HAPPY NEW YEAR 2013“ก็ไหนเราตกลงกันแล้วไง”
“โถ่เกียร์ มันไม่ได้จริงๆนิครับ เข้าใจนะครับ?”
“ไม่”
“น้าน้า” นั่นไง มันเริ่มมาละ ไอ้น้ำเสียงและสายตาออดอ้อนที่ทำให้ผม(ต้อง)ตายใจตลอด แต่คราวนี้มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น! ผมชิ่งเงียบ เถียงไม่ออก
“…”
“นะครับน้ำแข็ง น้ำแข็งของไอรัก” ได้ยินประโยคนี้ จบเลยครับ ความตั้งใจของผมที่มันมักจะไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
มันอะไรกันนักหนา! ปีใหม่ทั้งทีแต่ไม่ได้อยู่กับแฟน แมร่งโคตรจะหดหู่อารมณ์เสียมากๆ ตั้งแต่ที่ไอรักเดินเข้ามาบอก…
‘เกียร์ๆ ปีใหม่นี้ไอรักหยุดไม่ได้นะครับ หมอคนอื่นก็ไม่หยุด เรื่องที่ตกลงจะไปเที่ยวต้องพับเก็บไว้ก่อน ยังไงก็ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วกันนะครับ’
มันอะไรกันนนนนนนนนนวะ!!!! มันเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาล แต่วันๆทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้ไปไหน กลับมืดกลับค่ำ หรือมันจะแอบไปมีกิ๊กวะ ไม่ ไม่ใช่หรอก เราสองคนก็ผ่านมาเยอะพอสมควร ไม่มีวันเอนเอียงไปหาใครได้อีกแล้ว ใช่ ไม่มีทางเสียหรอก ...
แต่ตอนนี้กูเริ่มหวั่นไหว
ไอรักจะมีกิ๊กชื่องานหรือเปล่าวะ!! วันๆก็ทำแต่งาน งาน งาน จนผมแทบจะบ้าตายแทนมัน รู้ว่ามันเหนื่อยจากทำงานก็หมดวันแล้ว แต่กูก็เหนื่อยตัวเองที่ต้องหึงไอ้เหี้ยห่าที่ไหนไม่รู้ที่ชื่อ
‘งาน’
อย่าให้กูเจอมึงนะ พ่อจะกรีดรถด่าพ่อกระทืบซ้ำให้เสียหมาสัดเอ๊ย!
“แล้วปีนี้เกียร์จะอยู่กับใคร” ผมทำหน้าหงอยๆไปให้มันสงสารบ้างสักนิดก็ยังดี
ปีก่อนๆเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ส่วนปีนี้ผมรีบเคลียงาน นัดมันเสียดิบดี แถมบอกตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แต่พอใกล้จะถึงวันไป มันดันกลับลำ มาบอกไปไม่ได้เสียอย่างนั้น ผมก็เข้าใจนะว่ามันทำงานหนัก ไหนจะตรวจคนไข้เองในบางครั้ง บริหารโรงพยาบาลที่พ่อมันอุส่าสร้างให้ลูกหลานตั้งหลายที่ ยังไงก็ต้องสำคัญอยู่แล้ว...
...แต่ผมก็สำคัญเหมือนกันไม่ใช่เหรอ...
...แม่งน้อยใจฉิบ...
“อยู่กับพวกพัตไงครับ ไม่เอาหน่า คิ้วพันกันยุ่งไปหมดแล้ว ยิ้มหน่อยครับคุณน้ำแข็ง” ไอ้พวกเพื่อนผมตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ครับ จะไม่ให้ติดต่อกันได้ไงละก็เล่นติดบริษัทเดียวกันเกือบยกกลุ่ม
ไอรักเขยิบตัวเข้าใกล้ผมที่นั่งอยู่บนโซฟายาวสีดำ เอานิ้วชี้คลึงปมแล้วส่งหน้ายิ้มกว้างมาให้ใจคนมองพองโต
เหี้ยเอ๊ยแค่นี้ก็ทำของกูแทบตั้งโด่ ถ้าไม่ติดว่ากูกำลังหงุดหงิดที่ไม่ได้เค้าท์ดาวน์กับมันนะ แมร่ง ใครจุดประเด็นนี้ขึ้นมาอีกวะ กูเริ่มคันตีนยิกๆอยากกระทืบ ต่อยหน้าไอ้เหี้ยงานอีกแล้วว่ะ
ผมรีบหันหลังหลบหน้าซื่อๆตาแป๋วๆก่อนที่จะใจอ่อน ความจริงกูก็เถียงมันไม่ได้อะ แค่เห็นหน้ามัน กูก็ทำไม่ลงแล้ว เซ็งตัวเองฉิบหาย กับลูกน้องแมร่งกดขี่เข้าไปดิ แต่กับไอ้แมวตัวนี้แมร่งอ่อนสัด อย่าว่าแต่กูเลย ใครมาเห็นหน้าใสๆของมันก็คงจะเป็นเหมือนกู
...ไม่กล้าขัดจริงๆว่ะ...
ผมนั่งไขว่ห้าง มือประสานที่หน้าตัก ไม่ให้มันตกใจเมื่อเห็น ‘ไอ้เกียร์น้อย’ ที่กำลังโกรธ โดยที่มันไม่ได้แตะเลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันกำลังปลุกลูกผมให้ผงาดมากกว่าเก่าด้วยการ ..
จุ๊บ
“เข้าใจไอรักหน่อยนะครับ” จุ๊บ
“นะครับ” จุ๊บ
แมร่งเอ๊ยยย ให้กูชนะมึงบ้างไม่ได้เลยเหรอวะ ถึงกูจะไปโกรธฆ่าคนทั้งโลกได้ แต่พอเจอแบบนี้ ไอ้อารมณ์ฉุนเฉียวมันหายไปตั้งแต่จุ๊บแรก เหลือแต่อารมณ์หื่นที่บังหน้ากูแล้วโว้ย
“อ๊า ..อ๊ะ...”
…………………………………….
………………………..
……………..
……
“ฮ่าๆๆ ดูไอ้เหี้ยเกียร์ดิ ไอรักมันทำงานนะโว้ย ไม่ใช่ไปนอนกับกิ๊ก เอ้ยๆ กูพูดผิด กิ๊กกั๊กอะไร ไม่มีหรอก ใช่ปะไอ้มัด” ไอ้สัดพัตรีบกลับคำเมื่อผมตวัดสายตาไปมองมัน กูไม่น่ามากับพวกมึงเลยว่ะ อารมณ์เสียฉิบหาย หงุดหงิดโว้ยยยยยย
“เออ ไอ้เชี่ยเกียร์ หยุดตีหน้ายักษ์ได้แล้ว ปกติหน้านิ่งๆของมึงก็โหดอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่ได้อยู่กับแฟน กูคงไม่ได้เห็นรอยยิ้มมึงเลยใช่ไหม ห่า!” ไอ้มัดพูดแกมน้อยใจแล้วยกเบียร์ซดอึกๆ เรื่องของกูดิ กูจะยิ้มให้พวกมึงทำซากอะไร เปลืองแรงกระตุกบนใบหน้าเสียเปล่าๆว่ะ
“ไม่ได้ยินเสียงแมร่งด้วย” ไอ้เหี้ยโฟ่เหยียบซ้ำ
“อ้าวคุณมึงก็พูดเหมือนปกติมันเคยหืออือกับเราเนอะไอ้ห่าราก มึงกินข้าวดิไอ้เกียร์”
“เหี้ยแว่น มึงดูหน้าคนที่มึงถามด้วย ระวังกระดูกตัวเองหายหรอกมึงนิ”
“มึงว่าไอ้เกียร์เป็นหมาเหรอวะไอ้มัด” ไอ้แว่นเนเบิ่งตาโตอย่างแปลกใจ
“เหี้ย กูแค่จะบอกว่ามันหงุดหงิดอยู่โว้ย ไอ้ห่าปากพล่อยนะมึง เดี๋ยวบิดากูหาศพลูกตัวเองไม่เจอกันพอดี” ไอ้มัดหันมามองผมด้วยหน้าตาเลิ่กลั่ก ผมก็ไมได้ว่าอะไร
“สรุปมึงจะไม่แดกข้าวปลาอาหารใช่ไหม” ไอ้เนหันมาถามผมอีกรอบ ไอ้เวรนี่ก็เสือกจริงวุ้ย ผมปรายตามองมันก่อนหันไปทางอื่น มันพยักหน้ารับรู้ว่า ‘โอเค มึงไม่แดก’
“เอ่อ คุณเพื่อนค้าบบ คุณเพื่อนช่วยปั้นหน้าเพื่อหน้าตาของโต๊ะพวกเราหน่อยได้ไหมครับ ผู้หญิงผ่านไปผ่านมากลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้วมึงไม่เห็นเหรอวะครับ เหยื่อกูไม่ติดเลยวันนี้ ไอ้เพื่อนหน้าเหี้ย เอ้ย หน้าโหด” ทุกคนพยักหน้ากับคำพูดไอ้พัต ช่างแมร่งดิ กูแคร์ที่ไหน ตัวผู้ตัวเมียหน้าไหนอย่ามาใกล้กู เดี๋ยวกูอัดให้หนังหลุดเลยนิสัด
ผมเสยผมไปข้างหลัง กอดอกไขว่ห้างอย่างหงุดหงิด เหี้ยเอ๊ย เก้าอี้แมร่งก็นั่งไม่สบาย หาดเหี้ยไรมีแต่หิน เรียกเทศบาลมาเก็บแมร่งเลยดีไหม สัด ทำไมตอนกูมากับไอรัก หินมันไม่ขวางหูขวางตาแบบนี้วะ แล้วพวกมึงเล่นน้ำกันสนุกเนอะไอ้ฝรั่งหัวแดง ไอ้ห่า กูอารมณ์เสียจะตายห่า แต่พวกมึงเสือกร่าเริงครื้นเครงกันทั้งหาด ไอ้ทุ่งดอกกระเจี๊ยว! อะไรวะทุ่งดอกกระเจี๊ยว เออช่างแมร่งเหอะ
ย้อนไปก่อนหน้านี้นิดหนึ่ง
‘โหลเจ็ดสิบ สองโหลยี่สิบห้า อ้ายยยคุณเพื่อนเกียร์’
“เหี้ยไร”ผมทักทายไอ้พัตอย่างมีมารยาท
‘สมพรปากครับเพื่อนกู ไปเค้าท์ดาวน์ที่หัวหินเป็นถิ่นมีหอย ฝรั่งนั่งคอย ดูหอยติดหินกันมึง!’ ผมถอดรหัสที่มันต้องการสื่อสารคือ’ไปหัวหินกัน’
“ไม่” ผมตอบทันทีโดยที่ไม่ต้องคิด
‘ไม่ได้ๆๆๆ แล้วมึงจะไปไหนของมึง ได้ข่าวไอรักไม่ว่างให้มึงนิ หึหึ’ ค-ย เรื่องบ้านคนอื่นเสือกรู้ดี ถึงไอรักจะไม่ว่าง แต่กูก็ไม่ไปกับมึงโว้ย ที่สำคัญ ถึงแม้ว่าผมกับไอรักจะไปหัวหินกันหลายครั้งจนผมแทบจะลืมเหตุการณ์ร้ายๆไปแล้ว แต่ถ้าไอรักไม่ไปด้วย ผมก็ไม่อยากไปนักหรอก
“ไม่ กูจะอยู่บ้าน” ปกติมันรู้ว่าถ้าผมบอกไม่ ก็คือไม่ ใครก็ห้ามผมไม่ได้ แต่วันนี้มันเกิดอาเพศอะไรของพวกมันไม่รู้ ซึ่งคำตอบของผมไม่มีทางเปลี่ยนไปแน่นอน...
‘ไม่ได้! มึงเป็นหมารึไงวะ ปีใหม่ทั้งที เสือกนอนเฝ้าบ้าน สรุป มึงต้องไป! มึงต้องไป! ห้ามปฏิสูด เอ้ย ปฏิสีด เอ้ย ปฏิเสธ เอ้ย ถูกแล้วว’ ไอ้เหี้ยนี่พูดไม่รู้เรื่องกูต้องทำให้มึงมีเหมือนสภาพศพชายปริศนาไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิตอยู่บนสายโมเด็มใช่ไหม
“ไปเถอะครับเกียร์” ผมหันไปมองเสียงคนรักจากข้างหลังและด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ผมจึงต้องมานั่งอารมณ์ประหนึ่งหญิงสาวประจำเดือนมาไม่ปกติบนเก้าอี้ผ้าใบริมชายหาด ลมก็ตีหน้ากูเหลือเกิน จะพัดเหี้ยไรรุนแรงนักหนา ช่วงนี้เครียดๆ ผมกูยิ่งร่วงอยู่ เยดโด้!
“อากาศดีว่ะ” กูพึ่งด่าในใจไปแหมบๆ
“โว้ววว มึงดูคนนั้นดิ สวยจังวะ กูล่ะอยากจะไปสาดน้ำกับสาวบีกินนี่สีแดงคนนั้นฉิบ”
“เออว่ะ น่ากระตุกสายบีกินนี่ดีว่ะ แมร่งคงทะลักน่าดู”
“โหเหี้ยมัดครับ ว่าแต่นมเขา ตามึงก็แทบจะทะลักออกจากเบ้า เก็บหน่อยเพื่อน กร๊ากก”
“สัด แล้วไมมึงไม่เข้าไปจีบน้องเขาเลยวะไอ้พัต อารมณ์อยากป๊อดเหรอมึง”
“ก็ถ้าไม่ติดว่ามีชายฉกรรจ์ตามติดชีวิตนางฟ้าของกูนะแมร่ง ฮึ่ยๆๆ”
“มึงเคยแคร์?” ไอ้โฟ่หันไปถามพัตกับมัดที่กำลังมองออกไปทางทะเล ผมไม่ได้มองผู้หญิงหรอกว่าสวยจริงหรือเปล่า เพราะกูไม่มีอารมณ์หันห่าไรทั้งสิ้น จบ
“ม่ายยยย อิอิ” มันว่าแล้วก็ลุกออกไป
“อย่านั่งเครียดดิวะไอ้เตียหมิด แดกปูๆ” ไอ้แว่นไม่กินผักแต่กับอาหารทะเลแทบใช้ตีนช่วยคีบเข้าปาก มึงไม่มีเมียให้ติดแล้วอย่าพูด ผมนั่งคิ้วขมวดอยู่ไม่นานก็ต้องคลายลงเพราะเสียงที่รอคอยมา(เหมือน)แสนนานดังขึ้น
‘เกียร์ของไอรัก ไอรักของเกียร์ เกียร์ของไอรัก ไอรักของเกียร์ ... ปี๊บบ’เสียงรอสายนี้ผมกับไอรักอัดเสียงตั้งนานแล้ว เราตั้งให้เหมือนกันทั้งคู่ ‘เกียร์ของไอรัก’ อันนี้เสียงผม ส่วน ‘ไอรักของเกียร์’ เป็นเสียงแมวบ้านผมเอง หึ
“คิดถึง” ผมชิงหยอดคำหวาน ด้วยเสียงทุ่มนุ่มที่ใช้เฉพาะกับมันคนเดียวเท่านั้นไปก่อนที่เจ้าตัวจะอ้าปากทัก
‘หูยย คนโทรยังไม่ได้พูดอะไรเลย คนรับชิงพูดก่อนเลยนะ ตอนจะไปผมก็ไปส่ง มาคิดถงคิดถึงอะไรเล่า ฮ่าๆๆ’ เสียงใส แง้วๆลอยมาตามสาย ทำให้ผมยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ ..คิดถึงเจ้าของเสียงว่ะ...
“ก็คืนนี้ไม่มีคนให้นอนกอด มันนอนไม่ค่อยหลับ”
‘โอ๋ๆ เดี๋ยวพ่อจะกล่อมเจ้าเอง อย่าร้องไห้นะลูกนะ เก็บน้ำตาจ่าโทเอาไว้ตอนซื้อของขวัญวันปีใหม่ให้เพื่อนในบริษัทเถอะ’ เอาแล้วไง เล่นกูแล้วไหมละไอ้แมว ดูสิ มันน่าจับมาตีก้นไหมล่ะ เลี้ยงไม่เคยเชื่อง เปลืองข้าวเปลืองน้ำจริงๆ แรงก็แรงกู ข้าวกูก็ยังต้องหุงเอง แอ๊บไหมล่ะ นายช่างใหญ่อย่างกูคนนี้คือพ่อศรีเรือนที่สุดในโลกนี้แล้ว
“เดี๋ยวจะโดน แล้วทำอะไรอยู่ หื้ม”
‘อ๋อ มากินข้าวแถวซอยอารีย์ครับ อร่อยนะ มากินด้วยเปล่า คิกๆ’
“เอาไหมล่ะ”ผมถามจริงๆครับ เพราะใจผมตอนนี้ไปอยู่กับมันแล้ว เที่ยวไปก็ไม่สนุก
‘ไอ้หยา ไอรักล้อเล่นครับคุณน้ำแข็ง เอาจริงเอาจังตล๊อดด อ๊ะ! เดี๋ยวผมกินข้าวก่อนแล้วกันนะครับ’
“อืม ...คิดถึงนะ”
‘คร้าบบ คิดถึงเหมือนกัน’
“กูว่ามึงจะอิ่มเอิบกับโทรศัพท์มึงเกินไปละ ไม่แดกคงแดกข้าว” ไอ้แว่นเงยหน้าจากก้ามปูมาแขวะ มึงเป็นเหี้ยอะไรกับกระเพาะท้องไส้กูนักหนาวะ มึงกินเหอะ มือของมันข้างหนึ่งถือก้ามปู อีกข้างถือกุ้งที่จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดแล้ว ผมเห็นแล้วอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆ อนาถจิตกับเพื่อนคนนี้เป็นที่สุด
“เมื่อกี้หน้าเป็นตูด ตอนนี้หน้าบานเป็นจานใส่ปู เป็นห่าไรมากปะสัด” ไอ้แว่นพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้เหี้ยโฟ่แล้วนั่งแดกต่อ กูไม่ได้เป็นห่า กูแค่อยากกลับไปกอดเมียโว้ยยย
“ไอรักลิซึ่มทั้งปี” ไอ้สาที่ใส่ทูพีชเดินขึ้นจากทะเลด้วยรูปร่างและท่าทางอ้อนแอ้นให้ชายแถวนี้มองตามเป็นแถว แต่คำพูดแต่ละคำแมร่งน่าเอากระบวยยัดปาก
ผมเดินแยกกับพวกนั้นก่อนเข้าห้องตัวเอง ไอ้เนกับไอ้มัดอยู่ห้องTwin Room ส่วนไอ้โฟ่ และไอ้สา แยกกันคนละห้อง ผมก็ขึ้นลิฟท์ไปนอนห้องสวีทบนสุดของแฟนผม โรงแรมนี้เป็นของไอรักครับ เห็นมันบอกว่าจองช่วงไฮซีซั่นกะทันหันแบบนี้ห้องจะไม่มีเลยเพราะเต็มหมดแล้ว แต่มันก็โทรไปเคลียห้องให้พวกเพื่อนผมจนได้
ผมเปิดไฟ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในกระเป๋าแล้วเข้าไปอาบน้ำอย่างไม่รีบร้อน เสร็จก็ออกมาใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวที่ดูเหมือนชุดนอนประจำของผมไปแล้ว จะมีบางวันเท่านั้นที่ผมเกิดอาการมึนเมาอยากใส่เสื้อยืดนอน
ผมนั่งเลื่อนดูรูปไอรักในโทรศัพท์รอพวกมันที่โซฟารับแขกไปพลางๆ เพราะพวกมันบอกจะขึ้นมาเค้าท์ดาวน์ที่ห้องนี้ จนรู้สึกว่ามันจะนานไปละ ผมเงยมองนาฬิกาที่แขวนในห้อง อีกสามนาทีเที่ยงคืน ทำไมยังไม่มากันวะ กูเริ่มมีน้ำโห ไม่ชอบรอใครนานๆ แต่ครั้นกำลังจะโทรตามพวกมัน
พรึ่บ!
อ้าวววววเชี่ยย!!
ไฟตก ไฟตัด หรือไฟดับวะ แล้วนี่มันใช่เวลาที่กูจะมาคิดกวนตีนแบบนี้ไหมเนี่ย
ผมกระพริบตาให้คุ้นชินกับความมืดก่อนตัดสินใจจะก้าวไปดูข้างนอกเสียหน่อย
หมับ!
“Happy new year my sweetheart.”เสียงหวานและอ้อมกอดที่คุ้นเคยเขย่งกระซิบจากข้างหลังผมยืนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ
“.....”
“เกียร์ ..”
“…..”
“เกียร์ครับ พูดอะไรหน่อยสิ” ให้กูพูดอะไรวะ อารมณ์ในตัวผมตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ทั้งดีใจ น้อยใจ คิดถึง หมั่นเขี้ยว เครียด งอน
โว้ยยยยย ไอ้หอกหัก! กูเริ่มงงตัวเอง สรุปกูงอนแปล่มๆแล้วกัน
“.....”
“โกรธผมเหรอ” มันเริ่มคลายกอดถามเสียงสั่นอย่างน่าสงสาร ผมไม่ได้โกรธหรอกนะ แค่เห็นมันมาอยู่ด้วยกันกับผมในวันนี้ก็ดีใจมากแล้ว แต่แค่งอนที่มันโกหกให้ผมเครียดตั้งหลายวัน
เห็นกูเงียบ ไม่ค่อยพูด ใช่ว่ากูจะเป็นคนไร้อารมณ์ ดีใจ น้อยใจใครไม่เป็น ที่ไม่แสดงบางสิ่งออกมาเหมือนคนอื่นเพราะกูต้องการข่มความเจ้าอารมณ์และความรู้สึกที่รุนแรงบางอย่างเอาไว้เท่านั้น แต่กลับกัน ผมไม่สามารถข่มความรู้สึกนี้เอาไว้ได้เลยสักครั้ง
“ไอรักขอโทษ ไอรักแค่จะ..อื้ออ...” ไม่ต้องให้มันพูดจบประโยค ผมหันไปมอบจูบปากมันที่กำลังเผยอจะพูดอะไรต่อ จับขามันมาเกี่ยวเอวแล้วอุ้มมันขึ้น รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหน้าห้องนอน มือข้างหนึ่งเปิดประตูก่อนใช้เท้าปิดอย่างรีบร้อน แล้วกดตัวตัวมันลงบนเตียงโดยที่ปากยังพันกันมัวมันไม่ห่างไปไหน
“ช่วยถอดหน่อยสิ” ผมละจากปากมัน ซุกเข้าซอกคอหอมๆ เอามือมันมาวางไว้แถวขอบกางเกงผม มันหลบตาอายหน้าแดงก่อนค่อยๆเอื้อมมือถอดบ๊อกเซอร์ของผม ผมเลยช่วยถอดเสื้อผ้ามันอย่างรวดเร็ว
เหี้ยเอ๊ย กูเห็นหน้าแดงๆของมันแล้วอยากเสร็จในตัวมันตอนนี้เลยฉิบหาย
เงี่ยนโว้ยยยยยยยย
“..อะ..อือ...เกียร์ ..ยะ อย่าขยำแรงสิ ผม ..อ๊ะ..อ๊า ..” ปากขบลงยอดอกชมพูของมัน จนหัวนมมันเป็นไต มือขยำก้นนิ่มเต็มแรงจนแดงเป็นรอยมือ มือผมลุกล้ำต้นขาเนียนก่อนขึ้นไปชักน้องชายของมันเบาๆ
“อื้ออ กะ...เกียร์”มันแอ่นตัวบิดอย่างเสียวซ่าน ครางเรียกชื่อผมเสียงหลง ยิ่งทำให้ผมแทบแตก ผมรีบยืดตัวใส่ถุงยาง ละเลงเจลบนมังกรใหญ่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีมือเล็กจับมือผมที่กำลังละเลงเจลบนมังกรใหญ่
“เดี๋ยว.. วะ วันนี้ไอรักให้สดก็ได้” เยดแม่ม ร้อยวันพันปีแทบไม่เคยให้ผมสด เพราะมันรักสะอาดมากถึงมากที่สุด ผมยิ้มหวานรีบถอดปอกออกอย่างว่องไว ไอรักหลับตาปี๋ด้วยความอายแล้วหันไปด้านข้าง
“ลืมตาแล้วมองเกียร์ชัดๆนะครับ” ผมประคองหน้ามันให้มองตรงมาทางผม โน้มตัวจูบโพลงปากหวาน มันค่อยๆลืมตามองผมที่จ้องดูมันอยู่ตลอด นิ้วค่อยๆคลึงปากทาง แทรกเข้าไปทีละนิ้ว ชักสามนิ้วเข้าออก ควงหมุนให้ช่องขยายกว้างขึ้นเพื่อไม่ให้มันเจ็บ
“พร้อมนะ” ผมพูดเมื่อเห็นจากสีหน้าเหยเกมันได้เปลี่ยนเป็นเสียวซ่าน มันพยักหน้า
“เกียร์ ...เข้ามาเถอะ อ๊ะ..” ผมไม่รอช้า ค่อยๆแทรกดุ้นแข็งเข้าไปเรื่อยๆจนขนดำดกขยุบขยับสัมผัสกับเนื้ออีกคน ผมซูดปากอย่างลืมตัว ไล้ลิ้นจากหัวนมขึ้นไปกัดซอกคอสองสามที่ก่อนดูดปากมัน ด้านล่างขมิบตอดรัดน้องชายผมแน่นจนเจ็บ ขยับก็ไม่ได้
“หายใจลึกๆ ผ่อนคลายนะ” ผมกัดฟันพูดจนกรามนูน อยากจะเร่งเครื่องเต็มทน แต่ไม่อยากให้คนตรงหน้าต้องเจ็บ ไอรักเริ่มทำตามที่ผมบอก
“อ้ะ...” เมื่อมันผ่อนแรงตอดลง ขาเริ่มหุบจนผมต้องกระทุ้งมันเบาๆ แล้วเริ่มขยับสะโพกซอยเนิบๆ สายตาผมยังจ้องไปยังตาสีน้ำทะเลที่สะท้อนเงาผมให้รู้ว่าตอนนี้สายตามันมีผมเพียงคนเดียว ..คนเดียวเท่านั้น..
“กะ .. เกียร์... อื้มม เกี..ยร์.. อ๊ะ ..”
“ซี๊ดดด อืมม..ไอรัก ...ที่รัก” ผมครางเสียงกระเซ่า กระแทกค-ยไม่ยั้ง มันเด้งเอวสวนอย่างลืมตัว เสียงสะโพกผมกระทบกับก้นมันดังระงมคับห้อง
“อ๊า อ๊ะ ..เกียร์.. ไอ.. อ้ะ ไม่ไหวแล้ว ..อ๊า...” ผมซอยยิกๆ เร็วขึ้น เร็วขึ้น มือรีบชักน้องชายมันเร็วขึ้น มันจิกเล็บเข้าต้นแขนของผมแน่น จนบิดครางตัวแอ่น ปล่อยน้ำเต็มมือใหญ่
“ไอรัก อึก..”ผมเด้าเร็วๆสี่-ห้าที จนแตกตามไปติดๆ ล้มตัวซบลงซอกคอมัน แต่ยังไม่ถอนไอ้มังกรน้อย แถมยังส่ายสะโพก หลับตาพริ้มกับความเสียวกระสั่นอยู่
“เล่ามาให้หมดเลยนะ” หลังจากที่ผมอุ้มมันไปล้างเนื้อล้างตัว ก็มานอนกอดลูบหัว หอมกระหม่อมมันอย่างถวิลหา มันตัวเบากว่าที่ผมคิดอีกนะครับ มันตัวเล็กและเตี้ยกว่าผมเยอะเลยอุ้มไหว แต่ยังไงมันก็หุ่นมาตรฐานชายไทยนะครับ อุ้มนานๆก็เล่นเอาเมื่อยเหมือนกัน
“ก็.. ก็ผมนึกว่าเกียร์จะเข้าห้องครัว ผมเลยไปแอบข้างในแล้วจะโผล่ไปจ๊ะเอ๋ให้ตกใจงะ แต่เกียร์ไม่ยอมเข้ามาซะทีอะ เลยออกมาเซอร์ไพร์สแทน แหะๆ ทีแรกกะจะลากเข้าไปในห้องครัวก็ไม่ทันความหื่นที่บังตาคุณเนี่ย ก็เลยเสียแผนไปหมด นี่ผมอุส่าไปเตี๊ยมกับเพื่อนของคุณ แล้วไปหัดทำอาหารที่คุณชอบด้วยนะจะบอกให้” อ๋อ ที่กลับค่ำๆมืดๆนี่เพราะไปซุ่มหัดทำอาหารใช่ไหม รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มหน้าบานยังไงไม่รู้ มันเหมือนผีเสื้อที่บินอยู่ในท้องเต็มไปหมด
ก็มันเล่น ‘ไม่มีสัจจะในหมู่แมว’ แบบน่ารักๆกับผมขนาดนี้
ไม่ให้ผมรักมันได้ยังไงล่ะวะ
“หิวแล้ว” ผมลุกขึ้นดึงมือมันไปห้องครัว มันทำหน้าเหวองงๆประมาณว่าอารมณ์ไหนของมึงเนี่ย ก็อยู่ดีๆผมก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่าหิว มันเลยตามไม่ทัน ผมอมยิ้มกับใบหน้าเอ๋อๆของมัน
ผมนั่งลงพลางมองอาหารเต็มไปหมด แต่ละจานผ่านการพิถีพิถันมาอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้ว่ามันทำอาหารไม่เป็น แค่ไข่ดาวมันยังทำไข่แดงแตก แถมไหม้อีกต่างหาก แต่นี่มันทำหลายต่อหลายอย่างที่ผมคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้กินฝีมือเมียตัวเองแน่ๆ แต่มันกลับพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดเพื่อผม มันทำให้ผมอดยิ้มกว้างไม่ได้ ผมไม่เคยกลายเป็นเกียร์คนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นเลยสักครั้ง อดคิดไม่ได้ว่าไอรักทำให้ผมมีสองบุคลิกไปโดยปริยาย
“เดี๋ยวอุ่นก่อนนะครับ แปบหนึ่งๆ” ผมยิ้มหน้าบานนั่งรอมัน นานเท่าไรไม่รู้ที่ผมนั่งเท้าคางมองเจ้าตัวที่หัวหมุนจับโน่นจับนี่อย่างยุ่งเหยิงไปหมด เจ้าแมวตัวนี้ชอบซุ่มซ่ามเวลาเข้าห้องครัว ผมแอบหวั่นว่ามันจะทำงานอาหารตกแตก อยากจะเข้าไปช่วยมันนะ แต่มองไอ้แมวเอ๋อทำอะไรแบบนี้แล้วมีความสุขชะมัด เลยขอมองมันอยู่ตรงนี้แล้วกัน
จะน่ารักไปไหนวะไอ้ตัวยุ่งเอ๊ย
“ฮ่า~ เอาล่ะ กินได้แล้วครับ” มันยิ้มแป้นแล้นแข่งกับผม แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเจอผมที่กำลังยิ้มให้มันอยู่ ก็ก้มหน้างุดๆแทบจะไหลลงไปใต้โต๊ะ
“นะ นี่คุณยิ้มอะไรอะ อย่ายิ้มแบบนั้นดิ” อ้าว กูยิ้มแบบไหนไปวะ
“แบบไหน”
“ก็ แบบยิ้มกว้างๆ ตาหื่นๆอะ ..โอ้ยๆ ใจกูหยุดเต้นไปยังวะนี่” ผมหลุดหัวเราะพรืดตอนมันพึมพำก้มหน้าจับอกข้างซ้ายของตัวเองที่ดูเหมือนจะหายใจเร็วกว่าปกติ ผมยังงงไม่หาย นี่ตากูแสดงความหื่นชัดขนาดนั้นเลยเหรอวะ หึ ไอ้ตาไม่รักดี เสือกแสดงออกหมดเปลือกแบบไร้ข้อกังขา
“ไม่ใช่แค่ตา เมื่อกี้ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ” พูดเสร็จ เหมือนเสียง ‘บุ๋ง’ ถูกปล่อยออกมาจากแก้มแดงแปร๊ดของมัน ยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศอีก แก้มจะไหม้ไหมวะ แมร่งเอ๊ย แล้วนี่จะไม่ให้ผมหื่นได้ไง เห็นแล้วน่ากดลงโต๊ะอาหารตรงนี้สัดๆ
“โอ้ยย กินข้าวได้แล้วเกียร์” อะๆไม่แกล้งแล้วก็ได้ผมตักต้มข่าไก่ จะยกซดน้ำ แต่ดันเห็นสายตาโตๆเหมือนลุ้นอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้า ผมแอบยิ้มในใจก่อนค่อยๆชิมช้าๆ มันลุ้นกำช้อนส้อมแน่น มองสีหน้าผมที่แกล้งนิ่งๆคิ้วขมวด แล้วยิ้มออกมา พร้อมพูดบางคำลอยๆให้คนตรงหน้าได้ยิน ก่อนที่มันจะหลุบตาลงมองจานข้าวตรงหน้าของมัน แล้วยิ้มหวานที่สุดให้กับตัวเอง
ทั้งชีวิต ผมไม่เคยตามหาความสุข ไม่เคยสนใจสิ่งสวยงามรอบตัว ไม่เคยให้ใครรุกล้ำก้าวก่ายเข้ามาในชีวิตให้ปั่นป่วนจนเกินจำเป็น ไม่เคยรู้ว่าการที่มีคนที่เรารักและเขารักตอบจะมีความสุขเพียงใด
ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยคิดที่จะสนใจ
แต่เมื่อผมได้รู้จักไอรัก ได้รัก เห็นมันงอน หัวเราะ มีความสุข อยู่ข้างๆผม และได้ร่วมใช้ชีวิตไปพร้อมกับมัน ..
ผมพึ่งเข้าใจสิ่งนั้น
สิ่งที่หลายคนวิ่งหา ที่ตั้งชื่อให้มันว่า ‘ความสุข’ มันเป็นอย่างไร
ไอรักคือความสุขที่แท้จริงของผม
“อร่อยกว่าที่คิดแฮะ”
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ
TBC--------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
*เรื่องตอนต่อไปขอรอดูเรทติ้งตอนนี้ก่อนแล้วกันนะคะ แล้วจะอัพให้ถ้ามีคนโพสต์พอสมควร เพราะมาคิดๆแล้วโซ่อาจจะอัพติดกันเกินไปหน่อยน่ัะค่ะ*
ปีใหม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันเอ่ย~ อืมมม .. ปีนี้ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข สมดังปราถนาทุกประการ
อย่าได้เจ็บอย่าได้ไข้ การงานรุ่งเรือง การเรียนเกรดAทุกตัว ร่ำรวยกันทุกคน ความรักก็สมหวัง อย่าได้มีอุปสรรคใดๆ
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะทุกคน