Whose fault? ผิด...ที่ใคร (Drama,Yaoi) ผิดครั้งที่ 43 จบแล้ว 22/03/2562
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Whose fault? ผิด...ที่ใคร (Drama,Yaoi) ผิดครั้งที่ 43 จบแล้ว 22/03/2562  (อ่าน 38591 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
คินสงสัยแล้ว ทีนี้ละ เอาไม่น่ารอด,,,

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :-[ :-[ เขิน  เค้าเริ่มหวานกันแล้ว

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

Whose Fault ?

ผิด...ครั้งที่ 30







โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม





"มานี่เลย มาให้อาจับตีก้นเลยดีมั้ย เด็กดื้อคนนี้นี่"



"คือว่า..."



"ไม่ต้องมาคือมาเคอเลย! ไม่สบายอยู่ตั้งสี่ห้าวันไม่บอกอาสักคำ แล้วถ้าเป็นอะไรหนักขึ้นมาอาจะไปพูดกับคุณลุงยังไงหือ!?"



"แค่ไม่สบายเองครับ อาหมอก็" เสียงใสอุบอิบ



"สำหรับคนทั่วไปอาจะไม่ห่วงเท่านี้หรอก สำหรับหนูมันไม่ใช่แค่ไม่สบายธรรมดานะ อีกอย่างนิสัยแบบนี้ท่าทางจะรอให้เป็นหนักมากๆ แล้วค่อยพักล่ะสิ อารู้"



"..."



"เฮ้อ ดื้อไม่มีใครเกิน" คุณหมอส่ายหน้าบ่นตามประสาคนแก่



"ขอโทษครับ..." ใบหน้าหวานก้มต่ำ พูดเสียงหงอย แต่คราวนี้กฤษณะจะไม่ยอมใจอ่อนอีกแล้ว ร่างสูงใหญ่แบมือไปตรงหน้า



"อาขอดูกระปุกยาหน่อย"



"คือเอม...ไม่ได้พกไว้น่ะครับ" ชะเอมตอบอึกอัก เรียกสีหน้าขึงขังของกฤษณะได้เป็นอย่างดี



"ว่าอะไรนะ"



"...คือว่าคิน..."



"นั่นยาโรคประจำตัวนะเอม ไม่ใช่ลูกอมที่จะพกก็ได้หรือไม่พกก็ได้ ถ้าอาการกำเริบขึ้นมาจะทำยังไง?"ดวงตาดุกับเสียงเรียบๆ ทำให้ร่างบางเม้มปากเถียงแผ่วเบา



"ก็คินอยู่ด้วย ถ้าเอมเอาขึ้นมาทาน คินก็ต้องถามแน่ๆ เลยนะครับ"



"นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ!!"



เฮือก!



ร่างบางสะดุ้งหน้าซีดเผือด กฤษณะถึงรู้ตัวว่าเพิ่งขึ้นเสียงตะคอกออกไป ก่อนจะอ่อนลง



"ร่างกายของหนู มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเอม...ที่อากำชับบ่อยๆ ไม่ได้บอกใครอย่างที่หนูเคยขอไว้เพราะอาไว้ใจหนูคิดว่าดูแลตัวเองได้" คนที่เป็นทั้งหมอทั้งอารีบอธิบาย "แต่ถ้าเป็นแบบนี้ อาคงต้องบอกคินแล้วก็พี่เกษมเอาไว้จริงๆ"



"ฮึก” น้ำตาเม็ดโตร่วงอย่างสะเทือนใจ “...เอมขอโทษครับ"



"อาก็ต้องขอโทษเหมือนกัน อาไม่ได้ตั้งใจจะตะโกนใส่แบบนั้น"



"ไม่หรอกครับ เอมรู้ว่าอาหมอเป็นห่วง" ชะเอมเช็ดน้ำตาป้อยๆ ท่าทางน่าสงสารทำให้คนเป็นอารู้สึกผิดเขาทำเด็กคนนี้ร้องไห้จนได้



"ความเกรงใจของเอมน่ะเป็นสิ่งดี แต่ถ้ามันมากเกินไปมันจะกลับมาทำร้ายตัวเองนะ เชื่อที่อาพูดซักครั้งเถอะ...เอมน่ะเป็นคนในครอบครัว อาคิดว่าหนูควรจะบอกคุณลุงกับคินได้แล้ว อย่าปิดเรื่องนี้เอาไว้เลยมันไม่ดีต่อทั้งตัวเองและคนรอบข้างหรอก"



ร่างบางฟังแล้วก็นิ่งเงียบ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ "งั้น...ให้เอมบอกคินกับคุณลุงเองได้มั้ยครับ"



"เอางั้นก็ได้"



กฤษณะว่า เขาน่ะเคารพในการตัดสินใจของอีกฝ่ายอยู่แล้ว



"อย่าปล่อยให้เรื่องมันบานปลายจนใหญ่โตนะเอม เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่...หนูเข้าใจที่อาพูดนะ?"



"...ครับ" ร่างบางผุดลุกขึ้น "ขอบคุณมากเลยครับอาหมอ"



แล้ว...เขาจะพูดกับคินยังไงดีล่ะ



ครืด...



"เอม เมื่อกี้คุยอะไรกันเสียงดังเชียว" สายตาคมเบนไปที่คนที่ยืนข้างหลัง ยกมือไหว้ผู้อาวุโส "สวัสดีครับอากฤษ"



"หวัดดีคิน ดีจังนะที่เห็นดีกันได้แบบนี้" คนอายุเยอะกว่าสองรอบกล่าวยิ้มๆ "แล้วก็...ทำดีมากที่ช่วยดูแลเอมตอนป่วย อาเป็นห่วงมากเลย"



คินพยักหน้าเข้าใจความหมายนั้น ก็ร่างกายของชะเอมไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งนานแล้ว เพิ่งจะดีขึ้นได้เมื่อหลายปีก่อนนี้เอง อากฤษจะเป็นห่วงเป็นพิเศษก็ไม่แปลก



"นี่ร้องไห้เหรอ อากฤษทำอะไร" เสียงทุ้มถามคนตัวบางที่เดินเข้าใกล้ด้วยท่าทางหงอยๆ มือใหญ่เชิดคางมนให้เงยหน้าขึ้น เพื่อให้มองเห็นชัดๆ



"เดี๋ยวสิ..." กฤษณะเอ่ยถอนใจ ถึงจะคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถึงตอนนี้คนแก่ก็ยังรู้สึกผิดเหมือนกันนะ!



"เปล่าหรอกครับ" ชะเอมส่ายหน้า ขยี้ตา



"เปล่าที่ไหนกัน ดูสิ ตาแดงเชียว" นิ้วโป้งไล้ขอบตาแดงช้ำ "หือ ไม่ใช่เหรอ เด็กขี้แย"



คนโดนว่าเบะปากทันที "เอมไม่ได้ขี้แยสักหน่อย"



"ครับๆ ไม่ได้ขี้แยก็ไม่ได้ขี้แย...อากฤษผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วก็ขอบคุณมากครับ"



"อือๆ ดูแลกันดีๆ ล่ะ" คนเป็นแพทย์โบกมือลา



"สวัสดีครับ อาหมอ"



กฤษณะรับไหว้ร่างบางที่ยังซึมๆ อยู่...เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วรู้สึกผิดมากไปอีก...ไม่น่าเลย



ถ้าพี่เกษมรู้ เขาต้องโดนด่าแหงแซะ โทษฐานทำลูกชาย(?)สุดที่รักของแกน้ำตาร่วง







************************Whose fault? ************************







ปึง!



ทั้งสองขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ภายในเงียบสงัดจนได้ยินเสียงหายใจระรัวของร่างผอมบาง ก้อนเนื้อเล็กๆ ในอกเต้นดังตุบๆ



"คิน..."



"หือ"



"คือว่า..." ริมฝีปากบางขบกัดกัน คิ้วขมวดอย่างกังวลใจ



เขาพูดไม่ออก...พูดไม่ออกจริงๆ



"มีเรื่องไม่สบายใจอะไรเหรอ"



'อาคิดว่าหนูควรจะบอกคุณลุงกับคินได้แล้ว อย่าปิดเรื่องนี้เอาไว้เลย'



ร่างบางชะงักนิ่งไป ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ "...ครับ"



"อยากเล่าหรือเปล่า"



"..."



"ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องพูดก็ได้...แต่อยากให้รู้ไว้ว่าต่อจากนี้เอมจะมีคินอยู่เคียงข้าง" สัมผัสอบอุ่นบนศีรษะทำให้ร่างบางผินมองใบหน้าคมที่มองอยู่เหมือนกัน "คินจะรับฟังเอมทุกเรื่อง พร้อมเมื่อไหร่ก็เล่าให้คินฟังนะ"



ชะเอมน้ำตาซึม



"ร้องไห้อีกแล้ว ไหนบอกไม่ได้ขี้แยไง"



มือบางยกขึ้นขยี้ตา สูดน้ำมูกดังฟืด "ไม่ได้ขี้แยซักหน่อย"



ร่างสูงหัวเราะเสียงต่ำ มือใหญ่เอื้อมบิดกุญแจสตาร์ทรถ "อยากไปไหนต่อมั้ย"



"ไม่ครับ..." ร่างบางเอนตัวพิงเบาะอย่างเพลียๆ ...อยากกลับห้องแล้ว "คินจะไปไหนหรือเปล่า ถ้ายุ่งเดี๋ยวเอมกลับรถเมล์ก็ได้นะ"



ชะเอมกระเด้งตัวก่อนจะปลดเบลท์แต่ร่างสูงรีบจับข้อมือบางไว้



"ไม่ต้อง เดี๋ยวคินไปส่ง"



"แต่เอม..." ...เกรงใจ



"เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ เลิกเกรงใจได้แล้ว" คินว่าก่อนจะเปลี่ยนจากจับข้อมือมาเป็นกุมมือไว้เบาๆ "ต่อไปนี้ เอมจะเอาแต่ใจยังไงก็ได้ อยากให้คินทำอะไร ไม่อยากให้ทำอะไร เอมบอกคินเลย"



ถึงจะพูดแบบนั้น "แต่ว่า...เอมไม่กล้าหรอก..."



กลัว...ที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม



"คินไม่ชอบคนงี่เง่า แล้วบางทีเอมก็..."



"กลับกัน คินก็จะทำแบบนั้นกับเอมบ้าง เราจะได้เจ๊าๆ กันไง"



คราวนี้กลายเป็นร่างบางที่ทำหน้างง "ทำแบบนั้น?"



"ก็..." คินยกนิ้วขึ้นเกาหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย "บางทีคินอาจจะงี่เง่า ชอบหวงหรือ...หึงไม่เข้าท่าบ้าง..."



ชะเอมนิ่งไปก่อนที่ใบหน้าหวานจะแดงก่ำ...หะ หวง? หึง!?



พอดวงตาคู่คมมองชะเอมแล้วก็อดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ต้องจิ้มหน้าผากมนแรงๆ จนหงายเงิบ "เอมน่ะแหละที่ซื่อจนไม่รู้ตัวว่ามีคนมาจีบบ่อยๆ ...แบบนี้จะให้คินปล่อยไปได้ไง คินก็หวงของคินเหมือนกัน"



"เอมไม่ได้ฮอตเหมือนคินสักหน่อย จะไปมีคนมาจีบได้ไงครับ" ปากบางยู่ ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกด้อย...แถมหน้าตาก็ไม่ได้ดีเท่าคินด้วย



ร่างสูงได้ยินกลับเลิกคิ้วแปลกใจสุดๆ นี่เจ้าตัวไม่รู้ตัวจริงๆ หรือไงว่าตัวเองก็ดังไม่แพ้เขาเลย



ความนิยมของชะเอม ใบหน้าหวานๆ แบบนี้จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็เข้าหามากหน้าหลายตา จะมีแต่ร่างบางนี่แหละที่ยิ้มไร้เดียงสาคุยกับเขาทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร...



"คินต่างหาก มีแต่ผู้หญิงเข้าหา เอมเป็นผู้ชายจะไปกล้าหะ...หวง...ได้ไงล่ะ" เสียงใสพูดแผ่วเบาลง โดยเฉพาะคำนั้นเหมือนเสียงจะหายไป แต่คนที่ได้ยินก็หลุดขำ



"หัวเราะอะไรน่ะ" เสียงใสแหว



"หัวเราะคนขี้หวง"



"ก็...ก็คินบอกเองว่าเราเป็นแฟนกัน จะไม่หวงได้ไง...เล่า" แก้มใสค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ แปรผันกับเสียงที่ค่อยๆ เบาลง



"คินบอกแล้วว่าหวงได้ หึงได้ เพราะคินก็จะทำเหมือนกัน" สายตาคมกริบมองสบ "จะว่าไปพอพูดแล้วก็นึกขึ้นได้...เอมห้ามไปยุ่งกับไอ้หมอนั่นอีกนะ"



ร่างบางตัวหดลงเล็กน้อย ทำตาน่ากลัวชะมัดเลย



"คะ ใคร...เหรอ"



"ไอ้เวรติมนั่นไง ที่ไม่พูดอะไร ไม่ใช่ว่าคินลืมหรอกนะจะบอกให้"



"ตะ แต่ว่านั่นน้อง..."



"ถ้ามันไม่ได้คิดกับเอมเป็นพี่เป็นน้องด้วย คินไม่นับว่ามันเป็นรุ่นน้องหรอก" คินว่า "อีกอย่างไอ้หมอนั่นน่ะ..."



สายตาเย็นเยียบนั่นมัน...อันตราย



มันจะเป็นรุ่นน้อง จะอายุน้อยกว่าหรืออะไรก็ช่าง...มันเป็นผู้ชายที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย



"คิน?"



"...ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าอย่าไปยุ่งอีกเด็ดขาด"



ชะเอมขมวดคิ้ว เอ่ยต่อรอง "คุยเฉยๆ ก็ไม่ได้เหรอ ยังไงเขาก็เป็นแฟนของเพื่อนของเอมนะ"



พอได้ยินร่างบางพูดแบบนั้นมันยิ่งรู้สึกตงิดใจ ทั้งๆ ที่ไอ้หมอนั่นมีแฟนแล้ว...แล้วทำไมถึงทำท่าสนใจชะเอมอีกล่ะ



คินเหลือบเห็นสายตาอ้อนๆ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ "ก็ได้"



ไอติมกับราม



ความสัมพันธ์ของสองคนนั้น...ช่างประหลาด



ปริ๊นๆ



เสียงบีบแตรและเครื่องยนต์ดังลั่นบนถนนใจกลางเมือง เป็นภาพปกติที่เห็นกันได้ทุกวัน แต่วันนี้การจราจรเป็นไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำทะเบียน กท1222 ติดอยู่สี่แยกไฟแดงนี้ตั้งสิบนาทีแล้วรถยังไม่เคลื่อนเลยแม้แต่นิด



"ทำไมรถติดจัง" ร่างบางชะโงกหน้าพยายามมองไปด้านหน้าว่ามีเหตุการณ์อะไรอย่างรถชนหรือรถเสียรึเปล่า แต่ก็ไม่เห็นอะไร



"นั่นน่ะสิ" คินหันไปมองใบหน้าหวานที่ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วสายตาเบนมองแก้มใส "เอม"



"ครับ?"



ใบหน้าคมยื่นด้านข้างไปใกล้ๆ ร่างบางก็ถดตัวหนีพร้อมกับสีหน้างุนงงที่หนักกว่าเดิม "อะไรเหรอคิน?"



คินยังคงเงียบ ชะเอมก็ขมวดคิ้วหนัก ใบหน้าหวานยื่นเข้าใกล้ ดวงตากลมโตสำรวจที่ใบหน้าด้านข้าง "ไม่มีอะไรติดอยู่นะ"



"ไม่ใช่" เสียงทุ้มบอกทันทีอย่างระอา "หอมแก้มหน่อย"



"...ครับ?"



"หอม-แก้ม-หน่อย"



"คิน..." ใบหน้าหวานแดงเรื่อเมื่อเข้าใจจุดประสงค์ ทำไมอีกฝ่ายถึงพูดเรื่องน่าอายได้ไม่หยุดหย่อนแบบนี้ "นี่มันข้างนอกนะ"



"ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ฟิล์มดำขนาดนี้"



"แต่..."



"เร็ว"



"..." ริมฝีปากเม้ม มือบางขยุ้มหน้าตัก ใบหน้าหวานเห่อร้อน...จะให้ทำแบบนี้ในรถเหรอ มันไม่ต่างจากทำข้างนอกเลยนะ...ถึงคินจะยืนยันว่าคนนอกรถมองไม่เห็นก็เถอะ



"เฮ้อ ทีไอ้รุ่นน้องนั่นเอมยังให้หอมแก้มต่อหน้าคนหน้าโรงหนังตั้งเยอะ แต่กับคินหอมไม่ได้เหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยน้อยใจ คินกลับไปนั่งตัวตรงเหมือนเดิม ปากหยักพูดทั้งๆ ที่ไม่ได้มองหน้าชะเอมให้รู้ว่านี่น้อยใจจริงๆนะ



ร่างบางเห็นดังนั้นก็กล้ำกลืนฝืนใจตอบออกไป "กะ ก็ได้! ...เอมยอมแล้ว" โดยไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์



ฮือ อายจะตายอยู่แล้วนะ



คินหันหน้าด้านข้างยื่นเข้าใกล้อีกครั้ง ร่างบางหน้าแดงค่อยๆ ปรือเปลือกตาลงแตะริมฝีปากที่แก้มร่างสูง



จุ๊บ!



"อื้อ!?" ดวงตากลมโตเบิกกว้าง สบกับสายตาคมที่มองมาพอดี นี่มัน...!



ไม่ทันตั้งตัว เพราะมัวแต่ตกใจกับสัมผัสนุ่มของริมฝีปากทำให้ร่างสูงได้ทีจับท้ายทอยเล็กไว้แน่น ก่อนที่จะเอียงหน้าเปลี่ยนองศาแทรกเรียวลิ้นเข้าแยกริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อยเพื่อชิมความหอมหวาน



"อื้อ อืม" เสียงใสคราง รีบหลับตาปี๋เมื่อถูกลิ้นร้อนต้อนกวาดภายใน ร่างผอมกระตุก มือบางเกร็งขยุ้มเสื้อยืดบริเวณไหล่แกร่งจนยับ



เนิ่นนานจนชะเอมหายใจไม่ทัน เพราะเรียวลิ้นที่อีกฝ่ายซุกซนจนคนโดนรุกตัวสั่นระริก กำปั้นเล็กทุบเบาๆ เป็นสัญญาณว่าไม่ไหวแล้ว



"ฟุฮ่า...แฮ่ก..."



ริมฝีปากคมละออกมาให้ร่างผอมได้พักหายใจ ชะเอมซบไหล่แกร่งอย่างหมดแรง จมูกโด่งยังคงไล้ทั่วกรอบหน้าสูดดมความหอมกรุ่นแนบชิด เมื่อผ่านไปสักพักจนลมหายใจนิ่ง ริมฝีปากร้อนก็กดแนบชิดอีกครั้งอย่างคนไม่หายอยากแต่...



ปริ๊นนน!!!



เสียงบีบแตรดังจากรถด้านหลัง ทำให้ร่างสองร่างสะดุ้งเฮือก เด้งตัวออกห่างจากกันอย่างรวดเร็ว ชะเอมตัวเกร็งตกใจ มือบางยกปิดหน้าแดงก่ำ ส่วนคินก็กลับนั่งประจำที่รีบใส่เกียร์และเหยียบคันเร่งออกไปผ่านแยกที่ไฟถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้



ตามด้วยเสียงใสตะโกนอย่างอายสุดขีดที่มีแต่คนในรถที่ได้ยิน ทำให้ร่างสูงเหงื่อตก



"คินคนบ้า! ทีหลังไม่ต้องมาจูบเลยนะ!!"



ซวยแล้วสิแบบนี้...







************************Whose fault? ************************







เสียงจอแจของคณะอักษรศาสตร์ดังขึ้นเนื่องจากเป็นเวลาเลิกคลาสและเป็นช่วงเที่ยงพอดี นักศึกษาหลายคนจึงทยอยออกมาจากห้องในเวลาเดียวกัน บ้างยืนจับกลุ่มคุยกันหน้าห้อง บางคนรีบวิ่งไปเพราะหิวข้าว ขาเรียวภายใต้กางเกงนักศึกษาพาร่างผอมบางเดินลงบันไดมาจากชั้นเจ็ด ชะเอมเองก็รีบแต่ไม่ได้รีบมาก จึงไม่ใช้ลิฟต์เพราะว่าคนรอเยอะ



"แฮ่ก..." กว่าจะมาถึงชั้นหนึ่งได้ก็เล่นเอาหอบเหมือนกัน  เม็ดเหงื่อซึมน้อยๆ ข้างขมับ แขนบางโอบกระชับหนังสือปกแข็งและปึกชีทเล่มหนาที่หนักเอาเรื่องแน่น ก่อนที่จะพาตัวเองเดินเข้าโรงอาหาร ดวงตากลมสีดำสอดส่ายสายตาหาใครบางคน ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...



"เอม!" เสียงทุ้มตะโกนเรียกให้เจ้าของชื่อหันไปตามทิศทางที่มา เห็นร่างสูงในชุดเสื้อช็อปและใบหน้าหล่อเหลายกมือให้เห็นชัดๆ



...แค่หน้าตาก็โดดเด่นพอแล้ว นี่ยังทำตัวให้เด่นจนคนรอบข้างมองมากขึ้นไปอีก



ชะเอมก้มหน้างุดค่อยๆ เดินลัดเลาะผู้คนที่เบียดเสียดพลางจับจ้องมาอย่างกับเขาเป็นตัวประหลาด



"นั่นคินนี่นา อ๊าย ไม่ได้เห็นตั้งนาน เทพบุตรสุดหล่อข้างช้านปรากฏกายแล้ว"



"ดีใจทำไมยะ เขาไม่ได้มาหาแกสักหน่อย"



"ใครสน เดินมาถึงคณะอักษรที่อยู่ห่างไกลคนละฟากแบบนี้ ก็ถือว่ามาหาชั้นแล้ว ว้าย ปลื้ม!"



"ไม่อยากขัดหรอกนะ แต่คินเขาขับรถมาหรอกย่ะ"



"แป่ว..."



"คิก"



ชะเอมหลุดหัวเราะ เพราะเดินผ่านกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังพูดถึงคินแล้วเผลอได้ยินเข้าพอดี แต่พอรู้สึกตัวก็ปิดปากทันที แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะคนทั้งกลุ่มหันมามองร่างบางจนเจ้าตัวต้องรีบก้มหัวที่เสียมารยาท



"คะ คือ ขอโทษครับ!" เสียงใสเอ่ยอย่างรู้สึกผิด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับยิ่งทำให้ใบหน้าหวานหน้าซีด "คือผมไม่ได้ตั้งใจ..."



"น้อง!"



"ฮะ คะ ครับ!?" ชะเอมสะดุ้งเฮือกเผลอกลั้นลมหายใจเมื่อคนที่เป็นผู้ชายตัวโตหัวเกรียนหน้าโหดตะโกนเรียก ลุกจากโต๊ะและเดินเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางคุกคาม



"ต๊ายตาย ท่าตกใจเมื่อกี้น่ารักใช้ได้เลยนะเนี่ย"



คำพูดและท่าทางที่เปลี่ยนไปคนละขั้วที่ทำใบหน้าหวานงง "เอ๋?"



"พี่ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกจ้า พอดีพี่กับเพื่อนแค่คุยกันสนุกๆ เฉยๆ แค่นั้นเอง ไม่ต้องขอโทษหรอกนะน้องชะเอม"



"เอ๊ะ?" งงรอบสอง คนๆ นี้รู้ชื่อเราได้ไง "พี่..."



"เอม!" ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าทมึงถึง ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่เห็นผู้ชายตัวใหญ่หัวเกรียนคนนี้ทำท่าข่มขู่ร่างผอมบางที่ยืนหน้าซีด



"คิน..."



"ต๊าย คินนี่นา!" ผู้ชายที่ดูดิบเถื่อนเมื่อกี้เรียกชื่อคนเพิ่งมาด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง ขายาวชะงัก...เวรละไม่ใช่ผู้ชายนี่หว่า ร่างสูงเบนความสนใจมาที่ชะเอมทันที ขายาวเดินเข้ามาใกล้แย่งหนังสือในแขนบางไปถือแทน การกระทำเล็กๆ น้อยที่ชายหัวเกรียนร่างใหญ่แอบสังเกตตาวาว



"เอม มัวทำอะไรอยู่น่ะ คินก็นึกว่า..." โดนผู้ชาย (ที่ไม่ใช่ผู้ชาย) ข่มขู่ซะอีก



"คือว่าพี่เขา...คือพอดีว่าเอม..." ร่างบางพูดวกไปวนมา มองสลับระหว่างคนที่เรียกตัวเองว่าพี่เมื่อกี้กับคิน...คือไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากตรงไหนดี



"ขอโทษที่ขัดจังหวะนะคะ!" คินผงะออกแทบไม่ทันเมื่อใบหน้าของชายเถื่อนยื่นเข้าใกล้



"เอ่อ ครับ?"



"คินกับน้องชะเอมเป็นอะไรกันคะ?"



คินมองหน้าเอมที่ขมวดคิ้วสงสัย ก็ถามกลับไปแทน "พี่รู้จักชะเอมด้วยเหรอครับ"



"แน่นอนสิคะ! น้องชะเอมเป็นสมบัติของคณะเรา เป็นคนที่น่ารัก ใสซื่อ ไร้เดียงสาจนหาไม่ได้อีกแล้วในมหาวิทยาลัยนี้ แถมเป็นคนดังในคณะเราด้วยนะ" คนพูดขยิบตา "ถึงเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเลยก็เถอะ"



คนโดนบรรยายสรรพคุณตาโตน่ารักในสายตาคนมอง...นั่นมันตัวเขาเหรอน่ะ



"ดังนั้นถึงจะเป็นคิน เดือนคณะวิศวะสุดหล่อลากดิน พี่ก็ต้องคัดกรองค่ะ ถ้าไม่เหมาะสมพวกพี่ก็พร้อมเตะโด่งน้องออกไปทันที"



พอฟังจบก็เกิดความเงียบก่อนที่ร่างสูงจะหลุดหัวเราะออกมาเพราะไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน ส่วนชะเอมยืนหน้าแดงระเรื่อ



"คือว่ารุ่นพี่ครับ..." ชะเอมไม่ทันได้พูดอะไร (อีกแล้ว) แขนยาวของคนข้างๆ ก็โอบเอวบางและพูดในสิ่งที่ทำให้หน้าแดงแปร๊ด



"ชะเอมเป็นแฟนผมครับ"



"อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด" ชายตัวใหญ่หน้าเถื่อนที่ไม่เหมาะกับชุดนักศึกษาปิดปากอุทานตาโต เสียงรอบข้างฮือฮาขึ้นมาทันที ข่าวนี้จะต้องถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วแน่นอนเพราะนักศึกษาคณะอักษรส่วนใหญ่ก็ได้ยินกันถ้วนหน้า ยังมีนักศึกษาคณะอื่นบางคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งกินข้าวที่นี่ก็ด้วย



"แน่วแน่แบบนี้ให้ผ่านเลยค่า!!" อีกฝ่ายยกนิ้วให้ พร้อมกับเสียงปรบมือเป็นลูกคู่ดังอยู่ด้านหลัง...ก็กลุ่มเพื่อนตลกโปกฮาของพี่แกนั่นแหละ



"แค่นี้พอแล้วใช่มั้ยครับ" บอกตามตรงว่าร่างสูงเป็นคนไม่ชอบคนมุงเยอะๆ เลย แต่ที่บอกออกไปเมื่อกี้ก็เพื่อที่จะบอกให้ใครหลายๆ คนรู้ว่าชะเอมมีเจ้าของแล้วจะได้ไม่มาวอแวขณะที่เขาไม่อยู่ข้างๆ ...การเรียนคนละคณะก็มีความยากลำบากเหมือนกัน



ห่างหูห่างตา



"อ่ะ จ้า..."



"อันที่จริงแล้วจะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน ผมจะให้ชะเอมเป็นคนตัดสินใจเองครับ" สายตาคู่คมเย็นเยียบ "คนอื่นผมไม่สน"



คินโอบไหล่บางให้เดินไปพร้อมๆ กันจากที่ตรงนั้น จากนั้นชาวไทยมุงก็สลายตัวอย่างหมดเหตุการณ์น่าสนใจ



"ต๊ายตาย สายตาเย็นชา มองแล้วร้อนรุ่ม" พี่เถื่อนยังคงความเป็นตัวเอง ส่วนเพื่อนสาวคนหนึ่งก็เดินมาตบไหล่



"ไอ้คิน ไปยุ่งกับเขามากๆ ระวังโดนกระทืบนะมึง นั่นวิศวะนะอย่าลืม"



"ก็มาสิ" ริมฝีปากใหญ่ยิ้มกรุ้มกริ่ม พร้อมกับทำหน้าเย้ายวนอ่อนระทวย ดูน่าขนลุก "อยากโดนกระแทกใจจะขาดแล้ว"



"เฮ้อ" เพื่อนทั้งกลุ่มกุมขมับถอนหายใจดังกับความเพี้ยนสุดขีด ก่อนจะปล่อยให้มันสะดีดสะดิ้งต่อไป



ชื่อเหมือนกันแท้ๆ แต่ไม่เห็นจะเหมือนกันเล้ย ตั้งแต่ภายนอกยันภายใน



"คิน พูดแบบนั้นจะดีเหรอ นั่นรุ่นพี่นะ" เสียงใสถามด้วยความกังวล อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปด้านหลังด้วยความไม่สบายใจ



"คินพูดไม่ดีตรงไหน"



"ก็..." จะว่าไปก็ไม่ได้ไม่ดีหรอก...ปากบางยู่ เถียงไม่ออกเลย



"แต่ที่คินพูดน่ะ คินจริงจังนะ"



"..."



"คินจะมีสิทธิ์ได้อยู่ข้างกายเอมหรือเปล่า คินจะให้เอมเป็นคนตัดสินใจ" คินยิ้มมุมปาก "มีแค่เอมคนเดียวที่มีสิทธิ์จะให้คินอยู่หรือไป...แค่เอมคนเดียว"



"..." ชะเอมก้มหน้างุดซ่อนใบหน้าร้อน ไม่กล้ามอง ยอมรับว่าหลังจากที่คินบอกว่ารัก...หลังจากที่เป็นแฟนกัน อีกฝ่ายก็แน่วแน่อย่างที่พี่คนนั้นพูดจริงๆ



ทำให้ใจเต้น...และเขินตลอดเวลา



ทั้งคำพูด สายตา และการกระทำ



ให้คำมั่นสัญญา ว่าจะมีเพียงแค่เราเท่านั้น



"เอมก็รอมาตลอดนะ...รอคินคนเดียว"


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>ต่อด้านล่าง



ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2



>>>>>>>>>>>>>>ต่อจากด้านบน




ไม่มีวันที่จะไล่อีกฝ่ายไปไหนหรอก



"ร้อนเหรอ เหงื่อซึมเชียว" มือใหญ่หยิบทิชชู่ซับข้างขมับเล็กให้ ไม่สนใจสายตารอบข้างแม้แต่นิดราวกับอยู่กันแค่สองคน



โรงอาหารเป็นแบบโปร่งไม่ใช่ห้องแอร์ แต่ก็ไม่ใช่กลางแจ้ง คนค่อนข้างจอแจเป็นพิเศษยิ่งเกิดเรื่องเมื่อกี้ขึ้นยิ่งทำให้คนมาเยอะเหมือนมาสอดส่องเดือนคณะวิศวะคล้ายปูชนียบุคคลที่นานๆ ทีจะได้เห็น



"ขอบคุณนะ"



"ไม่เป็นไร กินข้าวเถอะ"



"คินอุตส่าห์มาถึงนี่เหนื่อยมั้ย"



"ไม่เลย" ร่างสูงแกะข้าวกล่องที่ร่างผอมแพ็คมาตั้งแต่เช้า กับข้าวสามอย่างปริมาณสำหรับสองคน "เพราะคินขับรถมา"



ชะเอมหลุดหัวเราะ เพราะนึกถึงคำพูดที่รุ่นพี่คนเมื่อกี้กับเพื่อนๆ คุยกัน



อ๊ะ จะว่าไป...ยังไม่รู้จักชื่อรุ่นพี่คนเมื่อกี้เลยนี่นา คุยกันตั้งนาน



"เอมต่างหากตื่นเช้ามาอุตส่าห์ทำข้าวกล่องเผื่อให้คินด้วย น่าจะเหนื่อยกว่านะ"



"แต่คินก็หิ้วของมาให้นี่นา ถึงจะใช้รถก็เถอะ" ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะหลุดหัวเราะเพราะเถียงเรื่องไร้สาระอย่างใครเหนื่อยกว่าใคร บรรยากาศรอบด้านอบอวลด้วยความรัก



"โอเคครับ กินเร็ว ตอนบ่ายมีเรียนไม่ใช่เหรอ"



ชะเอมพยักหน้า "เอมเรียนบ่ายสองครึ่ง คินล่ะ"



"ไม่มีนะ"



"อ้าวเหรอ ถ้างั้นเดี๋ยวทานมื้อเที่ยงเสร็จ คินก็กลับห้องก่อนเลยนะ" ชะเอมรีบบอก อีกฝ่ายกลับมาอยู่ที่ห้องด้วยกันแล้ว แล้วก็บอกด้วยว่าก่อนหน้านี้ที่ออกไปอยู่คนเดียวก็ไปเช่าหอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัย ไม่ได้อยู่กับเรย์อย่างที่เข้าใจผิดมาตั้งนาน



'ขอโทษนะที่ทำให้เสียใจมาตลอด ขอโทษที่คินทิ้งให้เอมอยู่คนเดียว' เสียงทุ้มเอ่ยขอ มือใหญ่ช้อนจับมือบางขึ้นกอบกุม 'เอมครับ...คินขอกลับมาอยู่ด้วยได้มั้ย'



ร่างบางฟังแล้วน้ำตาซึม 'ไม่เห็นต้องขอเลย เพราะยังไงห้องนี้ก็เป็นของคินมาตั้งแต่แรกแล้วนี่นา'



ไม่ว่าอะไร...ก็ไม่ใช่ของๆ เขาเลยแม้แต่อย่างเดียว



'แต่คินอยากขอ อยากให้เอมรู้และเข้าใจว่าห้องนี้เป็นของเราสองคน ไม่ใช่ของคินคนเดียว' ร่างสูงมองตรงมาอย่างอ่อนโยน ยกมือบางขึ้นจรดริมฝีปากแผ่วเบา 'นะครับ ให้คินกลับมาอยู่ด้วยนะ...คิดถึงอาหารฝีมือเอมจะแย่แล้วเนี่ย'



'ครับ เอมอยู่คนเดียวก็เหงาเหมือนกัน' ชะเอมยิ้มดีใจทั้งน้ำตา 'ยินดีต้อนรับกลับครับ'



"เดี๋ยวคินรอ"



ร่างบางรีบวางช้อนส้อมลง โบกมือห้าม "ไม่ต้องๆ เดี๋ยวเอมเรียนเสร็จเอมจะไปทำงานพิเศษต่อครับ คินกลับไปรอที่ห้องเลย"



คินขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินว่า 'ทำงานพิเศษ'



"คินไม่ให้ทำ"



ดวงตากลมโตเบิกกว้าง "หืม ไม่ได้นะครับ  นี่โชคดีด้วยซ้ำที่พี่ฝนไม่ไล่เอมออกเพราะหยุดงานติดกันตั้งหลายวันแต่ไม่โทรบอกพี่เขาก่อน"



"แต่มันเหนื่อย คินไม่อยากให้ทำแล้ว"



"แต่เอม..."



"แล้วเอมจะทำไปถึงเมื่อไหร่" สายตาคมหม่นแสงลง "นี่อย่าบอกนะว่าเอมยังคิดมากเรื่องคำพูดของคินอยู่"



"เปล่านะครับ..." ชะเอมปฏิเสธเสียงเบา เพราะมันก็เป็นอย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ



"เอมยังโกรธคินอยู่ใช่มั้ย"



ร่างบางส่ายหน้า "เปล่านะ"



"แล้วทำไม? ...ที่คินห้ามเพราะเป็นห่วงเอม พอวันนั้นเห็นเอมทำงานหนักไม่สบาย ไม่บอกใคร ไม่บอกแม้แต่คิน...ถ้าวันนั้นคินไม่ไปรับ แล้วเอมจะกลับยังไง ถ้าหากเป็นลมล้มอยู่ที่ไหนแล้วไม่มีใครรู้ล่ะ?" ยิ่งพูดยิ่งนึกโทษตัวเอง "แบบนี้คินจะปล่อยให้เอมทำงานต่อไปได้ยังไง"



ชะเอมกัดปากแน่น



"แต่เอมอยากทำ แล้วเอมจะไม่ฝืนแล้วก็ได้ ถ้ารู้สึกไม่ดีเมื่อไหร่เอมจะบอกทันทีเลย...นะครับ"



คินถอนหายใจ แบบนี้อีกฝ่ายไม่ยอมแน่ๆ จึงตัดสินใจงัดเหตุผลนี้มาใช้แทน



"แต่คินอยากอยู่กับเอม กลับบ้านพร้อมกัน กินข้าวด้วยกัน"



"..."



"อยากจะใช้เวลาช่วงนี้ทดแทนเวลาทั้งหมดที่เสียไป...หรือว่ามีแค่คินที่รู้สึกแบบนี้"



"...ไม่ครับ เอมก็..." อยากจะอยู่ด้วยกัน ร่างบางตัดสินใจกลั้นใจร้องขอ "แต่เอมอยากจะทำจนกว่าสิ้นเดือนนี้ ได้มั้ยครับ"



คินมองตากลมอ้อนวอนแล้วได้แต่ถอนหายใจ กว่าจะสิ้นเดือนนี้ก็เหลืออีกตั้งอาทิตย์กว่าๆ



"ก็ได้" พอพูดจบปุ๊บดวงตาสีดำเหมือนลูกกวางก็เป็นประกายระยิบ แต่ก่อนที่จะให้ชะเอมได้ใจ เสียงทุ้มก็เอ่ยจนเปลี่ยนเป็นหน้างอ "แต่เอมต้องให้คินไปรับไปส่ง เลิกทำงานแล้วโทรมาหาด้วย"



"แต่...!"



"ห้ามขัด ห้ามปฏิเสธ"



"...แต่เอมเดินทางเองได้ มันจะทำให้คินลำบากเปล่าๆ นะ" เสียงใสยังอดเถียงออกมาไม่ได้ แต่ก็แผ่วเบาลงทุกที พลันสบตากับสายตาคมที่มองมาก็ต้องตอบรับอย่างเดียว แม้หน้าจะมุ่ยขนาดไหน "...ก็ได้"



"โอเคกินข้าวต่อ เดี๋ยวไม่ทันนะ"



"..." ชะเอมตักข้าวเข้าปากเงียบๆ แต่คิ้วมุ่นนั่นทำให้คินอดหัวเราะในลำคอไม่ได้



"งอน...งอน" แขนยาวเอื้อมไปหยิกแก้มใสที่เคี้ยวข้าวตุ่ยๆ จนยืด



"ฮื่อ!!"



มือบางตีแขนคนตรงข้ามดังเพียะ ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มจากร่างสูงที่ไม่สะทกสะท้านกลบด้วยเสียงจอแจของคนรอบข้าง ก่อนที่ทั้งสองจะลงมือกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย







************************Whose fault? ************************







"ขอบคุณมากครับที่มาอุดหนุน"



"ขอบใจชะเอมมากเลยวันนี้" ผู้จัดการสาวที่ไม่ได้เจอมาหลายวันพูดขึ้น ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้น่าจะประมาณสี่ห้าวันได้



ชะเอมยิ้ม "ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ฝนที่ไม่ไล่ผมออก"



"ก็ถ้าฟ้าไม่บอกพี่ว่าเอมไม่สบายล่ะก็นะ พี่กะจะไล่ออกอยู่แล้ว" สาวเจ้ากอดอกพูดเหมือนขู่ แต่ใบหน้ากลับไม่ได้สื่อแบบนั้น



"ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ"



"เอาล่ะๆ ไม่ต้องขอโทษแล้ว" ฝนถอนหายใจกับความเกรงใจที่ร่างผอมบางแสดงออกมา ก่อนจะพยักเพยิดไปทางคนที่ยืนเช็ดโต๊ะเก็บเก้าอี้อีกทาง "ถ้าจะขอโทษล่ะก็ไปขอโทษเจ้านั่นดีกว่า ป่านนี้งอนตุ๊บป่องแล้วมั้ง เห็นหน้าแบบนั้นก็เถอะ"



พูดจบก็หัวเราะเสียงดังแล้วเดินไปหลังร้าน ชะเอมยิ้มแหยหันไปมองที่รุ่นพี่ตัวสูงผมทอง ขาเรียวเดินเข้าไปหา



"พี่เหน่ง..."



เจ้าของชื่อชะงักมือที่กำลังเช็ดโต๊ะ ปรายตามองกลับมานิดนึง "ว่า"



ชะเอมแอบหน้าเสียกับคำพูดสั้นห้วนของอีกฝ่าย "ผมขอโทษครับ"



"ขอโทษเรื่อง"



"ก็วันนั้น...ที่ผมทำให้เดือดร้อน"



โป๊ก!



"โอ๊ย! ...เจ็บ" มือบางยกขึ้นกุมหน้าผากที่แดงเพราะถูกมะเหงกเขก ชะเอมน้ำตาเล็ด...เจ็บอะ



"พี่โกรธเรื่องนั้นที่ไหน!"



"อ้าว แล้ว..."



"เอ็งนี่จริงๆ เลย" ร่างสูงกว่ายกแขนขึ้นกอดอก ใช้นิ้วจิ้มตรงที่เขกจึ้กๆ จนใบหน้ามนแหงนหงาย"ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงต่างหาก!"



"ขอโทษที่...ทำให้เป็นห่วง?" ชะเอมมองงุนงง "พี่เป็นห่วงผมเหรอ"



คนหัวทองได้ยินแล้วคิ้วกระตุกยิกๆ "...ไอ้เจ้าเด็กคนนี้"



"ขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วง พี่เหน่ง" ร่างบางแย้มยิ้ม "ถึงผมจะเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน แต่ผมก็ดีใจที่ได้รู้จักกับพี่เหน่งนะครับ"



"อีกแค่อาทิตย์เดียวสินะ"



"รู้แล้วเหรอครับ"



"อือ ก็พี่ฟ้าบอก" เหน่งใจโหวงๆ เหมือนกันเพราะสนิทกับร่างบางพอควร คุยถูกคอ แถมยังสุภาพน่าเอ็นดู



"ทำไมถึงเลิกทำแล้วล่ะ"



"คือว่า...ฟะ แฟนเอมเขาไม่อยากให้ทำน่ะครับ ตั้งแต่ป่วยคราวนั้น" ชะเอมเกาแก้มหน้าแดงเรื่อ พอพูดออกมาเองแบบนี้ก็ทำให้เขินเหมือนกันนะเนี่ย



"โอ้โห นี่เอ็งมีแฟนด้วยเหรอ อิจฉาวุ้ย" รุ่นพี่ผมทองแซวล้อๆ ให้ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นไปอีก “สาวที่ไหนวะ”



ชะเอมเงียบ ถ้าบอกว่าเป็นผู้ชาย พี่เหน่งจะตกใจหรือเปล่านะ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถามไปงั้นไม่ได้สนใจมากมายเท่าไหร่



"ไหนมากอดหน่อย เดี๋ยวก็จะไปแล้วนี่ แค่อาทิตย์เดียวแปปเดียวก็จบแล้ว" ร่างสูงกางแขน ซึ่งชะเอมก็เอื้อมกอดให้รุ่นพี่ตัวใหญ่ที่ดูอบอุ่นผิดจากรูปลักษณ์ภายนอกได้ลูบหลังลูบหัวคลายความเหงา



"คิก...พี่เหน่งอย่าจับเอวมันจั๊กจี๋ครับ"



"นี่แน่ะๆ" ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ทำให้ร่างผอมดิ้นขลุกขลักหัวเราะไม่หยุด



"เฮ้อ...ว่างๆ ก็มาอุดหนุนกันบ้างละกัน พี่จะได้ขึ้นเงินเดือนกับเขาบ้าง"



"แหม พี่เหน่งก็พูดไป ตอนนี้ผมยังไม่ออกสักหน่อยนะครับ"



เสียงใสหัวเราะขำกับคำพูดที่ดูเหมือนจะเอาจริงหรือล้อเล่นก็ไม่รู้ ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอด พลันดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อมองออกไปนอกกระจกร้านเจอร่างสูงคุ้นตายืนอยู่



"คิน!?" ขาเรียวรีบเร่งเดินออกมานอกร้าน "คิน ทำไมมาเร็วจังเลย"



"..."



"เอมว่าจะให้มารับหน้าห้างจะได้ไม่ต้องเดินเข้ามา"



"..."



"คิน...เป็นอะไรเหรอ"



ทำไมหน้าบึ้งจัง...



"ทำไมโทรมาไม่รับ"



มือบางตบกระเป๋ากางเกง ก่อนจะนึกได้ "อ๋อ คือโทรศัพท์อยู่ในล็อกเกอร์ครับ"



"แล้วทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดอีก"



 "คือเอม..."



"ไอ้หมอนั่นเป็นใคร"



"เอ๊ะ?"



"ทำไมถึงยืนกอดกัน"



"คิน เดี๋ยว เอมตามไม่ทัน..." ครั้นจะคิดอะไรเกี่ยวกับคำถาม มันก็งุนงง ไม่ทันได้ทำความเข้าใจ คินก็ดันถามมาอีก



"ไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวนี้ กลับบ้านแล้วค่อยคุยกัน!"







"เล่ามา"



"จะไม่อาบน้ำก่อนเหรอ" ร่างบางขยับตัวขยุกขยิก เพิ่งทำงานกลับมาเหนียวตัวจะตายอยู่แล้ว ยังให้มานั่งตักกอดเอวแนบชิดแบบนี้ กลัวอีกฝ่ายจะเหม็นหัวเหม็นตัวเองมากกว่าไม่ใช่อะไร



แต่ดูเหมือนร่างสูงจะไม่รอ ใบหน้าคมขึงขัง



"เล่า! ถ้าไม่น่าพอใจวันนี้ก็ไม่ต้องอาบน้ำเลย"



"ฮื่อ...ทำไมวันนี้อารมณ์ไม่ดี"



"ก็เพราะใครล่ะ"



"เอมทำอะไร?" ชะเอมทำหน้างงสงสัยสุดๆ ไม่คิดว่าจะไปทำอะไรให้คินโมโหด้วยซ้ำไป



"เอมขอโทษที่ไม่รับโทรศัพท์คิน"



"ไม่ใช่เรื่องนั้น"



"หรือเอมปล่อยให้คินรอนาน คินหิวข้าวเหรอ" แต่มันผ่านข้าวเย็นมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว ก็น่าจะกินมาแล้วนี่นา



ร่างสูงคิ้วกระตุก ดูเหมือนสิ่งที่ร่างบางคาดเดาจะหลุดจากเป้าหมายไปไกลลิบ คินชักจะเหงื่อตกที่แกล้งทำเป็นโกรธชะเอมซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวสักนิดว่าทำอะไรผิด...



คิดผิดซะแล้วมั้ง



"ทำไมถึงปล่อยให้คินรอนาน" เสียงทุ้มเริ่มด้วยคำถามที่คิดว่าจะนำมาสู่คำตอบที่ต้องการ



ร่างบางนิ่งคิด "ก็เอมคุยกับพี่ที่ทำงานอยู่"



อ้อ ไอ้หมอนั่นคือพี่ที่ทำงานสินะ...คำตอบแรกเก็ท



"แล้วทำไมต้องคุย เวลาเลิกงานก็กลับบ้านสิ"



"พี่เขาเป็นห่วงเอมที่หยุดไปหลายวันเพราะไม่สบาย เอมเลยไปขอโทษที่ทำให้เขาเป็นห่วงแค่นั้นเองครับ" ร่างบางพูดไปยิ้มไป ยิ่งทำให้อารมณ์ขึ้น ยิ่งคำว่า 'เป็นห่วง' ออกจากปาก อารมณ์ยิ่งขึ้นคูณสอง...คำตอบที่สองไม่เก็ท! แล้วก็ไม่อยากเก็ทด้วย!



"แล้วทำไมต้องกอดกันด้วย หืม" คินถามเสียงเย็น คำถามนี้ถ้าตอบไม่ดีจะโดนไม่ใช่น้อย



"ก็เอมบอกผู้จัดการไปแล้วว่าจะทำแค่ถึงสิ้นเดือนนี้ แล้วพี่เหน่งก็แค่ขอกอดเพราะเดี๋ยวจะไม่เจอกันแล้ว เอมว่าเขาอาจจะเหงาถ้าเอมลาออก"



พอฟังได้ แต่ก็ไม่โอเคอยู่ดี...คำตอบที่สามไม่เก็ท!



"ต่อไปนี้ห้ามเอมไปกอดกับใคร แม้จะเพื่อนหรือรุ่นพี่อะไรที่ไหนก็ช่าง ห้าม!"



ตาโตกระพริบปริบกับคำพูดราวกับคำสั่ง "แต่นั่นพี่ที่ทำงานนะ เอม..."



"จะเป็นใครก็ห้ามกอดทั้งนั้น ต่อไปนี้คินห้ามเด็ดขาดยกเว้นคินกับพ่อ อ่อ อากฤษก็ได้ไม่ห้าม"



"เอ๋..." เสียงใสสูงครางยาวอย่างคนไม่เข้าใจ "ทำไมล่ะครับ"



"จะให้คินยอมเห็นแฟนตัวเองไปกอดกับ(ผู้ชาย)คนอื่นแบบนี้เหรอ...คินก็หึง หวงเป็น" คำนั้นที่ละไว้เพราะเดี๋ยวเจ้าตัวเถียงออกมาซื่อๆ ว่าเป็นผู้หญิงก็ได้ใช่ไหม...เพราะงั้นเหมารวมไว้ก่อนดีกว่า



"คินหึงเหรอ" ดวงตากลมทำตาโต แก้มขึ้นสีระเรื่อ



"หึง"



"แต่นั่นแค่พี่"



"จะพี่หรือน้องหรือเพื่อนก็หึงหมดแหละ" ร่างสูงคิ้วกระตุกกับคนที่ไม่เข้าใจอะไรเสียเลย "หรือจะให้คินไปกอดกับผู้หญิงคนอื่นก็ได้งั้นเหรอ...เอมยอม?"



คิ้วบางขมวดเมื่อนึกภาพตาม ปากบางเบะออกพูดเสียงสั่นเครือ "...ฮื่อ ไม่เอา"



แขนบางกอดลำคอคนตรงหน้าอย่างเด็กหวงของ แค่คิดก็น้ำตาซึม มือใหญ่จึงลูบแผ่นหลังบางปลอบใจนี่แค่ยกตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้จะทำจริงๆ แต่แค่นี้ก็ทำให้ใจน้อยๆ เสียได้แล้ว



"เห็นมั้ย คิดถึงใจคินบ้างสิ"



"...เอมขอโทษ"



"ครับ แต่หลังจากนี้ช่วยระวังตัวเองหน่อยนะ เมื่อกี้คินเห็นแล้วก็โกรธมากเลย" จริงๆ แล้วไม่ได้โกรธมากแต่ก็โกรธล่ะ



ชะเอมดันตัวออกแล้วร้องออเหมือนเพิ่งนึกออก "เอมก็ว่าทำไมคินหน้าบึ้งจัง"



นิ้วยาวจิ้มหน้าผากมนกับคิ้วมุ่นๆ อย่างหมั่นเขี้ยว "ก็คนบื้อแถวๆ นี้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยมากกว่า"



"ฮือ...ก็เอมไม่รู้ เอมขอโทษ"



"แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย" นี่เป็นสิ่งที่ตะขิดตะขวงใจที่สุด



พอได้ยินแล้วแก้มก็แดง นี่เห็นตอนนั้นด้วยเหรอ "...นี่คินยืนอยู่ตรงหน้าร้านนั่นนานแค่ไหนเนี่ย"



"ไม่บอก...ตอบมาได้แล้ว" พอยิ่งคาดคั้นแก้มใสยิ่งแดงทำให้มือใหญ่หยิกแก้มแดงๆ นั่นจนยืดทั้งสองข้าง "ตอบ...มา..."



"อื้อ~ เอ็บ~"



ร่างบางโอดครวญ จนมือใหญ่ยอมปล่อย มือบางยกขึ้นลูบแก้มแดงที่มีรอยหยิกน้ำตาเล็ด



"งือ...ก็พี่เหน่งเขาถามเอมว่าทำไมถึงไม่ทำงานแล้ว" เสียงใสอุบอิบ ดวงตากลมหลุบต่ำไม่กล้าสบ ใบหน้าร้อนผ่าว "อะ เอม...ก็เลย...บอกว่า..."



"..."



ริมฝีปากคมยิ้มกว้าง คว้าคนตัวบางกอดแน่นแนบอก สิ่งที่ได้ยินทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจ...หัวใจเต้นรัว ดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



'...บอกว่า...แฟนเอมเขาไม่อยากให้ทำ'



คำตอบสุดท้ายเก็ท...โคตรเก็ทเลย



"คิน...กอดแน่นเกินไปแล้ว เอมเจ็บ"



"โทษที มันดีใจ" แขนยาวคลายออกเล็กน้อย ให้ชะเอมผละออกเล็กน้อย



"แบบนี้แสดงว่าหายโกรธแล้วใช่มั้ย"



"...ยัง"



"แล้วต้องทำยังไง...ถึงจะหายโกรธล่ะ"



พอพูดจบปุ๊บเหมือนชะเอมจะเห็นรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมทันที



"งั้น...จูบ"



ใบหน้าหวานร้อนผ่าวทันทีที่ได้ยิน มือบางผลักไสและเริ่มดิ้นหนี "ไม่เอา คินเอาเปรียบกันชัดๆ เลยนี่นา"



"เอาเปรียบที่ไหน เวลาจูบก็เห็นเอมรู้สึกดีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ"



ร่างบางเขินตัวแดง ราวกับมีควันออกจากใบหูเล็กที่แดงก่ำ



ไม่ปฏิเสธที่คินพูด...ก็มัน...รู้สึกดีจริงๆ นั่นแหละ



"นะ คราวนี้เอมเป็นฝ่ายเริ่ม นะครับ..." เสียงทุ้มอ้อนๆ ก่อนที่ตาจะเบิกกว้าง ลมหายใจสะดุดเมื่อจู่ๆ ริมฝีปากหยักก็ได้สัมผัสนุ่มอุ่นแนบชิดและกลิ่นหอมหวานจากกายบาง ดวงตากลมโตปิดพริ้มทั้งๆ ที่ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเขินอายแต่ก็ตอบรับคำขอของเขา



ร่างสูงกำลังเพลิดเพลินกับการละเลียดสิ่งนุ่มละมุน แขนยาวผ่อนคลายร่างในอ้อมกอดเล็กน้อย ทันใดนั้นชะเอมก็ถือโอกาสผุดลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว



ปัง!



"...หะ?" ใบหน้าคมเหวอสุดขีด ยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะตั้งสติได้และตะโกนออกมา "เอม!!"



"เอมจะอาบน้ำแล้ว ตัวเหนียว!"



นั่นมันข้ออ้างชัดๆ!



ปังๆ!



คินทุบประตูไม่เบานักทำให้คนที่อยู่ในห้องน้ำกำลังถอดเสื้อสะดุ้งหันขวับมามอง



"เอม ออกมาโดนแน่!" โทษฐานมาหลอกให้เขาเคลิ้มแล้วจากไปแบบนี้



"ไม่เอา ถ้าคินทำอะไรมากกว่านี้เอมจะนอนในห้องน้ำจริงๆ ด้วย"



"ทำมากกว่านี้คือทำอะไร แล้วอีกอย่างเอมยังไม่ได้จูบคินเลยนะ!"



"เอมจูบไปแล้ว!"



"นี่ไม่ได้เรียกว่าจูบซักหน่อย" จูบเด็กๆ แบบที่แค่สัมผัสแบบนั้นน่ะ "ถ้าจูบน่ะต้องใช้ลิ้น..."



"คินคนบ้า! ออกไปเลยนะ!! หื่น! โรคจิต!" เสียงใสด่าดังก้องในห้องน้ำอย่างต่อเนื่อง ไม่เห็นภาพแต่ก็พอจะนึกออกว่าอีกคนคงเขินกับสิ่งที่เขาพูดจนหน้าแดงตัวแดงก่ำ "ถ้ายังไม่หยุดพูดอีกเอมจะไม่ให้นอนด้วยแล้ว!"



เท่านั้นแหละร่างสูงหยุดการกระทำทุกอย่างทันที ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน



ฮึ่ม...ยอมก็ได้!







************************Whose fault? ************************

 

อีคินน่าหมั่นไส้เนอะ เอาแต่จะตักตวงหนูเอม ออกไปไกลๆเลยค่ะ!!! ทีมชะเอมเพียบนะคะแถวนี้

มีคนสงสัยว่าเมื่อไหร่นางคินจะรู้เรื่องเอมเป็นโรคหัวใจ...เดี๋ยวก็มาๆ

มีคนสงสัยว่าเรย์ไปไหน...เดี๋ยวมันก็มา ใกล้แล้วด้วย เขาว่ากันว่าตอนลมสงบนี่แหละน่ากลัวที่สุด

เพราะพายุมันกำลังจะพัดมาแล้ว

ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายที่จะลงก่อนส่งหนังสือล็อตแรกที่จองเอาไว้ อิ๊วๆ!

ใครอยากอ่านทั้งเรื่องจบในอาทิตย์หน้า ก็รีบมาอุดหนุนหนังสือกันนะค้า ติดต่อที่เพจ H.Rui Novels เลย!



ส่วนอีกเรื่องอยากจะฝาก นั่นครือออ! ...รุยลงทดแทนรัก Introduction ไปแล้วเด้อออ

ใครอยากอ่านคู่ติมราม หรือกำลังรอคอย ไปอ่านได้ในธัญวลัยและอย่าลืมเม้นๆ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยนะก๊า

ขอบคุณค่าาา></////




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
หวานกันจริงๆ เรย์มานี่ดราม่าแน่นอน,,,

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ช่วงของเรย์นี่จะหนักหนาสาหัสมาไหมคะ กลัวใจเหลือเกิน แต่กรี้ดกร้าด ดีใจมีคู่ของติมรามเพิ่ม  จะตามไปอ่านค่า แต่ถ้ามาลงในเล้าด้วยจะดีใจมาก เลยค่า :katai2-1:

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


                      Whose Fault ?

                      ผิด...ครั้งที่ 31



โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม



เพจติดตามคนดัง

'คินสุดหล่อ กับ ชะเอมหนุ่มหน้าหวานประกาศตัวปังๆ เป็นแฟนกันแล้วค่า! ไม่พูดเปล่าแต่โอบเอวกันด้วยนะค้า!! แซ่บเวอร์ไม่มีใครเกิน'

<แนบรูป>

'ใครอยากรู้ว่าคู่นี้ยังไงๆ กัน เราไปติดตามกันเลย!'

แอดมิน : เอ่อ ขอโทษนะค้า น้องคิน พี่ขอสัมภาษณ์หน่อยได้มั้ยคะ เป็นแอดมินจากเพจติดตามคนดังน่ะค่ะ (คิน หนุ่มหล่อเดือนคณะวิศวะคนเถื่อนกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับชะเอม หนุ่มน้อยหน้าหวานคนดังคณะอักษรปีเดียวกันที่มองมาทางแอดตาโตเหมือนลูกกวาง พอได้เห็นใกล้ๆ แล้วน่ารักมากเว่อร์สมคำล่ำลือจริงๆ ค่ะ)

คิน : ขอโทษครับ เวลาส่วนตัว

ชะเอม : คะ คิน... (น้องหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย)

แอดมิน : งั้นถ้ารอจนทานข้าวเสร็จแล้วได้มั้ยคะ (แอดมินตะล่อมถาม พอเจอสายตาคมกริบตวัดมองก็แทบมุดโต๊ะหนี)

คิน : ถามชะเอมดูละกันนะครับ ถ้าเขาโอเคผมก็โอเค

แอดมิน : ได้มั้ยคะน้องชะเอม

ชะเอม : คะ คือ... (เหล่มองคิน เหมือนขอคำอนุญาต ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ) ก็ได้ครับ

-รอจนทานข้าวเสร็จ-

คิน : จะสัมภาษณ์เรื่องอะไรครับ (ทั้งสองคนย้ายไปนั่งฝั่งเดียวกันแล้วให้แอดนั่งตรงข้าม)

แอดมิน : เรื่องทั่วไปนิดหน่อยน่ะค่า ไม่ต้องอึดอัดนะค้า ถ้าเรื่องไหนไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้

คิน : (นิ่งไปแปปนึง) จะสัมภาษณ์ก็ได้ แต่ผมจะให้ชะเอมอยู่ด้วย

ชะเอม : จะดีเหรอ? เอมอยู่แล้วมันจะรบกวนเปล่าๆ ...

คิน : ถ้างั้นผมก็ไม่สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้นครับ

แอดมิน : ไม่มี๊~ไม่มีปัญหาเลยค่ะ! (แอบเช็ดเหงื่อ) จริงๆ แล้วก็ถ้าไม่รบกวนเกินไปแอดมินก็อยากจะสัมภาษณ์น้องชะเอมด้วย

ชะเอม : เอ๊ะ...ผมเหรอ? (เจ้าตัวชี้หน้าตัวเองงงๆ ...ทำหน้าน่ารักอีกแล้ว)

แอดมิน : ใช่ค่า

ชะเอม : ก็ได้ครับ ถ้าไม่รังเกียจ (เจ้าตัวว่ายิ้มบางๆ ...ก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆ) แต่ว่าผมมีเรียนบ่ายสองครึ่ง...

แอดมิน : โอ้ ทันแน่นอน แอดรบกวนแค่แปปเดียวค่ะ...แปปเดียว

แอดมิน : ถ้างั้นแอดขอเริ่มการสัมภาษณ์เลยนะคะ รบกวนทั้งสองคนช่วยแนะนำตัวหน่อยนะคะ ขอเป็นชื่อ สกุล ชื่อเล่น อายุ วันเดือนปีเกิด คณะและเอกที่เรียน งานอดิเรก ส่วนเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้จะพูดอะไรก็ได้ค่ะ เริ่มจากน้องคินก่อนเลย

คิน : ครับ คินครับ ภาคิน อนันต์โภคทรัพย์ อายุยี่สิบเอ็ด เกิดวันที่สามสิงหา เรียนวิศวะโยธาฯ งานอดิเรก...ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ

แอดมิน : ค่ะ ต่อไปน้องชะเอม

ชะเอม : ครับ เอมภัทร อนันต์โภคทรัพย์ ชื่อเล่นชื่อชะเอมนะครับ อายุยี่สิบปี เอ่อ เรียนคณะอักษรเอกภาษาจีนครับ

แอดมิน : วันเกิดล่ะคะ

ชะเอม : อ้อ หนึ่งมกราคมครับ

แอดมิน : มีงานอดิเรกมั้ยคะ

ชะเอม : (อมยิ้ม) ชอบทำอาหารมากๆ ครับ

แอดมิน : ขอบคุณมากค่ะ เอ...ตายจริง! พี่เพิ่งสังเกตว่าเราสองคนนามสกุลเดียวกันเลย (แอบเห็นน้องเขาสะดุ้งหน่อยๆ) อย่าบอกนะคะ...ว่าจดทะเบียนสมรสกันแล้ว!? โอมายก็อด!

ชะเอม : ปะ ปะเปล่านะครับ (หน้าแดงแปร๊ด)

คิน : คำถามนี้ขอไม่ตอบแล้วกันครับ (ยิ้มกรุ้มกริ่ม)

แอดมิน : อ่ะค่ะ แหม อยากรู้ใจจะขาด...จะว่าไปน้องชะเอมเรียนปีเดียวกับน้องคินใช่มั้ยคะ

ชะเอม : คะ ครับ (ยังหน้าแดงอยู่)

แอดมิน : แล้วทำไมอายุเราถึงอ่อนกว่าหนึ่งปีล่ะ

ชะเอม : อ๋อ คือผมเรียนเร็วหนึ่งปีครับ

แอดมิน : โอ้ว ว้าว เป็นคนหัวดีใช่มั้ยคะ

ชะเอม : (ทำตาโตส่ายหน้าหวือ) ไม่หรอกครับ เรื่องธรรมดา สมัยนี้ใครๆ ก็เรียนเร็วกันทั้งนั้น

คิน : เขาเป็นคนเก่งครับ แต่ชอบถ่อมตัว เกรงใจเป็นที่หนึ่ง (มีโมเมนต์ลูบหัว ยิ้มอ่อนโยน อ๊าย)

แอดมิน : แหม ชมกันแบบนี้ คนไม่เกี่ยวข้องยังเขินเลยนะคะเนี่ย...ขอถามนิดนึงได้มั้ยคะ มีหลายๆ คนว่าน้องคินเป็นคนน่ากลัวระดับหนึ่งเลย ทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ แต่พอเห็นอยู่กับน้องชะเอมแบบนี้ดูอบอุ่นอย่างกับคนละคนแน่ะ

คิน : ก็...

ชะเอม : ไม่เลยครับ คินเป็นคนเก่ง ใจดีแล้วก็อ่อนโยนมาก ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงไม่กล้าเข้าใกล้น่ะผมขอยืนยันว่าไม่จริงเลยสักนิด เพราะคินเขาฮอตมากเลยนะครับ

แอดมิน : โอ้...

คิน : (หัวเราะในลำคอ เจ้าเล่ห์มาก) หึงเหรอ

ชะเอม : ...ไม่ใช่สักหน่อยครับ (พูดอุบอิบทั้งหน้าแดง)

แอดมิน : จริงๆ แล้วแอดว่าน้องคินน่าจะใจดีกับแค่น้องชะเอมนะคะ

คิน : คนเราก็ต้องมีคนพิเศษ ปฏิบัติแบบพิเศษๆ กันทั้งนั้นแหละครับ (สายตาอบอุ่นหันมองไปที่น้องเอมที่ตัวแดงเป็นกุ้งไปแล้ว)

แอดมิน : เอาล่ะค่ะ อย่าเพิ่งจีบกันตอนนี้นะคะ เพราะแอดจะเขินแทนน้องชะเอมแล้ว...อะแฮ่ม! ต่อไปเป็นคำถามจริงจังแล้วนะคะ ได้ข่าวว่าคินเพิ่งจะคบกับน้องเรย์มาไม่ใช่เหรอคะ อันนี้แฟนคลับแอบกระซิบถามมา (แอดรู้สึกผิดสุดเพราะตอนนั้นเห็นน้องชะเอมทำหน้าเศร้ามาก)

คิน : ผม...ใช่ครับ เป็นความจริง แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว เราเลิกกันแล้วครับ (น้องคินกุมมือน้องเอมใต้โต๊ะแต่แอดเห็นนะ)

แอดมิน : แต่ยังเห็นน้องเรย์บอกใครต่อใครว่าเป็นแฟนกับน้องคินอยู่เลยนะคะ

แอดมิน : หรือว่าน้องคินเลิกกับอีกฝ่ายฝ่ายเดียวรึเปล่าคะ แต่น้องเรย์ไม่รู้เรื่อง

คิน : ไม่ครับ ผมบอกต่อหน้าเขาเลย แต่...ดูเรย์ก็เหมือนจะไม่ยอม

คิน : จริงๆ แล้ว ผมผิดเองที่รับปากคบกับเขาทั้งๆ ที่ไม่เคยชอบเขาเลย...ผมทำร้ายความรู้สึกดีๆ ของเขา พอนานเข้าอะไรๆ มันแย่ลงด้วย ผมเลยขอเลิกครับ

แอดมิน : ค่ะ แล้วทำไมถึงเลิกกันคะ พอจะบอกได้ไหม

คิน : อย่างที่บอกคือนิสัยเราเข้ากันไม่ค่อยได้ พอคุยกันนานเข้าก็มีแต่ปากเสียงกัน ผมเลยคิดว่าเราน่าจะเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า แล้วตอนนั้นผมก็มารู้ตัวว่าชอบเอมเข้าแล้ว (มองด้วยสายตาอบอุ่นอีกแล้ว ใจแอดจะละลาย)

แอดมิน : แหม โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะ งั้นคำถามต่อไป เป็นเรื่องของน้องชะเอมก่อน ...น้องชะเอมคะ

ชะเอม : คะครับ (น้องทำตาโตตื่นๆ)

แอดมิน : ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ แอดไม่กัดค่ะ

ชะเอม : (เกาแก้มยิ้มเขินๆ) ขอโทษครับ คือผมเพิ่งเคยโดนสัมภาษณ์อะไรแบบนี้ ก็เลยตื่นเต้นนิดหน่อยก็ผมไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนคินเขา

แอดมิน : อุ๊ยตาย (อุทานหนักมาก) นี่น้องชะเอมไม่รู้เหรอคะว่าตัวเองฮอตพอๆ กับน้องคินนั่นแหละค่า

ชะเอม : เอ๊ะ...เอ่อ อันที่จริงเหมือนผมก็เคยได้ยินประมาณนี้เหมือนกัน แต่ไม่จริงหรอกครับ (เจ้าตัวโบกไม้โบกมือ)...ใช่มั้ยคิน

คิน : ไม่รู้สิ (ยิ้มบาง)

ชะเอม : เห็นมั้ยครับ ขนาดคินยังไม่รู้เลย แสดงว่าผมไม่น่าจะฮอตแบบที่เขาว่ากันหรอก (พยักหน้ายืนยันสีหน้าจริงจังมาก)

แอดมิน : อ่ะค่ะ (แอดไม่อยากเถียงคนซื่อ) ถ้างั้นเริ่มคำถามกันเลยนะคะ...น้องเอมมาคบกันน้องคินได้ยังไงคะ

ชะเอม : คะ คือ...เริ่มยังไงดี เรื่องมันยาวมากเลยครับ (ขมวดคิ้วลำบากใจ)

แอดมิน : เอาสั้นๆ ก็พอค่ะ

ชะเอม : ครับ จริงๆ แล้วเอมเป็นคนชอบคินก่อน (พูดเสียงเบ๊าเบา แถมแก้มแดงอีกแล้ว...น่ารักอะ) แล้วก็ขอโอกาสอยู่ใกล้ๆ เขาครับ

แอดมิน : ยังไงคะ

ชะเอม : ก็ผมขอให้เขามากินข้าวด้วยกันทุกอาทิตย์ครับ

แอดมิน : แค่อาทิตย์ละครั้งเองเหรอคะ

ชะเอม : แค่นั้นผมก็ดีใจแล้วครับ ตอนแรกนึกว่าคินจะไม่อนุญาตด้วยซ้ำ

คิน : ก่อนหน้านี้ผมทะเลาะกับเอมเพราะเข้าใจผิดกัน ก็เลยคุยกันค่อนข้างลำบาก แต่ชะเอมก็ดีกับผมมาตลอด และความรู้สึกของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยน

แอดมิน : อูว ฟังแล้วซับซ้อนซ่อนเงื่อนนะคะ

ชะเอม : ครับ แล้วก็จนมีวันหนึ่งผมไม่สบายเขาก็ตามมาดูแลจนหาย แล้วเราก็คุยกันดีขึ้น แล้วก็...(หน้าแดงแปร๊ด แอดพอจะรู้ว่าเพราะอะไร)

แอดมิน : หลังจากนั้นก็เป็นแฟนกันสินะคะ (ซึ่งเจ้าตัวพยักหน้าก่อนก้มงุดๆ ดูเขินมากเว่อ)

แอดมิน : ใครเป็นคนขอใครเป็นแฟนคะ

คิน : ผมเองครับ (ยิ้มละมุน) ก็เขาจีบมาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องหลงรักสิครับ

แอดมิน : เบานิดนึงก็ได้ค่ะ ดูน้องชะเอมสิตัวแดงเป็นกุ้งแล้ว

แอดมิน : ดูไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าน้องเอมเป็นคนเริ่มจีบก่อนแบบนี้ ผิดคาดมากค่ะ

คิน : เขาเป็นคนที่ความรู้สึกมั่นคงมาก แล้วก็เป็นคนอ่อนโยน ใจดี สุดท้ายคนไปไหนไม่รอดดูเหมือนจะเป็นผมเอง...ทุกวันนี้ก็หวงเขามาก อยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลาเลย (คือน้องชะเอมจะละลายกับคำพูดของน้องคินแล้วค่ะ)

แอดมิน : ดูเหมือนคนที่จะหนีไปไหนไม่รอดไม่ใช่แค่คินนะคะ น้องชะเอมก็ด้วย

คิน : (ก้มมองนาฬิกาข้อมือ) เอม ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วนะ

ชะเอม : อ๊ะ จริงด้วย

แอดมิน : เดี๊ยวววค่ะ ขออีกคำถาม คำถามสุดท้ายแล้ว

แอดมิน : ทั้งสองคน... (ยื่นหน้าไปใกล้ๆ และกระซิบเบาๆ) เคยจูบกันรึยังคะ

คิน : (สิ้นคำถามก็หัวเราะเบาๆ กับคนข้างๆ ที่ตัวแดงเป็นกุ้งก้มหน้างุดไปแล้ว) ขอไม่ตอบดีกว่าครับคำถามนี้

แอดมิน : อ้าว คำถามนี้มีคนรอเยอะมากเลยนะคะ จะไม่ตอบจริงๆ เหรอ

คิน : ไม่ครับ เพราะเดี๋ยวเอมเขาจะเขิน แล้วเวลาเขินเขาจะไม่ให้ผม...อีก (น้องคินไม่ได้พูดแต่ทำปากเป็นคำว่าจูบ)

ชะเอม : คิน!

คิน : เห็นมั้ยครับ

ชะเอม : นิสัยไม่ดี เอมไม่คุยด้วยแล้ว ไปเรียนดีกว่า (คนขี้เขินอันดับหนึ่งคว้ากระเป๋าวิ่งแผล็วไปอย่างเร็วแต่ไม่ลืมหันมาบอกลาแอดด้วย...มารยาทดี๊ดี)

แอดมิน : ไปซะแล้ว... น้องเอมไม่อยู่แล้ว ตอบได้มั้ยคะคำถามเมื่อกี้

คิน : (หัวเราะ) ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่อยากโดนเขาไล่ออกจากห้อง

แอดมิน : อุ๊ยตาย (พูดแบบนี้แสดงว่าเขาอยู่กินด้วยกัน...นอนด้วยกันแหงๆ!) นอนห้องเดียวกันหรือคะ

คิน : ไหนบอกว่าคำถามสุดท้ายไงครับ

แอดมิน : (อยากจะกรีดร้อง และตบปากตัวเองรัวๆ สิบรอบ) โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ต้องขอขอบคุณน้องคินมากๆ เลยนะคะที่ให้ทางเพจติดตามคนดังมาสัมภาษณ์ ไม่ทราบว่าอนุญาตให้เราลงบทสัมภาษณ์นี้ให้สาธารณชนได้อ่านกันได้รึเปล่าคะ

คิน : ได้ครับ

แอดมิน : ตอนแรกแอดนึกว่าน้องคินจะไม่ให้ เพราะดูโลกส่วนตัวสู๊งสูงไม่เหมือนน้องเอม

คิน : ตอนแรกก็ว่าจะไม่ครับ แต่ผมคิดอีกทีลงไปคนอื่นๆ จะได้รู้ว่าชะเอมเขาเป็นแฟนผมแล้ว...เป็นการตัดไฟแต่ต้นลมดีครับ (รอยยิ้มเจ้าเล่ห์สุด)

แอดมิน : (อื้อหือ อยากจะกรี๊ดดังๆ กับความหวงแฟน) แล้วมีส่วนตรงไหนของบทสนทนาที่ไม่อยากให้เอาลงมั้ยคะ บอกมาได้เลยค่ะ

คิน : (ทำท่านึก) ไม่เป็นไรครับ

แอดมิน : ต้องขอขอบคุณมากกกเลยค่ะ ฝากขอบคุณน้องชะเอมด้วยนะคะ ถ้าคราวหน้าขอมาสัมภาษณ์อีกคงได้นะคะ

คิน : แต่ต้องพร้อมกับชะเอมนะ

แอดมิน : มมปห ไม่มีปัญหาค่ะ! น้องชะเอมก็น่ารักน่าชัง แอดก็อยากคุยค่ะ รู้สึกชอบมาก

คิน : (หัวเราะ) งั้นก็ยินดีครับ...ส่วนคำถามสุดท้ายเมื่อกี้ก็ไว้โอกาสหน้าละกันนะครับ

แอดมิน : (กรี๊ด) ถ้ายอดวิวดี ก็คงเร็วๆ นี้แหละค่ะ

'เอาล่ะค่ะ นี่คือบทสัมภาษณ์ทั้งหมดที่แอดไปคุยมา บอกตามตรงนะคะว่าเริ่ดดดมากจริงๆ! คือแบบงานดีทั้งคู่ น้องคินกับน้องชะเอมนั้นเป็นคู่ที่เข้ากันอย่างประหลาด แถมเขามีความละมุน เป็นห่วงเป็นใยให้กันตลอดเวลา (น่ารักมากจริงๆ) บอกตามตรงว่าข่าวที่เคยลือๆ กันว่าน้องชะเอมร้ายนี่แอดบอกเลยว่าไม่จริงแน่นอน! เถียงสุดฝ่าเท้าเลย! ได้คุยครั้งนึงแล้วจะเข้าใจจริงๆ ...ลองเข้ามาคุยได้นะคะน้องใจดี(และซื่อมากจนน่าเอ็นดู) ส่วนใครยังคิดจะจีบน้องคินอยู่บอกเลยว่าหมดสิทธิ์แล้วเพราะใจน้องอยู่ที่แฟนหมดแล้ว กิ๊วกิ๊ววว! ถึงแอดจะแอบเสียดายผู้ชายที่ลดลงไปอีกสองคนแต่ถึงขนาดนี้แล้วเขาคงเกิดมาคู่กันจริงๆ เพราะงั้นก็ปล่อยพวกเขาไปเท้อะ

ทุกๆ คนมาอวยพรให้พวกเขาสองคนครองรักกันไปนานๆ เลยนะคะ!

ปล.ใครชอบกดไลค์กดแชร์ ติดตามคู่นี้ได้ในบทสัมภาษณ์ครั้งหน้า รับรองแซ่บ! กว่าเดิมชัวร์ป้าบ

<แนบรูป>'





************************Whose fault? ************************





"โธ่เว้ย!!!"

ปัง! โครม! เพล้ง!

โทรศัพท์มือถือราคาแพงที่เคยดูดี บัดนี้หน้าจอแตกร้าวอยู่บนพื้นไม้สัก ชิ้นส่วนบางชิ้นกระเด็นออกมาตามแรงอารมณ์ที่ปาลงไป ยืนยันได้เลยว่าไม่มีสิทธิ์จะกลับมาใช้ได้อีก แต่ของแค่นั้นจะซื้ออีกกี่สิบเครื่องก็ทำได้ ถ้าเป็นครอบครัวโรจน์ศักดินาแล้วล่ะก็ ถึงจะร้อยหรือพันเครื่องขนหน้าแข้งไม่ร่วงแม้แต่นิด

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

"ไอ้---เอ๊ย!" สัตว์เดรัจฉานหลุดออกจากปาก เมื่อคนพูดอยู่ในอารมณ์โมโหอย่างหาที่ระบายออกไม่ได้จึงทำลายข้าวของและด่าออกมาแทน แต่มันก็ไม่สามารถดับอารมณ์นี้ได้เลย

โมโห...โมโห...โมโห!!!

ร่างเล็กกวาดของที่อยู่บนโต๊ะ เอกสาร หนังสือ ชีทต่างๆ รวมถึงโคมไฟตั้งโต๊ะตกลงมาแตกกระจายเละเทะ ขาตวัดเตะถังขยะจนกระเด็นปลิวไปกระแทกประตูไม้สักอย่างแรง

ปึง!

"เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณเรย์!" เสียงตะโกนของสาวใช้ดังเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินความผิดปกติจากห้องของเจ้านาย

"ไสหัวไป ไม่ต้องมายุ่ง!" เจ้าของชื่อตะคอกตาแดงก่ำด้วยความคลั่งแค้น มือเล็กกำแน่นจนสั่นเล็บแหลมจิกเข้าไปในเนื้อ ยิ่งนึกถึงสิ่งที่เห็นในโทรศัพท์แล้ว มันยิ่ง...

เรย์สูดลมหายใจเข้าออกแรง พลันสายตากระทบกับชีทปึกหนึ่ง มันคือเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลประวัติของคนๆ หนึ่งที่จ้างนักสืบหามาให้

...เอมภัทร อนันต์โภคทรัพย์...

ไอ้คนที่มันไม่มีอะไรเลยมาตั้งแต่แรก...เป็นแค่คนไร้พ่อไร้แม่ ไม่มีใครสั่งสอน อยู่ๆ ก็กลายเป็นหนูตกถังข้าวสารเพราะพ่อของภาคินเก็บมาเลี้ยง กลายเป็นลูกบุญธรรมของมหาเศรษฐีหลายพันล้าน...ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเป็นของมัน!

ทั้งเงิน!

ทั้งคิน!

คู่สร้างคู่สมเหรอ...

เหมาะสมเหรอ...

"คินเป็นของกู!!!"

แควก!

"กาฝากจนๆ อย่างมึงจะมาเหมาะสมกว่ากูได้ยังไง!? ห๊า ตอบมา!!"

มือฉีกทึ้งกระดาษที่มีรูปหน้าของชะเอมจนขาดวิ่น  ยังไม่พอขยำจนมันเป็นก้อนยับยู่ยี่ราวกับกระดาษแผ่นนั้นคือใบหน้าของเจ้าตัวจริงๆ ก่อนจะปามันลงพื้นและ...เหยียบ...ขยี้

'สุดท้ายคนไปไหนไม่รอดดูเหมือนจะเป็นผมเอง...ทุกวันนี้ก็หวงเขามาก อยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลาเลย'

"มึงนี่มันดีแต่เอาของๆ คนอื่นจริงๆ เลยนะ...ไอ้แมวขโมย"

ปล่อยไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...ต้องทำให้มันรู้สำนึก...ว่าการมาทำให้กูเสียหน้าต้องเจออะไรบ้าง

เสียงในห้องเงียบไปแล้ว และร่างอวบอ้วนของสาวใช้ก็ยืนลังเลไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไป เธออยู่บ้านนี้มาเกือบห้าปีเพิ่งเคยเห็นอารมณ์เกรี้ยวกราดขนาดนี้ของคุณเรย์เป็นครั้งแรก

"อ้อย...ยืนทำอะไรอยู่"

เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงจากข้างหลัง เธอตวัดกลับหลังหันอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าซีดเผือด

"คะ คุณริน...คืออ้อย...ได้ยินเสียงในห้องคุณเรย์ก็เลยจะเข้ามาถาม...แต่..."

"โดนตะคอกกลับมาสินะ" รินมองสาวใช้อายุมากกว่าเล็กน้อยที่อยู่มานานสักพักแล้วจึงเข้าใจ ความลำบากใจที่ไม่กล้าเอ่ย "ช่างเถอะ ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ เธอไปทำงานของเธอเถอะ"

"จะดีหรือคะ"

"อืม"

"งั้นอ้อยขอตัวค่ะ..."

หลังจากสาวใช้เดินลงบันไดไปชั้นล่าง รินก็หันกลับมามองที่หน้าประตูของห้องพี่ชาย รู้ดีว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเพราะเสียงโครมครามมันดังลั่น แม้จะเก็บเสียงได้บ้างแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครได้ยิน

โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่เพราะไปออกงานสังคม...ไม่งั้นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแบบนี้คงโดนลงโทษอย่างหนักแน่ เพราะด้วยความเป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่แบกรับนามสกุลที่มีชื่อเสียงนี้

สิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายโมโหจนหลุดมาดแบบนี้คือบทสัมภาษณ์ที่ลงเว็บเพจชื่อดังที่คนติดตามเป็นจำนวนกว่าล้านคน แน่นอนรินก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะสาเป็นคนชวนให้ลง เพจติดตามคนดังมีแต่ข่าวในมหาวิทยาลัยชื่อดังเกี่ยวกับคนดังๆ หน้าตาดี โดยเฉพาะพวกเดือนดาวคณะทั้งหลาย และคนที่ถูกโหวตว่าฮอตฮิตเป็นที่นิยมโดยคนส่วนใหญ่

บทสัมภาษณ์ที่ว่าคืออะไร มันคือบทสัมภาษณ์ที่ลงไปเมื่อวันก่อน และเป็นใครไปไม่ได้ก็พี่คินกับพี่ชะเอมนั่นแหละ ถึงจะไม่รู้ว่าไปสัมภาษณ์ตอนไหนยังไง แต่ทั้งสองคนก็ดังเพียงข้ามคืน เพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้วด้วย และเนื้อความในบทสัมภาษณ์ก็เกี่ยวกับเรื่องคบหาดูใจกันด้วย พี่เรย์ที่เห็นดังนั้นก็ไม่แปลกที่จะอาละวาดหนักขนาดนี้

หญิงสาวนึกแล้วยิ้มนิดๆ เพราะเธอคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะกลายเป็นแบบนี้...เธอเป็นหนึ่งคนที่อวยพรให้พี่ทั้งสองคนเป็นไปได้ด้วยดี แม้เธอจะเป็นน้องสาวของพี่เรย์ก็เถอะ

อาจเป็นเพราะว่า...ใบหน้าของรุ่นพี่คนนั้นในรูปภาพช่างดูมีความสุขมาก จนอดยิ้มตามไม่ได้

'ยินดีด้วยนะคะ พี่ชะเอม...ขอให้พี่มีความสุขแบบนี้ตลอดไป อย่าให้ 'ใคร' ...มาทำให้รอยยิ้มสวยงามแบบนี้เลือนหายไปเลย'

เพจติดตามคนดัง

201k comments

Choppery : อ๊ายยย!! พี่คินกับพี่ชะเอม เขา-คบ-กัน-ละละแล้ววว! ไม่ผิดจากที่คาด เห็นรางๆ ตั้งแต่ที่ค่ายละ เชียร์ค่า!

ปลาฉลามขึ้นบก : แกรรร คนนี้ไงพี่คินอะ หล่อโฮกกก @ห่อหมก

จะน่ารักต้องให้สุด : กรี๊ดกร๊าด แอดมินเพจเก่งมากอะ อุตส่าห์ไปสัมภาษณ์คินเดือนวิดวะมาได้ เข้าใจความยากลำบาก #อิจฉาแฟนคิน

HokkiNs : ที่ไหนยะ นางชะนีทั้งหลาย คนที่น่าอิจฉาคือคินต่างหากที่ได้นางฟ้าของเอกเราไปครอบครองแบบนี้ น้องชะเอมยังไงก็น่ารักที่สุดค่ะ!!

ตามตมดิน : ทำไมผู้หญิงต้องชอบสัมภาษณ์คนหล่อด้วยฟะ ไม่มาสัมภาษณ์ตูบ้างล่ะ!?

Oilil : พี่ชะเอมนิสัยน่ารักอย่างที่ว่าจริงๆ ค่ะ ออยเคยคุยด้วย...สุภาพมากๆ แถมอ่อนโยนกับผู้หญิงทุกคน ขนาดออยยังหลงรักเลย >< พี่คินก็ต้องหลงมากแน่ๆ #อิจฉาแฟนพี่ชะเอม

ยามานาง : @ตามตมดิน ไอ้ตม มึงจบไปเป็นชาติแล้วก็อย่าสาระแนเด็กๆ สิวะ #รุ่นทวดของทวด

ช้างเผือกงาดำ : ก็มันอิจฉาคนหน้าตาดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แถมตอนนี้ก็ยังโสดอยู่ไม่แปลกหรอกว่ะ @ยามานาง @ตามตมดิน #รุ่นทวดของทวด

ตามตมดิน : พวกมึงอุตส่าห์ตามมาทับถมกรูว ขอขอบพระคุณเพื่อนรักทั้งหลาย...ไอ้พวกเลวเอ๊ย! @ยามานาง @ช้างเผือกงาดำ ว่าแต่น้องชะเอมน่ารักจัง...

ยามานาง : หญิงไม่จีบเลยจะเบี่ยงเบนไปชอบชายแทนสิ น่าเศร้า

ช้างเผือกงาดำ : มึงไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวเล็บของไอ้น้องคินสุดหล่อหรอกเว้ย

Rasa : ยินดีด้วยนะคะ พี่ชะเอม ขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะ

...และบลาๆๆ


>>>>>>>>>>>>>ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


>>>>>>>>>>>>>>>>จากด้านบน




"โอ้โห อะไรมันจะขนาดนี้วะ มึงดูดิว่ายอดวิวพุ่งพรวดๆ จะสองล้านอยู่แล้ว...ดังยิ่งกว่าดารา"

"ไหนใครวะ คิน...ชะเอม...เฮ้ย คนนี้กูเคยเดินผ่านเจอแถวๆ หน้ามอ งานดีอย่างที่ว่า ตัวบางผิวขาวเนียนกริ๊บยิ่งกว่าผู้หญิงบางคน"

"ขนาดนั้นเลยเหรอวะ"

"เอ้อ! ไม่ได้โม้"

"ชักอยากเห็นตัวจริงแล้วดิ"

"เขาก็ไม่ใช่นินจาที่ไหน เรียนอยู่อักษร ไปนั่งรอเดี๋ยวก็เห็นเดินผ่านไปผ่านมาเองแหละ"

"ดูๆ ไม่ใช่แค่ยอดวิวนะ ยอดคอมเมนต์นี่มันอะไรกันวะ อื้อหือ เด้งเอาๆ ตามอ่านแทบไม่ทัน"

เสียงจอแจจากในโซเชียลก็ยังดังกระหึ่มมาถึงข้างนอก แทบจะเรียกได้ว่านักศึกษาทุกคนกำลังคุยกันเรื่องหัวข้อนี้อยู่ เพราะว่านานมากแล้วที่กว่าจะได้สัมภาษณ์จากคิน เดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์เมื่อสองปีก่อน แถมยังพ่วงมาด้วยชะเอมหนุ่มหน้าหวานยิ้มโลกสดใสที่ทั้งหญิงทั้งชายหมายปอง จนเรียกได้ว่าเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปแล้ว

"ทำไงดีเนี่ย..." เสียงใสเอ่ยอย่างลำบากใจอยู่หลังเสาต้นหนึ่งอยู่ใต้ตึกชั้นล่างของอาคารเรียนที่เจ้าตัวกำลังจะไปกินข้าวกลางวัน แขนบางโอบกอดหนังสือเล่มใหญ่รวมทั้งกระดาษปึกหนึ่งแนบอก คิ้วบางขมวดมุ่น

ไม่น่าเชื่อว่าแค่บทสัมภาษณ์ในโซเชียลของไม่กี่วันก่อนจะทำให้คนฮือฮากันขนาดนี้ ร่างผอมบางที่ไม่เคยมีใครสนใจกลายเป็นคนดังที่ใครๆ ก็อยากรู้จักภายในข้ามคืน

จริงๆ แล้วชะเอมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะว่าทุกคนที่เข้ามาก็แค่อยากมาคุยเฉยๆ บางคนอาจจะมาถ่ายรูปหรืออะไรก็แล้วแต่...แต่ว่าคินน่ะสิ...

"อ๊ะ!" ชะเอมร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ โดนกระชากตัวปลิวให้มาหลบหลังกำแพงอีกด้านหนึ่ง

"ชู่--" เสียงทุ้มจุ๊ปากในระยะประชิด ดวงตากลมใสสีดำเพิ่งโฟกัสเห็นชัดๆ ว่าคือใคร แพขนตายาวกระพริบปริบๆ

"คิน"

"อย่าเพิ่งพูดอะไร" ใบหน้าคมเข้ามาใกล้อีกจนจมูกจะโดนแก้มใสอยู่แล้ว ลมหายใจร้อนที่เป่ารดทำให้ร่างบางหน้าแดงเรื่อ

"มาทำอะไรน่ะ เอมบอกให้รออยู่ในรถไงครับ" ร่างบางป้องปากพูดเสียงเบากลับไปพลางมองรอบข้าง

"ก็เอมไม่มาสักที"

"เอมกำลังเดินไป"

"ก็คินรอนานแล้ว มา คินช่วย" มือใหญ่รับของไปถือด้วยมือๆ เดียวทั้งๆ ที่ชะเอมต้องโอบด้วยแขนสองข้างแท้ๆ ...ส่วนมือใหญ่อีกข้างคว้าจับมือบางจูงเดินไปด้วยกัน

"ดูสิ ตอนนี้มึงกลายเป็นคนดังไปแล้ว"

"กูไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย" เสียงทุ้มตอบยานเอือมระอา

"ไม่ได้ตั้งใจยังไงยะ สัมภาษณ์แบบนั้น มันก็ต้องเรียกคนให้เข้ามาอยู่แล้วล่ะย่ะ!" หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวกระแทกเสียงใส่อย่างหมั่นไส้

ร่างบางหันมองซ้าย มองขวา ขมวดคิ้วกังวลใจ "คือว่า..."

"นายหยุดเลยเอม คิดจะแก้ตัวให้หมอนี่อีกแล้วล่ะสิ"

"เปล่านะครับ" ร่างบางส่ายหน้าหวือ กระซิบบอกเสียงเบา "คุณทรายเบาเสียงหน่อยเถอะนะครับ คนมองกันเต็มแล้ว"

เม็ดทรายเลิกคิ้วมองชะเอมที่คิดว่าเธอเสียงดังคนในร้านอาหารเลยมอง...ไม่รู้อะไรซะเล้ย "...ที่เขามองนั่นเป็นเพราะนายกับคินต่างหากล่ะยะ"

ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะฉายความกังวล ยู่ปากน้อยๆ เอ่ยถามคนข้างๆ "คิน..."

"เห็นมั้ย มึงทำให้เอมกังวลแล้ว นิสัยไม่ดีเลย" ตาลว่า มองชะเอมอย่างเห็นใจ

จริงๆ แล้วคินก็คิดเหมือนกันว่ามันชักจะวุ่นวาย สิ่งที่คาดคิดไว้ว่าจะประกาศเพื่อไม่ให้มีใครมายุ่งกับร่างบาง แต่ตอนนี้ผิดคาดอย่างแรงเพราะมีแต่คนอยากจะเข้าหา อยากคุยบ้าง ถ่ายรูปบ้าง หรืออาจจะอยากมาเห็นหน้าค่าตาว่าชะเอมน่ารักอย่างที่แอดมินเพจว่าไว้หรือเปล่า

กับตัวเขาที่โดนมองมากเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะท้านหรอก แต่กับชะเอมคงจะไม่ชิน

บอกตามตรงว่าหวง...หวงมาก

"เอมไม่ชอบใช่มั้ย เดี๋ยวคินไปบอกคนที่มาสัมภาษณ์ให้ลบโพสต์ให้"

"ไม่เป็นไร...เอมแค่...ไม่ค่อยชิน คินต่างหากที่ดูเหมือนไม่ค่อยชอบมากกว่าเอมอีก" คินได้ยินแล้วเลิกคิ้วงงๆ

"เอม" เอกเรียกให้เจ้าของชื่อหันไปมองเห็นกลั้นขำก่อนจะหลุดหัวเราะ "เราว่าที่คินมันไม่ได้ไม่ชอบคนมองเยอะๆ หรอก...ไอ้ที่ไม่ชอบน่ะเพราะมีคนมาเกาะแกะเอมมากกว่านะ"

ชะเอมกระพริบตาปริบเหมือนกำลังคิดก่อนหน้าแดงระเรื่อ...เข้าใจแล้ว

สายตาคนบนโต๊ะมองร่างบางเพื่อนใหม่ที่คินเพิ่งพามาแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ ก็เป็นคนที่ใสซื่อจนน่าเอ็นดูระคนกังวลอย่างที่คิด เพราะงั้นเรย์จึงคิดจะทำอะไรก็ได้โดยคิดว่าเอมไม่มีทางโต้ตอบได้งั้นสิ

แต่สุดท้ายแล้วเรย์ก็แพ้ความดีและซื่อตรงของชะเอมล่ะนะ...แค่ยังไม่ถูกตีแผ่การกระทำชั่วๆ ที่ทำเอาไว้ให้คนได้รับรู้ว่าตัวตนที่เคยเสแสร้งแสดงออกมาจริงๆ แล้วเป็นยังไง

"เน่ๆ เอมทำอาหารอร่อยมากเลย ที่ค่ายอะ" ตาลพูดขึ้นมา

"เหรอ ขอบใจนะ" ชะเอมยิ้มรับคำชม ถึงจะได้ยินบ่อยแต่ก็อดดีใจไม่ได้

"แล้วทำขนมได้เปล่าอะ" ร่างโปร่งทำหน้าลุ้น

"ที่ถามเพราะอยากกินฟรีน่ะสิ" เอกพูดกับคนที่บ้าของหวานเข้าเส้นเลือด

"รู้ได้ไงเนี่ย" ตาลขมวดคิ้วสงสัย และหันไปถามเอม "ตกลงทำขนมได้ปะ อะไรก็ได้"

ชะเอมยิ้มแหยอย่างลำบากใจ เพราะอีกฝ่ายทำตาเหมือนมีความหวัง ไม่กล้าปฏิเสธแต่ก็ไม่อยากโกหก"ทำไม่เป็นน่ะ เราไม่เคยทำเลย ขอโทษนะตาล"

แต่ผิดคาด อีกฝ่ายทำหูกระดิก "ไม่เคยทำไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้นี่ ลองทำดูสิๆๆ จะได้ทำเป็น"

"เอ่อ..."

"ตาลมึงไปซื้อกินเองดิ ปกติก็ทำอย่างนั้นนี่" คินบอก เพราะไม่อยากให้มายุ่งกับเอมมากนัก

"มึงมันเห็นแก่ตัว คิน! กินกับข้าวที่เอมทำทุกวัน! กูก็อยากกินมั่งนะ...ถ้าได้ขนมด้วยจะดีมากเลยง่ะ นะเอมนะ" ด่าเพื่อนเสร็จก็หันมาอ้อนวอนเอมต่อ

"ได้สิ...เดี๋ยวจะลองทำดูนะ" ชะเอมอมยิ้ม ได้ลองทำขนมดูบ้างหน่อยจะเป็นอะไรไป จะได้ทำขนมเป็นด้วย "ตาลชอบกินอะไรล่ะ"

"ก็...มัฟฟิน แพนเค้ก พาร์เฟต์ วาฟเฟิล โทสต์ ชูครีม เครปเค้ก ไอติม บิงซู น้ำปั่นช็อกโกแลตก็ได้นะแล้วก็ยังมี...โอ๊ย! ทำไรเนี่ย!" ตาลจับหัวที่ถูกโบกอย่างแรงโดยมือใหญ่ของเอก ส่วนชะเอมเหงื่อตกกับรายชื่อขนมที่ร่างโปร่งร่ายมา...นั่นชอบกินหมดเลยเหรอ ถ้ากินหมดนั่นแล้วทำไมไม่อ้วนเลยเนี่ย?

"หัดเกรงใจซะบ้าง"

"...ฮื่อ..." ตาลทำเสียงหงอยที่เอกทำเสียงเหมือนดุใส่...ปกติกินอะไรเท่าไหร่เอกก็ไม่ค่อยห้าม แต่พอเจอแบบนี้ ก็รู้สึกใจเสียหน่อยๆ เหมือนกัน

"ไม่เป็นไรหรอกเอก เดี๋ยวเราทำให้ๆ แต่ทีละอย่างนะ เราทำครั้งแรกน่ะ" พูดขนาดนี่แต่ก็ยังทำให้คนหงอยร่าเริงไม่ได้ เสียงใสจึงเอ่ยต่อ "แต่เราต้องหาคนชิมเสียด้วยสิ คินก็ไม่ชอบกินของหวาน แถมเราคงกินคนเดียวไม่ไหว...ตาลช่วยเราหน่อยได้มั้ย"

"..." ตาลเหลือบมองเอกที่นิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ จากนั้นก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม แถมยิ้มกว้างเห็นเขี้ยวน้อยๆ น่ารักดี "ได้สิ! ถ้าของหวานล่ะก็เราได้ไม่อั้นอยู่แล้ว"

ชะเอมหัวเราะขำ "อื้ม"

"วันก่อนไปไหนมาอะทราย" คินถามหญิงสาวที่นั่งกินขนมที่เพิ่งสั่งเงียบๆ "เห็นลงรูป"

"เที่ยวกับ..."

"แฟน"

"ครอบครัวย่ะ" เม็ดทรายแยกเขี้ยวแหวใส่ ทำให้คนบนโต๊ะหัวเราะครืน "นายนี่เอะอะๆ อะไรก็แซวตลอดมีแฟนแล้วก็ไม่ต้องมาอิจฉาแล้วก็ได้มั้ง"

คินหัวเราะเบาๆ กับคำพูดนั้น

"โอเค แล้วไปเที่ยวไหนกับครอบครัวมาล่ะ" เสียงทุ้มถามความเป็นไปของเพื่อน เพราะปกติไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว แม้จะกลุ่มเดียวกันแต่เธอติดแฟนยิ่งกว่าอะไร...แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเธอติดแฟนหรือแฟนติดเธอ

"ก็ไปอังกฤษมา อากาศดีมาก แต่ของแพงไปหน่อย"  เม็ดทรายพูดเสียงเรียบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ก็เป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ เพราะครอบครัวเธอไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ แต่คนไม่เข้าใจมาได้ยินอาจจะหมั่นไส้ได้เพราะเหมือนอวดตัวว่ารวย แต่ชะเอมรู้สึกว่าน่าทึ่ง...ไปเที่ยวต่างประเทศ อย่าว่าแต่จะต่างประเทศเลย แค่ต่างจังหวัดในประเทศก็ยังไม่เคยไปด้วยซ้ำ

"พูดถึงเที่ยว เราไปเที่ยวกันบ้างดีมั้ย ต่างจังหวัดหรือที่ไหนก็ได้ ค้างสักคืนสองคืน ไปกันแค่กลุ่มเพื่อน" ตาลเสนอขึ้นมา เหมือนจุดไฟในตะเกียงจิตใจที่กำลังโหมกระหน่ำ

"ไปเที่ยว...ต่างจังหวัดเหรอ" ดวงตากลมโตสีดำเป็นประกายแวววาว ริมฝีปากแย้มยิ้มดีใจ รีบพยักหน้าหงึกหงัก พลางเอื้อมไปเขย่าแขนคนข้างๆ ด้วย "ไปสิ อยากไป...คิน เอมอยากไป"

เป็นครั้งแรกที่ชะเอมเอ่ยความต้องการออกมาด้วยตัวเอง...ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูดเลยสักครั้งว่าอยากได้อะไร

คินฟังแล้วก็พยักหน้าตามใจ ก่อนถามยิ้มๆ กับคนที่ดีใจแบบเด็กๆ เพียงเพราะได้ยินคำว่าไปเที่ยว

"อยากไปไหนล่ะ"

สิ่งที่เขาให้ไม่ได้เมื่อครั้งก่อน...ครั้งนี้เขาจะตามใจอีกฝ่ายทุกอย่าง ไม่ขัดใจเลย

"ทะเลไหม...ทะเล!" ตาลเสนอตาเป็นประกายไม่แพ้กันเมื่อมีคนเห็นด้วยสองเสียงแล้ว...อยากกินอาหารทะเลกับของหวาน(?)ที่สุดเลย!

"คินมันถามเอมต่างหาก" เอกตบหน้าผากมนดังแปะ จนตาลโอดครวญเบาๆ

"อื้อ" ชะเอมส่ายหน้า อมยิ้ม "เราไปไหนก็ได้"

"งั้นไปทะเลเนอะ"

"โอเคเลย" ร่างบางอดยิ้มดีใจไม่ได้ รอคอยวันที่จะได้ไปเที่ยวที่ไหนสักที่กับคินและเพื่อนๆ ...ดวงตากลมเบิกนิดๆ เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ "คิน ชวนพวกดินไปด้วยได้มั้ย"

ร่างสูงนิ่ง จริงๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกแต่ก็แอบคิ้วกระตุกหน่อยๆ เพราะคิดว่าจะได้เจอกับเพื่อตัวสูงผิวคล้ำของชะเอมคนนั้น...ที่ชอบโวยวายเสียงดัง พูดคำหยาบและชอบแขวะเขาเป็นประจำ

"ได้สิ ถ้าพวกเขาอยากไปด้วยล่ะก็นะ"

"งั้นเดี๋ยวเอมชวน" ร่างบางไม่รอช้า ล้วงหยิบมือถือขึ้นมาเข้าแอพที่มีแชทกลุ่ม ใบหน้าหวานเงยมองถามคนบนโต๊ะอย่างตื่นเต้น "ว่าแต่เราจะไปกันวันไหนเหรอ"

ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนหญิงสาวจะพูดออกมา "สรุปนี่ฉันต้องไปด้วยเหรอ ยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะไป"

ร่างบางชะงักนิ่ง ถามเสียงหงอย "...คุณทรายไม่ไปเหรอ"

เขามัวแต่ดีใจว่าจะได้ไปเที่ยว แต่ไม่ได้ถามความสมัครใจของคนอื่นเลยว่าอยากไปรึเปล่า

ท่าทางซึมๆ เหมือนน้องหมาตัวเล็กหูหางตกแบบนั้นทำให้เธอรีบพูดขึ้นมา "ไปสิไป...แต่ฉันจะพาแฟนไปด้วยนะ"

ท่าทางของชะเอมคงจะน่าเอ็นดูมากจนคนอื่นมองแล้วยิ้มตาม พอได้ยินว่าเม็ดทรายพูดว่าจะไปใบหน้าก็กลับมาสดใสอีกครั้ง

"อื้ม...ไปกันเยอะๆ ก็น่าจะสนุกกว่าเนอะ"

หญิงสาวเท้าคางลงกับโต๊ะ ถอนหายใจระอากับตัวเอง...ใครๆ ก็ต้องใจอ่อนละน่าเห็นท่าทางแบบนั้น

"หึหึ"

พอได้ยินเสียงหัวเราะของคนข้างๆ ทำให้ชะเอมหันมอง "คินหัวเราะอะไรครับ"

“หัวเราะเด็ก"

"หืม..." ดวงตากลมกระพริบปริบกวาดมองไปรอบโต๊ะ...ไม่มี...โต๊ะข้างๆ หรือโต๊ะถัดๆ ไปก็ไม่เห็นมีเด็กเลย "เอมไม่เห็นเด็กเลยนะคิน"

"หัวเราะเด็กอยากไปเที่ยว...เด็กทำหน้าหงอยเพราะอยากให้เพื่อนไปด้วย"

ชะเอมหน้าแดงเรื่อ นั่นมัน... "เอมไม่ใช่เด็กสักหน่อย"

"เด็กสิ"

"ไม่ใช่เด็ก"

"เด็กงอแง ขี้แยด้วย"

แก้มใสพองลม ท่าทางแบบนั้นทำให้คินยิ้มมุมปาก เดาได้ทันทีว่าต่อไปอีกฝ่ายจะพูดอะไร

"คินนิสัยไม่ดี เอมไม่คุยด้วยแล้ว"

นั่นไง...เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เวลางอนหรือเขินมากๆ แล้วทำอะไรไม่ถูกหรือเถียงต่อไม่ได้ ร่างบางมักจะพูดแบบนี้ทุกครั้งไป แต่เจ้าตัวไม่ได้งอนนานหรอก อีกห้านาทีก็กลับมาคุยเหมือนเดิม

"คินบอกเพื่อนแล้ว พวกดินจะไปด้วย" ชะเอมเล่าอย่างดีใจ เพื่อนกลุ่มแรกของเขาจะไปเที่ยวครั้งแรกด้วยกัน

"สรุปว่าจะไปกันวันไหนอะ" ตาลเคี้ยวขนมหวานของร้านตุ้ยๆ ...ขาดความหวานไม่ได้จริงๆ

"ก็ไปวันหยุดนี้เลยสิ ยังไงก็สอบเสร็จแล้ว" เม็ดทรายเสนอ

"เออก็ดีเนอะ เสนอปุ๊บสนองปั๊บ แล้วดูท่าทางเอมจะทนไม่ไหวแล้วด้วย อยากไปสุดๆ เลยนะนั่น"

"อื้ม เราไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่น่ะ" เสียงใสบอก ทำให้ตาลครางรับอย่างเข้าใจ

"นี่ ถามอะไรหน่อยดิ" เอกที่นั่งเงียบมานาน จู่ๆ ก็พูดขึ้นกลางวง "แล้วเรื่องเรย์อะ จะเอาไง"

ทั้งโต๊ะชะงักงัน โดยเฉพาะคินกับชะเอมที่เป็นส่วนเกี่ยวข้องหลัก

"ว่าไปช่วงนี้เรย์หายไปเลยอะ" ตาลว่า "มาเรียนรึเปล่าก็ไม่รู้"

เพราะคาบเรียนส่วนใหญ่อาจารย์ก็ไม่ค่อยได้เช็คชื่อถ้าไม่สำคัญจริงๆ อย่างมีการสอบย่อยหรืออะไรแบบนี้ก็จะปล่อยผ่านไปเลย ประมาณว่าจะเรียนหรือไม่เรียนก็ขึ้นอยู่กับตัวนักศึกษาล้วนๆ

"เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเรารู้เรื่องไม่ดีที่เขาทำแล้ว" เม็ดทรายพูดขึ้นมา "แต่ที่หายไปเพราะอาจจะช็อคก็ได้นะ เกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ในเพจนั่น"

"..."

"ยังไงซะ ความรู้สึกชอบคินของเรย์ก็ไม่น่าใช่ของปลอม"

"แล้วยังไง" เอกส่ายหน้า "ถึงจะเป็นแบบนั้นจริง แต่วิธีการของเรย์ที่ใช้แย่งแฟนคนอื่นมานั่นแหละ...ที่แย่ที่สุด"

"ปล่อยไปซะก็สิ้นเรื่อง" คินบอกเสียงเรียบ พอนึกขึ้นแล้วก็รู้สึกโมโหทั้งเรย์ทั้งตัวเอง "ไม่ต้องไปยุ่ง...และไม่ต้องให้มายุ่งอีก"

ทั้งโต๊ะเงียบไปชั่วครู่กับน้ำเสียงเย็นเยียบเด็ดขาด ก่อนที่เสียงใสจะพูดอย่างไม่แน่ใจ

"อืม เอมคิดว่า...ถ้าเรย์เขาสำนึกได้ เราก็ควรจะให้อภัยเขานะ"

"เอม..." คินครางอย่างไม่อยากเชื่อ

“เอม นายนี่ก็เป็นคนดีเกินไปนะ” ทรายถอนหายใจ

"ใช่ เราเห็นด้วยกับทรายนะ...แบบนี้มันจะดีเหรอ" เอกขมวดคิ้วถาม ก็ไม่คิดว่าจะทำอะไรได้มากหรอก ถ้าคนที่โดนผลกระทบโดยตรงจากการกระทำของเรย์พูดออกมาแบบนี้ แต่ก็อดท้วงไม่ได้ “โดนทำซะขนาดนั้น”

ริมฝีปากบางเม้มแน่น อีกใจก็ลังเล "เราก็ไม่รู้..."

เพราะข้างในลึกๆ แล้วบาดแผลมันยังเจ็บไม่หาย

"แล้วถ้าเรย์ไม่หยุดล่ะ? เราคิดอย่างนี้นะเอม...ยิ่งถ้าเรย์เห็นบทสัมภาษณ์ในเพจเฟสบุ๊คนั่นแล้ว มีหรือจะไม่โมโห?" เอกพูดอย่างที่ใจคิด ลางสังหรณ์มันบอก "เรย์อาจจะไม่ยอมก็ได้ที่เห็นเอมกลับมาคบกับไอ้คิน..."

"พูดอะไรถึงเรากันเหรอ"

"!"

อาจเพราะทุกคนมัวแต่จดจ่ออยู่กับบทสนทนา จึงไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ด้านหลัง และไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วย

"โทษนะน้อง รับเมนูหน่อยครับ" ร่างเล็กยิ้มพราวทำตัวปกติทุกอย่าง ก่อนลากเก้าอี้แถวนั้นหย่อนตัวนั่งแทรกระหว่างคินกับชะเอม เพราะโดนเบียด ร่างบางจึงขยับหนีอย่างช่วยไม่ได้ให้คนมาใหม่เข้าแทรกง่ายดายโดยไม่ทักท้วง "ว่าไง เมื่อกี้เหมือนได้ยินชื่อเรา อย่าบอกนะว่าแอบนินทากัน 'ลับหลัง' "

ร่างสูงผุดลุกขึ้นทันทีที่โดนแทรกแยกห่างจากชะเอม ทำให้เรย์หันขวับ "คินไปไหน"

ร่างสูงไม่ตอบแต่หน้าตึงพยายามอดทนไม่แสดงอารมณ์รุนแรงออกมาในที่สาธารณะ ขายาวเดินอ้อมมาหาชะเอมที่นั่งก้มต่ำซ่อนสีหน้า "เอม ไปกัน"

ใบหน้าหวานซีดเซียวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เงยขึ้นสบ แต่ยังคงนั่งนิ่งจนโดนมือใหญ่ฉุดดึงให้ลุกขึ้นตาม เสียงทุ้มเอ่ยเบาต่างจากท่าทางแข็งกระด้างที่แสดงออกมาต่อหน้าเรย์ "กลับกันเถอะ"

"นี่...เอม ครั้งนี้เรามาดีนะ คุยกันก่อนสิ" เรย์พูดขึ้นทำให้ทั้งสองคนชะงัก

"ไม่ให้คุย...เอม กลับ" คินรู้สึกว่าความอดทนเริ่มหมดลงทุกที...ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ซักวินาทีเดียว

"เอม" เรย์ยังคงไม่ยอมแพ้

"เดี๋ยวคิน" มือบางยื้อร่างสูงเอาไว้ ทำให้ขายาวหยุดชะงัก "เอมจะลองคุยดู"

ริมฝีปากของเรย์พลันแสยะยิ้ม


************************Whose fault? ************************



มาเสิร์ฟแล้ววว ไม่รู้จะยังมีนักอ่านเก่าๆ ยังอยู่ไหม ถ้างั้นยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ๆ ก็แล้วกัน^^

ต้นเดือนแว้ว ใครอยากได้หนังสือก็อย่าลืมมาเปย์เน้อ มีสต็อคอยู่จ้า ใครสั่งก่อนได้ก่อนนะ!

ติดต่อเรื่องรูปเล่มได้ที่แชทเพจ H.Rui Novels นาจา



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :hao7: :hao7: :hao7:  อีเรย์มาตอแหลอะไรอีกละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew5: เอมอย่าใจดีขนาดนั้น

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เอมใจดีเกินไปละ,,,

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


                                                    Whose Fault ?

                                                     ผิด...ครั้งที่ 32





โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม



ท่าทางของคินเป็นแบบนี้แสดงว่าไอ้เอมบอกไปหมดแล้วสินะ...แต่ว่า...กูจะไม่ให้มันจบง่ายๆ หรอก แค่ลมปากคนน่ะทำให้จิตใจของใครบางคนเปลี่ยนทิศทางได้ง่ายยิ่งกว่าอะไร



แถมไม่มีหลักฐานแบบนี้ จะให้ยอมรับในสิ่งที่ทำน่ะ ไม่มีทางหรอก!



"เรย์จะคุยอะไรกับเรา" เสียงใสเอ่ย ร่างบางเปลี่ยนมานั่งตรงข้ามแทนเพราะจะได้คุยกันง่ายขึ้น ถึงแม้จะทำใจให้เข้มแข็งแต่ก็ไม่อาจซ่อนเสียงสั่นๆ นี้ได้ แต่ว่าคินก็นั่งอยู่ข้างๆ กาย ความอบอุ่นของฝ่ามือใหญ่กระชับจับมือบางที่สั่นระริกแน่น...ไม่ไปไหน



ส่วนเพื่อนๆ ของคินก็ยังคงนั่งอยู่เช่นเดิม แต่ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด



"พอเรามาแล้วบรรยากาศมันอึดอัดแปลกๆ ชอบกลเนอะ" ร่างเล็กในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาเดฟรัดรูปนั่งไขว่ห้างสบายๆ พูดไปเรื่อยเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองนั่นแหละที่ทำให้มันอึดอัด



"กินข้าวกันแล้วเหรอ"



"...อืม" คนที่ตอบมีเพียงคนเดียวคือตาล



"ว่าแต่ใจร้ายจังไม่ชวนเราเลย ถ้าไม่เดินผ่านมาก็ไม่รู้นะเนี่ยว่าอยู่ในนี้"



"..."



"ที่พวกนายเป็นแบบนี้เพราะว่าเอมเล่าอะไรให้ฟังเหรอ บอกว่าเราทำอะไรไป อย่างเช่นเรื่อง...อุบัติเหตุวันนั้น"



ชะเอมนั่งยังคงนิ่งรอฟังว่าเรย์จะพูดอะไร จะเสแสร้งหรือโกหกอะไรอีก...เขาไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายจะมาคุยดีๆ อย่างที่ปากบอก



แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว...เขายังมีคิน...ยังมีเพื่อนอีกมากมายที่อยู่เคียงข้าง



ไม่ได้อยู่คนเดียว



"เอม...เราขอพูดตรงๆ นะ นายเลิกทำเสแสร้งสักทีเถอะ"



สุดท้าย...เรย์ก็ยังไม่ยอมหยุดจริงๆ



"แค่คินยังไม่พอใช่มั้ย ยังเอาเพื่อนเราไปอีก...นายทำแบบนี้ทำไม"



ชะเอมฟังแล้วเม้มปากแน่น ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ คนที่มีนิสัยน่ารังเกียจที่สุดที่เคยเจอคือคนตรงหน้า...ขนาดพ่อแท้ๆ ของเขายังไม่น่ารังเกียจเท่านี้เลย



เสแสร้ง



เอาดีเข้าตัว



และเอาชั่วใส่คนอื่น



"หรือว่าเป็นเพราะนายเคยถูกทิ้งมาก่อนจนต้องหาใครซักคนมาอยู่เป็นเพื่อน?"



ปึง!



"อย่ามาพูดแบบนี้กับเอม" คินฟังคำพูดของเรย์แล้วตบโต๊ะเสียงดังอย่างโมโห จนชะเอมต้องกระตุกมือให้เย็นลง คนเกือบทั้งร้านหันมามองแล้วซุบซิบ



ร่างสูงหายใจแรงจนตัวสั่น โกรธ...แต่ทำอะไรไม่ได้



ร่างเล็กหัวเราะหึไม่สะทกสะท้าน "ดูสิ ขนาดคินก็เป็นไปกับเขาด้วย เอม...นี่นายหว่านเสน่ห์ชนิดไหนกัน? เล่นคุณไสยฯ เสกมนต์ให้คินหลงรึเปล่า เขาถึงเป็นขนาดนี้"



คินกัดฟันกรอด ส่วนชะเอมยังนิ่งเฉย



"เรื่องอุบัติเหตุนั่นเราจะฟ้องตำรวจ ที่ไม่ได้ทำอะไรตั้งแต่แรกเพราะเห็นเป็นแฟนเก่าคินหรอกนะ แต่ตอนนี้นายทำเกินไปแล้ว เราจะไม่ยอม...เราจะฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายเกือบถึงชีวิต แถมยังใส่ร้ายเราให้คนอื่นเข้าใจผิด"



"ใส่ร้ายให้คนอื่นเข้าใจผิด?" เม็ดทรายพูดแทรกขึ้นมา...ทนฟังไม่ไหวจริงๆ "คนอื่นที่ว่าคือใครเหรอเรย์"



"ก็พวกเธอนั่นแหละ ที่ทำท่าตั้งแง่เราแบบนี้เพราะเอมเล่าอะไรให้ฟังจริงๆ ใช่มั้ยล่ะ"



"แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ" อีกคนที่พูดขึ้นมาคือเอก "นายพูดเหมือนรู้ว่ามันเป็นเรื่องอะไร"



ร่างเล็กยกแก้วน้ำขึ้นดูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับการโดนคนที่เคยเป็นเพื่อนรุมคาดคั้น



เขาจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ...แค่พูดออกมาเพราะคิดว่าเป็นอย่างนั้นเท่านั้นแหละ เพราะเท่าที่จำได้ก็มีแต่ตอนที่ไปค่ายที่เผลอพูดเรื่องแผนที่วางไว้กับเอมไปครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็มีแต่เรื่องนี้เท่านั้นที่มันจะเอามาฟ้องคินได้



"ใจเย็นๆ ก่อนนะทุกคน" จู่ๆ ชะเอมที่นั่งเงียบที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา ทำให้บรรยากาศสงบลงเล็กน้อย ภาพนั้นที่เห็นมันยิ่งทำให้เรย์หัวเราะเย้ยหยัน



"ทำเป็นคนดี"



"เราไม่ใช่คนดีหรอกเรย์"



"ก็แน่ล่ะสิ นายทำร้ายเรากี่ครั้งแล้วล่ะ เราเจ็บเพราะนาย แต่เราไม่เคยคิดเอาเรื่องเลย แล้วนายก็มาทำแบบนี้...บอกเลยนะว่าเราจะไม่ยอมแน่"



"..."



เรย์แสยะยิ้มเริ่มแน่ใจแล้วว่าชะเอมมันยังเป็นรองอยู่ "พูดแบบนี้แสดงว่าปฏิเสธไม่ออกเลยสิ"



"..."



พอเห็นอีกฝ่ายนิ่งเกินคาดแถมไม่ตอบไม่พูดอะไร ทำให้เรย์เบนความสนใจไปที่ร่างสูงข้างๆ แทน "คิน...คินใจร้ายมากเลยที่ทำลายความรู้สึกดีๆ ของเรย์" ร่างเล็กส่งสายตาตัดพ้อน่าสงสารเปลี่ยนท่าทีเร็วจนคนมองรู้สึกสะอิดสะเอียน "บทสัมภาษณ์นั่นเรย์เห็นแล้ว...ทำไมคินไม่บอกกับเรย์ตรงๆ ว่าเพราะอะไรทำไมถึงบอกเลิกกัน"



คินถอนหายใจ "ขอโทษที แต่ระหว่างเรามันเคลียร์จบไปแล้ว"



เป็นการตัดบท ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอีก...จบคือจบ



"บอกแล้วใช่มั้ยว่าเรย์ไม่ยอมเลิกหรอก เรย์ปรับปรุงตัวเองได้ ขอแค่คินบอกมา..." ร่างเล็กพยายามใช้วาจาเพื่อชักจูง



"ไม่ได้หรอก"



คนที่พูดไม่ใช่คิน แต่เป็นชะเอมที่มีดวงตาแข็งกร้าว



"เรย์ นายพูดจบรึยัง?" เสียงใสเอ่ยเรียบนิ่ง เป็นท่าทางที่ไม่เคยเห็นมาก่อน "เราฟังจนเบื่อแล้ว"



ร่างเล็กมองท่าทีนั้นด้วยไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ "เรากำลังคุยกับคินอยู่ อย่าพูดขัดได้มั้ย ไม่มีมารยาทเลย พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง...อ๋อ ลืมไปว่านายมัน..."



"ไม่มีพ่อไม่มีแม่...เป็นเด็กกำพร้าสินะ นี่คือสิ่งที่นายอยากจะพูด?" ร่างบางพูดแย้มยิ้มบางไม่สะทกสะท้าน แต่กลับทำให้คนรอบข้างมองอย่างตกใจ เพราะข้อมูลที่ได้รับ...ไม่เคยรู้มาก่อน



คินกระตุกมือบางแต่คำตอบที่ได้รับคือส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร



จะต้องไม่เป็นไร



ถ้านี่เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ...เขาจะเปิดรับอย่างไม่อายใคร



"เราไม่มีมารยาทเฉพาะกับคนที่นิสัยแย่ๆ เท่านั้นแหละ" เสียงใสเน้นคำราวกับจะบอกว่าที่พูดน่ะหมายถึงคนตรงหน้านั่นแหละ



"..." เรย์กำหมัดแน่นใต้โต๊ะ สายตาเริ่มไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด



ชะเอมมันเปลี่ยนไป



"แล้วก็อย่ามาพูดกับคินแบบนั้นอีก เพราะมันจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ ถ้านายอ่านบทสัมภาษณ์ล่ะก็น่าจะรู้ว่าคินเป็นแฟนของเราแล้ว"



"พูดหน้าด้านๆ ...นั่นเพราะนายแย่งเขาไปต่างหาก นายมันเป็นชู้ที่มาแทรกกลางระหว่างเรากับคิน! ทำไมตอนสัมภาษณ์ถึงไม่บอกไปด้วยล่ะ!?" เรย์ถลึงตาเริ่มพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนโต๊ะข้างๆ เริ่มหันมามอง



ชะเอมยิ้มบางไม่ปฏิเสธคำกล่าวนั้น...อยากจะเข้าใจอย่างไรก็เข้าใจไป



"เรื่องเมื่อกี้...ที่นายบอกว่าจะแจ้งตำรวจ..." เสียงใสเกริ่นขึ้นเปลี่ยนเรื่องทำให้เรย์ยิ้มเหยียด ใจโลดไปไกลเพราะคิดได้ว่ายังมีเรื่องที่เหนือกว่าที่เขากุมมันไว้อยู่ในกำมือ



"ทำไม รู้สึกกลัวขึ้นมาเหรอ ถ้าขอโทษแล้วบอกความจริงกับทุกคนล่ะก็เราจะไม่เอาความก็ได้..."



"นายนี่มันน่าสมเพชกว่าที่เราคิดเยอะเลย" เสียงใสเอ่ยขัด ริมฝีปากเม้มแน่น ยิ่งฟังยิ่งทนไม่ไหว "แถมยังน่ารังเกียจ"



สะอิดสะเอียน



ปึง!



"อย่ามาว่ากูแบบนี้นะ! ไอ้กาฝากอย่างมึงแค่มีบารมีคุ้มหัวนิดหน่อยก็คิดว่าใหญ่แล้วงั้นสิ!?"



"...ถึงเราจะเป็นแค่เด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่อย่างที่นายว่า แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรทุเรศๆ แบบที่นายเป็น!" ร่างบางหายใจเข้าออกแรงอย่างคนอดกลั้น เขาก็เป็นคนเหมือนกัน ได้ยินแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่โมโห



เขาไม่เคยเห็นว่าคุณลุงเป็นบารมีคุ้มหัวหรืออะไรทั้งนั้น



...น้ำตามันกำลังจะไหล...



"คนที่ทุเรศน่ะคือมึงต่างหาก! แย่งทั้งคิน ทั้งเพื่อนกูไป! แค่นี้ก็คิดว่าเหนือกว่ากูแล้วงั้นเหรอ"



"..."



"เรย์ หยุดเถอะ" ทรายพูดเตือนเพราะเสียงที่ดังเถียงกันมันทำให้คนในร้านมองเป็นตาเดียว และพากันซุบซิบนินทาแต่ดูเหมือนร่างเล็กที่อยู่ในอารมณ์โกรธจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว



"ไม่! ไม่หยุด! จนกว่ามันจะขอโทษที่ว่ากู...พวกมึงทุกคนก็ได้ยิน แล้วทำไมถึงยังเข้าข้างมันอีกล่ะ"



"เรย์ นายจะพูดอะไรก็พูดไป เพราะความจริงยังไงก็คือความจริงวันยังค่ำ" เสียงใสบอก แววตาไม่ยอม "ไม่มีใครอยู่ข้างนายอีกแล้ว"



"...มึงพูดอะไร..."



"เรื่องที่นายทำตัวเองให้รถมาชนวันนั้น เรามีพยานว่านายทำจริงและเราสามารถเอาเรื่องนี้ไปฟ้องตำรวจได้...ในข้อหาพยายามใส่ร้ายผู้อื่นให้มีความผิด"



"!" เรย์หยุดลมหายใจไปชั่วครู่อย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง แต่แค่แปปเดียวก็กลับมายิ้มหยันเหมือนเดิม "ทำเป็นพูดดี ไหนล่ะพยานที่ว่า"



ใจเย็นไว้ มันก็พูดดีไปงั้น ทำเป็นอวดเก่ง...คนอย่างไอ้ชะเอมมันก็มีดีแค่นี้เท่านั้นแหละ



"ฉันเอง" เรย์หันขวับอย่างไม่อยากเชื่อ "ก็วันนั้นนายดันคุยโทรศัพท์ให้ได้ยินกับคนที่จ้างน่ะสิ...จนฉันรู้สึกเสียความรู้สึกที่อุตส่าห์วิ่งไปหาถึงโรงพยาบาลเพราะเป็นห่วงเลยนะนั่น"



ร่างเล็กหน้าชาวาบ กำหมัดแน่น กับท่าทางไม่แยแสของหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว ไม่คิดว่าคนที่คบด้วยกันตั้งแต่เข้าเรียนจะย้อนกลับมาทำร้ายกันแบบนี้



มิน่าล่ะ เม็ดทรายเป็นคนแรกที่ทำท่าทีแปลกๆ แถมเว้นระยะห่างจากเขาเป็นคนแรกเลย เพราะรู้อะไรไม่เข้าท่าเข้าซะได้



แถมท่าทีที่เหนือกว่านั่น...มันทำให้ยิ่งโมโห



"แล้วไงล่ะ? พยานที่ว่าคือทรายจริงแต่ไม่มีหลักฐานก็เหมือนใส่ร้ายด้วยลมปากลอยๆ"



"นายนี่ร้ายจริงๆ เลย" เม็ดทรายหลุดหัวเราะกับสิ่งที่ได้ยินเหมือนเป็นเรื่องตลก อย่างที่ชะเอมว่าไม่มีผิด ท่าทางของเรย์ตอนนี้นี่น่าสมเพชจริงๆ



ดวงตากลมโตสีดำมองคนที่เอาตัวรอดข้างๆ คูๆ ทั้งที่มีความผิดอยู่เต็มมือ



"เอาตัวรอดได้ก็แค่ตอนนี้...แต่ถ้าคิดจะฟ้องตำรวจว่าเราเป็นคนทำ เราก็ฟ้องกลับได้เหมือนกัน"



"มึงไม่มีอำนาจอะไรด้วยซ้ำ อย่ามาทำอวดดี!"



"ทำไมจะไม่มี อย่าลืมสิว่าพ่อของคินเป็นใคร"



"สุดท้ายมึงก็แค่ไอ้กาฝากคิดทำตัวเป็นใหญ่" เรย์แผดเสียงมือปัดแก้วและจานจนหล่นลงมาแตกเพราะไม่สบอารมณ์ที่เหมือนถูกกดให้อยู่ต่ำกว่า เสียงตะคอกของร่างเล็กทำให้คนในร้านเริ่มอยู่ไม่ได้ต้องทยอยกันออกไป บางคนด่าทอเสียๆ หายๆ กับการกระทำเหล่านี้ และบางคนก็ถ่ายวิดิโอเก็บไว้ด้วย แต่เรย์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว ดวงตาแดงก่ำเริ่มคลุ้มคลั่งถลึงมองคนตรงหน้า...ต้องกำราบไอ้คนที่มันทำตัวอวดเก่งไม่สมกับตัว



"ก็ถูกว่ามาแบบนั้น ก็ต้องทำตัวให้สมกันสิ" ชะเอมยิ้มไม่สะทกสะท้านกับคำด่าอันเจ็บแสบ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนว่าอะไรนิดๆ หน่อยมันก็สะเทือนใจเหมือนคนอ่อนแอแท้ๆ



คนอย่างมันต้องต่ำต้อยกว่ากู



ต้องแย่กว่ากู



ไม่ใช่มาอวดดีทำวาจาอวดเก่งแบบนี้!



"มึงคงคิดดีแล้วที่คิดจะมาข่มกูแบบนี้"



"..."



"แล้วกูจะคอยดูความพินาศของมึง"



ชะเอมมองเรย์ที่เดินสะบัดออกจากร้านทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินอาหารที่สั่งมาบนโต๊ะ น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ อารมณ์ทั้งหมดที่อดทนอดกลั้นเอาไว้ถูกปลดปล่อยออกมาผ่านหยาดน้ำตา



"เอม..." คินมองร่างบางที่บัดนี้ก้มหน้าแผ่นหลังงองุ้ม แตกต่างจากแผ่นหลังหยัดตรงเมื่อกี้นี้ลิบลับ...คงจะอดทนมาตลอดกับคำด่าเจ็บแสบที่เรย์พูดออกมา



"ฮึก! อึก!" ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อน น้ำตาหลายเม็ดหยดลงบนตักและหลังมือจนเปียกชุ่ม เสียงร้องไห้ที่พยายามกลั้นสะอื้นแต่ก็ห้ามไม่ได้



'ไอ้กาฝากอย่างมึงแค่มีบารมีคุ้มหัวนิดหน่อยก็คิดว่าใหญ่แล้วงั้นสิ'



โมโหมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ปฏิเสธไม่ได้...เพราะที่เรย์พูดมันเป็นความจริงทุกอย่าง



เขามันก็แค่...เด็กกำพร้าตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ถ้าไม่มีคุณลุงก็ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว...



"เอม อย่าไปใส่ใจที่เรย์พูดเลย เอมยังมีคินอยู่นะ" คินคว้าคนข้างๆ มากอดจมอก ร่างผอมบางคนนี้แม้จะแสดงออกมาว่าไม่รู้สึกอะไร แต่แท้จริงแล้วทุกข์ใจยิ่งกว่าใคร



เขาก็รู้สึกโมโหจนแทบจะระเบิดออกมา แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเคยทำร้ายชะเอมด้วยคำพูดแบบเดียวกันก็พูดอะไรไม่ออก



โมโหเรย์...พอๆ กับที่โมโหตัวเอง



"...ฮึก!"



เพื่อนทั้งสามคนมองชะเอมที่ร้องไห้จนหมดแรงแล้วสงสารจับใจ



"เรย์พูดแรงเกินไปแล้ว" เอกว่าและกำหมัดแน่นไม่รู้ตัว แค่เขาเป็นคนนอกฟังแล้วยังรู้สึกโมโหขนาดนี้ แล้วเจ้าตัวล่ะ? จะรู้สึกขนาดไหน



หญิงสาวพยักหน้าเห็นด้วย "เอมคงจะเจอแบบนี้มาตลอดโดยที่พวกเราไม่เคยรู้อะไรเลย"



และคนที่รู้สึกผิดที่สุดก็น่าจะเป็นคนใกล้ตัวที่สุดอย่างคิน



...เอมภัทร อนันต์โภคทรัพย์...



ที่นามสกุลเดียวกันเพราะพ่อของคินเก็บมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แปลว่าเป็นพี่น้องกับคินทางกฎหมายแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือด เป็นความจริงที่ถูกเปิดเผยขึ้น...ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจจะถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว เพราะมีคนอัดวิดีโอไว้ด้วย



และเรย์คงจะต้องเดือดร้อนไม่น้อยเหมือนกัน



"พวกมึงกูกลับก่อน" ร่างสูงลุกขึ้นโดยที่ในอ้อมแขนมีร่างผอมที่หลับปุ๋ยทั้งที่ขอบตาแดงช้ำ...คงจะร้องไห้จนเหนื่อยเลยเผลอหลับไป



"เออ พาเอมไปพักเถอะ"



"เดี๋ยวฉันถือของให้" เม็ดทรายลุกขึ้นอาสาและจับกระเป๋าของเอมและคินมาถือเอาไว้ ส่วนเอกกับตาลก็ลุกขึ้นตามไปเช็คบิลและกล่าวคำขอโทษพร้อมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น



"วันนี้ขอบใจมากเลย ที่ช่วยเอม"



"ไม่หรอก เอมต่างหากที่เข้มแข็ง" หญิงสาวมองใบหน้าหวานที่อิดโรยหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องราว...แม้ภายนอกจะแสดงออกมาให้คนอื่นดูว่าเข้มแข็งแต่จริงๆ แล้วจิตใจก็ยังอ่อนโยน



"แต่ถ้าไม่มีเธอกับพวกเอกสถานการณ์คงจะแย่กว่านี้" คินรู้สึกขอบคุณหลายๆ อย่างจากใจ



"ดูแลเอมดีๆ" เอกที่เพิ่งเดินตามมาบอกเสียงเครียด "จากที่ได้ยินวันนี้ กูว่าเรย์คงไม่ยอมจบง่ายๆ เพียงแค่นี้แน่...ระวังตัวไว้"



พอได้ยินคำกล่าวคล้ายเตือน คิ้วเข้มก็ขมวดกังวลทันที นึกถึงความฝันครั้งก่อน...ฝันร้ายคราวนั้น



"กูเคยฝัน...ว่าเรย์ถือปืนไล่ยิงเราสองคน"



"!"



"นี่มึงพูดจริงเหรอ?" เอกถามอย่างตกใจ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้...แต่ไม่อาจคาดคิดว่าหมอนั่นจะทำจริงหรือเปล่า



"ในความฝันนั้นเอมก็วิ่งเข้ามาบังกูไว้...รับกระสุนแทน" ร่างสูงกระชับร่างในอ้อมกอดแน่น แต่คราวนี้อุณหภูมิผิวกายไม่ได้เย็นเหมือนในความฝัน



ใบหน้าของเรย์อยู่ในอารมณ์คลั่งยิ่งกว่าที่เห็นในความเป็นจริง ราวกับว่า...พร้อมจะคร่าชีวิตของทุกคนที่ขวางหน้า



ผนวกกับอารมณ์รุนแรงที่เรย์แสดงออกมา ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะแปรเปลี่ยนและแสดงออกมาเป็นรูปธรรมหรือไม่...เมื่อไหร่



เพราะไม่อาจคาดเดาว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...จึงเป็นกังวล



"มึงอยากให้พ่อกูช่วยอะไรมั้ย"



คินนิ่งไปก่อนจะส่ายหน้า "...ไว้ก่อนดีกว่า กูอาจคิดมากไปเอง"



เอกอยากค้าน แต่สุดท้ายพยักหน้าเข้าใจ "แล้วแต่มึง"



"ขอบใจมากเว้ย...ให้กูไปส่งปะ"



"ไม่เป็นไร มึงกับเอมจะได้ไปพัก"



"เอม ฝันดีนะ" ตาลบอกลากับร่างบางที่หลับสนิทซบอกกว้าง



"เอมคงดีใจที่มีคนเป็นห่วงขนาดนี้" ร่างสูงพูดทั้งที่ยังมองใบหน้าใส ทั้งสายตาอบอุ่นและรอยยิ้มเอ็นดู ผู้หญิงหลายคนคงอิจฉา...แต่หารู้ไม่ ตัวเขาเองต่างหากที่น่าอิจฉาที่ได้รับความรักจากชะเอม



เม็ดทรายยิ้มล้อ "เขาคงไม่ดีใจเท่ามีนายอยู่ข้างๆ หรอกน่า"



คินยิ้มอ่อนกับคำกล่าวนั้น...ไม่ต้องให้ใครมาบอก...ก็รู้ดียิ่งกว่าใคร



แต่คนที่เคยทำร้ายจิตใจของร่างบางมาก่อนอย่างตัวเขา...ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะไปว่าเรย์ด้วยซ้ำ



ร่างสูงคิดอย่างเจ็บปวดใจเหลือแสน...รู้สึกผิดกับอดีตที่ผ่านมาแล้ว แต่กลับไปแก้ไขไม่ได้



มีแต่ต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด...เพื่ออนาคต



"เรื่องไปเที่ยว เดี๋ยวไว้คุยกันในแชทนะคิน" ร่างโปร่งโบกมือยิ้มๆ คนที่ดีใจที่จะได้ไปเที่ยวรองจากชะเอมก็เห็นจะเป็นตาลนี่แหละ



"โอเค"



ไปเที่ยวเหรอ...



ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็อยากจะให้ร่างบางสนุกจนลืมความทุกข์ในใจนี้ไปได้บ้าง





************************Whose fault? ************************





"อยากไปที่ไหน?"



"หมายถึงเที่ยวสุดสัปดาห์นี้น่ะ"



"อ๋อ เรื่องที่คุยกันไว้" ชะเอมพยักหน้าหงึกหงัก นิ่งนึกไปแปปนึงก่อนจะเอ่ยอย่างลำบากใจ "เอมไม่เคยไปไหนเลย...ไม่รู้เหมือนกันครับ..."



"งั้นวันนี้มาเลือกกันไหม" ร่างสูงเสนอ "จะได้จองที่พักอะไรไว้ก่อน"



"ก็ได้ครับ" ร่างบางเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันไปล้างชามเช่นเดิม รอยยิ้มและแววตากลมไม่สดใสร่าเริงอย่างที่เคยเป็น...คินรู้สึกเช่นนั้น



ทั้งสองคนเพิ่งจะทานข้าวเย็นเสร็จได้ไม่นาน หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัย วันนี้คินมีเรียนทั้งเช้าและบ่าย ชะเอมที่มีเรียนแค่ตอนเช้าจึงไปนั่งรอที่ใต้ตึกวิศวะที่มักมีคนเดินอย่างพลุกพล่าน



ตามที่คาดข่าวเรื่องทะเลาะกันภายในร้านอาหารเมื่อวันก่อนแพร่ออกไปไวกว่าที่คิด...ร่างบางเตรียมใจไว้แล้วแต่ก็อึดอัดเหลือเกินที่ใครต่อใครเดินผ่านและมองเขาอย่างตัวประหลาด



ต้องทำใจและท่องเอาไว้ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป...เดี๋ยวมันก็ผ่านไป



"พี่ชะเอม"



ร่างบางในชุดนักศึกษาเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง "...น้องสา น้องริน"



ก้อนเนื้อในอกเต้นดังอย่างประหลาด มือบางสั่นหวาดกลัว...กลัวว่าสายตาของรุ่นน้องที่รู้จักกันจะมองตนเปลี่ยนไป ยิ่งกับสาวรินที่เริ่มคุยดีๆ กันบ้างแล้ว ยิ่งกับคนที่เพิ่งไปมีปากเสียงกับพี่ชายของเธอมา...จะกลับไปเกลียดกันเหมือนเดิมหรือเปล่า



กังวลไปหมด



"มารอพี่คินเหรอคะ" รินถามก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะและหย่อนตัวลงนั่งตรงข้าม ให้ร่างบางมองอย่างงุนงง



"อ่ะ ครับ...ใช่"



"งั้นรินนั่งด้วยนะคะ"



"อ่าครับ" ชะเอมได้แต่ตอบครับๆ พยักหน้ายิ้มอ่อนๆ สาวผมยาวก็พยักหน้านิ่งๆ เปิดหนังสือในมืออ่านก่อนที่สาวตัวเล็กจะเดินอ้อมหลังมานั่งข้างๆ ชะเอมอย่างบรรยากาศรอบตัวร่าเริงสดใสสุดๆ



"พี่ชะเอม ไม่ได้เจอกันนานเลยเป็นยังไงบ้างคะ" สาถาม แถมยิ้มตาใส จนร่างบางยิ้มตาม



พี่ชะเอมเนี่ยน่ารักที่สุดเลย...



"พี่สบายดี แล้วน้องสาล่ะ เรียนวิศวะเหนื่อยมั้ย"



"หนักมากเลยอ่าค่ะ เนี่ยทุกวันนี้สาต้องพึ่งรินตลอดเลย เพราะสาฟังอาจารย์พูดไม่ค่อยเข้าใจ"



ชะเอมมองสาวน้อยน่ารักบ่นหงุงหงิงแล้วได้แต่หัวเราะจนตาปิด ลืมความกังวลไปสิ้นเพราะท่าทางเป็นกันเองที่แสดงออกมาเหมือนเดิม ทำให้ร่างบางโล่งใจขึ้นมาก



"สาเหนื่อย..."



"บ่นมากๆ ระวังพี่ชะเอมจะเอือม" รินพูดขึ้นมาทำให้สาหันขวับเบะปาก



"รินอะ...พี่ชะเอมไม่เอือมสาหรอกใช่มั้ยคะ"



ร่างบางส่ายหน้ายิ้มๆ ใครจะไปเบื่อรสาได้ลง...รู้สึกเหมือนได้น้องสาวน่ารักๆ คนหนึ่ง ไม่เหงาดี



"ว่าแต่พี่คินเลิกกี่โมงคะพี่ชะเอม"



"ห้าโมงครึ่งครับ"



"งั้นเดี๋ยวพวกรินนั่งรอเป็นเพื่อน พี่คงไม่รำคาญใช่มั้ยคะ" สาวผมยาวพูดนิ่งๆ แต่สายตาเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กตอนที่พูดว่ารำคาญราวกับจะบอกว่ายัยนี่แหละตัวน่ารำคาญเลย



"งือ ไม่เห็นต้องพูดแรงขนาดนั้นเลย"



"พี่ไม่รำคาญหรอกครับ...แต่ว่าทั้งคู่ไม่มีธุระไปไหนเหรอ"



"สาไม่มีค่ะ" รสาตะเบ๊ะท่าทะเล้นๆ บอกรุ่นพี่ แต่รินพูดแทรกขึ้นมาทำให้เธอเบะปากอีกครั้ง



"เธอน่ะมีธุระต้องอ่านหนังสือเยอะๆ ไง"



"ก็สารอให้รินติว..."



"ไม่ติวให้แล้ว"



"แง..."



ชะเอมมองรุ่นน้องต่างคณะทั้งสองคนที่ได้รู้จักกันโดยบังเอิญ ที่แสดงท่าทีแบบเด็กสาวๆ แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สาวผมยาวหน้าตาสะสวยอ่านหนังสือด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแต่สังเกตดีๆ จะเห็นรอยยิ้มจางๆเหมือนกับสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนสาวตัวเล็กผมสั้นน่ารักที่หน้างอเบะปากงอแงใส่ราวกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน



ดูเป็นกันเอง...จนทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาในใจ



"น้องริน ไม่โกรธพี่เหรอ"



สาวสองคนเงียบเสียงลง ก่อนจะหันมามองหน้าร่างบางของรุ่นพี่ด้วยสายตาที่แตกต่างกันไป



"เรื่องอะไรคะ"



"ที่...เรย์..." ชะเอมพูดแค่นั้นเพราะไม่อยากจะพูดอะไรที่กระทบกระเทือนพี่ชายของเธอไปมากกว่านี้


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>ต่อด้านล่าง





ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>ต่อจากด้านบน



แม้จะไม่ชอบเรย์ แต่เรย์ก็เป็นพี่ชายของริน



ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ของชะเอมทำให้รินยิ้มบาง...ช่างเป็นคนที่ประเสริฐยิ่ง จนไม่เสียดายความรู้สึกนับถือนี้เลย   



"เรื่องนั้นรินรู้นานแล้วล่ะค่ะ เพราะงั้นคนที่ต้องถามควรเป็นรินมากกว่า พี่ชะเอมไม่โกรธรินเหรอคะ ที่รินเคยว่าพี่เอาไว้"



ทั้งหมดที่ผ่านมา...เธออยากขอโทษสิ่งที่พี่ชายเป็นคนทำและสิ่งที่เธอทำ...ความผิดทั้งหมดนี้...จะยกโทษให้ได้หรือเปล่า



"รินขอโทษ...ทั้งเรื่องของริน และของพี่เรย์ด้วย"



"พี่ไม่เคยโกรธน้องรินเลย...แต่กับเรย์...พี่ไม่..." ไม่สามารถยกโทษให้ได้...กับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ



มันหนักหนาเกินไป...เกินกว่าสิ่งที่เพื่อนมนุษย์ควรทำต่อกัน



...เกลียด...



"พี่ขอโทษนะ"



ทั้งๆ ที่เธอและพี่ชายทำผิดมากมายนับคณาต่อเขาแบบนั้น...แต่พี่ชะเอมก็ยังขอโทษเธอ...ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ



...คำขอโทษที่อ่อนโยน...







แกร๊ก...



เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกทำให้ชะเอมหลุดออกจากภวังค์ ใบหน้าหวานหันไปมอง ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้าง แก้มใสแดงปลั่ง



"คิน...ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้ดีๆ ล่ะครับ"



"ก็คินร้อน" ร่างสูงที่ใส่แค่กางเกงนอน ยังมีน้ำเกาะบางส่วนที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง ยืนเช็ดผมที่เปียกชื้นด้วยท่าทางเซ็กซี่ที่ทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงเขินอายได้



ร้อนอะไรกัน แค่แอร์ที่เปิดอยู่นี่ก็หนาวจะตายอยู่แล้ว...



"อ๊ะ..."



เพราะมัวแต่เขิน ร่างสูงที่เดินออกมาด้านหลังต้ังแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ดึงไปนั่งซ้อนตักแล้วโอบเอวไว้...ชอบจังเลยนะท่านี้



"คินไม่หนักเหรอ?" ร่างบางถามทั้งที่หน้าแดงเรื่อ ก็แผ่นหลังมันสัมผัสได้ถึงอกอุ่นๆ แบบแนบเนื้อเลยนี่นา



"ไม่หนักเลย เด็กบางคนยังหนักกว่าเอมด้วยซ้ำ" ว่าแล้วมือใหญ่ลูบเอวบางยืนยันว่าอีกฝ่ายผอมจริงๆติดกระดูก ไม่มีไขมันเลย



"คินก็...พูดโอเวอร์ไปครับ"



"คินพูดจริงๆ เดี๋ยวคินต้องขุนน้ำหนักให้เอมหน่อยแล้ว" เวลากอดจะได้เต็มไม้เต็มมือหน่อย...อันที่จริงก็เพื่อตัวเองด้วยล่ะนะ "ตอนนี้น้ำหนักเท่าไหร่"



"เอ่อ เอมไม่แน่ใจ"



"ล่าสุด"



"น่าจะ...เกือบๆ ห้าสิบได้" ชะเอมตอบอย่างไม่แน่ใจ แต่คำตอบที่ได้ยินทำให้คินตกใจไม่น้อย ความสูงของชะเอมก็ไม่ได้น้อยมาก แต่ก็ไม่แปลกที่จะได้ยินคำตอบแบบนี้เพราะตอนเจ้าตัวใส่ชุดนักศึกษาก็เห็นรูปร่างได้ชัดว่าผอมบางแค่ไหน



"เบากว่าผู้หญิงบางคนอีก" มิน่าตอนอุ้มถึงได้รู้สึกเบาขนาดนี้...



"เอมกำลังพยายามเพิ่มน้ำหนักอยู่เหมือนกัน" เอมว่าอย่างหนักใจ ส่วนหนึ่งก็เพราะอาหมอบอกด้วยล่ะ



"เพราะงั้นเอมต้องกินเยอะๆ"



"ครับ" ร่างบางพยักหน้ารับคำ แม้สิ่งที่คินพูดอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็จะพยายาม



"เมื่อกี้เอมกังวลเรื่องอะไร" เสียงทุ้มพูดขึ้นทำให้ชะเอมเอี้ยวตัวหันมามองใบหน้าคม



"ครับ?"



"บอกคินหน่อยได้มั้ย"



ในอกบาง ก้อนเนื้อเล็กเต้นตุบตับเสียงดังจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าเขาดีใจมากแค่ไหนที่ถูกคินสังเกตเห็นถึงความกังวล



รู้ด้วยเหรอ



"แค่นิดหน่อยครับ เรื่องน้องรินน่ะ"



"ทำไม"



"ก็แต่ก่อน...น้องรินเธอเกลียดเอมมากเพราะว่าเข้าใจผิดว่าเอมเป็นคนไปทำร้ายพี่ชายเธอจนบาดเจ็บถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล แต่ตอนนี้พอเรื่องของเรย์มันเปิดออกมาว่าทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง น้องสาวแท้ๆ จะรู้สึกยังไงกันนะ?"



จะรู้สึกยังไงที่พี่ชายตนโกหกเพื่อเอาดีเข้าตัว...แถมยังใช้น้องสาวเป็นเครื่องมือโพนทะนาเรื่องอุบัติเหตุนั่นอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วรินเคยรักเรย์มากก็เลยทำแบบนั้น เพราะไม่อยากให้พี่ชายตนไม่ได้รับความยุติธรรม



เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เรย์แล้วที่ถูกมองไม่ดี...รินก็ด้วย



"เอมเป็นห่วงน้องริน"



พี่ชายที่เคยเป็นหลักยึดเหนี่ยว ตอนนี้เลือนหายไป คงเคว้งคว้างน่าดู



ใบหน้ารู้สึกผิดของร่างบางบนตัก ทำให้แขนยาวโอบกระชับแน่นกว่าเดิม บางทีก็คิดว่าชะเอมเป็นคนดีเกินไปแล้ว...ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเลยก็ได้แท้ๆ



ทั้งๆ ที่ไม่ควรจะยกโทษให้เขาเลยแท้ๆ ...ความผิดของเขามันมากมาย แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยนึกโกรธเลย



"เอมไม่ต้องห่วงไปหรอก รินน่ะเข้มแข็งกว่าที่คิด...เป็นสาวแกร่งพอๆ กับเม็ดทรายเลยนะจะบอกให้"



"จริงเหรอ"



"อืม"



"ทรายน่ะสามารถสยบหัวใจของชายที่แกร่งที่สุดในมหา'ลัยเราได้เลยนะ"



ชะเอมหัวเราะคิกกับคำบอกเล่านั้น แม้จะไม่เคยเห็นว่าแฟนที่แกร่งที่สุดของเธอเป็นยังไงก็เถอะ "คุณทรายเนี่ยสุดยอดไปเลยครับ"



ในท่าที่ทั้งสองคนนั่งแอบอิงกันทำให้ใบหน้าคมอยู่ข้างใบหน้าหวานในระยะใกล้มาก จมูกโด่งเอียงสูดดมความหอมของสบู่อ่อนๆ บนแก้มใสดังฟอดจนชะเอมต้องหดคอหนี



ทั้งๆ ที่ใช้สบู่ขวดเดียวกัน แต่ไม่รู้สึกว่าหอมเท่าอยู่บนผิวกายขาวนี้เลย



"คิน..."



"หายกังวลแล้วใช่มั้ย" คินถาม เมื่อเห็นสีหน้าสบายใจที่แตกต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าน้อยๆ



"ครับ"



"มางั้นมาดูกันดีกว่าว่าวันหยุดนี้จะไปไหนดี" คินให้ชะเอมลงจากตักเขยิบไปด้านข้าง ส่วนตัวเองเอื้อมหยิบมือถือที่โต๊ะข้างๆ เตียงมาเปิดหาข้อมูล "สรุปเราไปกันกี่คนนะ"



"ก็มี...คิน เอม เอก ตาล คุณทราย ดิน สิน ราม ไอติม..." ร่างสูงนั่งมองชะเอมที่ยกมือสองข้างขึ้นมานับนิ้ว ทันทีที่ได้ยินชื่อใครบางคนหลุดออกจากริมฝีปากบางคิ้วเข้มก็ขมวดเป็นปม



"ไอ้หมอนั่นไปด้วยเหรอ"



ชะเอมกระพริบตาปริบ "ครับ ก็รามไปด้วย ติมก็เลยไปด้วย"



"..."



พอเห็นอีกฝ่ายเงียบไป เสียงใสจึงเอ่ยถามด้วยความกังวล "คินไม่อยากให้น้องไปเหรอ"



นี่เขาชวนใครต่อใครไปโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของคนสำคัญอีกแล้วหรือเปล่า



คินนิ่งเงียบนั่งพิงหัวเตียงไถมือถือไปเรื่อย โดยสายตาที่อ่านตัวหนังสือไม่เข้าหัวสักนิด จะทำไงได้ ดูหน้าสิ จะพูดตรงๆ ว่าไม่อยากให้ไปก็ทำหน้าซึม จะให้พูดยังไงนอกจากแบ่งรับแบ่งสู้



"จะไปก็ไป แต่แยกกันไปนะบอกไว้ก่อนเลย" ร่างสูงพูดห้วน เขาไม่มีทางให้มันขึ้นมาอยู่บนรถคันเดียวกันแน่



ร่างบางยิ้มแหย "ครับ ไอติมเอารถไปเองเขาบอกเอมแล้ว"



"อืม"



"เอมชวนน้องสากับน้องรินไปด้วยได้มั้ย" คราวนี้ชะเอมเอ่ยขออนุญาต ซึ่งคินก็พยักหนารับง่ายๆ



"ได้ คินแล้วแต่เอมเลย"



"วิวสวยจังครับ" ดวงตากลมโตประกายวาววับ เมื่อเห็นรูปในมือถือที่คินกำลังดู ร่างบางเขยิบเข้าใกล้แทบจะเกยบนร่างกายกำยำอุ่น "ที่ไหนเหรอ"



"ใต้น่ะ...ทะเลสวยๆ มีเยอะเลย"



"จริงด้วย แต่ว่าเราจะไปกันไกลขนาดนั้นเลยเหรอ"



"เอมไม่อยากไป?"



หัวทุยส่าย "เอมอยากไป แต่ว่าแค่สองวันมันแปปเดียวเอง..."



"งั้นก็หยุดเรียนสักวันสองวันก็ได้ถ้ากลับมาไม่ทัน" คินพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดา การเรียนกับโดดเรียนมันเป็นของคู่กัน



"ไม่ครับ เอมไม่อยากหยุด" ใบหน้าหวานเงยสบสาวตาคม ดวงตาสีดำมองอย่างดื้อดึง ทำให้คินยอม



อา...นักเรียนดีเด่นนี่นะ



"งั้นเราไปใกล้ๆ กันก่อนก็ได้" ร่างสูงเสิร์ชคำใหม่ ซึ่งในหัวคิดไว้ว่าไม่น่าจะพ้นพัทยา ชะอำ หัวหิน...แต่ชะเอมก็ยังไม่เคยไปเลยนี่นะ



ไว้วันหยุดยาวหรือปิดเทอมค่อยไปเที่ยวไกลๆ สักที่และค้างหลายๆ วัน



ครืด ครืด



"เสียงโทรศัพท์..." ชะเอมลุกขึ้นนั่ง มองหาที่มาของเสียงสั่นของมือถือตน ก่อนจะล้วงหยิบขึ้นมาดูหน้าจอและใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม หันมาบอกร่างสูงที่นอนมองมาด้วยน้ำเสียงดีใจปิดไม่มิด "คุณลุงโทรมาล่ะ"



มือเลื่อนกดรับไม่ต้องคิดเลยด้วยความคิดถึง



"สวัสดีครับ"



("เอม...นอนหรือยัง")



เพียงแค่ได้ยินเสียงก็ยิ้มแย้มดีใจ อาจเพราะตอนนี้มีคินอยู่ข้างๆ ด้วย "ยังครับ เอมเพิ่งอาบน้ำเสร็จครับ คุณลุงล่ะ?"



("อา ลุงเหนื๊อยเหนื่อย อยากได้กำลังใจเลยโทรมาหา")



"ทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ"



("...อย่าพูดถึงมันสักวิได้มั้ย ลุงจะอ้วกออกมาเป็นกระดาษกับตัวหนังสืออยู่แล้ว...จมูกยังได้กลิ่นหมึกอยู่เลยเนี่ย")



ชะเอมหัวเราะคิก กับคำบ่นของประธานบริษัทที่หลุดมาดอย่างน่าเหลือเชื่อ "พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่เสร็จแน่เลย คุณเลขาไม่อยู่เหรอครับ อ๊ะ...คิน ปล่อยเอมก่อน"



("จะไปเสร็จได้ไงงานเก่าเคลียร์ยังไม่ทันเสร็จ งานใหม่ก็ถมมาอีกแล้ว...ว่าแต่ไอ้ลูกชายอยู่ด้วยเหรอ")



"อ่า ใช่ครับ คุณลุงอยากคุยกับคินมั้ยครับ" แก้มใสแดงระเรื่อเมื่อถูกร่างสูงคร่อมอยู่เหนือร่างแถมยังกักไว้ไม่ให้ดิ้นหนีอีกต่างหาก เสียงใสพยายามควบคุมให้พูดออกไปปกติเหมือนเดิมเพราะเดี๋ยวคุณลุงจะจับได้



มือใหญ่แย่งโทรศัพท์ออกจากมือบางกดปุ่มลำโพงเปิดเสียงและโยนมันลงบนเตียงข้างๆ ศีรษะ



("ไม่อะ ลุงอยากคุยกับเอมมากกว่า นี่ว่าแต่คินมันกลับมานอนห้องเหมือนเดิมแล้วเหรอ")



"คร...อื้อ" ร่างบางเบิกตาโตและดิ้นขลุกขลัก เมื่อถูกมือใหญ่ปิดปากไม่ให้พูด



"ครับพ่อ"



คินตอบแทน แต่สายตาคมกริบกวาดมองทั่วเรือนร่างสีขาว ที่ถูกปกปิดด้วยชุดนอนผ้านิ่มสีกรมท่า ยิ่งขับผิวนวลเนียนให้สว่างกว่าเดิม...พอมองแล้ว ทั้งปากทั้งลำคอก็แห้งผากจนต้องแลบลิ้นไล้เลีย อยากจะกลืนกินไปทั้งตัว



ท่าทางคุกคามอันตรายกับสายตาที่มองมาทำให้ร่างบางหน้าแดงก่ำแต่พูดอะไรไม่ได้ มือบางพยายามแงะมือใหญ่ออก



("ชิ แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่ห้ะ ทำไมแกถึงมาอยู่ห้องชะเอม ถึงเวลานอนของเด็กแล้วก็ไปนอนซะไป พ่อจะคุยกับเอม")   



"ถึงเวลานอนแล้ว งั้นวางสายก่อน ผมกับเอมจะได้ 'นอน' ด้วยกัน" คำพูดที่อีกฝั่งได้ยินกับสายตาที่สื่อออกมาที่ชะเอมได้รับมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง



("เฮ้ย เดี๋ยวดิ!")



"อะไรครับ"



มือใหญ่อีกข้างล้วงเข้าใต้ชายเสื้อสัมผัสหน้าท้องที่หดเกร็งทันทีรับกับมือร้อนผ่าว บ่งบอกอารมณ์เจ้าของได้เป็นอย่างดีว่ามันตื่นเต้นขนาดไหน ก่อนจะค่อยๆ ถกให้มันเลิกขึ้นจนถึงลำคอ เห็นแผ่นอกบางสะท้อนกระเพื่อมและ...เม็ดสีชมพูทั้งสองน่าลิ้มลอง



"ฮึก..." ร่างบางสะดุ้งหลับตาปี๋ เพราะความเปียกชื้นของลิ้นร้อนที่แตะลงบนแผ่นอกเพียงเท่านั้นก่อนที่จะครอบปากลงดูดดุน...



("เฮ้ย ได้ยินมั้ยเนี่ย!!")



ร่างสูงหลุดจากภวังค์ ร่างสูงละสายตาออกจากสิ่งน่าสนใจ ก่อนจะเสยผมอย่างหงุดหงิด คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เสียงคนแก่ทะลุสายออกมาจนทำเกือบหมดอารมณ์  มือใหญ่คว้าหยิบโทรศัพท์มากดโหมดปกติและกรอกเสียงถอนหายใจใส่ให้รู้ว่าเอือมระอาสุดๆ "พ่อ ไว้เดี๋ยวให้เอมโทรไปทีหลัง เขาง่วงแล้วแค่นี้นะ"



("เดี๋ยวเด้ พ่อขอบอกฝันดีกับเอมก่อน...!")



"พ่ออะไรกวนประสาทชะมัด" คินมองหน้าจอมือถือที่ดับไปแล้วเพราะเขาตัดสายเอง เสียงทุ้มพึมพำบ่นๆ ก่อนจะละสายตาไปมองร่างบางที่ควรจะนอนอยู่ตรงนี้...แต่...ไม่มี



ชะเอมหายไปไหนแล้ว?



"เอม" ร่างสูงหันซ้ายหันขวา แต่ก็ไม่เจอ มือโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงคิดจะออกไปหานอกห้องแต่...



โป๊ก!



"โอ๊ย" เสียงใสอุทานอยู่แถวๆ นี้ ก่อนที่คินจะเห็นก้อนกลมบางอย่างอยู่ใต้ผ้าห่มที่มีมือถือที่เขาโยนทิ้งไว้แถวๆ เดียวกัน



"เอม"



"ยะ อย่าจับนะ!" เสียงใสตะโกนอู้อี้ผ่านออกมา ก่อนจะรู้สึกว่าเจ้าตัวขดตัวแน่นกว่าเดิม "คินบ้า คนหื่น ไปนอนนอกห้องเลย วันนี้เอมไม่นอนด้วย!"



ร่างสูงหลุดหัวเราะ นี่อายถึงขนาดต้องขดเป็นกระต่ายหนีเข้าหลุมเลยเหรอ



"เอม"



"มะ ไม่ คินปล่อยเอมนะ" ร่างบางดิ้นหนีขลุกขลักเมื่อร่างสูงโถมตัวลงมากอดผ่านผ้าห่ม "ไม่ต้องมากอดเลย แล้วก็ไม่ต้องมานอนด้วย...คนหน้าไม่อาย"



"เอมโกรธคินเหรอ"



"...โกรธ..." เสียงใสผ่านผ้าห่มอู้อี้ ที่สำคัญคืออายมากกว่า



"ถ้าคินไปนอนนอกห้องแล้วเอมจะหายโกรธใช่มั้ย" คินเอ่ยลองใจ พอคำตอบที่ได้รับคือความเงียบ ร่างสูงก็ผุดลุกขึ้นเดินออกจากห้องจริงๆ ...แถมปิดประตูปิดไฟให้ด้วย



ผ่านไปสักพัก บรรยากาศเงียบแปลกๆ ทำให้สิ่งที่อยู่ใต้ผ้าห่มโผล่ออกมาเล็กน้อยและเมื่อยืนยันได้ว่าไม่มีใครอยู่ในห้องแล้วจริงๆ ชะเอมก็ออกมาจากผ้าห่มทั้งใบหน้าแดงๆ นั่น



คนหน้าไม่อาย...ทั้งๆ ที่คุยโทรศัพท์อยู่กับคุณลุงอยู่แท้ๆ แต่มาทำแบบนั้น มันก็เหมือนไม่ต่างกับทำต่อหน้าเลยไม่ใช่หรือ? แค่อีกฝ่ายไม่เห็นเท่านั้นเอง



แต่...ทำยังไงก็หลับไม่ลง...เพราะเป็นห่วงว่าอีกฝ่ายจะนอนยังไง หนาวหรือเปล่า? โซฟาที่นอนก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายที่จะรองรับร่างสูงใหญ่ของคินได้ คิดได้แบบนั้น ทำให้ชะเอมค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง



แอ๊ด...



ขาเรียวย่องเบาๆ หยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนโซฟาที่สั้นกว่าจนเท้าเลยตกขอบลงมาเป็นอย่างที่คิด คงจะนอนไม่สบายแน่ๆ เลย...ร่างบางคุกเข่าลงพิศมองใบหน้าคมใกล้ๆ พยายามหายใจให้เบาที่สุดไม่ให้อีกฝ่ายตื่น



รู้สึกผิดที่ไล่อีกฝ่ายออกจากห้อง แต่ว่าคนที่ทำผิดก่อนน่ะคือคินไม่ใช่เหรอ?



"ก็คินนั่นแหละ ที่ผิดนะ" ริมฝีปากบางกดข้างมุมปากหยักอย่างเผลอไผล เหมือนถูกใบหน้าคมหล่อเหลาสะกดให้ต้องมนต์หลงรัก "เอมรักคิน"



"..."



"...รักนะครับ" ย้ำด้วยคำพูดไม่อาจเพียงพอ ริมฝีปากนุ่มกดแนบชิดย้ำๆ ที่ริมฝีปากคม แต่ไม่ล่วงเกินก่อนจะผละออกมาซบใบหน้าข้างโซฟา จ้องมองใบหน้าหลับพริ้มของคินอย่างนั้นสักพักจนหลับไปง่ายดาย...



หารู้ไม่ว่าหัวใจอีกฝ่ายเต้นดังก้องอย่างกับกลอง ใบหน้าคมแดงเรื่อร้อนผ่าวในความมืดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน



...นี่มัน...ลักหลับกันชัดๆ...



มือใหญ่ยกขึ้นปิดหน้าเขินอาย รู้สึกเหมือนจะกลายเป็นสาวน้อยเมื่อได้ยินคำว่ารักของร่างบาง...หัวใจของเขาจะละลายอยู่แล้ว



...ทำไมชะเอมถึงได้ทำตัวน่ารักแบบนี้...



แต่อีกฝ่ายคงโกรธหนักกว่านี้แน่ถ้ารู้ว่าเขาไม่ได้หลับจริงๆ ...ดังนั้นเขาจะทำเป็นหลับแล้วตื่นมาอย่างคนไม่รู้เรื่องราวอะไร



แต่ก็อดคิดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ได้...ถ้ารู้ว่าถูกงอนแล้วจะมาง้อกันแบบนี้ จะงอนเยอะๆ บ่อยๆ เลย



คุ้ม...





************************Whose fault? ************************





"ท่านประธาน ทำอะไรอยู่ครับ" เลขาหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงานที่รอบห้องติดด้วยกระจกใสรอบด้านเห็นวิวแสงไฟในเมืองไม่หลับใหลจากตึกสูง เกษมศักดิ์กำลังยืนจ้องมือถือเขม็งแถมทำหน้าเหมือนจะกลืนมันเข้าไปยังไงยังงั้น ไม่ได้สนใจคนถามเลยแม้แต่น้อย



"ไอ้ลูกชายคนนี้ ไอ้เรารึอุตส่าห์หาช่วงว่างๆ โทรไป...แต่มันทำตัวเป็นมารหัวขนซะงั้น"



ฮึ่ม!! โมโห!!



มือกดปุ่มโทรไปอีกครั้งและแนบหู แต่เสียงแบบนี้มัน...ปิดเครื่อง!



มือไม้ตกลงแนบลำตัวอย่างหมดแรง น้ำตาตกใน



"ฮือ ชะเอม ลุงคิดถึง...อยากกลับบ้านแล้วอะ"



...อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งตอนนี้เลยดีกว่า...



และคนที่เพิ่งเข้ามาก็เดินออกไปอย่างเงียบเชียบ





************************Whose fault? ************************



สวัสดีจ้าาา มาต่อให้แล้วเด้อ

เป็นไงเป็นไง ความร้ายและบ้าคลั่งของเรย์(ยา) แต่ชะเอมก็ไม่ได้ยอมให้ด่ากันง่ายๆ นะคะเอ้อ

อีคินนี่ก็นะ...หื่นไม่มีใครเกิน คุณพ่อฟังอยู่มันก็เอาค่ะ!!

ตอนหน้าจะรู้ความจริงแล้วนาาา...ความจริงเรื่องอะไร มารอลุ้นๆๆ กัน ><!!

ไม่ลืมโฆษณารูปเล่ม ใครอยากได้ก็ยังมีอยู่นะเอ้อ ทักมาได้ตลอดเลยที่เพจ H.Rui Novels จ้า

บอกเลยว่าต้องเก็บ ไม่เก็บไม่ได้ ตอนพิเศษน่าอ่านมว้ากจริงๆ ไม่ได้โม้

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
น่าสงสารเขานะคะ ท่านประธานน่ะ 5555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ไม่ใช่ว่าเรย์จะตามไปด้วยหรอ??  อย่าให้ไปนะ,,,

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


                                Whose Fault ?

                                 ผิด...ครั้งที่ 33





"ว้าว..." ดวงตากลมโตสดใสมองออกไปนอกหน้าต่างรถที่วิ่งฉิว ประกายแสงอาทิตย์ที่สะท้อนบนผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่ช่างดูระยิบระยับไม่แตกต่างจากประกายบนแววตาของชะเอมตอนนี้เลย



ลมทะเลเย็นๆ ที่ปลิวปะทะใบหน้าทำให้ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ปล่อยออกมา ท่าทางสดใสที่แสดงออกมา ทำให้คินที่มองอยู่ยิ้มมุมปาก



"พี่ชะเอมเหมือนเด็กเลยค่ะ" เสียงใสดังขึ้นจากเบาะด้านหลังรถ สองสาวรุ่นน้องติดรถมาด้วยกันเพราะว่ารินไม่เคยขับรถมาที่ไกลๆ จึงไม่อยากขับมาด้วยตัวเอง...สาเลยติดมาด้วยตามประการฉะนี้แล



คำกล่าวจากคนที่อายุน้อยกว่าทำให้ชะเอมเขินหน่อยๆ "ก็พี่ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย" ใกล้สุดก็คงจะเป็นห้างสรรพสินค้าแถวๆ คอนโดมั้ง...พูดไปก็อายเปล่าๆ



"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาไกลแบบนี้" พูดแล้วก็ยิ้มบาง ตั้งแต่เด็กๆ แล้วเพราะคุณลุงงานยุ่งมากก็เลยไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวซักเท่าไหร่ อีกอย่างเขาก็เกรงใจมากด้วย เข้าใจว่าคนที่เป็นถึงประธานบริษัทจะต้องงานยุ่งจริงๆ



แต่ก็ไม่เคยน้อยใจคุณลุงเลยแม้แต่ครั้งเดียว



"เราจองที่พักไว้ที่...เอ่อ โรงแรมอะไรนะครับ"



"โรงแรม...น่ะ นั่นไงเห็นตึกสูงๆ นั่นมั้ย พวกเราใกล้ถึงแล้ว"



ดวงตาสีดำจ้องมองตามทิศทางที่ว่า เพียงไม่นานก็มาถึง รถฮอนด้าสีดำแอคคอร์ดแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงแรมหรูอย่างเงียบเชียบ และพอลงจากรถก็มีพนักงานลงมาช่วยยกกระเป๋าให้ ร่างผอมบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนใส่สบายและขาสามส่วนพอดีเข่าเหมาะกับมาเที่ยวทะเลกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสนอกสนใจ กับร่างสูงที่ลงจากรถมายืนข้างๆ ก็แต่งตัวแบบเดียวกันเป๊ะๆ



"โห เฮ้ย เสื้อคู่กางเกงคู่นี่หว่า" เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งเอ่ยแซว ทำให้สี่คนที่เพิ่งมาหันไปมอง ซึ่งสองสาวมองอย่างสงสัยเพราะไม่รู้จัก



"ดีนะไม่ใส่รองเท้าคู่ด้วย" สินแซวต่อยิ้มๆ



"ดิน! สิน!" ชะเอมเดินเข้าใกล้เพื่อนก่อนจะมองหาคนอื่นๆ "แล้วรามล่ะ?"



"มากับผั...แฟนมันอะดิ" ดินเกาหน้าตอบเลี่ยงๆ ...เกือบหลุดคำไม่ดีไปแล้วไงกู



"เหรอ... แล้วทั้งคู่ล่ะ มาถึงนานแล้วเหรอ"



"ก็ประมาณครึ่งชั่วโมงได้" สินควงกุญแจ ก่อนจะเลิกคิ้วถามเมื่อสังเกตได้ว่ามีผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่เยื้องๆ ด้านหลังมาด้วยกัน "ว่าแต่สองสาวตรงนั้นคือ...?"



"อ๋อ นี่รุ่นน้องของคินน่ะ เรียนวิศวะ ชื่อสากับรินอยู่ปีหนึ่ง" ชะเอมรีบแนะนำสองสาวให้เพื่อนรู้จัก ซึ่งทั้งสาและรินก็ก้มหัวเกร็งๆ



"สวัสดีค่ะ"



"ส่วนนี่ เพื่อนพี่อยู่คณะเดียวกันแต่คนละเอก สินกับดินนะ"



"เอม มึงกินข้าวมายัง" ดินเอ่ยถาม พร้อมลูบท้องที่ร้องโครกครากมาตั้งแต่เช้า "พวกกูว่าจะไปหาอะไรกินสักหน่อย ไปด้วยกันปะ"



ร่างบางเหลือบมองใบหน้าคมที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็บอกปฏิเสธ "เรากับคินกินมาแล้วแต่น้องๆ ยังไม่ได้กินเลย"



"แล้วพวกน้องจะไปกินกับพวกพี่มั้ย" ดินชะโงกถามสองสาวที่มองหน้ากัน



"ที่ไหนคะ"



"ไม่รู้ดิ คงหาแถวนี้แหละ ร้านเยอะแยะ หรือจะกินในโรงแรม?"



"ในโรงแรมก็ได้ค่ะ" รินว่า เธอไม่ค่อยชอบกินอาหารตากแดดร้อนๆ เท่าไหร่ ส่วนรสายังไงก็ได้เพียงแต่ไม่ค่อยกล้าออกความคิดเห็น...ก็พี่ดินกับพี่สินดูน่ากลัว ไม่เห็นเหมือนพี่ชะเอมเลย



"งั้นรีบไป พี่หิว จะกินควายทั้งตัวได้อยู่แล้ว" ดินเร่งฝีเท้าเดินฉิวมุ่งหน้าเข้าโรงแรมไปก่อน โดยทิ้งเพื่อนกับรุ่นน้องไว้ สองสาวมองตาปริบๆ แล้วสินก็หลุดหัวเราะ



"ไม่ต้องกลัวนะ มันก็เป็นอย่างนี้แหละ ทำตัวสบายๆ เข้าไว้" จริงๆ แล้วสินจะพูดว่ามันก็หยาบคายอย่างนี้แหละ แต่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ



"ค ค่ะ"



"งั้นเดี๋ยวเราไปเดินเล่นแถวนี้กับคินก่อนนะ" ชะเอมชี้ออกไปนอกทะเล ประมาณว่าจะไปเดินที่ชายหาด



ซึ่งสินก็ทำมือโอเคก่อนพาสองสาวเดินเข้าโรงแรมไป



"ไปกันเถอะคิน" มือบางจับมือใหญ่แล้วเดินนำ ซึ่งขายาวก็เดินตามแผ่นหลังบางไปไม่ได้พูดอะไร



สัมผัสที่แทรกผ่านเข้ารองเท้าแตะมาทำให้ชะเอมถอดรองเท้า และใช้เท้าสัมผัสกับเม็ดทรายสีขาวละเอียดโดยตรง



"เอม อย่าถอดรองเท้าสิ เดี๋ยวมีอะไรบาดขึ้นมาจะทำยังไง" คินเอ่ยเสียงดุด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นได้บ่อยจะตายว่ามีทั้งเปลือกหอยหรือเศษแก้วบาดเท้านักท่องเที่ยวกันให้วุ่น แต่ชะเอมที่ตื่นเต้นเหมือนเด็กเดินไปนู่นแล้ว ร่างสูงก็ถอนใจก้มหยิบรองเท้าที่ชะเอมถอดทิ้งไว้ก่อนจะเดินตามไป



ใบหน้าหวานมุ่ยเมื่อมองคินใส่รองเท้าแตะเข้ามา "มาเดินชายหาดเขาก็ต้องเดินเท้าเปล่าสิครับ"



ไม่งั้นก็ไม่รับรู้ถึงธรรมชาติไม่ใช่เหรอ



ดวงตากลมมองน้ำทะเลและคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งก่อนที่เท้าจะเหยียบลงบนทรายเปียกๆ ยืนลุ้นรอให้คลื่นทะเลมันซัดเข้ามาโดนเท้าอีกครั้ง



ซ่า...



"เย็น..." เท้าก้าวไปข้างหน้าอีกนิด...อยากสัมผัสมากกว่านี้อีกสักนิด มือบางกวักเรียกให้คนยืนมองมาด้วยกัน "คิน มานี่สิ น้ำทะเลเย็นๆ ครับ"



ร่างสูงถอนใจ หึ ถือซะว่าพาเด็กมาเที่ยวเล่น...ถ้าอีกฝ่ายมีความสุข เขาก็จะตามใจ



"อยากเล่นทะเลแล้วสิ"



"เอาไว้เย็นๆ รอแดดร่มก่อนแล้วเดี๋ยวคินจะให้เล่นนะ"



ชะเอมพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่าย ก่อนจะถามตาวาว "แล้วคินจะมาก่อทรายด้วยกันมั้ย เอมอยากก่อปราสาท"



ตอนเด็กๆ ได้ยินเพื่อนๆ คุยกันในโรงเรียนว่าไปเที่ยวทะเลกับครอบครัวมาแล้วก่อทรายเป็นรูปนั้นนี้อย่างน่าอิจฉา คราวนี้ร่างบางได้มาเอง เขาจะต้องทำให้เป็นรูปร่างจะได้ถ่ายรูปเก็บไว้เอากลับไปอวดคุณลุง



"ได้ เอาสิ" คินพยักหน้ายิ้มๆ ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาทำอะไรเด็กๆ แบบนี้ แต่ถ้าหากนี่เป็นสิ่งที่ชะเอมต้องการ...เขาก็อยากจะทำด้วยเช่นกัน



ทั้งสองเดินเล่นอยู่สักพักจนผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง แดดจากอ่อนๆ เริ่มแรงขึ้นจนร้อนอบอ้าว



ครืด ครืด



"ว่า? มาถึงแล้วเหรอ...เออ อยู่ชายหาด เออเดี๋ยวเข้าไป" ร่างสูงวางสายจากเอกที่โทรมาบอกว่าถึงแล้วเมื่อครู่และกำลังรออยู่ที่ห้องโถงรับรองแขกของโรงแรม



“เอม พวกเอกมาถึงแล้ว เราก็เข้าไปกันเถอะ”



"ครับ..." ขาเรียวเดินตามแผ่นหลังกว้าง จู่ๆ ร่างบางก็รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ภาพที่เห็นตรงหน้าพร่าเลือน "คิ...น"



เป็นอะไรน่ะ...?



ร่างบางหยุดยืนนิ่ง หรี่ตาพยายามมองตรงไป ขายกก้าวเดินอีกก้าว...ไม่พ้นก้าวที่สอง ก่อนที่ขาเรียวจะทรุดลงกับพื้นทรายที่ร้อนระอุ



คินหันมา เพราะได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างล้มลง “เอม?”



"เอม!!" ภาพที่เห็นทำให้ขายาวรีบถลันตัวเข้าไปดูชะเอมที่ยังพยุงตัวเองให้คุกเข่าไว้ แต่แค่แปปเดียวก่อนที่ร่างทั้งร่างจะทิ้งตัวอย่างอ่อนแรง แต่คินรับไว้ทัน "เอม...เป็นอะไร!?"



"แฮ่ก..."



มืด...มองอะไรไม่เห็น แต่รับรู้ได้ว่าตนยังมีสติ ได้ยินเสียงทุ้มตะโกนผ่านโสตประสาทที่อื้ออึง และจากนั้นก็เหมือนถูกอุ้มไปที่ไหนสักแห่ง



ร่างบางเหงื่อออกมากซ้ำยังหอบหายใจติดขัดเหมือนคนจะเป็นลม ไม่มีแรงแม้แต่จะพยุงตัวจนต้องพิงอกกว้างด้วยน้ำหนักทั้งหมด คินไม่รอช้าช้อนร่างเบาหวิวแนบอก ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่โรงแรมอย่างรวดเร็วพอมาถึงเลาจ์โรงแรม เพื่อนที่เพิ่งมาถึงยืนคุยกันอยู่ พากันหันมามองก็พากันตกใจ



"เฮ้ย เอม...เป็นไรวะ!?" ดินส่งเสียงมาก่อนใครเพื่อน



"เหมือนจะเป็นลม ใครมียาดมบ้าง ขอหน่อย!" คินรีบแกะยาดมที่ได้รับจากใครก็ไม่รู้โบกเหนือจมูกเล็กให้ร่างบางได้รู้สึกดีขึ้น ในใจร้อนรนกังวลเหลือแสน เคยเห็นครั้งหนึ่งที่ชะเอมเป็นแบบนี้เมื่อตอนอยู่ค่ายแต่นั่นเป็นเพราะเอมไม่สบายและฝืนทำงานกลางแจ้ง แต่นี่อะไร ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย...แล้วทำไม



"อึก..."



ผ่านมาหลายนาที อาการของชะเอมไม่ดีขึ้น แถมยังยกมือขึ้นมากุมหน้าอกเหมือนก้อนเนื้อด้านในนั้นมันบีบตัวทำให้เจ้าของร่างกายมีท่าทางทรมาน พอเป็นแบบนี้มือไม้ของคินก็ยิ่งสั่นหนักเข้าไปใหญ่



...เอม เป็นอะไรน่ะ...



ไม่อยากจะคิดไปไกลว่ามันคืออะไร...ได้แต่หลอกตัวเอง



"กูว่าไม่ดีแล้ว" ดินพูดออกมา



"พี่คินคะ รินว่าเรียกหมอดีกว่า"



"ถ้าหากต้องการหมอล่ะก็ ทางเรามีเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วครับ" พนักงานชายที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ภาคินเดินอุ้มคนตัวเล็กเข้ามาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่แพ้กัน เพราะชีวิตของลูกค้าในโรงแรมก็ถือเป็นสำคัญ



"ครับ ขอความกรุณาด้วย"



"งั้นเชิญทางนี้เลยครับ"



การมาเที่ยวครั้งนี้ ยังไม่ทันเริ่มก็หมดสนุกซะแล้ว...







"อาการข้างเคียงของคนเป็นโรคหัวใจครับ"



"คุณหมอ...ว่าอะไรนะครับ" คินถามอีกครั้ง เมื่อกี้หูคงฝาดถึงได้ยินอะไรผิดไป "หมอต้องตรวจอะไรผิดแน่ครับ เพราะเอมหายขาดจากโรคไปนานแล้ว ไม่มีทางที่มันจะ..."



"ต้องขอโทษนะครับ คนป่วยโรคหัวใจถ้าหากดูแลรักษาร่างกายดีๆ อาจจะหายได้จริง แต่ไม่อาจหายขาด หากมีปัจจัยบางอย่างอย่างเรื่องความเครียด การพักผ่อน หรือการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเรื่องเหล่านี้จะสามารถกลับมาทำให้เป็นและมีอาการกำเริบได้อีก และดูจากอาการของคุณเอมภัทรแล้วหมอว่าน่าจะเป็นมาได้สักพักแล้ว" คินฟังคำบอกเล่าอาการของแพทย์แล้วเหมือนถูกตบจนหน้าชา "และร่างกายก็น่าจะได้รับยาระงับอาการมาหลายครั้งแล้วด้วยนะครับ"



เป็นมาสักพักแล้ว?



ยาระงับอาการ?



“ไม่ทราบว่าคุณเอมภัทรมีหมอประจำตัวอยู่รึเปล่าครับ”



หมอประจำตัว?



ถ้าหากเรื่องนี้ที่เขาเพิ่งได้รับรู้เป็นเรื่องจริงล่ะก็ คนที่รู้ดีกว่าใครน่าจะเป็นอากฤษ ไม่รอช้ามือล้วงหยิบมือถือขึ้นมาทันทีด้วยมือสั่นๆ จึงค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควรกว่าจะหาเบอร์คนที่อยากจะโทรหาเจอ



("ว่าไงคิน")



"อากฤษครับ ผม...ขอถามอะไรหน่อยจะได้ไหม"



("...ว่ามาสิ")



"เรื่องเอม"



("รู้แล้วเหรอ?") กฤษณะกรอกเสียงมาตามสายเมื่อได้ยินเสียงร้อนรนของชายหนุ่มที่เปรียบเสมือนเป็นหลาน คินนิ่งอึ้ง คำพูดสั้นๆ ของอากฤษยิ่งตอกย้ำสิ่งที่หมอตรงหน้าพูดว่ามันเป็นความจริง ("หรือว่าอาการกำเริบอีกแล้ว? แล้วเอมเป็นอะไรมากหรือเปล่า")



"ครับ...เป็นลมหน้ามืดกับเจ็บหน้าอก" สายตาคมเหม่อมองร่างบางที่นอนหลับหน้าซีดเซียว



("อ่า อาให้เขาพกยาโรคประจำตัวเอาไว้ คินก็ช่วยเตือนๆ เขาหน่อยแล้วกันว่าให้กินประจำเช้าเย็น และทุกครั้งที่มีอาการ")



"นานหรือยังครับ"



("หืม?")



"ชะเอมเป็นแบบนี้นานหรือยัง" คินถามเสียงเบาหวิว "บอกความจริงผมมาเถอะครับ"



อย่า...โกหกกันไปมากกว่านี้เลย



กฤษณะอึกอักแต่สุดท้ายก็ยอมบอกด้วยเสียงหนักใจ ("ก็...เฮ้อ ก็หลายเดือนแล้วล่ะ อาคิดว่าน่าจะเป็นตอนที่ชะเอมโกหกอาว่าคินออกไปค้างหอเพื่อนเพราะทำงานกลุ่ม ราวๆ ครึ่งปี")



ตึก! ตัก!



นั่นมันคือช่วงที่เราสองคนทะเลาะกันและเขาออกจากห้องไปจริงๆ



ความจริงที่ถูกปิดบังไว้ พอรู้แล้วมันรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบดขยี้



ทั้งเจ็บ...ทั้งจุก



รู้สึกน้ำตามันกำลังจะไหล



ชะเอมจะรู้สึกยังไง ตอนที่อยู่คนเดียวไม่เหลือใครเลย...ตอนที่ทิ้งชะเอมไป ไม่เคยคิดว่าร่างบางจะต้องเผชิญหน้ากับโรคร้ายอยู่เพียงลำพัง ต่อสู้กับมัน...คนเดียว



ในเวลาที่ชะเอมทุกข์ทรมานเพราะร่างกายอ่อนแอ ทำไมผมถึงไม่คอยอยู่เคียงข้างเขา



"ขอบคุณ...มากครับ" พอพูดจบ มือกดปุ่มวางสายทันที ไม่มีสติจะฟังอะไรอีก แขนตกข้างลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง



แล้วทำไม...ถึงเป็นเขาที่ต้องรู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้าย



ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญของคนสำคัญที่สุดแท้ๆ



"อือ..." ชะเอมที่นอนหลับส่งเสียงเป็นสัญญาณว่ารู้สึกตัวแล้ว



'ไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอกคิน อารู้ว่าเธอกำลังโทษตัวเองอยู่...แต่อาเคยเตือนเอมหลายต่อหลายครั้งเรื่องที่จะให้บอกเรื่องอาการที่กำเริบนี้กับคินและพี่เกษม แต่รู้มั้ยว่าเอมตอบอาว่ายังไง'



ร่างสูงหยุดยืนอยู่หน้าเตียงมองร่างบางที่สลึมสลือกระพริบตาถี่เพราะต้องแสงไฟ



เตียงสีขาวกับผิวสีขาวช่างไม่เข้ากันเสียเลย...ไม่เหมาะกันเหมือนกับตอนที่อยู่บนเตียงที่ปูด้วยผ้าปูสีเข้มในห้องของ 'เรา'



ถึงกระนั้น...



คินค่อยๆ พยุงคนตัวผอมขึ้นแผ่วเบาและใช้หลังมือไล้ที่ผิวใบหน้า...มันเย็นเฉียบ



ดูเหมือนว่าชะเอมจะรู้สึกตัวและทบทวนสติได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ริมฝีปากบางเม้มแน่นและมองใบหน้าคมอย่างกล้าๆ กลัวๆ



เขาคงรู้ว่าผม 'รู้' แล้ว



"...!"



ร่างสูงคว้ากอดคนตรงหน้าไว้แน่น ไม่ได้พูดอะไร



ไม่รู้ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร



...รู้สึกผิด...



...เสียใจ...



...เศร้าใจ...



...เจ็บปวดทุกข์ทรมาน...



มันปนเปกันไปหมด



'ไม่อยากทำให้คินกับคุณลุงเป็นห่วง...ดื้อสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะเด็กคนนี้น่ะ'



จะต้องรอให้อีกฝ่ายเป็นถึงขนาดไหนผมถึงจะได้ 'รู้' ...ต้องรอให้เสียเขาไปก่อนใช่ไหม



ถ้านี่เป็นเรื่องที่ชะเอมปิดบังเอาไว้ ผมอยากจะขอ...ให้มันเป็นเรื่องเดียวและเรื่องสุดท้าย



'เอมน่ะ คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนในครอบครัวจริงๆ'



ผมไม่อยากเป็นคนโง่...ที่จะได้รู้เรื่องเป็นคนสุดท้ายอีกแล้ว



'เอมเป็นแค่เด็กกำพร้า ไม่มีสิทธิ์ไปใช้เงินพ่อของคินหรอกครับ'



"คิน? ฮึก..." น้ำตาเม็ดโตไหลออกมาเมื่อรับรู้ถึงความเปียกชื้นที่ลาดไหล่ คินกำลังร้องไห้ "เอมขอโทษ...เอมขอโทษครับ"



'คิน เอมรักคิน...รักนะครับ'



ถ้าหากชดใช้ด้วยชีวิตนี้ได้...เขาพร้อมยินดีทำเพื่อชะเอมอย่างไม่ลังเล



เขาขอสาบาน




************************Whose fault? ************************



หนังสือมีสต็อคอยู่มาติดต่อที่เพจ H.Rui Novels ได้เลยจ้า

ส่วนอีบุ๊คก็ลงไว้ที่ ookbee เสิร์ชชื่อเรื่องปุ๊บขึ้นปั๊บ จ่ายแล้วได้อ่านทันที ^^!


ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


                                          Whose Fault ?

                                          ผิด...ครั้งที่ 33.5





โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม



'อย่าปิดบังกันอีกเลยนะ'



นั่นคือสิ่งที่คินขอร้องชะเอมทั้งน้ำตา เพราะคนที่มารู้ทีหลัง...มันเจ็บปวด ทุกข์ทนไม่แพ้กัน



ไม่โทษใครนอกจากตัวเอง เป็นเพราะเขาไม่ใส่ใจอีกฝ่ายมาตั้งแต่แรก



'จากนี้ไป มาทำทุกอย่างให้มันดีขึ้นกันนะ'



...เริ่มต้นกันใหม่...



จากนั้นชะเอมก็ยอมเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง ตั้งแต่ป่วยครั้งแรกและจำนวนครั้งของอาการที่กำเริบ มีมาเรื่อยๆ และทุกครั้งก็ใช้ยาเป็นตัวช่วย



และเรื่องของพ่อแท้ๆ ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังแม้แต่คนเดียว แม้แต่กับพ่อ



"สมัยก่อนตอนเอมเด็กๆ พ่อมักจะออกไปข้างนอกทั้งวัน กลับมาอีกทีก็จะมีแต่กลิ่นเหล้า เอมไม่รู้ว่าพ่อออกไปไหน แต่กลับมาทุกวันเอมจะต้องโดนพ่อทุบตี เอมจำได้แค่ว่าเจ็บ...เจ็บมาก..." ชะเอมพิงอกแกร่งเล่าเสียงแผ่ว เผลอขดตัวเข้าหากันเพราะยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึง และในบางครั้งยังฝันร้ายที่ส่งผลมาถึงความเป็นจริง "พ่อจะตีเอมแล้วก็ด่าว่าเพราะเอมทำให้พ่อจน เพราะเอมทำให้แม่ตาย เป็นเพราะเอมทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง และเอมก็ได้แต่ภาวนาให้แต่ละวันจบไป ถ้าไม่สลบไป พ่อก็แค่เบื่อเหนื่อยแล้วก็เลิกไปเอง"



คินได้แต่กอบกุมมือบางเอาไว้ อดีตของร่างบางทำให้เขารู้ว่าโชคดีแค่ไหนที่เกิดมาสบายอยู่บนกองเงินกองทองเพราะสิ่งที่ต้นตระกูลสร้างเอาไว้



"ตอนนั้นถึงเอมจะเป็นเด็กแต่เอมก็เข้าใจสิ่งที่พ่อพูดทุกประโยค...ทุกคำ"



คนเรานั้น...เลือกเกิดไม่ได้



"จนเอมทนไม่ไหวอีกต่อไป เอมวิ่งหนีออกมา ไม่รู้ว่าคือที่ไหน จนหลงทางมาที่สถานเด็กกำพร้า"



และวันนั้น...



"แล้วเอมก็ได้เจอกับคุณลุง คุณลุงใจดีมาก ใจดีจนเอมกลัว" เสียงใสหลุดหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ "เพราะสิ่งที่เคยเจอมีแต่เรื่องเลวร้าย เอมเลยไม่เข้าใจว่าสิ่งที่คุณลุงมีให้คืออะไร"



เกษมศักดิ์ที่เดินเข้ามาหาและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน...ช่างน่ากลัว



"แต่ตอนนี้เอมรู้สึกขอบคุณที่ได้มีวันนี้ ได้เจอคุณลุง...ได้เจอคิน...ได้รัก..."



ไม่ว่าจะขอบคุณอีกสักกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถตอบแทนพระคุณนี้ได้เลย ผู้มีบุญคุณต่อชีวิตของเขา



...เกษมศักดิ์ อนันต์โภคทรัพย์...



และคนที่กลายมาเป็นคนสำคัญ...ลูกชายของท่าน



...ภาคิน อนันต์โภคทรัพย์...



"เพราะงั้นเอมเลยพยายามจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองบ้าง เพราะรู้อยู่แล้วว่าซักวันหนึ่งจะต้องออกมาพึ่งตัวเอง..." ริมฝีปากบางยิ้มอ่อนให้ร่างสูงที่ทำหน้าเศร้า



"เอมเป็นครอบครัวของเรานะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่นอีกเลย คินขอร้อง"



"เอมก็อยากทำแบบนั้น” คุณลุงกับอาหมอก็เคยพร่ำบอกอยู่ตลอด “แต่ในใจลึกๆ แล้วก็ไม่อาจยอมรับมันได้อย่างเต็มใจ เพราะรู้ดีว่าเอมไม่ใช่ลูกคุณลุงจริงๆ ...ไม่ใช่สายเลือด"



ไม่อยากถูกมองว่าเป็นเป็ดดำที่ริอาจเป็นหงส์ขาว



"ใครจะมองก็ให้เขามองไปสิ อย่างน้อยพ่อก็ไม่สนใจอยู่แล้ว"



"คินก็รู้...เอมไม่อยากทำให้คุณลุงเดือดร้อน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร"



ทั้งสองอิงแอบแนบชิดกันบนเตียงสีขาวของผู้ป่วยในห้องพักพยาบาลของโรงแรม กอดซึมซับถ่ายทอดความรู้สึกซึ่งกันและกัน



"มีใครรู้บ้าง เรื่องของเอม"



"ก็มี เพื่อนของเอม พวกรามน่ะ...แล้วก็น้องสากับน้องริน"



"รู้ได้ยังไง เอมเป็นคนบอกเหรอ" คินถามขมวดคิ้วเผลอกระชับร่างผอมในอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว



"เปล่า พวกรามน่ะอาหมอเป็นคนบอก ส่วนน้องสากับน้องริน ถ้าคินยังจำได้ เอมเคยอาการกำเริบในกระท่อมร้างนั่นที่ค่ายด้วย...มันปิดบังกันไม่ได้อยู่แล้ว เอมก็เลยบอกไป"



"คินไม่เคยรู้เลย..." นึกเรื่องเก่าๆ แล้วได้แต่โทษตัวเอง



"ก็เอมไม่อยากให้รู้นี่นา” ร่างผอมหัวเราะ “แล้วคินรู้ได้ไงครับ"



"หมอคนที่มาตรวจเขาบอก...คินตกใจมาก..." ใบหน้าคมซบลงลาดไหล่จากด้านหลัง สูดดมความหอมที่ไม่ว่าอย่างไรความหอมบริสุทธิ์เหมือนเด็กอ่อนก็ไม่เคยเจือจางหายไปไหน "ก็เลยโทรไปถามอากฤษเพราะน่าจะรู้เรื่องนี้"



"..."



"จริงๆ คินก็ตะหงิดๆ ใจอยู่แล้วว่าเอมมีเรื่องที่ยังปิดบังไม่ได้บอก...แต่ไม่คิดเลย...ว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงแบบนี้"



ช็อคขนาดไหน เมื่อรู้ความจริง



แขนบางโอบกอดตอบอ้อมแขนแข็งแกร่งที่ดูอ่อนแรงเหลือเกินในตอนนี้ "เอมขอโทษครับ..."



...เพราะไม่อยากให้เป็นห่วงจึงเลือกที่จะปิดบัง...



คินดันร่างบางออก จับไหล่บางแน่นบอกเสียงจริงจัง



"แต่ยังไงเอมก็ต้องบอกเรื่องนี้กับพ่อ"



"แต่คุณลุงกำลังยุ่งเรื่องงาน" คิ้วบางขมวด ถ้าหากเรื่องของเขาไปรบกวนจนไม่ได้ทำงานล่ะ



"ชีวิตของเอมสำคัญกว่านะ!" เสียงทุ้มตะคอกดัง ไม่เข้าใจสักนิด...ทำไมอีกฝ่ายถึงพูดเหมือนชีวิตของตัวเองมาทีหลังก็ไม่เป็นไรล่ะ? ใช้ชีวิตด้วยความคิดแบบนี้...มันไม่ดีเลย "อย่าพูดเหมือนชีวิตของตัวเองไม่สำคัญได้มั้ย ถ้าคินทำให้เอมเคยรู้สึกแบบนั้น คินขอโทษ..."



รู้ดี...ว่าจะขอโทษสักกี่ร้อยกี่พันครั้งมันก็ชดใช้ไม่ได้



แขนยาวทำได้แต่กอดคนตรงหน้าไว้แน่นๆ ...เพราะรู้สึกเหมือนชะเอมจะห่างออกไปทุกที



จะให้ทำยังไง...ยังไงก็ได้



"บอกพ่อเถอะ อย่าให้มันสายเกินไป...คินเสียใจแค่ไหนเอมรู้มั้ย" ยิ่งพูดน้ำตายิ่งไหลไม่หยุด ตาคมแดงก่ำ แค่นึกถึงตอนที่เห็นอีกฝ่ายไม่มีชีวิตอยู่แล้ว...มันเจ็บปวดทรมาน "ถ้าชะเอมรักพ่อก็อย่าให้เขารู้สึกเสียใจแบบที่คินเป็น"



ในอกบางเจ็บหนึบ นี่คือสิ่งที่เขาพยายามจะทำมาตลอด เลือกปิดบังเกี่ยวกับร่างกายตัวเอง...แล้วเป็นยังไง



ผลลัพธ์คือภาพที่เห็นปรากฏอยู่เบื้องหน้า หยาดน้ำตาและความเสียใจยิ่งของคนที่รัก



ชะเอมคิดอะไรไม่ออกจึงได้แต่พยักหน้าตอบรับคำขอร้อง



"ครับ"



...ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมาเสียใจกับเรื่องของเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว







************************Whose fault? ************************







"เป็นไงบ้างเอม"



ชะเอมยิ้มอ่อน ก็กว่าจะคุยและปรับความเข้าใจกับคุณลุงได้ แถมอีกฝ่ายเกือบจะทิ้งงานทั้งหมดและกลับมาจากต่างประเทศนั่นแหละ ทำให้ต้องเกลี้ยกล่อมและสุดท้ายชะเอมก็ต้านความดื้อไม่ไหวต้องฝากคุณเลขารับมือต่อ



"อืม ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ขอโทษนะทุกคนที่ทำให้ตกใจ"



อาการกำเริบของเขาถ้าใครไม่ชินก็ต้องมีตกอกตกใจกันบ้างเป็นธรรมดา บางคนใจเสียไปเลยก็มี อย่างเช่นน้องสาที่ร้องไห้ตาแฉะอยู่ตรงนั้น



"น้องสา พี่ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ"



"คะ ค่ะ พี่ชะเอมไม่เป็นไรแล้ว สาก็ ฮึก ดีใจ" รสาพูดว่าดีใจแต่ก็ยังสะอึกสะอื้นไม่หาย ทำให้รินที่อยู่ข้างๆ คอยลูบหลังปลอบตลอด ก่อนที่เธอจะเดินและยื่นของมาให้



"นี่ของๆ พี่ค่ะ"



กระเป๋าของเขา?



"ขอบคุณนะน้องริน" ชะเอมยิ้มบาง



"ว่าแต่..." สินมองชะเอมสลับกับคิน ซึ่งเพียงแค่เอมยิ้มอ่อนและพยักหน้า ก็ดูเหมือนจะเข้าใจง่ายๆ ...บอกไปแล้วสินะ "ดีแล้ว"



เพราะคนที่น่าจะรู้สึกผิดและเจ็บปวดยิ่งกว่าใคร ไม่น่าจะพ้นชายคนนั้นหรอก



“เอม” ร่างโปร่งเดินเข้ามาตบไหล่ สีหน้าโล่งใจขึ้น “ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นอะไร”



“ราม...” ชะเอมยิ้มดีใจ เพื่อนคนแรกของเขา แม้ไม่ได้เจอกันสักพักแต่ก็ยังเหมือนเดิม “ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง”



"นี่บอกทุกคนแล้วเหรอ" ชะเอมมองไปที่เพื่อนๆ ที่จ้องมองมาทางนี้ทุกคน



"เจอแบบนั้นเข้าไป ไม่บอกก็คงโดนคาดคั้นอยู่ดีแหละ" สินยักไหล่ประมาณว่าช่วยไม่ได้จริงๆ



"อะฮะๆ" ร่างบางยิ้มแหยหัวเราะแหะๆ ...ก็นั่นน่ะสินะ



"แล้วเอาไงต่อ ยังมีอารมณ์เที่ยวต่อมั้ย" เม็ดทรายถามขึ้น เท้าสะเอวอยู่ข้างกายชายกำยำกล้ามใหญ่ “หรือว่าจะกลับ”



"เที่ยวสิ เราเป็นคนชวนทุกคนมา ไม่ให้มาเสียเที่ยวหรอก" ชะเอมรีบโบกมือ ทำให้ทุกคนโล่งใจเพราะดูท่าทางร่างบางสดใสขึ้นเยอะ คงจะไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ "ยังไงก็เช็คอินโรงแรมก่อน..."



"พวกกูทำแทนให้แล้ว...อ่ะ เอากุญแจไป" ดินเดินเข้ามายัดสิ่งที่น่าจะเป็นกุญแจห้องใส่มือบาง ก่อนที่ดวงตากลมจะมองอย่างสงสัย "พวกเราแบ่งห้องกันแล้ว ห้องละสองคนพอดี"



ชะเอมกระพริบตาปริบกวาดตามอง...คุณเม็ดทรายกับแฟนหนุ่ม เอกกับตาล น้องสากับน้องริน ดินกับสิน รามกับไอติม สุดท้ายเขากับคิน...ลงตัวจริงๆ ด้วย



"ดีนะแบ่งเป็นบ้านส่วนตัว เวลาจะทำอะไรจะได้ไม่ต้องกังวลว่าใครจะได้ยิน" สินเป็นคนพูด ยิ้มกริ่มคนเดียวไม่มีใครเข้าใจ



"บ้าน?" ชะเอมงุนงง “เป็นบ้านเหรอ”



"อ้าว ก็ไอ้คินผัวมึงจองบ้านไว้ไง บ้านส่วนตัวหลังละสองคน อยู่หลังตึกใหญ่ไปนิดหน่อย"



ชะเอมหน้าแดงแปร๊ดกับคำเรียกหยาบคายของดิน ไม่ได้ฟังแล้วว่าอีกฝ่ายอธิบายอะไร แก้ไขความเข้าใจผิดที่คนผิวคล้ำตั้งใจให้มันผิด "ดิน คินเป็นแฟนเฉยๆ นะ"



"อ้าว อีกหน่อยก็ต้องเป็นผ...อยู่ดีไม่ใช่เหรอวะ"



"...งือ" หลายๆ คนหัวเราะกับคนขี้เขินที่ได้ยินคำเรียกก็ตัวแดงเป็นกุ้งได้แล้ว ในบรรยากาศผ่อนคลายมีอยู่สองคนที่ไม่ได้ร่วมหัวเราะสนุกสนานไปกับเขาด้วยคือไอติมที่ยืนหน้านิ่งกับ...คิน



ชะเอมเหลือบมองร่างสูงที่ยืนนิ่งเยื้องอยู่ด้านหลังอย่างกังวล แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งใดเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าหวานก็หงอยซึม



...คิน...เป็นอะไรน่ะ...



ดินปรบมือเรียกความสนใจ "เอ้าๆ เอากระเป๋าไปเก็บแล้วเดี๋ยวมาเจอกันตอนเที่ยง แล้วค่อยออกไปกินข้าวกัน ก่อนถึงเวลาเป็นช่วงฟรีสไตล์อยากไปไหนก่อนก็แล้วแต่เลยนะ"



"ได้/โอเค/ตามนั้น"



"...ว้าว บ้านสวยจัง" ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วตั้งแต่รอบๆ บ้านที่มีต้นไม้สีเขียวเต็มไปด้วยธรรมชาติ บ้านเดี่ยวชั้นเดียวแต่อาณาเขตกว้างขวาง ดูใหญ่เกินกว่าสำหรับอยู่กันสองคนด้วยซ้ำ ทางเดินที่ถูกปูด้วยกระเบื้องแผ่นยาวนำพาขาสองคู่ให้ก้าวเดินไป



บรรยากาศระหว่างคนสองคนเงียบเชียบมีแต่เสียงฝีเท้า ร่างบางเดินตัวเปล่าสะพายเพียงแค่กระเป๋าที่มักจะต้องมีของจำเป็นติดกายเอาไว้แค่นั้น เพราะกระเป๋าเดินทางที่บรรจุเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเขาใช้กระเป๋าเดียวกับคินเพราะใบมันใหญ่พอสำหรับใส่ของๆ ผู้ชายสองคน แถมมากันแค่สองวันสัมภาระเลยไม่ได้มากมายอะไร



ริมฝีปากบางเม้มจนซีดขาว มือบางกำสายกระเป๋าและกุญแจในมือแน่น กังวลใจเหลือเกิน



คินโกรธอะไรเขาเหรอ?



ทำไมถึงไม่พูดอะไรสักคำ



หรือเพราะเรื่องที่ไม่บอกว่าป่วย



ยิ่งนึกถึงภาพก่อนจะแยกเดินมาที่พัก คินยังคุยและยิ้มกับคนอื่นปกติอยู่เลย แล้วทำไมกับเขา...



"...อึก" ชะเอมกลืนน้ำลาย พอคิดมาก ก้อนเนื้อในอกก็เริ่มปวดหนึบ เพิ่งอาการกำเริบมาจึงรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายเป็นพิเศษ มือค่อยๆ ยกขึ้นกำเสื้อตรงเหนืออกหนักสลับเบา...ยังไม่เป็นไร แค่เจ็บนิดหน่อยเท่านั้น



เมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้ แขวนป้ายเล็กๆ น่ารักบ่งบอกเลขห้องอยู่เหนือศีรษะเล็กน้อย ชะเอมก็ไขประตูด้วยมือไม้สั่นเทา



แกร๊ก...



พอเปิดเข้าไป สิ่งที่พบอย่างแรกคือห้องโถง มีโต๊ะไม้ที่ไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างตัวใหญ่ กับเก้าอี้สี่ตัว ทีวีจอแบน ลิ้นชักเล็กๆ มุมห้อง แจกันใส่ดอกไม้



ขายาวเดินนำเข้าห้องด้านในไปก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นห้องนอน ร่างบางก็เดินตามไป ในใจกังวลมากขึ้นจนกลายเป็นเริ่มหวาดกลัว ริมฝีปากบางขบกัดกันอย่างคนคิดมาก



ชะเอมหย่อนตัวลงนั่งขอบเตียงเดี่ยวกว้าง ไม่ได้สนใจมองอะไรอีกแล้วนอกจากแผ่นหลังกว้างที่ก้มลงเปิดกระเป๋าเดินทาง ง่วนกับการทำอะไรสักอย่าง...ไม่มองหน้า ไม่สนใจ



"คิน..." เสียงใสเรียกแผ่วเบา แต่อยู่กันสองคนไม่มีทางที่จะไม่ได้ยิน แต่กระนั้นเจ้าของชื่อก็ยังไม่หันมามือเริ่มขยำเสื้อแน่นเพราะความทรมาน ก้อนเนื้อในอกเต้นดังขึ้นทุกที จนหูอื้อไปหมด



"..."



"คิน..." ร่างผอมบางคู้ตัวลงขดนอนที่ปลายเตียง มือบางพยายามควานหาของที่อยู่ในกระเป๋า แต่เหมือนเสียงสวบสายทำให้คินรู้สึกตัวแล้วหันมามอง



"เอม...เจ็บหัวใจอีกแล้วเหรอ" ร่างสูงเดินมาหาถามอย่างร้อนรน อาการที่เกิดขึ้นทำให้คินมือสั่นเต็มไปด้วยกังวล



"คิน ยา...ให้หน่อย..." มือบางยังไม่หยุดค้นหา แค่เค้นเสียงพูดออกมาก็ยิ่งทรมานจนน้ำตาไหล ร่างสูงได้ยินดังนั้นก็รีบแหวกกระเป๋าของชะเอมและเทออกมา เจอขวดใสบรรจุเม็ดยาสีขาวซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นยาโรคประจำตัว ไม่รอช้าเปิดฝาและเทออกมา ขาก้าวไปหยิบน้ำในตู้เย็นที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ แขนยาวประคองตัวให้นั่งพิง มือบางรับไว้ก่อนจะตบมันเข้าปากตามด้วยน้ำซึ่งมีบางส่วนไหลออกมาจากมุมปากจนเปียกลำคอ



มือใหญ่สั่นระริกกุมมือเล็กกว่าแน่น ขมวดคิ้วมองชะเอมที่นั่งพิงอกหอบหายใจทั้งติดขัดทั้งสั่นเครือและยังไม่คลายมือจากการขยุมเสื้อตรงอก



"เอม..."



อีกฝ่ายเป็นแบบนี้...เขาไม่ชอบเลย...



มันทำให้เกลียด...โกรธตัวเอง



ทำไมพระเจ้าถึงไม่ลงโทษเขาซะ...มันคงจะดีกว่าเห็นร่างบางทรมานแบบนี้



กว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นปกติ ก็เกือบสิบนาที คินยังคงกระชับอ้อมแขนอยู่อย่างนั้น ชะเอมก็กอดตอบ ความรู้สึกน้อยใจที่รู้สึกเมื่อกี้ถูกแปลเปลี่ยนเป็นคำพูด



"คิน...อย่าเกลียดเอม ฮึก อย่าเกลียดเอมเลยนะ"



ร่างสูงลมหายใจสะดุด เมื่อเห็นอีกฝ่ายสะอึกสะอื้น "เอม พูดอะไร?"



"คินไม่สนใจเอมเลย เบื่อเอมที่เป็นแบบนี้ใช่มั้ยครับ" น้ำตาเม็ดโตร่วงแหมะ จนเปียกซึมเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายเป็นวงกว้าง



"เอมรู้ เอมก็รำคาญตัวเองเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่เอมคิดว่าคินเกลียดเอมโกรธเอม มันเจ็บ" มือบางยกขยุ้มตำแหน่งในร่างกายที่ผิดปกติ "ทำไมเอมถึงไม่เกิดมาเหมือนคนอื่นล่ะ"



อยากมีร่างกายแข็งแรง



"อย่าพูดแบบนั้น เอมเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับคินเลยนะ" คินจูบลงขมับพร้อมลูบหัวปลอบเด็กน้อยที่กำลังตัดพ้อน้อยใจ



"แล้วทำไมคินถึงไม่พูดกับเอมเลยล่ะครับ?" ดวงตากลมโตที่ชื้นน้ำตาช้อนขึ้นมอง น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงอาบแก้มให้ริมฝีปากร้อนต้องจูบซับ



"คินขอโทษ คินกำลังเหม่อ...กำลังคิดอยู่ครับ"



ดวงตากลมงุนงง "คินคิดอะไร?"



"คินอยากพาเอมกลับ ไม่อยากให้เที่ยวแล้ว" ชะเอมเม้มปากส่ายหน้าทันที แต่เสียงทุ้มพูดต่อ "คินเห็นเอมเป็นแบบนี้ มันกังวลไปหมด...ทั้งกังวล ทั้งกลัว ว่าเอมจะเป็นอะไรอีกรึเปล่า ถ้าเพียงแค่คินละสายตาแล้วเอมเป็นอะไรไป...คินคง..." ยิ่งพูดน้ำตายิ่งจะไหล พอเป็นเรื่องของร่างบาง เขาก็ทนไม่ได้จริงๆ



ถ้าขาดชะเอมไป



เขาคง...อยู่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว



"งั้นคินก็อยู่กับเอมตลอดเวลาเลยสิครับ" ร่างบางเริ่มยิ้มออก เมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เกลียดตนอย่างที่คิด มือจับข้างใบหน้าคม ดันตัวให้ดวงตามองสบกันในระยะใกล้ชิด "คินก็อย่าละสายตาจากเอม เอมก็จะอยู่ใกล้ๆคิน...อยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน"



คินมองใบหน้าใสที่มองตรงมา ริมฝีปากบางเอ่ยคำคล้ายปลอบใจระคนออดอ้อนก็ไม่ปาน ทำให้เสียงทุ้มหลุดหัวเราะขำ "โอเคครับ คินจะไม่ละสายตาจากเอมเลย"



เราทั้งสอง...ต่างฝ่ายต่างกังวล...เรื่องของใครอีกคน



จมูกโด่งไล้กดขมับลงมาตรงแก้มใส สัมผัสจั๊กจี้ทำให้ร่างบางหัวเราะคิก ชะเอมหดคอหันมามองตาใสพลิกตัวเข้าหาและกอดลำคอแน่น



"คินไม่เกลียดเอม...ไม่โกรธเอมแล้วใช่มั้ย" เสียงใสเอ่ยแผ่ว



"ไม่ได้เกลียด แล้วก็ไม่ได้โกรธด้วย อย่าคิดแบบนั้นอีกนะเอม" คินทิ้งตัวลงนอนราบ โอบกอดเอวบางให้ล้มลงมาทับบนตัว "คินรักเอมนะ"



"...ครับ...เอมก็รักคิน"



คำบอกรักที่ออกมาจากใจทั้งสองดวง...ใครเล่าจะรู้ว่ามันผ่านอะไรมาบ้าง ผ่านความเจ็บปวด เสียใจ มาหลายร้อยหลายพันครั้ง



กว่าจะกลั่นออกมาเป็นความรู้สึกที่รักอย่างแท้จริง



"กว่าจะเที่ยงก็อีกชั่วโมงกว่า เอมนอนพักสักหน่อยดีกว่านะ"



ชะเอมเด้งตัวดันอกแกร่งยกตัวขึ้นมองหน้าคนพูด "แต่เอม..."



คำว่า 'จะไปเดินเล่น' ถูกขัดขึ้นทันที



"ถ้ายังไม่ดีขึ้นคินจะไม่ให้เล่นน้ำหรืออะไรทั้งนั้นและจะพากลับกรุงเทพฯ ทันที" ร่างสูงตวัดมองดุพูดขู่แกมเอาจริงและทำให้ชะเอมคลานขึ้นเตียงนอนสงบเสงี่ยมอย่างง่ายดาย ราวกับเด็กน้อยที่กลัวไม่ได้เที่ยวเล่น



คินมองแล้วถอนใจ...ดื้อไม่มีใครเกิน



"คิน..." ชะเอมเรียกเสียงแผ่วเบา



"ยังไม่นอนอีกเหรอ?"



"...นอนด้วยกัน"



คินยิ้มกับเด็กอ้อน "ครับๆ" ก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนข้างกัน ไม่ลืมห่มผ้าจนถึงลำคอให้อีกฝ่ายที่นอนตาปรือจะหลับแหล่มิหลับแหล่แต่ก็ยังอุตส่าห์เรียกให้เขามานอน



"คิน..."



"หืม?"



"สัญญานะว่าจากนี้ไปคินจะไม่คิดมากเรื่องโรคของเอมอีก...ไม่โทษตัวเอง...นะครับ สัญญาสิ"



ร่างสูงเอื้อมมือลูบหัวทุยแผ่วเบา



"ถ้างั้นเอมก็ต้องสัญญาว่าจากนี้ต้องให้ความสำคัญกับตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองต่ำกว่าคนอื่น และอย่าคิดว่าคินจะรักใครได้นอกจากเอมอีก เอมสัญญากับคินสิ"



ปากบางยู่ "...คินขี้โกงนี่นา" แถมเงื่อนไขก็เยอะกว่าอีก



"แลกกันไง" ริมฝีปากสีเข้มยิ้มบาง



"...ครับ เอมสัญญา" ร่างบางยื่นนิ้วก้อยมาให้ ทำให้เสียงทุ้มหัวเราะคนที่มักทำตัวเหมือนเด็กแต่ก็ชอบปฏิเสธว่าตนไม่ใช่เด็ก...จะทำอะไรได้นอกจากยื่นไปเกี่ยวก้อยด้วย



"สัญญากันแล้วนะ"





************************Whose fault? ************************



เขาว่ากันว่ามาเสม็ดเสร็จทุกราย

แต่กับหมาป่าเจ้าเล่ห์ไม่ว่าจะไปที่ไหนที่ไม่ใช่เสม็ด กระต่ายก็โดนกินอยู่ดี

แบบนี้หมายฟามว่าไง...ก็หมายความว่าอีกไม่กี่ตอนชะเอมจะเสียตัวยังไงล่ะ =.,=//

และใครคิดว่าความดราม่าหมดแล้ว คิดผิด!! มันยังมีอีกเพราะอีเรย์มันยังไม่ตายค่ะ

ถ้ายังมีมันอยู่เรื่องนี้ไม่จบแน่นวล

อย่าลืมใครอยากอ่านหนังสือติดต่อแชทเพจ H.Rui Novels ได้นาจา มีสต็อคให้เปย์เสมอ

อีบุ๊คก็เช่นกัน ookbee นะคะ  ^^ รายละเอียดก็อ่านได้ที่หน้าเว็บเลยค่า

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


                                                       Whose Fault ?

                                                          ผิด...ที่ใคร

                                              Special on Valentine Day





โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม





"ท่านประธานครับ"



"หืม...ว่าไง เอม อยู่กันสองคนไม่ต้องเรียกเต็มยศขนาดนั้นก็ได้นะ" คนพูดกลั้วหัวเราะ จากที่ทำงานขมักเขม้นเครียดๆ ก็ต้องวางปากกาเพราะคำไม่กี่คำจากร่างบาง



"ไม่ได้หรอกครับ ถ้าใครมาได้ยินเข้ามันจะดูไม่ดี" ใบหน้าหวานส่ายยิ้มๆ



"ใครที่ว่าน่ะ...ถ้าเป็นคนในบริษัทเขาก็รู้กันหมดแล้วว่าคุณเอมภัทรเป็นลูกชายสุดที่รักของคุณเกษมศักดิ์ ประธานคนก่อน แล้วก็เป็นคนรักคนปัจจุบันเพียงหนึ่งเดียวของประธานภาคินสุดหล่อด้วย"



คนฟังย่นจมูกกับคำอธิบายยืดยาวอันแสนพ่วงไปด้วยความหลงตัวเอง "คิดไปเองหรือเปล่าครับ ใครสุดหล่อกัน"



"ก็คินไง" แขนแกร่งคว้าเอวบางที่เข้ามาใกล้ให้ขึ้นมานั่งบนตัก "รู้นะว่าคิดอะไร...คินก็ต้องหลงตัวเองไว้ก่อนไง เอมจะได้หลงคินบ้างจนโงหัวไม่ขึ้น"



"ฮื่อ! หยุดเลยครับ เดี๋ยวพี่เสกเข้ามา...ไม่เอา..." จากที่หลบจมูกโด่งที่เข้ามาหอมแก้มเป็นพัลวัน ต้องยอมจนได้เมื่อริมฝีปากเข้าจู่โจมให้ตัวอ่อนปวกเปียก คนถูกล่อลวงก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกอดคอและเกี่ยวลิ้นตอบ



"อืม..." เสียงทุ้มครางต่ำในลำคออย่างพอใจ ผละออกให้ได้ยินเสียงดังจุ๊บน่าอาย ก่อนที่ใบหน้าคมจะกระซิบเสียงพร่าติดริมฝีปากบาง "เดี๋ยวนี้จูบเก่งขึ้นเยอะนะ"



ชะเอมแก้มแดงกับคำชม "ก็เพราะใครล่ะ..."



คราวนี้ใบหน้าหวานประกบริมฝีปากก่อน ศีรษะทุยเอียงคอเปลี่ยนองศาตามการชักนำ ดวงตาคมกริบปรือหรี่มองใบหน้าขาวใสที่หลับพริ้มและจูบตอบอย่างเร่าร้อนจนอดลูบมือผ่านแผ่นหลังบางไล่ลงมาที่เอวและต้นขาเล็กไม่ได้ น่าสงสัยที่ไม่ว่าเจ้าตัวจะกินเยอะมากขึ้นเท่าไหร่ ตัวก็ยังบางเช่นเดิมไม่เปลี่ยน



"ฮ่า..."



คินยกมือลูบแก้มแดงเรื่อที่ลมหายใจหอบสั่น "วันนี้เป็นอะไรหืม ทำไมดูไม่เหมือนปกติ"



ใบหน้าหวานซบลงกับไหล่แกร่งก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ ไม่อยากตอบ แน่นอนว่าคินก็กอดตอบพร้อมลูบหลังผอมเบาๆ



อาการแบบนี้...



"เป็นอะไรเอม ไหนบอกคินหน่อยครับว่างอนอะไร"



"เอมเปล่างอน..."



"ไม่งอนก็ต้องน้อยใจอะไรสักอย่าง"



"เอมเปล่า อายุจะสามสิบแล้วจะมาน้อยใจอะไรล่ะ..." คินมองหน้าคนบอกว่าเปล่าแถมยังอ้างอายุแต่ทำหน้าบึ้งขมวดคิ้วชัดเจนไม่ต่างจากตอนอยู่มหาลัย คนมองหยักยิ้มก่อนที่นิ้วยาวจะคีบแก้มสองข้างจนยืดออก



"งื้อออ!"



"ใครบอกอายุจะสามสิบแต่ทำปากจู๋อย่างกับเด็กอนุบาลกันน้า"



"เอมเปล่า~~!! อื้อ เอ็บบบ!"



"ยังจะมาแก้ตัว"



ก๊อกๆ



"ท่านประธานครับ" ทันทีที่ได้ยินเสียงของเสกเรียกชื่อร่างสูงดังผ่านประตูไม้สักหนาเข้ามา ชะเอมก็ตาโตรีบดิ้นขลุกขลัก มือบางฟาดมือหนาเพียะๆ ที่หยิกแก้มตนไม่ปล่อย



"มีอะไรเสก!" เสียงทุ้มตะโกนออกไปขณะที่เอื้อมมือปิดปากคนร้องอู้อี้โวยวายพลางดิ้นเหมือนกระต่ายถูกหมาป่าตะครุบ



"มีคนมาขอพบครับ"



"ใคร"



"คุณนาเดียครับ"



คำตอบของเสกทำให้ร่างบางเกร็งตัวขึ้นทันใด อาการผิดปกติที่คินสังเกตเห็นทำให้รู้ได้ทันที ริมฝีปากหยักยิ้มกริ่ม นาเดียคือคู่ค้าบริษัทที่เป็นหุ้นกันอยู่ในโครงการใหญ่ที่กำลังร่วมลงทุนกันอยู่ในตอนนี้ ช่วงนี้เลยคุยกันบ่อยมากถึงมากที่สุด นาเดียเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน เธอจึงเป็นคนสวยและมั่นใจมาก ที่สำคัญสาวเจ้ายังโสดและทำท่าเหมือนสนใจเขาไม่ใช่น้อย...ดูเหมือนคนที่รู้สึกจะไม่ใช่แค่คิน แต่เป็นร่างบางที่คอยสังเกตอยู่ตลอดเวลาด้วย



มิน่าล่ะ ถึงได้ออกอาการแบบนี้



"ท่านประธาน?"



"โอเคเดี๋ยวออกไป!" เสียงทุ้มตะโกนออกไปก่อนจะหันมาจัดการกระต่ายตัวขาวบนตัก "ชู่ๆ เอมจะดิ้นทำไมเนี่ย"



"แล้วคินมาปิดปากเอมทำไมล่ะ!" เสียงใสแหวใส่ใบหน้าบึ้งตึง



"อ้าว ก็เอมเสียงดัง"



"ก็เพราะคินมาปิดปากเอมนั่นแหละ!" คนโดนว่าว่าเสียงดังหน้าง้ำ เถียงออกมาด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม



คินนิ่งอึ้งอ้าปากค้าง เหมือนเขากำลังนั่งเถียงกับเด็กอนุบาล...ว่าไก่กับไข่อันไหนเกิดก่อนกันอยู่เลย



ร่างสูงตั้งสติ "ไม่เอาสิ เอม...คุณนาเดียก็แค่หุ้นของบริษัทเรานะ ถ้าคินไม่คุยด้วยมันจะดูไม่ดี"



จากคนที่ทำงอนอยู่เปลี่ยนเป็นหน้าแดงก่ำเหมือนถูกจับได้ว่าซ่อนอะไรไว้ "นะ นะ นี่คินพูดอะไร...เอมเปล่า!"



เขาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ...ยังจะปฏิเสธอยู่อีก



"อ่ะๆ ไม่งอนก็ได้" ร่างสูงปล่อยให้กระต่ายหลุดออกจากการกอบกุมก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานที่อยู่ไม่ไกลภายในห้องเดียวกันไม่สนใจประธานภาคินอีก



คินจัดเสื้อสูทเล็กน้อยก่อนจะปรายตามองชะเอมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากห้อง...ปากบอกว่าเปล่า แต่ถ้าเขาหายไปกับคุณนาเดียอยู่นานสองนานก็อย่ามางอนกันทีหลังก็แล้วกัน



"คินคนบ้า!" ร่างบางตะโกนเสียงดังให้เกษมศักดิ์และแม่บ้านมองเหวอ ดวงตากลมโตน้ำตาคลอหน่วย ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งช้อนส้อมลงกับจานแล้ววิ่งขึ้นห้อง



"เอม!" ไม่ฟังเสียงเรียกของคินเลยแม้แต่น้อย ปกติชะเอมจะไม่ออกอาการรุนแรงแบบนี้ต่อหน้าแขก แต่ดูเหมือนว่าบางอย่างที่ติดกังวลอยู่ในใจพอเห็นปรากฏออกมาเป็นภาพทำให้ชะเอมน้อยอกน้อยใจมากกว่าตอนไหนๆ



เอาแล้วไง...



"อ้าว อะไรกันคะ นั่นแฟนคุณคินไม่ใช่เหรอ" เสียงใสถาม ดวงตาสีเทาอ่อนงุนงงมองตามแผ่นหลังบางขึ้นไปไม่ต่างจากคนอื่น



"อ่า...คุณนาเดียรอตรงนี้นะครับ พ่อ ผมฝากรับแขกหน่อย" ขายาวรีบก้าวขึ้นบันไดได้ยินเสียงเกษมศักดิ์อวยพรตามมา



"เออๆ คุยกันดีๆ"







"ฮึก...ฮึก...!"



ทั้งๆ ที่เคยคิดมาตลอด...ว่ายังไงเขาก็ไม่ดีพอสำหรับคิน ชะเอมเป็นผู้ชาย ท้องก็ไม่ได้ ไม่สามารถมีผู้สืบทอดให้กับครอบครัวอนันต์โภคทรัพย์



ความจริงที่กังวลมากอยู่แล้วกลับยิ่งคิดมากขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นตอนที่คินอยู่กับคุณนาเดีย ไม่ว่าจะเป็นเวลางานหรือเวลาไหน มันอดคิดไม่ได้ว่าทั้งคู่ช่างเหมาะสมกัน จุดที่เขายืนอยู่ตรงนี้มันหม่นหมองจืดจางไป ทั้งหวง ทั้งรัก แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกว่ารู้สึกอย่างไร



...เพราะแค่ความรักมันยังไม่พอ...



...ชะเอมรักคินมากแค่ไหนมันก็ยังไม่พอ...



ถ้าหากเขาเป็นผู้หญิงก็คงดีกว่านี้ จะได้รักได้อย่างไม่อายใคร



"อึก..." มือบางยกขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะขดตัวกอดเข่าเหมือนเดิมให้ตัวเล็กลงอีก ทำไม...ทำไมคินถึงพาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาที่บ้านล่ะ เขาจะต้องรับรู้อะไรที่เจ็บปวดใจอีกเหรอ



...แบบนี้หมายความว่าคินพาคุณนาเดียเพื่อจะมาเปิดตัวใช่มั้ย...



แอ๊ด...



"เอม"



เสียงเรียกชื่อและร่างสูงที่เปิดประตูเข้ามาทำให้ชะเอมรีบเช็ดน้ำตา แต่ไม่ทันแล้ว



"เอม...เอมร้องไห้ทำไมครับ" คินถามด้วยความร้อนรน ขายาวรีบคลานขึ้นเตียงจับคนตัวเบาให้หันหน้ามา นานแล้วที่เอมไม่ร้องไห้ พวกเรารักกันดี แล้วก็มีความสุข แต่นี่เป็นเพราะเขาอีกแล้วที่ทำให้ร่างบางต้องเสียใจและเสียน้ำตา



และสาเหตุคงไม่พ้นเรื่องของคุณนาเดียเป็นแน่...รู้งี้น่าจะบอกความจริงไปตั้งแต่แรก



"เอม คินขอโทษ"



"ฮึก...คินไม่รักเอมแล้วเหรอ"



"คิดอะไรอย่างนั้น" มือใหญ่จับศีรษะเล็กให้มาซบอก ทันใดนั้นร่างบางก็ปล่อยโฮเสียงดัง ร่างสูงโทษตัวเองว่าเป็นเขาเองที่ทำให้ชะเอมคิดแบบนั้น



"..."



"คินรักเอมคนเดียว...ไม่ว่าจะยังไงในหัวใจของคินก็มีแค่เอมคนเดียว"



คนฟังผลิตน้ำตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงใสถามสั่นเครือ "แล้วทำไม..."



"เอม ฟังคินนะ คุณนาเดียเธอไม่ได้ชอบคิน" ร่างสูงตัดสินใจบอกความจริง ใบหน้าหวานเงยขึ้นมอง ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ ทั้งๆ ที่มีน้ำตาชุ่มแพขนตา



"อะ...อะไรนะครับ"



"คุณนาเดีย เธอไม่ได้ชอบคิน" คราวนี้เน้นย้ำชัดเจนจนดวงตากลมโตเบิกกว้าง "วันนี้ที่พามาบ้าน เพราะเธอบอกอยากคุยกับพ่อที่เป็นประธานเก่า...พอดีพ่อสนิทกับพ่อของเธอน่ะ แล้วที่เธอทำเหมือนสนใจคินก็แค่สนใจในฐานะคนทำงานแค่นั้นเอง"



"..."



"จริงๆ"







"ขะ ขอโทษนะครับ...ที่ทำตัว...เสียมารยาท" ใบหน้าหวานทั้งแดงก่ำทั้งรอยยิ้มแหยสุดฤทธิ์ อายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหายไปเลย



นาเดียปิดปากหัวเราะคิกด้วยท่าทางคุณหนูผู้ดีราวกับถูกอบรมมารยาทมา "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นิสัยของคุณชะเอมน่ารักสมกับที่คุณคินชอบโม้ให้ฟังเลยนะคะ...เหมือนน้องสาวของนาเดียเปี๊ยบเลยค่ะ"



"..." ร่างบางหน้ามุ่ยลงอีกเมื่อได้ฟัง หัวใจยิ่งเต้นแรงอย่างเขินอายเมื่อเขาเข้าใจผิดไปไกล ซ้ำยังร้องไห้ให้ภาคินเห็นอีก



ว่าแต่คินไปคุยอะไรกับคุณนาเดียน่ะ สรุปว่าไม่ได้คุยเรื่องธุรกิจ แต่คุยเรื่องของเขาหรอกเหรอ!?



“ว ว่าแต่คุณนาเดียมีน้องสาวด้วยเหรอครับ” ชะเอมเกาแก้มถามเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาและหนีจากความอาย



“ค่ะ อายุห่างกันมาก ยังอยู่แค่ชั้นประถมอยู่เลย...แถมยังขี้น้อยใจมากค่ะ” คำพูดนั้นทำให้คนบนโต๊ะเงียบไปสักพักก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวเพิ่งพูดว่า ชะเอมเหมือนน้องสาวเธอ...ก็หมายถึงขี้น้อยใจน่ะสิ!



"จริงครับ เจ้าตัวก็ขี้น้อยใจแบบนี้แหละ" คินพูดยิ้มๆ “งอนจนบางทีผมก็ลืมไปว่าชะเอมเขาอายุเท่าไหร่กันแน่ หึหึ”



"คิน...!" เสียงใสเตรียมแหวร่างสูงแต่ลืมไปว่าอยู่ต่อหน้าแขก แถมยังเป็นคนสำคัญของบริษัทด้วย จึงรีบเก็บท่าทางก่อนจะหันไปแก้ตัวกับสาวเจ้า "ไม่ใช่นะครับ คุณนาเดีย ผมไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย"



"ค่า ไม่ใช่เลยค่ะ เมื่อกี้ใครไม่รู้ตะโกนว่าคินคนบ้า! แล้วก็งอนตุ๊บป่องขึ้นบ้านไปน่ะค่ะ" แซวเสร็จก็ปิดปากหัวเราะท่าทางน่ารักเช่นเดิม แต่คราวนี้ทั้งบ้านพร้อมกันประสานเสียงหัวเราะ ทั้งคินทั้งคุณลุงทั้งป้ารักป้าอุ่นป้าใจ เป็นกันหมดเลย



งือ เขาโดนกลั่นแกล้ง!!







"ทำอะไรคะ คุณหนู" เช้าตรู่วันหนึ่งเสียงของหญิงแก่เอ่ยทักทายเมื่อเดินเข้ามาในครัวแล้วเห็นร่างบางยืนร่อนแป้งอยู่อย่างขมักเขม้น



"..."



คำตอบที่ได้รับคือความเงียบทำให้ใจเลิกคิ้ว มองอุ่นและรักที่ทำหน้าสงสัยไม่แพ้กัน ปกติแล้วชะเอมจะไม่เมินเธอทั้งสามคนแบบนี้ จะบอกว่าไม่ได้ยินก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเสียงทักออกไปไม่ได้เบาเลย



"คุณหนูคะ"



ป้าทั้งสามชะโงกหน้ามอง ใบหน้าหวานหันไปอีกด้านหนีสายตา พอชะโงกไปอีกด้านใบหน้าหวานก็หันหนีอีก คราวนี้ชัดเจนเพราะเห็นใบหน้าบึ้งตึงกับปากจู๋ๆ



ใจ รัก อุ่นหันมองหน้ากันยิ้มคิกคัก



"คุณหนูงอนอะไรคะ"



พอโดนทักปุ๊บปากบางก็ยู่ ส่งเสียงแง่งอน "ฮึ!"



แต่ป้าๆ หัวเราะไม่ได้กังวล...เนี่ยเหรอที่เจ้าตัวบอกว่าตนโตแล้ว เหมือนกับสมัยเด็กๆ ไม่มีผิด



"ผมงอนพวกป้าแล้ว ไม่ให้กินช็อกโกแลตด้วย"



คราวนี้รีบพูดกันจ้อย "โอ๋เอ๋ค่ะ คุณหนู ป้าล่ะอยากกินขนมฝีมือคุณหนูจังค่ะ...อร๊อย อร่อย"



"ป้าก็ด้วย"



"ป้าด้วยค่ะ"



"ไม่ต้องเลยครับ มาชมผม อย่าคิดว่าผมจะหายงอนนะ" เสียงใสว่าแบบนั้น ก่อนที่จะเงียบไปสักพักได้ยินเสียงง้อจากป้าๆ ว่าอยากกินขนมแสนอร่อยอย่างนู้นอย่างนี้ สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาเอง



...ก็เขางอนใครได้นานเสียที่ไหน...



"ใกล้จะวันวาเลนไทน์แล้วสินะคะ"



"ใช่เลยครับ"



"แล้วคุณหนูทำช็อกโกแลตให้ใครบ้างคะ"



"ให้ทุกคนครับ" ชะเอมตอบยิ้มๆ ทำให้ป้าที่อายุมากกว่าหลายรอบแถมยังหัวโบราณถามขึ้นอย่างสงสัย



"ปกติช็อกโกแลตทำให้คนรักไม่ใช่หรือไงคะ คุณหนูชะเอม"



"ผมก็รักทุกคนนั่นแหละ ทั้งคุณลุง ป้าๆ ที่เลี้ยงดูผม ทุกคนในบ้าน...แล้วก็คินด้วย..." เสียงท้ายแผ่วเบา แต่หน้าแดงยิ่งกว่าเอ่ยชื่อใคร ทำให้คนมองทั้งสามอดยิ้มกรุ้มกริ่มเอ็นดูไม่ได้



"ท่าทางคนสุดท้ายน่าจะได้ช็อกโกแลตชิ้นใหญ่กว่าใครเลยนะคะ" ใจ อุ่น รักเอ่ยแซวหัวเราะคิกคัก ทำให้ชะเอมแหวเขินๆ



"ที่ไหนเล่า ทุกคนก็ได้ชิ้นเท่ากันนั่นแหละครับ"



"แต่คินอยากได้ชิ้นใหญ่ๆ"



ชะเอมตาโต หันไปมองก็ต้องผงะเมื่อร่างสูงใหญ่เข้ามาประชิดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ "คิน! มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ..."



เสียงใสเงียบสงัด ถามยังไม่ทันจบก็ถูกผนึกริมฝีปากไว้ ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงแนบชิดแค่เพียงวินาทีก่อนจะผละออกไปแล้วพูดยิ้มๆ



"ไม่-บอก...หึหึ" คินอมยิ้มขำคนหน้าแดงที่ไม่มองตาแต่ดวงตากลมสีดำหลุบมองที่ริมฝีปากหยักของเขาอย่างหลงใหล



...แบบนี้มันน่า...ให้ 'รางวัล' หนักๆ ...



ริมฝีปากบางอ้าๆ หุบๆ พูดตะกุกตะกัก "ถ้าไม่บอก...ถ้าไม่บอก...ก็ไม่ต้องเอาช็อกโกแลตเลยนะ" เสียงใสพูดขู่ไปอย่างนั้น เพราะอย่างไรชะเอมก็จะทำให้คินอยู่แล้วแน่นอนที่สุด



“เห...” คินเหลือบมองแก้มใสป่องน่าฟัด ครางในลำคอเหมือนไม่ได้เดือดร้อนอะไรเมื่อเจ้าคนตัวเล็กว่าจะไม่ให้ช็อกโกแลตตน



“รู้ไว้ด้วยว่าเอมยังไม่หายโกรธคิน...ฮื้อ...มันจั๊กจี๋”



ร่างสูงโอบเอวบางไว้แน่นก่อนจะกระซิบแผ่วเบาข้างหูเล็กที่แดงจนมีควันออก



"ช็อกโกแลตน่ะไม่เอาก็ได้ เพราะยังไง..."



...เอมก็รักคินที่สุดอยู่แล้ว...



"...ใช่มั้ยล่ะ"



และคำตอบที่น่าชื่นใจอยู่ไม่ไกลเมื่อแก้มใสพลันแดงปลั่งทันทีที่ได้ยินคำถามจบ ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “ครับ...”







"สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ คุณลุง"



"โอ้ ขอบใจนะเอม...มิน่า ลุงได้กลิ่นอะไรหอมๆ แต่เช้าเลย ที่แท้หนูก็แอบไปทำช็อกโกแลตให้ลุงเองเหรอ"



ชะเอมหัวเราะคิก "เอมไม่ได้แอบทำซักหน่อยครับ” ก็ออกจะโจ่งแจ้งไป แต่เกษมศักดิ์เองต่างหากที่ไม่ได้เดินไปดู “แล้วก็ทำให้ทุกคนด้วย"



ทุกคนดีใจเนื้อเต้น ยิ้มแป้นแก้มปริกันทุกคนที่ไม่ว่าชะเอมจะโตแค่ไหนก็ไม่เคยลืมกันแม้แต่วันเดียว ร่างบางแจกจ่ายช็อกโกแลตที่อยู่ในแพ็คเกตน่ารักน่าชัง ซ้ำยังดูน่ากินมากอีกต่างหากให้กับทุกคน



โดยเฉพาะช็อกโกแลตรูปหมีน้อยให้กับเด็กตัวจ้อยเพียงหนึ่งเดียวซึ่งตบมือแปะๆ ดีใจที่สุด



“คุณหมี ฮิๆ คุณหมี”



"อ้าว เอม แล้วไหนของคิน" พอร่างบางกลับมานั่งที่เดิม แต่ของหมดมือแล้วทำให้คนรอคอยท้วงขึ้นหน้าเหวอๆ ...ก็เขายังไม่ได้เลย!



"เอ๊ะ ก็คินบอกว่าไม่เอานี่ครับ" คนตอบเลิกคิ้วเสียงใสพาซื่อ ซื่อมากจนบื้อ ร่างสูงแอบกลอกตามองบน



นั่นเขาพูดเล่นไหมล่ะ!! ใครจะรู้ว่ากระต่ายซื่อจะทำจริงๆ!?



"อืม ได้ ไม่เอาก็ได้..." เสียงทุ้มแอบน้อยใจทำให้ชะเอมทำหน้างุนงง ก็ตอนแรกไหนบอกว่าไม่เอา ทำไมถึงทำท่างอนไม่เป็นผู้ใหญ่เช่นนั้นเล่า



ถ้าหากอ่านใจชะเอมได้ทุกคนคงคิดเหมือนๆ กันว่า...



...เวลาตัวเองน้อยใจเขาก็ท่าทำเหมือนเด็กอนุบาลไม่ต่างกันหรอก...



"เอมทำให้ตาลกับเพื่อนๆ ด้วย เตรียมไว้อยู่หลังครัว เดี๋ยวคินไปเป็นเพื่อนเอมหน่อยนะ จะได้เอาไปให้...ตาลต้องดีใจแน่ๆ เลย" เสียงใสพูดจ้อยๆ ไม่รู้ว่าขมับร่างสูงเริ่มปูดโปน ทั้งๆ ที่เขากำลังน้อยใจอยู่แต่ชะเอมกลับพูดว่าทำเผื่อคนอื่นได้อย่างน่าโมโห!



นี่มันวันวาเลนไทน์! วันแห่งความรัก! แล้วทำไมคนรักอย่างเขาถึงไม่ได้ช็อกโกแลตอยู่คนเดียว!?



ครืด!



คินลุกขึ้นเดินขึ้นบ้านไปเงียบๆ ซ้อนทับแผ่นหลังบางเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ไม่มีเสียงโวยวายใดๆ



"อ้าว คิน...จะไปไหนครับ" ชะเอมร้องเรียกก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินตามไป อารมณ์แบบนี้แสดงว่าไม่ปกติ "คิน งือ...งอนอะไร"



ร่างบางทำเสียงกังวลใจเดินตามแผ่นหลังกว้างพลางกระตุกชายเสื้อและถูกพาเข้าห้องนอนไปเงียบๆ สิ่งที่ชะเอมไม่เห็นคือริมฝีปากหยักยิ้มเจ้าเล่ห์...กระต่ายตกหลุมกับดักหมาป่าเข้าให้แล้ว



เกษมศักดิ์หัวเราะ นี่มันคู่รักชนิดไหนกัน สลับกันง้องอนเหลือเกิน ก่อนจะส่ายหน้าและสนใจกินข้าวและช็อกโกแลตจากลูกชายสุดที่รักเช่นเดิม







"อะ...อึก ฮึก..." ฟันขาวกัดปากตนแน่น กับแรงขับเคลื่อนที่ไม่ปราณีกันจากด้านบนส่งให้เตียงขยับสั่นไหวรุนแรง "คนเจ้าเล่ห์ อ๊า...!"



เขาอุตส่าห์ตามมาง้อ แต่ไหงกลายเป็นแบบนี้ได้!?



มือบางยกขึ้นปิดปากแต่เพียงเสี้ยววิก็ถูกดึงออก "จะปิดทำไม หืม คินอยากฟัง"



"ไม่เอา เสียง แฮ่ก เอม...อื้อ! ฮื้อ...!" ส่วนล่างถูกบดขยี้รุนแรงจนทนไม่ไหว หลุดครางออกมาจนได้ มือสองข้างถูกแขนแกร่งตรึงเอาไว้...ราวกับจะกลั่นแกล้งกัน



"ก็ไหนบอกรักคินที่สุดไง รักก็ต้องตามใจสิครับ...แล้วก็จะลงโทษให้หนักๆ สำหรับคนซื่อบื้อที่ไม่ยอมทำช็อกโกแลตให้คินด้วย"



"คะ ฮะ ใคร...บอก"



"ก็ป้าใจพูด"



"นั่นป้าใจ ไม่ใช่เอม...อ๊ะๆๆ!" ชะเอมเกร็งตัวครางดังลั่นเมื่อเบื้องล่างบดขยี้อย่างหมั่นเขี้ยวกับคนปากไม่ตรงกับใจ



"เหรอ แสดงว่าเอมไม่ได้รักคินที่สุด?"



"ฮือ...คินนิสัย อ๊ะๆ ฮึก! ไม่...ดี"



คนมองยิ้มกริ่ม ใบหน้าหวานส่ายไปมาหน้าแดงก่ำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร แต่การกลั่นแกล้งคนน่ารักเป็นอะไรที่สนุกสนานและจรรโลงใจสำหรับร่างสูงอย่างมาก



"รักไหม"



"อ๊ะ ฮึก...อย่า...หยุดนะ"



ยิ่งห้ามยิ่งกระตุ้นให้ใส่แรงหนัก เนื้อกระทบเนื้อดังลั่นตับๆ น่าอาย เคล้าคลอกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงและเสียงครางสองโทน ไพเราะหวานหูจนอยากฟังอีกครั้งไม่รู้จบ



"คินรักเอมนะ"



"คิน...คิน เอมก็...อื๊อ~" กายบางบิดเร่า ทั้งแขนและขาเรียวเกี่ยวกอดรัดแผ่นหลังกว้างกับเอวสอบแน่นยามจะถึงจุดสูงสุด คินเห็นดังนั้นก็เลียปากขยับเร่งความเร็วขึ้นอีก



ไม่ต้องบอกรักก็ได้ เพราะเขารู้ดีกว่าใครว่าชะเอมไม่มีวันรักคนอื่นมากเท่าเขาอีกแล้ว



แค่แขนผอมกอดก่ายแผ่นหลัง จิกข่วนในยามหฤหรรษ์



แค่ตอดรัดในยามแทรกซึมลึก



แค่เสียงครางสั่นเครือเสียงสูง ร่ำร้องเรียกชื่อ



แค่ดวงตากลมโตคลอหน่วยด้วยน้ำตามองตรงมาที่เขาคนเดียว



"เอมรักคินที่สุด อ๊ะ อ๊า!"



...แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว...







"อร่อยๆ! อยากกินอีก เอมทำมาอีกนะ...เยอะๆ เลย" คนมีเขี้ยวยิ้มแป้นอย่างมีความสุข คราบขนมสีน้ำตาลเข้มเลอะปากจนคนข้างๆ ต้องเช็ดออกให้ "อร่อยกว่าของที่เราซื้อมาอีก แบบนี้โคตรปลื้ม!"



ยิ่งได้ยินเสียงชมเปาะ คินยิ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถึงเขาจะไม่ชอบขนมหวาน แต่วันสำคัญแบบนี้มันก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะได้จากชะเอมสิ ไม่ใช่ไอ้น้ำตาลที่นั่งกินช็อกโกแลตไม่หยุดแบบนี้!



ปึง!



ร่างสูงกระแทกประตูรถปิดอย่างแรง อารมณ์คุกรุ่นที่ทำให้ชะเอมงุนงงอีกครั้ง ก่อนที่เสียงทุ้มจะคลายความกระจ่าง



"กลับไป ทำช็อกโกแลตให้คินใหม่เลยนะเอม"



"..."



"ถ้าไม่ได้วันนี้ คินจะเอาความรักแบบอื่นๆ ให้หนักๆ เลย"



แก้มใสแดงปลั่ง เมื่อคิดว่าแบบอื่นๆ ที่อีกฝ่ายพูดคือแบบไหน ซึ่งคำตอบอยู่ไม่ไกล



"ให้ลุกจากเตียงไม่ได้เลย...ดีไหม"



ได้ข่าวว่าก่อนมานี่ก็ทำไปหลายรอบแล้วแต่สงสัยจะยังไม่พอใจ



“หรือจะทำในรถ...ก็ไม่เลว”



คนหื่นน่ะยังไงก็หื่นอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ...บ้าที่สุด!


************************Whose fault? ************************


ย้อนหนึ่งวัน มาลงให้ช้านิสนึง ><


คงคอนเซปต์ดราม่ามาก อีคินทำน้องร้องไห้อีกแล้วค่ะ!

ตอนพิเศษนี้เสิร์ฟเล็กๆ น้อยๆ คั่นตอนหลัก แม้จะไม่ได้หวานมาก แต่ก็น่ารักดีใช่มั้ยคะ ^^

มีความแง่งอนน่ารักน่าชัง กระต่ายซื่อก็ยังหลงกลหมาป่าเจ้าเล่ห์อยู่ร่ำไป

สุดท้ายนี้ สำหรับวันแห่งความรักก็ขอให้นักอ่านทุกคนมีความสุขค่า

เจอกันตอนหลักตอนต่อไปนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
รับกำจัดเรย์ซะ,,,

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
                                                Whose Fault ?

                                                ผิด...ครั้งที่ 34



โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป



"คิน...เอมจะไปเล่นน้ำแล้ว" ขาเรียวนั่งยองๆ ค้นกระเป๋าเดินทางหาเสื้อกับกางเกงสำหรับไปเล่นน้ำทะเลที่เตรียมเอาไว้แล้ว

หลังจากกลับมาจากกินข้าวมื้อเที่ยงข้างนอกที่ต้องขับรถไป ก็ได้เดินเล่นนิดหน่อยรอบๆ โรงแรม แต่โดนห้ามจากคินไม่ให้เดินเที่ยวทะเลเพราะแดดมันแรงเกินไป จึงได้แต่เดินหงอยกลับมา แต่พวกเอกกับสิน(ที่สนิทกันตอนไหนก็ไม่รู้)ชวนไปเล่นไพ่ที่ห้อง ร่างบางไม่ปฏิเสธแม้จะเล่นไม่เป็น แต่ได้ฆ่าเวลาหน่อยก็ดี กว่าจะเล่นเป็น กว่าจะเล่นแต่ละตาแพ้ชนะสลับกันไปจนถึงเวลาห้าโมงเย็น ชะเอมขอตัวกลับห้องเพราะถึงเวลาที่คินอนุญาตให้ลงทะเลได้แล้ว

"แปปนึง เดี๋ยวคินไปด้วย" เสียงทุ้มตะโกนออกมาจากห้องน้ำ ทำให้ร่างบางพยักหน้าหงึกหงักราวกับอีกฝ่ายจะเห็น พอยิ่งค้นหน้าก็ยิ่งนิ่ว ขมวดคิ้ว...เอ เสื้อกล้าม...กับ...กางเกงขาสั้น...หายไปไหน

"ทำอะไรอยู่"

"คิน" ใบหน้าหวานหันขวับมองเมื่อได้ยินเสียงทุ้มพูดอยู่เหนือหัว ก่อนจะหันกลับไปค้นต่อ "เอมหาเสื้อกับกางเกงที่จะใส่เล่นน้ำไม่เจอ"

...ก็ว่าจัดใส่กระเป๋ามาแล้วนะ...ยิ่งคิดยิ่งเกาหัวแกรก หน้ามุ่ยกว่าเดิม

"มาเดี๋ยวคินหาให้" คินทรุดลงข้างๆ ร่างบางกระพริบตาปริบมองอย่างสงสัย ไม่ถามกันเลยเหรอว่าลักษณะมันเป็นยังไง ร่างสูงค้นไม่ถึงห้าวินาที ก็หยิบขึ้นมา แต่...

"นี่ไม่ใช่" ชะเอมส่ายหน้าทันใด

"ใช่สิ"

"ไม่ใช่" เสียงใสบอกอย่างมั่นใจ มือบางล้วงค้นๆ อีกครั้งแต่ก็ไม่เจอจริงๆ "ที่เอมเอามาเป็น..."

"เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาสั้น"

"...อ้าว? คินรู้..."

"รู้ แล้วคิดว่าคินจะให้ใส่เหรอ...ใส่อันนี้ไป" ชะเอมหน้างอ มองเสื้อยืดสีเข้มแขนสั้นกับกางเกงบอลที่ถูกยัดเข้ามาในมือ "ไปเปลี่ยนเร็ว จะเล่นมั้ย? น้ำทะเลน่ะ"

คินมองยิ้มๆ กับร่างผอมที่เดินหันหลังด้วยใบหน้างอง้ำเข้าห้องน้ำไป เพียงไม่นานก็ออกมาด้วยชุดที่เขาเตรียมให้ เจ้าตัวไม่รู้เลยหรือไงว่าเรือนร่างของตัวเองน่ามองขนาดไหน แค่ปกติยังมีผู้ชายมองเลย แล้วจะให้ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นโชว์หุ่นแบบนั้นออกไปเล่นน้ำอีกงั้นหรือ?

"ตัวใหญ่จัง" ชะเอมมองเสื้อที่ใส่ พร้อมจับเสื้อที่โคร่งกระพือมองหน้ามองหลัง ก็ใครให้เจ้าตัวผอมขนาดนั้นกัน ใส่แล้วดูตัวเล็กไปอีก

"เสื้อเก่าของคินเอง"

แก้มใสแดงระเรื่อหน่อยๆ เมื่อรู้ว่ามันเป็นเสื้อของใคร ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้และพองลมใส่แก้ม "นี่แสดงว่าคินสลับเสื้อกับกางเกงของเอมออกเหรอ?"

"...ใช่"

"เอมอุตส่าห์เตรียมไว้" ร่างบางเดินผ่านยู่ปาก แต่ไม่ทันออกนอกห้องนอนก็โดนมือใหญ่จับแขนเอาไว้ลากตัวปลิวมานั่งคร่อมตักแกร่งตรงขอบเตียง

"งอน...งอน" คินหมั่นเขี้ยวแก้มใสที่พองลมน่าฟัดนักจึงหยิบและยืดมันออกทั้งสองข้าง ซึ่งมือบางก็ตีเพียะรัวๆ เข้าที่แขนคนตัวสูงแต่เจ้าตัวไม่เห็นสะทกสะท้านแม้แต่นิด

"ฮื่อ!...เอ็บบบ"

"เสื้อบางๆ แบบนั้นใครจะอยากให้ใส่กันฮึ ไม่เข้าใจกันบ้างเลย"

ชะเอมน้ำตาเล็ดยกมือลูบแก้มที่โดนบีบซะแดง "แต่เสื้อกล้ามมันสีดำเปียกน้ำก็ไม่เห็นหรอกครับ..."

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่เข้าใจ...

"ใส่ตัวนี้ก็ดีแล้ว คินเลือกให้ ไม่ดีหรือ?" ริมฝีปากสีเข้มกระซิบชิดจนใบหน้าหวานแดงเรื่อ ผละออกมาเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

"...ดีก็ได้" ครั้นเจ้าคนตัวเล็กจะลุกจากตัก แขนแกร่งก็รัดเอวบางไว้เสียแน่น "คิน ปล่อยเอมสิ พวกดินรออยู่นะครับ"

"เอม” เสียงทุ้มเรียกชื่อทำให้ดวงตากลมสบสายตาคมกริบที่มองมา ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้หน้าร้อนผ่าวได้ เพราะสายตาที่สื่อความหมายนั้น

"เอม..."

ดวงตากลมหลุบลง แก้มใสแดงน่ารัก ตอบรับเสียงแผ่วเบา "ครับ"

"จูบได้ไหม" แม้จะเอ่ยขอ แต่ริมฝีปากร้อนผ่าวนั้นพูดซะชิดห่างไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร จะถอยหนีก็ไม่ได้เพราะถูกโอบเอวเข้าไปแนบชิดจนแผ่นอกติดกันไม่มีช่องว่างเหลือ...อะไรๆ ก็...

"คะ คิน อะ เอมอยากเล่นน้ำแล้ว" ชะเอมเฉไฉ ไม่สนใจคำขอร้องที่แทบจะกลืนกินเขาทั้งตัว

"นะครับ ครั้งเดียว"

ริมฝีปากบางเม้มแน่น ประสบการณ์ที่ถูกช่วงชิงเอาลมหายใจไปทุกครั้ง เพียงแค่นึกถึงก็ทำให้หน้าแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้

"นะ..."

"คะ แค่ ครั้งเดียว...อื้อ..." ริมฝีปากสีเข้มแนบประกบทันทีไม่รอให้เสียงใสพูดจบ แต่ชะเอมขมวดคิ้วเม้มปากแน่น ทำให้คินผละออกมาเอ่ยเสียงพร่า

"เอม อ้าปากหน่อย"

ชะเอมส่ายหน้าทันที ทั้งที่แก้มแดง "ฮื่อ..."

"เอม..." คินหายใจแรงอย่างต้องการ สิ่งที่ต้องการอยู่ตรงหน้าแล้วแต่จับต้องหรือสัมผัสไม่ได้ มันช่างเป็นอะไรที่ทรมาน ร่างสูงใช้นิ้วโป้งคลึงมุมปากให้เปิดออกมาแต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอม

ร่างบางก้มหน้างุด "เวลาคินจูบแล้วเอมหายใจไม่ออก"

"เดี๋ยวคินสอนเอง...ถ้าจูบเป็นล่ะก็รู้สึกดีนะ...แถมไม่ทรมานด้วย" เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบตะล่อมข้างใบหูเล็ก ทำให้ชะเอมเงยหน้ามองงุนงง

"จูบเป็น?" แค่จูบต้องมีเป็นไม่เป็นด้วยเหรอ "จูบยังไงครับ"

คินกลืนน้ำลาย อดทนไว้เพื่อความหอมหวานที่รอคอย "อ่ะ อ้าปาก"

ริมฝีปากบางค่อยๆ เผยอออกเล็กน้อยเห็นซี่ฟันสีขาวเล็กน่ารักเรียงเป็นระเบียบ คินก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะพูดอีกครั้ง "เวลาจูบกัน ให้หายใจทางจมูก อย่ากลั้นหายใจเพราะงั้นเดี๋ยวจะหายใจไม่ออกรู้เปล่า"

"...ครับ" ชะเอมหน้าแดงน้อยๆ ที่เรื่องแค่นี้ยังต้องให้มาสอนกัน แต่ก็รู้สึกว่าร่างสูงยังใจดีที่ไม่ทำให้เขาอึดอัด

มือใหญ่จับท้ายทอยเล็กให้เข้าใกล้และเริ่มต้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องรอให้บอกร่างบางเผยอปากให้สอดลิ้นเข้าไปอย่างง่ายดาย แต่ร่างกายแอบสะดุ้งกระตุกเบาๆ อย่างคนไม่ชิน แต่เป็นปฏิกิริยาที่ใสซื่อยั่วยวนกิเลสชายหนุ่มเป็นอย่างดี

"อือ...อืม" ชะเอมที่มัวแต่โฟกัสกับการหายใจ ทำให้ลิ้นของอีกฝ่ายรุกเข้าช่องปากทุกซอกทุกมุมจนลมหายใจกระตุก มือใหญ่เลื่อนจากเอวลูบแผ่นหลังบางไปทั่วจนชะเอมรู้สึกวาบหวิว

ใบหน้าทั้งสองผละออก เปลี่ยนองศาและประกบเข้าหากันอีกครั้งและอีกครั้ง ใบหน้าหวานร้อนผะผ่าว...รู้สึกดีอย่างที่คินบอกจริงๆ ด้วย

"ฮึก...อื้อ" ชะเอมสะดุ้งทุกครั้งที่คินดูดลิ้นของตน ความร้อนที่เปียกชื้นและลื่นไหลอยู่ในช่องปาก มันรู้สึกดีจนต้องขยับลิ้นตอบรับเงอะงะ ยิ่งลิ้นทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันบรรยากาศก็ยิ่งเหมือนมันระอุมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำลายไหลย้อยจากมุมปากเปรอะเปื้อนแต่เจ้าของหาได้สนใจไม่

วาบหวิวจนรู้สึกปวดมวนที่หน้าท้อง

คินหงายหลังลงนอนราบกับเตียงนุ่ม บังคับให้ร่างบางนอนทับตนอีกที ทำให้ชะเอมไม่สามารถต้านทานได้ ยิ่งน้ำหนักจากมือที่กดท้ายทอยยิ่งไม่สามารถผละออกจากริมฝากสีเข้มนี้ได้เลย

จุ๊บ...จุ๊บ

"ฮื้อ" ร่างบางไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง ปวดมวนในท้องเหมือนคราวนั้น จนต้องดันผละออกมา "ฮ่า...คะ คิน...เอม ฮึก!"

"เป็นอะไร...เอม" เสียงทุ้มถาม

"เอม รู้สึก..." ร่างบางกัดปากแน่น หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าบอก แต่คินรู้ดีที่สุด ทำไมจะไม่รู้ว่าชะเอมกำลังรู้สึกยังไง ก็เพราะของร่างบางมันเริ่มแข็งตัวดันหน้าท้องของเขาอยู่น่ะสิ

แถมเจ้าตัวก็บดเบียดสิ่งนั้นเข้าหาร่างกายของเขาโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย...ยั่วยวน

"หมายถึง...ตรงนี้เหรอ" มือใหญ่ตะปบตรงสะโพกเล็กทั้งสองข้างกดมันให้เบียดกับร่างกายแข็งแกร่งมากขึ้น และเป็นอย่างที่คิดร่างกายบอบบางดิ้นเร่าทันที

"อ๊ะ อ๊า...!"

เสียงใสที่ครางสูงชิดริมหูทำให้คินกัดฟันกรอด ผุดลุกขึ้นนั่งและพลิกตัวชะเอมให้นั่งหันหลังพิงอกแกร่งมือถอดกางเกงกับชั้นในลงให้ด้านล่างเปลือยเปล่า

"คินจะทำอะไร...!" ใบหน้าหวานแดงก่ำกับท่าทางน่าอายของตัวเอง แต่หนักยิ่งกว่าเมื่อเห็นมือใหญ่จับกลางกายแข็งขึงไว้มั่น "ฮื่อ..."

"เดี๋ยวคินจะช่วยเอมก่อน...ถ้าทนไม่ไหวก็ปล่อยออกมาเลยนะ"

"อื้อออ!!" มือบางจิกทั้งแขนทั้งข้อมือของร่างสูงที่กระทำบางอย่างกับร่างกายตัวเอง มือใหญ่รูดรั้งอย่างรวดเร็วจนกลั้นเสียงครางไว้ไม่ได้ หยาดน้ำตาไหลแหมะเพราะรู้สึกมากเกินไป "อะ อ๊ะ ฮะ! อื้ม"

...เสียวซ่าน...

แค่เสียงครางก็มากพอ แต่นี่ยังเห็นร่างกายสีขาวนี่บิดเร้าอย่างยั่วยวนอีก น้ำเหนียวใสเริ่มผุดไหลซึมผ่านมือใหญ่จนเปรอะเปื้อน แต่คินไม่รังเกียจแม้แต่นิด มืออีกข้างถกชายเสื้อสีน้ำตาลเข้มที่เจ้าตัวเพิ่งใส่ให้ขึ้นไปกองที่ลำคอ ตอนนี้ชะเอมไม่ต่างจากคนไร้เสื้อผ้าเพราะเขาเห็นร่างกายผอมมันทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขาเรียวสองข้างที่พยายามหนีบเข้าหากันแน่นจนต้องบังคับให้มันแยกออกทุกครั้ง สะโพกเล็กโยกรับกับสัมผัสของมือใหญ่ที่รูดรั้งท่อนเนื้อเล็กๆ สีอ่อน เอวผอมบาง ซี่โครง จุกนมสีชมพูสองข้าง และใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากอ้าคราง ดวงตากลมโตคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำตา

"อ๊าอ๊ะ! มะ ไม่!" ชะเอมสะบัดหน้าคราง เมื่อถูกบีบคลึงที่หน้าอก มือใหญ่ไม่ปรานีกันเลยทั้งส่วนล่างที่ขยับรวดเร็วจนหายใจแทบไม่ออก แล้วยังที่หัวนมของเขา...รู้สึกดีเกินไปจนทรมานเหลือเกิน

สะโพกเล็กเกร็งตัวขยับเข้าหา ขาสองข้างอ้ากว้างไม่รู้ตัว รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังจะมา...เขาจะถึง...

อีกนิด...อีก...นิดเดียว

"อ๊ะ...อ๊าาา!"

ร่างบางครางสุดเสียง น้ำสีขาวขุ่นพุ่งแรงจนถึงแผ่นอกสีน้ำนม คินช่วยรีดน้ำจนหมดแล้วจูบริมฝีปากบางอย่างเก็บเกี่ยว ก่อนจะปล่อยให้ชะเอมได้พักหายใจ

แค่นี้ก็หมดแรงแล้ว...แล้วอย่างนี้จะมีแรง 'ช่วย' เขาไหมเนี่ย

"เอม เหนื่อยแล้วเหรอ"

"อือ..." ดวงตาปรือปรอย ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ ได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจของตัวเองและอีกฝ่าย เสียงรูดซิป และเสียงครางทุ้มต่ำ

"อะ อา...เอม" ลมหายใจร้อนคลอเคลียข้างใบหน้า เสียงครางข้างใบหู ก่อนจะรู้สึกเปียกชื้นที่ลำคอ "ซี้ด"

ชะเอมเริ่มหายเหนื่อยจึงมีสติรู้สึกตัว มองใบหน้าคมที่อยู่เหนือศีรษะ ร่างสูงคร่อมอยู่เหนือร่างเปลือยเปล่าของเขา และดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้างหน้าแดงเถือกอีกครั้ง...คินกำลัง!!!?

"อย่าเพิ่งขยับ...อา เอม นอนเฉยๆ ซี้ด" เสียงครางและเสียงหอบหายใจของคิน สายตาเร่าร้อน และเสียงรูดรั้งท่อนเนื้อของอีกฝ่ายมันทำให้หัวใจเต้นรัว หน้าร้อนผ่าว

"คิน..." ริมฝีปากบางขบกัดกันอย่างทนไม่ไหว ทำแบบนี้เขาอายนะ "ลามก"

ร่างสูงกำลังช่วยตัวเองโดยการคร่อมร่างบางและใช้สายตามองไปทั่วร่างเปลือย จมูกโด่งสูดดมแค่เพียงได้กลิ่นกายหอมกรุ่นก็รู้สึกฮึกเหิมมีกำลัง

"ใช่ คินลามกกับเอมแค่นั้นแหละ อือ อืม..." เห็นสายตาเขินอายที่มองมาแล้วยิ่งรู้สึกดี จนอดเอ่ยขอไม่ได้ "เอม ช่วยคินหน่อย"

"ชะ ช่วย...ช่วยยังไง" ร่างบางขนลุกเกรียว เมื่อคินใช้จมูกไซ้ลำคอ ลมหายใจร้อนๆ มันเป่ารด ดวงตากลมหลับปี๋ "อือ..."

"จับมันหน่อย" ชะเอมสะดุ้งปรือตามองก่อนจะหลบวูบ แก้มแดงปลั่ง ไม่กล้ามองตรงๆ รู้สึกอายเกินกว่าจะมอง

"ของคินก็เหมือนของเอม...นะ"

มือบางสั่นน้อยๆ แตะตรงส่วนปลาย เพียงเท่านั้นร่างกายกำยำก็กระตุกเฮือก "อา..." ชะเอมรีบผละออกเพราะความร้อนระอุของมัน "เอม...จับแน่นๆ"

แล้วใบหน้าหวานก็แดงก่ำเมื่อกำรอบและรู้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน หัวใจสูบฉีดหนักจนใบหน้าหาสีใดไม่เจอนอกจากสีแดง ไม่รอให้ชะเอมผละมือออกคินก็ทายทับมันด้วยมือของตัวเอง...และชักรูดไปพร้อมๆกัน

"ซี้ดดด" เสียงสูดริมฝีปากทำให้ชะเอมเขินหนัก ใบหน้ารู้สึกดีของคินเป็นแบบนี้เอง รู้สึกมวนในท้องอีกครั้งเมื่อเสียงครางทุ้มดังไม่หยุด ความร้อนที่สัมผัสเสียดสีผ่านฝ่ามือมันทำให้ชะเอมกัดริมฝีปากแน่น

"คิน...จูบ..." เหมือนรออยู่แล้ว ริมฝีปากหยักฉกจูบลงมา ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าช่องปากและรุกรานทั้งลิ้นเล็ก ไรฟัน เพดาน ร่างบางเสียวซ่านจากจูบเพียงจูบเดียวจนแผ่นหลังบางเดาะ เปลี่ยนมุมเปลี่ยนองศาจนคนใต้ร่างหายใจไม่ทัน "ฮ่า...ฮือ..."

"เอม...ใกล้...อา คินใกล้แล้ว" หน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นลูกคลื่น มือใหญ่ปัดมือเล็กออก ก้าวคุกเข่าคร่อมแผ่นอกบางและขยับรูดรั้งแก่นกายใหญ่รวดเร็วตามใจเพราะใกล้ถึงฝั่ง

"...อือ คิน" ร่างบางนอนหงายนิ่ง ริมฝีปากบางเม้มแน่น มองสิ่งนั้นตาปรือปรอย...เพียงแค่พิศมองท่าทางเซ็กซี่เหล่านั้น ก็ทำให้ร่างบางรู้สึก...หวิวในอก

เสียงสูดปากดังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขื่อนที่กักเก็บไว้จะแตกออก น้ำสีขาวขุ่นเหนียวพ่นแรงตั้งแต่หน้าอกบาง ลำคอขาวและใบหน้าหวานที่หลับตาปี๋

อุ่น...

ร่างกายแข็งแกร่งกระตุกเฮือกไม่หยุดราวกับไม่เคยปลดปล่อยแรงขนาดนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะต่อหน้าร่างบางคนนี้ทำให้รู้สึกมากเป็นพิเศษ มือใหญ่รูดรั้งแก่นกายจนน้ำออกหมดและอ่อนตัวลงในที่สุด

"อย่าเพิ่งขยับนะ"

พอลมหายใจสงบ ร่างสูงก็บอกคนที่นอนนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นหยิบทิชชู่มาเช็ดที่ใบหน้ามนออกให้ และดวงตากลมค่อยๆ ปรือเปิด และดวงหน้าที่แดงก่ำก็ปรากฏอีกครั้ง

"คิน...ลามกที่สุด" เสียงใสอุบอิบ "ไหนบอกว่าจูบเดียว" ปากบ่นและกุลีกุจอลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าให้เหมือนเดิมโดยที่คนโดนว่าหัวเราะหึๆ เดินเข้าไปกอดจากด้านหลังแล้วหอมแก้มใสที่สะอาดแล้ว (?) ดังฟอด

"ก็อยู่กับเอมแล้วมันหยุดไม่ได้"

"ไม่ต้องมาอ้างเลย!" แขนบางผลักร่างสูงออก และเด้งตัวออกห่าง เขายังเขินอยู่อย่ามากอดอย่ามาหอมนะ! "ไม่ต้องมาจับนะ คนบ้า! คนหื่น!"

ปังๆ

"เอมโว้ย! ไปเล่นน้ำกัน!"

ชะเอมสะดุ้งเฮือกกับเสียงตะโกนด้านนอก...ดินนี่นา!

"อื้อ!! ไปแล้ว!" ขาเรียวตวัดวิ่งแผล็วหนีออกไปอย่างเร็ว ทิ้งร่างสูงยืนนิ่งในบ้านพักเอาไว้

คินเสยผม เหลือบมองเตียงขาวที่ผ้าปูยับยู่ยี่และมีน้ำบางอย่างเลอะอยู่บางส่วนแล้วก็อดเลียริมฝีปากแห้งผากไม่ได้

ทั้งๆ ที่เพิ่งปลดปล่อยไป...แต่ความต้องการก็ไม่ลดลงเลย

ขายาวเดินไปที่หัวเตียง หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์หนึ่งแล้วโทรออก

...กฤษณะ...

"อากฤษครับ" แววตาคมกริบมองออกไปนอกหน้าต่างบ้านที่พักเห็นแผ่นหลังบางลิบๆ เดินอยู่ข้างเพื่อนตัวสูง

"คนป่วยโรคหัวใจเนี่ย...มีเซ็กส์ได้รึเปล่าครับ"



************************Whose fault? ************************



พระอาทิตย์กำลังตกดินลับขอบฟ้า มองจากชายหาดทรายกว้างใหญ่สีขาวแห่งนี้แล้วสวยงามจนอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ ผู้คนหลากหลายที่มาพักผ่อนที่โรงแรมแถบนี้ก็พากันมาเล่นทะเลตอนเย็นๆ ที่แดดเริ่มหมดพอดี

"เค็ม..."

"ก็ทะเลนี่จะให้มันจืดได้ไง" สินตอบกวนๆ กับชะเอมที่ทำปากปะแล่มๆ ขมวดคิ้วมุ่น ก็คนกำลังพูดอยู่ดีๆ คลื่นก็ซัดเข้าฝั่งซะงั้น แถมมันยังกระเซ็นเข้าปากด้วย

"เอ้า!"

ซ่า!

"ดิน! ...มันเข้าปากเราแล้วนะ" ร่างบางลูบหน้าลูบตาใส่คนตัวสูงผิวคล้ำที่สาดน้ำทะเลใส่...เพิ่งบ่นไปแท้ๆ ว่าน้ำทะเลมันเค็ม ลูบเสร็จก็สาดคืนหลายๆ ที "นี่แน่ะๆ เอาไปเลย"

"โฮ้ย...แหวะ! เค็มปี๋"

"เห็นมั้ยล่ะ" ว่าแล้วยังไม่หยุดรู้สึกสะใจอย่างประหลาดที่เห็นเพื่อนเปียกปอนไปหมดไม่ต่างจากตัวเอง

"พอแล้ว พอแล้วโว้ยยย...อย่าให้รอดไปได้นะ แค่กๆ เค็ม!!"

"ฮ่าๆ" เสียงใสหัวเราะลั่นจนดังมาถึงฝั่งที่นั่งริมหาด เรียกสายตาและรอยยิ้มเอ็นดูจากคนมองเป็นอย่างดี

"แหม แหม~ น่าอิจฉาชะเอมเนาะ มีเดือนสุดหล่อคณะวิศวะจากมหาลัยชื่อดังที่สาวๆ หลายคนหมายปองมานั่งเฝ้าเล่นน้ำด้วย"

"นั่นสิ"

แฟนหนุ่มของเม็ดทรายยิ้มขำกับคำแซวอ้อล้อของแฟนตัวเอง ปกติเม็ดทรายจะเป็นหญิงสาวที่ดูน่าเกรงขามสำหรับคนอื่นแต่พอเธออยู่กับเพื่อนก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง นี่คือนิสัยน่ารักที่ชายคนนี้ชอบ

ร่างกำยำกล้ามโตที่อยู่ข้างๆ นั้นชื่อศร เป็นรุ่นพี่ปีสี่คณะวิศวะเหมือนกันแค่คนละสาขาและเป็นนักมวยของมหาวิทยาลัยที่ถูกส่งไปแข่งและกลับมาพร้อมชัยชนะทุกครั้งจนเป็นที่กล่าวขาน และศรกับพวกเขาก็รู้จักกันดี

"ไม่หรอกครับพี่ศร ผมต่างหาก..."

"นู่นๆ ดูสาวอกโตใส่บิกินีทางนั้นสิ เขาจ้องนายตาเขม็งเลย"

ร่างสูงส่ายหน้ากับคำยั่วยุของหญิงสาว "อุตส่าห์ใส่ชุดว่ายน้ำมาทั้งที ถ้าว่างนักก็ไปเล่นน้ำซะไป"

"ไล่...ไล่ ไปก็ได้ ศรคะไปก่อทรายกันดีกว่าค่ะ"

"ครับ"

และเสียงง้องแง้งก็ค่อยๆ เบาลง ร่างสูงถอนหายใจ มองชะเอมกับเพื่อนที่เล่นน้ำอย่างสนุกสนานแล้วก็ตัดสินใจ

'ไปเล่นด้วยดีกว่า'

ขายาวกำลังจะลุกขึ้นเดินไปหาร่างบางที่อยู่ตรงนั้น แต่เสียงแหลมของผู้หญิงก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

"ขอโทษนะค้า หนุ่มหล่อตรงนั้น"

และสาวสองคนหุ่นอวบอั๋น ใส่เสื้อว่ายน้ำแบบทูพีซโชว์ร่องอกก้าวเข้ามาในครองสายตา บังทิวทัศน์ของทะเลมิด...นั่นหมายความว่าเขาก็มองไม่เห็นชะเอมที่กำลังเล่นน้ำด้วย

"ครับ?"

"ว่างมั้ยคะ พวกเราอยากวานให้คุณไปตรงนั้นด้วยกันหน่อย" สาวผมน้ำตาลเป็นลอนใส่ทูพีซสีแดงแปร๊ดมีเกล็ดแวววาวติดตรงหน้าอกและกางเกงในตัวน้อยระยิบระยับ ไม่แค่ถามเฉยๆ ยังก้มมาซะ และยังใช้แขนบีบจนอกอวบจะทะลักออกมาจากผ้าชิ้นน้อยอยู่แล้ว

"ไม่ว่างครับ" คินหันหน้าออก เดี๋ยวใครมาเห็นจะเข้าใจผิดหมด ไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น ขายาวเลี่ยงเดินออกอีกทางแต่สาวอีกคนมาขวางทางไว้ คราวนี้เป็นคนผมดำ

"จะรีบไปไหนล่ะคะ ก็เห็นอยู่คนเดียว"

"ใช่ๆ ที่บอกว่าไม่ว่างคงจะโกหกล่ะสิ" สาวบิกินีแดงด้านหลังพูดเสริม

ข้างขมับเริ่มปูดด้วยเส้นเลือดเพราะเสียงแหลมๆ ที่ฟังดูน่ารำคาญ "ก็บอกว่า..."

"คิน?" เสียงใสดังแทรกทำให้ร่างสูงชะงักหันขวับไปมอง ร่างกายผอมบางเปียกโชกทั้งตัว จนเสื้อที่เคยใหญ่โคร่งลู่ลงแนบกายจนเห็นว่าไหล่นั้นเล็กบางแค่ไหน

"เอม...!"

ดวงตากลมกระพริบปริบๆ มองที่ร่างสูงและหญิงสาวสลับกันอย่างงุนงง "เอมจะมาชวนไปเล่นน้ำ...ใครเหรอครับ?"

คินกำลังจะอ้าปากตอบว่าไม่รู้ แต่สองสาวปรี่เข้าไปหาคนใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามา

"ตายจริงหนุ่มน้อยคนนี้น่ารักอะ"

"อื้อ ใช่ๆ เห็นด้วยเลย~"

"เอ๊ะ เอ๋? คือ..." ร่างบางเลิ่กลั่ก หน้าขาวเริ่มแดงเรื่อไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนที่แต่งตัวน่าอายขนาดนี้มาก่อน สองสาวยิ่งถูกใจเพราะคิดว่าชะเอมชอบพวกเธอ

"คิกๆ ชื่ออะไรจ๊ะ...เอมใช่มั้ย"

"คะ ครับ"

พอเห็นท่าไม่ดี ร่างสูงก็ก้าวเข้ามายืนตรงหน้าชะเอมจนบังร่างบางมิด ตวัดกลับมามองสองสาวด้วยสายตาคมกริบ

"อย่ามายุ่งมากกว่านี้...จะไปหาผู้ชายที่ไหนก็ไป ไม่ใช่ที่นี่" และไม่ใช่คนนี้

"เห อะไรกันเนี่ย ท่าทีเปลี่ยนจากเมื่อกี้ลิบลับเลย" สาวอวบอั๋นผมสีดำตรงบิกินีสีเดียวกันมีโบว์ใหญ่ๆ ผูกอยู่ตรงกลาง เดินกรีดกรายเข้าใกล้

"จริงๆ สเป็คของฉันก็เป็นหนุ่มน่ารักมากกว่าซะด้วย ยกเด็กคนนั้นให้ไม่ได้เหรอ ส่วนเธอไปเล่นกับเพื่อนฉันก็ได้ ไม่ต้องแย่งกัน"

"ไสหัวไป" ร่างสูงไม่อยากเถียงให้มากความ อีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิงจึงไม่อยากใช้กำลังไล่ไป จึงจับข้อมือบางให้เดินตามมาอีกทางแทน

>>>>>>>>>>>>>>ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

ต่อจากด้านบน<<<<<<<<<<<<<<<<<


"คิน...ผู้หญิงพวกนั้น?"

"ไม่ต้องสนใจ"

"เขามาจีบคินเหรอ" เสียงใสถาม ทำให้ขายาวหยุดเดิน คิ้วเข้มเลิกนิดๆ "พวกเธอสนใจคินเหรอครับ?"

ตอนแรกเขาก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแหละ แต่พอชะเอมเดินมาเจ้าตัวก็กลายเป็นเป้าไปซะงั้น นี่อย่าบอกว่าเจ้าตัวไม่รู้อีกแล้ว

เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ ก็ดีอยู่หรอกที่อีกฝ่ายเป็นคนใสซื่อ แต่ว่าบางทีก็ตามความคิดของคนอื่นไม่ทัน...ซึ่งอันตรายจนน่าเป็นห่วง

ร่างสูงยกมือปัดหน้าม้าเปียกๆ ที่ปรกออก ก่อนจะจรดริมฝีปากแนบชิดตรงกลางหน้าผากมนเรียกลมร้อนตีขึ้นจนใบหน้าหวานผะผ่าวแก้มแดง "คะ คิน?"

"วี้ดวิ้ว หวานเกินไปแล้วนะเว้ย"

" ‘ไรเนี่ย กลางทุ่งเลยเหรอ"

"ไม่ใช่กลางทุ่ง กลางทะเลต่างหาก"

กลุ่มเพื่อนที่มองอยู่ก็ส่งเสียงแซวเป่าปากกันดังสนั่น ทำให้ชะเอมยิ่งต้องเม้มปากก้มหน้างุดๆ เขินอายจนไม่กล้ามองหน้าใครเลย แต่ก็โดนมือของคนตรงหน้าเชิดให้เงยสบตา

"คินไม่สนใจหรอกนะ ไม่ว่าจะผู้หญิงคนไหน"

"...คิน"

"ยังไงก็ไม่น่าสนใจเท่าคนตรงหน้าคินตอนนี้...เพราะงั้นไม่ต้องงอนนะ" คินพูดยิ้มๆ ทำให้ปากบางมุ่ยๆ

"อะ เอมไม่ได้งอนซักหน่อย"

"เหรอ?"

"ก็แค่...แค่คิดว่าถ้าเอมเป็นผู้หญิงคงจะดีกว่านี้...เพราะยังไงผู้ชายก็ต้องชอบร่างกายผู้หญิงมากกว่าอยู่แล้วนี่นา" ร่างสูงฟังแล้วนิ่งอึ้ง ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง ที่แท้น้อยใจอยากให้เขาสนใจมากกว่านี้เหรอ

"ที่เอมพูดมันก็จริง" คินพยักหน้าเห็นด้วย ทำให้ชะเอมหน้าบูดบึ้งทันที "แต่ว่านะ...เรื่องของคนรักก็อีกเรื่องไม่ใช่เหรอ"

"ก็คนที่คินรักเป็นเอม คินไม่สนใจหรอกว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง"

ร่างบางเม้มปากแน่น ยิ่งฟังยิ่งหน้าแดงเรื่อ

"ถึงจะมีผู้หญิงสวยๆ มาถอดเสื้อเปลือยร่างอยู่ตรงหน้า คินก็ไม่มีอารมณ์เท่าเห็นร่างเปลือยของคนรักหรอก" มือดึงแขนบางและโอบเอวเข้าใกล้ กระซิบเสียงทุ้มแหบพร่าข้างหู "เมื่อกี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ"

ใบหน้าหวานมีสีแดงพาดผ่าน เมื่อนึกถึงตอนที่อยู่ในบ้านพัก

"หรือเอมอยากจะให้คินพิสูจน์อีกทีคืนนี้ด้วย"

"มะ ทะ ทะลึ่ง!" แขนบางดันอกแกร่งออกทันที แต่สู้แรงที่โอบเอวนี้ไม่ได้ พอชะเอมเผลอแขนแกร่งอีกข้างก็ช้อนใต้ข้อพับยกคนตัวเบาจนเท้าลอย "อ๊ะ คินปล่อยเอมนะ...ปล่อย งือ ไม่เอานะ เอมว่ายน้ำไม่เป็น!"

ร่างบางตีเท้าดิ้นขลุกขลักหนักเมื่อร่างสูงเดินเข้าหาทะเลค่อยๆ จมลง...จมลง

"ไม่ต้องห่วง เอม คินไม่ปล่อยให้เอมจมหรอก"

เสียงทุ้มเหมือนมนต์สะกดให้ชะเอมค่อยๆ หยุดดิ้น...รู้สึกไว้ใจ

แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี

แขนบางโอบกอดลำคอร่างสูงแน่นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งห่างจากชายฝั่งมากเท่าไหร่ร่างกายบางยิ่งสั่นระริกจนคินหยุดนิ่ง ดวงตากลมมองซ้ายมองขวากะระยะทางแล้วอยู่ห่างจากฝั่งพอสมควร เขาเคยยืนในน้ำทะเลมากสุดก็แค่ระดับเอว...ไม่เคยมาลึกขนาดนี้

"ไม่ต้องกลัว ยังยืนได้อยู่นะเอม"

"ไม่เอา เอมกลัว" ชะเอมส่ายหน้าเบะปาก เสียงใสสั่นเครือ แม้อีกฝ่ายจะยืนยัน แถมระดับน้ำถึงแค่ไหล่ร่างสูงก็เถอะ...แต่ก็กลัวอยู่ดี

คลื่นในทะเลพัดให้ร่างสองร่างลอยห่างออกไป ยิ่งทำให้ชะเอมตัวสั่นกอดคอแน่น "เอมกลัว คิน เอมว่ายน้ำไม่เป็น"

คินเห็นท่าไม่ดี จึงค่อยๆ เดินกลับเข้าฝั่งจนน้ำทะเลถึงแค่ระดับอก "ขอโทษ คินขอโทษครับเอม" มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางปลอบคนที่ยังกอดคอตนหลับตาปี๋แม้จะมาถึงในส่วนที่อีกฝ่ายก็ยืนได้แล้ว

"เอม...ยืนได้แล้วนะ..."

"จัดไปน้อง!"

ผัวะ! พลั่ก!

"โอ๊ย!"

เสียงทุ้มร้องดัง ทำให้ชะเอมรีบเปิดตามองอย่างตกใจ เห็นคินกำลังยกมือจับตรงศีรษะและมีสีหน้าเจ็บปวด ร่างบางปล่อยแขนออกจากคอทันทีและถามไถ่อาการ "คิน เป็นอะไร เจ็บตรงไหนเหรอ"

ดวงตากลมสีดำกวาดมองไปรอบกายก็เห็นลูกวอลเล่ย์บอลสีขาวลูกหนึ่งลอยเติ่งอยู่เหนือน้ำข้างๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งนี้น่าจะลอยมากระแทกหัวของคิน

"เฮ้ย คิน ขอโทษว่ะ!" ดินว่ายมายกมือขอโทษขอโพยราวกับไม่ได้ตั้งใจ "แต่พวกมึงสวีทหวานเกินจนน้ำทะเลมันเปลี่ยนเป็นน้ำหวานแทนแล้ว...กูเห็นแล้วหมั่นไส้อะ"

สรุปคือจงใจสินะ

ชะเอมทำหน้ายุ่งขมวดคิ้วมุ่น คว้าและโยนบอลกลับไป "ดิน! เล่นเบาๆ หน่อยสิ ถ้าหัวคินเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ!"

เพื่อนตัวสูงอึ้ง ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเพิ่งเคยเห็นสีหน้าดุๆ จริงจังของอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก "เอ่อ...โทษทีเอม"

พอสายตาของดินเหลือบมองไปด้านหลัง เห็นคินมองมาริมฝีปากยิ้มกริ่มไม่มีท่าทางเจ็บปวดเหมือนเมื่อครู่...ไอ้ห่าเอ๊ย มันแกล้งทำเป็นเจ็บนี่หว่า!!?

ดินเดาะลิ้นขัดใจ "ร้ายนักนะ"

"เมื่อกี้ดินว่าอะไรนะ?"

"ปะ เปล่าจ้า..."

"คินหายเจ็บหรือยังครับ" ชะเอมหันไปมองกะทันหัน ทำให้คินเปลี่ยนท่าทีแทบไม่ทัน จับหัวร้องโอดโอย

"อ่า อืม เอมช่วยดูหน่อยสิ คินยังเจ็บๆ อยู่เลย"

"ให้ตายสิ ดินนี่เล่นอะไรก็ไม่รู้...คินเจ็บตรงไหนเหรอ" เสียงใสบ่นอุบอิบ เพราะเป็นห่วงร่างสูงจับใจทำให้ดินที่ยืนหันหลังให้อยู่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันที่ตอนแรกกะจะให้เจ็บจริงแต่ดันโดนมันตลบหลังเสียได้...แถม

โดนชะเอมโกรธใส่แบบนี้ไม่คุ้มเลย

“ไม่เป็นไรนะคิน เพี้ยง! หาย” ชะเอมเป่าเบาๆ เข้าตรงที่ศีรษะคนตัวสูงกว่า ไม่พบรอยแดงหรืออะไรก็โล่งอก

คินอมยิ้มขำกับวิธีรักษาเหมือนผู้ใหญ่ปลอบเด็ก แต่จริงๆ แล้วคนรักษานั่นแหละที่เด็กกว่า “ขอบคุณครับ”

หัวใจรู้สึกอิ่มเอมเหลือเกินเมื่อเห็นชะเอมเป็นห่วงและนึกถึงเขาอยู่ตลอดเวลา...ในสายตามีเพียงเขาคนเดียว

"โฮ่ย เอม คิน...มาเล่นลิงชิงบอลด้วยกันสิ!" ตาลโบกมือตะโกนเรียก ทำให้ทั้งสอง

"โอเค เดี๋ยวเราไป! คินไปเล่นด้วยกันนะ" ริมฝีปากบางยิ้มกว้างตาใสแบบเด็กๆ ทำให้คนมองยิ้มตาม

"ครับ"

ไม่ว่ายังไง ก็อยากจะเห็นรอยยิ้มนี้ตลอดไป





ครึ่งชั่วโมงต่อมา ท้องฟ้าเริ่มมืดและท้องของใครหลายคนเริ่มร้องประท้วง จึงกลับห้องพักเพื่ออาบน้ำทำความสะอาดร่างกายกัน

"เอม ขึ้นได้แล้วนะ" คินเอ่ยกับร่างบางที่นั่งขมักเขม้นก่อทรายอยู่แต่ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเสียที

ชะเอมหน้ามุ่ยนิดๆ อดมองกลับไปที่ทะเลไม่ได้ "เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้าๆ ค่อยมาเล่นอีกทีดีไหม ก่อนกลับ"

ดวงตากลมโตประกายวาววับ "ครับ" พยักหน้าหงึกหงักว่าง่าย ทำให้คินอดหัวเราะในลำคอไม่ได้ หลอกล่อง่ายๆ เหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด

"งั้นขึ้นกัน ดูสิ มือเปื่อยหมดแล้ว" คินจับมือบางที่เลอะทรายหงายขึ้น และไล้ปลายนิ้วเล็กที่ยับย่นเป็นคลื่น

ทั้งสองคนเดินเข้าบ้านพักพร้อมกัน ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ล้างตัวจากฝักบัวด้านนอกริมชายหาดมาแล้วแต่ก็ยังเปื้อนทรายอยู่บ้างเล็กน้อย

"อีกประมาณเกือบชั่วโมงค่อยออกไปหาอะไรกินนะ ไอ้เอกบอก"

"ครับ" ชะเอมตอบรับ นั่งยองๆ หน้ากระเป๋าค้นเสื้อที่จะใส่ออกมาวาง เตรียมเพื่อเข้าห้องอาบน้ำ

"เอมหยิบให้คินด้วยสิ"

"ครับ...แล้วคินอยากใส่ตัวไหน"

"ตัวไหนก็ได้"

ร่างบางวางเสื้อกับกางเกงของร่างสูงไว้บนเตียงตามคำขอ ก่อนจะสะดุ้งตกใจเมื่อแขนยาวเข้ามาโอบเอว "คิน...ตกใจหมดเลย"

อีกฝ่ายหัวเราะ "ตกใจอะไรอยู่กันสองคน ไปอาบน้ำได้แล้ว อากาศหนาวๆ แบบนี้เดี๋ยวไม่สบาย"

"ครับ...อ้าว คินปล่อยเอมสิ" มือบางแงะแขนแกร่ง กอดแบบนี้แล้วจะอาบยังไง

"คินหมายถึงอาบด้วยกัน" ร่างสูงยกคนตัวเบาเท้าลอย แน่ล่ะต้องดิ้นโวยวายอยู่แล้ว

"คะคิน ไม่เอา เอมจะอาบคนเดียว" ใบหน้าหวานแดงก่ำเมื่อในหัวนึกถึงแต่เรื่องน่าอาย จนมาถึงในห้องน้ำที่มีส่วนที่เป็นอ่างน้ำจากุชชี่กับฝักบัวแยกกัน คินจัดการปิดประตูและล็อคกลอนแน่นหนา

"อาบสองคนเร็วกว่า"

"คิน!" เสียงใสดังก้องสะท้อน มันจะช้ากว่าเดิมน่ะสิไม่ว่า!

"ครับ? เอมเรียกคินทำไม" ทั้งๆ ที่รู้ดีแต่ร่างสูงก็ทำเป็นไม่รู้ ใบหน้าหวานงอง้ำ แก้มแดงเรื่อ ทำไมต้องให้อธิบายออกมาเป็นคำพูดด้วย...มันน่าอายจะตาย

"ก็คินไม่อาบน้ำอย่างเดียวใช่ไหมล่ะ"

"...เอมไม่ชอบเหรอ"

"..." แก้มใสแดงปลั่งเขินอาย

"ถ้าเอมไม่ชอบคินจะไม่ทำ" คินยิ้มบาง "เอมรีบอาบเถอะเดี๋ยวเป็นหวัด"

ร่างสูงถอดเสื้อไม่พูดอะไรอีก ทำให้ริมฝีปากบางขบกัดกัน ตัดสินใจพูดออกมาจนได้

"มะ ไม่ได้...ไม่ชอบ"

มือใหญ่ที่กำลังปลดซิบกางเกงชะงัก "...?"

"ก็ ท ที่คินทำ เอมแค่อาย...แต่ไม่ได้ไม่ชอบนะ"

กลัวว่าร่างสูงจะน้อยใจ เลยพูดออกมาอย่างไม่ปิดบัง

"ไม่ได้ไม่ชอบ...แปลว่าชอบสินะ"

ชะเอมกำชายเสื้อแน่น แก้มใสแดงก่ำพองลม ไม่พูดแล้ว...อีกฝ่ายชอบหลอกให้พูดแต่เรื่องน่าอาย

"เอม ถอดเสื้อสิ เร็ว" คินเดินไปรองน้ำอุ่นใส่อ่าง "จะได้มาแช่น้ำอุ่น"

"อะ เอมจะ...อาบฝักบัว" เสียงใสพูดอุบอิบ ดวงตากลมโตมองที่อ่างสีขาว จะให้ไปแช่ในอ่างแคบๆ นั่นสองคนมัน...และรีบหลุบตาลงเม้มปากหน้าแดงเมื่อเห็นร่างกายกำยำเปลือยเปล่าหันหน้าเดินมาโทงๆ ไม่อายใคร

"อ๊ะ คิน เอมถอดเองได้นะ!" ชะเอมคู้ตัวขัดขืนคนที่เดินเข้ามาถอดเสื้อออกให้ แต่สุดท้ายก็สู้คนแรงมากกว่าไม่ได้อยู่ดี

"มัวแต่ลีลาวันนี้ก็ไม่ต้องอาบกันพอดี"

แปปเดียวก็ต้องเข้ามานั่งแช่ในอ่างน้ำร้อนสองคนพร้อมกัน ร่างบางนั่งซ้อนตักแกร่งแนบชิด แม้จะเป็นท่าประจำที่คินชอบให้นั่งแต่มันสัมผัสถึงความร้อนของร่างกายต่างกันลิบลับ

"ไม่ต้องเกร็ง คินไม่ทำอะไร" มือใหญ่บีบสบู่ไล้คนตัวบางให้ เน้นตรงเอว อก และขาเรียวบางเป็นพิเศษพอนิ้วยาวสะดุดโดนตรงจุกสีชมพูที่แข็งเป็นไตเพราะความหนาว ชะเอมก็สะดุ้งเฮือกๆ ตัวเกร็ง แถมหลุดเสียงครางแผ่ว...ท่าทางแบบนี้ไม่เรียกอารมณ์หื่นให้ตื่นขึ้นมาได้ ผู้ชายคนนั้นก็ตายด้านเกินไปแล้ว

"เอม..."

แผล่บ

"อ๊ะ...คิน ไหนบอกว่าไม่ทำอะ...ไร ฮึก ไงครับ"

สัมผัสเปียกชื้นร้อนตรงหลังคอ ลิ้นร้อนไล้เลียและขบเม้มไม่สนใจเสียงท้วง

หอมหวาน...

"ไม่ทำอะไรๆ แค่นิดหน่อยเท่านั้น" ไล้เลียจากคอลงมาลาดไหล่บางสีขาวอ้าปากกัดมันจนเป็นรอยฟันร่างกายบางกระตุกเฮือก แถมนิ้วเผลอเลื่อนขึ้นบีบจุกนมน่ารักทั้งสองจนเสียงใสแหวลั่น

"อ๊ะ!! คิน!"

"ขอโทษครับ คินเผลอ" ร่างสูงหายใจแรงตั้งสติ พยายามควบคุมลมหายใจให้ไม่ร้อนไปมากกว่านี้ กัดฟันแน่นจนกรามปูดอย่างอดทน เสียงทุ้มเอ่ยพร่า "คินอยากมีเซ็กส์กับเอม"

ริมฝีปากบางอ้าค้าง หน้าแดงเถือกเมื่อได้ยินอะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อน

"เซ็กส์..."

"ครับ เวลาคนรักทำรักกัน เรียกว่าเซ็กส์นะ เอมรู้จักมั้ย"

"..." ใบหน้าหวานพยักหงึกหงักเบาๆ "แต่เอมไม่รู้ว่า...เซ็กส์...เขาทำกันยังไง"

"เดี๋ยว 'คืนนี้' คินสอน...นะครับ" เสียงทุ้มพร่าเอ่ยขอ จมูกโด่งไล้แก้มใสของคนบนตัก สูดดมความหอมที่เป็นเอกลักษณ์แล้วยิ่งรู้สึกร้อนมากขึ้นไปอีก

มือใหญ่ไล้ลงไปเบื้องล่าง ไล้นิ้วตรงช่องทางที่ปิดสนิททำให้ร่างบางหุบขาหนีบมือนั้นแน่นแล้วครางอือ

"ตรงนี้...คินจะใส่ของคินเข้าไป นั่นคือเซ็กส์นะเอม" ว่าแล้วก็ใช้นิ้วกดคลึงหนักให้ร่างบางดิ้นเร่า ชะเอมเม้มปากหน้าแดงก่ำ

ทำรัก...กับคินเหรอ

"แต่ถ้าเอมอนุญาตนะ คินจะไม่ฝืนใจหรอก"

"..."

"เอม?"

คินบอกว่าจะใส่ของคิน...เข้ามา...ตรงนั้นของเรา

ริมฝีปากบางเม้มแน่น "...มัน...เจ็บมั้ย"

"คินก็ไม่รู้เหมือนกัน" ริมฝีปากร้อนจูบหลังใบหูเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว "แต่คินจะไม่ทำให้เอมเจ็บ"

"..."

"คินรักเอมนะ เพราะงั้นถึงได้อยากทำรักกับเอมแค่คนเดียว"

ก่อนที่ริมฝีปากสีเข้มจะยิ้มกว้างเพราะคำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้างุดๆ ของร่างบาง

"ขอบคุณนะครับ" คินจูบลาดไหล่กลมกลึงที่แดงก่ำแรงๆ

ดีใจสุดๆ

"ตะ แต่ถ้าเจ็บล่ะก็...คะ คราวหน้าไม่มีอีกแล้วด้วยนะ!" ชะเอมพยายามทำหน้าดุ แต่แก้มใสแดงปลั่งมันน่ารักมากกว่าน่ากลัว

"ครับๆ รับทราบแล้วครับ"

จากนั้นเสียงหัวเราะทุ้มก็ดังก้องสะท้อนในห้องน้ำ พร้อมกับเสียงใสแหวแกมด่าและมีเสียงครางเครือดังปนแทรกออกมาเป็นระยะๆ





************************Whose fault? ************************


สนใจรูปเล่มทักได้ที่เพจ H.Rui Novels นะคะ ส่วนอีบุ๊ควางจำหน่ายแล้วที่ ookbee ค่ะ ^^


คู่ของติมราม เรื่องทดแทนรักนะคะ -> https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69548.0#lastPost

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
มีครั้งต่อไปด้วย 555

ออฟไลน์ Chakaimook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้หวานน้ำตาลหยดย้อยมากกก หมือนคลื่นทะเลสงบก่อนสึนามิมาเลยค่ะ //ต้มน้ำร้อนรอ5555  :katai1: :katai3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ล่อเด็กสำเร็จ 55555

ออฟไลน์ โฮเซกิ รุย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2


                                                      Whose Fault ?

                                                       ผิด...ครั้งที่ 35





โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป


ตลาดนัดตอนกลางคืนเต็มไปด้วยคนจอแจคึกคักและแสงไฟ ผู้คนพากันหลั่งไหลมาเที่ยวแถวนี้และยังมาทานข้าวเย็นบ้าง เดินเล่น ซื้อของบ้าง จนเวลาเดินต้องเบียดเสียดกันอย่างมาก ถ้าไม่ดูกันดีๆ ก็อาจพัดหลงกันได้เลย

กลุ่มของชะเอมที่พากันมาเดินในตลาดแห่งนี้ก็เช่นกัน พากันตื่นตาตื่นอกตื่นใจมองนู่นมองนี่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน...ก็แค่บางคนล่ะนะ

"คิน อันนี้คืออะไรครับ" มือบางกระตุกเรียกร่างสูงข้างกายที่เดินประกบตัวติดไม่ห่างไปไหน นิ้วเรียวชี้ไปที่อะไรบางอย่างมีสีเหลืองๆ ขาวๆ ถูกทอดเป็นแพอยู่บนกระทะแผ่นใหญ่ แถมมีกลิ่นแปลกๆ ลอยออกมาด้วย ชะเอมย่นจมูกกับกลิ่นของมัน จะหอมก็ไม่หอม จะเหม็นก็ไม่เหม็น...ไม่เคยเห็นมาก่อน

คนโดนถามนิ่วหน้า และหันหน้าออกจากควันที่โชยมา เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายก็ไม่รู้จักแถมไม่ชอบกลิ่นของมันสุดๆ

"ไข่ปลาหมึกทอด...ก็อร่อยดีนะ เค็มๆ มันๆ" คนตอบคือศร รุ่นพี่เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มยื่นหน้าหันมาถามคนตัวเล็กยิ้มๆ "นี่กินข้าวอิ่มแล้วยังอยากกินอยู่อีกเหรอ"

"...ก็...นิดหน่อยครับ" ชะเอมเงยหน้าหัวเราะแหะๆ ท่าทางน่าเอ็นดูนั้น ทำให้รุ่นพี่อดยกมือลูบหัวทุยไม่ได้

"อย่ากินเยอะนะ มันไม่ดีกับร่างกายเราเท่าไหร่หรอก"

"ครับ" ร่างบางยิ้มกว้างพยักหน้าหงึกหงักกับความเป็นห่วงและหวังดีของพี่ศรแม้จะเพิ่งรู้จักกันแต่ก็เป็นคนดีมาก ไม่เห็นจะน่ากลัวหรือดูโหดเหมือนที่จินตนาการเอาไว้เลย

แขนยาวที่โอบรอบตัวรัดแน่นขึ้น ทำให้ใบหน้ามนหันมอง "คิน?"

เป็นอะไรอีกแล้ว?

"ห้ามหลงชะเอมเด็ดขาดนะคะ ศร ไม่งั้นทรายเอาถึงตายแน่" เสียงใสของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้ศรชะงัก

"หะ...ฮ่าๆ พูดอะไรน่ะทราย พี่แค่เอ็นดูน้องเขาแค่นั้น" ให้พูดตามตรงไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูเท่าชะเอมมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

ใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวา แก้มเริ่มแดงเรื่อเมื่อเข้าใจอะไรมากขึ้น...งั้นแสดงว่าเมื่อกี้คินก็...

"งั้นเดี๋ยวผมกับคินไปเดินตรงนู้นนะครับ" ร่างบางดึงแขนยาวให้แหวกฝูงชนตามมาซึ่งลำบากพอควรเพราะคนตัวใหญ่กับคนตัวเล็กความคล่องตัวมันต่างกันลิบลับ

"เอม เดินช้าๆ สิ แล้วนี่จะไปไหน"

"เอมก็ไม่รู้ แค่อยู่กับคินสองคนจะไปไหนก็ได้" ชะเอมเอ่ยเอาใจ ริมฝีปากบางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

คินเลิกคิ้ว "อ๋อ นี่แสดงว่าเริ่มรู้อะไรบ้างแล้วสิ หือ เด็กซื่อ"

คิ้วบางขมวด โดนว่าอีกแล้ว "เอมไม่ได้ซื่อ ทำไมคินชอบว่าเอมเรื่อยเลย"

"ก็ซื่อจริงๆ ตามคนอื่นไม่ค่อยทัน"

ร่างบางส่ายหน้าจนผมสะบัด...ไม่จริงเลย "เดี๋ยวนี้เอมตามทันแล้ว"

"เหรอครับเด็กซื่อ...งั้นก็ตามคินให้ทันบ้างสิ" มือเอื้อมหยิกแก้มใสที่เดี๋ยวนี้เถียงเก่งขึ้นเยอะ...พัฒนาๆ

"เอมไอ้ไอ้เอ็ก! ...อื้อ เอ็บ" มือบางตีรัวๆ ที่แขนแกร่ง นานกว่าที่มือจะปล่อยออกจากแก้ม ชะเอมน้ำตาเล็ด งือ มันเจ็บจริงๆ นะ

"เจ็บเหรอ" ร่างสูงมองคนตัวบางที่จับแก้มน้ำตาคลอแล้วอดสงสารไม่ได้ จึงปลอบใจโดยการกดจมูกโด่งเบาๆ ลงที่แก้มที่เขาเป็นคนดึงเมื่อครู่

...คินไม่รู้ว่าชะเอมหายงอนหรือยังแต่ใบหน้าหวานก็แดงก่ำอีกตามเคย น่าจะหายงอนเปลี่ยนเป็นเขินอายแทน...

ภาพคนสองคนที่ยืนหัวเราะและยิ้มหยอกล้อกันไม่สนใจคนรอบข้างแบบนั้นทำให้เพื่อนๆ ที่ยืนเป็นกลุ่มก้อนอยู่ใกล้ๆ ก็อดถอนใจไม่ได้

"นี่พวกมันจะไม่สนใจใครเลยหรือไงกัน" ดินยืนกอดอกพ่นลมหายใจแรง อย่างเอือมระอา ที่ชายหาดตรงโรงแรมว่าโจ่งแจ้งแล้ว แต่นี่ในตลาดคนพลุกพล่านยิ่งแล้วใหญ่เลย

"เอาน่า เอมมีความสุขก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ"

"เออ จริงๆ มันก็ดีอยู่หรอก แต่ดูเหมือนเอมมันจะตามผัวมันไม่ทันแหงแซะ ไอ้หมอนั่นเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน"

"มึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขานะ" รามพูดขึ้น จะบอกว่าดินก็ตามสินไม่ค่อยทันเหมือนกันน่ะแหละ

"แล้วมึงเป็นไงบ้าง ราม ช่วงนี้หายหัวเข้ากลีบเมฆ"

"อ่า พอดีต้องจัดการเรื่องที่บ้าน แล้วอีกหลายๆ เรื่องอะ...เลยยุ่งๆ นิดหน่อย" ร่างโปร่งตอบคลุมเครือมีเรื่องปิดบังไว้อย่างเห็นได้ชัด

"แล้ว...เรื่องติมล่ะ" พอได้ยินคำถามดวงตาเรียวก็หม่นลงชั่ววูบ ก่อนจะกลบมันอย่างรวดเร็ว รามระบายยิ้ม

"อืม ก็โอเคนะ"

"เหรอ" สินครางรับ แต่ในใจไม่เชื่อเสียทีเดียว "ถ้ามีอะไรให้กูช่วยก็บอกนะ"

"ขอบใจว่ะ"

"เออว่าแต่ผัวเด็กมึงไปไหนวะ" ดินว่า มองซ้ายขวา ปกติเป็นแฟนจะต้องตัวติดกันเหมือนอย่างไอ้คินกับชะเอมไม่ใช่เหรอ แต่นี่อะไร หายหัวไปเลย

"แถวๆ นี้แหละ" ร่างโปร่งฟังแล้วหน้าแดง แม้จะแสลงหูเหลือเกินแต่ก็ตอบไป มือล้วงมือถือขึ้นมาเมื่อมีสายโทรเข้า ก่อนจะก้าวเดินไปอีกทาง "เดี๋ยวกูมา"

"เออ หาไม่เจอก็โทรมาละกัน" ร่างโปร่งโบกมือประมาณว่ารับทราบแล้ว การเดินเขยกๆ ของพระรามไม่รอดพ้นสายตาของเพื่อนทั้งสอง ดวงตาหันมาสบกันเหมือนรู้ทัน

"มึงคิดเหมือนกูป่ะสิน"

"อืม"

...สงสัยไอติมนี่จะ 'จัด' หนักเหมือนกันนะเนี่ย...





เฮือก...!

"คิน เป็นอะไรเหรอ"

"...เปล่า ไม่มีอะไร" ร่างสูงส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้ชะเอมสบายใจ พอเห็นร่างบางว่าละสายตาไปแล้วสายตาคมจึงหันกลีบไปมองทิศเดิมด้วยความสงสัยปนหวาดระแวง เมื่อกี้...เหมือนมีใครจ้องมองเราสองคน "ว่าแต่ เอมเลือกได้หรือยัง"

"อืม เอมอยากได้ตัวนี้ แต่ยังเลือกให้คินไม่ได้" ร่างบางลังเลพักหนึ่ง ก่อนจับเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาทาบบนร่างกายตัวเอง "คินว่าลายนี้เป็นยังไงบ้างครับ"

ร่างสูงมองเสื้อที่ออกแบบพื้นหลังสีดำ ขอบชายเสื้อ แขนเสื้อและปกเป็นสีขาว และมีลายนิดหน่อยไม่ฉูดฉาดเหมาะสำหรับผู้ชายใส่ ส่วนของชะเอมที่ถืออยู่น่าจะเหมือนกันแต่เป็นพื้นสีขาวลวดลายสีดำ

"ก็ได้นะ เรียบๆ ดี" ร่างสูงตอบไปงั้น เพราะไม่ว่าจะแบบไหนเขาก็ใส่ได้ทั้งหมดนั่นแหละ

ชะเอมหน้ามุ่ยเมื่อคินไม่ให้ความร่วมมือ นี่มีแต่เขาคนเดียวหรือที่อยากใส่เสื้อคู่?

"หรือว่าคุณลูกค้าอยากได้ลายนี้มั้ยคะ เซ็ตนี้เพิ่งออกแบบมาใหม่เลย"

"ไหน...ครับ" ร่างบางขมวดคิ้วเมื่อเจ้าของร้านสาวสวยไม่ได้ถามเขา แต่เดินเข้าไปถามคินต่างหาก

"สนใจมั้ยคะ" สาวเจ้าเดินนวยนาดไป ก้มต่ำสะบัดผมพริ้วอวดทรวงอกและสายเดี่ยวถามเหมือนขายตัวเองมากกว่าขายของในร้านเสียด้วยซ้ำ

แต่คินไม่สนใจ เดินเลี่ยงมาหาร่างบางที่ยืนหน้าบูดอยู่ และเอื้อมมือโอบเอวบางและพูดเสียงอ่อน

"เอมมาดูสิ...เดี๋ยวผมให้แฟนเลือกให้ครับ" ก่อนจะพูดยิ้มๆ กับพนักงานที่อ้าปากค้างไปแล้ว

แก้มใสแดงเรื่อ...ขยันจังนะทำให้เขาเขินเนี่ย

เจ้าของร้านสาวสวยที่เคยมั่นใจตัวเองตัวหดลีบหน้าแตกชนิดหมอไม่รับเย็บ...เดี๋ยวนี้ผู้ชายเขานิยมกินกันเองแล้วเหรอ อะไรแบนๆ ราบๆ นั่นมันน่าสนใจตรงไหนกันน่ะ!? แล้วเนื้อนมไข่เด้งดึ๋งตรงนี้ล่ะ...ไม่สนใจกันแล้วใช่มั้ย!!?

สุดท้ายก็เลือกได้จนได้ โดยที่ไม่ใช่ลายใหม่ที่สาวเจ้าของร้านเสนอด้วย ตอนจ่ายเงินนี่เธอทำหน้าเหมือนจะกินหัวชะเอมได้อยู่แล้ว...ร่างบางก็ยิ้มงุนงงรับเงินทอนมา

นี่เขาทำอะไรผิดหรือทำอะไรให้เธอไม่พอใจโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า?

พอออกจากร้านคินมองไปรอบๆ ...ความรู้สึกที่โดนจับจ้องเมื่อครู่มันหายไปแล้ว ก่อนที่จะปัดมันออกจากความคิดและหันมาสนใจร่างบางที่ยืนขมวดคิ้วมุ่นมองนู่นนั่นนี่ไปเรื่อย มือใหญ่ช่วยถือถุงที่ชะเอมคอยจับจ่ายซื้อของมาให้ โดยที่ให้คนตัวบางเดินตัวเปล่า สายตาคมเห็นเหงื่อไหลซึมข้างขมับจึงยกมือเช็ดให้ เผลอกดจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่มที่ชื้นเหงื่อแต่ก็ยังคงความหอมเอาไว้

“ร้อนเหรอ”

“ครับ วันนี้คนเดินเยอะมากเลย” ชะเอมพยักหน้า พอได้ยินคำว่าร้อนแขนบางก็ยกขึ้นปาดเหงื่อเหมือนเพิ่งรู้สึกได้

“แต่คินว่าคนน่าจะเยอะทุกวันนะ”

นี่ขนาดเป็นวันธรรมดาๆ ที่ไม่ใช่เทศกาลยังเยอะขนาดนี้...ไม่ต้องคิดถึงวันหยุดยาวเลยว่าคนจะเยอะขนาดไหน

“จริงเหรอครับ” ดวงตากลมโตแปลกใจมองไปรอบๆ มองผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลั่งไหลพากันมาเดินที่นี่ทุกวัน...แสดงว่าตลาดแห่งนี้ต้องเป็นที่ที่นิยมมากแน่ๆ

“เหนื่อยรึเปล่า”

ใบหน้าหวานส่ายยิ้มๆ “ไม่ครับ”

“คินขอแวะร้านนั้นแปปนึง” คินชี้ไปและจูงมือบางให้เดินตามซึ่งชะเอมไม่ขัดเพราะเขาก็ขอแวะมาหลายร้านแล้วเช่นกัน แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าร่างสูงอยากจะซื้ออะไรถึงเอ่ยปากขอขึ้นมาเองแบบนี้

“คินอยากได้อะไรเหรอ” ดวงตากลมกวาดมองไปรอบร้าน ของพลาสติกใส่กล่องหลายขนาดหลากสีสันสดใสที่มีแต่เด็กๆ ตัวน้อยทั้งหญิงและชายเต็มไปหมด

มันคือร้านขายของเล่น

“รออยู่ตรงนี้” บอกปุ๊บเจ้าตัวก็เดินเข้าร้านไปเลย ปล่อยให้ชะเอมยืนกระพริบตาปริบค้างเติ่งอยู่ด้านหน้าร้าน

“เย้” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตัวสูงแค่เข่าวิ่งผ่านหน้าไป ถือตุ๊กตาบาร์บี้ใส่ชุดสีชมพูฟูฟ่องสวยงามเอาไปอวดกับหญิงสาวที่คาดว่าน่าจะเป็นมารดาอยู่อีกทาง “คุณแม่ขา คุณพ่อซื้อตุ๊กตาให้หนูด้วยล่ะ”

...พ่อ...

“ว้าว น้องบาร์บี้สวยจังเลย แล้วลิลลี่ขอบคุณคุณพ่อรึยังคะ”

“ขอบคุณแล้วค่า” เด็กหญิงยิ้มแป้น หัวเราะเสียงใสและกอดตุ๊กตาแนบอกลูบผมยาวลอนนั้นแผ่วเบา “ลิลลี่จะรักษาอย่างดีเลย”

ชะเอมยิ้มบางกับภาพที่เห็น...คำว่าครอบครัวอันอบอุ่นที่ตนไม่เคยสัมผัสมันเลยสักครั้งในสมัยเด็ก...แต่ตอนนี้เขารับรู้มันอย่างเต็มใจ...มองได้อย่างเต็มตาโดยไม่เจ็บปวดอีกแล้ว

วี้...

จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างพร้อมกับลมอ่อนๆ พัดเข้าใบหน้า ดวงตากระพริบปริบมองคนถือ “คิน?”

“คินซื้อมาให้ เห็นเอมร้อน” ชะเอมยิ้มดีใจแต่รอยยิ้มนั้นก็หุบลงเมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว

“คุณลูกค้าคะ ลืมเงินทอนค่ะ” เพียงแค่เหรียญไม่กี่บาท แต่เจ้าของร้านก็อุตส่าห์ออกมาด้วยตัวเอง พอทอนเงินเสร็จเธอก็ยังยืนนิ่งใบหน้าแดงเรื่อเขินอาย “ขอโทษนะคะ ขอทราบ...ชื่อของคุณหน่อยได้มั้ยคะ”

คินทำสีหน้าลำบากใจทันที ดวงตาคมแอบเหลือบมองชะเอมเล็กน้อย “ขอโทษนะครับ พอดีผมมีแฟนแล้วน่ะ”

คำตอบที่ตอบไปด้วยความเคยชิน เพราะเจอแบบนี้บ่อยๆ จึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย...แต่ตอนนี้มีสิ่งที่ต้องคิดเพิ่มเติม

“เหรอคะ...แต่ว่าบอกแค่ชื่อก็ได้นี่คะ” สาวเจ้าหน้าเจื่อน แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ถ้าหนุ่มหล่อคนนี้ยังไม่มีภรรยาซะอย่าง เธอก็น่าจะมีความหวัง

“ขอโทษนะครับ ไม่ได้จริงๆ” แต่พอได้รับคำตอบตอกย้ำมาแบบนี้เธอก็หน้าม้านเดินกลับเข้าร้าน

"เป็นอะไร ทำหน้างอน" ร่างสูงง้อด้วยการเอาพัดลมที่เพิ่งซื้อจ่อเอาใจชะเอมที่จู่ๆ ก็หันหลังเดินออกจากร้านมา

"...คินมีแต่ผู้หญิงเข้าหาตลอดเลย...ช่วยหล่อน้อยกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ" ยิ่งพูดเองก็เขินเอง เหมือนชมอีกฝ่ายไปในตัวว่าหล่อไม่บันยะบันยังเกินไปแล้วนะ

ร่างสูงหลุดหัวเราะกับคำขอที่ฟังดูประหลาดๆ "เอ้า หล่อก็ผิด?"

"ก็มีคนมายุ่งกับคินมากๆ เอมก็ไม่ชอบนี่นา" ชะเอมตัดสินใจพูดออกมา แม้เขาจะไม่กล้าแสดงออกมาตรงๆ ว่าหวง เพราะกลัวคินจะรำคาญกันเสียก่อน แต่ในใจอดที่จะคิดมากไม่ได้ "คินรำคาญเอมมั้ย"

"ไม่เลย คินดีใจที่เอมหึงคิน"

สีแดงพาดแก้มไส ริมฝีปากระเรื่อเม้มแน่น "ห หึง...เอมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าหึง"

"ก็อาการแบบนี้แหละเขาเรียกว่าหึงหวง" นิ้วยาวจิ้มแก้มใสที่ขยันแดงเอาๆ ทำเอาชะเอมยู่ปาก "เอมก็เหมือนกันแหละ"

"เหมือนกัน?"

คินยิ้มขำคนทำหน้างงใส่

ไหนบอกไม่ใช่เด็กซื่อ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

"เอมก็ช่วยน่ารักให้น้อยลงกว่านี้หน่อยได้มั้ย เรียกทั้งผู้ชายผู้หญิงให้เข้าหาแบบนี้ คินก็หึงก็หวงเหมือนกัน"

“...คินพูดอะไร...”

“เพราะเอมน่ารัก ก็เลยมีทั้งสาวๆ หนุ่มๆ มาจีบ...ต้องเป็นคินต่างหากที่ต้องบอกว่าให้เอมน่ารักน้อยกว่านี้หน่อย”

"เอม เอมไม่ได้...น่ารัก...ขนาดนั้นสักหน่อย คินพูดเกินไป" เสียงใสพูดอุบอิบแผ่วเบา สายตาคมจริงจังมองมาทำให้เขาใจเต้นแรง

"ไม่เกินไปหรอก"

พอได้ยินคำพูดตอกย้ำ ริมฝีปากบางก็เม้มแน่น ดวงตากลมช้อนมอง "คินหึงเอมเหรอ?"

"น้อยไปสิ เรียกว่าโคตรหวงโคตรหึงเลยดีกว่า" มือใหญ่จูงร่างบางเดินไปด้วยกัน ขาเรียวเร่งเดินตามให้เสมอกันเพราะอยากได้ยินต่อว่าคินจะพูดอะไร "ก็คนแถวนี้เป็นเด็กซื่อนี่ คุยไปทั่วไม่รู้จุดประสงค์ที่เขาเข้าหาแม้แต่นิด"

"เอมบอกแล้วไง ว่าไม่ได้ซื่อ" ชะเอมเบะปาก

"ไม่ได้ซื่อจริงเหรอ?" คินยิ้มกริ่ม

ใบหน้ามนพยักหงึกหงักยืนยัน

"งั้นเดี๋ยว 'คืนนี้' ช่วยพิสูจน์หน่อยนะ...ว่าไม่ได้ซื่อ"

สายตาคมกริบอย่างนักล่า ทำให้กระต่ายสีขาวตัวสั่นระริก...สงสัยว่าคืนนี้เขาคงไม่รอดแน่

        ...เพราะถูกหมาป่าเจ้าเล่ห์จับกิน...





************************Whose fault? ************************





"คิน..."

"หืม"

"เอม...อือ" ฟันสีขาวเรียงสวยขบกัดริมฝีปากด้านล่างเพื่อสะกดกลั้นเสียงคราง ถึงจะอยู่ในห้องพักแล้วมีอยู่กันแค่สองคนแต่มันก็อายอยู่ดี ไม่อายตัวเอง...ก็อายร่างสูงนี่แหละ

ในห้องนอนที่มีเตียงเดี่ยวกว้างขวางบรรยากาศเงียบเชียบ ร่างสองร่างเปลือยเปล่า ร่างผอมบางผิวขาวสว่างนั่งคร่อมตักแกร่งหันหน้าเข้าหาร่างสูงใหญ่ที่เหยียดขาตรง มีเพียงเสียงสวบสาบของผ้าปู เสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังตรงแผ่นอกบาง เสียงใสครางเครือและหอบหายใจ

ดวงตากลมโตปรือมองคนที่ใช้ริมฝีปากเล้าโลมอารมณ์ แลบเลียหัวนมสีชมพูที่บัดนี้มันคัดเต่งทั้งสองข้างเพราะผ่านเค้นคลึงเป็นเวลานาน เพียงแค่อีกฝ่ายแตะลิ้นลงมาก็ทำให้ชะเอมสะดุ้งดิ้นพล่านได้

"เจ็บ...อึก"

"เจ็บจริงเหรอ" ลิ้นร้อนเลียมันอีกครั้ง ครอบปากและดูดดึง สายตาคมเหลือบมองปฏิกิริยาจากใบหน้าหวานที่กัดปากล่าง ตัวสั่นระริก มือบางเผลอขยุ้มกลุ่มเส้นผมบนศีรษะของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว

ในอกรู้สึกวาบหวิว เมื่อมองคนรักใช้ลิ้นเพลิดเพลินกับร่างกายตัวเองดูท่าทางเอร็ดอร่อย

"แฮ่ก คินครับ มัน...อา...อร่อยเหรอ?" ชะเอมถามเสียงเครือ ตากลมปรือฉ่ำวาว

"หวาน" ใบหน้าคมผละออกเลียริมฝีปากมองผลงานอย่างพึงใจ ตอนนี้มันทั้งช้ำทั้งแดงก่ำดูน่ากินมากกว่าตอนแรกหลายเท่า "ให้คินชิมทั้งวันยังได้เลย"

ทั้งวัน...เพียงแค่นึกร่างบางก็ตัวสั่นระริกส่ายหน้าแดงๆ "ทั้งวันไม่ไหวหรอก เอมเจ็บ..."

"เอมไม่ได้เจ็บหรอก...แต่รู้สึกดีใช่มั้ยล่ะ"

ร่างบางส่ายหน้าน้ำตาคลอ "ไม่ ฮึก เอมเจ็บ...อ๊ะ!"

มือใหญ่ตรงเข้ากอบกุมแก่นกายที่แข็งขืนเล็กน้อยทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรนอกจากยุ่งกับแค่ติ่งไตสองเม็ดเท่านั้น ร่างสูงยิ้มกริ่ม พูดเสียงต่ำ "ดูสิเอม แบบนี้เรียกว่าไม่ได้รู้สึกดีเหรอ"

"อ๊า อื้อออ" ร่างบางอ้าปากครางลั่น ร่างกายผอมบิดดิ้นเร่าเพราะถูกรูดรั้งจุดอ่อนอันเป็นศูนย์กลาง

"เป็นเด็กซื่อก็พูดให้ตรงกับที่รู้สึกหน่อยสิเอม..."

"อื้อ ฮึก!! หะ...!"

มือบางจิกไหล่แกร่งแน่น เชิดหน้าครางจนน้ำลายไหลจากมุมปากอย่างเย้ายวนทำให้คินที่มองอยู่รีบไล้ลิ้นเลียน้ำจากไหปลาร้า คอขาว และประกบริมฝีปากปิดเสียงให้ชะเอมประท้วงอื้ออึง

แขนใหญ่โอบเอวบางให้มาแนบชิดกว่าเดิม...แนบชิดให้รับรู้ถึงตัวตนที่ร้อนผ่าวที่ตอนนี้กำลังต้องการอีกฝ่ายมากแค่ไหน

ชะเอมที่เริ่มจูบเป็นก็โต้ตอบลิ้นร้อนบ้าง เกี่ยวกระหวัดเร่าร้อนตอบรับให้ลมหายใจร้อนกระชั้นถี่ ยิ่งได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบจากการแลกลิ้น เสียงน้ำลาย มันยิ่งทำให้หน้าท้องแบนเรียบเกร็งขมึง...ปวดมวนไปหมด...

และจู่ๆ คินก็ผละจูบออกมาอย่างเร็วจนร่างบางสำลักอากาศ

"ฮั่ก! ฮ่า..."

"เอม มือ..." ร่างสูงพูดเพียงเท่านั้น สายตาคมกริบเหลือบมองเบื้องล่างอย่างสื่อความหมาย ทำให้ชะเอมที่ยังมึนเบลอจากรสจูบอยู่เข้าใจ...เรียนรู้เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ ไม่ต้องให้บอกอีก

แก้มใสแดงปลั่ง มือบางสั่นระริกยกขึ้นแตะปลายยอดที่แข็งแกร่งและมันเลื่อม

...ร้อน...

หัวใจเต้นตึกตักดังสนั่นจนกลัวว่าร่างสูงจะได้ยินว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหน ยิ่งได้ยินเสียงสูดปากยิ่งกระตุ้นให้มือเล็กขยับชักขึ้นลงเร็วขึ้น ดวงตากลมจ้องมองปฏิกิริยาของมันเห็นน้ำใสบางอย่างผุดซึมจากส่วนปลายจนไหลเปรอะเปื้อนมือเล็กทำให้ยิ่งสัมผัสลื่นไหล

"อืม...ซี้ด เอม..." เมื่อถูกเรียกชื่อดวงตากลมก็ละสายตาจากสิ่งนั้น สบสายตาคมกริบที่จ้องมองมาทำให้ชะเอมหัวใจเต้นแรงรัว

อีกฝ่ายก็รู้สึกดีเหมือนกัน เพราะสัมผัสของเขา

จะละลาย...จะละลายอยู่แล้ว

"เอม ขยับมาใกล้ๆ ...ใกล้อีก" แขนยาวโอบเอวบางชิดและจับรวบแก่นกายทั้งสองเอาไว้ด้วยกัน ร่างบางกระตุกเฮือกเพราะสัมผัสกับอุณหภูมิของร่างกายอีกฝ่ายมันเทียบไม่ได้เลย

"อ๊ะ คิน...เอม...อ๊ะ" สะโพกเล็กขยับไหวตามมือใหญ่ที่ชักรูด อ้าปากครางตัวสั่น รู้สึกดีจนมือเล็กเผลอไผลลูบไล้ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างหลงใหล

"คิน...คิน เอมจะ..."

"ทนอีกนิดนะเอม อีกนิด" คินรับรู้ถึงสัญญาณร่างกายชะเอมที่เกร็งไปทุกส่วน แต่วันนี้เขาอยากจะไปพร้อมกัน

"ฮึก คิน เอม มะ...ฮะ" ชะเอมรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองกำลังจะถึงเส้นชัย สะโพกเล็กขยับสอดรับตามจังหวะถี่ และเชิดหน้าตัวเกร็งกระตุกพ่นสายธารไปพร้อมๆ กับคิน

"อ๊า!!"

ทุกอย่างพร่างพราย

ร่างกายผอมทิ้งตัวลงซบแอบอิงร่างสูงหอบหายใจเหนื่อยอ่อนจนตัวสั่นระริก น้ำสีขาวขุ่นเลอะเต็มหน้าท้องแกร่ง แต่ไม่มีใครสนใจจะทำความสะอาดมัน

"เอมเหมือนจะ...แฮ่ก หายใจ...ไม่ออกเลยครับ" เสียงใสเจือปนหอบเค้นเสียงพูดออกมา จากร่างกายที่แนบชิดกัน รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นรัวดังเป็นกลอง มือใหญ่ลูบไล้ทั้งหลังทั้งเอวบางอย่างปลอบโยน

"ไหวมั้ยเอม"

"...เอมไม่รู้"

ชะเอมตอบแผ่วเบา ดวงตากลมปรือ รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับ

"อย่าเพิ่งหลับนะเอม มันยังไม่จบนะ"

"ยังอีกเหรอครับ เอมเหนื่อย" พอได้ยินว่ายังมีต่อ คนง่วงก็เริ่มงอแง

"ลืมแล้วเหรอ เอมบอกว่าจะมีเซ็กส์กับคิน"

"เอ๋...นี่ก็..."

"นี่ไม่ใช่เซ็กส์นะ แค่ปลดปล่อยตามประสาผู้ชายทั่วไปต่างหาก" คินลุกขึ้นอุ้มร่างบางนอนราบลงบนเตียง แทรกกายกลางระหว่างขาเรียวที่ถูกบังคับให้อ้ากว้าง สัมผัสความนุ่มของผ้าปูทำให้ตากลมยิ่งปรือจะปิด

ไม่ได้รับรู้ถึงอันตราย

"อ๊ะ! เย็น...อะไร..." ร่างบางสะดุ้ง ขาเรียวหนีบเข้าหากันเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแตะเข้าตรงส่วนล่าง

"ใจเย็นๆ แค่โลชั่นน่ะ" คินไล้นิ้วตรงช่องทางสีสวย สะกิดปากทางที่ขมิบแน่นแล้วต้องกลืนน้ำลายดังอึก เลียริมฝีปากหายใจแรงอย่างหื่นกระหาย

ใจเย็นๆ ...ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน


>>>>>>>>>ต่อด้านล่างค่ะ<<<<<<<<<<<<

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด