say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ ครั้งที่ | “5”❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖
สายน้ำเดินลากขาออกจากห้องน้ำพร้อมกับเช็ดผมที่เปียกชื้นของตัวเองไปด้วย ตอนแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอได้กลับมานั่งพักที่ห้องแล้วเขารู้สึกปวดขามากจนแทบไม่อยากจะลุกเดินไปไหนเลย แต่เครื่องสำอางบนหน้าก็หนักเกินกว่าจะทนไหวเลยต้องฝืนความขี้เกียจของตัวเองเข้าไปอาบน้ำ ร่างของเดือนมหาวิทยาลัยเดินมานั่งบนโซฟาหน้าโทรทัศน์ที่เปิดช่องสารคดีทิ้งเอาไว้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะเขาได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังไม่หยุดมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว
เจ้าตัวได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ ยามมองหน้าจอโทรศัพท์ การแจ้งเตือนคนขอเพิ่มเขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กเต็มไปหมด แถมยังมีแจ้งเตือนการกดติดตามทั้งในเฟซบุ๊ก ในไอจี อีกด้วย รูปภาพหรือโพสต์ที่เขาเคยลงเอาไว้ก็มีคนมากดถูกใจ คอมเมนต์อีกนับไม่ถ้วน
เขาเลยต้องกดปิดการแจ้งเตือนเอาไว้เพราะกลัวว่าโทรศัพท์ตัวเองจะค้างเสียก่อน จากที่ทำหน้างง ๆ ก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อหน้าจอขึ้นรูปแม่ของเขาที่อยู่ต่างประเทศโทรวีดิโอเข้ามา
“แม่... สวัสดีครับ” สายน้ำรีบกดรับพร้อมยิ้มกว้างให้คนในจอ
[ครับ นี่กลับมาถึงห้องนานแล้วเหรอ]
สายน้ำพยักหน้ารับ “ครับ ถึงได้พักใหญ่แล้ว แต่น้ำเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”
[แล้วเป็นไงครับ ที่เราไปประกวดดาวเดือนน่ะ ได้รางวัลอะไรกับเขาบ้างไหมเรา] คนเป็นแม่ถาม
สายน้ำยิ้มกว้าง รีบลุกจากโซฟาไปยังห้องทำงานที่เขาเอาบรรดาสายสะพาย แล้วก็ดอกไม้เก็บเอาไว้
“น้ำได้มาตั้งสามรางวัลเห็นไหมครับ อันนี้... รางวัลขวัญใจมหาชน” สายน้ำหยิบสายสะพายขึ้นมาชูให้กับแม่ดู “อันนี้ความสามารถพิเศษยอดเยี่ยมคู่กับน้ำรินครับ แล้วก็... น้ำเป็นเดือนมหาวิทยาลัยด้วยนะ”
คนปลายสายตาโตก่อนจะยิ้มกว้าง ปรบมือให้ลูกชาย [ลูกแม่นี่เก่งจริง ๆ เลยน้า ได้มาตั้งสามรางวัลเลยนะ]
“ครับ”
[เหนื่อยเลยสิเราวันนี้]
“ครับ ก็เหนื่อยครับ น้ำตื่นเต้นมาก ๆ เลยตอนก่อนขึ้นประกวด ยิ่งตอนจะแสดงรอบความสามารถพิเศษนะครับ น้ำตื่นเต้นสุด ๆ เลย มือสั่นไปหมด พยายามทำสมาธิตามที่รุ่นพี่แนะนำก็ไม่ช่วยอะไรเลย”
[แล้วลูกชายแม่ผ่านมันมาได้ยังไงกันครับ]
“พี่หินผาครับ” สายน้ำเผลอยิ้มตอนที่พูดถึงใครอีกคน “พี่หินผามาให้กำลังใจน้ำกับน้ำรินด้วยครับ พี่เขาตลกมากเลยครับแม่ เอาช็อกโกแลตให้น้ำ แล้วก็บอกว่าแลกกัน เขาให้ช็อกโกแลตมาแล้ว น้ำก็ต้องตั้งใจทำการแสดงให้เต็มที่ แม่ดูสิครับ มีใครเขาแลกอะไรกันแบบนี้บ้าง”
แม่หัวเราะตอนที่ได้ยินสายน้ำพูด มองสีหน้าของลูกชายผ่านหน้าจอโทรศัพท์ [ลูกชายแม่นี่... รักพี่เขาจริง ๆ เลยนะ พูดไปยิ้มไปไม่หยุดเลย]
“อ่า...” สายน้ำอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อได้ยินแม่ทักมาแบบนั้น “น้ำ... น้ำ...”
[จ้า ๆ แม่รู้จ๊ะ ที่นู้นดึกมากแล้วน้ำไปนอนเถอะเดี๋ยวแม่ก็จะออกไปข้างนอกแล้ว แด๊ดฝากความคิดถึงมาหาเราด้วยนะ]
“ครับแม่ แล้วแด๊ดไปไหนแต่เช้าล่ะครับนั่น” สายน้ำถามไปถึงอีกคนที่เขาไม่เห็น
[ออกไปประชุมแต่เช้าแล้วจ๊ะ แม่ไปแล้วนะลูก เอาไว้คุยกันใหม่นะครับ]
“ครับแม่ รักแม่นะครับ” สายน้ำกดวางสายโดยที่รอยยิ้มไม่ได้หายไปจากใบหน้า รู้สึกอยากให้เวลายืดยาวออกไปนานกว่านี้ เขาจะได้คุยกับแม่นาน ๆ พอไม่ได้อยู่ใกล้กัน การคุยกันแต่ละครั้งมันเลยมีความหมายมาก ๆ เพราะมันทำให้ความคิดถึงมันลดลงได้ แม้จะเพียงแค่นิดเดียวก็ตามที
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกรอบให้สายน้ำก้มหน้ามองโทรศัพท์เพราะคิดว่าอาจจะเป็นแม่ที่ส่งข้อความมา แต่กลับไม่ใช่... เป็นใครอีกคนที่หายไปตั้งแต่หลังให้ดอกกุหลาบเขาเสร็จ
HinPaa
ยินดีด้วยกับเดือนมหาวิทยาลัยคนใหม่สายน้ำจ้องข้อความที่อีกคนส่งมาให้ตาไม่กระพริบ ลึก ๆ ในใจแอบนึกน้อยใจนิดหน่อยที่อีกฝ่ายไม่อยู่ตอนที่เขาลงจากเวทีหลังจากการประกวดเสร็จสิ้นลง น้อยใจที่อีกฝ่ายไม่เห็นความสำเร็จของเขาด้วยสายตาตัวเอง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักพร้อมถอนหายใจออกมา
สายน้ำไม่มีสิทธิ... ไม่มีสิทธิที่จะคิดน้อยใจอะไร เพราะเขากับหินผาไม่ได้เป็นอะไรกัน ที่สำคัญ สายน้ำควรจะพอใจที่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาแสดงความยินดี ไม่ควรนึกสำคัญตนไปมากกว่านี้ พอคิดได้แบบนั้นเขาก็เลยเปิดหน้าแชทเพื่อตอบข้อความกลับไป
SAINAM karp
พี่ ขอบคุณมากครับ
HinPaa
ขอโทษทีที่ไม่ได้อยู่ดูจนจบนะ พอดีพี่รีบไปทำธุระให้พี่ชาย
แต่เห็นรูปเราแล้วล่ะ ลงเต็มเฟซ เต็มไลน์ไปหมด
เก่งมากนะSAINAM karp
ไม่เป็นอะไรครับ แค่พี่มาเชียร์ตอนนั้นผมก็ดีใจแล้ว
ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ
HinPaa
อ่อ... พี่ไม่ได้ลืมนะ
* ส่งรูปภาพ *สายน้ำเม้มปากเพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอยิ้มกว้างตอนที่เห็นรูปที่อีกฝ่ายส่งมาให้ เป็นภาพของช็อกโกแลตกล่องใหญ่ยี่ห้อเดียวกันกับที่เขาได้เมื่อตอนก่อนรอบแสดงความสามารถพิเศษ ที่เป็นข้อต่อรองกันระหว่างสายน้ำและหินผา ที่ว่า... ถ้าสายน้ำทำการแสดงได้ดี หินผาจะต้องให้ช็อกโกแลตกับสายน้ำอีก
SAINAM karp
ผมเตรียมท้องไว้รอกินช็อกโกแลตของพี่เลย
HinPaa
กินเยอะ ๆ ระวังอ้วนไม่รู้ด้วยนะ
ดึกแล้วไปนอนได้แล้วมั้ง เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเราSAINAM karp
ครับผม
งั้น... ฝันดีนะครับพี่หินผา
HinPaa
ฝันดีอีกฝ่ายส่งกลับมาแค่นั้น และสายน้ำก็ไม่ได้ส่งอะไรตอบกลับไป แต่แค่นี้ก็ทำให้เขายิ้มได้แล้ว สายน้ำหันกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขา จัดวางดอกกุหลาบที่ได้มาตอนรอบขวัญใจมหาชนให้สวยงาม ส่วนอีกหนึ่งดอก... ที่ถูกดึงริบบิ้นออกมานั้นเขาถือเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะใช้มืออีกข้างถ่ายรูปดอกกุหลาบในมือ โดยมีพื้นหลังเป็นดอกกุหลาบอีกมากมาย
เลือกรูปที่ถ่ายไปมาแต่งสีแต่งแสงเพิ่มอีกหน่อย ก่อนจะเข้าไอจีแล้วโพสต์รูปลงไป เพราะไอจีของเขาเชื่อมต่อกับเฟซบุ๊กอยู่แล้ว และเขาเปิดสาธารณะตลอด ใคร ๆ จึงสามารถเข้ามาดูได้ตลอดเวลา เพียงแค่ลงรูปไปไม่นาน ก็มีคนเข้ามากดถูกใจ แล้วก็คอมเมนต์หลายสิบคน
สิ่งที่เกิดขึ้นค่อนข้างสร้างความแปลกใจให้กับสายน้ำไม่น้อย เพราะปกติแล้วเวลาลงรูปหรือโพสต์อะไรเพื่อน ๆ ที่เข้ามากดถูกใจเข้ามาคอมเมนต์ก็มีไม่เยอะ หรือเป็นเพราะว่าตอนนี้เขาไม่ใช่แค่นายสายน้ำ ธารา แล้ว แต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัย คนเลยเข้ามากดติดตามเขามากขึ้น
เขาโพสต์รูปพร้อมข้อความขอบคุณสำหรับกำลังใจแล้วก็คะแนนโหวตในรอบขวัญใจมหาชน แล้วก็รอบอื่น ๆ ที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยมา สายน้ำเข้าไปตอบข้อความบ้างสำหรับคนที่เป็นเพื่อนในคณะ ตอบรวม ๆ สำหรับทุกคน แล้วก็เข้าไปกดถูกใจคอมเมนต์ต่าง ๆ
จากตอนแรกที่ตั้งใจจะนอนตั้งแต่ตอนบอกฝันดีกับหินผา กลายเป็นว่า... ผ่านมาชั่วโมงกว่าเขาถึงได้เดินไปปิดไฟ แล้วขึ้นมานอนห่มผ้าอยู่บนเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกรอบก่อนจะกดปิด เพราะว่าวันนี้เหนื่อยและเพลียมาทั้งวัน หัวถึงหมอน ตาปิดลงได้ไม่เท่าไหร่ สายน้ำก็หลับสนิททันที
ซึ่งก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับไป เหมือนสายน้ำฝัน... ฝันเห็นตัวเอง แต่ไม่ใช่ตัวเองในปัจจุบัน เป็นตัวเขาเองในอดีต กำลังยืนถือดอกกุหลาบอยู่ในมือพร้อมกับยิ้มกว้าง จนคนอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ เห็นแล้วก็ต้องยิ้มตาม แต่สายน้ำไม่ได้ยินว่าตัวเองในความฝันนั้นพูดอะไร หรือพูดกับใคร แล้วทุกอย่างก็เลือนหายไป พร้อมกับที่สายน้ำเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์
Love is the flower you’ve got to let grow.
ความรักเป็นเหมือนดอกไม้ คุณต้องให้เวลามันเติบโตกว่าเดือนมหาวิทยาลัยจะตื่นในวันหยุดถัดมาพระอาทิตย์ก็ขึ้นเหนือหัวพอดี แต่เพราะเขาปิดผ้าม่านเอาไว้แสงแดดอันร้อนแรงยามเช้าเลยไม่สามารถผ่านเข้ามารบกวนเวลานอนของสายน้ำได้ เขาจึงนอนหลับสบาย เต็มอิ่มอย่างที่ไม่ได้ทำมาตลอดเดือนก่อนที่จะมีการประกวด
เจ้าตัวนอนพลิกไปพลิกมาอย่างเกียจคร้านรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองดูดติดกับเตียงนอนจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ แต่ท้องที่กำลังร้องประท้วงอยู่ทำให้เขาต้องฝืนยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ยกมือลูบผมที่ยุ่งฟูของตัวเองให้เข้าที่ หันไปหยิบโทรศัพท์มากดดู เห็นข้อความของเพื่อนในกลุ่มทักมาชวนไปกินข้าวกลางวันกันที่ห้าง แต่นัดกันตอนบ่ายเพราะคิดว่าเขาคงยังไม่ตื่นง่าย ๆ แน่นอน ซึ่งแต่ละคนก็ตอบตกลงกันไปหมดแล้วยกเว้นแต่เขาที่ยังไม่ได้ตอบอะไร
SAINAM karp
เพิ่งตื่นเอง
รออยู่ไม่นานก็ขึ้นว่ามีคนอ่านข้อความของเขาแล้ว แบงก์ตอบกลับมาเรื่องเวลาที่นัดกัน ซึ่งยังพอมีเวลาให้เขาลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เขาจึงตอบตกลงไป ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนแบงก์กับตั้มจะนั่งรออยู่ที่ชั้นของล็อบบี้
สายน้ำเลือกหยิบเสื้อยืดสีขาวที่สกรีนลายกราฟิกรูปเสือสีดำทองมาใส่ แอบเม้มปากนิด ๆ ตอนที่นึกว่ามันเป็นเสื้อคู่ที่เคยซื้อกับหินผา ก่อนจะสะบัดหน้าเพื่อไล่ความคิดนั้นทิ้งไป หยิบกางเกงยีนส์ขายาวขาดเข่ามาสวม จับชายเสื้อด้านหน้ายัดเข้าไปในกางเกง ข้างหลังปล่อยทิ้งเอาไว้ เช็คหน้า เช็คผมตัวเองอีกนิดก็เดินไปหยิบกระเป๋าแบบคาดอกมาสะพาย ใส่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์แล้วก็คีย์การ์ดของห้องไว้ในนั้นแล้วเดินออกจากห้องไป
เขาลงไปที่ชั้นของล็อบบี้สำหรับลูกบ้านซึ่งจะอยู่ที่ชั้นเจ็ดซึ่งมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วย แต่ที่ชั้นหนึ่งก็จะมีส่วนที่เป็นล็อบบี้เหมือนกัน สำหรับคนนอกหรือคนที่เข้ามาติดต่อ เดินออกจากลิฟต์ก็เห็นสองเพื่อนซี้นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ เขาจึงเดินเข้าไปทัก
“แหม... ไปกินข้าวแค่นี้จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้เลยเหรอ” แบงก์เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถามออกมา
“หือ... ตรงไหนกัน” คนโดนแซวทำหน้างง ก้มมองชุดที่ตัวเองใส่ก็ปกติ เขาไม่ได้แต่งหน้าหรือเซ็ตผมอะไรเลยด้วยซ้ำ “ก็ปกตินะ”
“อ่อ ๆ กูลืมไป ราศีเดือนมหา’ลัยมันจับว่ะ” แบงก์หัวเราะชอบใจกับคำพูดของตัวเอง แซวกันพอสนุกก็พากันเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปชั้นที่จอดรถ เพื่อตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าตามที่นัดกันกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม
ใช้เวลาไม่นานรถของตั้มก็เลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็ได้ สายน้ำโทรหาสองสาวเบล กับมะนาวเพื่อนัดสถานที่กัน ตกลงกันว่าจะเจอที่หน้าร้านมังกรสีเขียวเลย พวกเขาทั้งสามคนเลยเดินขึ้นไปบนชั้นอาหาร
เพราะเป็นเวลาบ่ายแล้วที่ร้านจึงมีลูกค้าไม่เยอะ พอขึ้นไปรวมกลุ่มกันได้ก็สามารถเข้าไปนั่งในร้านได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิว อาหารจำนวนมากถูกสั่งมาแบบไม่สนใจว่าจะเยอะแค่ไหนเพราะมั่นใจว่ากินหมดแน่นอน
“ไหนขอสัมภาษณ์หน่อยสิ คุณเดือนมหาวิทยาลัยรู้สึกยังไงบ้างคะหลังจากได้รับตำแหน่งมาแล้ว” มะนาวหยิบตะเกียบมาถือทำเป็นไมโครโฟนก่อนจะยื่นมาจ่อตรงหน้าสายน้ำเหมือนกำลังสัมภาษณ์อยู่
สายน้ำหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน “ก็แปลก ๆ ดี บอกตรง ๆ ว่ายังงงอยู่นิดหน่อยที่ได้ตำแหน่งนี้มา แถมเมื่อคืนก็มีใครไม่รู้แอดหาเรา กดติดตามเราเต็มไปหมดเลย”
“เขาก็คงกดติดตามเดือนมหา’ลัยกันไง” เบลตอบกลับมา “เพื่อนเรากลายเป็นคนดังไปแล้ว เดี๋ยวก็จะมีแฟนคลับ แบบนี้เรากับมะนาวต้องระวังตัวไหมเนี่ย เดี๋ยวเกิดไปทำสาว ๆ หมั่นไส้ขึ้นมาเพราะเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับสายน้ำ”
“ตลกแล้ว!” สายน้ำว่า ทำหน้า ทำตาดุใส่เพื่อนสาว “ทำไมจะต้องระวังตัว ทั้งเบล ทั้งมะนาวก็เพื่อนเราทั้งนั้นแหละ แบงก์กับตั้มก็ด้วย”
เบลหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของสายน้ำ “เราแซวเล่นน่า”
รออยู่ไม่นานอาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟทุกคนเลยหันความสนใจไปที่อาหารตรงหน้าแทน เพราะบ่ายแล้วแต่ละคนเลยหิวกันไม่น้อย อาหารทั้งหมดที่ถูกสั่งมาก็หมดเกลี้ยงในเวลาต่อมา แต่ละคนได้แต่เดินลูบท้องเดินออกจากร้าน
“ไปไหนกันต่อดี” หลังจากออกจากร้านอาหารมาแล้วก็ยืนเกาะกลุ่มกันเพื่อตกลงกันว่าจะไปไหนต่อ จุดประสงค์หลักที่มาคือแค่มาหาอะไรกิน พอกินอิ่มก็เลยไม่มีโปรแกรมต่อจากนี้
“สาว ๆ อยากไปไหนไหม” แบงก์หันไปถามสองสาวในกลุ่ม
“เราไม่มีอะไรที่อยากดูหรืออยากไปไหนเป็นพิเศษนะ” มะนาวตอบ คราวนี้ทุกคนเลยหันไปมองเบลแทน
เจ้าตัวยิ้มก่อนจะตอบคำถาม “เราอยากไปร้านหนังสือ อย่างนั้นไปบีทูเอสก็แล้วกัน”
พอตกลงกันได้แล้วทุกคนก็พากันเดินไปยังร้านบีทูเอส ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปตามมุมของตัวเอง สายน้ำโดนเบลลากให้ไปเดินด้วยกัน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดอะไรยอมเดินตามเพื่อนสาวไปเรื่อย ๆ เบลพาเขาเข้ามาตรงโซนนิยาย
“อ่า...” สายน้ำได้แต่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว แอบรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อยเพราะภาพหน้าปกนิยายที่วางเรียงยาวอยู่บนชั้นนั้นเป็นภาพของผู้ชายกับผู้ชาย มีบ้างบางเล่มที่อยู่ในท่าหล่อแหลม บางเล่มก็เป็นภาพยืนคู่กัน นั่งคู่กันเฉย ๆ “เรา... ไปดูแถวนู้นดีกว่า”
“ไม่ได้” เบลคว้าแขนของสายน้ำเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไป “เรากำลังช่วยสายน้ำอยู่นะ”
“ช ช่วยเรา... ยังไง”
“ก็เนี่ย...” เบลคว้าหนังสือนิยายเล่มหนึ่งบนชั้นมาส่งให้ “นิยายแนวชายรักชาย ลองอ่านดูสิเผื่อจะกล้าเดินหน้าจีบคนนั้นของน้ำไง แล้วก็... จะได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างไง อิอิ”
สายน้ำทำหน้างง เปิดนิยายที่เบลส่งให้แล้วกวาดสายตามองก่อนที่ใบหน้าหล่อ ๆ จะขึ้นสีแดงเมื่อเห็นประโยคที่อยู่บนหน้ากระดาษ หนังสือมีตั้งหลายร้อยหน้าแต่ทำไมสายน้ำถึงได้ดวงดีเปิดเจอหน้าแบบนี้ได้นะ!
‘อ๊าาาห์ อ อุ่น... ย อย่าแกล้ง ม ไม่... อ่าาาห์’
‘พี่ไอแม่งโคตรน่าแกล้งเลยว่ะ’ อุ่นพูดก่อนจะก้มหน้าดันปลายลิ้นแทรกผ่านเข้าไปอย่างไม่นึกรังเกียจเลยสักนิด ขอแค่เป็นพี่ไอเขาก็ไม่นึกรังเกียจเลย
‘อ... อุ่น... พ พอ อ่าาาาห์ พอแล้ว... พ พี่ไม่ไหวแล้ว...’ คนโดนแกล้งหันมามอง น้ำใสคลอหน่วงที่ดวงตาเรียวหยาดเยิ้มนั้นจนคนมองถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลายก่อนจะยอมผละออกแต่โดยดี แต่แค่เปลี่ยนจากลิ้นเป็นนิ้วก็แค่นั้น
“บ เบลเอาอะไรให้เราเนี่ย...” สายน้ำส่งคืนหนังสือให้แทบไม่ทัน
เบลรับมาอย่างงง ๆ แต่พอก้มมองเนื้อหาบนหน้ากระดาษก็หัวเราะชอบใจ ตลกทั้งสีหน้าของเพื่อนในตอนนี้ ตลกทั้งความดวงดีของเพื่อนด้วย “ศึกษาเอาไว้ยังไงล่ะ ไม่ดีเหรอ”
“ม ไม่ต้อง ๆ ไม่เป็นไร เราไม่ต้องศึกษา ม ไม่ใช่สิ เราไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้... คือ เราแบบ...” สายน้ำกลายเป็นคนพูดตัดขัด ติดอ่างไปหมด ยิ่งทำให้เบลหัวเราะหนักขึ้นไปอีก
“ใจเย็นน้ำ ใจเย็น ๆ โอ๊ย... ทำไมน่ารักแบบนี้นะ ปกติเราต้องมองน้ำหล่อสิ แต่ตอนนี้น่ารักมากเลย เอ็นดูเลย ฮ่า ๆ”
“เบล...”
“ขอโทษ ๆ เราไม่ได้อยากจะหัวเราะแต่มันขำจริง ๆ หนังสือมีต้องหลายร้อยหน้าดันเปิดเจออะไรแบบนี้ซะได้นะเรา” เบลพูดไปก็หัวเราะขำไป พอเห็นหน้าแดง ๆ ของสายน้ำก็ยิ่งขำ นึกเอ็นดูเพื่อนเดือนมหาวิทยาลัยคนนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้นจนอยากจะโพสต์บอกให้แฟนคลับเดือนมหาวิทยาลัยรู้ว่าจริง ๆ แล้วคนหล่อคนนี้ก็น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนกัน
“ไป ๆ เราไปจากตรงนี้กันดีกว่าเนอะ” พูดจบเบลก็ลากสายน้ำออกจากโซนนี้ ไม่ลืมที่จะเก็บหนังสือคืนที่เดิม ระหว่างเดินก็แอบหัวเราะขำไปด้วย หันไปมองคนที่เดินตามมาข้างหลังก็ยังหน้าแดงไม่เลิกเลยยิ่งทำให้ขำมากกว่าเดิมอีก
“ทำหน้าอะไรของเบลน่ะ ขำอะไรขนาดนั้นเดินหัวเราะมาไม่หยุดเลย” มะนาวหันมาถามเพื่อนก่อนจะมองเลยไปทางด้านหลัง “แล้วน้ำเป็นอะไร ทำไมหน้าแดงจังไม่สบายเหรอ”
พอได้ยินมะนาวถามแบบนั้นเบลก็หลุดหัวเราะออกมาอีกรอบ เลยโดนสายน้ำบีบแก้มมองดุ ๆ ไปเพราะรู้ดีว่าที่เบลหัวเราะน่ะเพราะเรื่องอะไร
“อะไรของสองคนนี้กัน”
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่มะนาวซื้ออะไรมาน่ะ” สายน้ำหันมาตอบมะนาวแล้วเปลี่ยนเรื่องแทน ปล่อยให้เบลยืนกลั้นหัวเราะเอาไว้ข้างหลัง
“พวกปากกาสีน่ะ รอสองคนนั้นจ่ายเงินก่อนแล้วน้ำกับเบลไม่ซื้ออะไรเหรอ” มะนาวตอบกลับมา
“ไม่ซื้อแล้วจ้า” เบลตอบ โบกมือไปมา ส่วนส่ายน้ำก็ส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่ซื้ออะไร
เมื่อไม่มีใครอยากจะซื้ออะไรแล้วทุกคนจึงตัดสินใจกลับ เบลกลับกับมะนาวที่ขับรถมา ส่วนสามหนุ่มก็กลับด้วยกันตามเดิม
สายน้ำโบกมือให้เพื่อนทั้งสองคนที่เดินออกจากลิฟต์ไปเมื่อถึงชั้นของตัวเอง ส่วนห้องของสายน้ำนั้นอยู่ชั้นบนขึ้นไปอีก ในระหว่างที่กำลังเดินไปที่ห้องโทรศัพท์ที่เก็บอยู่ในกระเป๋าคาดก็ดังขึ้น เจ้าตัวหยุดเดินเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่มีสายเข้าขึ้นมาดู ทำตาโตเมื่อเห็นชื่อของหินผาอยู่บนหน้าจอ เขากับหินผาแลกเบอร์กันตั้งแต่ช่วงซ้อมรำ ไม่บ่อยนักที่อีกฝ่ายจะโทรมา แต่สำหรับเขา... เขาไม่กล้าแม้แต่จะกดเข้าไปดูรายชื่อของหินผาด้วยซ้ำไป ส่วนมากจะเป็นการส่งข้อความหากันทางไลน์มากกว่า
อยู่ ๆ ก็มือสั่น เสียงสั่นตอนกดรับสาย “ค ครับ... สวัสดีครับ”
[ไงเรา อยู่ไหนเนี่ย] เสียงของหินผาที่ดังมาจากปลายสายทำเอาคนฟังใจสั่นแปลก ๆ
“อ่า... อยู่คอนโดครับ พี่หินผามีอะไรหรือเปล่าครับ”
[ไม่เอาของรางวัลเหรอเรา]
พอพูดถึงของรางวัลสายน้ำก็ตาวาวทันที “ช็อกโกแลต!”
ปลายสายหัวเราะเมื่อได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นของสายน้ำ [ใช่ เย็นนี้มีนัดที่ไหนไหม ไปกินข้าวกัน มีพี่ แก้ว แซนดี้ แวนดี้แล้วก็น้ำรินด้วย ฉลองตำแหน่งดาวเดือน]
“ม ไม่มีนัดครับ พวกพี่นัดที่ไหนกันเหรอครับ” สายน้ำรีบถามกลับไป
[เดี๋ยวตอนเย็นสักห้าโมงพี่เข้าไปรับที่คอนโด ยังไงเย็นนี้เจอกันนะ]
“ครับพี่ แล้วเจอกันครับ” สายน้ำกดวางสายอีกฝ่ายก่อนจะรีบเดินกลับไปที่ห้อง ตรงไปยังห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างทันที แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อเพราะรู้สึกเขินที่อีกฝ่ายโทรมาชวนไปกินข้าว แม้จะเป็นการไปกินข้าวกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกวดดาวเดือนก็ตาม แต่มันก็อดเขินไม่ได้...
อาการหนักแล้วสายน้ำ... อาการหนักแล้วจริง ๆสายน้ำหันหน้าไปมองโต๊ะข้างหัวเตียงที่มีแจกันแก้วทรงสูงวางอยู่ ในนั้นมีดอกกุหลาบเสียบเอาไว้ เป็นดอกกุหลาบที่เขาได้มาจากหินผานั่นแหละ น้ำที่ใส่อยู่ในแจกันพร่องลงไปหน่อยแล้วเลยตัดสินใจลุกไปเติมน้ำ ตั้งใจว่าจะเก็บเอาไว้แบบนี้อีกสักวันแล้วจะเอาไปทำดอกไม้แห้ง แล้วเอาไปทำที่คั่นหนังสือ
นึกแล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับความคิดของตัวเอง ตอนอ่านหนังสือสอบคงมีกำลังใจอ่านน่าดู...
ส่วนดอกกุหลาบอื่น ๆ ที่ได้มาสายน้ำยังเก็บเอาไว้ในห้องทำงาน ใส่แจกันเอาไว้เหมือนกันตั้งใจว่าจะเอาไว้แบบนั้นจนกว่ามันจะแห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลา แล้วค่อยเอาไปทิ้ง แม้จะรู้สึกผิดที่เขาเลือกที่จะเก็บดอกกุหลาบของหินผาเอาไว้คนเดียว ทั้ง ๆ ที่คนอื่นก็ตั้งใจให้ดอกกุหลาบพวกนั้นกับเขา แต่ถ้าเทียบความสำคัญแล้ว...
สายน้ำขอยกให้หินผาขึ้นนำมาสองสามคะแนน
❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖
พี่หินผาไม่ได้อยู่เชียร์น้องจนจบ ทำเอาน้องน้อยใจเลย
แต่พอพี่เขาทักมาก็หายน้อยใจ ยิ้มใหญ่กับของที่พี่เขาจะให้
งู้... น่ารักจริง ๆ เลยเด็กคนนี้
ฝากคอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียน ยัยน้อง แล้วก็ตาพี่ด้วยนะคะ
ขอบคุณนะคะ
#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ