12.Github จัดการโค้ดได้แต่จัดการใจน้องซวยไม่ได้
“ไอ้เหี้ย บอยแบนด์เกาหลีคัมแบคอีกรอบแล้ว”
พี่เดี่ยวว่าพร้อมกับลุกจากเก้าอี้ตัวเองเดินออกมาหาพัชที่วันนี้เปลี่ยนไปตั้งแต่หัวจรดเท้า
“น้องครับ มาผิดห้องเหรอ”
พี่เอกว่าพร้อมกับหัวเราะ เอาจริงๆก็เขินน้องมันด้วยแม้ไม่รู้จะเขินทำไม พาซวยแค่ไม่เหมือนเดิมแล้วเท่านั้นเอง
“อ้ายยยย เห็นไหมบอกแล้ว”
ตอนแรกพาโชคก็ไม่ได้รู้สึกว่าแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมทุกวันบ้างจะแปลกตรงไหน แต่พอทุกคนดูตื่นเต้นก็พาลทำมันเขินไปด้วย
“หล่อเว้ยน้องกู”
พี่บอลผู้เป็นแฟชันนิสต้าอีกคนของห้องเดินเข้ามาพอดี พี่บอลเคยคุยกับเจนอยู่บ่อยๆว่าถ้าพาโชคแต่งตัวดีๆคงจะหล่อน่ารักพอตัว และแล้ววันนี้ความฝันของพี่ๆก็เป็นจริง
“พี่เจนไปช่วยเลือก”
พัชบอกพี่บอล
“ดีๆ โอย กูดีใจ”
พี่บอลที่ค่อนข้างเก็บตัวดูพออกพอใจจนพี่เดี่ยวขำ
“เหมือนส่งลูกเข้าโรงเรียนได้อ่ะมึง”
ทุกคนขำก่อนจะแยกย้ายกันไปนั่งทำงานเช่นเดิม วันนี้หัวหน้าหัวหน้ายังไม่โผล่หน้ามาแม้จะเกือบสิบโมงเช้าแล้วก็ตาม หลังๆมานี้หัวหน้าไม่ค่อยโทรหรือแชทตามพาโชค น่าจะยุ่งๆกับทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องคดี แต่บทจะเจอกันก็จะไปเห็นรถคันใหญ่จอดอยู่ที่หน้าบ้านเสียดื้อๆ ลูกพี่จะมาขอนอนที่โซฟาด้วยบ้าง ขอกินข้าวบ้าง ทำอย่างกับเป็น homeless ทั้งๆที่เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ พัชว่าจะลองคิดค่าน้ำค่าไฟจากลูกพี่ดูเหมือนกัน
“พัช เอ่อ”
พี่ธามที่ช่วงหลังๆไม่ค่อยโผล่หน้ามาที่ห้องเดฟบ่อยนักเปิดประตูมาเรียกไอ้ซวยแต่ก็ผงะไป เป็นที่ขำขันของเจนที่มองอยู่พอดี
“นี่พนักงานใหม่เหรอครับ”
พี่มันแซว ที่จริงวันนี้พัชไม่ได้เปลี่ยนไปแค่การแต่งตัว แต่ผมที่เริ่มยาวถูกตัดแล้วเซ็ทเป็นทรง ทำให้หน้าที่แต่เดิมเรียวได้รูปเด่นขึ้นมาอีก
“ถ้าถอดแว่นนี่พี่คงคิดว่าเข้ามาผิดห้อง”
“ถ้ามารีพอร์ทบัคไม่ต้องเข้ามาก็ได้พี่”
พาโชคบอกส่วนพี่ธามเอาแต่ยิ้ม
“ไปตัดผมร้านที่พี่พาผมไปคราวนั้นแล้วช่างเขาจำผมได้ด้วย”
พัชบอกเพราะกลับไปตัดผมร้านเดิมพร้อมคูปองลด 30% ที่ได้มาจากคราวที่แล้ว
“เห็นไหมบอกแล้วว่าร้านนี้เขา service ดี”
“พาเจนไปด้วยได้ไหมคะ”
น้องเจนที่ยืนยันตนแล้วว่าอยู่ทีมพี่ยูถามลูกพี่ฝั่งเทสเตอร์
“เจนจะตัดทรงผู้ชายไหมล่ะ มันเป็นร้านตัดผมชาย”
ซึ่งพี่ธามก็ตอบกลับได้ดีจนเจนทำหน้าบูด ไม่นานนักก็มีผู้มาใหม่ผลักประตูเข้ามา ดูแค่ไหล่ก็รู้แล้วว่าเป็นลูกพี่ พี่ยูที่เห็นเพื่อนธามยืนขวางทางเดินอยู่บ่นเพื่อน
“มึงมาทำไมแต่เช้า”
“มาหาพัช”
พี่ธามตอบตามปกติ ส่วนพี่ยักษ์ผู้ที่กำลังเป็นที่จับตาของทุกคนในห้องยังไม่รู้ตัวจนกระทั่งหันมาเจอไอ้น้องเล็ก
“บัคเหรอ...วะ”
นิ่ง...เป็นคำเดียวที่อธิบายทุกอย่างได้ดีในตอนนี้
“เมื่อกี้โลกหยุดหมุนเหรอคะ”
เจนว่า พี่เอกที่เห็นเหตุการณ์พอดีขำเสียงดัง เรียกได้ว่าขำจนจุก ส่วนพี่บอลกับพี่เดี่ยวทำได้แค่กลั้นหัวเราะเพราะเกรงใจลูกพี่ซึ่งทำเอาหน้าเบี้ยวไปตามกัน อยากขำแต่ขำไม่ได้นี่มันทรมาณเหลือเกิน
“เอานี่มาให้ พี่ไปชะอำมา”
พี่ธามผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดชูถุงขนมและชองฝากที่ถือมาด้วย
“โห พี่ธามนี่เป็นตัวอย่างของหัวหน้าที่ดี พี่ยูไปถึงเชียงใหม่แคปหมูยังไม่มีสักถุง”
เจนว่าประชดลูกพี่แล้วก็หันมาถามความคิดเห็นไอ้โชค
“เนอะพัช”
พัชที่หัวไวอยู่แล้วรีบรับมุข
“ครับ ผมก็อยากกินสตรอว์เบอร์รีเชียงใหม่”
พอน้องเล็กพูดจบพวกพี่ๆในห้องก็รอรับฟีดแบคจากหัวหน้า
“เดี๋ยวพี่พาไป พ่อพี่มีสวนสตรอว์เบอร์รีกับส้ม”
“โอ้ยยย”
และแล้วพวกที่นั่งเงียบๆก็ส่งเสียงโวยวายเชียร์เป็นที่สนุกสนานแม้จะโดนหัวหน้าส่งสายตาขู่ ส่วนพี่ธามไม่ได้สนใจ พี่แกหันมาคุยกับพาโชคแทน แม้จะไม่มีสวนสตรอว์เบอร์รีให้ก็ตาม
“ตอนกลางวันไปกินเตี๋ยวเป็ดกับพี่ไหม"
พาโชคผู้ไปกินข้าวกลางวันกับพี่ธามบ่อยแทบจะสนิทกับฝั่งเทสเตอร์เกือบทุกคนแล้ว ดีไม่ดีถ้ารำคาญหัวหน้ามากๆพัชว่าจะย้ายแผนกไปอยู่ชั้น 31 กับเทสเตอร์เลย
“ไม่ไปพี่ธาม ขอบคุณครับ ผมนัดกับพี่เจนว่าจะไปกิน mk กัน”
พัชตอบเพราะถูกพี่เจนล็อคตัวไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว หัวหน้ามองเพื่อนตัวเองกับลูกน้องกำลังคุยกันแล้วโพล่งขึ้นมาบ้าง
“ไม่เห็นชวนกูบ้าง”
พี่ธามหันมามองหน้าพี่ยูก่อนจะถาม
“ไปไหมล่ะ”
“ไม่ กูจะไปกิน mk”
พี่เอกที่ยังไม่เข้าโลกส่วนตัวพึ่งสังเกตว่าวันนี้หัวหน้าตัวเองเล่นหัวหน้าชั้น 31 หนักเกินปกติ หันไปหาเจนก็เจอน้องกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่ใช่เพราะพวกพี่เอกเป็นผู้ชายเลยไม่สังเกตเรื่องแปลกๆของหัวหน้าหรอก แต่เพราะเป็นผู้ชายถึงได้แต่คอยดูอยู่ห่างๆต่างหาก
***
“ใครบอม master แอปสายการบินอีกแล้ววะ”
บ่ายวันนั้นในระหว่างที่เป็ดย่าง mk กำลังว่ายวนอยู่ในท้อง หัวหน้าที่กำลังทำงานหน้ายุ่งก็โพล่งขึ้นมา
“ผมเปล่า”
พี่เดี่ยวตอบ
“เมื่อเช้าใคร merged”
พาซวยหน้าซีดเพราะเป็นคนที่กดปุ่มสีเขียวเพื่อ merged งานตัวเองเข้า master ของโปรเจคเมื่อเช้านี้ ในขณะที่ลูกพี่กำลังไล่ดู history ในโปรเจคไอ้ซวยก็สวดมนต์ให้ตัวเองไปด้วย
“พัช!”
ลูกพี่เรียกเสียงดัง พัชถึงได้รู้ตัวว่างานงอกแน่นอน ต่อให้ตอนนี้พี่ยูดูแบ้วขึ้นแค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องงานก็ยังโหดเป็นยักษ์อยู่เหมือนเดิม พาโชคหันไปมองตาลูกพี่แค่ชั่วครู่ก่อนจะไหว้งามๆแบบที่ในชีวิตไม่ค่อยได้ทำ
“ขอโทษครับ”
พัชยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะลากเก้าอี้ไปหาหัวหน้าอย่างรู้ตัว
“ผมเห็นปุ่มมันเขียวเลยกด merged”
ลูกพี่ที่มีงานอื่นรออยู่เป็นภูเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในระหว่างที่พี่บอลคิดว่าไอ้ซวยอาจจะโดนหัวหน้าแดกหัว เจนกลับกำลังแอบเหล่ดูว่าลูกพี่นั้นจะดุเด็กในปกครองยังไงในเมื่อตอนนี้ดูเหมือนพัชจะถือไพ่เหนือกว่า
“พัชต้องให้พี่ไล่โฟลว์ git system ให้ฟังใหม่เหรอ พัชอยู่กับ github มาสองปีแล้วนะ”
พี่บอลที่นั่งลุ้นว่าพี่ยักษ์จะทำยังไงแอบคิดว่าไม่แฟร์ เพราะคราวที่แล้วที่พี่บอลเผลอ merged โปรเจคผิดหัวหน้าไม่ได้ใช้คำพูดแบบนี้
“ไอ้เหี้ยบอล มึงทำอะไร มึงไม่เห็นเหรอว่า git status มัน merged ไม่ได้!!!”
เรียกได้ว่าเสียงดังอย่างกับก็อตซิล่าพ่นไฟ ทีกลับพาซวยนี่น่ารักเชียว ลำเอียง… แต่สำหรับพาโชคตอนนี้แล้วด่ามาเลยยังรู้สึกดีกว่า เสียงเย็นๆแบบนี้เสียวหลังพิกล
“ต้องวาดโฟลว์ให้ดูไหม”
หัวหน้าถาม พาโชคพยักหน้าหงอยๆ เพราะเอาจริงๆแล้วก็ทำงานหละหลวมไปในบางขั้นตอนเพราะรีบเกิน ลูกพี่หยิบปากกากับกระดาษมาวางข้างตัวก่อนจะเริ่มอธิบายอย่างใจเย็น ผิดกับวิสัยยักษ์
“อันนี้คือ master ก่อนจะสร้าง branch ขึ้นมาต้อง fetch origin มาก่อน”
พาโชคพยักหน้าตามเพราะรู้หมดอยู่แล้ว แต่โดนเทศน์เพราะความสะเพร่าล้วนๆ
“เวลาสร้าง branch ต้องตั้งชื่อให้รู้ว่าไอ้ branch นั้นกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ไอ้บอลตั้งชื่อ branch ball-cute-narak เหี้ยอะไร ใครจะรู้ว่ามึงทำอะไรอยู่”
ว่าแล้วหัวหน้าก็แขวะมายังพี่บอลที่นั่งนิ่งๆพาลทำเอาพี่เดี่ยวเริ่มนั่งไม่ติดที่บ้าง
“แต่ละ branch แยกออกมาย่อยๆทำทีละ module ตรวจสอบดีๆแล้วค่อย pull request ขึ้นไป”
พาโชคมองมือใหญ่ที่กำลังวาดโฟลว์ให้ดู นิ้วหัวหน้าไม่ได้เรียวยาวแต่เล็บนั้นกลับเรียวสวยเหมือนของผู้หญิง
“ถ้ามันขึ้นปุ่มให้ merge ก็ไม่ใช่ merge ได้เลย ต้องรอพวกพี่รีวิวก่อน ฟังอยู่ไหมเนี่ย”
ลูกพี่ถามเมื่อลูกน้องดูสติล่องลอยไปแล้ว พี่เอกขำก่อนจะบอก
“จริงๆก็รู้กันหมดแล้วแหละ แต่ไม่ทำกัน”
หัวหน้าถอนหายใจ เพราะการเขียนโปรแกรมจริงๆไม่ได้ยากเกินความสามารถมนุษย์เลย แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือทำให้เป็นระเบียบนี่แหละ และแล้วบัคที่เกิดจากคุณพาโชคก็แก้กันจนเที่ยงคืน พี่เดี่ยวถูกไล่ให้กลับไปก่อนเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องไปหาลูกค้า ส่วนพี่ใหญ่และลูกน้องนั้นพึ่งจะปิดคอมเรียบร้อย
“กลับบ้าน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
หัวหน้าบอก ส่วนนายพาโชคนั้นเหนื่อยเกินกว่าจะปฎิเสธอะไร
“พัชลืมส่ง email ให้พี่”
พี่ยูบอกอีกคนที่นั่งเงียบๆเหมือนไม่เอาวิญญาณมาด้วยอยู่ข้างๆคนขับ
“อีเมลอะไร”
ไอ้เด็กที่โดนบัคตัวเองดูดพลังงานถามหน้ายุ่ง
“อีเมลที่ส่งคลิปมาไง”
ลูกพี่บอกก่อนจะขับรถออกจากบริษัท อาจจะเพราะเป็นกลางดึกวันศุกร์คนเลยออกมาเที่ยวททำให้รถไม่โล่งเท่าที่ควร
“อ๋อ ผมลืม”
“อย่าลืมบ่อย”
พาโชคพยักหน้ารับ หัวหน้ามองเด็กแว่นที่ตัดผมทรงเกาหลีแบบที่เจนบอก ใจจริงแล้วเขาไม่อยากให้พัชเปลี่ยนตัวเองหรือทำอะไรเลย อยากให้คนอื่นมองน้องมันจืดๆเนิร์ดๆ จะได้เก็บไว้ดูคนเดียว แต่ถึงตอนนี้เขาคงพูดอะไรเอาแต่ใจหรือไปบังคับน้องแบบนั้นไม่ได้แล้ว
“หิวยัง”
พาโชคมองรอยยิ้มของอีกคน ได้แต่แอบคิดว่าอย่างกับยักษ์ตัวที่กำลังจะกินหัวมันเมื่อบ่ายไม่มีจริง
“อยากกินอะไร”
เด็กที่หิวโซตั้งแต่สองทุ่มเปิดปากหาววก่อนจะบอก
“ปูไข่”
“ห๊ะ”
พัชว่าหัวหน้าอุทานได้น่ารักไม่เหมือนนิสัยเลย ช่วงนี้พาโชค พี่เจนและพี่บอลคุยกันบ่อยขึ้น มีกรุ๊ปแชทลับกันอยู่สามคน พี่ๆชอบส่งนั่นนี่ให้ดู ซูชิร้านไหนอร่อย ปูดองร้านไหนดี ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นอาหารกับเสื้อผ้า ว่างๆก็แอบอู้แชทกันในที่ทำงาน เพราะพี่ๆนี่แหละทำให้ช่วงนี้พัชมันไม่ค่อยซึมเหมือนแต่ก่อน มีความสุขกับการทำงานขึ้นหน่อย คิดเรื่องลาออกน้อยลง แล้วพอคุยเรื่องกินกันมากๆก็เกิดเป็นความอยากกินตามรีวิว จะบอกว่าเมื่อคืนพัชกับพี่บอลนอนทรมานเพราะปูไข่นึ่งที่พี่เจนส่งมาให้ดู
“พี่ต้องไปหาให้ที่ไหน”
คนที่กำลังขับรถมุ่งหน้าออกนอกเมืองบ่นเบาๆพลางคิดไปด้วย
“ผมพูดไปงั้นแหละ”
พาโชคบอก เพราะอยากกินก็ใช่ว่าจะได้กิน สุดท้ายแล้วดึกแบบนี้ก็คงไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“ไปไหน”
พัชถามเมื่อเห็นลูกพี่กลับรถตรงใต้สะพานแทนที่จะขึ้นสะพานไปแบบเดิม
“กินปูไข่”
เจ้าของรถว่า
“ที่ไหน”
พาโชคถามหน้างง ส่วนอีกคนตอบอย่างสบายๆ
“ร้านเพื่อนพี่มี”
ว่าแล้วก็สั่งสิริให้โทรหาใครสักคนในสาย พาโชคฟังบทสนทนาถึงได้รู้ว่าร้านเพื่อนที่ว่าเป็นร้านอาหารโต้รุ่งปิดตอนตีห้าและมีปูไข่แบบที่บอก ไอ้โชคทึ่งกับลูกพี่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจนเวลาผ่านไปจะเกือบชั่วโมง
“ร้านอยู่ไหน ทำไมไกล”
คนที่นั่งหลับในถามคนขับรถที่นั่งฮัมเพลงอยู่ข้างๆ
“พัทยา"
“ห๋าาาาาา”
พาโชคทึ่งกับหัวหน้าเป็นรอบที่ล้านของวัน อยากจะรู้จริงๆว่าโตมาเป็นคนยังไงถึงได้ทำเรื่องง่ายๆให้ยากแทบจะทุกเรื่อง อย่างแค่อีเรื่องปูไข่ถ้าเป็นพัชจะกลับไปกินมาม่าให้อืดแล้วนอน ตื่นมาถ้าอยากกินจริงๆค่อยไปตลาดเอาก็ได้ ไม่ใช่ถ่อไปถึงชลบุรี
“พรุ่งนี้หยุด เดี๋ยวค่อยกลับ”
พาโชคอยากจะกระโดดกัดคอหัวหน้าเหลือเกิน
“เออพัช เมื่อวานพี่ไปประชุมเรื่องย้าย email provider”
“ครับ”
พัชขานรับพี่ยูที่จู่ๆก็เล่าออกมา ถ้าเป็นเรื่องมีสาระก็อยากจจะสุภาพด้วยอยู่หรอก แต่ช่วงนี้ไม่รู้หัวหน้าเป็นอะไรชอบทำแต่เรื่องไร้สาระยั่วโมโหมัน
“สรุปแล้วอีเมลถูกแฮคแล้ว create email ใหม่มาส่ง spam”
“งี้ก็เห็นสิว่าส่งอะไรมาให้ผม”
พี่ยูมองหน้าน้องที่ดูเหมือนจะร้องไห้แล้ว
“โชคดีที่ไม่เห็น”
พัชโล่งใจเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำแล้วมีคนมาดึงขึ้น เพราะน้องมันคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ที่ email system ของบริษัทมีปัญหาแล้ว พัชรู้ตั้งแต่แรกว่าอีเมลที่ส่งคลิปมาให้เป็นอีเมลภายในบริษัท ถ้าสืบไปจนถึงต้นตอแล้วจะต้องเห็นแน่นอนว่ามันถูกส่งอะไรมาให้บ้าง
“ทำไมถึงไม่เห็น”
คนที่ขับรถอยู่ละมือข้างซ้ายมาแตะหัวน้องเบาๆก่อนจะเก็บมือกลับไป
“แอคเคาท์อันนั้นถูกครีเอทเพื่อส่งอีเมลแล้วก็ลบไป ในล็อกเห็นว่าส่งให้หลายคนอยู่นะ โดนเยอะพอๆกับพัชเลย แต่ส่วนมากเป็นแค่ text กับ link แสปมเฉยๆ มีพัชคนเดียวที่ได้ไฟล์แนบมาด้วย”
พี่ยูมองเห็นท่าทางกังวลใจของคนข้างๆเลยรีบพูดต่อ
“พี่ดูแล้ว log มันเช็คไม่ได้ละเอียดขนาดที่จะเห็นรายละเอียดของอีเมล์ เห็นแค่วันเวลาส่งเข้าออก กับไซส์”
“อืม”
พาโชคตอบรับก่อนจะเอียงหัวพิงกับกระจก
“ถ้าจะนอนปรับเบาะดีๆอย่านอนแบบนั้น เกิดเบรกกระทันหันทำยังไง”
เจ้าของรถดุเสียงเรียบเพราะบอกกี่ครั้งไอ้คนที่ชอบนอนคอพับเป็นปลาทูก็ไม่ได้สนใจ ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าปกตินอนแล้วก็มุดไปเรื่อยแต่กับบนรถนี่ก็ต้องระวัง
พัชหลับไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ถูกปลุกให้ตื่นในตอนเกือบตีสอง มันตื่นมามองทะเลที่ตอนกลางคืนมืดสนิทแต่พอเปิดประตูออกมาลมทะเลเหนียวๆก็ตีหน้า
“เอ้า เซ”
คนเป็นพี่ว่าน้องที่เดินสะลึมสะลืมเซหมือนจะตกทะเล เขาเดินมาจับแขนอีกคนแล้วเดินนำไปยังร้านอาหารริมทะเลที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
เพราะเป็นคืนวันศุกร์และแถวนี้อยู่ใกล้กับ walking street ผู้คนถึงไม่ได้บางตาอย่างที่คิด พัชคิดว่าดูคึกคักกว่ากรุงเทพเสียด้วยซ้ำ พาโชคมองตามแผ่นหลังของคนที่มันไม่เคยฝันเลยว่าวันนึงจะได้มาเดินตามอยู่แบบนี้ มือที่จับแขนมันอยู่ผละออกแต่ชั่วครู่ก็คว้ามือมันไปจับไว้แทน
“พี่ยู”
พัชเรียกคนที่กำลังเดินนำอยู่ข้างหน้า ซึ่งเสียงเรียกเบากว่าคลื่นทะเลและเพลงของร้านอาหารใกล้ๆกัน แต่แปลกที่เขาก็ยังได้ยิน
“ครับ”
คนเป็นพี่ก้าวท้าวสั้นลงแล้วหันมาหาน้อง
“พี่ไม่ปล่อยหรอก”
คนตัวโตบอกอย่างกับรู้ว่าพัชจะพูดอะไร เขาพูดพร้อมกับกระชับมือนั้นแน่นขึ้นแล้วเดินเลี้ยวเข้าร้านอาหารขนาดใหญ่ข้างหน้า
“มาซะดึกเลยมึง”
เจ้าของร้านที่กำลังคิดตังค์อยู่หน้าเคาท์เตอร์เอ่ยทักทายเพื่อนตัวเองที่อยู่ดีๆก็โทรมาตอนเที่ยงคืนเพื่อถามหาปูไข่
“พัช นี่สนเพื่อนพี่”
พัชดึงมือออกแล้วไหว้ผู้ใหญ่คนข้างหน้า ถ้าเทียบกับพี่ยูกับพี่ธามแล้วพี่สนดูเหมือนผู้ชายอายุ 32 มากกว่าลูกพี่ยู ดูเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพ
“สวัสดีครับ”
พัชบอกพร้อมกับยิ้มให้ผู้ใหญ่ที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว พี่สนยิ้มเขินๆก่อนจะหันมาถามเพื่อนตัวเอง
“นี่เหรอคนที่บอกว่าอยากกินปูไข่”
พัชได้ยินที่หัวหน้าคุยโทรศัพท์บนรถบอกว่ามีคนอยากกินปูไข่ ลูกพี่ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อน
“โต๊ะ 3 เลย พี่กันไว้ให้แล้ว อยากกินอะไรสั่งเลยนะเดี๋ยวไปนั่งด้วย”
เจ้าของร้านบอกก่อนจะกลับไปทำงานต่อเพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะพอสมควร
“บรรยากาศดีเนอะ”
คนเป็นพี่ว่า พาโชคไม่ได้ตอบอะไรแต่มองทอดออกไปยังทะเลที่กว้างสุดสายตา ลมเอื่อยๆเย็นสบายแต่ก็เหนียวอยู่ในที มันนั่งทอดสายตาไปไกล ปล่อยให้พี่ยูสั่งอาหารตามชอบ ก่อนจะหันกลับมาเมื่อเจ้าของร้านเดินมานั่งข้างๆกัน
“ไม่เจอกันนานเลยเสี่ยสน”
คนที่ขับรถมาจากกรุงเทพเอ่ยทักเพื่อน
“เสี่ยเหี้ยอะไร”
ส่วนเพื่อนนั้นดูไม่พอใจกับการทักทายแบบนั้นเลย
“ลุคมึงไง”
“กูอ้วนเพราะกินดึกแบบนี้ทุกวัน ไอ้ห่า”
พัชหัวเราะกับการพูดคุยของคนทั้งคู่
“ว่าแต่กู ซิกแพ็คมึงยังมีอยู่ไหม”
เจ้าของร้านอาหารขนาดใหญ่ว่า พี่ยูยักไหล่ก่อนจะตอบ
“ถามพัชดู”
“เหี้ยละมึง”
เจ้าของร้านร้องออกมาพร้อมกับขำ ส่วนพาโชคยกมือขึ้นจะทุบพี่ยูส่วนหัวหน้าเอาแต่ขำ
“ไอ้หัวหน้า!”
พาโชคเรียกเสียงดังเพราะช่วงหลังๆมานี้โชครู้สึกว่าพี่ยูแกท็อปฟอร์มเรื่องกวนตีนจริงๆ เจ้าของร้านส่ายหัวกับความหน้ามึนของเพื่อนก่อนจะพูดบ้าง
“ไอ้เวร เดี๋ยวน้องก็โกรธอีก”
ถึงพาโชคไม่ได้ถามแต่เมื่อได้ดูการพูดคุยของสองคนนี้ ก็รู้ได้โดยทันทีว่าคงสนิทกันมากกว่าที่หัวหน้าสนิทกับพี่ธาม และพี่สนน่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องชีวิตของลูกพี่มากที่สุด อาจจะรู้แม้กระทั่งเรื่องของของพาโชคด้วย พัชปล่อยให้เพื่อนเขาคุยกัน ตอนแรกที่โต๊ะมีเพียงน้ำเปล่าแค่พักเดียว tower เบียร์สดก็ถูกยกมาจากหลังร้าน แต่กลับแปลกที่หัวหน้าไม่ยอมดื่มตามคำชวนของเพื่อนสนิทเพราะรู้ตัวว่าจะต้องขับรถกลับ
“ดื่มเถอะ นานๆทีเจอกันกับพี่สน เดี๋ยวผมขับรถให้”
พัชบอกหัวหน้าที่ไม่ยอมดื่ม
“ไม่เอา พัชดื่มไปเถอะ เดี๋ยวพี่ขับเอง”
หลังจากเถียงกันไปมาจนพี่สนรำคาญและตกลงกันได้ว่าจะนอนรีสอร์ทของพี่สนที่อยู่ใกล้ๆกันนี้ หัวหน้าที่จะไม่ได้ขับรถถึงได้ยกเบียร์รสนุ่มเข้าปาก ส่วนพาโชคที่เริ่มมึนและง่วงนั่งเอนตัวกับเก้าอี้ จนเกือบตีสี่พี่สนถึงได้ลุกไปช่วยลูกน้องปิดร้านพร้อมกับวางกุญแจรีสอร์ทไว้ปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องเดินไปเอง แม้ที่พักจะอยู่ไม่ไกลร้านนักแต่เพราะฤทธิ์ของเบียร์ทำให้คนเมาสองคนเดินเหมือนกับคลาน พระอาทิตย์ในตอนเกือบตีห้าค่อยๆโผล่พ้นทะเลขึ้นมา พวกเขากำลังเดินเลียบริมหาดไปหาที่พัก
“เดินตรงไหมนั่น”
ลูกพี่ว่าก่อนจะเดินไปจับมือน้องมันไว้แล้วเดินนำแทน เพราะขืนให้พาโชคเดินต่อไปแบบนี้คงไม่ได้นอนกันพอดี
“คิดจะลากไปไหนก็ไป พี่คิดว่าผมเป็นคนยังไง”
คนเมาว่า แต่ก็เดินตามเขาต้อยๆ
“แล้วพัชคิดว่าพี่เป็นคนยังไง"
ที่พัชจำได้พี่ยูคือยักษ์น่ากลัว ชอบบังคับ ดุและนิสัยไม่ได้ ดีนักแต่นั่นคงเป็นเพราะเราไม่เคยได้รู้จักกันจริงๆ ไม่ได้คิดว่าวันนึงจะต้องได้นั่งรถมากินปูไข่ด้วยกัน เดินจับมือเดินอยู่แบบนี้
“เพราะตลอดมาพี่ทำให้มันแย่ เลยไม่รู้จะแก้ตัวยังไง”
หัวหน้าว่าพร้อมกับหยุดเดินแล้วหันมาหาอีกคน
“แต่พี่ไม่อยากให้พัชมองพี่แค่ด้านที่พัชเห็น แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนกำลังแก้ตัว”
เขาว่าพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ
“อือ ก็จริง”
พาโชคที่แม้จะเมาแต่ก็มีสติดีตอบ พี่ยูมองหน้าน้องมันก่อนจะบอกออกมาด้วยท่าทีเรียบง่าย
“แต่พี่ชอบพัชนะ”
พาโชคเลิกคิ้วมองก่อนจะออกเดินทั้งๆที่มือยังถูกจับอยู่ ความชอบบางคนอาจจะเกิดจากหน้าตา ลุค นิสัย รอยยิ้ม หรืออะไรก็ตาม แต่ความชอบพวกเขาคงเริ่มต้นจากจุดที่แปลกไปหน่อย
“เพราะมันเกิดเรื่องแบบนั้นพี่ถึงรู้สึกว่าพี่อยากอยู่กับพัช”
ลูกพี่พูดอะไรยอกย้อนเรื่องนั้นเรื่องนี้วุ่นวายไปหมดในความรู้สึกพาโชค
“เรื่องกามๆ”
พาโชคว่าพร้อมกับดึงมืออีกคนให้เดินเข้ามาใกล้กัน ลูกพี่หัวเราะเพราะน้องมันพูดความจริง
“พี่แยกไม่ออกหรอกว่าอันไหนตัวอันไหนใจ พอชอบมันเลยชอบไปหมด”
คนที่โตกว่าเกือบสิบปีบอก
“ขี้บังคับ นิสัยไม่ดี เจ้าชู้”
พี่ยูพยักหน้ารับ ก่อนจะบอกบ้าง
“ก็จริง แต่เลิกแล้วครับ”
***
ว่ากันว่าถ้า facebook เป็นเหมือนพื้นที่ไว้จัดการความทรงจำของมนุษย์ยุคปี 2000 Github ก็คงเป็น social network ของชาว developer ที่เอาไว้เก็บและจัดการกับ code versions ต่างๆ สามารถแชร์ให้คนอื่นได้ ตั้งกระทู้ถามได้ รวมไปถึงคอมเมนต์ด่ากันก็มีให้เห็นเป็นประจำในหลายโปรเจค
วันนี้เป็นวันหยุด เจนตื่นเช้าขึ้นมาและเห็นว่ามีอีเมลแจ้งเตือนมากกว่า 5 ครั้งซึ่งล้วนแต่เป็นแจ้งเตือนจากโปรเจคที่พี่ยูกับพัชช่วยกันแก้เมื่อคืนทั้งนั้น พี่เจนกดเข้าไปดูตามปกติก่อนจะพบว่าในโปรเจคมีคอมเมนต์แปลกๆอยู่ เธอแคปหน้าจอนั้นไว้ก่อนจะส่งเข้าไปในแชทหัวหน้า
‘อะไรคือสเตตัส merged with love คะ’
พี่ยูตื่นมาในตอนเกือบเที่ยงก่อนจะพบว่ามีข้อความจากเจน
‘เจนก็ตาไว’
เขาพิมพ์ตอบกลับไปซึ่งก็ไม่รู้ว่าเจนโดนชมหรือโดนด่าว่าเสือกทางอ้อม ผู้หญิงคนเดียวในทีมเลิกคิ้วมองข้อความของลูกพี่ก่อนจะขู่กลับไป
‘เดี๋ยวส่งไปให้พัชมันบ้างดีกว่า’
เธอบอกพร้อมกับรอฟีดแบคจากหัวหน้า เผื่อเจนจะต่อรองอะไรได้บ้าง
‘ไม่ต้องมาขู่เจน น้องเห็นแล้ว’
เจนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนที่กำลังจะคิดว่าจะแกล้งหัวหน้ายังไงต่อดีข้อความใหม่ก็ถูกส่งเข้ามา
‘น้องนอนอยู่ข้างๆพี่’
เจนอยากจะกรี๊ดเป็นภาษาสเปนจริงๆ หัวหน้านี่มันร้าย