ไม่มีใครอยากทำให้คนที่รักต้องเจ็บ พชรก็เช่นกัน
“ไหวไหม ม่อน..” เสียงเข้มกระซิบถามริมหู
ม่อนแจ่มพยายามลืมตา แต่กายบางเกร็งจากความเจ็บปวดจนเอ่ยตอบไม่ไหว
พชรแทบน้ำตาตก เขาไม่อยากเห็นม่อนแจ่มทรมานแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนเองเป็นคนทำ
“กูหยุดดีไหม”
เจ็บเหมือนกันที่ต้องถามแบบนี้ แต่มันยากเกินไป ยากยิ่งกว่าครั้งแรก
พวกเขาผูกพันกันมากกว่าตอนนั้น รักกันมากกว่าตอนนั้น เขาทนทำให้เจ็บปวดขนาดนี้ไม่ได้
“อย่า..”
ม่อนแจ่มร้องห้ามเสียงพร่า ส่ายหน้าดิก น้ำตาเอ่อรินอีกครั้ง
“ขอร้อง ..อย่าหยุด”
เขาทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ถ้าพชรผละจากไปอีก
ใช่.. ที่ม่อนแจ่มกำลังเจ็บ แต่เป็นความเจ็บที่ทนรับไว้ได้
อยากให้รู้ว่าเขาพร้อม เขายอม..
ยอมจำนนต่อพชรเสมอ
“เข้ามา พชร” ได้โปรด.. น้ำเสียงที่ฝืนความสั่นไหวเอ่ยออกมาทั้งหนักแน่นและเว้าวอน
พชรหลับตา กัดริมฝีปาก ลำคอแกร่งพยักรับ
บอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าหากคนคนนี้ขอ เขาสามารถทำให้ได้
แล้วพชรก็ทำ..
เขาฝ่าความเจ็บปวดของม่อนแจ่มซึ่งมันก็เป็นที่เดียวกับที่ความเจ็บปวดของเขาดำรงอยู่ด้วย
กระทั่ง.. เข้าไปถึงภายใน
กระทั่ง.. ร่างกายคนรักยอมรับเขาเข้าไป
“อ..อื้อ”
ม่อนแจ่มผ่อนลมหายใจ มือที่เกาะไหล่พชรไว้เผลอจิกกดลงไปเต็มแรงจนคงจะทิ้งร่องรอย
ตระหนักได้ดังนั้นก็ตื่นตกใจ ดวงตาลืมขึ้น พยายามมองสำรวจ ทว่าภาพพร่าเลือนจากข้อจำกัดของสายตา
“พชร..
พชร เจ็บหรือเปล่า!”ร่างกำยำชะงักงัน
อารมณ์ก็พุ่งทะยาน แต่ก็ขำจนแทบหลุดหัวเราะ
ควรเป็นเขามิใช่หรือที่ต้องถามม่อนแจ่มน่ะ?
แต่ก็นะ.. พชรตอบไป
“ไม่เจ็บครับ”
นัยน์ตาสีดำสนิทมองประสาน โน้มใบหน้าลงไปหา กดจูบริมฝีปากเป็นการยืนยันคำพูดอีกทาง ก่อนละออกมา ปลายจมูกไล้ข้างแก้ม กระซิบถามริมหู
“ม่อนเจ็บมากไหม..”
ม่อนแจ่มพยักหน้า ยอมรับความจริง
“เจ็บ ตอนแรก แต่ว่าตอนนี้..”
ตอนที่รู้สึกคุ้นเคย ตอนที่ความรู้สึกสุขสมที่จำได้ย้ำเตือนร่างกายว่ามันกำลังรออยู่
ม่อนแจ่มรู้สึกเบา รู้สึกหวิว รู้สึก..
“เสียว..”
เสียงสั่นบอกอายๆ
“อืม..”
เป็นการ ‘อืม’ ที่พชรกึ่งคำราม เขาต้องหลับตาลงก่อน คนอะไรน่ารักเป็นบ้า!
เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนตรงหน้า นอกจากรักให้สมที่รัก..
สองแขนแข็งแรงสอดแนบฟูกนอน โอบร่างเล็กเปล่าเปลือยขึ้นมาแนบลำตัวในท่านั่ง
หลักๆ เพราะเขาอยากรับน้ำหนักม่อนแจ่มไว้เอง ซึ่งผลพวงก็คือ.. ท่วงท่ามันยิ่งทำให้ส่วนที่เชื่อมประสานกันเบื้องล่างสนิทแนบยิ่งขึ้น
“อะ.. อ๊ะ..”
ม่อนแจ่มคราง ฝ่ามือเลื่อนมาทาบศีรษะตามภาวะที่ลำตัวถูกดึงรั้งขึ้นไป
ใบหน้าชื้นเหงื่อซบลงกับไหล่ เสียงครางและหอบหายใจคลอริมหูพชร
จังหวะแทรกสอดหนักหน่วงสลับกับอ่อนเบาอยู่ในที..
ช้า.. แล้วเร็ว
เร็วแล้วก็.. ช้าลงอีก
“พชร”
มือเล็กกอดศีรษะปรกผมสั้นไว้
เหมือนจะไม่ไหว ..ม่อนแจ่มนึกอะไรไม่ออก
“พชร..”
นึกอะไรไม่ออก ก็เรียกชื่อพชร นิสัยนี้คงติดตัวม่อนแจ่มไปจนตายเลยกระมัง
แล้วนี่เขากำลังจะตายหรือเปล่า.. “พชร”
“ครับ ..ครับ” เจ้าของชื่อตอบกลับ
ถูกเรียก แต่พอพชรขานรับ คนเรียกก็ตอบได้แค่..
“อือ..”
พชรยิ้ม
ยิ้มในความสุขใจ ยิ้มเพราะทุกครั้งที่ขึ้นไป ม่อนแจ่มก็จะลงมาหา
แล้วพวกเขาก็พบกัน.. ครั้งแล้ว ครั้งเล่า
“ฮึก พ.. พชร..”
ไม่ไหว ..ไม่ไหวแล้วจริงๆ
ม่อนแจ่มรู้สึกเหมือนร่างกายจะปริออก ทั้งๆที่ไม่หลงเหลือความเจ็บปวดใดๆ
ถ้าพชรไม่โอบกอดไว้ ม่อนแจ่มเชื่อว่าตัวเขาต้องแตกสลายไปแล้วแน่ๆ
“ม่อน..”
พชรคำราม เร่งจังหวะตนเอง มือข้างหนึ่งละจากแผ่นหลังเนียน มายังใจกลางร่าง อยากพาไปถึงให้พร้อมกัน
ทว่า ม่อนแจ่มส่ายหน้าแข็งขัน
ไม่เอา..
อย่าไป.. “พชร กอดกูไว้”
กอด.. กู.. ไว้.. แค่นั้น..พชรหอบหนัก ยอมละมือที่รูดรั้งเพียงไม่กี่ครั้ง แล้วกลับไปกอดรัดคนรักแนบแน่น
แทรกตัวเข้าไปหา ..และม่อนแจ่มก็ยอมรับไว้
“อะ.. พชร ซี๊ด..ด อ๊ะ!”
ม่อนแจ่มทั้งเรียกทั้งคราง ดวงตาปิดสนิทแน่นทั้งที่อยากลืมขึ้นมอง
แต่ด้วยความรู้สึกนี้ การลืมตามันช่างยากเหลือเกิน
“พชร อื้อ.. กู จ..จะ..”
ดวงหน้าขาวเชิดขึ้น ผ่อนลมหายใจออกสลับสูดเข้า แขนเรียวผวากอดพชรไว้แน่น
“ซี๊ด.. อืม”
พชรครางรับเป็นสัญญาณว่าเข้าใจ อารมณ์เขาเองก็พุ่งทะยานจนยากจะหยุดแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความห่วง.. ความหวง.. ที่ยังคงอยู่เหนือความเห็นแก่ตัวก็ทำให้ยั้งร่างกาย เสียงแหบแปร่งกระซิบถามความสมัครใจ
“ม่อน ..อยากให้เอาออกข้างนอกไหม”
ไม่..แม้ยังไม่เอ่ยเป็นคำพูด แต่ศีรษะเล็กที่ส่ายไปมาก็บ่งบอกเช่นนั้น
และ ‘ความม่อนแจ่ม’ ก็คือ.. เจ้าตัวเป็นคนชัดเจน
“อย่าเอาออก พชร ป..ปล่อย.. ปล่อยข้างใน ปล่อยเลย..”
พชรพ่นลมหายใจ ดวงตาหลับลง ไม่ยั้ง ไม่กลั้นอะไรทั้งนั้นแล้ว
ถึงอยากทำก็ทำไม่ได้หรอกกับความน่ารักอัตรานี้
แขนข้างหนึ่งของเขาพาดผ่านแผ่นหลัง โอบม่อนแจ่มไว้ อีกข้างกดแนบสะโพก แทรกกายเข้าหาย้ำๆ.. ซ้ำๆ..
เสียงครางข้างหูและแรงบีบรัดใจกลางร่างพาความรู้สึกมากมายของเขาไปสุดทาง
กระทั่ง.. มันถูกปลดปล่อยสู่ภายในดังที่ม่อนแจ่มอนุญาต
เสียงหวานหวีดร้องเรียกชื่อ ‘พชร’ อีกครั้ง พร้อมสัมผัสเปียกชื้นปะทะมัดกล้ามบริเวณหน้าท้องในเวลาเดียวกัน
หยดน้ำตาหยาดไหลผ่านแก้มเนียนลงมาปะทะบ่าแกร่งด้วยแรงบีบคั้นของอารมณ์
แต่คราวนี้ พชรเพียงยิ้ม ตระกองกอดไว้ ..รู้ว่าม่อนแจ่มจะไม่เป็นไร
∞ ∞ ∞ ∞ ∞ ∞
“พรุ่งนี้จะไปเรียนไหวหรือเปล่า”น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม ขณะนอนเคียงบนเตียงเล็ก
“ดูถูกกันชะมัด” ม่อนแจ่มตำหนิ โอ้อวดสรรพคุณทันที “กูคือม่อนแจ่มแห่งวิศวฯเครื่องกลนะ!”
ฮ่ะๆ..
พชรอดจะหัวเราะไม่ได้
“ครับ แว่นแดง”
ม่อนแจ่มยิ้ม หน้าซุกลงกับอก รู้สึกอุ่นหัวใจ พชรขี้เป็นห่วงมาแต่ไหนแต่ไร
และเพราะความห่วงใยนี่แหละนะ จึงทำให้พชรยับยั้งชั่งใจมาร่วมเดือน
ซึ่งจะว่าไป..
“กูเข้าใจความรู้สึกไอ้ดิ้ลขึ้นมาเลยนะเนี่ย” ม่อนแจ่มเปรย
“กูก็เข้าใจความรู้สึกหมอก” พชรถอนหายใจ
“แล้วยิ่งรู้ว่าหมอกไม่ทำไอดิล กูยิ่งละอายใจที่ทำมึง..”
พชร..ม่อนแจ่มสอดแขนกอดแน่นๆอย่างปลอบใจ
“มึงสงสารกูหรอก ถ้ากูไม่ร้องไห้ออกมา มึงก็คงหยุดแล้ว
..
แล้วกูก็อยู่นี่ไง ไม่ได้บุบสลายตรงไหนเลย”
พชรยังคงไม่พูดอะไร ม่อนแจ่มจึงเอ่ยต่อ
“ถ้ายังไม่สบายใจ คิดว่าหลับอยู่ก็ได้
คิดว่าเป็นฝัน..”
ฝันดีสุดๆพชรไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธเรื่องฝัน
กลับพูดไปอีกอย่าง.. อย่างที่ใจรู้สึก
“รักม่อนนะ รู้ใช่ไหม”
น้ำเสียงเข้มจริงจัง หมายความอย่างนั้นจริงๆ จริงจนลืมที่จะเขินอายตามวิสัยคนไม่ค่อยพูด
และนั่นก็ทำให้ม่อนแจ่มยิ้มหน้าบานขณะตอบรับ
“รู้”
..รู้เสียยิ่งกว่ารู้ “มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากู-”
“รู้” พชรชิงเอ่ยขัดขึ้นก่อน ท่าสติจะเรียกความเขินอายกลับคืนมาแล้ว
“อะไรอะ ให้พูดหน่อยสิ!” ม่อนแจ่มไม่พอใจ
“รู้แล้ว ไม่ต้องพูดก็ได้” พชรบอกเลี่ยงๆ
“จะพูด!” ม่อนแจ่มดื้อ เอ่ยรัวๆ..
“รักพชร
ม่อนรักพชร
รักพชรที่สุด
..ชอบที่พชร ‘รัก’ ด้วย”ให้ตายเถอะ..“อยากโดนอีกรอบหรือ” พชรถามนิ่งๆ
“อื้อ อื้อ!” ม่อนแจ่มพยักหน้าซ้ำๆ ตอบชัดเจน “อยาก เดี๋ยวเปลี่ยนท่ากันบ้างนะ”
โอย..“ปากเก่งจริงๆ” พชรกดนิ้วโป้งลงบนกลีบปากช่างเจรจาเบาๆ “ตัวน่ะ พรุ่งนี้จะไปเรียนไหวไหม”
“คิดว่าไหวนะ แต่ถ้าไม่ไหว ก็วานพชรอุ้มไปส่งที่ภาคฯหน่อยแล้วกัน”
ว่าไปนั่น..
“ถ้ากูอุ้มไปส่งขนาดนั้น ไม่กลัวเพื่อนสงสัยหรือไง”
“เอ้า สงสัยก็บอกไปสิ ..ว่าเราทำอะไรๆกันมา”
ความไม่อาย พูดได้หน้าตาเฉยนี้..
พชรหัวเราะปลงๆ แต่แล้วก็กอดม่อนแจ่มแน่นขึ้นอีก น้ำเสียงเย้าหยอกเมื่อประโยคก่อน กลับมาจริงจัง
“ม่อน ลุกให้ไหวนะ กูไม่อยากอุ้มไป”
อุ้มม่อนแจ่มนั้นสบายอยู่แล้ว ให้อุ้มไปห้องน้ำก็ได้ อุ้มกลับมาที่เตียงก็ได้ แต่พชรจะไม่อุ้มม่อนแจ่มไปส่งที่ภาควิชาให้เพื่อนสงสัย
ให้ม่อนแจ่มบอกว่าพวกเขาทำอะไรกัน..
ไม่อยากให้ใครเห็นภาพม่อนแจ่มในห้วงเวลาที่อ่อนไหวที่สุด แม้จะเห็นแค่ในความคิดของมันคนนั้นก็ตาม
ม่อนแจ่มนิ่งคิดในอ้อมแขน
คำพูดพชรเหมือนจะใจร้าย แต่สัมผัสที่ลูบไล้เขาอยู่นี้ช่างอ่อนโยน
ม่อนแจ่มคิดว่าเข้าใจพชรดี
“นอนได้แล้วนะ”
พชรค่อยๆก้มลงจูบหน้าผาก ฝากราตรีสวัสดิ์ และตั้งท่าจะผละออก
“อะ.. ไม่นอนกันแบบนี้หรือ” ม่อนแจ่มหน้าเหรอรารั้งแขนไว้
“ไม่เอา” พชรตอบห้วนสั้น ส่ายหน้าประกอบ ขบเม้มริมฝีปากอย่างยั้งใจ
..และอากัปกิริยานั้นก็ทำให้ม่อนแจ่มพออนุมานได้
“กลัวทนไม่ไหวเหรอ..อ”
“ม่อน..”
ฮ่ะๆ โอเค โอเค
ม่อนแจ่มหยัดตัวขึ้นจูบปลายคางพชรแทนคำราตรีสวัสดิ์ มิวายจะขอบ่นกวนประสาทนิดๆหน่อยๆ
“เสียดาย.. อุตส่าห์เตรียมไว้ตั้งหลายท่า”
พชรยกมือขึ้นยีศีรษะชื้นเหงื่อนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเล็กที่เขาล้างเนื้อล้างตัวสวมชุดนอนให้ใหม่เรียบร้อยแล้ว
“นอนซะ แล้วฝันต่อเอานะ จะท่าไหน โลดโผนแค่ไหน จินตนาการตามสบายเลย”
“พชร!” แรง!
พชรลอบหัวเราะ ได้แกล้งพูดอะไรใส่ม่อนแจ่มแบบนี้บ้างมันก็.. สบายใจดีเหมือนกัน ปกติ รู้สึกตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดๆ
ร่างกำยำค่อยๆล้มตัวลงนอนบนเตียงตนเอง อยากตะแคงหันหาม่อนแจ่มอยู่หรอกนะ แต่ไม่ดีกว่า.. ขานั้นรอจะล้อเลียนเขาอยู่เรื่อย
พชรนอนหงาย แขนข้างหนึ่งแนบลำตัว อีกข้างวางทาบบริเวณหน้าท้อง ท่วงท่าประจำ
“ฝันดีนะ”
จนแล้วจนรอด พชรก็แอบหันไปมอง อยากเห็นหน้าคนรักอีกทีก่อนหลับตา และหวังใจว่าม่อนแจ่มคงตอบกลับแค่ ‘ฝันดีเหมือนกัน’ มิใช่ต่อความยาวสาวความยืด ยั่วเย้าให้เขาลุกไปหาอีก
ซึ่งก็นะ.. นั่นเป็นความหวังลมๆแล้งๆ“กูฝันดีไปแล้ว
..
ดีสุดๆเลยแหละ ให้กูเล่าให้ฟังนะ”
“ไม่ต้อง” พชรปฏิเสธ หันหน้ากลับ เบือนหนีจากรอยยิ้มน่ารักน่าใคร่ที่ส่งมาในความสลัว
“ฟังหน่อยน่า” ม่อนแจ่มตื๊อ “ตอนฝันร้ายยังให้เล่าเลย”
“ฝันดีก็ดีแล้ว ไม่ต้องเล่า” พชรไม่รู้ว่าควรเอามือมาอุดหูตัวเองดี หรือเอาปากตัวเองไปปิดปากม่อนแจ่มแล้วต่อรอบสองเสียเลยดี
“กูฝันว่าเราสองคน..”
“ม่อน”ฮ่ะๆ
หยุดก็ได้..
ม่อนแจ่มยิ้ม ยอมเลิกต่อปากต่อคำ ส่วนหนึ่งมาจากคำเรียก ‘ม่อน’ สั้นๆที่ส่งสัญญาณอันตราย อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะดวงตาของเขาเองก็ค่อยๆปิดลงจากความเหนื่อยอ่อน
แม้พชรจะบอกว่า ‘ฝันดี’ แต่สติที่กำลังเลือนไปบอกตัวเองว่าม่อนแจ่มไม่นึกอยากฝัน ..ก็ความจริงของเขาออกจะดีปานนั้น
แต่ว่า.. ถ้าต้องฝันจริงๆ ม่อนแจ่มก็ขอฝันถึงสัมผัสของพชรอย่างที่เพิ่งผ่านมาจะได้ไหม?
นั่นแหละ ฝันดี.. ∞ ∞ ∞ ∞ ∞ ∞
จู่ๆก็โผล่มาเนอะ
จริงๆอยากจะเขียนตอนนี้ตั้งแต่เรื่องจบใหม่ๆ แต่ก็.. มิได้นำพา คนอ่านจึงเพิ่งได้อ่านตอนนี้แหละครับ
ฝันดีน่อ ด้วยรักและคิดถึง
เกรียนน้อยๆ