ต้นน้ำ ตอนที่ 1
เสือไม่กินเสือ ไฮยีน่าไม่กินไฮยีน่า
ต้นน้ำและฝนทิพย์มาถึงบ้านธนกรด้วยรถคนละคัน ของเกือบครึ่งบนรถเขาเป็นของฝนทิพย์ บ้านธนกรหลังใหญ่พอสมควร แม้จะไม่ถึงขั้นคฤหาสน์ แต่ก็เรียกได้ว่า...ใหญ่! ถ้าจะมีคนอยู่แค่สองคนอ่ะนะ
ทำไมต้นน้ำถึงไม่เคยเฉลียวใจมาก่อนว่าธนกรรวย เขาหันไปมองหนูตกถังข้าวสารด้านข้าง หนูตัวสีชมพู หน้าตาเป็นสีชมพูระเรื่อ แววตาหวานซึ้งปนปลื้มปริ่ม ถ้าเขารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก เขาหย่อนหนูลงถังข้าวสารนานแล้ว ไม่อยากเห็นหนูที่เลี้ยงลูกมาเพียงลำพังเหนื่อยมากไปกว่านี้
นั่นไง...เจ้าของถังข้าวสาร วิ่งหน้าตาสดใสมาเชียว
“ที่รัก” ธนกรวิ่งมาจับมือฝนทิพย์ “เหนื่อยไหม? เข้าบ้านกันเถอะ ผมจะไปรับก็ไม่ยอม”
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ เก็บของมาไม่กี่อย่างเอง”
ต้นน้ำกรอกตาขึ้นบน ‘ไม่กี่อย่างเอง’…เต็มรถเขากับรถแม่ทั้งสองคันเลยเนี่ยนะ เขาเก็บของมาสำหรับพอใช้แค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยววันเสาร์ค่อยไปเก็บใหม่ แต่ของคุณนายแม่เก็บมาหมด เหมือนตั้งใจมาอยู่ทั้งชีวิต... ก็ขอให้อยู่ทั้งชีวิตอย่างนั้นจริงๆ เถอะ เขาภาวนาขอให้รักครั้งนี้ของแม่เป็นรักครั้งสุดท้ายจริงๆ
“น้ำ เข้ามาก่อน ของเอาไว้อย่างนั้น เดี๋ยวป๊าให้คนมายกลง” ธนกรรีบท้วงเมื่อเห็นต้นน้ำทำท่าจะยกสัมภาระลง
ป๊าเหรอ?...อืม สถานะเปลี่ยน สรรพนามเปลี่ยนสินะ ช่างรวดเร็วดีจริง แต่ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน
“ผมจะเอาของที่ต้องใช้ลงก่อนครับ...ป๊า”
ธนกรยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำเรียกขานที่เปลี่ยนไป แววตาวาวโรจน์ขึ้นด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด
ตัวบ้านภายในแยกเป็นสัดส่วน โดยมีห้องนั่งเล่นเป็นศูนย์กลาง เยื้องไปเป็นโต๊ะอาหาร มีเคาน์เตอร์บาร์กั้นส่วนของครัวไว้ ทางเดินด้านหลังอ้อมไปยังสระว่ายน้ำ มีเครื่องออกกำลังกายจัดไว้อีกมุมหนึ่งที่อยู่ในร่ม
ชั้นบน เป็นห้องนอนที่แยกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอนและห้องทำงานของธนกร อีกฝั่งเป็นห้องนอนของนที คั่นด้วยห้องนอนอีกสองห้อง เขาถูกจัดให้อยู่ห้องนอนใหญ่อยู่ติดกับห้องของนที พื้นที่ส่วนกลางของชั้นสอง เต็มไปด้วยชั้นหนังสือ เกมส์ และ...ของเล่น ดูแล้วไม่เหมือนของที่จะเป็นของธนกร
“ของทีน่ะ” ธนกรเดินเข้ามาใกล้ มือใหญ่ลูบไล้เบามือ “เขาชอบเล่นของพวกนี้ตอนเด็กๆ เล่นคนเดียวเวลาที่ป๊าไปทำงาน แล้วน้ำล่ะ...เล่นแบบนี้เหมือนกันไหม?”
“ก็คล้ายๆ แบบนี้เหมือนกันครับ” คล้าย...ตรงที่เล่นคนเดียวนี่แหละ
ต้นน้ำทิ้งตัวลงบนที่นอนขนาดคิงไซส์ เขาปลีกตัวมาจากคู่รักแห่งปี ผู้ใหญ่ทั้งสองคนรักกัน แม้จะไม่ได้แสดงความรักต่อกันโจ่งแจ้ง...แต่แววตาเวลาที่ทั้งสองคนมองกัน กลิ่นอายรอบตัวดูหวานเชื่อมจน...เลี่ยน เขายังไม่ชินเลยขอปลีกตัวเข้าห้องนอนก่อน ปล่อยให้คู่รักเขาสวีทกันไปดีกว่า แว่วว่าจะช่วยกันทำกับข้าวเย็นวันนี้
ภายในห้องนอนตกแต่งเป็นสีเอิร์ธโทนง่ายๆ สบายตา มีโต๊ะเขียนหนังสือ ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ก็ไม่มีอะไรมาก อะไรที่ควรมีก็มีหมดแล้ว ต้นน้ำเริ่มรื้อของออกมาจัดเข้าที่
ตั้งแต่เขามา ยังไม่เจอนทีเลย ธนกรบอกว่านทีไปอยู่คอนโดทุกวันศุกร์ กลับมาวันอาทิตย์เย็น เพราะบ้านอยู่ใกล้มหา’ลัยมากกว่า แต่คอนโดอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า
นทีคนดัง...ช่างเป็นผู้ชายชัดเจนจริงๆ!!
ไม่รู้ว่าส่วนสูงจะหยุดเพิ่มตอนอายุเท่าไรกันแน่ แต่ต้นน้ำเชื่อว่าเขากำลังโต เพราะฉะนั้น...สปาเก๊ตตี้ซอสหมูชามโตที่คู่รักแห่งปีช่วยกันทำให้เขานั้น...ไม่อิ่มท้องเอาเสียเลย
หลังจากรับมื้อเย็นกันเรียบร้อยคู่รักทั้งสองคนก็ย้ายที่ไปสวีทกันต่อที่หน้าทีวีแล้ว ส่วนต้นน้ำยังรื้อของกุกกักๆ ในตู้เย็น จัดสปาเก๊ตตี้ไปแล้ว กินอะไรอีกดี ต้นน้ำคว้าไส้กรอกถุงใหญ่ออกมาไว้ในมือเป็นหนึ่งในตัวเลือก
อยู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงตึงตังดังมาจากด้านหลัง คล้ายสียงฝีเท้าของสัตว์ตัวใหญ่ ถ้าเป็นในหนัง...เสียงนี้จะเป็นฉากที่หมาป่าวิ่งไล่เหยื่อ ต้นน้ำเสียวสันหลังวาบ เขาหันหลังกลับพลันผงะหงายโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้ยยยย” สัตว์หน้าขนตัวใหญ่โถมกระโจนเข้าหาเขา ลิ้นเปียกเลียหน้าเลียตา ต้นน้ำใช้สองมือปัดป้องใบหน้าของตัวเองเป็นพัลวัน และ...ไม่ใช่ตัวเดียว...ไม่ใช่ลิ้นเดียว!
“เฮ้ เดี๋ยวพี่ชายคนใหม่ก็ตกใจหมดหรอก” มือใหม่เอื้อมมาคว้าปลอกคอหมาทั้งสองตัวออก
ต้นน้ำค่อยๆ ขยับด้วยแววตาระแวดระวัง จัดผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ มองภาพไอ้ตัวใหญ่ทั้งหมดเต็มตา ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ขนาบข้างด้วยองครักษ์ที่ยืนหอบลิ้นห้อยทั้งสองตัว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวเต็มวัยส่งยิ้มหวานมาให้เขา มันก็ทำหน้าตาเป็นหมาปกตินี่ล่ะ แต่ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกว่าพวกมันยิ้มได้ ยิ้มประจบเสียด้วย
“รู้จักไว้สิ นี่พี่ชายคนใหม่ของพวกเรา ชื่อพี่ต้นน้ำนะ” นทีแนะนำตัวเขาให้หมารู้จัก มือใหญ่กอดคอหมาทั้งสองข้างพลางลูบปลอบประโลม
ท่าทีอ่อนโยนมาก แต่แววตาวิบวับกับน้ำเสียงติดจะเย้าแหย่แบบนั้น...มันไม่ใช่นะ!
ปลอบหมา แต่แหย่เขา?
‘พี่ชาย’ ของ ‘พวกเรา’ ?
เขาแก่กว่านทีเหรอ?
“ก็นายถือของโปรดพวกมันอยู่ มันคงคิดว่านายจะเอาให้มันกินน่ะสิ มันถึงได้วิ่งมา” เสียงทุ้มอธิบาย
ของโปรดเหรอ?
ต้นน้ำมองถุงไส้กรอกในมือ ยิ้มที่มุมปากข้างเดียว ก่อนจับไส้กรอกทั้งถุงยัดใส่ไมโครเวฟ เขาหันไปล้างหน้าที่อ่างล้างมือ หยิบกระดาษทิชชูมาซับอย่างใจเย็น รอจนไมโครเวฟดัง สะบัดผมไปมาเล็กน้อย ก่อนหยิบไส้กรอกใส่จาน ราดมายองเนส ซอสพริก แล้วเดินผ่านหน้าเหล่า ‘น้องชาย’ ไปนั่งกินที่โซฟาหน้าทีวีกับคู่รักแห่งปี
เจ้าของหมา “.....”
หมา “.....” สองตัวใหญ่ใช้ขาหน้าสะกิดพี่ชาย
คนอะไรวะ? ของหมาก็แย่ง ไหนว่าคนดี?
นทีมองหน้าหมา ซวยละพวกเอ็ง พี่ชายคนใหม่ไม่ใจดีซะแล้ว
เจ้าของหมาเดินนำหมามานั่งข้างคนแย่งของหมากิน พลางหยิบไส้หรอกเข้าปากตัวเองคำหนึ่ง ป้อนใส่ปากหมาอีกตัวละคำ “นี่โจลี่ นี่แบรดพิตต์ ทำตัวดีๆ นะ แล้วพี่ชายใจดีจะแบ่งไส้กรอกให้กินอีก”
ต้นน้ำเหล่ตามอง ปากก็บอก “ของเรา”
“ก็นายแย่งของโจลี่กับแบรดพิตต์ก่อน” เขาแค่ทวงความยุติธรรมให้น้องชายเท่านั้น
“นายก็แย่งหมากินเหมือนกัน” ตัวเองเป็นคนกินเข้าไปก่อนแท้ๆ
“หื้อ” นทีส่ายหน้าแรง “แบบนี้เขารียกว่าแบ่งกันต่างหาก”
“งั้น...เราก็ต้องเรียกว่าเแบ่ง เราเป็นคนหยิบก่อน เราเป็นคนเวฟด้วย”
“เห็นไหม ทำตัวดีๆ แล้วพี่ชายใจดีจะแบ่งไส้กรอกให้กิน” นทีเถียงไม่สู้ หันไปปลอบหมาดีกว่า
“ใครพี่ชาย?”
“นายไง นายเกิดเดือนกันยาไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่”
“เราเกิดตุลา ห่างกันเดือนหนึ่ง นายเป็นพี่” นทียิ้มกริ่ม “นายต้องเสียสละให้น้อง เป็นพี่ที่ดีต้องปกป้อง ดูแลน้อง ฝากตัวด้วยนะ...พี่ชาย” คนเป็นน้องยักคิ้วหลิ่วตาให้พี่
“หึ” เคยเห็นพี่ชายเลวๆ ไหมไอ้น้อง “นายอย่าพาพวกน้องๆ นายเข้าบ้านอีกจะดีกว่า”
“หึย ทำไมอ่ะ? มันเป็นน้องชายของเรานะ เราเลี้ยงมาตั้งหลายปี” แล้วไอ้พวกนี้ก็เข้าบ้านมาตลอด พี่ชายตัวใหญ่คว้าน้องชายขึ้นมากอดราวกับกลัวใครจะมาพรากจาก
ต้นน้ำพยักเพยิดไปทางด้านหลังให้นทีหันไปดู รอยเท้าหมาและเศษดินเปื้อนเป็นหย่อมๆ ตามทางที่พวกมันเดิน
พอนทีหันกลับมา ก็พบว่าต้นน้ำชี้รอยดินที่เปื้อนเป็นดวงบนเสื้อของตัวเองให้เขาดู
“ก็ได้ พี่ชายคนใหม่ใจร้าย เขาไม่ชอบให้เราเข้าบ้านล่ะ” ประโยคหลังหันไปตัดพ้อกับน้องชายทั้งสองตัว “ไป เราไปอยู่ข้างนอกกันเถอะ” ร่างสูงหันมาคว้าจานไส้กรอกเดินนำลูกน้องออกไปข้างนอกอย่างเกียจคร้าน
ต้นน้ำโคลงหัวมองตามน้องชายตัวใหม่ทั้งสองตัวที่เดินออกไปอย่างว่าง่าย ไม่รู้ว่าเดินตามลูกพี่หรือเดินตามไส้กรอกกันแน่ เขาไม่ได้รักหมา และก็ไม่ได้เกลียดหมา แต่ก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยง เพราะเห็นว่าเป็นภาระเกินไปที่เอาชีวิตอีกชีวิตหนึ่งมาผูกไว้กับตัว เขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะดูแลอีกชีวิตขนาดนั้น
คนที่เลี้ยงหมาต้องรักหมาขนาดไหนกันนะ?
แล้วหมาสองตัวนั่นก็ดูรักพี่ชายมากเสียด้วย
นักเลงหัวไม้ที่เขาเห็นในวันนั้นใช่คนเดียวกับคนที่นั่งแบ่งอาหารกินกับหมาจริงๆ หรือ?
คนที่เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยกว่ากางเกงในใช่คนที่เรียกหมาว่าน้องชายจริงๆ หรือ?
เมื่อเห็นลูกชายทั้งสองคนเข้ากันได้ คุยเล่นกันอย่างมีความสุข ธนกรและฝนทิพย์นั่งมองก็นั่งมองอย่างปลาบปลื้มใจ “ลูกเราสนิทกันดีนะคะ”
ในแสงไฟเลือนราง นทีนั่งลงตรงชานหน้าบ้าน พลางก้มลงมองไส้กรอกในจานที่ตัวเองถือมา ‘พี่ชายใจร้าย’ ราดซอสพริกกับมายองเนสลงแค่ฝั่งเดียวของจาน
เขาจิ้มไส้กรอกกับซอสพริกใส่ปากตัวเอง ก่อนหยิบไส้กรอกด้านที่ไม่เปื้อนซอสยื่นให้ลูกน้องที่กระดิกหางรออยู่
ต้นน้ำคนดีงั้นหรือ?
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในบ้านหลังใหม่ด้วยคู่รักรุ่นใหญ่หัวใจสีชมพู ธนกรกับฝนทิพย์ช่วยกันทำอเมริกันเบรกฟาสต์ชุดใหญ่ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ไข่ดาว แฮม เบคอน ผักต้ม ขาดแต่ไส้กรอก ซึ่งน่าจะหมดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
ต้นน้ำลงมาในชุดนักศึกษาเตรียมพร้อมที่จะออกไปเรียน เขาเหลือบมองในจาน “แม่ ขอไข่ดาวเพิ่มอีกฟองได้ไหมอ่ะ?”
“แม่ก็เพิ่มออมเล็ตให้ลูกแล้วไง”
“วันนี้มีเรียนยาว ต้องใช้พลังงานเยอะ ร่างกายต้องการโปรตีน”
คนกำลังโตนั่งลงที่โต๊ะอาหาร จัดการอัพโปรตีนเข้าสู่กระเพาะ
เสียงฝีเท้าดังมาจากบันไดก่อนที่ร่างสูงจะโผล่พรวดเข้ามาฟุบใบหน้าลงกับเคาน์เตอร์บาร์ซึ่งกั้นอยู่ตรงกลางระหว่างโต๊ะอาหารและส่วนที่เป็นครัว ท่าทางยังไม่ตื่นเต็มตา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กางเกงขายาวตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นมัดกล้ามที่เรียงตัวสวยบนแผ่นหลัง
นทีนั่งหันหลังให้ต้นน้ำ ต้นน้ำเพ่งสายตามองไปที่แผ่นหลังแน่นของนที ไอ้ขีดแดงๆ เล็กๆ นั่น ใช่รอยข่วนหรือเปล่านะ? ต้นน้ำไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นนะ แค่เรื่องมันมาอยู่ตรงหน้าเขาเอง
ฝนทิพย์ตักไข่ดาวให้ต้นน้ำเสร็จแล้วจึงเดินเข้าไปหานที “ทีจะกินข้าวเลยหรือเปล่าลูก?”
แต่ฝนทิพย์คงจะยิ่นหน้าเข้าไปใกล้เกินไป
“โอ๊ะ” นทีผงะ สะดุ้งพรวด ร่างสูงสะดุดเก้าอี้บาร์ทรงสูงเล็กน้อย ก่อนตะลีตะลานวิ่งขึ้นข้างบนไป
ฝนทิพย์หันมาหาต้นน้ำ ส่งสายตาสื่อความหมายว่า...นทีเป็นอะไร?
ต้นน้ำส่ายหน้า...ไม่รู้
ฝนทิพย์หันไปหาธนกร ธนกรยักไหล่...ไม่รู้เหมือนกัน
นทีกลับลงมาใหม่ในสภาพเรียบร้อยกว่าเดิม รอบนี้สวมเสื้อยืดตัวหลวมลงมาด้วย เขาลืมไปว่าที่บ้านมีผู้หญิงมาอยู่ด้วยเพิ่มอีกคนหนึ่งแล้ว ถึงจะอายุคราวแม่ก็เถอะ อย่างน้อย...การใส่เสื้อก็ดูสุภาพกว่า ให้เกียรติมากกว่า
“อ๊ะ ทีขึ้นไปใส่เสื้อมาเหรอลูก?” ฝนทิพย์ถามลูกชายคนใหม่ที่เพิ่งเรียกเธอว่าแม่ได้สองวันด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติ
“ครับ” นทีตอบรับด้วยท่าทางเขินๆ
ปลอมมาก... ความเห็นส่วนตัวของต้นน้ำเอง ไม่ได้โพสต์ลงโซเชียลใดๆ ทั้งสิ้น
“แย่จัง” ฝนทิพย์ทำหน้ามุ่ย “แม่อยากเห็นซิกซ์แพ็คหนุ่มๆ ชุ่มชื่นหัวใจ”
“เดี๋ยว ผมก็มีซิกซ์แพคนะ” ธนกรเปิดเสื้อโชว์หน้าท้องที่เกร็งไว้ ถึงจะไม่อ้วนจนพุงพลุ้ยแต่ก็ไม่มีกล้ามเนื้อสักแพค
“วันแพคน่ะสิป๊า ซิกซ์แพ็คต้องแบบนี้” คนลูกเปิดโชว์บ้าง บลัฟกันสุดฤทธิ์
“ว้าว นทีสุดยอดไปเลยลูก แน่นเปรี๊ยะ” ฝนทิพย์เอามือตีหน้าท้องแข็งของนทีดังปุปุ ก่อนเอาไปลูบวันแพคของคนพ่อ “ของกรก็นุ่มมือดีค่ะ ฝนชอบ เวลากอดจะได้อุ่นๆ”
ธนกรยิ้มกว้างก่อนเข้ามาซบว่าที่ภรรยาในอนาคตอันใกล้นี้อย่างออดอ้อน ฝนทิพย์แอบขยิบตากับนทีก่อนลากคนพ่อไปที่ครัว
อายุก็จะห้าสิบกันแล้ว กระเง้ากระงอดกันน่าดูไม่หยอก
นทีนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามต้นน้ำ สายตายังคงจับจ้องไปยังคู่รักที่ทำตัวติดกันอยู่หน้าเตาแก๊ส หวังว่าครัวคงไม่ไหม้ในเร็ววันนี้
ใบหน้าหล่อเหลาแหยลง ก่อนเบือนหน้ากลับมาทางคนที่ทำหน้าเบื่อโลกอยู่ก่อนแล้ว ตาสองตาสบตากันอย่างคนที่เข้าอกเข้าใจกันดี บรรยากาศสีชมพูลอยฟุ้งแบบนี้ สำหรับสองหนุ่มโสดแล้ว บอกตามตรง... ขนลุกเหี้ยๆ
“นายมีเรียนกี่โมง?” นทีถาม
“แปดโมง”
“โชคดีจัง” นทีพูดเสียงแผ่ว นึกน้อยอกน้อยใจในโชควาสนาของตนเองที่ต้องอยู่รับมือกับคู่รักแสนหวานตามลำพัง
“อืม นายก็รีบกิน รีบขึ้นไปอยู่ข้างบนเร็วเข้า ถ้าอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ เดียวก็อ้วกหรอก” ต้นน้ำเตือนนทีด้วยความหวังดี เขาอยู่ตรงนี้มาร่วมยี่สิบนาที หวานเลี่ยนจนออมเล็ตจะเลื่อนขึ้นมาถึงคอหอยแล้ว ไม่น่าขอไข่ดาวอีกฟองเล๊ย
ต้นน้ำกินไข่คำสุดท้าย
“ทีรอแป๊บนะลูก แม่จะทอดไข่ให้ใหม่ แม่เอาไข่ทีให้น้ำกินหมดแล้ว”
พรวดดดด!!!
“มึงเห็นโพลใหม่ประจำเดือนยัง?” สาวน้อยหน้าคมสวยยื่นหน้ามาถามต้นน้ำ
“ยังอ่ะ โพลไรวะ?”
“นี่มึงไม่ได้เข้าเฟสบุคเลยเหรอ?”
ต้้นน้ำส่ายหน้า ตั้งแต่วันเสาร์ที่ฝนทิพย์กับธนกรนัดเขาให้เจอกับนที แล้วเกิดจับพัดจับผลูย้ายบ้านกระทันหันก็ยุ่งกับการเก็บจัดข้าวของมาโดยตลอด ไม่มีเวลาดูโทรศัพท์เลย “ทำไม มีอะไร?”
“โพลใหม่ มีชื่อมึงด้วย หนุ่มหน้าสวย flower boy ที่หนุ่มๆ อยากเปลี่ยนใจยอมเป็นเกย์ อันดับสี่ว่ะ”
“กูสวยเหรอวะ?” ต้นน้ำถามแบบงงๆ
เอื้องฟ้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใช้สายตากวาดไปทั่วดวงหน้าเนียนใส พิจารณาใบหน้าของต้นน้ำให้ชัดๆ “อืม หน้ามึงใสมากอ่ะน้ำ มึงใช้ครีมอะไรวะ?”
ต้นน้ำเอียงหน้าถอยอย่างไม่ค่อยไว้ใจ คนภายนอกมองมาอาจคิดว่าเอื้องฟ้าสวย เริ่ด เชิ่ด หยิ่งตามสไตล์ลูกคุณหนู แต่ความเป็นจริงที่มีแต่เพื่อนในกลุ่มเท่านั้นที่รู้ว่าเอื้องฟ้าถึกและบึกบึนแค่ไหน
หน้าตาสวยงาม กิริยาต่ำทราม มารยาทสถุน คือสโลแกนของเอื้องฟ้าที่ริวตั้งให้
“แม่กูซื้อมาให้ อะไรที่แม่ไม่ใช้ แม่ก็ขนมาให้กูใช้ จะได้เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อใหม่ กูเสียดาย ใช้แม่งหมดเลย จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไรบ้าง” เดย์ครีม ไนท์ครีมอะไรบ้างไม่รู้ อาจมีเผลอใช้เดย์ตอนไนท์ ใช้ไนท์ตอนเดย์บ้างเหมือนกัน อะไรทาก่อน อะไรทาทีหลัง เขาเองก็จำไม่ได้ โบ๊ะๆ โบกๆ ลงไปอย่างนั้นเอง
“มึงลองตัวนี้สิ ดีนะ" มือเล็กหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าถือ "นี่ตัวใหม่เลย ขนตามึงจะงอนเด้ง ยาวกว่าเดิมสองเท่า แบรนด์เขาเคลมมาว่างี้” ว่าพลางกระพริบขนตางอนเด้งกว่าเดิมสองเท่าใส่เขา
ต้นน้ำมองเพื่อนด้วยแววตาเยือกเย็น
“แหม ไม่เล่นเหรอ?” เอื้องฟ้าเก็บของลงกระเป๋าตามเดิม “ก็กูเห็นว่าขนตามึงยาว จมูกดูสันเป็นคม เส้นผมก็ทำไฮไลท์ กูก็นึกว่าจะได้เพื่อนสาวไว้เม้าท์มอยเรื่องเครื่องสำอางกับเขาบ้างไง มึงก็สวยอยู่นะน้ำ แต่... กูว่า...ไอ้ขิงสวยกว่า”
“อ๊าวววว อีเหี้ยนี่” ขิงโยนน้ำแข็งจากแก้วน้ำที่กำลังดูดอยู่ใส่เอื้องฟ้า
ขิงโวยวายทุกครั้งที่มีคนชมว่าสวย รูปหน้าตาอย่างขิง สูงชะลูดตูดปอดออกขนาดนี้ ต้อง ‘หล่อ’ เท่านั้นถึงจะคู่ควร ถึงขิงจะไม่มี ‘ไอ้นั่น’ แบบผู้ชายก็เถอะ
“แม่ง ทำไมไม่มีโพลสาวหล่อบ้างวะ? กูได้อันดับหนึ่งชัวร์”
“ไม่สวยได้ไง ไม่สวยมึงจะได้ชิงดาวคณะกับเขาเหรอ?” ริวร่วมด้วยช่วยเอื้อง
“ก็อีเคี้ยวเอื้องมันส่งชื่อกูลง”
“มึงแอบส่งชื่อกูก่อนไหม อีขิง” เอื้องแหวเพื่อน
“อย่ามา กูไม่รู้เรื่อง มึงอย่ามาใส่ร้ายกู” ขิงเนียนมาก ตอนคัดเลือกดาว ต้นน้ำเห็นว่าขิงเขียนชื่อเอื้องฟ้าลงไป ริวเห็น และเนมก็เห็น สรุปว่าเห็นกันทั้งกลุ่ม ยกเว้นเอื้องฟ้าคนเดียวที่ไม่เห็น เพราะขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วแอบไปลงชื่อขิงไว้ที่รุ่นพี่อีกคนหนึ่ง พอกันทั้งคู่...แต่สองคนนี้ไม่ได้เป็นดาวคณะหรอก สาวสวยแบบหวานๆ นิสัยเรียบร้อยที่ชื่ออิ๊งปาดคะแนนชนะไปอย่างหวุดหวิด "มึงเอาโทรศัพท์มึงมาซิ" ขิงกระดิกมือให้เอื้องฟ้า
“ไม่”
“มึงจะให้ดีๆ หรือจะให้ด้วยน้ำตา” ขิงเริ่มขู่กรรโชก ซึ่งขิงบอกว่า...มันเป็นสไตล์ของทอมแนวตบจูบ
“กูไม่ให้ มึงจะทำไม?” เอื้องฟ้าลอยหน้าลอยตาน่าถีบเป็นที่สุด
แต่ขิงไม่ถีบ เป็นทอมต้องให้เกียรติผู้หญิง “ถ้ามึงไม่อยากให้รูปมึงตอนไม่แต่งหน้าออกสู่สาธารณะ ส่งโทรศัพท์มึงมาเดี๋ยวนี้”
เอื้องฟ้าเริ่มกลัว แต่ยังคว้าโทรศัพท์ไว้แน่น “มึงบอกกูก่อน ว่ามึงจะเอาโทรศัพท์กูไปทำอะไร?”
“เออน่า สิ่งที่กูจะทำ ดีกว่าโชว์รูปมึงตอนไม่แต่งหน้าออกสื่อแน่นอน กูรับประกัน”
“กูมีรูปตอนรับน้อง มึงเอาไหมขิง?” เนมที่นั่งรอฟังผลมานานถามขึ้น
“รูปใคร?”
“รูปอีเอื้องตอนเป็นบ้า” ตอนรับน้อง สภาพแต่ละคนดูไม่จืด ทั้งมัดจุก ทั้งแต่งหน้าทาปาก แต่เอื้องฟ้าแย่สุด รูปที่ถ่ายออกมาแต่ละรูป ไม่บ้า...ก็ไม่เรียกว่าดี ศรีธัญญาเห็นเข้า...ต้องรีบมาจับตัวเลยทีเดียว
เสียงผู้ชายสองคน ทอมหนึ่งคนที่ร่วมด้วยช่วยกันแกล้งผู้หญิงหัวเราะประสานกันทำให้เอื้องฟ้าแทบจะกลายเป็นบ้าไปจริงๆ
“อ่ะ เอาไป ดีๆ นะมึง อย่าให้เสียหาย” หญิงสาวแท้ๆ คนเดียวในกลุ่มยื่นโทรศัพท์ให้สาวหล่อตาขวาง
“น้ำ พวกคนสารเลวพวกนี้มันแกล้งเรา น้ำต้องช่วยเรานะ” เอื้องฟ้าซบหน้าลงมาที่อกของต้นน้ำอย่างออดอ้อน งานอดิเรกของเอื้องฟ้าคือแสดงละคร บทนี้น่าจะมาจากบทนางเอกผู้น่าสงสาร บอบบาง น่าทะนุถนอม ตรงข้ามกับตัวจริง “เพราะน้ำเป็นเพื่อนสาวเพียงคนเดียวของเรา”
สมควรแล้ว...ที่โดนพวกเพื่อนผู้ชายรุมแกล้ง สมควรตายแล้วเอื้องฟ้า สมองต้นน้ำประมวลผล เขาเคยมีรูปอุบาทว์ของเอื้องฟ้าอยู่ในเครื่องไหมนะ?
ดูยังไงก็ดูไม่รู้ว่าทอมตบจูบกับผู้หญิงหยาบคายสองคนนี้ จบมาจากโรงเรียนหญิงล้วนที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ ขึ้นชื่อเรื่องเคร่งครัดมารยาท
“นั่นมันนทีนี่นา” เอื้องฟ้าเด้งตัวออกจากอ้อมอกต้นน้ำอย่างรวดเร็ว
ในภาพสารคดี กวางน้อยคือเหยื่อของเหล่านักล่า และคนทั่วไปก็ให้คำนิยามว่า...ผู้หญิงเป็นกวางน้อย
นิยามผู้ชายว่าเป็นเสือ นักล่าผู้ว่องไวและเก่งกาจ
แต่คำนิยามเหล่านั้นไม่เหมาะกับเอื้องฟ้าเลยแม้แต่น้อย ตัวเล็กเหมือนกวาง แต่เกิดมาเพื่อล่า ไม่มีนิยามใดจะเหมาะกับเอื้องฟ้ามากไปกว่า... ‘ไฮยีน่า’ อีกแล้ว
ต้นน้ำมองไปตามสายตาของเอื้องฟ้า นทีเดินขึ้นตึกมาพร้อมกับเพื่อนอีกสามคน คนที่เดินข้างนทีคือไอ้หน้าตี๋ที่ยืนพิงรถเขาในวันที่เขาสูญเสีย ‘เชือก’
เหมือนบรรยากาศภายในตึกจะเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะฮือฮาดังขึ้นกว่าเดิม
นทีเดินขึ้นตึกไปแล้ว เอื้องฟ้าก็หันมาบ่น “หล่อสัด ขาวเหี้ย ได้นัวสักทีจะดีไม่น้อย” เสื่อมทรามสมสโลแกนตลอด
“มีไอ้ขิงแล้ว มึงยังจะมองหาใครอีก?” ริวถามทั้งที่มือยังกดโทรศัพท์ยิก
ส่วนขิงกับเนมก็สุมหัวกันจัดการกับโทรศัพท์ของเอื้องฟ้าอยู่
“กูไม่กินเพื่อนเว้ย แล้วทีมึงอ่ะ มีไอ้น้ำอยู่แล้วยังจะแชทกับสาวอีกนะ” ริวกับต้นน้ำรู้จักกันมาตั้งแต่มอสี่ แต่อยู่กันคนละห้อง มาสนิทกันจริงๆ ก็ตอนเข้ามหา’ลัยแล้วมาเรียนคณะเดียวกันนี่ล่ะ ริวหน้าตาดีจนได้รับเลือกเป็นเดือนคณะแต่ไปแพ้นทีในรอบชิง ได้แค่ตำแหน่งรองกลับมา แต่ดูเหมือนริวจะไม่สะทกสะท้านใดๆ ตำแหน่งรองเดือนมหา’ลัยไม่มีผลในการจีบหญิง
ถ้าใครจะนิยามคำว่า ‘เสือ’ คงไม่มีใครเหมาะไปกว่าริวคนพลิ้วอีกแล้ว เช้าคน...เย็นคน...พลิ้วไปทั้งตัว ทั้งเอว กินเงียบ แดกเรียบ กว่าเหยื่อจะรู้ตัวก็...โอ๊ะ! ริวกินไปแล้วนะจ๊ะ
“กูกับไอ้น้ำเกี่ยวอะไรกันวะ?”
“ก็สาวๆ เขาจิ้นมึงกับไอ้น้ำไง จิ้นเหมือนเป็นแฟนกันไรงี้”
“ตลกละ กูก็ไม่แดกเพื่อนเว้ย”
ไฮยีน่าไม่กินเพื่อน!!
เสือก็ไม่แดกเพื่อน!!
“อ่ะ เอาคืนไป” ขิงยื่นโทรศัพท์คืนให้เอื้องฟ้า
เอื้องฟ้ารับโทรศัพท์มาเปิดดูโน่นนี่สักพัก พอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับโทรศัพท์ตัวเอง ก็กระดิกนิ้วเรียกขิง สาวหล่อลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเดินมาหาสาวแท้ แล้วสาวแท้ก็ลากสาวหล่อออกไปคุยข้างนอกตึก
“นี่มึงต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ?” เอื้องฟ้าถามขิงด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทำไม? กูทำอะไร? ขนาดไหน?” ขิงถามงงๆ ด้วยสีหน้าท่าทางไม่รู้จริงๆ
“กับไอ้แค่โพลสาวหล่อที่มึงอยากได้ นี่มึงขนาดขายเพื่อนเลยนะ” เอื้องฟ้ายื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ขิงดู...ภาพต้นน้ำกับริวที่ถ่ายคู่กันในอิริยาบถต่างๆ ถูกส่งให้เพจคิวท์บอย
Cuteboy------------------------------------------------------------------
พี่คะ
หนูเป็นดี้ค่ะ หนูชอบทอม
พี่ช่วยจัดโพลสาวหล่อให้หนูหน่อยนะคะ
โดยเฉพาะคนนี้นะ
ขิง ศิลปกรรมค่ะ
เพื่อนหนูเอง
หนูแอบชอบเขามานานแล้วค่ะ
[แนบรูปขิงแบบที่หล่อมาก สูง ขาว กระชากใจสาว]
จ้า
พี่จะปรึกษาทีมงานดูนะ
ถ้าพี่จัดให้หนู หนูมีของขวัญให้พี่ค่ะ
[ แนบรูปต้นน้ำกับริว 3 รูปรวด ]
นี่แบบเรียกน้ำย่อยนะคะ
อู้ว เด็ด
[ส่งสติ๊กเกอร์หัวใจรัวๆ]
มีเด็ดกว่านี้นะ
แต่ว่าโพลนี้จะเป็นโพลสุดท้ายของเทอมนี้แล้วจ้า
ปิดเทอมทีมงานก็ต้องพักเหมือนกัน โพลที่น้องเสนอมาน่าสนใจนะ
พวกพี่กำลังตันเลยว่าจะลงโพลอะไรดี เปิดเทอมมาจะจัดให้เป็นโพลแรกเลย
แต่ของรางวัลพวกพี่ก็รับนะจ้ะ เด็ดมากอ่ะ อยากดูภาพเอ็กคลูซีฟกว่านี้
จัดให้ค่ะ เปิดเทอมรอรับเลย
555
น้องอยากมาร่วมทีมกับคิวท์บอยไหมอ่ะ
เห็นคอเดียวกัน ตามล่าหาหนุ่มหล่อ สนุกนะ
ขอคิดดูก่อนนะคะพี่ อิอิ
-------------------------------------------------------------------
ขิงตบหัวเอื้องฟ้า “ขายเหี้ยอะไร? รูปแบบนี้คนอื่นก็มี”
“แต่มึงบอกว่าจะปล่อยรูปเอ็กคลูซีฟ”
“เออ แล้วไง? รูปเอ็กคลูซีฟก็มีหลายแบบป่าววะ? ก็แค่เอารูปที่คนอื่นไม่เคยเห็นเอง เมื่อกี้ไอ้เนมก็นั่งดูกับกู ก็ไม่เห็นมันว่าอะไร”
“เปล่า กูก็ไม่ได้ว่าอะไร? กูแค่จะถามว่ารูปเอ็กคลูซีฟน่ะ...มึงมีหรือยัง?” ตาสบตา เป็นเพื่อนกันมานาน มีเหรอที่จะไม่รู้ใจ
ขิงหัวเราะ “ก็ถ่ายใหม่เอาสิวะ”
-------------------------------------------------------
มาแล้วจ้า ช่วงนี้จะอัพบ่อยหน่อย
แต่คงไม่อัพทุกวันนะคะ
บางวันก็อาจจะตัน บางวันก็อาจจะยุ่ง
แต่เห็นคอมเม้นท์แล้วสดชื๊น สดชื่น
อัพพลังให้นักเขียนมาก
อยากเขียน อยากอัพขึ้นมาเลย
ขอบคุณสำหรับการอัพพลังนี้ด้วย
เอเองค่ะ