(ต่อ)
สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการเปิดอกพูดกับพ่อ คือสิ่งที่เขากำลังจะทำ ร้านกาแฟร้านเดิมที่เขาเคยได้เจอกับปรางค์เมื่อหลายเดือนก่อน คือสถานที่นัดแนะในวันนี้
เขายังคงสถานะเพื่อนสนิทให้กับปรางค์ แม้ว่าเธอจะพยายามก้าวข้ามมาหลายครั้งแล้วก็ตาม
เขาไม่เคยบอกปรางค์ว่าเป็นเกย์ ปรางค์เองก็ไม่เคยถาม
พวกเขายังไปไหนมาไหนด้วยกัน เท่าที่สถานการณ์จะอำนวย ซึ่งโหรเข้าใจเรื่องนี้ดี เขาไม่เคยปิดบังหากมีนัดกับปรางค์ น่าแปลกนิดหน่อยตรงที่บ่อยครั้งเขามักจะได้พบกับรชต ทั้งที่ไม่เคยบอกว่าเขาจะไปไหนกับปรางค์
บางทีเขาก็ลืมไปว่า ความบังเอิญมันไม่มีจริง
กุมภ์มาถึงก่อนเวลานัด เขาเลือกที่นั่งด้านในสุด มุมนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ถนัด แมวตัวอ้วนลายสีส้มเดินบนกำแพง แดดอ่อนๆ ส่องผ่านใบของต้นมะม่วง กล้วยไม้ที่เจ้าของร้านปลูกไว้ออกดอกแข่งกัน สวยเสียจนนึกอยากจะถ่ายรูปเอาไว้อวดโหร ผีเสื้อตัวเล็กๆ กระพือปีกหยอกล้อบนกลีบดอกสีสด ในเมืองกรุงก็มีมุมสวยๆ แบบนี้อยู่เหมือนกัน
กาแฟที่สั่งไว้วางกลางโต๊ะ รสขมปนหวานทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้บ้าง อาการง่วงงุนเพราะนอนไม่ค่อยหลับดูเหมือนจะทุเลาลงไปเล็กน้อย
เมื่อคืนเขาเข้าไปหาพ่อ มันยากกว่าตอนที่คุยกับแม่ก็จริง แต่เขาไม่ถอยหลังไม่ได้แล้ว อีกอย่าง มันไม่มีประโยชน์อะไรหากจะดึงเวลาต่อไป
ดูเหมือนสถานการณ์จะเป็นใจเหลือเกิน พ่อสวดมนต์เสร็จเร็วกว่าปกติ ท่านนั่งอยู่บนเตียงกับแม่ ดวงตาที่มองมาตอนที่เขาเปิดประตูเข้าไปไม่ได้แสดงความสงสัยอะไร คล้ายกำลังรอบางอย่าง...จากเขา
การเปิดอกพูดไม่ได้อึดอัดเท่ากับคราวก่อน อาจะเป็นเพราะเขาเตรียมใจไว้นานแล้วบวกกับแรงใจจากโหร...แรงใจที่ปราศจากคำพูดหากแต่เป็นการกระทำ โหรยอมสอบข้าราชการทั้งที่ไม่เคยคิดจะทำ ยอมเรียนปริญญาโทต่อ เขารู้ว่าทั้งหมดนั้นโหรไม่ได้ทำแค่เพื่อตัวเอง ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้โหรเดินขั้นบันไดแต่เพียงลำพัง เขาจะต้องไปด้วย
พ่อมองเขาอยู่ชั่วอึดใจ และเขาก็บอกกับท่านไปว่าเขาเป็นเกย์ ไม่มีอาการตกใจให้เห็น มีแค่สีหน้าเรียบเฉย แม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ บีบมือพ่อเอาไว้ ก่อนจะละมาลูบศีรษะเขาแผ่วเบา เขายกมือขึ้นประนมแล้วก้มลงกราบแนบเท้าท่านทั้งสอง สำนึกในพระคุณและสำนึกในบาปที่ทำให้พวกท่านผิดหวัง พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ส่วนพ่อยังคงนิ่งเฉย ไม่มีคำพูดหรือการกระทำใดๆ ที่ชัดเจน คงเป็นปัญหาให้เขาไปคิดเอาเองว่าท่านคิดอย่างไร และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้มีสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นมาจนถึงตอนนี้
กาแฟหมดไปครึ่งแก้วปรางค์ก็มาคือพอดี เธอยิ้มหวานเป็นการทักทายก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้าม
“สั่งอะไรหรือยัง ให้เราไปสั่งให้ไหม”
“สั่งแล้วล่ะ วันนี้อยากกินชาเขียว” ปรางค์บอก “แล้วนี่นัดเรามาทำไมเหรอ อย่าบอกนะว่าจะให้เราติวบัญชีให้ ได้ข่าวว่าเรียนนิติไม่มีบัญชีนี่นา”
กุมภ์ส่ายหัว นึกเอ็นดูใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของปรางค์ นี่ถ้าหากเขาเป็นชายแท้คงรุกจีบเธอไปแล้ว “เปล่าหรอก ช่วงนี้ป้าเปรมเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอท่านเลย”
“สบายดี กำลังเห่อไปทำบุญแถวราชบุรี ลงทุนตื่นตีสองตีสามเพื่อไปทำบุญ” ปรางค์พูดขำๆ “แล้วน้ากัญญาล่ะ สบายดีไหม พูดแล้วก็คิดถึง เอาไว้วันหลังเราทำคุกกี้ไปฝากดีกว่า นี่เราทำคุกกี้เก่งแล้วนะ มีคนชมด้วยล่ะ”
นอกจากจะเรียนเก่งแล้ว ปรางค์ยังมีฝีมือด้านการทำเบอเกอร์รี่อีกด้วย เขาเคยได้ชิมคุกกี้อยู่ครั้งสองครั้ง รสชาติใช้ได้ หวานหอมกำลังดี
“อืม ถ้าเปิดร้านเมื่อไรเราจะไปอุดหนุนบ่อยๆ นะ”
“แล้วสรุป กุมภ์มีอะไรจะคุยกับเราเหรอ”
“เราเป็นเกย์” กุมภ์ไม่อิดออดให้เสียเวลา เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากที่สุดมาแล้ว อย่างที่เขาว่าหากมีครั้งแรกก็จะมีครั้งต่อไป และมันจะง่ายขึ้น
ปรางค์นิ่งอึ้ง ซึ่งไม่ต่างจากปฏิกิริยาของพ่อกับแม่ ดวงตาของเธอค้างหยุดกระพริบไปพักใหญ่ ความเงียบปกคลุมพวกเขาไปชั่วขณะ เขายื่นมือไปแตะหัวไหล่เล็ก แต่เธอปัดออกแทบจะทันทีเหมือนโดนของร้อน ปรางค์ได้สติในตอนนั้น
“อะ..ไรนะ”
“เราเป็นเกย์ แล้วเราก็คิดว่าปรางค์คงเดามาได้สักพักแล้ว...ใช่ไหมล่ะ” เขาบอก ริมฝีปากคลี่ยิ้ม ไม่ใช่การฝืนทำหากแต่เป็นไปโดยอัตโนมัติ รอยยิ้มแห่งการยอมรับ “เราไม่โกรธหรอกนะถ้าปรางค์จะรังเกียจหรือเลิกคบกับเรา”
“...เพราะโหรใช่ไหม”
คราวนี้เป็นกุมภ์เสียเองที่แปลกใจ ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองสตรีตรงหน้า “พี่โหรเหรอ?”
“เราเห็น...ไลน์ วันที่กุมภ์นอนโรงพยาบาล” สีหน้าของปรางค์นิ่งเรียบ แต่ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนคือแววตาโกรธขึงของเธอ “เพราะโหรใช่ไหมที่ทำให้กุมภ์เป็นเกย์”
กุมภ์ไม่ได้โกรธที่เธอเสียมารยาทแอบอ่านข้อความส่วนตัวของเขา แต่เขาโกรธที่เธอโทษโหร กุมภ์นับหนึ่งถึงสิบ พยายามนึกถึงเรื่องราวดีๆ ที่เคยมีให้กัน ผ่อนลมหายใจเข้าออกให้ลึกพอที่จะดับความร้อนในอกได้
“เราเป็นเกย์ก่อนที่จะเจอพี่โหร”
“ไม่จริง! เราไม่เคยเห็นกุมภ์มีแฟน...”
“เราเคยแอบชอบรุ่นพี่ผู้ชายสมัยเรียนมัธยม” กุมภ์แทรกก่อนที่ปรางค์จะพูดจบ ไม่นำพากับความโกรธที่เพิ่มมากขึ้นทุกทีของเธอ “อย่าโทษพี่โหร เราแค่รู้สึกดีต่อกัน แต่เขาไม่ได้ทำให้เราเป็นเกย์”
“วิปริต” ปรางค์ว่า เสียงของเธอไม่ดังนักแต่หนักแน่นและเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนเขารู้สึกได้ ใบหน้าน่ารัก บัดนี้ถูกโทสะครอบงำเสียจนดูน่ากลัวไม่ต่างจากนางร้ายในละคร “เราจะบอกเรื่องนี้กับน้ากัญญา”
“แม่เรารู้แล้ว” กุมภ์ส่ายหน้า เขารู้ซึ้งจริงๆ ว่าการต่อปากต่อคำกับคนโกรธมันไร้ประโยชน์จริงๆ “ปรางค์จะเอาไปบอกใครก็ได้ว่าเราเป็นเกย์ เราไม่โกรธ เพราะคนที่เรารักที่สุดรู้แล้ว...รวมทั้งปรางค์ด้วย”
ปรางค์มองหน้าเขานิ่ง หยาดน้ำคลอขอบตา ความโกรธดูเหมือนจะผ่อนลง ปลายจมูกของเธอเรื่อง หัวไหล่เล็กสั่นไหวแล้วไม่นานน้ำตาก็ไหลผ่านแก้ม ไม่รู้ว่าเธอเสียใจหรือโกรธเขาจนร้องไห้กันแน่
“...ทำไมล่ะ ฮึก ทำไม กุมภ์ ฮือ ไม่ชอบเรา ฮึก ทั้งที่เรา ชอบกุมภ์มาก ชอบมาตั้งแต่แรกเลย” ปรางค์พูดพร้อมปาดน้ำตา ผู้หญิงที่สวยจนแทบหาที่ติไม่ได้ กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อหน้าเขาอย่างไม่สนใจสายตาคนอื่น “เรา ฮึก ชอบกุมภ์ ฮึก กุมภ์คือรักแรกของเรา เรารอกุมภ์มาตลอดเลยนะ”
คำพูดของเธอทำให้เขาสะท้อนใจ ความผิดอาบรดร่าง จำไม่ได้หรอกว่าสมัยที่ยังเป็นเด็กเขาเคยไปให้ความหวังเธอหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยแสดงออกเลยว่าคิดกับเธอเกินเพื่อน
กุมภ์ก้มหน้า รู้สึกแย่ยิ่งกว่าตอนสารภาพกับพ่อเสียอีก ไหนใครว่าการทำอะไรซ้ำๆ จะทำให้ชินชา แต่ที่เขากำลังเผชิญอยู่นี่มันไม่เหมือนกันสักครั้ง
ครั้งแรกกับแม่ อึดอัดจนอยากจะหายไปดื้อๆ
ครั้งที่สองกับพ่อ เบาหวิวและไร้ความชัดเจน
ครั้งที่สาม รู้สึกผิด
ครั้งสุดท้ายที่แหล่ะที่ทำให้เขาคิดว่าตัวตนของเขามันทำร้ายปรางค์
“ขอโทษนะปรางค์...แต่เราคิดกับปรางค์แค่เพื่อนจริงๆ”
ไม่มีคำตอบรับ มีแต่เสียงสะอื้น กุมภ์ยกมือขึ้นบีบหัวไหล่ของปรางค์ นอกจากคำขอโทกับคำว่าเพื่อนเขาก็ไม่มีอะไรให้เธอแล้วจริงๆ ...
*มาช้าแต่มานะ*
**ปรางค์ไม่ร้ายหร๊อกกกก ปรางค์ก็แค่ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม**
***เหมือน สนพ. อยากจะได้คู่น้องจอมเพิ่ม เดี๋ยวต้องไปคิดพล็อตก่อง***
****ใกล้จบแล้วจ้ะ เหลืออีกไม่กี่ตอน****
*****โปรดติดตามตอนต่อไป*****