วันนี้ใจดีเลยมาต่อเร็ว อิอิ
เพราะรู้สึกว่าอัพดึกไปแล้วมันง่วงอ่ะจ้า (เกี่ยวมั้ย?)
___________________________________
ตอนที่ 6
“ไม่ต้องหรอกนัน หอนันก็อยู่คนละทางกับภามเหมือนกัน”ผมบอกอย่างเกรงใจ นันดีกับผมจนเกินไปแล้ว
“พี่ไปส่ง”นายยอร์ชยังไม่เลิก
“นันไปส่งนะ”นันก็บ้าจี้ตาม
“พี่ไปส่ง”
“นันไปส่งภามดีกว่า”
“ก็พี่บอกว่าจะไปส่งภามไง”นายยอร์ชเริ่มคิ้วขมวด
“โอ๊ย พอๆๆ พอเลยทั้งนันแล้วก็คุณ”ผมหันไปบอกนันแล้วก็หันไปทำหน้าดุใส่นายยอร์ชที่ดูไม่สะทกสะท้าน สองคนนี้นี่เป็นอะไรกันนักกันหนานะ วันนี้ทำตัวแปลกกันทั้งคู่เลย
“เดี๋ยวผมไปส่งภามเองดีกว่าครับ หอผมอยู่ทางเดียวกับภามพอดี เอาอย่างนี้ดีกว่าเนอะนัน”โจบอกนายยอร์ชแล้วก็หันไปขอความเห็นกับนัน
“อืม ก็ได้ งั้นฝากภามด้วยแล้วกัน”นันยอมรับข้อเสนอ
“ไม่ต้องฝากก็ได้ ภามก็เพื่อนเรานะ”โจบอกก่อนจะหันไปถามคู่กรณีอีกคน
“แล้วพี่ยอร์ชหล่ะครับว่ายังไง”
“เขาไม่ว่ายังไงหรอก ในเมื่อภามจะให้โจไปส่ง”ผมตัดสินใจให้เอง มองหน้าตัวเจ้าปัญหาที่ยังคงทำหน้าหาเรื่อง
“เออ..ก็ได้”นายยอร์ชตอบกับผมเสียงกระแทกกระทั้นแล้วสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง มางอนอะไรผมอีกหล่ะเนี่ย
ในที่สุดเมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้วผมก็ได้ซ้อนท้ายจักรยานตัวเองโดยมีโจเป็นคนปั่นกลับหออย่างสงบสุข
“โจรู้ไหมว่าวันนี้นันอารมณ์เสียเรื่องอะไรหรือเปล่า?”ผมถามโจเมื่อใกล้จะถึงหอ
“หือ? ทำไมหล่ะ”
“ก็ตอนดูบาสด้วยกันยังดีๆ อยู่เลย แต่พอไปกินข้าวก็ทำเหมือนกับโกรธใครมาอย่างนั้นแหละ”
“เรื่องนั้นเราก็ไม่แน่ใจนะ เรารู้แต่ว่าบางทีมันอาจจะใกล้ถึงเวลาที่ภามต้องเลือกสิ่งสำคัญบางสิ่งในชีวิตแล้ว”คำพูดของโจทำให้ผมงง โจต้องการจะบอกอะไรผมกัน?
“หมายความว่าไงน่ะ?”ผมถามย้ำ
“เราก็ไม่แน่ใจ แต่เอาไว้ถึงเวลาภามคงรู้เอง เอาล่ะ ถึงหอภามแล้ว เดี๋ยวเราแยกกับภามตรงนี้เลยแล้วกันนะ”โจบอกตัดบทแล้วร่ำลากับผม ผมลงจากจักรยานแล้วจูงเข้าหอช้าๆ ในใจก็ครุ่นคิดถึงคำพูดของโจไปด้วย แต่ก็คิดได้ไม่นานเมื่อผมเข้านอนแล้วตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่โดยที่ไม่มีเรื่องที่คิดเมื่อวานหลงเหลืออยู่ในความคิดเลย...
…กระดาษลังชิ้นเล็กๆ แผ่นแล้วแผ่นเล่าถูกผมจับมาเจาะด้วยแท่งเหล็กเจาะกระดาษ เจาะแล้วโยนๆ อย่างกับเป็นเครื่องจักร ทุกคนอาจจะสงสัยว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ คำตอบก็คือกำลังทำของเพื่อโปรโมทละครของคณะครับ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาทุกปีสำหรับละคอนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ พี่ๆ ในคณะเปิดโอกาสให้น้องๆ ปีหนึ่งได้ทดลองประสบการณ์โดยเลือกทำงานฝ่ายไหนในละคอนก็ได้ ผมซึ่งพอจะมีเวลาว่างบ้างเลยลงชื่อมาอยู่ทีมพีอาร์ละคอน และนี่ก็คือที่มาของการที่ผมต้องมานั่งเจาะ นั่งโยนอยู่นี่แหละครับ...
“เดี๋ยวภามกลับแล้วนะนัน แอม”ผมบอกนันกับแอมหลังจากที่ทำงานเสร็จตอนเกือบๆ สองทุ่ม
“เดี๋ยวนันไปส่งภามนะ”นันรับอาสา
“ไม่ต้องหรอก แอมน่ะผู้หญิงคนเดียวนะ นันน่าจะไปส่งแอมมากกว่า ภามกลับเองได้ ใกล้ๆ แค่นี้เอง”
“ถูกของภาม”แอมว่าแล้วหันไปทำหน้างอนๆ ใส่นันนิดหน่อย
“เอ่อ..เราก็ว่าจริง ขอโทษทีนะแอม”นันเกาศีรษะตอบยิ้มๆ แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับตามที่ตกลงไว้
ผมเดินมาถึงคณะวิศวะที่ต้องใช้เป็นทางผ่านเพื่อกลับหอเห็นไฟในช็อปรถยังสว่างอยู่เลยคิดว่าจะลองเดินเข้าไปดูเสียหน่อย แต่วันนี้คงไม่มีแรงจะไปช่วยใครทำอะไรแล้วหล่ะ คงได้แค่ดูเฉยๆ ว่ามีงานอะไรที่ต้องทำในส่วนของผมบ้าง
“สวัสดีครับพี่ป้อง พี่อั๋น พี่เปี๊ยก”ผมยกมือไหว้พี่ๆ ทั้งสามคนที่ยังคงทำงานกันอยู่ในช็อป พี่อั๋นกับพี่เปี๊ยกหันมาพยักหน้าแล้วยิ้มให้ผมก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ ส่วนพี่ป้องเดินไปหยิบผ้าเช็ดมือแล้วเดินเช็ดมือพร้อมกับเดินยิ้มมาหาผม
“ไงภาม พี่นึกว่าวันนี้จะไม่มาเสียอีก”พี่ป้องวางผ้าเช็ดมือแล้วถามผม
“ถึงมาวันนี้ภามก็ไม่มีแรงจะช่วยพี่แล้วแหละครับ พอดีว่าภามเพิ่งเสร็จจากงานของคณะมา วันนี้แวะมาดูๆ งานไว้ก่อน”ผมบอกจุดประสงค์
“อ้อ ไม่เป็นไรๆ ตอนนี้งานส่วนที่เร่งก็เสร็จเกือบหมดแล้ว”พี่ป้องบอกยิ้มๆ
“เอ้อ เดี๋ยวนะภาม รออยู่นี่เดี๋ยวนึง”พี่ป้องทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในห้องของชมรม สักครู่ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องช็อกโกแล็ตยี่ห้อดังกล่องใหญ่ในมือ
“ป้าพี่ที่อยู่อเมริกาเขามาเยี่ยมน่ะ เลยซื้อช็อกโกแล็ตมาฝากเยอะเลย พี่เห็นภามชอบกินเลยเอามาฝาก”พี่ป้องยื่นช็อกโกแล็ตกล่องใหญ่นั่นให้ผม
“แต่มันแพงนะพี่”ผมมองๆ แต่ก็ไม่กล้ารับ ของแบบนั้นผมมีปัญญาซื้อก็จริงแต่ก็ไม่บ่อยนักหรอกครับ
“เอาไปเถอะ พี่ให้เพราะเห็นว่าภามชอบกินจริงๆ พี่ไม่ค่อยชอบกินของหวานเท่าไหร่ เห็นอ๋องเคยเล่าให้ฟังว่าวันวาเลนไทน์ภามเคยได้ช็อกโกแล็ตจากสาวๆ ก็กินเรียบคนเดียวเลยไม่ใช่หรือ?”พี่ป้องถามยิ้มๆ ยัดกล่องช็อกโกแล็ตมาใส่มือผม
“แหะๆ งั้นก็ขอบคุณครับ”ผมยิ้มเขินๆ ที่พี่ป้องแอบรู้ความจริง แต่ก็ไหว้ขอบคุณเขาแล้วรับของมาอย่างเต็มใจ ก็พี่ชายให้นี่ครับ ไม่เอาก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว
พี่ป้องเห็นผมรับของมาแล้วก็ลูบศีรษะผมยิ้มๆ แล้วก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อ ผมเดินดูงานอีกสักครู่จึงลาพี่ๆ กลับหอ ผมเดินออกมาพอพ้นประตูช็อปก็เห็นคนคุ้นตา(ในระยะนี้)ยืนล้วงกระเป๋าหันหลังให้ พอผมเดินไปใกล้เขาก็หันกลับมา มองกล่องช็อกโกแล็ตในมือผมแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า
“ภาม...”เขาเรียกชื่อผมยิ้มๆ ยิ้มอะไรนักหนาก็ไม่รู้
“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ทักทายนายยอร์ช เห็นเขาพยักหน้ารับแต่ยังยิ้มไม่เลิก
“ภามจะกลับหอแล้วหรือ?”
“ตรงนี้มีแค่คุณกับผมแค่สองคน ไม่ต้องฝืนพูดดีนักก็ได้”ผมบอกเขา เห็นว่าวันนี้มาแบบสุภาพชนผิดปกติ
“ทำไม? หรือว่าภามไม่ชอบให้พี่พูดดีๆ ด้วย”หมอนั่นเริ่มเสียงแข็งคิ้วขมวด ว่าแล้วเชียวว่าต้องดีได้ไม่นาน
“ผมอยากอาบน้ำแล้ว ขอตัวกลับหอก่อนนะครับ”ผมรำคาญที่จะต่อความให้มันยาวเลยรีบยกมือไหว้เขาหวังจะเดินหนี แต่จังหวะที่ผมกำลังจะเดินผ่านเขาก็คว้าต้นแขนผมให้หยุดเดินแล้วมาดักหน้าผมไว้
“เดี๋ยวภาม คือ...คือวันนี้พี่มีธุระต้องไปทำต่อกับไอ้ป้องน่ะ แล้วงานมันก็ยังไม่เสร็จเลย พี่ไม่อยากนั่งรอมันคนเดียว ภามนั่งรอเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ”เขาส่งสายตาอ้อนๆ มากับประโยคขอร้อง
“คุณก็ไปรอในช็อปสิ”ผมบอกเบื่อๆ จะมาไม้ไหนอีกก็ไม่รู้
“พี่...พี่...อ้อ เออ พี่แพ้ฝุ่นน่ะ นั่งรอในนั้นไม่ได้หรอก”อย่างนายยอร์ชเนี่ยนะแพ้ฝุ่น นักกีฬาขาลุยซะขนาดนี้
“ถ้างั้น...”
“พอๆ เอาเป็นว่าพี่ขอร้องภามแล้วกัน พี่ไม่อยากนั่งคนเดียว”นายยอร์ชรีบพูดตัดบทก่อนที่ผมจะคิดข้อเสนอใหม่ให้เขาออกแล้วลากผมไปที่ม้านั่งยาวใต้โคมไฟซึ่งอยู่ห่างจากตัวช็อปรถพอสมควร
ผมกับเขาต่างก็นั่งอยู่ข้างกันเงียบๆ เพราะผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาดี ใจก็ภาวนาให้พี่ป้องเสร็จงานเร็วๆ ผมจะได้รีบกลับไปทำงานต่อที่หอ ลมหนาวในช่วงปลายปีพัดมาหอบใหญ่ทำให้ผมต้องห่อตัวอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อลมพัดผ่านไปผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรพาดทับลงมาที่ไหล่ เอามือจับๆ ดูก็เห็นเป็นเสื้อกันหนาวที่ทำมาจากหนังอย่างดี หันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นเจ้าตัวนั่งเกาศีรษะอยู่แกรกๆ
“อะไรครับ?”ผมถามงงๆ
“ก็ภามหนาวไม่ใช่หรือ?”เขาตอบโดยที่ไม่มองหน้าผม พุ่มไม้ตรงนั้นมีอะไรดีนะ เห็นจ้องมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
“แล้วไปเอามาจากไหน”ผมถามแต่ก็ไม่ยอมคืนเสื้อที่คลุมอยู่ให้
“เถอะน่า จะได้อุ่นๆ ไง ไม่ต้องถามมากหรอก”
“อืม ขอบคุณครับ”ผมขอบคุณเขาแล้วเอาสมุดจดตารางงานขึ้นมานั่งตรวจโดยที่ไม่สนใจเขาอยู่สักพัก ได้ยินเขาทำอะไรกุกๆ กักๆ อยู่ข้างๆ สักครู่ก็เรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปสนใจ ตอนนี้ในมือเขามีกีตาร์คลาสสิคอยู่ตัวหนึ่ง อีกแล้ว…แล้วไอ้อันนี้นี่ไปหามาจากไหนเนี่ย ตอนมาก็เห็นมาตัวเปล่านี่นา
“....คือพี่เพิ่งหัดร้องเพลง...”เขาบอก ก้มหน้ามองกีต้าร์
“แล้ว?”ผมถาม จะทำอะไรของเขาอีกนะ
“ไม่รู้ว่าร้องเพราะไหม ภามลองฟังดูนะ” ไม่รอให้ผมตอบ เขาเริ่มเกากีตาร์ช้าๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมนิ่งแล้วเริ่มร้องเพลงด้วยเสียงทุ้มนุ่มชวนฟัง
“พี่นั้นเป็นหนุ่มวิดวะ...
น้องหน้ามนคณะอะไร?
ใช่ครุหรือเปล่า?
หรือว่าเป็นถาปัด?
อยู่คณะอะไร?”
ผมวางดินสอดราฟท์ในมือแล้วนั่งมองเขาเกากีตาร์อย่างชำนาญ ไม่เหมือนคนเริ่มฝึกเลย เขายังไม่ละสายตาไปจากผม ดูจริงจังเสียจนผมนึกว่าเขาจะซ้อมไปร้องจีบสาวที่ไหน
“...พี่เจอเธอก็นานแล้ว
และพี่จ้องมองอย่างสนใจ...
พี่นั้นแซวเธอบ่อย...และเธอก็ยิ้มมาให้...
สุขใจเหลือเกิน...
หนุ่มพาวเวอร์หน้าขาว ไม่มีพิษมีภัย...โปรดจงเห็นใจ..กันหน่อย
อย่ามองพวกเราว่าเถื่อน...ให้มองพวกเราเป็นเพื่อน...
เราน่ารักจะตาย...”
ผมยิ้มบางๆ เมื่อเห็นหน้าเขาซับสีแดงเรื่อ อย่างนี้คงจะหนีไม่พ้นซ้อมร้องเอาไปจีบใคร ขะมักเขม้นจริงเชียว
“พี่เจอเธอก็หลงรัก...
หากน้องหน้ามนลองสนใจ....
หากเหงาขึ้นมาเมื่อไหร่...ก็มาให้พี่แซวได้...
หน้าภาคไฟของเรา...”
เขาก้มหน้าแล้วเงยขึ้นมาใหม่ มองผมจนผมแทบจะทะลุ แล้วร้องประโยคสุดท้ายออกมา
“หากเหงาขึ้นมาเมื่อไหร่...
ก็มาให้พี่แซวได้...
...หน้าภาคไฟของเรา...”
เกิดความเงียบขึ้นชั่วครู่หลังจากเสียงกีตาร์เงียบลง
“เพราะไหม?”เขาถามผมหน้าแดงๆ
“อืม...เพราะดี”ผมตอบเขายิ้มๆ ทำอายจนอยากแกล้งเข้าให้
“แล้ว...ชอบไหม?”
“หือ?”ผมงงกับคำถาม
“พี่หมายถึงภามชอบไหม?”เขาถามย้ำ
“คนที่คุณจะไปร้องให้ฟังต้องชอบแน่ๆ แหละ ถ้าเขารู้ว่าคุณตั้งใจซ้อมขนาดนี้”ผมบอกยิ้มๆ
“หมายความว่ายังไง?”เขาถาม
“ก็คุณมาซ้อมร้องให้ผมฟังเพื่อที่จะเอาไปร้องจีบคนที่ชอบไม่ใช่หรือ?”
“ร้องจีบคนที่ชอบน่ะใช่ แต่เมื่อกี้ไม่ได้ซ้อม......... เอาจริง...”ท้ายประโยคเขาพูดเบาจนผมได้ยินไม่ถนัด ฟังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ขี้เกียจจะถามให้มากความ
To be continue
อิตายอร์ชรุกนายเอกเราแล้วนะ สมใจใครหลานคนแล้วสิ อิอิ
________________________________
Talk
มีเกร็ดในเรื่องเล็กน้อยที่อยากจะบอกค่ะ
อย่างที่ได้อ่านในตอนกลางๆเรื่องกันที่เห็นภามเจาะกระดาษลัง เรียกอีกอย่างนึงว่า"ตุ้งติ้ง"ค่ะ เอาไว้แขวนตามที่สูงหรือทางเดินเพื่อโปรโมทละครคณะเราค่ะ
ลักษณะเป็นแผ่นกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือเวลาโดนลมจะแกว่งไปแกว่งมาแบบตุ้งติ้งที่ติดปกเสื้อแหละจ้า
และอีกเรื่องคือเพลงที่นายยอร์ชร้อง มันคือเพลงจีบสาว(?)ของภาคพาวเวอร์หรือภาคไฟของมหาลัยxxxxเองแหละจ้า 555
เดี๋ยวไม่แน่คนแต่งอาจจะมาขายายความให้อีกที(มั้ง)
______________________________________________
ตอบเม้นจ้า
fonnonae - ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ ชอปวิทยากะถาปัดที่นี่สีคล้ายกันมากมาย แต่เราก็ดูกันออกนะ ฮ่าๆ ฝั่งนั้นเค้าจะดูสะอาดๆน่ะ ส่วนเราก็....
สมุนไพร - ต้องรอดูต่อไปจ้า แต่อยากจะบอกว่าเดาได้แม่นนะตัวเอง หุหุ
ืna_pc - ยินดีต้อนรับจ้า อยู่คณะไหนล่ะ เรามีเพื่อนที่นี่หลายคณะอยู่ เดี๋ยวจะฝากบอกไปให้ว่าจัดให้หนักๆ
ว่าแต่...ไม่สนใจเข้าถาปัดหรอ??