โชคครั้งที่ • 1.2 •••• 100% •••
เสียงหัวเราะของเพื่อนในกลุ่มผมดังทันทีที่ผมหมดแรงทรุดลงนั่งกับพื้น มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจทันที ผมกลัวว่าไอ้สิ่งที่กำลังเต้นตึกตักๆ อยู่ในอกผมมันจะหลุดออกมา
“เจอ ‘ฝน’ เข้าไปทีเดียว เพื่อนกูทรุดเลยว่ะ” ไอ้ไม้คนแรกที่ส่งเสียงแซวสนุกปาก ก่อนจะตามด้วยคนอื่น แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะสิ่งที่ผมสนใจคือคนที่เพิ่งเดินหายไปเมื่อกี้ต่างหาก
“เอาๆ พ่อเดือนนิเทศลุกครับลุก อย่ามาทรุดแถวนี้” ไอ้เป้พูดก่อนที่มันแล้วก็ไอ้เกลียวจะช่วยกันฉุดผมขึ้น
ผมเดินตามแรงดึงของเพื่อนๆ ไปจนถึงโรงอาหาร จนนั่งลงที่โต๊ะ จนพวกมันเดินไปซื้อข้าวซื้อน้ำกลับมา มันซื้อมาให้ผมด้วยเพราะคงรู้ว่าตอนนี้ผมไม่มีเรี่ยวมีแรงจะลุกเดินไปไหน
หัวใจแม่งล่องลอยไปตาม ‘ฝน’“น้องกายไม่หิวข้าวเหรอ ให้พี่ป้อนข้าวให้ไหมจ๊ะ” เสียงใครไม่รู้ดังอยู่ข้างผม แต่ผมไม่ได้สนใจจะหันไปมองนอกจากพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้าง
ผมเห็นแต่หน้าของเขาตอนยิ้มกว้างลอยไปลอยมาเต็มไปหมด หันไปทางซ้ายก็เจอ หันไปทางขวาก็เจอ
แต่แอบเห็นว่าเพื่อนๆ ผมมันทำหน้าสยดสยอง
อะไรวะ มาทำหน้าสยดสยองใส่ที่รักกูได้ไง
“อะ อ้ามนะคะน้องกาย อ้าปากเร็ว” ผมอ้าปากตามเสียงที่ได้ยินก่อนจะรับข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยว
และแทนที่ผมจะได้ฟินสุดๆ กับการที่สุดที่รักมาป้อนข้าวก็เป็นอันต้องสะดุดลงเมื่อมีใครสักคนเตะเข้าที่หน้าแข้งผมเต็มแรงจนน้ำตาแทบเล็ด
ไอ้แม็คครับ มันเตะผม ผมชักสีหน้าใส่มันด้วยความหงุดหงิดก่อนจะทำหน้างงเมื่อมันพยักพเยิดหน้าไปทางด้านขวาของผม
พรวด!!
“กะเทยควาย!”แล้วทันทีที่ผมหันหน้าไปก็ถึงกับสะดุ้งข้าวในปากพ่นออกมาทันที คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมชักสีหน้าเมื่อได้ยินคำเรียกที่ผมเผลอหลุดปาก
ผมนี่เหงื่อแตกเลยครับ
“เออ… พี่เจสซี่คนสวย…” แล้วดูเหมือนว่าการที่ผมเรียกแบบนี้จะทำให้เขาหายโกรธแล้วหันมายิ้มให้ผม
พี่เจสซี่… เออ… รุ่นพี่ผู้หญิง ไม่สิ รุ่นพี่กะเทยร่างหนาในคณะผม
“พี่...พี่เจสซี่มานั่งตรงนี้ได้ยังไงครับ”
พี่เจสซี่กระเถิบมาใกล้ผมแบบที่ผมก็กระเถิบหนี ก่อนที่ร่างหนาๆ นั้นจะพุ่งมากอดแขนผมเอาไว้
“ก็พี่เห็นน้องกายนั่งเขี่ยข้าวไปเขี่ยข้าวมาก็เลยว่าจะมาช่วยป้อนข้าวน่ะสิคะ” พูดดีๆ อย่างเดียวได้ไหมอะครับ ทำไมต้องยื่นหน้ามาใกล้ด้วย
โอ๊ยยย นี่กูเห็นหน้าหลุมดวงจันทร์เป็นหน้าฝนคนน่ารักของกูได้ไงวะเนี่ย
“อ่า… ไม่เป็นไรครับ ผมกินเองได้ พี่เจสซี่ไปกินข้าวเถอะครับเดี๋ยวจะปวดท้องนะ” ผมได้แต่ยิ้มแหย เหลือบตามองเพื่อนๆ ในกลุ่มนี่แม่งเอาแต่นั่งเอามืออุดปากกลั้นเสียงหัวเราะ ไม่คิดจะช่วยกันเลย
“อุ้ย! น้องกายเป็นห่วงพี่ด้วย น่ารักที่สุดเลยค่ะ อย่างนั้นพี่เจสซี่ไปกินข้าวก่อนนะคะแล้วเจอกันนะสุดหล่อของพี่” พี่เจสซี่จีบปากจีบคอพูดเสียงหวาน(?)ก่อนจะลุกจากโต๊ะที่ผมนั่งไป
“เฮ้อ… ค่อยหายใจคล่องหน่อย พวกมึงแม่ง!! ไม่สะกิดกูให้เร็วกว่านี้วะ” ผมหันไปด้าเพื่อนทันที
คือเอาจริงๆ พี่เจสซี่นิสัยดีนะครับ ช่วยเหลือรุ่นน้องดีมากเลย แต่พี่แกเจอผมทีไรจ้องจะเข้ามาลูบมาไล้มาสีตลอด ตอนปีหนึ่งผมเจอพี่เขาในกองประกวดดาวเดือนพี่เขาเป็นพี่เลี้ยงของคณะผมนั่นแหละครับ ตอนนั้นผมยังใสๆ ไง ปีหนึ่งเฟรชชี่น่ารักไม่กล้าอะไรมาก พี่เจสซี่เข้ามาคุยผมก็คุยครับเพราะพี่เขาก็คอยดูแลผมตลอดตอนเข้าไปอยู่ในกองประกวด แต่เจอพี่แกตะปบเข้าที่เป้าทีเดียวสะดุ้งสุดตัว ตะปบอย่างเดียวไม่พอทำท่าจะบีบด้วยนี่สิ คราวนี้ละถอยห่างได้เป็นถอยละครับ
“ก็กูเห็นมึงทำหน้าเคลิ้มไม่เลิก นึกว่าอยากให้พี่เจสซี่ป้อนข้าวป้อนน้ำ” ไอ้ไม้ว่าพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
“นี่มีแค่ไอ้แม็คใช่ไหมที่เป็นคนดีช่วยกู”
“อ๋อ...กูไม่ได้ตั้งใจ ผมดีกูจะขยับขาแล้วแม่งไปโดนมึงเข้า กูเลยต้องบอกมึง” ไอ้แม็คว่า
ไอ้สลัด!! นึกว่าเป็นคนดี
“ใช่ๆ ก็เห็นมึงทำหน้าเคลิ้มมากตอนพี่เจสซี่เข้ามาหา พวกกูก็นึกว่ามึงเปลี่ยนใจแล้ว” ไอ้เกลียวว่าต่อ
“เปลี่ยนใจหาไร กูมองไปทางไหนแม่งมีแต่หน้าฝนลอยไปลอยมาจนกูเพ้อชิบหายละ” ผมพูดก่อนจะทำหน้าเพ้อต่อ
วันนี้กำลังคิดอยู่เลยว่าจะได้เจอไหม แต่นี่ผิดคาดมาก นอกจากจะได้เจอแล้วยังได้เดินชน ยังได้ช่วยเก็บของให้ แล้วยังได้คุยด้วย โคตรฟินอะครับ
“เออ...สรุปฝนมึงก็ชื่อฝนจริงๆ สินะ” ไอ้ไม้พูดอย่างนึกขึ้นได้ “เพื่อนของฝนเรียกฝนว่าเรน แสดงว่าชื่อเรน”
“เรน… ชื่อโคตรน่ารักอะ” ผมเพ้อออกมาอีกรอบ คนอะไรชื่อก็น่ารัก หน้าตาก็น่ารัก
“แต่เดี๋ยวนะ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าอยู่มหา’ลัยนี้มาปีนี้ก็ปีที่สามแล้วก็เท่ากับว่า เรนอยู่ปีสาม!!!” ไอ้แม็คพูดบ้างก่อนที่มันจะทำหน้าตกใจ
ไม่ใช่แค่มันหรอกครับที่ตกใจ ผมแล้วก็คนอื่นๆ ก็ตกใจเหมือนกัน
คือเอาจริงๆ หน้าไม่เหมือนปีสามอะ ผมเจอฝนครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วหลังจากเปิดเรียนได้ไม่นาน เจอโดยบังเอิญแถมไม่ได้เจอในมหา’ลัยด้วย ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเด็กม.ปลาย แต่หลังจากนั้นผมได้เจอเขาอีกในมหา’ลัย แล้วเขาก็ใส่ชุดนักศึกษาผมเลยคิดว่ารุ่นเดียวกับผมแน่ๆ สรุปนี่ฝน เอ๊ย ไม่สิ เรนอายุมากกว่าผม เป็นรุ่นพี่ผมเหรอเนี่ย!
“กูเพิ่งเคยเห็นเรน ไม่ดิ… ต้องพี่เรนสิ นั่นแหละกูเพิ่งเคยเห็นใกล้ๆ ครั้งแรกตัวจริงโคตรขาวอะ กูว่าในรูปที่มึงเคยเอามาให้ดูว่าขาวละนะตัวจริงแม่งขาวมาก แต่กูว่าก็ยังดูเป็นเด็กเนิร์ดอยู่ดีว่ะ” ไอ้เป้พูด ผมนี่มองมันตาขวาง มีสิทธิอะไรมาส่องผิวคนของผม (?)วะ แถมยังว่าหาว่าเรนเป็นเด็กเนิร์ดอีก
คือจริงๆ เรน ไม่ดิ พี่เรน นั่นแหละก็เหมือนเด็กเนิร์ดจริงๆ นั่นแหละ เขาชอบเอาผมลงมาปรกหน้าปรกตา ไหนจะใส่แว่นตาหนาเตอะอีก แต่งตัวก็โคตรจะถูกระเบียบ ดูเฉิ่มๆ เชยๆ อย่างที่ไอ้เป้ว่านั่นแหละครับ แต่นั่นคือภาพลักษณ์ที่พวกมันได้เห็นไง
ส่วนผมนี่ได้เห็นหลายมุมมาก คือเรื่องของเรื่องแม่งโคตรเป็นเรื่องบังเอิญ ผมกับเขาอยู่หอพักใกล้กันมาก อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนในซอยที่กว้างแค่สามเมตร แล้วบังเอิญห้องผมกับห้องเขาอยู่ชั้นเดียวกัน ผมก็เลยชอบส่องเขาจากระเบียงห้องของผมครับ เพราะฉะนั้นผมมักจะได้เห็นเขาในอีกลุคหนึ่ง
ไม่ใช่ว่าเขาลุกมาแต่งตัวหล่อเท่ หรือวาบหวิวเป็นสาวอะไรแบบนั้น แต่เขาไม่ได้ใส่แว่นเวลาอยู่ในห้อง แล้วผมที่เอามาปรกๆ หน้าบางทีก็มัดขึ้นไปไม่ก็ติดกิ๊บเอาไว้ แล้วไม่อยากจะบอกครับ
น่ารักเหี้ยๆ อะผิวขาวๆ ตาโตๆ ปากแดงๆ โอ๊ยยย น่ารักจนอยากจะจับเหวี่ยงลงเตียงแล้วขย่มให้เตียงพังให้สะโพกเคล็ดอะครับ
แต่ผมไม่บอกพวกมันหรอกครับ เรื่องอะไรจะบอกผมหวงของผมครับ
“เออกูถามมึงหน่อยไอ้กาย” ไอ้แม็คหันมาหาผม “มึงชอบพี่ฝนของมึงมาหนึ่งปีแล้ว มึงไม่คิดจะจีบเขาบ้างเหรอวะ”
แล้วพอไอ้แม็คถามแบบนั้นคนอื่นก็พยักหน้าทันที “จริงของไอ้แม็ค คือมึงพร่ำบอกพวกกูทุกวันว่าพี่ฝนน่ารักอย่างนู้นน่ารักอย่างนี้ คือมันก็อาจจะไม่ได้มีแค่มึงเปล่าวะที่เห็น อาจจะมีคนอื่นเห็นแล้วก็ชอบพี่เขาเหมือนกันนะ”
ผมเริ่มชะงักแล้วก็คิดตามที่พวกเพื่อนๆ พูด เอาตรงๆ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยครับ ได้แต่พร่ำเพ้อไปวันๆ ลืมนึกไปเลยว่าอาจจะมีคนชอบเขาแล้วคิดจะจีบเขาก็ได้!
“ช่ายๆๆ แล้วถ้ามึงยังเอาแต่เพ้อโดยไม่จีบ ระวังนะมึงดีไม่ดีวันหนึ่งมึงอาจจะเจอพี่เขาจูบกับใครก็ได้นะ” ไอ้เป้พูด
อ… อะไรนะ!!!
ร เรนจูบกับคนอื่นเหรอ
ไม่ได้นะโว๊ย ผมไม่ยอมอะ เรนต้องจูบกับผมคนเดียวดิวะ
ไม่ได้แล้ว ผมจะมัวแต่เฉยแบบนี้ไม่ได้แล้ว!
ปัง!!
ผมลุกขึ้นยืนสองมือตบโต๊ะเสียงดัง ไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง ก่อนจะประกาศก้อง “กูจะจีบ! แล้วกูจะต้องจีบติดด้วยพวกมึงคอยดู กูไม่ยอมให้ใครได้เขาไปแน่นอน!!”
ผมขอเอาตำแหน่งเดือนคณะนิเทศศาสตร์ปีสองเป็นเดิมพัน!“แล้วมึงจะจีบเขายังไง เดินดุ่มๆ เข้าไปบอกพี่ๆ ผมชอบพี่ผมจีบนะ แบบนี้เหรอ”
ผมตวัดสายตาไปมองไอ้เป้ทันทีเพราะเสียงของมันกำลังทำลายมโนของผมเป็นอย่างมาก ผมกำลังนึกถึงเรนของผมอยู่ดีๆ
“เดี๋ยวกูก็หาทางได้เองแหละน่า มึงเอาเวลามาคิดเรื่องของกูไปคิดเรื่องโปรเจคเทอมนี้ดีกว่าไหม” ผมหันไปว่าซึ่งพอผมพูดแบบนั้นไอ้เป้ก็ทำหน้าช็อคตาค้างไปแล้วเรียบร้อย
แน่ละครับเพราะพรุ่งนี้จะมีเรียนวิชาหลักของคณะซึ่งก็วิชาที่อาจารย์สั่งโปรเจคใหญ่มาตั้งแต่เมื่อวันเปิดเทอมนั่นแหละ แล้วที่มันท่าทางแบบนั้นแสดงว่ามันยังไม่ได้คิดหัวข้อแน่ๆ ผมเองก็เหมือนกัน ฮ่าๆๆ
เอาจริงๆ ผมก็เริ่มมีหัวข้อในใจแล้วละครับ จะว่ายังไงดี... ผมเหมือนจะถูกโฉลกกับ ‘ฝน’ นะ ผมเลยว่าจะเอาหัวข้อนี้มาทำโปรเจค
ผมเจอเรนครั้งแรกเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว วันนั้นผมจำได้ดีว่าเป็นวันฝนตก ในระหว่างที่ผมกำลังกลับจากถ่ายรูปเพื่อส่งอาจารย์ผมก็ได้ยินเสียงแมวร้อง ตอนนั้นผมเองก็กำลังมองหาแล้วก็จะเข้าไปดูแต่เรนก็เข้ามาก่อน
ผู้ชายคนนั้น... เดินท่ามกลางสายฝนมานั่งยองๆ อยู่หน้าม้านั่งหินอ่อนแล้วอุ้มลูกแมวเอาไว้แนบอกไม่สนใจว่าตัวเองจะเปียกฝนมากแค่ไหน เขาทำเพียงแค่กอดลูกแมวไว้แน่นที่สุด วินาทีนั้นไม่รู้ว่าจิตวิญญาณช่างภาพเข้าสิงหรืออะไร ผมยกกล้องขึ้นถ่ายรูปของเขา มันเป็นภาพที่ดีที่สุดที่ผมเคยถ่ายมา ผมคิดว่าแบบนั้นนะ...
พอผมนึกถึงภาพที่ผมถ่ายในวันนั้นผมก็นึกอะไรขึ้นได้
หลายๆ คนชอบสื่อความหมายของฝนในเชิงเศร้า แต่ผมจะสื่อมันออกมาในอีกหลากหลายความรู้สึกไม่ใช่แค่เศร้าเสียใจ แต่รวมไปถึงดีใจ เซ็กซี่ และอื่นๆ อีกที่จะสามารถสื่อได้
ส่วนคนที่จะมาเป็นแบบให้ผม...
สีหน้ายิ้มๆ ตอนที่ใครคนนั้นอุ้มลูกแมวขึ้นมาปรากฏเด่นชัด
ถ้าจะถ่ายคอนเซ็ปฝน ก็ต้องให้ฝนเป็นแบบให้สินะ
“แล้วมึงจะจีบเขายังไง เดินดุ่มๆ เข้าไปบอกพี่ๆ ผมชอบพี่ผมจีบนะ แบบนี้เหรอ”อืม... ผมคิดว่า... ผมหาวิธีจีบเรนได้แล้วละครับ
“พวกมึง... กูว่ากูรู้แล้วว่ากูจะจีบเรนยังไงดี”
“ที่มึงเงียบนี่หาวิธีจีบ? ไอ้ห่ากูก็นึกว่าคิดถึงคอนเซ็ปงาน” ไอ้แม็คแม่งผลักหัวผมทันทีที่ผมพูดจบ
“มึงรู้จักยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรือเปล่าละ กูจะจีบเรน แล้วไม่ใช่แค่ได้เรนมาเป็นแฟนนะกูยังมีงานส่งอาจารย์ธีร์อีกด้วย หึหึหึ”
“มึงจะให้พี่เรนมาเป็นแบบให้มึง” ไอ้ไม้ถาม
ผมพยักหน้ารับ “ใช่ ได้ทั้งนายแบบ ได้ทั้งแฟนไม่มีอะไรคุ้มไปกว่านี้แล้วละ”
“ขอให้มึงสมหวังแล้วกัน ขอให้พี่เรนเล่นตัวไม่มาเป็นนายแบบ ไม่มาเป็นแฟนมึง”
“สาธุ”
พอไอ้เกลียดอวยพรแบบนั้นไอ้พวกที่เหลือก็พร้อมใจกันยกมือไหว้สาธุทันที ไอ้สลัด! แทนที่จะขอให้เพื่อได้นายแบบได้แฟน ดันมาแช่งกันได้
“พวกมึงต้องผิดหวังเพราะคำพูดของมึงไม่มีทางเป็นจริง กูรับรองได้ว่าแค่กูเดินไปขอดีๆ เรนต้องยอมมาเป็นแบบให้กูแน่นอน”
นายกาย คามินสุดหล่อรับประกัน!!
************************************************
หายไปนานเลย ขอโทษนะคะ พอดีตรงกับช่วงรับปริญญาพอดีฟางเลยไม่สะดวกเข้ามาอัพ วันนี้เลยมาอัพให้ครบ100แล้วน๊า น้องกายน่ารักเนอะ เป็นคนที่น่ารักมากๆ เลยอ่า หลงพี่เรนหัวปักหัวปำกันเลยทีเดียว อิอิ มองไปทางไหนก็เจอแต่หน้าพี่เรน พี่เรน พี่เรน โอ๊ย เด็กอะไรทำไมน่ารักงี้! เด็กอะไรบอกอยากจะจับพี่เรนเหวี่ยงลงเตียงขย่มให้เตียงพังให้สะโพกเคล็ด เอาแค่เจอหน้าพี่แล้วไม่เข่าอ่อนก่อนดีกว่าไหม ก๊ากกกกกกก
เรื่องนี้สามารถติด # ได้เยอะมากอะค่ะ ทั้ง #น้องกายหลงฝน #น้องกายเป็นคนตลก นี่ยังมีของพี่เรนอีกนะเนี่ย แต่คือน้องแกตลกจริงๆ แต่งไปแล้วมีความสุขอะ เพ้อถึงพี่ก็ที่หนึ่งละ เจอพี่ทีก็โอ๊ย หัวใจน้องจะหลุดออกจากอก เป็นคนน่ารักสุดๆ เลย แบบฟางหลงมากอะ ไม่ต้องแปลกใจทำไมฟางอวยเยอะขนาดนี้ เพราะชอบน้องกายมากจริงไรจริงค่า
อ๋ออออ... ขอแจ้งเรื่องอัพนิยายหน่อยนะคะ คือว่าวันที่ 26-27 ธันวานี้ฟางมีสอบใบประกอบวิชาชีพค่ะ ฟางเลยจะขอตัวไปอ่านหนังสือ + ติว เตรียมสอบก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาอัพอีกทีหลังวันสอบนะคะ เข้าใจกันตามนี้เนอะ ไม่โกรธ ไม่เคืองกันนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)