Kiss Love ♥ [19] เมา
[กาย...♥] หัวใจผมเต้นโครมครามตอนเดินขึ้นห้อง แต่ไม่เป็นไรหรอก ห้องผมมีโซฟานั่งเล่นอยู่ ให้พี่เอกนอนเตียงแล้วผมไปนอนโซฟาก็ได้
ตอนแรกว่าจะต่อรองไม่ให้พี่เอกทำอะไร แต่ก็เหมือนตัวเองจะร้อนตัวไป พี่เขาอาจไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นก็ได้ เพราะถ้าคิดจริง คงจะทำไปตั้งนานแล้ว ไม่ขอตัวกลับบ้านก่อนหรอก
จริงไหมล่ะ
“ผมไม่มีเสื้อผ้าไซส์ใหญ่ให้พี่เปลี่ยนนะ”
ผมหันไปบอก
พี่เอกพยักหน้าเข้าใจ ผมปล่อยให้พี่แกอาบน้ำก่อน สักพักพี่เอกก็เดินเปลือยท่อนบนออกมา กางเกงเป็นกางเกงสแล็ค ถอดเข็มขัดออกแล้ว คงไม่สบายตัวเท่าไหร่ แต่กางเกงที่ใหญ่มากพอให้พี่แกใส่ได้ก็ไม่มี หุ่นมันคนละไซส์เลย
ผมคว้าชุดนอนตัวโปรดจากตู้เสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวเรียบร้อยออกมา เข็ดจากช่วงเย็นครับ แค่ผมเปลือยท่อนบนนิดเดียว พี่มันยังหื่นแตกขนาดนั้น ป้องกันไว้ก่อน ผมยังไม่อยากเสียเอกราชจริง ๆ
“พี่นอนเตียงไปละกัน”
คือเตียงผมเป็นเตียงเดี่ยว ไม่ใช่เตียงคู่แบบห้องแม่หรือห้องรับแขก
“แล้วนายล่ะ”
ผมชี้ไปที่โซฟาขนาดพอดีตัว
“ได้ไง นายเป็นเจ้าของห้องนะ นอนเตียงด้วยกันนี่แหละ”
ผมทำท่าอึดอัด
“มันเตียงเดี่ยวนะพี่”
“ก็ยังดีกว่านอนโซฟาละกัน มาเถอะ”
แล้วพี่มันก็ลากผมลงไปนอนด้วย
“เดี๋ยวพี่ ขอผมปิดไฟก่อน”
ผมเด้งตัวลุก
ห้องผมไม่ได้หรูแบบห้องพี่เอกที่มีโคมไฟหัวเตียง เพราะงั้นต้องเดินไปปิดไฟที่หน้าประตูก่อน
และตอนนี้ทั่วทั้งห้องก็เหลือไว้แค่แสงอ่อน ๆ จากดวงจันทร์ที่ลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างประดับม่านขาว ผมนอนด้านนอกมีพี่เอกนอนด้านในติดกับกำแพง ห้องข้าง ๆ เป็นห้องแม่ เรานอนอยู่บนเตียงเดียวกันภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
หัวใจผมเต้นโครมคราม พยายามนอนให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะนิ่งได้ หัวไหล่เราแทบจะชิดกันอยู่แล้ว ผมนอนนิ่งลืมตามองเพดานภายใต้ความมืด
“นายรู้เรื่องของไอ้เป้แล้วใช่ไหม”
พี่เอกถามตัดความเงียบขึ้นมา
ผมหันไปมอง
“ฮะ”
พี่มันถอนหายใจแรง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตอนไปเที่ยวกันครั้งล่าสุด ผม…เอ่อ… เข้าไปเห็นตอนพี่เป้กำลังจูบไอ้เต้ยพอดี”
พี่เอกเงียบไปนาน
“แล้วรู้ใช่ไหมว่ามันพยายามตัดใจอยู่”
“อืม รู้ฮะ ผมถึงได้พยายามช่วย สงสารทั้งพี่เป้แล้วก็ไอ้เต้ยด้วย ไม่รู้ว่าจะอดทนกันได้นานแค่ไหน”
พวกเราเงียบกันไปอีกรอบ
“นี่”
พี่มันเรียกตัดความเงียบขึ้นมาอีกที
“ฮะ”
ผมตอบรับเสียงแผ่ว
“นายไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เป้หรือไอ้เต้ยมันใช่ไหม”
“เอ๊ะ?”
ผมขมวดคิ้วมุ่นหันไปมอง เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่เอกยกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้ ผมนอนตัวแข็งทื่อ จ้องหน้าคนที่อยู่ด้านบนเขม็ง แสงจากดวงจันทร์ส่องให้เห็นเสี้ยวหน้าหล่อเหลาได้ลาง ๆ
“ไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เป้หรือไอ้เต้ยมันใช่ไหม”
ผมคิ้วขมวดกับคำถามนั้น
“พี่เป้เป็นรุ่นพี่ส่วนไอ้เต้ยเป็นเพื่อนสนิทผม”
ผมบอกตามจริง
พี่เอกจ้องหน้าผมอยู่นิ่งนาน
คิดอะไรอยู่ถึงได้ถามแบบนี้
ผมกวาดมองไปทั่วโครงหน้าหล่อเหลาสะท้อนแสงจันทร์ของพี่เอก ประติมากรรมมนุษย์ที่เห็นทีไรก็อยากจะคว้ากล้องมาถ่ายสักรูปสองรูป
สักพักพี่มันก็เคลื่อนตัวลงไปนอนที่เดิม ผมถอนหายใจเบา ๆ ค่อย ๆ ตะแคงข้างงอตัวกอดผ้าห่มไว้ ตุ๊กตาที่ปกติจะเต็มเตียง ผมกวาดไปไว้ที่พื้นหมด นอนคนเดียวมีตุ๊กตาได้ แต่พี่มันมานอนด้วยแบบนี้ พื้นที่คงไม่พอ
เคลิ้ม ๆ กำลังจะหลับ ก็รู้สึกเหมือนมีวงแขนมาพาดไว้ที่เอว ผมสะดุ้งเฮือก เอี้ยวหน้าไปมอง เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่เอกยกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้อีกที ผมเกร็งตัว ไล่สายตามองตามตื่น ๆ
พี่เอกไม่ได้ทำอะไร นอกจากจ้องหน้าผมนิ่ง ๆ ภายใต้แสงสว่างเจือจางจากดวงจันทร์
“โทษที พี่นอนไม่หลับ เรานอนไปเถอะ”
“แล้วพี่จะไปไหน”
ผมรีบลุกขึ้นนั่งทันทีที่พี่เอกลุกออกจากเตียง
“ไปเดินเล่นในสวนสักหน่อย นายนอนไปเถอะ”
พี่แกลูบหัวผมเบา ๆ หันหลังเดินออกจากห้องไป
ผมนั่งนิ่งบนเตียง
..หรือพี่แกจะรู้ว่าผมเกร็ง..
ผมล้มตัวลงนอน ข่มซ่อนดวงตาตัวเองไว้ พลิกซ้ายก็แล้ว พลิกขวาก็แล้ว แต่ทำยังไงก็หลับไม่ได้สักที สุดท้าย ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่ง สลัดผ้าห่มทิ้งไว้ข้างตัวลุกเดินไปเปิดไฟ จับลูกบิดหมุนเปิดประตูออกเป็นจังหวะเดียวกับที่ใครอีกคนหมุนเปิดประตูเข้า มาพอดี
พี่มันทำหน้าแปลกใจที่เห็นผมยังตื่นอยู่
“คิดว่านอนไปแล้วซะอีก”
“เป็นห่วงพี่”
พี่มันถอนหายใจแรง งับปิดประตูลงจนได้ยินเสียงกริ๊กของลูกกลอนเบา ๆ
“พี่ไปสงบอารมณ์มา”
ผมคิ้วขมวด
สงบอารมณ์?
เพื่ออะไร?
คิ้วผูกโบว์ของผมคงเป็นคำถามที่ดีแทนคำพูด
“พี่ไม่อยากทำอะไรนาย ไม่อยากให้นายตื่นกลัว”
ผมขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเดิมไปกับสิ่งที่ได้ยิน ปกติเคยห่วงกูด้วยเหรอฟะ เห็นทีไรจับจูบเอาจูบเอา เมาแล้วกลายร่างเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมารึไงฮึ
“พี่ไม่อยากทำอะไรนายตอนพี่เมา…”
พี่มันหยุดคำพูดไว้ ผมจ้องหน้าพี่มันงง ๆ
“เพราะถ้าพี่ได้เริ่มแล้ว…มันหยุดยาก”
พี่เอกก้มกระซิบข้างหูก่อนรวบตัวผมเข้าไปกอด ผมตาโตรีบถอยหลังอัตโนมัติ แต่ก็ช้ากว่าวงแขนแกร่งที่รั้งเอวผมกลับไปอีกรอบ พี่แกดันจนผมติดกำแพงใกล้ประตู ก่อนโหมจูบลงมาหนัก ๆ
ทำไมกูต้องเล่นบทเป็นนางเอกโดนพระเอกข่มขืนด้วยวะ
ผมรู้สึกหวาดหวั่นกับท่าทางแปลก ๆ ของพี่เอก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย ไหงกลับมาอีกทีกลายเป็นงี้ไปได้ ผมดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นหลังผมยิ่งถูกดันจนติดกำแพงมากขึ้น สักพักพี่แกก็ดันจนผมถอยหลังลงไปนอนบนเตียง ผมพยายามจะลุก แต่พี่เอกทิ้งตัวลงมานั่งคร่อมหน้าขาผมไว้ ผมมองหน้าพี่เอกตื่น ๆ
ดวงตาคมนิ่งเอามาก ๆ ทั้งที่ปกติออกจะแพรวพราวส่อแววหื่นออกมาชัด ๆ ผมกลัวสายตาแบบนั้นจริง ๆ
พี่เอกถอดเสื้อผมออก ขึงจนตึงก่อนนำมันมามัดข้อมือผมไว้ด้วยกัน ผมมองพี่เอกหน้าตื่นยิ่งกว่าเดิม
“พี่เอกจะทำอะไรน่ะ!!”
พี่มันไม่ตอบครับ ยิ่งนิ่งผมยิ่งกลัว ผมพยายามดันตัวจะลุก แต่พี่มันกดหน้าอกผมไว้ด้วยฝ่ามือเดียว
แรงจะเยอะไปไหน
แล้วพี่แกก็ใช้มืออีกข้างถอดกางเกงผมออก ทันทีที่ผิวเนื้อสัมผัสอากาศ ผมรีบห่อตัวเข้าหากันทันที
พี่เอกละมือจากหน้าอกผมไปถอดเสื้อตัวเองออกบ้าง ผมรีบอาศัยจังหวะนั้นกระเถิบตัวถอยหนี พลิกตัวคว่ำหน้าหวังก้าวลงจากเตียง แต่ยังไม่ทันได้ทำดั่งใจ มือใหญ่ก็คว้าข้อเท้าผมไว้ กระชากทีเดียวผมก็มานอนแหมะคว่ำหน้าอยู่ที่เดิม
ผมรีบค้ำสองมือที่ถูกมัดไว้กับพื้นดันตัวหวังจะลุก ก่อนจะทรุดฮวบลงไปหาที่นอนอีกรอบเมื่อมีแผ่นอกกว้างมาทับหลังไว้
หมดสิทธิ์ขัดขืนครับ
แต่ผมก็ยังไม่ยอมแพ้ดิ้นขลุกขลักหวังผลักพี่มันออก พี่เอกไม่พูดโต้ตอบอะไร นอกจากไล้ฝ่ามือไปมาสลับกับบีบเค้นท่อนแขนผมแรงจนเจ็บ ปากร้อนก็ไม่หยุดนิ่งพรมจูบไปทั่วตั้งแต่แผ่นหลังขึ้นมาที่ลำคองับเบา ๆ ที่ใบหูจนขนลุกซู่แล้วเลื่อนลงไปงับแรง ๆ ที่ลำคออีกที
“พี่เอก ปล่อย!!”
ผมพยายามห้าม แต่พี่แกไม่หยุดยังพรมจูบอยู่อย่างนั้น
พี่เอกจับเอวผมยกขึ้นให้คุกเข่า จับสองขาผมแยกออกกว้าง จ่อความแข็งขืนไว้ที่ปากทางเข้า ผมพยายามขยับเคลื่อนตัวไปด้านหน้า แต่พี่แกจับสะโพกผมไว้ดึงเข้าหาตัว ซ้ำยังดันบางส่วนเข้ามาไม่ยอมหยุด
ตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวพี่เอกเอามาก ๆ
“พี่เอกอย่าทำแบบนี้!! ปล่อย!!”
ผมตะโกนห้ามทั้งยังพยายามขยับตัวออก
แต่สองมือยังไร้อิสระ แถมสะโพกยังถูกยึดแน่นทำให้ขัดขืนอะไรไม่ได้ ผมเกร็งร่างกายไม่ให้ความร้อนผ่านเข้ามา
พี่เอกละมือจากสะโพกจับสองขาผมแยกออกกว้างกว่าเดิม ผมเผลอตัวคลายความเกร็ง และทันทีที่ทำแบบนั้น ผมก็ต้องกรีดร้องเสียงหนัก เมื่อความร้อนที่จ่อรอไว้อยู่ถูกดันพรวดเข้ามาจนสุดทางในหนเดียว
ผมอ้าปากค้างปล่อยให้ลมหายใจและเสียงครางแผ่ว ๆ เป็นเครื่องระบายความจุกเจ็บที่ถาโถมเข้ามา หัวใจถูกบีบให้เต้นเร็ว ลมหายใจหอบกระชั้น สมองวูบโหวงว่างเปล่า
ยังไม่ทันที่ร่างกายจะได้คลายตัว พี่เอกก็ดึงร่างตัวเองออกแล้วใส่กลับเข้ามาใหม่จนผมต้องกรีดร้องอีกรอบ
“พี่เอก.. เบา ๆ!!”
ผมพยายามร้องขอเมื่อจังหวะถูกใส่ลงมาเร็วและแรงจนเกินไป
“อืม.. กาย”
พี่มันครางเสียงพร่า
แต่แทนที่พี่แกจะเบาตามคำขอกลับใส่จังหวะหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม ผมแนบหน้ากับที่นอนไถลขึ้นลงตามจังหวะโหมนั้น
‘เพราะถ้าพี่ได้เริ่มแล้ว…มันหยุดยาก’
ผมเข้าใจความหมายของพี่มันทันที
จังหวะเริงรักถูกสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ผมไม่รู้ว่าผมไปถึงปลายทางกี่รอบ รู้แค่ว่าพี่เอกจะรุนแรง เร่าร้อน
...แล้วก็เงียบ
..
..
..
ผมลืมตาตื่นอีกทีตอนตะวันยามเช้าแยงตา หลอดไฟบนเพดานยังคงส่องสว่าง เมื่อคืนหลับไปโดยไม่ได้ปิดไฟ ผมพลิกหน้าไปด้านข้าง จนเห็นแผงอกกว้างเปลือยเปล่าของใครบางคน ผมเงยหน้ามองเจ้าของแผงอกนั้น พี่เอกนอนหายใจสม่ำเสมอ แขนซ้ายหนุนหัวราบไปกับหมอน ส่วนแขนขวาเกี่ยวไว้ที่เอวผมหลวม ๆ
โดนกอดกี่ที ๆ ก็รู้สึกเหมือนแขนพี่มันเป็นปีกนกเลยแฮะ
… ถ้าไม่เมาแล้วบ้าระห่ำจนน่ากลัวแบบเมื่อคืนน่ะนะ…
แค่ผมขยับตัวเบา ๆ มันก็เจ็บร้าวไปทั่วทั้งท่อนล่าง ผมเพิ่งได้นอนตอนเกือบตีห้า ตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เวลาตื่นนอนของผมเอง ต่อให้นอนดึกขนาดไหนก็ตื่นเวลานี้
พี่เอกคงเหนื่อยจัด ขนาดผมขยับยังไม่รู้สึกตัวเลย ผมพยายามขยับตัวลุกให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร่างกายเหนียวเหนอะไปหมด อยากไปล้างตัวครับ ลูกนับล้านของพี่เอกคงเน่าอยู่ในตัวผมแล้ว
กำลังจะหลุดออกจากเตียง แต่แรงเกี่ยวจากวงแขนใหญ่รั้งผมลงไปนอนอีกรอบ พี่เอกพลิกตัวคร่อมร่างผมไว้ เรียวคิ้วเข้มขมวดหนักจนใบหน้าดูตึงเครียด
ผมตาโตจ้องหน้าพี่มันหวั่น ๆ
นี่พี่แกสร่างเมารึยัง
“เจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ ลุกทำไม”
พี่แกถามกลับเสียงนุ่ม
พูดได้ยาวขนาดนี้ แปลว่าสร่างเมาแล้วใช่ไหม
ผมหลุบเปลือกตาลงต่ำหลบหนีดวงตาคม
“ผมเหนียวตัว อยากอาบน้ำ”
“เดี๋ยวพี่พาไป”
ผมเงยหน้าสบตาพี่มัน
“ไม่เป็นไร ผมไปเองได้”
“พี่พาไป”
ดื้อจริงวุ้ย
สุดท้ายผมต้องยอมให้พี่แกพยุงตัวเข้าห้องน้ำไป
คือจริง ๆ แล้วกูอาย กูโป๊อยู่ มึงสำนึกบ้างสิ มึงมีกางเกงอยู่ แต่กูถูกปลดเอกราชทิ้งไปตั้งแต่เมื่อคืน
เมื่อคืนพี่แกมีอะไรกับผมโดยไม่ยอมถอดกางเกงฮะ
เอ่อ..คือ…ปล่อย แค่ส่วนนั้นออกมา พอใช้งานเสร็จก็เก็บเข้าที่ ตื่นเช้ามาพี่แกเลยอยู่ในสภาพกึ่งสมบูรณ์ ท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างเป็นกางเกงนักศึกษา ซิปเปิดอ้ากระดุมหลุดออกจากรัง เผยลิงขาวขอบดำรำไร
สรุป พี่มันยังเท่อยู่ แต่ผมนี่สิ .. เดินห้อยต่องแต่ง
บอกได้คำเดียว…โคตรอาย
ผมอาบน้ำโดยมีพี่เอกยืนอาบอยู่ข้าง ๆ ผมหันหลังให้พี่แก ไม่มองหน้า ไม่มองตัว ไม่มองอะไรทั้งนั้น คิดซะว่าอาบอยู่คนเดียว
“พี่เอกออกไปก่อนได้ไหม”
ผมตัดสินใจบอกหลังจากยืนขัดตัวจนแทบจะเปื่อยอยู่นาน
พี่แกหันมามองด้วยความแปลกใจ
แล้วรายนี้จะอาบนาน ๆ ตามกูทำไมวะ
“คะ คือผมจะทำความสะอาด…”
ส่วนนั้นนั่นแหละ 0///0
พี่แกเล่นปล่อยข้างในซะหมด ไม่ล้างออกคงไม่ดี พี่มันพยักหน้าเข้าใจ แล้วปล่อยให้ผมยืนอาบอยู่คนเดียว
พอออกจากห้องน้ำไป ก็เห็นพี่เอกยืนเท่เปลือยท่อนบนอยู่ข้างหน้าต่าง ผมพยายามเดินให้เนียนที่สุดไปหาเสื้อผ้าใส่
ทั้งที่ใจอยากตะโกนออกมาดัง ๆ …
กูเจ็บตูดโว้ย T^T
“กาย”
พี่เอกเรียก ผมหันไปมอง พี่แกทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง ...ก่อนเงียบไป
“อย่าลืมใส่ชุดที่พี่ซื้อให้นะ”
ผมขมวดคิ้ว
“เอาไว้ซักก่อนละกันฮะ”
พี่มันพยักหน้าเข้าใจ พอผมแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปข้างล่าง โดยมีพี่มันเดินโป๊ท่อนบนตามมา
ข้างล่างเงียบครับ ยังไม่มีใครตื่น ผมกวาดมองไปรอบ ๆ จนเห็นไอ้เต้ยเดินหัวฟูลงบันไดมา ซ้ำยังลากพี่มันลงมาด้วย นิสัยมันเหมือนแมว กอดแขนพี่มันแน่นหนึบเลย
“แปรงฟันยังมึง”
ผมถาม
ไอ้เต้ยพยักหน้าขึ้นลงหงึก ๆ
“แปรงแล้ว ล้างหน้าอาบน้ำแล้วด้วย”
มันยีปากจนเบี้ยวให้ดูฟันขาว ๆ ภายใน
ผมหัวเราะ เดินไปปัดเรด้าร์บนหัวมันลงมา ปกติเวลาที่มันมาบ้าน มันจะนอนกับผมตลอด เราคบกันมานาน ผมก็รักมันเหมือนน้อง แม่ก็รักมันเหมือนลูกอีกคนหนึ่ง เพราะมีมันอยู่ด้วยนี่แหละ แม่ถึงได้ไว้ใจให้ผมอยู่กรุงเทพคนเดียว อย่างน้อยมีอะไรก็อาศัยฝากฝังมันได้บ้าง (จริง ๆ แม่ก็พูดหรูหราไปงั้นแหละ แกอยากไปซะอย่าง ต่อให้ทิ้งลูกให้อยู่คนเดียว แกก็ทำ - - )
ผมไม่ค่อยไปบ้านมันเท่าไหร่หรอก แต่มันน่ะมาบ้านผมบ่อย เรียกได้ว่าแม่ไม่อยู่เมื่อไหร่ มันก็โผล่
“กาย กูอยากกินข้าวต้มกุ้ง”
ไอ้เต้ยมันอ้อน
ปกติแม่จะทำกับข้าวไว้ให้เราสองคนทาน พอแม่ไม่อยู่ ผมก็ต้องทำหน้าที่นี้แทน
“งั้นมึงมาช่วยกูแกะกุ้งละกัน”
มันพยักหน้า ปล่อยแขนจากพี่มันเดินมากอดคอผมแทน ไอ้นี่มันชอบนัวเนีย
มึงน่าจะไปเกิดเป็นแมวซะเลยนะ
เราสองคนพากันเดินเข้าครัว โดยมีหมียักษ์สองตัวเดินตามมาด้วย ผมอยากจะถามว่า แล้วพวกพี่จะตามเข้ามาด้วยทำไม
พี่เป้คงกำลังเบลออยู่ แต่ไอ้หมียักษ์ข้างผมนี่สิ
ผมไม่ได้สนใจ เดินไปหยิบหม้อมาเตรียมทำข้าวต้ม ต้องทำเผื่ออีก 8 ชีวิตที่เหลือด้วย พอเตรียมของเสร็จ ผมก็ลงมือตั้งหม้อปรุงรสตามสูตรของแม่ทันที
TBC…
หายไปนาน เหอๆ อยากมาลงเหมือนกันแต่มิมีเวลาเลย ภารกิจรัดเอวจนกิ่ว คิดฮอดคนอ่านที่นี่ทุกคน อิอิ ^^
ปล. ให้กำลังใจบ้านคนน้ำท่วมค่ะ ^^
คีส ๆ ทุกคน ^^
ต้องการหนังสือก็จิ้ม ๆ เลยค่ะ ^^ facebook.com/memew28 ^^