อยากมีแฟนวิศวะเขาว่าให้ถูเกียร์ [ภาคกันต์ตอง] ตอน4 17/9/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากมีแฟนวิศวะเขาว่าให้ถูเกียร์ [ภาคกันต์ตอง] ตอน4 17/9/59  (อ่าน 13778 ครั้ง)

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ




 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2016 00:23:22 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
บทนำ




ผมเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘อยากมีแฟนวิศวะให้ไปถูเกียร์’ จากใครก็ไม่ทราบ แต่มันเหมือนเป็นความเชื่อที่ทำให้เด็กปีหนึ่งจากหลายๆคณะไปถูเกียร์ที่คณะวิศวะจริงๆจะว่าไปมันก็ตลก มันไม่มีหรอกไอ้ที่ไปถูอะไรแบบนั้นแล้วได้แฟน มันก็แค่เรื่องไร้สาระ ไร้สาระจริงๆ …ถึงจะบอกตัวเองไปแบบนั้น …ผมก็ลองไปเสี่ยงโชคมาแล้ว เพราะสาวแว่นคนหนึ่ง…แต่คงเป็นโชคร้ายมากกว่าโชคดีที่ผมได้ ‘ผู้ชายโหดๆ’มาแทน มันเป็นอะไรที่…เอาเป็นว่าผมจะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกเลยก็แล้วกัน



..

“มึงเคยได้ยินเรื่องที่รุ่นพี่กับเพื่อนปีเรามันพูดหรือเปล่าวะตอง”

“เรื่องไหน”

“ก็เรื่องถูเกียร์ไง”

“ตลก ใครเชื่อก็บ้าแล้ว” ผมแสร้งหัวเราะออกมาเสียงดัง ขณะนี้ผมกับไอ้ภากำลังขี่ผ่านคณะวิศวะขวัญใจสาวๆเข้าพอดีหลังจากที่
ปั่นงานจนดึกดื่นค่อนคืน

 “เออ กูก็ว่างั้น แต่ก็ยังมีคนมาทำตามอีกเนาะ”ไอ้ภาพึมพำ ผมเหลือบมองสัญลักษณ์เกียร์เด่นชัดที่หน้าคณะ เห็นแล้วก็พลอยนึกถึงเมื่อคืน…ที่ผมย่องมาถูเกียร์ดึกๆดื่นๆ สาธุไปตั้งหลายรอบ เพราะดันไปตกหลุมรักสาวแว่นเข้า เธอชื่อแก้ว เรียนวิศวะคอมฯ ลองนึกภาพผมกับเธอเดินด้วยกันแล้ว…หนุ่มแว่นกับสาวแว่น…ต้องออกมาน่ารักแน่ๆ

“มึงน่าจะไปถูบ้างนะ เผื่อสาวแว่นคนนั้นจะหันมามอง”ไอ้ภาขำหึ ทำลายภาพมโนฝันของผมแตกสลาย เพราะคำพูดของเพื่อนทำผมร้อนตัว 

“กูไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”ผมทำเสียงเหมือนเห็นเป็นเรื่องงไร้สาระ ไอ้ภาขำเบาๆจนผมเสียวสันหลังวูบๆกลัวว่ามันจะรู้ทันผม เพราะมันกับผมสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ แทบจะรู้นิสัยกันหมดแล้ว ไอ้ภาจอดที่ร้านโจ๊กร้านประจำ ลูกค้ายังมีไม่มากนัก ผมกระโดดลงจากรถ บิดตัวไปมาไล่อาการปวดเมื่อย 

“สั่งให้ด้วย”ผมบอกเพื่อน ก่อนเดินตัวปลิวไปหาโต๊ะด้านในร้าน สายตากวาดไปทั่วจนเจอกับร่างสูงที่นั่งอ่านหนังสือเล่มเล็กๆใน
มือเพียงคนเดียวอยู่ที่โต๊ะริมสุด มองๆแล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะ เพราะเสื้อยืดสีเลือดหมูที่สวมอยู่ เครื่องหน้าคมดุฉายชัด ปากหยักลึก จมูกรับกับใบหน้า นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองหนังสือไม่วางตา แต่แล้วอยู่ๆ สายตานั้นก็ มองตรงมาที่ผม ทำเอารีบหลบสายตาไปทางอื่นแทบไม่ทัน ใจเต้นกระหน่ำรัวอย่างประหลาด ไม่ใช่อาการตกหลุมรักอะไรแน่น่อน! แต่เป็นเพราะผมกลัวต่างหาก เพราะสายตาของรุ่นพี่คนนั้นช่างดุดันจริงๆ สงสัยจะท้องผูก   

“นั่งรอสบายเลยนะไอ้สัด”ไอ้ภาบ่นเบาๆ พร้อมกับวางแก้วน้ำลงตรงหน้าผม ก่อนจะหย่อนก้นตาม ผมทำทีเป็นหยิบแก้วมายกดื่ม เหลือบมองทางหางตาว่าไอ้พี่หน้าดุมันเลิกมองแล้วหรือยัง

เอื๊อก…ยังมองอยู่อีก 

“เป็นอะไรวะ นั่งตัวแข็งๆ”ไอ้ภาสังเกต ไม่รู้อะไรดลใจมันถึงเหลียวมองไปรอบๆ มันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเจอเข้ากับสายตาดุๆของรุ่นพี่วิศวะก่อนกลับมามองหน้าผมตามเดิม

“นั่นพี่กันต์วิศวะปีสอง เขาว่ากันว่าโหดมากกก”มันกระซิบเล่าเบาๆ 

“เหรอ”ผมไม่แปลกใจเลย เพราะสีหน้าและสายตาบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ จนเมื่อรู้สึกว่าปลอดภัยกับสายตานั้นแล้ว ผมจึงมองสำรวจพี่โหดอีกครั้ง…เค้าโครงหน้าแบบนี้…คุ้นๆแฮะ แต่ก็นึกไม่ออก ผมรีบย้ายสายตากลับมามองแก้วน้ำ เมื่ออีกฝ่ายเงยหน้ามองผมอีกรอบ มืออีกข้างดันกรอบแว่นที่เลื่อนตกมาที่ปลายจมูก โชคดีที่โจ๊กตับหมูใส่ไข่ของโปรดมาเสิร์ฟเข้าพอดี

“ว่าแต่มึงเถอะ กูพูดเลยนะ ถ้าอยากจีบสาวแว่นคนนั้นมึงต้องกล้าๆหน่อย ไม่ใช่แอบเอาขนมไปให้หลบๆซ่อนๆแบบนั้น แล้วแบบนี้มึงจะสมหวังตอนไหน”ไอ้ภาย่นหน้าใส่ ผมได้แต่ถอนหายใจ ก็คนมันไม่กล้า แล้วอย่างผม…เธอจะสนใจเหรอ แก้วก็ออกจะน่ารัก

“เออน่า กูพอใจของกูแบบนี้”ผมคนโจ๊กในถ้วยอย่างเหม่อลอย ระหว่างนั้นเจ้าของสายตาดุก็เลื่อนเก้าอี้ออก ผมกับไอ้ภาหันไปมอง เจ้าตัวแค่มองมาแว๊บเดียวก่อนจะเดินออกจากร้านไป

“หน้าตาไม่รับแขกเลย กูว่าถ้าใครได้เฮียแกเป็นแฟนล่ะก็…โชคร้ายชิบ…”มันพึมพำเบาๆ ไอ้ภาถนัดนักล่ะ ไอ้เรื่องสอดรู้ ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา รีบๆทานให้เสร็จเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว ไอ้ภามันก็บ่นอะไรของมันไปตามเรื่อง จนผมทานเสร็จก่อนมันอีก

“เดี๋ยวกูมา”ผมบอกเพื่อนก่อนออกไปนอกร้าน รถฟีโน่ของไอ้ภาจอดอยู่ที่เดิม แต่ที่แปลกคือมีกระดาษแผ่นเล็กๆแปะอยู่ที่เบาะรถ ผมเข้าไปดูว่ามันคืออะไร


 ‘เลิกเอาขนมป็อกกี้มาให้แก้วได้แล้ว น้องแว่น’


ลายมือตวัดๆนั้นปรากฏชัดเจน ผมมองไปรอบๆ สงสัยว่าใครเป็นคนเอามาแปะ แล้วยังรู้ด้วยว่าเป็นผมที่เอาไปให้แก้ว เขาเห็นหรือว่าเป็นแฟนแก้วกันแน่? แต่เท่าที่รู้แก้ว ไม่มีแฟนนี่นา ผมเข้าไปหาเจ้าของร้านที่กำลังทำโจ๊กอยู่

“เอ่อ ลุงครับ ลุงเห็นทราบไหมว่าใครเอามาแปะที่รถ…”คุณลุงเงยหน้ามามองครู่เดียวก่อนตอบ

“อ้อ…ไอ้กันต์น่ะ ที่เพิ่งออกจากร้านไปเมื่อกี้ไง”ผมได้แต่มึนงง พี่หน้าดุคนนั้นน่ะเหรอ…หรือว่าเป็นแฟนแก้ว คิดแล้วก็ห่อเหี่ยว ผมยัดกระดาษแผ่นนั้นเก็บไว้ ไม่อยากให้ไอ้ภาเห็น เดี๋ยวมันจะบ่นผมอีก โธ่เอ้ย ไอ้ตองไม่มีดวงเรื่องความรักจริงๆ!   





********************************************************





ค่ำคืนสังสรรค์งานเลี้ยงต้อนรับน้องรหัสเป็นไปอย่างครึกครื้น ร้านหมูกระทะดูจะแน่นไปถนัดตา เมื่อเหล่าปีหนึ่งและปีสองพากันมาเกือบยกรุ่น กลิ่นเนื้อย่างหอมๆฟุ้งกระจายไปทั่ว แต่ควันไฟเหล่านั้นกลับทำให้ผมย่นหน้า พร้อมกับโบกลมไปทิศทางอื่น

“อสกข”ไอ้ภาเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างโพล่งขึ้นมาทำเอาผมงง

“อะไรวะ…”ผมเลิกคิ้ว พร้อมกับดึงแว่นออกมา ใช้ปลายเสื้อเช็ดให้หายขุ่นมัว

“ไอ้สัดกูขำไง หึๆ น่าสงสารมานั่งดมควันแท้ๆเพื่อนกู”ไอ้ภาหัวเราะหึ 

“งั้นเปลี่ยนที่กันไหมล่ะ”เพราะที่มันติดกับบ่อปลา นั่งชมวิว มองปลาเพลินๆได้

“ไม่”คำตอบของมันไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเลยสักนิด ไอ้เพื่อนเลว ผมนั่งแว่นมัวต่อไป ก่อนจะพยายามแย่งชิ้นหมูให้ทันเพื่อนๆ
และพี่ไอซ์พี่รหัสของผม

“ไอ้ตองมึงนี่ท่าจะทำอะไรไม่ทันคนอื่นแน่เลยว่ะ เอ้า”คนที่คีบหมูมาใส่จานให้ผมกลับเป็นพี่โต๋ พี่รหัสไอ้ภา

“ก็พวกพี่มือไวนี่ ผมแย่งไม่ทันหรอก”ผมบ่นพึมพำก่อนจะดันแว่นที่ตกลงมาที่ดั้งจมูก พี่โต๋ได้แต่ส่ายหน้าไปมา   

“เฮ้ย มึง…วันนี้พวกเด็กวิศวะมันมาด้วยเหรอ”พี่ขิมที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยพูดขึ้นมา สายตาเพ่งมองไปยังกลุ่มคนที่สวมเสื้อช็อปสีเลือดหมูอันเป็นเอกลักษณ์ ผมมองตามพวกพี่ๆบ้าง กลุ่มนั้นคงพาน้องมาเลี้ยงเหมือนกัน มองไปก็ไม่เห็นมีอะไรน่าแปลกตรงไหน ทำไมพี่ขิมต้องทำเป็นตื่นเต้นด้วยก็ไม่รู้

“กูหวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรนะ ไอ้กันต์ยิ่งไม่ถูกกับพวกไอ้ป้องอยู่”พี่ไอซ์พึมพำขึ้นมา กันต์เหรอ…ทำไมชื่อคุ้นๆ ผมมองตามพวกรุ่นพี่ไป พบกับร่างสูง ใบหน้าดุดันแบบนั้นผมจำได้ดี ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก ผมนึกไปถึงข้อความในกระดาษแผ่นนั้นแล้วตีหน้า
บึ้ง     

“สายตาแม่งอย่างกับยักษ์ กูว่ามันคงเหม็นหน้ามึงแน่ๆว่ะ ไอซ์”พี่โต๋วางตะเกียบลงเสียงดัง แบบนี้หมายความว่าพี่ไอซ์เองเคยมีปัญหากับพี่กันต์เหรอเนี่ย ผมเลียบๆเคียงๆมองไปยังกลุ่มวิศวะกลุ่มเดิม เจ้าของสายตาดุดันไม่ได้สนใจโต๊ะผมอีกแล้ว ผมเผลอพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมองพี่รหัสตัวเองที่กำลังตีหน้าเข้มอยู่ สงสัยขึ้นมาว่าเคยมีเรื่องอะไรกัน

“เนื้อหมดว่ะ ไอ้ตองไปตักให้พี่หน่อยซิ”พี่ไอซ์ได้ทีใช้แรงงาน ผมจำต้องลุกไปอย่างช่วยไม่ได้ ผมดันเก้าอี้ออกอย่างทุลักทุเลเพราะเนื้อที่ค่อนข้างแคบ

“มึงก็ใช้น้อง”พี่โต๋เขวี้ยงสายตาดุไปให้เพื่อนก่อนจะหันมามองผม “เอามาเผื่อพี่ด้วยนะน้องตองผู้น่ารัก”

“ทีแบบนี้มาทำชม”ผมบ่นอุบ แต่ก็ยอมไปตักให้ ผมพุ่งตรงไปที่ถาดใส่เนื้อทันที มือคว้าจานเล็กๆมาถือ อีกมือเอื้อมคว้าที่คีบที่ว่างอยู่ ยังไม่ทันได้แตะ เพราะมีร่างสูงใหญ่แทรกตัวเบียดเข้ามาคว้าที่คีบนั่นไปก่อน 

“เฮ้ย…”ผมอ้าปากหมายต่อว่า แต่ไอ้คนเสียมารยาทตรงหน้ากลับเป็นเจ้าของเครื่องหน้าคมดุ ผมหุบปากฉับเมื่อคนร่างสูงเลิกคิ้วขึ้น

“มีปัญหาอะไร”หน้าก็ดุ เสียงแม่งยังดุอีก ผมขยับมือดันแว่นที่เลื่อนตกมาที่ดั้งอีกครั้ง ใจเต้นตึกๆอย่างตื่นกลัว

“อ..เปล่าครับ”ผมจำต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาอีกฝ่ายแทน ได้แต่ยืนเซ่อรอที่คีบว่างๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อไอ้ตัว
มารยาททรามหน้าดุคีบเนื้อมาใส่ในจานของผมด้วยท่าทางเหมือนคนไม่เต็มใจ จนเศษเนื้อกระเด็นโดนเสื้อเฟรชชี่สีขาวของตน

ไอ้โหดนี่มัน…

“ไม่พอใจเคลียร์ได้นะ”ไอ้พี่กันต์วางที่คีบลงก่อนจะใช้ลิ้นดุนกระพุงแก้มด้วยท่าทางเหมือนพวกนักเลง ดูแล้วจงใจยั่วโมโหผมมากกว่า

 “น้องแว่น”อีกฝ่ายโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหู ระยะขนาดนี้ทำให้ผมได้กลิ่นบุหรี่จางๆมาจากร่างสูง ผมได้แต่ยืนรากงอกอยู่ที่เดิม พี่กันต์เดินกลับไปที่โต๊ะได้ครึ่งทางแล้ว แต่ก็เหลียวมายักคิ้วกวนประสาทให้ผม

“คิดว่าเท่หรือไง”ผมก่นด่าตามหลังอย่างเหม็นขี้หน้า มันไม่ได้เท่เลยแม้แต่น้อย! ผมเดินหน้าบึ้งกลับมาที่โต๊ะ พวกพี่ๆทั้งหลายมองมาที่ผมเป็นตาเดียว คงเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่แน่

 “เหมือนพี่เขาจะกินหัวมึงเลยว่ะไอ้ตอง”ไอ้ภาพูดพลางหัวเราะขำ

“มันไม่ได้ทำอะไรมึงใช่ไหม”พี่โต๋ถาม 

“ไม่ครับ”ยกเว้นทำให้ตกใจและหงุดหงิดปนหมั่นไส้ จากมุมนี้ผมเห็นพวกกลุ่มวิศวะชัดเต็มตา ไอ้พี่กันต์นั่งเอนหลังและเหมือนมองตรงมาที่โต๊ะพวกผม ผมเอาตะเกียบที่เพิ่งจิ้มน้ำจิ้มเข้าปากก่อนจะค่อยๆเหลียวมองรอบตัวหาพี่ป้องว่าอยู่แถวนี้รึเปล่า ก็ไม่มี…แล้วไอ้โหดนั่นมันมองใคร

“ไอ้ตอง เหมือนพี่กันต์มองว่ะ”ไอ้ภาสะกิดแขนผมพลางพึมพำเบาๆ ที่นั่งมันก็คงมองเห็นเหมือนกัน

“กูนึกว่าคิดไปเองซะอีก”ผมกระซิบตอบกลับไปบ้าง

“พี่โต๋ ช่วยขยับมาทางนี้หน่อย …นั่นแหละๆ”ผมทำมือให้พี่เขาขยับตาม พี่โต๋ขยับเก้าอี้ตามพลางทำหน้างงๆ

“ทำไมวะ”

“เปล่าพี่”แค่มีสายตาดุๆมองมา…ผมกลืนไม่ลงครับ 

“เออ เดี๋ยวกินหมูกระทะเสร็จ กูพาพวกมึงสองคนไปต่อเอง”พี่โต๋ยื่นหน้ามาพูดใกล้ๆ

“อะแฮ่ม”พี่ไอซ์กระแอมขัดคอ

“เฮ้ย วันแรกก็ต้อนรับน้องรหัสให้เต็มที่หน่อย มึงสองคนไปเปล่า”

“ไปครับ”ผมกับไอ้ภารีบตอบพร้อมกัน ผมยังไม่เคยเที่ยวกลางคืนเลยสักครั้ง เพราะช่วงมัธยมปลายก็เอาแต่เรียน ทางบ้านเข้มงวดให้ผมอยู่ในกรอบเสมอ กว่าจะขอเรียนคณะนี้ได้ก็แทบตาย ผมสอบติดพวกสายแพทย์แต่ผมไม่ชอบ ผมอยากเรียนในสิ่งที่ตัวเองถนัดและรักมากกว่า โชคดีที่พ่อเป็นคนหนุนหลังให้ผมเถียงแม่อีกแรง พ่อของผมน่ารักเสมอจริงๆ

สุดท้ายพี่โต๋กับพี่ไอซ์(ทำมากระแอม)ก็พาผมกับไอ้ภาไปต่อที่ผับใกล้ๆแห่งหนึ่ง เตรียมพร้อมกันมามากๆ พี่รหัสผมเอาเสื้อเชิ้ตมาให้เปลี่ยนด้วย เตรียมพร้อมกว่านี้ไม่มีแล้ว

“คือผมไม่อยากเมาอ่ะ ขอเป็นน้ำโค้กได้ไหมครับ”ผมกระซิบกับพี่ไอซ์ ผมไม่เคยแตะของมึนเมาเลยสักแอะ เมาเป๋ขึ้นมากลัวจะ
ทำตัวตลกๆให้ขายขี้หน้า

“มึงมากับกูไม่ต่องห่วงนะไอ้ตอง เมาเดี๋ยวกูพากลับเอง”พี่รหัสตบบ่าให้ผมมั่นใจ แต่พอตูดติดเก้าอี้ได้พี่เขาก็ยกเอาๆ ผมวางใจได้เหรอเนี่ย ผมไม่อยากเสี่ยงเลยขอจิบแค่สปายอ่อนๆพอ แต่ไอ้ภามันอยากลองจัดหนักๆไปพร้อมพี่รหัสมัน

“มึงมันหงิม”พี่โต๋ชี้หน้าผมพร้อมกับยกยิ้มขำ ผมไม่เถียงเพราะเป็นเรื่องจริง กวาดสายตามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น

“ทำท่าอย่างกับไม่เคยมา”พี่ไอซ์มุ่นคิ้วมองอาการของผม

“ก็…ไม่เคยมาไง”ผมยิ้มแห้ง

“ห๊ะ มึงลูกคุณหนูเหรอ”

“เปล่า แค่…ไม่เคยมาก็คือไม่เคยมา ไม่เกี่ยวกับลูกคุณหนูหรืออะไรทั้งนั้นอ่ะพี่”ผมทำหน้าบูด ไม่ค่อยชอบให้ใครพูดแบบนี้

“โอ๋ๆ กูล้อเล่น”พี่รหัสเข้ามาโยกตัวผมเบาๆเหมือนเด็กน้อย นั่นยิ่งทำให้ผมหน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม

“ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ผมบอกกับแก้วเปล่าๆของตัวเอง เพราะแต่ล่ะคนไม่ได้สนใจผมเลย มองหน้าไอ้ภาแล้วก็ส่ายหน้าระอาก่อนจะเดินลัดเลาะไปเข้าห้องน้ำด้านในสุด

ตึง!

ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงตึงตังจากน้องห้องน้ำ ผมขยับกางเกงให้เข้าที่ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพื้นรองเท้าดังอยู่ใกล้ๆ

 “คิดว่าหนีกูพ้นเหรอ”เสียงเข้มๆดุๆแบบนี้ ผมจำได้ว่าคือเสียงพี่กันต์ ด้วยอารามตกใจผมจึงรีบซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบหลังบาน
ประตูห้องน้ำทันที เกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อร่างหนึ่งถูกเหวี่ยงเข้ามาในห้องน้ำ   

“โอ๊ยย”เสียงแบบนี้ พี่ป้องรึเปล่า ผมค่อยๆเยี่ยมหน้าออกไปดูอย่างระมัดระวัง 

“มึงคิดผิดแล้วที่ยั่วโมโหคนอย่างกู”ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่เมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างๆของพี่กันต์เข้ามาในกรอบสายตา และคนที่ถูกเหยียบอยู่ใต้รองเท้าคอนเวิส์สคือพี่ป้องจริงๆ ทำไมไม่มีใครมาห้ามเลยสักคน พี่ป้องมันจะตายอยู่แล้ว ผมตัวสั่นขึ้นมา เมื่อมองเห็นเสี้ยวหน้าซีดเผือดของรุ่นพี่ในคณะ

 “มึงแย่งแฟนกู…”เสียงข่มขื่นดังลอดมาจากกรามที่ขบแน่น

“ไอ้โง่ แฟนมึงมาอ่อยกูเอง แต่ของใช้แล้วกูก็ไม่อยากยุ่งให้เสียชื่อ แต่แฟนมึงก็ตามตื้อกูไม่หยุด ชักคิดแล้วสิว่ามึงคงไม่มี
น้ำยา”ไอ้พี่กันต์ดูจะสะใจพอตัว ผมได้ยินแล้วยังเจ็บใจแทนพี่ป้องเลย ไอ้พี่กันต์ก้โหดสมคำร่ำลือจริงๆ 

“ไอ้เชี่ย!”สิ้นคำด่าของพี่ป้องก็ตามมาด้วยเสียงดังตุบ ผมเบือนหน้าหนีเหตุการณ์ตรงหน้า หันกลับมาอีกทีก็เห็นว่าพี่ป้องกำลังจ้องมองมาที่ผมพร้อมกับทำปากพะงาบๆว่าช่วยด้วย 

โอ๊ยตาย ผมคงช่วยพี่ไม่ได้หรอก! เวรเอ๊ย อย่ามองมาทางโผมม 

ร่างของผมเย็นเฉียบเมื่อร่างสูงค่อยๆหมุนตัวมายังทิศทางที่ผมหลบซ่อนตัวอยู่ คิ้วเลิกสูงเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ซ่อนตัวอยู่หลังบานประตูห้องน้ำ

“ไง…นึกว่าใคร”พี่กันต์เอ่ยทักเสียงเย็น ผมส่ายหน้าไปมาอย่างนึกกลัว ร่างนั้นสาวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ส่วนพี่ป้องนอนขดตัวอยู่ที่พื้นห้องน้ำเย็นๆพยายามลุกหนีอย่างยากลำบาก

“น้องแว่นนี่เอง”

“คือ…ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น อย่าทำอะไรผมเลยนะ”ปากคอสั่นไปหมด ผมหลับตาแน่น เกิดความเงียบอยู่ระลอกใหญ่จนผมได้ยินเสียงเพลงดังตึงๆแว่วมา มีเพียงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ใกล้ๆ ผ่านไปนานจนผมมีความกล้าพอที่จะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตรงหน้ายกยิ้มอย่างนึกสนุก สายตาจ้องมาที่ผม 

“ถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นล่ะก็…”สายตาดุๆของมันตวัดมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง

“แน่นอนครับ ผมไม่บอกใครแน่นอน”ผมหลับหูหลับตาพูด ไม่กล้าเงยหน้ามองหน้าคมนั้น แต่สงสัยก้มมากไป เพราะแว่นของผมร่วงลงไปที่พื้น เวรแล้วไหมล่ะ

“หึ”ไอ้พี่โหดหัวเราะหึอย่างนึกขำ สายตาพร่ามัวเล็กน้อย


แกร๊บ.............


ผมมองไปที่ปลายเท้าของตัวเอง แว่นของผมแหลกละเอียดคารองเท้าคอนเวิร์สแพง ๆนั่น ผมเงยหน้ามองพี่กันต์ด้วยความโกรธ ทำแบบนี้มันเกินไปแล้ว ถึงผมจะกลัวมัน แต่ผมจะไม่ยอมหงอเด็ดขาด!

 “อ่ะๆ ทำไม จะต่อยเหรอ เอาสิ”มันยื่นหน้ามาให้ผมต่อย ไม่มีท่าทีกลัวแม้แต่น้อย ผมกำหมัดแน่น ถึงจะมองเห็นเลือนราง แต่รอยยิ้มเยาะของคนตรงหน้าก็ชัดเจน เมื่อเห็นว่าผมไม่ขยับ ร่างนั้นก็ถอยห่างไปจากผม   

มัวยืนบื้อทำไมวะไอ้ตองเข้าไปต่อยมันเลยสิ


เสียงหนึ่งในหัวของผมเรียกร้อง ผมกลืนน้ำลาย กำหมัดแน่น สู้เว้ย!ปลุกใจตัวเองเสร็จก็พุ่งตรงไปที่ร่างสูงนั้นอย่างไม่กลัวตายทันที ถึงจะมองเบลอ ๆ แต่ผมก็ยังเห็น เอาหมัดของผมไปกินเถอะ   ไอ้พี่กันต์หันมามองเมื่อได้ยินเสียง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวถึงตัวอีกฝ่าย ผมก็สะดุดเชือกรองเท้าของตัวเองล้มหน้าคะมำอย่างไม่หน้าดู

“อุบ ฮ่ะ ๆ โอ๊ย ฮ่าๆ”เสียงหัวเราะราวกับมีอะไรขำนักหนาดังขึ้น ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะดังเข้ามาใกล้ ผมเงยหน้ามองทั้งๆที่นอนคว่ำแผ่อยู่กับพื้นห้องน้ำอย่างหมดท่า   

 “จะต่อยพี่เหรอครับ...”ไอ้พี่กันต์ขยับมานั่งมอง ยื่นมือมาบีบคางผมแรงๆแล้วหลุดหัวเราะอีกรอบ ….

“รอไปอีกร้อยปีนะ” นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นและผมจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด ไอ้ผู้ชายชื่อกันต์!







ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ตอนที่1





เหตุการณ์คราวนั้นทำเอาผมเสียหน้าและเป็นเดือดเป็นร้อน(ฝ่ายเดียว)ไปเสียหลายวัน  ผมซื้อแว่นใหม่มาแทนแว่นตัวเก่าที่แหลกไปเพราะน้ำมือของไอ้พี่กันต์เรียบร้อยแล้วและยังเก็บซากแว่นอันนัันไว้ดูต่างหน้าให้ช้ำใจเล่น
แว่นนั่น...ผมใช้มาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ไม่เคยเปลี่ยนเลยว่าจะทำสถิติให้นานกว่านี้แท้ๆ นึกถึงคนที่เหยียบแว่นของผมแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็ไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้คณะวิศวะอีกเลย ขนมป็อกกี้ก็ไม่ได้เอาไปให้แก้วแล้ว กลัวจะเจอพี่กันต์เข้า

“เปลี่ยนแว่นใหม่เหรอ ตอง”ไอ้ภาทักด้วยน้ำเสียงกวนประสาท

“มึงพูดแบบนี้มาสามวันแล้วนะ”ผมมองเพื่อนด้วยสายตาเอือมๆ 

“แหม ก็กูแปลกใจนี่หว่า เห็นมึงถนุถนอมน้องแว่นของมึงอย่างดี ก็เลยไม่คิดว่าจะเปลี่ยน อะไรดลใจล่ะ”มันขยับมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม สีหน้าอยากรู้ฉายชัดเจน ผมนึกไปถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำอีกครั้ง และก็เหมือนได้ยินเสียงดังแกร๊บของแว่นที่แหลกสลายคารองเท้าคู่เน่าๆของพี่กันต์แว่วมา     

“เฮ้ย ไอ้ตองมึงได้ยินที่กูถามไหมเนี่ย ตาลอยๆ”ไอ้ภาสะกิดแขนผม พร้อมโบกมือไปมาตรงหน้า

“เออ ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แว่นอันเก่า กูทำตกเลนส์แตกไปแล้ว”ผมแสร้งทำไหวไหล่เหมือนไม่แคร์ ไอ้ภาถอนหายใจดังพรืด
ด้วยสีหน้าหน่ายๆ

 “เซ่อซ่าจัง แบบนี้ไงถึงหาเมียไม่ได้สักที” 

“อะไร กูก็มีเหอะ แต่กูแค่ไม่สนใจ อย่างกูมุ่งเรียนอย่างเดียวต่างหาก เวลาอีกตั้งหลายปีจะรีบมีทำไม”ผมแก้ตัวไปเรื่อย นึกถึง
แก้วแล้วก็ถอนหายใจออกมา   

“เหรอ ไหนวะ ขอหลักฐานที่ว่ามี กูยังไม่เห็นมีสาวคนไหนเข้ามาคุยกับมึงเลย”ไอ้ภาหัวเราะขำ มันก็รู้นั่นแหละว่าผมยังไม่มีแฟน

 “เออ มึงยังหวังเรื่องแก้วอยู่ไหม พอดีไอ้ฟ้ามันรู้จักแก้ว…ไอ้ฟ้าที่อยู่ห้องเราอ่ะ จำได้ไหม”ผมพยักหน้าหงึกหงัก ฟ้าคือเพื่อนเก่าสมัยม.ปลาย แต่ก็ไม่ได้สนิทมากนัก   

“กูไม่รู้ว่ายังมีหวังอยู่รึเปล่าน่ะสิ”ถึงหน้าตาของผมจะไม่ถือว่าน่าเกลียด แต่ผมคิดว่าความเป็นไปได้ที่แก้วจะสนใจผมก็น้อยเต็มที แถมยังมีเรื่องพี่กันต์อีก

“มึงก็เป็นซะอย่างนี้ อย่ามาป๊อดดิ กล้า ๆหน่อย ยังไม่ทันได้เข้าไปคุยเลย ถ้ามึงไม่เริ่มก็คงได้แต่แอบมองอยู่แบบนี้ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวกูช่วยจัดการเอง”ไอ้ภามันตบบ่าผมด้วยแววตามุ่งมั่น เหมือนอยากให้ผมเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆ ผมอยากจะพูดเรื่องพี่กันต์กับกระดาษแผ่นนั้น แต่ก็พูดไม่ออก ยังไม่มีอะไรยืนยันเสียหน่อยว่าแก้วมีแฟนแล้ว จากนั้นไอ้ภามันก็เจ้ากี้เจ้าการให้ผมแอดเฟสแก้วที่ได้มาจากไอ้ฟ้าอีกที ผมต้องฝืนกลั้นใจแอดไปเพื่อตัดรำคาญ ไม่งั้นไอ้ภามันจะเซ้าซี้ไม่เลิกอยู่แบบนี้แน่ๆ เมื่อผมกับไอ้ภาเลิกเรียน ก็เป็นเวลาบ่ายสามพอดี เพื่อนผู้มุ่งมั่นของผมก็รีบพาผมไปหาแก้วทันที ซึ่งที่นั่นคือคณะวิศวะ   

“เฮ้ย ภา”ผมชักหวั่นๆ สายตากวาดมองไปรอบๆ   

“น่า ไม่ต้องกลัว เราไม่ได้มาหาเรื่องใคร ไม่มีใครวิ่งมาตีมึงหัวแบะหรอก”มันทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ก่อนจะดึงข้อมือให้ผมเข้ามาในเขตแดนวิศวะต่อไป ไอ้ภามันไม่ได้เจอคนโหดอย่างพี่กันต์มันก็พูดได้น่ะสิ ระหว่างที่มันพาผมเข้ามาใต้โถงคณะ ผมก็กวาดตาไปรอบทิศ แต่ที่โต๊ะไม้ยาวๆนั้นไม่มีช็อปวิศวะให้เห็นแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กปีหนึ่งนั่งจับกลุ่มคุยกันมากกว่า 

“มึงรู้เหรอว่าแก้วอยู่ไหนอ่ะ”ผมถามเมื่อเห็นมันชะเง้อชะแง้มองหาใครสักคน

“ไม่รู้”

“อ้าว แล้วมึงก็พากูมาเนี่ยนะ”

“เออ ก็เผื่อเจอไง แล้วแก้วรับแอดมึงยัง ถ้ารับแล้วมึงก็ถามเลยดิ”ผมได้แต่กลอกตาไปมา แก้วรับแอดผมตั้งแต่เมื่อบ่ายแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะไม่รับซะแล้ว แต่แก้วก็ดูไม่หยิ่ง คงรับแอดทุกคนนั่นแหละ ไอ้ภาก้มสนใจโทรศัพท์ของมันไป แต่ผมคอแห้งจึงปล่อยให้มันหมกมุ่น ลุกไปต่อคิวซื้อน้ำที่ร้านใกล้ๆ 

“ปล่อยช้าชิบ นี่ขนาดเพิ่งเปิดเรียนนะ กูอยากจะถีบแม่ง”ผมชะงักมือที่กำลังล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาทันที เมื่อจำได้ว่าไอ้เสียงบ่นหงุดหงิดอยู่ด้านหลังเป็นของใคร 

ไอ้พี่กันต์! ทำไมโลกมันกลมและโหดร้ายกับผมแบบนี้!

“หิวน้ำโคตรๆ อ้าวน้องเขยิบไปด้านหน้าสิ หรือจะให้พี่แซงคิว”ฝามือหนากดลงที่บ่าของผม กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยแตะจมูก ผมสูดลมหายใจเรียกสติตัวเอง ก่อนจะรีบเดินเข้าไปติดหน้าร้าน 

“ขอน้ำเปล่าขวดนึงครับ”สั่งพลางหยิบเงินออกมา ฝามือหนาคว้าไหล่ผมให้หันไปตามแรง เมื่อเห็นหน้าผมชัดๆ พี่กันต์เลิกคิ้วด้วยสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะยกยิ้มถึงอย่างนั้นใบหน้าก็ดูดุอยู่ดี ร่างสูงมีดินสอทัดอยู่ที่หลังหู ข้างๆกันมีผู้ชายยืนอยู่อีกคน คาดว่าคงเป็นเพื่อนกัน   

“นึกว่าใคร”รุ่นพี่ตรงหน้ากวาดสายตามองผม   

“มึงรู้จักเหรอ”เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆถามด้วยเสียงงุนงง แต่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าไม่ต่างกัน ผมปัดมือของพี่กันต์ออก รีบๆจ่ายเงินเพื่อจะได้ออกจากพื้นที่แคบๆนี่เร็วๆ 

“รู้จักสิ น้องแว่นถาปัตย์น้องรหัสไอ้ไอซ์”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเหมือนไม่ชอบใจ เรื่องที่ไม่ถูกกับพี่ไอซ์คงจะเป็นเรื่องจริงแน่ๆ 

“อ๋อ…”อีกคนลากเสียงยาวๆ

“คนที่กูเล่าให้ฟังไง”มันหันไปหัวเราะขำกับเพื่อน ผมเม้มปากด้วยความหงุดหงิดอยากจะตะโกนถามว่ามึงขำมากเหรอ แต่ก็ไม่กล้าพอ 

“เฮ้ยน้อง ชื่ออะไรนะ เดี๋ยวพี่สอนต่อยไอ้กันต์เองเอาเปล่า”เพื่อนพี่กันต์หัวเราะหึๆชอบใจ

 “เงียบเลยไอ้อาร์ต”มันหันไปดุเพื่อนมัน ก่อนจะกลับมามองผมอีกครั้ง

“ซื้อแว่นใหม่แล้วเหรอ”เป็นคำถามที่ทำให้ผมจี๊ดมาก เหมือนได้ยินเสียงดังแกร๊บแว่วมาอีกรอบเลย

“พี่ควรจะรับผิดชอบ”ไหนๆก็ได้โอกาสแล้ว ก็พูดมันซะเลย พี่กันต์เลิกคิ้วอีกครั้ง

“เรื่องอะไร”

“แว่นของผมไง”

“ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย”ผมมองอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินเบียดออกไปจงใจกระแทกอีกฝ่ายเบาๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้มันสะเทือนแต่อย่างใด

“มึงก็ไปแกล้งน้อง”เสียงอีกคนปรามแว่วมา

“แต่เด็กแว่นซะด้วย…”

“มึงเงียบเลย ไม่ใช่แบบนั้น”

ผมรีบเดินกลับไปยังโต๊ะเดิม และเห็นว่าไม่ได้มีแค่ไอ้ภาที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ แต่มีไอ้ฟ้าเพื่อนเก่าและ…สาวน่ารักอย่างแก้ว ทำเอาผมใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะไม่คิดว่าจะเจอกันเร็วแบบนี้

“กว่าจะมาได้นะ นี่แก้ว”ไอ้ภาหันมาทำสีหน้ารู้กันให้ ผมส่งยิ้มประหม่าๆไปให้สาวผมสั้น ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งเห็นว่าแก้วหน้าใส แถมดวงหน้ากลมๆก็ช่างคุ้นตาเหลือเกิน…คุ้นจริงๆนะ

 “หวัดดี เอ่อ ผมชื่อตองนะ”ผมแนะนำตัวเกร็งๆจนไอ้ภาส่งลูกถีบมาใต้โต๊ะ 

“อ้อ เราแก้วนะ ใช่ที่แอดมาเมื่อกลางวันป่ะ”ผมอือออรับคำ บัดนี้ไอ้ฟ้าเพื่อนเก่ากลายเป็นธาตุอากาศไปแล้ว คุยไปคุยมาเลยได้รู้ว่าแก้วมีพี่ชายเรียนอยู่ที่คณะนี้อยู่แล้วเลยสนใจอยากเรียนด้วยเหมือนกัน

“ตองอยู่ถาปัตย์เหรอ ทำไมถึงเข้าคณะนั้นอ่ะ ท่าทางตองไม่เห็นเหมือนพวกเรียนอะไรเทือกนี้เลย”แก้วดูสงสัยหน้าตาของผมมันออกไปทางเด็กเรียนเสียมากกว่า

“พอดีผมชอบสายนี้น่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่ที่โรงเรียน”ตอนนั้นพี่เขาช่วยติวให้ผมด้วย แต่น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ติดที่เดียวกับพี่คนนั้น แก้วพยักหน้าจนแว่นเลื่อนตกลงมา ผมเดาได้เลยว่าคงมีคนต่อแถวจีบเป็นว่าเล่นแน่ 

“อ้าว พี่กันต์ หวัดดีค่ะ”เสียงทักกล้าๆกลัวๆของฟ้าดังขึ้น ผมกัดหลอดน้ำจนบี้แบนเมื่อได้ยินว่าเพื่อนทักใคร ทำไมผมต้องเจอไอ้โหดนี่ทุกๆที่ที่ไปด้วย ผมเห็นว่าแก้วเองก็ดูจะเกรงๆขึ้นมาอยู่เหมือนกัน เห็นไหม ไอ้พี่กันต์มันโหดจริงๆ ขนาดเด็กในคณะยังกลัวเลย

“เลิกเรียนแล้วทำไมไม่โทรหาพี่ล่ะ”เสียงเข้มๆนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าถามใคร ผมมองหน้าไอ้ภาที่ดูจะกลัวขึ้นมาแล้วเหมือนกัน 

“นี่เพื่อนเหรอ”ถึงไม่เห็นหน้า ผมก็เดาได้ว่าพี่กันต์มันต้องยิ้มเยาะอยู่แน่ๆ

“โหย แค่พี่มาบรรยากาศก็ชวนขนลุกแล้ว ไปไกลๆไป”แก้วใจกล้าถึงขนาดออกปากไล่ 

“รู้จักด้วยเหรอ”ผมกลั้นใจถามออกไป แก้วอ้าปากจะตอบแต่ก็หุบปากลงทันที 

“ก็…รุ่นพี่ในคณะน่ะ”แก้วตอบเสียงแห้ง ไอ้ภาเอาเท้าสะกิดผม ดูเหมือนมันจะไม่อยากอยู่ต่อแล้ว ผมก็เช่นกัน 

“เฮ้ย เพิ่งนึกได้ว่ารุ่นพี่นัดเจอ ไปก่อนนะแล้วเจอกันใหม่”ไอ้ภารีบโพล่งขึ้นมาเหมือนเพิ่งนึกได้ ผมเลยลุกตาม

“ไว้จะทักเฟสไปนะ”ผมบอกทิ้งท้ายกับแก้ว แล้วเดินตามไอ้ภาไป

“วานฝากความคิดถึงให้ไอ้ป้องด้วยนะ”เสียงตะโกนของพี่กันต์ดังมาตามหลัง เมื่อพ้นจากบริเวณคณะวิศวะแล้ว ผมกับไอ้ภาก็พร้อมใจกันถอนหายใจทันที

“มึงเกือบพากูไปซวยแล้วนะ”

“ใครจะไปรู้วะ ว่าจะเจอกับพี่ขาโหด”ไอ้ภาพึมพำ

“มึงรู้จักเหรอตอง เห็นคุยกันที่ร้านน้ำ”รู้จักเหรอ ผมเหลียวไปมองเพื่อนทันที

 “มึงคิดว่ากูอยากรู้จักกับคนแบบนั้นเหรอ”แล้วผมก็เล่าเรื่องในห้องน้ำเมื่อวันที่มันเมาเป็นหมาให้ฟัง ไอ้ภาเบิกตาโตอย่างตกใจ

“มึงจะบอกว่ามึงไม่กินเส้นกับพี่กันต์!?”

“ก็ไม่เชิง…”

“มึงไม่ลองบอกพี่ไอซ์ล่ะวะ ให้พี่เขาช่วยสิ”

“เดี๋ยวก็เป็นเรื่องเปล่าๆ”ผมไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วอีกอย่างไม่อยากให้เรื่องของผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้สองคนนี้เกลียด
ขี้หน้ากันมากกว่าเดิม ผมเช่าหออยู่กับไอ้ภาเพราะหอในเต็มก็เลยต้องออกมาเช่าด้านนอกแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นหอในเครือมหาวิทยาลัยที่เข้มงวดพอๆกัน


ตอนเย็นๆไอ้ภามักจะลงไปเล่นเกมส์ที่ห้องเพื่อน ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวตลอด ซึ่งเป็นช่วงที่ดีมาก จะได้ไม่ต้องฟังเสียงน่ารำคาญของมัน เห็นว่าแก้วออนเฟสอยู่ผมเลยทักไปอย่างที่บอกไว้


Tong Teerapat - หวัดดี แก้ว

ผมมองช่องแชทที่ขึ้นว่ากำลังพิมพ์แล้วหายเงียบไปด้วยใจที่เต้นกระหน่ำ

แว่นแก้ว – หวัดดี

เยสสส แก้วตอบผมแล้ว!ผมทิ้งตัวนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง แอบมองแอบเอาขนมไปให้ตั้งหลายเดือน ไม่คิดว่าวันนี้ผมจะได้คุยกับแก้วจริงๆ ไอ้ภากูรักมึง เพื่อน!


Tong Teerapat – แก้วสะดวกคุยหรือเปล่า

แว่นแก้ว – ก็…คงสะดวก ทำไมจะจีบเหรอ?

Tong Teerapat – เปล่า…แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ 

แว่นแก้ว – แล้วเอาขนมป็อกกี้มาให้ทุกวัน…แบบนี้หมายความว่าไง

Tong Teerapat – รู้ด้วยเหรอ?

แว่นแก้ว – รู้ เคยเห็น แต่ไม่ต้องเอามาให้แล้วนะ ไม่ชอบกินรสช็อกโกแลต

Tong Teerapat – แล้วชอบรสไหน

แว่นแก้ว – สตอเบอร์รี่

ผมยิ้มให้กับคำตอบนั้น กัดริมฝีปากอย่างชั่งใจว่าจะถามเรื่องพี่กันต์ต่อดีไหม

Tong Teerapat – แก้วรู้จักพี่กันต์ด้วยเหรอ เห็นคุยกัน

แว่นแก้ว – ก็…พอรู้จัก มีปัญหาอะไรรึไง

Tong Teerapat – เปล่า แค่สงสัยน่ะ

แว่นแก้ว – ไม่ใช่แฟนหรอก…

Tong Teerapat – ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นแก้วต้องโชคร้ายแน่ๆ

แว่นแก้ว – ยังไง?

Tong Teerapat – ก็พี่กันต์ดุจะตาย หน้าตาไม่รับแขก นิสัยไม่ค่อยดีอีกต่างหาก…


เอ๊ะ นี่ผมพิมพ์มากไปรึเปล่า

แว่นแก้ว – อ๋อ…


แล้วแก้วก็เงียบหายไปเลย แต่แค่นี้ก็เกินคาดสำหรับผมแล้ว ถึงจะไม่ได้เป็นแฟน…แค่ได้คุยกันแค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับคนอย่างผม




************************************************



วันนี้ผมซื้อขนมป็อกกี้รสสตอเบอร์รี่ไปให้แก้ว ความจริงก็กะจะให้ต่อหน้าเลย แต่ยังไม่เจอสักที ก็เลยต้องใช้ลูกไม้เดิมๆนั่นคือเอาแขวนไว้ที่รถ 

“ไง เจอกันอีกแล้วนะ”ผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเข้มทัก และเสียงแบบนี้ก็มีแค่คนเดียว…ไอ้พี่กันต์ ผมบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิด หมุนตัวมองรุ่นพี่ตรงหน้าซ่อนขนมไว้ด้านหลัง พี่กันต์มีรอยยิ้มติดบนหน้า และดูอารมณ์ดีกว่าทุกครั้งที่เจอ

“แล้วมาทำอะไรแถวนี้ ท่าทางมีพิรุธ…”พี่กันต์ไล่สายตามองไปทั่ว รอยยิ้มที่มุมปากทำผมเสียววูบชอบกล เป็นรอยยิ้มที่เหมือนรู้ว่าผมทำอะไรอยู่

“เปล่านี่ ผมแค่มาหาเพื่อนเฉยๆ”ผมแสร้งไหวไหล่ ขยับแว่นให้เข้าที่อย่างร้อนใจเมื่อเห็นว่าพี่กันต์จ้องอย่างไม่วางตา 

“เหรอ มาหาเพื่อน…แล้วมาด้อมๆมองๆตรงลานจอดรถทำไม”อีกฝ่ายขำเบาๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้น

“แล้วซ่อนอะไรไว้ ขอดูหน่อย”ผมคิดไม่ถึงว่าพี่กันต์จะเข้ามาถึงตัว พร้อมกับยื่นมือมาคว้ากล่องป็อกกี้ไปจากผม ด้วยลักษณะที่เหมือนกำลังกอดอยู่กลายๆ ผมผงะถอยหลังทันที อีกฝ่ายแค่ยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

“เคยบอกแล้วนี่ว่าไม่ต้องเอามาให้แก้วแล้ว”

“ก็ผมอยากให้ อีกอย่างพี่ก็ไม่ใช่แฟนแก้วด้วย มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมไม่ทราบ”ผมทำใจกล้าต่อปากต่อคำ พี่กันต์กวาดสายตามองผมก่อนจะหัวเราะ

“นั่นสิ มีสิทธิ์อะไรนะ…”น้ำเสียงยียวนออกมาจากรุ่นพี่ตรงหน้า ผมแทบข่มอารมณ์หมั่นไส้ไว้ไม่ไหว

“ผมจะกลับแล้ว ขอคืนด้วย”ผมเอื้อมมือไปคว้ากล่องป็อกกี้ในมืออีกฝ่าย แต่พี่กันต์ก็เอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง

“พี่กันต์…”ผมกัดฟันแน่น นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวโดนมันอัดแบบพี่ป้องล่ะก็…ผมจะเตะๆต่อยๆให้น่วมเลยคอยดู

“ว่าไงครับ”

“…”ผมถึงกับใบ้กินเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาแบบนี้ แถมยังมาทำหน้ามึนไม่รู้เรื่องใส่ผมอีก 

“ขอคืนด้วย”ผมพึมพำตอบ เสียเวลามาเยอะแล้วด้วย ผมมองไปรอบตัว คงเพราะเป็นช่วงบ่ายและพวกวิศวะคงเข้าเรียนกันหมด
แล้ว ที่ลานจอดรถถึงได้เงียบสนิทแบบนี้

“แค่ขนมกล่องเดียวเอง”ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายเอื้อมมาดึงแว่นของผมออกไปเหมือนจะแกล้ง แต่ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด 

“ผมไม่สนุกนะ อย่ามากวนตีน”เอาสิ คราวนี้ผมไม่กลัวแน่ ยังไงนี่ก็ในคณะ คิดว่าไอ้พี่กันต์คงไม่กล้าทำอะไรแน่ๆ ผมมองเห็นลางๆว่าพี่กันต์หัวเราะ 

“กล้าเหมือนกันนี่ ไม่กลัวกูแล้วเหรอไง วันนั้นเห็นตัวสั่นเชียว”พี่กันต์ยังไม่คืนแว่นให้ ผมจึงทำได้แค่ยืนเซ่อซ่าอยู่ที่เดิม

 “เอาคืนมา พี่นี่ยังไง โตแล้วช่วยทำตัวให้สมกับเป็นรุ่นพี่ได้ไหม”ผมเดือดปุดๆ อีกฝ่ายหัวเราะอีกรอบ เหมือนสนุกที่ได้ยั่วโมโหผม ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ ก่อนจะสวมแว่นให้ผมตามเดิม กระพริบตาอีกครั้งใบหน้าแจ่มชัดของพี่กันต์ก็ปรากฏให้เห็นในระยะประชิด ทำผมผงะถอยห่างอีกรอบ รุ่นพี่ตรงหน้ายกยิ้มก่อนจะเขย่ากล่องป็อกกี้ 

“ขอล่ะกันนะ”พี่กันต์จากไปพร้อมกับขนมป็อกกี้ ทิ้งให้ผมสาปแช่งเจ้าตัวอยู่ในใจ 

“อ้าว ตอง”เจ้าของขนมป็อกกี้ตัวจริงเดินมาที่ลานจอดรถ ด้วยสีหน้าแปลกใจที่เห็นผมในอ้อมแขนหอบหนังสือมาด้วย  “มาหา
ใครเหรอ”อีกฝ่ายถามพร้อมรอยยิ้ม

“อ๋อ เอ่อ กะจะเอาขนมมาให้น่ะ”ผมบอกไปตามตรง รู้สึกเก้อเขินอยู่เหมือนกัน ตลกจริงๆเลยไอ้ตอง ทำท่าเหมือนเด็กไม่เคยมีความรักไปได้ แก้วยิ้มกว้าง มีสีหน้างุนงงเล็กน้อย

“ขนมเหรอ”

“ก็…ขนมป็อกกี้ไง”ผมหัวเราะเสียงแห้ง

“อ๋อ…ตองเป็นคนเอามาให้เองเหรอ …ขอบใจนะ”ผมเริ่มมึนงงกับท่าทีของอีกฝ่าย จากที่คุยกันเมื่อคืน ไม่ใช่ว่าแก้วรู้อยู่แล้วเหรอ   

“ความจริง ไม่ต้องเอามาให้เราก็ได้ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ แต่ว่าพี่ชายเราค่อนข้างขี้หวง ครั้งก่อนๆก็แย่งขนมไปกินหมดเลย”ที่ผมเพียรแอบเอามาให้บ่อยๆ…ก็ไม่ถึงมือแก้วเลยงั้นสิ 

“ไม่ยักรู้ว่าแก้วมีพี่ชายด้วย”แก้วอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่ก็ไม่พูดออกมา 

“เอาเป็นว่าไม่ต้องเอามาให้เราแล้ว ถ้าจะให้ ก็ให้กับตัวเลยก็ได้”สาวตรงหน้าหัวเราะ ผมก็ไม่ได้หวังอะไรหรอก เพราะเห็นได้
ชัดเจนอยู่แล้วว่าแก้วแค่เกรงใจผม 

“พี่ชายเราดุก็จริง แต่นิสัยใช้ได้เลยนะ”ผมงุนงงเล็กน้อย ว่าแก้วบอกผมทำไม ได้ยินคำว่า‘ดุ’แล้ว ผมนึกถึงไอ้พี่กันต์ขึ้นมาทันที รายนั้นต้องบอกว่าทั้งดุทั้งกวนประสาท แค่นึกถึงผมก็หงุดหงิดแล้ว 

“อืม งั้นไว้เจอกันนะ”ผมหลบเลี่ยงออกมา ขืนอยู่นานกว่านี้เดี๋ยวผมจะทำตัวประหลาดๆเข้า ผมออกมารอรถไฟฟ้าของม.ที่ป้าย เพราะไม่ได้เอารถมา ไอ้ภามันออกไปเล่นเกมส์ตั้งแต่หมดคลาสแล้ว ผมเลยต้องระเห็จออกมาด้วยรถไฟฟ้า ระหว่างที่รอ ผมจึงหยิบโทรศัพท์มาเล่นแก้เบื่อ รอได้สักพักก็ไม่เห็นวี่แววจะมา โทรหาไอ้ภามันก็ไม่รับอีก เจริญจริงๆ ผมกดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดจนกระทั่ง รถลักษณะคล้ายบิ๊กไบค์มาจอดใกล้ๆ พอเห็นว่าใครอยู่ภายใต้หมวกกันน็อค ผมถึงกับถอนหายใจดังพรืด เจอไอ้พี่กันต์อีกแล้ว

“จะไปไหน เดี๋ยวไปส่ง”นี่ผมได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่าเนี่ย

“ไม่เป็นไรครับ”

“หรือว่ากลัว”เห็นคิ้วของพี่กันต์เลิกขึ้นสูง

“ไม่ได้กลัว ...แต่ไม่อยากไปด้วย”ผมกลั้นใจพูดออกไป หันมองทางอื่นเพราะไม่อยากมองเห็นสีหน้าดุๆชวนอกสั่นขวัญหาย 

“เหอะ อุตส่าห์จะช่วย ก็แล้วแต่ รู้ๆอยู่ว่ารถไฟฟ้าม.เต่าเรียกพี่ งั้นก็รอไปเถอะนะ”พี่กันต์ติดเครื่องรถอีกครั้ง ผมมองไปรอบๆอย่างว้าวุ่น เอาจริงๆก็ไม่อยากมายืนร้อนคนเดียวแบบนี้เหมือนกัน...แต่กับคนอย่างพี่กันต์นี่...ผมไม่ค่อยอยากไปด้วยสักเท่าไหร่ เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบ เจ้าตัวก็ออกอาการหงุดหงิดมากขึ้น ก่อนจะบิดรถออกไปด้วยความเร็ว สงสัยจะเป็นโชคของผมเพราะคนที่จอดถามเป็นคนที่สองคือพี่อาร์ต เพื่อนพี่กันต์นั่นล่ะ

“อ้าว น้องตอง”ผมย่นคิ้วมองอีกฝ่าย แล้วนี่...รู้จักชื่อผมได้ยังไง

“พี่ชื่ออาร์ต เพื่อนไอ้กันต์จำได้รึเปล่า ที่วันนั้น....”

“จำได้ครับ”ผมรีบตัดบทเพราะเดี๋ยวอีกฝ่ายจะพูดยาวยืดกว่านี้

“แล้วจะไปไหน ให้พี่ไปส่งเอาไหม อีกนานเลยนะกว่ารถจะมา”พี่อาร์ตถามพร้อมรอยยิ้ม ผมกำลังสับสนอย่างหนัก เอาไงดีเนี่ย แล้วอีกอย่างกับพี่อาร์ตผมก็ไม่รู้จักด้วย แค่เจอหน้ากันครั้งเดียว...พี่เขาถึงกับชวนติดรถไปด้วยเลยเหรอ...

“เฮ้ย คิดมากไปรึเปล่า ก็เห็นรู้จักกับไอ้กันต์”ผมหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ทันที รู้จักเหรอ...

“ผมไม่รู้จักพี่กันต์ ไม่อยากรู้จักด้วย”ผมพึมพำเบาๆ แต่พี่อาร์ตคงได้ยินเพราะหันมามองหน้าผม

“ยังไงเราก็หนีมันไม่พ้นหรอก”อีกฝ่ายยิ้มกว้าง ทำผมเริ่มประสาทเสีย พูดอะไรก็ไม่รู้

“สรุปจะไปไหมครับ ค่ารถฟรีนะ อ้อ อีกอย่างไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่พาไปปล้ำหรอก”พี่อาร์ตพูดติดตลก

“งั้น...รบกวนด้วยครับ”เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พี่อาร์ตเองก็ดูไม่มีพิษภัยอะไร (ยกเว้นเป็นเพื่อนพี่กันต์) ผมตัดสินใจซ้อนท้ายฟีโน่สีแดงของพี่อาร์ตและทันทีที่ก้นของผมติดเบาะ อีกฝ่ายก็บิดรถจนผมแทบหงายหลัง

“แวะกินอะไรก่อนไหม พี่เลี้ยงเอง”พี่อาร์ตถามระหว่างที่เพิ่งเลี้ยวออกจากขอบรั้วมหา'ลัย

“ไม่เป็นไรครับ”ถึงยังไงพี่อาร์ตก็ยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผมอยู่ดี

“แหม...อดเห็นอะไรสนุกๆเลยสิ”คนด้านหน้าพึมพำ ผมย่นคิ้วกับคำพูดแปลกๆของอีกฝ่าย

“หอของผมอยู่ตรง....”ผมชะโงกหน้าไปบอกใกล้ๆ แต่พี่อาร์ตกลับเบรกกะทันหัน จนตัวโยนไปด้านหน้าเหตุเพราะจอดที่หน้าร้านข้าวแกงร้านหนึ่ง

“อ้าว ไอ้กันต์ไหนบอกจะไปร้านพี่จอมไง”เจ้าของรถทักร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าร้าน ใบหน้าคมดุดูอารมณ์เสีย ตวัดสายตามองมาที่ผม
ก่อนจะมองหน้าเพื่อนที่ยิ้มแป้นแล้นอยู่

“กูเปลี่ยนใจแล้ว”พี่กันต์ตอบเสียงเรียบ แต่สายตาดุๆจ้องมาทางผมจนอึดอัด 

“อ๋อ...เดี๋ยวกูมานะ ไปส่งน้องก่อน”ไม่ได้คิดไปเองแน่ๆว่าพี่อาร์ตดูลั้นลาชอบกล

“เออ คุยกับกูยาวแน่”พูดจบก็มองหน้าผมอีกรอบ พี่อาร์ตหัวเราะ ออกรถอีกครั้ง ผมเผลอถอนหายใจเบาๆ โล่งอกที่พ้นจาก
สายตาของพี่กันต์ ส่วนตัวเพื่อนก็มาส่งผมที่หออย่างปลอดภัย และผมจะไม่มีวันหลงกลมาด้วยอีกเด็ดขาด

“ขอบคุณมากนะครับ”ผมส่งหมวกกันน็อคคืนให้รุ่นพี่ตรงหน้าที่มีรอยยิ้มแปลกๆฉายชัด

“พี่จะบอกให้นะว่า...เด็กแว่นนี่สเป็คไอ้กันต์เลย เพราะฉะนั้น อยู่ห่างๆมันไว้ล่ะ เดี๋ยวโดนงาบไม่รู้ตัว เพื่อนพี่ไม่ได้มีแค่ความโหด
นะบอกไว้ก่อน...”พี่อาร์ตส่งยิ้มมาให้อีกรอบก่อนจะขี่รถฟีโน่ออกไป ทิ้งให้ผมยืนคว้างเพราะสิ่งที่ได้ยินมา ไอ้พี่กันต์เนี่ยนะ ผม
แทบเป็นลม...ผมอาจจะบ้าที่ดันนึกไปถึงคืนแห่งการถูเกียร์คืนนั้น!








ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4


ตอนที่2




เด็กแว่นนี่สเป็คไอ้กันต์เลยนะ...





ตั้งแต่กลับมาถึงห้อง ผมก็เอาแต่นึกถึงคำพูดของพี่อาร์ต มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ผมนอนแผ่อยู่บนเตียง สายตาจ้องมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย โน๊ตบุ๊คอยู่ที่ปลายเตียง เพราะเพิ่งเข้าไปส่องเฟสแก้วมา ไอ้ภายังไม่กลับจากร้านเกมส์เลยครับ ผมก็ไม่อยากจะบ่นมันมาก นานๆทีจะมีเวลาว่าง ก็ปล่อยมันไปก็แล้วกัน

ติ๊ง

เสียงข้อความจากเฟสบุ๊คดังขึ้น จนผมรีบเด้งตัวไปอ่านทันที เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าแก้วเป็นคนทักมา

แว่นแก้ว - ไง

Tong Teerapat- หวัดดีแก้ว

แว่นแก้ว - ทำไรอยู่

Tong Teerapat -ก็นอนเล่นไปเรื่อยแหละ

แว่นแก้ว - แล้วกลับมานานหรือยัง

Tong Teerapat - ก็สักพักแล้วล่ะ

แว่นแก้ว - กลับกับใคร

ผมงงเล็กน้อยที่จู่ๆแก้วก็สนใจเรื่องนี้

Tong Teerapat -ก็...กลับกับพี่อาร์ตน่ะ รุ่นพี่แก้วไง รู้จักรึเปล่า

แว่นแก้ว - เออ รู้จักแล้วสนิทกันเหรอ ถึงมาด้วยกันได้

ผมจ้องข้อความมึนๆ

Tong Teerapat- ก็...ไม่เท่าไหร่ ว่าแต่แก้วถามทำไม หึงเหรอ

แว่นแก้ว - ใครหึงมึง

ผมสตั๊นไปหลายนาที โอ้...ทำไมแก้วโหดแบบนี้

Tong Teerapat - เฮ้ย เราแค่ล้อเล่น

แว่นแก้ว- คราวหลังก็อย่าไปกับคนที่ไม่สนิทนะรู้ไหม แค่เป็นห่วงในฐานะเพื่อน อย่าคิดไปไกล

Tong Teerapat - ขอบใจที่เป็นห่วงนะ แต่เราเป็นผู้ชายไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก

แว่นแก้ว - ไม่รู้เหรอว่าผู้ชายด้วยกันทำอะไรได้บ้าง

Tong teerapat - แล้วทำอะไรได้บ้างล่ะ

แว่นแก้ว - อยากรู้เหรอ...หึ


พออ่านข้อความนี้แล้ว...จู่ๆผมก็นึกไปถึงคนหน้าดุ แถมนึกหน้าตาตอนที่พูดแบบนี้ออกด้วย สงสัยจะประสาทไปแล้วแน่ๆ คงเพราะคำพูดของพี่อาร์ตที่ทำให้ผมประสาทเสีย ผมจัดการโพสต์สเตตัสเวิ่นเว้อทันที

Tong Teerapat : สงสัยจะประสาทเสีย

โพสต์สเตตัสได้ไม่นานก็มีคนมากดไลค์บ้างประปราย จนกระทั่งเห็นชื่อๆหนึ่ง ผมเด้งตัวมาจากที่นอนเมื่อเห็นชื่อๆหนึ่ง ไอ้‘GU_Gunner’นี่คือไอ้พี่กันต์ชัดๆ ผมกดเข้าไปดูรูปโปรไฟล์เพื่อความแน่ใจ

ใช่แน่ๆ ไอ้คนที่ทำหน้ามึนเลียนแบบน้องหมาเฟรนช์ บูลด็อกสีขาวข้างๆนั่นคือไอ้พี่กันต์แน่นอน ผมมึนงงเล็กน้อย ไม่มีพี่ขาโหดคนนี้เป็นเพื่อนเสียหน่อยแล้วเห็นสเตตัสนี้ได้ยังไง ทำเอาผมประสาทเสียอีกรอบ และจากนั้นมหกรรมฟลัดไลค์ก็เริ่มขึ้น ตั้งแต่โพสต์ล่าสุดยันโพสต์เก่าแก่ของเมื่อปีที่แล้วเหมือนจงใจกวนประสาทผม ไอ้พี่กันต์แม่งท่าจะบ้า ผมทนไม่ไหวจึงทักแชทไป


Tong Teerapat - พี่ว่างมากนักเหรอ

Gu_Gunner- ทำไมถึงมากับไอ้อาร์ตได้

ถามอีกเรื่องดันตอบอีกเรื่อง จับใจความไม่ได้รึไง

Tong Teerapat - ดีกว่าไปกับพี่ก็แล้วกัน

Gu_Gunner - ทำไม?

Tong Teerapat - เพราะพี่ดุเหมือนหมา

ผมหัวเราะหึๆ หลังจอโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ผมไม่กลัวหรอก

Gu_Gunner - แล้วเคยโดนหมากัดรึเปล่าล่ะ อยากโดนไหม

Tong Teerapat - กลัวติดโรคหมาบ้า

Gu_Gunner - ไม่ติดหรอก กลัวติดใจมากกว่า

ผมเริ่มใบ้กิน ไม่รู้ว่าไอ้พี่กันต์จงใจใช้คำกำกวมแบบนี้...หรือว่าเรื่องบังเอิญ

Gu_Gunner - ลองไหมล่ะ จะรีบไปกัดถึงที่เลย


ผมรีบพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คหนีทันที ก็แค่คำพูดล้อเล่น อย่าไปคิดมากสิ เป็นเอามากนะไอ้ตอง ผมทำใจให้สงบ ระหว่างนั้นไอ้ภาก็
กลับมาที่ห้องพอดี

“เป็นอะไรวะตอง ทำสีหน้าแปลกๆ”มันโยนกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเตียงก่อนจะกระโดดนอนแผ่หลา

“เปล่า”ผมมองหน้าเพื่อนอย่างเหม่อลอย มันพลิกตัวมองหน้าผมก่อนจะยิ้มกว้าง

“มีอะไรจะปรึกษากูรึเปล่าเพื่อน ถามพี่ภาเซียนความรักมาโลด”มันดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าจะได้เผือกเรื่องของผม 

“อย่างมึงจะรู้อะไร วันๆเอาแต่เล่นเกมส์”ผมปรายตามองไอ้ภาอย่างนึกหมั่นไส้

“ให้กูเซียนในโลกของกูเถอะ ว่าแต่มึงมีเรื่องข้องใจใช่ไหม สีหน้ามึงฟ้อง”

“เออดิ คือกู...ไม่รู้จะอธิบายยังไง”

“พี่ปั๊ป โปเตโต้ก็มา...”

“เชี่ยภา”ผมคว้าหมอนปาใส่มันอย่างหงุดหงิด 

“เออๆว่ามาสิเพื่อน มึงไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้วกูจะรู้เรื่องไหม”ไอ้ภากลับมาตีหน้าจริงจังอีกครั้ง 

“คืองี้...ถ้าเป็นมึง มึงจะว่าแปลกไหมวะ สมมุติว่ามีคนที่มึงไม่ชอบหน้า นิสัยดุเหมือนหมา มาทำท่าทีแปลกๆใส่ ทั้งๆที่ตอนแรกก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ แล้วยังคำพูดแปลกๆถึงจะแค่ล้อเล่น...มึงไม่คิดว่ามันผิดสังเกตเหรอวะ”ไอ้พี่กันต์มันทำตัวแปลกจริงๆ ตอนที่เจอกันที่ผับ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมไม่อยากเข้าใกล้ แล้วมาตอนนี้...ทำไมพี่กันต์ถึงได้ทำตัวประหลาดนักก็ไม่รู้

เด็กแว่นน่ะ...สเป็คไอ้กันต์เลย


คำพูดของพี่อาร์ตแว่วมาอีกครั้ง ผมว่าตัวเองเริ่มหลอนแล้วล่ะ

“ก็อาจจะไม่แปลก ถ้าคนๆนั้นกำลังสนใจมึง”อะไรนะ

“ไม่มีทาง”ผมส่ายหน้าพรืดจนแว่นตาเลื่อน ไอ้ภาขมวดคิ้ว ขยับมานั่งใกล้ๆผม

“ทำท่าทางแบบนี้...กูชักอยากรู้แล้วสิ ว่าคนที่ว่านั่นน่ะใคร”

“กูแค่สมมุติให้ฟังเฉยๆ”ผมหันหน้าหนีไปอีกทาง

 “กูไม่เชื่อ บอกกูมาเลยไอ้ตอง อย่าปิดบังเพื่อนเลิฟสิ”มันเอาแก้มมาถูไหล่ให้ผมสยองเล่น

“ไม่มีอะไรน่า...”ผมแค่คิดว่าตัวเองกำลังโดนปั่นประสาทเล่น และผมจะไม่หลงกลเด็ดขาด

“เออ เดี๋ยวกูสืบเองก็ได้...แล้ว...เรื่องแก้วของมึงเป็นไงบ้าง คืบหน้าไหม”ผมถอนหายใจทันที ผมว่าแก้วไม่ได้คิดอะไรกับผมแน่นอน

“ก็เรื่อยๆ กูไม่ได้หวังอะไรมากหรอก แค่ได้เป็นเพื่อนก็ดีแล้ว”

“พระเอกเหลือเกิน เดี๋ยวกูแนะนำเพื่อนให้เอาไหม”ไอ่ภาเสนอ 

“มึงหาให้ตัวเองเถอะ”นอกจากเกมส์และเรื่องเรียนแล้ว ผมก็ไม่เห็นมันจะสนใจอะไร 

“กูยังอยากเล่นเกมส์อยู่”นี่แหละ...เหตุผลที่ไอ้ภาไม่ยอมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเสียที







***************************************







นอกจากเทศกาลรับน้องที่ยังไม่หมดไปนั้น ผมยังต้องต่อสู้กับบรรดากองงานทั้งหลายด้วย พักนี้ผมจึงไม่ค่อยได้ออกไปไหนไกล นอกจากหมกอยู่ที่คณะและหอ หรือไม่ก็ห้องเพื่อนทำเอาผมหัวหมุนจนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นให้รกสมอง ไหนจะบูม ไหนจะร้องเพลงคณะ เหนื่อยจริงๆ แถมอาจารย์ก็สั่งการบ้านยากๆอีก

ช่วงบ่ายสามโมงกว่าๆผมจึงต้องไปที่ศาลากลางน้ำเพื่อทำการบ้านอีกครั้ง แบกกระดานวาดรูปกับกระบอกซูมไปหามุมเหมาะๆ ผมกับไอ้ภาแยกกันวาดมุมใครมุมมัน นั่งคนเดียวสงบดีด้วย ระหว่างที่กำลังวัดสัดส่วนของศาลากลางน้ำมุมตรงหน้า จู่ๆก็มีร่างสูงวิ่งผ่านหน้าผมไปอย่างไร้มารยาท 

“โทษที พอดีมองไม่เห็น”ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้พี่กันต์นั่นเอง ร่างได้สัดส่วนอยู่ในชุดกีฬา ข้างตัวมีเจ้าหมาเฟรน บลูด็อกหน้ามึนวิ่งตามมาด้วย คงมาวิ่งออกกำลัง ผมเหลียวมองรอบๆเพื่อดูว่านั่งขวางทางรึเปล่า แต่ก็ไม่ ผมเลิกสนใจก่อนจะกลับมาทำงานของตัวเองต่อ ระหว่างที่กำลังลากเส้นเพลินๆ จากหางตาผมเห็นไอ้พี่กันต์วิ่งเหยาะๆมาใกล้ มีเจ้าหมาวิ่งตามมาติดๆ ผ่านหน้าผมเป็นรอบที่สอง เป็นอะไรที่น่ารำคาญจริงๆ

“พี่มีปัญหาอะไรกับผมรึเปล่า”ผมวางดินสอลงอย่างหงุดหงิดเมื่อพี่กันต์วิ่งเหยาะๆผ่านหน้าไปได้ไม่กี่ก้าว

“เออ มี”พี่กันต์เดินมายืนค้ำหัวผม ก่อนจะกอดอกมอง

 “ว่ามาเลย”

“มึงด่ากูว่าเหมือนหมา”ยังอุตส่าห์จำได้อีก ผมยกยิ้มมองร่างสูงที่ยืนมองหน้าผมอยู่ 

“ก็เหมือนจริงๆนี่”หมาบ้าซะด้วย พี่กันต์นั่งลงใกล้ๆ 

“กูยังยืนยันคำเดิม ว่าอยากลองโดนกัดไหม”ไม่พูดเปล่า สายตาของอีกฝ่ายกลับจ้องมาที่ริมฝีปากของผมไม่วางตา จนผมเสมองไปทางอื่น ได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆก่อนจะออกวิ่งอีกครั้ง แต่ไอ้ตัวลูกมันไม่ยอมวิ่งตามนี่สิ เจ้าเฟรน บลูด็อกสีขาวนั่งอยู่ข้างๆผม หอบแฮ่กๆเสียงดัง

“ไอ้อ่อนมานี่”ผมเหลียวมองคอแทบหักตอนแรกคิดว่าพี่กันต์มันแขวะผมเสียอีก ที่ไหนได้นั่นชื่อลูกหมา 

“อะไร มองหน้าทำไม ไม่ได้เรียกมึงเสียหน่อย”มุมปากของอีกคนยกเป็นรอยยิ้ม ผมได้แต่ฮึดฮัดเพราะตอนแรกก็เข้าใจแบบนั้นจริงๆ 

“ไป พ่อมึงเรียกแล้ว”ผมดันตัวเจ้าหมาให้วิ่งไปหาเจ้าของที่ยืนเท้าเอวอยู่ แต่ไอ้อ่อนนี่ก็ไม่ไปเสียที ยังมามองหน้าผมด้วยหน้ามึนๆของมันอีก ผมมองไอ้พี่กันต์อีกครั้ง อีกคนแค่มองหน้าผมครู่นึงก่อนจะออกวิ่งเหยาะๆต่อ

“พ่อมึงมันบ้า รู้รึเปล่า”เจ้าหมาเงยหน้ามองมึนๆ ไอ้เจ้าของก็ตั้งชื่อซะน่าสงสารเลย ผมมองเจ้าของที่กำลังวิ่งเหยาะๆอยู่ที่อีกฝั่ง อีกมือก็ลูบหัวเล็กๆของมันไปด้วย 

“หมาใครวะ หน้ามึนจริงๆ”ไอ้ภาเดินเข้ามาหา มันชะโงกหน้ามามองก่อนจะคว้าไปอุ้มแล้วทำเสียงง้องแง้งใส่ตามประสาคนรักหมา ผมแค่พยักเพยิดไปทางร่างสูงที่วิ่งเยาะๆอยู่ไกลๆ 

“หมาพี่กันต์เหรอ หน้าเหมือนกันเลยว่ะ มึงว่าไหม”ผมกับไอ้ภาหัวเราะขำด้วยกันทั้งคู่

“เออ กูไปซื้อของกินนะ มึงจะเอาอะไรไหม”มันหันมาถาม 

“ลูกชิ้นกับน้ำโค้ก เงินมึงออกไปก่อน”ผมฉีกยิ้มให้เพื่อน 

“งี้ทุกที”มันบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะเดินไปเอารถ ทิ้งผมไว้กับไอ้อ่อนหน้ามึน เจ้าหมาดมนู่นดมนี่ไม่หยุดเอาจมูกดุนมือผมด้วย 

“จะเอาอะไร หิวเหรอ”ผมมองเจ้าหมาก่อนจะค้นขนมในกระเป๋าเพจที่แบกมาด้วย เจอขนมขาไก่แต่ไอ้อ่อนก็หยิ่งไม่ยอมกินอีก

“เอาอะไรให้ลูกกูกิน”พ่ออ่อน เอ้ย พี่กันต์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม หอบน้อยๆ

“เปล่า”ผมทำเป็นหยิบขนมขาไก่เหนียวๆเข้าปาก เดี๋ยวจะมาหาเรื่องด่าผมอีก พี่กันต์ทำเสียงเหอะก่อนจะทิ้งตัวนั่งข้างๆเจ้าหมาแล้วล้วงเอาขนมหมาออกมาแกะ กลิ่นแรงๆลอยแตะจมูก 

“มึงเอาไหม”พี่กันต์ยื่นไอ้แท่งแข็งๆมาให้ สีหน้าดูกวนประสาท

“พี่เก็บไว้กินเองเถอะ ฟันจะได้แข็งแรง เผื่อโดนใครเขาต่อย ฟันจะได้ไม่ร่วงหมดปาก”ไอ้พี่กันต์ชักสีหน้าทันที

“กูว่ามึงนั่นล่ะ ฟันจะร่วงหมดปาก”พี่กันต์ขึงตาใส่ก่อนจะเงื้อกำปั้น ผมหลับตาลงอัตโนมัติ ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆดังมาจากอีกคน

“หึ ไอ้อ่อน”ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง กำปั้นแข็งแรงอยู่ไม่ห่างจากหน้าผมมากนัก 

“ไม่ได้เรียกมึงไอ้หนู”ก้มไปพูดกับหมา ก่อนจะหันมามองผมอีกครั้ง ผมจึงย้ายสายตามองงานของตัวเองแทน เฮ้ย….นี่ผมทำอะไรอยู่…มาตั้งนานแถมยังไม่ได้อะไรเลยด้วยซ้ำ ผมม้วนกระดาษเก็บอย่างขัดใจ เพราะไอ้อ่อนและพ่อของมันแท้ๆ ที่กวนประสาทผม

“อ้าว มึงจะกลับแล้วเหรอ”ไอ้ภาก็ดันกลับมาพอดีอีก ในมือมีของที่ผมสั่งมันไป

“เออ ไม่มีอารมณ์ว่ะ”ผมเหล่มองไปทางพี่กันต์เพื่อให้ไอ้ภารู้ว่าผมไม่อยากอยู่ต่อเพราะอะไร

“มึงกลับเลยก็ได้ เดี๋ยวกูจะไปกับไอ้ตุ้ยเอา”มันส่งกุญแจรถกับถุงลูกชิ้นร้อนๆมาให้

“ส่วนน้ำ กูขอ”แล้วมันก็รีบเดินกลับไปยังมุมของตัวเอง ผมเก็บกระดานวาดรูปใส่กระเป๋าเพจ ไอ้อ่อนได้กลิ่นลูกชิ้นเริ่มมาวุ่นวายใกล้ๆ

 “มานี่”เสียงดุๆดังมาจากพ่อมัน ผมเลยส่งลูกชิ้นไปให้ไอ้อ่อนหนึ่งลูก

“เอาให้มันทำไม เดี๋ยวเสียนิสัยหมด”พี่กันต์ทำหน้ายุ่งใส่ผม 

“เอ้า โทษที ผมไม่รู้ ก็เห็นมันมอง สงสารก็เลยให้”พ่อมึงทำตัวน่าหงุดหงิดมากเลยไอ้อ่อน   

“วันหลังก็ติดป้ายว่าห้ามให้อาหารเลยสิ”ผมรีบหุบปากเมื่อเห็นสายตาแข็งๆตวัดมามอง

“มึงนี่กวนใช้ได้นะ กูชอบ”มุมปากของพี่กันต์ยกขึ้นอีกครั้ง ผมถึงกับเหวอ ไอ้พี่กันต์ทำให้ผมกระอักกระอ่วนอีกแล้ว แต่ระหว่างนั้นก็มีรุ่นพี่ในชุดบอลเดินเข้ามาหา   

“โห่ ไอ้กันต์ อยู่นี่เอง กูโทรหาตั้งหลายรอบก็เสือกไม่รับ”

“โทษที โทรศัพท์อยู่ในรถ แล้วมีอะไร”

“กูจะคุยเรื่องงานวันอาทิตย์นี้ไง แต่...ถ้ามึงไม่ว่าง ไว้คุยกันวันหลังก็ได้”จู่ๆผมก็รู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายเหลือบมองมาที่ผม และรอยยิ้มที่ดูเหมือนล้อเลียนบนหน้าอีก 

“อะไรของมึงวะเต็ม”พี่กันต์ทำเสียงงุนงง แต่ก็รีบยกมือขึ้นมาเหมือนกำลังจะห้ามอะไรสักอย่าง

“ไม่ใช่แบบที่มึงคิดก็แล้วกัน คุยเลยก็ได้ จะได้ไม่เสียเที่ยว”พี่โหดอุ้มหมาแนบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินนำเพื่อนไปยังจุดจอดรถ 

“นี่น้อง…พี่จะบอกอะไรให้นะ”รุ่นพี่คนนั้นขยับเข้ามาใกล้ผมก่อนจะยกมือป้องปากกระซิบเบาๆ


“พวกแว่นๆเนี่ย สเป็คไอ้กันต์เลย”



“...”ทำไมผมต้องได้ยินประโยคทำนองนี้บ่อยๆด้วยเนี่ย พักนี้ผมยังหลอนไม่พอหรือไง






ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4



ตอนที่3






ช่วงที่ผ่านมาผมไม่ได้คุยหรือทักแก้วเลยเป็นเพราะงานที่กำลังท่วมหัวตายอยู่ร่อมร่อ ด้วยเหตุนี้ไอ้ภาก็เลยค่อนข้างอารมณ์เสียเพราะไม่ได้เล่นเกมส์มาหลายวันแล้ว ผมเองก็เบื่อเซ็งเหมือนกันเพราะแทบไม่ได้ออกไปใช้เวลาที่ไหนเลย นอกจากคณะและหอเพื่อน

“กูหิวโจ๊กร้านเดิมว่ะ แวะไปไหม”ไอ้ภาชวนหลังจากที่ความพยายามขยันของมันหมดลง มันปากาวตราช้างทิ้งก่อนนอนแผ่ลงที่พื้นห้องเหมือนเด็กน้อยงอแง ถ้าเด็กๆทำคงน่ารัก...แต่นี่เป็นเด็กโข่งอย่างไอ้ภาเลยดูน่ากระทืบมากกว่า

“เออๆ แวะไปก็ได้”ผมกลัวมันจะเฉาตายไปซะก่อน ก็เลยเออออไปตามนั้น ลุกบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายซะหน่อย ไอ้ภาดูลั้นลาต่างจากเดิมหน้ามือเป็นหลังเท้า มันออกไปสตาร์ทรถรอเรียบร้อยแล้ว 

“เออ ไอ้ตอง กูมาคิดๆดูแล้ว...”มันเหลียวมามองผมด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ทำไม”ผมเลิกคิ้วรอฟังว่ามันมีเรื่องอะไร แต่แล้วมันก็ไหวไหล่

“เปล๊า”

“กูว่ามึงมีแน่ๆ”ไอ้ภาหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของผมด้วยการบิดรถออกไปอย่างแรงจนผมเกาะเบาะรถไว้แทบไม่ทัน หลังเที่ยงคืนถนนมักจะว่างเสมอ ไอ้ภาเลยบิดได้เต็มที่ ได้ออกมารับลมบ้างก็ดีเหมือนกัน ทำงานอยู่ในห้องแสนจะอุดอู้ ไอ้ภาชะลอรถเมื่อใกล้ถึงร้านโจ๊กมื้อดึกอันแสนคุ้นเคย ...เช่นเดียวกับรถคันใหญ่คล้ายบิ๊กไบค์ ลักษณะแบบนี้ผมจำได้ทันที ว่าเป็นรถของพี่กันต์แน่ๆ จะว่าไปหลังจากวันที่เจอครั้งหลังสุดพี่เขาก็ไม่ได้มาวุ่นวายป่วนประสาทแต่อย่างใด ก็นึกขอบใจอยู่เหมือนกันที่ไม่มาทำให้ผมหลอนไปมากกว่านี้ 

“ของกูเหมือนเดิม”สะกิดบอกเพื่อนให้สั่งให้ ส่วนตัวเองก็หาโต๊ะว่างๆนั่ง กะจะนั่งข้างนอกก็เต็มหมดแล้ว เพราะถ้านั่งด้านในต้องเจอพี่กันต์แน่ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่ช่วงนี้ผมไม่พร้อมเจอหน้าพี่กันต์เลย เจอโต๊ะว่างได้ผมก็รีบจับจองโดยไม่มองหน้าใครทั้งนั้น 

“อ้าว ตอง”เสียงทักอันคุ้นหูดังขึ้น ผมหันไปหาเจ้าของเสียง พี่อาร์ตยกมือทัก มีรอยยิ้มกว้างปรากฏอยู่ ข้างๆกันคือเจ้าของใบหน้าคมดุ พี่กันต์ยักคิ้วกวน ผมทำได้แค่ฉีกยิ้มเหี่ยวๆไปให้ ไอ้ภาถือแก้วน้ำมาให้ตามปกติ มันหันมองที่โต๊ะพี่กันต์แล้วยิ้มออกมา

 “กูว่าแล้ววว”

“อะไรของมึง”มันทำเสียงแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

“ก็คนที่มาทำแปลกๆใส่มึงไง ...กูเดาว่าคือพี่กันต์แน่ๆ”ผมขยับแว่นให้เข้าที่ก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ

“มึงเดามั่วแล้ว”ทำไมไอ้ภามันฉลาดจังวะ ปกติมันออกจะบื้อ เพื่อนสนิทยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“ที่กูรู้เพราะ...สังเกตจากคราวก่อนที่ศาลากลางน้ำคราวนั้น...อย่ามาปิดกูซะให้ยาก”ผมเถียงไม่ออกจึงได้แต่นั่งเงียบ หยิบโทรศัพท์มาเล่นแก้เซ็งระหว่างที่รอโจ๊ก

“กูว่ามึงซวยเพราะไปถูเกียร์แน่ๆ”

“อ...”ผมอ้าปากพะงาบๆน่าเกลียด เดี๋ยวนะ ไอ้ภามันรู้ได้ไง! เพื่อนสนิทยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะ

“มึงคิดว่ากูไม่รู้ล่ะสิ ตอนที่มึงถูมึงได้บอกว่าขอสาวรึเปล่า เพราะปกตินะเว้ยมันจะมีแต่พวกสาวๆไปขอ กูว่าเขาคงเข้าใจผิดส่ง
ผู้ชายมาให้มึงไง”ไอ้ภาพูดไปกลั้นขำไปต่างจากผมที่หน้าเห่อร้อนขึ้นมาเพราะความจริงที่ว่าเพื่อนผมมันรู้ว่าผมไปทำเรื่องไร้
สาระมา 

“มึง...หุบปากเงียบๆไปเลย ไอ้ภา”ผมหันไปมองทางอื่น ก็ดันไปสบตากับพี่กันต์เข้า รายนั้นเป็นบ้าอะไรไม่รู้ถึงได้ยกยิ้มให้ผม

“ล้อเล่นเองน่า...แต่พี่กันต์นี่ก็ใช้ได้นะ ถ้าไม่ติดว่าโหดไปหน่อย”ผมขึงตาใส่เพื่อนอย่างหงุดหงิด กว่ามันจะยอมหุบปาก ก็นู่นล่ะ โจ๊กมาเสิร์ฟ ผมได้แต่ก้มหน้าก้มจัดการโจ๊กของตัวเองเพราะรู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนจดจ้องมาตลอด ทำเอาผมตักโจ๊ก
เข้าปากด้วยท่าทางเงอะๆงะๆ จนช้อนกระแทกจมูกเข้า โจ๊กร้อนๆหกเปื้อนทั้งโต๊ะทั้งเสื้อตัวเอง ไอ้ภาหลุดหัวเราะเสียงดัง

“มึงโอเคไหมเนี่ย”มันถามพลางส่งกระดาษทิชชูมาให้ ผมรับมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เหลือบมองไปอีกโต๊ะก็เห็นว่าไอ้พี่กันต์กำลังหัวเราะอยู่ ยิ่งทำให้ผมอายกว่าเดิมอีก ผมเช็ดโจ๊กที่เปื้อนเสื้อด้วยอาการหงุดหงิด ทำไมถึงได้เฟอะฟะแบบนี้ก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งพี่อาร์ตและไอ้พี่กันต์ทานเสร็จพอดี ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อทั้งคู่ออกไปจากร้านแล้ว อาการเกร็งจะได้หายไปเสียที

“แต่ก็อย่างที่มึงว่านั่นแหละ...คนอย่างพี่กันต์มาทำท่าทีแปลกๆใส่ มึงจะไม่กลัวก็บ้าแล้ว...ระวังนะไอ้ตอง ซื่อๆใสๆแบบมึง...เสร็จเฮียแกแน่ๆ”จากนั้นมันก็หัวเราะกับตัวเอง

ไม่รู้เหรอ...ว่าผู้ชายด้วยกันทำอะไรได้บ้าง 


ข้อความของแก้วแว๊บเข้ามาในหัวทันที เห็นไหม พอผมมาเจอหน้าพี่กันต์แบบนี้ก็พาลหลอนไปหมด

“ไอ้ภา ถามจริงๆเถอะ มึงไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ กูหมายถึง...ไอ้พี่กันต์ก็ผู้ชาย...”

“ไม่แปลกเพราะสมัยนี้ กูเห็นจนเกร่อ”มันตอบด้วยท่าทีธรรมดาเกินคาด 

“ถ้ามึงจะกลายพันธ์ด้วยอีกคนกูก็ไม่ว่าหรอก ดีซะอีกมึงจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที”มันพูดติดตลกก่อนก้มไปจัดการโจ๊กของตัวเอง ถ้าผมไม่ได้ตาฝาดไปล่ะก็ เหมือนเห็นสีหน้าแปลกๆของมัน แต่ผมไม่อยากใส่ใจหรือเก็บเอามาคิดมากให้รกสมองจึงได้แต่ปล่อยผ่านไป

อิ่มหนำสำราญอารมณ์ดีได้ไม่นาน ผมก็แทบตาค้างเมื่อเห็นว่าคนที่ควรจะกลับไปแล้วนั่งอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง หรือผมจะเห็นภาพหลอน!

“ยืมตัวเพื่อนมึงเดี๋ยวนะ เดี๋ยวไปส่งคืน”พี่กันต์หันไปพูดกับไอ้ภา 

“กูไปก่อนนะ โชคดีล่ะมึง ถูเกียร์แล้วได้ผลจริงๆด้วยว่ะ”ไอ้ภาตบบ่าผมเบาๆ ผมถึงกับมองมันตาโต พูดอะไรของมึงเนี่ยยยย ดูซิไอ้พี่กันต์มันยิ้มใหญ่แล้ว

“ห๊ะ อะไรนะ มึงเชื่อเรื่องถูเกียร์ด้วยเหรอ แถมยังไปถูมาอีก ฮ่าๆ”พี่กันต์หัวเราะเสียงดังผมหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อน แต่มันรีบชิ่ง
ด้วยการโยนหมวกกันน็อคมาให้ผม แทบรับไม่ทันแหน่ะ

“เฮ้ย เชี่ยภา ทำไมมึงทำกับเพื่อนซี้มึงแบบนี้”มันไม่ห่วงผมเลยหรือไงทิ้งผมไว้กับหมาดุๆอย่างไอ้พี่กันต์

“ดูแลเพื่อนผมดีๆนะพี่ บ๊าย”มันหันมาโบกมือลาก่อนจะบิดรถหนี ไม่สนใจเพื่อนอย่างผมสักนิด

“อยู่คุยกันก่อนสิ น้องตอง”คนตัวสูงคว้าคอเสื้อผมไว้กันหนี ผมเหลียวมองคอแทบหัก เห็นรอยยิ้มสว่างไสวบนหน้าแล้วอยากกระทืบแม้ว่าผมจะไม่มีความสามารถทางด้านนี้เลยก็ตาม คนอย่างไอ้พี่กันต์วอนไม้วอนมือจริงๆ

“ผมกับพี่มีอะไรต้องคุยกันด้วยเหรอไง”

“เรื่องคุยไม่มี มีแค่ความคิดถึง”ผมถึงกับอ้าปากค้าง หูเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ รุ่นพี่ตรงหน้าหัวเราะในลำคอ

“อย่ามัวแต่เอ๋อ ขึ้นมา”พี่กันต์ติดเครื่องรถเตรียมพร้อม

“ผมยังมีงานต้องทำนะพี่กันต์” 

“แค่แป๊ปเดียวเอง ไม่เสียเวลามากหรอก ขึ้นมา”อีกฝ่ายพยักหน้าให้ผมซ้อนท้าย สีหน้าเหมือนข่มขู่ ผมจำต้องทำตามอย่างช่วยไม่ได้

“ให้สิบนาที”ผมพูดเสียงขุ่น พลางใส่หมวกกันน็อค ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องฟังที่อีกฝ่ายพูดด้วย แล้วเมื่อกี้อะไรนะ คิดถึงเหรอ...ประสาทไปแล้วแน่ๆ ทั้งผมทั้งพี่กันต์เนี่ยล่ะ

“หัดผ่อนคลายซะบ้าง นี่หวังดีนะรู้รึเปล่า รับลมเย็นๆ หัวจะได้โปร่งๆ”เสียงของรุ่นพี่ตรงหน้าลอยผ่านสายลมเย็นมาให้ได้ยิน เวลาผ่านไปนาน พี่กันต์พาผมขี่รับลมไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไปเพราะอะไร แต่ก็ไม่ได้ค้าน รับลมเย็นๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จนกระทั่งพี่กันต์จอดรถที่ข้างฟุตบาต ร้านรวงรอบข้างปิดหมดแล้ว บรรยากาศรอบตัวถึงได้มืดสนิท

“มาจอดตรงที่มืดๆทำไมเนี่ย”ผมทำลายความเงียบ แผ่นหลังกว้างๆของคนตรงหน้าขยับก่อนที่พี่กันต์จะเอี้ยวตัวมาหาถึงจะแค่เสี้ยววินาที แต่ก็รับรู้ถึงสัมผัสนุ่มอุ่นที่รุ่นพี่ตรงหน้ามอบให้ที่ริมฝีปาก

“พี่...ทำอะไร…”ถึงจะมืดแต่แก้มของผมต้องขึ้นสีแน่ๆเพราะความเห่อร้อนที่ลามมาไม่หยุด ถึงจะมืดแต่ผมกลับเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย รวมทั้งแววตาแพรวพราวคู่นั้นด้วย

“จูบไง ไม่รู้จักเหรอ”ถามกลับเสียงซื่อ

“..ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น หมายถึง...”ผมอ้าปากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก

“หมายถึงอะไรล่ะ”ยังจะมายิ้มกว้างอีก ผมนี่สู้คนๆนี้ไม่ได้เลยสินะ

“พี่จูบผมทำไม”กลั้นใจพูดออกไปจนได้

“อยากจูบก็เลยจูบ”รุ่นพี่ตรงหน้ายกยิ้ม ผมเม้มปากแน่น 

“คิดจะปั่นประสาทผมเหรอไง ไม่ได้ผลหรอก” 

“จริงดิ”   

“เออ รีบพาผมกลับได้แล้ว เสียเวลา”ผมเบนสายตาไปทางอื่น มองที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่หน้าไอ้พี่กันต์

“กูไม่ได้ปั่นประสาทมึง แต่กูว่ากูชอบมึง…”ผมอ้าปากค้างกับคำพูดตรงๆของพี่กันต์อีกรอบ และฝ่ายนั้นก็ไม่มีท่าทางเขินอายด้วย

“พี่...ประสาทหลอนแน่ๆ”ผมพึมพำเบาๆ

“ก็คงงั้น เพราะพักนี้เห็นหน้ามึงออกบ่อย”เขายิ้มกว้าง ก่อนยื่นหน้ามาใกล้จนผมผงะออกห่าง

“กูเป็นคนตรงๆใจร้อน อาจดูแปลกไปหน่อย”ไม่หน่อยแล้วโว้ยย

“พี่กันต์...คือพี่แกล้งผมรึเปล่าเนี่ย”มันออกจะเหลือเชื่อที่คนอย่างพี่กันต์จะมาชอบผม

“ไม่ได้แกล้ง”อีกฝ่ายกระซิบเบาๆแต่ทำผมสะเทือน

“กูเอาจริง”ผมถึงกับใบ้กิน สบตากับเขาได้ไม่นานก็ต้องหลบมองทางอื่น

“พี่ทำแบบนี้ หมายความว่าพี่เป็น...เอ่อ เป็น”พูดไปจะโดนต่อยไหมเนี่ย พี่กันต์ยกยิ้มเหมือนพอรู้ว่าผมจะสื่ออะไร ผมเลียปากที่แห้งผากก่อนกลั้นใจถามออกไป

“พี่เป็นเกย์เหรอ”คนตรงหน้าขมวดคิ้วครุ่นคิด

“ก็อาจจะ”

“แต่ผมไม่ได้เป็น”   

“อีกหน่อยมึงก็เป็น”   

 “มันเป็นง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”

“อืม เพราะเดี๋ยวมึงก็ชอบกูไง”

“...”เอาอีกแล้ว คนๆนี้ทำผมอ้าปากค้างอีกแล้ว! ความมั่นใจเกินร้อยแบบนี้ทำผมชักหมั่นไส้ 

“ผมไม่มีทางบ้าไปกับพี่แน่ๆ”ผมส่ายหน้าไปมาแต่เขาแค่หัวเราะเบาๆ 

“ไว้คอยดูก็แล้วกัน...”

หลังจากนั้นพี่กันต์พาผมมาส่งที่หอตามเดิม ผมรีบลงจากรถคันใหญ่ แต่มือหนาคว้าคอเสื้อผมไว้ได้ก่อน

“เดี๋ยวสิ”

“อะไรอีก”หันไปแหวใส่ พอเขาเห็นหน้าผมก็หัวเราะขำ จนผมทำหน้ายุ่งใส่

“แค่นี้เขินเหรอไงครับน้องตอง”ผมฝืนตัวเองไม่ให้วิ่งหนีสุดกำลัง เพราะทั้งคำพูดและสีหน้าของรุ่นพี่ตรงหน้าทำให้ผมปั่นป่วน
ชอบกล มาดหมาดุของพี่หายไปไหนหมดวะไอ้พี่กันต์

“พี่มีอะไรก็รีบๆ ผมมีงานต้องทำต่อ”เกือบลืมแล้วไหมล่ะ

“ยื่นมือมา”

“อะไร...”ผมมองอย่างไม่ไว้ใจ 

“ยื่นมาน่า ไม่ตัดมือทิ้งหรอก”     

“อ่ะ”ผมส่งมือขวาไปให้ รอดูว่าเขาจะทำอะไร พี่กันต์ล้วงเอาแท่งปากกาออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะตวัดเขียนลงบนฝามือของผม ทำเอาจั๊กจี้แปลกๆ ผมชักมือกลับมาดูเมื่อเขาเขียนเสร็จแล้ว เลิกคิ้วเมื่อเห็นเลขสิบตัวอยู่ในฝามือ

“ผมไม่เล่นหวย”

“อย่ามึน เขียนให้ด้วย”พี่กันต์เอาปากกาเคาะหน้าผากผมเบาๆพร้อมกับแบมือ

“ผมไม่อยากให้อ่ะ มีปัญหาไหม”     

“มีแน่ เรื่องที่ไปถูเกียร์…”รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอยู่บนหน้า ผมจิ๊ปากก่อนจะเขียนเบอร์ตัวเองลงบนฝามือตรงหน้า จงใจลงปากกาแรงๆเผื่อจะสะเทือนบ้าง

 “โทรหาก็รับด้วยนะ”อีกฝ่ายหยิบโทรศัพท์ออกมายิงเช็คว่าใช่เบอร์ของผมจริงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าผมไม่ตุกติกก็แย้มรอยยิ้มพอใจ

“เออ ตอง”ทำเสียงจริงจังมองหน้าผม

“ทำไมครับ”ภาพตรงหน้าเหมือนสโลโมชั่นเมื่อเขายกมือข้างที่มีเบอร์ของผมแตะที่ปากตัวเองก่อนจะเอื้อมมาแตะที่แก้มของผม     

“จุ๊บทางอ้อม ฝันดีนะ” 

 “...”อ๊ากกกกก บ้าจริง ใครจะไปคิดว่าคนดุๆอย่างพี่กันต์จะมีมุมแบบนี้ ทำผมผิดคาดไปหลายรอบ คนๆนี้อันตรายจริงๆ



**********************************************





แว่นแก้ว - สบายดีรึเปล่า 

Tong Teerapat - ...พักนี้มีเรื่องให้คิดตลอดเลยน่ะสิ

แว่นแก้ว – มีอะไรก็เล่าให้ฟังได้นะ

Tong Teerapat - ก็...มันเป็นเรื่องแปลกๆน่ะ คือยังไงล่ะ ช่วงนี้เรารู้สึกเหมือนประสาทหลอน 

แว่นแก้ว – หืม?

Tong Teerapat – พูดไปแก้วอาจจะไม่เข้าใจ สมมุติว่ามีคนๆหนึ่งมาทำตัวแปลกๆใส่แก้ว แก้วจะทำยังไง

แว่นแก้ว – แปลกที่ว่า…ยังไงล่ะ

Tong Teerapat – เหมือนมาจีบ แต่คนๆนั้นเป็นคนที่คาดไม่ถึงน่ะสิ

แว่นแก้ว – แล้วชอบไหม?

 Tong Teerapat – ไม่รู้เหมือนกัน

แว่นแก้ว – เรื่องของตัวเองจะไม่รู้ได้ไง



กลายเป็นว่าพักนี้ผมกับแก้วคุยกันผ่านเฟสบุ๊คบ่อยๆ ถึงจะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันก็ตาม เรื่องบางเรื่องเล่าให้คนไม่สนิทฟังมันโล่งใจกว่าคุยกับคนซี้ๆเสียอีก จะให้ผมเอาเรื่องที่โดนกวนใจไปปรึกษาไอ้ภา มีหวังคงโดนล้อกลับมาแน่ๆ อันที่จริงผมเองก็ไม่ได้รังเกียจคนอย่างพี่กันต์หรอก(ถึงแม้ว่าช่วงนี้ผมจะหลบหน้าพี่แกอยู่)ผมยังตั้งตัวไม่ติดต่างหาก จู่ๆก็มาจู่โจมกันแบบนี้ ผมไม่รู้จะมองหน้าอีกฝ่ายโดยที่ไม่เขินได้ยังไง ทำไมไม่แยกเขี้ยวใส่เหมือนตอนแรกๆนะแบบนั้นผมปั้นหน้าได้ง่ายกว่าอีก แย่จริงๆ ผมไม่
ชอบพี่กันต์โหมดนี้เลย 

Tong Teerapat – เราไม่กวนแล้วล่ะ ต้องไปกินเลี้ยงต่อ

แว่นแก้ว – ที่ไหน ไปกับใคร

Tong Teerapat – ร้านแอล พวกพี่รหัสชวนน่ะ

แก้วนี่เจ้ากี้เจ้าการกว่าที่คิดอีกแฮะ ผมผละไปจากหน้าจอโน๊ตบุ๊ค เพื่อเตรียมตัวให้เรียบร้อย กลับมาอีกทีแก้วก็ออฟไลน์ไปแล้ว ผมคว้ากระเป๋าออกไปรอพี่ไอซ์หน้าหอ ส่วนไอ้ภามันไปเล่นเกมส์กับพี่โต๋พี่รหัสตั้งแต่บ่ายๆแล้ว สองคนนั่นเลยออกไปพร้อมกัน ระหว่างที่รอพี่ไอซ์มารับ เบอร์ที่ผมเซฟไว้ว่า ‘หมาดุ’ก็โทรเข้ามา

“สวัสดีครับ”

[ทำไรอยู่] น้ำเสียงนั้นติดขุ่นหน่อยๆ

“ก็…กำลังจะออกไปเที่ยว”ได้ยินอีกฝ่ายพ่นลมหายใจออกมา

[เหอะ ไปร้านเหล้าอีกน่ะสิ]

“พี่รู้ได้ไง”ผมย่นคิ้ว เดินย่ำไปมา

[รู้ก็แล้วกัน อย่างไอ้ไอซ์มันจะชวนไปที่ไหนได้] จริงสิ เห็นว่าพี่กันต์กับพี่ไอซ์มีเรื่องไม่ถูกกันนี่…เรื่องอะไรนะ

“พี่ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มหรอกน่า”

[ห้ามเมา ไม่อย่างนั้น…เจอดีแน่ๆ] ผมไม่คิดจะเมาอยู่แล้ว พอมาได้ยินเสียงข่มจากพี่กันต์แล้วหมั่นไส้จริงๆ

“พี่จะทำอะไรผมล่ะ”

[หึ เดี๋ยวก็รู้] ฟังแล้วเสียวสันหลังวูบๆเลย

“ผมไม่เมาหรอก หายห่วงได้”

[อือ แล้วก็…] ผมรอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร

[อย่าไปสนิทกับไอ้ไอซ์มากล่ะ มันไม่ใช่คนดีอะไรหรอก] พูดจบก็ตัดสายไปทันที ทำเอาผมงง พี่กันต์มักเป็นแบบนี้เสมอ คิดจะ
วางก็วาง ผมมองหน้าจอที่ดับไปนานแล้วด้วยสายตาครุ่นคิด ผมกับพี่กันต์ตอนนี้…เป็นอะไรกัน ผมเองก็ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน

รอไม่นานนักพี่ไอซ์ก็มารับด้วยสีหน้าแช่มชื่น  ความจริงผมก็ไม่อยากไปเท่าไหร่หรอก แต่ขัดเพื่อนไม่ได้และนานๆทีพี่รหัสจะว่างเลี้ยงด้วย ร้านแอลที่ว่าเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ จิบเบียร์ฟังเพลงเพลินๆ

“พี่ได้ข่าวมาว่าช่วงนี้ไอ้กันต์จีบตองอยู่เหรอ”ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆคำถามของพี่รหัสก็เบรกอารมณ์ดังเอี๊ยด ผมไม่คิดว่า
จะมีใครรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

“เปล่านี่ครับ พี่คงเข้าใจผิดแล้ว”ผมตอบเสียงแห้ง 

“อย่าโกหกพี่น่า...ทำไมพี่จะดูไม่ออก ตองอย่าไปไว้ใจมันนะ ไอ้กันต์มันไม่ใช่คนดี”   

“อ่า ครับ”ตอนนี้ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่าระหว่างสองคนนี้มีอะไรกัน แต่ล่ะคนก็บอกว่าอีกฝ่ายไม่น่าไว้ใจแบบนี้...เรื่องผู้หญิงเห
รอ?..ไม่ใช่หรอกมั้ง 


กว่าจะถึงร้านก็เล่นเอาผมคิดเลอะเทอะไปหลายตลบ พี่ไอซ์ดูหมองๆ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า แต่เห็นสีหน้าของรุ่นพี่ผมก็ไม่กล้าปริปากแล้ว ภายในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ เน้นความปลอดโปร่ง เสียงเพลงกล่อมดังมาจากนักร้องชายบนเวที

“มาทางนี้”พี่ไอซ์สะกิดพร้อมกับนำผมไปที่อีกฝั่ง โซนติดบ่อน้ำพุ เห็นไอ้ภากับพี่โต๋อยู่ที่โต๊ะ อาหารและเครื่องดื่มเตรียมพร้อมไว้
แล้ว กำลังเม้าท์กันอยู่สองคน เมื่อผมกับพี่รหัสเข้าไปใกล้ก็ปรบมือเสียงดังแบบไม่เกรงใจใคร 

“กว่าจะมา ท้องไส้กิ่วหมดแล้วเนี่ย”พี่โต๋ออกปากบ่น ผมนั่งลงข้างๆเพื่อน ส่วนพี่ไอซ์นั่งที่อีกฝั่ง   

“กะอีแค่มาสายนิดเดียวเอง”พี่ไอซ์ไหวไหล่ ก่อนจะหันมาทางพวกผม

“วันนี้ตามสบายนะ พี่เลี้ยงเอง นานๆทีจะได้ออกมาด้วยกัน”

“ขอบคุณครับผม”ไอ้ภาตอบเสียงลั้นลา ผมคว้าขวดโค้กเป็นอย่างแรก แต่พี่โต๋ก็เบรกไว้ซะก่อน   

“อ่ะๆ ไม่ได้ คราวก่อนมึงก็ชิ่งไปทีแล้ว”     

“ผมไม่อยากเมา”ไม่ได้กลัวไอ้พี่กันต์ แต่กลัวตัวเองนี่ล่ะ

“ไม่ได้กินให้เมาซะหน่อย แก้วเดียวก็ได้”จากนั้นพี่ไอซ์ก็จัดการชงเหล้าให้ผมโดยเฉพาะมีไอ้ภาเชียร์อีกแรง 

“ไม่ต้องห่วงน่าเพื่อน กูดูแลมึงเอง”   

“เหรอ คราวก่อนมึงก็พูดแบบนี้ สรุปเมาก่อนใครเขาเลย”ผมหรี่ตามองเพื่อน ทำมาพูดดี ไอ้ภาทำหน้าหมองแบบเสแสร้งก่อนเข้ามาอ้อนไม้อ้อนมือ

“มึงสองคนน่ารักดีนะ”พี่โต๋หัวเราะ ไอ้ภาถึงกับหน้าถอดสี จู่ๆมันก็มีทำท่าทางแปลกๆซะงั้น

 “เอ้า สำหรับน้องรัก”พี่ไอซ์ยื่นแก้วโค้กผสมเหล้ามาให้พร้อมกับขยิบตา

“สู้ๆไอ้น้อง”ผมรับแก้วมาจากรุ่นพี่ ผมจะรอดไหมเนี่ย เพราะเห็นว่าพี่ไอซ์เทเหล้าไปซะเกือบครึ่ง   

“ไอ้ภา เป็นไร”ผมเห็นมันทำท่าทางแปลกๆตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว มันแสร้งจิ้มเอ็นไก่ทอดในจานเข้าปากก่อนทำหน้ามึนมองผม

“เปล่านี่”มันไหวไหล่ ผมไม่อยากจะเซ้าซี้กดดันเพื่อนมากจึงได้แต่ปล่อยไป ทั้งๆที่ผมเริ่มสะกิดใจกับท่าทีของอีกฝ่าย ก็ผมสนิทกับมันมาตั้งแต่เด็ก เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะมองไม่ออกล่ะ






*****************************************





ผมรู้สึกว่าแว่นตาพร่ามัวมากกว่าทุกที แถมทุกอย่างก็ดูมึนๆน่าเวียนหัวไปหมด สองหูได้ยินเสียงเพลงและเสียงพูดคุยแว่วๆ 

“เดี๋ยวกูพาน้องกลับเองน่า มึงดูไอ้ภาเถอะ”   

“มึงแน่ใจนะว่ากลับไหว”

ผมปรือตามองรอบตัว แสงไฟมัวๆจากหน้าร้าน ข้างหน้าผมเป็นพี่โต๋ที่กำลังพยุงไอ้ภาอยู่ มันฮึมฮัมร้องเพลงอะไรสักอย่างอยู่

“เออ กูไหว”เสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ๆ ผมหยีตามอง ปลายคางของพี่ไอซ์เด่นชัดอยู่ตรงหน้า 

“อย่าทำอะไรบ้าๆนะมึง”     

“เออ ไม่ทำหรอก กูเป็นผู้ใหญ่พอ”พี่ไอซ์กระชับวงแขนที่พยุงผมอยู่ ผมพยายามตั้งสติ รับรู้ว่ารุ่นพี่กำลังพาตัวเองเดินไปที่รถ มีเสียงย่ำของฝีเท้า

“ตองเคยรักใครสักคนแบบที่ไม่สนสถานะไหม”พี่ไอซ์พึมพำอยู่ข้างๆ   

“อืม..ไม่รู้สิครับ”ผมมุ่นคิ้วอย่างนึกปวดหัว

“พี่เคยรักคนๆหนึ่ง เข้าขั้นบ้าเลยล่ะ รักทั้งๆที่เขาสนใจคนอื่น แล้วที่น่าขำกว่านั้นคือไอ้คนๆนั้นดันคบกับเขาแค่เอาชนะพี่...มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย แล้วมันก็บ้าคิดว่าพี่จะปัญญาอ่อนเอาคืนแบบที่มันเคยทำกับพี่ ทุกวันนี้มันเลยระแวงพี่ ตองว่าน่าขำไหม”น้ำเสียงของพี่ไอซ์ไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ผมได้แต่พยายามคิดว่าพี่ไอซ์ต้องการจะสื่ออะไร แต่ตอนนี้ผมเวียนหัวจนไม่อยากจะคิดอะไรแล้ว 

“พี่หวังดีกับตองนะ ไม่อยากให้เราผิดหวังเพราะการเล่นสนุกของมัน...”เดินได้ไม่กี่ก้าว ร่างสูงคุ้นตาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า พี่ไอซ์
หยุดเดินทันที กล้ามเนื้อเกร็งเขม็งจนผมรับรู้ได้

“กูจะพาตองกลับเอง”เสียงดุดันแบบนี้ พี่กันต์แน่ๆ

“อ้าว พี่กันต์ มาได้ไงเนี่ย”ผมเพ่งมองอย่างแปลกใจ หยิบแว่นออกมาเช็ดกับชายเสื้อแล้วสวมใหม่ คนตรงหน้าก็ยังเป็นพี่กันต์คน
เดิม เครื่องหน้าคมดุฉายชัด

“บอกแล้วไงว่าอย่าเมา”อีกฝ่ายทำเสียงฉุน สาวเท้าเข้ามาใกล้ แต่พี่ไอซ์ขยับตัวหนีจนผมก้าวเซไปด้วย   

“มึงกลัวเหรอไง”พี่รหัสถามเสียงเยาะ 

“เปล่า กูแค่จะพาคนของกูกลับเอง”พี่กันต์นี่กล้าพูดจริงๆ ผมหน้าเห่อร้อนวูบวาบขึ้นมา

“นี่น้องกู กูจะพากลับเอง หลบไปได้แล้ว ไอ้กันต์ ไอ้ตองไม่เหมาะกับคนสันดานแย่แบบมึงหรอก”แต่คนตรงหน้าไม่ขยับไปไหน 

“เหมาะหรือไม่เหมาะ คนตัดสินก็ไม่ใช่มึงอยู่ดี”ผมเริ่มรำคาญกับเสียงของทั้งคู่ ตกลงผมจะได้กลับไปนอนบนเตียงสบายๆตอนไหน   

“พี่กันต์...เอ่อ ผมกลับกับพี่กันต์ก็ได้”ผมส่งยิ้มเกรงใจไปให้พี่ไอซ์ สีหน้าไม่พอใจฉายชัด

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พี่กันต์มันไม่ปล้ำผมหรอก”ผมหัวเราะเหมือนคนเป็นโรคประสาท พี่กันต์เข้ามาพยุงผมแทนพี่รหัส กลิ่น
น้ำหอมอ่อนๆของเขาลอยแตะจมูก ผมถูกพาไปที่รถกระบะคันใหญ่ 

“ไหนบอกว่าจะไม่เมาไง”ก้าวห่างจากพี่ไอซ์ได้ไม่เท่าไหร่ คนหน้าดุก็ถามเสียงเข้ม

 “ผิดคาดไปหน่อย”ผมหัวเราะเสียงแห้ง คนที่พยุงอยู่ถอนหายใจ เสียงเปิดประตูรถดังปัง พร้อมกับถูกดันตัวเข้าไปในรถ ผมทิ้งตัว
บนเบาะเก่าๆอย่างทุลักทุเล คิ้วขมวดมุ่น กวาดสายตาไปรอบๆรถ   

“ดูทำหน้าเข้า เอ๋อจริงๆ”พี่กันต์ดันหน้าผากผมเต็มแรง ก่อนจะออกรถ 

“รถพี่เหรอ...แก่จัง”ผมหัวเราะอีกรอบ เจอกล่องใส่แว่นที่คอนโซลรถด้วย

“รถพ่อ”ผมทำหน้ามึนเข้าไปใหญ่ 

“ยืมพ่อมา”   

 “...”   

“ไปค้างบ้านกูกัน”คำพูดนั้นแทบทำให้ผมสร่างเมา



บ้านพี่กันต์อยู่ห่างจากมหา'ลัยไม่ไกลนัก เป็นบ้านปูนสองชั้น หลังไม่ใหญ่มากแต่ดูอบอุ่น ทาสีผนังสีชมพู มีพื้นที่หน้าบ้านสำหรับออกมานั่งรับลม ต้นมะม่วงต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านดำทะมึน พี่กันต์จอดรถที่นอกรั้ว ลงไปเลื่อนประตูเปิดแล้วขับรถกระบะคันเก่าเข้าไปยังบริเวณจอดรถ ผมได้แต่มองมึนๆพี่กันต์ยกนิ้วแตะที่ริมฝีปากเพื่อบอกให้เงียบ

“เดี๋ยวพ่อด่า”   

“ห๊ะ...”ผมขมวดคิ้วอย่างมึนงง รุ่นพี่ที่นั่งถัดไปยกยิ้มมุมปาก

“ทำไมน่ารักแบบนี้วะตอง”ผมก้มหน้างุด มาพูดอะไรตอนนี้กันเล่า ถึงจะยังมึนๆงงๆอยู่แต่ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะ 

“เข้าไปด้านใน ก็เงียบๆด้วยนะ เดี๋ยวคนในบ้านตื่น”พี่กันต์กระซิบเสียงเบา เขาพาผมเข้าไปในบ้านเงียบๆ ผมแทบจะกลั้นหายใจทุกฝีก้าว ย่องผ่านโซนดูหนังไปเหมือนโจร ห้องของพี่กันต์อยู่ชั้นสองติดทางเดิน ส่วนอีกห้องเหมือนมีป้ายชื่อติดอยู่ ผมพยายามเพ่งมองแต่ก็ถูกเจ้าของห้องดึงเข้าไปในห้องเสียก่อน 

“บอกแล้วว่าถ้าเมาเจอดีแน่ๆ”เขากระซิบชิดใบหู จนผมต้องถอยออกห่างจนชนเข้ากับโต๊ะหนังสือ ห้องมืดแบบนี้ ผมมองแทบไม่เห็นทาง อีกฝ่ายหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางตื่นกลัวของผม

“ผมมั่นใจว่าพี่ไม่ปล้ำผมแน่”ในความมืด ผมเห็นเขาเลิกคิ้วสูง   

“เพราะ”   

“ปล้ำผู้ชายมันไม่ง่ายหรอก”ผมพยายามนึกภาพ แต่ก็รีบสั่นหัวไล่ความคิดบ้าบอออกไป ว่าแต่มาพูดเรื่องนี้ตอนอยู่ในห้องนอนมืดๆที่มีเตียงพร้อมแบบนี้...ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย พี่กันต์หัวเราะในลำคอ

“คิดแบบนี้ก็ดีแล้ว...เฮ้อ นอนได้แล้ว”เขาเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วพร้อมกับดันให้ผมไปที่เตียงนอน

“พี่นอนด้านล่างนะ...”   

“เมาแล้วอย่าดื้อ”ผมจำได้แค่ว่าถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนอุ่นและนอนซุกความอุ่นนั้นไปตลอดคืน






TBC.

 :katai5:





ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เขินจังเลยย พี่กันต์น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ไม่รู้ง่ะ แต่เค้าไม่ชอบพี่กันต์ นิสัยไม่ดี  :ling3:

ออฟไลน์ AuyAaiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอมานานเล้วเรื่องนี้ ในที่สุดก็มาซักที :katai2-1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กรี๊ดกร๊าด~เป็นแฟนคลับ"ถูเกียร์"นะ มาอีกคู่แล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
สร่างแล้วค่อยว่ากันนะจ๊ะน้องตอง
อิอิ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบ ถูเกียร์ อึกคู่  :katai2-1:
ตองต้องน่ารัก ใส่แว่นสเปคพี่กันต์ รุกไวมาก จูบก่อน บอกชอบซะด้วย   :katai1:
แถมยังแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่
รอตอนใหม่  :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ภาคภูกเกียร์มาแล้ว ชอบๆๆ
พี่กันต์รุกมากเลย น้องตองเสร็จแน่ สเปกพี่กันเลย อิอิ

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
น่ารัก เด็กแว่น  :man1:

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
โอ๊ยยยย ชอบ สนใจแต่งเป็นเรื่องยาวอีกเรื่องไหมคะ 5555

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อืมมมม ยังดูไม่ออกว่าตกลงพี่กันต์พี่ไอซ์นี่ดีหรือไม่ดี รู้แต่ภานี่พึ่งพาไม่ได้เลยแฮะ  :serius2:

ออฟไลน์ thanapontigy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อ่านแล้วทำไมเหมือนจะรักหลายเศร้าเลยอะ กันต์ ตอง ไอซ์ ภา

ออฟไลน์ fannaio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่กันต์น่าร้ากกกกกกก  :-[ :o8:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ภาชอบตองแน่เลยอ่ะ ดูรักหลายเศร้าจัง  :ling1:

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ขออีกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ ifangza!

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอนานแล้ววว เมื่อไหร่จะมาาา  :mew2: :ling1: :ling1: :katai5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ตองน่ารักกกกก  :-[
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆนะ

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ลุ้นมาก กันต์รุกมาก แต่น้องก็ยังอึน
แล้วไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนชอบจริงจัง 555

เรื่องยุ่งขิงเลยค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Faifull

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออ่านนนนนตอนต่อไปเดือนกว่าแล้ววว

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
ตอนที่4






คุณคิดว่าจะน่าตกใจแค่ไหน หากตื่นมาพบว่าตัวเองกำลังนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชาย และผู้ชายคนนั้นคือคนที่คุณพยายามหลบหน้ามาตลอด...และตอนนี้เขากำลังนอนมองหน้าคุณอยู่ด้วยสายตาที่เหมือนเด็กจ้องลูกกวาด 

ผมผงะออกห่างทันที ใช้มือดันอีกฝ่ายออกห่างแต่ไอ้พี่กันต์กลับยิ่งกอดรัดมากขึ้น ตอนนี้ผมกำลังเบลออย่างหนัก...กวาดตามองรอบห้องรกๆคับแคบก็รู้ว่าไม่ใช่ห้องของตน แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไปเจอพี่กันต์ตอนไหน ดูเหมือนคิ้วที่ขมวดชนเข้าหากันจะทำให้พี่กันต์เดาความคิดของผมได้

“เมื่อคืนมึงเมา กูเลยไปรับกลับมาที่บ้าน”ผมเบิกตากว้างกว่าเดิม บ้าน...! 

“นี่บ้านพี่เหรอ?”     
 
“เออ แล้วนี่ก็ห้องกู เตียงกู หายมึนหรือยังครับน้องตอง”ผมอ้าปากค้างน้อยๆ พยายามนึกว่าตัวเองโดนฉุดมารึเปล่า แต่ก็นึกไม่ออก

“มึงยอมมากับกูเอง”ตอบพร้อมรอยยิ้ม 
 
“ผมเนี่ยนะ”   

“เออ”ยิ่งพยายามนึกผมก็ยิ่งปวดหัว จึงได้แต่ปล่อยให้สมองโล่งแทน ผมสังเกตห้องของพี่กันต์อีกครั้ง โต๊ะหนังสืออยู่ที่ปลายเตียง เสื้อคลุมวางพาดอยู่ที่เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้าเปิดอ้าน้อยๆ เผยให้เห็นกองผ้าด้านใน   
 
“ปวดหัวรึเปล่า”เขาถามเสียงเจือเป็นห่วง

“นิดหน่อยครับ”สงสัยจะแฮงค์

“รออยู่นี่ก่อน”พี่กันต์ขยับลงจากเตียง ก่อนก้าวไปที่ประตู จริงสินี่บ้านพี่กันต์นี่นา…ตอนนี้คนในบ้านกำลังทำอะไรอยู่ ผมมองหานาฬิกา ปรากฏว่าเก้าโมงกว่าๆ สายโด่งขนาดนี้คงไปเรียนไม่ทันแน่ๆ ผมกะจะลุกไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย

แต่ดันมึนหัวเซล้มกองกับพื้นซะงั้น ก่นด่าความเซ่อซ่าของตัวเอง สายตาดันไปสะดุดเข้ากับกล่องขนาดกลางแบบมีฝาปิดที่วางอยู่ใต้เตียงเข้า ด้วยความอยากรู้ผมจึงดึงกล่องปริศนานั่นออกมา หรือว่าไอ้พี่กันต์จะซ่อนหนังโป๊ไว้

ผมหันมองประตูห้อง เปิดกล่องด้วยความลุ้นระทึก แปลกใจสุดๆเมื่อเห็นของด้านใน มันคือกล่องขนมป็อกกี้รสช็อคโกแลต มีกระดาษโพสอิทแผ่นเล็กๆแปะไว้ที่กล่องพร้อมระบุวันที่ และที่เด่นสุดคือกล่องสีชมพู รสสตอเบอร์รี่…

ผมขมวดคิ้วมุ่น หยิบกล่องที่สีต่างจากพวกออกมาดู เหมือนมีอะไรบางอย่าง แต่เพราะกำลังมึนๆ ความคิดจึงกระจัดกระจายไม่เข้าที่ ผมเก็บกล่องไว้ตามเดิม พยุงตัวเองนั่งลงที่ปลายเตียง

 เดี๋ยวนะ…

ขนมป็อกกี้รสช็อคโกแลต…มีรสสตอเบอร์รี่อยู่กล่องเดียว วันที่พวกนั้น…ถ้านึกย้อนไปแล้ว มันตรงกับที่ผมเคยเอาไปให้แก้ว แก้ว…ขนมป็อกกี้

พี่เราค่อนข้างขี้หวง ครั้งก่อนๆก็แย่งขนมไปกินหมดเลย

คำพูดของแก้วย้อนมาอีกครั้ง แก้วบอกว่าพี่ชายดุ วันนั้นที่ผมแอบเอาป็อกกี้ไปให้แก้ว ก็เจอพี่กันต์แถมยังแย่งขนมไปอีก

แก้ว…พี่กันต์ 

“หรือว่า…”ใจเต้นตึกตักเหมือนออกวิ่งมาสักสิบรอบ เรื่องนี้ผมต้องพิสูจน์ให้ได้เพราะมันน่าสงสัยจริงๆ พี่กันต์เก็บกล่องขนมพวกนั้นไว้ทำไม

บางอย่างเริ่มเข้าล็อค เมื่อความทรงจำเมื่อครั้งที่เจอพี่กันต์ครั้งแรกฉายวูบเข้ามา…ข้อความในกระดาษที่แปะอยู่ที่รถ

‘เลิกเอาขนมป็อกกี้มาให้แก้วได้แล้ว น้องแว่น’

โอ๊ยย ทำไมผมไม่เคยคิดนะ แก้วกับพี่กันต์…แถมผมยังเคยคิดด้วยว่าสองคนนี่หน้าคุ้นๆ ความคิดพวกนี้ล่องลอยไปหมดจนผมจับประเด็นไม่ได้

แอ๊ดดดด

ประตูห้องแง้มเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของพี่กันต์ เขาถือแก้วน้ำมะนาวกับถ้วยข้าวต้มหอมๆมาด้วย ท้องไส้เริ่มส่งเสียงประท้วงเมื่อได้กลิ่นหอมๆ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมค่อยจัดการทีหลัง ถึงยังไงมันก็พิสูจน์ไม่ยากหรอก พี่กันต์ลากเก้าอี้มาใกล้ๆก่อนวางถ้วยข้าวต้มกับแก้วน้ำมะนาวลง 

“กินซะ”

“ยังไม่ได้แปรงฟันเลย”ผมมองหาห้องน้ำ คิดว่าในห้องนี้คงไม่มี พี่กันต์ทำหน้ายุ่งคว้าขวดน้ำมาให้ผม

“ล้างคอไปก่อน ตอนนี้ยังลงไปข้างล่างไม่ได้ พ่อกับแม่อยู่”เขากระซิบเบาๆ ท่าทางที่เหมือนเด็กกลัวโดนดุ ทำเอาผมหลุดยิ้ม 

“กลัวด้วยเหรอ”

“เออสิ เมื่อคืนดันแอบเอารถพ่อไปใช้ ดีหน่อยที่แกเป็นคนหลับลึก…”พี่กันต์เปลี่ยนมาจ้องผมแทน

“จำได้รึเปล่าว่าห้ามเมา”

“ช่างมันเถอะน่า”ผมกลัวจะมีอะไรเกิดขึ้นจึงรีบคว้าถ้วยข้าวต้มมาวางไว้บนตัก กลิ่นหอมๆทำผมน้ำลายสอ

“นี่ถ้าไม่ได้ไปรอ คงได้ไปค้างกับไอ้ไอซ์นู่น”เขาทำหน้าตึงแบบไม่ชอบใจ นึกถึงเรื่องเมื่อคืน…จำได้รางๆว่าผมไปกับพี่ไอซ์นี่นาแล้วเหมือนพี่เขาจะพูดอะไรบางอย่างด้วย   

“พี่กันต์ครับ”ผมเรียกด้วยเสียงจริงจังเป็นครั้งแรก

“ว่าไง”เขาสบตาผมอยู่ก่อนแล้ว น่าแปลกที่ไม่ยักอึดอัด

“พี่กับพี่ไอซ์มีเรื่องอะไรกันมาก่อนเหรอ”ผมถามออกไปตรงๆเพราะความข้องใจ เรียกง่ายๆก็เผือกนั่นแหละ พี่กันต์ถอนหายใจ

“อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เคยไม่ชอบหน้ากันตอนสมัยมัธยม ช่วงนั้นกูกับมันค่อนข้างจะแข่งกันในหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ เผอิญว่ามันชอบเด็กม.ต้นอยู่คนหนึ่ง กูรู้ก็เลยไปจีบตัดหน้ามัน…แล้วก็ทิ้ง”เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

“ก็ไม่รู้นี่หว่าว่ามันจะชอบมากมายขนาดนั้น ก็ตอนนั้นกูยังคะนองไม่ค่อยได้สนใจใครหน้าไหนเอาสะใจเข้าว่า…เรื่องเลยเป็นแบบที่เห็น กูเลยพลอยระแวงไปด้วย กลัวว่ามันจะมาเอาคืน ฟังดูไร้สาระใช่ไหม”พูดจบเขาก็คลี่ยิ้ม ผมไม่รู้จะออกความเห็นยังไงดี บางครั้งเรื่องของลูกผู้ชายมันก็บ้าบอ

“เรื่องนั้น กูผิดจริง แต่เรื่องมันผ่านมาแล้วให้ทำไงได้ มึงผิดหวังไหมที่กูสันดานแย่แบบนี้”ได้ยินเขาถามแบบนี้ผมถึงกับหลุดหัวเราะเสียงดัง

“พี่ก็ไม่ได้ดูเป็นคนดีอะไรตั้งแต่แรกแล้วนี่”พี่กันต์ขึงตาใส่ ผมกลับมาสนใจข้าวต้มอีกครั้ง เป่าให้หายร้อนแล้วรีบตักเข้าปาก เกิดความเงียบขึ้นเมื่อผมจัดการกับข้าวต้ม ส่วนเจ้าของห้องก็เอาแต่นั่งมอง 

“จ้องหน้าผมทำไม แบบนี้กินไม่ลงพอดี”ผมวางช้อน นิ่วหน้ามองพี่กันต์ อีกฝ่ายแค่ยิ้ม เอื้อมมาเช็ดที่มุมปากของผม ไม่ยักรู้ว่าข้าวต้มเลอะ น่าอายจริงๆ เป็นเพราะผมยังไม่ได้ล้างหน้า

แว่นตามักเลื่อนลงมาเพราะหน้ามัน ดูไม่จืดจริงๆ ผมก้มหน้าก้มตาจัดการข้าวต้มต่อไป รุ่นพี่ตรงหน้าตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยถ้อยคำสุดช็อค

“คบกับกูนะ”พี่กันต์พูดหน้านิ่ง นี่ถ้าไม่ติดว่ามีข้าวต้มอยู่ในปาก ผมคงอ้าปากค้างอีกแน่ๆ

“พี่บ้าไปแล้ว”ผมคว้าขวดน้ำเปล่ามาดื่มแก้คอแห้ง หลบเลี่ยงสายตาของเขา

“ไม่ได้บ้า แต่พูดจริง”

“มาขอตอนกำลังกินเนี่ยนะ”เหลือเชื่อเลย ผมเหลือบมองอย่างครุ่นคิด เอาเข้าจริงระยะเวลาที่พี่กันต์เจอผมก็สั้น…ทำไมถึงชอบผมเร็วนัก

“พี่ชอบผมได้ไง”ผมเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายถามบ้าง

“ไว้บอกคราวหลัง”เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของเขา 

“ชอบนานหรือยัง”ผมซักต่อ หรือว่าเห็นผมแอบเอาขนมป็อกกี้ไปไว้ที่รถแก้ว…ก็เป็นไปได้ มีเก็บกล่องไว้ด้วยอีก ไม่คิดว่านิสัยหมาดุจะมีมุมน่ารักๆแบบนี้ด้วย นึกแล้วก็ยิ้มกว้าง

“ไม่บอก”พี่กันต์ทำเสียงตึง 

“ถ้าพี่ชอบผมเร็ว แล้วผมจะมั่นใจได้ไงว่าพี่จริงจังแค่ไหน”ผมเลิกคิ้วมอง เลื่อนถ้วยข้าวต้มไว้ที่เดิมเมื่ออิ่มแล้ว อีกฝ่ายทำแค่มองหน้าผมตรงๆ

“รู้แค่ว่ากูเอาจริงก็พอ”สีหน้ามุ่งมั่นทำผมใจสั่น ผมปล่อยความคิดล่องลอยไปไกล รู้สึกตัวอีกที พี่กันต์ก็ขยับมาใกล้แล้ว

 ครั้งนี้จะหลบสายตาก็ทำไม่ได้เพราะฝามือแกร่ง ประคองใบหน้าของผมไว้ ลมหายใจผะแผ่วเป่ารด นี่ไม่เหมือนครั้งก่อนที่ริมฝีปากแตะกันแค่เสี้ยววินาที
ครั้งนี้เนิ่นนาน...

ริมฝีปากอุ่นนุ่มกดจูบแผ่วเบา ขบเม้มริมฝีปากล่างไม่ห่าง ผมแทบหายใจไม่ออก เมื่อเห็นว่าผมไม่มีอาการต่อต้าน เขายิ่งขยับรุกล้ำมากขึ้น ปลายลิ้นหยอกล้อ ขบเม้มไม่เว้นช่วง เวลาผ่านไปนานจนผมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก พี่กันต์ผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง จ้องมองมาด้วยแววตาจริงจัง

“...ผมยังไม่ได้แปรงฟันเลยนะ...”ผมกลบเกลื่อนอาการเขินอายด้วยการบ่นพึมพำแทน ริมฝีปากยังร้อนผ่าวๆราวกับปลายลิ้นและฟันของเขายังสัมผัสอยู่

“กูไม่ถือ”

“แล้วว่าไง...ยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อกี้เลยนะ”เขาทวง 

“ก็…มันเร็วไปอ่ะ ผมยังไม่รู้จักพี่เลย จะให้คบกันเลยเหรอ”อีกอย่างผมไม่เคยคบกับผู้ชายด้วย ผมทำตัวไม่ถูก

“โอเค กูไม่รีบ ยังไงก็หนีกูไม่พ้นอยู่แล้ว”ผมถึงกับปรายตามอง

“มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ”   

“แน่นอน กูขุดหลุมไว้ลึก ตกลงมาแล้วหาทางขึ้นยากแน่นอน”มั่นหน้าจริงๆ ว่าแต่ผมหย่อนขาลงไปครึ่งนึงแล้วหรือยัง?






TBC.
มาอัพแล้วววว  :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2016 00:38:23 โดย DuenTwinBII »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด