ช้า....เพราะงานยุ่งๆ คึคึคึ
อีกเรื่องยังไม่ได้พิมพ์เลย เฮ้อออออ ^____^ ปาปารัสซี่กับเจ้าชาย ^____^
รูปที่ 4
ดินเนอร์
เวลาช่างเดินเร็วจริงๆ แว่บเดียวก็เย็นแล้ว ผมจึงต้องจำใจหอบกล้องเคโรโระตัวเก่งมาแอบซุ่มที่โรงแรม..xxx....โรงแรมหรูที่ติดหนึ่งในสามของประเทศ การแต่งกายวันนี้ผมแต่งแบบนักท่องเที่ยว หึหึหึ ข้อมูลมาจากอินเตอร์เน็ตครับ หาดูว่าโรงแรมระดับนี้คนแต่งกายแบบไหนถึงเฉียบเข้าไปได้บ้าง กูจะได้ไม่ต้องถูกไล่ตะเพิดกลับออกมาอย่างลูกหมาข้างถนน
แม้บ้านผมจะฐานะปานกลาง แต่หน้าตาผมดูรวยนะครับ ฮ่าๆๆๆ เซ็ตผมดีๆ หยิบเสื้อผ้ายี่ห้อดังที่หาซื้อมาได้เพียงไม่กี่ชุด เพราะแพงมาก แม้จะเป็นเสื้อผ้าใส่เล่นก็เหอะ มาสวมเสริมความร่ำรวยหน่อย ผมก็เหมือนนักท่องเที่ยวแล้วครับ
มาถึงหน้าโรงแรมก่อนเวลาสักเล็กน้อย เอามือจับหน้าอกตัวเองมันกำลังเต้นบีบอยอยู่พอดีเลย ก่อนจะลงจากแท็กซี่
...ตื่นเต้นว่ะ...
..ฟู่ฟฟฟ...สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่พนักงานโรงแรมจะมาเปิดประตูรถ ผมเดินลงมายิ้มให้พนักงานที่โค้งให้ผมก่อนแล้ว นี่คือ...
...จีเนียซในมาดคุณชายน้อย...หึหึ
ผมเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างมั่นอกมั่นใจ และก็เดินตรงไปที่โซฟาลายสวยงามที่ถูกจัดวางเรียงรายให้นั่งเล่นทั่วบริเวณหน้าฟร้อน บริเวณนี้มีพนักงานกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณคอยบริการแขก
ว่าแต่...อย่าเดินเข้ามาหากูนะ กูยังไม่พร้อมตอบคำถาม และเหมือนคำภาวนาของผมจะได้ผล เพราะไม่มีใครสนใจผมเลย ดีมาก!!
พอได้มุมเหมาะๆผมก็ย่างก้าวเข้าไปกำลังจะนั่ง...เสียงภาษาอังกฤษที่ต้องพูดกับผมแน่ๆก็ดังเข้ามาในการรับรู้จนได้
“ขอโทษนะครับ ใช่คุณจีเนียซหรือเปล่าครับ?”
เฮือก!!!!
....หยุดชะงักเลยกู....
...ที่นี่มีคนรู้จักกูด้วยหรอกวะ?....
ผมค่อยๆหันมามองคนเรียก ปรับสีหน้าอย่าให้เหวอมาก อย่าให้เค้ารู้ว่าเราตกใจ คนนี้เป็นพนักงานของโรงแรมนี้แน่นอน ผมรู้...เพราะสวมฟอร์มพนักงาน ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอ หรือว่า....เขาจะโยนผมออกไปข้างนอก
...ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก....
อย่านะ!! เหงื่ออย่าเพิ่งแตกนะ เขาอาจเข้าใจผิดก็ได้...
“...ย... เยส” อย่า..อย่าสั่นครับกู
“เชิญทางนี้ครับ” แล้วเขาก็ผายมืออย่างสุภาพเชิญผมให้เดินตามไป
ผมจะทำยังไงครับ...กูมีทางเลือกที่ไหนเล่า มัน...ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนผมกำลังเข้าเมืองผิดกฎหมายอะไรทำนองนั้นเลย แม้ท่าทางของผู้มาเชิญจะสุภาพมากก็ตาม และมันก็เหมือนกับว่าถ้าผมไม่ตามไปผมจะต้องถูกพนักงานคนนั้นที่กำลังก้มหน้าน้อยๆยืนนิ่งๆและกำลังทำท่าทางผายมือเชิญให้ผมเดินไปตามทางที่เขาเชื้อเชิญนั้น หรือพนักงานคนอื่นๆก็ได้ที่อาจจะจับผมโยนออกไปหน้าโรงแรมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ว่า...
...พอเหลือบมองรอบๆแล้ว พนักงานที่นี่มารยาทดีกันมากๆเลยครับ ไม่มีการแอบมองกันอะไรทำนองนั้นเลย ทุกคนกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ยอดเยี่ยมมาก!!! ที่นี่พนักงานมารยาทเยี่ยมอ่ะ สมกับที่เป็นโรงแรมหนึ่งในสามของประเทศเลย
เอาไงเอากันวะ ผมตัดสินใจเดินตามทิศที่พนักงานคนนั้นเชิญ เขาเดินตามผมมาเยื้องๆและผายมือต่อเมื่อมาถึงทางที่ต้องเลี้ยว จากนั้นเดินมาอีกหน่อยก็มาขึ้นลิฟต์ ยอมรับเลยว่าที่นี่หรูหรามากๆ ผมบรรยายแทบไม่ถูกเลย แค่ราคาต่อคืนก็เล่นเอาค่าขนมผมไปหลายเดือนแล้ว อย่าให้กูรวยบ้างก็แล้วกัน กูจะไม่มาที่แบบนี้เลย กูจะไปที่ๆคนเงินน้อยไป กูจะได้ผลาญเงินได้ทั่วถึง ฮ่าๆๆๆๆ
ขึ้นมาที่ชั้นยี่สิบกว่าๆชั้นอะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่ว่าผมจะมองไปทางไหน ผมก็ว่ามันหรูไปหมดนั่นแหละ บรรยายไม่ถูกจริงๆไอ้เราก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ด้วย เอาเป็นว่าสวยมากๆพอ เดินออกจากลิฟต์มาอีกสักหน่อยก็เจอกับ...ประตูอะไรก็ไม่รู้ แล้วพนักงานคนนั้นก็หยุดเดิน ทำไมไม่นำไปต่อวะ เออ...แต่ไม่ต้องก็ได้ เพราะมาถึงตอนนี้...
...แง้งงงงงงงงงงง...เอากูกลับไปด้วยคนนนนนนนนน...
...นะ..นั่นมันบอดี้การ์ดเจ้าชายนาซิมนี่หว่าาาาา....
...กูจำได้...
...กูกลัวววววววว.....
ผมมองพนักงานคนที่มาส่งตาละห้อยเลย กูรู้แล้ว กูกำลังจะถูกเชือดแหงๆ...กำลังสวดส่งตัวเองเลย
...พี่ทาอิผมไม่เอาอะไรแล้วได้มั้ย? เค้าอยากกลับบ้านนนนนนนน...
แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว บอดี้การ์ดสองคนนั้นเปิดประตูแล้ว ผมมองหน้าสองบอดี้การ์ดยักษ์นั้น
...กูกลัวพวกมึงนะ...
..แต่ถึงอย่างนั้นไอ้สองคนนั้นก็ไม่ได้มองหรือสนใจต่อสายตาของผมแต่อย่างใด เหมือนกูเป็นเพียงอากาศที่พัดเข้ามาก็เท่านั้น มันเปิดประตูแล้วก็ผายมือ อ้อๆผมลืมบอกไปว่าก่อนเปิดประตูพวกมันโค้งให้ผมก่อนด้วยนะ แต่ผมก็รับรู้ได้ด้วยปลายจมูกว่านั่นคือ...มารยาทเท่านั้นแหละ พอเดินเข้ามาในห้องเท่านั้นแหละ....
...ว้าววววววววววววว...สุดยอดดดดดดดดด...
...ตาวาววับ เคลิบเคลิ้มกับความหรูหราของห้อง...
...(^____^)...
สวยงามมากกกกก...นี่มันห้องอะไรเนี่ย? จัดแบบไทยผสมเทศได้อย่างลงตัวเลยครับ นี่คือการเอาความรู้สึกมาบรรยายครับ บอกแล้วผมไม่มีความรู้ด้านนี้ ผมมองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจบวกตื่นเต้นอย่างมหันต์เข้าไปด้วย มองไปรอบๆอยู่อย่างเพลิดเพลิน... ณ เวลานั้นความกลัวก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง
สวยเกินบรรยายจริงๆ กำลังมองเพลินๆ....
....ชะอุ่ย!!!....
...จากที่ตื่นตาตื่นใจก็กลายเป็นตื่นเต้นมากกว่าเดิมครับ....
...จะ..เจ้า...เจ้าชายนาซิม....
...แววตานั่น...
...สายตาแบบนั้น....
....กับใบหน้าคมคายเรียบเฉย.....
...ตะ...แต่จ้องมองมาที่ผมนิ่งๆ....
...มะ...เหมือนสิงโตกำลังจะตะครุบเหยื่อเลย....
....น่ากลัวววววว น่ากลัวชะมัด...
เอ่อ...มีพนักงานทั้งชายและหญิงคอยยืนบริการอยู่สองสามคน ส่วนเจ้าชายลูกครึ่งคนนั้นก็นั่งอย่างสบายอยู่กับพื้นพรมขนาดใหญ่บนพื้นต่างระดับที่กว้างขาวงงดงามมากกกก ตรงหน้าเขาเป็นโต๊ะเตี้ยๆไม่ใหญ่มาก คือเขาไม่ได้นั่งเก้าอี้อ่ะนะ แต่ด้านหลังของเขาก็มีที่พิงด้วย ผมบรรยายไม่ถูกครับ มันเหมือนเรานั่งพื้นแต่เป็นพรมนุ่มๆนั่งกินข้าวกันแบบห้องอาหารแบบญี่ปุ่น แต่บรรยากาศแบบอาหรับอ่ะ หรือเปล่าวะ? ที่ๆเจ้าชายนั่งจะถูกยกพื้นสูงขึ้นไปประมานเกือบเมตรได้
แต่ต้องยอมรับจริงๆว่ากับคนๆนี้ แม้ในท่วงท่าการนั่งวางขาข้างหนึ่ง ตั้งขาข้างหนึ่งแบบนี้ ก็ยังดูดีได้อีก บุคลิกคนอะไรก็ไม่รู้ช่างสง่างามไร้ที่ติจริงๆกับใบหน้าคมสันนั่น...แล้วชุดอะไรของเขานะมันดูดีมากๆเลยครับ นี่ผมกำลังหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนต์หรือเปล่าเนี่ย?...เพียงแค่นี้ก็ดูรู้แล้วว่าคนๆนี้เป็นชายผู้สูงศักดิ์เป็นแน่ ถึงในใจจะแอบชื่นชมไปเยอะ แต่ผมก็ยังกลัวเขาอยู่นะครับ
....เง้ออออออออ ตาน่ากลัวชะมัด....
ชะแว้บ! หลบสายตาแว่บนึงก่อน ก่อนจะหันกลับมาต่อสู้ทางสายตากันใหม่ สู้เสือว้อย!
อึก!
...ตาคมกริบมองมาที่ผมอย่างแน่วแน่ จนผมรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นหนูตัวกระจ้อยร่อยไปเลย...
“...เจอกันอีกแล้วนะ” คนตรงหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ น้ำเสียงอ่อนโยน จากที่กลัวผมเลยรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย
แต่แล้ว...ง่ะ!!! คนตรงหน้าเป็นเจ้าชายตัวจริงนะเว้ย!!
..คําราชาศัพท์ คําราชาศัพท์ คําราชาศัพท์...
“อ่ะ...เอ่อ...ขอประทานอภัยพะ..พะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อม..กระหม่อมเสียมารยาทไปแล้ว” ผมพูดรัวๆเร็วๆพร้อมกับรีบก้มหน้าลงทันที
“หึ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” อะ...อะไรอ่ะ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้น
....เจ้าชายกำลังหัวเราะ....(ขอเลี่ยงใช้คำราชาศัพท์บ้างนะ มันใช้ยาก)
...อะไรกัน ผมทำอะไรผิดหรอ?...
“หึหึหึ...เธอนี่น่าสนใจจริงๆด้วย”
“พะ..พะย่ะค่ะ” ผมรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง ก็กูมันน่าค้นคว้านี่หว่า
“นั่งก่อนสิ”
“เอ่อ...” มันจะดีหรอ? ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้า พระองค์หยุดขำแล้วและก็เหมือนเดิม มองมาที่ผมนิ่งๆเหมือนเดิม
“ขะ..ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ” ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขาและขึ้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามรู้สึกถึงอาการเกร็งของตัวเองได้อย่างชัดเจน และ...ก็ยิ่งเกร็งมากขึ้นเมื่อเจ้าชายชวนคุย...
“เธอชื่อะไรล่ะ?” เอ่อ..รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ? แต่ตามมารยาทผมก็ต้องแนะนำตัวล่ะครับ
“ผมชื่อ สิรธีร์ ...xxx.. เรียก เนียซ ก็ได้ครับ”
“เนียซ?”
“เอ่อ..จีเนียซครับ” รู้สึกหน้าร้อนๆเวลาบอกชื่อเล่นเต็มๆ
“งั้นหรือ...ความหมายดีนะ ฉันชื่อนาซร์ ดีใจจริงๆที่ได้รู้จักกับเธอ ฉันเพิ่งมาเมืองไทยครั้งแรกเลย”
เห๋.......ไม่จริงน่า พูดไทยคล่องขนาดนี้เลยนะ ผมมองเจ้าชายอย่างไม่อยากเชื่อ
“หึหึ เธอคงไม่เชื่อสินะ” เอ่อ...ก็นะ แต่ถึงอย่างนั้นคนตรงหน้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกผมนี่นา
“...ต้องขอประทานอภัยอีกครั้งพะย่ะค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นฝ่าบาทก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกกระหม่อมนี่พะย่ะค่ะ” เป็นประโยคยาวๆที่ผมสบตาของเจ้าชายนาซิม..ไม่สิ ‘เจ้าชายนาซร์’ และพูดตรงๆกับพระองค์
“...นั่นสินะ สมัยเรียนไฮสคูลเพื่อนฉันที่เป็นคนไทยเขาสอนมาน่ะ”
“คน...!!” เกือบไปแล้ว เกือบถามไปแล้วว่าเป็นคนที่เขาไปงานวันเกิดหรือเปล่า เพราะผมเห็นพวกเขาคุยกันอย่างสนิทสนมเลย
“หืม?”
“เอ่อ..ไม่มีอะไรพะย่ะค่ะ” จะถูกว่าหรือเปล่าเนี่ย?
..เงียบ...ไม่ว่าไม่ถามต่อแล้ว แต่ก็ยังมองมาที่ผมอยู่เช่นเดิม สายตาแบบนั้นเหมือนจะมองทะลุไปถึงไส้ติ่งผมเลย
“....ทานได้ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” คนตรงหน้ายิ้มบางก่อนจะเชื้อเชิญอย่างอ่อนโยน
ที่จริงผมประหม่ามากๆเลย แต่ว่าการที่ได้มีอะไรให้ทำมันน่าจะช่วยให้ผมคลายอาการประหม่าลงไปได้บ้าง ผมจึง...
...กินล่ะนะ...
“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ” ผมไหว้เขาด้วยนะครับ ไม่ได้พูดอย่างเดียวแล้ว รู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่ตัวเองไหว้คนตรงหน้าเลยแฮะ
...มรรยาทไทยของกู ช่างต่ำต้อยจริงๆ...
“หึหึหึ” เอาเป็นว่าผมจะคิดว่าเจ้าชายขำผมด้วยความเอ็นดูละกันนะ
กินไปกินไป เอ่อ...ตกลงคนที่ได้ดินเนอร์กับเจ้าชายในค่ำคืนนี้กลายเป็นผมไปซะแล้ว ไหนว่าเจ้าชายจะไปดินเนอร์กับสาวสวยไงล่ะ แล้วงี้ผมจะถ่ายรูปยังไงล่ะเนี่ย แต่...กินก่อนดีกว่า
กิน กิน กิน แล้วก็กิน มีสบตาบ้างแต่ผมก็เลี่ยงไปสนใจอาหารต่ออย่างรวดเร็ว คือผมไม่ได้ตะกละนะ แต่เวลากินแล้วมีคนมองอยู่เนี่ยมันออกจะเขินๆน่ะ เลยตั้งใจกินอย่างเดียวดีกว่า
...ฮ้าาาาาา..อิ่มชะมัด...
ระหว่างทานเราต่างก็ทานกันไปอย่างเงียบๆ ดีที่ผมเคยทานอาหารบนโต๊ะหรูๆมาก่อน บวกกับสมัยเรียนก็เคยถูกสอนเรื่องมรรยาทบนโต๊ะอาหารหรูๆด้วย มื้อนี้จึงผ่านไปด้วยดี อันที่จริงก็ต้องยอมรับว่ากระเพาะจีเนียซมันกำลังต้องการอาหารไปย่อยด้วยครับ ผมจึงลืมที่จะเขินไปเลย กินเสร็จยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม....
...อึก!!...
แทบสำลัก ก็ดันไปสบเข้ากับนัยน์คบกริบคู่นั้นเข้า ผมรีบหลบสายตาหันไปด้านข้างก่อนจะค่อยๆดื่มน้ำพร้อมกับอาการหน้าร้อนขึ้นมานิดๆ ดื่มเสร็จวางแก้วเช็คริมฝีปากนิดหน่อย เหลือบมองคนตรงหน้าอีกครั้ง
....ไมมองหน้ากูจังว้าาาาา.....
มันเริ่มว่างละ...
...เริ่มรู้สึกเขินๆขึ้นมาแล้วแฮะ...
..สงกะสัย แต่ไม่กล้าถามครับ...
“........” เงียบ แล้วไงต่อน้าาาาา
“ต้องใช้อีกเท่าไหร่ล่ะ?” เจ้าชายนาซร์เริ่มพูดก่อนครับ มองตรงๆพูดเรียบๆ
“ครับ?..เอ่อ..พะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร พูดตามที่เธอถนัดก็ได้ ยังไงเสียฉันก็ไม่ใช่คนไทยอยู่แล้ว มันฟังยากน่ะ”
“........ครับ..ขอบคุณครับ” แปลก...มันแปลกๆ แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน เพราะคำราชาศัพท์พูดยากจริงๆ
“หืม...? ขอบคุณทำไม”
“...ก็ที่...อนุญาตให้ผมพูดธรรมดาได้ไงครับ” คงไม่ผิดใช่ไหม?
“อ้อ...หึหึ”
“แล้วตกลงว่าเธอต้องใช้อีกเท่าไหร่ล่ะ”
“...ครับ? หมายถึง....?” ถึงตอนนี้แววตาของคนตรงหน้าพราวระยับขึ้นมาทันที ผมรีบหลบสายตานั้น ทำเป็นมองผลไม้บนโต๊ะทันทีเลย
ตอนนี้อาหารบนโต๊ะถูกเก็บไปหมดแล้วครับ มีผลไม้กับน้ำอะไรสักอย่างเสิร์ฟมาล้างปากเท่านั้น และจากหางตาผมก็เห็นเจ้าชายยกมือขึ้น แล้วจากนั้นคนที่อยู่ในห้องก็ทยอยเดินออกไปนอกห้องกัน...จนหมด จึงเหลือเพียงเราสองคนเท่านั้น ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาอีกครั้งทันที
“....รูปถ่าย เธอต้องใช้อีกเท่าไหร่?” อึ้งเลย หมายถึงรูปเองหรอ? เอ๋...? หือ...?? เหมือนเมื่อคืน...!!?? เหวอๆๆๆ..กูทำอะไรไปบ้างวะ
...คิด คิด คิด คิด คิด....
“นี่...ถ่ายรูปได้ป่ะ” คุ้นๆ
“นะๆ ยอมทุกอย่างเลย ไม่อยากไปแอบถ่ายอ่ะ กลัว” อะไรเนี่ย?
“...นะ ให้ผมถ่ายรูปนะ พรุ่งนี้ผมพาไปเลี้ยงขนม (^____^)” กูทำอะไรเนี่ย?
“ผมขอถ่ายรูปคุณนะครับ คุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ (^____^)” กูทำอะไรลงไปปปปปป
“ครับๆ ผมไม่ผิดคำพูดหรอกน่า” อะไรกันนนนนน...นี่เสียงกูหรืออออออ???
.....แว้กกกกกกกกก....(ร้องในใจครับ ยังไม่อยากคอขาด)
ผมค่อยๆเงยหน้ามาสบตากับคนตรงหน้า ใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตาไหวระริกเหมือนกำลังขำผมอยู่เลย เหวอแดกเลยกู...ถึงว่าสังหรณ์ใจแปลกๆตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เรื่องนี้นี่เอง...กูลืมไปได้ยังไง
....แปร๊ดดดดดดดดด...หน้าร้อนขึ้นมาทันทีเลยครับ ก็รู้อยู่ว่าของฟรีไม่มีในโลก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันอยู่ตรงนี้!!!
....กูไปบอกเขาทำมายยยยยยย...ฮือออออออ...
...ไม่น่ากินเหล้าเลยกู....
“อ่ะ...เอ่อ..” พูดไม่ออกเลย ความลับไม่มีในโลกเป็นแบบนี้นี่เอง แต่ไมมันไม่ลับให้นานกว่านี้วะ
“....ว่าไงล่ะ หืม?” อย่ามายิ้มอย่างอ่อนโยนเลยนะ กูหนอกู...กูแพ้คนอ่อนโยนนนนน กูมันคนอ่อนไหวง่าย
...เอาวะ เป็นไงเป็นกัน อย่างน้อยเจ้าชายก็ยินยอมให้ผมถ่ายรูปเอง ดีกว่าแอบถ่ายแล้วโดนจับได้ละกัน ดูเหมือนผมจะไม่มีโชคในอาชีพนี้จริงๆ ร่วงตั้งแต่เริ่มเลยกู
“...คุณจะยอมให้ผมถ่ายรูปดีๆหรือเปล่าครับ?”
“.......” เงียบ
....เงียบ.....
“..(ยิ้มบางๆ)..นี่เป็นวิธีขอร้องของเธอหรือ?”
....เอ๋...เอ๋...เอ๋...ฉ่าาาาาา...ความร้อนสูดฉีกขึ้นสู่ใบหน้าอีกครั้งเลยครับ เพราะจากประโยคเมื่อครู่เหมือนผมกำลังข่มขู่คนตรงหน้าเลย
“..คะ..คือ...ใครบอกล่ะครับ ผมก็..บอกไปแล้วไง ว่าถ้าคุณยอมให้ผมถ่ายรูปน่ะ ผมยอมคุณทุก...ทุกอย่าง” ประโยคท้ายเริ่มเบาลงครับ กูไม่ยอมได้ม้ายยยยยย
“...รู้หรือเปล่า? ว่าฉันไม่ชอบถูกถ่ายรูป” ไม่รู้ก็ต้องรู้แล้วล่ะครับงานนี้
“...ครับ”
“...แต่สำหรับเธอ ฉันให้เป็นกรณีพิเศษ” พูดแล้วยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนแบบนั้น ในการ์ตูนมันเหมือนตัวร้ายมากกว่าพระเอกนะผมว่า
“ครับ...ขอบ..ขอบคุณครับ”
“..และที่ฉันให้ ฉันให้ตามที่เธอขอ...” แม้น้ำเสียงจะฟังดูนุ่มนวล แต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นเหยื่อของสิงโตยังไงอย่างงั้นเลย
....ซวยแล้ว ซวยแล้ว นายซวยแน่ๆ จีเนียซ...
แต่ว่า...เพราะพ่อสอนมาดี ท่านบอกว่าอยากได้อะไรเกินตัวก็ต้องหามาเอง แล้วก็ต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยแรงกายแรงใจหรืออะไรก็ตามแต่นั่นแหละ ผมจึงต้อง...ฟู่ฟฟฟฟ...
“..ครับ ตามสัญญา”
“หึ...แล้วสัญญาว่าอะไรล่ะ” มาแล้ว..คำถามที่น่ากลัวที่สุดในสามโลก สำหรับผมในตอนนี้
“..ทะ..ทุกอย่าง ให้ทุกอย่าง” แง้งงงงงงง...ใครสั่งใครสอนให้มึงไปบอกเขาแบบนั้นวะไอ้จีเนียซ อัจฉริยะชั่วค่ำคืนแหงๆเลยกู
“...ร่างกายของเธอ” หืม? ร่างกายของผมทำไม?
มองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่แววตาที่มองสำรวจไปตามเรือนร่างของผมนั้นเลยทำให้ผมต้องก้มมองเข้าหาตนเอง ก่อนจะ...
...ถึงกูจะดูบอบบาง แต่แรงกูเยอะนะ....
เงยขึ้นมามองคนตรงหน้าอีกครั้ง แววตาพราวระยับเลย เหมือนโดนดูถูกยังไงอย่างงั้น
...เจ็บใจจิ๊ดเลย งั้นก็...
“...ได้ครับ”
“...หืม? แน่ใจนะ” เจ้าชายถามอย่างแปลกใจ ก็ใช่อ่ะดิ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่นา ก็แค่ถูกใช้แรงงาน อ่ะโถ่วววววววววววว...
“แน่ใจสิครับ (^____^)” คำไหนคำนั้น ผมเป็นคนรักษาคำพูดนะครับ หึหึ อย่ามาดูถูกกันนักนะ
“หึ...งั้นขอของเมื่อวานก่อนเลยละกัน” คำพูดมาพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ เล่นเอาผมขนลุกขึ้นมาทันที
...แต่ว่า...
....คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง....
...บอกแล้ว ผมเป็นคนไม่แอ๊บไม่แบ๊ว แม้หลายคนจะว่าผมซื่อก็ตาม...
...แต่ว่า...
...เหมือนครั้งนี้ผมจะไม่อยากซื่อเลยจริงๆ....
...โอนิจังงง...ช่วยเนียซด้วยยยยยยยยยย....
TBC
ทักทายทักทายยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่งถึงตอนนี้แล้วขำอ่ะ
ขอบอกขอบอก คนคิดแบบจีเนียซนอกจากจะเห็นในการ์ตูนแล้ว มันมีตัวตนจริงๆนะ
อย่างฮาอ่ะ 5555555
บอกก่อนว่ามันไม่ได้แปลว่าเขาโง่นะ เพียงแต่...
คนไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่ได้สนใจเรื่องเพศมักจะคิดไม่ถึงน่ะ ก๊ากๆๆๆๆ
โค้งงามๆ..ขอบคุณทุกเม้นต์ ขอบคุณทุกคนที่อ่าน ขอบคุณทุกคนที่รอ
Uri