ตอนที่5-ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ
เนปจูนกับนนท์กลับมาถึงห้องในเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่แล้ว
พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์เขาคงต้องกลับบ้านไปทานข้าวกับน้องๆและพี่ชาย
ทั้งที่จริงแล้ววันนี้ต้องไปแต่เนื่องจากเคลียร์งานยังไม่เสร็จเลยขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้แทน
เขาบอกนนท์ให้ไปอาบน้ำก่อนจะมานั่งแหมะอยู่โต๊ะคอมหยิบรูปลูกค้าคนแรกขึ้นมาดู
คุณติณณภพ(เรียกในฐานะลูกค้า)ตัวจริงดูดีมาก ตอนนั่งกินเหล้าด้วยกันก็มีสาวๆเข้ามาหาไม่ขาดสาย
ต่างจากเขาที่ส่วนมากจะมีหนุ่มๆเข้ามาแต่ก็โดนกีดกั้นไปทุกราย เพราะไอ้นนท์ดันไปบอกว่าเขาเป็นผัวมัน -*-
เขาเป็นคนชอบคนง่าย รู้ตัวเลย แล้วยิ่งผู้ชายอย่างลูกค้าคนแรกของเขาโคตรจะตรงสเป็ก
แต่ก็แค่นั้น เพราะมันเป็นลูกค้าและไม่ใช่เกย์ ความเป็นไปได้ในทางชู้ชายตอนนี้เลยติดลบศูนย์
“เอารูปไอ้ติณมาจากไหนวะ” นนท์เดินเช็ดผมมายืนข้างหลังเพื่อน
“ลูกค้าคนแรกกูไง อย่าบอกใครละ” เนปจูนบอกแล้ววางรูปลง เดินไปนั่งโซฟาดูทีวี
“พูดเป็นเล่นป่ะจูน ไอ้ติณอ่ะนะมาจ้างบริษัทมึง” นนท์เดินตามไปนั่งข้างๆ
“เล่นไม่เล่นก็เป็นไปแล้วนี่หว่า”
“เหอะ มันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองพุทธวะ” นนท์พูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับมันมากกว่า” เนปจูนบอกแล้วเปลี่ยนช่องทีวี
จริงๆแล้วก็สงสัยอยู่มากเหมือนกันว่าทำไมมันไม่ไปจีบอิงฟ้าเองทั้งที่หน้าตาก็ให้
หล่อจนใครๆอยากควง แค่เดินเข้าไปบอกน้อง ขอเป็นแฟนก็คงได้แล้วมั้ง...
...
..
.
“พี่ติณ หวัดดีคร้าบบ”
หนุ่มน้อยชื่อหมูแดงมีศักดิ์เป็นน้องรหัสวิ่งมายกมือไหว้ติณ
แล้วรีบเดินขึ้นตึกไปเรียนอย่างเร่งรีบจนติณต้องป้องปากด่าตามหลัง
“เหี้ยหมู รีบขนาดนี้ไม่ต้องแวะไหว้กูก็ได้ สัด!” เขาส่ายหัวเล็กน้อย
กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีอีกคนมายืนขว้างไว้
“เออ...มึง”
“อ้าว มึง เจอกันเมื่อคืนนี่”
.....
“มีอะไร” เขาถามงงๆ เมื่อเห็นเนปจูนยังยืนเกาหัวเก้อๆไม่พูดอะไร
“เออ...มึง เอ๊ย...คุณติณณภพ”
“หือ?”
“คือ...กู ไม่ใช่...ผม...มาจากบริษัทพ่อสื่อที่คุณโทรไปจ้างน่ะ”
“หะ มึงว่าอะไรนะ” ติณถามอึ้งๆ โลกคงไม่กลมขนาดนั้นมั้ง
“อย่างที่ได้ยินแหละ แล้วพี่เจ้าของบริษัทมอบหมายงานนี้ให้ผมทำ”
ติณเงียบ พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นมันทำหน้าจริงจัง
แต่ปากมันที่พูดขยับเจื้อยแจ้วทำให้เขายืนมองซะเพลินเลย
“วันนี้ผมมาบอกคุณลูกค้าว่าเราอาจจะได้ทำงานร่วมกันบ้างบางครั้ง
และถ้าคุณอยากให้ผมทำอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากที่ผมทำได้ก็บอกแล้วกันนะครับ”
“เออ อืม” เขาขานรับ ยืนมองมันจนเดินลับตาไป พอรู้ตัวก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้
สรุปคร่าวๆว่าที่มันมายืนขวางหน้าแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ยาวเหยียดนี่เพื่อจะแนะนำตัวแค่นั้น?
RRR
“เออ ว่าไง”
(อยู่ไหน จะขึ้นเรียนแล้วนะเว้ย) เสียงมิตรโวยวายมาตามสายจนเขาต้องส่ายหน้ายิ้มๆ
“แถวห้องน้ำ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ รอด้วย”
วางสายเสร็จก็รีบจ้ำอ้าวกลับคณะ ทั้งที่เมื่อกี้ก็เดินจะถึงอยู่แล้ว
แต่ดันเจอลูกค้าเสียก่อน จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางแวะเข้าไปทักทาย
รู้มั้ยว่าทำใจกล้าพูดต่อหน้ามันแบบไม่ให้เสียงสั่นแทบไม่ไหว แม่ง
ก็เล่นยืนจ้องเงียบๆไม่พูดอะไรสักคำ ใครมันจะทนยืนคุยอยู่ด้วยได้นานๆว่ะ
...
..
.
RRR
(จูนเริ่มงานเป็นไงบ้าง)
“ก็...วันนี้ผมไปแนะนำตัวกับลูกค้าแล้วครับ”
(ทำแค่นี้เหรอวันนี้)
“ครับ”
(เค้าให้เวลาแค่สองอาทิตย์นะ ยังไงก็เร่งหน่อยแล้วกัน)
“ครับ”
(เดี๋ยวกูโทรหาอีกที)
“ครับ...หวัดดีครับ” วางสายจากพี่ลูกแก้วเสร็จ ทั้งเสียงและหน้าจ๋อยพอกันจนตั้มต้องถาม
“เจ้านายด่าเหรอว่ะ”
“เปล่า...เดี๋ยวกูขอตัวก่อนนะพวกมึง เจอกัน”
เขาลาเพื่อนเดินกลับมาที่รถ ยืนครุ่นคิดสักนิดว่าจะไปไหนดี ระหว่างร้านดอกไม้กับรอปรึกษาลูกค้า
“ฮู้ววว งานช้างเลยวะ”
“ยืนพูดไรคนเดียว” ติณที่เพิ่งเรียนเสร็จกำลังจะเดินผ่านไปรถตัวเอง
เห็นเนปจูนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพึมพำคนเดียวอดสงสัยไม่ได้เลยหยุดถาม
“ห๊ะ...ห่า...เออ...” คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งอุทานตอบออกมาแทบไม่เป็นคำ
พอเห็นว่าใครมาทัก เขาจึงตัดสินใจได้แล้วว่าตอนนี้จะทำอะไรหรือไปไหนดี
“เอ้า ด่ากูซะงั้น”
“เออ ขอโทษครับๆ มาก็ดีละ คุณว่างมั้ย” เนปจูนค้อมหัวขอโทษให้คนคนที่ยืนงงเพราะเขาเผลอด่า
“ว่าง มีไร”
“ไปร้านดอกไม้กับผมที”
“ไปทำไม”
“ผมหิว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย” เขาตอบหน้าตายไม่ยิ้มไม่อะไร ไปร้านดอกไม้ก็ไปซื้อดอกไม้น่ะสิ ยังจะมาถาม
“กวนตีนนะมึง ตกลงไปทำไม” ติณยืนเท้าสะเอวมองคนกวน
มันกวนแบบหน้าตายๆได้น่าเดินเข้าไปเขย่าหัวมาก
“ก็ไปซื้อดอกไม้ให้น้องอิงฟ้าไง”
“น้องเขาชอบดอกไม้เหรอ”
“ใช่ อิงฟ้าชอบลิลลี่สีเหลือง”
“มึงรู้รายละเอียดของน้องเขาเยอะมั้ย”
“ก็พอรู้ แต่บอกคุณไม่ได้หรอก มันเป็นความลับของบริษัท”
“นั่นสิเนอะ ถ้ารู้แล้วใครจะมาจ้างพ่อสื่อให้ไปจีบ” ติณหัวเราะเบาๆให้กับคำพูดของตัวเอง
จะมีสักกี่คนกันที่จ้างบริษัทพ่อสื่อให้ไปจีบคนที่ตัวเองชอบ
แต่อย่างน้อยหนึ่งในนั้นก็มีเขาแหละว้า
“คุณจะสะดวกไปเจอกันที่ร้านหรือจะไปรถผม” เมื่อเห็นว่าเสียเวลาคุยกันมานานเลยตัดบทเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา
“ไปเจอกันที่ร้านแล้วกัน ว่าแต่ที่ไหนละ”
“Lilly Richly คุณรู้จักไหม”
“แถวxxx ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“โอเค แล้วเจอกัน” ทั้งสองพยักหน้าให้กันก่อนจะแยกย้ายไปตามนัดที่ร้านดอกไม้
เนปจูนโทรไปบอกพนักงานในร้านให้เตรียมดอกไม้ไว้ และรีบขับรถมุ่งหน้าไปให้ถึงก่อนติณทันที
ร้านที่จะไป เป็นร้านแฟนของลูกพี่ลูกน้องเขา บางครั้งก็เบื่อๆไปช่วยจัดดอกไม้
นี่คือความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเขาที่ไม่ค่อยมีใครรู้นอกจากเพื่อนในกลุ่ม
ส่วนแผนงานพ่อสื่อให้หัวเขาตอนนี้ยังไม่มีอะไรมากเลย
ตอนนี้ที่คิดอย่างแรกเลยคือ กะว่าจะเอาดอกไม้ไปให้เขา แล้วบอกว่าใครฝากมาเพื่อดูปฏิกิริยาฝ่ายหญิงก่อน
เหมือนจะง่ายนะ แต่รู้มั้ยว่าโครตยากกกกกกกส์!!
นี่เขาบอกจากก้นบึ้งของหัวใจเลย แล้วยิ่งไอ้ตัวผู้ชายมันดีๆน้อยซะเมื่อไหร่ งานนี้เพิ่มความยากไปอีกสิบเท่า
...
..
..
.
ติณเดินเข้าร้านมา สายตาสอดส่องหาคนที่นัดไว้อยู่เกือบรอบร้านแต่ก็ไม่ยักเจอ จึงเดินเข้าไปถามพนักงานที่เค้าน์เตอร์
“ขอโทษครับ เห็นผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาผอมๆไม่ค่อยสูงเดินเข้ามาในร้านมั้ยครับ”
“อ๋อ...มาหาคุณเนปจูนใช่มั้ยคะ งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานสาวร้องอ๋อ
เดินนำไปยังมุมหนึ่งของร้านที่ค่อนข้างปลอดคน
ตรงนั้นมีผู้ชายคนที่ติณกำลังตามหายืนจัดช่อดอกไม้อยู่เงียบๆคนเดียว
“กำลังยืนจัดดอกไม้อยู่ตรงนั้นเลยค่ะ ให้ดิฉันเรียกให้มั้ยคะ”
“อ้อ ไม่ต้องครับ ขอบคุณมากฮะ” ติณค้อมหัวให้พนักงาน เหลียวมองจนเธอเดินลับหายไป แต่ยังไม่ยอมก้าวเข้าไปหา
ผู้ชายใส่ชุดนักศีกษา ชายเสื้อหลุดลุ่ยออกมานอกกางเกง ใบหน้าด้านข้างกำลังเต็มไปด้วยรอยยิ้มยืนจัดดอกไม้
หยิบต้นเล็กต้นน้อยเลือกพิถีพิถันอยู่นาน กว่าจะตัดสินใจตัดก้านของดอกที่คิดว่าดูดีที่สุดแล้วเสียบลงไปในก้อนฟลอราเซลล์
...ช่างเป็นภาพที่หาดูยากมากๆในความคิดของเขา
“ยืนจัดดอกไม้อย่างกับผู้หญิง” อดไม่ได้จริงๆที่จะแขวะเข้าให้เมื่อเดินเข้าไปมองใกล้ๆ
เอาจริงๆ ผู้หญิงบางคนที่ทำงานร้านดอกไม้ยังไม่อารมณ์ดียืนจัดดอกไม้มากเท่ามันเลย
“นี่ชมเหรอครับ” เนปจูนถาม พยายามทำหน้านิ่งๆไม่หันไปมอง
“กูพูด ไม่ได้ชม ว่าแต่มึงน่ะ พูดกับกูแบบปกติก็ได้นะ”
“ผมไม่กล้าหรอกครับ คุณเป็นลูกค้าของเรา ยังไงก็ควรจะสุภาพไว้ก่อน”
“เออ อย่าให้กูได้ยินมึงแอบหลุดมาแล้วกัน”
เมื่อเห็นว่ามันเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจัดช่อดอกไม้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกระแทกเสียงพูดตอบ
“แต่ถ้านอกเวลางานก็ไม่แน่”
“แล้วมึงทำงานเวลาไหนบ้าง”
“แล้วแต่อารมณ์”
“อ้าว...” ติณอุทานออกมาได้แค่นั้น ก็มีอันต้องปิดปากลงเพราะสายตาที่อีกคนส่งมาให้ออกแนวติดรำคาญแกมดุ
จากนั้นเขาเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเดินดูดอกไม้รอบๆแถวนั้นแทน
“เสร็จแล้ว” เนปจูนเอ่ยขึ้น
หยิบขวดน้ำบนโต๊ะมาฉีดช่อลิลลี่อีกสองสามทีเป็นปราการสุดท้ายก่อนจะยิ้มให้กับดอกที่จัดเองกับมือตรงหน้า
“ก็ดี” ติณเดินมายืนข้างๆ มองช่อลิลลี่สีเหลืองที่มีดอกหญ้าสีขาวแซมอยู่โดยรอบ
คนจัดยักไหล่ ยัดช่อดอกไม้ใส่มือลูกค้าแล้วเดินไปหยิบการ์ดเปล่า
“อะไร” ติณณภพถามอย่างงุนงง อยู่ดีๆก็ยื่นการ์ดมาให้ นี่อย่าบอกนะว่าจะให้เขาเขียนคำหวานๆลงไปเรอะ ไม่มีทาง
“จะเขียนอะไรหน่อยมั้ย” นั่นไงว่าแล้ว
“ไม่” ติณตอบทันทีแทบไม่ต้องคิด นั่นจึงทำให้เนปจูนทำหน้าเอือมใส่
“งั้นก็ตามใจ แต่ผมบอกคุณไว้ก่อนนะ ว่าให้เวลาเราแค่สองอาทิตย์ ถ้าผมทำงานไม่สำเร็จอย่ามาโทษแล้วกัน”
“ได้ไง กูจ้างบริษัทมึงตั้งแพง”
“แล้วพี่ลูกแก้วไม่ได้บอกเหรอ ว่าบริษัทเรามีระยะเวลาในการเป็นพ่อสื่อมากสุดเท่าไหร่”
“ไม่ได้บอกและกูรอไม่ไหวหรอก”
“งั้นทำไมคุณไม่ไปจีบเองเลยละ จะได้ทันใจ”
“ก็ถ้ากูกล้าจีบ จะมาจ้างบริษัทมึงทำไม” ติณเดินเข้าไปใกล้ พูดชัดๆตรงหน้า
“นั่นสินะ ผมนี่ถามอะไรไม่คิดจริงๆ” เนปจูนตอบแบบประชดออกแนวจิกกัดตัวเองไปในตัว
เดินเอาการ์ดกลับไปไว้ที่เดิม แล้วออกมาจ่ายตังค์ที่เค้าน์เตอร์ข้างนอกโดยมีติณเดินตาม
“จะกลับแล้วเหรอค่ะ”
“ครับ” เขายิ้มให้พนักงานเล็กน้อย ควักธนบัตรใบสีเทาออกมายื่นให้
“รู้เหรอว่าน้องอิงฟ้าอยู่ที่ไหน”
“รู้ครับ”
“กูไปด้วยได้มั้ย”
“ไปได้ แต่ห้ามตามดูระหว่างผมปฏิบัติงาน ยังจะไปอยู่มั้ย”
“ไป งั้นเอารถกูไป ส่วนรถมึงจอดไว้นี่แหละ เดี๋ยวค่อยมาเอา”
“ครับ” เนปจูนพยักหน้า เดินตามติณไปที่รถ
“ไปไหน”
“ห้องสมุดประจำจังหวัด”
*โปรดติดตามตอนต่อไป*เนปจูน
.
.
.