‘ที่รัก.. คุณนี่มันขี้อ่อยจังเลยนะ ทำเป็นออกค้อนหลังจากที่ผมออกกระดาษแบบนี้ได้ยังไง’ ทันทีที่รู้ผลแพ้ชนะในรอบแรก อีกฝ่ายก็รีบปรามาสอย่างรวดเร็ว
“ถ้าไม่มีหลักฐาน ไม่ควรปรักปรำกันนะครับ” บีมรั้งกระดาษออกจากริมฝีปากพร้อมวางลงบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่ทว่าใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความอภิรมย์
‘ถ้าอย่างนั้นคุณก็รีบถอดกางเกงขาสั้นออกเสียสิ ผมจะได้รีบหาหลักฐาน’ ชายหนุ่มจากเมืองกรุงเอ่ยท้าทาย ซ้ำยังยักคิ้วอย่างเป็นต่อ บีมจึงไม่รอช้าที่จะปลดเปลื้องปราการชิ้นแรกออกจากร่างด้วยความอ้อยอิ่ง
‘หึ เห็นได้ชัด คุณกำลังเรียกร้องความสนใจจากผม’ ทันทีที่รู้ผลแพ้ชนะในรอบที่สอง ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความมั่นใจพลันขบขันต่อลูกเล่นแสนแพรวพราวของบีมอีกหน
“ผมจะถอดแล้วนะครับ จับตาหาหลักฐานให้ดี ๆ นะครับนายท่าน” บีมกล่าวพลางจับชายเสื้อลูกไม้ที่ไม่ได้มีความเปิดเผยเนื้อหนังอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมทำเป็นเล่นหูเล่นตาใส่บุคคลในหน้าจอสี่เหลี่ยมด้วยความเย้าหยอก
‘ที่รัก.. คุณมัวแต่ลีลาจนผมอยากจะฟาดก้นสั่งสอนสักที’ นายท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับรำคาญเต็มที แต่ทว่านัยน์ตาสีนิลกลับพราวระยับแข่งกับแสงไฟบนยอดตึกด้านหลัง
“ผมดื้อขนาดนี้ คุณยังอยากจะฟาดผมแค่ทีเดียวเองเหรอครับ แย่จัง.. ขนาดตัวผมยังรู้สึกว่าคุณควรจะลงโทษให้ก้นลายไปเลย” บีมยังคงต่อล้อต่อเถียง ซ้ำยังหันหลังโชว์สะโพกกลมสวยภายใต้อันเดอร์แวร์สีขาวสะอาดตา พร้อมปลดเปลื้องอาภรณ์เบื้องบนออกจากเรือนกายด้วยความเชื่องช้า ก่อนจะหันหน้ามาให้อีกฝ่ายเชยชมยอดอกสวยอย่างกระจ่างชัด
กระทั่งผลของการเสี่ยงทายในครั้งสุดท้ายเริ่มปรากฏ ริมฝีปากของบีมจึงวาดเป็นรอยยิ้ม พร้อมโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้บุคคลในหน้าจอสี่เหลี่ยม ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสนเสียดายว่า “น่าเสียดายจังครับ ตานี้คุณแพ้ผมแล้ว”
‘จริงอยู่ว่าผมแพ้ แต่คุณก็ขัดคำสั่งผมไม่ใช่เหรอ.. ใครอนุญาตให้คุณเลิกคาบกระดาษความในใจไม่ทราบ ผมว่าคุณรีบเปลื้องผ้าเสียเถอะ อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำอีกเลย’ นายท่านเอื้อนเอ่ยด้วยสีหน้าของคนเหนือกว่า ซ้ำยังใช้สายตาออกคำสั่ง บีมจึงต้องเปิดเปลือยเรือนร่างทุกซอกทุกมุมอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะบีมสุดแสนจะเต็มใจทำตามกฏกติกา
‘ดีมาก พาผมไปเลือกของขวัญให้คุณได้แล้วที่รัก’ สิ้นคำสั่งของนายท่าน บีมจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องโปรดและคลานสี่ขาไปยังห้องนอนอันเงียบสงัดที่มีเพียงแสงจันทร์เล็ดลอดผ่านจากประตูระเบียงกระจก
‘วางผมไว้ตรงข้างตู้เสื้อผ้าสิ ส่วนคุณก็คลานกลับไปคาบกระดาษความในใจเข้ามาด้วย’ เมื่อได้รับคำสั่งบีมจึงรีบคลานกลับไปยังโต๊ะทำงานด้วยความว่าง่าย สะโพกกลมมนจึงลอยเด่นอยู่ท่ามกลางห้องหับอันเงียบสงัด ก่อนจะแสดงตัวอย่างชัดแจ้งเมื่อดวงไฟสีขาวสว่างอาบไล้ผิวกาย เพียงแต่ชายหนุ่มภายในหน้าจอสี่เหลี่ยมไม่อาจมองเห็นภาพที่แสนงดงามดังกล่าว เนื่องจากวิถีของมุมกล้องไม่ได้ครอบคลุมไปถึงบริเวณโต๊ะทำงาน
‘ที่รัก.. คุณคลานได้เซ็กซี่มาก ดูสะโพกของคุณสิ มันส่ายไปส่ายมาจนผมอยากจะฝากรอยมือไว้จริง ๆ’ ทันทีที่ได้ยินถ้อยคำแสนจาบจ้วง ความรู้สึกของบีมก็คล้ายกับถูกปลดแอก ยอดอกพลันแข็งขืน ขณะที่ช่วงล่างกลับเริ่มแตกตื่น
‘นี่เราเพิ่งจะห่างกันแค่อาทิตย์กว่าเองนะ ร่างกายของคุณ หัวใจของคุณก็เอาแต่คิดถึงผมขนาดนี้เชียวเหรอ’ สุ้มเสียงจากวีดิโอคอลยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยิ่งชัดแจ้งเมื่อบีมเริ่มคลานเข้ามายังห้องนอน ขณะที่ถ้อยคำแห่งความพึงพอใจของนายท่านกลับทำให้บีมเม้มริมฝีปากด้วยความหวามไหว แผ่นกระดาษจึงเริ่มเปียกยุ่ยจนเสียรูปทรง
‘ดูสิ เด็กน้อยของคุณเริ่มจะออกอาการซะแล้วน่ะ แต่จะทำยังไงดีล่ะ ผมเตรียมของขวัญไว้ให้คุณเล่นตั้งเยอะแยะเลย’ กระทั่งบีมวางกระดาษชุ่มน้ำลงบนพื้นตรงหน้าโทรศัพท์เครื่องหรู นายท่านก็เอื้อนเอ่ยด้วยถ้อยคำแสนสุภาพ แต่ทว่าแววตากลับจาบจ้วงต่อ ‘เด็กน้อย’ จนบีมเก้อเขิน ซ้ำยังทำเป็นพูดจาเล่นลิ้น เพื่อบอกกล่าวเป็นนัย ๆ ว่าตนเองไม่อยากจะเสียเวลา ‘เลือกของขวัญ’ ไปมากกว่านี้
“เปิดของขวัญก่อนก็ได้ครับ” บีมกล่าวพลางแอบซ่อนใบหน้าด้วยความเอียงอาย แต่กระนั้นช่วงล่างกลับไม่ยอมหลบเลี่ยงต่อวิถีแห่งการมองเห็น ราวกับตั้งใจจะโอ้อวดเสียด้วยซ้ำ มุมปากของผู้เป็นนายจึงอดจะกระตุกยิ้มด้วยความถูกใจไม่ได้
‘หยิบกล่องที่ผมเคยบอกไม่ให้คุณเปิดจนกว่าผมจะสั่งออกมาสิ’ เมื่อได้รับภารกิจใหม่ บีมจึงไม่รอช้าที่จะเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบกล่องไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ซ้ำยังมีแม่กุญแจคล้องผูกอย่างแน่นหนา
“กุญแจล่ะครับ” บีมเอ่ยถามหลังจากที่นำกล่องไม้ออกมาวางบนกระดาษบอกความในใจ
‘อยู่ตรงฝากล่องรองเท้าที่ผมใส่โมบายมาให้คุณ’ สิ้นคำตอบบีมก็รีบคลานไปหยิบกล่องดังกล่าวพร้อมเปิดฝาด้วยความสงสัย เพราะบีมจดจำได้ว่าภายในกล่องนั้นไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
‘ข้าง ๆ น่ะ ผมเอาสก๊อตเทปแปะไว้’ จนกระทั่งค้นหากุญแจดอกสำคัญพบ บีมก็ไม่รอช้าที่จะเปิดกล่องของขวัญที่อีกฝ่ายเตรียมให้ด้วยความตื่นเต้น เพราะบีมทราบเป็นอย่างดีว่า ‘สิ่งของ’ ที่อยู่ข้างในไม่ใช่ของขวัญประเภทเดียวกับโมบายแฮนด์เมค
‘ชอบหรือเปล่า ?’ ทันทีที่ของขวัญแสนล้ำค่าปรากฏสู่สายตา นายท่านก็เอ่ยถามด้วยความเอาใจใส่ ขณะที่บีมได้แต่พิจารณาว่ามันมีอะไรบ้าง
“ชอบครับ” แต่แล้วบีมก็เงยหน้าตอบพร้อมยกยิ้มอย่างรวดเร็ว ซ้ำยังจ้องมองของขวัญชิ้นสำคัญด้วยแววตาเป็นประกาย ส่งผลให้รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของผู้ให้อย่างไม่อาจหลบเลี่ยง
‘ใส่สร้อยที่ผมสั่งทำให้คุณก่อนสิ’ ทันทีที่นายท่านเอื้อนเอ่ย บีมจึงเอื้อมไปหยิบถุงกำมะหยี่สีแดงด้วยความสนใจ ก่อนจะเทบางอย่างที่อยู่ในนั้นลงบนฝ่ามือ พบว่ามันคือสร้อยที่ออกจะประหลาดสักหน่อย เพราะตัวสร้อยไม่ได้มีไว้เพียงประดับลำคอ แต่ยังเผื่อเหลือมาถึงบั้นเอว
‘รีบใส่สิ ผมอยากรู้ว่ามันเหมาะกับคุณหรือเปล่า’ สิ้นคำสั่งบีมจึงลุกขึ้นยืนจนคนในจอสี่เหลี่ยมมองเห็นแค่เพียงปลายเท้า
กระทั่งเสร็จสิ้นบีมจึงเอื้อมหยิบโทรศัพท์เครื่องหรู เพื่ออำนวยความสะดวกให้อีกฝ่ายพิจารณา ซึ่งแววตาของผู้ให้ก็ลากไล้จาบจ้วงตั้งแต่บริเวณบั้นเอวที่มีสร้อยทองเชื่อมกับเพชรเม็ดงามตรงบริเวณกลางอกไปจนถึงเส้นสายตรงบริเวณลำคอ และหยุดลงที่จี้รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวอันเป็นสร้อยคอแบบสั้นที่อยู่ด้านในสุด
‘คิดไม่ผิดจริง ๆ มันเหมาะกับคุณมาก วันที่เรานัดเจอกันคุณอย่าลืมใส่มาด้วยล่ะ เวลาที่ผมสั่งให้คุณถอดเสื้อจะได้ยิ่งดูน่าสนใจ’ ผู้เป็นเจ้าของสร้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ ขณะที่สีหน้าและแววตาไม่อาจปิดมิด ส่งผลให้บีมยิ่งรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองมีเสน่ห์มากกว่าทุกวัน ความเพลิดเพลินอันแสนผ่อนคลายจึงดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ
‘คุณรีบหยิบของที่น่าสนใจ อย่างเช่น ไวเบรเตอร์กับบัตต์ปลั๊กออกมาสิที่รัก’ ทันทีที่การพิจารณาความงดงามของตัวสร้อยผ่านพ้นไป นายท่านก็สั่งการอย่างต่อเนื่อง บีมจึงหยิบบัตต์ปลั๊กที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ออกมาวางบนเตียงนอน ตามด้วยไวเบรเตอร์แบบเรียวยาวขนาดเล็กอีกหนึ่งอัน และจบลงที่ไวรเบรเตอร์ขนาดปกติอีกหนึ่งอัน
‘ใส่ความคิดถึงของผมลงไปในก้นอันแสนตะกละของคุณสิ’ กระทั่งบีมเงยหน้ามองจอสี่เหลี่ยมผืนผ้า อีกฝ่ายจึงสั่งการขึ้นมาอีกครั้ง
“ครับ นายท่าน” สิ้นคำตอบรับด้วยความยินดี บีมก็รีบเคลื่อนย้ายนายท่านมาวางบนพื้น ก่อนจะหยิบเจลหล่อลื่นออกมาใช้งานจนบัตต์ปลั๊กชุ่มโชก จากนั้นบีมจึงโอ้อวดสะโพกเปลือยเปล่าให้กับผู้เป็นนาย พลางผลักดันบัตต์ปลั๊กเข้าไปยังช่องทางด้านหลังด้วยความใจเย็นจนสำเร็จ
‘จูบความคิดถึงของผมสักหน่อยสิ’ นายท่านเริ่มสั่งการอย่างต่อเนื่อง เมื่อบีมกำลังจะนำพาความคิดถึงอีกหนึ่งอันเข้าไปทักทายยังความอ่อนนุ่ม บีมจึงต้องล้มตัวนอนราบลงกับพื้นพร้อมจุมพิตไวเบรเตอร์เรียวยาวที่มีขนาดเล็กสุดให้บุคคลปลายสายดูเป็นขวัญตา จากนั้นจึงกลับมานั่งโก้งโค้งเพื่อเตรียมสอดใส่ความคิดถึงที่เพิ่มจำนวน
“อา..นายท่าน..เห็นหรือเปล่าครับ..ผ..ผมตอบรับความคิดถึงของนายท่านแล้ว” บีมเอ่ยถามพลางเอี้ยวตัวมองคนรักด้วยแววตาฉ่ำเยิ้ม เมื่ออารมณ์แห่งความต้องการค่อย ๆ แสดงอำนาจอย่างต่อเนื่อง
‘เห็นสิ มันน่ารักมาก’ สิ้นคำชื่นชมความหวามไหวพลันแล่นริ้วจนเต็มอก ก่อนจะเคลื่อนผ่านไปยังส่วนไวสัมผัส จนบีมเผลอชักพาความคับแน่นด้วยความเพลิดเพลิน
‘ที่รักยังเหลือความคิดถึงจากผมอีกหนึ่งอัน อย่าเพิ่งสนใจเด็กน้อยแสนตะกละของคุณสิ’ สิ้นถ้อยคำนั้นบีมก็รีบผละมือออกจากส่วนอ่อนไหว ขณะพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ แต่ก็ช่างยากเย็น
‘เลียมันด้วยความคิดถึงแล้วบอกรักผมสักหน่อยสิ’ ทันทีที่ไวเบรเตอร์อันสุดท้ายปรากฏอยู่ในมือ นายท่านก็เริ่มสั่งการเหมือนทุกครั้ง บีมจึงไล้เลียด้วยความช่ำชอง ก่อนจะเอื้อนเอ่ยว่า “ผมรักคุณ” ด้วยสีหน้าราวกับถูกความต้องการครอบงำอย่างเต็มรูปแบบ ความคับแน่นของบุคคลปลายสายจึงถูกเร่งเร้าปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว
‘ใส่มันให้ผมดูหน่อยสิที่รัก’ กระทั่งได้รับคำอนุญาตให้ดำเนินการในขั้นตอนถัดไป บีมจึงนั่งโก้งโค้ง พร้อมกับพยายามสอดใส่ความคิดถึงที่ชโลมด้วยเจลหล่อลื่นจนชุ่มโชก
“ผม..ใส่ไม่ได้” บีมบอกกล่าวด้วยความเป็นกังวล
‘ใจเย็น ๆ สิที่รัก คุณต้องทำได้แน่ ๆ’ ทันทีที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ย บีมจึงพยายามส่งมอบความคิดถึงของนายท่านเข้าสู่ความอ่อนนุ่มอีกครั้ง แต่ทว่าขนาดของมันกลับใหญ่เกินกว่าจะหาช่องทางเติมเต็ม
“ผมทำไม่ได้” บีมยังคงส่ายหน้าพร้อมเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ราวกับว่ามันเริ่มจะคับแน่นจนเกินไป ซึ่งบีมก็ทราบดีว่าความคิดถึงยังสามารถสอดใส่เข้าไปได้ เพียงแต่บีมยังอยากจะออดอ้อนคนรักก็เท่านั้น
‘แต่มันคือความคิดถึงจากผมนะ คุณปฏิเสธได้ลงคอเชียวเหรอ’ สิ้นคำพูดของอีกฝ่าย บีมก็รีบส่ายหน้าระรัวแม้ว่าผู้เป็นนายจะมองไม่เห็น
“ผม..จะพยายาม” บีมเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหวิวไหวพลางดึงรั้งความคิดถึงอันที่สองออก ก่อนจะสอดใส่ความคิดถึงลำดับที่สามเข้าไปอย่างเชื่องช้า พลางหอบหายใจถี่ด้วยความหวามไหว
“อา..นายท่าน..เห็นความตั้งใจของผมหรือเปล่าครับ” บีมเอ่ยถามพลางเชิดหน้าด้วยความซาบซ่าน ขณะที่สะโพกกลมสวยกลับอวดโฉมอยู่ตรงหน้ากล้องไม่แปรเปลี่ยน ต่างกันแค่เวลานี้บีมกำลังพยายามส่งความคิดถึงชิ้นสุดท้ายเข้าไปยังตัวตนอย่างตั้งใจ
‘เห็นสิ ก้นของคุณมันตะกละอย่างที่ผมคิดจริงๆ ด้วยที่รัก’ กระทั่งความคิดถึงเข้ามาทักทายจนคับแน่น บีมก็ทิ้งตัวนอนราบลงกับพื้นด้วยความผ่อนคลาย ขณะที่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความสุขจากม่านราคะอย่างเต็มรูปแบบ
‘รีบไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องแล้วสั่งให้พวกมันทำงานสิที่รัก’ ทันทีที่ได้รับคำสั่ง บีมจึงต้องก้าวเดินด้วยความกระมิดกระเมี้ยนไปยังโต๊ะทำงาน จากนั้นแข้งขาก็คล้ายกับไร้เรี่ยวแรงอย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะความเสียวซ่านที่กำลังทำงานเริ่มเข้ามาทักทายจนเกินควร
“อ๊ะ..พวกมัน..” กระทั่งนำพาตัวเองกลับมาหานายท่านตรงบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้าได้สำเร็จ บีมจึงรีบออดอ้อนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ทว่าสีหน้ากลับเต็มไปด้วยความหวามไหวแสนรัญจวนใจ
‘พวกมันทำไมเหรอ ?’ นายท่านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนเอ็นดู
“พวกมัน..อ๊า..คิดถึงผม..อื้อ..มาก” บีมร้องครวญครางพลางหลับตาปริ้มด้วยความสุขสม ก่อนจะลืมตามองอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาหยาดเยิ้ม ราวกับอยากจะถูกกระทำย่ำยีเสียเดี๋ยวนี้
‘อันที่จริงผมยังมีความคิดถึงส่งไปให้เด็กน้อยของคุณอีกนะ อยากได้หรือเปล่าที่รัก’ สิ้นคำถามบีมจึงรีบพยักหน้าด้วยความหวามไหว ขณะบิดเร้ากายด้วยความเสียวซ่าน
‘ถ้าอย่างนั้นก็รีบใส่ความคิดถึงอีกชิ้นหนึ่งให้กับเด็กน้อยของคุณสิ’ ทันทีที่ได้รับคำสั่ง บีมก็รีบคลานเข้าไปหากล่องไม้อันเต็มไปด้วยของขวัญอีกมากมายที่ดูเหมือนว่านายท่านอยากจะใช้มันให้หมดในคืนนี้
‘คุณใส่เป็นหรือเปล่าที่รัก’ ทันทีที่บีมหยิบกระบอกสูญญากาศมาไว้ในครอบครอง นายท่านก็เอ่ยถามด้วยความเอาใจใส่ บีมจึงพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว พร้อมหอบหายใจจนแผ่นอกกระเพื่อมไหว
‘นอนหันหน้ามาทางผมแล้วรีบใส่มันให้ผมดูสิ’ ผู้เป็นดอมยังคงสั่งการไม่หยุดหย่อน ขณะที่แววตากลับฉายความเอ็นดูอย่างเหลือล้น อาจเพราะการควบคุมให้อีกฝ่ายตกอยู่ม่านกามารมณ์ ถือเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มพึงพอใจยิ่งกว่าการถูกปรนเปรอด้วยความช่ำชอง เพราะนัทหลงใหลช่วงเวลาที่คนรักกำลังตกอยู่ในสภาพอันไร้ยางอายมากที่สุด และจะยิ่งคลั่งไคล้มากขึ้นถ้าหากภาพอันแสนสวยงามเหล่านั้นเกิดจากฝีมือของเขาเอง
“ส..ใส่..อ๊า..แล้ว” บีมเอ่ยเสียงกระเส่า พลางจ้องมองอีกฝ่ายราวกับรอรับคำชมเชย
‘คุณเก่งมากเลยที่รัก ถ้าอย่างนั้นคุณลองเสี่ยงทายสักหน่อยสิว่าผมคิดถึงเด็กน้อยที่แสนตะกละของคุณมากแค่ไหน’ กระทั่งนายท่านเปิดโอกาสให้ทายทัก บีมจึงบีบลูกยางเพื่ออัดลมแห่งความคิดถึงอย่างต่อเนื่องจนความคับแน่นเริ่มขยับขยาย
ทว่าบีมกลับได้ยินเสียงฝีเท้าของใครสักคนกำลังเดินมาตามเส้นทางที่เชื่อมกับตัวบ้าน บีมจึงรีบลนลานหยิบโทรศัพท์พร้อมเก็บกล่องของขวัญไว้ในตู้เสื้อผ้า ซ้ำยังคอยโผล่หน้าออกไปสังเกตการณ์โดยใช้ประตูตู้เสื้อผ้าเป็นเกาะกำบัง พร้อมกับเม้มริมฝีปากแนบแน่น เมื่อความตื่นเต้นและสถานการณ์สุ่มเสี่ยงกำลังทำให้พลังแห่งการเพลย์ล้นหลามไปด้วยมนต์เสน่ห์แสนเย้ายวน
จากนั้นบีมจึงตัดสินใจเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำ เมื่อเงาร่างของหญิงวัยกลางคนทอดตัวลงมายังระเบียงไม้ที่มีแสงจันทร์เล็ดลอดผ่านมาถึงด้านใน
“บีม” ทันทีที่แม่เอื้อนเอ่ย ลมหายใจของบีมก็เริ่มทำหน้าที่ด้วยความบกพร่อง ฝ่ามือพลันเย็นเฉียบเมื่อเหงื่อไหลซึม
“แม่เอานมมาให้..” เสียงของแม่ดูเหมือนจะอยู่ในห้องตัดเสื้อ แต่ทว่าจุดประสงค์ของแม่กลับทำให้บีมนึกขึ้นได้ว่า ตั้งแต่ช่วงที่แม่พาพี่แก้วมาวัดตัว นมอุ่นก็มักจะถูกนำมาเสิร์ฟทุกค่ำคืน เพราะแม่อาศัยช่วงเวลาดังกล่าวพูดคุยและเฝ้ามองบีมในมาดของช่างตัดเสื้อ
“แปลกจริง นอนแล้วเหรอ” ดูเหมือนแม่จะเดินกลับมายังห้องนอนด้วยความสงสัย หัวใจของบีมจึงยิ่งดิ้นพล่าน แต่ทว่าความหวามไหวกลับทวีคูณ บีมจึงได้แต่เม้มปากแน่น เพราะหวาดกลัวว่าจะเผลอเปล่งเสียงแปลก ๆ ออกไป สีหน้าแห่งความเสียวซ่านจึงเปล่งประกายอย่างงดงามท่ามกลางความมืดที่มีเพียงผู้เป็นดอมที่ได้เห็น แถมแข้งขาก็ยังสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม เนื่องจากบีมไม่อาจทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นไม้เรียบเนียนได้อย่างสะดวกใจ เมื่อความคิดถึงของชายคนรักยังคงอัดแน่นเสียขนาดนั้น
'ออกไปบอกแม่ของคุณสิว่าไม่ต้องเก็บนมกลับไป’ สิ้นคำสั่งบีมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ พลางหายใจหอบถี่มากขึ้นทุกขณะ เมื่อจินตนาการไปถึงเรือนร่างของตัวเองที่กำลังแต่งแต้มไปด้วยของเล่นสุดหรรษา
“ผม..ไม่กล้า” บีมเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วราวกับขนนกพลางส่ายหน้าด้วยความหวามไหวและหวั่นกลัว แต่กระนั้นหัวใจกลับรู้สึกวูบวาบเสียจนปฏิเสธไม่ได้ว่าบีมชื่นชอบการลิ้มรสความรู้สึกของการตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มากแค่ไหน
‘หน้าไม่อาย’ จึงเป็นคำเดียวที่บีมใช้ปรามาสตัวเองได้
‘ที่รักของผมปกติใจกล้าจะตายไป ขนาดอยู่ที่ลานจอดรถในร้านอาหาร คุณยังแสดงความสามารถตั้งเยอะแยะ น่าเอ็นดูจังเลยนะ.. ให้รองเท้าของผมปลุกความใจกล้าของคุณสักหน่อยดีหรือเปล่า’ สุ้มเสียงของนายท่านในเวลานี้แผ่วเบาราวกับกระซิบกระซาบ เพราะบีมเป็นฝ่ายลดโวลุ่มด้วยตัวเอง จากนั้นบีมจึงขยับตัวเพียงเล็กน้อย เพื่อให้สะดวกต่อการปลอบโยนที่แสนเมตตา เนื่องจากบีมรู้ดีว่าคุณนัทไม่เคยทำอะไรที่เกินลิมิต ดังนั้นคำสั่งดังกล่าวก็เป็นเพียงการกระตุ้นอารมณ์วาบหวามให้พุ่งสูง
‘ใช้ลิ้นเล็ก ๆ แสนช่ำชองของคุณเลียมันสิที่รัก เลียให้เหมือนกับตอนที่คุณอยากจะปรนนิบัติผมน่ะ’ สิ้นคำสั่งอันแสนเรียบง่าย บีมจึงโอ้อวดปลายลิ้นให้บุคคลในหน้าจอสี่เหลี่ยมได้เห็น ก่อนจะเล็มไล้รองเท้าหนังที่นายท่านนำมาให้ด้วยความคิดถึง สลับกับร้องครวญครางในลำคอด้วยความระมัดระวัง เพราะแม่ยังคงอยู่ในห้องตัดเสื้อ
‘จูบมันสักหน่อยสิ’ หลังจากได้รับคำสั่งบีมก็รีบชักพาริมฝีปากเข้าไปจุมพิตบริเวณด้านในของรองเท้าอย่างไม่นึกรังเกียจ ซ้ำยังแนบใบหน้าลงบนรองเท้าหนังคู่นั้นด้วยความหลงใหล แววตาฉ่ำเยิ้มพลันเปล่งประกายเสียจนผู้เป็นดอมนึกอิจฉาโดเรม่อนที่มีประตูวิเศษเปิดว๊าบดังใจหมาย
‘ผมคิดว่าคุณควรจะออกไปดื่มนมที่แม่ของคุณเตรียมมาให้สักหน่อยนะที่รัก’ กระทั่งเสียงฝีเท้าของแม่เคลื่อนผ่านบริเวณห้องนอนและตามมาด้วยเสียงเปิดปิดประตูระเบียงผ่านพ้นไปสักพักใหญ่ นายท่านก็เริ่มสั่งการที่แสนผาดโผนขึ้นมาอีกครั้ง บีมเลยค่อย ๆ แง้มประตูตู้เสื้อผ้าพร้อมโผล่หน้าออกไปสังเกตการณ์ จนกระทั่งความเงียบสงัดเข้ามาทักทาย บีมจึงพานายท่านออกมาจากที่ซ่อนตัวด้วยความรู้สึกโล่งอก
‘รีบคลานเข้าไปสิที่รัก’ ชายหนุ่มจากเมืองกรุงเริ่มสั่งการขึ้นมาอีกครั้ง บีมจึงต้องรีบคืบคลานเข้าไปยังห้องทำงานที่บัดนี้ไม่ได้สว่างไสวเหมือนวินาทีแรก พร้อมเปล่งเสียงครวญครางด้วยความซาบซ่านอย่างเต็มรูปแบบ
‘เทลงบนพื้นสิที่รัก’ กระทั่งคุณนัทสั่งการด้วยสุ้มเสียงทรงอำนาจ บีมจึงหลุดออกจากภวังค์เพียงชั่วคราว เนื่องจากข้าวของที่อยู่บนโต๊ะทำงานคล้ายกับถูกรื้อค้นจนสับเปลี่ยนตำแหน่งอย่างเห็นได้ชัด
‘ที่รักคุณกำลังดื้อดึงกับผมอีกแล้วนะ’ เมื่อฝ่ายดอมเล็งเห็นคนในอาณัติยังทำเป็นหูทวนลมจึงเริ่มกดเสียงต่ำลงอีกครั้ง
“ขอโทษครับ” สิ้นการแสดงความรู้สึกผิด บีมจึงรีบเทนมสดอุ่น ๆ ลงบนพื้นในระยะที่แสงจันทร์เล็ดลอดผ่าน จากนั้นจึงหยิบแท่นวางโทรศัพท์ลงมายังพื้นเบื้องล่าง เพื่อที่นายท่านจะได้มองเห็นท่าทางแสนเชื่องได้อย่างชัดแจ้ง
‘สภาพมอมแมมของคุณในตอนนี้ ทำให้ผมนึกถึงคลิปที่ลูกแมวกำลังดื่มนมพร้อมกับแม่ของมันเลย เพราะตัวแม่มันตะกละ จนทำให้ใบหน้าของตัวลูกเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำนม ต่างกันแค่พอเป็นคุณ ผมกลับนึกถึงภาพที่ความสุขของผมกำลังรินรดอยู่บนใบหน้าของคุณด้วยความภาคภูมิใจ’ นายท่านเอื้อนเอ่ยด้วยความเอ็นดู แต่ทว่าวาจากลับสร้างภาพแห่งจินตนาการให้เตลิดเปิดเปิง บีมจึงยิ่งเร่งเร้าจังหวะของการตวัดลิ้นเล็มไล้นมอุ่นร้อนด้วยความเอาใจ ขณะที่ความความคิดถึงจากนายท่านยังคงทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้บางครั้งบีมไม่อาจทรงตัวได้อย่างมั่นคง ใบหน้าของบีมจึงคลุกเคล้านมสดอุ่น ๆ ด้วยความหวามไหว
‘รีบดื่มให้หมดสิ ผมยังมีความคิดถึงอีกกระบุงใหญ่ให้คุณได้ลิ้มลองนะที่รัก’
“ค..อ๊า..ครับ” บีมเอ่ยตอบรับอย่างกระตือรือร้นพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ทว่าความหวิวไหวทั้งสรรพางค์กายกลับเป็นอุปสรรค จนสุดท้ายสะโพกกลมสวยก็จำต้องโยกย้ายด้วยความเสียวซ่าน เพราะมันถูกปลุกเร้าเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว
‘เก่งมาก เอาความคิดถึงของผมออกสิ’ กระทั่งบีมดื่มนมของแม่จนหมดนายท่านก็สั่งการเป็นลำดับต่อมาด้วยความใจเย็น
‘เล่นกับเด็กน้อยของคุณพร้อมกับคลานไปหยิบดิลโด้ที่ผมเพิ่งสั่งมาให้คุณโดยเฉพาะสิที่รัก แต่คุณห้ามปลดปล่อยก่อนที่ผมจะอนุญาตล่ะ’ สิ้นคำสั่งนั้นบีมจึงหยอกล้อความคับแน่นที่วันนี้อ่อนไหวยิ่งกว่าวันไหน ๆ เพราะทันทีที่สัมผัส บีมก็แทบจะปลดปล่อยความสุขสมออกมาจนหมดสิ้น
‘ชอบหรือเปล่า’ กระทั่งของเล่นสุดหรรษาปรากฏสู่สายตา นายท่านก็เอ่ยถามอย่างเอาใจใส่
“ช..ชอบครับ” บีมเอ่ยตอบเสียงแผ่ว เพราะขนาดของมันใหญ่เกินกว่าปกติเสียด้วยซ้ำ แต่ทว่ารูปลักษณ์ของมันคล้ายกับส่วนแข็งแกร่งของอาชาวัยเจริญพันธุ์ แถมยังมีสายยางลำเลียงอะไรบางอย่างพ่วงมาด้วย บีมจึงรับรู้ได้ทันทีว่าอุปกรณ์หรรษาชนิดนี้ มาพร้อมกับออฟชั่นเสริมที่น่าสนใจ
‘อันที่จริงผมไม่น่าถามคุณเลยที่รัก เพราะก้นที่แสนตะกละของคุณ มันบอกผมตั้งแต่แรกแล้ว’ นายท่านยังคงเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ขณะที่แอลกอฮอล์ก็พร่องลงไปมาก
‘หยิบความคิดถึงที่มากล้นของผม ไปตั้งไว้ตรงหน้าประตูบ้านของคุณ แล้วขย่มมันด้วยความเร่าร้อนสักหน่อยสิ’ สิ้นคำสั่งนั้นบีมก็รีบนำพาอุปกรณ์ดังกล่าวไปวางตั้งตรงบริเวณที่แสงจันทร์เล็ดลอดผ่าน พร้อมนำโทรศัพท์วางลงบนแท่นวางอย่างไม่รีบร้อน คล้ายกับต้องการถ่วงเวลาให้ผู้เป็นนายรู้สึกอยากจะสั่งสอนอีกสักที
‘ให้ผมได้เห็นความคิดถึงของตัวเองตอนที่กำลังทักทายคุณอย่างเต็มรูปแบบจะดีกว่านะที่รัก’ ทันทีที่นายท่านเอื้อนเอ่ยแบบนั้น บีมจึงรีบเคลื่อนย้ายมุมกล้องเสียใหม่ จากนั้นจึงเริ่มฉีดเจลหล่อลื่นลำเลียงไปตามสายยาง จนกระทั่งดิลโด้แท่งนั้นปลดปล่อยของเหลวออกมาจนชื้นแฉะ นัยน์ตาวาววับของบีมจึงเปล่งประกายด้วยความสนใจ
‘ผมอดใจไม่ไหวแล้วล่ะที่รัก คุณอย่าลีลาอีกเลย’ เมื่อผู้เป็นดอมเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างนั้น บีมจึงไม่รอช้าที่จะนำพาความอ่อนนุ่มเข้าไปทักทายความคิดถึงอันมากล้นของอีกฝ่าย
“อา..มัน..แน่นมาก” กระทั่งบีมคล่อย ๆ กลืนกินความคิดถึงชิ้นดังกล่าวด้วยความตะกละตะกลาม สุ้มเสียงแห่งความหวามไหวพลันเปล่งประกายอย่างไม่อาจหักห้าม ขณะที่ใบหน้ากำลังเชิดตรงด้วยความเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก
‘ถึงมันจะคับแน่นมาก แต่ก้นขี้ตะกละของคุณมันกลืนกินจนหมดแล้วนะ’ สิ้นถ้อยคำของคนรัก บีมจึงเริ่มไหวเอนราวกับกำลังนั่งควบอยู่บนหลังอาชาที่กำลังพุ่งทยานออกไปข้างหน้าด้วยความสง่าผ่าเผย
‘คุณเซ็กซี่เป็นบ้าเลยที่รัก’ ยิ่งได้รับคำชมบีมกลับยิ่งเพิ่มเรี่ยวแรงมากขึ้น สุ้มเสียงพลันเปล่งประกายด้วยความไพเราะ ขณะที่เสี้ยวหน้ายังคงเต็มไปด้วยความหวามไหว เพราะบีมไม่อาจอดกลั้นความต้องการไม่ให้ปลดปล่อย
‘ให้ตายเถอะ ผมเห็นความสุขของคุณพุ่งทยานอย่างน่าไม่อายเลยนะนั่น’ เมื่อได้ยินสุ้มเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแซว บีมก็พลันเก้อเขินอย่างบอกไม่ถูก เพราะเมื่อครู่มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริง ๆ และหลักฐานก็ยังปรากฏอยู่บนประตูกระจกอย่างชัดแจ้ง
‘ครางดัง ๆ สิ คุณก็รู้ว่าผมชอบฟังเสียงร่าน ๆ ของคุณแค่ไหน’ สิ้นถ้อยคำอันแสนหยาบโลน ร่างกายของบีมก็พลันร้อนระอุอย่างบอกไม่ถูก ช่วงล่างจึงเริ่มควบขี่ด้วยความเชี่ยวชาญ
“อ๊ะ..อ๊า..ผมกำลังจะ..อื้อ..ปลดปล่อยอีกแล้ว” ทันทีที่บีมเอื้อนเอ่ยออกมาแบบนั้น ฝ่ามือก็พลันสูบฉีดสารหล่อลื่นไม่ยั้ง จนกระทั่งมันปลดปล่อยเข้ามายังความอ่อนนุ่มจนเต็มเปี่ยม บีมจึงอาศัยจังหวะที่กำลังจะปลดปล่อยอวดโฉมความตะกละตะกลามของตัวเองให้อีกฝ่ายดูเป็นขวัญตา ซึ่งมันก็สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นนายอย่างเหลือล้น
‘ที่รักความคิดถึงของผมทำให้ก้นที่แสนตะกละของคุณคลั่งไคล้จนแทบบ้าเลยให้ตายสิ แล้วแบบนี้ตัวตนของผมยังจะมีความหมายอยู่อีกเหรอ’ บีมได้แต่หอบหายใจ ขณะฟังถ้อยคำแสนลามกที่เต็มไปด้วยความสุขสมของอีกฝ่าย
“มีสิครับ เพราะผมชอบสัมผัสจากคุณมากที่สุด”
--------------------------✁
[1] ข้าวปุ้น คือ ขนมจีนในภาษาอีสาน
แวะมาเพิ่มแผนที่บ้านของบีมตามที่มีคนรีเควชมาค่ะ
https://imgur.com/ay8cJddมาต่อแล้วจ้า ตอนนี้อาจจะลงลึกเรื่องปมอีกหน่อย
และตามมาด้วยการเพลย์ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นซีนสุดท้ายก่อนปิดเรื่องหรือเปล่า 555
เพราะจากที่วางแผนไว้ไป ๆ มา ๆ มันเหมาะกับการแก้ปมอย่างเดียวแล้ว