[ กลรัก ... เปื้อนสี ] แล้วนะครับ !!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ กลรัก ... เปื้อนสี ] แล้วนะครับ !!!!  (อ่าน 277525 ครั้ง)

lungkhao

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 36



การเดินทางของความรัก มันต้องมีอุปสรรคบ้างสินะ .. และวันนี้มันคงเป็นอุปสรรคที่ร้ายแรง เท้าที่ผมเคยเจอมา การได้มาพบกับครอบครัวของนายปีโป้ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนมาก ครั้งที่แล้วผมจากมาด้วยรอยยิ้ม





แต่ครั้งนี้ผมจากมาด้วยน้ำตา ..







บนโลกแห่งความจริง ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ถึงแม้มันจะเกิดกับคนสองคนก็ตาม แต่ในห้วงของความรัก ย่อมมีอะไรหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ผมเลือกจะหลีกหนีครอบครัวของนายปีโป้ไม่ได้ เพราะยังไงซะ นั่นก็คือที่มาที่ไปของเขา แล้วเรื่องของผมกับเขาก็เพิ่งจะเริ่มต้น





ระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน จะไปประสาอะไรกับตลอดชีวิตที่นายปีโป้มีมา ถึงแม้การพิสูจน์ความรักจากเขาทำให้ผมรู้แล้วว่าเขาจริงจัง และเรื่องของเราคงไม่จบลงง่ายๆ แต่มาถึงตอนนี้ผมทำตัวไม่ถูกแล้ว ไม่รู้จะเดินไปต่อ หรือจะถอยหลัง แค่แรงยืนอยู่กับที่ยังไม่มีเลย






“ช้างน้อยยย” เสียงผมเรียกคนที่อยู่ตรงหน้า ผมไม่รู้จะไปไหน เลยมาหาช้างน้อยที่บ้าน

“น้ำมนต์” อีกคนคงตกใจไม่ใช่น้อยที่เห็นผมมาในสภาพคราบน้ำตาเต็มแก้มแบบนี้ ผมโผเข้าไปกอด้างน้อยทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ต้องการแค่ใครสักคนก็ได้ในตอนนี้ อยู่ใกล้ๆ นั่งเป็นเพื่อน และคอยให้กำลังใจผมหน่อย

“ตายแล้วน้ำมนต์เพื่อนชั้น ไปพบไปเจออะไรมาอีกละเนี่ย ถึงร้องไห้ปานน้ำท่วมกรุงแบบนี้”

“ช้างน้อย พ่อ พ่อ พ่อกับแม่ ของปีโป้ เค้า เค้า ฮือๆๆ”  ผมไม่รู้ว่าพูดไปช้างน้อยจะเข้าใจหรือเปล่า เพราะน้ำมูก น้ำตา มันทำให้ปากผมพูดไม่รู้เรื่องเลย

“อ่าๆ โอเคๆ ชั้นพอจะเดาได้ ใจเย็นๆ  หยุดร้องได้แล้ว ดูสิ ตาบวม น้ำมูกน้ำตาเต็มหน้ามดแล้ว” ช้างน้อยพูดพร้อมกับพาผมมาที่สวนหลังบ้าบของช้างน้อย ก่อนจะยื่นกล่องทิชชู่ให้ผม

“เช็ดหน้าเช็ดตาซะ  แล้วมาค่อยๆคิดกันว่าจะเอาไง” ช้างน้อยบอกผม

“ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าแกกับพี่ปีโป้จะจริงจังอะไรกันแค่ไหน แต่ที่ชั้นรู้ เมื่อมันเกิดความรัก คนสองคนก็มักจะมองไปข้างหน้า พอมีอะไรไม่เป็นดั่งใจ ก็ต้องมีเสียใจ ปวดใจกันบ้าง แต่ครั้งนี้คงเจอกับปัญหาใหญ่เลยสินะ ..” ช้างน้อยกำลังพูดให้ผมฟัง

“เราตั้งตัวไม่ทัน เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้พ่อกับแม่ของนายปีโป้จะมา แล้วนายปีโป้จะแนะนำว่าเราเป็นแฟน เราไม่คิดว่ามันจะเร็วแบบนี้ ..” ผมพยายามบอกไปบ้าง

“คงจะช็อคซีนีม่าสินะ ถ้าเป็นชั้นอาจหัวใจวาย ดิ้นพล่านอยู่แถวนั้น” ช้างน้อยหยอดมุกมาเพื่อให้ผมขำ ผมยิ้มให้เธอเล็กน้อย

“ชั้นคงช่วยอะไรแกมากไม่ได้ นอกจากนั่งเป็นเพื่อนแก ให้กำลังใจแกตอนนี้หรอก เรื่องความรัก ปัญหาที่เกิด มันไม่ได้เกิดจากคนสองคนก็จริง แต่เวลาแก้ คนสองคนนะที่ต้องช่วยกันแก้” ผมเข้าใจที่ช้างน้อยพูดดี

“อืม เรารู้ดี ตอนนี้เราแค่ต้องการใครสักคนคุยกับเรา” ผมบอกพร้อมยิ้มให้กับช้างน้อยอีกครั้ง

“ชั้นยินดีเสมอ” และช้างน้อยก็ยิ้มกลับมาให้ผมเช่นเดียวกัน







เรารักกันแค่สองคน แต่คนสองคนก็อยู่บนโลกแค่สองคนไม่ได้ เมื่อมีคนอื่นเข้ามา ก็จะไม่ใช่โลกของคนสองคนอีกต่อไป เมื่อมีใครเข้ามาเกี่ยวข้อง ปัญหาต่างๆก็จะตามมา .. พวกเขาเข้ามาสร้างปัญหาให้กับเราสองคน แต่ไม่เคยช่วยแก้ และคนที่แก้คือคนที่รักกันทั้งสองคน ..





ตอนนี้ผมอยากให้นายปีโป้อยู่ข้างๆผมเหลือเกิน .. และนายปีโป้ก็คงคิดไม่ต่างจากผม




ผมกลับบ้านไปด้วยใจที่ห่อเหี่ยว มือที่กำมือถือไว้ตลอดเวลา เพื่อรอการโทรมาจากใครบางคน กำจนแน่น เหงื่อที่มือไหลจนมือถือเปียก ก็ไร้วี่แววของคนที่คิดถึง ครั้นจะโทรไปก็กลัวจะรบกวน และทำให้อะไรยุ่งยากมากไปกว่าเดิม



กลับมาบ้าน ยิ้มให้ยาย แล้วขึ้นบ้านไปทำงาน หาอะไรทำเพื่อให้สมองลืมๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในวันนี้ แต่ไม่ว่าทำอะไร ก็ไม่ดีสักอย่าง จนต้องเลิกทำ และมานั่งมองยายทำขนม



“ยาย ..” อยู่ๆผมก็เรียกชื่อนี้มา ทั้งที่สายตาก็ยังเหม่อมองออกไปที่ท้องทุ่งที่ไม่มีจุดจบของสิ่งมีชีวิต

“ว่าไงลูก เป็นอะไรอีกวันนี้ เห็นเหม่อตั้งแต่กลับมา” ยายหยุดมือที่กำลังทำกระทงใบตองอยู่ แล้วเดินมานั่งใกล้ๆผม

“ทำไมความรักมันถึงลึกลับซับซ้อนแบบนี้ละ” ผมถาม พร้อมกับพิงหัวไปซบที่หน้าอกยาย

“โถ หลานยาย กำลังมีความรักสิท่า .. ไปหลงรักสาวที่ไหนเข้าให้อีกละ”  ยายพูดพร้อมกับลูบผมของผมไปเบาๆ

“ความรักนี่ต้องระหว่างชายกับหญิงเหรอยาย นั่นคือนิยามของความรักเหรอยาย” ผมถามย้อนไป สายตาสงสัย ยายก็มองมาด้วยตางุนงงในคำถามนั้นเช่นกัน

“มันไม่ใช่นิยามหรอก มันเป็นแค่เรื่องปกติ กว่าจะมาเป็นเรื่องปกติได้ มันก็ต้องเคยไม่ปกติมาก่อน จนคนเริ่มรับได้ ก็กลายเป็นสิ่งปกติขึ้นมา”

“แล้วยายละครับ จะรับได้ไหม ถ้าน้ำมนต์รักกับใครแบบไม่ปกติ” ผมถามไป ใจเต้นตึกตักไม่แพ้เมื่อตอนกลางวัน ผมอยู่กับยายมาตั้งแต่เด็กๆ รู้ดีว่ายายเป็นคนอย่างไร ยายไม่ใช่คนแก่หัวหงอก ที่คล่ำอยู่กับเรื่องโบราณ ยายเป็นคนมองโลกให้เป็นปัจจุบัน ยายบอกกับผมเสมอว่าอะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด ห้ามไม่ได้ก็ปล่อยมันไป ถ้าไม่มีใครเดือดร้อน ยายก็ไม่เคยห้ามทำ



แต่ครั้งนี้ยายกลับไม่สบตาผม สายตามองไปข้างหน้าจุดหมายคงไม่ต่างจากที่ผมมองตอนแรกนัก ยายยิ้มใหกับภาพที่เห็น





“เมื่อก่อนทุ่งนาแห่งนี้ เคยเป็นที่ๆของชาวนามาปลูกข้าวกัน ปลุกกันทุกปี ภาพที่เห็นคือภาพทุ่งนาสีเขียว แล้วก็ค่อยๆเหลือง กลายเป็นรวงทองในที่สุด แล้วก็กลายเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ รอคอยฤดูทำนามันอีกครั้ง เป็นอย่างนี้ทุกปีๆ จนมันกลายเป็นเรื่องปกติของที่นี่ไป ยายเฝ้ารอคอยวันที่ฤดูทำนามาถึง จนทุกวันนี้นาข้าวกลายเป็นนาร้าง ที่ไม่มีใครสนใจมันแล้ว ทำนาก็ไม่ได้ข้าว ขาดน้ำ คนที่ทำเป็นค่อยๆหายไป หายไป จนภาพที่เป็นปกติของทุกวันนี้ คือทุ่งนาร้างๆ มีหญ้าต่างๆมากมาย ที่ไม่ใช่ต้นกล้าของข้าว  น้ำมนต์เข้าใจที่ยายพูดมั๊ย” ยายพูดยาว ก่อนที่จะก้มลงมาถามผม ที่เงยหน้ามองยายพูดอยู่





เมื่อก่อนการทำนาคือสิ่งปกติ ที่ยายเคยชิน เคยเห็น มันก็คงเหมือนกับการที่ผู้ชายกับผู้หญิงรักกัน แต่ทุกวันนี้นาที่ร้าง ไร้ซึ่งฤดูปลูกข้าว กลับมาแทนที่ภาพเก่าๆนั้น .. ยายก็กำลังพยายามทำความเคยชินมัน ให้กลายเป็นเรื่องปกติ .. เช่นเดียวกับเรื่องราวของความรักที่แปลเปลี่ยนไป ..




“เข้าใจครับยาย” ผมตอบแล้วก็กอดยายแน่นๆอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นไปหอมแก้มยายทั้งสองข้าง

“เมื่อไหร่จะเลิกอ้อนยายแบบนี้เนี่ย โตแล้วนะ มีแฟนแล้วด้วย” ยายแซวผม

“ไม่เอาอ่ะ ถึงโตก็จะอ้อน น้ำมนต์รักยายนะครับ ยายผมน่ารักที่สุดในโลก”

“พอเลยๆ ไม่ต้องมาทำปากหวาน คราวหน้าก็ชวนพี่ปีโป้มาเที่ยวบ่อยๆนะ บอกว่ายายยินดีต้อนรับ” ยายพูดชื่อนั้นออกมา อย่างกับรู้เรื่องราวก่อนหน้านั้นมาอย่างดี ว่านายปีโป้เข้ามาจีบผม และตอนนี้ก็เป็นแฟนของผม

“ถ้าอะไรมันเป็นไปในทางที่มันควรจะเป็น ยายคงจะได้เจอเขาอีก” ผมไม่รู้จะบอกยายอย่างไรดี

“มันต้องเป็นในทางที่เราอยากจะให้เป็นสิ อย่าให้อะไรมากำหนดชีวิตของเรา เข้าใจมั๊ย” ยายพูดให้กำลังใผม กำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ .. ผมยิ้มให้กับยาย คลายกอดยายก่อนที่ยายจะเดินกลับไปทำขนมต่อ






เวลาที่เราท้อ เรามีปัญหา ใครหลายคนไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่คืออะไร และทำไปทำไม ขอแค่หนึ่งคนเท่านั้นที่เข้าใจ ปลอบใจ และให้กำลังใจผม ขอแค่อยู่ข้างๆผม ขอแค่คอยลูบผมปลอบผมเบาๆ ในวันที่ปัญหาต่างๆถาโถม เข้าไม่ได้ช่วยให้ปัญหาต่างๆหมดไปหรอกครับ เขาแค่ช่วยให้ผมมีแรงพอที่จะสู้กับปัญหาเหล่านั้น ทำให้ผมฮึดขึ้นมาอีกครั้ง





ในวันที่ปัญหาถาโถม ขอแค่มี “ยาย” เข้าใจผม .. ผมก็ดีใจแล้วครับ








“ติ๊ด ตี๋ ดี ดิ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ตี ดิ๊ด”  เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาทำลายความคิดของผม ที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ยากจะอธิบาย ผมคว้ามือถือที่อยู่ห่างจากมือไม่ไกลนัก ดูเบอร์ที่โชว์อยู่

“นายปีโป้” ผมอุทานขึ้นเล็กน้อย ดีใจที่เป็นเบอร์นี้ หันไปมองยายเล็กน้อย ซึ่งแกก็กำลังมองมาที่ผมพอดี พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจมาให้ผม ผมกดรับด้วยใจสั่น .. ไม่รู้เลยว่าปลายสายจะโทรมาบอกเรื่องอะไร โทรมาทำไม และเรื่องดีหรือร้าย ..






“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไป พยายามทำให้น้ำเสียงเป็นปกติที่สุด

“มึงอยู่ไหน” ปลายเสียงถามมาอย่างไม่รู้อารมณ์

“อยู่บ้านแล้ว” ผมตอบ

“เออ แค่นี้แหละ”  และนายปีโป้ก็วางสายไป ทิ้งให้ผมงงกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีข่าวดี หรือว่าข่าวร้ายใดๆ ให้ผมต้องดีใจหรือเสียใจเลย .. มีเพียงข้อสงสัยว่าจะโทรมาทำไม โทรมาแค่นี้ ..







ผมนั่งรอโทรศัพท์อีกครั้ง โดยหวังว่าเค้าจะโทรมา นั่งจ้องอยู่อย่างนั้น  จนตัดสินใจโทรหาเองบ้าง







หมดสัญญาณเรียกพร้อมกับไร้เสียงตอบรัก สถานะถูกเปลี่ยนเป็นฝากข้อความ ผมกดซ้ำอีกครั้งก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกของสัญญาณที่เรียกในตอนนี้ ดังแต่ละครั้ง เล่นเอาใจผมสั่นไหวไปหมด




ผมคงยึดติดกับมันจนเกินไป ..



“ยายว่า มาช่วยยายทำขนมดีกว่านะ” เสียงยายเรียกผมให้กลับสู่โลกแห่งความจริง ผมคงหมกมุ่นกับมือถือและคาดหวังอะไรเยอะไป ผมหันไปยิ้มให้ยาย ก่อนจะวางมือถือไว้ และเดินไปหายาย ช่วยยายทำขนม







   ไม่นานนัก ก็มีรถยนต์คันคุ้นตามาจอดที่หน้าบ้านผม ผมจำได้ดีว่าเป็นรถใคร ทั้งที่เคยนั่งเพียงครั้งเดียวก็ตาม รอยยิ้มค่อยๆเกิดขึ้นบนในหน้าผม ผมมองเข้าไปในรถได้สักครู่ คนในรถก็ทยอยลงมา




“สวัสดีครับคุณยาย” นายปีโป้ยกมือไหว้คุณยายผม ก่อนจะเดินเข้ามาหาผม แล้วก็ลากออกมาจากตรงนั้น

“ไปไหน” ผมถามเบาๆ หันหน้าไปมองพ่อแม่ของนายปีโป้ เห็นแม่ของนายปีโป้ยิ้มให้ แต่ป๊า หรือพ่อก็ยังหน้าบึ้งเหมือนเดิม

“ไปคุยอะไรกับกูหน่อย” นายปีโป้บอกผม พร้อมออกแรงดึงผมอีกครั้ง

“แล้วทำไมไม่ ..”

“ไปคุยกับพี่เค้าเถอะน้ำมนต์ รออยู่นานแล้วไม่ใช่เหรอ” เสียงยายของผมขัดจังหวะขึ้นมา พร้อมกับท่าทียิ้มเยาะเย้ยขอแก นายปีโป้ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะจูงมือผมเดินไป




ผมหันไปมองภาพข้างหลัง เป็นภาพของพ่อแม่ของนายปีโป้ กำลังทักทายยายผมอยู่ และดูท่าแม่จะรู้จักยายดี





“จะลากไปอีกไกลมั๊ย” ผมบอกนายปีโป้ เมื่อเห็นคนโตกว่าลากผมเข้ามาในทุ่งนาร้างแถวบ้านของผม ซึ่งห่างจากบ้านคนแถวนี้พอสมควร มองออกไปเจอแต่ทุ่งนาที่เต็มไปด้วยหญ้าหลากหลาย เขียวบ้าง เหลืองบ้าง ร่วงโรยตามฤดูกาล





นายปีโป้หยุดเดิน และหันกลับมามองผม ก่อนจะเข้ามากอดผมไว้อย่างแน่น เล่นเอาแมหายใจแทบไม่ออก ผมโดนกอดอยู่แบบนั้น โดยไม่มีเสียงใดๆหลุดออกจากอีกคนเลย เข้าลูบที่ผมของผมอย่างช้าๆ เสียงหัวใจของเราสองคนเต้นดังจนฟังไม่ทัน ว่าเป็นของใคร และของใคร








“ลากมาตั้งไกล เพื่อมากอดนี่นะ” ผมทักท้วงอย่างขำๆ เมื่ออีกคนไม่มีทีท่าจะปล่อยผมออกจากอ้อมกอด

“ก็กูคิดถึง ตั้งแต่ปิดเทอมกูยังไม่ได้กอดมึงเลย แถมเมื่อเช้าก็เจอเรื่องแย่ๆเข้าไปอีก กูเลยอยากกอดมึงไว้นานๆ กูกลัว กลัวว่าจะไม่ได้กอดมึงอีก” นายปีโป้พูดพร้อมกับปล่อยผมจากอ้อมกอด มาเป็นกุมบ่าทั้งสองข้างของผมไว้ ในตาแฝงไปด้วยความเศร้า คำพูดเหล่านั้นทำเอาน้ำตาผมแทบไหล

“ทำไมพูดแบบนั้นละ หรือว่าป๊ากับแม่นานเค้าอยากให้เรา ..”

“กูขอโทษ” ผมยังไม่ทันจะพูดจบ นายปีโป้ก็ขัดด้วยประโยคนี้ เล่นเอาผมไปต่อไม่ถูก ยืนก้มมองพื้นดินที่พบแต่หญ้าที่ตายไปด้วยการขาดน้ำ นัยน์ตาผมก็คล้ายๆกับกำลังหลั่งบางอย่างให้ความชุ่มชื่นกับสิ่งนั้น .. แต่มันคงจะไม่เพียงพอ




“เป็นไรไปอ่ะ” นายปีโป้ถาม พร้อมกับมือที่ยกหน้าผมเชิดขึ้น

“ร้องไห้ทำไม” เขาถามมาอีกครั้ง

“ต้องเลิกกันจริงๆเหรอ ไม่เลิกกันไม่ได้เหรอ เรายังไม่พร้อมเลยนะ” ผมพูดไปพร้อมกับน้ำตา  ที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจ ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวความรักครั้งแรกของตัวเอง จะจบลงง่ายๆแบบนี้

“เป็นอะไร ฟังกูพูดให้จบก่อนสิ กูบอกว่ากูขอโทษ ที่ทำให้มึงเสียใจ ร้องไห้ที่ห้าง ขอโทษที่ทำให้มึงต้องกลับบ้านมาด้วยความเสียใจ ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลมึง  นี่แหละทีกู่จะขอโทษ แล้วมึงจะร้องทำไมเนี่ย” ผมอึ้งเมื่อได้ฟังสิ่งที่นายปีโป้พูด นี่ผมตีโพยตีพายไปเองเหรอเนี่ย

“นายอ่ะ .. ทำไมไม่รีบพูดให้มันจบๆ ทำไมปล่อยให้เราคิดไปไกล ทำไมทำกับเราแบบนี้” ผมพูดด่านายปีโป้ พร้อมกับตีที่หน้าอกเขาไปด้วย
 
“ตีแบบนี้ไม่รักกูแล้วเหรอ พี่เจ็บนะ” ดูครับ ที่พูดอ้อน แล้วยังอมยิ้มที่มุมปากอีก

“ไม่ต้องมาพูดเลย จะไปหายายแล้ว” ผมพูดพร้อมกับจะปลีกตัวกลับไปที่บ้าน

“เดี่ยวก่อนสิ กูยังพูดกับมึงไม่จบนะ” อีกคนก็ดึงไว้

“มีอะไรอีก เรียกมาแค่กอดอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ” ผมย้อนถาม

“ถ้าทำอย่างอื่นได้ ก็จะดีมาก” นายปีโป้ตอบมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่ต้องมาทะลึ่ง แล้วป๊ากับแม่นาย .. เอ่อ” ผมจะถามยังไงดีละครับ

“กูคุยกับแกแล้ว” นายปีโป้พูดบอกมา อย่างกับจะรู้ว่าผมต้องการถามอะไร

“คุยแล้ว แล้วพวกท่านว่ายังไงเหรอ ?”

“แม่เหมือนจะเข้าใจ แต่ป๊ายังไม่อยากรับรู้อะไร แกบอกว่ารอเราจบมหาลัยก่อน แกคงขอเวลาทำใจ ดีหน่อยที่แม่ช่วยพูดให้ แม่บอกว่าลูกรักใครแม่ก็รักด้วย และแม่ก็ชอบมึงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย แต่ป๊ากูก็ชอบมึงนะ แต่แกคงไม่ได้ชอบถึงขั้นอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ กูลูกชายคนเดียวด้วย แกคงอยากอุ้มหลาน” พูดมาถึงตอนนี้ นายปีโป้ก็หยุดพูดไป ผมก็พลันรู้สึกแย่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ทำไมเค้าสองคนเข้าใจง่ายจังเลย ทั้งที่ท่าท่าก่อนเราออกมา ดูโกรธซะขนาดนั้น” ผมถาม

“ก็กูรั้นไง กูบอกว่ากูรักมึง กูไม่เคยรักใครเท่ามึงมาก่อน กูบอกเขา กูเล่าให้เขาฟังว่ากูทำยังไง ถึงกูจะได้มึงมาเป็นแฟน กูบอกว่ากูไม่เคยใช้ความพยายามเท่านี้มาก่อน  กูบอกว่าแค่นี้พอแสดงให้ป๊ารู้มั๊ย ว่าหนูรักน้ำมนต์แค่ไหน” นายปีโป้พูดพร้อมกับจับมือผมเอามาลูบเล่นเบาๆ

“พูดแบบนี้จริงเหรอ” ผมจะเชื่อดีไหมเนี่ย

“จริงสิ ตอนพูดนะ น้ำเสียงหนักแน่น วาจาเกรี้ยวกราดดุจชายชาติทหารเลยล่ะ” ยิ่งน่าเชื่อถือน้อยลงเข้าไปอีก

“เดี่ยวไว้ค่อยไปถามแม่นายอีกที ว่าพูดแบบนั้นจริงไหม”

“เอ๊ย ไม่ต้อง กูบอกมึงก็ได้” นั่นไงครับ มันต้องมีอะไรแน่ๆ

“อ่า . ว่ามา” ผมยืนกอดแก รอฟังความจริงจากนายปีโป้ นายปีโป้เอามือเกาหัวเหมือนกำลังคิดว่าจะเล่าอย่างไรดี

“คือ .. เอ่อ .. คือกูร้องไห้นานมาก มึงดูที่ตากูสิ ตากูบวมเปล่าล่ะ นี่กูเอาผ้าเย็นประคบแล้วนะ ยังบวมๆอยู่เลย ป๊ากับแม่คงไม่เคยเห็นกูร้องไห้แบบจะเป็นจะตายแบบนี้  แต่ที่จริงกูก็เสแสร้งด้วยแหละ เสียใจก็ตอนที่มึงจะไป ตอนนั้นเสียใจจนน้ำตาไหล แต่ในเมื่อมันไหลแล้ว น้ำตาลูกผู้ชายต้องมีค่ากว่านั้น กูเลยร้องไห้หนักเรียกร้องความสงสารเข้าไปอีก แม่เห็นกูร้อง แกก็จะร้องด้วย เลยบอกว่า แกชอบมึง แกรับได้ บอกป๊าว่าถ้าป๊าไม่ยอมรับ ก็ไม่ต้องมาสนใจกูกับมึง ไม่ต้องสนใจแม่ด้วย ออกแนวบังคับป๊าไปในตัว ป๊าอับจนหนทาง จนต้องเปิดโอกาสให้กูกับมึงคบกัน”

“อย่างนี้นี่เอง” ผมพยักหน้าสองสามครั้งเมื่อฟังเรื่องจบ

“แต่เอาเข้าจริง กว่าจะคุยกับป๊าเข้าใจก็นานอยู่ และป๊าก็บอกว่าขอเวลาทำใจ ให้กูเรียนจบมหาลัยก่อน แล้วแกจะยอมรับในตัวมึงอีกครั้ง มึงรอได้ไหมล่ะ”

“เรื่องอะไรเราจะรอ” ผมอยากแกล้งนายคนนี้ดูบ้าง

“มึงพูดว่าไงนะ” นายปีโป้ตะโกนกลับมาเสียงดังลั่น

“ถ้าคนบางคนไม่ทิ้งเรา ก็คงไม่มีใครกล้ามาจีบเราแล้วละ กว่าจะมีแฟนกับเขาสักคน ไม่ใช่ง่ายๆเลยนี่” ผมบอกไปพร้อมกับยิ้มๆ

“เมื่อกี้ไม่ได้พูดแบบนี้นี่ .. แต่ก็ดีละ กูชอบ” นายปีโป้บอกผม พร้อมกับเดินเข้ามาโอบคอผมอีกครั้ง





เรื่องราวของผมกับนายปีโป้ก็มักจะเป็นแบบนี้แหละครับ วันๆหนึ่งมีทุกอารมณ์ เขาบอกกันไว้ว่า ถ้าไม่เคยร้องไห้มาก่อน ก็จะไม่มีวันเห็นคุณค่าของรอยยิ้ม .. ถ้าไม่เคยรู้สึกสูญเสีย ก็จะไม่เห็นคุณค่าของความรัก ผมเข้าใจแล้วละครับ ว่ามันรู้สึกเช่นไร เวลาเป็นแค่ตัวแปรหนึ่งเท่านั้นที่เอามาใช้พิสูจน์ความรักของผม ความรู้สึก ความผูกพัน สิ่งต่าๆงที่เขาทำให้ผมต่างหาก ที่มันเอามาพิสูจน์ .. ว่าคนๆนี้ รักเราจริงๆ
ผมกับนายปีโป้เดินกลับเข้าบ้านมา โดยมีมือของนายปีโป้จับมือผมไว้ และเมื่อใกล้มาถึงบ้าน ผมเลยบอกให้เขาปล่อยมือ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรต่อกัน แต่การแสดงความรักประเจิดประเจ้อแบบนี้ก็คงไม่ดีนัก .. ยิ่งความรักของเราแล้ว ยิ่งยากจะยอมรับ






“กลับกันมาแล้ว” ยายผมทักเมื่อเห็นผมกับนายปีโป้เดินเข้ามาที่ใต้ถุนบ้าน

“หนูน้ำมนต์ .. แม่ขอโทษด้วยนะลูก ที่ทำให้ลูกเสียใจวันนี้” แม่นายปีโป้เดินเข้ามาจับมือลูบแขนปลอบผม

“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ” ผมตอบแล้วยิ้มไป

“ดูสิคุณ น่ารักจริงๆเลยหนูน้ำมนต์เนี่ย แม่ดีใจจัง แม่จะได้มีลูกชายเพิ่มละ” แม่ปีโป้พูดพร้อมกับหันไปคุยกับป๊าของนายปีโป้ ที่นั่งขรึมไม่พูดไม่จาอยู่

“นี่คุณ .. จะเก็กอีกนานมั๊ย เมื่อกี้ก็ยังชมหนูน้ำมนต์กับคุณยายอยู่เลย พอตาหนูโป้มาก็ทำเก็กซะงั้น  ตาหนูโป้มันรู้หรอก ว่าคุณทำไปทำไม  ดูสิตาหนู ป๊าเค้างอนเรา เค้ากลัวเราไปม่รักเค้า” แม่ของนายปีโป้หันไปดุป๊าของนายปีโป้ ก่อนจะหันไปพูดกับเค้า

“จริงเหรอป๊า ...” นายปีโป้พูดกับป๊าลากเสียงยาว ทำเสียงกวนๆ กับหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้คุณลุงมากขึ้น

“ไม่ต้องมายุ่งกับป๊า ป๊ามันไม่หนุ่ม ป๊ามันผมไม่ยาว ป๊ามันไม่ได้หน้าขาว มันไม่ได้น่ารักแล้วนี่” นั่นไงครับ ป๊าน้อยใจใหญ่แล้ว

“โอ๋ๆ ไม่น้อยใจนะตัวเอง ยังเค้าก็รักตัวเองเหมือนเดิมแหละ มามะกอดหน่อย” นายปีโป้พูดพร้อมกับกอดคุณลุงไว้แน่น คุณลุงดิ้นเล็กน้อย แต่สีหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มขึ้นบ้าง

“เอากับเขาสิบ้านนี้  ถ้าลูกชายมีแฟนผู้หญิง แม่ก็น้อยใจ พอลุกชายมีแฟนเป็นผู้ชาย พ่อก็น้อยใจอีก กลัวลูกไม่รักสินะ เหอะๆๆ” ยายพูดสรุป ก่อนจะหัวเราะออกมา กับภาพของพ่อลูกกำลังง้องอนกัน





ส่วนแม่ของนายปีโป้ ก็จับตัวผมหมุนซ้ายหมุนขวา จับแก้มจับแขน ลูบไล้ไปตามตัวเป็นว่าเล่น

“หนูน้ำมนต์นี่ผิวสวยจังเลยคะแม่ หนูชักชอบแล้วสิ ดูๆไปก็คล้ายผู้หญิงนะคะเนี่ย” คุณป้าพูดกับยาย เรื่องของผม จะว่าผมเขินก็ใช่ แต่ก็ไม่ชอบเท่าไหร่ ที่มีใครบอกว่าเหมือนผู้หญิง

“น้ำมนต์มันได้แม่มันมา ผิวอะไรเนี่ยเหมือนแม่มันหมด” มีแต่คนบอกว่าผมเหมือนแม่ครับ เค้าบอกว่าผู้ชายเหมือนแม่จะไม่อาภัพ แต่ผมว่าผมยงอาภัพที่พรากจากพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กอยู่ดี

“นั่นสิคะ มองแว๊บแรกหนูก็คิดเลยว่าเหมือนยัยนามากๆ” คุณป้าบอกว่าผมหน้าเหมือนแม่ผมครับ





“ลูบไล้พอหรือยังคุณ ถูอย่างกับจะขอหวยจากหนูน้ำมนต์”  คุณลุงส่งเสียงมาจากด้านหลัง

“ป๊าอิจฉาอ่าดิ บอกหนูมาเถอะ ว่าอยากกอดน้ำมนต์เหมือนกัน” นายปีโป้แซวพ่อของตัวเอง

“ใครบอกละ ป๊าไม่อยากกอดใครทั้งนั้นแหละ แกก็ออกไปเลย ไม่ต้องมาเกาะแกะกับพ่อ พ่อร้อน”

“ร้อนจริงอ่ะ งั้นหนูไปกอดแม่ดีกว่า”

“เอ๊ยย”

“โอ๋ๆๆ ใครจะกล้าทิ้งป๊าละ ถึงหนูจะมีแฟน แต่หนูก็รักป๊าเหมือนเดิมนะ รักมากๆด้วย” นายปีโป้อ้อนใหญ่แล้วครับ ผม ยาย และคุณป้ายิ้มให้กับภาพนั้นใหญ่

“ให้มันจริงเห๊อะ .. นานๆทีกลับบ้าน นึกว่าไปติดสาวที่ไหน ที่แท้ก็ลูกไอ้ยศ หนีไม่พ้นมันจริงๆเลยกูเนี่ย” คุณลุงพูดถึงพ่อผมครับ




“โอเค เดี่ยวคราวหน้าหนูจะกลับบ้านทุกอาทิตย์เลย  จะไม่เถลไถลที่ไหนอีกแล้ว หนูสัญญา”

“ไม่ต้องมาเลย ป๊าไม่อยากเจอ” คุณลุงพูดมาสีหน้าจริงจัง

“อ้าว ไงงั้นอีกละป๊า”  นายปีโป้เริ่มเอาใจป๊าตัวเองไม่ถูกละ แต่หัวโตๆ ผมยาวๆของเค้าก็ยังไถๆอยู่ตามแขนของป๊าขงเค้าอยู่ดี







“ถ้าจะมา ต้องพาหนูน้ำมนต์มาด้วย เข้าใจมั๊ยยยยยยย”  ก่อนประโยคที่ชัดเจนจะหลุดออกมา พร้อมรอยยิ้มที่แสนใจดีของคุณลุงจะกลับมาให้เห็นบนใบหน้าอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้เต็มที่อีกครั้ง







ภาพตอนนี้คงเป็นภาพที่น่าดูไม่เบา ภาพของคุณลุงนั่งกอดและเกาหัวลูกชายตัวโต ที่อ้อนพ่ออย่างกับเด็กๆ กอดบ้าง หอมแก้มบ้างสลับไป ภาพของคุณป้าที่ยืนโอบเอวผมไว้เบาๆ สายตาจ้องมองพ่อลูกเล่นกัน และภาพของยายที่ดูลูกๆหลานๆ พรางเคี้ยวหมากในปาก มีแซวบ้าง คุยบ้างตามประสา






เมื่อก่อนผมมองว่ารักเข้าใจยาก และช่างซับซ้อน แต่เพราะคนเราเลือกจะมองต่างมุม มองกันคนละแบบ บางคนมองรักเพื่อผมประโยชน์ บางคนมองรักเพื่อชื่อเสียง บางคนมองรักคือเพศ คืออายุ บางคนมองรักแค่คลายเหงา บางคนมองรักคือทั้งชีวิต





ถ้าเรามองรัก ว่ามันคือความรัก .. เมื่อนั้นเราก็จะมองมันเหมือนกัน








ขอบคุณคคุณลุงคุณป้า และก็ยายมากนะครับ .. ที่มองรักครั้งนี้เหมือนกับที่ผมและนายปีโป้มอง





 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2011 21:31:55 โดย lungkhao »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
 :z13:



 :mc4: ดีใจที่ลงเอยด้วยดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2011 21:03:45 โดย iamnan »

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
 o13 น้ำมนต์น่ารักขึ้นทุกวัน

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
คุณพ่อคุณแม่น่ารักมากค่ะ ขอชมเชย  :m4:

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อ๊อยยยยย.~
ลุ้นมากอ่ะ
ที่สุดแล้ว เค้าก็เข้าใจกัน
นายโป้ใช้น้ำตาแก้ปัญหา
ไม่ค่อยแมนเนอะ แต่ได้ผลก็โอเคแล้ว
ดีใจอ่ะ ดีใจเว้ย

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
เกือบจะโกรธพ่อแม่ปีโป้แล้วเนี่ยะ ถ้าไม่ได้อ่านตอน 36
ตอนแรกก็รักน้ำมนต์ดี ลูกของเพื่อนสนิทนี่น่ะ
แต่พอลูกตัวเองมารักน้ำมนต์ ก็แสดงท่าขัดขวาง
สุดท้่ายแล้ว ลูกรักใครก็รักด้วยเนอะ แถมยังเป็นลูกเพื่อนสนิทอีกด้วย

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
 :mc4:  :mc4:

สมหวังกันซักที ปีโป้พิสูจน์กับทุกคนแล้ว ทั้งกับน้ำมนต์และพ่อแม่ ดีใจด้วย  :L2:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ฝากน้ำมนต์ไปทุบไอ้พี่โป้แรงๆสักที
มาบอกขอโทษ คนอ่านเค้าก็ตกใจไปกับน้ำมนต์ด้วยนะเนี่ย เฮอะ โมโห

นึกว่าป๊ากับม๊าจะไม่ยอมรับเสียอีก  ป๊าคงทำใจยากนิดนึง
แต่ลองได้เห็นได้เอ็นดูขนาดนี้แล้ว จะเปลี่ยนยอมรับมันก็ไม่ยากหรอกเนอะ

น้ำมนต์น่ารกมากเลย เวลาคุยกับโป้
โฮ้ยยย แทนตัวเองว่าเรามันดู  ฮึ้งงงงงง  น่ารักๆๆ

ออฟไลน์ changnoy

  • i ❤ ChangnoY
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
    • FB
น้ำตาซึม

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
 :mc4: ดีใจกับน้ำมนต์และพี่ปีโป้ด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณป๊า คุณแม่ทำบีบหัวใจมาก ลุ้นจนตัวโก่ง
เกือบหวิวอีกทีตอนน้ำมนต์ถามว่าไม่เลิกไม่ได้เหรอ โอ๊ย อิชั้นจะร้องไห้ตาม

Chiren

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนแรกกะว่ามาม่าชัวร์ต้มมาม่า กำลังเดือดเลย ดีนะยังไม่ใส่ลงไป

ไม่งั้นมาม่าฉันหวานแน่ๆ (หวานเพราะป๊ากับโป้นะ)

อ่านตอนหลังแล้ว ซึ้งจัง ชอบที่ป๊าบอกว่า "นานๆทีกลับบ้าน นึกว่าไปติดสาวที่ไหน ที่แท้ก็ลูกไอ้ยศ หนีไม่พ้นมันจริงๆเลยกูเนี่ย”

 :กอด1:กอดคนเขียนแรงๆ 1ทีสำหรับตอนนี้

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
(อันหลังแถม)

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
เอ่อ..จะว่ายังไงดี..อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าถูกกระชากอารมณ์จากตอนที่แล้วมาก
อารมณ์ประมาณว่าเหมือนกำลังต้มมาม่า
พอน้ำเดือดหย่อนมาม่าลงหม้อปุ๊บแก๊สดันหมดก่อนเส้นจะนิ่มซะงั้น :serius2:
แต่ก็เอาเถอะ ดีใจที่ป๊ากับแม่โป้ยอมรับเรื่องน้ำมนต์นะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
น่ารักทุกคน  โดยเฉพาะป๊า 555 แอบเป็นแฟนคลับป๊า

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ลุ้นจนเหนื่อย นึกว่าจะแย่ซะแล้ว

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
เย้ เย ดีใจลงเอยกันด้วยดี

ป๊า แม่ คุณยาย เท่ห์มากเลยอ่ะ ในความเป็นจริงคงไม่ง่ายที่จะยอมรับได้ในสังคมประเทศไทย แต่เค้าก็ยอมรับเพราะความรักที่มีให้ปีโป้กับน้ำมนต์

ความรักนี่มันดีจริง ๆ (เพ้อมากเลยชั้น)

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ นึกว่าจะไม่สมหวังเสียแล้ว...

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
 :กอด1: :กอด1:

มีความสุขจังงงง 
แต่สงสารน้ำมนต์มากมายอะตอนแรก  เป่าปี่ไปหาช้างน้อยซะงั้น
ยายดีจังเลยเนอะ  ป๊าขาาา อ้อนลูกได้น่ารักมาก  55555555

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
 :เฮ้อ: นึกว่าจะได้กินมาม่าอีกชามซะแล้ว     

ความน่ารัก  ความอ่อนน้อมถ่อมตนของน้ำมนต์ จะทำให้ป๊ายอมรับได้เอง สู้ๆ o13  ชอบคุณยายของน้ำมนต์เป็นคนแก่ที่น่ารักมาก มิน่าหลานถึงน่ารักทำให้ใครๆ ก็หลงรักเนอะ






CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น่ารักกันทุกคนเลย :L2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้เป็นอะไรที่ :m11:ดีใจสุดๆ ดีใจไปกับปีโป้และน้ำมนต์จริงๆ
พร้อมกับชื่นชมผู้สูงวัยทั้งสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณยาย ที่มองโลกอย่างเป็นปัจจุบัน
พยามยามตามโลกได้ทัน รู้เท่าทันโลก ไม่ยึดติดกับสิ่งใดจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ใจเป็นทุกข์

ออฟไลน์ changnoy

  • i ❤ ChangnoY
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
    • FB
อ่านตอนนี้เป็นอะไรที่ :m11:ดีใจสุดๆ ดีใจไปกับปีโป้และน้ำมนต์จริงๆ
พร้อมกับชื่นชมผู้สูงวัยทั้งสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณยาย ที่มองโลกอย่างเป็นปัจจุบัน
พยามยามตามโลกได้ทัน รู้เท่าทันโลก ไม่ยึดติดกับสิ่งใดจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ใจเป็นทุกข์


เพิ่งผ่านการนั่งสมาธิวิปัสนามาใช่มั้ยเนี้ย 555

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ท่าทีพ่อกับแม่นายปีโป้ตอนแรก นึกหนูน้ำมนต์ของชั้นจะแย่ซะแล้ว

เข้าใจกันดีแบบนี้ค่อยโล่งอก   :เฮ้อ:


silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนแรกๆเศร้าแทนน้ำมนต์เลย  :monkeysad:
แต่ในที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยดี  :mc4:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เย้ ในที่สุดปัญหาก็ลงตัว โล่งงง

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

lungkhao

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่ 37 ที่รัก เธอคือดวงใจของฉัน



ในวันหนึ่งๆ ของใครแต่ละคนคงมีเรื่องราววุ่นวายมากมาย ที่เข้ามาและหายไป บางอย่างทิ้งไว้แค่ร่องรอยแห่งความทรงจำ บางอย่างก็ยังเหลือคราบไม่เคยขาดหาย บางอย่างก็รอวันเพิ่มขึ้นๆ อย่างไม่มีท่าทีจะลดละ ..

แต่ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เกิดไปแล้ว .. และสิ่งที่ยังไม่เกิด  ถ้าไม่สนใจและปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น และเราอยากให้เป็นคงจะดีกว่า


“รอนานมั้ย” ผมถามมันเมื่อรับมันขึ้นรถมาจากจุดนัดพบ วันนี้ผมชวนน้ำมนต์ไปเที่ยวบ้านผมครับ ผมเลยเข้ามารับมันในเมือง

“ไม่นานหรอก มาคนเดียวเหรอ”  มันถามผม เมื่อขึ้นนั่งได้เรียบร้อยแล้ว

“มากับแม่ แต่แม่อยู่ห้าง กำลังซื้อของ บ่นว่าอยากจัดปาร์ตี้”ผมบอกขณะกำลังออกรถมุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้า ที่เพิ่งจะไปส่งแม่เลือกซื้อของมา

“จัดปาร์ตี้เหรอ เนื่องในโอกาสอะไรอ่ะ” มันถามทำหน้าจิ้มลิ้มสงสัย ผมมองแล้วอยากจับจูบซะตอนนี้

“ไม่รู้ ต้อนรับลูกสะใภ้มั้ง” ผมตอบมันไป

“ไอ้บ้า ..” มันพูดมาพร้อมเขินๆ ผมเคยบอกหรือยังนะ ว่าเวลามันเขินนี่ มันน่ารักที่สุดในโลกเลย ถ้าเคยบอกแล้วก็ขอบอกอีก และจะบอกแบบนี้ไปตลอด

“เอามือมาหน่อย” ผมบอกมัน

“ทำไมอีกละ” อีกคนถามแบบไม่พอใจ แต่ก็ส่งมือมาให้

“ขอจับหน่อย” ผมพูดแล้วก็จับมือมันไว้

“เอ๊ย ไม่เอา อันตราย ขับรถไปเลย” มันพูดพร้อมกับดึงกลับ ผมเอามือของตัวเองข้างที่จับมือมันเมื่อกี้ยกขึ้นมาดมเบาๆ

“หอมจังเลย” พูดแล้วหันไปยิ้มให้มัน

“โรคจิตขึ้นทุกวันแล้วนะ” ดูครับ ดูมันดุผม

“กูจะบ้าขึ้นทุกวันก็เพราะมึงนี่แหละ”

“แหนะ โทษเราอีก”

“ก็มึงน่ารักอ่ะ” ไม่รู้จะเถียงอะไรมันแล้วครับ มันน่ารักไม่หยุดเลย

“พอเลย รีบขับๆไป เดี๋ยวแม่นายรอนะ” มันบอกผมครับ

“เบื่อมั้ย” ผมชวนคุยเรื่องอื่น

“เบื่ออะไร ?”

“เบื่อที่ต้องมาอยู่กับกู ไปนอนบ้านกู มีแฟนแบบกู”

“จะเบื่อทำไมละ หรือว่านายเบื่อ” มันไม่เคยมีเหตุผลอะไรเลย ผมเชื่อแล้ว

“กูไม่เบื่อ แค่มึงอยู่ด้วย ไม่ว่าทำอะไรกูก็ไม่เบื่อ ให้แค่นั่งมองมึงทั้งวันกูยังนั่งมองได้เลย มึงเชื่อกูป่ะล่ะ” ผมพูดไป คิดภาพตามไป และคิดว่ายังไง ผมก็ไม่เบื่อมันง่ายๆ เหมือนคนอื่นๆแน่ๆ เพราะมันมีอะไรให้ผมได้ค้นหาอยู่ตลอดเวลา

“ให้จริงอย่างที่พูดเหอะ .. แต่ว่าเราชักจะเบื่อนายแล้วอ่ะ” มันพูดมาพร้อมกับยิ้มๆที่มุมปาก ถึงรู้ว่าพูดเล่นก็เหอะ แต่ฟังแล้วใจแป้วใช่ย่อย

“มึงอย่ามาพูดแบบนี้นะ กูยิ่งใจไม่ค่อยดีอยู่” ผมละเบื่อมันจริงๆ ชอบมาล้อเล่นให้ใจเสีย

“รีบขับไปเลย อยากเจอแม่แล้ว เบื่อนายจริงๆแล้วมั้งเนี่ย” ดูมันครับ ยังพูดไม่หยุด



เมื่อเราสองคนมาถึงห้าง ผมก็โทรถามแม่ ว่าแม่อยู่แถวไหน ก็ได้คำตอบว่ากำลังรอจ่ายตังค์อยู่ ผมกับมันเลยเดินเข้าไปหา ก็พบว่าแม่จ่ายตังค์เสร็จพอดี


“สวัสดีครับคุณป้า” น้ำมนต์ทักแม่ผมครับ พร้อมยกมือสวัสดี

“ป้าเป้ออะไรกันหนูน้ำมนต์  เรียกแม่สิลูก” แม่ผมตอบมาพร้อมรอยยิ้ม เล่นเอาผมยิ้มตามไปด้วยกับประโยคนั้น

“อ่าครับแม่” น้ำมนต์พูดออกไปแบบเขินๆ

“อุ๊ยดูสิหนูน้ำมนต์เขิน ตาหนูดู” แม่ดีใจใหญ่ที่เห็นมันเขิน

“เห็นแล้วครับแม่”

“ต๊าย ตาย ถ้าเขินแล้วน่ารักแบบนี้ แม่ล่ะอยากจับหยิกแก้ม” แม่ผมพูดพร้อมกับทำท่าจะเอามือหยิกแก้มน้ำมนต์

“อย่าดิแม่ เดี๋ยวแก้มช้ำหมด” ผมดึงน้ำมนต์เข้ามาหาผม

“แหม ตาหนู หวงจังเลยนะ ใช่ซี้ .. แม่มันไม่จิ้มลิ้มแบบนี้แล้วนิ” ดูครับดู เดี๋ยวนี้ชอบงอนผมทั้งแม่ทั้งป๊าเลย ..

“ไม่หรอกครับ น้ำมนต์ว่ายังไงแม่ก็ยังสวย ยังน่ารัก” ดูมันยอแม่ผมครับ

“จริงเหรอหนูน้ำมนต์ แม่ว่าแม่แก่แล้วนะ ดูสิตีนกาแม่” แม่พูดพร้อมกับยื่นหน้าไปหาน้ำมนต์

“นิดเดียวเองครับ ยังดูสาวอยู่เลย”

“พอเถอะครับหนูว่า กลับบ้านกันดีกว่า ยอกันไปยอกันมา ไม่ได้จัดปาร์ตี้กันพอดี” ผมบอกแม่ครับ

“แหมตาหนูนี่ ขัดจังหวะจริงๆเลย ไปกันเถอะหนูน้ำมนต์ ไปคุยกับแม่บนรถกัน แม่ไม่ค่อยได้คุยกับเราเลย คราวที่แล้วไปบ้านแม่ แม่ก็ไม่ค่อยว่างคุยด้วย เดี๋ยวนั่งหลังคุยกับแม่ไปนะ ปล่อยตาหนูเป็นคนขับรถไป วันนี้เราเป็นเจ้านายกันสองคน”


แม่ผมพูดร่ายยาว และยังไม่จบแค่นั้น ตลอดการเดินทางจากห้างในเมือง ถึงบ้านของผม แม่ชวนน้ำมนต์คุยมาตลอดทาง โดยทิ้งให้ผมขับรถเหงาๆ อยู่ข้างหน้าแค่คนเดียว อย่างที่แม่บอก ว่าวันนี้ผมเป็นแค่คนขับรถ คุณหนูกับคุณผู้หญิงเค้าอยากจะคุยกันตามประสา ผมไอ้แต่มองกระจกหลัง นั่งมองหน้าไอ้น้ำมนต์ตาปริบๆ ทำสายตาออดอ้อนให้มันสงสาร แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันกลับแลบลิ้น แล้วไม่สนใจผมไปเลย


เรื่องที่คุยกันก็เรื่องทั่วๆไปนั่นแหละครับ และเหมือนแม่ผมจะรู้ว่าน้ำมนต์อยากจะรู้เรื่องแม่ของเค้า แม่ก็เล่าให้ฟังเรื่อยๆ ทำเอาน้ำมนต์เลิกสนใจผมไปเลย .. รายนี้นะครับ อย่าให้ป๊ากับแม่ผมพูดเรื่องพ่อแม่เค้า เพราะว่ามันจะไม่สนใจอะไรอีกเลย



“ตาหนู ไปเรียกคนมาช่วยยกนะ แม่ไปนั่งคุยกับหนูน้ำมนต์ที่โถงก่อน” แม่ผมพูดพร้อมกับลากมันไปด้วย มันมองมายิ้มให้ผมเล็กน้อย  นี่ผมคิดผิดคิดถูกเนี่ย ที่พามันมานอนบ้าน เหมือนมันจะไม่ได้อยู่กับผมเลย

“มาคะ คุณหนู ป้าช่วย” เสียงป้าแดงครับ พูดพร้อมกับช่วยยกข้าวของที่แม่ผมซื้อมา

“คุณหนูน้ำมนต์มาเหรอคะ ป้าเห็นหลังแว๊บๆ” ป้าแดงถามผม

“ใช่ครับป้า เดี๋ยวป้าไปตามเด็กมาช่วยยกนะครับ ผมไปเอาคนรักผมคืนก่อน” ผมพูดเสร็จก็เอาของในมือไปไว้ในครัว ก่อนจะเดินเข้ามาหาแม่ที่โถง




ไม่มี !!!



แม่พาน้ำมนต์ไปไหนละเนี่ย ??



“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงผมเคาะประตูห้องแม่ครับ

“แม่ ... “

“มีไรตาหนู” แม่ตะโกนออกมา

“ทำไรอยู่ ... เอาน้ำมนต์คืนมา” 

“เดี๋ยวสิ แม่กำลังคุยกับน้ำมนต์เพลินเลย เข้ามาก่อนมา” สิ้นเสียงแม่ ผมเปิดประตูห้องแม่เข้าไป ก็เห็นสองคนกำลังนั่งดูอัลบั้มรูปถ่ายแม่ในอดีต และในรูปพวกนั้นคงมีรูปแม่ของน้ำมนต์อยู่ด้วย  น้ำมนต์มองแต่ละรูปอย่างช้าๆ มันยิ้มให้กับทุกรูปที่มันดู มือมันค่อยๆลูบไปบนใบหน้านั้นเบาๆ



“ขนของลงหมดแล้วเหรอ” แม่ถามผม

“น่าจะหมดแล้วครับ หนูใช้เด็กช่วยขนละ” ผมตอบแม่

“โอเค งั้นเดี๋ยวแม่เข้าครัวก่อนนะ หนูน้ำมนต์ เดี๋ยวดูเสร็จตามไปเป็นลูกมือแม่นะจ๊ะ” แม่พูดกับผม ก่อนจะหันไปคุยกับน้ำมนต์

“ได้ครับ” มันตอบแม่ผม พร้อมยิ้มให้ ก่อนที่แม่จะเดินออกจากห้องไป

“หึหึ น้อยใจแล้วนะ” ผมพูดพร้อมกับเดินไปนั่งช้อนหลังมัน โอบเอวมันเล็กน้อย เอาคางตัวเองวางบนบ่ามัน

“น้อยใจอะไร” มันถามเบาๆ แต่สายตายังคงจ้องมองรูปถ่ายในอัลบั้มอย่างช้าๆ

“ก็ไม่สนใจกูเลย”

“ใครบอกละ”

“ก็กูเห็น”

“แล้วยังไงถึงเรียกว่าสนใจละ” มันพูดพร้อมกับหันหน้ามามองผม หน้าของเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ มันยิ้มให้ผมอย่างกวนๆ

“แบบนี้ไง” ผมรีบผลักมันลงนอนบนเตียง แล้วก็จูบปากมัน หอมไปทั่วแก้ม

“นี่ !! นาย หยุด .. นี่มันห้องแม่นายนะ” มันผลักผมออก และพูดให้ผมฉุกคิด จึงลุกขึ้นนั่ง

“งั้นไปห้องกู” ผมจับมือมันเพื่อจะลากมันไปที่ห้องผม ซึ่งในบ้านใหญ่ บ้านผมอยู่ห้องถัดจากห้องป๊ากับแม่ไม่กี่ก้าว

“ไม่เอา ....” มันร้องบอกเสียงยาว

“จะเอา ....” ผมก็บอกเสียงยาวเหมือนกัน

“ไอ้บ้า หลีกไปเลย” มันด่าผม พร้อมกับผลักผมล้มลงบนเตียง ส่วนมันก็รีบจ้ำอ้าวออกจากห้องไปอย่างไว



ปล่อยมันไปก่อนครับตอนนี้ .. อย่าให้ถึงกลางคืนนะ .. เสร็จกูแน่ !!!






ผมออกมาจากห้องแม่ก็เดินผ่านครัวเล็กน้อยครับ เห็นน้ำมนต์กำลังเป็นลูกมือช่วยแม่เตรียมอาหารอยู่เลย เห็นแล้วผมก็ยิ้มครับ มันกับแม่ผมเข้ากันได้ดีกว่าที่ผมคิด น้ำมนต์มันเป็นคนน่ารักครับ อยู่ใกล้ใคร ใครก็หลงมัน เพียงแต่มันไม่ค่อยเปิดใจมากกว่า ไม่ค่อยอยากรู้จัก ไม่ค่อยอยากสนิทกับใคร


แต่พอมันมาคบกับผม ผมก็คิดว่ามันเข้าหาคนเก่งขึ้น ไม่อยากคิดว่าเป็นเพราะผมที่พามันพบเจอคนอื่น แต่ผมอาจแค่ช่วยให้มันออกมาจากกำแพงของมันเฉยๆ ส่วนที่เหลือ เพราะมันล้วนๆครับ


มันหันมาเจอผม ผมยิ้มให้มันไป แต่มันกลับเชิดหน้าใส่ผม คงยังไม่หายงอน ที่ผมจะปล้ำมันเมื่อกี้ .. ผมขำกับท่าทางของมัน ก่อนที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น มาดูคนงานที่จัดโต๊ะที่สนามหญ้า ไม่รู้ว่าแม่ชวนใครมาบ้าง แต่คงจะเป็นเพื่อนๆแม่กับป๊า เพื่อนผมคงมีไอ้เอ็มที่ผมโทรไปบอกตั้งแต่เที่ยงแล้ว


งานในสวนโอเค ผมเลยออกจากบ้านไปหาป๊าที่สะพานปลา ไปหาแกหน่อยครับ เดี๋ยวหาว่าผมตัวติดน้ำมนต์ แล้วไม่สนใจแก ช่วงนี้แกยิ่งน้อยใจอยู่


“ไงป๊า เหนื่อยเปล่า” ผมพูดพร้อมกับยืนขวดน้ำที่หยิบลงมาจากในรถส่งให้ป๊า

“เหนื่อยครับลูกชาย วันนี้ป๊ามันไม่มีตัวช่วย” ป๊าพูดพร้อมกับรับขวดน้ำ ก่อนเปิดฝาซดเข้าคอ

“แหนะ น้อยใจอีกแล้ว เดี๋ยวนี้น้อยใจบ่อยนะป๊าเนี่ย” ผมแกล้งแซวแกเล่น มองดูคนงานยกของ เตรียมของลงเรือ

“น้อยใจอะไร ป๊ากลัวแค่ลูกไม่รักเท่านั้นแหละ” ดูแกครับ ดูแก

“นั่นแหละ เค้าเรียกว่าน้อยใจป๊า” ผมบอกป๊าไป พร้อมกับขำๆ ป๊ายิ้มให้ผมก่อนจะถามผมต่อ

“แล้วไหนละ เมียมึง”

“ป๊าพูดไรแบบนั้น มันเสียหายหมด”

“แล้วไมต้องเขิน” ดูครับ เดี๋ยวนี้ย้อนเก่ง

“เขินอะไร แฟนครับป๊า ไม่ใช่เมีย ป๊าไปเรียกแบบนี้ต่อหน้ามันนะ มันคงโกรธตายเลย”

“ป๊ารู้หน่า อย่ามาสอน อยู่กับแก ป๊าก็อยากพูดแบบแมนๆไง” ขำกับท่าทางของป๊าครับ

“อยู่บ้านครับ ช่วยแม่เตรียมกับข้าว”

“วะ แม่ศรีเรือนซะด้วย”

“อย่าประชดสิป๊า” ผมละไม่เข้าใจอารมณ์วัยทองของแกจริงๆ

“เออ ป๊าผิดอีกแล้ว แตะต้องไม่ได้เลยนะ” น่าน งอนใหญ่แล้ว

“ฮ่าๆๆ ป๊านี่นะ ตลกใหญ่แล้ว ไม่คุยกับป๊าแล้ว ไปรอที่รถดีกว่า” ผมบอกพร้อมกับจะเดินหนี

“ที่ให้เรียกแฟน ก็เพราะยังไม่ได้เค้าอ่าดิ๊ ไม่ไหวเลยลูกป๊า” 

“ป๊า !!” ผมหันควับมองป๊าตาขวาง มาดูถูกผมแบบนี้ได้ไง .. แถมยังดูถูกมากๆซะอีก

“อย่ามาทำโมโห ป๊ารู้ทันอ่ะดิ ไม่ไหวๆ แม่แกนะป๊าได้ตั้งแต่เป็นแฟนวันแรกโน่น” ดูครับที่โม้ เชื่อตายละ

“ไม่คุยกับป๊าแล้ว รีบเคลียร์งาน จะได้กลับบ้าน” ผมหันหลังบอกป๊าแล้วเดินมารอป๊าที่รถ





ป๊าเคลียร์งานอีกเล็กน้อยครับ ก่อนจะเดินกลับมาที่รถ ตอนมาป๊าขับอีกคันมาครับ แต่ป๊าบอกว่าจอดไว้นี่แล้วกัน อยากกลับกับผม ผมอุตส่าห์หนีเมียมารับทั้งที ผมไม่อยากจะอะไรกับแกมากครับ เดี๋ยวมันจะยาวกว่าเดิม เลยรีบพาแกกลับบ้านมาอาบน้ำอาบท่า เพราะว่าไม่นานอาหารคงเสร็จ



พอผมมาถึงบ้านในสนามหญ้าก็จัดวางเรียบร้อยแล้ว ป๊าแยกไปอาบน้ำ ผมเดินเข้าไปหาน้ำมนต์ในครัว ตอนนี้มันน้ำมนต์กำลังอยู่หน้าเตาครับ มือกำลังคนอะไรอยู่ไม่รู้ หน้าวุ่นเชียว  ผมว่าผมอย่าเข้าไปกวนดีกว่า ยืนมองมันแบบนี้ดีกว่า ไม่ว่าตอนไหนมันก็น่ารักจริงๆครับ ตอนนี้มันรวบผมไว้อย่างหยาบๆไว้บนหัว ตัวมีผ้ากันเปื้อนสีหวานของป้าแดงแขวนคออยู่ มือก็คนอะไรในหม้ออย่างตั้งใจ  ผมบอกแล้วไงครับ ว่าคนๆนี้ผมไม่มีวันเบื่อหรอก



“มองอะไรตาหนู” 

“แม่ ตกใจหมด เบาๆสิ” แม่ครับ เดินมาจากทางหลังผม คงกลับมาจากไปคุยกับป๊า

“แหม ทำเป็นขวัญอ่อน ทำไมไม่เข้าไปละ”

“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากไปกวนมัน”

“เหรอยะ แหม ทำตัวน่ารักนะเนี่ย”

“ไม่เอาละ ไม่คุยละ ไปอาบน้ำดีกว่า” ผมเลี่ยงจะคุยกับแม่ครับ เพราะยังไงซะ ช่วงนี้ผมพูดอะไรก็เป็นที่น่าจับผิดไปหมด ไม่ได้น้อยใจนะครับ แต่มันเขิน



ผมกลับมาอาบน้ำที่กระท่อมครับ เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน พอออกมาก็เจอน้ำมนต์นั่งรออยู่ที่โซฟาแล้วครับ

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถาม

“แป๊บนึงได้แล้ว” มันบอก

“ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวได้ไปกินข้าวกัน” ผมบอกมัน มือก็ยังเช็ดหัวกับผ้าขนหนูผืนเล็ก

“ต้องไปกินที่สนามหญ้านั้นเหรอ” มันถามมาทำหน้าทำตาสงสัย

“อืมใช่  มีอะไรเหรอ”

“เปล่า”

“มีไรบอกกูสิ เหมือนมึงมีอะไรไม่สบายใจ” ผมว่ามันต้องมีอะไรในใจแน่ๆ ผมเลยลงไปนั่งข้างๆถามมัน

“ก็เราไม่รู้จักใคร ตอนเราเดินมาเห็นใครก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด” มันตอบผมมา

“อ๋อ เรื่องแค่นี้เอง อย่าไปสนใจไรเลย เพื่อนป๊ากับเพื่อนแม่น่ะ เดี๋ยวไอ้เอ็มมา มึงก็นั่งกับกูกับไอ้เอ็มแล้วกัน”  ผมบอกมัน พร้อมกับเอามือลูบหัวมันเบาๆ

“อืม” มันพยักหน้าเหมือนเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป



ใจจริงผมก็ไม่ค่อยชินนักหรอกครับ กับการกินข้าวเย็นแล้วก็มีคนอื่นมากินด้วยเยอะแยะมากมาย ทั้งที่ผมรู้จัก และไม่รู้จัก และก็ต้องรู้จัก บางคนผมก็สนิท ส่วนมากก็เพื่อนๆของป๊า และแม่ทั้งนั้นครับ ไม่ได้ไฮโซโก้หรูอะไรกันหรอกครับ แค่แม่กับป๊าชอบชวนพวกเขามาทานข้าวเย็นที่บ้าน มาคุย มาแลกเปลี่ยนเรื่องการค้าขายกัน ป๊าบอกว่า ถ้าเราซื้อใจเค้าได้ ต่อไปเราจะทำอะไรก็ง่าย แสดงความเป็นมิตร ก็จะได้มิตรกลับมา ผมไม่เข้าใจที่ป๊าบอกมากนัก แต่ก็คงประมาณ อยากได้ใจเขา เราก็ต้องชวนเขามากิน .. แบบนี้ล่ะมั้ง


ถามว่าผมชอบไหม ก็ไม่ค่อยชอบหรอกครับ และผมก็ไม่ค่อยได้มากินบ่อยนัก ปีหนึ่งสองสามครั้ง ทั้งที่ป๊ากับแม่จัดเกือบทุกเดือน เพราะผมอยู่หอบ้าง ไม่อยากลงมากินบ้าง ถ้ากลับบ้านมาเจอวันเลี้ยงก็จะเลี่ยง แล้วก็มาอยู่ในกระท่อมครับ แต่หลังจากนี้คงยากแล้ว ป๊าจะให้ผมรู้จักทุกคนไว้ให้หมด ผมก็ต้องเอาใจป๊าครับ เพราะอยากให้ป๊าเข้าใจผมเหมือนกัน





“มารอนานยัง”  ผมตบบ่าทักไอ้เอ็มที่มันนั่งรอผมอยู่อยู่ที่โต๊ะในสวน ที่แยกห่างมาจากโต๊ะของแม่กับป๊าเล็กน้อย

“เออ กูเพิ่งมา แล้วน้ำมนต์ละ” มันตอบผม ก่อนจะถามถึงน้ำมนต์

“แต่งตัว เดี๋ยวตามมา” ผมตอบพร้อมกับนั่งลงข้างๆมัน

“มึงพาน้ำมนต์มาเปิดตัวกับพ่อแม่มึงแล้วเหรอ” ไอ้เอ็มถามอย่างสงสัย

“เออ” ผมตอบมัน ตาก็มองดูบรรดาเพื่อนป๊ากับแม่ที่มากันวันนี้ หน้าเดิมๆทั้งนั้น

“แล้วพ่อแม่มึงเค้าไม่อะไรเลยเหรอ”

“มึงจะให้อะไรละ”

“คือเค้าโอเค แฮปปี้ ชอบใจเลยว่างั้น”

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เรื่องมันยาววะ ว่างๆจะเล่าให้ฟัง”

“แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนี่”

“แต่กูไม่ค่อยมีอารมณ์เล่า เอาเป็นว่าแม่ชอบ ป๊าเฉยๆกำลังทำใจ แค่นี้มึงโอเคยัง”

“ก็ดี ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย เดี๋ยวกูมานะ” มันพูดพร้อมกับเดินแยกไป คงจะไปโทรหาหญิง และที่ถามก็คงถูกหญิงให้มาสืบ ..



“รอนานมั๊ย” น้ำมนต์เดินเข้ามาถามผท คำถามคุ้นๆ เหมือนผมเพิ่งจะถามไอ้เอ็มไปเมื่อกี้

“นาน” ผมบอกมัน

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่อยากห่างกันแม้แต่วินาทีเดียว” ผมพูดพร้อมกับดึงมือมันลงมานั่งข้างๆผม พร้อมกับจับมือมันไว้

“อย่าเว่อร์ให้มากได้ป่ะ” มันดุผมครับ

“แฟนคนอื่นกูอ้อนเยอะกว่านี้อีก” ผมบอกมัน

“แล้วไง อ้อนแล้วก็ได้เลยดิ” มันถามกลับอย่างกับรู้ดี

“อืม หลายยกด้วย”  ผมก็ตอบไปอย่างชอบใจ

“เมื่อไหร่จะหายหื่นนี่” มันตอบพร้อมกับออกแรงดึงมือออก แต่ผมไม่ปล่อยให้หลุดหรอก

“เมื่อได้มึงแล้ว” ผมตอบไปหน้านิ่ง จริงจังใส่มัน

“พวกมึงสองคนไปเอากันก่อนแล้วค่อยมากินข้าวดีมั๊ย” เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นมาขัด

“พี่เอ็มมม สวัสดีครับ พี่เอ็มดูดิ หื่นตลอดอ่ะ น้ำมนต์กลัวแล้วเนี่ย” น้ำมนต์หันไปฟ้องไอ้เอ็มซะงั้น

“งั้นมานี่ครับ มานั่งข้างพี่มา ไอ้นี่มันไว้ใจไม่ได้ครับ พี่ว่าคืนนี้ไปนอนบ้านพี่ดีกว่า”

“เอ๊ย ไอ้เอ็ม มึงอยากตายหรือไงวะ” ผมเริ่มโวยวาย

“ดูดิ เถื่อนอีกแล้ว” น้ำมนต์ด่าผมอีก

“เออ กูจะอยู่นิ่งๆแล้ว จำไว้ๆ” น้อยใจครับ เดินไปหาป๊ากับแม่ดีกว่า



ผมเดินมาแบบงอนๆ หันหลังไปเห็นไอ้เอ็มขำผมใหญ่ ส่วนน้ำมนต์ก็ยังดูยิ้มๆ ชอบใจกันมากสินะ ได้แกล้งนายหัวโป้นี่


“อ้าว ตาหนู มานี่มา” แม่กวักมือเรียกผมพอดี ผมเดินเข้าไปหาแม่ พร้อมกับยกมือไหว้เพื่อนๆของแม่รายคน

“โตแล้วหล่อไม่ทิ้งเชื้อพ่อเลยนะคะนี่” คำพูดทั่วไป ที่ผู้ใหญ่มักจะชมลูกของคนที่มาเยี่ยมสินะ ผมเห็นเขาไปบ้านไหน ก็พูดแบบนี้ตลอด แต่ผมก็ยิ้มให้เล็กน้อย

“โป้ ไปเรียกน้องมาด้วยสิ ป๊าอยากแนะนำให้เพื่อนป๊ารู้จักน้องเราหน่อย” ป๊าบอกผม

“น้อง ?” ผมถามไปหน้างง

“หนูน้ำมนต์ไง” ป๊าบอกผม

“อ๋อครับ ได้ครับ” ผมเข้าใจว่าป๊าต้องการแนะนำน้ำมนต์ให้เพื่อนๆป๊ารู้จัก เลยเดินเข้าไปเรียกน้ำมนต์มาที่โต๊ะ



“นี่ครับทุกคน น้องชายตาโป้มัน เป็นลูกชายเพื่อนรักผมเองครับ เพื่อนรักคุณหญิงเขาเด้วย ชื่อหนูน้ำมนต์” มาถึงป๊าก็แนะนำน้ำมนต์กับเพื่อนๆของป๊า

“สวัสดีครับ” น้ำมนต์ยกมือไหว้ทุกคน

“ตายแล้ว น่ารักจังเลยนะคะ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชาย ชั้นคิดว่าผู้หญิงนะเนี่ย ผมสวยมากหนู” เพื่อนแม่คนหนึ่งทักขึ้น

“น่ารักใช่มั้ยละคะ ต่อไปคงได้เห็นหน้ากันบ่อยๆ เพราะจะมาอยู่เป็นเพื่อนตาหนูโป้มัน ชั้นชอบมากเลย นี่อาหารที่เราทานๆ หนูน้ำมนต์เค้าช่วยทำนะคะเนี่ย ยายเค้าทำอาหารเก่ง เรียนมาจากยายค่ะ” แม่ผมช่วยโปรโมตน้ำมนต์ยกใหญ่

“ถ่ายรูปเก่งด้วยนะครับ วาดรูปก็สวย เดี๋ยวว่างๆให้ลองโชว์ฝีมือดูได้นะครับ” คราวนี้เป็นป๊าผมพูดบ้าง

“โห ลูกชายคุณคนนี้เก่งจริงๆนะครับเนี่ย ชักอยากได้ไปเป็นลูกเขยแล้วสิ มีแฟนหรือยัง หนูน้ำมนต์” เพื่อนป๊าถามขึ้นบ้าง

“เอ่อ ...”

“มีแล้วครับ” ผมตอบแทนไป

“แหม หวงน้องจังเลยนะตาโป้ กลัวน้องขายออกก่อนหรือไง” เพื่อนแม่คนหนึ่งแซวผม

“ไมได้หรอกค่ะ คนนี้ชั้นหวง และห่วง”

“งั้นชั้นขอตาโป้แทน”

“อ๋อ ถ้าคนนี้ได้คะ”

“อ้าว แม่ ไหงงั้นละ” เอาแล้วไงครับ เริ่มหลงไอ้น้ำมนต์เข้าแล้วสิ คราวนี้ผมหมาหัวเน่าแน่



บรรยากาศการกินข้าวเย็นวันนั้นผ่านไปด้วยความสนุกครับ ทุกคนหลงน้ำมนต์กันหัวปักหัวปำ มันทำอะไรก็ดูดีไปหมด แค่นั่งนิ่งๆยังน่ารักเลย มีแต่คนขอเบอร์มันเพื่อจะเอาไปให้ลูกสาวเค้า ขอธรรมดาไม่เป็นไรหรอก แต่มันเสือกให้อีก จนผมต้องเอาเบอร์ผมไปให้แทน บอกว่าเบอร์น้ำมนต์มันไม่ค่อยได้ถือ หลายคนสงสัยว่าทำไมผมหวงจัง แต่พอเจอแม่หวง พ่อหวงเข้าบ้าง เลยพาลกันเข้าใจว่าพวกเราหวงน้ำมนต์กันทั้งบ้าน  ประมาณเห่อน้องชาย เห่อลูกชายคนใหม่



“ไงบ้างตาหนู ข้างนอกเก็บหมดยัง” ป๊าเดินมาคุยกับผม หลังจากบอกให้ผมคุมคนเก็บของให้หมด ส่วนแม่เข้าไปพักผ่อน โดยลากน้ำมนต์ไปคุยเล่นด้วย

“หมดแล้วป๊า ทำไมป๊ายังไม่นอนอีกครับ” ผมถามป๊า เห็นว่าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

“อีกแป๊บนึง ปล่อยแม่เค้าคุยกับลูกชายคนใหม่เค้าก่อน” ป๊าบอกพร้อมกับชายตาไปยังห้องของแม่

“แม่หลงน้ำมนต์ใหญ่ล่ะ ผมต้องรีบไปเอาคืน ไม่งั้นคืนนี้แม่จับนอนกับแม่แน่” ผมบอกป๊าไป

“ฮ่าๆๆ หวงจริงหวงจังเว๊ยคนนี้” พ่อแซวผม ก่อนจะเดินนำไปนั่งที่โซฟา และผมเดินไปนั่งตาม

“ผมรักมันจริงๆนะป๊า” ผมบอกป๊าไปอย่างจริงจัง

“เออ ป๊ารู้” ป๊าตอบมายิ้มๆ มือหยิบรีโมทมาเปิดทีวี พอให้มีเสียงอื่นๆดังบ้าง

“ขอบคุณมากนะป๊า สำหรับวันนี้” ผมบอกป๊า ก่อนจะยิ้มให้

“ขอบคุณเรื่องไรวะ” ป๊าถามหน้านิ่ง มือก็กดเปลี่ยนช่องหาข่าวไปเรื่อย

“ก็ที่ป๊าพาน้ำมนต์ไปรู้จักเพื่อนป๊าไง ป๊าทำให้ผมรู้ว่าป๊าอยากให้น้ำมนต์มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเรา ถึงจะให้คนนอกมองว่ามันเป็นน้องชายผมก็ตาม” ผมสรุปความเข้าใจของผมจากสิ่งที่เห็นในวันนี้

“คิดขนาดนั้นเชียว ป๊ายังไม่ได้ทำไรเลย” ปากแข็งอีกแล้วป๊าผม

“ถึงยังไงก็เถอะ ผมก็รู้ว่าป๊ารักผม และป๊าก็รักมันด้วย”

“แล้วแต่ตาหนูจะคิดแล้วกัน ยังไงซะมาถึงขนาดนนี้แล้ว ก็อย่าทิ้งกันละ ป๊าไม่อยากตอบคำถามใครว่าลูกชายอีกคนไปไหน” ป๊าบอกก่อนจะกดรีโมทปุ่มสีแดง เพื่อปิดทีวี ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา

“หนูรักป๊านะ” ผมพูดบอกป๊า

“ป๊าก็รักหนู ถ้าหนูมีความสุข ป๊าก็มีความสุข ถ้าไอ้ยศมันรู้ว่าป๊าได้ดูแลลูกมัน มันคงดีใจ” ป๊าหันกลับมาคุยกับผม

“ขอบคุณนะป๊า”

“ป๊าก็ขอบใจตาหนูเหมือนกัน ที่พาน้ำมนต์มา ให้ป๊าได้ตอบแทนไอ้ยศมันอีกครั้ง” ป๊าพูดก่อนจะหันกลับเดินเข้าห้องไป




คำพูดที่ว่าถ้าลูกมีความสุข พ่อกับแม่ก็มีความสุข เป็นคำพูดของผู้ที่เสียสละที่สุดในโลก ไม่มีใครที่จะเสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้คนอื่นได้มีความสุข ได้เท่ากับพ่อแม่ของเราอีกแล้ว .. ใครที่บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรักก็เชื่อไม่ได้เท่ากับที่พ่อแม่บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อลูก .. ผมไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนกัน ที่มีป๊า มีแม่ที่เข้าใจผมแบบนี้ ..





และไม่รู้ว่าผมโชคดีที่ไหนกัน .. ที่ได้พบและได้เจอน้ำมนต์ในวันนี้




yayee2

  • บุคคลทั่วไป
วุ้ยย..มีความสุขไปกับนายหัวโป้จัง :pig3:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
 :L2:  อ่านแล้วมีความสุข

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด