เจ้าพ่อมาเฟีย VS เด็กเเสบจอมดื้อ >>ย้ายเลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เจ้าพ่อมาเฟีย VS เด็กเเสบจอมดื้อ >>ย้ายเลยค่ะ  (อ่าน 129546 ครั้ง)

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

..............................................................................................




 :m15: เรื่องนี้เป็นนิยายที่เคยเอามาลงเเล้วเมื่อ.........................................ปีที่เเล้ว แหะๆ ลืมไปว่าเคยเเต่งนิยายเรื่องนี้เเล้วดองไว้เป็นชาติ อันที่จริงจะปล่อยทิ้งไว้ต่อไปมันก็กระไรอยู่ เลยกะว่าจะเอามาต่อจนจบซะเลย เเต่พอไปอ่านของเดิม ปรากฏว่ามันขัดตา ขัดหู ขัดใจ ชอบกล ถึงเเม้ว่าจะเเก้ไขเเล้วก็เหอะ เลยเอามาเรียบเรียงใหม่ซะเลย เเต่ยังคงเค้าเดิมอยู่ บางท่านอาจจะเคยอ่านบ้างเเล้วเมือ...........................ปีที่เเล้ว เเต่บางท่านยังคงไม่ได้อ่าน  ขออภัยมา ณ ที่นี้   ที่เรื่องนี้หายไปนานเป็นชาติ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่า เจ้าของ บอร์ดท่านใดที่เข้ามาเจอหรืออ่าน>>>>>>กรุณาลบ>>>>สเน่ห์  นายร้าย>>>>ต้นฉบับของมันด้วยเถอะค่ะ

รับลองว่าจะมาต่อจนจบ เพราะมันใกล้จะจบจริงๆเเล้ว :o12:



อนุญาติให้ :z6:  สำหรับเเฟนๆเก่าๆที่ยังจำกันได้

เเต่ :z10: ขอไปตั้งหลักก่อนละกัน




..............................







Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2012 21:06:47 โดย MimicClub »

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ตอนที่1 
 

 :t3:

 ตอนนี้ผมกำลังหลับ..........................แต่ทำไมยังมาคุยอยู่กับผู้อ่าน ก็เพราะคุยในฝันไง เหอะๆ เริ่มแบบฝืดๆ
 เอาเป็นว่าผมชื่อคิโบ  คิโบ เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าความหวัง  อันที่จริงผมเป็นไทยญี่ปุ่น พ่อไทยเเม่ญี่ปุ่น
อยู่ที่เมืองไทยผมก็ชื่อไทยๆนั่นแหละครับ แต่ชื่อเล่นแค่ชื่อคิโบเฉยๆ แม่ผมเป็นคนตั้งชื่อเล่นให้เอง
ออ ตอนนี้ผมกำลังหลับ หลับอยู่บนเครื่องบิน ที่กำลังมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น
ซึ่งการมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงผู้เดียวแต่มีเพื่อนร่วมทางถึงสิบกว่าคนแต่คนเหล่านั้นผมไม่ได้เคยรู้จักมาก่อนหรอก
อันที่จริงผมแค่อาศัยมากับกรุ๊ปทัว ของเพื่อนพี่แค่นั้น แต่เป้าหมายจริงๆก็คือมาเที่ยวคนเดียวนั่นแหละ 

"ฮ้าว" ผมหาวอย่างงัวเงีย เมื่อได้ยินสัญญานเมื่อบ่งบอกว่าเครื่องใกล้จะลงจอดเเล้ว
 
(ท่าอากาศยานฮะเนดะ)

ผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ เดินผ่านกันไปมา มันดูยั้วเยี๊ยะ ต่างจากเมืองไทยเล็กน้อย
ผมเดินรั้งท้ายของกลุ่มผม  ซึ่งมีคนแปลภาษาให้กับพวกเขา  พอเดินตามได้ซักพัก
ผมเห็นผู้หญิงญี่ปุ่นผิวขาวโบกมือมาทางกลุ่มของผม
เค้าทักทายเเบบญี่ปุ่น ซึ่งผมพอจะเข้าใจอยู่บ้าง

"พี่พลครับ" ผมเรียกพี่พล ซึ่งเป็นล่ามให้กับพวกผมส่วนไกด์นำเที่ยวนั่นคือสาวญี่ปุ่น

"ครับคุณ คิโบ" พี่พลหันมาแล้วยิ้มตอบ

"ผมว่ามันยังมีเวลาอีกมาก ผมขอไปเที่ยวก่อนได้ไหม" ผมขอพี่แกทั้งๆที่มีสัมภาระเต็มไม้เต็มมือ

"จะดีหรอ ผมว่าเราไปดูที่พักกันดีก่อนไหม แล้วเดี๋ยวค่อยเที่ยวพร้อมกัน" คำตอบของพี่แกทำให้ผมถึงกับหงอย

"เอาน่าเดี๋ยวก็ได้เที่ยวเเล้ว" แล้วพี่พลก็ขยี้ผมเเรงๆจนทรงเสียทรง

(โรงแรมเอเอ็นเอ อินเตอร์คอนติเนนตัล)

โรงแรงระดับ5ดาวที่พวกผมต้องพัก5วัน4คืน อย่างหรูเว้ยเฮ้ย! ซึ่งมันก็คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายกระเป๋าแทบฉีกแต่ใครหรือจะสน
ถ้าคุณเป็นพวกมีเงิน แต่อย่าได้คิดว่าผมจะรวยขนาดจ่ายเงินเพื่อเข้าพักโรงแรมนี้อย่างสบายๆ เป็นบุญแค่ไหนแล้วที่จับฉลากได้รางวัลใหญ่ของทางบริษัท
ที่ได้มาเที่ยวกับพวกบรรดาลูกคุณหนูทั้งหลาย และได้พัก โรงแรม5ดาวอย่างนี้ มีหรือคนอย่างคิโบจะพลาด! 555!


"ว้าวห้องอย่างหรู"ผมทิ้งสัมภาระทั้งหมดลงกับพื้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนนุ่มๆทันที

"เป็นไงชอบไหม"พี่พลถาม ผมกับพี่พลต้องพักอยู่ห้องเดียวกัน

"ชอบดิ่พี่ ครั้งแรกเลยนะที่ได้มาเที่ยวแบบนี้เนี่ย" ว่าแล้วก็กลิ้งบนที่นอนอย่างชอบใจ

"หืม  มีแม่เป็นคนญี่ปุ่นยังไงไม่เคยมา"

"ไม่รู้อ่าแต่แม่ผมไม่เคยกลับมาที่นี่เลย แม่บอกว่าถูกตัดหางปล่อยวัดไรประมาณนี้"

"ออ  งั้นอย่าเพิ่งมานอนกลิ้งอยู่เลยปะนี่ก็ค่ำแล้วลงไปทานอาหารค่ำกัน" พี่พลชวนผมลงไปทานอาหารเพราะช่วงเวลานี้มันใกล้กำหนดของอาหารค่ำแล้ว

"ขอเสริมหล่อแป๊ปเดี๋ยวตามไป" พี่พลก็พยักหน้าหงึกๆก่อนจะออกจากห้องไป ส่วนตัวผมก็ตรงไปที่กระจก
 ผมไม่ใช่คนช่างสำอางหรอกนะ แต่ผมมันพวกอีโมแต่งตัวแบบเจ็บๆ เเรงๆ อ่ะ
ขอเติมตาก่อนออกจากห้องซักหน่อยก่อนออกเถอะเพื่อเรียกความมั่นใจ ขยี้ผมเล็กน้อย

"หล่อได้อีก" ชมตัวเองซักนิดเเล้วก็ลั้นลาออกไปข้างนอก

"โหคิโบ หล่อมาแต่ไกล"พี่พลเเอบเเซวเล็กน้อย

"พี่พล อย่างนี้เค้าไม่เรียกว่าหล่อหรอก เค้าเรียกน่ารัก  คิโบจัง เนี่ยธรรมดาก็น่ารักอยู่เเล้ว แต่งแบบนี้คนอื่นเค้าก็เข้าใจผิดหมดสิ"
นี่เป็นอีกคำชมของเพื่อนผมเองครับเหตุที่ผมจับรางวัลใหญ่ขนาดนี้ได้ก็เพราะลูกประธานคนนี้นี่แหละ

"ขอบใจที่ชม"แล้วก็ยักคิ้วให้



"คิโบ คิโบ"ไนท์เรียกผมเบาๆขณะนั่งทานอาหารค่ำ

"มีอะไร"ผมถามมันพร้อมคีบปลาดิบใส่ปาก

"เราหนีไปเที่ยวกลางคืนกัน"

"จริงอ่ะอยากไปเหมือนกัน"แล้วเหล่ไปมองพี่พล

"แต่เราไม่รู้สถานที่นะถ้าหลงจะทำยังไง"

"นี่คิโบ แกเรียนภาษามาทำไมไม่ใช้ล่ะเรียนมาก็ใช้ให้คุ้มหน่อยดิ่  ถามอ่ะถามเป็นมะ" แล้วมันก็ย้ำถาม เน้นๆ

"ถ้างั้นก็  โอเค"แล้วเราสองคนก็หัวเราะอยู่สองคน


ตอนนี้เวลาสามทุ่มของญี่ปุ่นแล้วผมกับไนท์นัดเจอกันหน้าโรงแรม  พอผมแต่งตัวเสร็จก็รีบลงมาทันที

"คิโบทางนี้ฉันเรียกแท๊กซี่แล้ว" ไนท์กวักมือเรียก

"โหเรียกเป็นด้วย เขาเข้าใจภาษาอิ้งนายหรอ แท๊กซี่เขานี่การศึกษาสูงจัง"

"ป่าวหรอ แค่โบกมาแล้วบอกให้เค้ารอแค่คำเดียวน่ะ"แล้วมันก็ยิ้มฟันขาว

"ไปไหนครับ"พอเข้ามาแท๊กซี่ก็ถาม

"ไปรปปงหงิแถวๆ.....นี้ครับ" ผมบอกแท๊กซี่อย่างชำนาญ

"โหคิโบ รู้ด้วยหรอว่าต้องไปแถวไหน" ไนท์ถามด้วยความประหลาดใจกับครั้งแรกของการเที่ยวกลางคืนในญี่ปุ่น

"ป่าวหรอก แค่จำเขามา 555" แล้วไนท์ก็ทำหน้าเจื่อนอย่างผิดหวัง

พอ แท๊กซี่บอกว่าถึงแล้วไนท์จึงต้องจ่ายเงินแล้วลงรถ

"ว้าว แถวๆนี้กลางคืนสวยดีนะ" ไนท์ทำท่าทางตื่นเต้นออกหน้าออกตา

"ช่ายสวยมาก คนเยอะด้วย "ผมเห็นด้วยกับไนท์ แสงสีที่ประดับประดาตามร้านต่างๆเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า
แต่ก็ยังไม่เท่าสาวๆที่แต่งชุดเมด ที่พยายามเรียกลูกค้าเข้าร้านของตนเอง

"เอาล่ะไปไหนกันต่อดี"ไนท์เริ่มออกความคิด

"แล้วแต่ไนท์ดิ่อยากไปไหนนำเลย"ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันเลยโยนให้ไนท์ออกความคิดอีกที
ไนท์หันมาทำตาเหมือนเป็นประกาย แล้วยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย

"อะไร" ผมถามเพราะสายตาที่มองมา

"ฉันอยากไปผับเกย์ว่ะ"

ห๊ะ!




...........................




ผมมองไนท์ด้วยอาการตะลึง เอาจริงหรือเปล่าวะหรือว่าแค่อำ แต่คนอย่างไอ้ไนท์หน่ะหรือจะอำ

"พูดจริงหรืออำกันเล่นอ่ะ" ผมถามเพื่อย้ำความตั้งใจของมัน

"อื้มจริงดิ่" มันทำเป็นตีหน้าซื่อบวกจริงจัง

"ชอบหรือไง"

"ชอบ......ป่าวหรอก  แค่อยากรู้ว่าของเค้ากับของเราต่างกันยังไง" คำตอบของไนท์ทำให้อึ้งไปอีก

"เคยไป หรอ โหว " ทำน้ำเสียงแบบไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไร

"อืมทำไม เคยไปแต่ อย่าเข้าใจผิดนะว่าชอบเเบบนั้นจริงๆ 5 5 5"แป่ว ไอ้เราก็นึกว่าชอบไม้ป่าเดียวกันซะอีก
เซงคนอยากรู้อยากเห็น

"งั้นปะเราก็อยากเห็นลองซักหน่อยไม่เสียหายหรอกเนอะ" พอผมออเออไปกับลมันด้วย มันก็กระดี้กระด๊าจนออกนอกหน้าทันที

"แกถามทางนะ ฉันไม่รู้ว่าเเถวนี้มันมีแบบนั้นหรือเปล่าอ่ะ" จ๋อยไปเลยไอ้เพื่อนไนท์พอผมว่าแบบนี้
 ก็มันจริงอ่ะก็เพิ่งเคยมาพร้อมกันเราจะไปรู้ได้ไงว่าแถวไหนมี

"โอเคเดี๋ยวฉันถามเอง" มันยกมือโอเคยักคิ้วนิดๆ แล้วก็เดินนำผม ผมก็เดินตาม จนมันไปหยุดหน้าผับที่มีชายใส่สูทเหมือนการ์ดหน้าผับ
 หรือจะพูดง่ายๆคนตรวจบัตรหน้าผับของไทยน่ะเเหละ แต่เค้าจะดูใส่ชุดดูดีกว่าของเราหน่อย

"ขอโทษครับ ช่วยแนะนำอะไรเราหน่อยได้ไหม" ไนท์พูดแบบภาษาอิ้ง จนการ์ดทำหน้างง ผมแอบขำที่มันกับเขาสื่อสารกันไม่ได้
จนมันหันมาแยกเขี้ยวใส่ผมที่ผมแอบหัวเราะเยาะมัน

"คิโบ หัวเราะอยู่นั่นแหละมาช่วยพูดหน่อยดิ่" แล้วมันก็ดันผมมาสนทนาแทน

"เอ่อ คือว่าเราเพิ่งมาเที่ยวที่นี่ นะครับ" การ์ดพยักหน้า

"เราต้องการหาผับ แบบผับพวก ผับที่ชายกับชายเค้าไปกันไรประมาณนี้อยากได้ที่แบบหรูๆดูดีหน่อยนะครับไม่เอา แบบ พื้นๆอ่ะพอจะช่วยได้ไหม"
คนถูกถามได้ฟังก็พยักหน้า แล้วยิ้มตอบกลับมา

"ครับผมรู้จักอยู่ที่นึง เพื่อนผมทำงานอยู่ที่นั่นพอดี" ผมรู้สึกโล่งอกกับคำตอบที่ได้รับ อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องขัดเขินที่จะสนทนา 
ผู้ชายคนนั้นหยิบนามบัตรเหมือนเป็นนามบัตรของร้านแล้วกลับด้านหลังวาดเเผนที่เล็กๆมาให้

"ไปตาม ที่ผมเขียนเลยนะครับ" แล้วเขาก็ยื่นให้แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร  ผมโค้งขอบคุณเล็กน้อยเเล้วดึงไนท์ตามผมมา

"ได้แล้วหรอ" มันถามอย่างดีใจ

"อืมรีบไปเหอะก่อนที่จะดึกมากกว่านี้" ผมรีบดึงไนท์แล้วเดินไปตามแผนที่ไปตามตรอกซอกซองที่เขาเขียนมาให้

"แกเเน่ใจหรอวะว่าซอยนี้"มันถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"คงน่าจะ....มั้งดูจากบรรยากาศรอบๆแล้ว" ใช่ครับบรรยากาศนี่ต้องใช่แน่ๆดูจากผู้คนในซอยที่ออกมากันเป็นคู่หรือแม้แต่
ชายกับชายที่กำลังดูปากกันอย่างเมามัน

"สวัสดีครับ" ชายใส่สูทโค้งต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม

"ว้าวแขกมา เด็กๆมาต้อนรับหน่อยเร็ว" กระเทย ที่ดูเหมือนกับมาม่าซังใส่ชุดแบบเหมือนจะเซ็กซี่เรียกเด็กๆมาต้อนรับ

"เพิ่งเคยมาหรือเปล่าค้า ไม่เคยเห็นเลย" เธอพยายามชวนคุยถ่วงเวลา เเต่ดูเหมือนไนท์มันจะไม่ได้สนใจตเท่าไร สายตาเริ่มมองไปทั่วด้วยความตื่นเต้น

"ครับเราเพิ่งเคยมา เราเป็นนักท่องเที่ยวน่ะครับ" คำตอบที่ผมให้ ดูเหมือนจะทำให้นัยตาเจ้แกส่องประกายจนน่าขนลุก

"แล้วหนุ่มๆชอบแบบไหนล่ะคะ  แบบน่ารัก หล่อ หรือ   แบบเจ้" เธอทำท่าแบบยั่วยวนผมและไนท์เต็มที่

"ชอบเเบบไหนไนท์เจ้แกบอกให้เลือก น่ารัก หล่อ หรือแบบเจ้แก" ผมหันไปถามไอ้คนต้นคิดที่ดูเหมือนจะสนใจในผับนี้มาก

"อยากได้แบบน่ารักอ่ะ " มันว่างั้นผมเลยบอกเจ้แกไป

"ขอเเบบน่ารักละกันครับ เอามาแค่คนเดียวก็พอ" พอว่างั้นเจ้แกก็เรียกเด็กออกมา สองคน
เออผมบอกให้เอามาคนเดียวเจ้แกดันเรียกมาตั้งสองคน

"เชิญครับ" ชายหนุ่มหน้าใสดูน่ารักกล่าวพร้อมนำทางมาที่นั่ง

ตอนนี้ไอ้ไนท์มันดูกระดี๊กระด๊าแสดงออกมาจนชัด พอถึงที่ปุ๊บ มันก็เริ่มคุยปั๊บ เกินหน้าเกินตาจริงๆ

"รับเครื่องดื่มอะไรไหมครับ" ชายอีกคน ที่ตอนนี้นั่งข้างๆผมถาม ผมเลย บอกให้เขาเเนะนำมา  โชคดีที่ไอ้ไนท์มันได้คนที่พูดภาษาอิ้งกับมันได้มันเลยดูพูดถูกคอหน่อย
ส่วนผมอ่ะหรอนั่งจิ๊บไวน์ ที่คนข้างๆที่ชื่อ ทาคุ รินมาให้ ขอสำรวจบรรยากาศนิดนึง บรรยากาศที่ดูเหมือนผับ ทั่วๆไปแต่ดูหรู ตรงที่เครื่องประดับของร้่านและการจัดมุม
ของโซนที่นั่งที่ทำแบบลับตาคนทำให้มองไม่ค่อยเห็นโต๊ะด้านข้างซักเท่าไร โซฟานุ่มที่นั่งได้สองคนและมีโต๊ะรับแขกตรงกลาง ยอมรับเลยว่าที่นี่หรูจริงๆ
และมันทำให้่ดูดีเข้าไปอีกกับบรรดา หนุ่มสาว หน้าตาดี มาใช้บริการหลากหลาย

"คุณมาจากประเทศไหนหรือครับ" ทาคุเริ่มที่จะสนทนากับผม คงเพราะผมไม่ค่อยสนใจก็ได้มั้ง  แน่สิก็กฎของผับก็คือการให้ความสุขลูกค้า
 ผมรู้ได้ไงอ่ะหรอ ก็มันเป็นของตายอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้รับความสนใจก็อดได้เงินน่ะสิ

"ผมเป็นคนไทยครับ"ผมตอบเเล้วยิ้มให้

"แต่คุณดูเหมือน" ทาคุใช้ความคิดนิดหน่อย

"ออ ผมเป็นลูกครึ่งน่ะ ไทยญี่ปุ่น" แล้วยิ้มโชว์ฟันขาวนิดนึง

"ครับ แล้วคุณ............ผมว่าดูคุณไม่เหมือน    แบบที่จะชอบอะไรอย่างผมเลยนะครับ" แล้วทาคุก็หัวเราะน้อยๆ ผมเองก็เช่นกัน

"ครับที่จริงผมมาที่นี่ก็เพราะไอ้คนที่มันกระดี๊กระด๊าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำนี่แหละ" ผมหัวเราะกับคำว่าปลากระดี่ได้น้ำที่ตอนนี้ทาคุกำลังงง

"ครับ คุณดูดีมากเลยครับ ผมชอบนะสไตล์ ของคุณ" ทาคุแอบสำรวจผม 

"ครับขอบคุณ  ว่าแต่เรียกผมว่าคิโบก็ได้ "

"ครับคุณคิโบ" แล้วทาคุก็ยกแก้วเพื่อมาชนกับผม พอเราเริ่มรู้จักกัน ผมเเละทาคุก็เริ่มพูดคุยกันถูกคอ นั่งดริ๊งกันอย่างออกรส
ผมโม้ถึงประเทศไทยไปหลายอย่างทาคุเองก็สนใจเป็นอย่างดี

"เอิ๊ก กูสนุกจังเลยว่ะคิโบ" ไอ้ไนท์สงสัยโดนเด็กมอมแน่เลยดูจากท่าทางแล้ว

"โหมึงนี่ ดื่มซะเมาเลยหรอวะ" ผมแอบเหน็บมันเล็กน้อยเพราะนานๆทีจะพูดมึงกูกับมันซักครั้ง

"ดูท่าเพื่อนคุณจะเมานะ" ทาคุมองด้วยท่าทางตลกกับท่าทีของเพื่อนผม

"มันเมามันก็เป็นแบบนี้แหละ  ไปกลับที่พักกันไนท์" ผมชวนมันกลับโรงแรม

"อื้มกูจะไปต่อกับเรน มึงกลับไปก่อนเถอะ" มันว่าแล้วกอดคอเด็กมัน

"ได้ไงเดี๋ยวพี่พลเป็นห่วง" ผมปรามมันแต่มันยังรั้นครับ

"เอาน่ากูโตแล้วนะ เอาตัวรอดได้" แล้วมันก็กอดคอเด็กของมันเดินจากไป รู้สึกเป็นห่วงหมือนกันนะ
 ไหนว่าไม่ชอบแบบนี้ไง แต่เสือกเอาให้เค้าหิ้วไปซะงั้นอยากรู้จิงว่าจะไปเอาเค้าหรือให้เค้าเอากันแน่

ผมหันไปยิ้มให้กับทาคุ

"โดนทิ้งซะแล้ว"ยักไหล่เล็กน้อย

"งั้นเดินกลับกับผมไหม" ทาคุชวน    ผมเองก็ตกลงเพราะไม่อยากเดินคนเดียวในที่แปลกๆในซอยเปลี่ยวๆแบบนี้หรอก 
ตอนนี้ผมกับทาคุดูจะสนิทกับผมหน่อยเเล้วหล่ะ ผมเองก็อยากมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นเหมือนกันถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นเกย์ทำงานแบบนี้
แต่เค้าก็ดูเป็นคนที่จริงจัง และดูนิสัยดี

"นี่ทาคุพักอยู่ที่ไหนหรอ"ผมถามทาคุ

"ผมพักอยู่ที่ โรงแรมเอเอ็นเอ อินเตอร์คอนติเนนตัล  " อ้าวนั่นมันที่เดียวกันกับที่พักของผมเลย

"อ้าวผมก็พักอยู่ที่นั่น" ผมพูดแบบประหลาดใจ 

"จริงหรอ บังเอิญจัง ฮะๆ" ทาคุหัวเราะน้อยๆ เเละทำตาหยี

"นี่    อย่าหาว่าผมล่วงเกินเลยนะ แต่งานอย่างทาคุเนี่ยรายได้ดีถึงกับนอนพักโรมแรมแบบนี้ได้เลยหรอ"

"อืม ว่าไงดีล่ะ" ทาคุชะงักเเบบใช้ความคิด

"คือผมเป็น ผู้จัดการโรงแรมที่นั่นน่ะ" คำตอบของทาคุทำเอาผมถึงกับอึ้ง ผู้จดการ เราหูฟังผิดไหมเนี่ย

"เห~ "

"ฮะ ฮะ ฮะ ตกใจหรอครับ"

"อื้ม ตกใจสิ ทำไมทาคุทำงานดีๆแล้วยังมาทำงานแบบนี้อีกละ"

"ออ ที่จริงผมไม่ได้เป็นเด็กนั่งดริ๊งหรืออะไรแบบเรนหรอก พอดีวันนี้ผมมาดูผับให้พี่ชายน่ะ" เเล้วทาคุก็ทำให้ผมอึ้งอีกรอบ

"ทาคุทำให้ผมงงน่ะเนี่ย" ผมว่าแล้วเกาหัว  แต่ความงงก็ต้องหยุดลงเมื่อทาคุหยุดชะงักฝีเท้าและทำหน้าตื่น รีบมาเกาะหลังผมทันที 
ผมมองไปยังทาง  ที่สายตาของทาคุที่มองไป 

"เป็นอะไรทาคุ" ผมถามทาคุอย่างตกใจ พอมองไป ก็พบรถลีมูซีน และชายใส่สูทประมาณ5-6คนยืนปิดทางออกอยู่
ทาคุดูท่าทางตื่นๆ ผมเองก็รู้สึกไม่ดีตาม ชายใส่สูทพวกนั้นเดินปรี่เข้ามาทางพวกผมและหยุดมองพวกผมห่างกันประมาณสองก้าว

"มาอยู่นี่เองหรอทาคุ" ผู้ชายสูงๆเท่ๆที่แต่งกายยังกับพวกมาเฟียเริ่มพูด และมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

"อย่ามายุ่งกับผม" ทาคุตะโกนมา โดยมีผมเป็นโล่

"หึ จะให้เลิกยุ่งอย่างนั้นหรอ......................เพราะผู้หญิงคนนี้หน่ะหรอที่ทำให้นายเปลี่ยนไปหน่ะ" ผมว่า  ผมหูฝาด หรือ เพราะว่าผมเมา หรือคนข้างหน้ามันตาถั่วกันแน่วะ  กูเป็นผู้ชายนะเฟ้ย

"เฮ้ย จะพูดอะไรหันดูให้ดีซะมั่งนะกูเป็นผู้ชายเฟ้ย!"  ไอ้ผู้ชายใส่สูทเลิกคิ้วเหมือนไม่เชื่อ แถมมองผมตั้งเเต่หัวจรดเท้า ดีนะมันไม่มองเท้าก่อนที่จะมองหน้าผมไม่งั้นมีเฮ

"ผู้ชายหรอนายดูไม่เหมือนเลยนะ ฮึๆ"แล้วมันก็ยิ้มเยาะ จนผมรู้สึกไม่พอใจอย่างแรง

"ไปทาคุ อย่าไปยุ่งกับหมาให้หมามันเลียปากเถอะ" ผมดึงทาคุเลี่ยงพวกมัน แต่ทาคุโดนดึงแขนออกไป

"ทาคุ เธอต้องไปกับฉัน ส่วนนายกล้ามากที่กล้าพูดแบบนี้" เออดีว่ะมันเข้าใจสำนวนที่ผมพูดด้วย  ผมกะจะดึงทาคุกลับมาแต่ก็พ บอดี้การ์ดของมันมาขวางไว้

"เฮ้ย  จะสู้หรอ กูน่ะ10ลุมหนึ่งเจอมาเเล้ว" ทำทีเป็นสู้สบายๆแต่ที่จริง อ่ะผมคงสู้พวกมันไม่ไหวแน่ก็เพราะหุ่นมันคนละไซต์เลย  ตอนนี้กำลังตั้งรับอย่างเต็มที่

"ทำเป็นอวดดี ไม่ดูสภาพตัวเองหน่อยหรอ ว่าเหมือนลูกแมว กำลังขู่เสืออยู่หน่ะ" โหยดูมันพูด ถึงผมจะเป็นลูกเเมวขู่แต่ผมว่าพวกมันเหมือนหมามากกว่าจะเป็นเสือนะ

"เข้ามาเด้ไอ้พวกหมาหมู่ เดี๋ยวพ่อจะ ใส่ท่าหนุมานถวายแหวนตบด้วยท่าจระเข้ฟาดหางเข้าให้" แล้วที่พูดมามันทำท่ายังไงวะ เอาน่าขู่ไว้ก่อน
พวกลูกน้องหันไปมองเจ้านายมันเเล้วถามว่าจะเอาไงกับผมดี

"น่าสนใจ เอาตัวไปด้วย" แค่นั้นแหละพวกมันก็กรูจับล๊อกแขนอย่างง่ายดาย สิ่งที่โม้มาจบกัน

"ปล่อยกูนะโว้ย ไอ้พวกบ้า ไอ้พวกหมาหมู่ ไอ้เลว ว๊ากกกก"ผมทั้งด่าทั้งดิ้นจนเกือบจะหลุด

"ปิดปากซะ" สิ้นเสียงเจ้านายมัน ผมก็ถูกชกที่ท้องอย่างแรงจนไวน์และอาหารที่อยู่ในกระเพาะแทบออกมาคืน

"อึก" จุ๊กอย่างแรงจนไม่มีแรงจะดิ้นต่อผมและทาคุถูกยัดเข้าไปในลีมูซีน ซึ่งผมมีคนนั่งประกบซ้ายขวา ส่วนทาคุ ก็ถูกไอ้บ้านั่นจูบ อย่างไม่เกรงใจสายตาชาวบ้าน
ผมที่กำลังจุกนอนเกร็งตัวงอ ได้แต่นอนหลับตาปี๊ 



ไอ้ไนท์  พี่พล  ช่วยคิโบด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!~



................................


ออฟไลน์ INMINTHA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ตอนที่2





โอยหิวจังเลย แจ๊บๆ ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวเจ้ไก่ ขนมหวานป้าแดง อยากกินจังเยย  ง่ำๆ

"คิโบ คิโบ" อ่าใครว้าขัดจังหว่ะการกิน ของเรา

"คิโบ เป็นไงบ้างตื่นสิ" มานพูดภาษาอารายของมาน  กูฟังไม่รู้เรื่อง เอ๊ะ



ดึ๊ง  ลุงพรวดขึ้นมาทันทีเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก

"ที่ นี่ที่ไหน" ผมมองไปรอบๆ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนผมจะอยู่ในห้องนอนของใครซักคน

"คิโบ ใจเย็นๆนะ "ผมหันไปมองตามเสียงที่กำลังบอกให้ผมใจเย็น  จะเย็นได้ไงอ๊ะ  นี่ัมันสว่างจ้าเเล้ว

"ตาย  ต๊าย  ตายแน่กู กี่โมงแล้วเนี่ย" แล้วก็รีบหานาฬิกาในห้อง

"ชิบหาย  9โมงทัวร์ของกู อดเลย" แล้วก็ทุบที่นอนอย่างเจ็บใจกูพลาด ได้ไง  แต่ที่ร้ายเเรงที่สุด กูอยู่ที่หนาย

"ที่ไหนเนี่ย" มองไปรอบๆ ลุกเดินเปิดประตูทุกบาน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องไรวะ  บานสุดท้าย อ๊ากเปิดไม่ออก

"เปิดเด้!  เปิดเด้! " ผมถีบประตู เสียงดังสนั่น เพื่อต้องการให้ใครที่อยู่ข้างนอกเปิดให้ผม เเต่ดูเหมือนจะไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย

"พอก่อนคิโบ ใจเย็นๆ มีทาคุอยู่คิโบอย่ากลัวนะ" ผมหันขวับไปมองทาคุ  สิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือทาคุนั่นแหละ   ทำไงดีทำไงดี คิโบจะบ้าตาย

"ทาคุ มีโทรศัพท์  อะเจอเเล้ว"ผมมองไปทางที่ทาคุชี้ แล้วก็ตรงไปที่โทรศัพท์เพื่อจะกดหาเบอร์ เอ....เเล้วกูต้องโทรหาใครวะ เบอร์ที่พลเบอร์ไรวะ  อยากบ้ารอบสอง

"ทาคุเบอร์โรงเเรมนายเบอร์อะไร"ผมหันไปตะโกนถามทาคุที่ตอนนี้กำลังนั่งมองผมอยู่  ทาคุเดินเข้ามาแล้วกดเบอร์ให้

"สวัสดีค่ะ โรงแรมเอเอ็นเอ อินเตอร์คอนติเนนตัลค่ะ"

"สวัสดีครับ ผมอยากทราบว่า กรุ๊ปทัวคนไทยที่เข้าพักเมื่อวานตอนกลางคืนน่ะครับตอนนี้เค้าออกไปกันหรือยัง"

"อืม ค่ะสักครู่ค่ะ"

"ตอนนี้เค้ายังไม่เช็คเอาท์ออกค่ะ" อ๊ากขออีกรอบผมสื่อสารกับเธอผิดหรือไงเนี่ย

"อ่าถ้าอย่างนั้นผมขอฝากข้อความถึงคุณพลห้อง115ด้วยครับ"

"ค่ะได้ค่ะ"

"ครับฝากบอกว่า ลูกทัวที่ชื่อคิโบ ปลอดภัยดี จะกลับก่อนเช็คเอาท์ บอกเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ"

"ค่ะทางเราจะเเจ้งให้ค่ะ"

ไม่ได้บอกหรอกว่าถูกลักพาตัวกลัวว่ามันจะวุ่นวาย (แต่ในใจก็ยังอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านอยู่)  ถึงว่าอย่างนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ผมวางสายแล้ว มัวแต่ห่วงเรื่องพี่พลห่วงตัวเองก่อนเถอะไอ้คิโบเอ๊ย 

"มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย"ผมถามทาคุทันที  ทาคุทำหน้าเศร้า

"ขอโทษนะคิโบ เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้"ทาคุทำน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้

"พอเถอะทาคุ เราไม่ว่าเรื่องที่ถูกฉุดมาในที่แบบนี้หรอกนะ แต่เราอยากรู้เหตุผลว่าพวกมันจะเอาเรามาด้วยทำไม"
นั่นสิจะเอามาด้วยไมวะรู้จักก็ไม่รู้จัก แค่ปะทะคารมณ์นิดหน่อยเอง

"ขอโทษนะคิโบ" ทาคุขอโทษรอบสอง เเล้วทำหน้าเศร้ายิ่งกว่าเดิม

"เราขอโทษแทนพี่ชายเราด้วย"


.........................ห๊าอะไรนะ


"ใครพี่ชายนาย"

"ก็  พี่โควตะ ที่คิโบเจอเมื่อคืนไง" คนไหนวะหรือว่า..................อึ้งอ่ะ สิ่งที่ผมคิดตอนนี้ก็คือ ไอ้ผู้ชายที่ดูท่าทางยังกับมาเฟีย ที่กำลังจูบกับทาคุเมื่อคืนนั้น

"ห๊า   อย่าบอกนะไอ้นั่นนะพี่ชายนาย" ทาคุพยักหน้า บางทีผมกับทาคุจะเข้าใจผิดกันก็ได้นะ พี่ชายมันอาจจะเป็นหนึ่งในลูกน้องที่ลุมกันฉุดกระชาก ล๊อคคอผมก็ได้

ผมเงียบเพื่อใช้ความคิดนิดนึงทำไงดีอ่ะ คิดไม่ออก บอกไม่ถูก แต่สิ่งที่บอกถูกตอนนี้ก็คือ หิว!!! โคร๊ก~ ท้องร้องอย่างหน้าอาย

"อุ๊บ  คิ๊กๆ"ทาคุหัวเราะผมจนผมอาย

"หิวหรอคิโบ" ไม่น่าถามเลยทาคุ  ตอนนี้หิวจนไส้กิ่วเเล้ว

"งั้นผมจะหาอะไรให้ทานนะ"  แล้วทาคุก็เข้าไปทางห้องครัวผมเองก็ตามไปด้วย แล้วไปนั่งรอทาคุ

"นี่ทาคุ" ผมเรียกขณะทาคุกำลังลื้อตู้เย็น

"ครับ"

"แล้วเมื่อไรผมจะได้กลับ" ทาคุหันมาแล้วส่ายหน้าน้อยๆ

"ผมเองก็ไม่รู้หรอก" แกร๊กๆ ๆ  ขอเกาหัวเเบบงงทีนึง

"งั้นผมถามอะไรหน่อยแล้วกัน" ทาคุพยักหน้า

"ทาคุกับไอ้โควตะ อะไรนั่นเป็นพี่น้องกันจริงหรอ"

"ครับมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ"

"แล้วทำไมเขาต้องจูบนายด้วยล่ะ" เหมือนทาคุจะชะงักส่วนผมก็สะอึก กับคำพูดของตัวเองกูพูดตรงไปไหมเนี่ย

"มันเป็นอย่างที่เห็นนั่นหละครับ เมื่อก่อนผมกับพี่เราเคยมีความสัมพันธ์กันแบบเกินกว่าที่จะเรียกว่าพี่น้อง  แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เเล้ว"  ทาคุพูดแล้วมองมีดที่กำลังหั่นผักอย่างหน้าเศร้า
ผมเองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน ที่ทาคุเปิดใจเล่าให้ผมฟังแบบนี้ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ

"ผมขอโทษนะที่ล่วงเกินอะไรแบบนี้" ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ บางทีทาคุอาจจะมีอะไรอัดอั้นใจอยู่ก็ได้เเต่ไม่สามารถระบายอะไรออกมาได้
ครอบครัวของแต่ละครอบครัวก็มีปัญหาแตกต่างกันไป แต่ปัญหาของทาคุผมเพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก



ผมกับทาคุ เรานั่งกินอาหารเช้ากันอย่างเงียบๆยอมรับเลยว่าทาคุทำอาหารเก่งมาก เพราะมันอร่อยติดตรงที่ว่า ดันไม่มีช้อนซะนี่ ทำไมทาคุคีบข้าวง่ายจังอ่าแต่ผมคีบบ้างมันก็ร่วงลงมาเลยต้องค่อยๆกินที่ละนิด
 ถ้าไม่อายผมกรอกใส่ปากละไวดี



"นี่ทาคุ" ผมเรียกทาคุอีกครั้งเมื่อเรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องโล่งๆซึ่งมีทีวีจอยักษ์อยู่ข้างหน้า


"ครับ"

"เมื่อไรพี่นายจะมาซักที รู้ไหมว่าวันนี้ผมพลาด ที่จะไปกับทัวร์ของผม" ผมว่าอย่างเสียดายทั้งๆที่จะได้ไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญที่สนุกๆตั้งหลายแห่งแต่ต้องมาติดแหงกอยู่ในที่แบบนี้
 อยากจะถามทาคุอยู่เหมือนกันว่าเค้าจะขังทาคุทำไมในเมื่อเป็นพี่น้องกัน หรืออาจจะเป็นมากกว่านั้น กลัวที่ทาคุจะหนีน่ะหรอ

"ครับ ทาคุขอโทษคิโบด้วย ไว้ถ้าผมกับพี่เราคุยกันเข้าใจเมื่อไร ผมจะพาคุณไปเที่ยวเป็นการขอโทษนะ" แล้วก็ยิ้มแบบเศร้าๆ ดูเหมือนทาคุจะคิดอะไรอยู่แน่ๆทาคุเอาเเขนกอดเข่าแล้วทำท่าแบบครุ่นคิด

แกร๊ก  เสียงประตูเปิด  แล้วก็มีใครบางคนโผล่หน้าอันหล่อเหลาเข้ามาข้างใน


สายตาที่มองมาน่า ถีบที่สุด



"พี่โควตะ ผมต้องการคุยกับพี่" ทาคุรีบพูดทันทีที่พี่ชายเข้ามา  แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยการส่ายหน้าแบบไม่อยากรับฟัง

"พี่โควตะ  ผมขอร้องล่ะ"ทาคุ ยึดแขนพี่ชายไว้ตอนนี้น้ำเสียงทาคุเปลี่ยนไป

"มันไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้นได้หรอกทาคุ!!" ไอ้พี่ชายมันก็ตะคอกใส่จนทาคุ    และผม  สะดุ้งตามเออเอาดิ่เค้าหมายถึงเรื่องอะไรกันอ่ะที่เป็นไปไม่ได้

"แต่ ผมกับพี่เป็นพี่น้องกันนะ" คราวนี้ทาคุเริ่มร้องไห้ออกมา 

"ฮึกอีกอย่าง  ผมเองก็มีคนรักอยู่แล้ว  ฮึก"

"ว่าไงนะ  มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกพี่ไม่มีวันยกทาคุให้กับหมอนั่นหรอก" โหวยิ่งกว่าซีรี่ย์น้ำเน่าที่ผมเคยดูอีก พี่รักน้องแบบชู้สาว
แต่ความรักมันไม่อาจเป็นไปได้เพราะสิ่งที่ยึดกันทางสายเลือด และน้องของตัวเองรักคนอื่นอยู่

ผมเองก็ทนดูสภาพต่อไปไม่ไหว  ได้โอกาศ ขอเอาคืนก่อนเหอะ *


"ทาคุหนีเร็วคนมันพูดดีๆกันไม่รุ้เรื่องก็อย่าไปพูดกับมัน"  ไอ้พี่ชายของทาคุถูกแรงถีบของผมจนลงไปนอน  แอบสะใจเล็กน้อย
อย่างน้อยก็ได้แก้แค้น เรื่องที่มันสั่งลูกน้องต่อยท้องผมหล่ะนะ  ผมจูงทาคุวิ่งออกจากห้องโดยเร็วพอออกมาเห็นลิฟด้านขวามืออยู่ไกลๆ
จึงรีบวิ่งตรงไปพอดี กับที่ลิฟเปิด

"หยุด     จับไว้อย่าให้หนี" มันสั่งใครวะ ผมหันไปมองมันขณะที่ยังวิ่ง   ลิฟที่เปิดพอดีกับพวกการ์ดเมื่อคืนกำลังเดินออกมา

"ตุ๊บ" ชนเข้าอย่างจัง จนแทบล้ม พวกมันก็รีบจับล๊อกพวกผมไว้ตามคำสั่งของเจ้านายมัน หนีเสือปะจระเข้เเท้ๆเลยเรา

"เฮ้ยปล่อยนะไอ้พวกบ้า  ไอ้โรคจิต  ไอ้พี่ชายเฮ็งซวย ชีวิตนี้หาคู่ไม่ได้ มาเอาน้องชายหรอวะ ทุเรศชิบหาย เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยพบเห็น บังคับน้องทำเมีย
 น้องมึงยินยอมรึก็เปล่า  ไอ้บ้าปล่อยดิโว้ย" สารพัดที่ผมพูดออกมาล้วนแต่แทงใจดำมันทั้งสิ้นมันคงตกใจไม่น้อยเหมือนกัน

"นายว่าอะไรนะ"มันพูดน้ำเสียงโมโห

"ก็บอกว่านายมันเลวเห็นแก่     อุ๊บ"  โดนอีกแล้วกู  มันจะหาวิธีปิดปากที่ผมไม่ต้องเจ็บตัวบ้างอ่ะได้ไหมอาหารมือเช้าที่กินเข้าไป มันจะคืนออกมาอีกแล้ว

"อัก แค๊กๆ"

"พี่โควตะ ทำอะไรน่ะ" ทาคุเข้ามาดูผมแล้วหันไปถลึงตาใส่

"พอใจ!!!"

"เอาเข้าห้องไป" แล้วพวกลูกน้องมันก็อุ้มผมอย่างง่ายดายตามเจ้านายไป

เอาผมวางไว้บนที่นอนนุ่มๆแบบไม่ค่อยจะนุ่มนวลเท่าไร เพราะอาการจุกเลยไม่ค่อยมีแรงที่จะด่า ผมได้แต่นอนงอตัวมีทาคุที่วิ่งไปหาผ้าชุบน้ำอุ่นมาประคบที่ท้อง

"พี่ทำเกินไปนะ" ทาคุเริ่มว่าพี่ชาย

"อย่างนี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ เธอคิดว่าคนที่ต่อปากต่อคำกับฉันแบบนายจะสามารถยืนอยู่บนโลกได้ต่อไปหรอกนะ" แล้วก็ส่งรอยยิ้มเย้ยเหมือนจะมีชัย

"กูไม่รู้เฟ้ย กูถือกฎประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์เป็นของตัวเอง "ผมเถียงกลับไปบ้าง

"ยังมีแรงที่จะต่อปาก อีกนะ อย่าคิดว่ามีทาคุอยู่แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรนาย"

"ไม่กลัวเฟ้ย"

"พี่โควตะพอเถอะแค่นี้ผมก็รู้สึกแย่ๆ กับพี่มามากพอแล้ว"ทาคุว่าพี่ชายแบบไม่มองหน้า

ขอยิ้มเยาะบ้างเถอะ แววตาของมันดูโกรธเคืองมาทางผมอยู่เหมือนกัน  แล้วมันก็เดินออกจากห้องไป

"ผมขอโทษนะคิโบ ทั้งๆที่เราเพิ่งจะพบกันแท้ๆกลับต้องมารับรู้เรื่องราวที่น่าอายแบบนี้" ทาคุว่าแล้วร้องไห้ออกมาอีก

"ไม่ต้องร้องหรอกทาคุ ผมเข้าใจปัญหาของคุณแล้วหล่ะ อีกอย่างผมไม่รังเกียจคุณเพราะไอ้เรื่องบ้าๆแบบนี้หรอก" ถึงมันจะเป็นเรื่องบ้าๆสำหรับผม แต่มันอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนของคนทั้งสองคนก็ได้ ผมรู้สึกสงสารทาคุจริงๆที่มีพี่ชายเเบบนี้
แล้วอีกอย่าง    เมื่อไหร่ผมจะได้ไปจากที่นี่เสียที.....................





.......................


หลังจากที่ผมหายจากอาการจุก เอิ่มไงดีอ่าโครตจุกเลย ตอนที่ถูกต่อยไม่นึกเลยว่าไอ้บ้านั่นมันจะหมัดหนักมาก แต่พอนอนพักโดยมีทาคุนั่งเฝ้า
อาการก็ค่อยๆ ทุเลาลงเหลือไว้แค่ความเจ็บเท่านั้น

"อยากอาบน้ำอ่ะทาคุ"ผมบอกทาคุ เพราะรู้สึกรำคาญตัวเองไงไม่รู้

"อืม งั้นผมจะหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้นะ"

"ขอบคุณ" แล้วก็แจกรอยยิ้มอย่างดีใจให้ทาคุ

"โหย...........ไอ้เลวเอ๊ย ดูมันทำกู" ผมมองรอยแดงๆที่ท้องในกระจกจนรู้สึกแค้นเหมือน ไม่เคยมีใครทำผมเจ็บตัวได้ถึงขนาดนี้มาก่อน เพราะส่วนมากจะป้องกันตัวเองไม่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อยๆ
แต่ถึงจะมีอ่ะหรอ ก็ไม่เคยที่จะสู้ตัวๆหรอกส่วนมากจะมีคนปกป้องเสมอ  ใช่ว่าผมจะอ่อนแอนะ  แต่เพราะเป็นที่รักของทุกคนต่างหากถึงได้ ลอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกา
ปากหมาปากจระเข้ มาได้จนถึงทุกวันนี้  แต่ก็อย่างว่ามาต่างถิ่นต่างแดน ต่างที่อยู่อาศัยใครจะมาคอยดูเราได้ตลอด นอกจากดูแลตัวเราเอง  แต่รอยนี้ ข้าแค้นฝังหุ่นอย่าได้ถึงทีเราบ้างเถอะ   เเล้วเราจะทำไรได้วะพวกก็ไม่มี

พอเถอะ  พล่ามในใจอยู่นานอาบน้ำก่อนดีกว่า
ผมอาบน้ำสระผมชำระร่างกายจนใสปิ๊ง ไม่ร่องรอยของหนุ่มอีโมเมื่อคืนไม่มีอีกแล้วเหลือแต่ใบหน้าอันแท้จริงของผมเท่านั้น ผมใส่ชุดที่มันดูจะใหญ่กว่าตัวพอควร กับกางเกงขาสั้น ที่ทาคุเตรียมให้ ใส่สบายๆ

"ทาคุผมอาบเสร็จแล้ว   อ้าว" พอออกมาผมก็ไม่พบทาคุในห้องนอนเเล้ว เลยออกมานอกห้อง ก็เจอสองพี่น้องกำลังเล่น มวยปล้ำ  โดยมีพี่ชายที่กำลังทำหน้าตาอย่างกับโกรธแค้นใครมาสิบชาติ
ส่วนทาคุกำลัง หวาดกลัวสุดขีด  มีหรือผมจะอยู่ยืนมองไอ้พี่ชายหื่นกามนี่ไหว  ถีบเข้าข้างลำตัวจนมันกระเด็นรอบสอง

"ไอ้........เด็กเวน มึง" มันคงโกรธแค้นผมมากตอนนี้ผมกำลังกันทาคุสุดความสามารถของผม

"ทำไม   ก็ดีกว่าไอ้บ้ากามอย่างมึง" ผมเริ่มว่ากลับ กูไม่กลัวเฟ้ยตัวๆ กูสู้ไหวอยู่เเล้ว                           
แต่ก็หวั่นๆมันเหมือนกันเเฮะ  ก็มันหมัดหนักนี่

"อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น" มันว่าเสียงโครตจะดุ ที่จริงผมก็เเอบกลัวนะแต่เราอย่าได้แสดงความกลัวให้เห็นเดี๋ยวมันจะได้ใจ

"กูไม่อยากยุ่งหรอก  ถ้ามึงไม่เสือกลากกูมาเอี่ยว ไอ้บ้า"

"ปากดีนักนะ" เพี๊ยะ   ผมหลับตาปี๋ เพราะนึกว่าตัวเองโดนตบ แต่ไหง ไม่เจ็บวะหรือมันตบซะหน้าผมชาจนไม่รูสึก แต่พอลืมตาขึ้นมอง ก็ตกใจ
ทาคุที่ตอนนี้ถูกตบจบสลบไปนอนกองอยู่กับพื้น

"ทาคุ/ทาคุ" ผมกับมันร้องประสานเสียงกันอย่างตกใจ ผมเห็นมันจะลงไปอุ้มทาคุแต่ผมผลักซะก่อน

"นี่คิดว่าตบหัวเเล้วลูบหลังมันจะหายหรือไง" ผมพยุงทาคุมาพิงที่ตักแล้วต่อว่าพี่ชายทาคุทันที

"นายว่าอะไรนะ"

"นี่น่ะหรอที่เค้าเรียกว่ารักน่ะ  นายรักทาคุหรือแค่อยากได้แค่ร่างกายกันแน่" มันเริ่มเงียบสายตาจับจ้องอยู่ที่ทาคุ

"รักสิ"ห๊ะรักแล้วทำกันอย่างนี้นี่นะ

"ความรักของนายมันแสดงออกอย่างนี้น่ะหรอ  มันคงสะใจนายมากสินะ ที่ได้ทาคุแค่ร่างกายน่ะ"  ผมว่าด้วยความโกรธ แต่ก็ต้องสะอึกกับน้ำตา ที่คนตรงหน้าไหลออกมา
 น้ำตาของลูกผู้ชายที่ใครๆก็ไม่อยากให้ใครเห็น เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ

ผมเองก็เริ่มพูดไม่ออก มันจะมาไม้ไหนอีกวะ คิโบปวดเฮด

"มันก็จริงของนาย ที่ฉันได้แค่ร่างกาย  แต่ฉันก็หวังว่าจะได้หัวใจของทาคุซักวัน" สีหน้าของโควตะสลดลงมองทาคุอย่างตัดพ้อ 

"ทำไมนายไม่พิสูจน์ล่ะ  แสดงให้ทาคุเห็นว่านายรักทาคุ แทนที่จะมาบังคับขืนใจกันอย่างนี้ แทนที่นายจะได้รับความรักจากทาคุ  ทาคุกลับยิ่งหนีนายมันคุ้มกันหรอ"
ผมว่าพลางมองดูอย่างเงียบๆ ว่าเค้าจะมาไม้ไหนอีก

โควตะเงียบไปพักใหญ่เหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก แล้วหันมามองผมด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น

"เเล้วทำไมฉันต้องให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างนายมาบอกด้วย"   เหอะ ไงล่ะหวังดีแล้วโดนว่าเป็นเด็กเมื่อวานซืน ขอบคุณกูซักคำหน่อยมีบ้างไหม๊

"ชิ๊ ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอก" ผมหันหน้ากลับอย่างเอือมระอาหันมาดูทาคุที่ตอนนี้กำลังหลับ หน้าตอนนี้เริ่มมีรอยมือแดงๆอย่างเห็นชัดเพราะผิวที่จัดว่าขาวของทาคุ นั่นแหละ

"อึ๊บ" โควตะอุ้มทาคุมาวางไว้ตรงโซฟาใกล้ๆ  แล้วนั่งลงข้างล่างมองทาคุอยู่อย่างนั้น
มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่ ผู้ชายคนนี้เท่าที่ผมดูเหมือนจะแสดงความรักไม่เป็น หรือเพราะไม่เคยมีความรักเลยกันแน่ แต่พอได้รักกลับไม่รู้จะทำยังไง
 มันเลยต้องลงเอยกันแบบนี้ พี่ชายตามล่าน้อง ส่วนน้องก็หนีสุดชีวิต   เออ เรานี่รู้ดีจิงว่ะ    สงสัยจะจำมาจากละครน้ำเน่าที่เเม่ชอบดูบ่อยๆ

"นี่" ผมหันไปเรียกไอ้บ้า มันหันมาทำสีหน้าแบบไม่่พอใจนัก

"เปิดช่องให้หน่อยเดะใช้ไม่เป็น" ที่จริงมันก็คล้ายกับของเราแหละผมใช้รีโมทเป็นนะแต่ไม่รู้ว่าช่องไหนดูได้ต่างหาก
มันรับมาแล้วเปลี่ยนช่องให้ผมเป็นข่าว

"ไม่เอาอยากดูการ์ตูน" มันมองผมแบบตาขวาง แต่กดเลือกให้ โดยไม่มีคำบ่นใดๆจากปากเราทั้งคู่เลย



นานพอควรที่ทาคุจะฟื้น

"อืม "ทาคุเอามือก่ายหน้าผากเมื่อตื่นขึ้นมาผมเลยชะโงกหน้าเข้าไปมอง

"เป็นไงบ้างทาคุ" ผมถามแสดงความเป็นห่วง เหลือบไปมองพี่ชาย เห็นมันแค่มองทาคุเท่านั้นแต่ไม่ได้ถามอะไรทาคุเมื่อฟื้น

" อ่า ผมหลับไปนานแค่ไหน"

"ซักพักล่ะ" ทาคุหันมามองผมแล้วยิ้มให้

"นี่คิโบหรอ" ทาคุว่าแล้วมองผมยิ้มๆ

"อืมใช่สิ ทำไม" ผมถามอย่างงงๆ

"เปล่าแค่เหมือนคนละคนที่ผมเจอเมื่อคืนเลย"  ผมเกาหัวแกรกๆอย่างเขินๆ

"แล้วแบบไหนดีกว่ากันล่ะ"

"ถ้าให้ทาคุเลือกทาคุชอบคิโบแบบนี้มากกว่ามันดูดีกว่ามาก"  โดนทาคุชมอย่างนี้รู้สึกเขินๆ

"แฮ่ม" รู้สึกว่าเราจะลืมบุคคลที่สามไป  ผมกับทาคุหันไปมองอีกคนที่ถูกลืม ตอนนี้ดูเหมือนทาคุจะมองพี่ชายเหมือนอากาศ หรือทำแบบเหมือนไม่มีพี่ชายอยู่ในที่นี้ด้วยซ้ำ     
สมควรแล้ว   (แอบว่าในใจ)

"ไป เดี๋ยวพี่จะไปส่งที่โรงแรม"ว่าแล้วก็ลุกยืนไปคว้ากุญแจแล้วเดินนำออกจากห้องไป
ผมกับทาคุมองหน้า แบบ มันจะเอาไงอีกอ่ะ ผมยักไหล่ทีก่อนจะลุกตาม ทาคุก็เช่นกัน

พอออกมาก็เห็น โควตะกำลัง คุยโทรศัพท์พอมันเห็นผมกับทาคุก็เดินนำผมและทาคุเข้าลิฟท์ทันที

ชั้นที่37 โหมิน่าทำไมเวลาลงมันรู้สึกหวิวๆ มันล่ออยู่ซะชั้นที่37  พออกจากลิฟผมกับทาคุก็เดินตามไปกันเงียบๆ  ซึ่งมีรถลีมูซีนคันเมื่อคืนจอดรออยู่
 มีคนขับมาเปิดประตูให้ผมและทาคุเข้าไป ทาคุเลี่ยงที่จะนั่งฝั่งเดียวกันกับพี่ชายโดยดึงผมมานั่งข้างๆด้วย




อึดอัดว่ะ



คนในรถไม่คุยกันเลย ทาคุหันหน้าไปทางหน้าต่างเพื่อดูวิว ส่วนโควตะก็นั่งจ้องน้องตัวเองอยู่ได้ ผมเองก็ได้แต่จ้องคนทั้งสองไปมาอยู่อย่างนั้น



"โคร๊ก"  เอาอีกแล้วกู  คนทั้งสองหันมาทางเสียงอย่างพร้อมเพียง ทาคุหันมามอง แล้วหัวเราะผม

"ฮะ ๆๆๆ"

"ทาคุ  ผมโกรธจริงๆนะ" ผมว่าแบบงอลๆ

"อ่า ๆ ผมขอโทษ อุ๊บ  ฮึ " แต่ก็ยังไม่เลิกขำเสียที

"ตลกมากมะ" ทาคุพยักหน้ากลั้นหัวเราะเเล้วเอามือกุมท้องไว้

"อ๊า   ลืมเลย" ผมอุทานเมื่อนึกอะไรออก

"มีอะไรหรอคิโบ" ทาคุเลิกขำแล้วทำหน้าตกใจตาม

"ผมลืมเสื้อผ้าผม"  ใช่ลืมเอากลับมาด้วย

"แค่นี้เองหรอไม่เป็นไรหรอกวันหลังเดี๋ยวผมเอามาคืน" ทาคุว่าแบบเป็นเรื่องเล็กๆ

"ได้ไงนั่นมันเสื้อตัวเก่งของผม"ผมว่าอย่างเสียดาย

"เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาไปให้ที่โรงแรมเอง"บุคคลที่ผมเเละทาคุลืมว่ามีตัวตนอยู่ในรถเอ่ยขึ้น เพื่อบ่งบอกว่าจะเเสดงตัวตนของตัวเอง

"ขอบคุณ" ผมว่าแล้วหันหนี  ไม่อยากคุยด้วยหรอกชิ๊   แต่ก็เหลือบมองไปดูเหมือนกัน



รถจอดแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ถึงโรงแรม แต่เป็นภัทตาคารหรู  ว้าวๆๆนี่สิที่เรารอคอย  อยากกระโดดกอดขอบคุณโควตะซักที แต่หน้าตาที่ดูเก๊กเลยเลิกล้มความคิดซะ



"ทานอาหารกันก่อนค่อยกลับ" ว่าแล้วก็เก๊กท่าเดินนำไป
พอเข้ามาข้างในก็รู้สึกตื่นตามาก เพราะโคมไฟหรือแม้แต่โต๊ะ มันดูหรูไปหมด แถมเด็กเสริฟก็ดูแต่งกายสุภาพมาก จนผมเหมือนคนข้างถนนที่หลุดเข้ามาได้ไงไม่รู้พอมองดูเสื้อผ้าที่ตนเองใส่

โควตตะคุยอะไรซักอย่างกับเด็กเสริฟ แล้วก็เดินตามไป เรามาหยุดที่โต๊ะข้างๆริมหน้าต่าง ที่สามรถเห็นวิวข้างนอกได้ออลืมบอกไปตอนนี้เราอยู่ชั้นบนสุด แต่ลืมดูว่ามันกี่ชั้น  ผมนั่งริมกระจกใส
ถ้าที่นี่ในตอนกลางคืนคงดูสวยมากแน่ๆ

"จะทานอะไรล่ะสั่งสิ" คนที่ดูเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารว่าแล้วยื่นเมนูอาหารให้ทาคุแต่ทาคุกลับเฉยผมเลย จัดการเอง 

"เอานี่ นั่นนู่นนี่ครับ"  ผมบอกรายชื่ออาหารไปดูเยอะพอควรกับเด็กเสริฟ แล้วหันไปยิ้มฟันข้าวให้โควตะที่ตอนนี้ดูเหมือน หมั่นไส้ผมเต็มที่  ผมเลยแถมยักคิ้วให้ทีนึง

"ทานซักหน่อยสิทาคุ" ผมบอกทาคุที่ดูเหมือนจะไม่เเตะอะไรเลย

"ผมยังไม่ค่อยหิวน่ะ" ทาคุปฏิเสธ ผมเลยคิดสนุกอยากแกล้งคน

"เอานี่ทาคุ อ้ามสิ" ผมจิ้มอาหารให้ทาคุ แล้วเหลือบมองพี่ชายที่ตอนนี้กำช้อนเเน่นเหมือนกำลังโกรธ
ทาคุก็ทานอาหารที่ผมป้อนให้ ผมยิ้มอย่างดีใจ

"อร่อยไหม"

"อื้มอร่อยมากเลย" ทาคุว่าแล้วยิ้มให้ผม

"จะไปห้องน้ำ" โควตะลุกพรวดแล้วบอกทั้งๆ ที่ไม่มีใครถามซักคำว่าจะไปไหน

"สนุกไหมคิโบ" ทาคุถามเมื่อเห็นผมหัวเราะเบาๆเมื่อพี่ชายตัวเองเดินห่างไปไกล ผมเองก็ลืมตัวไปเหมือนกัน

"อ่ะ    เอ่อ  แหะๆ"พูดไม่ออกอ่ะ

"ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีคิโบ เราคงแย่แน่ๆ" ทาคุกล่าวขอบคุณ

"เอาน่าทาคุถือซะว่า คิโบเป็นเพื่อนคนนึงของทาคุก็เเล้วกัน เอางี้ดีไหมทาคุพาผมเที่ยวสิเราจะได้หายกัน" ทาคุยิ้มให้ผม

"อื้มถ้างั้นก็ตกลง"  พอโควตะเดินกลับมาผมและทาคุก็เข้าโหมดปกติ มีบ้างที่ผมเเอบทำหวานป้อนอาหารกับ ทาคุเเบบคนรักทำกัน
 ดูเหมือนผมจะยั่วให้โควตะโกรธ แต่ดีนะที่มันไม่บ้าจี้ โกรธแล้วแผลงลิทธิ์ ต่อคนในห้องอาหารอย่างนี้

ฮี่ๆๆ  คิโบแอบสะใจ



...........................


ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ redcapet2013

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • www.facebook.com
เนื้อเรื่องน่าติดตามดี คิโบก็เป็นเด็กแสบไม่ไช่น้อยอย่างนี้เจ้าพ่อมาเฟียอย่างโควตะจะรับมือไหวไหมเนี่ย ดูคิโบจะแถสีข้างไปได้ทุกเม็ดทุกตอน ทาคุก็แหมถ้ากล้าสักหน่อย แข็งขึ้นอีก อะไร ๆ ในชีวิตที่มันหักเห ก็น่าจะดีขึ้นนะ ..............................................มาติดตามอ่านเรื่องนี้อีกคน

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
มาเฟียฟังแล้วน่ากลัวเนอะขนาดคนที่ตัวเองบอกว่ารักยังทำร้ายกันได้ลง แอบเกลียดพระเอกอะไม่ปลื้มพระเอกอย่างแรง มิน่าถึงหลายเมียเพราะนิสัยแบบนี้หนี้เองแบบดิบๆกลัวจะเห็นค่าเมื่อสิ่งนั้นจะจากไป

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ตอนที่3   




ตัดบทไปเที่ยวเลยเง้อ


อันที่จริงก็อยากจะเล่านะว่าตอนไปเที่ยวสนุกไงเที่ยวที่ไหนมา แต่เล่าเเล้วมันยาวเป็นหางว่าวเลย  เอาเป็นว่า  พอผมกับทาคุกลับโรงแรม ผมก็เจอกับพี่พลพอดี 
โดนบ่นยาวเลย ดีนะที่ทาคุช่วยพูดพี่แกเลยเลิกกบ่นแล้วก็ตักเตือนนิดหน่อย ส่วนไอ้ไนท์ ก็มันไปทำไรกับหนุ่มเรนไม่รู้ เห็นมันควงอยู่ด้วย มันแอบบ่นผมหน่อยว่าไปไหนไม่เคยชวน 
ผมเลยเหน็บมันไปบ้าง



"แหมตัวเองอ่ะแหละไปไหนไม่ชวนเพื่อน    สนุกกับเด็กใหม่เลยลืมกันล่ะสิ" ผมจงใจพูดภาษาอิ้งเพื่อให้อีกคนเข้าใจด้วย ไอ้ไนท์ อายม้วนเลย สงสัยเสร็จไปแล้วแน่

"ไหนว่าไม่ชอบแบบนี้ไง" แอบแซวมันอีก มันก็ตบปั้บผมทันที

"พูดมากเดี๋ยวโดน"

"กูโดนแล้วล่ะ(- -")  " หลังจากนั้นมาอีกหลายๆวันทาคุก็พาผมเที่ยวตามสัญญา โดยมีไนท์เรน แล้วก็  ไอ้บ้าที่กำลังตามง้อน้องชายตัวเอง ไปด้วย แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ ทาคุแอบกระซิบบอกผมว่า
โควตะ กลัวรถไฟเหาะ ผมเลยคิดเเผนเจ๋งๆ ให้ทาคุโดยลากไอ้พี่ชายมัน ขึ้นด้วย  คุณลองนึกสภาพ ผู้ชายตัวโตๆเกาะเสาไม่ยอมปล่อย ร้องลั่นว่าไม่นั่งรถไฟดูสิ  พวกผมสี่คนลากกันแทบตาย

"ถ้าพี่ไม่ปล่อยทาคุจะโกรธไปตลอดชาติ  แต่ถ้าพี่ปล่อยมือเเล้วขึ้นไปกับทาคุบางทีผมอาจจะยกโทษให้พี่ก็ได้" นี่คือคำขู่ของทาคุแต่มันได้ผล  โควตะปล่อยทันที

"จริงนะ" แววตาดูเปล่งประกายขึ้นมาทันที จนผมรู้สึกหมั่นไส้

"อื้มจริงสิ" ทาคุยิ้มตาหยีแต่ผมแอบ ขำ  พอรู้ว่าทาคุแกล้งทำเเบบนี้เเล้ว รู้เลยว่าโควตะมันชะตาขาดแน่ๆ



"ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกก  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  โอ๊กกกกกกกกกกกกก!!!!" นี่คือเสียงโควตะล้วนๆ พร้อมกับลงมาอวกอย่างไม่อายสายตาชาวบ้าน พวกผมก็ฮากันกลิ้ง

"สนุกไหม พี่โควตะ" ทาคุถามแล้วลูบหลัง แอบเก็บอาการอมยิ้มไว้

"สนุกถ้าทาคุ ให้อภัยพี่"โควตะมันพูดเเบบเหนื่อยหอบเเละกลืนน้ำลายดังเอือก   แต่ทาคุกลับหุบยิ้มทันที

"ใครบอกว่าจะให้อภัย  ผมบอกแค่บางที" แล้วโควตะก็ทำหน้าเป็นหมาหงอยทันที  ผมล่ะขำจริงๆ  ผมว่านะพอเรื่องวันนั้น
เกิดขึ้น พี่ชายทาคุเริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปบ้าง คือไม่ค่อยเอาแต่ใจเท่าไร  ผมก็แอบวางใจนิดนึง นิดนึงของผมนี่มันนิดเท่าแค่ขี้มดนะ เพราะยังไงมันก็ทำไม่ดีไว้กับทาคุเยอะอยู่
แล้วก็อีกหลายๆวันต่อมาทาคุก็พาไปเที่ยวสถานที่สำคัญหลายๆแห่งผมเองรู้สึกสนุกมากจนไม่อยากกลับเมืองไทย

"คิโบ กลับถึงเมืองไทยเเล้วโทรหากันบ้างนะ" ทาคุกุมมือผมอย่างเสียดาย ในวันที่ผมต้องเดินทางกลับ

"อย่ากลับมาที่นี่อีกล่ะ" เสียงไอ้พี่ชาย มันประกบอยู่ข้างหลัง บอกกับผม

"ชิ๊  ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่มีสิทธิ์มาสั่ง" หันไม่แลบลิ้นให้มันหน่อย

"เรน เเล้วผมจะมาเยี่ยมบ่อยๆนะ ฮึก" ไอ้ไนท์ล่ำลาเรนร้องไห้ ผมแทบจะดูไม่ได้เลยไปสะกิดเเขนมัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่สนใจผมเลย

"ครับ อย่าลืมเรนล่ะโทรหาผมบ้าง"

"ฮือ" ไอ้ไนท์พยักหน้า แล้วจู่ๆ มันก็จูบกัน เหวอออออออ ผมเหวอแทนมันช่างกล้า ในสถานที่คนพลุกพล่านเช่นนี้ บางคนให้ความสนใจมันทั้งคู่ เมื่อเห็นพวกมันจูบกันอย่างออกรสเช่นนี้
บางคนสงสัยจะเห็นเป็นเรื่องปกติ จึงเดินผ่านไปกันเฉยๆ

"แล้วเจอกัน" มันว่าแล้วยิ้ม บ้ายบาย

"โห ไม่อายกันเลย"ผมหันมาคุยกับทาคุอีก

"อื้ม มันไม่ใช่สิ่งหน้าอายนี่ จุ๊บ" ทาคุเอาบ้างแต่เเค่ห้อมเเก้มผมแทน ไอ้พี่ชายโควตะรีบดึงออกมาทันที
ผมแอบยิ้มเยาะใส่มันอย่างสะใจ

"ไปนะหวังว่าเราจะได้พบกันอีก"ผมร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย

"จ้าโชคดีน้า  เดินทางขอให้ปลอดภัย" ทาคุตะโกนบอกผม แล้วโบกมือบ้ายบาย  ผมเองก็เช่นกันมัวแต่มองทาคุแล้วก็โบกมือลา

"อุ๊บ" ชนอะไรวะ ผมชนเข้ากับใครบางคนเลยหันไปมอง  ผู้ชายที่ดูสูงใหญ่ ใส่แว่นตาดำดูแล้วเท่อย่าบอกใคร มองผมผ่านแว่นตาดำสงสัยเค้าคงไม่สบอารมณ์ ที่ผมเดินชน

"ขอโทษครับ"ผมกล่าวขอโทษอย่างสุภาพ

"นี่เธอเดิน หัดระวังหน่อยสิ"ชายอีกคนที่ดูสูงไม่แพ้กันว่าผม แต่หน้าตาสู้อีกคนไม่ได้เลย แล้วมันก็วิ่งตามเจ้านายที่เดินไปไม่สนใจ

"ไรวะ   กูไม่ได้ชนมึงซักหน่อย"ผมบ่นเป็นภาษาไทย แต่พูดออกมาซะดัง ก็เพราะไม่พอใจเหมือนกันน่ะสิ






...........................



*

ในท่าอากาศยานฮะเนดะ


ชายร่างสูง ที่อยู่ในมาดนักธรุระกิจ สวมเเว่นตาสีดำ เพราะเขาเป็นคนที่แพ้ต่อเเสงจ้ามาก กำลังเดินฉับๆ อย่างว่องไวเพราะมันมีเวลาไม่มากในการเข้าประชุมเรื่องผู้นำกลุ่ม
ดูจะค่อยไม่สบอารมณ์เท่าไร เมื่อพบเจอผู้คนมากมาย และยิ่งเมื่อลงจากเครื่องที่นั่งกินเวลามากหลาย ชม. ทำให้ดูหงุดหงิดเข้าไปอีก


"ลูกพี่ครับ ท่านทาเคชิ โทรมาครับ" ลูกน้องว่าแล้วยื่นโทรศัพท์ให้

"ครับ"เขาว่าอย่างเรียบๆ และฟังผู้ที่กำลังพูดมาตามสาย

"ไงแก เจ้ายูคิ ป่านนี้เเกยังไม่โผล่หัวมาอีกหรอ!!!" ทาเคชิพูดอย่างเดือดดาล

"ครับผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้" ยูคิไม่มีทีท่าที่จะเกรงกลัวแม้เเต่น้อย แล้วตัดสายทิ้งทันที

"หวา" ลูกน้องรีบรับโทรศัพท์ที่ถูกโยนคืนมาให้ทันที

ยูคิ เดินอย่างรีบเร่ง เพราะรู้สึกหงุดหงิด คิ้วที่ขมวดกันดวงตาที่ดู น่ากลัวภายในเเว่นตา ถ้าถอดมันออกคงไม่มีใครเดินเข้าใกล้แน่ๆ

"อุ๊บ" ยูคิหยุดชะงักเมื่อชนเข้ากับคนร่างเล็กตรงหน้า เด็กชายมองเขาทันทีอย่างตกใจและชะงักเล็กน้อย

"ขอโทษครับ" เด็กชายตรงหน้ากล่าวอย่างสุภาพ แต่ยูคิหรือจะสนใจ เพราะตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะมาเสวนากับใครทั้งนั้น

"นี่เธอเดิน หัดระวังหน่อยสิ" ลูกน้องกลับรู้สึกโกรธแทนที่ชนลูกพี่ของตัวเอง แล้วรีบเดินตามมา

"ไรวะ   กูไม่ได้ชนมึงซักหน่อย" เด็กชาย พูดกลับทันทีเป็นภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่น แต่ยูคิ ก็ศึกษาภาษานี้มาเช่นกัน จึงหันกลับไปมอง  เด็กชายร่างเล็กผิวขาว
 ผมทรงอะไรซักอย่างที่ดูยุ่งๆด้านบน แล้วไล่บางๆ ยาวลงมาถึงกลางหลัง   มันดูคุ้นๆชอบกล

"มีอะไรหรอครับลูกพี่" ลูกน้องถามอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นลูกพี่ตัวเองหยุดเเละมอง ค้างอยู่กับที่

" อืม ไม่มีอะไรหรอก" ยูคิ หันกลับเเละเดินต่อไปอีกครั้ง  แต่ก็ยังอดนึกถึงแผ่นหลังเล็กๆ นั่นไม่ได้   มันรู้สึก  เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่ๆ

*

.......................




"แม่จ๋า คิโบกลับมาแล้ว"

 ฮ่า ไม่เจอกันตั้ง6วัน แม่คงคิดถึงแย่เลย เอาของฝากมาฝากแม่เพียบ

"เป็นไงบ้าง ไอ้ลูกน้อย" แม่ผมเดินออกมารับเเล้วสวมกอดผมเองก็กอดแม่เเน่น

"คร้าบ คิโบไปเที่ยวมาซื้อของฝากมาให้แม่ด้วย"แล้วผมก็คุ้ยกระเป๋าที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก (ทำเหมือนหมาเลยเนอะ) หยิบของฝากออกมา

"แท๊นนนนนนน ทะเเเด๊นนนนนนน" ร้องไรของเราวะ

"โหตุ๊กตาล้มลุกเนี่ยนะ" แม่ผมพูดอย่างทึ่งๆ เเล้วเอามาดู

"ชอบไหมเเม่"

" อื้ม    ต๊าย  คิโบแกไปเที่ยวตั้งหลายที่แต่ดันซื้อ ตุ๊กตาล้มลุกที่ สนามบินหรอไง" แม่ผมว่าอย่างงอลๆ

"ฮี่ๆ  แม่รู้ได้ไง" โดนจับได้ซะแล้ว

"นี่ไงย๊ะ" แล้วแม่ก็หงายก้นให้ผมดูมันเป็นรอยสลักเล็กที่เขียนชื่อท่าอากาศยาน  แล้วมันจะเขียนทำเบื๊อกอาราย  ผมน่าจะสังเกตุเห็นนะจะได้เอาสีมาทาปิดไว้ก่อน

"โห รู้ทันอีกละ"ผมแกล้งทำเป็นเด็กโดนจับได้แล้วง้อแม่โดยการหอมแก้ม

"ฮื่อ "แม่พยักหน้าอย่างเอือมระอา

"ฮานะซัง ผมเตรียมของ เสร็จแล้วนะ  อ้าวคิโบกลับมาแล้วหรือลูก"นี่พ่อผมเองครับ

"ครับพ่อ ผมเอาของฝากมาให้ด้วย"ผมหยิบของที่เหมือนกับของแม่แต่คนละสีให้

"ขอบใจลูก" พ่อลูบหัวอย่างอ่อนโยน

"แล้วพี่มิ๊ค ล่ะครับ" ผมถามถึงพี่ชายที่ตอนนี้ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดแท้ๆ

"นอนอยู่ในห้องมั้งไปดูสิ"


ก๊อกๆ  แอ๊ด  เปิดเข้าไปแบบไม่ต้องรอคำตอบ

"พี่มิ๊ค คิโบเอาของมาฝากด้วย " ยังไม่ทันจะเจอคนในห้องผมก็ทักไปซะเเล้ว แต่ก็ไม่เห็นใครนอกจากบนที่นอนที่ดูเหมือนมีคนคลุมโปงอยู่

ผมกระโจนเข้าใส่ทันที 

"ย๊าก!!!" 

"อึ๊ก"

"เล่นไรเนี่ยมันเจ็บนะ" พี่มิ๊คโวยขึ้นมาทันที

"เอ้าก็ตัวมัวเเต่นอน เค้าเรียกเเล้วไม่ตื่นเองเลยปลุกไง"  ผมว่าแล้วยิ้ม อิอิ

"เหอะ ปลุกงี้ไมต้องมาปลุกเลยดีกว่า"แล้วก็ล้มตัวไปนอนอีก

"อ้าวนอนอีกละตื่นมาก่อนสิ เค้าเอาของฝากมาให้ด้วย"ผมว่าแล้วก็เอาตุ๊กตาไม้ญี่ปุ่นโชว์ให้ดู พี่มิ๊กทำตาหยีเพื่อเพ่งแต่ คงทนไม่ไหวเลยเอาแว่นมาใส่

"ตัวไรอ่ะ" พี่ถามแบบงงๆ

"ก็ตุ๊กตางาย เค้าทำเองเลยน้า ลองทำที่ญี่ปุ่นอ่ะเป็นไงสวยไหม" อวดของที่ตัวเองทำหน่อยนึง คิ๊กๆ

"อืม  ยังกะตัวประหลาดไอ้ตัวนี้มันตัวไรเนี่ย"

"เหอะๆ เค้าเเกะเป็นตัวเองอ่ะ 5 5 5 5" ผมหัวเราะเมื่อพี่มิ๊คทำหน้าเซงๆ

"ขอบใจนะที่อุตสาห์ทำ แต่คราวหลังพี่ว่าซื้อสำเร็จมาเลยก็ดี" พี่มิ๊กว่าแล้วก็จะนอนต่อ

"เน่     ไม่เจอตั้งหลายวันมาคุยกันก่อน" ผมดึงผ้าห่มออก

"อือ ไม่เอาเมื่อคืนนอนดึก แถมต้องตื่นมาช่วยแม่เก็บของอีก"

"เก็บไรอ่ะ"

"เก็บ ของจะไปญี่ปุ่น" อ้าวไม่เห็นมีใครบอก

"แม่ไปทำไม" ผมถามอย่างสงสัย

"กลับไปอยู่ที่นั่นไง" คำตอบนี้ทำให้ผมตกใจมากเลย

"อ้าวไหงงั้น  แล้วคิโบอ่าแม่จะทิ้งคิโบอยู่ที่นี่หรอไง" ผมว่าอย่างน้อยใจ

"ป่าว แม่จะเอาแกไปด้วย"  นี่ก็ยิ่งทำให้ผมตกใจมากเช่นกัน

"ไรอ่ะ  งั้นคิโบก็ไม่ได้เจอกับพี่แล้วสิ ไม่อาวอ่ะคิโบไม่ยอมนะ" วิ่งไปคุยกับเเม่ให้รู้เรื่องเลยดีกว่า


"แม่!"  ผมตะโกนเรียกแม่ตอนที่กำลังทำกับข้าวอยู่

"ว่าไงลูก"

"จริงหรอที่แม่จะไปญี่ปุ่น"ผมถามอย่างไม่อยากจะเชื่อเท่าไร

"อื้มจ้ะ"

"ทำไมอ่า"

"คุณตาเรียกกลับแล้วน่ะ"  แค่คุณตาเรียกกลับเนี่ยนะไหนว่าตาโกรธแม่แทบตายแต่ไหงมาเรียกกลับ

"แค่เนี๊ย  แล้วคิโบอ่า บ้านคิโบอยู่นี่นะ"

"จ้ะบ้านคิโบอยู่ที่นี่   แต่บ้านที่แท้จริงของคิโบอยู่ที่ญี่ปุ่น"แม่ว่าแล้วทำหน้าเศร้า

"มันเรื่องอะไรกัน" ผมถาม    งงอ่ะ แม่เป็นอะไร  แล้วทำไมแม่ต้อง บอกว่าบ้านที่แท้จริงอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย คิโบไม่เข้าใจ


แล้วเเม่ก็เริ่มเล่าทุกอย่างที่ผมไม่รู้ตลอดมา22ปี ทั้งๆที่ผมสมควรจะได้รับรู้ตั้งแต่ผม เข้าสู่วัยรุ่นแล้วแท้ๆ จนแม่เก็บความลับมาจนผมอายุขนาดนี้ แถมมันกระทันหันจนเกินไป
แม่ท้องผมตอนอายุ17 ซึ่งตอนนั้นตาโกรธมาก จึงไล่แม่ออกจากตระกูลอย่างไม่ใยดี ตอนนั้นแม่ต้องทำงานทั้งๆที่ท้องจนมาเจอพ่อ ตอนที่พ่อเที่ยวญี่ปุ่น พ่อตกหลุมรักแม่ แต่แม่ปฎิเสธ และบอกความจริงว่าท้องผมอยู่ แต่พ่อก็ยังรับ แม่ผมซึ้งใจมากเลยยอมตกลง แต่ไม่ได้แต่งงานกันพ่อชวนแม่มาอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งพ่อเองก็มีพี่มิ๊คอยู่เเล้ว แต่แม่พี่มิ๊คเสียไปตั้งเเต่เกิด
ผมสงสัยว่าพ่อที่แท้จริงของผมเป็นใคร แต่แม่ได้แต่อ้ำอึ้ง ผมก็คาดคั้นจนแม่ยอมบอก  แม่บอกว่า พ่อเป็นลูกชายบุญธรรมคนเล็กของตระกูลโฮโจ แต่แม่ไม่ยอมบอกชื่อ จริง  ผมเองก็รู้สึกเสียใจมากกับ คำตอบสุดท้ายที่แม่ได้ตอบ เค้าไม่ยอมรับลูก
เค้าหาว่าแม่มั่ว พอท้องเลยคิดจะโยนให้เค้าเลี้ยง  แม่พูดทั้งน้ำตา พ่อที่แอบฟังก็เดินมาปลอบแม่ ผมมองพ่ออย่างอาลัย  นี่ผมไม่มีสายเลือดของพ่อบ้างเลยหรือไง แล้วพี่มิ๊คอีก คงรู้มาตลอดสินะว่าผมไม่ใช่น้องชายแท้ๆ

"แม่ขอโทษนะลูกที่ปิดมานาน" แม่ขอโทษผม

"ฮือ   แม่ไม่ผิดหรอก มันผิด ก็คนที่มันพูดทำร้ายจิตใจแม่ต่างหาก"ผมพูดทั้งน้ำตา

"ถึงลูกจะไม่ใช่สายเลือด ของพ่อแต่ลูกก็ยังเป็นลูกของพ่อนะ" พ่อเองก็ปลอบผมเช่นกัน  ผมพ่อแม่ กอดกันกลม พี่มิ๊คก็ฟังอยู่ห่างๆ

"แล้วทำไมแม่ต้องกลับไปด้วยล่ะ"ในเมื่อตาไล่เรามาเเล้วนี่แล้วแม่จะกลับไปทำไม

"คุณตากำลังป่วยน่ะลูก แม่เป็นลูกคนนึง แม่ก็ต้องตอบแทนบุญคุณ ที่แม่ยอมทำตามคำไล่แม่ก็ ผิดมากเเล้ว แม่ไม่ได้บอกความจริง กับตาของลูก
 แต่ถ้าแม่บอกความจริงไปมันต้องเกิดเหตุนองเลือดขึ้นแน่"

"อะไรนะแม่ มันขนาดถึงกับนองเลือดเลยหรือ" รู้สึกตกใจมาก แม่พยักหน้า

"ทำไมล่ะ" ถามเพราะอยากรู้อยากเห็น

"แม่บอกไม่ได้หรอกลูก แม่ขอโทษที่ตอนนี้แม่ยังไม่พร้อมนะ แต่ถึง ยังไงเราก็ต้องกลับ" แม่พูดทำหน้าเศร้า
 
ผมเองก็รู้ดีว่าเพราะอะไร เพราะว่าแม่ก็รักพ่อมากการไปครังนี้ไม่รู้จะได้กลับมาที่นี่อีกไหม ถึงจะได้กลับมา แต่ก็คงอยู่ด้วยกันไม่นานอย่างเช่นเมื่อก่อน

"คุณ  ผมรักคุณนะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกผมอยากให้คุณรู้เพียงว่าผมรักคุณมากและจะรักตลอดไปด้วย" พ่อเกลี่ยน้ำตาแม่ออก แม่ผมก็ร้องหนักขึ้นอีก
ผมเองตอนนี้ก็รู้สึกสับสนจนไม่รู้จะทำอะไรได้แต่นั่งมองพ่อกับแม่กอดกันร้องไห้ จนพี่มิ๊คมาสะกิด และให้ผมออกมา

"พี่มิ๊ค รู้เรื่องพวกนี้มานานเเล้วสิ"

"อืมพี่รู้มาตั้งแต่8ขวบเเล้วล่ะ" พี่มิ๊คว่าแล้วก็เช็ดน้ำตาผมให้

"แต่พี่ก็รักคิโบเหมือนน้องคนนึงนะ"

"ครับ"

"คิโบ  พี่ฝากดูแลแม่ด้วยนะ ถึงคิโบจะไปอยู่ที่นั่น พี่จะพยายามไปเยี่ยมคิโบกับแม่นะ  เรายังโทรคุยกันได้เหมือนอย่างเคยๆไงล่ะ บางทีไม่นานหรอกพี่อาจจะไปอยู่กับคิโบ เพราะพี่ทำเรื่องขอบริษัทไว้เเล้ว"
พี่มิ๊คกอดผมแน่น เหมือนกับว่าของสำคัญจะหลุดหายออกไป

 ผมเองก็ได้เเต่เหม่อ  จะไม่ได้อยู่กับพี่ชายและพ่ออีกต่อไปแล้ว ถึงเเม้ว่าพี่มิ๊คจะบอกเเบบนั้นเเต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร รู้สึกสับสนกังวลหลายๆเรื่อง
แต่สิ่งที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวของผมนั่นคืออยากเห็นหน้าพ่อของตัวเอง  อยากเจอ อยากพบ แล้วก็ตะโกนถามใส่หน้าว่า   หัวใจทำด้วยอะไร 
ขบปากแน่นด้วยความโกรธ ผมจะเอาคืนกับสิ่งที่เค้าทำกับแม่ไว้ การที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้เสียใจ  คนๆนั้นมันต้องชดใช้!!




..........................



nOsTrAdamUsz

  • บุคคลทั่วไป

nOsTrAdamUsz

  • บุคคลทั่วไป
ค้างอย่าแรง ปริศนาเพียบ  :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
น่าติดตามมากๆ

แอบสงสัยว่าจะต้องไปเกี่ยวข้องกับนายมาเฟียนั่นแน่ๆ อิอิ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ตอนที่4






 สวัสดีครับ ผมชื่อ คิโบ คิโบ ที่แปลว่าความหวัง ผมเป็นคนไทยครึ่งญี่ปุ่น แต่สายเลือดที่แท้จริงของผมไม่มีเชื่อสายของคนไทยเลย
ผมมีพี่หนึ่งคน แต่พี่ก็คนละสายเลือด ผมคิดว่ามีพ่อที่แสนดี แต่พ่อของผมกลับเป็นแค่พ่อเลี้ยงที่ยอมรับผมในตอนเกิดเท่านั้น 


"เดินทางให้ปลอดภัยนะ"พ่อ

"ไปญี่ปุ่นโทรหาพี่ด้วยนะ"พี่มิ๊ก

"เดี๋ยวกูจะตามมึงไป" ไอ้ไนท์



ลาก่อน เเล้วเจอกัน ถ้าวันไหนมีโอกาศ คิโบจะกลับมาหาทุกๆคน




"เป็งไงบ้างลูก" แม่ถามผมในขณะที่ผมกำลังนอน และรู้สึกอยากอ้วกอย่างแรง

"คิโบแค่เวียนหัวน่ะแม่"

"จ้ะ อีกแค่1 ชม. เราก็จะถึงแล้ว ทนหน่อยนะ" แม่พูดแล้วลูบหัวผมเบาๆ


 ท่าอากาศยานฮะเนดะ



รอบสองที่ผมได้มาเหยียบที่นี่ ..................



ผมเดินตามแม่ไปอย่างเงียบๆ แม่บอกว่ามีคนมารอรับเราอยู่เเล้วซึ่งเป็นคุณลุงของผมเอง



"ยู" แม่ตะโกนเรียกใครซักคน ทิ้งของกองไว้ให้ผมเเล้วเข้าสวมก่อนผู้ชายวัยกลางคนทันที  ต้องลำบากผมเก็บเเละลากเข้าไปหาเลยเนี่ย

"คิโบ สวัสดีคุณลุงสิลูก" แม่พูดเเบบดีใจและแนะนำให้ผมได้รู้จักญาติคนเเรกของผม

"สวัสดีครับ" ผมกล่าวสวัสดีและยกมือไหว้อย่างไทยๆ

"สวัสดีครับ หลานชาย " คุณลุงทำแบบผมบ้างแล้วกอดผม  รู้สึกแปลกๆ ไงไม่รู้ไม่อยากให้กอดเลย

"หน้าเหมือนเธอไม่มีผิดเลย ฮานะ" ลุงยู มองใบหน้าผม แล้วจับหันไปมาจนน่ารำคาญ

"พี่ก็ ก็ลูกฉันนี่"

"แต่ คิโบเป็นผู้ชายนี่ไหงกลายเป็นผู้หญิงไปได้ล่ะ" ลุงยูทำหน้างง  ผมโกรธมากเลยที่ถูกว่าอย่างงี้  แม่ผมก็ขำอยู่นั่นแหละ

"ขอโทษครับผมเป็นผู้ชาย"อดไม่ได้ที่จะแก้ตัวเอง  แต่ก็ผู้ชายจริงๆอ่ะ

"หา" จะหาทำไมวะก็กูผู้ชายจริงๆนี่หว่า เซงมากรู้สึกไม่ประทับใจเลยกับการพบกันครั้งแรก

"อ่อลุงขอโทษนะ" ลุงยูคงสังเกตุเห็นใบหน้าที่ไม่พอใจของผมเเน่ๆ เลยทำหน้าเหมือนสำนึกผิด

"เอาล่ะเราเดินทางกลับบ้านกันเถอะนี่ก็ใกล้จะค่ำแล้ว" แม่ผมเป็นคนเสนอ คงรู้เเล้วล่ะสิว่าลูกชายไม่พอใจ ชิ๊



เราใช้เวลาเดินทางด้วยรถ2ชม.ก็ถึง โดยมีคนหน้าตาโหดๆ เป็นโชเฟอร์ เป็นคนขับและแม่กับลุง ก็คุยกันมาตลอดทาง
เรามาถึงบ้านหลังใหญ่ที่มีกำแพงสูงจนมองไม่เห็นด้านใน หยุดที่หน้าประตูซักพักประตูก็เปิด
คนขับรถหน้าโหดที่ลุงผมเรียกเขาว่าโซมะ เลี้ยวรถเข้าบ้านทันที พอผมกับเเม่ลงจากรถที่ผมพอจะเห็นอยู่เเล้วว่ามันเเหม่งๆเพราะเห็นคนหลายคนมายืนต่อเเถวหน้ากระดานทั้งสองฝั่ง


เหมือนรออะไรบางอย่าง



"ยินดีต้อนรับกลับครับคุณหนู!!!" ทำไมต้องพูดกันอย่างพร้อมเพรียงหยั่งกะทหารอย่างนั้นด้วยวะ

 นึกภาพหนังเรื่องยากุซ่าตอนที่เจ้าพ่อ กลับถึงบ้านแล้วมีลูกน้องมารอรับมัน..........เหมือนมากๆเลย

"ฮานะจัง~ " นี่ก็ใครอีกไม่รู้ วิ่งเข้ามากอดแม่   ชายดูมีอายุมากเเล้ว แต่หน้าตายังดูดีไม่แก่มากนักใส่ชุดยูคาตะคีบเกี๊ยะ มีอาการร้องไห้ฟูมฟายกอดแม่   

"คุณพ่อคะ" แม่พูดเบาๆแล้วกอดตอบ

อ้อ คุณพ่อ........คุณพ่อ...........ตา.......ตาเรา  เออ แปลกคนดี สงสัยคงจะคิดถึงแม่มาก  แล้วเมื่อไรจะได้เข้าบ้านเนี่ย ผมเหนื่อยจนเมื่อย แถมปวดหัวอีก

"ขอโทษนะครับ จะเข้าบ้านได้หรือยัง ผมปวดหัวมากเลย" ผมว่าอย่างเสียไม่ได้เพราะ ตอนนี้ปวดจนจะล้มอยู่แล้ว

"อ๊ะ ลืมไปเลยค่ะพ่อ นี่คิโบค่ะ"แม่แนะนำ  ขอเหอะไปแนะนำตัวในบ้านได้ไหม

ตาผมหันมองมาทันทีผมยกมือไหว้  แต่ไม่ได้พูดอะไรมากมาย  ไม่อยากพูดทักทายเพราะตอนนี้ปวดหัว*2

"นี่น่ะหรอคิโบคุง" ตาว่าอย่างเรียบๆพลางมองสำรวจตัวผม

"ค่ะ"  แค่นั้นหล่ะเขาก็เดินมากอดผม   เออดีกอดกันเข้าไป รัดกันให้ตายไปข้าง  ตูไม่ไหวแล้ว เอิกกกกกกกกกก

"ว้าย คิโบ / คิโบ /คุณหนู" เสียงเอะอ่ะโวยวายดัง โหวเหวกจนหน้ารำคาญ  แต่ผมตอนนี้รู้สึกหน้ามืด จนทนไม่ไหว หูือื้อตาลายไปหมด คร่อก  สลบดีกว่า




.......................................................





ผมรู้สึกรำคาญอย่างแรง หมือนมีใครมาเขี่ยหน้า เขี่ยตา เล่นผม จนต้องเอามือปัดออกไป แต่มันก็ยังไม่ละความพยายาม มันยังเขี่ยผมอยู่  ใครฟะคนจะนอน ผมค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ
ตอนนี้ภายในห้องมืดๆ มีไฟสลัว ของแสงโคมไฟ ผมได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังจัดงานเลี้ยง แว่วๆ มา ผมหันไปทางซ้าย ก็พบกับตู้ที่เหมือน เก็บที่นอนแบบญี่ปุ่น แต่พอหันมาทางขวา




"เฮ้ย!"  ผมตะใจจนสะดุ้งลุกขึ้นมา และขยี้ตาอีกครั้ง ตาฝาดป่าววะ  แต่ก็ยังเจอผู้ชายที่ที่ตัวเองรู้จัก นั่งคุกเข่ายิ้มมาให้ผมจนแก้มแทบปริ่

"ตื่นแล้วหรอ" ทาคุว่าแล้วยิ้มจนเห็นฟัน

"ทาคุ     ได้ไง" อดงงไม่ได้ ทาคุมาอยู่ที่นี่ได้ไง

"เป็นยังไงบ้างรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม" ทาคุเอามือมาอังหน้าผาก อังคอ

"ไม่  เอ้ย ทาคุมาอยู่นี่ได้ไง"

"ก็นี่มันบ้านทาคุนี่" ตกใจมากเลยถ้านี่บ้านทาคุ งั้นทาคุก็ต้องเป็นอะไรซักอย่างกับครอบครัวผมแน่ๆ

"อะไรนะ" ผมทำน้ำเสียงอย่างตกใจ

"ทาคุดีใจมากเลยนะที่มีคิโบเป็นน้อง  ในที่สุดเราก็อยู่ด้วยกันจนได้" ทาคุเข้ามากอดผม

"คิโบ เป็นน้องหรอ"

"อื้ม ทาคุเป็นลูกของ ลุงยูของคิโบไง" ทาคุอธิบาย ดีใจอ่ะ   ผมจับมือทาคุ มองทาคุด้วยความดีใจ

"จริงหรอ" ทาคุพยักหน้า ฮ่า ผมมีพี่ชายหน้าตาดี  แต่  ผมนึกว่าทาคุอายุเท่าผมเสียอีก

"ทาคุอายุเท่าไรมาว่า คิโบเป็นน้อง" ผมถามด้วยความอยากรู้

"25"  โหแก่กว่าตั้ง3ปี แต่ช่างเถอะอย่างน้องอยู่ที่นี่ผมก็ไม่เหงาแล้ว

"โลกเรานี่ช่างกลมจริงๆเลยนะ" ผมว่าอย่างดีใจ

"คิโบค่อยยังชั่วหรือยัง" ทาคุถามผม ผมพยักหน้าตอบ

"งั้นดีละปะทุกคนรออยู่" ทาคุลุกยืน แล้วยื่นมือมาให้ผมจับ ผมเองก็จับมือทาคุ พอลุกขึ้นยืนตัวเซ ทาคุก็พยุงผมไว้

"โอเคนะ"

"อื้ม"



..........................................................




ตอนนี้ผมกำลัง นั่งอยู่ข้างๆตา  ที่มีชื่อว่าทาอิจิ และมีแม่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง โดยมีใครไม่รู้ใส่ชุดแปลกๆหรือเป็นรสนิยมของเขาก็ไม่รู้นั่งหันหน้าเข้าหากันอยู่สองฝั่ง
แต่ละคนทำหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด ผมมองไปหาทาคุที่กำลังจับมือให้กำลังใจผม

"พวกนายทุคคนในที่นี้" ตาทาอิจิเริ่มพูด

"ต่อไปนี้คุณหนู ฮานะ และนายน้อย คิโบ จะเป็นเจ้านายอีกคนของพวกนายทุกคน เขามีสิทธื์สั่งพวกนายเหมือนที่ฉันสั่ง เพราะฉะนั้นจงเคารพ เเละเชื่อฟัง
คอยดูแล ลูก และหลานฉันให้ดี ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไรล่ะก็ พวกนายคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

"ครับ!!!!!" ประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียงจนผมสะดุ้งเล็กน้อย

ผมไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หนังที่ผมเคยดูเกี่ยวกับพวกมาเฟีย หรือยากุซ่า แนวที่ผมชอบ มันจะเกิดขึ้นจริงในชีวิตของผมจริงๆ ดีใจอ่ะ ได้เป็นมาเฟีย แหะๆ ไม่ช่าย ตกใจต่างหาก
เเต่มันก็ดูตื่นเต้นดี ได้ลองชีวิตเเบบใหม่ ดูซักครั้งก็คงไม่เสียหาย

"ฝากตัวด้วยนะคะ" แม่ผมโค้ง อย่างสวยงาม

"ฝากตัวด้วยครับ"ผมเองก็ทำตามเเม่

"ฝากตัวด้วยครับ!!!" ผู้ชายทั้งหมดที่ขึ้นชื่อว่าลูกน้องของตระกูลคิมูระ  กล่าวคำอย่างพร้อมเพรียงเเละโค้งคำนับเช่นกัน




....................




"ทาคุ คิโบนอนด้วยคนนะ" ผมอ้อนทาคุเพราะรู้สึกไม่คุ้นกับที่นี่เอาเสียเลย ก็เพราะบรรยากาศแบบญี่ปุ่นขนานแท้นี่แหละ บ้านทรงญี่ปุ่นหลังใหญ่ที่มีหลายห้องหลายส่วน
มีสวนกว้างมีบ่อปลาคลาฟจัดว่าเป็นวิวที่สสวย แต่ผมกลับรู้สึกกลัว สงสัยมันคงให้บรรยากาศญี่ปุ่นเกินไปเหมือนมีความขลังในตัว แน่ๆ

"มาก็อ้อนเลยหรอ" ทาคุว่าแล้วยิ้มหัวเราะ

"น้าคิโบนอนไม่หลับ" ผมหยอดลูกอ้อนอีกครั้ง

"จ้า  จ้า" เยส  ดีใจจังนอนกอดทาคุด้วย

ผมและทาคุเรานอนคุยกันทั้งคืน ตามประสาพี่น้องที่เพิ่งเหมือนรู้จักกัน ทาคุโม้ไปเรื่อยถึงตระกูลของคุณตาว่าเป็นอย่างไร
ตามที่ผมถาม ตระกูล คิมูระ เป็นตระกูลใหญ่ที่มีคนอยู่ร่วมกันถึง20กว่าคนแต่ละคน เป็นผู้ติดตามของตา เเละเคารพ
บางคนตาก็ อุปถัมภ์  มาตั้งแต่เล็ก และยังมีคนอื่นๆอีกที่อยู่ในเขตนี้ที่เป็นลูกน้องตาเเละคอยรับใช้คอยดูและเขตอยู่ซึ่งทาคุก็เรียงลำดับให้ฟังอยู่หรอก

แต่ผมก็งง จนไม่ได้จำ  แต่ที่แน่ๆ ตระกูลคิมูระ เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลเป็นอันดับ2ของญี่ปุ่น อันดับเเรก เป็นของตระกูลนากามูระ
ที่เป็นดองของตระกูลเรา และยังมีตระกูลโฮโจ ซึ่งเป็นอันดับที่สาม  แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของตระกูลโฮโจกับตระกูลอันดับ1และ2กำลังมีปัญหากันเกิดขึ้น

เพราะตระกูลโฮโจเหมือนกำลังทำอะไรบางอย่าง ซึ่งตอนนี้เรากกำลังรอสังเกตุเเละสืบอยู่    พอผมได้ยินว่าตระกูลโฮโจ
ผมก็รู้สึกไม่พอใจมากเหมือนไม่ชอบเลยชื่อนี้ แต่ก็ต้องระงับอารมณ์ไม่ให้ทาคุรู้



"นี่ทาคุ"

ผมรีบเปลี่ยนเรื่องดีกว่าก่อนบรรยากาศจะเปลี่ยนเพราะผม

"อื้ม  อะไรหรอ"ทาคุหันมาถาม

"ถ้าทาคุเป็นพี่ชายเรา  ไอ้บ้าโควตะก็เป็นพี่ชายเราด้วยสิ" ทาคุพยักหน้า

"อืม  แล้วหมอนั่นรู้หรือยังเรื่องนี้"

"ยังหรอก"  หึ อยากเห็นหนาตอนมันรู้จริงๆถ้ารู้ว่ามีผมเป็นน้องจะทำหน้ายังไง จะเเกล้งแย่งทาคุมาเลยเอาให้อกแตกตายเลยฮ่าๆๆๆ

"ทำหน้าแบบนี้มีแผนไรอีกสิ" เหมือนทาคุจะรู้ทัน หลิ่วตาถามผม

"เปล๊า เค้าเปล่าคิดไร"ผมเเก้ตัวเเทบจะทันที เเต่ทาคุดูเหมือนจะไม่เชื่อเพราะสายตาที่มองผมนั่นเเหละ

"จริง"

"จริงดิ่  ไม่เอาง่วงละ"แล้วผมก็คลุมโปงหนีทาคุนอน แต่ในสมองกำลังหาเรื่องแกล้งคนอยู่  หึหึหึ จะเเกล้งมันยังไงดีน้า 



..............................





*

ก๊อก ๆ  เสียงเคาะประตูจากด้านนอก บ่งบอกว่ามีคนต้องการพบ ยูคิลดมือจากการอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน แล้วเอ่ยให้บุคคลนั้นเข้ามา

"มีอะไร"ยูคิไม่ค่อยพอใจนัก เมื่อเจอหน้าคนที่ อยากจะพบกับเขา

"หึ พี่ชายมาหาทั้งที ใช้น้ำเสียงทักทายกันอย่างนี้หรอ" ไดอิจิ พูดและยิ้มเเสยะ มันทำให้ยูคิไม่พอใจนัก

"พี่ชาย ที่มีสายเลือดเพียงแค่เศษผงน่ะหรอ น่าตลกนะ นายไม่สมควรให้ฉันเรียกพี่หรอก" ยูคิกล่าวยิ้มเยาะอย่างสะใจเมื่อเห็น ไดอิจิเปลี่ยนสีหน้า บ่งบอกอารมณ์โกรธ

"แก ไอ้ยูคิ" ไดอิจิ จับชายเสื้อยูคิอย่างเอาเรื่องแต่มีหรือยูคิจะกลัว เขาปัดมันออกอย่างไม่ยัยดี

"มีอะไรรีบๆพูดมาฉันไม่อยากเสียเวลากับคนอย่างนาย" ยูคิกล่าวด้วยคำที่เรียบเฉย

"แก ก็น่าจะรู้นี่ ว่าคนของแกไปก่อเรื่องอะไร"

"เรื่องอะไรล่ะ"ทั้งๆที่รู็อยู่แก่ใจ แต่ยูคิก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เพื่อรอปฏิกิริยาของคนตรงหน้า

"ก็เรื่องลูกน้องแกมาหาเรื่องกับคนของฉันไง" ไดอิจิทุบโต๊ะอย่างเหลืออด

"แล้วยังไงล่ะ" ยูคิ หัวเราะ ด้วยความสมเพศของคนตรงหน้า จะเรียกอะไรดี โง่ หรือ ไม่มีปัญญาจัดการคนของตัวเองกันแน่

"เท่าที่ฉันรู้มา คนของนายมาหาเรื่องในเขตของฉันก่อนนะ"

"คนของแกมันก็ดีแต่พูดฟ้องเจ้านายเพื่อเอาตัวรอดนั่นแหละ" ยูคินึกขันอีกครั้งคำพูดนี้มันน่าจะเป็นคำพูดของเค้ามากกว่าไม่ใช่หรอไง
แต่ก็รู้จุดประสงค์ของคนตรงหน้าอยู่ดี

"งั้นหรอ อืมถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นคนตักเตือนลูกน้องของฉันเอง" ยูคิกล่าว และกลับไปสนใจหนังสือพิมพ์ต่อ

"ให้มันจริงอย่างที่พูด  นายคงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" ไดอิจิทิ้งทายเเละ เดินออกจากห้องไปด้วย อาการ กระฟัดกระเฟียด

ยูคิถอนหายใจอีกครั้ง เบื่อจริงที่จะต้องอยู่ร่วมโลกกับคนเช่นนี้ รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตผู้นำไปวันๆ ตั้งแต่เล็กจนบัดนี้ เขาไม่เคยได้รับอิสระเหมือนคนทั่วไปเลยสักครั้ง
เพราะได้รับมอบหมายหน้าที่ โดยถูกยัดเยียดมาให้ อย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก็ต้องยอมรับมันเพื่อตระกูลของตัวเองทั้งๆมีพี่น้องมากมายแต่ทำไมตัวเองต้องเป็นคนดูเเลเเต่เพียงผู้เดียว

"ชิน เข้ามาข้างในเดี๋ยวนี้" ยูคิสั่งลูกน้องเข้ามาซักพักชินก็เข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน

"ครับคุณยูคิ" ชินคำนับและรอคำสั่งจากเจ้านาย

"คืนนี้ ไปที่ร้าน มะยะได ฉันจะประชุมเรียกกลุ่ม ฮายาเตะมาด้วยบอกพวกมันมาให้หมดถ้าไม่มามีปัญหาแน่"

"ครับ" ชินรับคำและออกจากห้องไป





.................




"ไหนพวกนายบอกฉันมาซิใครมันเป็นคนเริ่ม" ยูคิกล่าวถามชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งเรียงเเถวอย่างพร้อมเพียง

"พวกของโฮโจครับ ลูกพี่" ผู้ชายคนหนึ่งพูดอย่างตั้งใจไม่มีวี่แววของคำโกหก

"เล่ามา" ยูคิเปิดโอกาศให้ลูกน้องที่นั่งก้มหน้าพูด

"เมื่อวานที่มีเรื่องพวกผมกำลังดูเเลเขตเหมือนอย่างทุกๆวัน แต่คนของโฮโจ เข้ามามีเรื่องในเขตเรากับคนธรรมดา  พวกเราจึงเข้าไปห้ามเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหา
แต่ทางโฮโจพวกมันกลับไม่ฟังเริ่มชกเราก่อน จากนั้นเลยเกิดเหตุครับลูกพี่" ยูคิพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ไม่ได้ว่าอะไรมากนัก

"ทีหลังมีเรื่องพวกนาย อัดวีดีโอใส่โทรศัพท์หรือไม่ก็หาหลักฐานมาแก้ตัวด้วย พวกนั้นมันกำลังคิดอะไรอยู่เราไม่รู้แต่ที่แน่ๆ พวกมันอยากให้ฉันเล่นงานพวกนาย
 แต่เอาเถอะฉันจะปล่อยพวกนาย นี่ถือว่าเป็นการตักเตือนเเล้วกัน"

"ครับ" ลูกน้องรับคำอย่างเเข็งขัน



ยูคิพูดจบก็ลุกขึ้นเพื่อต้องการจะกลับ


"จะกลับเลยไหมครับลูกพี่" ชินถามเมื่อยูคิเข้ามานั่นในรถ

"ไปส่งฉันที่สวนสาธารณะ ฉันอยากเดินเล่นหน่อย"

"ครับ"

เมื่อมาถึงยูคิก็ลงจากรถ และเดินไปตามทางเดิน รับลมที่เย็นสบาย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก เพราะมันเงียบไม่มีเสียงเอะอะโวยวาย
ไม่มีผู้คนเดินพลุกพล่าน แน่ล่ะเพราะตอนนี้มันเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนเเล้วคงไม่มีใครอยากที่จะออกมาเดินอย่างเขาหรอก

"คิโบคุง ส่งมาสิ"

 ยูคิเดินมาจนสุดทางจนมาโผล่สนามบาสใกล้ๆกับสวน มีเสียงคนกำลังเล่นกันยามดึกอย่างสนุกสนานอดไม่
ได้ที่จะเดินเข้าไปดู ยังมีคนออกมาเล่นในยามดึกดื่นขนาดนี้ด้วยหรือไง

"เอ้า  ทาคุรับนะ" เด็กชายร่างเพรียวโยนลูกบาสให้กับบุคคลที่คุ้นหน้า ทาคุรับได้อย่างแม่นยำและกำลังเลี้ยงหลบลูกน้อง


"อย่างขวางนะไม่งั้นอัดลูกบาสใส่หน้าเเน่" เด็กชายว่าเมื่อรับลูกจากทาคุคืน เเละเลี้ยงลูกไปยังแป้นบาสแต่เมื่อเจอ ผู้ชายร่างสูงใหญ่บังกลับขู่ฟ่อ 

"ฮ่าลงแล้ว" คิโบกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ  ยูคิอดขำไม่ได้กับท่าทางของคิโบ ดีใจเพราะชูตบาสลง ด้วยการขู่ฝ่ายตรงข้ามนี่นะ
เด็กคนนี้คงจะเป็นคนสำคัญของตระกูลคิมูระแน่ๆไม่งั้นไม่สามารถสั่ง ลูกน้องเเนวหน้าของโควตะได้หรอก

"ตลกมากมะ" ยูคิ สะดุ้งทันทีเมื่อใครซักคนมาคุยข้างๆในขณะที่เขากำลังเผลอ

"อ้าว ไงไอ้เพื่อนยาก" ยูคิหันไปทักทายโควตะ  แต่ดูเหมือนหมอนี่จะอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนะ ดูสีหน้าเเปบเดียวก็รู้

"อืม"โควตะรับคำสั้นๆเเล้วหันไปมองคนในสนาม

"เด็กคนนั้นใครล่ะ ฉันไม่เคยเห็นหน้า" ยูคิอดที่จะถามไม่ได้

"น้องชายฉันเอง" โควตะ พูดด้วยอาการเหมือนไม่เต็มใจรู้สึกกระดากปากชอบกล น้องชายตนเองที่ถูกทำเหมือนกับตนเองไม่ใช่พี่ชายนี่มันช่างน่าสมเพศจริงๆ

"หือ" ยูคิแปลกใจ

"ลูกของอาฮานะน่ะ" โควตะอธิบาย

"คุณน้ากลับมาแล้วหรอ" ยูคิรู้สึกดีใจเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ใจดีซึ่งมาเล่นกับเขาบ่อยๆในสมัยเด็ก

"กลับมาได้อาทิตย์นึงเเล้ว" โควตะว่าแล้วเดินลงสนามไป

"เฮ้  เมื่อไหร่จะเลิกกันเนี่ยมันดึกมากเเล้วนะ" โควตะลงไปพูดดุคนในสนาม ซึ่งทุกคนต่างก็เกรงโควตะ ยกเว้น คนร่างเล็กที่ตอนนี้
ทำหน้าไม่พอใจเมื่อรู้สึกโดนขัดจังหวะการเล่น

"ยุ่งไรด้วยล่ะ ทาคุยังไม่เห็นบ่นเลย" คิโบเถียงข้างๆคูๆทั้งๆที่ยังไม่ได้ถามความเห็นของคนอื่นเลยว่าอยากเลิกไหมช่างเป็นเด็กที่เอาแต่ใจจริงๆ

"ฉันก็ไม่อยากยุงหรอก ถ้าทาคุไม่มีงานที่จะต้องทำน่ะ"

"งานไรอ่าทาคุ" คิโบหันไปถามทาคุ

"ทาคุต้องกลับไปที่โรงแรมน่ะ คิโบวันนี้คงกลับบ้านด้วยไม่ได้เเล้วล่ะ"  ทาคุพูดด้วยใบหน้าที่ใจดี  แต่คิโบกลับทำหน้าเเบบโดนขัดใจ

"อ้าวงั้นคิโบก็นอนคนเดียวดิ่" คิโบพูดอย่างเสียดาย

"นอนคนเดียวบ้างก็ดี โตขนาดนี้แล้ว ยังจะต้องให้ทาคุไปนอนเป็นเพื่อนด้วยอีก" โควตะพูดด้วยท่าทางหมั่นใส้

"อิจฉาอ่ะเดะ" คิโบยิ้มเยาะ 

"หึ อย่างฉันน่ะหรอจะต้องอิจฉา  ยังไงฉันก็อยู่กับทาคุมาก่อนนาย" ยูคิมีความรู้สึกเหมือนเห็นรังสีอะไรบางอย่าง ออกมาจากคนทั้งสอง
 จะเรียกอะไรดีน่ารัก หรือน่าตลกดีนะ พี่น้องทะเลาะกัน

"ทาคุงั้นคิโบ ไปนอนด้วยน้า"คิโบหันไปใช้ลูกอ้อน

"ไม่ได้หรอกคิโบ  เดี๋ยวโซมะจะไปส่งที่บ้านเอง"ทาคุพูดกับน้องชายอย่างสุภาพ

"โหวไม่เอาอ่ะไม่อยากกลับ กับโซมะ"

"งั้น ยูคินายไปส่ง น้องชายฉันให้หน่อยดิ่่" โควตะหันมาเสนอยูคิเเทน คิโบหันมามองอย่างประหลาดใจเมือพบยูคิ
คิโบเลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าเหมือนถามในใจว่า ไอ้นี่ใคร ยูคิไม่ตอบเเต่พยักหน้าเเทน

"โหย ให้ไปกับคนแปลกหน้า ไปกับโซมะยังดีซะกว่า" คิโบทำหน้าไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม

"นายไปกับโซมะคนเดียวไม่ได้หรอก  ฉันจะให้นายไปที่ผับเอานี่ไปให้เจ้ลิซซี่ ให้หน่อย" โควตะส่งของบางอย่างให้

"ไรอ่ะ"คิโบถามอย่างประหลาดใจเตรียมจะเเกะออกมาดู

"เฮ้  ไอ้เด็กไม่มีมารยาท นี่มันของส่วนตัว นายจะเปิดดูได้ไง" คิโบทำหน้าโดนขัดใจเเล้วล้มเลิก ที่จะเปิดมันออกมาดู

"ก็ได้งั้นก็โอเคละกัน"

"ปะทาคุเราไปกันเถอะ" โควตะโอบไหล่ทาคุ และหันมาทำหน้าล้อเลียนใส่คิโบที่ตอนนี้ทำหน้าบูดเข้าไปอีก



"นี่คุณ  จะยืนอีกนานมะ ผมเหนียวตัว เเล้วก็ร้อนมากด้วย" คิโบหันมันว่ายูคิ จนยูคิตั้งตัวแทบจะไม่ทัน  อะไรของไอ้เด็กคนนี้กันนะ




..............................

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
คิโบน่ารักจัง ดื้อจริงๆ หลงรักคิโบ  :กอด1:

ออฟไลน์ AoMSiN555

  • กรูบ้า.....อย่าทักกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
^
^
^
^
^
^
^
^

จิ้มคนแรกเลย อิอิ  :-[ :-[

สนุกมากเลย คิโบน่ารักอะ  :z1: :z1: :z1:

แล้วมาอีกอะจ๊ะ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

กอด :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: นักเขียนสุดน่ารักอิอิ :call: :call:

nOsTrAdamUsz

  • บุคคลทั่วไป
รักคนเขียน  :-[ :-[   
มาไวดีจัง

Amare . . . . ?

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สนุก ดีๆ

ชอบๆ

มาต่อ อีกๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






netthip

  • บุคคลทั่วไป
มาเฟีย โคตรชอบเลยอะ

ออฟไลน์ jagkree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • Facebook
มันสนุกมากกกกก   o13 o13 มาต่อเร็วๆๆๆนะ  :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
น่าติดตามอะ น่าสนุกใครคือพระเอกเนี้ย รู้สึกนายเอกจะแพ้ทางตลอดเลย นายเอกน่าจะมีบทบาทที่สำคัญกว่านี้เนอะ

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
คิโบน่ารักอ่ะ  :-[ :impress2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หลงรักคิโบตัวแสบน่ารักได้อีก :L1:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ต่อไวไวนะจ้ะ

ออฟไลน์ yogurtjung

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-11
คิโบ คู่กับยูคิ รึเปล่าเนี่ย คิคิ

ีรอตอนต่อไปนะคะ

 :L2:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ก๊ากกก :laugh: อ่านไปยิ้มไปตลอดเลยอ่ะ
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุข :กอด1:

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ตอนที่5





ตอนนี้ผมกำลัง นั่งอยู่ในรถ ของคนแปลกหน้าที่ชื่อยูคิ ผมรู้สึกว่าหน้าเค้าคุ้นมาก เอ  เราเคยเห็นที่ไหนหรือเปล่านา คิดไงก็คิดไม่ออก
จ้องหน้าเเล้วคิดนึกว่าเคยเจอกันหรือเปล่า  มันขัดๆไงไม่รู้ เหมือนเคยเห็น แต่หน้าตาหล่อดีนะ หล่อเเบบญี่ปุ่น ถ้าถอดเเว่นตานั่นออกมันจะหล่อซักแค่ไหนนะ

"มีอะไรติดหน้าผมหรือไง" เอือก  สะดุ้งเลยเรา มองเค้าจนโดนจับได้เลย

"เปล่าแค่รู้สึกว่าคุณหน้าคุ้นๆ" ผมหันไปทางอื่นรู้สึกอาย เราเสียมารยาทหรือเปล่าเนี่ย

"หน้าผมโหลขนาดนั้นเลยหรอ" ยูคิถามแล้วยื่นหน้ามาใกล้ มันจะยื่นหน้าเข้ามาทำไมฟระ คนยิ่งอายๆ ผมส่ายหัวว่าไม่ใช่

"เปล่า" ผมหันตาไปมองข้างหน้าเเทน แล้วก็ไปสะดุดที่เเว่นตาสีดำ

"นั่นแว่นคุณหรือเปล่า" ผมชี้ไปด้านหน้ารถ ที่มีชินเป็นคนขับ มีแว่นตาดำวางไว้

"อืม"

"งั้นใส่ให้ผมดูหน่อยดิ่" ยูคิเลิกคิ้วน้อยๆ เเต่ก็ให้ชินหยิบให้แล้วเอามาใส่

"นั่นไงว่าแล้ว" เอากำปั้นทุบมือ อย่างกระจ่างในข้อข้องใจ

"คุณนั่นเอง ที่ผมชนตอนจะกลับเมืองไทย" ยูคิทำหน้าแบบงงเข้าไปอีก ลืมแล้วเเหงๆแต่ช่างเหอะ

"แล้วคุณก็ ว่าผมแทนเจ้านายคุณนั่นเอง"ผมชี้ไปที่ชิน ตอนนี้กำลังทำหน้าแบบงานเข้า

"ผมต้องขอโทษด้วยครับ" ชินรีบขอโทษทันที

"อืม ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่"

"เราเคยเจอกันด้วยหรือ" ยูคิเลิกคิ้วเข้าไปอีก ผมรู้สึกไม่ชอบใจเลย ลืมคนหล่ออย่างคิโบได้ไง

"จำไม่ได้ก็ช่างมัน" งอลละไม่พูดดีกว่า ยังจะมีหน้าทำหน้าเป็นลูกหมางงอีก ชิ๊



ผมเเละยูคินั่งรถได้ซักพักก็ถึงผับ




"คุณรอผมที่รถก็ได้ เดี๋ยวผมก็ออกมา" ยูคิพยักหน้าเข้าใจผมเลยรีบเอาของเข้าไปให้เจ้ลิซซี่

"สวัสดีค่า นายน้อย มาซะดึกดื่นเลย มันอันตรายนะค้า" เจ้ลิซซี่ว่าแล้วเข้ามากอดเเขน เจ้แกจะเกาะหนึบไปไหมเนี่ย

"โควตะให้เอานี่มาให้" ผมยื่นถุงกระดาษให้ลิซซี่คว้ามาและแกะ อยู่ตรงนั้น


"ต๊ายต้องขอบคุณมากๆเลย นะคะ ไทยากิของโปรดเจ๊เลย นายน้อยคิโบจะทานด้วยกันไหมค้า"  ฮึ่ยเสียท่าไอ้โควตะอีกแล้ว
มันหลอกผมให้เอาขนมมาให้เจ้ เพื่อที่จะอยู่กับทาคุกันตามลำพังสินะ แค้นมันจริงๆ

"อ้าวคุณคิโบ" เรนทักผมเมื่อกำลังจะเลิกงาน

"ดีคับเรน เลิกงานแล้วหรอ" ผมถามแล้วยิ้มให้

"ครับพรุ่งนี้มีเรียนเช้า" เรนยิ้มกลับ

"อ้าวเรนยังเรียนอยู่หรอผมนึกว่าคุณจบแล้วซะอีก"

"ฮะๆยังหรอครับผมยังอยู่มหาลัยปี3น่ะครับแต่ก็ใกล้แล้วล่ะ"  ผมอยากคุยกับเรนต่อเลยชวนเรนไปหาที่นั่งคุยกันสองคน

"เมื่อไรคุณไนท์จะมาอีกหรอครับ" เรนถาม ฮั่นแน่คิดถึงไอ้ไนท์แน่ๆ

"สิ้นเดือนนี้นะเห็นมันว่าจะมาอยู่  คิดถึงล่ะซี่" ผมทำสายตาล้อเลียน เรนพยักหน้าแล้วทำหน้าเเดง

"ครับ"เอ้า ยอมรับอีก

"ทำไมไม่ไปอยู่กับไนท์มันเลยล่ะ" ผมออกความคิดรู้ทั้งรู้มันเป็นไปไม่ได้

"คุณคิโบก็  ผมน่ะคงไม่มีทางไปอยู่กับคุณไนท์ได้หรอก"เรนทำหน้าเสียดาย

"อืม แต่ไม่เป็นไรหรอกน่าเดี๋ยวเรนก็ได้เจอคนที่ดีกว่าไอ้ไนท์แน่"  อึก ดันพูดอะไรไม่ดีไปจนได้สิเรา เรนทำหน้าเศร้าทันที

"ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ" เรนทำหน้าเศร้า แล้วเงยหน้ามายิ้มให้   ผมเปลี่ยนอารมณ์ทันที

"เเล้วคุณคิโบ ล่ะครับสนุกไหมกับงาน" เรนเปลี่ยนเรื่อง

"แหะ มันก็ดีนะ แต่เท่าๆที่ดูมาผมว่าผม แทบไม่ได้ทำอะไรเลย"

ก็งานที่ผมทำอยู่นี่ก็งานในผับนี่หล่ะ เป็นคนคอยดูเเลผับเพราะขาดคนดูแลลำพังเจ้ลิซซี่จะดูแลได้ทั่วถึงยังไง แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับงานมา ผมกลับโต๋เต๋ไปเรื่อยพอถึงเวลา
ก็เข้ามาดู มาคุยกับเด็กในผับแล้วก็ออกไปเที่ยวกลางคืนมาได้อาทิตย์แล้ว ผมว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่กลับเที่ยวมากว่าอยู่กับไอ้ไนท์ที่เมืองไทยซะอีก

"ฮะ ฮะ ฮะ สู้ๆนะครับ" เรนหัวเราะ

ผมกับเรนคุยกันนานมากพอควร ผมว่าผมลืมอะไรบางอย่างนะ เอลืมไรหว่า แต่ช่างเหอะ  นั่งดื่มกับเรนดีกว่า เดี๋ยวให้เจ้ลิซซี่ไปส่งที่บ้านก็ได้ อยากก๊ง กับเรนก่อน อิอิ 





...........................


*

"ลูกพี่ครับ ลูกพี่"ชินเขย่าตัวยูคิ

"อืมฉัน หลับไปนานแค่ไหนเเล้วเนี่ย"ยูคิ ลุกขึ้นสวมแว่นตา สบัดหัวไล่ความง่วงออกไป

"2 ชม.ครับ"

"ห๊า แล้วน้องไอ้โควตะล่ะ" ยูคิตกใจทันทีเมื่อรับรู้ว่าตัวเองหลับนานขนาดนี้

"เอ่อ ยังไม่ออกมาเลยครับ" ชินทำท่ากระอักกระอ่วน ไม่กล้าตอบสิ่งที่ได้เห็นมา

"แล้วทำไมแกไม่เข้าไปตาม" ยูคิตะคอก ชินถึงกับสะดุ้ง

"ผมเข้าไปตามแล้วครับ แต่ผมเป็นแค่ลูกน้องคงไม่มีสิทธิ์ ไปตามกลับมา"

"ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ กับแค่เด็กแกยังตามไม่ได้เเล้วยังงี้จะทำงานใหญ่ได้ไง" ยูคิ ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในผับทันที
 
แล้วไอ้เด็กบ้านั่นมันไม่รู้หรือไงว่ารออยู่ทำอย่างนี้มันเท่ากับหยามเราชัดๆ คนอย่างยูคิไม่เคยต้องรอใครนานขนาดนี้ด้วยซ้ำกลับต้องมารอไอ้เด็กที่โตแต่ตัว
แต่กลับไม่มีความคิดอย่างนี้ 


"ฮึก  ผมคิดถึงบ้านจังเลยเรน ผมอยากกลับเมืองไทย แต่กลับไม่ได้ คิดถึงอาหารไทยอยู่นี่ก็หากินยากเหลือเกิน คอยดูนะถ้าพวกนั้นเผลอเมื่อไรผมจะหนีกลับเลยคอยดู"
เสียงของคิโบรำพันถึงบ้านที่เมืองไทยดังลั่นไปทั่ว คงจะเมาเต็มที่เเล้ว เพราะพูดไทยคำ ญี่ปุ่นคำ บางทียังมีภาษาอิ้งผสมอีก เรนได้แต่ทำหน้าหนักใจ คิดผิดจริงๆที่นั่งดื่มกับคิโบ

"คุณคิโบ ครับผมว่าพอเถอะ คุณดื่มมากแล้วนะ" เรนว่าแล้วแย่งเเก้ว คืน

"ม่าย ผมไม่อวก ก็ไม่เลิกหรอก" คิโบว่าแล้วแย่งกลับ

"เอ่อ นายน้อยแต่เจ้ว่า นายน้อยอ้วกไปหลายรอบเเล้วนะ" เจ้ลิซซี่ว่า ทำหน้าแบบหนักใจ ต้องถูกตำหนิเเน่ๆ ที่ทำให้นายน้อยอยู่ในสภาพอย่างนี้ 
คิโบเองก็เช่นกันรู้ทั้งรู้ว่าคออ่อนยังจะซดเข้าไปอีกไม่รู้ว่าไปเก็บกดมาจากไหน

"ไรไม่ได้อ้วก แค่เข้าไปฉี่ ฮือทุกคนใจร้ายไม่รักคิโบเลย พ่อก็ไม่รัก พี่ก็ไม่เเล แถมทิ้งผมไปกับไอ้บ้าโควตะนั่นอีก คอยดูนะเดี๋ยวผมจะไปขวางทางรักมันถึงในห้องเลย ว๊าก"
เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะทีนี้ ยูคิมองอย่างทึ่งแบบไม่เคยพบเคยเห็น ไม่มีใครจะบ้าเท่าไอ้เด็กคนนี้อีกแล้ว จู่ๆก็ร้องว๊ากขึ้นมา ดีนะที่ผับปิดไปแล้วไม่งั้น ได้อายกันทั่วหน้าแน่

"ชินไปลากมา" ยูคิสั่งอย่างโมโห ให้ตัวเองรอตั้งนาน แต่ตัวเองกลับมานั่งดื่มสบาย เเถมยังจะอาละวาดอีก

"ใครว๊ามีสิทธิ์ ไรมาจับกูปล่อยนะเฟ้ย!" คิโบพยายามดิ้นอย่างสุดฤทธิ์ ขนาดดื่มตัดกำลังเเล้วยังสามารถดิ้นพล่านจนชินเอาไม่อยู่ขนาดนี้ เด็กนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ

"จะทำอะไรน่ะ"เจ้ลิซซี่ถามอย่างตกใจ

"ผมเป็นคนพาเจ้าเด็กนี่มาเอง ผมจะพาเขากลับ" ยูคิว่า ลิซซี่เห็นยูคิก็พยักหน้าทันที

"ฮึยปล่อยนะ ไอ้ยักษ์ ปล่อยดิ่เฟ้ย มาอุ้มกูทำมาย  ไอ้เวง" คิโบพูดภาษาไทยแต่คนที่ไม่เคยได้เรียน ฟังดูแล้วเหมือนภาษาอะไรก็ไม่รู้ แต่ยูคิกลับรู้ความหมายไอ้เด็กนี่เริ่มพูดไม่เป็นภาษาแล้ว

"ปล่อยฉันจัดการเอง" ยูคิให้ชินถอย ชินวางคิโบลง ไอ้เด็กนี่ทำท่าจะโวยต่อ แต่ถูกยูคิจับพาดบ่า

"เฮ้ย!  ปล่อยนะ ปล่อย" คิโบ ทุบหลังอย่างแรง แต่แรงของคิโบยูคิกลับคิดว่าเหมือนแมวตะปบมากว่า 
เมื่อมาถึงรถ ยูคิก็โยนไอ้เด็กบ้าเข้าไปในรถอย่างไม่ยั้ง

"อัก !     ไอ้บ้า ฮือ พ่อจ๋า แม่จ๋า คิโบโดนรังแก" คิโบร้องอย่างกับเด็กจนยูคิโมโหหนักเข้าไปอีก

"เงียบซะ ไอ้เด็กบ้า!!!" ยูคิตวาด แต่ก็ยังไม่เงียบอีก ทำให้เขาถึงกับส่ายหัวไปมา

"ออกรถได้เเล้วชิน" ยูคิหันไปว่าชินทีมัวแต่ตกใจ ไม่ยอมออกรถเสียที

"ครับๆ"

"ฮือ อยากกลับบ้าน" คิโบบ่นอยู่อย่างนั้น มาตลอด

"ก็กำลังพากลับอยู่นี่ไง" ยูคิว่า  แต่คิโบส่ายหน้า

"กลับเมืองไทย" เออเอากับมันสิ ยูคิไม่รู้จะทำไง เลยต้องโทรไปหาโควตะแทน

"ดีครับ"เมื่อโทรไปซักพักโควตะก็รับโทรศัพท์

"แก ไอ้โควตะเพราะงี้ใช่ไหมมึงถึงให้ไอ้เด็กนี่มากับกูน่ะ" ยูคิว่าอย่างโมโห 

"555 รู้เเล้วสินะ โทษทีว่ะเพื่อนไม่มีใครเอามันอยู่ มันไปทำเรื่องอะไรอีกล่ะ" โควตะว่าอย่างอารมณ์ขันเมื่อถูกจับได้

"เมาเเล้วพล่ามอะไรไม่รู้เนี่ย กูรำคาญมันมามากแล้วนะ"

"เฮ้ยมันเมามากเลยหรอวะ อย่าพากลับบ้านนะไม่งั้นกูโดนว่าเละแน่"โควตะว่าอย่างตกใจ

"เฮ้ย!" ยูคิตกใจทันทีเมื่อยูคิอวกออกมา

"แม่ง เอ้ย รถกูเละเลย มึงต้องรับผิดชอบด้วยไอ้โควตะ" ยูคิว่าอย่างหมดความอดทน

"อ่า ๆ ไว้จะเลี้ยงข้าวตอบแทนละกัน" โควตะมันยังไม่เลิกขำ

"เออ เลี้ยงข้าวกูมันยังน้อยไปไอ้เพื่อนเวร" ยูคิตัดสายทิ้งแล้วกลับมามองไอ้ตัวดีที่ตอนนี้หลับคารถคาอวกไปแล้ว ดีนะที่ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยไปแล้วบ้างเลยเจอแต่น้ำ
ไม่งั้นเนื้อเน้น ๆ

ยูคิต้องทนนั่งในรถที่มีกลิ่นเหล้ากลิ่นไวท์ฟุ้งไปทั่วกว่าจะมาถึงคอนโดก็ปาไมเกือบชม. แล้วต้องมาอุ้มไอ้เด็กที่มีแต่อวกเปราะตัวอย่างนี้ ปวดกระบาลจริงๆ

"เอารถไปล้างด้วย  พรุ่งนี้ไปเอารถอีกคันที่บ้านมารับฉันที่คอนโด" ยูคิสั่งชิน  ส่วนชินก็ทำหน้า......กูอีกแล้ว ต้องทนเหม็นกว่าจะถึงที่พัก แถมต้องเอาไปทำความสะอาดอีก
เซงๆจริงๆดันเป็นคนสนิทของเจ้านาย เลยต้องรับเคราะห์ไปด้วยตลอดศก

ตุบ ยูคิโยนคิโบลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยๆ  เหนื่อยมาทั้งวันยังต้องมาเหนื่อยกับไอ้เด็กที่เพิ่งจะเคยเห็นหน้าอีก แถมต้องมาทำความสะอาดตัวให้มันอีกด้วยเกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้กลับต้องมาทำให้ไอ้เด็กบ้านี่น่ะนะ

"นี่ตื่นมาอาบน้ำก่อนเลยนะ"ยูคิตบหน้าเบาๆเพื่อให้คิโบตื่น แต่คิโบกลับคำรามในคออย่างขัดใจและปัดมือทิ้ง มันยิ่งทำให้ยูคิถึงกับสติเเตก

"พูดดีๆไม่ฟังกันใช่ไหม" ยูคิเริ่มเหลืออด เข้าไปห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำใส่อ่างจนเต็มกลับออกมาข้างนอกอุ้มคิโบขึ้นมาแต่เจ้าตัวก็ยัง
ไม่ตื่น ยูคิยิ้มอย่างมีชัย แล้วอุ้มเข้าห้องน้ำโยนลงอ่างทันที

"อ๊า~  "  คิโบสะดุ้งรีบตะกาย ขึ้นมาทันที ตอนนี้ตาสว่างขึ้นมาเลย เเถมสำลักน้ำเข้ามาเต็มๆ

"แค๊ก  ทำบ้าไรฟะ" คิโบพูดอย่างตกใจแล้วมองยูคิอย่างเอาเรื่อง

"ก็ทำอย่างที่เห็นรีบอาบน้ำซะฉันเหนื่อยมามากเเล้ว" ยูคิก็เดินออกมา ส่วนคิโบน่ะหรอ ตอนนี้กำลังกำลังมึน เพราะฤทธิ์เครื่องดื่มที่ดื่มมั่วไปนั่นเเหละ
ยังไม่สร่างดีบวกทั้งนอนน้อยเลยกำลังมึนแต่ก็ถอดเสื้อผ้าเเช่อยู่อย่างนั้น เพราะมันสบายตัวดี

ส่วนยูคิออกมาได้ซักพักรอยูคิออกมาแต่ก็ยัง ไม่ออกมาอีก ต้องเหนื่อยเดินเข้าไปดูอีกรอบ  พอเข้าไป เจอคิโบกำลังหลับอยู่ในอ่าง ยูคิส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะอุ้ม คิโบขึ้นมาจากอ่างเอาผ้าขนหนูพัน และพาไปนอนที่เตียงนอน
เสื้อผ้าที่เปียก ยูคิค่อยๆเเกะออกช้าๆ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถอดเสื้ออกหมด ก็เพราะผิวเเละสัดส่วนของคิโบน่ะสิ มันดูเย้ายวนเขามากมาย แถมผิวที่พอดีไม่เเข็งไม่นุ่มจนเกินไป ให้ความรู้สึกเหมือนผิวเด็ก เมื่อสัมผัสตัวเองกลับชอบ 
ยูคิสะบัดหัวอีกครั้ง สงสัยตัวเองคงง่วงจนบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่มันผู้ชายนะ แถมเป็นน้องเพื่อนด้วย ตัวเองก็ไม่เคยที่จะหลับนอน กับผู้ชายด้วยซ้ำ พูดง่ายๆเลย ไม่เคยคิดที่จะชอบผู้ชายด้วยกัน อาจเป็นเพราะคิโบ เหมือนผู้หญิงอย่างนั้นหรอ

"ท่าจะบ้านะเรา"

ยูคิปลอบตัวเอง   แต่ก็ต้องชะงักกับกางเกงขาสั้นนี่อีก งานเข้าเเล้วไหมล่ะไม่กล้าถอดอ่ะ เพราะไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาเลยเปลี่ยนใจ ไม่ถอดดีกว่า แต่อีกใจถ้าไม่ถอดวันพรุ่งนี้ต้องเป็นไข้หวัดแน่ๆ จึงจำใจต้องถอดออก
ยูคิถึงกับปิดปากมองด้วยตาค้างทันที  เมื่อพบกับเรือนร่างของคิโบ ส่วนนั้นกำลังตั้งขึ้น หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์มันช่วยกระตุ้น พอขอบกางเกงไปโดน มันกลับตื่นตัวขึ้นมาอย่างนี้ อดไม่ได้ที่จะมอง อยู่อย่างนั้น

"จะมองอีกนานไหม" ยูคิตกใจหันไปมองตามเสียงทันที คิโบมองด้วยแววตาที่กำลังโกรธ แล้วดึงหมอนมากอดปกปิด ตัวเอง

"ตื่นแล้วสินะ"ยูคิรักษาฟรอมทันที

"ฉวยโอกาสแท้ๆ" คิโบว่า แต่มันกลับเหมือนหักหน้ายูคิอย่างแรง

"แล้วใครกันที่ต้องมาทำให้ฉันรำบากแบบนี้" ยูคิว่ากลับ

"ก็ไม่ได้ขอร้อง" คิโบว่ายิ่งทำหน้าไม่พอใจ  คนอุตสาห์ช่วยแล้วยังจะพูดแบบนี้อีก สงสียต้องสั่งสอนเด็กไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ซักหน่อยแล้ว

"อ๊ะ  ทำอะไรน่ะ" คิโบตกใจทันทีเมื่อยูคิคว้าหมอนที่กอดอยู่แล้วโยนไป

"ก็ทำให้เด็กอย่างนาย รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูดน่ะสิ" ยูคิว่าแล้วยิ้มที่มุมปาก  คิโบทำตาโตอย่างตกใจ
เฮ้ยไรอ่ะ  คิโบคิดอยู่อย่างนี้ งานเข้าเเล้วไง เสร็จแน่ ความคิดที่ไวกว่าปลาไหล คิโบกำลังลุกหนีทันที

"หึจะหนีไปไหนล่ะ" ยูคิคว้าเเขนไว้และจูบคิโบทันที

"อา  อื้อ อื๊อ"

"โอ๊ย!"

คิโบกัดปากยูคิ อย่างยอมไม่ได้

"แก   นี่มันจูบแรกของฉันนะเฟ้ย!" คิโบว่าอย่างหน้าแดง ไม่รู้แดงเพราะอาย หรือเเดงเพราะโกรธกันแน่

"งั้นก็ดีสิฉันจะได้รู้ว่าฉันเป็นคนเเรกของนาย" ยูคิยิ้มอย่างมีชัย มันกลับทำให้คิโบโกรธจนหน้าแดง

"ออกไปนะไอ้บ้า"คิโบพยายามขัดขืนแต่แรงเขาหรือจะสู้ยูคิได้  ยูคิจับมือรวบไว้ทั้งสองข้างแล้วจับพาดไว้ข้างบนเตียง

"ทำอะไรน่ะ" คิโบรู้สึกตกใจและหวั่นๆในอก

"ก็ทำอย่างที่เห็น" ยูคิประกบจูบอีกครั้งแต่คิโบยังขัดขืนเขาจึง เปลี่ยนเป้าหมาย ไปที่หัวนมแทน

"อา อย่านะ" ยูคิขบเม้นและดูดหัวนมอย่างเเรง แต่มันกลับทำให้คิโบ เสียววาบ

"อึก  ปล่อยนะเฟ้ย" คิโบพยายามอีกครั้ง แต่ขาที่ถูกขาของยูคิทับไว้กลับดิ้นไม่ได้  ยูคิใช้ลิ้นไล้ลงเรียลงไปเรื่อย จนทำให้คิโบถึงกับเสียววาบ
จนมาหยุดที่ตรงกึ่งกลางที่ตอนนี้มันกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น

"ไม่นะ" คิโบพยายามขัดอีกครั้งมือที่ถูกตรึงไว้พยายามดิ้นให้่หลุด แต่มันก็ได้แค่ดิ้น
ยูคิใช้ลิ้น ไล้เลียไปที่ปลายยอด แค่นี้คิโบก็เสียววาบไปทั้งแก่นกาย แล้ว จากครึ่งหลับครึ่งตื่นตอนนี้มันกลับตื่นเต็มที่ 

ร่างกายกลับทรยศตัวเองเสียแล้ว

"อา~" ยูคิดูดเม้มแก่นกาย จนคิโบ เสียวและรู้สึกดี กลับคิดเสียอีกว่าหมอนี่ทำไมมันเก่งจัง

"อืม  อ๊ะ" ทุกครั้งที่ยูคิดันปากเข้าออก คิโบกลับรู้สึก เสียวกระสันไปทั้งร่างกายนอย่างบอกไม่ถูก มือที่ถูกปล่อยเมื่อไรไม่รู้ จับหัวของยูคิที่โยกไปตามจังหวะ และกำผมที่อ่อนนุ่มนั้นไว้อย่างพอใจ

"อ่ะ  อ๊า~" น้ำขาวสีขุ่นถูกปลดปล่อยเมื่อถึงจุดสุดยอด ยูคิกลับกลืนกินมันจนหมด และยิ้มอย่างพอใจ คิโบได้แต่เหนื่อยหอบ และรู้สึกเบลอ แต่ไม่วายมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

"พอได้หรือยัง" คิโบพูดอย่างแผ่วเบาที่เเทบไม่มีเรี่ยวเเรงเหลือ

"หึ แค่นี้มันยังไม่พอหรอก นายเสร็จแต่ฉันยังไม่เสร็จ" ยูคิยิ้มกริ่ม คิโบตกใจ พยายามใช้เเรงอันน้อยนิดยันยูคิออกจากตัว 
ยูคิ เร้าโลมคิโบอีกครั้ง มันกลับได้ผลเพราะอารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่ กลับทำให้คิโบสมยอม อย่างเผลอตัว

เสื้อผ้าที่ไม่เหลืออยู่บนร่างกายเลยทั้งสอง เมื่อสัมผัสกันกลับทำให้รู้สึกซาบซ่าน ชอบกล ยูคิรู้สึกดี ใช่มันรู้สึกดีกว่าร่างกายผู้หญิงที่เขาได้หลับนอนมา ยูคิรู้สึกหลงไหลกับร่างกายนี้เสียแล้ว

"อา  อืม" คิโบครางทุกครั้ง ที่ลิ้นของยูคิไล้เลียไปตามร่างกาย เสียงของคิโบเหมือนเป็นแรงกระตุ้นทำให้ยูคิเริ่มรู้สึก ถึงขีดสุด

"อ๊ะ  ทำ  อะ ไรน่ะ" คิโบถามด้วยน้ำเสียงเเหบพร่าและตกใจเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แหย่เข้ามาร่างกาย

"ต้องทำให้ชินก่อน ถึงจะเข้าได้ โดยที่ไม่เจ็บ" ยูคิอธิบาย  แต่คิโบถึงกับหน้าเสีย นี่เราจะถูกกระทำหรือนี่แต่มาถึงขนาดนี้แล้วมันก็ต้องปล่อยเลยตามเลยเพราะถึงยังไงก็ขัดขืนไม่ได้อีกแล้ว

"อ๊ะ   อึก" ยูคิค่อยขยับนิ้วและ เริ่มเพิ่มนิ้วเข้าไปทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกว่าคิโบเริ่มรับได้ เขาถอดมือออกเเละ เอาแก่นกายที่ทาด้วยเจลเข้าไปแทน

"อึก  อ๊ะ  อา จะ เจ็บ" คิโบรู้สึกเจ็บจนน้ำตาซึม ยูคิก็เช่นกัน เพราะมันรดแน่นและเพราะของเขาที่ใหญ่ทำให้ลำบากต่อการเข้า คิโบผ่อนหายใจเป็นพักๆ
เมื่อ ยูคิค่อยๆดันเข้ามา จนสุดด้าม ยูคิแทบหอบ เมื่อดันเข้ามาจนสุด เขาจูบคิโบอีกครั้งเพื่อปลอบใจ จากนั้นก็เริ่มขยับ จากช้าๆ จนเป็นเร็ว แรงถี่ ตามความปราถนาของตัวเอง

"อ่ะ  อ๊ะ อีะ อา~" คิโบก็ร้องอย่างไม่เป็นภาษา ทุกครั้งที่ส่วนนั้นของยูคิเข้าๆออกอยู่อย่างนั้น ตอนแรกเจ็บ ตอนนี้กลับรู้สึกดีและสนุกไปกับมัน ยูคิพลิกทันทีเเละให้คิโบอยู่ด้านบน

"อึก" คิโบทำหน้าขัดใจเล็กน้อย เมื่อตัวเองถูกจับให้อยู่ท่านั่งซึ่งส่วนนั้นของยูคิเข้ามาข้างในจนมิดด้าม  ยูคิยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ และลุกนั่งตาม  คิโบกอดคอยูคิเเน่น ยูคิเริ่มยกขาขึ้น
และเริ่ม จับสะโพกของคิโบไปตามจังหวะที่ตัวเองปราถนา

ไอ้คนขี้โกง คิโบได้แต่คิดอยู่ในใจ แต่ตัวเองกลับรู้สึกดีได้ด้วยจนถึงขีดสุดอีกรอบ

"อา" คิโบครางอย่างพอใจ

"ฉันก็ไกล้จะไปแล้ว" ยูคิว่าแล้วรีบเร่งจัวหวะ จน ตัวกระตุกเกร็ง และปลดปล่อยไปในตัวของคิโบ
ทั้งคู่ล้มลงอย่างเหนื่อยล้า คิโบเองก็เช่นกันหอบถี่ๆข้างหูของยูคิแต่เเก่นกายยังค้างอยู่อย่างนั้น ยูคิจับพลิกและถอนกายออก
คิโบคงเหนื่อยมาก เลยหลับไปแล้วยูคิเห็นอย่างนั้นจึงหยิบกระดาษทิชชู่มาทำความสะอาดให้ก่อนจะล้มตัวนอนกอดคิโบ

*



...........................








แอบอายนิดๆ ทำไปได้ :-[

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3




อ่า  อืม รู้สึกครั่นเนื้อ ครั่นตัวชอบกล ผมตื่นมาในยามเช้า เช้าของผมนี่มันคงสายมากแล้วของใครอีกหลายๆคน
เพราะแดดที่แรงจ้าลอดส่องผ่านเข้ามาทางม่านสีอ่อนๆที่ปิดหน้าต่างอยู่นี่หล่ะ ผมค่อยๆปรับแสงสว่างของดวงตาทีละน้อย
หันซ้าย แลขวา นี่มันไม่ใช่ห้องเรานี่หว่า.............................แล้วมันห้องใคร ใช้เวลาประมวลผลของสมองเล็กน้อย ก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที

"โอ๊ย!   อูย" ไมมันเสียวสะโพกจังวะ  มองหาไอ้เจ้าของห้อง แม่งชิ่งไปแล้ว ฮึ่ม  ปวดหัวจังเลย  เอามือกุมขมับเเล้วนวดเบาๆให้คลายปวด
คอเเห้งจังเลย พอหัน ข้างๆเตียงก็เจอยาและเเก้วน้ำ วางไว้ข้างๆโคมไฟ  จะเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้บ้าเมื่อคืน ที่มันย่ำยี ความเป็นชายของผมซะป่นปี้
ผมไม่ได้สมยอมนะ เพราะเมาต่างหากเมาแบบมีสติ  ฮือๆๆๆ   ทำไมคิโบช่างโชคร้ายอย่างนี้ คิดแล้วก็เจ็บใจ ไอ้บ้านั่นมันฉวยโอกาศ
อยากฆ่ามันทิ้ง จะฟ้องแม่ด้วย..........แต่ จะฟ้องไงล่ะ
 "แม่ครับคิโบโดนข่มขืน"

.......... :z3:อยาก เอาหัวโขกกำแพงตาย ใครจะกล้าพูดฟะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

ออแล้วเราจะคิดให้ปวดกระบาลไมวะ เราเป็นผู้ชายนี่หว่า ไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อย เอาไปก็ไม่ท้อง   แต่เสียประตูหลังไปแล้วเจ็บจายยยยยยยยยยย   ฮ่วย แค้น กินน้ำดีกว่า

"อึก อึก ฮ่า" ค่อยชื่นใจหน่อย แต่ก็ยังปวดไปทั้งตัวอยู่ดีอาบน้ำดีกว่า

พอลงจากเตียงจะลุกยื่น ขาผมมันก็สั่นพับๆ อย่างไม่มีเรี่ยวแรงมาซะดื้อๆ เลยต้องไปนั่งกองอยุ่ที่พื้น รู้สึกเหมือนมีไรไม่รู้ไหลออกมาจากก้น ด้วยเลยต้องหันไปมอง

 โอ้ววววววววววววแม่เจ้า น้ำของไอ้บ้านั่นไหลออกมาจากตัวผม  ฮือเหมือนมันซ้ำเติมผมไงไม่รู้ มันทำให้ผมรับรู้ว่าเมื่อคืน ผมไม่ได้ฝันไป แง๊   

"แอ๊ด~" หันไปตามเสียงของประตู ไอ้หล่อสี่ตาโผล่หน้าเข้ามาแถม มองผมอย่างตะลึง
 
ย๊ากกกกกกกกกกกกกอย่าอยู่เลยมึง ใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระโดดบีบคอมัน

"เหวอ   เล่นไรเนี่ย  อึ๊บ" มันรีบล๊อกมือผมแล้วอุ้มมาวางไว้บนที่นอนคืนส่วนผมน่ะหรอ กูจะฆ่ามานนน

"มึงตาย ไอ้บ้า ไอ้สี่ตา ไอ้คนฉวยโอกาศ ย๊ากๆๆๆ" ผมกำหมัดแล้วทุบรัวไปที่มัน มึงจะเอาแขนบังทำไม

"พอได้แล้วน่า" มันว่าแล้วจับแขนผม

"ปล่อยนะ" ผมดิ้นสุดกำลังอันน้อยนิด

"จะยั่วกันหรือไง".........   ยั่ว......มันหาว่าผมยั่วงั้นหรอ  สติแตกแล้วนะว้อยยยย!!!

"ไอ้คนหน้าด้าน โอ๊ย!" อ๊ากเคลื่อนผิดจังหวะ สะโพกเลื่อน

"เป็นอะไรมากไหม" มันทำสีหน้าเป็นห่วง ฮึ่อย่าคิดว่าตูจะหลงกลมึง

"ไม่ต้องมาถามเลย ฮึ่ย  ฮือ หมด กัน"อยากจะร้องออกมาดังๆ ชีวิตนี่เจอแต่การกลั่นแกล้ง ช่างลำเอียงอะไรกันเช่นนี้ ฮือ

"เอ่อ ฉันขอโทษ" มันว่าแล้วเอามือมาปาดน้ำตา ทีนี้ล่ะ บ่อน้ำตาผมแตกมาทันที

"แง๊  ไอ้บ้า"เอาหมอนฟาดมันจนหน้าหงายแว่นตากระเด็นไปไหนไม่รุ้ เผยใบหน้าอันหล่อเหลาที่แท้จริง  เฮ้ย  ไม่ใช่เวลามาดูความหล่อ

"หยุดเถอะน่า" มันคงทนกับผมไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เผยนิสัยอันแท้จริงออกมาแล้วสินะ

"ไม่หยุดจะทำมะ..." ผมถลึงตาใส่มันแล้วฟาดหมอนเข้าไปอีก

"อ๊ะ  อุบ อื๊อ"  ยิ่งกว่าฉากตบจูบในหนังให้ชวนเลี่ยนอีก มันดึงหมอนออก แล้วจับเเขนล๊อกไว้แล้วประกบปากผมทันทีที่กำลังเผลอ 
อืม อาอูม มึงจะเก่งไปไหน  เง้อ  ขัดขืนดิ่ขัดขืน กูจะเคลิ้มตามมันไปทำไม

"ฮ่า   "

หลุดออกซักที  สายตาทีมันมองผมหวานเยิ้มขนาดนั้น มันทำให้ผมถึงกับเสียววาบไปยันไขสันหลัง ผมรีบหันหน้าออกทันทีเมื่อรู้สึกร้อนๆที่หน้า

"จะอาบน้ำไหม" มันถามผมเรียบๆ ผมพยักหน้า อืม   

"เหวอ" แล้วมันก็อุ้มผมตัวลอยเข้าห้องน้ำ ว่างผมลงในอ่างน้ำที่ยังมีน้ำอุ่นๆอยู่ในนั้น  ผมหันไปมองหน้ามันทันที

"ใช้ยังอ่ะ" มันทำหน้าแบบงงๆ  ผมหันไปมองอ่างอีกที

"หึ  รังเกียจหรอ" มันว่าแล้วเอาผมลงไป  อาอุ่นจังเลย

"รังเกียจ" แอบประชดมันหน่อย มันทำหน้าเครียดทันที

"รังเกียจมากเลยหรอ" น้ำเสียงแบบน้อยใจ

"อื้ม มากมาย" ผมหันหน้าไม่สบตามัน อุ๊บ  ฮึฮึฮึ  แอบหัวเราะในใจ

"แล้วทำไงคิโบถึงจะไม่รังเกียจพี่ล่ะ" มันยื่นหน้าเข้ามาแอบมอง ผมดันหน้ามันกลับคืนไป

"เเล้วเรื่องไร คุณต้องมาทำแบบนี้กับผมด้วยล่ะ"

"ไม่รู้สิ  รู้เเค่ว่าอยากทำ" ทำสีหน้าแบบจริงจังสุดๆ

"ผมว่าเราลืมเรื่องเมื่อคืนเสียเถอะ" ใช่ลืมๆมันไปซะจะได้จบๆกันไป  ผมว่าแล้วก็เอาน้ำลูบตัว

"จะให้ลืมอย่างนั้นหรอ" รู้สึกน้ำเสียงจะเปลี่ยนเรื่อยๆนะ

"อืมใช่ไง ยังไง ผมก็เป็นผู้ชายคุณคงไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรอยู่เล้วนี่" ผมพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา 
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ผมรู้สึกอายกับคำพูดตัวเองเหมือนกัน แต่ช่างเถอะยังไงๆวันเวลามันก็กลับคืนมาไม่ได้อยู่เเล้ว

"คิดได้ไง" มันถามผมอย่างเสียงเครียด  ผมหันไปมองอย่างงงๆ

"อะไรอีกล่ะ" ผมถามน้ำเสียงอย่างไม่พอใจเหมือนกัน

"หึ  เธอคงลืมไปแล้วมั้งว่าเมื่อคืนเธอสนุกมาแค่ไหน" คำพูดของมันทำให้ผม หน้าแดงอีกครั้ง

"ผมไม่รู้  ลืมไปแล้ว"

"อืม  ถ้างั้นคงต้องฟื้นความจำกันอีกซักหน่อยแล้วมั้ง" แล้วมันก็กระชากผมขึ้นมาแล้วลากมาบนเตียงเหวี่ยงผมอย่างแรง

"อึก  ไอ้ บะ" ยังไม่ทันจะพูดจบ มันก็จูบผมอย่างแรง



แล้วเหตุการณ์เมื่อคืนก็ซ้ำรอยเดิม    หลังจากนั้นเป็นไงต่อ ทุกคนคงจะรู้นะ  ฮึกกูเสียประตูหลังอีกแล้ว



.................................



ตื๊ด  ตื๊ด 


เสียงโทรศัพท์ดังรับซักทีเซ่คนจะหลับจะนอน



"ครับ ครับ คิโบอยู่กับผมครับ ครับ ครับ คุณน้าสบายดีนะครับ เเล้วผมจะไปเยี่ยมพร้อมไปส่งคิโบนะครับ ครับ"

แล้วเสียงก็เงียบไปคาดว่า คงวางสายไปแล้ว



จุ๊บ มันมาจุ๊บไรนักหนาวะ รำคาญ


"อื้อ"ผมครางอย่างขัดใจ

"นอนคว่ำงี้เดี๋ยวก็เอาอีกรอบซะนี่" มันว่าแล้วหัวเราะเมื่อผมขยับมานอนตะแคงทันที

"ทำไม" ผมถามมัน

"หืม"

"ทำไมถึงยังทำกับผม  ผมเป็นผู้ชายนะ" ผมถามในสิ่งที่ยังค้างคาใจ

"ฉันก็เป็นผู้ชาย" ยังมีหน้ามายอกย้อนอีก  เหอะเชิญตามสบายไม่ตอบก็ไม่เป็นไรแต่อย่าได้หวังว่าจะมีครั้งต่อไป

"พูดไปนายคงไม่เชื่อ" ยูคิเริ่มพูดมาอีก ผมเงียบรอฟัง

"ถ้าฉันบอกว่าชอบเธอ เธอจะเชื่อไหม" จะเชือดีไหมเนี่ย

"เราเพิ่งจะเจอกันเมื่อคืนเองนะ" ใช่เพิ่งรู้จักกันจะชอบกันเลยได้ไง

"การชอบ หรือรักใครซักคน มันมีเหตุผลด้วยหรอ"

"อย่าพูดว่ารัก ออกมาง่ายๆนะถ้าตัวเองไม่มั่นใจ"ผมรีบสวนกลับทันที

"สิ่งที่ฉันพูด ฉันคิดมาดีแล้ว" ยูคิเถียงกลับน้ำเสียงจริงจังเเละหนักแน่น

"เหอะ  น่าเชื่อมากเลย" ผมว่าอย่างไม่เชื่อ

"แล้วทำไง เธอถึงจะเชื่อล่ะ" ยูคิถามผมอีก  ผมไม่อยากเชื่อใครทั้งนั้นแหละ คำพูดของคนๆนี้ คนที่เพิ่งจะรู้จักกัน แถมทำแบบนี้กับผมอีกใครจะเชื่อง่ายๆ

"ผมว่าคุณเลิกคิดเถอะ  ผมไม่อยากมีข้อผูกมัด ผมยังอยากมีอิสระ และอีกอย่างผมไม่ได้รักหรือชอบคุณ"

 ผมพูดไปตามความจริง ความจริงที่มันเป็นไปไม่ได้อยู่เเล้ว


"งั้นถ้าฉันทำให้เธอรักขึ้นมา  ก็ได้งั้นสิ" คำถามของคนที่กำลังพูดข้างๆหู มันทำให้ผมเริ่มรู้สึกรำคาญ มันจะตื้ออะไรนักหนาวะ

"เหอะ มันไม่มีทางอยู่เเล้ว"ผมว่าอย่างเป็นไปไม่ได้

"เกมยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารสิ" ผมหันไปมอง ไอ้คนที่มันพูดสำนวนด้วยภาษาไทยที่ชัดถ้อยชัดคำแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม

"555 ฝัน จะหนีไปให้ไกล ตามมาได้ก็ตามมาละกัน"ผมว่าประชด

"ถึงหนีไงนายก็ไม่พ้นอยู่ดี"     ผมรู้สึกเสียววาบกับรอยยิ้มที่ ยิ้มให้ทันที



ทำไมชีวิตคิโบถึงได้ วุ่นวายงี้วะ   ทำตัวเองจริงๆเลยเรา  แต่ที่แน่ๆ มีจำเลยหลายคน หมายเลข1มันต้องโดนก่อนใครบังอาจ ส่งเราเข้าปากจระเข้ ถึงได้โดนฟัดอย่างไม่เหลือซากของความเป็นชายอย่างนี้   
จำเลยหมายเลข2 ก็มันอีกล่ะที่ทำให้ผมไม่ได้กลับไปนอนบ้านเพราะ เหตุผลบ้าๆ ที่มันโยน ให้ และอีกหลายจำเลยมันต้องรับผิดชอบ ตายแน่ไอ้โควตะ 
แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนเหอะ พลังงานที่โดนสูบไปขอชาตให้เต็มก่อน เเล้วเดี๋ยวค่อยตื่นมารบกับไอ้บ้าที่กำลัง ลูบสะโพกผมอยู่นี่


"อึ๊ก"

ถองข้อศอกไปทีให้เลิก มันยังมีหน้ามาหัวเราะอีก แล้วทำไงจะให้มันหลุดออกจากวงจรชีวิตของผมได้ล่ะ ทีนี้  คิโบล่ะกลุ้มใจ





....................................


*


ภายในห้องที่เงียบ มีเพียงแค่เสียงลมหายใจของคิโบ ทุกๆครั้งที่หน้าอกกระเพื่อมสั่นไหวของเเรงหายใจมันช่างดูเย้ายวลอะไรอย่างนี้ ยูคิอดไม่ได้ที่จะนอนมองอยู่อย่างนั้น
แค่เห็นก็อยากที่กระโดดขย่ำ แล้วอยากจะฟัดซะให้ได้คนอะไร ขนาดนอนยังน่ารักขนาดนี้ เพียงแค่สัมผัส ยูคิก็เเทบจะคุมตัวเองไม่อยู่
ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองจะหลงคิโบไปเสียเเล้ว



"อื้อ"คิโบครางอย่างขัดใจทุกครั้งที่เขาเอานิ้วสะกิด แค่นี้ก็ทำให้ตัวเเทบอยากจับกดคิโบอีกรอบเเล้ว

เหลียวมองดูนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว ได้เวลาต้องปลุกแล้วสินะ  จุ๊บ

"อุ๊บ  อืม"คิโบกำลังดิ้นขลุกๆ ภายใต้ร่างกายของยูคิที่กำลังจะลวนลามอีกครั้ง

"ผลั๊ก  อ๊อก" ยูคิโดนเสยคางเต็มๆ

"ทำบ้าไรฟ้ะ"คิโบแว๊ดใส่ทันทีที่หลุดออกมาจากอ้อมกอดเเละรีบเอามือเช็ดปากที่ถูกจูบ

"ก็ปลุกไง" ยูคิว่าแล้วยิ้มกริ่ม

"ปลุกบ้านนายทำกันอย่างงี้หรอไอ้บ้า" แล้วคิโบก็เอาหมอนฟาดเข้าหน้าอีกครั้ง

"แหมที่รักอย่าดุนักสิจ๊ะ"ทำน้ำเสียงแบบอ้อนสุดๆ

"ใครที่รักวะ"คิโบว่าทำหน้ามุ่ย

"แหมตื่นมาก็พูดไม่เพราะเลยนะ"ยูคิยิ้มหน้าระรื่น แต่มันกลับทำให้คิโบไม่พอใจอย่างแรง

"เหอะเลิกทำหน้าอย่างนั้นซักทีได้มะ"

"ทำไงอ่า" ยูคิแกล้งทำไม่รู้จนคิโบหงุดหงิด

"โวะ  ไปห่างๆได้มะอึดอัด อ๊ะ" คิโบทำหน้าเหวอเมื่อไปสัมผัสอะไรเเข็งๆตรงขาเข้า

"อุ้ย  คิโบก็" ยูคิทำหน้าอายจนหน้าตบ

"อ่ะ  อะไร อ่ะ" คิโบหน้าแดง

"แหมทำเป็นไม่รู้  ก็ที่รักโป๊งี้ใครจะอดใจไหวล่ะ" ทำหน้าหื่นใส่อีก

"แก ไอ้บ้า" ผลั๊ก    อูย ยูคิโดนชกเข้าที่ดั้ง จนต้องกุมไว้ ส่วนคิโบวิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยความอายในสายตาของยูคิ






..................................





ฮึยไอ้บ้ายูคิ ไมมันหื่นอย่างนี้วะ อ้าว แล้วเราวิ่งมาไม่อายมัน แล้วเสื้อผ้าล่ะโธ่  อยากบ้าจริงๆถ้าออกไปสภาพอย่างนี้มีหวังไม่เหลือแน่   ค่อยๆเเง้มประตูห้องน้ำออกทีละน้อย

"นี่" เรียกไอ้คนที่กำลังนอนกระดิกเท้าอย่างสบายใจ

"เน่~"รอบสองมันก็ยังไม่หันมา

"ยูคิ"

"จ๋า" แค่นั้นล่ะมันเด้งดึ๋งรับขาน ซะน่าตบ

"เสื้อผ้าอ่ะ"

"อยู่ในตู้ไง" มันชี้นิ้วไปที่ตู้เสื้อผ้าข้างนอก  มันจะให้ผมเดินออกไปสภาพโป๊อย่างนี้หรือไงเนี่ย

"หยิบมาให้หน่อย" ผมสั่งมัน แต่มันกลับเฉย สงสัยต้องเล่น ลูกไม้หน่อยละ

"ยูคิจ๋า  หยิบเสื้อผ้าให้ใส่หน่อย" เเหยะ พูดเองเลี่ยนเองจนแทบจะอวก

"จ้า " แล้วมันก็เดินไปหยิบเสื้อ ผ้าที่น่าจะ ไม่ใช่ของผม

"ให้ช่วยใส่ไหม"เเล้วมันก็ทำหน้าหื่นกามใส่ผมอีกครั้งพร้อมยิ่นมาให้ผม

"เรื่องไร"ผมรีบหยิบแล้วปิดประตูทันทีเมื่อคว้าได้  อ้าวมาเเต่เสื้อผ้าแล้วเกงในกูล่ะ(- -") แง้มไปมองอีกรอบมันยิ้มหน้าระรื่นอีก

"ของใครน้า~" ฮึย ดูมันทำ มันกางกางเกงในของผมให้ดู พอผมจะคว้ามันกลับหันหนี

"เอามา"เริ่มเหลืออดละ

"ให้ก็ได้หอมทีดิ่" มันว่าแล้วยื่นแก้มมาให้

"เอาตีนหอมได้ปะเอามาเลยเร็วๆถ้าไม่อยากให้ไม่ใส่กางเกงในออกไปข้างนอก"

 555 คำขู่ได้ผล มันทำแก้งป่องงอลๆเหมือนจะน่ารักแล้วยื่นกางเกงในมาให้



พอเเต่งตัวเสร็จ ก็ออกมาอวดโฉมให้มันเห็น มันมองสำรวจผม


"อืมเปลี่ยนเสื้อผ้าดีไหม" เอ้าไรวะเรื่องมากจิง

"ทำไมนี่ก็ดีแล้ว" ผมกางแขนให้มันดู นี่ก็เสื้อมัน เสื้อยืดสีขาว ของมันใส่สบายดีผมยังชอบเลย

"ไม่อ่าเวลาโดนแสงแล้วมันเห็นข้างใน" มันว่าแล้วขมวดคิ้มมุ่นคิดหนัก

"ห๊ะ   ไอ้บ้า   ไม่มีใครเค้าคิดอย่างนายหรอ  จะไปได้ยังหิวละ" ผมว่าแล้วกุมท้องที่กำลังร้องกันให้ระงมเพราะยังไม่มีไรตกถึงท้องเลย

"เฮ้อ  ก็ได้"แล้วมันก็ถอนหายใจ   นี่ไอ้คนที่น่าถอนหายใจนี่มันผมไม่ใช่หรอ



พอมาถึงบ้านแม่ก็วิ่งออกมารับ หน้าระรื่นเหมือนรออยู่ อิอิ  แม่เรานี่ดีจัง



"ยูคิคุง  คิดถึงจังเลย"แม่วิ่งเข้ามากอดยูคิทันที 

อ้าวแม่แล้วคิโบอ่ะยืนหัวโด่อยู่นี่ แม่ดันไปกอดทักคนอื่นก่อนได้ไง งอลแล้วด้วย
เหอะกอดกันไปเหอะคิโบงอลละ เข้าบ้านดีกว่า ไปถามพ่อบ้านดีกว่ามีไรกิน พอดีกับที่เดินผ่านรถของไอ้โควตะ
หึกลับมาแล้วสินะ แล้วตัวมันหายหัวไปไหนเนี่ย  หึหึหึ 5 5 5 หัวสมองของข้ากำลังนึกแผนอันชั่วร้าย 

"อ้าวคิโบกลับมาแล้วหรอครับ"ทาคุทักผม  ผมแกล้งบ่อน้ำตาแตกทันที

"ฮึก  ฮือ  ทาคุ" ผมเข้าสวมกอด ทาคุทันที

"เป็นอะไรคิโบ" ทาคุถามด้วยความตกใจ ฮึกผมยังใส่ความ ดราม่าเต็มที่

"เมื่อ คืนเมื่อ คืน    ฮือ" ครางไปงั้น  ซบอกที่ทาคุเเล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

"อะไร  คิโบ" ทาคุยิ่งทำหน้าตกใจเข้าไปอีกแล้วลากผมเข้าห้องไปหึ  ตามแผนเลย

"บอกทาคุมาเดี๋ยวนี้เลยคิโบ" ทาคุจ้องหน้าผมแล้วเกลี่ยน้ำตาที่แก้มผม

"ไอ้โควตะ ไอ้โควตะมันแกล้งคิโบ"  ผมเริ่มเล่าเหตุการณ์ ที่ถูกไอ้ยูคิปล้ำ ด้วยสาเหตุเพราะไอ้โควตะมันยัดเยียดผมให้ยูคิ
แต่ไม่ได้เล่าว่า ผมเสร็จมันแล้วแค่บอกว่าเกือบโดนเฉยๆ

"ฮึก  ทำไมพวกพี่ๆถึงทำกันอย่างนี้นะ" ทาคุลุกขึ้นด้วยความโกรธแต่ผมคว้ามือไว้ก่อน

"ทาคุอย่าบอกแม่กับตานะ  คิโบไม่อยากให้เป็นเรื่อง" แสร้งทำหน้าเศร้าให้สมจริงนิดนึง    ทาคุนั่งลงแล้วลูบหัวผมเบาๆ

"ได้ไงคิโบ ถึงคิโบจะเป็นผู้ชายแต่พวกพี่เขาทำแบบนี้ ทาคุยอมไม่ได้หรอกที่เห็นน้องชายตัวเองโดนกลั่นแกล้ง  แล้วพี่โควตะก็เป็นพี่ชายเราด้วย
ทำเเบบนี้มันเกินไปแล้ว"ทาคุว่าเเล้วทกาหน้าตาดุๆ ขนาดผมยังกลัวเเทนไม่เคยเห็นทาคุเป็นเเบบนี้มาก่อนเลย

"พี่จะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง" ทาคุทำท่าจะลุกอีกผมก็ยื้อไว้อีก

"พี่ ผมขอเหอะถ้าจะคุย ผมว่าอย่าให้คนในบ้านรู้เลย" อิอิ  คิดแผนยิงนกสองตัวได้อีก4ตัวละ

"แล้วจะให้พี่ทำไง" ทาคุถาม

"พี่ให้คนไปตามแล้ว ให้เขาไปคุยใต้ต้นท้อสวนหลังบ้านเถอะที่นั่นมันเงียบแล้วก็ไม่มีใครด้วย"

ผมออกความคิด ทาคุมองอย่างแปลกใจ แต่ก็พยักหน้า



"คิโบ อย่าร้องนะพี่จะไม่ยอมให้คิโบเสียเปรียบหรอก"

"อื้ม คิโบรู้ว่าทาคุเป็นห่วง ขอบคุณนะ" ผมยิ้มทั้งน้ำตา

"ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยเราเป็นพี่น้องกันนี่" ทาคุว่าแล้วยิ้ม   :z10:ผมรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วสิที่หลอกทาคุ

"พี่ ตอนที่เรียกอ่ะเราเตรียมตั้งโต๊ะน้ำชานะ เค้าจะได้ไม่รู้ตัวก่อน" ผมเสนอ

"อืมงั้นก็ดีพี่จะได้ให้คนไปเตรียมจัดโต๊ะ" แล้วทาคุก็เดินออกไปคงจะไปหาพ่อบ้าน  ส่วนผมใส่ตีนหมาวิ่งไปโกดังเก็บของทันที
มองหากาวอย่างหนึบที่วันก่อน พ่อบ้านเอามาใช้ ขอบอกว่ามันหนึบมากเพราะ ตอนที่พ่อบ้าน เอามาใช้ทาป้าย อะไรซักอยากแล้วมันไม่แห้งผมเผลอไปเหยียบปรากฎว่า
ผมต้องเสียลองเท้าคู่โปรดไป    มันต้องใช้ได้ผล พอได้สิ่งที่เล็งไว้ก็วิ่ง ไปสวนหลังบ้าน ทากาวนั้นกับเก้าอี้สองตัว ถ้าตามองธรรมดาเราไม่รู้เลยว่าทากาวแต่ถ้านั่งลงไปละก็หนึบแน่ 555
พอจัดโต๊ะเสร็จผมก็ไปนั่งรออยู่ก่อน ผมเรียกทาคุมานั่งข้างๆ ตัวที่ไม่ได้ทาเเล้วรอไอ้2คนนั้นมา 


หล่อมาแต่ไกล หึ หึ หึ เสร็จแน่
ไอ้ยูคิยิ้มหน้าบานมาเลยนะมึง

"เชิญนั่งสิคับ"ทาคุว่า แล้วทั้งคู่ ก็นั่งไปที่เก้าอี้ตัวนั้น   เยส  สำเร็จ

"วันนี้นึกไง ชวนพี่ดื่มชาตอนเย็นอย่างนี้" โควตะเริ่มถาม 

"อื้ม  แต่ยูคิว่าดีออกได้นั่งคุยกับคิโบบรรยากาศดีมากเลยบ้านมึงเอ้ย บ้านนายน่ะโควตะ" ยูคิมันแจมแล้วนั่งชันคางมองผม

"ครับ ผมแค่อยากจะคุยด้วย" ทาคุเริ่มพูดแล้วเอาเเขนโอบผมไว้

โควตะแปลกใจเล็กน้อย ที่เห็นทาคุทำแบบนั้น แล้วเริ่มสีหน้าไม่พอใจ

"เรื่องอะไรหรอ" โควตะถาม

"ก็เรื่องที่พี่ ส่งคิโบให้พี่ยูคิลวนลามไง"  ไอ้โควตะทำหน้าเหวอทันที ส่วนไอ้ยูคิ ก็สะดุดหัวแทบทิ่มโต๊ะ

"อะ อะไรนะ" พร้อมใจกันพูดเลยนะ

"คิโบ เล่าให้ผมฟังแล้ว" ทาคุทำหน้าดุ แต่ไอ้โควตะทำหน้างงๆ  ผมเองก็แอบทำน้ำตาซึมเพื่อความสมจริง

"ผมไม่นึกเลยว่า พี่ทั้งสองคนจะไร้ความคิดกันอย่างนี้ ต่อไปนี้ไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายกับคิโบอีกนะพี่ยูคิ  ส่วนพี่ ผมกับพี่เราขาดกัน"  ฮ่า  นี่สิที่รอคอย  มันทั้งสองทำหน้าตกใจอย่างเเรง

"ไปคิโบกลับห้องกันเถอะ" แล้วทาคุก็ลากผมออกมาจากตรงนั้น แอบแลบลิ้มให้ทีอย่างสะใจ

"เดี๋ยวทาคุ เฮ้ยไรเนี่ยติดไรวะ" โควตะโวยวาย

"กูก็เหมือนกัน  เดี๋ยวก่อน ทาคุ คิโบ" ไอ้ยูคิเรียกให้พวกผมหยุดฝันไปเถอะ 5 55

แล้วพวกมันก็เอะอะโวยวายเเกะกันยกใหญ่ มันคงติดทนนานเลยล่ะเพราะมันนั่งแช่ตั้งนานนิ่ ขนาดรองเท้าผมแค่เเป๊บเดียวก็ติดเเล้ว  แต่ของมันเล่นตั้งหลายนาทีคงจะยากหน่อย  แล้วพวกลูกน้อง ในบ้านก็กรูไปอย่างตกใจเพราะคิดว่าเกิดเรื่องอะไรอีกล่ะมั้ง



คิโบสะใจมาก หึหึ





........................................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด