มนต์ลวงนาคราช By. Tea Café Team
ตอนที่ ๑๑ เพลิงพยาบาท
“อราลี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงกรีดร้องในยามเช้า เร่งให้ร่างสุนัขที่หลับนิ่งอยู่ในบรรยากาศอย่าง สุวัน ปรากฏตัว อารักษ์คุ้มกฎแห่งนรกในเพลานี้แทบจะโผพุ่งออกมาจากอากาศธาตุ หากมิถูกหญิงแห่งวงน้ำอราลี สกัดกั้นไว้ด้วยสายตา
.
.
.
“เกิดเหตุใดรึขอรับแม่หญิง ?”
ร่างฉกรรจ์ในชุดแพรสีชาด นุ้งรั้งเป็นยักโจงกระแบน กล่าวถามด้วยร้อนใจ หากแต่นางผู้เป็นนาย กลับส่ายหน้าแล้วพัดโบกมือไปมาเหมือนอย่าหาความ
“กรี๊ดดดดดดดดดๆๆๆ อราลี!! ดูสิสิวพี่ขึ้นตั้งสองเม็ด!!”
เสียงโวยวายวี้ดวิ้วของเจ้าของบ้าน อย่างมนุษย์ตุส หยุดทุกอย่างในความร้อนใจของสุวันไว้ ความกังวลของร่างมนุษย์อันมีศีรษะเป็นสุนัขนั้นคลายลง คงเหลือไว้เพียงโทสะ ที่อยากจะตบหน้าผากของสถานที่สถิตไอ้สิวสองเม็ดนั่นจริงๆ
.
.
.
“กระจกของท่านวิษณุ..หาได้เอาแต่เพียงมาส่องดูกายหยาบ”
ในช่วงเที่ยงที่ภานุพงศ์นั้นเอาแต่ส่องกระจกโบราณทุกห้าวินาทีแบบนกหงส์หยกนั้น มันก็สร้างความรำคาญให้ สุวันไม่น้อย ร่างในชุดสีชาด ดูจะหัวเสียนิดหน่อย กับการถูกปลุกโดยไม่ดูกาละเทสะเมื่อช่วงเช้า มาตอนนี้เลยจักพาลกับ ความไม่เรื่อยเปื่อยเอาง่ายๆ
“แล้วจะให้ทำอะไรจ๊ะ?”
เสียงกวนประสาทแบบไม่อยากเอ่ยปาก หลุดออกมาจากตุสว่างงาน ในตอนนี้ภานุพงศ์ทำได้แค่นั่งๆ นอนๆ ไปวันๆ กลับมาก็ทำกับข้าวกับปลาบ้างแล้วแต่โอกาสของคนตกงานที่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านตามประสา
ไอ้จะให้หาอะไรทำ..เหอะ..ช่างมันเหอะถ้าชีวิตแม่งจะกระวักกระบวยอะไรกันขนาดนี้
.
.
.
“อ๊อฟ! พ่อโทรมาตามลูก!! อาบน้ำแต่งตัวไปหาพ่อเขาที่ สภอ.หน่อย! ”
เสียงเรียกจากชั้นล่างดังมากระชากอาการว่างงาน ภานุพงศ์รีบลนลานอาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัว เสริมหล่อฉีดน้ำหอมฟุ้ง จากนั้นก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่มอไซน์คันน้อย กำลังจะก้าวขาขึ้นมอไซน์ ถ้าไม่ได้ยินเสียงเรียกกึ่งขอร้องของร่างที่ยังแอบอยู่ในอากาศ
“ท่านขอรับ...ข้าเจ้าอยากยืดเส้นยืดสาย ..ตั้งแต่ขึ้นมายังเมืองมนุษย์ นับแต่ต่อกรกับไอ้สุวาน ครั้งนั้นข้าเจ้าก็หาได้ทำสิ่งใดอีก..”
เสียงสุวันเอ่ยปากอันหนักอึ้งขอร้องพร้อมสายตาที่ไม่น่าจะจับทิ้งไว้กับบ้าน
แล้วอย่างนี้ตุสว่างงานจะทำอะไรได้นอกจาก พยักหน้าให้ อารักษ์แห่งนรกไฟนั้นซ้อนท้ายมอไซน์ได้ตามสะดวก น้ำหนักท้ายเบาะยวบวาบ ด้วยความเก้ๆกังๆ ของผู้นั่งที่ไม่ประสีประสา ร่างกำยำชุดแพรสีชาดปรากฏออกมา พร้อมวงแขนที่รวบเอวผู้ขับอย่างภานุพงศ์ไว้แน่น
“..นายแบบ..มีออฟชั่นแปลงร่างเป็นคนแบบอราลีไหม? เอ่อออ..ความจริงชั้นก็ไม่ได้กลัวอะไรหรอกนะ แต่ว่าเรากำลังจะไปหาพ่อชั้นที่ สภอ. แล้วถ้านายไปสภาพนี้ ...ชั้นนี้คงโดนพ่อกระทืบ หาว่าพาเพื่อนที่เพิ่งเมากลับมาจากงานแฟนซี”
.
.
.
“ได้ขอรับ ..ขอเพียงหากกระผมได้ยืดเส้นยืดสาย กระผมทำได้ทุกอย่าง”
ชายหัวสุนัขเอ่ยออกมาแต่เพียงนั้นก่อนจะพนมมือร่ายเวทย์อันบางเบาปกปิดศีรษะตนไว้ แต่คราวนี้กลับเป็นภานุพงศ์เสียอีกที่หน้าซีดขอสั่น
“คือ..ชั้นบอกให้แปลงเป็นคน เป็นคนโว้ยยยยยยยยยย!! ไม่ใช่เป็นผีหัวขาด!!!”
เสียงตุสว่างงานตะโกนแหกปากออกมาเกือบจะทั้งน้ำตาที่ไหลพรากกกกกกกก..
.
.
.
**
“เข้าเวรของมนุษย์นี่หน้าเบื่อนะขอรับ ..”
เสียงบ่นของสุวันอันอยู่ในร่างมนุษย์ ฉุดสติของภานุพงศ์อีกครั้ง ครั้งนี้คงเพราะมีเวลาว่างมากมาย คุฯพ่อผู้มีสายเลือดตำรวจไทยเต็มขั้นถึงได้โทรลากลูกชายที่ซ่อนความแรดเอาไว้ใต้ผิวสีแทน มายืนในป้อมแบบหน่วยอาสา ที่ไม่ได้อาสามาเอง แต่มาเข้าเวรแบบเกรงใจพ่อ
“อย่าว่าแต่นายเลย ชั้นก็เบื่อ ...นี้ถ้ายังทำงานธนาคารอยู่ป่านนี้ชั้นคงได้นั่งนับเงินนับเช็ค เหล่ๆ มองๆ อยู่ในห้องแอร์ผู้ชายล่ะ..แต่นี่อัลไล? ไหนจะร้อน ไหนจะสิว ขึ้นหน้า”
.
.
.
เสียงบ่นกระปอดประแปดดังออกมางุ้งงิ้งเบาๆ ก่อนความเบื่อที่เหมือนโรคติดต่อนั้นจะบรรเทาลงไป เมื่อสุวานในร่างมนุษย์นั้นสะกิดให้ภานุพงศ์เห็นใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามา
.
.
.
“ท่านภคินทร์..ขอรับ คุณภานุพงศ์”
.
.
.
นายตำรวจหนุ่มในชุดครึ่งท่อน เดินฝ่าไอแดดที่ร้อนระอุอย่างไม่ระยี รังสีความหล่อแผ่ขยายเกือบเทียบเท่าไอแดดที่แผดเผา นั่นเร่งให้ภานุพงศ์กระวีกระวาดหยิบกระจกของท่านวิษณุนั้นขึ้นมาส่องความมันของใบหน้าตัวเอง ..
ส่องตรวจตราความเพอร์เพ็คบนในหน้าจนพอใจแล้วถึงได้ละสายตาไปมองหาร่างใหญ่..
.
.
.
หากแต่สิ่งที่ตนเองเห็นได้ในเปลวแดดนั้นคือภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนขนาบกับสารวัตรภคินทร์ ผู้หญิงที่จัดได้ว่าสวยจนภานุพงศ์อิจฉา
.
.
.
“ท่านภานุพงศ์ขอรับมีสิ่งใด?”
สุวัน ที่เห็นตุสหยุดอาการกระดี้กระด้าโดยฉับพลันเอ่ยปากพร้อมสะกิดถาม หากแต่ที่ได้คำตอบมากลับเป็นคำถามกลับคืน
.
.
.
“สุวัน...ทำไมคนที่เรารักเขา เขาไม่รักเราวะ..”
“...”
“มันเจ็บตรงนี้อะ”
“...”
“..เจ็บจริงๆ ”
.
.
.
กลางเปลวแดดที่ร้อนระอุ สายตาของสุวันนั้นมองไปยังท่านภคินทร์ มองแล้วก็ได้แต่สงสัย..
ภานุพงศ์นั้นเอ่ยถึงท่านภคินทร์หรือผู้ใดกันแน่ไฟอิจฉาอันเป็นเหมือนเพลิงเผามนุษย์นั้นมีให้ท่านภคินทร์รึไม่?
หากมันมิได้มีให้ท่านภคินทร์แล้วภานุพงศ์หมายถึงใคร?
.
.
.
..เพราะกลางไอแดดที่เป็นเปลวอันร้อนแรงนั้น
สุวันเจ้าเห็นเพียงแต่ท่านภคินทร์นั้น
'เพียงตนเดียว!!'TBC.