และค่ำคืนเพ็ญเดือนสาม รุ่งโรจน์ก็เลือกบ้านพักแบบเกสเฮ้าส์ที่ริมทะเล อ.ปราณบุรี ..ราคานั้นอยู่ที่ห้องละ 400 บาท..รุ่งโรจน์บอกว่าให้สุริยาเป็นเจ้าภาพ สุริยายิ้ม พอรู้ว่าอีกคนคิดอะไร..เขาจึงเอ่ยกับแสงทองว่า คืนนี้เลี้ยงค่าห้องเช่นกัน..แสงทองยกมือขอบคุณ..ก่อนจะแยกตัวเขาห้องของตน..พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้เช้าจะรีบตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น อยากรู้ว่ามันจะสวยเหมือนที่บนยอดเขาปางจันทร์หรือไม่..
และเช้าวันนั้นเป็นเช้าที่สดใสสำหรับสุริยา รุ่งโรจน์ยังเป็นเช่นเดิม นอนเอามือก่ายอยู่ที่ยอดอกเขาราวกับว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่..เมื่อพระอาทิตย์ทอแสงสีทองแตะขอบฟ้า เขาจึงค่อย ๆ เลื่อนตัวลงจากเตียง ทำกิจส่วนตัวด้วยเสียงเบาที่สุด ด้วยกังวลว่าจะทำให้คนขับรถพักผ่อนไม่เต็มที่ เมื่อคืนก่อนจะหลับเขายังขอร้องแกมบังคับให้สุริยาช่วยบีบนวดต้นคอและบริเวณศีรษะ..สุริยาก็ใจดีนึกถึงบุญคุณที่เขาพามาจึงบีบให้ทั้งบริเวณแขน ฝ่ามือ แผ่นหลัง บริเวณขาและฝ่าเท้า..
“ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณก็เป็นหมอนวด คราวหลังจะขอใช้บริการอีก”
“แพงนะครับ ..”
“เท่าไหร่..”
“ต่อการพาไปเที่ยวสำรวจสถานที่ หนึ่งครั้ง..”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบว่าอะไร..พลางแต่ครางอือ ๆ เป็นสุข ขณะที่มือเขาบีบไปบนสรรพางค์กาย..
เช้าวันนั้น เมื่อเขาเดินออกมาจากบ้านพัก พบแสงทองเดินถือเปลือกหอยถุงใหญ่..ใบหน้าสาวเจ้าสุขสดชื่นเต็มกำลัง..
“พี่ยา..เร็ว ๆ ถ่ายรูป..” ในมือของสุริยามีกล้องดิจิตอลอยู่ด้วย พอไปถึงก็กดชัตเตอร์..ประหนึ่งว่าแสงทองเป็นนางแบบชั้นนำ
“ถ่ายรูปขึ้นนะ” เขาชม
“จริงอ่ะ แสดงว่าหนูสวยน่ะซิ” น้ำเสียงแสงทองเล่นเหมือนเคย แต่แววตาที่มองอีกคนนั้น เปิดเผยส่วนที่อยู่ลึก ๆ ในหัวใจ
“วันนี้เราจะไปไหนต่อ”
“มีหลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัดห้วยมงคล..แล้วสำรวจแถว ๆ ปราณนี่แหละ อาจจะขับรถกลับไปหัวหิน ไปสำรวจวัดแถบนั้น เขาตะเกียบ เขาหินเหล็กไฟ แล้วก็พระราชวังมฤคทายวัน พระราชวังบ้านปืน เขาวังเพชรบุรี วัดมหาธาตุ อีกหลาย ๆ วัดในเพชรบุรี”
“ไม่น่าหมดนะวันเดียว”
“สำรวจเส้นทางเฉย ๆ ข้างใน เราก็พอรู้เห็นจากสื่อต่าง ๆ แล้ว..ที่ต้องไปให้เห็นกับตาว่าเข้าทางไหน เคลื่อนรถอย่างนี้นะ แผนที่มันไม่ค่อยละเอียดหรอก บางทีพอเราเดินทางไปเอง อาจจะมีที่ใหม่ ๆ เกิดขึ้นดีกว่าในหนังสือเก่าที่เราอ่านอีก ประมาณสิบปากว่ าไม่เท่าตาเห็น บางทีหนังสืออธิบายซะดีเลิศ พอไป จริง ๆ ประมาณว่าเที่ยวไปด่าไป”
“งั้นถ้าเราจะเขียนหนังสือท่องเที่ยว เราก็เขียนแบบเที่ยวไปด่าไปเลยดีกว่าใช่ไหม”
“ใช่..ตัวอยากเป็นนักเขียนไม่ใช่รึ ก็เอานี่แหละข้อมูลพวกนี้ไปเก็บไว้ แต่อธิบายในแบบฉบับเรา อย่ามาเลยเป็นอย่างนี้ ...ลำบาก..บางทีพอเขียนอย่างนี้อาจจะทำให้คนอยากมาก็ได้..อยากไปดูว่ามันทุเรศจริงหรือเปล่า....เรื่องแผนที่ก็สำคัญนะ..ถ้าเราทำแผนที่ประกอบสักนิด มันก็จะน่าสนใจยิ่งขึ้น”
สองหนุ่มสาวยังคุยเรื่องงานเรื่องอนาคตกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง...แดดร้อนขึ้น สุริยาจึงชวนกลับที่พัก..เมื่อไปถึง แสงทองเข้าห้องพักของตนเพื่อเก็บของและรอให้สองหนุ่มมาเรียก ส่วนสุริยาเมื่อกลับไปถึงห้องก็พบคนขับรถยังนอนคลุมโปงในผ้าห่มอุ่น..แต่มันถึงเวลาต้องปลุก เขาจึงเดินไปหยุดอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะเขย่าตัว..พอเขย่าปุ๊บคนที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นมากระชากเขาลงไปกกกอดทันที..
“เฮ้ย..เล่นอะไร..” ในผ้าห่มอุ่น เช้าวันนี้ รุ่งโรจน์มีอารมณ์รุนแรงกว่าทุกครั้ง เขาทั้งกอดรัดและพยายามใช้หนวดเคราที่ขึ้นหลอมแหลมถูไปที่ซอกคอและใบหน้าสุริยา..ส่วนมือก็จี้..จี๋ไปตามสะเอวเพื่อให้อีกคนหัวเราะ..เมื่อรูปการณ์เป็นอย่างนั้นสุริยาจึงคลายตระหนกเสียได้ แต่ก็ยังไม่เลิกดิ้นรนด้วยรู้สึกเหนื่อยเต็มกำลัง พอเขาหยุด จึงเป็นว่า คนทั้งคู่นอนมองตากัน..
รุ่งโรจน์ก็หอมฟอดที่ใบหน้า คล้ายอีกคนเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อึดใจเขารีบดันตัวลุกขึ้น เผยให้เห็นว่าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะแก้เขินด้วยประโยคที่ว่า
“นึกว่าจะเดินเก็บหอยเก็บปูไปจนถึงหัวหินซะอีก หิวแล้ว ไปเถอะ”
สุริยาค่อย ๆ ลุกขึ้นพลางใช้มือลูบทรงผมของตนให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก็ลุกขึ้นมาเก็บของและเสื้อผ้าชุดเมื่อวานลงกระเป๋า
“อากาศดีไหมข้างนอก” รุ่งโรจน์คงจะแก้เขิน แต่สุริยาไม่ตอบ ทำเป็นเก็บของลงกระเป๋าด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“แสงทองไม่บ่นแย่แล้วรึ ว่านอนกินบ้านกินเมือง รึว่าคุณสองคนกินข้าวกันแล้ว”
สุริยาก็ยังไม่ตอบ จนกระทั่งอีกคนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง แล้วก็กอดเอวจนแน่นซบส่วนศีรษะไปกับแผ่นหลัง พลางถามว่า..
“โกรธอะไรผม..เมื่อกี้ผมล้อเล่น ..ก็คุณน่ารัก ผมอดใจไม่ไหว”
“ปล่อยเถอะ จะรีบไป” สุริยาพยายามฝืนน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่ใจสั่นรัวอย่างกับกลองแห่สิงโต เป็นอีกมุมหนึ่งที่เขาไม่คิดว่ารุ่งโรจน์จะมีต่อกัน
“ไม่โกรธผมนะ”
“จะโกรธอะไร.. ก็คุณบอกว่าล้อเล่น” น้ำเสียงบอกให้รู้ว่ายังไม่พอใจ
“แล้วถ้าผมทำจริง ๆ ล่ะ โกรธไหม”
สุริยาไม่ตอบ เพียงแต่หันมาบีบบริเวณหัวไหล่ของอีกคน แล้วสบตาคู่ใสนั้นเพื่อค้นหาบางอย่าง..ยังไม่ทันจะเห็นอะไรบางอย่างที่ว่า
เสียงประตูก็ดังขึ้น..เป็นแสงทองนั่นแหละที่คงจะหิวจนแสบท้องแสบไส้..
“ช้าจัง..ไปสั่งอาหารรอที่ร้านเมื่อกี้นะ” แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป สุริยาจึงรีบยกกระเป๋าแล้วเดินไปที่ประตู..ด้วยหวั่นเกรงว่าหากอยู่ต่อ รุ่งโรจน์อาจจะเผยอะไรที่ทำให้เขาลำบากใจอย่างแน่นอน..
รุ่งโรจน์เดินตามลงมาในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีดำกับกางเกงสแลคเนื้อดีตัวเมื่อวาน..ใบหน้าขาวใสถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดดยี่ห้อดัง..ท่าทางเดินมานั้นสง่าผ่าเผย จนแสงทองต้องพูดออกมา...
“ถ้าพี่เขาตัดสินใจทำอย่างที่แม่เขาต้องการ รับรองพี่รุ่งติดท็อปโหวตดาราชายอย่างแน่นอน”
สุริยาเงยหน้าจากเมนูอาหาร ปรายตามองไปอีกคน แล้วรีบก้มหน้าเก็บความรู้สึก..คนที่ถูกเอ่ยถึงมาหยุดนั่งที่ตรงข้าง ๆ กัน พลางใช้มือพาดไปที่พนักเก้าอี้ที่อีกคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วชะโงกหน้าไปดูเมนูในมือจนแก้มเกยบ่า
“สั่งอะไรมาบ้าง ที่นี่มีอะไรรสเด็ด”
“มีเขียด กับปลาร้าบอง” สุริยาตอบเสียงห้วน ๆ ...
“อยากกินก็เอามาดิ๊..” รุ่งโรจน์ว่าไปอย่างมีอารมณ์ขุ่นนิด ๆ เมื่ออีกคนยัดเมนูกลับมาให้ดูเอง
“ตื่นสายอย่างนี้แล้วจะไปได้ทั่วไหมเนี่ย” แสงทองเงยหน้าจากหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้วยสีหน้ามีกังวลฃ
“ไม่ทันก็อยู่ต่ออีกวันซิครับ”
“ไม่นะ พรุ่งนี้มีเรียนอีกอย่าง ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา อยากเปลี่ยน”
“เดี๋ยวก็หาซื้อเอาแถวนี้ ผ้าบาติกลายดอกนั่นไง จะเล่นน้ำก็ซื้อชุดว่ายน้ำ หรือกางเกงขาสั้น”
“เงินมีน้อย” แสงทองบอกตามตรง
“เธอไม่รู้รึว่ามากับใคร” สุริยาต่อให้ด้วยน้ำเสียงแดกดันแต่รุ่งโรจน์ไม่สนใจก้มหน้าเขียนรายการอาหาร พร้อมกับเรียกเด็กมารับออเดอร์
“เมื่อคืนฝันดีไหมจ๊ะ” น้ำเสียงที่ถามแสงทอง หวานผิดปกติ
“หลับเป็นสุข เพราะดีใจที่ได้มาทะเล”
“ไม่เคยมาซิ” แสงทองสั่นหัว แต่ตอบว่า “ไม่ค่อยได้มาหรอก นานหลายปีแล้ว..ตั้งแต่เด็ก ๆ”
“คราวหน้า ถ้าหนูอยากไปไหนบอกพี่นะ” สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองก็เปลี่ยนไป “พี่พร้อมจะพาไปทุกที่ เมื่อวานบอกว่าขับรถเป็นใช่ไหม แต่เคยเฉพาะที่บ้านนอก วันนี้ลองขับนะ”
“จะดีหรือ”
“ดีซิ ต้องทำให้ได้..เผื่อวันข้างหน้าทำมาหากินร่ำรวยจะได้ซื้อรถมาขับ หรือไม่ ไปไหนมาไหนด้วยกัน จะได้เปลี่ยนกันขับบ้าง..เมื่อคืนผมเหนื่อยจะแย่ ไม่ได้ขับรถระยะไกล ๆ มานานแล้ว..ทั้งเมื่อยทั้งปวดขา”
“ถ้าพี่สุริยาขับเป็น ก็คงเปลี่ยนพี่รุ่งได้”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบ พอดีกับที่อาหารมาวาง แสงทองจึงเจ้ากี้เจ้าการตักข้าว รินน้ำแจกตามหน้าที่สตรี..และอาหารที่วางบนโต๊ะก็ทำให้สุริยาหน้าถอดสี ด้วยอีกคนแกล้งเขากับแสงทองอย่างแน่นอน.
ปลาร้าทรงเครื่องกับผักลวกราดกะทิ..กับกบทอดกระเทียมตัวเหลืองจ๋าเหยียดแข้งเหยียดขายาว..
“ถูกใจจัง” แสงทองร้องบอก พลางดึงกบไปฉีกแล้วเคี้ยวกรอบ ๆ
ส่วนรุ่งโรจน์เพียงนั่งมองจานข้าวเฉย ๆ ..ดูสองคนกิน ดึงบุหรี่ที่บริกรนำมาวางพร้อมกับไฟแช็คขึ้นมาแกะซอง ทำท่าจะจุดสูบ
“อ้าว ไม่กินข้าวก่อนล่ะ” พอแสงทองร้องทัก เขาจึงยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ด้วยสวมแว่นตาสีดำ สุริยาจึงไม่เห็นความรู้สึกอีกคนทางสายตา แต่เมื่อเห็นรูปการณ์ดังนั้นเขาจึงเงียบ อยากจะดูฤทธิ์เดช คนเอาแต่ใจตัวอีกสักระยะ ไม่อยากที่จะงอนง้อหรือพูดด้วยในขณะนี้
“ไหนพี่ว่าไม่ได้ติดไง”
“ก็จะสูบเฉพาะตอนมีอารมณ์อยากจะสูบเท่านั้น”
เท่าที่จำได้ เขาเคยบอกว่าจะสูบเฉพาะตอนที่มีเรื่องเครียดเท่านั้น แสดงว่าตอนนี้..