ตอนที่ 7เช้านี้เป็นอีกเช้าที่ดรีมตื่นมาทำอาหารเช้าเป็นกิจวัตร พอนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน เผ็ดก็จะแวะไปส่งดรีมที่คณะเป็นประจำ ในช่วงแรกลงจากรถปอร์เช่คันหรูทีไรทุกคนเป็นต้องมอง แถมยังซุบซิบนินทา แต่ตอนนี้เหมือนกลายว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ในตอนแรกเพื่อนในคณะก็มารุมตอมถามเรื่องเผ็ดจากดรีม เขาก็ได้ตอบไปแค่ว่าเป็นรุ่นน้องเท่านั้น พอหลังเลิกเรียนเผ็ดก็จะมารับตลอด
“ตอนเย็นจะให้ไอ้โปรดไปรับแล้วกัน” นายโปรดที่เผ็ดกล่าวถึง ก็ไม่พ้นลูกน้องสองแสบของเขานั้นเอง โปรดเป็นคนพี่ ส่วนคนน้องชื่อปราน
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้ รบกวนคุณโปรดเปล่าๆ”
“ไม่ได้ เดี๋ยวมึงตุกติกหนีกูไปทำไงวะ”
“ผมไม่หนีหรอกครับ ถ้าจะหนี...คงหนีไปตั้งนานแล้ว” ร่างบางตอบยิ้ม นี่มันเรื่องซีเรียส จะยิ้มทำซากอะไรคนมันใจเต้นแรง
“กูจะให้ไอ้โปรดไปรับมึงหลังเลิก” เผ็ดยื่นคำขาด
“เอ่อ...ตอนเย็นคุณเผ็ดไปเก็บหนี้อีกแล้วหรือครับ”
“อืม เดือนนี้เหลืออีกไม่กี่คนว่าจะกวาดวันนี้ให้หมด”
“เพลาๆลงหน่อยก็ดีนะครับ”
“มึงหมายถึงอะไร”
“เรื่องไล่กระทืบคนน่ะ”
พูดมาได้ จะให้เพลาๆลงได้อย่างไร ถ้าอยากให้ไอ้พวกลูกหนี้จ่ายหนี้ ก็ต้องไล่กระทืบนี่แหละ วิธีเก็บหนี้แบบง่ายๆ ไม่ต้องพูดเยอะให้เปลืองน้ำลาย
หลังจากทานอาหารเช้าฝีมือดรีมเป็นที่เรียบร้อย เผ็ดก็แวะส่งดรีมที่คณะเศรษฐศาสตร์ ส่วนตัวเขาเองก็ต้องไปเรียนเหมือนกัน มีเรียนแค่ช่วงเช้า ส่วนภาคบ่ายว่างเลยถือโอกาสเดินสายเก็บหนี้ให้หมด เขาโทรนัดลูกน้องออกมาแล้วไล่เก็บหนี้ตามรายชื่อทีคนละคนไปเรื่อยๆ
และก็มาถึงรายชื่อลูกหนี้คนสุดท้ายที่ต้องเก็บในเดือนนี้...
‘ภูริช’
ตอนนี้ร่างสูงกำยำยืนตระหง่านอยู่หน้าห้องภายในคอนโดแห่งหนึ่ง เขากดออดหน้าห้องอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะมีชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำพอๆเผ็ดออกมาเปิดประตูให้ ดูจากลักษณะสีหน้าของไอ้ภูริชแล้ว ทำไมมันแลดูไม่ตื่นกลัวเผ็ดเลยสักนิด ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนแบบลูกหนี้คนอื่นเลย ที่พอเจอหน้าเผ็ดก็เผ่นแนบกันทุกคน
“สวัสดีครับพี่ เข้ามาก่อนก็ได้ครับ”
ภูริชเดินนำเข้าไปในห้อง แต่เผ็ดจำได้ว่าครั้งก่อนนู้นก่อนที่มันจะเอาตัวดรีมมาจำนำ เผ็ดเคยมาบุกถึงห้องภูริช และพบว่าภายในห้องไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยสักอย่าง แต่ตอนนี้ห้องกลับมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวีติดผนังรุ่นใหม่ ชุดโฮมเธอร์เทียเตอร์ โซฟาสุดหรูนั้นอีก โคมไฟห้อยระย้าตรงห้องนั่งเล่น พอหันไปตรงโซนเคาท์เตอร์ห้องครัวอุปกรณ์ทุกอย่างก็ครบหมด มันเอาเงินมาจากไหนไปซื้อวะ แสดงว่าแบบนี้ก็มีเงินจ่ายหนี้เขาแล้วน่ะสิ
“นี่ครับ” ไอ้ภูริชยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลมาให้เขา
“เท่าไหร่” เผ็ดถาม ก่อนจะกวักมือลูกน้องมาให้รับเงินที่อยู่ในซองกระดาษไปนับ
“ห้าแสนครับ” ภูริชตอบ
“รอไอ้ปรานมันนับอีกที” ลูกน้องเสี่ยเผ็ดนามว่าปราน เดินถือซองเงินไปนับที่หลังเคาท์เตอร์ห้องครัว
เผ็ดเดินไปนั่งรอที่โซฟา ภูริชเดินถือน้ำมาเสิร์ฟตามมารยาท ก่อนจะนั่งลงข้างๆเผ็ด
“แลดูมึงไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแล้ว”
“ครับ”
“กูไม่คิดว่ามึงจะคืนเยอะขนาดนี้” อย่างมากสุดก็น่าจะเดือนละหมื่นสองหมื่น แต่นี่มันไปหาเงินก้อนมาจากไหนกัน หรือว่ามันจะหันไปค้ายา เผ็ดได้แต่หันไปมองไอ้ภูริชอย่างครุ่นคิด
“ผมไม่ได้หามาด้วยวิธีผิดกฎหมายหรอกครับพี่”
“เงินก้อนใหญ่แบบนี้ ถ้าไม่ค้าขาย...”
“เงินก้อนนี้ผมหามาด้วยความสุจริต ไม่ผิดกฎหมายแน่นอนครับ” เหมือนกับภูริชอ่านความคิดของเผ็ดออกอย่างไรอย่างนั้น
“ถ้ามึงแน่ใจขนาดนั้น กูจะเชื่อก็ได้”
“แล้ว...เอ่อ...ดรีมเป็นอย่างไรบ้างครับ”
“สบายดี ลีลาบนเตียงก็ใช้ได้”
เผ็ดหันไปยิ้มเยาะใส่อีกฝ่าย และดูเหมือนว่าสิ่งที่พูดไปกระตุ้นอารมณ์โกรธของภูริชได้ดีทีเดียว ดูสิว่ามันจะทนได้นานแค่ไหน ดีไม่ดีอาจจะลุกขึ้นมาต่อยเผ็ดแบบพรวดพลาดเลยก็ได้ ก็ดีเหมือนกัน เผ็ดอยากจะกระทืบมันให้ผีพนันออกจากร่างสักที ความโลภความเห็นแก่ตัวชักนำให้คนอื่นเดือดร้อนไปหมด โดยเฉพาะดรีมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร กลับมาโดนแฟนระยำหักหลังด้วยการเอามาจำนำ
แล้วนี่...เผ็ดจะของขึ้นทำไม
“ห้าแสนบาท” เสียงไอ้ปรานดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเผ็ดอีกแล้ว แต่ก็ดีได้เงินแล้วก็อยากไปให้พ้นๆ เห็นหน้าไอ้ภูริชแล้วตีนมันกระตุก
“จ่ายก้อนใหญ่ๆแบบนี้กูชอบ หึ” ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟา เตรียมจะเดินออกจากห้องภูริช แต่เสียงมันดันขัดขาเผ็ดไม่ให้ออกไปซะก่อน
“งวดหน้าผมจ่ายล้านนึง”
เผ็ดหันไปมองมันช้าๆ พร้อมกับขมวดคิ้วคล้ายขัดข้องใจ
“มึงว่าอะไรนะ”
“งวดหน้าผมจ่ายล้านนึงเลยก็ได้ แต่ขอเลื่อนเวลาเป็นสองเดือน”
สองเดือนกับเงินล้านนึง คนอย่างไอ้ภูริชมันจะหามาได้ยังไงกัน ถ้ามันไม่ค้ายาเหมือนที่เผ็ดสงสัย เงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นมันไม่ได้หามาได้ง่ายๆเลย ดูจากเสี่ยเผ็ดสิ ตามทวงลูกหนี้เป็นเดือนๆยังไม่ได้ครบล้านนึงเลย แล้วที่บอกหามาได้โดยไม่ผิดกฎหมายนี่ เผ็ดไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่มันพูดเลย ถ้าไม่ค้ายาก็ค้ามนุษย์ละวะอย่างนี้
“สองเดือน...กับล้านนึง?”
“ครับ”
“มึงแน่ใจนะ ว่าสิ่งที่มึงทำไม่ผิดกฎหมาย” เผ็ดถามย้ำอีกครั้ง ถึงจะทำผิดกฎหมายอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวกับเขาหรอก ขอแค่ไอ้ภูริชมันจ่ายตามงวดก็พอ แต่ก็แค่สงสัยเท่านั้นว่ามันหาเงินมาจากไหน
“ผมแน่ใจ และผม...จะรีบไถ่ตัวดรีมให้เร็วที่สุด” ภูริชหนักแน่น มันจ้องมองมาที่เสี่ยเผ็ดเขม็งเชียว โกรธนักหรือที่กูขึ้นขี่แฟนมึง แล้วอย่างนั้นจะเอามาจำนำแต่แรกทำไมกัน
“ได้ แต่ถ้าครบสองเดือน มึงไม่มีเงินล้านมาให้กู แฟนมึงก็จะตกเป็นของกูอย่างสมบูรณ์แบบ และมึงก็ไม่มีสิทธิ์มาไถ่ตัวมันได้อีก”
ไอ้ภูริชมันกำลังท้าทายเสี่ยเผ็ดอยู่อย่างนั้นหรือ คนอย่างเขาไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่ามัน มันก็แค่ลูกหนี้จะมาสู้เจ้าหนี้ที่มีข้อสัญญาอยู่ในมือได้อย่างไร
เผ็ดเดินถือซองเงินนำหน้าลูกน้องออกจากห้องภูวิชไป ไม่ทันได้ก้าวถึงไหน ก็มีชายหนุ่มรูปร่างบอบบางผิวขาวจัดสวมแว่นตากันแดดสีชาเดินสวนเผ็ดไป ก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องที่เผ็ดพึ่งเดินออกมา ไม่นานภูริชก็เปิดประตูแล้วดึงอีกคนเข้าไปในห้อง
“ไอ้ปราน”
“ครับเจ้านาย”
“มึงเห็นไหมว่านั้นใคร ที่เข้าไปในห้องไอ้ภูริชมัน”
“ผมว่าคุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” ปรานทำหน้าครุ่นคิด แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก มันคุ้นจริงๆนะ
“ช่างเถอะ”
ปรานขับรถกลับคอนโด โดยมีเสี่ยเผ็ดนั่งอยู่ด้านหลัง พอจอดติดไฟแดง ปรานได้สังเกตเห็นป้ายโฆษณาเครื่องดื่มตระหง่านอยู่บนยอดตึกแห่งหนึ่ง นายแบบโฆษณาหน้าคล้ายกับไอ้คนที่เดินสวนไปเมื่อกี้เลยแหะ หรือว่าจะเป็นคนคนเดียวกัน
“นายครับนาย” ปรานร้องเรียกเจ้านายด้วยท่าทีตกใจ
“มีอะไร”
“คนที่เดินสวนเราเมื่อกี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นนายแบบคนนั้นครับ” ปรานชี้นิ้วไปที่แผ่นป้ายโฆษณาอันใหญ่บนยอดตึกให้เจ้านายดู
“มึงว่าอย่างนั้นหรือ”
“ผมว่าผมมั่นใจ”
“มึงไปสืบประวัติมันมา แล้วก็สืบมาด้วยว่าเป็นอะไรกับไอ้ภูริช”
“ได้ครับ”
เมื่อรถแล่นถึงคอนโด เผ็ดก็พุ่งเดินตรงกลับไปที่ห้องโดยทันที นายปรานก็วิ่งตามหลังเจ้านายแทบไม่ทัน ไม่รู้จะรีบอะไรขนาดนั้น พอมาถึงห้องกลิ่นหอมๆของตะไคร้ลอยมาแตะจมูก สงสัยดรีมกำลังทำอาหารเย็นอยู่ พอเผ็ดแอบชะโงกหน้าเข้าไปดูที่ครัว ก็เห็นรูปร่างสูงใหญ่ของลูกน้องยืนทำอาหารอยู่ข้างๆคนตัวเล็ก สีหน้าดูแช่มชื้นทั้งคู่เชียว แล้วไอ้เสื้อกันเปื้อนลายหมีสีชมพูที่มันใส่คู่กับดรีมอีก สวีทกันเชียวนะ เผ็ดไม่อยู่แปบเดียวจะแอบกินกันอย่างนั้นหรือ คิดแล้วก็ของขึ้น
“ไอ้โปรด!”
“คะ..ครับ เจ้านายกลับมาแล้วหรือครับ” นายโปรดรีบวิ่งกุลีกุจอมาต้อนรับเจ้านาย ในมือของมันยังถือกุ้งไว้อยู่เลย
“มึงทำอะไร”
“ผมกำลังช่วยคุณดรีมแกะกุ้งอยู่ครับ”
“กูมอบหมายมึงให้แกะกุ้งเรอะ!! กูบอกให้มึงไปรับมันกลับเฉยๆ นี่มันทำนอกเหนือคำสั่งกู!!”
“อะ..เอ่อ..ขอโทษครับเจ้านาย พอดีว่า..”
“ผมให้คุณโปรดช่วยทำเองแหละครับคุณเผ็ด พอดีกลัวว่าจะทำไม่ทันคุณเผ็ดกลับมา” เสียงของดรีมขัดขึ้น ก่อนจะเดินออกมาต้อนรับร่างสูงเช่นกัน
“ไอ้โปรดมึงกลับห้องไปเลย” เจ้านายออกคำสั่งไล่ ส่วนลูกน้องก็รีบล้างมือรีบถอดเสื้อกันเปื้อนออก
“ลาล่ะครับ สวัสดีครับ สวัสดีครับ” นายโปรดยกมือไหว้ดรีมแล้วก็หันไปไหว้เจ้านาย มันรีบเผ่นแนบออกไปทันทีเมื่อเห็นสายตาดุๆของเจ้านาย แค่มาแกะกุ้งช่วยคุณดรีมทำไมต้องทำหน้าโหดเหมือนตอนไล่กระทืบลูกหนี้ด้วยก็ไม่รู้
“แล้วมึง จะยืนเซ่ออีกนานไหม จะไปทำกับข้าวก็ไปทำสิวะ” แล้วเผ็ดก็หันมาไล่คนตัวเล็กอีกที ดรีมยิ้มรับก่อนจะหันกลับไปทำอาหารในครัวต่อ นี่เขากำลังทำหน้าตาดุอยู่นะ จะยิ้มทำซากอะไรนักหนา เห็นแล้วมันคันหัวใจ
รอยยิ้มหวานๆนั้นมีผลต่อหัวใจร่างสูงเสียจริง หรือว่าเขาอาจจะเป็นโรคหัวใจ บางทีมันก็เต้นเร็ว บางทีมันก็คันยิกๆ พรุ่งนี้คงต้องไปปรึกษาหมอแล้วล่ะ
TBC.
talk ; ตอนนี้เอื่อยๆนิดนึงน้า