จูนตอบแล้วนั่งยิ้มเก็บของไปได้เกือบเต็มกระเป๋า
นี่เขาต้องกลับไปเอาเสื้อกันหนาวที่บ้านอีกตั้งหลายตัวเผื่อไว้ ใบเดียวจะพอมั้ยเนี่ย
ติณนั่งรอคนตัวเล็กจัดกระเป๋าจนเกือบห้าทุ่ม เจ้าของห้องถึงชวนเข้านอน
เขาเดินตามหลังจูนที่รู้สึกเหมือนความประหม่าจะแผ่ออกมาจนติณรับรู้ได้เลยแกล้งรีบเดินเข้าไปใกล้แล้วหัวเราะเบาๆ
“หึหึ”
“ไอ้ติณ!” จูนหันไปแหวใส่ ผลักอกมันให้ออกห่างแล้วเดินไปแปรงฟันในห้องน้ำ
พอเดินออกมาเขายังเห็นมันยืนห่างเตียงเลยถามอย่างสงสัย
“ทำไมไม่ขึ้นเตียง”
“เอาไอ้เหลืองพวกนี้ออกก่อนดิ” ติณพยักพเยิดหน้าไปบนเตียง ชายตาแลลูกๆทั้งหลายของจูน
“อะไร นี่ฟองจูนไม่ได้ช่วยให้มึงหายกลัวเลยเหรอ” จูนถามแล้วเดินไปกวาดฟองน้ำลงจากเตียง
ตัวสุดท้ายคือฟองติณ เขาลากไปไว้อยู่ปลายเตียงนู้นเลย
“ก็เลิกกลัวแค่ตัวเดียว” ติณบอกแล้วสะบัดผ้าห่มขึ้นไปนั่งบนเตียงมองจูนยืนจัดแจงกับฝูงไอ้เหลือง
“มึงจะรักอะไรขนาดนี้วะจูน” เขาถามด้วยความสงสัย ขยับตัวนอน
ไอ้จูนไม่อยู่ตลอดทั้งเดือนเขาจะเอาพวกมันไปกองอยู่ข้างล่างแม่งให้หมดแน่ ไม่ต้องขึ้นมานอนข้างบนนี้ดีๆหรอก หมั่นไส้
“เรื่องของกูหน่า” จูนบอกหลังจากเรียงฝูงไอ้เหลืองเสร็จแล้วขึ้นมานอนบ้าง
ติณณภพส่ายหัว ถอนหายใจเสียงดังจนโดนจูนเตะหน้าแข้งใต้ผ้าห่ม
“มันเจ็บมั้ยเนี่ย หะ” คนโดนเตะบอก ดึงจูนเข้ามากอดแล้วขยี้จูบหน้าผากมนแรงๆหลายที
“สำออย” จูนว่า เบียดตัวเข้าหาพอประมาณไม่ให้มันอึดอัดแล้ววาดมือไปกอดเอวหนา
“นอนเถอะ ฝันดีครับ” ติณบอกแล้วกดจูบปากเจ้าของห้องซึ่งก็ได้รับแรงกดตอบกลับมา
“อืม ฝันดี”
ทั้งสองคนยิ้มให้กันผ่านความมืดแล้วหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราเพื่อตื่นมาเจอกันและกันในเช้าวันถัดมา ..
เนปจูนตื่นไปอาบน้ำตอนเกือบ7โมงแล้วกลับมาปลุกติณ เขายืนมองดูมันนอนงัวเงียแล้วก็สงสาร
“นอนต่อก็ได้นะติณ เดี๋ยวสายๆกูก็กลับมาแล้ว” จูนนั่งลงบนเตียงตามแรงดึงของคนง่วง ติณมันเอาหัวมาซบไหล่เขาแล้วหลับตาถามเสียงงึมงัม
“ตัวเย็นๆ อาบน้ำแล้วเหรอ”
“อืม ถ้าจะไปส่งมึงก็รีบไปอาบน้ำไป จะได้ตื่น”
“อือ” ติณครางรับ ปล่อยจูนให้เป็นอิสระแล้วลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำ
เจ้าของห้องเดินเข้าครัวมาปิ้งขนมปังสองแผ่นง่ายๆเพราะเดี๋ยวยังไงตอนไปบ้านใหญ่ก็ต้องทานข้าวเช้ากับน้องอยู่แล้ว
สิบนาทีผ่านไป จูนถือจานเล็กที่มีขนมปังทาแยมไว้เรียบร้อยออกมาจากครัวก็เจอติณนั่งกดรีโมทดูทีวี
มันไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงยีนส์ขายาวแถมยังไม่รูดซิบติดกระดุมอีกต่างหาก
ณ จุดนี้อยากถามมันมากเลยว่า เพื่อ!?
...ไอ้บ้าาาา กูเห็นขอบกกน.สีขาวมึงด้วยอ่า
“ทำไมไม่ใส่เสื้อ” จูนขมวดคิ้วถามทั้งที่หน้าเห่อแดง ยื่นจานขนมปังให้ พยายามบังคับสายตาไม่ให้มองตั้งแต่ช่วงหน้าอกมันลงไป
“ร้อน” ติณบอก หยิบขนมปังมากัด ไม่ทันสังเกตอาการคนร่วมห้อง
จูนบ่นมันว่าเว่อร์เบาๆแล้วนั่งกัดขนมปังของตัวเองบ้าง จนได้เวลา7โมงครึ่ง
ติณก็ยังไม่ยอมไปหาเสื้อมาใส่ นั่งเป็นคุณชายบอกให้เขาไปเลือกจากในห้องมาให้หน่อย
คือกูอยากถามมึงมากเลยนะว่าเห็นกูเป็นคนใช้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ห๊ะ
แต่เขาก็ไปเอามาให้มันอยู่ดีแหละหน่า ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด
“ยาวหรือสั้นติณ” เขาตะโกนถามออกมาจากในห้อง
ติณมันมีเสื้อยืดแขนสั้นอยู่ที่นี่สองตัว ยืดแขนยาวตัวหนึ่ง เสื้อกล้ามใส่นอนและใส่ออกไปข้างนอกอย่างละตัว
“กล้าม”
จูนหยิบเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาออกจากไม้แขวน ที่ผ่านมามึงจะแต่งตัวยังไงก็เรื่องของมึง แต่ตอนนี้ห้ามเว้ย
“แล้วถามทำไม” ติณบอกเมื่อเห็นเสื้อที่ต้องใส่
เนปจูนโยนเสื้อใส่หน้ามันแล้วเดินไปใส่รองเท้าออกไปยืนรอนอกห้อง
“ล็อค'ตูด้วย”
“เอาการ์ดไปยัง”
“อืม” จูนตอบแล้วเดินไปกดลิฟท์
.
.
.
วันนี้ติณเข้าบ้านมาแบบไม่เจอพี่โตเพราะจูนบอกยังเคลียร์งานไม่เสร็จ
เห็นบอกว่าจะกลับมาเก็บเสื้อผ้าที่บ้านตอนสายๆ เช้านี้เขาเลยรอดตัวจากการโดนจ้องไป
แต่ถึงยังไงตอนไปส่งจูนที่สนามบินคงไม่รอดอยู่ดี...
แล้วเขาจะกลัวทำไมวะ ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่รักน้องชายของพี่เท่านั้นเอง
“ว๊ายยพี่ติณ ไม่เจอกันนานเลย ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยสิค่า” ติณยิ้มขำวีนัสที่ร้องกริ๊ดใส่ตอนเจอหน้าเขา
ส่วนจูนเดินไปเขกหัวน้องแล้วบอกให้สำรวมหน่อย
“อะไรเล่า ตัวก็พามาบ่อยๆซี่” น้องบอกพี่ชายหน้างอ เดินไปฉุดแขนติณแล้วส่งมือถือให้จูน
“เอานะ” พี่คนที่สองของบ้านบอกแล้วกดชัตเตอร์ มองติณผ่านกล้อง
ไม่รู้มันตั้งใจยิ้มให้กล้องหรือยิ้มให้เขา แต่พอเห็นรอยยิ้มยกมุมปากแสนเจ้าเล่ห์นั้นแล้วเขาอยากเข้าไปข่วนหน้ามันฉิบหาย
จูนส่งมือถือให้น้องแล้วเดินไปซัดกำปั้นลงบนแขนติณแบบไม่มีเหตุผล
“เอ้า แล้วตีทำไม”
“พอใจ” จูนบอกแล้วเดินไปยังห้องอาหาร
แม่งคิดไม่ตกเลยว่าจะเที่ยวอย่างสนุกมั้ย ไอ้ติณมันน้อยๆซะเมื่อไหร่ละ
ความไว้ใจความเชื่อใจของจริงมันจะเกิดขึ้นต่อจากนี้แหละ
“เตอร์ไปไหน”
“นอนหอแฟน”
จูนขมวดคิ้วกับคำตอบของน้อง ถึงไอ้เตอร์มันจะเป็นผู้ชายแต่ก็ใช่ว่าควรจะไปนอนหอผู้หญิงแบบนี้ได้เหรอวะ
“แล้วมันเก็บของรึยัง”
“เก็บแล้ว เมื่อวานมันพาแฟนมาช่วยเก็บ”
“นัสไม่ด่ามันบ้างละ ทำตัวแก่แดดใหญ่แล้ว” จูนบอกแล้วรับถ้วยข้าวต้มจากแม่บ้าน
“โอ๊ยยย มันฟังนัสที่ไหน” วีนัสบอกหน้างอ ถ้าบอกแล้วมันฟังเธอคงบอกไปนานแล้ว
“เอาไว้พี่คุยกับมันเอง”
ติณนั่งฟังจูนสนทนากับน้องเงียบๆ ไม่เคยเห็นมันทำหน้าดุจริงจังแบบนี้เลยแฮะ จะว่าไปก็น่ารักไปอีกแบบนะเนี่ย
“นั่งยิ้มอะไร” จูนถามคนนั่งข้างๆเมื่อหันมาเจอมันนั่งยิ้มใส่ถ้วยข้าวต้ม
“ห๊ะ เปล่า ก็มึงน่ารักดี” ติณเงยหน้าขึ้นบอก มองสบตาจนจูนทนไม่ไหวเบือนหน้าหนีแล้วบ่น
“เกรงใจน้องบ้างไอ้เหี้ย”
วีนัสรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายช็อตเด็ดตรงหน้าแล้วอัพลงเฟส
คนหนึ่งก็หล่อ คนหนึ่งก็น่ารัก ฮ้ายยย หนูอยากให้โลกนี้เป็นสีม่วงค่า...
เนปจูนรีบกินข้าวแล้วขึ้นไปเอาของบนห้องอีกประมาณยี่สิบนาที
เขาไปบอกน้องที่นั่งจัดกระเป๋าอยู่ในห้องว่าคืนนี้เจอกันที่สนามบินแล้วขับรถออกมากับติณ
จูนแวะไปซื้อของฝากให้พ่อกับแม่อีกเล็กน้อยแล้วกลับเลยแต่ติณดันขอแวะห้องมันก่อน
ตอนนี้เขาเลยต้องนั่งรอติณขึ้นไปเอาของอยู่ในรถ
ระหว่างนั่งรอเนปจูนก็เข้าเฟสและเพิ่งเห็นว่าน้องวางระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้เป็นรูปเขากับไอ้ติณ
พร้อมข้อความประหลาดๆที่เขียนไว้ว่า ข้าวต้มใส่น้ำตาล อื้อหื้อออ
จูนเลื่อนไปดูไลค์ พ่อเจ้าแม่เจ้าโคตรเยอะแถมยังมีคอมเม้นท์เหน็บแนมจากพวกเพื่อนเหี้ยทั้งหลายด้วย
ไม่ว่าจะเป็นไอ้มิตรที่แซวว่า สุดท้ายเขาก็แพ้ใจตัวเอง หรือจากไอ้แชมป์ที่บอกเห็นรูปนี้แล้วขอตัวไปหาเมียก่อน
ฮึ้ยยยย จูนครางในลำคออย่างคนทำอะไรไม่ได้นอกจากเซฟรูปแล้วออกจากเฟส
รอไม่นานเขาก็เห็นไอ้ติณเดินมาตัวเปล่ามาที่รถ
“ไปเอาอะ...” จูนยังถามไม่ทันจบประโยคก็ต้องรีบหุบปากลงฉับแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างแทน
“กูให้” ติณบอกแล้วยื่นดอกกุหลาบในมือให้
“อะไรวะ” จูนถามเบลอๆยื่นมือไปรับดอกกุหลาบเหี่ยวเฉาดอกเดียวโดดๆ
“ซื้อให้มึงตั้งแต่วาเลนไทน์ แต่ไม่กล้าเอาไปให้” ติณบอกแล้วขับรถออกจากคอนโดกลับห้องจูน
แต่รู้มั้ย ข้างในหัวใจเขาตอนนี้แม่งเต้นจนจะวาย เขินจนหูแดงหมดแล้วมั้งเหี้ยติณเอ๊ย
“ขอบคุณ” จูนกระซิบบอก กำกุหลาบไว้แน่น เมินหน้าเข้าหาหน้าต่าง กลั้นยิ้มแทบตายแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้
วันนี้มึงจะทำให้กูยิ้มมากๆเกินไปแล้วนะติณณภพ ..
บรรยากาศในรถไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนถึงห้องจูน
มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ดีๆพวกเขาก็เพิ่งมาขัดเขินใส่กัน
ติณพยายามไม่เข้าใกล้จูนเพราะเห็นของที่ตัวเองให้แล้วแม่งก็เขิน
ส่วนจูนก็ไม่กล้ามองหน้าคนให้ของ กลัวหน้าจะร้อนไปมากกว่านี้
“เออ.. เดี๋ยว.. กูเข้าไปจัดของต่อแล้วกันนะ” จูนบอกแล้วรีบเดินเข้าห้องยังไม่ยอมมองหน้า
ติณกำลังจะท้วงว่ากระเป๋าวางอยู่กลางห้องแต่ก็ไม่ทัน... เขาทุ่มตัวนั่งลงบนโซฟาเงยหน้ายิ้มกว้างกับเพดาน
เวลาเราซื่อสัตย์แล้วรักใครสักคนจริงๆ ความรู้สึกแม่งเป็นงี้เองเหรอวะ
เกิดมาก็เพิ่งเคยเขินกับเขาเป็นนะไอ้ติณณภพเอ๊ย!
—(••÷[โปรดติดตามตอนต่อไป]÷••)—ตอนหน้าจูนไปละค่าา ส่วนฉาก
รออีกเดือนนึงไหวมั้ยคะ
แต่ไม่ไหวก็ต้องไหวเพราะอิติณมันก็ต้องทนเหมือนกัน