ตอนที่ 11
[ติณฑ์] ผมไม่พูดอะไรอีกแต่รีบขับรถกลับคอนโดด้วยความรวดเร็ว พูดในรถไม่รู้เรื่องหรอก พอถึงห้องก็โอบกอดมันไว้ทั้งตัว ตาแดงเพราะร้องไห้อีกแล้ว อุตส่าห์มาหานะ...ทำมันร้องไห้อีกแล้วกู
มันสะอื้นอยู่พักใหญ่ ๆ ผมก็เลยพามันไปล้างหน้า แล้วเอาน้ำให้ดื่ม...
“ที่กูบอกเพราะอยากลองคบกันดูเฉย ๆ นะ...เตี้ย ไม่ได้หวังให้มึงมารักหรืออะไรเลย แค่อยากศึกษานิสัยใจคอกันเท่านั้นเอง มึงมีอะไรไม่สบายใจงั้นเหรอ?”
มันส่ายหน้า....
“กูชอบแบบชอบมาก ๆ แล้วตอนนี้ เลยอยากลองคบดู มาเรียนรู้ซึ่งกันและกันไง กูจะได้รู้ว่า...อะไรที่มึงพอใจหรือไม่พอใจ ต้องการหรือไม่ต้องการ”
“สักพักมึงก็จะรำคาญ”
“อันนั้นเป็นเรื่องในอนาคต แต่ระหว่างนั้น...ให้กูดูแลมึงได้ไหม”
“แล้วถ้านาน ๆ ไปล่ะ แบบว่า...นาน ๆ เลยอ่ะ มึงก็จะทิ้งกูไปเหมือนคนอื่น”
“ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ ณ วันนี้ ตอนนี้...กูรู้แค่ว่า กูอยากดูแลมึง...ได้เปล่า ทำไมต้องคิดไปไกลขนาดนั้นด้วยละเตี้ย อนาคตมันยังมาไม่ถึงสักหน่อย”
“ก็กลัวนี่หว่า!!!!!!”ตวาดกลับได้อีก 555+
“กลัวอะไรบอกกูดิ๊...กลัวอะไร?”
ผมคาดคั้น มันลังเลในคำตอบ ก่อนจะเอ่ยออกมา
“กลัววันนึง แล้วมันไม่เหมือนเดิม”
ผมโอบกอดมันไว้ทั้งตัว เข้าใจแล้วเตี้ย...กูเข้าใจแล้วครับ มึงกลัวการเปลี่ยนแปลง
“ไม่เหมือนเดิม เพราะกูรู้ว่ากูจะต้องรักมึงมากขึ้นในทุก ๆ วันแน่นอน”
“ทำไมมึงมั่นใจนัก”
“กูเชื่อมั่นความรู้สึกตัวเองเสมอ มึงละ..ช่วยรับความรู้สึกกูเพื่อตอกย้ำความมั่นใจที่กูมีได้ป่ะ”ผมรีบเสนอ มันส่ายหน้า...
“พ่อรู้พ่อเอาตาย...พ่อไม่ให้มีแฟนก่อนเรียนจบ”
“ก็ถ้าระหว่างที่คบกันไปแล้วพ่อรู้ กูก็จะจับมืออยู่ข้าง ๆ มึงนี่ไง นะ...อยู่กับกูไม่สนุกหรอ ว่าไงครับ”
“ห้ามบังคับกูด้วยนะ...”
“เรื่อง?”
“ทุกเรื่องอ่ะ ห้ามบังคับให้ทำโน่นทำนี่”
“งั้นเดี๋ยวกูค่อยพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป นะ”
มันพยักหน้าขึ้นลงสองสามที หน้าโคตรแดงอ่ะ
“อือ”
มว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก~~~
เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสส~~~
สำเร็จแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย~~~~~
“เป็นแฟนกันแล้วนะ”ผมบอกย้ำ
“อืออออออ”
“ขอบคุณครับ”ผมกดจูบริมฝีปากบางนาน ริมฝีปากมันวันนี้เร้าร้อนกว่าปกติ ถึงจะต้องการมันมากแค่ไหน ผมก็ยั้งและห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรเกินเลย เห็นไหมว่าผมทะนุถนอมมันสุด ๆ แค่ไหน กร๊ากกกกกกก....
“ติณฑ์ อย่าบอกใครนะเรื่องระหว่างเราอ่ะ”มันบอกเสียงสั่น ผมใช้นิ้วโป้งลูบริมฝีปากอย่างต้องการ
“ครับไม่บอกก็ได้”
กดจูบหนัก ๆ ไปอีกหน คราวนี้มันทำท่าจะยืนโงนเงน จะล้มให้ได้...ผมเลยต้องวางลงที่โซฟา แล้วตามไปพรมจูบต่อ
“อือ..พอเด่ะ!!!! จะเอาให้กูตายเลยใช่ไหม!!!!!”แน่ะ...มีตวาด ผมยิ้มกว้างให้
“ไม่ตายหรอกครับเตี้ยแค่นี้!!!!!!”
-----------------------------------------------------------------------------------------
ผมไม่รู้ว่ามันรู้ความหมายของการเป็นแฟนรึเปล่า การที่คน ๆ นึงจะแชร์ทุกประสบการณ์กับมัน มันจะรับได้ไหม...และจะเปิดรับผมมากแค่ไหน เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ผมยังไม่มั่นใจอะไรเลย...ยังไม่เคยรับรู้เลยว่า มันรู้สึกกับผมยังไง แค่เหมือนพี่ชายมันรึเปล่า หรือเป็นแค่เพื่อน แค่คนรู้จักที่ไว้แก้เหงา
ปลายสัปดาห์แล้วที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน มันไปเรียนกลับตรงเวลาเป๊ะแทบจะทุกวัน จะมีไม่ตรงก็วันที่มันไปทำรายงานเท่านั้น ผมถามว่าตอนกลางวันกินข้าวกับใคร โดนใครแกล้งรึเปล่า...มันก็ไม่ตอบ บางทีกลับมาก็เห็นนอนร้องไห้อยู่หน้าโซฟา ผมถามมันก็ไม่ได้เล่าอะไร เหมือนจะกลายเป็นว่าถามย้ำซ้ำจุดเดิมอีก เมื่อวานนี้สด ๆ ร้อน ๆ มันไปต่อยกับใครก็ไม่รู้ เค้าตามมาเอาเรื่องจะแจ้งความให้ได้ ผมก็รีบไปไกล่เกลี่ย กลับมาถามสาเหตุมันก็ไม่ยอมตอบ นี่ถ้าไม่มีผมอยู่ด้วย มันร้องไห้แบบนี้บ่อยไหม...เพื่อนมันรู้บ้างรึเปล่า วันหลังต้องแอบไปดูที่มหาลัยบางแล้ว ว่ามันใช้ชีวิตยังไง
ตอนเย็นผมกลับมาถึงก่อน นั่งรอมันก็ยังไม่กลับมาสักที เดินไปดูตารางสอนที่แปะเอาไว้ในห้องทำงานของผม จริง ๆ มันต้องเลิกตั้งแต่ บ่ายสองแล้วนี่นา ทำไมยังไม่ถึงสักทีว่ะ!!!!!! นึกเป็นห่วงเลยโทรตามไม่ยอมรับสายด้วยแฮะ...
แอ็ดดดด~
เสียงเปิดประตูเข้ามา อ้าว...มันกลับมาพอดี หน้าแบบโคตรเหนื่อยอ่ะ...
“เหนื่อยไหม”ผมเดินเข้าไปกอดมัน
“อือ”ตอบแบบอู้อี้ ถอดรองเท้า ถุงเท้า โยนกระเป๋ากองพื้น แล้วฟลุบหน้าลงมุดโซฟานุ่ม หึหึหึ โคตรเป็นสเต็ป
“เดี๋ยวรีบทำข้าวให้กินเลย / วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง”ผมถามเหมือนทุกวันที่ถาม
“ก็ดี...”มันก็ตอบเหมือนทุกวันที่ตอบ
“ไปแช่น้ำไหม จะได้สดชื่น...”
“กินข้าวก่อนไม่ได้เหรอ วันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย”พูดเหมือนหลุดปากออกมา ผมกัดปากตัวเองมองมันอย่างเหวี่ยง ๆ ...นี่มันหกโมงแล้วนะ!!!!! เมื่อเช้ากินแต่ขนมปังทาแยมไป 3 แผ่นเองด้วย!!!!!! ตอนกลางวันผมก็โทรไปย้ำมันแล้วนี่ว่าให้กินข้าวด้วย มัวทำอะไรอยู่ว่ะ...ทำไมไม่ดูแลตัวเองบ้าง!!!!!!
“ทำอะไรถึงไม่ได้กิน”
“เออน่า”มันตอบเหมือนเดิม อย่าให้กูรู้จะจับเด็กฟาดไม่เลี้ยง
หงุดหงิดครับ! เดินมาหาอะไรให้มันกิน รู้ว่ามันต้องหิวมากแน่ ๆ ทำไข่เจียว แกงจืด หมูมะนาว แล้วก็เห็ดกุ้งผัดซอสหอยนางรม รีบทำแบบไว ๆ เลยฮะ เสร็จแล้วก็ไปเรียกพี่ท่านเค้ามาทาน ท่าเดินยังอ่อนระโหย...แล้วก็อย่างที่เห็น ข้าวหุงไว้มันกินไปเกือบครึ่งหม้อ เฮ้อ...กินไม่เป็นเวลาอย่างนี้ เดี๋ยวโรคกระเพาะก็กลับมาถามหาอีก เพลียกับมันจริง ๆ
“อร๊ากกกกกก อร่อยอ่ะ”หันมายิ้มกว้างแล้ว ลูบพุงตัวเองเบา ๆ ผมยื่นแก้มให้มัน เป็นเชิงว่าขอรางวัล มันยกมือเล็กตีเปรี๊ยะเข้าให้
“ตลกแล้ว! สมน้ำหน้า...หน้าแดงเลยอ่ะ”
“เจ็บนะ เดี๋ยวโดนเอาคืนบ้าง”
“แบร่~~~~”
“หึ่ย!!!!”โน้มตัวเข้าประชิดตัวมัน แต่มันก็ไวเหมือนกัน หยิบส้อมมาขู่....ผมรีบชักส้อมในมือหนีเลย อันตรายตลอด!
“ไปอาบน้ำ ทำการบ้านครับผม!”
“พรุ่งนี้ไม่ไปเรียน ค่อยทำพรุ่งนี้”
“ทำไมละ?”
“พรุ่งนี้อาจารย์งดทั้ง 2 คลาสเลย”
“จริงหรือเปล่า???????”แกล้งถามไปงั้นแหล่ะ ไม่ค่อยหยุดเรียนโดยไม่มีสาเหตุหรอก!
“ไม่จริงมั้ง!!!! กวนตีน หึหึหึ”
“ทำไว้ก่อนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขี้เกียจอีกอ่ะ”
ผมเก็บจานบนโต๊ะ วันนี้เตี้ยมาแปลก มันช่วยเก็บด้วยแฮะ....ผมไม่เคยใช้มันทำหรอก งานบ้านอะไรพวกนี้ อย่างทำความสะอาดห้อง ซักเสื้อผ้าก็มีแม่บ้านประจำอยู่แล้ว แค่ให้มันช่วยเก็บของทั้งหลายของมันให้มันเป็นที่เป็นทางบ้าง ส่วนงานง่าย ๆ อย่างล้างจาน มันรอแม่บ้านไม่ได้ไงฮะ ผมต้องทำเอง...
“กูอยากล้างบ้างอ่ะ ให้กูล้างนะ”มันขอ แววว่าผม...จะต้องมาเช็ดพื้นเพราะความเล่นซนของมันอีกแน่ ๆ =_=
วางจานในอ่างแล้วเทน้ำยาลงไป ไม่อยากให้มันล้างเลย...กลัวตัวเองได้งานเพิ่ม เหอ ๆ มันเหมือนคนไม่เคยล้างจาน เตี้ยมันบีบ ๆ ให้มองมันเยอะ ๆ จนท่วมจานแล้วก็ถูอยู่สองสามที หึหึหึ
“ล้างอย่างนี้ ถูแบบนี้ ล้างน้ำ อยู่บ้านไม่เคยล้างหรือไง”ผมทำให้มันดู มันก็ทำตาม จะบ้าตาย...ฟองฟอดเชียว ผมต้องมาล้างอีกรอบ ตัวมันเปียกโชกเลย 555555555+ เตี้ยเอ้ย....
“ที่บ้านป้าแก้วทำให้”
“ใครคือป้าแก้ว”
“ป้าแม่บ้าน”
“ที่บ้านอยู่กันกี่คนอ่ะเตี้ย”
“บ้านใหญ่มีพ่อ แม่ ป้าแก้ว พี่ฟ้า ตา ยาย แล้วก็บ้านใกล้ ๆ ก็มีบ้านปู่กับย่า แถวนั้นก็จะมีบ้านลุง บ้านป้า ญาติ ๆ ปลูกบ้านแถวนั้นหลายคน”
“คนเยอะเนอะ ที่บ้านทำอะไร”
“ก็ทำสวนผัก สวนผลไม้ ถามมากจัง”ถามนิดเดียวเองก็มันอยากรู้นิ
“ที่บ้านใครดุที่สุด แบบว่ามึงกลัวใครที่สุด”ถามต่อฮะ เก็บข้อมูลสุด ๆ
“ป๊ากูน่ากลัวสุดละ กูเคยโดนตีด้วย...โคตรเจ็บเลย”
“หือ...ตีด้วยเหรอว่ะ”
“อือ ตอนเด็กอ่ะ...ไปเล่นแถวเขื่อนป๊าไม่ชอบให้ไป กลับมาเจอป๊านั่งเหลาไม้เรียวยาว ๆ อ่ะ มาถึงก็โดนตีชุดใหญ่เลย ไปด้วยกันกับพี่บุ้งพี่ขิงแท้ ๆ กูโดนตีอยู่คนเดียว”
“หึหึหึ ซนไม่เข้าเรื่องเอง”
“นอกนั้นก็ไม่ค่อยดุ จะชอบเจ้ากี้เจ้าการ...อย่างพี่บุ้ง พี่ขิง ชอบบังคับ พี่ต้นหอมใจดีน่ารักด้วย”
“ในบรรดาพี่น้องมึงรักใครมากกว่ากัน”
“พี่บุ้ง~”มันตอบแทบจะทันที ไอ้เด็กติดพี่เอ้ย....
“ทำไมล่ะ???”
“ไม่รู้ดิ รักมากรักที่สุดด้วย...พี่กูใจดีนะ แต่บางทีก็น่ากลัว”
“พี่บุ้งของมึงกับกูใครใจดีกว่ากัน”นั่นไง...กูอดถามไม่ได้ หึหึหึ มันชี้ที่อกของผม กร๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ แต้มนำว่ะ
“แล้วมึงใครรักมากกว่า พี่หรือกู?”
“ก็ต้องรักพี่กูดิ.....”
แง้วววววววววววววว~
หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น....
“ไปอาบน้ำครับ เดี๋ยวกูทำต่อเอง...”ไล่ไปอาบน้ำดีกว่า
“ไม่เอาจะล้าง!!!”
“โอเค ถ้าล้างไม่สะอาดจะโดนทำโทษนะ!”
ผมรวบเอวมากอดจากด้านหลัง มันยืนตัวเกร็ง ๆ จนรู้สึกได้ เงียบไปเลยวุ้ย...ไม่คุยอะไรเลย ก้มหน้าล้างอย่างเดียว เมื่อกี้ยังพูดเป็นต่อยหอยอยู่เลย เหอ ๆ ผมเอาคางเกยบ่ามันไว้
“ร้องเพลงให้ฟังหน่อยดิ”ผมบอก
“ไรเล่า ถอยออกไปเด่ะ!!!!!”จะพาหวานกลับตวาดกูซะงั้น
“ร้องเพลงให้ฟังหน่อย!~”กระซิบข้างหูมันเบยหูหนีเฉยเลย หัวเราะคิกคัก...คงจะจั๊กกะจี้
“ไม่เอา ของดีไม่มีบ่อย ๆ นะ / เขยิบออกไปทีเซ่ะ จะมายืนเบียดกันทำไม!”
“มีแฟนแล้ว อยากยืนอยู่กับแฟนอ่ะ”ผมบอก หน้าโคตรแดงแล้วฮะ 5555555555555555555+ กดจูบแรง ๆ ที่ข้างแก้ม แล้วจับมือเปียก ๆ ของมันล้างจานไปด้วยกัน
มือมันโคตรสั่นอ่ะ หึหึหึหึ
“ไอ้เตี้ยยยยย...มันเป็นเด็กโคตรดื้อออออออ~~
~~”ผมแกล้งร้องเป็นเพลงออกมา มันเห็นมาทำหน้าเหวี่ยง โคตรตลก
“แต่กูก็เริ่มรัก.... ”
“ไอ้เตี้ยยยยย....มันเป็นเด็กบ้าบออออออออ~~~~”
“บ้าบอบ้านมึงสิ!!!!”มันสวนกลับยิ้ม ๆ
“แต่กูก็คิดจะรัก.....
”
“ไอ้เตี้ยยยยย....มันเป็นเด็กงี่เง่าขี้แยอ่อนแอขี้โรค~~~~”
“คึคึคึคึคึคึคึ”หัวเราะตาแป๋วเลย มันเงยหน้ามามองผม เลยจุ๊บปากมันไปเบา ๆ
“กูก็ยังรัก....
”
“ไอ้เตี้ยยยยย....มันเป็นเด็ก....อะไรดี?”ผมถามมัน
“เป็นเด็กน่ารักกกกก”มันต่อให้ตัวเอง ผมหัวเราะออกมา...ไม่ค่อยชมตัวเองเลยนะมึง
“อือ เป็นผีเด็กน่าร๊ากกกกก กูก็จะรัก รัก รัก...โอเคไหมครับ”ผมถาม มันก้มหน้าพยักรัว ๆ หอมผ่านศีรษะมันไปทีนึง อ่ะโห...
“เตี้ยหัวมึงโคตรเหม็น ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ยังไม่ได้สระเลย 2 วันแล้ว 5555555555555555+”
“กูก็ว่ากลิ่นอะไร ไปอาบน้ำเลย!!!”
“รู้แล้วน่า...ปล่อยเซ่ะ!”มันหน้าแดงจนลามไปถึงใบหู น่ารักจัง...
“จูบก่อนที”
ผมไม่รอให้มันอนุญาตจับคนตัวเล็กหันมาแล้ว บรรจงจูบเบา ๆ อย่างละเมียด มันก็ทำตามอย่างว่าง่าย...น่ารักจนไม่อยากปล่อยให้ไปไหน อยากจะกอดมันไว้อย่างนั้น~
“ติณฑ์”
“ครับ...”
“ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอไง”
“แบบไหน จูบเนี่ยเหรอ?”ผมถาม มันพยักหน้า
“ทำเพราะรู้สึกดีด้วยนะครับ”มันหน้าแดงแจ๋ เม้มปากตัวเองแน่นสนิท
ผละออกจากกัน มันก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย เหอ ๆ ไม่เคยจะชินอ่ะ ผมทำความสะอาดส่วนที่เหลือต่อ ก่อนจะเอามะม่วงสุกกำลังดีมาปอกแช่เย็นไว้ แม่บ้านเพิ่งเอาสตอเบอรี่กับแคนตาลูปมาไว้ให้ด้วย ไอ้เตี้ยมันคงชอบ...
-------------------------------------------------------------
มันนั่งทำการบ้านเหมือนอย่างเคย แต่หูก็ฟังเสียงทีวี มันไม่ยอมให้ผมเปลี่ยนช่องเลยด้วยซ้ำ ครองรีโมทคนเดียวเลย ผมเลยต้องเอาแท็ปเล็ตมานั่งเปิดดูข่าวสารไปเรื่อย ๆ รอมันทำการบ้านกว่าจะเสร็จ ลายมือมันอย่างน่ารักอ่ะ...แล้วยังทำงานเป็นระเบียบด้วย
เสียงโทรศัพท์ผมเข้า หมวดแวน โทรมาทำไมว่ะ!?!??!
“ฮัลโหล”
“อยู่ไหนว่ะ ที่ร้านมีเรื่องแล้ว!”
“ทำไมเกิดอะไร!??!?!”ผมถาม วันนี้ผมไม่ได้เข้าร้าน...และก็ว่าจะไม่ได้เข้าทั้งอาทิตย์เลยด้วย
“เด็กมีเรื่องกัน จะเข้ามาดูไหม”มันถาม ผมมองหน้าไอ้เตี้ย
“เออ เดี๋ยวเข้าไป....”ผมบอกสั้น ๆ ก่อนจะวางสาย คนดื้อวางปากกาแล้วหันมาถาม
“ไปไหน!?!”
“เข้าร้าน ไปไม่นานหรอก...ทำการบ้านเสร็จ อย่าลืมปิดทีวี...ล็อคห้องดี ๆ ด้วยนะ”
“ที่ร้านมีเรื่องอะไร?”
“หมวดบอกเด็กตีกัน เรื่องปกติ มึงก็รีบทำรีบเข้านอนล่ะ”
“ไปด้วยดินะ....”
“ไปทำไมไม่ใช่เรื่องของเด็ก”รีบห้ามมันก่อน ชอบนักเรื่องแบบนี้ มันรวบหนังสือปิด พั่บ ๆ ๆ อย่างไว เกาะแขนผมไว้แน่น
“ไม่เอาจะไป!!!!”
นั่นใส่รองเท้าพร้อม ห้ามได้ที่ไหน...แล้วดูมันแต่งตัวนะ ชุดนอนกางเกงขาสั้นกุดเลย
“จะไปก็ไปเปลี่ยนชุด ดูสภาพตัวเองดิ๊”มันรีบวิ่งจู๊ดไปเปลี่ยนเลยฮะ หึหึหึ
30 นาทีถึงร้านฮะ ตำรวจ ป๋อเต็กตึ้งจอดเพียบหน้าร้าน กอล์ฟลูกน้องคนสนิทและเป็นคนดูแลร้านให้ ยืนรอผมอยู่แล้ว ผมจอดรถแล้วรีบลงไปหาพอดี
“เตี้ยมายืนใกล้ ๆ กูนี่”
ห่วงมันก็ห่วง ยิ่งชอบเดินซุ่มสี่ซุ่มห้าทำตัววุ่นวายอยู่ด้วย หมวดแวนและตำรวจอีกสองสามนายเดินเข้ามา
“เด็กเขม่นกันธรรมดา ไม่ธรรมดาตรงที่มีคนพกปืนด้วย”หมวดบอก ผมหันไปชักสีหน้าให้ลูกน้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมกำชับนักหนาแล้ว โอเค...เราเป็นร้านอาหารแต่พอกลางคืนเราเป็นแบบกึ่งผับด้วย สิ่งที่ต้องระวังคือการตรวจตราป้องการอาวุธ และยาเสพติดอย่างเข้มงวด
“มีใครเป็นอะไรไหม”ผมถาม
“ไม่มี แค่ต่อยกัน คืนนี้ปิดร้านไปเลยแล้วกัน...ข้างในเละอยู่พอสมควร”
“อือ”ผมกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน หมวดแวนก็หันมาเห็นมะนาวพอดี
“อ้าว หวัดดีนาว มาทำอะไรแถวนี้”มันถาม เตี้ยมันกลอกตาไปมา ดึงเสื้อผมไว้
“มาด้วยกัน”ผมบอก หมวดทำหน้าสงสัย ทำไมถึงมาด้วยกัน ผมจ้องตามันเบา ๆ สื่อให้รู้ว่าอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ เป็นเพื่อนกันมากกว่า 20 ปีแล้วฮะ แค่มองตาก็รู้แล้ว ไอ้หมวดไม่ได้ถาม แต่ยิ้ม ๆ ให้ไอ้เตี้ย มันก็ยิ้มน้อย ๆ ให้เขาตามมารยาท
“ข้างในเดินระวังหน่อยแล้วกัน เศษแก้วเยอะอยู่”
“งั้นมึงไม่ต้องเข้า ยืนรออยู่นี่”ผมบอกด้วยความเป็นห่วง มันดันมาชักสีหน้าใส่...แต่ผมก็ทำนิ่ง ๆ ไว้ให้มันกลัวเหมือนกัน ให้มันรู้ครับ...เวลาผมคุยเล่น มันก็แซวเล่นสนุกได้ แต่เมื่อไหร่ที่ผมซีเรียสกับเหตุการณ์ขึ้นมา ผมก็จะกลายเป็นอีกคนทันที ผมรู้ได้ว่ามันรับรู้แต่ตอนนี้มันไม่ยอมปล่อยชายเสื้อกูครับ =_=
“ข้างในเศษแก้วมันเยอะ มึงอย่ามางี่เง่าตอนนี้ กูขอร้อง”ผมบอกมันเสียงเรียบ ๆ ถ้าปล่อยให้มันเดินเข้าไป แล้วเกิดอันตรายกับมัน ผมยิ่งจะหงุดหงิดมากกว่านี้ มันดื้อมากฮะ...สะบัดหน้าหนีถอยห่างไปยืนตรงที่จอดรถ งอนกูแล้ววววว~ เดี๋ยวค่อยออกมาง้อแล้วกัน หันไปทางหมวดแวนที่ยืนยิ้มขื่น ๆ ให้
“ฝากหน่อยนะ”
“อือ...”
คนเจ็บถูกเคลื่อนย้ายไปรพ.เรียบร้อยแล้ว กอล์ฟเดินห่างจากผมไม่มาก เด็ก ๆ ในร้านก็ทำท่าขวัญผวา พอเห็นผมก็เดินเข้ามาหาทันที
“ดูร้านกันยังไงว่ะ!!!!”ผมตวาดลั่น ทุกคนก้มหน้า
“เหตุสุดวิสัยครับนาย ไม่คิดว่าจะพกปืนด้วย”
“ดีนะ ไม่ยิงคนในร้านไส้แตก!!!! แล้วนี่...มีใครได้รับอันตรายอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีครับ”
“อือ ดีแล้ว เดี๋ยวลองประเมินราคาค่าเสียหายมานะ แมร่ง....ซวยชิบ”
โต๊ะและเก้าอี้ล้มระเนระนาด เฮ้อออออ...หลัง ๆ มานี่ ที่นี่ทำให้ผมรู้สึกว่าน่าเบื่อขึ้นทุกที กลายเป็นว่าทำงานกับคุณประกอบยังท้าทายมากกว่า
“ไอ้พวกที่เคยมาก่อกวนมันยังมาอีกรึเปล่า”
“ไม่แล้วครับ”
“งั้นเหรอ”มองคนผิดไปสินะ เล็งไอ้พวกนั้นไว้...คิดว่าเป็นพวกของไอ้สินซะอีก จนถึงวันนี้ตำรวจยังจับมันไม่ได้เลย น่ากลัวชะมัด คิดว่ามันจะวนเวียนอยู่แถวนี้ซะอีก
ผมเดินเข้ามาสำรวจพื้นที่ด้านใน ยังไม่มีอะไรเสียหายมากนัก ซึ่งก็ดีแล้ว...ไม่งั้นได้เสียเงินซ่อมอีกเยอะแน่ หมวดแวนเดินเข้ามาหาอีกครั้ง ยืนคุยกันครู่นึง ผมก็รู้สึกว่าไอ้เตี้ยมันหายไปไหน
“เดี๋ยวมานะโว้ย ช่วยดูทางนี้ให้ก่อน”ผมบอก เดินออกมาตามหาเจ้าตัวจุ้นก่อนฮะ เห็นหลังไวๆ มันจะเดินไปไหนของมัน ผมรีบเดินตามไปเลยฮะ ทางก็ออกเปลี่ยวนะ...ซอยถัดไปก็เป็นซอยตันอีกตะหาก กลัวจะเกิดอันตรายกับมันเลยต้องรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น
“นาว!!!!!”ตะโกนเรียกเลยฮะ มันหันมาเห็นก็ชะงักไปแปป แล้วเดินกลับมา...ตอนนี้ผมโคตรโมโหมันเลย เพราะทางที่มันจะเดินไปโคตรมืด
“จะไปไหน!!!!!”กระชากแขนเล็กด้วยความโมโห ก็แรงพอดูที่จะทำให้มันตัวปลิวละนะ
“คนเมื่อกี้หน้าคุ้น ๆ อ่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”มันบอกเสียงอ่อย
“แล้วมึงจะไปเดินตามเขาทำไม มานี่...”ฉุดกระชากลากถูมันออกมาทางเดิมฮะ จะขืนตัวเพื่อ...!!!! พอดีกับที่หมวดแวนเดินมาตาม ค่อยอุ่นใจหน่อย...กลัวจะโดนมือที่สามเข้ามาทำร้ายเหมือนที่เคยโดน ผมคนเดียวไม่เท่าไหร่ ลากลูกเค้ามาซวยด้วย ต้องแย่แน่ ๆ
“เดี๋ยวไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะ ฉันจะไปดูคนเจ็บที่รพ.ต่อ”
“เออได้ ขอบใจมากนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“สวัสดีฮะ”ไอ้เตี้ยยกมือไหว้
“สวัสดีครับ”
แทบจะลากมันเดิน เพราะมันขืนตัวเอาไว้ ทำให้ต้องออกแรงมากขึ้นกว่าเดิม มือที่ว่างก็ตีและทุบแขนผม มาถึงรถก็จับมันยัดใส่รถแล้วปิดประตูด้วยแรงโมโห เดินมาสั่งลูกน้องให้พากันปิดร้านแล้วกลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาเคลียร์ ยังไงพรุ่งนี้ผมคงต้องเมาดูอีกที แย่ชะมัด เข้ามานั่งที่คนขับยังไม่ทันได้ออกรถเลย ไอ้เตี้ยมันโยนห่อกระดาษทิชชู่ใส่ผม ดีนะที่มันเบา...
“เดี๋ยวมึงจะโดน!”
“ไอ้บ้าติณฑ์!!!!”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่กูนะ เมื่อกี้ถ้ากูไม่ตามไปได้ถูกลากเข้าหมกป่าไปแล้ว ทำอะไรไม่คิด...ตัวคนเดียวจะไปเดินตามทำไม ใครก็ไม่รู้”
“เรื่องของกู!!”
“มึงอย่างี่เง่า ทำอะไรไม่ห่วงความปลอดภัยตัวเองบ้าง”
“ก็มึงทิ้งกูอ่ะ!!!!!”
“ไม่ได้ทิ้ง ที่ไม่ให้เข้าเพราะมันมีเศษแก้วเยอะ กูก็เข้าไปแปปเดียวเองด้วย บอกแล้วตั้งแต่นะ...ว่าให้อยู่ห้อง ทีหลังมาแล้วงี่เง่าแบบนี้กูไม่พามาด้วยแล้ว”
เงียบครับ....เถียงไม่ออก
“ไม่อยากพามาก็ไม่ต้องพามา กูก็ไม่อยากไปไหนกับมึงแล้วเหมือนกัน”
“อย่าพาลครับเตี้ย”ดูมันนะ...นิสัยจริง ๆ
กลับมาถึงห้องผมชวนคุยอะไรมันก็ไม่คุย งอนเงียบอีกแล้ว ไม่ได้หรอก...ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ทิ้งไว้ถึงพรุ่งนี้...ความรู้สึกมันอาจเปลี่ยนได้ มันเดินหนีผมก็จับแขนมันไว้
“มาคุยกันก่อนดิ๊ มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน”
“ปล่อยจะไปนอน!”
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ มาคุยกันก่อน...มาตกลงทำความเข้าใจกันใหม่”
มันนิ่งยืนหันหลังให้ผม โอเค...งอนหนัก เพราะถูกขัดใจไม่ได้ เห็นอย่างนี้ผมไม่ได้ตามใจมันทุกเรื่องนะ บางเรื่องมันเกินกว่าจะทำตามความต้องการของมันได้จริง ๆ ทำไมไม่ฟังกันบ้างว่ะ!
“บอกหน่อยสิกูทำผิดอะไร”ผมถามมัน มันส่ายหน้า...
“แล้วมาเหวี่ยงกูเพื่อ?”
“กูไม่ได้เหวี่ยง!”โห...น้ำเสียงมัน ไม่เหวี่ยงเล้ยยยยยยยยย
“หึหึ ไม่เหวี่งเหรอแบบนี้ มานี่ดิ๊!”
เรียกมันมาใกล้ ๆ มันไม่มา แถมเดินกระทืบเท้าใส่ จะหนีไปไหนว่ะ ห้องมันก็วน ๆ อยู่แค่นี้ ผมจับไหล่หมุนให้มาเผชิญหน้ากัน มันเบี่ยงตัวออกเหมือนรังเกียจซะเต็มประดา
“งอนอีก ทำแบบนี้คิดว่าน่ารักเหรอ”
“เออ ทำไม!!!!”
“หมั่นไส้ว่ะ พูดอะไรก็ไม่ฟัง”
“แล้วมายุ่งทำไมล่ะ บอกแล้ว...ว่าอย่ามายุ่งไง!!!!!!”
“อยากยุ่งครับเตี้ย อยากอยู่ใกล้ อยากรู้จักมึงให้มากกว่านี้ อยากพูดคุย อยากทุกอย่างอ่ะ...แต่บางทีพูดอะไรให้มึงฟังบ้างเถอะ เหตุผลน่ะมีบ้าง ที่กูห้ามไม่ใช่ว่ากูไม่หวังดีเลยนะ”เสียงกูโคตรนุ่มอ่ะ สะกดอารมณ์ตัวเองสุดฤทธิ์เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่มัน...ผมบีบคอตายไปแล้ว!!!!! หึหึ...ผมมีน้อง 2 คน เลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็ก แทบจะฆ่ากันตายบ้าง สแตนด์มันก็เอาแต่ใจในแบบของมัน น้ำตาลมันก็มีความคิดที่แตกต่างแบบของมัน พ่อกับแม่ต้องทำงานเดินทางบ่อย ผมก็ต้องดูแลทุกคนแทนตั้งแต่อายุน้อย ๆ ไม่ทำอย่างนั้นจะคุมน้องไม่ได้ พอโตขึ้นมา...ฟ้าส่งน้องเจมาอีก คนสุดท้ายโคตรรักเลยครับ การที่ครอบครัวนักธุรกิจของเรามีเจเข้ามา บ้านโคตรมีสีสัน...เราทุกคนถึงรักเจไง
ผมเชื่อว่าจะต้องมีวันนั้น วันที่....ทุกคนรักไอ้เตี้ย เหมือนอย่างที่ผมกำลังรัก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกดีกับมันมากนัก เหมือนว่าผมจะเข้าใจมันมากกว่าคนอื่น จริง ๆ แล้วเราก็เจอกันไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ผมกลับรู้สึกว่าคน ๆ นี้มีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง และเขาก็เป็นของผม...เกิดมาเพื่อผม ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ
“รำคาญกูแล้วใช่ไหม”มันถามเสียงสั่น
“นิดหน่อย ยังไม่ชิน....แต่ไม่เป็นไรหรอก รำคาญเดี๋ยวก็หาย...ไม่ทิ้งไปไหนหรอก”
“ถ้ามาก ๆ ก็จะทิ้งใช่ไหม”
“ก็ถ้าพูดอะไรไม่ฟังเลย แบบนั้นแสดงว่ามึงไม่ได้ต้องการความหวังดีจากกูจริง ๆ กูก็จะไม่รั้งไว้นะครับ”ผมบอก
“........................................”
“กูไม่รู้ว่ามึงเจออะไรมา หรือมีความทรงจำอะไรมา กูจะกอดมึงไว้แบบนี้...ถ้ามึงรู้สึกดีก็กอดกูตอบ โอเคไหมครับ”
“อือ มึงชอบดุอ่ะ...เวลาดุหน้าโหดด้วย”
“แต่หล่อป่ะล่ะ”
“แหว่ะ ไม่เห็นหล่อ...หน้ายังกับปลาไหลทอดกรอบ”
5555555555555555+ โคตรเปรียบเทียบ ผมเคาะกะโหลกมันไปที ยิ้มได้แล้วสินะ ต้องอย่างนี้สิ...มันไม่ใช่คนพูดไม่รู้ฟัง แต่ติดนิสัยชอบเอาชนะ เอาแต่ใจ...ไอ้ชัดพูดถูก ถ้าผมลงให้มัน มันก็จะยอมฟังง่าย ๆ หึหึหึ พอรู้แกวมันได้ก็ไหลลื่นว่ะชีวิต ไม่งั้นก็แทบฆ่ากันตายแน่นอน
“คุยรู้เรื่องแล้วนะ ต่อไปนี้ต้องฟังกันบ้าง เข้าใจป่ะ....ไปนอนได้แล้ววววววว~”ผลักมันเข้าที่ ที่นอนมันปูอยู่หน้าทีวีห้องรับแขก ให้นอนในห้องเล็กก็ไม่ยอม จะให้มานอนห้องผมก็ไม่เอา...
“งื้อออ ดูหนังก่อนดิ”
“เออ ๆ ลืมไปดูหนังก่อน”ดูกันทุกคืนเลยครับ มันเพิ่งเห็นว่าผมมีแผ่นหนังเพียบ เก็บอยู่ในตู้วางเป็นชั้น ๆ นี่ยังแค่ส่วนน้อย ถ้าได้ไปเห็นที่บ้าน รับรอง...ไม่ไปไหนแน่ ผมเอนตัวลงนอนบนโซฟา ดูไปเรื่อย ๆ ก็จับมือเตี้ยขึ้นมาประคองไว้ มันมองแล้วยิ้ม ๆ หัวเราะชอบใจ กูบีบนวดให้มัน คงจะจักกะจี้...
พอมันหลับผมก็กลับเข้าไปนอนในห้อง ทั้งที่จริงอยากจะนอนกอดมันใจจะขาด ต้องบอกตัวเองว่าให้ใจเย็น ๆ ไก่ตื่นง่าย 55+
( ตีนไก่ก็ตื่นง่าย เข้าไม่ถูกทาง...เพลี่ยงพล้ำมันกระตุกไว๊ไว ฮาาาาาาาาา)
!!!
---------------------------------------------------------------------------------------
(ต่อด้านล่าง)