ตอนที่28
#เครื่องกลชนโยธา
แล้วความเงียบก็กลับมาครอบงำอีกครั้งเมื่อไทเกอร์หลับไปเรียบร้อยโดยมีเพียงเสือเท่านั้นที่ขับรถไปก็แอบมองคุณแฟนที่หลับปุ๋ยอยู่ข้างกาย ระหว่างรถติดในห้วงสมองเผลอคิดไปถึงสีหน้าและแววตาของคนตัวขาวในตอนนั้นที่แทบจะเป็นโอกาสเดียวที่พวกเราได้ไปเที่ยวด้วยกัน ก่อนก้มมองไปที่นาฬิกาแล้วพบว่าในตอนนี้ยังไม่สี่โมงเย็นเลยด้วยซ้ำ สลับไปมองไทเกอร์อีกครั้งก่อนหลุดยิ้มกับตัวเองออกมาแล้วเลี้ยวรถวนกลับไปยังถนนอีกเส้น
นานทีจะได้ว่างตรงกันแบบนี้
งั้นขอทดแทนความผิดสำหรับในครั้งก่อนหน่อยแล้วกัน
“ถึงยัง ทำไมนานจัง...” จนเสียงงัวเงียจากไทเกอร์ดัง เสือที่นั่งเล่นโทรศัพท์หลังจากที่จอดรถนานแล้วถึงได้หันมอง
“ไอ้เสือกูถาม”
“พูดดีๆ” แต่พอเขาเงียบใส่คนเพิ่งตื่นที่อารมณ์ไม่คงที่ก็ทำหงุดหงิดใส่จนเสือต้องหันไปเสียงแข็งและก็เป็นไทเกอร์เองที่หน้าหงอยลงก่อนยกมือขยี้ตาของตัวเองแล้วใช้สายตามองโดยรอบซึ่งภาพที่เห็นคือในตอนนี้เขากำลังอยู่ในลานจอดรถของที่ไหนซักที่ คราวนี้ตื่นเต็มตาพร้อมคิ้วที่ขมวด รีบหันกลับไปมองเสืออีกครั้งพร้อมพยายามจูนสมองของตัวเองให้เข้าที่
“สยามปะ...”
“........”
“ใช่มะ”
“อืม” จนคำตอบจากเสือที่ได้มาทำเอาคนที่หัวร้อนเพราะนอนไม่เต็มที่ในคราแรกถึงกับยิ้มกว้าง
..หมับ...!
พร้อมแขนเรียวที่จัดการกอดหมับเข้าที่แขนของคนข้างกาย รู้ตัวว่าเพิ่งจะทำก้าวร้าวไปถึงได้เนียนทำอ้อนจนเสือต้องก้มมองพร้อมขมวดคิ้วใส่แต่ไทเกอร์ก็เพียงยิ้มสู้และยักคิ้วกลับไปให้เท่านั้น
“งอนหรอ” จนไทเกอร์ถามขึ้น
“เรื่องอะไร”
“ที่พูดไม่เพราะด้วยไง”
“ไม่หนิชินละ” แล้วกับไอ้ประโยคแบบนี้...
“งอนชัดๆ”
“เปล่า”
“แบบนี้อะเขาเรียกว่างอน”
“แบบไหน” คราวนี้เสือถามบ้าง
“แบบที่ตัวเองเป็นอยู่อะ”
“.........” ประโยคนี้ของไทเกอร์ทำคนฟังต้องชะงักลงทั้งสายตาที่มองหน้าคนพูดด้วยอาการทำตัวไม่ถูก ส่วนคนตัวขาวกำลังมองหน้าของเสือนิ่งพลางอมยิ้มกับตัวเองเมื่อเห็นว่าแก้มที่เคยขาวของอีกร่างกำลังเริ่มแดงขึ้น ลองแกล้งที่จะขยับหน้าไปใกล้และเมื่อเสือยอมที่จะสบตาด้วย
“ไม่งอนแล้วแต่เป็นเขินแทนใช่ปะ”
...หมับ..
“น่ารักกกกก” ไทเกอร์พูดคำนี้พร้อมใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มของเสือและยิ้มกึ่งหัวเราะทั้งมองหน้ามันไปด้วย
“จะดูมั้ยหนัง”
“ไม่ละ ดูหน้ามึงแทนดีกว่า” ไม่ว่าเปล่าแต่ไทเกอร์ทำหน้าทำตาประกอบการพูดจนเสือเริ่มเปลี่ยนจากเขินจะมาเป็นหมั่นไส้มันแล้ว พอได้แกล้งเขานี่แม่งเอาใหญ่แต่พอโดนรุกกลับบ้างก็มานั่งบ่นงุ้งงิ้งคนเดียวเป็นเด็กเลย และเสือเลิกคิ้วขึ้นพร้อมขยับหน้าเข้าหาจนเป็นไทเกอร์เสียเองที่เริ่มย่นคอหนี ดวงหน้าคมเลื่อนไปใกล้จนปากเกือบชิดกับใบหูขาว
“ไปนอนดูหน้ากูบนเตียงมั้ยหละ” จนเมื่อเสือกระซิบถามคำนี้ไป
“มึงทะลึ่งว่ะ!” ไทเกอร์ตะคอกกลับมาเสียงดังใส่ก่อนรีบเดินลงจากรถทั้งที่ใบหูแดงแจ๋เพราะอาการเขินส่วนผู้ชนะในรอบนี้หัวเราะลั่นก่อนรีบวิ่งตามคุณแฟนขี้อายเข้าไปยังด้านในของตัวห้าง ไทเกอร์ยังคงรีบเดินไวจนเสือต้องส่ายหน้าทั้งรอยยิ้มพร้อมเร่งระยะการก้าวของตัวเองขึ้นอีก
...หมับ..
“เป็นแฟนกันก็ต้องเดินด้วยกันดิวะ” พ่วงด้วยการรีบเอื้อมมือไปจับมือขาวเอาไว้ด้วย
“เป็นแฟนที่ทะลึ่งมาก” เสียงบ่นพึมพำเหมือนอย่างทุกครั้งจากไทเกอร์ดังขึ้น
“แล้วไม่รักหรอ”
“........” ส่วนคนถูกถามได้แต่พยักหน้ารับ
“พยักหน้าคือรักหรือไม่รักวะ” เสือถามย้ำอีกรอบ
“ก็รัก...”
“หะ”
“รักกก!!!” พอมันตะโกนมาแบบนี้เสือหัวเราะเสียงดังอีกรอบ ดีหน่อยตรงที่เดินด้วยกันเป็นส่วนทางเดินเข้าห้างจากด้านของลานจอดรถคนเลยไม่เยอะมากเพราะไม่ถ้าอย่างงั้นมีหวังคนได้มองพวกเขาว่าบ้าแน่ ไทเกอร์ขมวดคิ้วใส่ไอ้คนที่เอะอะก็หัวเราะเยาะอยู่ได้ ตอนไม่ได้เป็นแฟนก็กวนตีน พอมาเป็นแฟนก็ยังจะตามมากวนตีนอีกอะ
..ผลั้ก..
“ถือด้วย” เขินหน่อยก็หาเปลี่ยนเรื่องโดยการเอากระเป๋าเหวี่ยงใส่กับแผ่นอกของเสือ
“ครับๆ” แต่กับคนตรงนี้ก็ไม่ได้โกรธแถมยังยิ้มแล้วรับกระเป๋าเป้ใบโปรดของไอ้ตัวขาวข้างกายมาสะพายเอาไว้พร้อมกับมืออีกข้างที่ยกคล้องคอของไทเกอร์แล้วเดินต่อไปด้วยกันโดยที่สายตามองร้านตามสองข้างทางอย่างไม่ได้มีอะไรในใจที่อยากได้ จนกระทั่งที่เสือลองก้มมองกระเป๋าของไทเกอร์ที่ตัวเองถืออยู่แล้วพบว่าสไตล์การแต่งตัวและความชอบของอีกคนเหมือนจะต่างจากเขาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่จริงวันนี้อยากกะจะซื้ออะไรซักอย่างให้ไทเกอร์มันหน่อยแต่ก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี
“มีอะไรที่อยากได้ปะ” ถึงได้ตัดสินใจที่จะถามออกไป
“ไม่อะก็มีหมดแล้ว” แต่เสือก็ลืมไปว่าบ้านมันรวยนี่หว่า
“เอาเสื้อเปล่า”
“เต็มตู้”
“รองเท้า”
“ม๊าด่าแล้วว่าเยอะกว่าเกรดเฉลี่ยอีก” เจอแบบนี้เสือมีหลุดขำ
“แล้วเบื่อกระเป๋าเน่านี่ยัง”
“ไม่เบื่อแต่อยากได้แบบคาดอก”
“กระเป๋าคาดอกหรอ” และไทเกอร์ยักคิ้วรับแบบรอยยิ้มพราวส่วนเสือเริ่มจะเสียวสันหลังว่ามันจะทำหน้าเจ้าเล่ห์ทำไม เขาก้มมองกระเป๋าเป้ของเกอร์อีกครั้งแถมเหมือนจะเคยเห็นไอ้แบบนี้ตามที่พวกดาราหรือตามแนวฮิปฮอปชอบใส่ ยิ้มนิดหน่อยกับตัวเองเพราะคิดว่าการแต่งตัวของไทเกอร์มันดูน่ารักดี เพราะแต่ละวันเสื้อผ่าของมันจะคุมโทนแบบขาวแดงบ้าง ไม่ก็ขาวเหลืองตามประสาของมันไป
“อยู่นี่มีขายมั้ย”
“มี” ไทเกอร์ตอบย้ำชัดเจน
“งั้นก็ไป” เมื่อตกลงกันได้เรียบร้อยว่าจะไปที่ไหนต่อไปก่อนที่จะแวะไปยังโรงภาพยนตร์ คนทั้งคู่เดินเคียงกันโดยที่เสือกอดคอของคนตัวขาวไว้ตามเดิม ไม่รู้ว่าคนนอกจะมองว่าเราเป็นเพื่อน เป็นแฟน หรือจะเป็นอะไรก็ไม่รู้ตามความคิดแตกต่างเป็นร้อยของคนที่เดินผ่านไปมา แต่เสือไม่ได้สนใจพอๆกับไทเกอร์ที่คุ้นชินเนื่องเพราะตอนอยู่กับทอยพวกเขาก็เล่นถึงเนื้อถึงตัวกันอยู่แล้ว จนกระทั่งที่สุดท้ายเดินมาถึงหนึ่งร้านที่มีกระเป๋าแบบเดียวกับของไทเกอร์วางโชว์หราไว้ในตู้กระจก
“กูรออยู่นี่นะ เข้าไปเลือกเอา...อย่านานเดี๋ยวหนังเข้าก่อน” ไทเกอร์พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แทบจะเดินเต้นเข้าไปในร้านอยู่แล้วด้วยซ้ำจนคนที่นั่งมองอยู่ตรงนี้อย่างเสือต้องยิ้มกับตัวเอง นั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่พักใหญ่ไทเกอร์ก็เดินวนกลับมาหา เสือเห็นว่ามันทำตัวดุ๊กดิ๊กเดินเข้ามาหาอย่างสำรวม ก่อนปิดท้ายด้วยการแบมือหนึ่งข้างโดยที่ใช้อีกข้างรองด้านหลังมือไว้
“ขอเงินหน่อยคร้าบ”
“เท่าไหร่” ในระหว่างที่กำลังจะหยิบเงินแบงค์สีเทาออกจากกระเป๋า
“แปดหมื่นกว่า...” และมือของเสือชะงักพร้อมสายตาที่เงยมองหน้าของอีกคน พวกเราสบตากันอยู่ซักพักก่อนเป็นเสือที่หลุดพ่นหัวเราะไร้เสียงออกมาพ่วงด้วยการส่ายหน้าเพราะในรอบนี้เขาเจอฤทธิ์ของไทเกอร์เข้าให้แล้ว ลืมคิดไปเลยว่ามันลูกคุณหนูขั้นหนักแน่นอนว่าทั้งตัวต้องแบรนด์ดังหมดเลยถูกมั้ย เขาก็ไม่ได้คิดว่าแค่กระเป๋าจะต้องเฉียดแสนนี่หว่าแต่ในเมื่อตกลงไปด้วยแล้วแถมอีกคนยังดูมีความสุขขนาดนั้นถ้าเขาปฏิเสธไปพร้อมบอกให้ไปเข้าร้านอื่นแทนมีหวังร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกแน่
เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่ควรทำก็แค่เอาเงินใส่คืนลงกระเป๋าไว้
แล้วเปลี่ยนเป็นหยิบบัตรเดบิตยื่นส่งให้มันแทนซะ
“แล้วทำตัวให้น่ารักด้วย”
“รู้แล้ว” ไทเกอร์รับคำกลับมา
“ห้ามหงุดหงิดใส่แบบไร้เหตุผลด้วย”
“เคยทำด้วยหรอ”
“ไอ้เกอร์”
“เออก็บอกว่ารู้แล้ว รู้แล้วคร้าบ” ตกลงกันเสร็จมือหนาก็วางบัตรลงบนมือขาวของอีกร่าง ไทเกอร์รับเอาไว้ก่อนรีบเดินกลับไปยังเคาท์เตอร์จ่ายเงิน เสือเห็นว่าพนักงานกำลังจะหยิบกระเป๋าทำการบรรจุเพื่อกันกระแทกระหว่างนำกลับให้แต่ไทเกอร์ปฏิเสธแล้วหยิบมาจัดการใส่คล้องสะพายคาดอกของตัวเองไว้แทน ก่อนเดินยิ้มแป้นกลับมาหาเขาอีกครั้ง
“เอาคืนไป” พร้อมด้วยการยื่นบัตรเดบิตส่งคืนให้
“อ้าวไม่เก็บไว้ใช้หรอ ว่าจะให้รหัสนะเนี่ย”
“ไม่ใช่ผู้หญิงไม่ต้องมาเปย์” ทั้งที่เพิ่งจะซื้อกระเป๋าที่ราคาเกือบเท่ารถให้ก็ยังจะมาอวดดีใส่อีกจนได้ เสือชี้หน้าคาดโทษเอาไว้พร้อมรับบัตรของตัวเองมาใส่คืนกระเป๋าสตางค์ ซื้อของเสร็จเรียบร้อยต่อไปก็ถึงเวลาจะได้ทำในสิ่งที่กะจะมาทำตั้งแต่คิดไว้ครั้งแรก หนังที่เลือกดูวันนี้ตามใจไทเกอร์เหมือนอย่างเดิม และแน่นอนว่าก็ยังจะเลือกดูหนังผีเหมือนเดิม
“กินมั้ย” เสียงถามจากไทเกอร์ดังขึ้นในระหว่างกำลังนั่งรอดูหนังอยู่ภายในโรงภาพยนตร์
“ไม่ชอบกินน้ำอัดลม”
“อันนี้สไปร์ท แต่ใส่แก้วนะไม่ได้ใส่ถุง” เสือขมวดคิ้วกับมุกของมันก่อนยอมก้มหน้าไปดูดน้ำแก้วในมืออีกร่างเพื่อที่ไทเกอร์จะได้เลิกวอแวให้เขากินด้วยซักที ระหว่างนี้คนตัวขาวกำลังนั่งกินขนมโดยที่มีเสือเอนหัวพิงไหล่เล่นเกมอยู่ ไทเกอร์ก้มมองจอโทรศัพท์ของอีกคนฆ่าเวลาจนเมื่อที่นึกอะไรบางอย่างได้
“นี่ไอ้เสือ แล้วเมื่อไหร่มึงจะให้กูรู้รหัสโทรศัพท์มึงอะ”
“ไม่ต้องรู้หรอก”
“........” ไทเกอร์หน้างอลง
“แต่เอานิ้วมา เดี๋ยวให้สแกนลายนิ้วมือปลดล็อคเลย” จนที่เสือพูดต่อไทเกอร์ถึงได้ยิ้มพร้อมการนั่งนิ่งให้เสือจับมือของตัวเองพร้อมนำนิ้วโป้งไปกดลงที่ปุ่มโฮมของไอ้มือถือเครื่องตรงหน้า แต่ขนาดโทรศัพท์จำลายนิ้วมือของเขาเรียบร้อยเสือก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมยังซุกหน้าลงกับมือขาวจนไทเกอร์ต้องรีบดึงมือตัวเองออกท่ามกลางเสียงขำของอีกร่าง
“จะดูหนังแล้วห้ามกวน” ไทเกอร์พูดขึ้นแต่เสือก็ยังไม่ยอมที่จะเอาหัวออกจากไหล่ขาว
“หอมแก้มก่อน”
“ไม่”
“ขอหอมแก้มก่อน” โดนเร้าจนเจ้าของผิวขาวต้องก้มจ้องหน้าเสือ ก่อนขยับปากมาอีกครั้งเป็นคำว่า
“มะ...”
..จุ๊บ..!
แต่พูดไม่ทันจบคำเลยด้วยซ้ำก็ถูกขโมยจูบพร้อมปิดท้ายด้วยรอยยิ้มของเสืออีกตามเคย ไทเกอร์ทำขรึมไม่สนใจและหันหน้ากลับไปดูหนังตรงหน้าที่เริ่มฉายแล้ว แต่เสือที่นั่งมองอยู่ตลอดเวลาแน่นอนว่าเขาเห็นว่าไทเกอร์มันกลั้นยิ้มเขิน คนตัวสูงยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนยอมที่จะเบนสายตากลับไปสนใจสิ่งในจอตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้นตลอดเวลาที่นั่งข้างกันมือหนาก็ยังวนเวียนอยู่กับการลูบแก้มลูบคางของไทเกอร์เล่นอยู่ดี
“ตอนจบสรุปนางเอกมันตายหรือไม่ตายวะ” จนเมื่อหนังจบแล้วเดินออกมาด้วยกันไทเกอร์ถึงได้ถาม
“นางเอกมันตายตั้งแต่แรกแล้วมันเป็นผี”
“ไม่ใช่ มันไม่ได้ตาย”
“เอ้าแล้วมึงเถียงทำไมเนี่ย” เสือถามกลับไปด้วยเสียงกลั้วหัวเราะกับท่าทางจริงจังของไทเกอร์
“ก็ไม่อยากให้มันเป็นผี มันก็รักกันไม่ได้ดิตอนจบอะ”
“มันเป็นหนังครับ”
“กูก็อยากให้มันสมหวัง...ชีวิตนางเอกมันก็เศร้ามันก็ควรมีคนที่รักมันมั้ยหละ” ขนาดเข้ามานั่งในรถก็ยังจะเครียด
“ให้กูไปเป็นแฟนนางเอกดิ เขาจะได้ไม่เศร้า”
“งั้นก็ปล่อยให้นางเอกมันเศร้าต่อไปนั่นแหละ” ประโยคสวนกลับมาของไทเกอร์จะว่าทำเขาขำก็ใช่แต่มันจะมีอาการแอบเขินบวกมาด้วยอยู่เหมือนกัน สุดท้ายก็ปิดฉากการดูหนังลงโดยสรุปได้ว่าปล่อยให้นางเอกเศร้าต่อไป เสือไม่ต้องไปเป็นแฟนให้นางเอกหรอก อยู่แบบเดิมแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
“ขอเล่นเกมในโทรศัพท์มึงหน่อยดิ” ขับออกมาได้ซักพักไทเกอร์พูดขึ้นอีก และเสือก็ยอมที่จะยื่นโทรศัพท์ให้
“มีแค่rovหรอ”
“ใช่ไง ตอนนั้นก็เคยบอกไปแล้ว” เสือตอบไปทั้งที่ตาแอบมองดูว่าแท้จริงไทเกอร์ไม่ได้เล่นเกมแต่กำลังกดเข้าดูไลน์รวมถึงแชทในเมสเสนเจอร์ของเขาตางหาก เห็นแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นคงรู้สึกว่าละลาบละล้วงไปแล้วแต่พอมาเป็นไทเกอร์แล้วก็ไม่รู้สิ ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดนะ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีความลับอะไรปิดบังอีกร่างอยู่แล้ว
แถมยังได้ผลประโยชน์ตรงที่ว่าถ้าหากถึงคอนโดเมื่อไหร่
เขาก็จะได้
“เอาโทรศัพท์มึงมาให้กูดูมั้งดิเกอร์” แบบนี้ไง...
“มันไม่มีอะไรอะ” คนเพิ่งอาบน้ำเสร็จตอบอ้อมแอ้มมาพร้อมทิ้งตัวนอนลงข้างเสือพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้แบบหน้าแอบหงอย จัดการสแกนลายนิ้วมือของเสือใส่ไปในเครื่องตัวเองด้วย ทิ้งหัวลงบนแขนแกร่งแล้วมองตาปริบไปที่จอมือถือของตัวเองซึ่งกำลังถูกเสือกดเข้าสำรวจในทุกแอพ
จนกระทั่งที่ถึงเมสเสนเจอร์
แล้วก็...
“ไอ้ทอยหรอเนี่ย”
“อืม” ไทเกอร์ครางรับกลับไปส่วนเสือรีบกดเข้าไปดูว่าในแต่ละวันคนทั้งคู่คุยอะไรกันบ้าง แอบขมวดคิ้วเล็กน้อยในตอนที่เห็นว่าไทเกอร์กับทอยแทบจะวิดีโอคอลคุยกันในทุกวันก่อนนอนเลยด้วยซ้ำ เหมือนความสัมพันธ์มันล้ำเกินเพื่อนกันไปหน่อยหรือเปล่าเขาก็ไม่สามารถจะบอกได้แต่ถ้าให้เสือเดาทั้งอาการและน้ำเสียงของทอยที่โทรคุยกับเขาตอนนั้น
“มันชอบมึงหรอ”
“บ้าดิเพื่อนกัน” เสือขมวดคิ้วในคำตอบ
“มึงชอบว่าไอ้ทอยอีกแล้ว” จนไทเกอร์ว่ามาแบบนี้เสือถึงได้ยอมแพ้พร้อมกดปิดหน้าจอแล้ววางโทรศัพท์ของไทเกอร์ไว้บนหัวเตียงข้างกับของเขา ก้มสายตามองหน้าของคนในอ้อมแขนอีกครั้ง ใช้มือลูบท้ายทอยของร่างในอ้อมแขนเล่นส่วนไทเกอร์เองมือก็กำลังเขี่ยสร้อยคอของเสือเล่นเช่นกัน
“มึงว่าเราจะคบกันนานมั้ย” เสียงถามงึมงำของไทเกอร์ดังออกมา
“ไม่รู้ดิ”
“มึงจะเบื่อกูก่อนหรือว่ากูจะเบื่อมึงก่อน”
“ไม่ต้องเบื่อกันไม่ได้หรอ” แต่คำถามนี้ของเสือเหมือนคำตอบในทุกอย่าง
“รักกูไปทุกวันเลยไม่ได้หรอ” ถ้าหากว่าเขาขี้อ้อน ไทเกอร์อยากลองให้ได้มาเห็นสายตาของเสือในตอนนี้ที่ถามเขา ไทเกอร์เพียงพยักหน้ากลับไปพร้อมยักคิ้วไปให้ทีนึงซึ่งเสือใช้มือตบลงบนหน้าผากเนียน
“อยู่กวนส้นตีนกูไปนานๆแล้วกัน” ก่อนเอ่ยคำนี้ออกมา
“ไม่เห็นบอกรักมั้งเลย” ไทเกอร์แย้งมาแบบนี้และเสือนิ่งลงไป จนสุดท้ายที่ดวงหน้าคมขยับซุกช่วงซอกคอขาวอีกครั้ง
“รักนะครับ”
“โคตรจะอ้วก” ทั้งที่ก็เขินแต่ไทเกอร์ยังตีหน้านิ่งต่อไป
“จะอ้วกเลยหรอ...สงสัยท้องจริงแบบที่ไอ้แฟรงค์บอกแล้วมั้ง”
“ท้องไม่มีลูก”
“ไม่มีได้ยังไง ปล่อยเข้าไปตั้งเยอะ...อ๊ากก!!” แต่แล้วต้องร้องจ๊ากเมื่อมือที่เคยกอดเขาในตอนแรกบัดนี้กำลังเปลี่ยนเป็นการหยิกหูจนเสือต้องร้องเสียงดัง ส่วนคนที่ทั้งเขินทั้งอยากจะต่อยมันในตอนนี้อย่างไทเกอร์ก็ทำได้แค่เปลี่ยนจากการบิดหูมาเป็นทุบลงบนไหล่กว้างสลับกับต่อยจนแขนที่เคยขาวในตอนแรกมีรอยแดงปรากฏขึ้นให้ได้เห็น จนเสือต้องรีบร้องโอ๋แล้วกอดไทเกอร์ไว้เพราะถ้าขืนยังปล่อยให้อีกคนทำร้ายร่างกายมีหวังเขาคงได้เข้าโรงพยาบาลแน่
แล้วหนึ่งวันของการเป็นแฟนกันก็ผ่านไปแบบไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก
แต่แน่นอนว่าถ้าขอพรได้ พวกเขาอยากขอให้การคบกันของพวกเรา
ช่วยให้มันเป็นวันธรรมดาแบบนี้ไปอีกหลายวันและนานแสนนานเลย
# # # # # # # # # # #
มดกัดแล้วจย้า แค่มีแฟนหล่อรวยเอ๊ง แถมแค่ขี้อ้อนด้วย ไม่ได้อิจฉาไทเกอร์หร๊อก