เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 22
พัฒน์เข้ามาในห้องก็พบว่าธีร์ยังหลับอยู่ ร่างสูงส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอากระเป๋าเสื้อผ้าของธีร์ที่ไปขนมาจากห้องของธีร์เพื่อมาให้ธีร์เปลี่ยนในวันพรุ่งนี้
เขายังไม่ได้บอกอีกคนหรอกว่าพรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาล แล้วที่เขาสามารถเข้าไปเอาเสื้อผ้าในคอนโดของอีกคนได้นั้น เป็นเพราะความช่วยเหลือจากอัคนี
“นอนเอานอนเอา สักวันจะกลายเป็นหมู” พัฒน์พูดคนเดียวยิ้มๆ
แกร๊ก!
“ขออนุญาตค่ะ” พยาบาลสาวสวยเข้ามาในห้อง เสียงอ่อนหวานของเธอทำให้พัฒน์หันไปมอง แต่ไม่ได้หันแบบสนใจ แต่เพราะสงสัยว่าไม่ใช่คนเดียวกับคนก่อนที่มีอายุมากกว่านี้
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาเช็ดตัวค่ะ” เธอบอกพัฒน์ยิ้มๆ พยายามฉีกยิ้มที่หวานที่สุดไปให้ โชคดีของเธอจริงๆ ที่พยาบาลรุ่นพี่ที่ดูแลเคสนี้ดันต้องไปรับลูกเลยขอเปลี่ยนเวรกับเธอ ถ้าเธอรู้ว่าจะหล่อขนาดนี้ ไม่ว่าจะคนเฝ้าไข้หรือคนไข้ แม้ว่าหน้าตาจะดูช้ำๆ แต่เธอก็รู้ว่าคนๆ นั้นต้องหล่อมากแน่ๆ
แต่คนตรงหน้าเธอนี้ เป็นสเป็คเธอมากกว่าเพราะหล่อคม หน้าดุ ที่สำคัญสูงล่ำถูกใจมาก และการแต่งกายกับเครื่องประดับที่ใช้ บ่งบอกว่าพัฒน์ร่ำรวยและมีฐานะแค่ไหน
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” พัฒน์บอกทั้งๆ ที่หันหน้าหนี ไม่มีท่าทีจะสนใจเธอสักนิด จนเธอหน้าเจื่อนไปเลย
“ต่ะ...แต่ว่า”
“ทุกครั้งฉันก็ทำเอง ออกไปซะ เกะกะ” พัฒน์ไล่อย่างรำคาญ
ทำไมจะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร แค่มองหน้า ไม่ต้องมองดวงตาพัฒน์ก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรและเป็นคนยังไง
“แต่มันจะลำบากนะคะ”
“ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกก็ออกไปซะ ถ้ามาเก็บอุปกรณ์ฉันจะโยนไว้ด้านหน้าไม่ต้องเข้ามา” พัฒน์สั่งอีก ก่อนจะเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของเตียง
“ส่วนอาหารก็แค่เปิดประตูแล้วเอาไว้แถวๆ นั้น”
“เอ่อ...” เธอยังคงอ้ำอึ้ง
“วางของแล้วออกไปซะ!” พัฒน์ขึ้นเสียงเล็กน้อยจนเธอสั่นกลัว รีบวางกะละมังกับผ้าเอาไว้ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปด้วยความกลัว เธอตรงไปยังที่ที่มีรุ่นพี่ของเธออยู่
“พี่ พี่รู้ไหมเมื่อกี้ฉันเจออะไรมา” เธอบอกอย่างตื่นๆ
“อะไรล่ะ”
“ผู้ชายห้องพิเศษ 512”
“ทำไมล่ะ” รุ่นพี่ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ เพราะอยู่อยู่แล้วว่าใครอยู่ในนั้น ที่จริงคนที่ดูแลเคสนั้นจะให้เธอนั่นแหละเปลี่ยนเวรกับเธอ แต่โชคดีว่าเธอเข้าเวลาเดียวกัน ไม่ใช่รุ่นน้องที่กำลังเมาท์กับเธอตอนนี้ที่ปกติอยู่เช้า
“เขาเป็นผู้ชายหล่อมากเลยค่ะพี่” เธอทำหน้าเคลิ้มฝัน แม้จะโดนไล่ออกมาก็ตามที
“ใช่ แล้วก็ถูกไล่ออกมาหรือเปล่า”
“พี่รู้ได้ยังไง” เธอถามอย่างสงสัย
“ก็เป็นปกตินั่นแหละ นั่นคุณพัฒน์ เป็นหลานของผู้อำนวยการ คุณเขาไม่ยอมให้ใครเข้าไปวุ่นวายหรอก” เธอบอกไป
แต่คนเป็นรุ่นน้องกลับเบิกตากว้างและมีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“คุณพัฒน์ที่เป็นน้องคุณพุฒิใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างดีใจ
ทั้งรวย ทั้งหล่อกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย แต่เสียดายที่คนพี่เป็นเกย์ไปได้
“ใช่ คนๆ นั้นแหละ แต่ทางที่ดี เธออย่าหวังสูงนะ ระดับเราเขาไม่มองหรอก” รุ่นพี่ยังคงเตือน
ระดับพี่คนเดียวเถอะ คอยดูนะ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าให้คุณพัฒน์สนใจให้ได้
“ค่ะ ฉันเข้าแล้ว ขอตัวไปทำงานก่อนนะ” เธอรีบเดินออกไปทันที เพื่อไปเตรียมตัวทำอะไรสักอย่างให้พัฒน์สนใจเธอ แต่ถ้าทำไม่ได้ เธอก็คงต้องขอแลกเวรอีก
…
…
…
“ตื่นแล้วหรือ” พัฒน์ถามเมื่ออีกคนมองเขาอยู่
“มานานยัง”
“ครึ่งชั่วโมงได้” พัฒน์ตอบ ก่อนจะหันมาถาม “หิวหรือยัง”
“อือ ทำไมข้าวมาช้าจังวะ” ธีร์ถาม เพราะปกติแล้วมักจะมาตรงเวลาเสมอ
เขาท้องท้องจนต้องตื่นจากการนอนนี่แหละ ตื่นมาก็เจอพัฒน์กำลังยืนปอกผลไม้อยู่ ผลไม้ที่อัคนีเอามาฝาก ก็อยากจะทานมันอยู่ แต่ไม่มีปัญญาที่จะปอกมัน
“หิวหรือไง”
“เออสิ”
“งั้นกินแอปเปิ้ลรองท้องก่อนก็แล้วกัน” พัฒน์ยื่นแอปเปิ้ลชิ้นหนึ่งจ่อปากของธีร์ ซึ่งธีร์ก็งับมันเข้าปากอย่างลืมตัว เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างอร่อย ก่อนจะอ้าปากรับเอาชิ้นแล้วชิ้นเล่าเข้ามาเรื่อยๆ
แกร๊ก...
“อาหารเย็นมาแล้วค่ะ” พยาบาลสาวคนเดิมที่เข้ามาก่อนหน้านี้เข็นรถอาหารพร้อมกับพูดด้วยท่าทางที่ร่าเริง พัฒน์หันไปมองหน้า
เธอทันทีด้วยความหงุดหงิด ส่วนธีร์ก็มองพยาบาลสาวเล็กน้อยด้วยความไม่ชอบใจ
สายตาของเธอคนนั้นมองแต่พัฒน์จนแทบจะกลืนกิน
“ฉันบอกเธอว่าไง” พัฒน์กดเสียงต่ำจนเธอหน้าเสีย เธอไม่คิดว่าพัฒน์จะจริงจังอะไรขนาดนั้น เธอเริ่มตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก้ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมร่างสูงถึงเอาใจใส่คนที่คนอยู่บนเตียงขนาดนี้
ป้อนผลไม้กันด้วย หวังว่าคงจะไม่ใช่...
“คือ มันเป็นหน้าที่ของฉันน่ะค่ะ” เธอตอบ พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้สั่น
“ถ้างั้นหน้าที่เธอก็หมดแล้ว ออกไปซะ อ้อ! ถ้ามีอะไร ช่วยเปลี่ยนคนใหม่ด้วย ฉันไม่ชอบให้ใครมาส่งสายตาใส่ฉัน” พัฒน์พูด
เสียงต่ำ ไม่มองหน้าหญิงสาว แต่กลับป้อนผลไม้ให้กับธีร์ต่อ ซึ่งธีร์ก็รับเข้าปากอย่างงงๆ
“เอ่อ...”
“คือฉันหิวข้าว” ธีร์พูดขึ้นอย่างหงุดหงิด ที่พยาบาลคนนั้นยังคงนิ่งอยู่กับที่ ไม่ยอมออกตามที่พัฒน์สั่ง
“เอ่อ...นี่ค่ะ” เธอพยายามที่จะมาเข้าใกล้พัฒน์ แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงของธีร์
“เดี๋ยวให้มันทำ เธออกไปจากห้องได้แล้ว” ธีร์สั่ง
“ได้ยินแล้วใช่ไหม อยากทำงานที่นี่ต่อก็รีบไปซะ” พัฒน์สั่งเสียงลั่น จนเธอร้องไห้ออกมา ที่ผู้ชายถึงสองคนไล่เธออกจากห้อง
เป็นเช่นนั้น เธอก็วิ่งออกไปทันทีด้วยความเจ็บใจ
ทั้งฝั่งพัฒน์เห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจที่ไล่ตัวรำคาญออกไปได้
อย่าหาว่าพัฒน์นิสัยเลวเลยที่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้ แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่พัฒน์เห็นว่าน่ารำคาญ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้หญิง เขาก็ไม่
ละเว้น
“เอ้า! กินๆ ไปซะ หิวไม่ใช่หรือไง” พัฒน์จัดการป้อนข้าวธีร์อย่างเร็ว เพราะรู้ว่าร่างโปร่งกำลังโมโหหิวแน่ๆ
“อือ” ร่างเล็กกว่าแอบมองพัฒน์นิดๆ คนตัวสูงก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย ทั้งๆ ที่เขากำลังรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากๆ
เพราะความหิวแน่ๆ เลยที่ทำให้เขาหงุดหงิดถึงเพียงนี้
“ดูมึงจะไม่รู้สึกอะไรเลยนะ ทำพยาบาลคนสวยร้องไห้เนี่ย”
“อืม”
“เย็นชาที่สุด” ธีร์พึมพำ
พัฒน์ได้ยินแบบนั้นก็หลุดขำออกมาเบาๆ จากนั้นก็จัดการทำให้ธีร์กินข้าวกินยาให้เสร็จ แล้วก็ตามด้วยผลไม้ตบท้าย ธีร์นั่งดูละคร
ไทยหลากหลายช่องหลังจากที่ไม่เคยได้ดูอีกเลยตั้งแต่เรียนมัธยม
ก็มันไม่มีอะไรดู ก็เลยจำเป็นต้องดูพวกนี้แก้เบื่อไปก่อน
“ทำไมถึงยังไม่กลับ” ธีร์ถาม
“แล้วใครว่ากูจะกลับ”
“มึงจะนอนนี่หรือไง”
“ก็ใช่น่ะสิ” พัฒน์เพียงแค่ตอบคำถามของธีร์สั้นๆ เท่านั้น
“กลับไปเถอะ อยู่คนเดียวได้”
“แล้วพรุ่งนี้มึงจะกลับยังไง”
“ห๊ะ!! พรุ่งนี้กูออกจากโรงพยาบาลเหรอ” ธีร์หันไปถามอย่างดีใจ ซึ่งคนตัวใหญ่ก็ได้แค่พยักหน้าตอบกลับ ก่อนจะสนใจโน๊ตบุ๊ค
ตรงหน้าต่อ
ธีร์มองอีกคนอย่างอิจฉาที่พัฒน์นั่งทำงานได้ แถมยังทำได้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันด้วย
“ช่วยจัดการตามที่บอกไปด้วย” พัฒน์วงสายจากการโทรไปสั่งงานลูกน้อง แล้วก็มาตั้งใจทำงานตรงหน้าต่อ
อ่า...ทำไมเวลาแบบนี้ ไอ้พัฒน์มันถึงได้ดูเท่ห์นักนะ
ระหว่างที่ธีร์กำลังมองหน้าร่างสูงแล้วเหม่อไป ร่างสูงก็เงยขึ้นเพื่อมองว่าธีร์ทำอะไร จะหลับไปหรือยังแต่ก็พบว่าร่างบางมองหน้า
เขาอยู่ เหมือนกับจะไม่รู้สึกตัวด้วย พัฒน์มองหน้าอีกคนก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ นึกสงสัยว่าหน้าเขามันมีอะไรหรือเปล่าแต่ก็ไม่
ทักออกไป ก้มลงเพื่อทำงานต่อ
ถ้าอยากมองนักก็มองไป ดีกว่ามองหน้าคนอื่นล่ะนะ
...
...
...
“โอ๊ย...มึงใส่ดีๆ สิวะ กูเจ็บจะเว้ย”
“นี่ก็ดีที่สุดแล้ว อยู่นิ่งๆ สิวะ” พัฒนืคำรามเสียงต่ำ เพราะเหนื่อยกับการต้องออกแรงเยอะๆ ในยามเช้าแบบนี้มากๆ
“อยู่นิ่งก็เจ็บสิวะ อ๊ะ!” ร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อแขนเสื้อผ่านเฝือกอ่อนเข้าไปอยู่ที่ไหล่ของเขาได้สำเร็จหลังจากที่ใช้เวลา
เปลี่ยนชุดมาแล้วเกือบชั่วโมง
“เสร็จ ต่อไปกางเกง” พัฒน์พูดพลางมองไปที่ท่อนข่างที่ยังคงเป็นกางเกงของโรงพยาบาลอยู่ จนธีร์ขยับหนี แล้วหันหน้าหนี
อย่างเขินๆ
“ใส่เองได้”
“ด้วยแขนข้างเดียวนี่นะ” พัฒน์ขมวดคิ้ว
“อือ ออกไปดิวะ จัดการค่ารักษากับยาให้ก่อน เดี๋ยวกลับไปจะจ่ายให้” ธีร์ไล่ ก่อนจะขอร้องพัฒน์ให้จัดการเรื่องค่ารักษาให้ก่อน
ซึ่งร่างสูงก็พยักหน้ารับนิ่งๆ
“เข้าใจก็ออกไปดิวะ”
“ไล่กันจริง ไม่ใช่กูหรือไงที่ใส่เสื้อให้มึงเนี่ย” พัฒน์เดินบ่นออกไป ก่อนจะปิดประตูใส่ธีร์เสียงดังจนร่างบางสะดุ้ง
ปัง!!!
“อะไรวะ มันทวงบุญคุณหรือไง”
ธีร์พยายามอย่างยากลำบากที่จะใส่กางเกงที่พัฒน์เอามาจากห้องให้สำเร็จ โชคดีที่พัฒน์เลือกเอาสามส่วนมา ไม่เช่นนั้นใส่ลำ
บากแน่ๆ กับแขนข้างเดียวที่ใช้ได้อยู่ตอนนี้
“ดีนะที่มันเอากระดุมมา” ธีร์บ่นก่อนจะติดกระดุมด้วยมือข้างเดียว แล้วถอดหายใจดังๆ ออกมา
พัฒน์ออกมาจากห้องพักผู้ป่วยของธีร์หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายให้กับธีร์ รอไม่นาเขาก็ได้ยาถุงหนึ่ง
พร้อมกับฟังการอธิบายการทานการใช้ของอย่างอย่างตั้งใจ ก่อนจะกลับมาที่ห้องเหมือนเดิม พบว่าร่างโปร่งนั่งรออยู่แล้ว และดู
เหมือนว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
“กลับได้แล้วใช่ไหม” ธีร์ถามอย่างดีใจ จนพัฒน์ส่ายหน้าไปมากับความเด็กของอีกคน
ธีร์มันจะรู้ตัวไหม ว่าเผยอะไรให้เขาเห็นบ้าง
“อือ กลับกันเถอะ”
“เยส” ธีร์ร้องอย่างดีใจก่อนจะเดินนำพัฒน์ออกจากห้องไป พัฒน์เลยกลายเป็นคนถือของให้กับธีร์ไปโดยปริยาย เกิดมาคนอย่าง
พัฒน์ไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ใครเลย
“เอาไว้คิดบัญชีทีหลังก็แล้วกัน”
ระหว่างที่ธีร์กำลังให้พัฒน์เปิดประตูห้องให้ โทรศัพท์ของพัฒน์ก็ดังขึ้นทันที ร่างสูงยืนพูดอะไรสักอย่างก่อนที่จะยื่นมันมาให้ธีร์
ซึ่งเจ้าตัวก็รับมันไปอย่างงงๆ
“ครับ”
(ฉันเอง) เสียงทุ้มต่ำของผู้เป็นนายดังเข้ามา
“เจ้านาย มีอะไรครับ” ธีร์มีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด
(ฉันจะสั่งให้แกไปอยู่กับไอ้พัฒน์ซะ ระหว่างที่ยังไม่เฝือก)
มันเป็นคำสั่งที่เลวร้ายมาก
“ไม่นะเจ้านาย”
(ฉันบอกมันไว้แล้ว และแกต้องทำด้วย ระหว่างที่แขนแกยังเป็นอย่างนั้น ไม่มีทางที่จะช่วยเหลือตัวเองได้แน่ๆ)
“แต่...” ร่างโปร่งทำท่าจะค้าน
(นี่เป็นคำสั่ง ไม่มีค้านหรือแต่ทั้งนั้น ไม่ทำตามไล่ออกนะเว้ย แล้)
“ครับ ผมจะทำครับ” รีบรับคำไปทันทีเพราะกลัวว่าอัคนีจะไล่เขาออก ธีร์ยื่นโทรศัพท์ให้กับพัฒน์คืนก่อนจะเปลี่ยนจากยืนหน้า
ห้องของตัวเองเป็นการไปยืนหน้าห้องของพัฒน์แทน
“มาเปิดประตูเซ่!” หันมาตะโกนใส่ ซึ่งพัฒน์ก็ต้องเดินมาที่ห้องของตัวเองแล้วเปิดประตูให้คุณชายอย่างว่องไว
เหมือนแมวจริงๆ แมวที่กำลังขู่ฟ่อๆ ด้วย
มันไม่ได้ดูน่ากลัวในสายตาของเขาเลยนะ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ เขาคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าจะแทนคำไหนกับธีร์ในตอนนี้
ดี
น่ารักดีไหม....
ก็เหมาะดีนะ...
...
...
...
“คุณเพลิงบอกแล้วใช่ไหม” ธีร์ที่นั่งลงที่โซฟาของห้องพัฒน์ถามขึ้นอย่างเซ็งๆ
“อืม...บอกแล้ว แต่ฉันมีอะไรจะบอก” พัฒน์พูดตอบ
“มีอะไร”
“ห้องน่ะ มีแค่ห้องกูห้องเดียว”
“ห๊ะ!! แล้วกูจะนอนไหนล่ะ มันเป็นคำสั่งของเจ้านายเลยนะเว้ย ถ้ากูไม่ทำนี่มีสิทธิ์โดนไล่ออกเลยนะ” ธีร์เริ่มโวยวาย
ไม่มีห้องให้เขา บ้าไปแล้ว
“มีอยู่ทางเดียว” พัฒน์พูดขึ้นสั้นๆ แต่ธีร์ก็มองร่างแกร่งพร้อมส่ายหน้าแรงๆ
“ไม่ๆ ไม่มีทาง กูไม่มีทางนอนห้องเดียวกับมึงแน่ๆ”
“ก็แล้วแต่นะ ห้องนั้นมันไว้เก็บของ มึงจะไปนอนก็ได้” พัฒน์ไม่ใส่ใจ แต่ใจกลับยิ้มร่าอย่างมีความสุขที่ได้กลั่นแกล้งอีกคน
ที่สำคัญเขากำลังดีใจที่ธีร์ต้องอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา
“เออ!! นอนห้องมึงก็ได้” ธีร์ตะโกนอย่างโมโหและจำยอม
“ก็ดี จะให้กูไปเอาเสื้อผ้าให้หรือเปล่า” พัฒน์กอดอกถาม
“…” ธีร์เงียบ แต่จ้องหน้าอีกคนเขม็ง
“ว่าไง โอกาสจะใช้กูไม่ได้มีบ่อยๆ”
“เออ! ไปเอามาให้ด้วย” ธีร์รีบตอบกลับไป
“ก็แค่นี้” พัฒน์บ่นก่อนจะเดินออกจากห้องของตัวเองไปเพื่อไปขนสัมภาระต่างๆ ที่ธีร์จะใช้มาที่ห้องของเขา ส่วนธีร์ก็ลุกขึ้น
สำรวจห้องของพัฒน์ทันทีด้วยความอยากรู้
เผื่อมันจะมีรสนิยมน่าอายจะได้เอามาแบล็คเมล์
“อ่า...ห้องมันไม่มีอะไรเลยแฮะ ของตกแต่งก็มีแค่ที่คอนโดมีให้” ธีร์บ่นพึมพำ “ตรงนี้น่าจะเอาแจกันหรือเอาอะไรมาวางหน่อย
มันดูโล่งๆ แฮะ” ธีร์ยังคงวิจารณ์ห้องของพัฒน์ต่อไป
นี่ถ้าเขาอยู่นานๆ มันคงขัดหูขัดตาเขามากๆ เลยนะเนี่ย พวกไม่มีความเป็นศิลปะ
คงต้องทำอะไรสักอย่างกับที่นี่แล้วล่ะนะ
ธีร์คิดแบบนั้น แต่คงจะลืมไปแล้วว่าที่นี่ไม่ได้เป็นที่ของเขา แล้วถ้าหากร่างบางเอาของมาตกแต่งโดยที่เจ้าของห้องไม่อนุญาต
คงไม่ขว้างหรือโยนทิ้งหรอกนะ
“พรุ่งนี้ฉันจะเนรมิตที่นี่ให้สวยน่าอยู่ไปเลย” ธีร์ตั้งใจแน่วแน่กับเรื่องของการตกแต่งห้องของพัฒน์เอามากๆ ก่อนจะคิดหนักเรื่อง
แรง
มีแขนที่สามารถใช้ได้อยู่ข้างเดียว จะไปทำอะไรได้
“อ้า...จริงสิ!! ฉันมีคนๆ นั้นอยู่นี่นา” ธีร์หัวเราะอยู่คนเดียวอย่างชอบใจ
เพราะอย่างน้อยการที่เขาอยู่กับห้องเฉยๆ ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด
“กูจะทำให้มึงอึ้งไปเลยไอ้พัฒน์!!”
“กูจะเอาของๆ มึงเข้าไปไว้ในตู้ของกูก็แล้วกัน มันมีที่ว่างเยอะ” พัฒน์พูดบอกพร้อมจัดเสื้อผ้าของธีร์เข้าไปในตู้เสื้อผ้าอันใหญ่
ของตน
ธีร์นั่งมองอีกคนจัดเสื้อผ้าเขาก็เริ่มอายเมื่อมือของพัฒน์เริ่มจับชั้นในของเขาเก็บที่ลิ้นชักว่างๆ ก่อนหน้านั้นพัฒน์ใส่ถุงเท้าที่ยังไม่
ได้แกะใช้เอาไว้ ตอนนี้ได้ทำให้มันโล่งเพื่อต้อนรับเจ้านายชั่วคราว
“กูจะไปทำงาน มึงก็อยู่ที่นี่ไปก็แล้วกัน กูเอาบัตรสำรองวางไว้ที่โต๊ะหน้าทีวี โทรศัพท์และของที่มึงต้องใช้ทำงานกูก็เอาวางไว้
แถวๆ นั้น อยากใช้ก็จัดการเอง”
“อือ”
พัฒน์เดินเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดไปทำงานทันที ส่วนธีร์ก็เดินสำรวจในห้องแต่งตัวอีกนิดก็เดินไปสำรวจที่ห้องนอน
ต่อ...
ก็คือไม่อยากนั่งเฉยๆ เพราะลำพังอยู่โรงพยาบาลก็นั่งนอนมามากพอแล้ว
“เฮ้อ...” ถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย
ธีร์ที่จะไปรอเข้าห้องน้ำก็เจอเข้ากับแผ่นอกกว้างของพัฒน์ที่กำลังสวมชุดสูทอยู่ ทำให้ชะงักแล้วแอบมองนิดๆ ก่อนจะทำเป็นไม่
สนใจเดินผ่านห้องแต่งตัวไปยังห้องน้ำแทน
เพราะถ้าจะไปห้องน้ำ ต้องผ่านห้องแต่งตัวก่อน มันก็เลยทำธีร์ต้องเห็นฉากนั้นเข้าให้
“โอ้ย! คนบ้าอะไร กล้าใหญ่ชะมัด” พูดอย่างอิจฉาก่อนจะมองร่างกายตัวเองผ่านกระจกห้องน้ำแล้วต้องทำหน้าแบบจะร้องไห้
เพราะการนอนนั่งตลอดการรักษาที่โรงพยาบาลนั่นแหละ กล้ามเนื้อหน้าท้องเขาเลยหายหมด เหลือเพียงแค่ความแบนราบของ
หน้าท้อง โชคดีที่พุงยังไม่โผล่ ไม่เช่นนั้นธีร์ต้องร้องไห้แน่ๆ เพราะกว่าจะได้ออกกำลังกาย ร่างกายก็ต้องหายดีเสียก่อน
“อีกนาน หึหึ” หัวเราะเยาะให้กับความน่าสมเพชของตัวเอง
ธีร์ทำธุระของตัวเองในห้องน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาด้านนอกพบว่าพัฒน์ไม่อยู่แล้ว ไปยังห้องโถงก็ไม่มีวี่แววของอีกคนแม้แต่น้อย
แสดงว่า...พัฒน์ออกไปทำงานแล้ว และไม่ได้ลาเขา
“จะไปก็ไป จะมาก็มา คนบ้าอะไรเดาใจยากจังวะ”
(มีต่อ)