Shadows ที่ 30 ปิศาจที่แท้จริง
ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง ในสถานที่ที่เปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว สัมผัสจางๆ จากร่างกายของผม ยังคงไม่จางหาย มันเหมือนกับความฝัน ความฝันของพวกเราที่ได้อยู่ด้วยกัน และมันก็จบลงเพียงชั่วอึดใจ
"ไวท์" ผมเลื่อนสายตามองไปยังคนที่กำลังเรียกผม พี่เบลล์งั้นเหรอ ทำไมถึงเป็นที่นี่...
"ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ" ผมพูดเบาๆ อย่างคนอ่อนแรง มองดูตัวเองที่นอนอยู่บนเก้าอี้บุนวมตัวยาวของร้านกาแฟ
ซินปล่อยผมงั้นเหรอ หึ ไม่สมกับเป็นซินเลยนะ
"เรื่องนั้นพี่ไม่รู้หรอก ยังไงก็พักก่อนเถอะ"
"ขอบคุณนะครับ แต่ไม่มีอะไรครับ ขอโทษที่รบกวนจริงๆ" ผมลุกขึ้นยืนด้วยขาที่อ่อนแรง ผมจะต้องไปแล้ว ผมต้องไปหาคุณยาย
"ไวท์" พี่เบลล์เรียกผมที่กำลังค่อยๆ เดินออกจากร้านเอาไว้ "บางที สิ่งที่ไวท์เชื่อ มันอาจจะไม่จริงก็ได้นะ" ผมหันกลับไปมองพี่เบลล์และส่งยิ้มให้อย่างอ่อนแรง
"ผมไม่รู้ว่าพี่พูดถึงอะไร แต่...ผมเชื่อในสิ่งที่ผมเห็น" ผมพูดและก้มหัวขอบคุณพี่เขาอีกครั้ง ก่อนจะออกมาจากร้าน
ในตอนนี้นั้นผมเหนื่อยล้าเหลือเกิน แค่เพียงยิ้ม แค่เพียงเปร่งเสียง แค่เพียงหายใจ ผมรู้สึกปวดร้าว ไร้สิ้นกำลัง เหมือนกับทุกสิ่งกำลังสูญสลาย
ผมเดินไปช้าๆ เดินไปเรื่อยๆ เป็นเวลานาน ถึงแม้ในสมองไม่ได้คิด แต่เท้าของผมก็ยังคงเดินต่อไปยังที่เดิมๆ ที่ที่มีความหมายสำหรับผม
ผมยืนมองภาพผืนดินที่เคยมีบ้านมีร้านค้าตั้งอยู่ แต่บัดนี้เหลือแต่เพียงเศษซากความทรงจำ ซากปลักหักพังที่ถูกเพลิงไหม้ ที่นี่เป็นบ้านของผม เป็นที่ที่ผมรู้สึกอุ่นใจ เป็นที่สุดท้าย มีคนสุดท้ายที่ผมรัก และทุกสิ่งก็ได้จากไป จากไปแล้วตลอดกาล
ผมเดินเท้าจากที่นั่นไปยังโรงพยาบาลใกล้ๆ ที่นำศพของคุณยายไปเก็บไว้ ผมไม่ได้ร้องไห้ ในขณะที่นั่งลงข้างๆ ร่างของคุณยายที่มีผ้าคลุมเอาไว้ ความเจ็บปวด ความสูญเสียในชีวิตผม มันมีมากเกินพอแล้ว น้ำตามันไม่ได้ช่วยให้ผมได้คุณยายกลับคืนมา ผมไม่อยากร้องไห้ ผมไม่อยากให้ท่านต้องเห็นผมทุกข์ใจ
"ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมคงตามไปอีกไม่นาน" ผมพูดและเลื่อนมือไปแตะเบาๆ ที่ร่างไร้วิญญาณของผู้มีพระคุณ หลับให้สบายนะครับ ขอบคุณที่ช่วยคนอย่างผม คนที่ไม่เคยมีใคร และต่อไปนี้ ก็ไม่มีอีกต่อไป
"ไวท์" ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว และไม่ได้สนใจเสียงเรียกที่ดังอยู่ข้างๆ ผม
"เสียใจด้วยนะ" ผมค่อยๆ เงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผม เป็นคนที่ผมเรียกหา คนที่ทำให้ซินโกรธเคืองยิ่งกว่าใครๆ
"ผมไม่เป็นไร" ผมพูดและเหม่อมองออกไปตามเดิม
"ขอบคุณที่เรียกหาฉัน" ผมขมวดคิ้วน้อยๆ ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
"อาจารย์ ได้ยินด้วยเหรอ" ผมถามอาจารย์ที่กำลังนั่งลงข้างๆ
"แน่นอน ฉันอยู่ทุกที่ที่เธอต้องการ" อาจารย์พูดและยิ้มน้อยๆ
"ขอบคุณครับ" ผมพูดเบาๆ และมองอาจารย์ที่จ้องมองผม
"พรุ่งนี้ฉันจะจัดการเรื่องคุณยายของเธอเอง วันนี้เธอไปกับฉัน อยู่กับฉัน" ผมมองอาจารย์ที่พูดอย่างใจดี
"ขอบคุณครับ แต่ผม..."
"อย่าปฏิเสธฉันเลย เธออยากให้ฉันช่วยไม่ใช่เหรอ" ผมรู้สึกแปลกๆ ทันทีทีี่อาจารย์พูดแบบนั้น
"ครับ" ผมตอบรับอาจารย์ ทางเลือกของผมนั้นน้อยนิด ไม่ใช่สิ มันไม่มีเลยต่างหาก
หลังจากที่ผมนั่งเฝ้ามองร่างที่ไร้วิญญาณของคุณยายอยู่หลายชั่วโมง ผมก็ตัดสินใจเดินตามอาจารย์ไป เพื่อพักผ่อน เพื่อสงบจิตใจ ในหัวใจของผมตอนนี้มันปวดร้าวเหลือเกิน ผมเหมือนกับกำลังตายลงช้าๆ ด้วยความเจ็บปวดที่กัดกินหัวใจ
อาจารย์พาผมขึ้นรถ และออกเดินทางไปยังสถานที่เดิมที่ผมเคยมา ผมเพิ่งรู้ ว่าอาจารย์นั้นพักอยู่ที่ตึกห้องสมุดนั้นงั้นเหรอ คิดว่าอาจารย์จะมีบ้านที่แยกออกจากที่นี่ซะอีก พวกเรานั้นไม่ได้คุยกัน ผมเฝ้าแต่มองออกไปนอกกระจกอย่างเลื่อนลอย พรุ่งนี้ ผมจะพาคุณยายไปสถานที่ที่คุณยายน่าจะชอบ ผมจะพาคุณยายกลับสู่ผืนดิน เพราะคุณยายเคยบอกผมเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ขอแค่นำท่านไปฝังในที่ที่ร่มเย็นก็พอ
ไม่นานนักพวกเราก็มาถึงที่หมาย ผมลงจากรถและเดินตามอาจารย์เข้าไปยังเส้นทางเดิมที่ผมเคยเดินผ่าน ทางเดิมที่มืดครึ้มไปด้วยต้นไม้สองข้างทาง ผมเริ่มกอดตัวเองไว้ บรรยากาศที่แสนเย็นเยือกเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง และลมที่พัดเบาๆ ก็เริ่มโหมแรงขึ้นมา
"อาจารย์ครับ" ผมเริ่มเรียกอาจารย์ที่เดินนำหน้าผม อาจารย์เดินนิ่งๆ เหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ ในสายลมแรงนี้
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ทุกทีที่ผมมาที่นี่" ผมเริ่มตะโกนถามอาจารย์ และใช้แขนกันกระแสลมไว้
"มีคนไม่อยากให้เธอมาที่นี่" อาจารย์ยังคงเดินอย่างสบายๆ และหันมาหาผม
"ซิน งั้นเหรอ" ผมพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
"มาเถอะ ถ้าเธอปรารถนาที่จะเข้าไป มันก็พาเธอกลับไปไม่ได้หรอก" อาจารย์พูดและจับมือผมไว้แน่น ให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าพร้อมกัน
ซินงั้นเหรอ ทำไมถึงพยายามทำแบบนี้อีก พวกเราขาดกันแล้วใช่ไหม ทำไมถึงไม่ปล่อยผมไปสักที
ผมคิดและเริ่มเจ็บปวดในหัวใจอีกครั้ง ผมพยามลบภาพของซินออกไปจากหัว ลบทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเรา หยุดเถอะ พอสักที ผมไม่ต้องการนายอีกแล้ว
ผมหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมา เดินตามแรงจูงของคนด้านหน้า ที่กำลังพาผมไป พาไปยังที่ปลอดภัย
"มาสิ" ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง และพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่หน้าบันไดของตึกห้องสมุดหลังเก่า ผมเดินตามอาจารย์ที่นำหน้าไปอีกครั้งด้วยหัวใจที่เหนื่อยล้า
ที่นี่ในยามนี้นั้นปิดแล้ว ไม่มีนักศึกษาคนไหน มีแต่เพียงชั้นหนังสือเก่าๆ ทางเดินที่มืดสลัวเล็กน้อย และกลิ่นของหนังสือที่เคยทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย แต่ทำไมตอนนี้มันถึง เหมือนกับมีกลิ่นสาป กลิ่นที่ทำให้ผมรู้สึกกลัวอยู่ภายใน
ผมเดินตามอาจารย์ต่อไป ไปยังชั้นลอยที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นห้องทำงานของอาจารย์ ผมรู้สึกแปลกๆ ทุกย่างก้าวที่เดิน เหมือนกับมีคนกำลังจ้องมองผมอยู่ ทำไมผมถึงรู้สึกกลัวขนาดนี้
"ยินดีต้อนรับ" อาจารย์เปิดประตูห้องทำงานเข้าไปและทำมือให้ผมเดินเข้ามา ผมรีบเดินและรีบปิดประตูทันที และนั่งลงที่โซฟาตัวเดิมที่ผมเคยนั่ง
"อาจารย์ นอนที่นี่เหรอครับ" ผมถามและมองไปรอบๆ ห้องทำงานของอาจารย์ ทุกอย่างที่นี่ยังคงเหมือนเก่า ชั้นหนังสือ ข้าวของแปลกๆ และโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่
"เห็นห้องนั้นไหม" อาจารย์ชงชาให้ผมพลางมองไปที่ประตูด้านขวาที่ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อน ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัยและอาจารย์ก็คงรู้ได้
"เธอไม่เคยสนใจมันต่างหาก จริงๆ มันมีอยู่นานแล้วนะ" อาจารย์พูดและยื่นชาร้อนๆ ให้ผม
"ร.เหรอครับ" ผมถือชาไว้ในมือและตัดสินใจวางมันลงบนโต๊ะด้านหน้า
"คือ ผมรู้สึกอยากล้างหน้าล้างตาจังเลยครับ ง่วงแล้วด้วย" ผมพูดและมองอาจารย์ที่กำลังจ้องมองผมเขม็ง
"จะอาบน้ำด้วยก็ได้นะ เสื้อผ้าฉันมีเปลี่ยนให้" อาจารย์มองเสื้อสีขาวของผม ชุดนี้ซินให้ผมมา มันเป็นของซิน
"ครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันมา" ผมพยักหน้าให้อาจารย์ และลุกขึ้นเดินตามอาจารย์ไปยังบานประตูสีดำทางขวามือ ผมกำมือแน่นอย่างตื่นกลัว ทำไมผมถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้นะ ทำไมถึงรู้สึกอย่างวิ่งออกไปจากที่นี่ขนาดนี้
ประตูถูกเปิดออกช้าๆ ผมได้กลิ่นไอของไม้เก่าๆ และมองทางเดินตรงหน้าที่มืดสลัวจนแทบจะไม่น่าเดินเข้าไป ตึกห้องสมุดนี้มันกว้างใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ ที่นี่เหมือนกับเป็นที่ที่แยกออกจากตัวตึกนั่น แต่ยังคงบรรยากาศอึมครึมแบบเดิม ผมเดินตามอาจารย์ที่นำหน้าไป ผ่านกรอบรูปเก่าๆ หลายบานที่อยู่บนผนัง ประตูไม้ที่ถูกปิดไว้หลายห้องที่ผมเดินผ่าน มันทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในนั้น ที่นี่เป็นตึกไม้ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา
"อยู่ตรงมุมนั้น ถ้าเสร็จแล้วก็ออกมาหาฉันที่ห้องทำงานแล้วกัน" อาจารย์มองผมด้วยรอยยิ้มและทำมือให้ผมเดินต่อไป
ผมกลืนน้ำลายลงคอและเดินต่อไปตามที่อาจารย์บอก ผมมองประตูบานสีเขียวเก่าๆ ที่ถูกปิดไว้ และค่อยๆ เปิดเข้าไปช้าๆ แล้วห้องนอนผมคือห้องไหนกันนะ ลองถามอาจารย์ดูก่อนละกัน
แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็หันหลังกลับไปทันที แต่ผมที่คิดว่าจะเจออาจารย์นั้นก็ต้องหยุดชะงัก ทางเดินที่ค่อนข้างยาวตรงหน้านั้นไม่มีใครอยู่ หายไปไวจัง หรือจะเข้าไปในห้องข้างๆ กันนะ
ผมยืนมึนอยู่สักพักและตัดสินใจเข้าไปในห้องน้ำ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยในนี้ก็ไม่ค่อยดูน่ากลัวเท่าไหร่ เป็นห้องน้ำที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่มาก พื้นกระเบื้อง และกระจกเงาขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำด้วย แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
ผมค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกช้าๆ และมองชุดเสื้อเชิ๊ตสีดำที่วางอยู่ที่หน้ากระจก คล้ายกันเลยนะ แต่กลับเป็นสีที่ตรงกันข้ามกัน
ผมที่ถอดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดน้ำและลงไปแช่ในอ่างนั้น ผมนั่งอย่างเหม่อลอยและพิงคอเข้ากับผนังเย็นๆ พลางคิดถึงคนที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่ ทุกอย่างก็เพราะนาย พรากทุกสิ่งจากผมไป ทั้งคนสำคัญ และหัวใจของผม พรากไปและทำลายมันจนแหลกละเอียด ทำไมถึงไม่ฆ่าผมสักที
ผมคิดและก้มหน้าร้องไห้อย่างปวดร้าว ผมอดทนทุกอย่างเสมอมา ทำเหมือนเข้มแข็งทั้งๆ ที่อ่อนแอเหลือเกิน ผมแทบหมดเรี่ยวแรงที่จะหายใจ ผมเจ็บปวดทรมาน ผมอยากหายไปเหลือเกิน ไปในที่ที่ผมจะไม่รู้สึกใดๆ อีก
แกร่กๆ
แต่ผมที่นั่งร้องไห้อยู่ในอ่างนั้นก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ที่ชั้นวางหน้ากระจก ผมเกาะขอบอ่างน้ำและค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปมองดูตรงแถวที่ได้ยินเสียงนั้น ผมมองดูขวดแชมพูเล็กๆ ที่ตกลงมาจากชั้น และของเหลวในขวดนั้นกำลังไหลออกมา ไหลออกมาจนเจิ่งนองที่พื้น
ครืดดด
และผมที่นั่งในอ่างน้ำนั้นก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง ผมได้ยินเสียงแปลกๆ ที่ดังขึ้นตรงใกล้ๆ กับที่เดิม ผมเริ่มเคลื่อนตัวจากขอบอ่างนั้น ถอยหลังออก และมองดวงไฟสีส้มในห้องน้ำที่กำลังเริ่มกระพริบ และทำให้ผมหน้ามืดไปหมด
"อะไร ไม่นะ" ผมเริ่มหวาดกลัวและปิดหูตัวเองไว้ เสียงแปลกๆ ยังคงดังต่อเนื่องและดังต่อไปเรื่อยๆ จนไฟที่กระพริบนั้นค่อยๆ ติดสว่างดังเดิม และทุกอย่างก็พลันสงบลง
ผมเงยหน้าจ้องมองดวงไฟบนเพดาน ไปแล้วเหรอ ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม
ผมคิดและค่อยๆ กวาดตามองไปรอบๆ ห้องน้ำอีกครั้ง และทันทีที่ผมมองไปที่กระจกนั้น ผมก็ต้องตัวแข็งทื่อทันที ผมรีบลุกขึ้นจากอ่างน้ำและนั่งลงหลบมุมอยู่ใกล้ๆ ประตู ผมมองของเหลวสีแดงที่กำลังเปรอะอยู่บนบานกระจก นั่นมันอะไรกัน ผมต้องรีบออกไป ผมต้องไปหาอาจารย์
ผมตัวสั่นและรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าชุดเดิม ที่นี่เป็นที่พักของอาจารย์นะ ทำไมถึงยังมีผีพวกนี้ได้ พวกมันต้องการอะไร ทำไมถึงมาแกล้งให้ผมกลัวอีกแล้ว
แต่ผมที่กำลังติดกระดุมเสื้อเชิ๊ตนั้นก็ต้องชะงักอีกครั้ง ผมขมวดคิ้วน้อยๆ และค่อยๆ หันไปมองที่บนกระจกบานใหญ่ตรงหน้าใหม่ ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นๆ กับรอยเลือดบนกระจกนั่น มันเป็นเหมือนกับรูปภาพแปลกๆ ที่ผมเคยเห็น ผมเคยเห็นมันเมื่อนานมาแล้ว
ผมค่อยๆ เดินเข้าไปช้าๆ ไปยังกระจกที่ยังคงมีรอยเลือดไหลเป็นทางยาวอยู่บนนั้น ผมค่อยๆ เอื้อมมือออกไป และแตะลงที่ตรานั่น ถึงจะดูยุ่งเหยิง แต่ก็ยังคงมองออก ผมมองรูปภาพบนบานกระจกด้วยแววตาสั่นระริก และมองท่อนแขนของผมที่กำลังมีรอยจางๆ กำลังปรากฎขึ้นและมันทำให้ผมแทบหยุดหายใจ
"เป็นไปได้ยังไงกัน ไม่นะ ออกไปนะ" ผมพูดด้วยเสียงที่สั่นกลัว และพยายามขูดเนื้อที่แขนของตัวเองจนเป็นรอยแดง ผมมองสัญลักษณ์คล้ายๆ รูปดาวห้าแฉกที่แสนยุ่งเหยิงและมีดวงตาอยู่บนนั้น มันเป็นสัญลักษณ์แรกที่ปรากฎบนบานประตูของผมเมื่อนานมาแล้ว และเคยปรากฎบนแขนของผมและหายไปแล้วเช่นกัน ทำไมมันถึงกลับมา เพราะอะไรกัน
ผมมองรอยเลือดบนบานกระจกและมองรอยสัญลักษณ์ที่อยู่บนแขนของผม มันคือตราเดียวกัน ทำไม ใครกันที่ทำแบบนี้ และใครกันที่กำลังพยายามบอกผม
"ไวท์"
ผมสะดุ้งอีกครั้งทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกๆ ที่ข้างหู ความตกใจทำให้ผมถอยรูดลงไปที่มุมห้องอีกครั้ง พลางมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง
"ว.ไวท์"
แต่ผมที่ได้ยินเสียงขาดๆ หายๆ นั่นก็ต้องลุกขึ้นใหม่อีกครั้งทันที เจ เสียงเจงั้นเหรอ ทำไม ทำไมถึงอยู่ที่นี่
"เจ" ผมเรียกเพื่อนที่เหมือนกำลังจะพูดกับผม เจงั้นเหรอ อยู่ที่นี่จริงๆ สินะ ผมเคยได้ยินเสียงนายครั้งหนึ่ง และก็ใช่จริงๆ
แต่ความคิดของผมที่กำลังดีใจนั้นก็พลันหยุดลง เสียงของเจ ที่นี่ตึกห้องสมุด ที่ของอาจารย์นาธัส
ผมเริ่มคิดและหันมองรอยเลือดบนกระจกเงาอีกครั้ง ตราสัญลักษณ์นี้ก็เคยอยู่บนตัวเจเช่นกัน ผมค่อยๆ ถกเสื้อเชิ๊ตและหันหลังเข้าหากระจก ผมมองเงาสะท้อนด้านหลังของผม และมันทำให้ผมแทบทรุดลงทันที
สัญลักษณ์ของซินนั้นกำลังจางลงและจางลงเรื่อยๆ ในขณะที่แขนของผม สัญลักษณ์หนึ่งกำลังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นะ ไม่จริง
ก็อกๆๆๆ
ผมสะดุ้งทันทีและถอยหลังเข้าไปชิดผนังห้องน้ำด้วยความสั่นสะท้านไปทั้งตัว ผมมันโง่ ผมมันเป็นไอ้โง่
ซาตานไม่ได้มีแค่ซิน แต่คนที่ผมกำลังอยู่ด้วยนั้น คือคนที่หลอกลวงผม และทำให้ผมทำร้ายซิน ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่แรก มันก็หมายเอาชีวิตผมมาตลอด
"ยังไม่เสร็จอีกเหรอ" ผมฟังเสียงของอาจารย์ที่กำลังพูดกับผม คำพูดนั้นยังคงเหมือนเดิม เป็นอาจารย์คนเดิมเหมือนอย่างที่เป็นมา
"มีอะไรหรือเปล่า ฉันเข้าไปนะ" เสียงของอาจารย์ฟังดูเยือกเย็น และประตูก็กำลังสั่นอย่างแรง
"ย..อย่าเข้ามา" ผมพยายามสะกดเสียงเอาไว้ไม่ให้สั่นกลัว และยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น
"ไวท์ มีอะไร แบบนี้ฉันต้องเข้าไปนะ" อาจารย์พูดและไม่ฟังคำพูดของผมอีกแล้ว ผมมองประตูที่ค่อยๆ เปิดออก และมองอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าประตู ด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วง
"ผ.ผมแค่เป็นลมในอ่าง" ผมพูดและพยายามลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ผมมองไปที่บานกระจกอีกครั้ง ในตอนนี้รอยเลือดและทุกๆ อย่างกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว หายไปแล้ว
"ไม่เป็นไรนะ" อาจารย์ยื่นมือมาจับไหล่ผมและพาเดินออกไป
ผมกลั้นหายใจอย่างหวาดกลัว พลางเดินตามแรงที่อาจารย์กอดไหล่ผมเอาไว้ ผมต้องนิ่ง ผมต้องหนีออกไปแบบที่อาจารย์ไม่รู้ตัว แต่ผมจะทำยังไง ผมควรทำยังไงดี สำหรับผมแล้ว แม้ซินจะโหดร้ายแค่ไหน แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้เลย บรรยากาศรอบๆ ตัวอาจารย์นั้นดูอึมครึมและน่ากลัวกว่า เป็นแรงกดดันที่ทำเอาผมแทบคลั่ง
"นั่งลง และเล่าให้ฉันฟังสิ" อาจารย์จับไหล่ผมให้นั่งลงและนั่งลงตรงข้าม
ผมมองอาจารย์ที่ยื่นแก้วชาให้ผม และผมก็รับมันมาด้วยมือที่สั่นเทา
"ผมอยากกลับ ให้ผมกลับ ได้ไหมครับ" ผมพูดและจ้องมองอาจารย์ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้
"เธอกำลังถูกหลอกอีกแล้วนะ เธอไม่เชื่อฉันอีกแล้วเหรอ" ผมมองอาจารย์ที่เริ่มทำหน้าสลดลงและเอื้อมมือมาจับที่มือผมช้าๆ อาจารย์เหมือนกับรู้ทุกอย่างที่ผมคิดอยู่ในใจ
"อาจารย์จะบอกว่า ผมถูกซินหลอกอีกแล้วเหรอครับ" ผมมองอาจารย์ที่ทำหน้าเหมือนสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกต้องแล้ว
"ความพยายามของมันร้ายกาจมาก และมันเกือบหลอกเธอสำเร็จแล้ว" อาจารย์ที่ทำสีหน้าจริงจัง แต่คนที่ร้ายกาจจริงๆ น่ะ ก็คือคุณต่างหาก คอยแต่บอกว่าซินหลอกผม ให้ผมเชื่อ และผมก็เชื่อมาตลอด
"ถ้าอย่างนั้น..." ผมรวบรวมกล้า ถึงจะกลัว แต่ผมก็ต้องรู้ให้ได้ ว่าความคิดของผมมันถูกต้อง "อาจารย์ช่วยถอดเสื้อ ให้ผมดูได้ไหม" ผมตัดสินใจและคิดว่าไม่ว่าอาจารย์จะพูดอะไร ถ้าผมได้เห็น ความจริงทุกอย่างจะปรากฎออกมา
ผมมองสีหน้าของอาจารย์ที่เริ่มเปลี่ยนไป อาจารย์จ้องมองผมนิ่งๆ เหมือนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
"เธอคิดว่าฉัน เป็นพวกเดียวกับมันงั้นเหรอ" อาจารย์พูดและมองผมด้วยสีหน้าที่ดูผิดหวังเหลือเกิน
"ผมแค่อยากแน่ใจ ผมขอร้อง" ผมมองอาจารย์ที่ก้มหน้าลงมองพื้น ถ้าผมพลาด ผมจะกราบขอโทษอาจารย์เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าไม่ ผมก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตรอดต่อไป
อาจารย์ยังคงก้มมองพื้นด้วยสีหน้าที่ดูผิดหวัง แต่ทว่า ริมฝีปากบางของอาจารย์กลับเริ่มปรากฎรอยยิ้มขึ้นทีละน้อย และสุดท้าย ก็หัวเราะออกมาด้วยใบหน้าและรอยยิ้มที่ดูราวกับวิปริต
"เพื่อนโง่ๆ ของเธอนี่มันแสบจริงๆ"
และในที่สุด ผมนั้นก็ทายถูก...
ผมมองคนตรงหน้าที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ ด้วยแววตาที่เปลี่ยนแปลงไป ดวงตาสีน้ำตาลของอาจารย์กลายเป็นสีแดงราวกับเพลิงกำลังลุกไหม้ เสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ดูเรียบร้อยของอาจารย์นั้น ในตอนนี้กำลังค่อยๆ ถูกเผาไหม้หายไป
ผมมองชั่วเสี้ยวนาทีก่อนที่ร่างกายของอาจารย์จะถูกปกคลุมด้วยชุดสีดำ รอยสัญลักษณ์บนอกนั่น เป็นรอยเดียวกับบนแขนของผมที่ปรากฎอยู่ตอนนี้ ปีกสีดำที่กางออกอย่างน่าเกรงขาม และกระพือแรงจนสิ่งต่างๆ รอบข้างร่วงกราวและแตกกระจายลงมา
ผมลุกขึ้น ถอยหลังไปติดประตูด้วยหัวใจที่อ่อนล้า นี่ล่ะชะตาชีวิตของผม มีแต่พวกปิศาจล้อมรอบ มีแต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตผมต้องพบเจอแต่เรื่องโหดร้าย เรื่องที่ทำให้ผมเหมือนตายทั้งเป็น
"นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่ได้เจอคนแบบเธอ" ผมมองปิศาจตรงหน้าที่กำลังนั่งอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแบบปกติ
"คนแบบเธอ ควรอยู่กับฉัน ไม่ใช่ซาตานจอมปลอมแบบมัน" ผมขมวดคิ้วน้อยๆ และยังคงสั่นกลัวทุกคำพูดของคนตรงหน้า ซาตานปลอมงั้นเหรอ
"ถ้ามันได้เธอไป ฉันก็แค่ต้องทำลายวิญญาณของเธอ ถึงจะน่าเสียดาย แต่ก็ดีกว่าต้องพ่ายแพ้"
"คุณเองสินะ ที่คอยตามฆ่าผม" ตอนนี้แน่ชัดแล้ว ไม่ต้องหาคำตอบอีกแล้ว
"เธอเป็นคนที่ทำให้ฉันสนุกมาก ฉันมีความสุขมากตอนที่เธอแทงไอ้ซาตานปลอมนั่นจนมันเลือดท่วมไปทั้งตัว ฮ่าๆๆ" ผมแทบหมดแรงตอนที่ได้ยินแบบนั้น การครอบงำที่ผมเคยได้ยินนั่นสินะ ผมทำร้ายซินจนเป็นแบบนั้น แต่ว่า ซิน...ก็ไม่เคยโกรธผมเลย
"ฉันจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เธอกับมัน ไม่มีวันบรรจบกัน เธอจะเป็นดวงวิญญาณชั้นดีที่จะอยู่เคียงข้างฉันตราบชั่วนิจนิรันดร์" ผมมองปิศาจตรงหน้าที่กำลังทำหน้าชอบใจกับความคิดตัวเอง
แต่ยังมีอีกสิ่งที่ผมสงสัย คุณยาย...อาจจะไม่ใช่ซินที่ฆ่าคุณยาย
"คุณเป็นคนฆ่าคุณยายของผมด้วยใช่ไหม" ผมพูดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำตอบนั้น...
"หึ ฉันไม่สนใจวิญญาณยายแก่นั่น แน่นอนว่าไม่ใช่ฉัน" หัวใจของผมในตอนนี้กลับมาเต้นช้าลงตามเดิม น้ำตาของผมค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ ก็ยังคงเป็นนายงั้นเหรอ คนที่ฆ่าคุณยาย บางทีความชั่วร้ายของอาจารย์นั้นก็ยังคงไม่เท่ากับสิ่งที่ซินทำ ผมรับไม่ไหวจริงๆ
"คุณบอกว่า คุณทำลายวิญญาณได้ใช่ไหม" ผมพูดและร้องไห้เบาๆ จ้องมองคนตรงหน้าที่ยังคงจ้องมองผมอยู่
"คุณช่วยผมได้ไหม" ผมพูดและน้ำตาก็ยังคงรินไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "ทำลายผม...ทำให้ผม...หายไปตลอดกาล"
"ตามที่เธอต้องการ"
ในชั่วเวลาที่ราวกับแสนยาวนาน ผมมองอาจารย์นาธัสที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าๆ เข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ผมกำลังจะหายไปแล้วใช่ไหม ในโลกที่แสนโหดร้ายนี้
ผมกำลังจะได้หยุดพัก ผมกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว จากไปตลอดกาล