EP.32 ครูเขมชาติXคริสโตเฟอร์ เพื่อนผมโดนทำร้ายผมก็ต้องเอาคืน
คริสโตเฟอร์ วันนี้ผมกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้งหลังจากที่พากันหนีไปสวีทกันมาสามคู่ มีคู่ผมกับพี่เขม อาร์ทโจและคู่ปันปันกับไอ้โป้ง มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของผมกับพี่เขม แม้ระยะเวลาจะน้อยไปหน่อยแต่มันก็คุ้มค่าสำหรับผม มันทำให้ผมแอบคิดว่าถ้าถ้าผมต้องไปอยู่ไกลๆจากพี่เขมผมจะทำยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว
“พี่เขม” ผมเดินไปหาพี่เขมเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้พี่เขมของผมก็แต่งตัวหล่อกว่าทุกวัน ผมยืนมองพี่เขมเดินลงมาจากบ้านพัก
“พี่เขมอาทิตย์หน้าวันเกิดผมนะเราไปเที่ยวผับกันไหมพี่เขม พี่ปืนบอกจะเช็คให้ก่อนว่ามีตำรวจไหม” ผมถามพี่เขม พี่เขมมองหน้าผม
“ทำไมวันเกิดต้องเมาไม่เห็นเข้าใจเลย เข้าวัดทำบุญซิถึงจะถูก” พี่เขมพูดกับผม
“ใส่บาตรอย่างเดียวได้ไหมไม่ต้องถึงกับเข้าไปถือศิลในวัด” ผมพูดกับพี่เขมแบบขำๆแต่พี่เขมกับปั่นหน้านิ่งมาก
“อืมม....”พี่เขมพูดแค่นั้นแต่ก็ไม่ได้มีท่าที่จะสนใจอะไรมาก วันเกิดผมแท้ๆนะ ผมยังจะน้อยใจนิดๆ แล้วซิ ผมเดินไปด้วยกัน ผมถือกระเป๋าถุงผ้าให้ครูเขมเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้ทำไมมันรู้สึกเหมือนผมเดินอยู่คนเดียวยังไงก็ไม่รู้
“แต่ว่าเรื่องไปเที่ยวผับนะพี่เขมไปนะผมอยากไปกับพี่ผมอยากควงพี่ไปแบบแฟน” ผมพูดพี่เขมมองหน้าผมยิ้มให้ผมแปลว่าไป
“วันนี้พี่อาจจะมาไม่ทันตอนเย็นค่อยติวกันนะคริส” พี่เขมบอกผม ผมขมวดคิ้ว เมื่อวานไปประชุมวันนี้ไปไหนอีกเนี๊ยะ
“พี่มีธุรพี่จะพาอนุชิตไปสำภาษณ์เรื่องรับทุนนะคริส” พี่เขมหันมาบอกผม ผมพยักหน้าเบาๆ
“หมูนี้เราไม่ได้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลยอะพี่เขมงานเยอะไปหรือเปล่า” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าผมเริ่มน้อยใจแล้วนะ
“ไม่เอาคริส...วันหยุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะ” ครูเขมพูด ผมรู้แต่มันไม่พอสำหรับผมอยากอยู่กับพี่เขมมากกว่านี้ ผมสองคนเดินมาจนถึงด้านหลังห้องอาหาร ตรงที่ผมนั่งกันประจำ
“พี่ไม่ทานอาหารเช้าด้วยนะพี่รีบพาอนุชิตไปรอเข้าคิวสัมภาษณ์และคงจะหาอะไรทานที่ศาลากลางเลย” ครูเขมพูดผมพยักหน้าเบาพร้อมกับส่งกระเป๋าผ้าคืนให้พี่เขม พี่เขมรับไปถือก่อนจะยื่นมือมาแตะที่หัวผม มันก็ยังดีทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นแต่ก็ยังแอบน้อยใจอยู่ดี
“พรุ่งนี้พี่ว่างแล้วจะมาทานด้วย...พี่ไปนะ...อย่าไปซ่าที่ไหนละ” ครูเขมพูดและรีบเดินไป ผมก็เดินแยกมาหาพวกไอ้โจและอาร์ท มันนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่ แต่ก่อนผมชอบเห็นมันนั่งก้มหน้าก้มตากับมือถือส่งข้อความหาแฟนแต่ตอนนี้มือถือคงเอาไว้โทรมากกกว่าแล้วจะมีแค่โจนี้แหละที่ชอบโพสรูปนั้นรูปนี้ โดยเฉพาะรูปหมา แต่ทว่าวันนี้มันนั่งเงียบนิ่ง
“ดีวะโจ..อาร์ท” ผมทักทั้งคู่ไอ้อาร์ทเงยหน้าขึ้นมมองผมพยักหน้าแต่โจ้มันยังก้มหน้าก้มตาเขี่ยอาหารในจาน
“เมียมึงเป็นอะไรว่ะ” ผมถามไอ้อาร์ท
“หมาเมียกูน้อยใจกระโดดให้รถชนตาย” ไอ้อาร์ทพูด
“ขวับ” เสียงหันไปมองไอ้อาร์ทดังขวับแต่ว่าผมนั่งถัดจากไอ้อาร์ทก็เลยเหมือนโดนหางเล่ไปด้วยยังไงก็ไม่รู้
“เว้ยย !!!” ไอ้อาร์ทและผมร้องออกมาพร้อมกัน
“หมาเมียกูประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์วะ..เสียชีวิตคาที..มึงว่างไหมไปงานศพหมาของเมียกูหน่อย” ไอ้อาร์ทมันรีบเปลี่ยนคำให้การทันทีเลยนะหลังจากที่มันเจอสายตาพิฆาตของโจเมียรักมันเข้าไป ผมก็เบ้ปาก อาการหนักนะผัวเมียคู่นี้
“กูเศร้านะพวกมึง” ไอ้โจพูด มองหน้าผมกับไอ้อาร์ท
“เมีย...ผัวรู้ว่าเศร้าแค่หมามันตายไปแล้วจะให้ผัวไปทำยังไงอะ...ผายปอดก็ไม่ขึ้น...ร้องหายยังกะผัวตายเองซะงั้นนะ” ไอ้อาร์ทมันพูด
“เออ ...งั้นกูไปหาอะไรทานก่อนนะ ..อาร์ท ...โจ” ผมพูดและลุกขึ้นดีกว่าเหมือนกับว่าผัวเมียนี้มันจะตีกัน กะอีแค่เรื่องหมาโดนรถชนตาย สงสัยตัวที่วิ่งมาหาไอ้โจวันนั้นแน่ๆเลย นี้หมาไม่อยากเป็นลูกสองผัวเมียนี้ถึงขนาดกลั้นใจกระโดนให้รถชนเลยเหรอ( ผมคิดเองในใจ) ผมเดินไปสั่งโจ๊ก
“พี่คริส...แก้มได้เป็นตัวแทนถือคฑาปีนี้ด้วยพี่คริส...เขาเรียกดรัมเมเยอร์อะ” แก้มวิ่งแจ่นมาบอกผมทันที ตอนนี้แก้มน่ารักขึ้นมากแต่ผมก็มองเธอแค่น้องสาวแค่นั้น และแก้มมันก็ดีกับครูเขมขึ้นด้วย
“ดีใจด้วยนะว่าแต่ใครเลือกลิงอย่างแกไปถือว่ะแก้ม” ผมหันมาแสดงความดีใจแต่พอผมว่าเป็นลิงเท่านั้นแหละแก้มมันหน้างอทันทีทันใด อันที่จริงผมแกล้งว่าไปอย่างนั้นแหละ ความจริงแก้มมันน่ารักและยิ่งตอนนี้ยิ่งน่ารักมาก
“พี่ล้อเล่น...น้องแก้มพี่ออกจะสวยงามเรียบร้อย” ผมพูดบอกแก้ม
“เหมือนประชด” แก้มพูดทำท่างอนผม
“พี่พูดจริง น้องสาวพี่สวยและเหมาะสมกับตำแหน่งดรัมเมเยอร์ด้วย” ผมพูดกับแก้ม พร้อมกับยิ้มให้และเอามือลูบหัวเบาๆ
“ปันปัน....” ผมเห็นปันปันเดินเข้ามาก็เลยโบกมือเรียกให้มาหาผม ปันปันเดินตรงมาก็หยุดมองแก้ม
“พี่ปันปันแก้มได้เป็นดรัมเมเยอร์ปีนี้ด้วยแหละ” แก้มหันไปบอกปันปัน ผมยักไหล่ให้ปันปันมัน ไอ้ปันปันมันก็พยักหน้าตอบและ
“เหรอ....นี้เขาหลับตาเลือกแกมาหรือเปล่าแก้ม” ปันปันพูด ทำเอาคนที่ยืนยิ้มหน้าบึ่งทันที
“เบื่อ..ผู้ชายสองคนนี้อะ...ไม่คุยด้วยดีกว่า..พอเบี่ยงเพศไปชอบผู้ชายมองแก้มเป็นลิงเป็นข้างเลยนะ” แก้มยืนเอาแขนกอดอกทำท่าจะงอน
“แก้มพี่ล้อเล่น ...” ปันปันรีบแก้ตัว
“แก้มนะสวยเหมาะสมอยู่แล้วดีใจด้วยนะ” ปันปันพูด แก้มค่อยยิ้มได้หน่อยที่นี้
“แก้มไปหาเพื่อนนะเย็นนี้ซ้อมวันแรกไปดูหน่อยนะ” แก้มพูดและเดินออกไปหาเพื่อนๆ ของเธอ ผมเห็นสีหน้าปันปันมันไม่เหมือนทุกวันและวันนี้ทำไมมาคนเดียววะ
“โป้งอะ” ผมถามไอ้ปันปัน
“ไปหาพ่อนะ....พ่อเจ็บแผลหน้าอกเมื่อคืนแม่ของโป้งเลยโทรมาให้ไปขับรถให้หน่อย โป้งมันขึ้นไปลาครูแล้วก่อนจะขับรถออกไปเมื่อสักครู่นี้แหละ” ปันปันพูด
“นี้มึงงอนที่มันไม่ได้เอามึงไปเหรอว่ะ” ผมถามไอ้ปันปัน
“ก็นิดหน่อย...แต่กูเข้าใจมันไม่อยากให้กูขาดเรียนบ่อย” ปันปันพูด น้ำเสียงน้อยใจแน่ๆ
“เอานะเดี๋ยวมันก็กลับแล้ว....มึงอยู่ก็ดีนะจะได้รับงานไว้ให้มัน มันขาดหายคาบแล้วถ้าขาดทั้งคู่ก็ไม่มีใครรู้กันซิว่าต้องอะไรส่งครูบ้าง” ผมกอดไหล่ปันปันพูด มันก็พยักหน้าตามผม สักพักผมกับปันปันก็เดินออกไปนั่งกับพวกอาร์ทและโจ้ด้านนอกด้วยระหว่างที่ผมเดินผ่านประตู ผมเห็นพี่กาย ไอ้พี่อั๋นและพี่เอกยืนคุยกันดูสีหน้าพี่เอกไม่ค่อยดี ผมได้ยินไอ้โป้งมันพูดว่าพี่เอกแตกคอกับพี่กายแล้วหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่พี่เอกออกตัวรับผิดชอบกี้ ผมคิดว่าพี่กายนั้นแหละพ่อเด็กแต่ไม่ยอมารับ เขาเรียกหน้าตัวเมียซินะ
“กูไม่ทำแล้ว..พอทีเถอะกาย..ถ้ากูไม่ช่วยมึง...แล้วมึงจะตัดเพื่อนอย่างกูก็ได้นะ...” พี่เอกพูดออกมาแสดงว่ามันยังรู้ตักปฏิเสธที่จะทำอะไรชั่วๆกับไอ้กายเป็นแล้วซินะ
“ไปเถอะว่ะคริสอย่าไปยุ่งกับแม่งเลย สมน้ำหน้าแล้วที่มันแตกหักกันเอง” ไอ้ปันปันพูด ผมก็เดินตามปันปันออกไป กลับไปนั่งทานอาหารเช้ากับพวกอาร์ทและโจ้
“วันเกิดปีนี้มีอะไรพิเศษไหมว่ะคริส..พี่ที่แล้วมึงเมารั่วมากว่ะ” ปันปันพูดใช่ทุกปีผมมีแต่พวกนี้แหละที่ฉลองวันเกิดและก็รั่วทุกปี ผมเดินมานั่งทานอาหารกัน ปันปันมันก็ส่งข้อความคุยแชทกับโป้งไปด้วย
KissKhem : พี่เขมถึงหรือยัง ...ทานอะไรหรือยัง
My Love : พี่ถึงได้สักพักแล้วนี้กำลังจะพาอนุชิตไปหาอะไรทาน..เอาไว้คุยกันนะ..ตั้งใจเรียนละ
KissKhem : ครับพี่เขม ผมรักพี่เขมนะ
My Love : พี่รักเรานะคริส
“ไปเตรียมตัวเข้าแถวกันเถอะว่ะ” ไอ้อาร์ทพูดผมก็พยักหน้าผมทานเกือบจะหมดพอดีเลย ผมก็ถือชามเอาไปเก็บไว้ ผมไม่ลืมเอาเศษอาหารเทลงกระป๋องที่ผมทำไว้ ผมมักจะมาเอาไปเทเลี้ยงสุนัชจรจัดที่ไม่มีใครดูแลทั้งในโรงเรียนและด้านนอก
“พี่คริส” เสียงเล็กๆหวานหู ผมเคยได้ยินเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เสียงนี้กลับมาดังอีกครั้ง ผมหันไปมองต้นเสียงที่เรียกผม อาร์ทและโจ ปันปันก็หยุดมอง ผู้หญิงผมยาวแต่งตัวเปรี้ยวในชุดกระโปรงแซกสั้นร้องเท่าส้นสูงทาปากแดง เส้นผมเป็นลอน การแต่งหน้าที่จัดจ้านขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังคงไว้ซึ้งความหวานของ เชอรี่ เธอเดินตรงมาหาผม
“ใครวะโคตรสวยเลยวะ...แต่งตัวแรงได้” ปันปันกระซิบกระซาบถามผม
“พี่คริส...เชอรี่กลับมาแล้ว” เธอตรงเข้ามาจับมือผม กุมไว้ แววตาดีใจที่ได้เจอผมแต่ผมซิ มันกลับไม่เป็นเหมือนที่เธอจากไปแรกๆผมอยากให้เธอกลับมาแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
“เชอรี่กลับมาเที่ยวบ้านเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ....เชอรี่กลับมาอยู่นี้ ...กลับมาหาพี่คริสไง...เชอรี่ยังรักพี่คริสอยู่นะและเชอรี่ก็กำลังจะหาที่เรียนที่นี้..เชอรี่อยากกลับมาเรียนที่นี้มาเรียนต่อม.สี่ที่นี้ เชอรี่เบื่อเมื่องนอก” เชอรี่พูดสายตามองผม เขาก็กอดผมแต่ผมรีบดันเชอรี่ออกทันที
“ทำไมละพี่คริสไม่คิดถึงเชอรี่เหรอคะ” เชอรี่ทำหน้าตา ตกใจที่ผมดันเธอออกไม่เหมือนเคยที่คงรีบโผ่กอดเธออย่างเร็ว
“คิดถึงคะแต่ไม่ได้คิดถึงแบบคนรัก”
“อะไรกันไปแค่ปีเดียวเองและเชอรี่ก็พยายามต้อต้านคุณพ่อคุณแม่เพราว่าเชอรี่อยากกลับมาหาพี่คริสนะ..พี่มีคนอื่นเหรอ” เชอรี่ถามผม น้ำเสียงไม่พอใจ
“ใครกันนางแก้มหรือเปล่า..หนอยนางนี้ทำท่าจะงาบพี่คริสตอนนั้นพอเชอรี่ไปนี้มันมายุ่งกับพี่เลยเหรอ”
“ไม่ใช่เชอรี่ไม่เกี่ยวกับแก้ม .....แต่พี่ไม่ได้รักเชอรี่แล้วและเชอรี่กลับไปเรียนตามที่พ่อแม่ของเชอรี่ต้องการเถอะครับ ..เลิกยุ่งกับพี่...เพราะว่าพี่ไม่อยากมีปัญหากับพ่อแม่เชอรี่” ผมพูดพร้อมกับแกะมือเธอออก
“พี่ต้องไปเข้าแถวแล้วนะเชอรี่...พี่ขอโทษนะ” ผมพูด ผมหันไปจับต้นแขนปันปันและรีบเดินไปเข้าแถวทันที พวกอาร์ทและโจ ก็แค่ยิ้มๆให้เชอรี่ที่ยืนหน้าตาไม่พอใจ ที่ผมกลับเป็นฝ่ายปฏิเสธเขาในวันนี้ ผมยืนเข้าแถวเคารพธงชาติวันนี้มีชั่วโมงของภาษาอังกฤษตอนบ่าย พี่เขมคงกลับมาทันนะ
“ปันปัน...เจอกันตอนเที่ยงนะ” ผมบอกปันปัน มันก็โบกมือให้ผมว่าโอเค ผมเดินไปขึ้นห้องเรียนตามปกติ ผมเห็นเชอรี่มองผมและมองปันปัน สายแปลกๆ ผมแยกขึ้นห้องเรียน เรียนตามปกติ ทำไมเชอรี่ถึงได้กลับมาเพื่อจะมาเรียนที่นี้อีก พ่อแม่เธอยอมให้กลับมาได้ยังไง ตลอดช่วงเช้านี้ผมเรียนหนังสืออย่างตั้งใจ เพราะว่าผมกำลังจะไปสอบ GED อาทิตย์หน้าวิชาแรกคือวิชาคณิตศาสตร์และเย็นนี้ผมก็มีเรียนติวคณิตกับครูถาวร
หลังจากพักเที่ยงผมเดินลงมาซื้ออะไรทาน ผมไม่เจอปันปันในห้องอาหาร ส่งสัยมันจะไปโทรหาไอ้โป้งแน่ๆ ทำยังกับยาก่อนอาหาร ระหว่างที่กำลังเดินเข้าห้องอาหาร ผมเห็นพี่เอกกำลังดูแลกี้อยู่ ข่าวที่เธอตั้งครรภ์ในโรงเรียนและครูเขมก็เป็นคนยื่นข้อเสนอให้เธอเรียนทั้งที่เธอท้อง มันดังกระฉ่อนไปทั้งโรงเรียน แต่ก็ยังดีที่มีพี่เอกคอยดูแลใกล้ๆ พี่เอกก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีแต่อาจจะไม่รวยเหมือนไอ้พี่กาย
“คริส” พี่เอกเดินมาหาผม
“วันนี้โป้งมาโรงเรียนหรือเปล่า” พี่เอกถามผม ผมมองหน้าพี่เอก
“ไม่มามีอะไรเหรอ” ผมถามพี่เอกห้วนๆ เพราะว่าผมก็ยังไม่ไว้ใจพี่เอกเท่าไหร่ เพื่อว่าไอ้พี่กายมันให้พี่เอกทำอะไรให้มันอีก ถึงยังไงก็เพื่อนกัน
“ปันปันละ” พี่เอกถามผมถึงปันปัน
“ก็คงไปโทรศัพท์หาไอ้โป้งทำไมอะ” ผมถามพี่เอก
“เห้ย...คริส...พี่ถามดูพี่ได้ยินพวกไอ้กายและอั๋นมันเรียกพวกมันไปทางห้องน้ำชายที่ไม่ได้ใช่แล้ว” พี่เอกพูด ผมก็หยักไหล่
“คงไปเสพยามั้ง...พี่อยากให้ผมแจ้งครูฝ่ายปกครองให้เหรอ...แตกคอกันแล้วนิ” ผมพูดจาประชดประชันพี่เอก
“พี่รู้ว่าพี่เคยพูดไม่ดีกับนายไว้และพี่ก็เคยเป็นเพื่อนกายเราเลยยังมองพี่ไม่ดีอยู่แต่...พี่เลิกแล้วว่ะ” พี่เอกพูด ผมเห็นพวกไอ้โจและอาร์ทเดินเข้ามา มันกดโทรศัพท์เข้ามาด้วย
“มีอะไรโจ” ผมหันไปถามหน้าที่ตาตื่นของไอ้โจ้
“ปันปันไปหนวะ ไอ้โป้งมันโทรเข้ามือถือกูว่าโทรหาแล้วมันก็ไม่รับสาย พอรับก็ไม่พูดได้ยินเสียงคนเยอะแยะไปหมด” ไอ้อาร์ทพูด ผมหันมามองหน้าพี่เอก ตอนนี้แหละที่ผมหน้าตาตื่น ผมก็วิ่งออกจากห้องอาหารทันที ไอ้โจและไอ้อาร์ทมันก็วิ่งตามผม
“คริส! ...มีอะไรวะ สัส..วิ่งไม่พูดไม่จากเลยไอ้เชี้ย” ไอ้อาร์ทมันวิ่งตามและด่าผมตามหลัง ผมก็ยังวิ่งอยู่ ไม่นะ ต้องไม่ใช่อย่างทีไอ้พี่เอกพูดซิ ถ้าไอ้ปันปันเป็นอะไรผมรู้สึกผิดมากเพราะว่าไอ้โป้งมันฝากปันปันกับผมและมันสองคนมีปัญหาก็เพราะว่าผมด้วยเช่นกันเขาเรียกว่าติดร่างแหไปด้วย ผมวิ่งมาจนถึงห้องน้ำที่รอปรับปรุงใหม่ ห้องน้ำนี้ถูกปิดตายมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้างห้องน้ำใหม่ให้ใช้ ประตูห้องน้ำถูกคล้องกุญแจไว้
“ปันปัน!!” ผมตะโกนเรียก
“แฮ้ก! ...มึงจะบอกว่าไอ้ปันปันมันอยู่” ไอ้โจ้ ผมก็มองหาอะไรที่จะทุบกุญแจที่คล้องเอาไว้ออก
“ปันปัน!...ปันปัน!” ไอ้อาร์ทมันพยายามตะโกน เรียกอยู่ด้านนอก ผมก็หยิบเอาเหมือนแท่งเหล็กมาทุบกุญแจที่คล้องไว้
“เสียงคนร้องไห้ว่ะ” ไอ้อาร์ท
“ปันปัน!..” มึงอยู่ในนั้นเหรอว่ะ..บอกกูดิว่ะ” ไอ้อาร์ทตะโกนแข่งกับเสียงของแข็งที่ผมใช่ทุบประตู จนกุญแจที่คล้องหลุดออก กว่าจะออกได้มือผมก็เจ็บไปหมด ผมรีบถีบประตู พอผมเข้าไปไอ้โจเข่าทรุดลงกับพื้นปันปันนอนกองอยู่กับพื้นสภาพบอกได้ว่ามันโดนอะไรมาบ้าง
“ปันปัน” ผมเข้าไปหามัน กางเกงที่หลุดไปจนจากตัวโคนขาก็มีเลือกไหล
“คริส...มันทำกูอะ...ฮือๆ” ปันปันพูดไปมันร้องไห้ ผมนั่งย่อตัวลง ผมดึงมันเข้ามากอดเนื้อตัวมันสั่นไปหมด
“ปันปัน กูขอโทษปันปัน.. ” ผมพูดไปก็ปลอยมันไปด้วย ไอ้โจมันก็เข้ามากอดอีกคน
“ฮือๆ..” ปันมันร้องไห้ใหญ่เลย
“ให้ปันปันมันใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะว่ะ” ไอ้โจพูดเสียงมันสั่นๆ มันสงสารปันปัน อาร์ทและโจกับมันก็ช่วยแต่งตัวให้ปันปัน
“ใครทำมึงปันปัน...บอกกู!!” ผมถามปันปัน ผมมองหน้ามันน้ำตามันก็ไหล
“มึงให้กูโทรหาไอ้โป้งไหมวะปันปัน ...มันโทรหามึงมันเป็นห่วงมึงมากนะปันปัน “ ไอ้อาร์ทท พูดและมองปันปัน
“อย่านะอาร์ท...ไม่เอา...ไม่..” ปันปันส่ายหัวมันร้องไห้ ผมก็กอดมันไว้
“ใครทำมึงปันปัน” ผมถามปันปันอีกครั้ง
“กูไม่รู้อะ กูไม่รู้จักแต่มันทำตามคำสั่งมันเหมือนเป็นพวกข้างนอกอะ คริส “
“แล้วมึงมาตรงนี้ทำไมวะปันปัน”
“เออ..กูหลบมาจะโทรศัพท์หาไอ้โป้งอะ...มึงอย่าถามกูอีกเลยนะ..ฮือๆ..กูไม่อยากอยู่แล้วอะ..ฮือๆ” ไอ้ปันปันมันก็ยิ่งร้องไห้ ผมกำหมัดแน่น
“ไอ้กาย” ผมพูด
“มึงพาปันปันกลับบ้านพัก...”
“อย่าบอกเรื่องนี้กับโป้งนะคริสกูขอร้อง..กูรับไม่ได้...โป้งมันก็คงรับไม่ได้ฮือๆ” ปันปันมันร้องไห้เหมือนเด็กเลยผมก็เอามือลูบหัวมันกันทุกคน ทำไมไอ้พวกระยำมันต้องทำกันแบบนี้ด้วยวะ
“ปันปัน แต่..”ไอ้โจมันพูด มันมองหน้าพวกผมแบบนี้ผมจะกล้าบอกไหม
“มึงต้องบอกมันแต่มึงควรจะบอกเอง กูว่าโป้งมันรักมึงมาก กูไม่เคยเห็นมันรักใครเท่ามึงเลยนะปันปัน เชื่อกูดิ” ผมพูดบอกไอ้ปันปัน ผมรู้ว่ามันยาก เป็นใครโดนแบบนี้แล้วจะกล้าบอกคนที่ตัวเองรักเหรอว่ะ
“ตอนนี้กูไม่พร้อม” ไอ้ปันปันพูดทั้งน้ำตา
“ไอ้คริสมึงจะไปไหน” ไอ้อาร์ทมันถามผม
“กูจะไปจัดการมันเอง” ผมพูดโดนไม่หันหลังกลับไปมองพวกมัน
“ไอ้คริสแต่ว่า” ไอ้อาร์ทมันเรียกผม ผมไม่ฟังแล้วผมเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ผมมองไปที่พื้นที่เปียก มีรอยรองเท้ามากมายคงหลายคนเลยซิท่า มันยิ่งทำให้ต่อมเดือดผมทำงานมากขึ้น ผมมั่นใจว่าเป็นพวกไอ้กายแน่ๆ และต่อให้ครั้งนี้ผมถึงกับต้องออกจากโรงเรียนผมก็ยอม เพราะว่าสิ่งที่มันทำกับเพื่อนของผมมันเกินไป เกินคำว่าคน และมันก็เกินกว่าที่ผมจะอดทนอยู่เฉยๆแบบนี้ได้ เป็นไงก็เป็นกัน