.
.
ผมคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่นาน ผมกับมันไม่ได้คุยกันเลย มันขลุกอยู่กับพี่คราม ผมอยากปรี่เข้าไปกระชากมันออกมา แล้วตะโกนใส่หน้าพี่คราม ว่าผมเจอมันก่อน มันชอบผม แต่...
ผมคงเป็นคนเห็นแก่ตัว ที่ใช้ความชอบมันที่มีให้ผม ยื้อมันเอาไว้...
ผมชอบผมมานาน รอผมมานาน ถ้าวันหนึ่ง...มันรอไม่ไหวหรือมันเบื่อที่จะรอ มันอาจจะหันไปหาพี่คราม แล้วผมจะทนได้หรือเปล่า
คำตอบคือ...ไม่!! ไม่อย่างเด็ดขาด ผมอาจจะรักมันไม่เท่าที่มันรักผม แต่ผมรักมัน อย่างที่ผมไม่เคยรักคนอื่น มันเพียงพอหรือเปล่า...
ผมตัดสินใจกดโทรศัพท์โทรหาไอ้ภาม
“ภาม...เหมือนกูจะชอบเพื่อนมึงเข้าแล้วหว่ะ”
((นึกว่าจะรอให้มันมีลูกมีผัวก่อนแล้วค่อยรู้สึกตัว))
ถึงจะกำลังเครียดอยู่ ผมก็อดขำกับความเกรียนปนปัญญาอ่อนของไอ้ภามไม่ได้
“ห่า...เพื่อนมึงจะมีลูกได้ยังไง เพื่อนมึงมีมดลูกเหรอไงห๊า”
((ถ้ามันมี มันคงรอพี่จนไข่มันฝ่อหมดแล้ว))
“ถ้าอยู่ใกล้เดี๋ยวกูโบกเลยนี่ แต่...กูกลัวว่ากูจะรักมันไม่เท่าที่มันรักกูหว่ะ”
((มันต้องวัดด้วยเหรอวะ ว่าใครรักใครมากกว่า นึกว่าแค่รักกันก็น่าจะพอ))
“อืม...กูไม่เคยมีแฟน”
((เค้ารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ขนาดเฮียไม่เคยมียังมีได้เลย ถ้าพี่จะเป็นไปอีกคนก็ไม่เป็นไรหรอก))
“แล้วกูจะต้องทำยังไงวะ พามันไปกินข้าว ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ คุยโทรศัพท์ก่อนนอน...” ผมพล่ามยาว ก่อนจะโดนมันเบรกหัวทิ่ม
((นั่นมันที่พวกคู่ควงพี่มันเรียกร้อง อย่าเอาไอ้จีนไปเปรียบเทียบกับพวกมัน แค่ทำตามที่ตัวเองต้องการก็พอแล้ว))
“กูนึกว่าเป็นแฟนต้องผูกมัด” ที่ผ่านมาผมโดนเรียกร้อง จะเอาทุกสิ่งทุกอย่าง จนขยาดที่จะมีแฟน เพราะผมไม่พร้อมดูแลใคร ไม่พร้อมผูกมัดกับใคร
((พวกคู่ควงมันเสี้ยมสอนมาล่ะสิ ไม่ต้องผูกมัด แค่ผูกพัน))
“งั้นกูจะไปขอเพื่อนมึงเป็นแฟน”
((เออ ถ้าไม่ทำ ว่าจะตัดพี่ตัดน้องอยู่))
“ไอ้เชี่ย แล้วถ้ากูทำเพื่อนมึงเสียใจล่ะ”
((ทำให้มันเสียตัวได้ แต่ห้ามทำมันเสียใจ))ไอ้เชี่ยภาม...ไอ้เกรียน!! เดี๋ยวกูก็ทำให้เพื่อนมึงเสียตัวสมพรปากหรอก.
.
ผมนั่งเลือกเพลงที่จะร้องให้มันฟังอยู่นาน เลือกจากเป็นสิบเป็นร้อยก็ยังไม่เจอเพลงที่ถูกใจ พวกพี่เจตน์มันนึกว่าผมจะร้องเพลงจีบน้องพลอย เล่นพูดกันว่า
“กูนึกว่าตัวจริงของมึง ตัวติดกันยังกับปาท่องโก๋”
...เมื่อไหร่ที่อยู่ใกล้เธอ ฉันรู้สึกราวกับเคลิ้มไป
ไม่เป็นตัวเองไม่เหมือนเคย..ผมไม่เป็นตัวเองเลย ทุกทีที่เจอและอยู่กับมัน หลายหนที่แอลมันยังถาม ว่าผมเป็นอะไร ทำไมเจอมันทีไร ต้องทำตัวเป็นหมาบ้าใส่มัน ถ้าทำตัวแย่ แล้วอยู่ในสายตามัน ผมก็จะทำ
...นี่ตัวฉันเองหรือ เปลี่ยนไปถึงเพียงนี้
หมดความเข้มแข็ง และเหตุผลไปอย่างอย่างง่ายดาย...ผมไล่ตามตอแยมัน ทั้งที่ไม่เคยทำกับคนอื่น แถมไม่ชอบเวลาคนอื่นมาทำกับผมด้วย แต่มีแค่มัน...แค่มันคนเดียวที่ทำผมเปลี่ยนไป ผมไม่มีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง รู้แค่ว่ามันเป็นความต้องการที่จะทำ
มันควรจะรับผิดชอบ...ที่ทำให้ผมเปลี่ยนไปผมร้องเพลงเสร็จ คนที่อยากให้นั่งฟัง มันก็ไม่อยู่แล้วครับ ผมรีบวิ่งเข้าไปเก็บของ กะว่าเดี๋ยวจะไปตามหามัน มันน่าจะยังไม่ไปไหนไกล เพราะเมื่อเช้ามันมากับไอ้ภาม มันก็น่าจะรอกลับพร้อมไอ้ภาม
แต่...ไอ้คนที่กำลังยืนหัวเราะยิ้มระรื่นกับพี่คราม คือคนเดียวกับที่ผมอยากจะร้องเพลงให้มันฟัง ผมรู้ตัวอีกทีก็เดินเข้าไปลากมันออกมา ท่ามกลางอาการงงของพี่คราม
“ขอตัวเดี๋ยวนะพี่ พอดีมีเรื่องต้องคุยกัน”
เคยด่าพี่เภาเวลาหึงหน้ามืดตามัว ไม่นึกเลยว่า วันหนึ่ง ตัวผมเองจะต้องเป็นแบบนี้เหมือนกัน
ผมลากมันเดินมาจนถึงลานจอดรถ มันก็เม้มริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไร ให้ผมหงุดหงิดกว่าเดิม
“ทำไม โกรธที่กูไปขัดจังหวะมึงกับพี่ครามเหรอ” ผมกระชากเสียงถามด้วยความหงุดหงิด
“อย่ามาพาล แล้วก็ทำตัวไร้มารยาท”
“ทำไม กูจะพาล กูไม่ใช่ผู้ดีเหมือนไอ้พี่ครามนี่” ผมพาลแล้วครับ เรียกว่าโมโหจนหน้ามืดตามัวเลยดีกว่า
“ไร้สาระ...” มันพึมพำ
“ทำไมไม่อยู่ฟังเพลงสุดท้าย กูร้องให้มึง” มันทำหน้านิ่ง ได้จนอารมณ์ผมแทบเดือด
รู้อยู่หรอกว่ามันเก็บอารมณ์เก่ง เก่งไม่เก่ง มันก็ทำเอาผมไม่รู้ว่ามันชอบผม ถ้าไม่ได้ยินมันพูดออกมาจากปากมัน
“เหรอ ไม่รู้” มันทำหน้าตาย
“เออดี คราวหลังกูจะได้ประกาศออกไมค์ ว่ากูร้องเพลงให้ใคร” มันเหยียดยิ้มก่อนจะหันมามองผม
“กล้าก็ทำสิ ถ้าไม่กลัวบรรดาพวกผู้หญิงที่เคยควงจะหายไปหมด”
“ช่างแม่ง! กูจะมีแฟนแล้ว กูจะสนพวกคู่ควงไปทำไม”มันเบิกตากว้างเลยครับ มองผมเหมือนเห็นตัวประหลาด ทำไมวะ...แค่คาสโนว่าอย่างผมจะมีแฟนซักคนนี่มันประหลาดมากเลยเหรอครับ
“ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยแล้วกัน”
“มึงนั่นแหล่ะ ที่จะต้องมาเป็นแฟนกู” ผมแทบจะตะโกนใส่หน้ามันด้วยความโมโห จะทำเป็นไม่รู้เรื่องไปถึงไหนกันวะ
“แน่ใจแล้วเหรอ ผมน่ะ...รักจริงและคิดผูกพันนะ ถ้าคิดจะเล่นสนุก ก็ไปหาเอาที่อื่น”
“อย่าดูถูกความรู้สึกกู” ผมเค้นเสียงลอดไรฟัน
“ไม่ได้ดูถูก แค่พูดจากที่เคยเห็น และก็...อื๊อ”
ผมไม่อยากฟังแล้วครับ ผมกระชากมันเข้ามาหาตัวผม ก่อนจะก้มลงบดเบียดริมฝีปากลงไป มันเม้มริมฝีปากแน่น ไม่ยอมให้ผมรุกราน แถมยังดิ้นขลุกขลักไปมา จนผมนึกโมโห บีบปลายคางมัน แล้วรีบสอดลิ้นไปชิมความหอมหวานทันที
หวาน...และรู้สึกดีกว่าทุกจูบที่เคยผ่านมา ไม่นานมันก็ตัวอ่อนอยู่ในวงแขนของผม ตอนผมถอนจูบออกมา หน้ามันแดงก่ำ ผมรีบอาศัยจังหวะที่มันกำลังมึนกับสัมผัส เปิดประตูรถแล้วจับมันยัดเข้าไป แล้วรีบอ้อมไปฝั่งคนขับ กระชากรถออกไปทันที
.
.
พอได้สติ หลังจากโดนผมจูบจนมันมึน มันก็เริ่มโวยวายและอาละวาดตามประสามัน มันสั่งให้ผมพามันกลับบ้าน แต่คิดว่าผมจะฟังเหรอครับ ตราบใดที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องกลับบ้าน
“ตกลงจะเป็นแฟนกูหรือเปล่า ถ้าไม่เป็น มึงจะได้เป็นเมียกูแทนแน่” ผมพูดหน้าตาเฉย มันอ้าปากพะงาบด้วยความตกใจทันทีครับ
“อะ...ไอ้ทุเรศ!!”
“ด่าเข้าไปเถอะ ยังไงไอ้ทุเรศนี่ก็จะเป็นแฟนมึง เร็ว!! ตอบมา”
“ขอคิดก่อนได้ไหมเล่า”
“ไม่ได้ มึงคิดมาเกือบสองปีแล้ว มึงก็ยังชอบกูเหมือนเดิม หมดเวลาแอบชอบ ได้เวลาเป็นแฟนกันซะทีแล้ว”
ผมเห็นมันขมุบขมิบปากด่าด้วยความไม่พอใจก็ขำ ขอโทษทีหว่ะ...เรื่องเผด็จการนี่มันสืบทอดทางกรรมพันธุ์เหมือนกันซะด้วย
“ต้องเลิกกับทุกคนที่ผ่านมา ห้ามหมด คู่ควง คู่นอน กิ๊ก...ทำได้หรือเปล่า” มันยื่นข้อเสนอ
“มีแค่นั้นใช่ไหมที่ต้องการ มักน้อยเหลือเกินนะ”
“แค่นี้ ทำให้ได้ไหมล่ะ”
“มากกว่านี้ก็ได้นะ”
“ไม่ต้อง ทำแค่นี้ให้ได้ก่อนเถอะ”
ผมเลื่อนมือข้างที่ว่างไปกุมมือมันเอาไว้ มันเหมือนจะชะงัก แต่ไม่สะบัดออก ปรายตามอง ขนาดในความมืดยังเห็นมันทำท่าเหมือนอาย ถ้าสว่าง...ตอนมันอายจะน่ารักแค่ไหนกัน
“ส่วนกู...ขี้หึงมาก ขอบอกไว้เลย”มันพูดพึมพำประมาณว่า...มันรู้เรื่องผมดีกว่าเรื่องตัวมันเองอีก ผมยิ้มกริ่มเลยครับ ขับรถมาส่งมันที่บ้าน มันกำลังจะเปิดประตูลงไป แต่ผมดึงมันเอาไว้ มันหันมาเลิกคิ้วใส่ผมด้วยความงง
ผมไม่พูดอะไร ยิ้มใส่ตามัน ก่อนจะกระชากมันเข้ามาปะทะตัวผม เชยคางมันแล้วกดริมฝีปากลงไป คราวนี้ไม่เหมือนคราวแรก ผมจูบมันด้วยความอ่อนโยน ไม่จาบจ้วง ไม่รุนแรง อยากจะซึมซับทุกความหอมหวานทุกรสชาติของมัน เหมือนยาเสพติด เท่าไหร่ก็ไม่พอซักที
ผมจูบมันอยู่นาน จนมันทุบอกผมให้ปล่อย เพราะมันหายใจไม่ทัน ผมเลยยอมผละออกมาด้วยความเสียดาย
“หวานฉิบ...”
“จะฆาตกรรมกันเหรอไง” มันบ่นอุบอิบ หน้าแดง ปากเจ่อ จนอยากจะจับมันมาจูบอีกรอบ แต่ขืนทำจริง ไม่รู้ว่ามันจะได้เข้าบ้านตอนไหน
ผมหัวเราะหึหึ ทำเพียงแค่จูบหน้าผากมัน แล้วกระซิบข้างหูมัน...
“เป็นแฟนกูแล้วนะ คืนนี้ถ้าไม่ฝันถึงกู มึงตายแน่”“ฝัน มันบังคับกันได้ที่ไหนวะ ไอ้ประสาท!!” มันโวยวายใส่ผม ก่อนจะเปิดประตูหลงไป ไม่วายหันมาแลบลิ้นใส่ผมก่อนจะเดินเข้าบ้าน
ผมนั่งมองจนมันเดินเข้าไปในบ้านเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหัวเราะเสียงแผ่วด้วยความสุข
...คืนนี้ผมคงฝันดีแน่นอนครับ ผมกำลังมีความสุข...จนหยุดยิ้มไม่ได้เลย...- END STEP 22 -
เพิ่งกลับมาถึง รีบเอามาแปะเลยค่ะ
มาดูมุมเวย์ จีบกันคนละแนวกับพี่เภาเลย ฮา...เขามาแนวฮาร์ดคอร์กัน แต่...
เป็นแฟนกันแล้ว หึหึ ตอนนี้เวย์กับน้องจีนจะทำเรตติ้งคู่หลักตกอีกแล้ว
ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยค่ะ ดีใจที่ชอบกันนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามด้วยค่ะ ปลื้มมาก