ตอนที่ 64 บทเรียนของความรัก1
ปกแข็งสมุดโน๊ตสีแดงกำมะหยี่ค่อยๆ ถูกเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ลายมือที่คุ้นตา ซึ่งเป็นลายมือของคนที่เปิดมันขึ้นมา ค่อยๆ ปรากฎขึ้นอย่างมากมาย
"ไม่จริ้ง..............."
ปวดหัวจัง ทำไมถึงปวดอย่างนี้นะ ปวดจนน้ำตาไหลเลยด้วยซ้ำ ดวงตาในตอนนี้ก็เริ่มพร่ามัวมากขึ้น เนื่องจากน้ำในตาที่เริ่มเอ่อท้นขึ้นมา มันเป็นเพราะอะไรเนี่ย แล้วตอนนี้ตัวเรากำลังทำอะไรอยู่กันนะ หนังสือเล่มนี้มันคืออะไร แล้วทำไมมันถึงทำให้เราปวดหัวและปวดใจได้ขนาดนี้
ทันทีที่หน้าที่สองถูกเปิดขึ้นมา ตัวอักษรต่างๆ ปรากฎอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น พร้อมกับความทรงจำที่เคยลืมไปแล้วค่อยๆ ปรากฏตามมาอย่างไม่ขาดสาย
"โอ้ย.... ปวดหัว เฟยปวดหัว ปวดหัวจริงๆ ปวดมากๆ ทำไมต้องปวดนะ ไอ้สมองบ้า ทำไมต้องปวดด้วย" ผมสบทกับตัวเอง พร้อมกับทุบที่ขมับเพราะหงุดหงิดกับอาการปวดหัวที่เกิดขึ้น
ความทรงจำหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง ค่อยๆ แล่นผ่านเข้าสู่สมองอย่างท่วมท้น ความทรงจำที่มากมาย ไหลผ่านสมองอย่างไม่ขาดสาย พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรินเป็นสายทางออกจากดวงตาที่เคยเหม่อลอยก่อนหน้านี้
--- ทฤษฎีความรัก by เฟย
ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้
แต่ถึงกระนั้น เราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริง
ใช้พลังชีวิตในการขับเคลื่อนตลอดเวลา
เป็นสิ่งที่มีพลังงานในตัวของมันเอง
เข้าใจยาก และมีพลังทำลายล้างสูง
ไร้ทางแก้ไข และไร้ทางป้องกัน
"เวย์ .. เวย์ .. ไอ้กอริล่า ไอ้เวย์ .. ฮือ ..ฮือ.. ไม่จริง มันต้องไม่จริง มันต้องไม่เป็นแบบนี้" เสียงสั่นเครือ พร้อมๆ กับอาการปวดหัวที่ทวีความรุณแรงมากขึ้นจนแทบทำให้ขาดใจ บวกกับอารมณ์ที่พุ่งพล่าน และความเศร้าเสียใจจากสิ่งที่ต้องรับรู้ แต่ถึงกระนั้นยังไง มันก็คือเรื่องจริงที่ต้องรับมัน
อาการปวดหัวค่อยๆ บรรเทาและทุเลาลง พร้อมกับน้ำตาและความเศร้าเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กำลังเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกรัก ความรู้สึกผูกพัน หลั่งไหลเข้ามา พร้อมๆ กับความเสียใจที่ต้องรับเรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้น สิ่งที่เคยลืมเลือนมันไป ค่อยๆ กลับมาให้เห็นอย่างชัดเจน
"เมื่อไหร่จะหายซักที หม่าม้าจะไม่ไหวแล้วนะลูก กลับมาหาหม่าม้าได้ไหม"
ผมหันข้างไปมองที่ต้นเสียงที่เปล่งคำพูดนี้ออกมา ภาพที่เห็นตรงหน้าคือแม่ของผมกำลังร้องไห้ฟูมฟาย แม่ซึ่งเคยอันเป็นที่รักของผม ที่ๆ เคยเข้มแข็งและมีชีวิตชีวา ทำทุกอย่างได้เพื่อผม ตอนนี้กลับร้องไห้เหมือนคนแทบจะไร้สติ หมดสภาพความเข้มแข็งที่ผมเคยเห็นมาก่อนหน้านี้อย่างลิบลับ
ผมยืนมือลงไปกอดแม่ผมที่นั่งอยู่บนพื้นข้างๆ ตัวผม
"หม่าม้าเป็นอะไร ใครทำหม่าม้า ทำไมหม่าม้าต้องร้องไห้ หนูอยู่ตรงนี้แล้วนะ หนูอยู่ข้างๆ หม่าม้าแล้ว หม่าม้าอย่าร้องนะ" ผมปลอบประโลมแม่ผมเพื่ออยากให้หายจากอาการเศร้า โดยที่ไม่รู้เลยว่า ความเศร้าที่แม่ผมมีอยู่ในตอนนี้ คือความเศร้าเสียใจที่มาจากตัวผมทั้งนั้น
แม่ผมมองกลับมาด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก และตกใจอย่างสุดๆ ผมหันกลับไปมองพี่ใหญ่ซึ่งตอนนี้อยู่ถัดจากแม่ผมไปไม่กี่ก้าว ทั้งสองดูแววตาตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน
"หนูจำหม่าม้าได้แล้วหรอ? จำได้แล้วใช่ไหม หนูกลับมาแล้วใช่ไหม" แม่ผมพูดพร้อมกับจับใบหน้าผมเบาๆ
"จำได้สิ ทำไมหนูจะจำไม่ได้ หม่าม้าก็คือหม่าม้าของหนู แล้วนั่นก็พี่ใหญ่ หม่าม้าพูดอะไร หนูไม่เข้าใจ" ถึงอย่างไรก็ตาม ถึงผมจะมีน้ำในตาที่ไหลออกมาซักแค่ไหน แต่ถึงกระนั้นความเศร้าเสียใจ และการร้องไห้ของแม่ผม มันก็ยังคงทำให้ผมเลือกที่จะสนใจในสิ่งนี้มากกว่าสิ่งอื่นใด
"โอ้ย.... หนูปวดหัวอะ หม่าม้า โอ้ย..... ปวดมากอีกแล้ว ทำไมต้องมาปวดด้วยนะ
"หนูเริ่มจำได้แล้วใช่ไหม หนูความจำเสื่อมเพราะว่าเพื่อนหนูจากไป" แม่ผมค่อยๆ อธิบาย
ใช่สิ ตอนนี้เวย์จากไปแล้ว และผมก็รับรู้เรื่องครั้งสุดท้ายตอนที่กอดร่างไร้วิญญาณของเวย์ที่โรงพยาบาล แต่แล้วตอนนี้ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ แล้วพี่ใหญ่มาอยู่ได้อย่างไร แล้วทำไมแม่ผมต้องร้องไห้ด้วย
"โอ้ย... ปวดอีกแล้ว" ผมเริ่มกุมขมับตัวเองอีกครั้ง
แม่ผมเริ่มเข้ามากอดผมและลูบหัวผมพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างมากมาย พี่ใหญ่ได้แต่ยืนอยู่ห่างๆ แต่ก็ยังคงมีน้ำตาคลอ
"ค่อยๆ คิดนะ ลูก จำไว้นะ ว่ายังไงหม่าม้าก็ยังอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆ หนูเสมอ" แม่ผมพูดพร้อมกับลูบหัวผมอย่างต่อเนื่อง
ผมยังคงปวดหัวอยู่แต่ค่อยๆ เริ่มเบาบางลง ฉากเก่าๆ เริ่มย้อนมาอีกครั้ง พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรินอีกรอบ และสติที่เริ่มจะเลือนลาง
-- ไม่ได้ เราจะเป็นอะไรอีกไม่ได้ เราจะต้องไม่ให้หม่าม้าเป็นห่วงอีกไม่ได้ -- เสียงจากจิตใต้สำนึกบอกกับผมแบบนี้
ผมค่อยๆ หายใจเข้าออกแบบลึกๆ เพื่อครองสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่น้อยลง ผมเริ่มประคองตัวให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติและค่อยๆ เรียบเรียงความคิดที่ท่วมท้นอยู่ในสมอง ให้จัดเรียงอย่างเป็นที่เป็นทาง พร้อมกับสูดหายใจเข้าออก อย่างช้าๆ เพื่อตั้งสติให้มากขึ้น
ผมค่อยๆ ทบทวนเรื่องราวต่างๆ อย่างช้าๆ ทีละเหตุการณ์ อาการปวดหัวเริ่มเบาบางลงจนแทบจะไม่เหลือแล้ว เหลือเพียงแค่อาการปวดจิ๊ดๆ บ้างบางระยะ แต่ผมก็ยังสามารถทนมันได้อยู่
ผมค่อยๆ หันหลังกลับไปสวมกอดแม่ผม และร้องไห้อย่างมากมายแบบที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะร้องไห้ได้ขนาดนี้
"เขาไปแล้วอะหม่าม้า เขาไม่อยู่กับหนูแล้ว หนูจะทำยังไง หนูไม่เหลือใครอีกแล้ว หนูรักเขาอะ หนูรักเขา หม่าม้าได้ยินไหม ว่าหนูรักเขา" ผมพูดคำนี้ออกมาพร้อมกับร้องไห้ที่อกหม่าม้าผม และเพิ่มแรงกอดให้มากขึ้นไปอีก
"ไม่เป็นไรนะ หนูยังมีหม่าม้า มีพี่ของหนู ที่รักหนู หนูต้องรับความจริงนะลูก" แม่ผมยังคงร้องไห้และกอดผมไว้ด้วยแรงที่มากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน มืออีกข้างลูบไล้ไปตามหน้าตา
"ฮือ .. ฮือ .. มันไม่จริงใช่ไหมหม่าม้า มันต้องไม่จริงใช่ไหม หนูแค่ฝันไปเท่านั้นใช่ไหม" ผมยังคงรับความจริงที่พึ่งรับรู้นี้ไม่ได้อยู่ดี
ไม่รู้ว่าผมร้องไห้นานเท่าไร แต่นั่นก็นานมากพอที่จะทำให้ผมปวดตา และเสียงแหบพร่าลงไป ร่างกายผมเสมือนคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง และตอนนี้ผมแทบจะเหมือนคนที่เสียสติเพราะต้องยอมรับเรื่องที่รับรู้
ผมค่อยๆ ตั้งสติ เพื่อกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง ไออุ่นจากอกแม่ยังคงถ่ายทอดมาที่ผมอย่างไม่ขาดสาย และถึงผมจะเริ่มหยุดร้องไปแล้ว แต่ผมยังรับรู้ถึงความสะอึกสะอื้นของคนผู้ซึ่งเป็นแม่ผม ซึ่งกอดผมอยู่ในเวลานี้ ตอนนี้เขาคงทรมารมากกว่าผมหลายเท่านัก
ผมค่อยๆ คลายอ้อมกอด และจับมือแม่ผมสองข้าง
"หนูไม่เป็นไรแล้วหม่าม้า หนูจะทำใจยอมรับมันนะ ถึงหนูรู้ว่ามันยาก แต่หนูต้องทำให้ได้ เพื่อหม่าม้า และเพื่อพี่ๆ ของหนู" ผมค่อยๆ บอกแม่ผมด้วยเสียงที่ยังสั่นเครือและแหบพร่า
"ดีลูก ดีแล้ว แค่นี้หม่าม้าก็ดีใจมากมายแล้ว แค่หนูกลับมา แค่หนูอยู่กับหม่าม้าตรงนี้ หม่าม้าก็เพียงพอแล้วลูก" แม่ผมค่อยๆ หยุดร้องไห้พร้อมกับ ลูบไล้ใบหน้า เพื่อเช็ดน้ำตาของผม และหอมแก้มผม
ความอบอุ่นที่ถูกถ่ายทอดมา มันมากมายกว่าคำพูดหลายเท่านัก ตอนนี้ความอบอุ่นอันนี้ มันเป็นเสมือนพลัง และแรงใจที่ผลักดันให้ผมต้องรับความจริงและเข้มแข็งให้ได้
แต่ถึงยังไงผมก็ยังคงเศร้าเสียใจกับเรื่องที่รับรู้อยู่ดี และตอนนี้ผมเริ่มอยากกลับไปทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ผมอยากรับรู้ให้มากกว่านี้ ผมอยากจดจำเรื่องราวเขาให้ได้มากกว่านี้
"หม่าม้า หนูไม่เป็นแล้ว หนูขออยู่คนเดียวได้ไหม" เมื่อผมรู้สึกดีขึ้น แต่ยังไงซะผมก็ยังอยากที่จะรับรู้เรื่องราว ผมจึงขอความเป็นส่วนตัวจากแม่ผมทันที
"ไม่เอานะลูก อย่าพึ่งคิดอะไรเลย นอนซะ ตื่นมาแล้วทุกอย่างจะต้องดีขึ้นนะลูก" แม่ผมยังคงไม่ยอม อาจจะเป็นเพราะแม่ผมยังคงกลัวเรื่องที่ผมเคยเป็น ถึงตอนนี้ผมดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังคงมีความกลัว ความระแวงอยู่ในใจ จึงไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียว
"เฟยขอร้องนะครับหม่าม้า เฟยอยากอยู่คนเดียว" ผมยังคงอ้อนวอนแม่ผม
แม่ผมยังคงทำสีหน้าที่ไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียวเช่นเคย แต่ก็ต้องยอมต่อผม เพราะสีหน้าผมในตอนนี้ผมแสดงอาการยืนยันแบบนั้นจริงๆ และแม่ก็สมควรที่จะเชื่อผมในเวลานี้
"งั้นแม่ให้พี่ใหญ่อยู่เป็นเพื่อนนะ พี่ใหญ่เขาจะไม่กวนลูกเลย เขาจะอยู่เงียบๆ แค่ดูอยู่ห่างๆ เผื่อหนูเป็นอะไร จะได้ช่วยทัน" แม่ยังคงทิ้งท้ายด้วยทางเลือกอีกทางนึง
ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่หันไปมองพี่ใหญ่ที่แสดงแววตา และสีหน้าที่อ้อนวอนอย่างจริงจัง ผมคงต้องยอมในข้อเสนอนี้
ผมพยักหน้าเล็กๆ ให้แม่ ก่อนที่แม่จะหอมแก้มและหน้าผากผม ลูบหัวผม และเดินออกไป
ผมมองหน้าพี่ใหญ่เนื่องจากอาการงงๆ ในเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าเขาเข้ามาอยู่กับผมได้อย่างไร แต่ผมก็เลิกที่จะคิด เพราะผมต้องมีเรื่องที่จะทำต่อจากนี้
สายลมจากเครื่องปรับอากาศเริ่มเข้ามาแทนที่ความร้อนชื้นภายในห้อง เสียงรถราเริ่มเงียบหายไป เพราะพี่ใหญ่จัดการกับมัน และนั่งบนเตียงนอน สายตามองตรงมายังที่ผม
ผมละสายตาคู่นั้น กลับมาที่สมุดโน๊ตสีแดงปกกำมะหยี่ที่อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนเดิม
l ทฤษฎีความรัก by เฟย l
l ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ l
l แต่ถึงกระนั้น เราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริง l
l ใช้พลังชีวิตในการขับเคลื่อนตลอดเวลา l
l เป็นสิ่งที่มีพลังงานในตัวของมันเอง l
l เข้าใจยาก และมีพลังทำลายล้างสูง l
l ไร้ทางแก้ไข และไร้ทางป้องกัน l
น้ำตาเริ่มไหลรินออกมาอีกครั้ง หลังจากที่มันเหือดแห้งไปแล้ว ความรู้สึกรัก ความรู้สึกผูกพันทวีเพิ่มมากขึ้น เมื่อได้อ่านหน้าแรกจบไป หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างกำลังบ่งบอกว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และต้องยอมรับมันให้ได้ ภาพเก่าๆ ย้อนไหลมาเป็นสายน้ำ พร้อมๆ กับความปวดใจที่เข้ามาทดแทนความรู้สึกทั่วร่าง มือทั้งสองข้างของผมแทบจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แผ่นหลังเริ่มสะอึกสะอื้น
"เวย์... ทำไมต้องจากไปด้วย เวย์ทำแบบนี้ได้ยังไง" ผมเริ่มร้องไห้กับตัวเอง
มือค่อยๆ เลื่อนเปิดแผ่นต่อไปอย่างช้าๆ
--- สมุดเล่มนี้ เขียนไว้เพื่อคนที่กรูร้าก
ไอ้คิ้วปลิง ไอ้คิ้วเข้ม ไอ้อ้วน ไอ้กอริร่า << เนี่ยหล่ะ ชื่อของมาน
(อย่าน้อยใจนะจ๊ะ ถึงไงเค้าก็รักตะเองน้า)
เขาคนนี้สอนความรักให้ผมได้เรียนรู้ ทำไมหน่ะหรอ?
ผมไม่เคยได้รับรู้ความรักเลยนะสิ มีแต่ความอะไรก็ไม่รู้
แต่ตอนนี้ ผมได้เจอความรักแล้วคร้าบ
ขอบคุณ เวย์ จิงๆ น้า ที่สอนเค้า แฮะๆ ---
--- บทเรียนที่ 1 ความรำคาญ
แกอะจะชอบเข้ามาวนเวียนในที่ที่กรูอยู่ และก็ชอบวุ่นวายกับเรื่องของกรู
แต่พอนึกๆ ดูอีกที มันก็เริ่มรำคาญ แต่ความรำคาญ เนี่ยหล่ะ
มันเป็นสิ่งที่ทำให้กรูคิดถึงแกร (ไอ้คิ้วปลิง)
แกรรู้ไหม ข้าเคยรำคาญแกรมากๆ เลยด้วย
(ตอนที่รับน้องอะ แกรชอบจุ้นจ้านกับชีวิตฉาน)
อยากจะบอกว่า กรูโตแล้วนะ ดูแลตัวเองได้ ไอ้บร้า ---
--- บทเรียนที่ 2 ใจเต้นโครมคราม
แกรอ่ะชอบเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว รู้หรือเปล่าว่ามันทำให้ข้าใจเต้นแรงนะเว้ย
แกรจะรู้ไหมเนี่ย ว่าข้าแอบชอบแกรตั้งแต่เห็นคิ้วแล้วเฟ้ย
คนอะไร !! คิ้วเข้มฉิบหายเวย
พอใจเต้นแรง ตอนแรกๆ ก็ยังงง ๆ อยู่เหมือนกันนะ
แต่ตอนนี้พอจะเข้าใจและว่าทำไมใจเต้นแรก
เพราะข้าตื่นเต้นที่ต้องอยู่ใกล้ๆ แกรไง ไอ้ที่ร้ากสสสสสสสสสสสสส ---
--- บทเรียนที่ 3 แคร์ความรู้สึก
แกรมันอะโรคจิต ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย
ตั้งแต่ตอนฝากกระเป๋าและ ตอนแรกๆ ก็คิดว่ากลัวกระเป๋าหายเฉยๆ
แต่ตอนนี้รู้ได้เลยว่า ข้าอะรอแกรกลับมา เพราะอยากเห็นแกรต่างหาก
(อ่านแล้วห้ามยิ้มนะเฟ้ย อายเหมือนกันนะเนี่ย)
ไหนจะเรื่องกลัวแกร ไม่มีเพื่อนเรียนอีก
จริงๆ ข้าไม่จำเป็นต้องมาสนใจกับเรื่องนี้ก็ได้
แต่ทำไมข้าถึงสนใจห้า.. ตอบให้หน่อยจิ ---<