- 04 -
“แค่ฉันมีเธอ ก็จบที่เธอคนนี้
ไม่มีใครใหม่ สะกดให้ใจฉันยอม ตลอดไป.....”ผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้องเพลงมาจากเตียงข้างๆ ผมเหลือบมองเห็นไอ้คีย์กำลังนอนคว่ำเอาศอกเท้าเตียงมือจับโทรศัพท์ไว้ แล้วร้องเพลงให้โทรศัพท์ตัวเองอยู่
คุยกับใครแต่เช้าว่ะ
ผมควานหาโทรศัพท์ตัวเองบ้าง หน้าจอบอกเวลาสิบโมง และแจ้งเตือนมากมายจากไอจี มีไรอีกว่ะ รูปเล็กที่แจ้งเตือนว่ามีคนคอมเม้นและกดถูกใจ ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ ไอ้คีย์มันไม่ได้ทำอะไรแผลงๆ อีกใช่ไหม
ผมกดเข้าไปดู มันเป็นแจ้งเตือนจากไอจีไอ้คีย์ที่แท็กรูปมาที่ผม
คีย์’คีตะหมู
มันใส่แคบชั่นสั้นๆ พร้อมรูปพุงน้อยๆ ที่ถูกเมจิวาดคิ้ว ตา จมูก โดยมีสะดือเป็นปาก พุงนี่มันดูคุ้นๆ แฮะผมลุกขึ้นก้มมองพุงตัวเอง แม่ง! นี่มันพุงกูนิ ไอ้สัสคีย์
-นอนด้วยกัน….?
-กีสสสสสส
-ไม่อยากจะคิดภาพเมื่อคืนคอมเม้นชวนฟินของสาววายขี้จิ้นมากมาย รูปโปรไฟล์ไอ้คีย์ขึ้นว่ามันกำลังไลฟ์ไอจี จนผมต้องกดเข้าไปดู
มันกำลังไลฟ์พูดคุยกับฟอลโล่เวอร์ตัวเองอยู่ที่เตียงข้างๆ นี่แหละ ด้วยความหมั่นไส้ ผมเลยเขวี้ยงหมอนใส่มันไปที
“ตื่นแล้วเหรอ”
“ยังไม่ตื่น เมื่อกี้ละเมอ”
“ละเมอซะเต็มหน้ากูเลยเนอะ มาครับทุกคนเรามาดูหน้าตาของคนตื่นสายกันครับ” ไอ้คีย์หันไปคุยกับคนในไลฟ์ แล้วถือโทรศัพท์เดินมาหา ผมนี่รีบเอาผ้าห่มปิดหน้าอย่างไว หน้ายังไม่ได้ล้าง ฟันยังไม่ได้แปรง น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ขี้ตาเอย ขี้ฟันเอย ผมเผ้ายุ่งเหยิงเอย
“ไอ้คีย์ไม่เอา กูยังไม่ได้ล้างหน้า”
“เหอะน่า ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ใช่ไหมครับทุกคน” ผมกับมันยื้อแย่งผ้าห่มไปมา
“ไอ้คีย์ไม่อ้าวววว”
“เพลงอย่าดื้ออออ”
“ไอ้คียยยยย์”
“บทเพลงงงง”
สุดท้ายก็เป็นผมที่แพ้แรงควายของมัน ปล่อยให้มันมานั่งซ้อนด้านหลัง ส่วนผมอยู่ข้างหน้า แล้วมันยื่นมือที่ถือโทรศัพท์มาตรงหน้า หันหน้าจอมาให้ผมทักทายฟอลโล่เวอร์มัน
“ทักทายเพื่อนๆ พี่ๆ หน่อย”
“คียยย์” ผมหันไปทำหน้าไม่พอใจใส่มัน พึ่งตื่นแท้ๆ ชอบบังคับกันจริง อยากโดนตีนหรือไง
“เร็วๆ”
“สวัสดีครับทุกคน เพลงเองนะครับ” น้ำเสียงผมยังดูหงอๆ อยู่เลย ง่วงอะ
“พูดดีๆ”
“ก็คนมันพึ่งตื่นนิ” มันยังไม่สดชื่น
“โอ๋ๆ ไม่งอแงนะคะน้องเพลง” กูอ่านหนังสือออกม่ะ ไม่ต้องสาระแนมาอ่านออกเสียงให้กูฟัง
“ผมไม่ได้งอแงนะครับ แค่ยังง่วงๆ อยู่แค่นั้นเอง ขอโทษนะครับ” ผมรีบแก้ตัวแล้วก็ขอโทษทันที ไม่อยากให้ใครมาเหม็นขี้หน้า
“พี่คีย์อย่าดุน้องเพลงสิค่ะ ไม่ให้ดุได้ไงครับ เพลงมันดื้อ มันตื่นสายเองนะครับ” พี่คีย์ น้องเพลง....? ได้ไงว่ะ อายุเท่ากันนะฮับคุณผู้โชมมมม
“ก็เมื่อคืนนอนดึกนี่หว่า”
“ทำไมถึงดึกอ่า” ไอ้คีย์ยังคงอ่านคอมเม้นให้ผมตอบอยู่
“ก็มึงไม่ยอมนอนดีๆ”
“หึ~” มันส่งเสียงมาจากลำคอแล้วยิ้ม ก่อนจะเอามืออีกข้างที่ว่างอยู่ของมันมาพาดไหล่ผมแล้วหันไปอ่านคอมเม้นต่อ
หืออออ ไม่น่าพูดอะไรกำกวมออกไปเลย ไม่นอนดีๆ ของผมทุกคนตีความหมายไปไกลหมดแล้วววว
คงเหมือนผมที่เคยตีความหมายประโยคธรรมดาๆ แต่แสนยิ่งใหญ่สำหรับชิปเปอร์ ของไอ้คีย์กับไอ้มิวเลย เหมือนกรรมตามสนองเลยอะ
“ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนะครับ ไม่นอนดีๆ เพราะไอ้คีย์มันไม่ไปนอนที่ตัวเองครับ เอาแต่มานอนขว้างเตียงคนอื่นจนไม่ได้นอนสบายๆ” ผมรีบแก้ต่างทันที
“ใช่เหรอ” ยังจะมาทำหน้าตาล้อเลียนอีก ขอตบสักเพี้ยะเหอะ
“ไม่มีเรียนกันเหรอค่ะ มีตอนบ่ายครับ” ไอ้คีย์อ่านเองตอบเอง
“ไอ้เพลงมันมีเรียนตอนบ่ายน่ะจริง ส่วนมึงไอ้คีย์ มึงมีเรียนเก้าครึ่งไม่ใช่เหรอ” ผมหันไปมองหน้าไอ้คีย์หลังอ่านประโยคของไอ้ไก่จบลง
“ก็กูขี้เกียจ” มันว่าแบบนั้น
-พี่คีย์ถูกพี่เพลงดุแล้ว
-ทำไมตอนอยู่โรงเรียนชั้นไม่เห็นโมเม้นจากคู่นี้
-ใช่ๆ เมื่อก่อนต้อง คีย์มิวเท่านั้น แต่ตอนนี้พี่มิวหายไปเลย“พี่มิวหายไปไหนคะ ไม่ค่อยเห็นมีโมเม้นกับพี่คีย์เลยช่วงนี้” ผมอ่านคำถามแล้วหันไปมองมัน
“ไอ้มิวมันเจอคนที่ชอบแล้วครับ ตอนนี้มันก็กำลังตามจีบอยู่ครับ”
“แล้วพี่คีย์ไม่มีคนที่ชอบแบบพี่มิวเหรอคะ” ไอ้คีย์อ่านจบแล้วหันมามองผม
“คนที่ชอบยังไม่มีครับ มีแต่คนที่ยังไม่แน่ใจว่าชอบหรือไม่ ตอนนี้ก็กำลังดูๆ เขาอยู่ครับ” อะไรกันครับเนี่ย จู่ๆ หน้าผมก็รู้สึกร้อนๆ ขึ้นมาซะดื้อๆ ในใจมันเต้นตุ๊บๆ อย่างบอกไม่ถูก ผมพยายามไม่สนใจเสียงข้างในใจตัวเอง โฟกัสไปที่คอมเม้นแทน ตั้งสติ ตั้งสติสิไอ้เพลง
-กรี๊ดดดดดด
-ใช่คนข้างๆ หรือเปล่า
-โอ๊ยยยย ช่วงนี้ตัวติดกันบ่อยๆ ที่แท้แอบดูใจกันนี่เองยิ่นอ่านคอมเม้นยิ่งหน้าร้อนเข้าไปใหญ่
“คีย์กูจะไปอาบน้ำ” ผมหันไปบอกมันแต่ไม่กล้าสบตาเท่าไหร่
“ไปดิ” น้ำเสียงมันดูแปลกไปจนผมใจสั่น
“เออ... ทุกคนครับ เดี๋ยวเพลงขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ ใกล้เวลาเรียน ไว้วันหลังค่อยคุยกันใหม่นะครับ บายครับ” ผมโบกมือลา แล้วเดินออกมาจากอ้อมแขนไอ้คีย์ ที่ผมพึ่งรู้ตัวว่าท่าที่เรานั่งอยู่มันชวนชิบเปอร์จินตนาการไปไกลแค่ไหน
ผมยืนมองตัวเองที่หน้าแดงในกระจกแล้วอยากกรี๊ดออกมา นี่กูเป็นเหี้ยไรว่ะ ตื่นๆ ไอ้เพลง ผมตีหน้าตัวเองเบาๆ สองสามที แล้วรีบจัดการธุระตัวเองให้เรียบร้อย
ทำไมวันนี้มันร้อนแบบนี้นะ ขนาดยืนอยู่ใต้ฝักบัวแล้วแท้ๆ สงสัยเพราะออกแรงขัดหมึกจากปากกาเมจิกที่พุงแน่เลย ให้ตายเหอะ เล่นเอาปากกาเมจิกแบบที่ขัดไม่ออกมาเขียน กว่าหมึกจะจางกูจะเป็นมะเร็งไหมเนี่ย
“เพลงเสร็จยัง ช้าจังเลย กูหิวแล้วนะ”
“กูช้าเพราะมึงนั่นแหละ เอาปากกาเมจิกมาเขียนท้องกู ขัดยากขัดเย็นฉิบหาย” ผมตะโกนกลับไป
“ให้กูช่วยขัดปะละ”
“ไม่ต้องปล่อยไว้งี้แหละ กูจะออกไปแล้ว” ผมเปิดฝักบัวล้างตัวอีกครั้ง แล้วคว้าผ้ามาเช็ดๆ ตัว แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
“มึงทำไรอะ” ผมมองไอ้คีย์ที่กำลังจัดของบนเตียง
“ถ่ายรูปขอบคุณสำหรับของพวกนี้ไง มึงก็ควรทำด้วย คนให้เขาจะได้ดีใจ” มันว่าแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายก่อนจะกดยิกๆ บนโทรศัพท์ ส่วนผมก็หันมาแต่งตัวในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเพราะยังอยู่ปีหนึ่งแล้วยังไม่ปลดป้ายด้วย
“เสร็จยังหิวแล้ว”
“เออๆๆ เสร็จแล้วๆ”
“ตื่นก็สาย ยังจะทำตัวชักช้าอีก” ยังจะโทษกูอีก ช้าเพราะมึงเลย แทนที่ตื่นมาจะได้จัดการตัวเองดันต้องมานั่งไลฟ์กับมึงเนี่ย
“มึงได้กลิ่นอะไรไหม” ผมทำจมูกฟุตฟิตๆ ใกล้ๆ มัน
“อี๋~ เหม็นกลิ่นคนใส่เสื้อผ้าเน่าว่ะ” ผมแกล้งแหย่มันไป แปลกแฮะเสื้อผ้าเมื่อวานมันทำไมไม่เห็นเหม็นเลย
“เน่าจริงดิ กูเอาไปซักมาแล้วนะ ตอนมึงนอนน้ำลายยืดอะ มึงลองดมใหม่ดิ” ลองดมใหม่ของมันไม่ใช่ยืนให้ผมดมดีๆ อะไรหรอก มันยัดรักแร้เข้าเบ้าหน้าแล้วล็อกคอผมแช่เอาไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหนจนหายไม่ออก
“ไอ้เหี้ยคีย์!” ผมด่ามันทันทีเมื่อดิ้นหลุดออกมาจากวงแขนมันได้
“ฮ่าๆ รักแร้พี่หอมไหมจ๊ะ”
“หอมส้นตีนนี่!” ผมว่าแล้วคว้ากระเป๋าเดินออกมาจากห้อง
“ออกมาได้แล้วจะปิดประตู” ผมหันไปว่ามันที่เอาแต่ยืนขำไม่ยอมออกมาจากห้อง ไอ้ห่า ไหนบอกว่าหิวไง
ผมกับมันเดินมากินข้าวที่โรงอาหารของหอใน ตลอดการเดินทางมีหลายสายตามองมาที่เรา ส่วนใหญ่จะเป็นสายตาของสาวๆ คงเป็นสาววายนั่นแหละที่มองมา เอาจริงก็ทำตัวไม่ค่อยถูก แต่ไอ้คีย์บอกให้เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละ ถ้าเขาจะชอบหรือเกลียด ก็ขอให้มันเกิดขึ้นจากตัวตนเรา พูดดีแฮะ
“เย็นนี้กูมีซ้อมเหมือนเดิมนะ” มันพูดระหว่างเรานั่งกินมื้อเที่ยงกัน
“เย็นนี้กูคงไม่ได้ไปดูมึงนะ มีปลดป้ายแล้วก็จับสายรหัส” ความจริงก็ลืมไปแล้วแหละ แต่เพื่อนดลพึ่งแชทมาบอกเมื่อกี้
“เหรอ แล้วเลิกดึกป่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“อืม” มันตอบรับแค่นั้นแล้วเราก็ต่างคนต่างกิน ผมเข้าไปส่องเฟสบุ๊ค เล่นอินสตาร์แกรม ก็เจอคนที่จิ้นเราจนเริ่มชิน ช่วงนี้เลยต้องหันไปเล่นทวิตเตอร์แทน
“วันมะรืนจะประกวดดาวเดือนแล้ว ไปเชียร์กูด้วยนะ”
“ไปแน่แต่กูไม่เชียร์มึงหรอก ยังไงกูก็ต้องเชียร์เพื่อนคณะกูก่อนอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าเพื่อนมึงตกรอบล่ะ”
“ไม่มีทางอะ เดือนคณะกูหล่อไร้ที่ติ ใบหน้าอย่างกับเทพเจ้าปั้น รูปร่างสูงโปร่งอย่างกับหลุดออกมาจากนิยายขนาดนั้นน่ะนะ จับมือสองคนสุดท้ายแน่นอน”
“แล้วกูอะ”
“ตกรอบแรก”
“กูหมายถึงคนเชียร์กูอะ มึงไม่เชียร์กูจริงดิ”
“เพื่อนคณะมึงเยอะแยะ ไหนจะกำลังใจจากแฟนคลับมึงอีก”
“แต่กูอยากได้กำลังใจจากมึงคนเดียว”
“......” ผมหยุดเคี้ยวข้าวแล้วเงยหน้ามองมัน ที่พูดมาเมื่อกี้หมายความว่าไง มึงจะมาไม้ไหนอีก
“กูหมายถึงแค่มีมึงคนเดียวก็จะมีแฟนคลับที่ให้กำลังใจเพิ่มขึ้น เพราะมึงเป็นคู่จิ้นกูไง เดี๋ยวคนอื่นๆ เขาก็แห่มาเชียร์มาให้กำลังใจกูไปด้วย”
“......” จริงสินะ มีแฟนคลับเพราะเป็นคู่จิ้นนี่หวา
“แล้วถ้ากูเชียร์มึงแล้วกูจะได้อะไร”
“ได้ใจกูไง”
“ไม่เอาอะ ไม่อยากได้” ผมก้มลงเกลี่ยเศษข้าวในจานเตรียมเอาไปเก็บ
“เอามานี่ เดี๋ยวเอาไปเก็บให้” ไอ้คีย์ดึงจานผมไปแล้วลุกขึ้นเอาจานไปเก็บให้ ถือว่าเป็นคนมีน้ำใจเหมือนกันนะเนี่ย
“สิบบาท”
“ถุ้ย” อุตส่าห์ชมใจใน สิบบงสิบบาทอะไรกัน อยากได้ก็ไปนั่งขอทานใต้สะพานลอยโน้น
เราสองคนเดินมาด้วยกันถึงอาคารเรียนรวมก่อนจะแยกกัน
“เพลง...”
“......” ผมหันไปตามเสียงไอ้คีย์
“เปล่า ไม่มีอะไร ตั้งใจเรียนนะ สงสารพ่อแม่ที่ส่งควายมาเรียนอย่างมึง”
“ไอ้สัส!” เรื่องกวนตีนกูนี่ที่หนึ่งเลย
“อีเพลงงงง ตกลงเมื่อคืนได้กันม่ะ” เพื่อนสาวสองรูปร่างสมบูรณ์เข้ามาควงแขนทักทายทันทีที่ผมย่างเท้าเข้าห้องเรียน
“ได้กันเหี้ยไร”
“ก็มึงกับคีตะไง เมื่อคืน.....” พูดแล้วนางก็เอานิ้วชี้มาแตะๆ กัน แถมด้วยการม้วนตัวเขินอายประหนึ่งสาวน้อยไร้เดียงสาอายุห้าขวบ น่าเตะจริงๆ
“นอนคนละเตียงโว้ยยย แล้วกูกับมันก็แค่เพื่อนกัน”
“เหรอออออ” คราวนี้เป็นการผสานเสียงของเพื่อนร่วมห้องเกือบครึ่ง
“เออดิ!” ผมตอบแล้วเดินเลี่ยงๆ ไปนั่งรวมกับเดอะแก๊งกลางห้อง
“วันนี้จับสายรหัส ขอให้กูได้สายมหาเทพทีเถอะ” แก้วพูดขึ้นประกอบกับการยกมือขึ้นพนมเหนือหัวแล้วตบลงหัวตัวเองเบาๆ ทำแบบนั้นคำขอไม่เข้าหัวตัวเองเหรอว่ะ แล้วแบบนี้ท่านเทพที่มึงขอจะรับรู้ได้ไง
“สายมหาเทพเขามีแต่ผู้ชาย มึงอด” ดลหันไปบอกแก้ว
“กูนี่แหละจะเป็นชะนีคนแรกที่เข้าสายนี้”
“กูต่างหากที่จะเป็นตุ๊ดในหมู่เดือน” เพื่อนกะเทยตะโกนมาจากหน้าห้อง
“เดี๋ยวเย็นนี้รู้กันจ้ะ” แก้วตะโกนกลับไป
“มหาเทพนี่ใครวะ” มีผมคนเดียวหรือเปล่าวะที่ไม่รู้เรื่องมหาทงมหาเทพอะไรเนี่ย
“สายรหัสมหาเทพไง สายที่รวมผู้ชายหน้าตาดีของคณะเรา แปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเดือนคณะด้วย” ดลตอบผมให้หายข้องใจ
“แล้วกูไปอยู่ไหนมาทำไมไม่รู้จักว่ะ”
“ผู้ชายแมนๆ แบบเราไม่รู้จักหรอก กูก็ไม่รู้จักถ้าไม่มีเพื่อนแรดเหมือนแก้วเนี่ย” ไอ้เป้พูดเมื่อมันนั่งลงเก้าอี้ มาทันได้ยินด้วยเหรอว่ะ
“กูก็รู้มาจากแก้วเหมือนกัน” ไอ้ดลเสริม
“กรี๊ดดด หยาบคายที่สุด” แก้วโวยวายขึ้นมา
“หรือมันไม่จริง”
“ไม่จริงเว้ย”
“เนี่ย รับน้องก็ไม่เคยเห็นมาสักคน ต้องหยิ่งเบอร์ไหนกันว่ะ ถึงไม่เคยมีใครเห็นหน้า มีแต่เสียงเล่าเสียงลือ”
“ไม่เคยเห็นหน้าก็หัดเข้าไปหาในกลุ่มเฟสบุ๊คของคณะบ้างนะคะคุณเพื่อน ไม่ใช่เอาเวลาไปติดหญิง” เป้ไหวไหล่ก่อนจะอ้าปากเถียงต่อ
“ก็คนมั....”
“หยุดทั้งคู่เลย เถียงอะไรกันเก่งจริงๆ พวกมึงสองตัวเนี่ย” ผมรีบห้ามศึกก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันบานปลาย ความจริงแล้วแก้วมันเป็นดาวคณะน่ะครับ มันคงเคยได้ยินหรือได้เจอพวกพี่ๆ ดาว-เดือนคณะบ้างแหละ ถึงได้เก็บมาสาธุจ้าขนาดนี้
“ไอ้เพลงมีคนฝากมาให้” เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับเครื่องดื่มบำรุงสายตา
“ใครวะ”
“ผัวมึงไง ไอ้คีย์อ่ะ”
“ผัวเหี้ยไร ตีนกูนี่” ผมยกตีนให้มันทีแล้วปล่อยให้มันเดินหัวเราะไปนั่งที่ตัวเอง
ไอ้คีย์มันเขียนโพสต์อิทแปะมาด้วยแฮะ
-กินบำรุงสายตา จะมองเห็นความหน้าตาดีของกูชัดๆ -หลงตัวเองสัสๆ
“เพลง คีตะแท็กมึงในเฟสบุ๊คอะ” ดลเอ่ยบอก ผมเลยก้มลงดูแจ้งเตือน มันเป็นรูปภาพเครื่องดื่มแบบเดียวกันกับที่วางบนโต๊ะผมตอนนี้ แต่อยู่ในมือเจ้าของโพสต์
คีย์’คีตะได้รับแล้วคอมเม้นกลับด้วย
นึกว่าให้เพราะเป็นห่วงที่แท้ก็แค่แฟนเซอร์วิส ชิ กูไม่คอมเม้น แล้วก็ไม่กดไลค์ด้วย แต่ว่า...
แชะๆๆๆ เพื่อนสาววายในห้องก็พร้อมใจกันหันกล้องมาถ่ายกูเหลือเกิน บางคนก็เอารูปผมนั่งหน้าเหว๋อไปลงพร้อมขวดเครื่องดื่มเรียบร้อย เพื่อนสาขานี้สาระแนกันเก่งจริงๆ
คีย์’คีตะได้รับของที่กูฝากไปให้ยัง
บทเพลง
ได้แล้ว
คีย์’คีตะแล้วไม่เม้นบอกอะ
บทเพลง
ก็บอกในแชทนี่แล้วไง
คีย์’คีตะบอกในแชทแล้วคนอื่นจะรู้มั้ย
บทเพลง
เพื่อนคณะถ่ายไปลงแล้ว
คีย์’คีตะกูอยากได้จากมึงมากกว่า
บทเพลง
เป็นเหี้ยไร
มาเรื่องมากใส่
ประสาท
คีย์’คีตะไม่ได้เป็นคนเหี้ย
กูเป็นหล่อ
บทเพลง
......
ไม่รู้จะตอบยังไงเลยกู ผมเลยต้องหยุดบทสนทนาไว้แค่นั้น พอดีกับอาจารย์เข้าห้องมาด้วย
ผมนั่งเรียน นั่งหาว นั่งโง่ยาวๆ มาหลายชั่วโมง สิ้นสุดกันทีช่วงเวลาอันแสนน่าเบื่อ
“เพื่อนๆ พี่ปีสองบอกให้รีบไปลานคณะได้แล้ว พี่ปีสามปีสี่รออยู่” เสียงเพื่อนคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ก่อนจะตามด้วยเสียงบ่นของคนอื่นๆ หนึ่งในนั้นก็ผมด้วยแหละ
“ไปมึง ให้มันจบๆ วันนี้ไป ปลดป้ายแล้วจะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปแดกเหล้าสักที” ไอ้เป้พูดขึ้น
พวกเราทั้งคณะต่างพากันเฮโลไปลานกิจกรรมคณะ ที่มีรุ่นพี่ตั้งแต่ชั้นปีที่สอง สาม สี่ นั่งรอยืนรออยู่
“ชักช้า! รุ่นพี่รออยู่ไม่รู้หรือไง” จะไปรู้ได้ไงว่ะ คนเขาเรียนอยู่ปะ ผมตอบโต้พี่ว้ากภายในใจ
“มาแล้วก็เข้าแถวเรียงสิบแล้วนั่งกันเลยนะคะ” พวกเราทำตามที่พวกรุ่นพี่สั่ง มีทั้งเสียงดุ เสียงคุยกันเองของพวกรุ่นพี่ มีสันทนาการเบาๆ และให้แนะนำด้วยเพลงนี้
“เพลงครับ เพลงครับ ผมชื่อเพลงมากะเป้และกะมากับดล.......” หลอนหูสุดๆ ก่อนจบด้วยคำพูดจาชวนซึ้งและทำพิธีปลดป้ายของพวกเรา ก่อนเข้าสู่ช่วงเฮฮาที่เราจะต้องมาลุ้นกันว่าใครจะได้สายรหัสเป็นใคร พวกสาวๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างก็อยากได้สายรหัสชายหนุ่มหน้าตาดี ส่วนหนุ่มๆ ก็อยากได้สาวๆ สวยๆ ส่วนผมเหรอ ใครก็ได้ รีบๆ จับสักที กูหิวข้าววววว
“เอาล่ะคะน้อง เดี๋ยวเราจะเริ่มจับสายกันแล้ว กติกาง่ายๆ พี่จะให้น้องๆ ขึ้นมาจับสายทีละคน แล้วอ่านโค้ดที่สายรหัสให้ไว้ น้องๆ จะมีเวลาตามหาสายรหัสหนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้นถ้าตามหาไม่ได้ น้องจะไม่มีสายรหัสคณะนะคะ เข้าใจไหมคะ”
“เข้าใจครับ/ค่ะ” พวกเราตอบรับคำอธิบายของรุ่นพี่ร่างอวบสุดสวยที่อธิบายกติกาไปเมื่อครู่
“อ๋อ มีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง เนื่องจากปีนี้คณะเรามีน้องๆ มากกว่าจำนวนสาย ดังนั้นบางสายจะได้น้องรหัสแฝดนะคะ จะได้ไม่ตกใจเมื่อจับเจอโค้ดเดียวกันกับเพื่อน” พี่แกพูดต่ออีกนิดก็ได้เวลาเริ่มจับสายรหัสกัน พอใครจับได้รุ่นพี่หน้าตาดีหน่อย พวกรุ่นเดียวกันก็ส่งเสียงอิจฉา หรือใครที่หน้าตาดี หล่อๆ สวยๆ ขึ้นไปจับ พวกรุ่นพี่ก็แซ็วกันมันปาก
“เชิญคนต่อไปค่าาา คนนี้ดาวคณะปีนี้” แก้วลุกขึ้นยืนพอได้เสียงแซ็วจากรุ่นพี่ผู้ชายปนเสียงผิวปาก มันก็ทำท่าเอียงอายต่างกับอยู่เพื่อนลิบลับ
“โค้ดที่น้องแก้วได้คืออะไรเอ่ย” รุ่นพี่ยื่นไมค์ให้แก้วพูด
“สวยสุดในคณะ” พูดจบเสียงโห่ของรุ่นพี่ผู้ชายก็ดังระงม ใช้คำว่าสวยสุด ไม่ใช่ผู้ชายแน่นอน เป็นไงล่ะแก้ว อยากสวยเด่นในหมู่มหาเทพบ้าบอนั้นดีนัก ฮ่าๆๆ
เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ เพื่อนผมก็ทยอยกันลุกไปจับฉลาก
“อ่า เดือนของปีนี้ น้องกันต์เชิญค่าลูก” เสียงกรีดร้องของรุ่นพี่ดังขึ้นเบาๆ
“เก็บอาการหน่อยค่ะรุ่นพี่ชะนีเน่า” พี่กะเทยนางหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะเกิดการปะทะฝีปากแซ็วกันเบาๆ ขึ้น
“อ่าาา น้องกันต์ช่วยอ่านหน่อยนะคะว่าได้โค้ดอะไร”
“มหาเทพครับ” สิ้นเสียงของกันต์ ก็มีเสียงเสียดายของรุ่นพี่ผู้หญิง และเสียงโห่ของรุ่นพี่ผู้ชายสวนเพื่อนผู้หญิงก็ดังขึ้น สมกับชื่อสายรหัสจริงๆ แหล่งรวมคนหน้าตาดี แม้แต่ปีนี้สายคนล่าสุดยังเป็นเดือนคณะ
เราจับฉลากกันมาจนถึงผมที่เป็นคนรองสุดท้าย
“คนต่อไปเชิญน้องบทเพลงค่าาา แหม่คนนี้ถึงไม่ใช่เดือนแต่ก็เป็นคนดังคนหนึ่งของรุ่นเลยนะคะ มีแฟนคลับพอควร” ผมได้ยินเสียงกรี๊ดดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ
“ก่อนจับฉลาก ในฐานะที่พี่เป็นสาววาย พี่ขอสัมก่อนนะคะ สรุปแล้วน้องเพลงกับน้องคีย์เป็นอะไรกันค่ะ”
“เป็นเพื่อนครับ” ผมตอบออกไปได้เต็มปากเพราะมันคือความจริง
“แค่เพื่อนครับแม่ป่าว” เสียงรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงหัวเราะเบาๆ ตามมา
“สายเหลืองๆ” แม่ง โคตรเกลียดคนแบบนี้จริงๆ เหยียดหาพ่อมึงเหรอ
“อย่าแซ็วน้อง ไม่เป็นไรนะคะ อ่าๆ จับฉลากกันลูก” ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วปล่อยมันออกมาเบาๆ เพราะต้องการระงับอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะล้วงมือลงไปจับฉลากขึ้นมา
“ได้โค้ดอะไรคะน้องบทเพลง” ผมยืนนิ่งอ่านข้อความในมือในใจซ้ำๆ นี่กูได้สายนี้จริงเหรอว่ะ โดนแซ็วเป็นแกะดำแน่กู
“ได้เออ... ม.. หาเทพ ครับ” ถึงจะมั่นใจว่าตัวเองหล่อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเข้ากับสายนี้ได้นะผมว่า
เสียงกรี๊ดดังขึ้นมาอีกแล้ว
“หมดแล้วเว้ยสายรวมคนหล่อ ปีนี้ได้ตุ๊ดกะตาว่ะ ฮ่าๆ” และแล้วเสียงที่ผมไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้นแทรกทุกเสียงอืออึ้งเข้ามาที่โสตประสาทผมจนได้ ทำไมต้องได้ยินด้วยว่ะ
“ตุ๊ดแล้วไง ทำไมต้องเสือก” ทุกเสียงเงียบลงทันที ยอมรับว่าโคตรไม่พอใจ ไม่พอใจมากๆ ด้วย แต่เสียงนั่นมันดันไม่ใช่เสียงผมน่ะสิ
“อ้าวเห้ยพูดแบบนี้ก็สวยดิว่ะ” รุ่นพี่คนหนึ่งแสดงตัวขึ้นมาพร้อมน้ำเสียงหาเรื่อง มึงสินะไอ้ปากหมาเมื่อกี้
“เออดิ มึงจะทำไม” เจ้าของเสียงที่สะกดให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบลุกขึ้น ไอ้กันต์....?
“ไอ้กันต์ใจเย็นๆ” เสียงเพื่อนๆ ดังขึ้นเบาๆ
“ไอ้นพไม่เอา รุ่นน้องเว้ย ไม่เอาๆ” พวกรุ่นพี่พยายามเข้ามาห้ามพี่ที่ชื่อนพ เช่นเดียวกับพวกเราที่พยายามดึงแขนไอ้กันต์ให้นั่งลง
รุ่นพี่พยายามดึงทุกอย่างให้กลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติอีกครั้ง ก่อนจะทำการแยกย้ายสลายตัว
“มึงพอจะรู้จักใครในสายเราปะ” ผมเดินเข้าไปหาไอ้กันต์เพื่อคุยเรื่องสายรหัส
“อือ รู้จักดิ นั่นไง เดินมานู้นละ” ไอ้กันต์บุ้ยปากไปที่ผู้ชายคนหนึ่ง ตัวสูงๆ ผิวเข้มๆ หน้าคมๆ หล่อแบบไทยๆ ที่เดินเข้ามาหาพวกเรา
“หวัดดี กันต์ เพลง” ผมรีบยกมือทันที
“สวัสดีครับ”
“ไนท์ ปีสอง พี่รหัสพวกมึงนะ” หยาบมาเลยโดยไม่รู้จักกัน
“ครับ...” มาหาถึงที่โชคดีจริงๆ ไม่ต้องเสียเวลาตามหา
“เดี๋ยวเราจะไปเลี้ยงสายกันนะ พวกลุงรหัสไปจองโต๊ะไว้แล้ว เดี๋ยวอยู่หน้าคณะรอแล้วกัน กูจะไปเอารถมารับ”
“ครับ” ผมตอบรับไม่มีอิดออด ปลดป้ายปุ๊บ แดกเหล้าปั๊บ ดีจริงๆ สายรหัสกู
ผมกับไอ้กันต์เดินมารอพี่ไนท์หน้าตึกคณะ
“เพลง” ผมหันไปตามเสียงเรียกที่ได้ยินบ่อยมากๆ ช่วงนี้
“อ้าว ไอ้คีย์มึงซ้อมเสร็จแล้วเหรอ”
“อืม มึงอ่ะ”
“เรียบร้อย แล้วนี่มึงมาทำไรแถวนี้” ค่ำขนาดนี้แล้วมาทำไรคนเดียวว่ะ
“กู.... นัดไอ้มิวไว้อะ แล้วเดินผ่านมาพอดี พวกมึงอะมายืนรออะไรกัน” มันมองผมสลับไปมากับไอ้กันต์ มารอมิวเหรอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงฟิน และจิ้นไปถึงโลกหน้าแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวนี้เหรอ เฉยๆ อะ
“รอพี่รหัสพาไปเลี้ยงสายอะ นี่ไอ้กันต์แฝดรหัสเดือนสุดหล่อของคณะกู”
“รู้จักกันแล้ว” ไอ้กันต์พูดขึ้น
“อ้าว~”
“เคยไปถ่ายโปรโมทงานเฟรชชี่อะ” ไอ้กันต์คลายความสงสัย
“แล้วพี่รหัสพาไปไหนอะ”
“ยังไม่รู้ว่ะ” ผมตอบไอ้คีย์พอดีกับแสงไฟจากรถสาดเข้ามา
“คันนี้ปะ” ผมหันไปถามไอ้กันต์
“น่าจะใช่” รถจอดเทียบพวกเราก่อนไอ้กันต์จะเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งด้านหลัง
“กูไปก่อนนะ” ผมหันไปบอกไอ้คีย์ที่เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่มันก็ไม่พูด จนผมเข้ามานั่งในรถ มันถึงได้เรียกเอาไว้ก่อนที่ผมจะปิดประตู
“เพลง... ดูแลตัวเองด้วย”
“....อืม” ผมตอบรับสั้นๆ แต่ใจโคตรสั่น แค่คำพูดจากมัน ทำไมมีผลต่อใจแบบนี้ว่ะ ปกติคนเราก็ต้องห่วงเพื่อนอยู่แล้วนิ ใช่ปะ แต่ทำไมกับมัน.....
โอ๊ยยยย ไม่เอา ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้เพลง หยุด! มึงหยุด!
“เป็นเหี้ยไรไอ้เพลง ทึ้งหัวอยู่นั่น มึงโอเคช่ะ”
“โอเคครับพี่” ผมเอ่ยปากตอบพี่มันไป
“พวกมึงก็อย่าลืมก็ถอดเข็มขัดกับเนกไทมหาลัยออกด้วยล่ะ”
พี่รหัสพาพวกผมมาร้านนั่งดื่มชิวๆ พอเดินเข้ามาในร้านทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่พวกเรา เพราะไอ้หล่อสองหน่อข้างๆ ผมนี่แหละ เล่นเอาสาวๆ หันมามองคอแทบเคล็ด ยิ่งมานั่งรวมกลุ่มกับพวกสายรหัสยิ่งแล้วใหญ่ นี่มันงานชุมนุมเทพเจ้าหน้าตาดีชัดๆ ทุกคนหน้าตาดีเกินมนุษย์ปุถุชนทั่วไปเหมือนหลุดออกมาจากอีกโลกหนึ่งเลย ยกเว้นกูเนี่ย ทำไมนั่งเป็นหลุมศพอยู่คนเดียวว่ะ สมกับชื่อสายรหัสมาหาเทพ และคงต่อท้ายด้วยท่าจะบ๊องเพราะมีกูเข้าไปเป็นเด็กง่าวเนี่ยแหละ แต่ละคนหน้าตาอย่างเทพปั้น หุ่นสูงเพรียวอย่างกับนายแบบ แม้ว่าจะไม่พ่วงดีกรีเดือนคณะทั้งหมดก็ตาม ส่วนทางด้านนิสัย หยาบคายสัสๆ ขัดกับหน้าตาโคตรๆ
พวกเรา ชน-ดื่ม ชน-ดื่ม จนผมเริ่มมีอาการมึนๆ ภาพคนตรงหน้าซ้อนทับกันไปหมด ได้ยินเสียงคุยกันจนจับใจความไม่ค่อยได้เพราะทั้งมึนและหูอื้ออึง ใครคนหนึ่งประคองผมเอาไว้แล้วลากออกมาจากร้านเหล้า ผมนั่งมึนเพราะเมามาตลอดทาง และ.. และ.... ครอก~
หนาว~ คือความรู้สึกตอนนี้ ผมควานหาหมอนข้างตัวเองแต่ว่า.... นี่มันคนนี่หว่า ผมลืมตาที่ไม่ค่อยอยากจะลืมเท่าไหร่มองภาพตรงหน้า
ไอ้หน้าหล่อนี่คุ้นๆ ผมกะพริบตาถี่ๆ เพื่อหาโฟกัสอีกครั้ง
“ไอ้คีย์...”
“อืม กูเอง” ทำไมทำหน้าแบบนั้นว่ะ
“มึงมาอยู่ห้องกูได้ไง”
“มุดท่อขี้มา”
“แหวะเหม็น”
“เหม็นกลิ่นปากตัวเอง...?”
“เหม็นขี้หน้ามึง” มันไม่ตอบอะไร เอาแต่ยิ้มเป็นบ้าคนเดียว
ผมพลิกตัวนอนหงายเรียกสติอีกครั้ง เพดานตรงหน้า... อ้าว.. ไม่ใช่ห้องกูนิ
“ที่นี่ไม่ใช่ห้องกูนิ”
“ห้องกูเองแหละ”
“แล้วกูมาอยู่นี่ได้ไง” ใครมาส่งวะ จำอะไรไม่ได้เลย
“ปีนเสาตึกแล้วไต่สายไฟเข้ามา”
“ตอบดีๆ ไม่กวนกูนี่มันจะตายไหม”
“ไม่ตายแต่เหงาปาก”
“ตกลงเรื่องมันเป็นมายังไง เล่า!”
“มึงเมาเหล้า แล้วกูเห็นไอ้กันต์แบกมึงเข้าหอมัน กูเลยไปช่วยมันแล้วพามึงมานอนที่หอกู เนี่ยหอมันอยู่ข้างๆ” ไอ้คีย์เล่าเป็นฉากๆ ให้ผมฟัง
“แล้วไม่ปล่อยให้กูนอนห้องไอ้กันต์ล่ะ”
“มึงจะไปนอนกับแฟนมันหรือไง”
“มันอยู่กับแฟนเหรอว่ะ”
“เออดิ”
“ขอบใจ” ผมพูดขอบคุณแล้วยันตัวลุกนั่ง
“นี่เสื้อมึงเหรอ” ผมถามมัน
“เออดิ”
“กางเกงอะ”
“ของกูเอง”
“มึงเช็ดตัวให้กูด้วย”
“เปล่า มึงละเมอเช็ดตัวเอง จัดการตัวเองหมดเลย บทเพลงก็อตทาเลนต์สัสๆ”
“นี่กูเก่งขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ”
“เก่งสิ ก็กูทำให้มึงหมดเลยไง ตั้งแต่เช็ดอ้วก พามึงเข้าไปอาบน้ำ จัดการแต่งตัวให้มึงเนี่ย”
“งั้นมึงก็เห็นของกูหมดเลยอะดิ” ผมยกมือขึ้นปกปิดเรือนร่างที่ไม่มีส่วนไหนโป๊เปลือยของตัวเอง
“ไม่เหลือ” มันยักคิ้วส่งมาให้ข้างหนึ่ง แล้วไม่ใส่กางเกงในให้กูด้วยว่ะ
“ไม่ต้องอายกูเห็นหมดแล้ว ขาวจั๊วะ”
“สัส!”
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว จะบ่ายอยู่แล้ว” ผมหันมองนาฬิกาหัวเตียง จะเที่ยงอยู่แล้ว โหยยย ขาดเรียนตอนเช้าจนได้ ผมเดินเข้าไปอาบน้ำเอื่อยๆ เดินออกมาก็เห็นชุดนักศึกษาของมัน ที่พาดเก้าอี้ไว้ให้
“ใส่ของกูไปก่อนละกัน เสื้อผ้ามึงยังไม่ได้ส่งซัก ส่วนกางเกงใน ของกูมีแต่ที่ใช้แล้ว จะยืมปะละ”
“ถ้าใช้แล้วซักแล้วก็เอามาแก้ขัดได้กูไม่มีปัญหา”
“แต่กูว่ามีปัญหาว่ะ”
“อย่าบอกว่าที่ซักไว้หมด”
“เปล่า หมายถึงขนาด หนอนน้อยแบบมึงจะใส่ขนาดอนาคอนด้าแบบของกูได้เหรอว่ะ”
“สัส! เอามาเหอะน่า อย่าลีลา” เอามาใส่แก้ไข่ยานไปพลางๆ พอ
.
.
.
.
[มีต่อ]