เตี้ยนักจะรักปะล่ะ? – My Dearest 20 cm.
ตอนที่ 28. คนที่ไม่รู้ใจตัวเอง
[เจด ชิติพัทธ์] ... หลังจากนั้น 3 วัน
ผมเดินหงุดหงิดงุ่นง่านหน้าบ้านพี่รหัสอยู่เกือบชั่วโมง บ้านหรูตั้งอยู่ในบ้านจัดสรรแถวราชพฤกษ์มีผังหมู่บ้านที่เป็นระเบียบ บ้านแต่ละหลังพื้นที่กว้างขวางสมฐานะของคนละแวกนี้ ถนนภายในหมู่บ้านสีเก่าหม่นแต่ก็ดูดีกว่าลูกรังแถบต่างจังหวัด ผมจอดรถไว้ริมทางและเดินเป็นหนูติดจั่นตรงนี้ก็ไม่มีวี่แววว่าผู้คนละแวกใกล้ๆจะสนใจออกมาเปิดดู จะกดกริ่งรึก็ไม่กล้า ไม่ได้กลัวพ่อหรือแม่หรอกนะครับเพราะก่อนหน้านี้เข้าๆออกๆเป็นว่าเล่น ทั้งตอนตั้งวงกินเหล้า หรือตอนประชุมพี่ว้าก แต่ตอนนี้กลัวจะเจอพี่รหัสตัวเองเสียมากกว่า ไม่อยากโดนขัดขวางตั้งแต่แรก
แกร็ก...
เสียงประตูเล็กเปิดกว้าง ร่างสูงที่คุ้นเคยสวมเสื้อยืดแมนยูฯตัดกับกางเกงบอลเชลซีทำหน้าตกใจที่เห็นผมยืนอยู่เบื้องหน้า เคมีปรับสายตาตกใจให้เป็นปกติ ใบหน้าเรียบเฉยหยั่งเชิงในท่ากอดอก สายตาเราทั้งคู่ประสานกันอย่างเงอะเงิ่น ไม่มีใครเริ่มทักทายกันก่อน ความสดใสของเคมีชวนให้วาบหวิวอย่างช่วยไม่ได้ ริมฝีปากกระจับสวยได้รูปนั้นปิดสนิท หน้าอกแน่นนูนเด่นเพราะกล้ามที่ออกกำลังกายอย่างหนักมีเม็ดเล็กๆโผล่พุ่งในร่มผ้า รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวเมื่อจับจ้องท่อนล่างที่แกว่งไกว ท่าทางจะไม่ตั้งใจจะออกจากบ้านไปไหนเพราะหนุ่มหล่อตรงหน้าไม่ใส่กางเกงใน อะไรๆที่นอนนิ่งจึงขยับไหวตามจังหวะการเดิน ผมสะกดกลั้นความหื่นของตัวเองโดยการมองไปที่ขาสวยสีแทนที่เต็มไปด้วยขนหน้าแข้งหนาเรียงตัว
“มองอะไรไอ้หื่น”
“ห๊ะ” สงสัยหน้าตาผมจะหื่นจริงๆไม่งั้นคงไม่โดนทักแบบนี้
“มาด้อมๆมองๆบ้านคนอื่นทำไม เป็นโรคจิตเหรอ” เคมีไม่ได้เดินเข้ามาใกล้ ส่วนผมก็ไม่ได้ถามว่าเขาเปิดประตูมาทำไม ไม่นานเสียงมอเตอร์ไซค์ก็วิ่งมาพร้อมกับส่งอาหารเลยทำให้รู้เหตุผล
“พ่อแม่ไม่อยู่เหรอ” บ้านนี้ดีอยู่อย่างหนึ่งคือ มีคุณแม่ทำอาหาร แถมฝีมืออร่อยด้วย ถ้าลูกชายออกมาสั่งเองแบบนี้คงไม่ต้องให้บอกหรอกนะว่าอยู่หรือเปล่า ผมรู้แหละ แต่ถามเพราะไม่รู้ว่าจะต่อบทสนทนายังไงต่างหาก
“พี่ไม่อยู่” เหมือนเราจะสนทนาเรื่องเดียวกันเลยนะ ... เคมีพูดก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ผมละล้าละลังก่อนจะวิ่งพรวดรั้งขอบประตูที่กำลังจะปิดลงไว้ได้
“งั้นพี่เข้าไปได้ไหม”
“ตามสบาย” แววตานั้นไม่ได้บ่งบอกความรู้สึก คิดแล้วก็ปวดร้าวไม่หยอก ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมน้องถึงไม่ห้าม เพราะผมมาที่นี่บ่อยมาก มาเองหรือไม่ก็มากับไอ้ปิ๊ง การที่พี่รหัสไม่อยู่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไปรอไม่ได้
“เอ่อ” ผมไม่ทันจะพูดอะไร ร่างสูงก็เดินเข้าไปในบ้านหรู ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้เหงื่อไคลที่ไหลย้อยเริ่มแห้ง ผมไอเสียงดังเพราะคันคอเนื่องจากอากาศรอบกายเปลี่ยน
“อะ” น้ำดื่มถูกยื่นมาให้ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่ครัว เทข้าวผัดของโปรดผมวางไว้ในจานเปล่า ข้างกันมีข้าวหมูกระเทียมไข่ดาว
“อยู่คนเดียวทำไมซื้อมาสองที่ล่ะ” ผมเดินไปที่ครัวอย่างวิสาสะ บอกแล้วว่ามาบ่อย
“หิวน่ะ” เคมีเขี่ยข้าวในจานเหมือนคนไม่อยากอาหารเสียมากกว่า เพิ่งสังเกตคนตรงหน้าได้อย่างเต็มตา เขาดูผอมลงไปนิดหน่อย แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเจ้าของบ้านคงเห็นผมเดินไปเดินมาหน้าประตูเป็นชั่วโมงจนถึงเที่ยงก็ยังไม่กลับ เลยซื้อเผื่อ ... ขอให้เป็นแบบที่คิดด้วยเถอะ เพี้ยง!
“หิวแล้วทำไมไม่กินล่ะ” ผมถาม เด็กหนุ่มหน้าหล่อหันมาสบตา พลังงานวูบวาบแล่นพล่านจนผมหน้าแดงไปหมด ภาพเรือนร่างเปลือยเปล่าของเขาแว้บมาอีกครั้ง
“มองอะไรขนาดนี้” เคมีเขี่ยข้าวในจานซ้ำไปมา ใบหน้าหล่อด้วยดวงตาคมกริบรับกับจมูกโด่งงอนราวกับหมอเสกให้ หลายคนเลยเข้าใจผิดว่าเคมีไปทำมาทั้งหน้า เพราะไม่ว่าจะมองส่วนไหนมันคือความลงตัวทั้งหมด รูปกรามที่เป็นกรอบชัดแถมได้ระยะที่เท่ากันไม่ผิดเพี้ยน วางด้วยปากสวยน่าจูบ เคมีเป็นคนผิวสองสี ไม่ขาวไม่ดำ ออกเหลืองหน่อย ผิดกับฟิสิกส์ที่เป็นคนขาว พี่น้องบ้านนี้หล่อแต่คนละแบบกัน พี่ชายจะไม่หล่อจัดจ้านแต่มีเสน่ห์มาก ไม่ว่าใครอยู่ใกล้จะต้องตกหลุมรัก ผิดกับเคมี ที่หล่อกระชากใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอ แถมยังคารมดี จีบใครก็ติด ถึงชื่อเสียงจะกระฉ่อนก็ยังมีคนให้ควงไม่ขาด
“มองคนหล่อ ไม่ได้เหรอ”
“เลี่ยนว่ะ พี่มีธุระอะไร” ผมนั่งตรงข้ามบนโต๊ะอาหาร จานข้าวผัดถูกเลื่อนมาวางตรงหน้า
“ซื้อมาให้เหรอ” เคมีไม่ตอบ ตักข้าวและเคี้ยวอย่างเชื่องช้า “ขอบคุณนะ” ผมยิ้มก่อนจะจ้วงมื้อแรกของวันอย่างหิวโหย
ผมวางจานที่ล้างเสร็จอย่างเรียบร้อยก่อนจะหันมองบรรยากาศเงียบสนิท เจ้าของบ้านคงขึ้นห้องไปแล้ว หลังจากเช็ดมือจนแห้งก็คิดชั่งใจว่าจะตามไปดีไหม ผมเกลียดท่าทางนิ่งเฉยแบบนี้มาก เพราะไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง คำถามมันก็เลยว่ายวนในหัวไม่จบสิ้น เคมียังโกรธเรื่องตอนนั้นอยู่ไหม เขาจะรังเกียจเราไหม หรืออะไรอีก 108 ที่มาในแง่ลบทั้งนั้น
...แล้วแบบนี้จะให้ทำไงวะ เกิดมาไม่เคยง้อใครนะเว้ย ตอนที่คบกับน้องหนึ่งก็ทีนึงละ เขาไม่ติดต่อมา ทำไมจะต้องติดต่อไปด้วยล่ะ เป็นเพราะทิฐิแบบนี้แหละ เลยทำให้ต้องเลิกกันไป ผมไม่ใช่คนขี้เหร่นะครับ เป็นเดือนมหา’ลัย เป็นนักฟุตบอลคณะ เป็นประธานว้ากปี 3 ดีกรีดีขนาดนี้มีแต่คนพลีกายให้ ... แต่ทำไมตอนนี้ถึงว้าวุ่นได้ขนาดนี้นะ...
ก๊อกๆ
ผมเคาะประตูก่อนเปิดเข้าห้องลูกชายคนรองของบ้าน ประตูไม้เงาวับไม่ได้ล็อกเช่นเคย เคมีนั่งเด่นอยู่ที่โต๊ะทำงานจดจ่อกับเกมต่อสู้ยอดฮิตบนหน้าจอขนาดใหญ่อย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สองมือง่วนกับแป้นพิมพ์ ใส่หูฟังครอบไว้แต่เสียงเอ็ฟเฟ็กในเกมก็ดังกระหึ่มเล็ดลอดมาเผื่อแผ่ ผมเดินเงียบเชียบไปนั่งที่ปลายเตียงก่อนจะปล่อยกายให้ไหลไปนอนบนที่นอนนุ่ม ไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนก่อนที่จะมีแรงเขย่าปลุกให้ตื่นจากความง่วนงัน
“ค่ำแล้ว กลับบ้านไป” เคมีดูเงียบขรึมกว่าเก่า เราเคยสนิทและเล่นหัวกันได้สนิทใจมากกว่านี้ ร่างสูงไม่ได้อยู่บนเตียง แค่โน้มตัวเขย่าตัวอยู่ข้างๆ ผมหาว ขยี้ตาก่อนจะทำเรื่องที่คิดไว้มานาน
จุ๊ฟ... ขนาดหน้าสดๆยังหอมเลย
“พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย” เคมีโวยวายลั่น จากที่เก๊กขรึมก็หลุดอาการประหม่า ผุดลุกไปยืนข้างเตียงด้วยใบหน้าแตกตื่น
“ทำสิ่งที่อยากทำไง” ผมยิ้ม รอแค่ว่าเขาจะหวดหมัดมาประเคนหน้าตอนไหน ... แต่เปล่า ร่างสูงนั้นนิ่งเงียบไป
“โกรธพี่เหรอ พี่ขอโทษ” ผมลุกมาประชิด แววตาหนักใจของอีกฝ่ายทำให้ต้องอึกอัก นี่ทำอะไรผิดอีกแล้วเนี่ย พอเข้าใกล้ อีกฝ่ายก็เดินหนี เหมือนกำลังเดินไล่จับกันรอบเตียง ใบหน้าแสดงออกว่าไม่เชื่อใจนั้นชวนให้ปวดใจแปลบปลาบ คิดถึงบรรยากาศเมื่อก่อนที่เราเล่นกัน บางทีเคมีก็กระโดดขี่หลังตามประสาเด็กมัธยมที่สนิทกับพี่ชายอีกคน
“พี่ขอโทษเรื่องอะไรล่ะ” ผมรั้งแขนหนานั้นไว้ได้ เราต่างหยุดอยู่กับที่ เสียงลมกรรโชกด้านนอกมาพร้อมกับเสียงฟ้าคำรามครืนใหญ่ เสียงของเหลวตกจากฟากฟ้ากระทบตัวบ้านเปาะแปะทำลายความเงียบ อากาศเย็นลงจากเดิมเนื่องจากไอฝน ฟ้าแลบวูบวาบไปมาชวนให้หวาดหวั่น ฝนเทกระหน่ำทั้งที่ไม่มีเค้ามาก่อนชวนให้เหงาจับใจแม้จะอยู่กับคนพิเศษก็ตาม
“ก็ เรื่องจูบเมื่อกี้ไง” ผมตอบตามจริง
“งั้นพี่กลับไปเหอะ” รุ่นน้องคนสนิทเอ่ยปาก ร่างสูงทรุดนั่งบนเตียงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“เดี๋ยวสิ” ผมจับข้อมือหนาไว้แน่นก่อนจะนั่งยองๆตรงหน้า ทำไมต้องทำท่าทางโกรธขนาดนี้ด้วยล่ะ “พี่ เอ่อ...”
เป็นผมเองที่นิ่งเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง คำพูดไอ้ปิ๊งที่เตือนสติในคืนบายเนียร์ และคำพูดก่อกวนใจของน้องหนึ่งตอนที่คุยกันวันก่อนทำให้ต้องพาตัวเองมาที่นี่ แต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็เผลอหลับ แถมตื่นมาก็ขโมยจูบเจ้าของบ้านหน้าตาเฉย ดีเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่กระทืบ เพราะที่ผ่านๆมา เคมีมันก็จัดว่าเป็นผู้ชายสายโหดเช่นกัน
“ไม่มีอะไรจะพูดก็ไม่ต้องพูด พี่กลับไปเถอะ” น้ำเสียงไม่บ่งบอกอารมณ์ทำให้ผมใจหาย ทำไมจะต้องมึนตึงกันขนาดนี้ด้วยวะ
“เคมี” ผมลองปรับกลยุทธ์ “มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูพูดไม่เก่ง โง่เรื่องความสัมพันธ์ ดีแต่แหกปากว้าก”
“อืม”
“ที่ผ่านมา กูควงคนโน้นคนนี้เพราะเขาเข้าหากูเอง กูไม่เคยต้องลงแรงจีบ ไม่เคยต้องสนใจตามเทคแคร์อะไร” ผมรู้ นี่แหละนิสัยผมล่ะ ผิดกับเคมี ถึงมันจะดูเจ้าชู้ แต่มันก็รู้จักเข้าหาสาวๆ รู้จักวิธีจีบและเอาใจ มันเป็นคนที่ค่อนข้างเฟอร์เฟ็ค ต่างกับผมที่ค่อนข้างจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
“อือ”
“กูเลยไม่รู้ว่า กูต้องพูดหรือทำยังไงดี เรื่อง ... เรื่องระหว่าง เอ่อ... เรา” เสียงพูดตะกุกตะกักแผ่วเบา บังคับเสียงไม่ให้สั่นยังยากเลยวินาทีนี้ แต่ผมไม่อยากให้เรื่องของเราเป็นแค่ความผิดพลาดแค่ชั่วครั้งชั่วคราว
“ไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดไง ให้มันจบๆไป” ผมตาค้าง นี่คือสิ่งที่น้องเค้าคิดจริงๆเหรอ แต่ใบหน้านั้นกลับฉายแววเจ็บปวดเสี้ยววินาทีก่อนจะกลับไปเรียบเฉย ผมใจชื้นขึ้นและคิดเข้าข้างตัวเองว่าคนตรงหน้าอาจจะหวั่นไหวเช่นกัน ถึงแม้ความเป็นไปได้อาจจะน้อยกว่า 1% แต่ถ้าไม่ลองก็เท่ากับว่าทิ้งโอกาสที่มี...แม้จะน้อยนิดแค่ไหนก็ตาม
“มึงคิดแบบนี้จริงๆใช่มั้ย” ผมถามทวน “นึกว่าที่มึงหลบหน้ากูเพราะพี่มึงสั่งห้าม” เมื่อโพล่งความอัดอั้นออกมาทุกอย่างก็เงียบ มีเพียงสายฝนที่ตกหนักเท่านั้นที่เปล่งเสียงทั่วบริเวณ หนุ่มหล่อก้มหน้าและกลับมาสบตาในที่สุด
“พี่ฟิสิกส์ไม่ได้ห้าม” เคมีพลั้งปาก แล้วก็เงียบก้มหน้างุด...
“กูนึกว่าพี่มันห้ามมึงเหมือนห้ามกู” แววตาประหลาดใจของเคมีทำผมแปลกใจ
“พี่ว่าอะไรนะ” เขาถามซ้ำ ผมกำลังประมวลผลในหัวไปมา
“เอ่อ ขะ คือ กูบอกว่า กะ กูน่ะอยากมาพูดขอโทษเรื่องของเราตั้งนานแล้ว แต่พี่ชายมึงห้ามกูไว้” ผมพูดตรงๆ เพราะไม่รู้จริงๆว่าตัวเองโดนห้ามฝ่ายเดียวหรือเปล่า “พี่ฟิสิกส์สั่งห้ามไม่ให้กู เอ๊ย พี่เข้ามายุ่งกับเรา”
“แล้วพี่ก็เชื่อ”
“คือ ...” ผมไม่รู้จะพูดอะไร “กู เอ๊ย พี่ขอโทษว่ะ ขอโทษกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น”
ฟู่ ... เสียงถอนหายใจของเคมีทำให้ผมประหม่าอีกครั้ง “จะกูก็กู ไม่ต้องฝืน ... แล้ววันนี้พี่มาที่นี่ทำไม”
“ก็” ตอบอะไรดีวะ ช่วยผมคิดหน่อยได้ไหม คนเราไม่ได้ฉลาดทุกเรื่องนะเว้ย
“พี่กลับก่อนเถอะ ค่ำแล้ว” ทั้งบ้านเงียบสนิท เหมือนกับว่าไม่มีใครกลับมาเลยสักคน กลับไปตอนนี้รถติดแน่นอน
“ถ้ากูพูดอะไรออกไปแล้วมึงไม่พอใจ มึงต่อยกูได้นะ” ผมตัดสินใจแล้ว ไหนๆจะเสี่ยงแล้วก็เอาให้สุด ไอ้ปิ๊ง น้องหนึ่งช่วยกูด้วย...
“...” เคมีขยับไปยืนพิงผนัง ร่างสูงเต็มไปด้วยมัดกล้ามดึงดูดสายตาจนละไม่ได้ ผมหวั่นไหวกับแววตาดุดันนั้นตั้งแต่ตอนไหนกันแน่วะ ตอนที่เราเผลอไผลได้กันหรือว่าตั้งแต่ผมเป็นพี่เลี้ยงตอนประกวดเดือนมหา’ลัยปีก่อน หรือว่าตอนที่มาบ้านนี้ครั้งแรกตอนชิติพัทธ์อยู่ปี 1 เพื่อมาส่งพี่รหัสที่เมาปลิ้นจนต้องค้างที่นี่อย่างเลี่ยงไม่ได้
“กูเป็นเกย์” ผมพูดในสิ่งที่คนฟังน่าจะรู้อยู่แล้ว “ที่ผ่านมากูไม่ได้ตั้งใจจะหลอกมึงนะ แต่กูไม่อยากให้มึงหรือพี่ชายมึงรังเกียจตัวกู” ผมหายใจหอบถี่ แต่ก็ยังพูดต่อ
“กูรู้ว่าเรื่องที่กูทำกับมึงมันเหี้ย แม่งแย่ ที่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือทุกอย่างจนมึง...”
“เป็นเมียพี่” มันพูดเสียงเรียบ ผมสะอึกมองสายตาที่อ่านไม่ออกนั้นอย่างกระอักกระอ่วน สองมือกำหมัดแน่น
“กูผิดเอง กูขอโทษ กูแม่งเลว กูมันชั่วเองที่ทำแบบนั้นกับมึงแถมยังขี้ขลาดไม่กล้ามาขอโทษซึ่งๆหน้า”
ผลัก!
เป็นไปตามคาดครับ หมัดดุ้นใหญ่ประเคนแก้มซ้ายจนหน้าบิด ตัวเซกองลงกับพื้น ผมค่อยๆลุกขึ้นมาเพื่อรอแรงปะทะรอบต่อไป ไม่เสียชื่อนักมวยจริงด้วย แค่หมัดแรกปากก็แตกเสียแล้ว แต่เพื่อไถ่โทษ เจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน
“นี่สำหรับที่พี่ทำไว้กับผม”
ผลัก!
“นี่สำหรับที่พี่แม่งขี้ขลาด” คนออกหมัดท่าทางจะเหนื่อยเพราะส่งมาสุดแรง ผมแสบปากแถมมีเลือดเค็มปะแล่มไหลเข้ามาปนกับน้ำลายจนต้องกลืนมันลงคอ มองคนที่ยืนหยัดมาต่อยสองหมัดติดด้วยแววตาละห้อย ความเจ็บที่กายไม่เท่ากับความปวดใจตอนนี้เลยสักนิด
“กูขอโทษ” ผมอยากจะใช้คำว่าพี่เพื่อให้รู้ว่าเขาคือคนพิเศษ แต่การใช้กูมึงกับเขา ก็เพื่อให้คนฟังได้รู้ว่าเราเคยสนิทกันมาก่อน
“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกนะ” มันบอก
“ไม่ทำ สัญญา” ผมรีบยกสามนิ้วรับคำ “มึงหายโกรธกูยังวะ ถ้ายังต่อยกูอีกได้นะ” แม้จะเจ็บ แต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือ
“ต่อยอีกพี่ก็หน้าแหกพอดี ลืมไปแล้วเหรอว่าผมเป็นนักมวยนะ” รู้ดิ หน้าชาไปหมดแล้วเนี่ย
“มึงกับกู โอเคแล้วใช่มั้ยวะ”
“พี่ว่าพี่โอเคใช่ไหมล่ะ ถ้ากลับไปเป็นแบบเดิม” มันถาม ผมนิ่ง ... แบบเดิม คือ พี่น้องที่สนิท
“พี่น้อง” ผมพูดแผ่วเบา เหมือนใจลอยหายไปไหนแล้วไม่รู้
“อื้อ พี่น้อง ถ้าพี่โอเคผมก็ อุ๊บ...” จังหวะนั้นไม่รู้อะไรดลใจ ผมพุ่งตัวประชิดกดริมฝีปากลมกลีบปากเย้ายวนที่กำลังเปล่งเสียงตรงหน้า แรงเบียดไปมาชวนวาบหวามก่อนจะดุนดันความเร่าร้อนให้มากขึ้น แววตาตกใจของเคมีเบิกกว้าง มือใหญ่พยายามรั้งตัวผมให้ผละออก แต่เรี่ยวแรงที่มากพอกันทำให้มันชุลมุนจนกลายเป็นพลั้งเผลอ ลิ้นสากผมว่ายเวียนในโพรงอุ่นอย่างสุขสันต์ แรงดูดเฟ้นส่งประสานกันไปทั่วปาก น้ำเหนียวยืดย้อย แรงฮึดขัดขืนแปรเป็นกอดรัดกันอย่างหิวกระหาย ความปรารถนาป่าเถื่อนปะทุคลั่ง ร่างของพวกเราแนบชิดแรงกระชากไปมารั้งร่างให้ล้มบนที่นอนหนานุ่ม เสียงดูดดุนถี่ยิบรุนแรงจนแทบลืมหายใจ
“พี่ไม่โอเคว่ะ แฮ่กๆๆ พี่ไม่โอเค” ผมผละความหอมหวานก่อนจะสบตาที่แสนนิ่งงันนั้นอย่างเนิ่นนาน แม่งกว่าจะรู้ใจตัวเองก็แทบจะเสียเขาไปงั้นเหรอ ถ้าเคมีจะไม่ยอมรับหรือพัฒนาความสัมพันธ์ใดๆ ผมก็จะยอมรับถ้าเราทั้งคู่จะมองหน้ากันไม่ติด
“พี่แม่ง พูดเอาแต่ได้ว่ะ” คนที่นอนใต้ร่างผมตัดพ้อ ปากแดงเจ่อเพราะแรงปะทะเมื่อครู่เย้าอารมณ์ไม่หยุดหย่อน
“พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่อยากเสียเราไป” ผมพูดตามที่รู้สึก “พี่คิดว่าพี่รักเรา รักมากด้วย” ผมก้มหอมแก้มที่นิ่งงัน
“พี่รักผม?” น้ำเสียงไม่เชื่อถามย้ำ “ตั้งแต่ตอนไหน...ถ้ารักเพราะได้ผมเป็นเมียแล้วคิดจะรับผิดชอบไม่ต้องก็ได้นะ” เคมีพูดออกมาอย่างไม่เชื่อคำพูดที่ได้ยิน แต่ใบหน้าที่เคยเฉยชากลับมีประกายระเรื่อออกมา
“ไม่” ผมรีบตอบ “พี่รักเคมี ไม่รู้ว่าตอนไหน พี่รู้แค่ว่าตลอดสามปีที่ผ่านมา สายตาพี่มีแต่เรา”
แววตานิ่งเรียบเปลี่ยนเป็นแวววับ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้างอวดฟันสวยเรียงเป็นระเบียบ “พี่...อื้ออออ”
ผมไม่รอคำตอบอะไรแล้ว กดกลีบปากตัวเองกระชับความหอมหวานอย่างหนักหน่วง ลูบไล้มือไปทั่วร่างแกร่งอย่างรักใคร่ ความต้องการปะทุลุกโชนยากจะต้าน เคมีกระชับอ้อมแขนกอดรัดต้นคอไว้แน่น ลมหายใจรุนแรงหอบถี่สอดประสานอย่างวาบหวิว แก่นกายผุดตัวตื่นใต้ร่มผ้าเสียดสีกันไปมาอย่างร้อนเร่า น้ำลายไหลยืดถูกดูดกลืนราวกับน้ำเชื่อมหอมหวาน ผมล้วงใต้กางเกงผืนบางสะกิดกับความร้อนระอุที่ขยายตัวราวกับหิน สัมผัสร้อนระอุทั่วทั้งความยาวกระตุ้นให้รสจูบฟาดฟันรุนแรงกว่าเก่า ขยับตัวที่แนบชิดบนร่างของเคมีออกเพื่อปลดปล่อยความใหญ่โตที่ถูกรูดเฟ้นให้เผยตัว ขนาดของมันช่างน่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง แรงเขย่าขึ้นลงจนเจ้าตัวบิดกายไปมาอย่างซ่านเสียว
เคมีกดริมฝีปากหนักหน่วง ใบหน้าหล่อเหลายกขึ้นมาดันให้ผมค่อยๆเปลี่ยนมานอนราบให้ร่างสูงขยับมาเป็นฝ่ายทาบทับ ช่วงล่างเปลือยเปล่าเพราะมือใหญ่รูดซิปกางเกงของผมให้หลุดออก ความสยิวจนต้องร้องครางอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อมือนุ่มนั้นครอบครองความแข็งขืนของผมไว้อย่างแผ่วเบา นิ้วโป้งเขี่ยวนตรงส่วนปลายเปิดจนตัวกระตุก ของเหลวใสที่หยาดเยิ้มทำให้สัมผัสนั้นไหลลื่นยิ่งขึ้น จมูกโด่งงอนซุกไล้ตรงแก้มซ้ายและไหลเรื่อยจบที่ซอกคอ ผมร้องอย่างพึงพอใจกับสัมผัสวาบหวามที่ได้รับ ปากสวยดูดเฟ้นไหล่หนาอย่างรุนแรง เจ็บหน่วงแต่กลับล่องลอยด้วยความอิ่มเอม ปล่อยให้เคมีครอบครองยอดอกสีนวลอย่างหวิวไหว น้ำลายเย็นแตะเม็ดแข็งชูชันจนขนกายลุกไปทั่ว มือผละจากท่อนเนื้อใหญ่โตมาโอบกอดคนที่โลมเลียอย่างรักใคร่ เคมีไม่ใช่ผู้ชายไร้เดียงสา ชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงของรุ่นน้องคนนี้มีมานานแล้ว แต่กับเพศเดียวกันอาจจะเงอะเงิ่นไปบ้างในตอนแรกที่ผมล่วงเกินเขา แต่ครั้งนี้มันเกิดจากการสมยอมของทั้งสองฝ่าย แรงซุกไซร้โหมเปลวไฟในตัวลุกโชติช่วง ผมอ่อนระทวยยิ่งขึ้นเมื่อถูกปลุกปั่นอย่างช่ำชอง
เคมีดึงใบหน้ากลับมาแนบชิดก่อนกดรสจูบหอมหวานมาอีกหลายครั้ง ผมสบตาเป็นประกายอย่างระทวย เขายกยิ้มกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงสั่นเทาด้วยแรงปรารถนา “รอบนี้ผมทำพี่นะ” แจ้งข่าวตอนที่ 29 นะครับUpdate ตอนล่าสุดแล้วกับนิยายสุดฟิน
#เตี้ยนักจะรักปะล่ะ ชื่อตอนหวานๆว่า #วันธรรมดากับคนพิเศษ
อ่านกันได้ในระบบสนับสนุนนะครับ
ไรต์แปะลิงค์ 4 เว็บตามนี้เลยจ้า ไล่เรียงอ่านได้ตามสะดวกครับ
#ใครที่อดใจรอได้ตอนที่ 29 จะเอามาลงที่เล้าเป็ดเสาร์หน้านะครับ
.
.
1. #ธัญวลัย tunwalai.com ::
http://www.tunwalai.com/chapter/5663017/%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-29-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a9.
.
2. #Fictionlog ::
https://fictionlog.co/c/6012629c650e37001b5a86de.
.
3. #readAwrite ::
https://www.readawrite.com/c/809eeaea70c09fb7aba29f0109c62633.
.
4. #Kawebook ::
https://www.kawebook.com/story/4275/246087/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B0--My-Dearest-20-cm/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-29-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9.
.
เช่นเคยนะครับ ถ้าอ่านแล้วถูกใจ ฝากเม้นต์ให้กำลังใจไรต์ด้วยนะครับ
หรือสามารถแนะนำเพื่อนๆสายวายมาอ่านกันเยอะๆนะ
อย่าลืมตามไปกดติดตามผมได้ที่ FB >>
https://www.facebook.com/Begintillanend/.
.
#จากต้นจนอวสาน #นิยายวาย #นิยายวัยทำงาน
#นิยายY #นิยายรัก #SexyGuys
#นิยายน่าอ่าน #นิยายฟรี #นิยายดีๆ
#นิยายดี #นิยายฟินๆ #นิยายฟิน
#เตี้ยนักจะรักปะล่ะ #MyDearest20cm
#นิยายวัยรุ่น #เฟรชชี่ #รักวัยเรียน #รักต่างไซส์