เสียงลูกบาสกระทบพื้นดังกึง รองเท้ากีฬาเสียดสีกับเนื้อไม้เมื่อร่างสูงใหญ่ออกวิ่งด้วยแรงของวัยหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มไปด้วยหยดเหงื่อ หากสีหน้ามีแต่ความสนุกพอใจ เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจนเพื่อนๆที่นั่งมองรู้สึกเหนื่อยแทน
“คนอื่นเขาเลิกเล่นกันแล้ว มึงยังไม่หยุดอีก ไอ้ห่าโอ๊ตเอ๊ย” ทุกคนแผ่สองสลึง ไม่มีใครสู้กับคนบ้าพลังเหมือนอะดรีนาลินสูบฉีดตลอดแบบมันหรอก
“คนกำลังมีความรัก อย่าไปถือสา”
“ทำเป็นรู้ดีพวกขี้ควาย” อินทัชหัวเราะชอบใจ กระโดดชู้ตลูกลงห่วง
“กูก็ว่าใช่ เวลาคนเรามันมีความสุขนะ สั่งให้มันไปเดินบนขอบตึก มันยังทำเลย” ใครคนหนึ่งนึกหมั่นไส้ “แสดงออกนอกหน้า คนโสดอยากพาล!”
“จะว่าไป พี่กุนต์นี่แฟนมึงจริงหรือวะ” เพื่อนคนหนึ่งแคะหู ไม่อยากเชื่อ
“เออ..อำทำไม ของแบบนี้ใครเขาโกหกกัน” อินทัชตอบหนักแน่น
พวกนั้นโห่เพื่อนรักที่ทำลับลมคมในมาตลอด พอเปิดเผยก็เล่นเอาตั้งตัวไม่ติด “มิน่าล่ะแม่ง..ไม่ยอมให้ดูหน้าแฟน บอกแต่น่ารักๆ”
“ก็แล้วน่ารักจริงไหมล่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะ เลี้ยงลูกบาสวิ่งสลับฟันปลา
“กูไม่เถียง แต่ไม่คิดว่าเขาอายุมากกว่ามึงไปหน่อยหรือ”
“แล้วไง” อินทัชยักไหล่ ชู้ตลูกบาสลงห่วงอย่างแม่นยำ “อายุแค่ไหน กูก็รักของกู” เขาหายใจแรงขึ้น กระโดดรับลูกที่หล่นลงมาแล้ววิ่งเหยาะๆกลับ
“แม่งเห่อแฟน”
“ไม่ได้เห่อ..แค่หลง” อินทัชตอบทันที “กูหลงที่เขาเป็นแบบนี้ หลงทุกอย่างแหละ เวลายิ้มตาปิด มีรอยตรงหางตา น่ารักจะตาย”
เพื่อนๆมองหน้ากัน เออหนอ..ไอ้ห่าโอ๊ตนี่อาการหนัก
“ผมนี่ก็ไม่ต้องดำสนิทไหม มีขาวๆแซมบ้าง เหมือนไฮไลท์ไง เท่เป็นบ้า”
“จ้า..” พวกนั้นได้แต่พยักหน้ารับอย่างเข้าอกเข้าใจคนขี้หลง
“แต่จะว่าไป..” เพื่อนคนหนึ่งคอมเมนท์ “พี่กุนต์ก็น่ารักจริงๆนะ”
“ใช่ๆ ทั้งหน้าตา ทั้งนิสัย สมัยนี้คนดีๆหายากกว่าคนหน้าตาดีอีกเว้ย”
อินทัชมองเขม่นทันที “พี่กุนต์นี่ของกู ไม่ต้องชมมากก็ได้ หวง!”
“ฮิ้วว ควายโอ๊ตเป็นเอามาก รักนักก็ขอแต่งงานไปเลยสิ”
“สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้วโว้ย” พวกมันยิ่งยุส่ง ไม่มีใครขัดใครเลย “ถ้าเขายอมโอเคกับมึงน่ะนะ ขอแต่งเลยเพื่อน แต่คบผู้ใหญ่เป็นแฟน มึงต้องหัดทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กว่านี้ เป็นที่พึ่งพาของเขาให้ได้ ไม่งั้นถูกทิ้งแน่ไอ้ควายโอ๊ต”
อินทัชนิ่งไปครู่ คิดอยู่สักพักก็พยักหน้า วิ่งกลับไปเดาะลูกบาส
“พวกมึงพูดก็ดีแล้ว กูคงต้องเร่งเก็บเงินซื้อหุ้นสักที”
“หุ้นอะไรวะ”
ร่างสูงไม่ตอบ เพียงแค่โยนลูกหล่นซวบลงห่วงด้วยรอยยิ้ม
..หุ้นส่วนชีวิต..ของคุณกนธี สิงหนาทไงล่ะ..
.
.
.
สี่โมงเย็น กนธีขับรถมารับคนรักวัยเด็กของเขากลับบ้านพร้อมด้วยอ้นกับอุ้ม อินทัชเพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่เสร็จ เขานั่งรออยู่หน้าตึกคณะ พอเห็นรถของพี่กุนต์เลี้ยวมาก็รีบวิ่งไปหา เพื่อนๆที่อยู่แถวนั้นเห็นก็แซวใหญ่
“ไอ้ห่าโอ๊ต ไอ้พ่อบ้านใจกล้า วิ่งหน้าตั้งเลยนะมึง ฮิ้วว”
อินทัชหัวเราะชอบใจ หันมาชูนิ้วกลางใส่ “ไอ้พวกคนโสดอย่าขี้อิจฉา”
กนธีหัวเราะเบาๆ ปลดล็อคให้น้องขึ้นมานั่งด้านข้าง อ้นที่นั่งคู่คนขับมาตลอดพอเห็นพี่ชายมาก็ต้องสละสิทธิ์ ปีนไปนั่งเบาะหลังกับน้องอุ้มแทน
“เหนื่อยไหมครับ” เขาส่งเกลือแร่ให้
“ไม่พี่” วิ่งวนไปวนมาเอาแรงออกบ้างจะได้หายคลั่ง
“ไม่เหนื่อยก็ดีแล้ว วันนี้น้องอยากกินไอศกรีม”
“ห๋า..” อินทัชหันขวับไปมองไอ้พวกแสบ เขาอุตส่าห์วางแผนว่าคืนนี้กลับบ้านเร็ว เขาจะได้ตะล่อมให้พวกมันรีบนอนแล้ว..เผด็จศึกพี่กุนต์
..กินไอศกรีมก็ถึงบ้านดึกสิเว้ย ไอ้พวกเด็กบ้า!..
“พี่โอ๊ตมีการบ้านหรือครับ” กนธีเลี้ยวรถออกจากคณะ
“เปล่าครับ” อินทัชส่ายหัวระอาเพราะน้องส่งสายตาขอร้องให้เห็นใจ
“ถ้าไม่มีก็ไปห้างได้เนอะ สเว่นเซนส์มีไอศกรีมออกใหม่ พี่ก็อยากกิน”
“ได้ครับ ไม่เป็นไร” เด็กหนุ่มยักไหล่ คิดได้ว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ จะกลัวนอนดึกไปทำไม อีกอย่าง..เขามีของที่ต้องซื้อด้วย “ของใช้ที่บ้านเหมือนจะหมดแล้ว”
“อ้าว..มีอะไรอีก ป้าแกน่าจะจดมาให้ครบแล้วนี่” ตอนนี้ ทุกคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พวกเขาจะนอนค้างกันที่บ้านใหญ่ วันธรรมดาที่ต้องตื่นเช้าหน่อยจะมาค้างที่คอนโด ไม่ก็สลับกันแล้วแต่อารมณ์ ไม่ได้ตายตัวนัก
ถ้าไม่มีงาน กนธีจะทำหน้าที่ไปรับไปส่งเด็กๆเหมือนเดิม วันไหนไม่ว่างก็จะให้อินทัชขับรถมาเอง แต่ส่วนใหญ่เด็กมันจะเอาออกมาขับวันหยุดมากกว่า
“อันนี้ของส่วนตัวครับ” อินทัชยิ้มบาง
“งั้นหรือ ดีเลย จะได้ไปซื้อที่ซูเปอร์” กนธีบอก “แต่ยาสระผม มีดโกนหนวดกับลิสเตอรีนพี่ซื้อไปไว้ที่ห้องให้แล้วนะ ทั้งที่บ้านแล้วก็ที่คอนโดเลย”
“ไม่ใช่พวกนั้นพี่” เขารอรถติดแล้วชะโงกไปกระซิบ “ผมจะซื้อถุงยาง”
กนธีหันขวับมามอง ปากเลยเฉี่ยวปากเด็กไปเส้นยาแดง ต้องรีบหันกลับก่อนที่อ้นกับอุ้มจะเห็น ฉากแบบนี้ให้เด็กดูไม่ได้หรอก “ไอ้เจ้าโอ๊ต..”
อินทัชหัวเราะ เอนหลังกลับไปพิงพนักของตนอย่างสบายๆ
“อยากกินไอติมกี่ชั่วโมงก็ไม่ว่า” เขาพึมพำ “แต่คืนนี้อย่าคิดว่าจะรอด”
.
.
.
“คืนนี้ขอดูการ์ตูนไม่ได้หรือพี่โอ๊ต” อ้นทำคิ้วผูกโบว์เมื่อพี่จูงมือไปนอน
“ใช่ๆ หนูอยากดูปู่ซ่ากับบุรุษไปรษณีย์เตี้ยป้อม” อุ้มสนับสนุน
อินทัชหัวเราะในลำคอ “จะไปดูห้องพี่กุนต์ใช่ไหม อย่าเพิ่งเลย เดี๋ยวอีกสักพักพี่กุนต์คงจะไม่ค่อยสบายเท่าไร ไว้ค่อยดูคืนอื่นแล้วกันนะ”
“ทำไมพี่โอ๊ตรู้ล่วงหน้าล่ะว่าพี่กุนต์จะไม่สบาย ป่วยก่อนได้ด้วยหรือ”
คนเป็นพี่อมยิ้ม “รู้สิ ก็วันนี้ไปกินไอติมกันมานี่นา”
“แต่พวกหนูไม่เห็นเป็นอะไรเลย” น้องอุ้มสงสัยมากๆ
“เออ..กินมากก็ไม่ดีไง คืนนี้ให้พี่กุนต์พักบ้าง จะกวนตลอดไม่ได้นะ”
พอพี่เล่นไม้นี้ อ้นกับอุ้มก็ปิดปากฉับด้วยความเป็นเด็กดีสุดๆ
“ถ้างั้นกู๊ดไนท์นะฮะพี่โอ๊ต” อุ้มปีนฮึบขึ้นเตียง
“ฝันดีครับพี่โอ๊ต” อ้นสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม นอนข้างน้อง
อินทัชยิ้มรับ ขยี้หัวพวกมัน “เก่งมากเด็กดีของพี่ พรุ่งนี้จะเลี้ยง’ติม”
อ้นกับอุ้มนอนมองหน้ากันก่อนที่พี่ชายจะปิดไฟ..ไหนว่ากินไอติมแล้วจะไม่สบาย ก็ยังจะเลี้ยงไอติมน้องเนอะ..เด็กน้อยงงมากเลย
ร่างสูงงับประตูห้องนอนพวกมันเบาๆ ดวงตาคมกล้าเหลือบมองขึ้นไปชั้นบน ริมฝีปากคลี่ยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเวลาที่จะได้อยู่กันสองต่อสอง
เขาอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ตัวหอมฉุยด้วยกลิ่นสบู่ที่พี่กุนต์ชอบ คืนนี้เขาจะยอมให้อีกฝ่ายทั้งกัดทั้งฟัดให้สะใจเลย อยากขบอยากดึงตรงไหนก็เอา
อินทัชเดินผ่านกระจกตรงทางเดิน เขาชะงักเล็กน้อย ดูเนื้อตัวว่าหล่อมากพอ ปัดปลายผมเปิดหน้าหน่อย สำรวจว่าสะอาดทุกส่วนก็ยิ้มหมายมาด
เด็กหนุ่มจับลูกบิดประตูก่อนเปิดเข้าไปด้านใน ใจเต้นตึกแบบไม่เคยเป็น รู้สึกว่าตื่นเต้นมากจนเข้าใจว่าเวลาเจ้าบ่าวจะเข้าหอมันเป็นยังไง
“ที่รัก..” เขาโผล่หน้าเข้าไปในห้องนอน แอร์เปิดเย็นเฉียบ คิดว่าพี่กุนต์น่าจะอาบน้ำเสร็จแล้ว และคงนอนใส่ชุดคลุมรอเขาอยู่ที่เตียงแบบเตรียมพร้อม
เงาตะคุ่มของใครคนหนึ่งคลุมโปงอยู่บนเตียง อินทัชยิ้มขัน คิดว่าเจ้าตัวคงเก้อเขิน พี่กุนต์ที่เคยพูดเรื่องเซ็กซ์แบบง่ายๆตอนรับเลี้ยงเขา ที่จริงก็ไปไม่เป็นเหมือนกันเวลาจะมีอะไรกับแฟน เขาคิดว่าไม่แปลกหรอก เขายังตื่นเต้นเลย
“หนูกุนต์..” เขาเอื้อมมือเปิดไฟหัวเตียงแล้วค่อยๆเลิกโปงขึ้น
กนธีนอนหลับอุตุ ข้างตัวยังมีกระป๋องถั่ววาซาบิเปิดคา
อินทัชชะงัก “ห๊ะ? เอาจริงดิ” เขายกมือขึ้นยีหัวตัวเอง “พี่กุนต์~”
เด็กหนุ่มเดินงุ่นง่านอยู่ในห้อง อยากจะปลุกขึ้นมาแต่ก็ไม่กล้า ไอ้ประเภทที่ว่าจะลักหลับทำลงไปเลยก็กลัวถูกโกรธ โธ่เอ๊ย~
สุดท้ายเขาก็ได้แต่ทำใจ นั่งลงอย่างหมดแรงอยู่ข้างเตียง เหลือบมองคนที่หลับไม่รู้เรื่องด้วยความอดทนอดกลั้น นับหนึ่งถึงสิบบรรเทาอารมณ์รัก
“ฮึ่ม..คอยดูเถอะ พรุ่งนี้จะทำให้มากกว่าคืนนี้สองเท่า”
เปลือกตาของคนหลับไหวไปมา..สะดุดตาเขาอย่างจัง อินทัชเลิกคิ้ว ค่อยๆขยับเข้าไปหา ใช้ศอกยันน้ำหนักตัวข้างหนึ่งเอาไว้ตอนที่กระซิบเรียก
“หนูกุนต์..” เขาพึมพำ ไล้ปลายนิ้วที่ซอกคอ “ที่รักของพี่..”
กนธีเหมือนจะหดคอหนีเล็กน้อย เป็นปฏิกิริยาที่ทำเอาคนตื่นกลั้นยิ้ม
..อ้อ..แกล้งหลับ..จะหนีเขา ไม่ยอมให้ร่วมรักด้วยนี่เอง..
อินทัชยิ้ม พูดลอยๆ “อืม..หลับสนิทแบบนี้ก็ดี อยากลองปล้ำคนขี้เซามานานแล้ว” พูดไปก็ทำท่าถอดกางเกงไป “ถุงยางนี่ก็ไม่ต้องใช้หรอก”
กนธีลุกพรวดพราด “เดี๋ยวๆ คิดจะทำอะไรห๋า ไอ้เด็กเปรต!”
เด็กหนุ่มหรี่ตามอง “อ้าว..ไม่ได้หลับหรอกหรือ”
คนฟังชะงัก รีบล้มตัวลงนอน “ขอโทษที..เมื่อกี้พี่ละเมอ”
“แบบนี้ก็ได้หรือครับ” เขาหัวเราะ ดึงโปงทิ้ง “เดี๋ยวสิ..ขี้งกจังคนเรา”
กนธีคว้าปลายผ้านวมแน่น เขากลิ้งหนี ม้วนตัวเป็นข้าวห่อสาหร่าย อินทัชเห็นแล้วรังแกไม่ลง ได้แต่ยิ้มขันคุณลุงดักแด้ น่ากลัวจะหายใจไม่ออก
“เดี๋ยวเถอะ..” เขากลั้นขำ ดึงผ้าห่มทิ้งอย่างแรง “ขาดอากาศไม่รู้ด้วย”
ผ้านวมผืนใหญ่ถูกรั้งทิ้ง กนธีรีบตามไปคว้ากลับเลยเกิดการยื้อยุดขึ้น ตามด้วยสงครามหมอนเหมือนเด็กแรกรุ่นท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจ
“เหนื่อยๆ ไม่ไหวแล้ว” กนธียกมือห้าม ขอยอมแพ้
อินทัชได้ที โถมตัวเข้ากอดรัด ทั้งสองกลิ้งโค่โล่จากเตียงด้านหนึ่งไปหยุดอยู่อีกด้าน พี่กุนต์ขำก๊ากเมื่อเขาตวัดตัวไปอยู่ข้างใต้แล้วฟัดแก้มแรงๆ
“ยอมแล้ว ไม่เอาแล้วโอ๊ต” กนธีหัวเราะใหญ่
“มันเขี้ยวนัก ขอกัดหน่อยเถอะ” เขาอ้าปากงับตรงซอกคอ
ชายหนุ่มไหวเฮือก เสียวปลาบตรงกลางท้องน้อยกับปลายลิ้นอุ่น
“โอ๊ต..” เขาครางแผ่ว สีหน้าหวามไหวกระตุ้นคนที่ตั้งใจจะล้มเลิก
อินทัชชะงัก ยันตัวขึ้นมองคนรักที่นอนอยู่ใต้ร่าง ดวงตาสีเข้มจ้องมองใบหน้าที่มีสีเลือด รอยยิ้มผุดบนมุมปากได้รูปเมื่อก้มลงแตะจูบแผ่วเบา
กนธีนอนนิ่ง หลับตาลงตอนที่เอียงหน้ารับจูบอุ่นซ่าน เขาเลื่อนมือขึ้นกอดรัดรอบบ่าใหญ่ ขยุ้มนิ้วลงกับต้นคอที่ปรกด้วยปลายผมหนา
เด็กหนุ่มสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่ม กวัดกวาดความหวานชื่น ไล้เลียตามไรฟันขาวสะอาด กลิ่นหอมเย็นของยาสีฟันที่ใช้ร่วมกันกระตุ้นเร้าอย่างดี
“เดี๋ยวก่อนโอ๊ต..” กนธีจับมือที่สอดเข้าใต้เสื้อนอน “พี่..”
“ไม่อยากมีอะไรกับผมหรือ” น้องถามเสียงพร่าต่ำ
เขาหลุบตาหนี “ก็..ไม่ใช่อย่างนั้น”
“ขอกอด..ไม่ได้หรือครับ” อินทัชอ้อนขอ “อดทนรอพี่คนเดียวเลยนะ” เขาจับมือพี่กุนต์ให้แตะต้องบางส่วนที่มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงเมื่อได้ทาบทับกัน
กนธีก้มลงมอง ตาโต “โห..กะจะให้พี่ตายเลยไหม”
คนฟังหัวเราะชอบใจ มองอีกฝ่ายบ่นพึมพำว่าทำไมมันมากขนาดนี้
“ไม่ได้หรือครับ” เขาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน “นะ..ขอนะครับ”
กนธีมีท่าทางสับสน ใช่ว่ารังเกียจหรือไม่อยากมีอะไรด้วย เพียงแต่ว่ามัน..มากเกินไป มากเกินลิมิตของเขาจนนึกสภาพตัวเองไม่ออก “คือพี่..”
“ไม่สงสารผมหรือครับ” อินทัชก้มลงจูบที่ปากอีกครั้ง พอพี่กุนต์ลังเลอีก เขาก็จูบอีกรอบ ระหว่างนั้น มือที่เคลื่อนไหวได้ช่ำชองขึ้นก็เลื่อนลงปลดกางเกงของตนลงไปเกาะสะโพกไว้หมิ่นๆ บางส่วนถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ
กนธีหันขวับมามอง “ไอ้โอ๊ต~ ทำไมไม่ใส่กางเกงใน”
“บอกแล้วไง..” เขาค่อยๆแตะกางเกงของพี่กุนต์ กระซิบติดใบหูดึงดูดความสนใจตอนที่ปลดกระดุมเสื้อคนรัก “ผมไม่ใส่เฉพาะวันที่อยากมีเซ็กซ์”
กว่ากนธีจะรู้ตัวว่าถูกปลดเปลื้องชุดนอนของตนออกก็เมื่อขาเปลือยเปล่าถูกยกขึ้นวางข้างบั้นเอวหนา เขารีบดันแผ่นอกน้องเอาไว้ “เดี๋ยว!”
อินทัชไม่ฟังเสียง เขายกรั้งท่อนขาเพรียวขึ้นพาดบ่า ใบหน้าคมเข้มกดจูบที่ปลีน่องแล้วพรมปากไล่จนถึงโคนขาตึงแน่น เขาลากปลายลิ้น สูดกลิ่นสบู่หอมชื่นตามผิวเนื้อขณะที่ดวงตาคู่สวยเหลือบมองปฏิกิริยาไหวซ่านของคนรัก
“โอ๊ต..หยุด” กนธีร้องห้ามกับคนที่ขยับเคลื่อนเข้าหาใจกลางความรู้สึก
ริมฝีปากอุ่นจัดครอบครองเขาไว้ทั้งหมด ลิ้นที่พลิกเล้าโลมได้เก่งกล้าขึ้นทำเอาแผ่นหลังของเขาวางไม่ติดฟูกนอน มือข้างหนึ่งขยุ้มปอยผมสีดำสนิท อีกข้างทึ้งผ้าปูใต้ร่าง ระบายอารมณ์อ่อนไหวที่แล่นลามมาอัดแน่นจนร้อนระอุ
เสียงครางเรียกชื่อทำให้อินทัชย่ามใจ เขานวดคลึงยอดอกนุ่มมือ อีกข้างค่อยๆแตะบางส่วน สอดเร้นเข้าสู่ความอุ่นชื้นที่ร้อนจัด เขาเสียวปลาบกลางลำตัวเมื่อรับรู้ได้ถึงความคับแน่นที่ห่างหาย พี่กุนต์โอบรัดและดูดกลืนเขาทันที
อินทัชร้อนพล่าน เขาผงกหัวขึ้นลง ดูดดุนเพื่อเร่งความรู้สึกของกนธีให้พุ่งถึงจุดสูงสุด เสียงเรียวปากสัมผัสกับผิวเนื้ออ่อนไหวดังน่าอาย ตามด้วยเสียงนิ้วใหญ่ที่สอดแทรกเข้าไปในร่างของอีกฝ่ายเป็นจังหวะ เขาข่มใจไม่ลุกขึ้นแล้วตรึงร่างกนธีไว้กับเตียง ข่มกลั้นอารมณ์ที่อยากเป็นหนึ่งเดียวกันให้เบาบางลง
“โอ๊ต..ออก!” กนธีดึงตัวน้องขึ้นมา มันได้ผลเมื่ออีกฝ่ายขยับขึ้นกดจูบเขา ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในปาก โลมเลีย ดูดกลืนปลายลิ้นเขาอย่างหิวกระหาย
ฝ่ามือกร้านรูดรั้งบางส่วนเป็นการปรนเปรอ เขาร้องคราง กอดรัดแผ่นหลังกว้างใต้เสื้อนอน ความรู้สึกนั้นพุ่งทะยานจนไต่ถึงจุดสูงสุด หากก่อนจะทันได้ปลดปล่อย ริมฝีปากร้อนจัดก็วกลงโอบเขาเอาไว้ สองมือจับตรึงช่วงขา บังคับให้เปิดกว้างอย่างน่าอายเพื่อใช้โอกาสนั้นรองรับความปรารถนาที่ระเบิดพล่าน
กนธีดิ้นรน ทั้งดึงทั้งทึ้งให้น้องปล่อยเขา แต่อินทัชกลับดื้อรั้น โพรงปากอุ่นดูดกลืนบางอย่างที่ท่วมท้นออกมาภายนอก มันมากมายเพราะอดกลั้นไว้นานไม่ต่างกัน เขาครางไม่เป็นศัพท์ ช่วงล่างถูกยกรั้งให้น้องโลมเลียง่ายดาย
ทันทีที่อินทัชปล่อยตัว เขาก็หมดแรง วางขาล้มฮวบลงกับเตียงนอน ตาพร่ามัวไปหมดแต่ยังทันได้เห็นเด็กหนุ่มยกนิ้วโป้งขึ้นปาดคราบบางอย่างมุมปาก
“ไอ้เด็ก..เปรต” เขายกแขนปิดหน้า อายจนใบหูแดงก่ำ “ไอ้เด็ก..”
อินทัชโน้มลงจูบปิดปาก “ทำไมล่ะครับ..แฟนกันจะกลัวอะไร”
“บอกว่าอย่ากินๆ” เขาอยากเอากะละมังคลุมหัว “อร่อยนักหรือ!”
คนฟังหัวเราะ ดึงแขนพี่กุนต์ออกห่าง พอเจ้าตัวยอมโอนอ่อนเขาก็หอมแก้มเป็นรางวัล “มันก็ไม่ใช่ของกินหรอกครับ แต่ว่าผมชอบกิน”
“ไอ้!..” ไม่ทันอ้าปากด่า เขาก็ต้องชะงักกับคนที่ยืดตัวขึ้นนั่งทับเข่า
อินทัชยิ้มน้อยๆ ถอดเสื้อออกทางหัวเผยให้เห็นแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วงแขนล่ำสันชวนให้นึกถึงตอนที่ยกรั้งร่างใครบางคนขึ้น หน้าท้องสวยเป็นลอนเห็นแนววีถึงช่วงล่าง ใต้ปราการบางอย่าง มีความรู้สึกที่ท่วมท้น ร้อนระอุและผงาดชัน..รอเรียกร้องจะเข้ามาเป็นหนึ่งเดียว
กนธีขยับตัวเล็กน้อย สายตาพร่าเลือนชั่วขณะ “พี่..ไม่รอดแน่ใช่ไหม”
“ไม่รอดครับ” เขาคว้าข้อเท้าคนรักไว้ “ผมจะร่วมรักกับพี่..คืนนี้”
เขาสะอึก หลุบตามองสิ่งนั้นที่พร้อมพรักเต็มที่ “ถ้างั้น..” เขาขอ “โอ๊ต..เด็กดีของพี่ ช่วยไปจัดการตัวเองก่อนสักครั้งสองครั้งได้ไหม..เอ่อ..ขอร้องนะ”
“ห๋า?” อินทัชหรี่ตามอง “หมายความว่าไงน่ะครับ”
“มัน..มากเกินไป ช่วยทำให้มันสงบลงสักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทีเถอะ”
คนฟังชะงักก่อนจะหัวเราะร่า “ไม่ครับ”
“ไอ้เด็กเวร~”
“ผมไม่ได้มีอะไรกับพี่มาตั้งแต่ไปปากช่องครั้งนั้น อดกลั้นมาตั้งหลายเดือน จู่ๆมาไล่ให้ไปช่วยตัวเอง พี่ไม่ใจร้ายกับสามีสุดที่รักไปหน่อยหรือ”
“ไอ้โอ๊ต~” กนธีโวย “ดูตัวเองบ้างสิโว้ย! พี่ตายขึ้นมาจะทำไงวะ”
“ไม่มีใครตายเพราะมีความสุขด้วยกันหรอกครับ”
“พี่ไง!”
อินทัชหัวเราะในลำคอ หนูกุนต์ของเขานี่บ้าบอจริงๆ “ผมไม่ทำ”
กนธีหันหลังหนี แต่ถูกจับลากมาขังไว้ทันควัน “โอ๊ตครับ!”
“ไม่รู้ล่ะ” ขอดีๆก็แล้ว ทำเสียงเข้มก็แล้วยังไม่ได้ผล ต้องงอแงบ้างล่ะ “ถ้าพี่ไม่ยอมผมคืนนี้ ผมจะลงไปชักดิ้นชักงอตายให้พี่ดูต่อหน้าเลย!”
“ก็เอาสิ”
คนรักวัยรุ่นเสียใจเหลือเกิน “ใจร้ายโคตรๆ”
“ไม่มีใครตายเพราะไม่ได้มีอะไรกันหรอก”
“ผมไง!” ได้ที เด็กหนุ่มก็ย้อนกลับ แต่ท่าทางพี่กุนต์จะไม่ใจอ่อนง่ายๆ ใช่ว่าไม่ยอมนอนกับเขา ยอมได้..แต่เขาต้องไปจัดการตัวเองก่อน “ก็ได้~”
กนธียิ้มออกมาเมื่อน้องยอมล่าถอย แต่มันไม่ได้ไปไกลเกินจากเตียง
“เฮ้ยๆ ทำอะไรน่ะ” เขาตาโต มองคนที่เลื่อนมือลงกอบกุมตัวเอง
“จัดการให้มันสงบสักครั้งสองครั้งไง” อินทัชตอบ
“ไปที่ห้องน้ำสิ!”
“ไม่” เขายิ้มมุมปาก “ต้องตรงนี้..ต่อหน้าพี่เท่านั้น”
กนธีเบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองไอ้เด็กบ้าดีเดือดที่เริ่ม ‘ช่วยตัวเอง’ ต่อหน้าต่อตาเขา บางทีอาจจะเป็นการแก้ลำเขาก็ได้ เพราะน้องมันยิ้มเจ้าเล่ห์
“อืม” อินทัชขมวดคิ้ว ครางเสียงทุ้มต่ำเมื่ออารมณ์เริ่มพุ่งขึ้น “หนูกุนต์”
เจ้าของชื่อหันมามองทันที ตกใจยิ่งกว่าเมื่อน้องมันหลับตาพริ้ม ปากขยับเรียกชื่อเขาไปพร้อมกับครางพร่าในลำคอ ฝ่ามือข้างนั้นเคลื่อนไหว สะโพกแข็งแรงขยับตามจังหวะ ใบหน้าหล่อเหลาแหงนเงยขึ้น หยดเหงื่อผุดซึมข้างขมับ
“หนูกุนต์..หนูกุนต์ของพี่โอ๊ต” อินทัชคราง “อึก..อาา..หนูกุนต์”
กนธีร้อนจัดไปทั้งตัว ทั่วร่างเหมือนถูกแช่แข็งให้มองภาพนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างส่วนไหนของเด็กหนุ่มก็ยิ่งกระตุ้นเร้าเขามากกว่าเก่า
..ทั้งภาพ..ทั้งเสียงที่ยั่วเย้ากันรุนแรงนั่น..ทำให้เขารู้สึกชัดเจน..
“หนูกุนต์..” อินทัชปรือตามอง “ให้พี่กอดเถอะนะ”
กนธีหลับหูหลับตาไม่อยากฟัง บ้าเอ๊ย..ไอ้เด็กเวรนี่!
“ขอร้องล่ะ..” ร่างสูงเพ้อขึ้น เร่งเร้ามือหนักหน่วง “อยากเข้าไปในตัว”
เขาหลับตาแน่น “เจ้าโอ๊ต..ไอ้เด็กเปรต”
“นะครับ..นะ” เสียงนุ่มนวลดังแค่คืบ “อยากเห็นพี่โอ๊ตขาดใจตายหรือ”
กนธีไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาพยักหน้ารับมันตอนไหน ไม่รู้แม้กระทั่งตอนที่ทั้งร่างถูกประคองลงนอน ไม่รู้ว่าช่วงขาถูกน้องจับยกขึ้นพาดบ่าเมื่อไร
“เข้าไปได้ไหม..” อินทัชอ้อนวอน “ถ้าไม่ได้..ขอแค่ข้างนอกก็ยังดี”
เขาสงสารมันจริงๆ หน้าตาเหมือนลูกหมาหลงทางนั่น “อืม..”
“ข้างในหรือข้างนอกครับ..”
“ข้าง..ใน..ก็ได้..อื้ออ!” ไม่ทันขาดคำ ทั้งร่างของเขาก็จุกหน่วงไปหมด
ความใหญ่โตค่อยๆสอดแทรก แต่ฝืนเข้าไปได้เพียงนิดก็ต้องล่าถอย อินทัชขบกรามแน่น สายตาพร่าเลือนเพราะความต้องการ เขาคว้าเจลหล่อลื่นมาใช้ ถึงจะเตรียมพร้อมให้แค่ไหนก็ไม่พอ หนูกุนต์ของเขาคับแน่นเกินไป
“ช้า..ช้าๆนะ” กนธีบังคับลมหายใจตนเอง
อินทัชวางสองแขนคร่อมร่าง กัดฟันสอดใส่เข้าสู่ภายใน และเพียงแค่จมดิ่งลงสู่ความอุ่นร้อนนั่น เขาก็ครางเสียงดังแล้วทะลักทลายออกมาทันที
ทั้งสองคนหอบหายใจ เด็กหนุ่มล้มตัวลงนอนซบแผ่นอกคนรัก ทั้งอายทั้งเจ็บใจที่ตัวเองอดกลั้นไม่ได้ นี่มันแย่กว่าครั้งแรกที่มีอะไรด้วยกันอีก
“ไม่เป็นไร..เด็กดี” คนอายุมากกว่ายิ้มบาง ลูบบ่าปลอบใจ ในร่างยังถูกสอดค้าง หากยังไม่ทันได้พูดต่อ บางอย่างก็แข็งกร้าวขึ้นในทันทีนั้น “โอ๊ต!”
อินทัชยันตัวขึ้น ดวงตาหวานจัดจ้องมอง “เริ่มใหม่นะครับ”
“อ..อาา” เขาหลับตาแน่น เสียวปลาบท่วมท้นกับความร้อนที่เคลื่อนตัวเนิบนาบ ขยับแผ่วเบา เสียดสี ดุนดัน กระแทกเน้นหนักเป็นจังหวะ
เตียงหลังใหญ่เริ่มไหวคลอน จากแรงส่งเชื่องช้าเริ่มทวีความเร็วขึ้นทุกขณะ จากอารมณ์รักแผ่วเบา เริ่มรุนแรงหนักหน่วงจนเตียงทั้งหลังลั่นเอี๊ยด
กนธีร้องออกมา สองแขนคว้าร่างใหญ่มากอดรัด น้องเองก็กอดเขาแน่นระหว่างที่สะโพกสอบกระแทกกระทั้นเข้าหาถี่รัว
อินทัชครางเสียงดังอย่างลืมตัว เขากัดต้นคอพี่กุนต์ เสียวซ่านในอก เร่งตัวเองจนผิวเนื้อเสียดสี กระทบกับหน้าขาแน่นตึงเป็นเสียงน่าอาย
“โอ๊ต..โอ๊ต..” กนธีร้องเรียก คว้ามือใหญ่มายึดรั้ง “ช้าหน่อย..อื้อ!”
เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด ลดความรุนแรงลงแต่ก็ได้ไม่มากพอ เขาคว้าช่วงเอวคนรักไว้ สอดใส่ความรู้สึกมากมายเข้าสู่ภายใน มันผลุบเข้าออก แทรกผ่านผิวเนื้อสีสดที่ทั้งดูดกลืน โอบรัดจนเขาแทบจะขาดใจตาม
“พี่กุนต์..” อินทัชร้อง “อยากจูบ..”
กนธีคว้าต้นคอน้องลงมา เปิดปากจูบเด็กก่อนอย่างโหยหา มันตักตวงเขาเหมือนคนตะกรุมตะกราม ทั้งกัดทั้งขบจนปากบวมแดงก่อนจะผละออก
ร่างของเขาโยกคลอนไปตามจังหวะรัก เสียงร้องครางของคนทั้งคู่ดังก้อง ไม่มีใครนึกถึงวันพรุ่งนี้ เพราะตอนนี้ เวลานี้ มีแต่กันและกันเท่านั้น
“กอดผม” อินทัชขอ “กอดแน่นๆ..”
กนธีกอดรัดบ่ากว้าง มือข้างหนึ่งเลื่อนลงกุมสะโพกแกร่งที่เคลื่อนถี่รัว หัวใจเขาเต้นรัวแรง มันดังเหมือนจะทะลุออกมาข้างนอกเมื่อน้องทิ้งร่างเข้าหา
“พร้อมกันนะ..ไปพร้อมกัน ไม่ปล่อยมือ” อินทัชกระซิบ ไขว่คว้าปลายนิ้วอีกฝ่าย ยึดรั้งฝ่ามือนุ่มไว้แน่น ทั้งจูบ ทั้งโลมเลียขณะเคลื่อนตัวหนักหน่วง
กนธีหลับตาแน่น หลุดเสียงร้องดังพร้อมกับคนรัก บางส่วนที่ร้อนจัดกระแทกโดนความรู้สึกอ่อนไหว เพียงแค่ไม่กี่ครั้ง เขาก็สั่นเทิ้ม ปลดปล่อยอย่างรุนแรงออกมาภายนอก เสี้ยววินาทีหลังจากนั้น อินทัชก็ครางเสียงพร่า
“พี่กุนต์..พี่กุนต์ของผม” เขาเรียกชื่อ ทั้งตัวกระตุกเฮือก
ความรักร้อนผ่าวท่วมท้นเข้าสู่ภายใน มากมายจนล้นทะลักไม่ต่างจากหนแรก ความรู้สึกที่กักเก็บไว้กลั่นตัวออกมา พลุ่งพล่านไปด้วยไอร้อนระอุ
อินทัชหอบหายใจเสียงดัง เขากระแทกตัวเข้าหาคนรักอีกสองสามครั้งก่อนจะฟุบลงนอนทาบทับอีกฝ่าย แช่ตัวอยู่ในความอุ่นละมุนที่โอบรัดกัน
กนธีหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน หยดเหงื่อมากมายผุดซึม “คนดีของพี่..”
“สุดยอด..” อินทัชคราง กดจูบแผ่นอกขาว “อร่อยอะไรขนาดนี้”
คนฟังทุบหลังแฟนไปสองครั้ง อารมณ์อ่อนไหวหมดกัน “ไอ้เด็กเปรต”
เขาหัวเราะในลำคอ “ก็อร่อยจริงๆนี่นา เล่นจนผมหมดแรงข้าวต้มเลย”
“ใครใช้ให้บ้าแรงล่ะ” ถึงจะด่ามัน แต่เขาก็อดอับอายไม่ได้อยู่ดี
“พี่กุนต์ของผมยอดเยี่ยมที่สุด” อินทัชยันตัวขึ้นมอง ยิ้มให้ด้วยดวงตาเป็นประกาย เขาจูบข้างแก้ม จูบไปทั่วทั้งตัว “หอมจังครับ”
“อือ..พอแล้วน่า ไอ้ตะกละ”
“ตรงนี้ของผม” เขาไม่ฟังเสียงเมื่อจูบบนหน้าผากอีกหน “นี่ก็ของผม” จูบบนปลายจมูก “ตรงนี้ก็ใช่” จูบสองข้างแก้ม “ตรงนี้ไม่ให้ใคร” จบที่เรียวปาก
กนธียิ้มอย่างมีความสุข ลูบผมชื้นเหงื่อให้คนรัก “โอ๊ต..ไอ้ตัวแสบ”
“รักผมไหม” อินทัชถามยิ้มๆ ทิ้งน้ำหนักลงแขน พี่กุนต์จะได้ไม่เมื่อย
“มาถึงขนาดนี้ยังจะถามอีกหรือ”
“รักหรือเปล่าครับ”
เขาส่ายหัวระอาแต่ก็อดยิ้มไม่ได้ “รักสิครับ..รักมากเลย”
“ผมก็รักพี่กุนต์” อินทัชทรุดลงนอนซบอกกนธีอีกครั้ง “หัวใจเต้นแรงจัง”
“เราก็ด้วย” เขาลูบแผ่นหลังกว้าง น้องเงยหน้ามองแล้วขยับมาจูบ
พวกเขานอนกอดกันแนบแน่น ผลัดกันลูบไล้ ผลัดกันจูบแต่ละฝ่ายท่ามกลางอุ่นไอของความรักที่ลอยอวล เป็นความโหยหาที่ได้กลับมาเจออีกครั้ง
“เริ่มกันใหม่นะครับ..นับจากวันนี้ไป” อินทัชกระซิบ
“อือ..” กนธีพึมพำรับปาก ค่อยๆหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน
ร่างสูงใหญ่ถอดถอนตัวออกมาแผ่วเบา อุ่นไอรักไหลรินจนเปื้อนช่วงขาเปลือย เขาหน้าร้อนผ่าว “ขอโทษครับ..” ถุงยางก็ไม่ได้ใช้ “ผมจะเช็ดตัวให้”
“รับผิดชอบเลยไอ้โอ๊ต..” คนที่เคลิ้มหลับบ่น
อินทัชชะงักก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “ได้สิครับ”
..ขอรับผิดชอบคุณกนธี..ไปชั่วชีวิตของเขาเลย..
.............................................................................................
ตอนหน้าจบแล้วจ้าา
ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้น้าา ขอบคุณมากคร้าบบ