✿ c h a p t e r 3
จาริญยกแขนโอบรอบคอคนด้านบน เอียงใบหน้ารับจูบที่บดเบียดลงมา เนื้อตัวที่เปียกน้ำยังไม่ทันจะเช็ดให้แห้งเสียด้วยซ้ำ เพราะเมื่อออกมาจากห้องน้ำอันดาก็ผลักร่างบางให้นอนลงบนเตียงและขยับขึ้นคร่อมทันที ริมฝีปากบางดูดดึงกลีบปากนุ่มอย่างกระหาย ในขณะที่มือก็ลูบไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างข้างใต้
สองร่างเปลือยเปล่ากกกอดแนบชิดจนแทบไม่มีช่องว่างแม้แต่จะให้อากาศลอดผ่าน อันดาคลอเคลียกลีบปากอิ่มอย่างอ้อยอิ่ง จูบซ้ำๆอยู่แบบนั้นหลายครั้งก่อนจะเปลี่ยนมาแตะริมฝีปากลงที่คอขาว จาริญหอมไปทั้งตัวจนอดไม่ได้ที่จะงับผิวเนื้อบางด้วยฟันจนขึ้นรอย
“ฮื่อ เจ็บ” จาริญร้องบอกพลางเอียงคอหนี คนด้านบนเลยปลอบโยนด้วยการจูบเบาๆทับรอยที่เริ่มขึ้นจ้ำแดง กลุ่มผมสีดำสนิทที่ขยับไหวอยู่บริเวณหน้าอกเรียกให้เสียงหวานครางแผ่ว จาริญขยุ้มผมของอีกฝ่ายเมื่อยอดอกถูกครอบครองด้วยริมฝีปากบาง
อันดาแตะปลายลิ้นบนยอดอกสีหวาน ตวัดเลียเบาๆจนมันแข็งเป็นไตก่อนจะแกล้งงับด้วยฟันให้คนตัวเล็กกว่าสะดุ้ง จาริญแอ่นอกเข้าหาสัมผัสนั้นโดยอัตโนมัติ ยิ่งปากสวยดูดดึงส่วนไวต่อความรู้สึกกลางอกแรงๆจนเกิดเสียง มือบางยิ่งขยำเส้นผมสีเข้มแรงขึ้น
“อัน…อ๊ะ เสียว”
ได้ยินเสียงหวานร้องครางอันดายิ่งได้ใจ รังแกเม็ดทับทิมน้อยๆด้วยปากและมือจนบวมเป่ง ก่อนจะผละออกมามองดูผลงานของตนเองอย่างพอใจ
จาริญนอนเปลือยเปล่า แผ่นอกขาวเนียนมีรอยแดงจ้ำเป็นบางจุด ยอดอกบวมแดงน้อยๆจนดูเหมือนยอดเชอร์รี่แดงสดที่ประดับบนวิปครีมนุ่มลิ้น
ช่างเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
“อ้าขาหน่อยจูน” อันดาบอกพร้อมทั้งช่วยแยกสองขาขาวออกกว้าง มือเรียวกอบกุมส่วนนั้นของจาริญที่เริ่มตื่นตัว ขยับมือรูดรั้งอย่างเนิบนาบจนส่วนปลายสีชมพูอ่อนชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำใสๆ
จาริญเชิดใบหน้าแดงก่ำขึ้น ครางเสียงแหบสั่นเหมือนแมวกำลังบาดเจ็บ กระตุ้นให้อันดาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น สะโพกกลมขยับตามจังหวะของมืออุ่น
“อ๊ะ…อ๊า…ช้าหน่อย ฮึ่ก…อัน” ร่างบางเสียวซ่านจนน้ำตาคลอ แต่แทนที่อันดาจะทำตาม กลับยิ่งขยับมือเร็วขึ้นและเร็วขึ้น จนในที่สุดของเหลวสีน้ำนมก็พวยพุ่งออกมาจากรูเล็กๆ
มือของอันดาเปียกชื้นไปด้วยคราบคาวของอีกฝ่าย คนสวยส่งลิ้นออกมาเลียนิ้วที่เลอะเทอะ ทำเอาคนมองหน้าร้อนฉ่า ทั้งเขินทั้งอาย
“มันสกปรกนะอัน”
“ไม่เห็นจะสกปรกเลย”
สองนิ้วเรียวถอนออกมาจากโพรงปาก น้ำลายใสปนกับของเหลวก่อนหน้านี้เคลือบนิ้วจนชุ่ม อันดาชันขาของจาริญขึ้นข้างหนึ่ง ก้มมองช่องทางสีพีชด้านหลังด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“จูน”
“หื้ม”
จาริญมองใบหน้าสวยเพื่อรอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ ปากอิ่มเม้มเข้าหากันเมื่อรู้สึกถึงนิ้วเรียวยาวที่กดคลึงบริเวณรอยจีบ
“วันนี้เธอจะไม่โดนแค่นิ้วหรอก” จาริญไม่ได้คิดไปเอง แต่ใบหน้าสวยในตอนนี้เจ้าเล่ห์อย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะผวาเฮือกเมื่อก้านนิ้วของอันดาผลุบหายเข้ามาในร่างกาย ขยับเบาๆให้ช่องทางคุ้นชินและส่งนิ้วที่สองตามเข้ามาติดๆ
“อ๊า…อ๊ะ…อันดา”
“รัดแน่นอีกแล้ว”
อันดากระทุ้งนิ้วย้ำๆตรงจุดหนึ่ง กางนิ้วออกเล็กน้อยเพื่อให้โพรงอ่อนนุ่มขยายมากขึ้น นิ้วที่สามกดลึกเข้ามาเป็นนิ้วสุดท้าย หมุนวนสร้างความเคยชินอย่างใจเย็น อันดารู้ดีว่าต้องทำยังไงจาริญถึงจะพร้อมและไม่เจ็บมากในตอนที่เขาใส่เข้าไป
จนกระทั่งน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติไหลออกมาตามนิ้วที่ขยับเข้าออก อันดาถึงได้ค่อยๆถอนนิ้วออกมาจากช่องทางอุ่นจัด มือข้างหนึ่งจับส่วนกลางลำตัวขนาดพอดีของตนเองและเตรียมพร้อมด้วยการชักรูดสองสามครั้ง พร้อมกับโน้มตัวลงมอบจูบให้เจ้าของร่างอวบอิ่ม
อันดาหยอกล้อกับลิ้นนุ่มของอีกฝ่ายเพื่อหลอกล่อให้ลืมความเจ็บที่อาจจะมีอยู่บ้างเล็กน้อยในตอนที่เขาแทรกกายเข้าหา และก็จริงอย่างที่คิดเพราะจาริญบีบรัดทันทีเมื่อส่วนหัวของแท่งเนื้อสีอ่อนกดชำแรกเข้าสู่โพรงแคบ
“อื้อ…อ๊า”
“จูน…อ๊ะ…แน่นมากเลย”
ใบหน้าสวยซบลงกับซอกคอชื้นเหงื่อ อันดาครางเสียงพร่ากับความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยได้สัมผัส รู้สึกดีมากจนท้องน้อยบิดเกร็ง ข้างในของจาริญคับแน่นและร้อนระอุเหมือนจะบีบรัดเขาให้แหลกเสียตรงนี้
รู้แล้วว่าทำไมฝ่ายรุกถึงชอบกดแช่ทิ้งไว้นานๆ เพราะมันรู้สึกดีแบบนี้อันดากอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนและเริ่มขยับช้าๆ ได้ยินจาริญครางกระท่อนกระแท่นอยู่ข้างหู มือบางปัดป่ายไปทั่วหัวไหล่และแผ่นหลังของเขา รอยเก่ายังไม่ทันจะหายเลยสงสัยจะได้รอยใหม่เพิ่มมาอีกแล้ว
ใบหน้าสวยสะบัดเล็กน้อยเพื่อจัดการเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้า กลีบปากบางจูบแก้มของจาริญพร้อมทั้งกระแทกกายเข้าไปจนสุด ถึงกับต้องเชิดหน้ากัดปากด้วยความกระสันเพราะจูนรัดเขาแน่นเหลือเกิน
พอเริ่มจับจังหวะได้อันดาขยับสะโพกเร็วขึ้น ได้ยินเสียงเฉอะแฉะรวมทั้งเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง
“อ๊า…อันดา เรา…อ๊ะ เสียว” จาริญสะบัดหน้าไปมากับหมอนใบโต ท้องน้อยจุกเสียดเพราะคนด้านบนกระแทกเข้ามาทั้งแรงและยังลึก
ทุกๆการขยับของอันดาทำให้ส่วนปลายหัวมนเบียดขยี้กับจุดกระสันข้างใน และมันทำให้จาริญเสียวจนต้องจิกเท้าลงกับเตียง
“จูน…อ๊ะ…ดีจัง อ๊า…ฮึ่ก…สุดยอดเลย” อันดาบดสะโพกเข้าใส่ช่องทางอ่อนนุ่มอย่างไม่ออมแรง เสียงครางหวานๆช่วยกระตุ้นอารมณ์รักให้ยิ่งโหมกระพือ ผนังอุ่นร้อนตอดรัดตุบๆกว่าเดิมบอกให้รู้ว่าจาริญกำลังจะแตะขอบสวรรค์ในไม่ช้า
“ไม่ไหว…อ๊า…จะเสร็จแล้ว”
“อีกนิดเดียว…อ๊ะ…นิดเดียวนะจูน”
มือเรียวจับแท่งเนื้อสีหวานที่สั่นระริกของจาริญไว้ในอุ้งมือ ช่วยขยับไปพร้อมๆกับกระแทกสะโพกบดย้ำๆ ท้องน้อยของอันดาหดเกร็ง ของเหลวอุ่นร้อนเริ่มทะลักภายในช่องทางนุ่ม
ไม่นานนักเสียงครางหวีดยาวก็ดังประสานกัน จาริญปลดปล่อยออกมาเต็มมือขาวพร้อมๆกับความรู้สึกอุ่นซ่านภายในช่องท้อง คนน่ารักลูบแผ่นหลังบางที่กำลังสั่นน้อยๆ รอจนกระทั่งส่วนนั้นของอันดาที่ฝังอยู่ข้างในสงบลงจึงพรูลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
อันดาทิ้งตัวลงกอดร่างอวบอิ่มเปลือยเปล่า จูบลาดไหล่ของจาริญซ้ำๆขึ้นมาจนถึงปลายคาง ทำเสียงงุ้งงิ้งเหมือนอยากจะอ้อน
“จูนจ๋า ~”
“อือ”
จาริญเหนื่อยเกินกว่าจะพูดเป็นคำได้เลยเพียงแค่ตอบรับในลำคอ ช่วงล่างยังชาดิกเพราะอันดาเล่นกระแทกไม่ยั้งแรงอยู่เลย ร่างบางครางฮือ ขยับสะโพกหนีมือเรียวที่ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณนั้น
“ฮื่อ ไม่เอาแล้ว”
“อีกรอบไม่ได้เหรอ”
อันดาเสียงอ่อน บีบก้นกลมเบาๆหวังจะให้จาริญเคลิ้มตาม แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าและพลิกตัวหนี อันดาไม่อยากเซ้าซี้เลยยอมแพ้แต่โดยดี ร่างเพรียวบางหยัดตัวขึ้นนั่ง เสยเส้นผมเปียกชื้นของตนเอง ก่อนจะเรียกคนที่นอนหันหลังให้เพราะจาริญทำเหมือนจะหลับ
“ยังนอนไม่ได้นะจูน”
“เหนื่อยแล้ว ง่วง”
อยากจะตีก้นเด็กดื้อจริงๆเลย จะนอนไปทั้งแบบนั้นได้ยังไง เดี๋ยวก็ไม่สบายตัวหรอก จากประสบการณ์ของอันดาที่เคยขี้เกียจไม่ยอมจัดการให้เรียบร้อยหลังจบบทรัก ตื่นมาตอนเช้าถึงจะทำความสะอาดแล้วแต่ก็ยังทำให้มวนท้องไม่สบายตัวไปทั้งวัน
“อย่าเพิ่งนอน ต้องทำความสะอาดก่อน” อันดารั้งไหล่ขาวให้คนตัวเล็กนอนหงาย จาริญทำตาปรือใส่ จะหลับอยู่รอมร่อ
“อันทำให้หน่อย”
“แน่ใจนะ ?”
จาริญพยักหน้าทั้งที่หลับตา พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้อีกรอบ อันดาถอนหายใจพลางขยับเข้ามาจับก้นนุ่มด้วยสองมือและแหวกออกเล็กน้อย ทำให้ของเหลวสีขุ่นที่เขาปล่อยทิ้งไว้ข้างในไหลย้อยออกมา อันดาใช้กระดาษทิชชู่มารองไว้เพื่อไม่ให้คราบสีขาวเปื้อนที่นอนไปมากกว่านี้
นิ้วเรียวแตะปากทางบวมช้ำ สอดนิ้วเข้าไปควานเอาคราบน้ำรักที่เหลือออกมาจนหมด ได้ยินเสียงจาริญครางเบาๆ แถมช่องทางร้อนยังขมิบรัดนิ้วของอันดาอีกต่างหาก
“อื้อ เสียว”
“ไม่ต้องครางเลย เดี๋ยวจะโดน”
อันดาตีก้อนกลมสองก้อนอย่างหมั่นเขี้ยว ทิ้งกระดาษทิชชู่ลงถังขยะหลังจากแน่ใจว่าทำความสะอาดจนเรียบร้อยดีแล้ว ร่างเพรียวบางก้าวลงจากเตียงเดินไปปิดไฟทั้งที่เนื้อตัวยังล่อนจ้อน ก่อนจะกลับมาที่เตียงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ทั้งเจ้าของห้องและตนเอง
ริมฝีปากบางจูบเบาๆตรงขมับของคนที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว อันดาล้มตัวลงนอนบ้างโดยกอดร่างนุ่มนิ่มไว้ในอ้อมแขนพร้อมทั้งกระซิบบอกชิดใบหู
“ฝันดีนะจูน”
*****
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องสร้างความรำคาญให้แก่อันดาไม่น้อย ร่างเพรียวพลิกตัวนอนคว่ำปัดป่ายมือควานหาสมาร์ทโฟนที่น่าจะตกอยู่ที่ไหนสักที่บนพื้น พอหยิบติดมือได้ก็กดรับสายทันทีโดยไม่ได้มองชื่อคนโทรเข้าเพราะยังง่วงเกินกว่าจะฝืนลืมตาได้ไหว
“ฮัลโหล” อันดากดรับสายด้วยน้ำเสียงแหบๆปนงัวเงีย แต่เมื่อปลายสายตอบกลับมาดวงตาเรียวก็ตื่นเต็มตาในทันที น้ำเสียงทุ้มๆคุ้นหู แต่เป็นเสียงที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุดในตอนนี้
อันดาเงียบ ปล่อยให้ฝ่ายนั้นยิงคำถามใส่ติดๆกัน ทั้งอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่กลับห้อง มือเรียวเสยผมตนเองลวกๆ มองคนข้างกายที่ยังหลับตาพริ้มซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ก่อนจะก้าวลงจากเตียงหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมและเดินเลี่ยงมาคุยที่ระเบียงเพราะกลัวว่าเสียงของเขาจะทำให้จาริญตื่น
“อันจะอยู่ไหนก็เรื่องของอัน จะกลับห้องหรือไม่กลับมันก็เรื่องของอันเหมือนกัน” อันดาพูดแค่นั้นก่อนจะกดวางสาย ไม่สนใจเสียงโวยวายของภูผาที่ฟังไม่ได้ศัพท์
ทำไมเลิกกันแล้วถึงยังไม่ยอมปล่อยเขาไปสักที ทั้งที่เป็นฝ่ายบอกเลิกเองแท้ๆ จะเห็นเขาเป็นของตายไปถึงไหนกัน
แขนเรียวท้าวลงกับราวระเบียง ทอดสายตามองทิวทัศน์ยามเช้าตรู่ของกรุงเทพมหานคร ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับสายลมเบาๆที่พัดผ่านใบหน้า ใช้เวลาอยู่กับตนเองครู่หนึ่งก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นร่างขาวๆนั่งจุมปุ๊กอยู่บนเตียงผมเผ้ายุ่งเหยิง
“ตื่นแล้วเหรอจูน”
“อันไปไหนมา”
“ออกไปคุยโทรศัพท์น่ะ” อันดากลับมานั่งที่เตียง ยิ้มอย่างเอ็นดูลูกแมวตัวขาวที่ขยับเข้ามากอดอย่างออดอ้อน จาริญสอดแขนเข้ากอดเอวเขาไว้ ใบหน้าหวานถูไถไปมากับไหล่
“จะอ้อนเอาอะไรคะ ?”
“เจ็บ”
เจ้าตัวเล็กบอกเสียงเบาพร้อมทั้งช้อนสายตาหวานๆขึ้นมอง อันดาจูบหน้าผากเนียนอย่างปลอบโยน
“โอ๋นะ เจ็บมากไหม”
“นิดนึง”
อันดาปล่อยให้คนขี้อ้อนคลอเคลียจนพอใจ จาริญแปลงร่างเป็นแมวอีกแล้ว เห็นไหล่เขาโผล่พ้นออกมาจากเสื้อคลุมที่ร่นลง ฟันคมๆก็งับลงมาด้วยแรงที่ทำให้รู้สึกจั๊กจี้อยู่ไม่น้อย
“อย่าซน” มือเรียวรีผมอีกฝ่ายจนยุ่งกว่าเดิม จาริญเบะปากใส่และกลับไปซุกตัวลงใต้ผ้าห่มอีกครั้งเพราะตอนนี้ยังเช้ามากอยู่เลย
“วันนี้วันเสาร์จูนนอนต่อก็ได้ เดี๋ยวเราจะออกไปทำธุระก่อนแล้วจะกลับเข้ามา”
“ฮื่อ อันจะไปไหน เราไปด้วย”
จาริญเด้งตัวลุกขึ้นทันที นิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะอาการเจ็บที่ช่วงล่างยังไม่ทุเลา เขาเจ็บอยู่นะแล้วอันดายังจะทิ้งกันไปไหนอีก
“เราจะไปเก็บของที่ห้องน่ะ”
“จะย้ายออกแล้วเหรอ ?”
“อืม เราไปเก็บของแค่แป๊บเดียวเองจูนไม่ต้องไปหรอก ยังเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ” อันดาบอกคนที่ร้องอยากจะไปด้วย เห็นจาริญบ่นว่าเจ็บข้างล่างถ้าให้ไปด้วยกลัวว่าจะลำบากเปล่าๆ
“อันไม่อยากให้เราไปด้วยเพราะไม่อยากให้เราเจอแฟนของอันใช่ไหม กลัวเค้าจะเข้าใจผิดเหรอ”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยจูน” อันดาทำเสียงอ่อน เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว แถมจาริญยังทำหน้าตึงใส่เขาอีก สุดท้ายจะทำอะไรได้นอกจากต้องยอม
“โอเคๆ ยอมแล้ว จูนไปกับเราก็ได้”
“นั่งแท็กซี่ไปก่อนแล้วกัน จะได้ไปเอารถของเราที่จอดไว้ที่ผับด้วย แล้วค่อยไปที่ห้องแฟนอัน”
“จูน ~ เรากับเค้าเลิกกันแล้วนะ ไม่ได้เป็นแฟนแล้ว” แขนเรียวสวมกอดคนตัวเล็กที่เหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี ริมฝีปากบางจูบที่แก้มนุ่มซ้ำๆอย่างเอาใจ จาริญเหลือบมองใบหน้าสวยที่เกยอยู่บนไหล่ อันดาเริ่มอยู่ไม่สุขอีกแล้ว ทั้งหอมทั้งจูบไปทั่วไหล่ขาวเปลือยเปล่า
“ตอนนี้เรามีแค่จูนคนเดียว”
“บ้า ไปอาบน้ำเลย”
อันดาหัวเราะ ฟัดหอมแก้มกลมอีกทีจนหนำใจก่อนจะยอมผละออก จาริญมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายจนประตูห้องน้ำปิดลง มือบางกุมแก้มที่ร้อนผ่าวของตนเอง
เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่แต่เจ้าของร่างเพรียวบางมีอิทธิพลต่อเขามากเหลือเกิน อย่างเมื่อครู่เพียงแค่อันดาพูดถึงแฟนเก่าก็ทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาได้แล้ว
*****
อันดายืนอยู่หน้าห้องที่คุ้นเคย ชั่งใจอยู่นานว่าจะใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปเลยหรือควรจะเคาะประตูเรียกคนในห้องให้มาเปิดดี ก่อนจะสรุปได้ว่าเปิดเข้าไปเลยคงจะดีกว่าเพราะเขาอยากเลี่ยงการเจอหน้าภูผาให้มากที่สุด เปิดประตูเข้าไปและเก็บของในห้อง จากนั้นก็กลับ ง่ายๆแค่นั้นเอง
แต่ภูผาอาจจะออกไปข้างนอกก็ได้เพราะตอนที่คุยโทรศัพท์กันเมื่อเช้าบทสนทนาจบลงอย่างไม่ดีเท่าไหร่นัก เดาว่าผู้ชายอารมณ์ร้อนอย่างภูผาก็คงจะออกไปหาที่ระบายอารมณ์ที่ไหนสักที่
พอคิดได้แบบนั้นเลยเปิดประตูเข้ามาในห้อง ภายในห้องกว้างที่แบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดีเงียบสงัด อันดาไม่รอช้ามุ่งตรงไปยังห้องของตนเอง ของจำเป็นของเขามีไม่เยอะมาก เก็บแค่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเล็กน้อยเท่านั้นก็พอ
แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่อันดาคิด เพราะเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องและพบว่าชายหนุ่มที่คิดว่าไม่อยู่ในห้องกำลังนั่งอยู่บนเตียง และแน่นอนว่าพอเปิดประตูเข้าไปภูผาก็หันมามองทันที
“อันดา!” อีกฝ่ายเรียกเขาด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนจะปรี่เข้ามาสวมกอดอย่างรวดเร็ว อันดาพยายามจะขืนตัวออกแต่สู้แรงของภูผาไม่ได้เลย
“พี่ภูปล่อย”
“อันกลับมาหาพี่แล้ว คนดีของพี่” ภูผาไม่สนใจเสียงร้องบอกให้ปล่อย อยากจะหอมแก้มคนรักให้ชื่นใจแต่เพียงแค่ก้มหน้าลงมาใกลัอันดาก็ผลักออกเต็มแรง ดวงตาคมมองอย่างไม่เข้าใจ
“ผลักพี่ทำไม”
“อันแค่จะมาเก็บของ”
“หมายความว่ายังไงอัน ?” น้ำเสียงของภูผาห้วนกระด้างขึ้นมาทันที อันดาปรายตามองอดีตคนรักเล็กน้อยก่อนจะตรงมาที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเอากระเป๋าใบใหญ่ออกมาเก็บของลวกๆ
ฝ่ายคนอายุมากกว่าเห็นแบบนั้นเลยรีบมาดึงกระเป๋าออกจากมือเรียวและโยนทิ้งไปทางอื่น อันดามองอย่างไม่พอใจ
“พี่มีสิทธิ์อะไรมาโยนของอันแบบนี้”
“อันก็ตอบพี่มาก่อนสิว่าจะเก็บของไปไหน”
“เราเลิกกันแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่อันต้องอยู่ที่นี่” อันดาพยายามทำใจเย็น เก็บของต่อไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่กำมือแน่น
“เธอจะทิ้งพี่เหรออันดา”
“เหอะ ทิ้งเหรอ” ร่างเพรียวบางทำเสียงเหอะในลำคอ แค่นยิ้มอย่างสมเพชกับคำพูดหน้าด้านๆของอดีตคนรัก
“ลืมไปแล้วหรือไงว่าคนที่บอกเลิกอันก่อนคือพี่ อยากจะไปมีความสุขกับนังเด็กนั่นก็เชิญเลย อันยอมปล่อยแล้วนี่ไง ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องมายุ่งกันอีก อันจะไปตามทางของอัน!” อันดาตวาดอย่างเหลืออด นั่นทำให้สติของภูผาขาดผึง ขายาวตรงเข้ามากระชากแขนเรียวและผลักร่างนั้นให้ล้มลงบนเตียง
“พี่ภูผา!”
“อันเป็นของพี่ และพี่จะไม่ยอมให้อันไปไหนทั้งนั้น”
ริมฝีปากของคนที่คร่อมทับอยู่ขยี้จูบลงมาอย่างหยาบคาย อันดาขยะแขยงจนอยากอาเจียน ใบหน้าสวยสะบัดไปมาเพื่อหลบหลีกจูบนั้น ภูผาเลยเปลี่ยนมาซุกไซร้ซอกคอขาวแทน มือเรียวทุบตีไหล่กว้างเป็นพัลวัน
“ปล่อยอันนะ อย่ามาทำแบบนี้!” อันดากรีดร้องเสียงดัง ดิ้นขลุกขลักเมื่อสัมผัสเย็นเฉียบจากมือหนาสอดเข้ามาใต้เสื้อ ลูบไล้และบีบเค้นผิวเนื้อขาวอย่างไม่ถนอมจนรู้สึกเจ็บ
อันดาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกระแทกเข่าใส่หน้าท้องของอีกฝ่ายเต็มแรง ภูผาร้องโอดโอยผละออกไปกุมท้องตนเอง
เพี๊ยะ! มือเรียวตวัดฟาดแก้มสากจนภูผาหน้าสะบัด นัยน์ตาเรียวของอันดามีน้ำตาคลอ ทั้งโกรธทั้งคับแค้นใจ เขาเคยรักผู้ชายเลวๆแบบนี้ได้ยังไงกัน
“อันกับพี่เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว อย่ามายุ่งกับอันอีก” อันดาบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ รีบคว้ากระเป๋าเดินออกมาจากห้องนั้นโดยไม่หันหลังกลับไปมอง หลังมือขาวเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า
ตอนนี้อันดาอยากพาตนเองไปที่รถให้เร็วที่สุด อยากเจอจาริญแล้วกอดแน่นๆ
เสียงเปิดประตูรถทำให้จาริญที่กำลังกดโทรศัพท์เพลินๆสะดุ้งเล็กน้อย กำลังจะบ่นใส่ว่ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง แต่พอเห็นใบหน้าสวยที่เปื้อนน้ำตาก็ถึงกับตกใจ
“อัน…”
“ฮึก จูน”
จาริญลูบหลังคนที่โผเข้ามากอด อันดาสะอื้นน้ำตาไหลจนเปียกชุ่มเสื้อของเขาไปหมด มือบางเปลี่ยนมาลูบผมนุ่มอย่างปลอบโยน รอจนเสียงสะอื้นเบาลงถึงได้ถาม
“เป็นอะไร ใครทำอะไรอัน ?” จาริญถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่รู้ว่าการพบหน้ากันระหว่างอันดาและแฟนเก่าเป็นยังไงบ้าง แต่ที่รู้ๆคงจะไม่ค่อยดีนัก ไม่อย่างนั้นคนในอ้อมกอดเขาคงไม่ร้องไห้จนตาแดงก่ำ
อันดาสะอื้นกับไหล่บางอยู่อีกหลายนาทีกว่าจะยอมเงยหน้าขึ้น จาริญช่วยเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าสวยอย่างเบามือ
“ร้องไห้เพราะเสียใจเหรอ ?”
“ไม่ เราแค่โกรธ ผู้ชายคนนั้นแม่งเหี้ยว่ะจูน”
จาริญเป็นผู้ฟังที่ดี คอยพยักหน้าบอกว่ารับฟังอยู่ พร้อมให้อันดาระบายทุกๆอย่างที่ไม่สบายใจให้เขาฟัง
“มันบอกว่าจะไม่ยอมปล่อยเราทั้งๆที่เป็นคนบอกเลิกเราเอง แล้วยังทำตัวทุเรศจูบเราอีก อยากจะอ้วก” อันดาถูปากตนเองแรงๆอย่างไม่กลัวเจ็บ จาริญจับมือเรียวกดไว้บนตักก่อนจะขยับเข้ามากดจูบที่ริมฝีปากบวมช้ำ จูบเบาๆไม่มีการรุกล้ำ
จูบนั้นช่างอบอุ่นและอ่อนหวาน จนทำให้หัวใจของเราเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
“ไม่เป็นไรนะ ยังมีเราอยู่ตรงนี้ทั้งคน” จาริญยิ้มให้คนที่ยังมีเสียงสะอื้นให้ได้ยิน สองมือแนบแก้มของอันดาและถูไปมา
“หยุดร้องได้แล้ว หมดสวยแล้วเนี่ย”
“ขอบคุณจริงๆนะจูน ขอบคุณที่อยู่กับเรา”
อันดากุมมืออีกฝ่ายไว้พลางบีบเบาๆ ถ้าไม่มีจาริญเขาคงจะรู้สึกเคว้งคว้างน่าดู อย่างน้อยคนตรงหน้านี้ก็ทำให้อันดาไม่ได้รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว
จาริญเป็นคนน่ารัก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เขินง่ายอีกต่างหากดูสินั่น พูดแค่นี้เองแก้มขาวๆก็แดงเรื่อขึ้นมาอีกแล้ว
“ไม่เขินดิจูน”
“เปล่าเขินสักหน่อย!”
tbc.
เรียบร้อยโรงเรียนอันดา สมใจคุณเขาล่ะ
ส่วนที่มีคนถามมว่าน้องจูนจะรุกอันดาบ้างไหม
อันนี้ก็ต้องรอดูไปค่ะ อันดาอย่าเผลอละกัน อิอิ
เรื่องนี้มีแท็กในทวิตเตอร์คือ #กุหลาบแดงกับแมวขาว นะคะ
จะคอมเม้นในนี้หรือว่าในแท็กก็แล้วแต่สะดวกเลยค่า