Special : เรื่องสยองหลายบรรทัด
เรื่องราวสยดสยองมันเริ่มต้นที่...
“มึงเรียกกูมาเพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ!?”
เย็นวันนั้น วันวานแสนสุขสันต์ ผมได้รับโทรศัพท์สายด่วนจากหญิงจนต้องรีบบึ่งมาพร้อมกับไอ้คิงที่บ้านคุณปู่ ก่อนจะพบว่าพี่หมอบกับไอ้ชายเองก็ถูกตามตัว ตอนแรกนึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ที่ไหนได้...ไอ้หญิงมันพาพวกผมไปที่ห้องอาหาร พร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้ลองชิมอาหารที่มันลองทำครั้งแรก
อเล็กซ์นั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ รอชิมรสมือแม่อย่างใจจดใจจ่อ
“กูอยากฝึกไว้ทำให้ลูกกิน” หญิงบอกขณะลูบท้องที่โตขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อย่างเข้าเดือนที่ห้า แต่ถึงอย่างนั้นก็มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลักอยู่ดี “ถือว่ามากินของฟรีก็ได้ กูไม่ถือ”
มันไม่ถือแต่ผมถือครับ! เพราะนั่น...เป็น...จุดเริ่มต้นของเรื่องสยองหลังจากนั้น...
เป็นวันที่ผมไม่มีวันลืม!
เอาล่ะ กลับเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า อาหารที่หญิงทำหน้าตาออกมาดูดีไม่เลว เพราะมันได้พ่อครัวประจำบ้านช่วยสอนด้วยตัวเอง หลังลองชิมไปหนึ่งคำแล้วพบว่ายังไม่ตาย ผมก็วางใจ ชักชวนไอ้คิงให้นั่งกินด้วยกัน ถือเป็นโชคดีของคุณปู่ที่ติดงานกะทันหันจึงไม่ได้ร่วมโต๊ะด้วย
“แล้วทำไมมึงไม่กินล่ะ”
ผมถามคนทำอาหารที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างเดียว
“คุณปู่ไม่ให้กูกินของซี้ซั้ว ต้องกินเมนูที่นางพยาบาลจัดไว้เท่านั้น”
ตอนนั้นผมคิดว่าคุณปู่ช่างทะนุถนอมไอ้หญิงดีเกินไป กับแค่เรื่องอาหารการกินก็มีจำกัดให้ตรงตามโภชนาการซึ่งเหมาะแก่ลูกน้อย ช่างเข้มงวดอะไรปานนี้ แต่หลังจากนั้นผมก็ต้องนึกขอบคุณที่ปู่ทำถูก เพราะถ้าท่านไม่ห้ามไว้แต่แรก อาจจะเกิดการสูญเสียเกินจะหยั่งถึงก็เป็นได้
อย่าเพิ่งหาว่าผมเวอร์นะ ติดตามจนจบก่อนค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สายว่าผมพูดผิดหรือถูก!
“กินเกลี้ยงเลยนี่หว่า แสดงว่ากูทำอร่อยใช่มั้ย”
“อร่อยมากเลยเลยจ้ะ” อเล็กซ์เอาใจเมีย ทำหน้าระรื่นชื่นบานสุดขีดจนน่าหมั่นไส้
“ก็งั้นๆ แหละ” ผมพูดพลางเช็ดปาก แต่ความจริงก็อร่อยนั่นแหละ ไม่งั้นไอ้คิงคงไม่ขอเติมข้าวถึงสามรอบหรอก
“ฝึกอีกหน่อยเป็นแม่ครัวได้เลยนะหญิง” ชายก็ชมเกินไป
“ไม่เอาหรอก หญิงอยากเป็นแม่ของลูก ไม่ได้อยากเป็นแม่ครัวสักหน่อย” แล้วดูคนทำอาหารสิ จะขวยเขินเอียงอายทำไม สารภาพมานะว่ามื้อนี้ไม่ได้ทำเอง มึงแอบให้พ่อครัวช่วยใช่มั้ย!
“หญิงเป็นแม่คนได้สบายแล้วล่ะ” พี่หมอบชมตบท้าย “วันหลังเรียกมากินอีกนะ”
“ได้เลยค่ะพี่หมอบ”
ทุกคนช่างยกยอปอปั้นไอ้หญิงจนตัวมันแทบลอย หลังจากนั่งคุยกันสักพักก็ได้เวลาเข้างาน ผมเลยนั่งรถกับไอ้คิงไปคลับ ส่วนชายก็ขับรถพี่หมอบตามหลังมาติดๆ
ทุกอย่างปกติดี...
จนกระทั่งช่วงสองทุ่มครึ่ง มีลูกค้าติดต่อขอพบไอ้คิง
ตอนนั้นผมกำลังนั่งเล่นเกมติดพันอยู่ขี้เกียจลุกไปข้างนอก ก็เลยคว้าโทรศัพท์ไปนั่งตรงโซฟาหันหลังให้ไอ้คิงกับลูกค้าทำทีเหมือนกำลังดูงานเคร่งเครียด
“บอสครับ เงินกู้ที่ขอไปก่อนหน้านี้ผมอยากจะมาขอลดดอก...”
“จะลดดอก ก็ต้องลดเงินต้น”
“ผมหาไม่ทันจริงๆ ครับบอส เงินที่จ่ายก็ลงดอกเบี้ยหมด นี่ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แต่เงินต้นไม่ลดลงเลย ถ้าลดดอกให้ผมสักนิด...ผมเชื่อว่าจะหาเงินมาคืนบอสได้แน่นอน”
“สัญญาระบุไว้ชัดเจนว่าดอกเท่าไหร่ มึงเป็นคนตกลงยอมรับเอง”
“แต่ว่า...”
ปกติถ้าเป็นเรื่องเงินกู้บางครั้งผมจะช่วยเจรจานะครับ เพราะไอ้คิงมันโหดเกิน และผมเองก็เป็นนายเอกแสนดี มีความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาในจิตใจ แต่บางครั้งบางที ก็มีคนบางจำพวกหวังให้ผมออกหน้ามากเกินไป อย่างเช่นกรณีนี้...คิงส์คลับมีสายสืบอยู่ และเรารู้ว่าไอ้คนหน้าด้านที่กำลงขอประนีประนอมอยู่นั้นความจริงแล้วมีเงินมากพอจะจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นควบคู่กัน แค่อย่าเอาไปเปย์สาวที่กำลังติดพันอยู่ก็สิ้นเรื่อง
ผมเลยนั่งเล่นเกมไม่ยุ่งด้วยไง คนแบบนี้ต้องให้ไอ้คิงเล่นงานซะให้เข็ด
“บอสครับ ดอกเบี้ยมันทบขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“ที่นี่ไม่ใช่โรงทาน”
“บอส...แต่ผมเป็นลูกค้าชั้นดีมาตลอดนะครับ”
“อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงทำอะไรไว้”
ได้ยินเสียงสูดหายใจดังลึก แต่คุณลูกค้าก็ยังไม่ยอมผละไปไหน ขณะที่ผมเริ่มวางโทรศัพท์เพราะชักปวดท้องแปลกๆ ปวดตุ่ยๆ ข้างในเหมือนตอนกินข้าวไม่ตรงเวลา แต่...ผมเพิ่งโซ้ยอาหารฝีมือไอ้หญิงไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แถมยังขอเติมข้าวอีกสองทัพพี
หรือว่าอาหารแม่งมีปัญหาคิดไปคิดมาก็เริ่มเข้าเค้า เพราะตั้งแต่ออกจากบ้านคุณปู่ผมก็ไม่ได้กินอะไรจุกจิกอีก ผมเป็นคนดูแลสุขภาพตัวเองดีเพราะรู้ว่าร่างกายอ่อนแอกว่าคนทั่วไป กินผลไม้ทุกวันกินอาหารตรงเวลาตลอด ยิ่งได้ไอ้คิงคอยบำรุงเลยไม่ค่อยเป็นอะไรแล้ว
ผมนั่งนิ่งไปสักพักก็เริ่มรู้สึกปวดขึ้นเรื่อยๆ จนชักนั่งไม่ติดที่ เลยตัดสินใจส่งไลน์หาไอ้ชายว่าขอยาแก้ปวดท้องหน่อย ความจริงไอ้คิงก็มีนะครับ แต่จะให้ลุกขึ้นไปขอยาตอนที่มันกำลังแผ่รัศมีโหดข่มคนก็คงไม่เหมาะ
ปรากฏไอ้ชายไลน์กลับมาบอกว่า...ตอนนี้ท้องเสียอยู่ในห้องน้ำของผับกับพี่หมอบ จะวานคนอื่นเอายามาให้แทน
ชัดเลย! อาหารไอ้หญิงชัวร์ป้าบ!ผมน่าจะสังหรณ์ใจแต่แรกแล้วว่ารสชาติเป็นสิ่งไม่เที่ยง ของอร่อยใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อมาจากน้ำมือของคนที่ไม่เคยทำมาก่อนและมีรอยยิ้มพิลึกน่าสงสัย
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปกติเวลามีลูกค้าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นไอ้คิงจะไม่ให้เข้ามา แต่เพราะครั้งนี้เป็นธุระของผม ผมเลยรีบออกปากก่อนคนส่งยาจะโดนไล่ซะก่อน
ไอ้คิงเหลือบมองผมน้อยๆ อย่างสงสัย ผมเลยยิ้มแห้งๆ ให้ ส่งสัญญาณเป็นเชิงว่าไม่มีอะไรหนักหนาไม่ต้องเป็นห่วงแล้วให้มันข่มลูกค้าต่อ
คนที่เข้ามาคือเบอร์หนึ่งครับ มันถือแก้วน้ำมาให้ด้วย สมแล้วที่เป็นบิชอปแสนรู้
“พี่ชายกับพี่หมอบท้องเสียไม่หยุดเลยครับ” เบอร์หนึ่งกระซิบบอกผมขณะส่งยาให้กิน “ควีนไม่เป็นไรนะ”
“มั้ง...กูแค่ปวดท้องหน่อยๆ แต่ยังไม่ปวดขี้ น่าจะอยู่ในระยะปลอดภัย”
เบอร์หนึ่งพยักหน้ารับแต่ยังไม่วางใจ เลยนั่งข้างๆ ผมเพื่อดูอาการว่าอีกสักพักผมจะวิ่งเข้าห้องน้ำรึเปล่า แต่ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ ผมปวดท้องตุ่ยๆ แต่ไม่ได้ท้องเสียอยากปล่อยของแต่อย่างใด
จะผิดแปลกก็ตรงที่...
ทำไมมันปวดมากกว่าเดิมวะผมกุมท้องตัวเองแล้วย่นหน้าคิ้วขมวดเมื่อชักจะปวดหนักขึ้นทุกทีจนแทบร้องไม่ออก
“ควีน...ควีนหน้าซีดมากเลย”
“กูยังไหว”
ผมคิดว่าน่าจะเพราะยายังไม่ออกฤทธิ์เลยนั่งทนต่อไป แต่ยิ่งนานเข้าท้องก็บีบจนเริ่มนั่งงอตัว รู้สึกปวดหนึบไปหมดจนมือเท้าชา นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!
เบอร์หนึ่งเห็นผมน่าจะไม่รอดก็เลยรีบลุกขึ้นยืนส่งแขก
“ขอโทษนะครับ แต่บอสมีนัดต่อจากนี้ คงต้องขอให้คุณกลับไปก่อน”
“แต่ผมยังเจรจาไม่เสร็จ”
“ออกไป” ไอ้คิงเอ่ยเสียงดุ ทำเอาลูกค้าคนนั้นยอมเดินออกไปอย่างว่าง่าย พอประตูปิดลงไอ้คิงก็ลุกมาหาผมทันทีราวกับคอยสังเกตเห็นอยู่แล้วว่าไม่ปกติ แต่มันคาดไม่ถึงว่าผมจะนั่งหน้าซีดอาการหนักขนาดนี้
“ไหวมั้ย”
ผมพยักหน้า แต่ก็ชักไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไหวจริงรึเปล่า รู้แค่ว่า...
“กู...อยาก...อ้วก”
เท่านั้นแหละครับ ไอ้คิงช้อนตัวผมวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเบอร์หนึ่งกดโทรศัพท์โทรออก มันถึงกับเรียกรถโรงพยาบาลเตรียมให้ผมเลย
พอโดนวางแหมะหน้าชักโครกปุ๊บผมก็อ้วกแตกเลยครับ ข้าวเย็นทั้งหมดถูกขยอนออกมาทันที ไอ้คิงช่วยลูบหลังให้ผม พอคายของแสลงออกมาก็รู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย แต่ท้องยังปวดบีบๆ อยู่เหมือนพยายามไล่ของเสียขึ้นมาผ่านคอหอย
ผมได้นั่งพักหายใจหน่อยเดียวก็หันไปเกาะชักโครกต่อ คราวนี้แทบจะอ้วกออกมาหมดกระเพาะ ข้าวเย็นไอ้หญิงนั้นออกหมดแล้ว คราวนี้เล่นเอาข้าวเช้ามาด้วย ของเมื่อวานตอนเย็นก็มา ผมอ้วกติดต่อกันจนปวดหัวไปหมด อาเจียนจนแทบลำไส้แทบจะออกมากองก็ยังคลื่นไส้ไม่หาย ได้แต่ผะอืดผะอมนั่งแหมะบนพื้นห้องน้ำ ปวดท้องบีบๆ เป็นระยะ น้ำตาเล็ดเลยครับเพราะทรมานโคตรๆ
“ดีขึ้นมั้ย”
คราวนี้ผมไม่ท่ามากแล้ว ส่ายหน้าให้ไอ้คิงในสภาพหมดเรี่ยวหมดแรงพูดอะไรไม่ออก ผมอ้วกจนมือสั่นขาสั่นอ่ะคิดดู
“เกิดอะไรขึ้น”
ผมได้ยินเสียงพี่แว่นดังมาจากนอกห้องน้ำที่เปิดประตูค้างไว้
“ควีนน่าจะอาหารเป็นพิษครับ ผมเรียกรถโรงพยาบาลมาแล้ว บอสก็คงไปกับควีนด้วย ตอนนี้พี่หมอบท้องเสียอยู่เหมือนกัน ในคลับตอนนี้ก็เลย...”
“เข้าใจแล้ว”
ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะใหญ่ถึงขนาดนี้ ครับ ถ้าไม่มีคิงกับควีน อำนาจตัดสินใจรองลงมาย่อมเป็นเรืออย่างพี่หมอบที่ต้องขึ้นแท่นเฝ้าออฟฟิศแทน แต่ถ้าพี่หมอบอยู่ในสภาพทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ตำแหน่งต่อจากนั้นย่อมเป็นตัวบิชอป ซึ่งจะแบ่งหน้าที่กันดูแลระหว่างคลับกับผับ
“บอสครับ รถพยาบาลมาแล้ว”
ไอ้คิงรีบอุ้มผมขึ้นทันทีแล้วเดินลงไปทางผับเพราะรถพยาบาลจอดอยู่ด้านหน้า ซึ่งก็ดีแล้วเพราะผมไม่อยากให้ทางคลับแตกตื่น เบอร์หนึ่งส่งกระต่ายขึ้นรถมาด้วยเพื่อให้รายงานสถานการณ์ นับว่ารอบคอบไม่เลว
“พี่นิล...ทำใจดีๆ ไว้นะครับ”
ผมขึ้นรถมาก็ยังผะอืดผะอมไม่เลิก กระต่ายให้กำลังใจผม หน้าตามันตอนโดนเรียกให้ขึ้นมาด้วยตกใจอย่างกับเห็นผี คงไม่คิดว่าผมจะหมดสภาพขนาดนี้
ไอ้หญิง...มึง...มัน...ฆาตกร... ครับ อย่างที่เบอร์หนึ่งบอก ผมอาหารเป็นพิษ...แถมยังเป็นขั้นรุนแรงด้วย
ไอ้ชายกับพี่หมอบที่นั่งกินด้วยกันก็ไม่รอดหรอก แต่แค่ท้องเสียหนักหน่อย ส่วนของผมนั้น...กระเพาะไม่รับเลยครับ เข้าทางไหนออกทางนั้น ไม่ย่อยของอันตรายใดๆ ให้ออกมาทางที่ถูกที่ควร เลยทะลักออกปากมาครบทุกกับข้าวที่กินไป ไอ้คิงเองก็ไม่รอด หลังส่งผมเข้าโรงพยาบาลเชื้อก็เพิ่งมา มันเวียนเข้าห้องน้ำตลอดระหว่างผมนอนแบ็บให้น้ำเกลือ
“นิล กูขอโทษ”
“หญิง....” ผมมองเพื่อนรักที่ทำหน้าสำนึกผิดด้วยน้ำเสียงโรยแรง “นั่นไม่ใช่อาหาร...มันคือยาพิษ!”
เป็นไงครับเรื่องราวสยดสยองของผม แต่...นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
แม้ผมจะเคยนอนโรงพยาบาลมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ตอนกลางคืนผมนอนไม่หลับ เพราะปวดมวนในท้องตลอดเวลาแถมพอกินยาแก้คลื่นไส้เข้าไปก็เริ่มจะอยากถ่ายท้องบ้างแล้ว...
ผมมองไอ้คิงที่นอนบนโซฟาข้างๆ แน่นอนว่าเมียรักนอนให้น้ำเกลือ ไอ้คิงย่อมให้ผมอยู่ห้องผู้ป่วยเดี่ยวและเฝ้าด้วยตัวเอง
“คิง...” ก็ไม่อยากจะปลุกหรอกนะเพราะสภาพไอ้คิงตอนนี้ก็โรยแรงจากการทิ้งระเบิดติดต่อกัน แต่บอกเลยนิลกาฬแย่กว่านั้น แค่ทรงตัวยังทำไม่ได้เลยครับขอบอก “คิง...”
เสียงเบาหวิวอย่างกับผีหลอกวิญญาณหลอน ไอ้คิงถึงกับสะดุ้งยกหมัดขึ้นมา...มึงจะต่อยผีรึไงวะ
“ปวดตรงไหน” พอเห็นว่าเมียเป็นคนเรียกไอ้คิงก็ลุกมาเกาะขอบเตียง ยกมือทาบบนหน้าผากและลำคอของผม...อาหารเป็นพิษหนักจนไข้ขึ้นอ่ะคิดดู ชีวิตนี้ไม่มีใครรันทดเกินนิลกาฬอีกแล้ว
“กูปวดขี้”
กับผัว ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา ไอ้คิงเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี ช่วยอุ้มผมลงจากเตียงในท่าเจ้าหญิง แต่พอจะเดินแม่งทรุดครับ ทรุดต่อหน้าต่อตาจนผมร้องเฮ้ย รีบเกาะขอบเตียงแทบไม่ทัน
ผัวผมหมดน้ำยาแล้ว โฮ!
แต่จะโทษมันก็ไม่ได้ กว่าจะได้นอนดีๆ ไอ้คิงเข้าห้องน้ำไปห้ารอบ พลังงานที่สะสมมาคงถูกใช้จนหมดเกลี้ยง แม้จะเก่งกาจแค่ไหนพอเจออาหารไอ้หญิงเข้าไปก็กลายเป็นคนปวกเปียกสิ้นเรี่ยวแรงในทันที
สองผัวเมียเลยพากันประคองกันเข้าส้วม ชีวิตจะอนาถกว่านี้อีกมั้ย ไอ้คิงช่วยโอบเอวผมขณะที่มืออีกข้างต้องลากเสาน้ำเกลือมาด้วย กว่าผมจะไปนั่งแหมะกับชักโครกได้แทบหมดแรง ถ้าไม่ติดว่าข้าศึกบุกจ่อตรงประตูชัย ผมคงชิงเป็นลมไปก่อนแล้ว
ไอ้คิงตบบ่าให้กำลังใจเมียก่อนจะปิดประตูรอหน้าห้องน้ำ ส่วนผมก็ปลดปล่อยตัวเองสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น นั่งฟินอยู่สักพักก็ทำธุระเสร็จ แต่ไม่ทันจะกดชักโครกไอ้คิงดันพรวดพราดเปิดประตูเข้ามา ล่อซะผมสะดุ้งเฮือก
“มีอะไรวะ”
“เปล่า” ไอ้คิงรีบตอบหน้าตาย พอเห็นผมกดชักโครกก็ช่วยประคองไปที่เตียง ขาไปว่าลำบากแล้ว ขากลับนี่แย่กว่าเดิมครับ เพราะผมขาสั่นพั่บๆ เนื่องจากท้องโล่งสุดขีดไม่มีอะไรหล่อเลี้ยงเป็นกำลังกาย จนต้องแย่งไอ้คิงถือเสาน้ำเกลือ หวังเป็นที่ยึดเหนี่ยวแทน
หลังทิ้งตัวลงนอนได้ผมก็ถอนหายใจเฮือก รู้สึกปวดท้องน้อยลงแต่ยังคลื่นไส้อยู่นิดหน่อย คาดว่าจะหลับสบายขึ้นไม่ต้องทนทรมานนอนตาปริบๆ เลยโบกมือไล่ไอ้คิงไปตรงโซฟา
แต่มันไม่ไปครับ
ผมมองไอ้คิงอย่างฉงน นึกงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น
“คิง...”
“ไม่มีอะไร”
ไม่ทันถามแต่ชิงตอบก่อนนี่ร้อนตัวชัดๆ! แม่งต้องปิดบังอะไรผมแน่นอน!!
“คิง...”
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
มันต้องมีแน่ ต้องมีแน่ๆ อ่ะเชื่อผมสิ!ผมชักหวาดเริ่มสอดส่ายสายตาเพื่อหาสาเหตุ แต่ไอ้คิงกลับดันศีรษะผมให้นอนตะแคงหันเข้าหามัน พร้อมกับยกมือทาบตาเหมือนไม่อยากให้เห็นอะไรไม่ดีไม่งามเข้า
“ไอ้คิง มึงทำกูกลัวนะ”
ผมสังหรณ์ประหลาด พวกเราคบกันมานานเปิดเผยทุกเรื่องไม่เคยปกปิดหรือโป้ปดมดเท็จ แล้วอะไรกันล่ะที่ทำให้มันทำตัวมีพิรุธ คนอย่างไอ้คิง...เคยกลัวอะไรด้วยรึไง ถ้าจะกลัวก็คงมีแต่...ผี...
ผี!!ผมสะท้านไปทั้งตัว ถึงนิลกาฬจะไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่นะเว้ย!
เห็นแก่ความหวังดีของผัว ผมเลยทำตัวว่าง่ายนอนหลับตาไม่สอบถามอะไรเพิ่มเติม ไม่แม้กระทั่งจะไล่มันไปนอนบนโซฟา แต่พอนอนนิ่งสักพักผมก็เหงื่อแตกพลั่ก พูดเสียงสั่นทั้งน้ำตาว่า
“ไอ้คิง กูปวดขี้...”
ไม่ต้องมองด้วยสายตาอย่างนั้นเลยนะ! ถ้าอั้นได้ก็อยากอั้นจนถึงเช้าอยู่หรอก แต่โปรดเข้าใจนิลกาฬเถิด ท้องเสียไม่ใช่เรื่องตลก แม้จะกลัวผีแต่คนก็ต้องขี้ป่ะวะ!
ไอ้คิงลูบหัวผมแปะๆ เป็นการปลอบขวัญ ก่อนจะช่วยพยุงผมลงจากเตียงอีกครั้ง ระหว่างเราสองคนแทบไม่พูดอะไรเลยนอกจากการก้มหน้าก้มตาเดินไปยังจุดมุ่งหมายให้เร็วที่สุด พอหย่อนก้นบนชักโครกแสนรักไอ้คิงก็ปิดประตู ซึ่งงวดนี้มันยืนรออยู่ในห้องน้ำกับผมด้วย
เราสองคนสบตากัน ผมไม่พูด ไอ้คิงก็ไม่พูด ต่างคนต่างมองด้วยความเข้าใจกันและกันสุดแสน วินาทีนั้นผมคิดว่าคนที่รักกันยาวนานเป็นยี่สิบปีก็ไม่เท่ากับคู่เราที่เผชิญสถานการณ์แบบนี้ในช่วงเวลายี่สิบนาที
ผมรีบสะสางธุระเท่าที่สภาพร่างกายจะอำนวย ชักลังเลแล้วว่าควรจะย้ายฟูกมานอนในห้องน้ำดีมั้ย จะได้ไม่ต้องเทียวเข้าเทียวออก และคอยพะวงกับอะไรก็ตามที่อยู่ข้างนอกด้วย
ถึงจะคิดก็ทำไม่ได้หรอกครับ ไอ้คิงช่วยพยุงผมอีกครั้ง พากันเดินไปที่เตียงอย่างปลอดภัย แต่ในวินาทีที่กำลังถดตัวขึ้นนอนนั้น หางตาผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง...
เหยดเขร้!ขาผมสั่นอยู่แล้ว มือก็สั่นหน่อยๆ เพราะหมดแรง แต่ตอนนี้ถึงกับสั่นกึกๆ ทั้งตัวเลยครับ
เหยดเขร้! เหยดเขร้! เหยดเขร้!พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ผมอ้าปากพะงาบๆ ใส่ไอ้คิงเพื่อจะสื่อว่า ‘กูเห็นแล้ว...กูเห็นแล้วไอ้เชี่ยย!’
เห็นอะไรน่ะเหรอครับ...ผมว่าพวกคุณคงไม่อยากรู้หรอก แต่ถึงไม่อยากรู้ผมก็จะเล่า! สิ่งที่ผมเห็น...คือเงาร่างในชุดคนป่วยที่ยืนอยู่ตรงประตูทางออกเลยครับพี่น้องครับ! ปลายตีนผมเลยเนี่ย!!! ตอนแรกผมก็ไม่สังเกตหรอกเพราะห้องมันมืด จะมองไปทางไหนก็สลัวๆ ไปหมด แต่ตอนนี้คือเต็มสองตาเลยขอรับพี่น้องครับ จะไปเปิดไฟก็ไม่ได้เพราะสวิตซ์แม่งอยู่ตรงนั้นอ่ะ!
หรือควรจะหนีเข้าห้องน้ำตามแผนเดิมดี ผมมองไอ้คิงด้วยตาเบิกกว้าง นอนไม่หลับแล้วครับ ระแวงโคตร!
ไอ้คิงจับมือผมแน่น เราสองคนสบสายตาแน่วแน่ ในหัวคิดวนเวียนหลายประโยคแต่ความหมายเหมือนกันคือ...
เธออยู่ข้างฉันฉันอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีทางแยกเราสองคนได้ ฮืออออ อย่าทิ้งกูนะโว้ย!ไม่น่าเชื่อครับ ณ วินาทีนั้นผมขี้หดตดหาย ขวัญฟ่อนอนตัวสั่นกึกๆ อยู่บนเตียง พาลจะจับไข้ซะให้ได้ เออ แต่ผมก็ไข้ขึ้นอยู่แล้วนี่หว่า ชีวิตจะซวยซ้ำซวยซ้อนไปถึงไหน ผมเริ่มนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สวดมนต์พึมพำไม่หยุด แต่สุดท้ายท้ายสุด ก็ไม่มีพระที่ไหนมาช่วยหรอกครับ มีแต่ไอ้คิงเนี่ยที่อุ้มผมลงจากเตียง แข็งแรงปานโคถึกทั้งที่เมื่อกี้ยังร่อแร่ สงสัยอะดรีนาลีนจะหลั่งครับ มันอุ้มทั้งผมทั้งผ้าห่มไปนอนด้วยกันที่โซฟา หันหัวไปทางประตูแล้วหันขาออกนอกหน้าต่าง เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นอะไรไม่ถูกไม่ควร
“คิง...”
“เดี๋ยวก็เช้า นอนซะ” ไอ้คิงตบหลังผมที่นอนคว่ำทับบนตัวมันเพราะที่บนโซฟาค่อนข้างแคบด้วยน้ำเสียงแกมบังคับขณะลากสายเสาน้ำเกลือมาด้วย ทุลักทุเลสุดๆ อ่ะ
ผมแปลกใจมากที่มันไม่ยักกลัวผีทั้งที่ผมแทบสติแตก แต่มานึกได้ว่ามันก็คน จะไม่รู้สึกเลยคงไม่ใช่ ไม่งั้นคงไม่วิ่งโร่เปิดประตูเข้ามาด้วยหน้าตาตื่นตกใจขนาดนั้น แต่มันคิดถึงใจเมียเป็นสำคัญ เห็นผมอาหารเป็นพิษจะตายอยู่รอมร่อเลยเลือกปิดปากเงียบ ทำเป็นไม่รู้สึกอะไร
มือที่ตบหลังผมอยู่นั่นก็สั่นเหมือนกันเถอะ ปัดโธ่!ทั้งที่ยังกลัวจนใจเสียแทนท้องแต่ผมก็ยังยิ้มออก ซุกหน้ากับอกไอ้คิงแล้วนอนหลับตา รู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัวและใจ ต่อให้ระแวงว่าผีจะเขยิบเข้ามาใกล้รึเปล่าก็ช่างแม่งแล้วครับ ผมกับไอ้คิงนอนกอดกันกลมขนาดนี้จะมาหลอกท่าไหนก็ไม่เห็นหรอก หมายถึงผมอ่ะนะ...ก็ลืมตามาเจอแต่แผงอกของมัน ลำคอของมัน ใบหน้าของมัน...
สุดท้ายคืนนั้นผมก็เคลิ้มกับมือที่คอยตบหลังเป็นระยะเหมือนกล่อมเด็กจนหลับไป
ตื่นมาอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงแล้ว หมอเข้ามาตรวจอาการแล้วบอกว่าถ้าวันนี้ผมไม่ถ่ายท้องหรืออาเจียนอีกก็ออกจากโรงพยาบาลได้เลย แต่เพื่อความปลอดภัยให้กินอาหารเบาๆ ก่อนเพราะยังมีเชื้อตกค้างอยู่ ประเดี๋ยวจะอ้วกพุ่งเอาได้
ช่วงบ่ายไอ้คิงเลยขับรถพาผมไปฝากไว้ที่บ้านไอ้หญิงเพราะผมยังไม่มีแรงและมีไข้ต่ำๆ ต่อให้ไม่พูดแต่คิงก็รู้ว่าถ้าโดนทิ้งไว้ที่คอนโดคนเดียวระหว่างมันไปทำงานผมไม่ยอมแน่ๆ แม่ง ภาพยังติดตาอยู่เลยครับ
“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าวะ”
ผมสะดุ้งเมื่อไอ้หญิงถามตอนช่วยเช็ดตัวให้ชดเชยที่ปรุงยาพิษจนเกือบฆ่าเพื่อน
“ทำไมถามงี้”
“ก็ตอนผัวมึงจะไปทำงานเล่นมองหน้ากันอาลัยอาวรณ์ฉิบหาย ปกติก็เห็นรักกันปานจะกลืนกินอยู่แล้ว แต่นี่เล่นเอาคนนอกอย่างกูมองแล้วใจจะขาดตาม เหมือนเจออุปสรรคที่ต้องฟันฝ่าจนผูกพันกันลึกซึ้งมากขึ้นอย่างนั้นล่ะ”
ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ แอบคิดในใจว่า...อุปสรรคทั้งหลายนั้นไม่สู้เจอผีตนเดียว!
คืนนี้บอกให้ไอ้คิงค้างสักคืนแล้วพรุ่งนี้ปลุกมันไปตักบาตรด้วยกันดีกว่า
เอวัง
-------------------------
ตอนอะไรกันเนี่ย 55555
อย่าถามนะคะว่าเราคิดพิลึกอะไร เราก็ไม่รู้! 555 แค่อยากลองแต่งนิลเข้าโรงพยาบาลเฉยๆ ค่ะ แต่เพราะเป็นตอนพิเศษไม่อยากมาม่าหนัก ก็เลยมาลงเอยที่อาหารเป็นพิษเพราะหญิงแทน แต่ไอ้ครึ่งหลังนี่มาไงคืองงตัวเองเหมือนกัน รู้แต่พี่คิงแมนมาก มีผัวแบบนี้รักตายหลงตายเลยเจ้าค่าเอ๊ย!
สรุปแล้วเล่ม Special นี้ จะไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่จบจากเรื่องหลักสองปี มาตอนหญิงเพิ่งท้อง ท้องสามเดือน ห้าเดือน ( ตอนนี้ ) แล้วตอนหน้าจะเป็นตอนที่หญิงคลอดแล้วค่ะ จากนั้นก็นิลเลี้ยงหลาน หลานโต หลานเตาะเเตะ นิลไปฮันนีมูน
ในเล่มจะมีภาพขาว-ดำ แนะนำตัวละครจิบิ (วาดใหม่) ไล่ตั้งแต่เรือ บิชอป อัศวิน ด้วย
และจะมีภาพหลานๆ ด้วยค่ะ อันนี้อุบไว้ก่อน เพราะยังไม่ถึงตอนคลอดเนอะ
( ลงให้อ่านเรื่อยๆ แต่จะลงไม่จบเล่มนะคะ )
ว่าแล้วก็แปะทีเซอร์ตอนหน้า...
ตั้งแต่คบกับไอ้คิงมาสองปีกว่า ผมตัวติดกับมันยิ่งกว่าปาท่องโก๋ ยิ่งกว่าช้อนกับส้อม ยิ่งกว่าดินสอกับยางลบ ยิ่งกว่าพระจันทร์และดวงดาว ยิ่งกว่าผืนฟ้าบรรจบผืนดิน ยิ่งกว่าใดๆ ในโลกนี้ทั้งปวง ฉะนั้น...การที่จู่ๆ ต้องห่างกับมันเป็นอะไรที่นิลกาฬเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจเป็นอย่างมาก
“สามวันนะเมีย”
“เออ กูรู้แล้ว ไม่ต้องมาย้ำ” ผมเอ่ยเสียงเรียบพยายามที่จะไม่ฟูมฟาย เพราะไอ้คิงมีเหตุจำเป็นต้องไปต่างจังหวัดเพื่อเจรจากับคู่ค้าสามวัน ปกติแล้วควีนที่มีหน้าที่เดินไปเดินมาอย่างผมพร้อมจะเกาะติดไปกับคุณสามีทุกครั้งไม่เคยห่างหาย เสียก็แต่ช่วงนี้...ไอ้หญิงมันอยู่ในช่วงอันตราย พร้อมจะคลอดได้ทุกเมื่อ
‘นิล มึงเป็นพ่อทูนหัวลูกกูนะ มึงต้องอยู่กับกูวันคลอดนะเหี้ยนิล’
ผมรับปากไอ้หญิงไปแล้ว รับปากตั้งแต่มันเพิ่งท้องได้แค่สามเดือนกว่าๆ นั่นแหละ และกับแค่การห่างกับผัวสามวัน ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรในเมื่อหลานคนแรกของผมใกล้จะลืมตาดูโลก ซึ่งไอ้คิงก็เข้าใจ มันไม่ได้ขอให้ผมไปด้วยกัน แต่บอกให้ช่วงนี้ผมไปนอนค้างบ้านหญิง แล้วให้ไอ้ชายแวะมารับไปคลับ มันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะถูกลักพาตัวระหว่างที่มันไม่อยู่ แหงล่ะ ใครจะกล้าบุกป่าฝ่าดงบ้านของท่านผู้บัญชาการเล่า
“ถ้าหญิงคลอดก่อนมึงกลับมา กูจะโทรหานะ”
“อืม”
ผมมองไอ้คิงด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ คือแบบ...ก็แค่สามวันป่ะวะ ทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะจากกันสามเดือนด้วยเนี่ย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่มันสปอยเมียเกินไป เกาะติดเมียเกินไป ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องจ้ำจี้มะเขือเปราะก่อนนอนตลอด เอ๊ะ หมายความว่าคืนนี้ผมอดเหรอวะ ฮือออ มังกรของนิลกาฬ
“เมีย มองหน้ากูสิ” ไอ้คิงพูดเสียงขรึมเมื่อสายตาผมเริ่มมองต่ำ
“ขอกูอำลามังกรก่อน”