ผมกดสะโพกลงต่ำ จนแตะเจ้านัทน้อย ที่ขนาดเหมือนจะไม่น้อยสักเท่าไหร่แล้วตอนนี้ แต่ผมจะไม่เรียกมันว่าเจ้านัทใหญ่อีกแล้ว เฮอะ จะใหญ่สักแค่ไหน มันก็ยังเด็ก ๆ แหละว้า
ทว่าพอแตะเข้าให้ ผมก็เผลอสะดุ้ง เมื่อรู้สึกได้ถึงความแข็งขืน…และตั้งชัน จนต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก…โด่ไม่มีล้มเลยจริง ๆ เจ้าลามกนี่ แล้วผมจะใส่เข้าไป…รอดเหรอเนี่ย
นิ้วคล่องแคล่วสองนิ้วบังคับสอดรวดเดียวเข้าลึก เล่นเอาผมสะดุ้งเฮือกอีกรอบ อย่างตกใจกว่าเก่า ยังคงเป็นเจ้านัท ที่ทำผมอีกแล้ว!
“เอาออกไปนะ คนลามก นายเลิกเอานิ้ว…อา…อยะ…ฮ้า…” ผมหอบน้อย ๆ เสียงกระเส่าขึ้นทันตา อาจจะเพราะไฟติดมาพักใหญ่แล้วด้วย เลยทำให้อารมณ์มันอ่อนไหวแถมรุนแรงง่ายกว่าที่เคยมากมายนัก
“เอาน่า ฉันกำลัง ‘ช่วย’ นายอยู่นะ เชื่อฉันเถอะ แล้วจะดีเอง” เจ้านัทปลอบผมเบา ๆ นิ้วนั้นควานภายในอย่างนุ่มนวล สลับขยับเข้าออกจนตัวผมต้องเกาะไหล่แข็งแรงนั้นไว้แน่น แถมยังเผลอจิกเล็บ ลงกับแผ่นหลังเจ้านัทเต็มแรงเสียอีก แต่มันก็ไม่ได้มีท่าทีเจ็บปวดอะไรนัก และตอนนั้น ผมก็ไม่ได้รับรู้ด้วย ว่ามันจะเจ็บมั้ย เพราะนิ้วบ้านั่น…ยังขยับไม่มีหยุดเอาเสียเลย
“ฉันไม่ไหวแล้วนะ…นัท…ตรงนั้นมัน…”
“อื้ม ฉันรู้แล้วล่ะเนย เอาล่ะ ฉันจะเอานิ้วออกแล้ว นายรู้ใช่ไหม ว่าต้องทำยังไงต่อ”
ผมพยักหน้ารับเบา ๆ งวดนี้ไม่มีลังเลหรือปฏิเสธอีกต่อไปแล้ว เมื่อปลายนิ้วนั้นรั้งออก เจ้านัทก็จับที่เอวบางของผมแทนที่ ก่อนช่วยกดแกมรั้งรับน้ำหนักไว้ ไม่ให้ทิ้งลงไปรวดเร็วจนเกินไป
มือของผมสัมผัสที่แก่นกายเบื้องล่างของเจ้านัท รู้สึกได้ถึงความเกร็งแน่น ใช่ว่าแค่ผม ที่กำลังต้องการ เจ้านัทเอง ก็คงทนมามากแล้วพอกัน เพียงแต่มันนิ่งเสียจนผมไม่รู้ ก็เท่านั้น
ผมจับมันให้ตรงจุด ก่อนหายใจเข้าลึก แล้วค่อย ๆ กดตัวลงมา ส่วนปลายที่แทรกเข้า ใหญ่กว่าที่คิดเสียอีก คราวก่อนเจ้านัทมันทำยังไงกันนะ ผมถึงได้…ไม่อึดอัดขนาดนี้
“อา…มัน…แน่นจัง…” ผมร่ำร้องขอความช่วยเหลือ น้ำตายังเอ่อคลอดวงตาอย่างไม่อาจข่มกลั้น สัมผัสที่แทรกเข้ามันมากกว่าแค่นิ้วที่เจ้านัททำให้มากมายนัก
“นายทำได้น่า ค่อย ๆ นะ” เจ้านัทดูจะใจดีขึ้นอีกนิด ก่อนช่วยผมค่อย ๆ กดตัวลงช้า ๆ สัมผัสที่เสียดสีเล่นเอาผมสะท้านเฮือก ขยับจะลุก แต่มือแข็งแรง กลับรั้งตัวผมไว้
“ปล่ะ…ปล่อยนะ..อึก…มัน……..” ผมพยายามห้ามด้วยเสียงกระเส่าตะกุกตะกัก แต่มือนั้นก็ไม่ยอมปล่อย “อีกนิดน่าเนย” เจ้านัทพูดเหมือนจะใจดี แต่มือมันดันกดตัวผมลงเสียจนร้องเสียงหลง ความอึดอัดคับแน่นนั้นทำเอาผมขยับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะเลยทีเดียว
“ไม่นะ..มันทร..ทรมาน…อึ้ก…” ผมร้องไห้ออกมาจนได้ มือแข็งแรงเช็ดน้ำตาเบา ๆ ก่อนจะบอกให้ผมหายใจเข้าลึก ๆ และไม่ให้เกร็ง ผมพยายามทำตามอย่างว่าง่าย เสียงชมเชยเบา ๆ ทำให้ใจผมพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความอึดอัดที่เป็นในตอนแรก ค่อย ๆ ลดลงเมื่อร่างกายปรับตัวได้ แต่ไม่ทันจะได้หายใจทั่วท้อง ผมก็ต้องร้องอย่างตกใจอีกครั้ง
เจ้าท่อนไม้ในตอนแรก กลับขยับได้มีชีวิตชีวานัก ยามสะโพกแกร่งสวนขึ้น มันยิ่งแทรกเข้าลึกกว่าที่เคย ผมดิ้นรนขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนเจ้านัท แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย
“อึ้อ!!! อะ…ฮ้า…ไม่นะ…อย่ากระแทก..อ๊า….” ผมร่ำร้องจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง แต่เจ้านัทก็ไม่ยอมหยุด คงเป็นเพราะผมปล่อยมันค้างเนิ่นนานมาพอ ๆ กัน เจ้านัทเลยเริ่มหื่นเสียจนผมตั้งตัวไม่ติด แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่ต้องการนี่ เพียงสักพักที่ร่างกายเริ่มคุ้นเคย ผมก็เริ่มรู้สึกอยากขยับเองบ้างแล้วเหมือนกัน
“ให้ฉันทำ…บ้างนะ” ผมกระซิบบอกอีกฝ่าย ความอายเริ่มจางหาย มีเพียงความต้องการกันและกัน ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ คนฟังยิ้มให้แล้วบอกว่า
“เอาสิ วันนี้นายเป็นฝ่าย ‘รุก’ อยู่แล้วนี่ อยากทำอะไรก็ทำเลย”
ดูซิ มันยังไม่วายเหน็บแนมผมอีก แต่ผมไม่สนใจแล้ว ไหน ๆ มันก็ให้ผมทำทุกอย่างที่อยากทำได้ ผมจึงตั้งหลักอีกครั้งด้วยการทรงตัวด้วยตัวเอง ก่อนขยับสะโพกขึ้นลงช้า ๆ สร้างความมั่นใจ ทำเพียงไม่กี่ครั้ง ก็รู้สึกว่าขยับได้ง่ายขึ้นแล้วแถมยังรู้สึก…มากขึ้นอีกด้วย ผมกอดเจ้านัทไว้ แล้วขยับประสานกับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย เข้าจังหวะกันได้ดีโดยแทบไม่รู้ตัว
เสียงครางต่ำของคนด้านล่างทำให้ผมลอบอมยิ้ม จริง ๆ แล้วถ้าไม่ได้เจ้านัทช่วย ผมคงไปไม่รอดอีกเหมือนเดิม และเจ้าตัวก็คงอดทนมามากพอกัน ที่จะทำให้ผม…พร้อมพอ จะเริ่มทำได้
“ขอบใจนะนัท” ผมพึมพำใกล้ ๆ คนฟังเลิกคิ้วอย่างงุนงง เพราะรู้ตัวดี กว่าแอบแกล้งเอาไว้เยอะ
“ขอบใจเรื่องอะไรกัน”
“อา…ก็นาย…ทำให้ฉันรู้สึก……เอ่อ…”
“หืม?” ใบหน้านั้นยิ้มน้อย ๆ อีกแล้ว เป็นรอยยิ้ม ที่ผมชอบมากเสียด้วย
ผมหลบตาแล้วพึมพำ “รู้สึก…ดี…น่ะ”
“วันนี้ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย นายนั่นแหละ ที่ทำให้ ‘เรา’ รู้สึกดี” ไม่รู้ทำไม พอมันพูดว่า 'เรา' ผมก็ใจเต้นขึ้นอีก มันเหมือนกับว่า พวกเรา...รู้สึกร่วมกัน และนั่น ก็ทำให้ผม...ดีใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อื้ม…นายก็รู้สึกดีใช่ไหม” ผมถามกลับอย่างเคอะเขินนิดหน่อย
“แน่นอนสิ เพราะเป็นนายไงล่ะ” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานแบบเจ้าเล่ห์อีกแล้ว “แล้วเดี๋ยวนาย…ก็จะรู้สึกดีกว่านี้อีก” มันว่าก่อนจะสวนสะโพกเข้าหาเสียถี่จนผมหลุดเสียงครางอีกรอบ
“อ๊า…นาย…อึ้ก…” ผมไม่น่าไปชมมันเล้ย รู้สึกว่า…มันจะหื่นกว่าเดิมเสียอีก แล้วตอนนี้…อา…แต่มัน…
ผมกอดมันแน่นกว่าเดิม “อึก…แรงกว่านี้…ก็ได้นะ”
คนฟังหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบว่า “ฉันรู้อยู่แล้ว ว่านายน่ะ มาโซ” ว่าแล้วมันก็ทำแรงขึ้นอีก จนผมหมดปัญญาจะตอบโต้หรือแย้งอะไรได้อีกต่อไป
กว่าพวกเราจะไปถึงจุดหมาย ก็เล่นเอาผมแทบระบมอีกครั้ง แม้งวดนี้ ดูว่าร่างกายผม จะคุ้นเคยกว่าคราวก่อนแล้วก็ตาม ร่างที่หอบน้อย ๆ นอนเคียงข้าง พลางพึมพำขึ้นมาอย่างนึกได้
“จริงสิ ลืมไปเลย”
“ลืมอะไรเหรอ” ผมที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้น ถามเสียงแผ่ว
“ลืมดูหนังน่ะสิ อุตส่าห์ให้เจ้าเอกหามาเป็นพิเศษเลยนะนั่น”
หนังแผ่นนั้น…จริงสิ จุดประสงค์หลักของผม ลืมเสียสนิทเลย ผมยังฝืนดวงตาที่ใกล้จะปิด สั่งเจ้านัทขึ้นว่า “ไม่รู้ล่ะ ยังไงนายก็ต้องไรท์ให้ฉันด้วย ไม่งั้นล่ะก็ ฉันจะไม่ทำกับนายอีกแน่ ๆ”
“ไม่เอาหรอก” เจ้านัทขัดขึ้นทันที
“ขี้โกงนะ นายจะดูคนเดียว แล้วก็เก่งคนเดียวอีกล่ะสิ” ผมว่ามันอย่างน้อยใจนิด ๆ
มือแข็งแรงลูบผมนุ่มของผมเบา ๆ ปลอบ ก่อนกระซิบว่า “ถ้านายอยากดู ก็มาดูที่บ้านฉันสิ ฉันไม่ไรท์ให้หรอก เดี๋ยวนายก็เก่งกว่าพอดี เอาวันที่ไม่มีคน…แบบวันนี้ไง ทีวีบ้านฉันจอใหญ่นา รับรองจะให้นายศึกษาได้ทุกท่า อย่างละเอียดแน่”
“จริงเหรอ…”
เจ้านัทยิ้มเจ้าเล่ห์อีกแล้ว และผมเอง…ก็ทำเป็นไม่เห็น แม้จะรู้ดี ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่
“แน่นอน ฉันสัญญานะ ว่าจะไม่ดูก่อน เราจะมาดูพร้อม ๆ กัน ดีไหม แล้วฉันจะให้นายรุกอีกสักครั้งก็ได้นะ ว่าไงล่ะ”
“คราวหน้า…ฉันจะกดนายให้ได้เลย…คอยดูสิ” แก้มใสเริ่มแดงซ่านอีกครั้ง
ครั้งนี้ผมยังอ่อนด้อยประสบการณ์นัก แต่ครั้งหน้า…ผมไม่ยอมแพ้แน่ ๆ
ฝากไว้ก่อนเถอะ!
- จบ ภาคเอาคืน -
อ่านต่อตอนที่ 3 จูบวาเลนไทน์=========================
นิยายที่ลงไปแล้วในบอร์ดนี้ เผื่อสนใจอยากอ่านเพิ่ม:
Special Triple (จบ),
Absolution cafe (จบ)เรื่องสั้น (จบแล้วทุกเรื่อง):
ทายาทมรณะ,
Full moon night,
Give me your hand,
เรื่องอย่างว่าของเซี่ยเอ๋อร์