ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-  (อ่าน 69336 ครั้ง)

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 55 [100%]<<

...หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

สองวันแล้วนับจากที่สามเดินกลับเข้าห้องไป…ผมไม่สามารถติดต่อกับเขาได้ ไขกุญแจสำรองเข้าห้องของเขาก็ไม่พบอะไรเลย เสื้อผ้ายังอยู่ ผมไม่เคยดูว่ามันมีมากขนาดไหน ถ้ามันจะหายไปบ้าง ผมคงไม่รู้อยู่ดี ผมเฝ้าเวียนอยู่ไปไหน หวังว่าจะได้เจอเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง ทว่า...แม้แต่เงาของเขาผมก็ไม่เห็น

อีกไม่กี่วันจะถึงวันแข่งขันบีบอยระดับประเทศ ทีมที่ผมฟอร์มมาอย่างหนักจะมาพังเพราะเรื่องส่วนตัวไม่ได้ โซฮานมาซ้อมตามปกติ แต่มันไม่ได้เข้ามาคุยกับผม และผมก็ไม่มีอารมณ์จะคุยกับมัน ตอนนี้ถึงผมจะยังซ้อมเต้น...ยังใส่ใจทุกลายละเอียด แต่ผมกลับไม่สนุกสนานกับมันเลย

บทเพลงที่เคยชอบเล่นท่าบ่อยๆ กลายเป็นเพลงหงอยๆ ที่ผมปล่อยมันผ่านเลยไป ทุกครั้งที่ว่าง ไม่ว่าจะมีเวลาเท่าไหร่ ผมจะโทรหาสาม ส่งข้อความ อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นให้สามฟัง หวังให้วันหนึ่งเขาเปิดมือถือแล้วได้รับรู้มัน

ผมรอการติดต่อกลับจากสามทุกวัน...ทว่ามือถือตัวเองกลับเงียบเฉียบ ไร้ซึ่งวี่แววของเขา เชื่อไหมว่า กว่าเวลาจะผ่านไปได้ในความรู้สึกของผมตอนนี้คือนานมาก ผมเพิ่งโทรหาสามเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พอพักอีกครั้งก็โทรอีก วนเวียนอยู่แบบนี้ตั้งแต่ตื่นยันหลับ...อันที่จริงก็ไม่ค่อยหลับหรอก

ผมหลับไม่สนิทเลย...

“โอ้ย....กูไม่ไหวแล้วเว้ย อีกคนก็เอาแต่โทร อีกคนก็เอาแต่หงอ...พวกมึงสองตัวเป็นเห้อะไรครับ” จู่ๆ ไอ้เรย์ก็โพล่งขึ้น เสียงดังยิ่งกว่าบีทเพลง

“เออ นั่นดิ กูทนมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พวกมึงเป็นอะไรกัน ทะเลาะเชี่ยไรกันวะ...มีไรคุยกันดิ้ นี่ทีมนะเว้ย มึงจะพาทีมหงอยๆ แบบนี้ลงแข่งอ๋อวะ แม่ง แพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนามเลย” ไอ้แนโวยขึ้นบ้าง ผมไม่สนใจอะ นั่งกดมือถือเพื่อส่งข้อความไปง้อรอบที่เท่าไหรก็ไม่รู้ ไม่มีการอ่านสักข้อความ ใจไม่ดี ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“แหนะ พวกกูว่าก็ยังนั่งกดมือถืออยู่นั่น มึงเป็นหัวทีมนะเว้ย มึงต้องมีใจให้ทีมหน่อยสิวะ นี่อะไร...เอาแต่ง้อเมีย” หรือเวลาพวกมึงทะเลาะกับแฟนพวกมึงไม่ง้อแฟน

“ง้อยิ่งกว่าคนไหนๆ เลยด้วย ถามจริงๆ พวกมึงทะเลาะอะไรกัน ไหนพูดซิ...ช่วยได้จะช่วย มึงจะได้ไม่หงอยแบบนี้” เรย์เดินเข้ามาจะแย่งมือถือไปอ่าน แต่ผมไม่ยอม

“กูจะไม่ทะเลาะกับน้องมันเลยถ้าคนบางคนมันไม่ทำอะไรเลวๆ ลงไป” ผมเปรยขึ้น ตาจ้องไอ้โซฮาน

“มึงหมายความว่าไงวะ” ไอ้แนเท้าเอวจ้อง คนอื่นก็พลอยจ้องมองผมเช่นกัน ตอนนี้เหมือนกับว่าเรากำลังประชุมทีมกันอยู่ทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม

“กูทะเลาะกับน้องเขาเพราะเพื่อนเลวๆ คนหนึ่งเว้ย เรารักกันดีๆ...แต่แม่งเสือกไง นี่กูก็รอดูนะ ว่ามันจะทำอะไรบ้างหรือเปล่า จะสำนึกไหมในสิ่งที่มันทำไป แต่ก็ไม่...กูไม่เห็นมันทำเหี้ยไรเลย ความเป็นเพื่อนของเรามันคง...ใกล้สิ้นสุดแล้วล่ะ บางทีแข่งครั้งนี้จบ กูคงเลิกคบมันเป็นเพื่อน” ทุกอย่างรอบด้านนิ่งหมด...

“มึง...ล้อเล่นปะวะ เรามาแตกคอกันเองเพราะเด็กของมึงเนี่ยนะ” ไอ้แนพูดเหวอๆ หลังได้สติ

“มึงจะมองแบบนั้นก็ได้ แต่ระหว่างกูกับมันอะ...คงรู้กันดีว่าเราแตกกันเพราะอะไร กูไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ แต่กูให้อภัยคนที่แทงข้างหลังกูแบบนี้ไม่ได้วะ” ผมลุกขึ้น ตั้งใจจะเดินไปหาอะไรดื่มให้กระชุ่มกระชวย ไม่ใช่แอลกอฮอล์แน่ๆ ไม่ชอบ

“เดี๋ยว...” แต่โซฮานมันรั้งต้นแขนผมไว้ก่อน ผมดึงมือมันออกแล้วมองหน้า

“อะไร”

“มึงพูดจริงเหรอ”

“กูคิดว่ากูพูดจริง...”

“ไม่หรอก มึงแค่กดดันกู” ผมเค้นยิ้มส่งไปให้

“นี่ไม่ใช่เวลาเล่นวะโซ...ที่มึงทำลงไปก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหมือนกัน ถ้ามึงยังอยากให้เราเป็นเพื่อนกัน...ยังรักความสัมพันที่มีมายาวนานนี้ มึงก็ควรทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ลอยหน้าลอยตาไม่ทุกข์ร้อนอะไร ปล่อยให้กูและคนที่กูรักเจ็บปวดแบบนี้ มึงรู้ปะ...กูเฝ้ารอวันที่น้องมันสอบเสร็จใจจะขาด กูอยากให้น้องมันได้พักผ่อนหลังจากที่อดหลับอดนอนมานาน กูพยายามดูแลน้องเขาให้เท่ากับตอนที่น้องเขาเทียวมาดูแลกูช่วงกูโหมงาน แล้วมึงดูดิ...มึงดูน้องเขาต้องเจอกับอะไร วันอาทิตย์นี้คือวันแข่ง...เราตั้งใจไปด้วยกัน น้องมันตั้งใจจะไปเชียร์กูข้างเวที...แล้วมึงดู...มึงดูสิตอนนี้มันเป็นยังไง” ยิ่งพูดเสียงผมก็ยิ่งสั่น...ปากคอมัน...มันควบคุมไม่อยู่อะ

ผมพยายามเก็บอาการเหล่านี้นะ ไม่อยากนึกถึงเรื่องที่มันสะเทือนเท่าไหร่ แค่พยายามง้อต่อไปเรื่อยๆ แต่พอมันไม่มีวี่แววจะสำเร็จผมก็ชักกลัว...ผมเป็นผู้ชายแต่ผมหวั่นไหวเป็นนะเว้ย!

“กู...”

“กูไม่ต้องการคำขอโทษ กูต้องการให้สามกลับมา…กูรักน้องเขา ทำให้กูได้ปะละ” โซฮานหลุบสายตาลง ผมอาศัยช่วงนั้นเดินหนีมันออกมา

ตอนนี้ทุกคนก็คงเดาออกแล้วว่าทำไมระหว่างผมกับโซฮานถึงตึงเครียด เรามีเรื่องทะเลาะกันเพราะผู้หญิงบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยแย่ขนาดนี้ เพราะทุกครั้งมันจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนถอย เรารักทีมมากกว่าตัวเราเอง...เรารักเพื่อนมากกว่าแฟนที่เพิ่งเข้ามา

แต่ว่า...ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน

ถ้าผมทอดทิ้งสาม เอาทีม เอาโซฮานเป็นหลัก นั่นเท่ากับว่าผมนอกกายเขาจริงๆ...ผมทำเลวกับเขาทั้งที่ผมไม่ได้ทำ เราทะเลาะกันเพราะมันเป็นคนก่อเรื่อง มันต้องแก้ไขร่วมกับผมดิ ผมพยายามอยู่คนเดียว เพื่อจะให้ได้คนที่ผมรักกลับมา ส่วนมัน...มันทำอะไร มันก่อเรื่องแล้วมันก็ทำเหมือนไม่เคยทำอะไรเลยแบบนี้เหรอ

เลิกกับสามไป...ผมก็ไม่คบมันหรอก ทำกันขนาดนี้...ผมจะกล้าคบมันอยู่ไหม เกิดวันหนึ่งผมรักใครคนใหม่ มันก็จะเข้ามาทำเรื่องแบบนี้กับผมอีกอะเหรอ ไม่ไหวปะ เพื่อนกันอะ...เขาไม่ทำร้ายเพื่อนแบบนี้หรอก

ผมเดินออกไปหากาแฟดื่ม ช่วงนี้ติดคาเฟอีนหนักเพราะนอนไม่หลับ พวกเครื่องดื่มชูกำลังเอาไม่ค่อยอยู่ ผมไม่ถูกกับของพวกนั้นเท่าไหร่ ไอ้จะไปซื้อกาแฟร้านพี่บอยผมก็ไม่กล้า เอาตรงๆ คือกลัวหลายอย่างหากพี่เขารู้เรื่องนี้ ก็เลยต้องหาร้านอื่นกินซึ่งยังดีที่ตลาดเปิดท้ายมีร้านถูกปากอยู่ร้านหนึ่ง

ได้กาแฟโบราญใส่ถุงกระดาษก็เดินกลับมาที่ฟลอ ไม่มีคนซ้อม ทุกคนนั่งเป็นกลุ่มรวมกัน โซฮานไม่อยู่แล้ว...คาดว่าคำพูดของผมคงทำร้ายความรู้สึกมันอะ แต่ความบ้าชั่วนาทีของมันทำลายความสัมพันของผมกับสาม กระทั่งตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าผมกับน้องเขาจะปรับความเข้าใจกันได้ไหม ในเมื่อน้องมันไม่ยอมเปิดมือถือ ไม่ยอมอ่านข้อความ เรียกว่าไม่เปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายอะไรเลย

แม่ง...แค่คิดก็หงุดหงิด จะทิ้งทีมไปตามก็ไม่ได้ ผมมีเวลาไม่นานในการซ้อมให้ทุกอย่างมันแน่นขึ้น ผมเองเป็นฝ่ายพูดเสมอว่าเราต่างมีหน้าที่ที่เราต้องทำ และเราต้องทำให้ดีที่สุด สามเป็นคนมีความคิดคล้ายๆ กับผม ในเรื่องเรียนน้องมันตั้งใจมาก น้องพยายามทำให้ตัวเองมั่นใจว่าจะสามารถทำคะแนนออกมาได้ดี และจะไม่ผิดหวังกับผลที่จะออกมา

“มึง...ปล่อยไว้แบบนี้มันจะแย่นะเว้ย มึงไม่น่าพูดแรงๆ กับไอ้โซ ขาดมันไปคนทีมก็เป๋นะ” มาร์ชเอ่ยขึ้นเมื่อผมเดินเข้าไปนั่งตรงม้านั่ง

“แล้วพวกมึงจะให้กูทำยังไง...ให้กูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเราแข่งอะเหรอวะ” ตอนแรกก็ตั้งใจแบบนั้นหรอกนะ แต่เรย์มันจุดประเด็นไง ก็เลยระเบิด

“น่าสงสารมัน”

“แต่มึงไม่สงสารกู?” ผมถามแน ก็ใช่...โซฮานน่าสงสาร แต่มันทำตัวเองปะวะ

“เออ แต่ไม่คิดว่าพี่เขาจะทำแบบนี้นะ งงไปเลยอะ” ก้องเอ่ยขึ้น ผมคิดเหมือนมันนั่นแหละ ใครจะไปนึกว่ามันจะเล่นมุกนี้วะ...

พวกเราต่างก็เงียบ ผมเหลือบไปเห็นกระเป๋าของโซฮานซึ่งยังวางอยู่ที่เดิม แสดงว่าเดี๋ยวสักพักมันก็กลับมา ผมนั่งดูดกาแฟในถุง พลางโทรหาสามเผื่อว่าน้องมันจะเปิดเครื่องแล้ว แต่ก็เหมือนเดิม ไม่ว่าจะกี่ครั้ง...ก็ยังได้ยินเสียงผู้หญิงคนเดิม ประโยคเดิมๆ วนไปวนมา รู้ไหม...การมานั่งฟังอะไรแบบนี้ทุกวี่วันมันน่ารำคาญขนาดไหน เมื่อวานตอนดึก ผมเหนื่อย ผมท้อ...ผมแทบจะปามือถือทิ้งเพราะเสียงบ้านี่แหละ แต่ต้องหักห้ามใจเอาไว้

กาแฟไม่ทันหมดถุงดีโซฮานก็เดินกลับเข้ามาที่ฟลอ หน้าแดงและตาก็แดงก่ำไปหมด ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไปร้องไห้มา ช่างหัวแม่งเหอะ...ดีที่ยังกลับมาซ้อมเต้นแหละ ผมวางกาแฟในมือลงแล้วเรียกให้ทุกคนเริ่มซ้อมอีกครั้ง

บทเพลงที่พวกเราพยายามตัดต่อถูกเปิดย้ำวนไปเรื่อยๆ ทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดโดยเฉพาะโซฮาน ผมอยู่กับมันมานาน ยามที่มันตั้งใจมันเป็นยังไงผมรู้ดี แล้วก็คิดว่ามันคงไม่อยากทำให้ผมผิดหวังในตัวมันมากไปกว่านี้ แต่ทางที่ดี...มันควรหาทางช่วยผมให้น้องกลับมา

การแข่งโบตี้หรือการคว้าแชมป์ระดับประเทศไม่ใช่ความฝันของผมหรอก มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แต่เมื่อคุณยืนอยู่ในจุดสูงสุดของทีม...คุณคือแบกรับความคาดหวังของทุกคนในทีม นั่นคือหน้าที่ความรับผิดชอบที่ผมต้องมี สำหรับผม...การแข่งขันคือความสนุกสนานอย่างหนึ่ง ได้ออกไปแบทเทิลกับคนอื่นๆ ได้เจอผู้คน พบปะผู้คน เราแลกเปลี่ยนความสุขกันผ่านการเต้น ผ่านเสียงเพลงและลีลาท่าทาง

สามเคยไม่ชอบการเต้น...เขาว่ามันยาก แต่พอเขาได้เต้น ได้อยู่รวมกับพี่ๆ น้องๆ ในฟลอ เขาก็ดูมีความสุขและสนุกไปกับมัน นี่คือเสน่ห์ที่ผมเองก็หลงใหล และสามน่าจะเริ่มหลงมันเหมือนกับผม เขาอาจไม่เก่งเลย เขาก็พยายาม เหนื่อยแล้วพัก...พักแล้วซ้อมต่อ

ผมชอบที่ได้สอนน้องเต้น ชอบที่จะได้แกล้งจนเขาเบะปากทำหน้างอแงเหมือนเด็กๆ แต่สามไม่เคยงอนผมจริงๆ เลยสักครั้ง เขาก็แค่...ทำเหมือนจะอะนะ การมีแฟนมานั่งรอเราทุกวัน อยู่กับเรายามเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก มองกลับไปกี่ทีก็เห็นเขามองมาพร้อมรอยยิ้ม มันคือสิ่งที่ดีมากๆ...มีความสุข และบทเพลงไร้คำร้องกลับมีความหมาย ผมจำเพลงแรกที่สามหัดท็อปร็อกได้...

บีทช้าๆ แต่ชัดเจนนั้นผมเป็นคนเปิด เพลงเก่าแล้วล่ะ ผมเองก็เริ่มมาจากเพลงๆ นี้เช่นกัน เขาคงไม่ได้สังเกตเห็นผมที่คอยจับจ้องมองเขาขยับตัวไปตามจังหวะ คิ้วขมวดหน่อยๆ เวลาที่ตัวเองมึนงงสับสนกับร่างกายตัวเอง แล้วไม่นานเขาก็เริ่มยิ้มเมื่อจับจังหวะได้ ไลน์การเต้นของสามสวยนะ...อาจไม่โดดเด่นแต่ถ้าฝึกเยอะๆ เขาเป็นอีกคนที่น่าจับตามอง

ผมเคยคิดด้วยว่า...ปีหน้าจะเอาเขาลงงานแข่งระดับประเทศด้วยกัน

คนอื่นๆ อาจกลัวที่จะทำงานร่วมกับคนรักของตัวเอง การมีทีมแล้วมีแฟนอยู่ด้วยดูเป็นปัญหาและคนส่วนใหญ่เลี่ยงมัน เพราะมันทะเลาะกันง่าย ผมไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น กลับกันเลย...ผมอยากให้เขาอยู่ในทีมเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกัน ซ้อมด้วยกัน

ผมอยากเดินจับมือกับเขาไปในทุกๆ ที่ที่ได้ไป

สามอยากเป็นคุณครูที่ไม่ต้องรับราชการ แค่สอนเด็กๆ ให้มีความรู้ เป็นเหมือนครูสอนพิเศษตามสถาบันต่างๆ แต่สถานบันของสามคือวัดแถวบ้าน...เด็กน้อยมาดคุณหนูอย่างเขา ใครจะไปคิดว่ามีความฝันแบบนั้น แถมยังติดเกมอีกต่างหาก ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาดีได้หรอก ทว่าพอเห็นเขาตั้งใจเรียนขนาดนั้นแล้ว...ผมคิดว่าความฝันของสามอยู่แค่เอื้อมเท่านั้นเอง

เขาเคยบอกว่า…เขาอยากเต้นบีบอยเก่งๆ เขาจะเอาไปสอนเด็กๆ ที่บ้านเขา เด็กๆ จะได้มีกิจกรรมที่สนุกสนานแบบนี้ เรื่องยาเสพติดหรือเรื่องการมั่วสุมก็จะได้ห่างไกลพวกเขา นั่นคือความคิดของเด็กอายุสิบแปดปี...เด็กวัยรุ่นซนๆ คนหนึ่ง มันยิ่งใหญ่ ผมเคยค่อนคอดสามว่า...สามเกิดมารวยไง สามมีทุกอย่าง ไม่คิดว่าโตไปอยากหาทุกอย่างด้วยตัวเองหรือไงอะแบบนั้น ผมเองก็เกิดมามีครบนะ…แต่อยากเติบโตด้วยตัวเองก็เลยพยายามเองทุกอย่าง สามนี่เขาขอพ่อแม่หมด

สามกลับคิดว่า...เรามีเยอะ เราก็แบ่งปัน สิ่งที่สามจะแบ่งปันผู้คนคือ...สติปัญญาและความรู้ ไม่ใช่เงินทอง ที่บ้านมีกินมีใช้ อาจมีจุดที่ย่ำแย่ในอนาคต แต่เขาสามารถรับราชการได้ทุกเมื่อถ้าอยากรับ ไม่มีอะไรต้องห่วงหรือกังวล...คิดแค่เราจะแบ่งปัญอะไรให้ได้มากที่สุดก็พอ

เฮ้อ...ผมคิดถึงเขา

“ไอ้โซฮานอะ” เรานัดซ้อมกันตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นทุกวัน ยิ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ซ้อม ยิ่งต้องเข้มงวดกว่าเคย แต่ปรากฏว่า...โซฮานหายไป

“โทรตามแล้วมันไม่รับวะ เดี๋ยวคงตามมาสายๆ มั้ง” เรย์เป็นฝ่ายตอบ ตาปรือไปหมดเพราะเลิกซ้อมกันตอนตีสอง แล้วนี่เพิ่งแปดโมงเช้า

“ปกติมันไม่เคยสายนะ” โซฮานเป็นคนตรงต่อเวลา ยิ่งวันสำคัญแบบนี้มันไม่น่าสายได้ดิ

“ช้ำใจตายไปล่ะมั้ง ก็เลยไม่มา” ไอ้แนแหน็บแนม ผมมองมันตาขวางๆ

“มันบอกมันไปธุระ เดี๋ยวตามมาซ้อมเที่ยงๆ” ไอ้มาร์ชเดินเข้ามาพร้อมเอ็มร้อย

“ไปไหนของมันวะ พรุ่งนี้แข่งแล้วนะเว้ย” ผมหัวเสียนิดหน่อย

“จะไปรู้ไหมละ ก็มันส่งข้อความมาบอกงี้อะ มึงก็โทรไปหามันดูดิ บางทีนะเว้ย...มันอาจช้ำใจมากจนไม่สบายเลยมาซ้อมไม่ไหว” แนยังย้ำเรื่องช้ำใจ แต่ผมไม่แคร์วะ

ผมลองโทรหาไอ้โซฮาน รอสายอยู่นานคิดว่าไม่รับสายแล้วแต่มันก็รับ น้ำเสียงไม่เหมือนคนเป็นไข้อะไร มันไม่พูดมาก ไม่อธิบาย แค่เดี๋ยวตามไปซ้อม ต้องไปธุระด่วนเท่านั้น เสือกมามีธุระเอาวันนี้อีก เออดี...วันนี้ผมจะเลิกเร็วด้วย กะว่าเย็นๆ จะแยกย้ายห้องใครห้องมันแล้ว เพราะว่าพรุ่งนี้งานแข่งมีตั้งแต่เก้าโมงเช้า เกิดโหมหนักไปจะตื่นกันไม่ไหว ไม่มีแรงแข่งพอดี

“เออ...วอร์มกันได้ล่ะ” วางสายจากโซฮานก็สั่งคนอื่นๆ วอร์ม ส่วนผมต้องไปหากาแฟดื่มหน่อย เมื่อคืนนอนไม่หลับเหมือนเดิมงีบไปหน่อยเดียวช่วงตีห้ามั้ง วาดรูปง้ออยู่ในเพจน่ะ...ไม่เห็นสามมากดไลก์สักอันเลย เศร้าฉิบเป๋ง

ระหว่างรอกาแฟที่สั่ง ผมก็หาข้าวเช้ากินไปด้วย เผลอเหลือบไปเจอร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง...แม่ง ภาพสามงอแงจะกินหูปิ้งลอยแว้บเข้ามาเลยแฮะ ผมตัดสินใจเดินเข้าไป…ไม่ได้สั่งหมูนะ สั่งไก่ คิดถึงแค่ไหนแต่ไม่กินหมูคือไม่กินครับ แค่แบบ...โอ้ย อยากได้ยินเสียงเว้ย

ถ้าผมไม่สามารถติดต่อเขาได้...ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นภายในวันอาทิตย์นี้ แข่งเสร็จผมตั้งใจจะไปหาพี่บอย ไปถามหาบ้านสามที่ต่างจังหวัด ต่อให้พี่บอยจะตีผมหัวแตกก็เหอะ แต่ผมต้องรู้ให้ได้...ผมจะไปง้อน้องถึงที่เลย ไม่กลัวด้วยว่าที่นั่นจะมีพ่อแม่หรือพี่ชายสามอยู่ ผมจริงจังมาก...อยากคุย อยากปรับความเข้าใจ ไม่ชอบที่มันเงียบแบบนี้...

เราวิดีโอคอลคุยกันทุกคืนเพราะน้องเขาไม่ยอมให้ผมไปนอนด้วย...เห็นเขานั่งอ่านหนังสือจนผมหลับ ตื่นมาบางครั้งเห็นน้องเขานอน บางครั้งน้องเขาก็แต่งตัวเตรียมไปเรียน หรือบางครั้งก็ยังนั่งทำงาน อ่านหนังสืออยู่ที่เดิม มันเป็นภาพชินตา...เรากินข้าวด้วยกัน ไปส่งน้องเขา ไปรับน้องเขา

อึดอัดชะมัด...พูดไปแล้วไม่เชื่อ เถียงมา ด่ามาอะไรแบบนี้ยังดีกว่าการไม่รู้ ไม่รับฟังผมแบบนี้อะ...เหมือนเราตะโกนให้ดัง ดังที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้วแต่น้องเขาก็ไม่ได้ยินมัน ผมเหนื่อย...แต่เพราะรักเขา อยากได้เขากลับมา เลยต้องพยายามต่อไป

มันอาจเป็นความพยายามโง่ๆ นะ แต่ตอนนี้ผมทำได้เท่านี้ก่อน ไม่แน่ ผมอาจจะเอาแชมป์โบตี้ของปีนี้ไปง้อเขาก็ได้ มันจะช่วยให้เขาหายโกรธผมไหม...จะช่วยให้เราดีกันหรือเปล่า หรือ...ผมควรเอาสเต็กหมูไปง้อดีล่ะ

บอกตรงๆ…เอาอะไรไปง้อแล้วเราดีกันได้ ตอนนี้ผมยอมหมดเลย

(จบมะเดี่ยว)

….100%….

หายไปหลายวันต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ ถือว่าเราอู้รับปีใหม่เนอะ แฮ่ๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :เฮ้อ:มันคือความเหนื่อยใจของการมีเพื่อนไม่โอเค

 :L2: :L1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2018 00:18:49 โดย Billie »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ถูกของมะเดี่ยวนะ คนก่อเรื่องจะมาทำเฉยเมยกับสิ่งที่ตัวเองก่อไม่ได้ ต้องมารับผิดชอบร่วมกัน ยิ่งกับเพื่อนมาทำแบบนี้ก็ตัดเพื่อนได้ง่ายๆเหมือนกัน

ออฟไลน์ Crossley

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
เพื่อนเดี่ยวแต่ละคนน่ากวาดลงถังให้หมด

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โซฮานน่าจะพูดอะไรซักหน่อย

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 56 [100%]<<

“สาม...ใครโทรมาเต็มเลยวะ มะเดี่ยวทั้งนั้นเลยนี่....” เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ ไอ้พี่สองงงงง

“จริงดิ ผมไม่เห็นมีสายเข้าเลยนะ ไม่ได้ยินเสียงไรเลย”

“จะไปได้ยินได้ไงวะ มึงเปิดโหมดเครื่องบินไว้เนี่ย” ตาโตแป๊บ

“ผมลืมอะ” เออ จริงๆ นะ ผมลืมปิดโหมดเครื่องบิน ก็ว่า…ทำไมพี่เขาไม่โทรมาง้อ

คืองี้…วันที่ผมมาผมก็นอนคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย พอสรุปเรื่องราวในหัวตัวเองได้ว่าน่าจะเป็นแผนพี่โซฮาน ผมก็เริ่มสบายใจขึ้น แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่แกไม่ปิดโหมดเครื่องบิน...เกี่ยวดิ สบายใจแล้วก็หิวดิ เออ สบายใจแล้วหิว ไปหาข้าวหาปลากิน จากนั้นก็โดนพี่ๆ ใช้งานให้ไปดูหมาน้อยทั้งหลายแหล่ในฟาร์ม พ่อกับแม่เข้ามาช่วงบ่าย เลยอยู่ด้วยกันยาว ทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องมือถือเลย

ไอ้คิดถึงน่ะมันคิดถึงนะ...แต่เพราะไม่ได้กลับบ้านมานานมั้ง ก็เลยมีเรื่องเล่าจากผมสู่ครอบครัวมากมาย พี่ผมกลับมาแกล้งน้องเต็มที่ ประหนึ่งไม่มีน้องให้แกล้งมาสามสี่ชาติเศษ นี่แค่หนีพี่ตัวเองไปวันๆ ก็เหนื่อยจะตายแล้ว นี่ยังคิดอยู่เลยว่าทำไมพี่มะเดี่ยวไม่โทรหาผมสักที ผมก็เปิดมือถือไว้นะ เสียบสายชาจเก็บไว้เรียบร้อย แต่ไม่เห็นสายเรียกเข้า นี่เลยงอนไม่กลับไปทั้งที่อาทิตย์นี้พี่มะเดี่ยวแกจะลงแข่งระดับประเทศแล้ว

สรุป...กูเล่นตัวเพราะกูลืมปิดโหมดเครื่องบิน

โอ้ยยยยย เบ๊อะอะไรแบบนี้วะเนี่ย แล้วพี่สองก็ถือวิสาสะเข้ามาที่ห้องผมแต่เช้าเลยนะ ผมยังไม่ลุกจากที่นอนเลยอะ ความรักวิ่งเข้าหาพี่สอง ในขณะที่พี่ผมแม่งเสือกมือถือผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แฟนอ๋อ” แกเปิดภาพวาดที่ดูเหมือนภาพสีน้ำ เป็นพี่มะเดี่ยวอุ้มความรักพร้อมข้อความว่า...ดีกันนะ น่ารักวะ ทำไมกูไม่ปิดโหมดบ้านั่นให้เร็วกว่านี้จะได้กลับไปหา

“อื้อ”

“ทะเลาะไรกัน” พี่สองเดินมานั่งข้างเตียง

“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยอะพี่ ที่จริงรอเขาง้ออยู่”

“แต่ลืมปิดโหมดเครื่องบิน” ยิ้มหวานส่งให้เป็นการบอกว่า...ช่ายเลยพี่ชาย

“ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนหมูนะ สมองก็เหมือน...” นี่คือแปลได้ความว่ายังไง ไหนบอกหน่อย โง่หรือเปล่า หรือยังไง...ผมว่าความรักมันไม่โง่นะ มันก็ฉลาดอะ

“สามมีคนมาหา” จู่ๆ พี่หนึ่งก็เดินเข้ามา

“หืม…ใคร”

“ไปดูเอง รออยู่ที่ล็อบบี้ ล้างหน้าแปรงฟันก่อนไปด้วยนะ เน่า…” ครับพี่ชายสุดที่รัก

พี่สองวางมือถือไว้ข้างหมอน แกอุ้มความรักเดินไปพร้อมพี่หนึ่ง ไม่ปิดประตูให้ด้วย ผมต้องเดินไปปิดก่อนจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว อยากจะเปิดมือถือดูนั่นดูนี่ที่พี่มะเดี่ยวส่งมาให้จังเลย...

ผมว่าพี่มะเดี่ยวก็น่าจะรู้แล้วมั้งว่าต้องเป็นฝีมือพี่โซฮาน อีกเรื่องที่ผมรอดูคือพี่เขาจะบอกไหมว่าเป็นใครทำ หรือว่าจะบอกว่าเมาแล้วไม่รู้เรื่องเหมือนครั้งที่แกบอกผมในวันนั้น มันน่าเจ็บใจนะ...ผมในวันนั้นมีสติไม่มากไง ก็เลยเชื่ออะไรได้ง่ายไปหน่อย ผมแค่คิดว่า...พี่โซฮานแกชอบพี่มะเดี่ยว แล้วเกิดทั้งคู่เมาจนเลยเถิดจริงๆ มันก็ไม่แปลกอะไรไง ผมคิดถึงหลายๆ กรณีนะ...ถ้าเขามีอะไรกันจริงๆ ผมก็ต้องรอดูว่าพี่มะเดี่ยวจะว่ายังไง

ตรงๆ เลยคือมีความมั่นใจมากว่า…พี่มะเดี่ยวต้องเลือกผม

ฮ่าๆ บ้าบอไหมล่ะ ก็ไม่รู้ดิ ไม่งั้นวันนั้นเขาจะอ้อนวอนผมขนาดนั้นเหรอ ผมรู้ว่าพี่เขารักและเอ็นดูผมขนาดไหน เขาไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก มันเป็นความเชื่อใจละมั้ง นี่แหละ หายโกรธแล้วสติมันก็กลับมา..อีกอย่าง ผมไม่ทุกข์ใจมากนักเพราะครอบครัวของผมอบอุ่นมาก...

ผมทุกข์แค่วันที่มาวันเดียวนั่นแหละ คิดได้ปุ้บเลิกทุกข์ปั้บ เหมือนเราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันร้ายแรง แค่งอนๆ กันนิดหน่อยเดี๋ยวก็คืนดีกัน ยิ่งมีพี่ๆ พ่อแม่และสัตว์เลี้ยงอยู่รายล้อม ก็ยิ่งบรรเทาอะไรหลายๆ อย่างในความรู้สึกของผมได้ บอกแล้วว่า...ผมเป็นคนที่มีความสุขมากนะ มีพร้อมแล้วทุกอย่างอะ ยกเว้นเรื่องแฟน...รักพี่มะเดี่ยวมาก แต่เชื่อมั่นมากว่าพี่เขาต้องไม่ทำร้ายผมแน่ๆ ไอ้ไม่กลับไปเพราะงอนเขาไม่ง้อ

ที่ไหนได้...ลืมปิดโหมดเครื่องบิน

เออๆ ช่างมันเหอะ เดี๋ยวผมมาอ่านก็ได้ ไปเจอคนที่มาหาก่อน...ใครมาก็ไม่รู้ เพื่อนผมเปล่านะ เพื่อนที่เรียนที่เก่าเข้ามหาลัยแถวนี้เยอะเหมือนกันอะครับ ผมกลับมาหลายวันแล้วพวกมันน่าจะรู้บ้างแหละว่าผมมา พ่อแม่ก็เพื่อนๆ กันทั้งนั้น

“เอ่อ...” เดี๋ยวนะ ผิดคาดไปไกลวะ เพื่อนบ้าเพื่อนบออะไรวะ

นี่ผมจากมานานจนอะไรๆ เพี้ยนไปเยอะเหรอครับ...หรือเพราะไม่ยอมปิดโหมดเครื่องบินก็เลยตามอะไรไม่ทันโลกเสียแล้ว คอมพ์นี่ผมก็ไม่ได้ใช้ไง พี่ยึด...ฮ่าๆ เศร้าใจ เขาว่าผมชอบเล่นแต่เกม กลับบ้านมาทั้งทีไม่อยากให้เล่นเกมมากๆ อยากให้อยู่ด้วยกันพี่น้องพ่อแม่ลูกเยอะๆ ผมยอมเพราะนานๆ มาทีจริงอย่างที่พี่ว่าอะครับ

“เชิญนั่งก่อนครับ...” ผมผายมือเชิญพี่เขานั่งตรงโต๊ะไม่ห่างจากเคาน์เตอร์ล็อบบี้ พี่เขาก็เดินไปง่ายๆ

หน้าตาแบบนี้นี่...ร้องไห้มาใช่ไหม ไม่ได้นอนด้วยอะดิ คิดมากแน่เลยผมรู้ ผมเห็น ผมเข้าใจดี...ผมทุกข์ไม่มากเท่าเขา เพราะผมรู้แล้วว่ามันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ผมกับพี่มะเดี่ยวผิดใจกัน เอ่อ ไม่เชิงผิดใจปะ...เรียกว่าผมเข้าใจพี่เขาผิดคงจะถูกต้องกว่า แล้วคนที่ทำให้ผมเข้าใจแฟนผมผิดก็คือคนนี้...

ไม่คิดจริงๆ ว่าจะมาด้วยตัวเอง แค่คาดเอาไว้คร่าวๆ ว่าเขาส่งข้อความมาขอโทษ...อะไรนะ ว่าสามเป็นจอมวางแผนเหรอ บ้า ผมไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย งอนพี่มะเดี่ยวไม่โทรมาง้อล้วนๆ ส่วนที่คิดว่าพี่คนนี้จะส่งข้อความมาขอโทษนี่คิดไปเองล้วนๆ

“ดูเราสบายดีนี่” ผมยิ้มรับ พยักหน้า

“ก็สบายดีครับ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร” น้ำเสียงร่าเริงของผมทำให้เขาคิ้วขมวด

“ไอ้เดี่ยวมันแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ..เราไม่รับรู้เลยเหรอ” ไม่รู้อะ นี่ก็รอเขาง้อไง...เขาไม่มาง้อ ต้องย้ำอีกกี่รอบ ว่าลืมปิดโหมดเครื่องบิน

“เหรอครับ เขาทำตัวเองนี่” ทำเป็นไม่รู้ไว้ก่อน

“สำหรับผมนะ...ผมไม่ชอบที่แฟนผมนอกใจ นอกกายอะไรแบบนี้อะ มันสื่อถึงความไม่ซื่อสัตย์ ถ้าพี่เขาจะแย่ มันก็เพราะพี่เขาทำตัวเขาเอง ว่าแต่...พี่โซฮานมาหาผมมีอะไรหรือเปล่า” เข้าเรื่องเนียนๆ พี่เขาสีหน้าไม่ดีเลย...ก็เดาไม่ออกหรอกว่ามีอารมณ์ไหนบ้าง คร่าวๆ ที่แน่ใจคือเขาไม่พอใจในคำพูดผมนัก

“เราคิดง่ายๆ แค่นี้อะเหรอ ไม่คิดจะฟังมะเดี่ยวอธิบายหรือไง” คำพูดในเชิงให้ผมเห็นใจพี่มะเดี่ยวเหรอ...อืม ก็เหมือนก่อนที่เขาชอบพูดทำนองนี้ ให้ผมดูแลพี่มะเดี่ยว ให้ผมเอาแต่ตามพี่มะเดี่ยว เห่อๆ...

“พี่คิดว่าการคิดง่ายๆ นี่ทำง่ายเหรอครับ...พี่คิดว่าผมไม่เจ็บปวดเหรอ การที่ผมต้องฟังพี่มะเดี่ยวอธิบายโดยรู้สึกว่ามันเป็นคำโกหกนี่เท่ากับผมเอาตัวเองเข้าไปเจ็บนะ” ทำตาเศร้าแป๊บ...นี่แหละ ผมรู้พี่เขาไม่ชอบผม แต่คำพูดที่ดูเหมือนจะว่าร้ายพี่มะเดี่ยวน่าจะบีบอะไรในความรู้สึกพี่โซฮานได้บ้างละนะ

“มะเดี่ยวไม่ได้โกหกหรอก...”

“พี่หมายความว่าไง...พี่จะเข้าข้างคนผิดเหรอ”

“คนผิดคือพี่เอง!” เขาตะเบ็งเสียงขึ้นมา จ้องตาผมอย่างแน่วแน่ และดูท่าก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้เท่าไหร่

เขาเจออะไรมาน้า...อยากรู้จังว่าอะไรทำให้พี่โซฮานมาอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าผมพร้อมกับออกตัวแทนพี่มะเดี่ยว เขาทำแบบนี้เพื่อให้ผมกับพี่มะเดี่ยวเลิกรากันไม่ใช่เหรอ เพื่อจะได้พี่มะเดี่ยวไปเป็นของตัวเอง คิดว่า...คนที่ทำให้พี่เขามาหาผมได้น่าจะเป็นคนที่เขาอยากได้มาตลอดนั่นแหละมั้ง

“ผมไม่เข้าใจ...” เขาเหมือนจะด่าผมโง่ในแว้บหนึ่ง แล้วหายใจเข้าลึกๆ

“รู้จักโซแลมไหม” โซแลมคือแอลกอฮอล์อัดเม็ด นิยมใช้มอมสาวตามผับบาร์ ผมรู้…ผมเรียนมา

“ไม่รู้จักครับ” โง่อีกคำในแววตาของเขา

“มันเป็นแอลกอฮอล์อัดเม็ด พี่แอบใส่ในแก้วมะเดี่ยวเอง...กูเป็นคนมอมมันแล้วจัดฉากเอง ชัดพอไหมล่ะ!” เขาไม่มองหน้าผม แต่มองฝ่ามือที่สั่นไหวของตนเอง ในที่สุด...ความจริงก็ออกมาจากปากเขาจนได้

“มึงยิ้มอะไร!” อุ้ย...โทษที มาดหลุดอะ

“ก็...ดีใจมั้งครับ ที่พี่มีความกล้าขนาดนี้ นึกว่าจะกล้าแต่ลับหลังเสียอีก...” คำพูดของผมทำให้โกรธ พี่โซฮานมองออกแล้วว่าผมตีหน้าซื่อหลอกเขา อ่าว...ผมไม่เคยบอกเหรอ ว่าผมไม่สู้คน...แต่ผมไม่ยอมคนน่ะ

“ผมรู้อยู่แล้วล่ะ รู้ตั้งแต่พี่มะเดี่ยวบอกว่าพี่ชวนกินเหล้า...ผมก็แค่รอว่าพี่จะกล้ายอมรับไหม หรือว่าพี่มะเดี่ยวจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”

“งั้นที่มึงไม่ยอมทำอะไรเลยเพราะต้องการทำให้มะเดี่ยวมันช้ำใจใช่ไหมล่ะ มึงแม่ง...มึงรู้ไหมมะเดี่ยวมันแย่ขนาดไหนตอนนี้” ผมรีบยกมือห้าม

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ...พี่มะเดี่ยวเป็นแบบนั้นเพราะนั่นคือผลพวงมาจากการกระทำของพี่เอง พี่เป็นคนทำร้ายพี่มะเดี่ยวไม่ใช่ผม ผมรู้ว่าพี่รักพี่มะเดี่ยวมาก มากเกินคำว่าเพื่อน...รู้มาสักพักแล้ว แต่ไม่คิดว่าพี่จะกล้าหักหลังเพื่อนตัวเองแบบนี้ ผมมาทีหลังครับ ผมจะไปพูดอะไรมันก็ไม่เหมาะ...แต่ไหนๆ มันก็มาขนาดนี้แล้ว ผมไม่ได้อยากเข้ามาแย่งความรักพี่นะ ไม่อยากทำให้พี่ต้องเจ็บ แต่พี่ต้องยอมรับนะครับว่า...ตอนนี้พี่เป็นแค่เพื่อน และผมกับพี่มะเดี่ยวคบกันอยู่ หากเราเลิกกันด้วยตัวพวกเราเอง แล้วพี่จะเข้ามาเสียบ มาแทรก ผมก็จะไม่อะไรเลย...นั่นเป็นสิทธิ์ของพี่ แต่ในเมื่อมันไม่เป็นแบบนั้น พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงระหว่างเรา...ถูกไหมครับ” ผมพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด การที่พี่โซฮานมาอยู่ตรงนี้คงหมายถึงโดนอะไรมาจากที่นั่น ผมก็ไม่อยากทำร้ายซ้ำเติมแต่อยากให้พี่เขาเข้าใจและเคารพในความเป็นส่วนตัว

เราทั้งสองนั่งมองหน้ากันนิ่ง พี่โซฮานคงอยากเถียงอะไรสักอย่างแต่หาคำที่เหมาะสมไม่เจอ เป็นผม ผมก็คงเถียงไม่ออกหรอก ผมเผยแล้วว่าผมรู้มาตลอดเรื่องความรู้สึกพี่เขา ไม่ได้โง่นะ...แสดงออกน้อยไปหน่อยเท่านั้น เพราะการที่พี่โซฮานจะรักหรือชอบพี่มะเดี่ยวเกินเพื่อนมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาอะ เรื่องของหัวใจมันห้ามกันไม่ได้อันนั้นผมรู้ แต่อยากให้พี่เขาอยู่ในเขตของเขาไม่ล้ำเส้นมาแบบนี้

“เข้าใจแบบนี้มึงจะกลับไปไหม...” หลังผ่านไปหลายอึดใจ พี่โซฮานก็ถามขึ้น ทว่าผมยังไม่ทันตอบ พี่สองก็เดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ไอศกรีมกะทิสดฝีมือแม่

“อะ…แม่ให้เอามาให้” พี่แกวางห้วนๆ มองหน่าพี่โซฮานแว้บหนึ่งแล้วจากไป

“ทานก่อนสิครับ ฝีมือแม่ผมอร่อยนะ…” ผมหยิบส่งให้พี่เขาตรงหน้าถ้วยหนึ่ง

“ไม่อะ...”

“นะครับ ทานกับผม อร่อยมากผมคอนเฟิร์ม ส่วนเรื่องกลับไป ยังไงก็คงกลับครับ...” พี่โซฮานจำใจรับถ้วยอย่างเสียไม่ได้ เขามองหน้าผมนิดหน่อยก่อนมองไอศกรีมในถ้วย

พี่เขาจำใจตักชิม ส่วนผมจ้วงเอาจ้วงเอา อร่อยอย่าบอกใคร ผมชอบมากที่แม่ผมทำ อยากทำเองเป็นบ้างแต่คงได้แค่ในฝันเท่านั้น การทำไอศกรีมเป็นอะไรที่ยุ่งยากและต้องมีเครื่องไม่เครื่องมืออะ

“โกรธกูปะ” จู่ๆ พี่โซฮานก็ถามขึ้น

“อืม..จะว่าไงดี มันไม่ถึงกับโกรธ แต่ก็ไม่พอใจในการกระทำของพี่เท่าไหร่ ผมรู้พี่ไม่ชอบผม แต่ไม่เป็นไรฮะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ผมไม่มีซีเรียสหรอก” พูดจริง เพราะผมไม่โฟกัสที่คนไม่ชอบผมไง เราอยู่ห่างเขา ไม่แสดงตัวเป็นศัตรูกับเขาก็พอแล้ว ที่ผ่านมาผมก็เลยไม่ค่อยมีคนเกลียดนัก

“มึงมองโลกในแง่ดีไปนะ” พี่โซฮานบอกเบาๆ

“ก็คงงั้นมั้งครับ พี่ก็ลองมองอะไรแง่บวกดูบ้าง...มันดีกับตัวเรานะฮะ” ผมยิ้มหวานให้พี่โซฮาน ถึงแม้เขาจะเป็นตัวการในการทำให้ความรักของผมสั่นคลอนก็เหอะ ไม่สิ ความรักของผมไม่สั่นคลอน มันยังอยู่ดีมีสุข กินอิ่มนอนหลับและดูท่าจะสบายมากเสียด้วย

พี่โซฮานนั่งกินไอศกรีมเงียบๆ อยู่จนหมด เขามองผม มองรอบๆ แล้วก็ขอตัวกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่รั้งพี่เขาเอาเพราะว่าผมมีเรื่องที่อยากจะทำ อะไรเหรอ...โห่ เช็กมือถือสิครับ!

คว้าถ้วยทั้งสองใบวิ่งโล่ไปเก็บในครัว จากนั้นตรงกลับห้องตัวเอง ความรักมันอยู่กับพี่ๆ ผม ปล่อยมันไปเถอะ นี่คือช่วงเวลาของผมกับการได้เสพข้อความต่างๆ ของพี่มะเดี่ยว ตลอดสามวันที่ผ่านมา พี่เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ

สามร้อยเกือบสี่ร้อยสาย...กับอีกเกือบหกร้อยข้อความ!!!

กลิ้งแป๊บ ทุ่มทุนอะ เอาเวลาว่างทั้งหมดมาโทรหา มาส่งข้อความเลยปะเนี่ย ไม่ได้อยากยิ้มหรอกนะ...แต่ริมฝีปากมันฉีกไปเอง ผมรู้ช่วงนี้พี่เขาซ้อมหนักมาก แล้วยังเทียวโทรหา มาส่งข้อความหาตลอดแบบนี้มันก็คงเหนื่อยไม่น้อย

ผมไล่อ่านตั้งแต่ข้อความแรกซึ่งเป็นรูปความรัก ทำหน้าอ้อนๆ พี่มะเดี่ยวแกอธิบายเรื่องวันนั้นยาวยืด เล่าแทบทุกอย่างที่พอจะจำได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องเป็นราวกว่าตอนที่เขากอดผมแล้วอธิบาย หลังจากนั้นก็ถามทำอะไร อยู่ไหน พี่คิดถึง พี่ขอโทษ พี่ขอโอกาส...มันวนๆ อยู่แต่แบบนี้ไม่มีอะไรมากนัก ที่สำคัญ...พี่เขาไม่ขายเพื่อนตัวเองเลยแม้แต่ประโยคเดียว ถ้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นหน่อยผมก็คงโกรธไปแล้ว เพื่อนแบบนั้นจะปกป้องทำไม แต่อย่างว่า...เขาก็คงหาทางทำอะไรสักอย่างในแบบของเขาโดยที่ไม่ต้องเอาเพื่อนมาแฉ ซึ่งพี่โซฮานก็ได้มาพูดกับผมแล้ว

พี่มะเดี่ยวเรียบเรียงคำพูดหวานๆ ไม่เก่ง แต่วาดรูปง้ออะเก่งครับ...ผมนี่เซฟมันทุกรูป มีรูปที่ผมหลับคาโต๊ะคอมพ์ด้วย ไม่รู้ตอนไหนเหมือนกัน น่าจะช่วงเขาทำงาน ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งจะมาเห็นนี่แหละ...ชื่นใจจัง ถึงมันจะไม่ใช่ความพยายามที่เลิศเลออะไร แต่ก็คือได้พยายามที่จะทำอะไรสักอย่าง พี่มะเดี่ยวถ่ายรูปที่ฟลอส่งมาด้วย บอกด้วยว่าเขาตั้งใจซ้อมขนาดไหน เขากำลังพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ผมรู้...นั่นคือสิ่งที่พี่รัก ส่วนข้อความและทุกเวลาว่างที่พี่ได้มอบให้นั้นก็คือเพื่อคนที่พี่รัก...

ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมหายงอนพี่ตั้งแต่รูปแรกที่พี่ส่งมาแล้ว แต่ที่เพิ่งเห็นน่ะ…เพราะเพิ่งปิดโหมดเครื่องบิน ผมหัวเราะอยู่กับความบ้าบอของตัวเอง ตาก็ไล่อ่านและตอบข้อความเขาในใจไปด้วย

“พรุ่งนี้...ผมจะไปเชียร์นะ แต่วันนี้น่ะ รอไปก่อน...” บอกกับตัวเองยิ้มๆ ใกล้จะเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที...โถ ซึมมาตั้งหลายวัน ของยิ้มทั้งวันหน่อยจะเป็นไรไปเนอะ


….100%….

ความเปิ่นของน้องทำให้พี่มะเดี่ยวใจแทบขาดรอนๆ แต่นี่นับเป็นความแมนเพียงครั้งเดียวของโซฮาน ปรบมือ~  :katai2-1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :เฮ้อ:  โถววววพี่มะเดี่ยว ดันมีแฟนเอ๋อ 55

คนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่มะเดี๋ยวสินะ

 :L2: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สามลูก  หยุดเล่นตัวแล้วส่งข้อความหาพี่เขาซะนะตอนนี้เลย 

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โถ่เอ้ย ที่แท้ก็ลืมปิดโหมดเครื่องบิน

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 57 [100%]<<

ดูเหมือนการที่โทรศัพท์ของผมใช้ได้แล้วจะทำให้พี่มะเดี่ยวยิ่งโทรหาและส่งข้อความมามากขึ้น มันโทรติดแล้วก็มีการอ่านข้อความไปแล้ว แต่ผมก็ยังนิ่งนอนใจ ไม่ยอมตอบกลับไปสักช่องทาง เรียกว่าเล่นตัวก็ได้ แต่ผมอยากให้เราเจอกันที่เดียววันพรุ่งนี้

ผมวางมือถือทิ้งไว้ ไปเก็บข้าวของต่างๆ ให้เรียบร้อยเพื่อจะได้เดินทางกลับพรุ่งนี้เช้า เสร็จแล้วก็ไปหาพ่อกับแม่เพื่อบอกว่าจะกลับ ท่านทั้งสองก็บ่นๆ แหละ มาไม่กี่วันก็จะไปแล้ว ยิ่งพี่สองนี่ยิ่งหนัก แซะว่าผมเห็นแฟนดีกว่าครอบครัว

ทีนี้อธิบายกันยาว..

ผมมานี่ผมไม่ได้บอกพ่อกับแม่ว่าผมมีแฟนแล้วอะนะ ตอนนี้เลยต้องมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่าผมมีแฟนแล้วและแฟนผมเป็นใคร เรื่องเพศไม่ใช่ปัญหาของครอบครัวผม พ่อกับแม่รู้ดีอยู่แล้วว่าผมเป็นคนแบบไหน คบคนยังไง แต่แปลกที่ครั้งนี้ผมดูใส่ใจเขามากกว่าคนอื่น ก็เลยนั่งคุยกันยาว

ตอนเย็นเหมือนเกิดงานเลี้ยงขนาดย่อมๆ มานี่ก็ยังไม่ได้เลี้ยงอะไรกัน รวบยอดมันเอาวันนี้ไปเลยในวันเดียว ซึ่งปาร์ตี้บ้านผมก็เล็กๆ อะครับ ไม่ได้ใหญ่โต ไม่มีแอลกอฮอล์ตามประสาผู้ชายชอบดื่มเท่าไหร่นัก มีแต่การนั่งคุย นั่งเล่าเรื่องราวต่างๆ ผมก็มีเรื่องของฝั่งผม...อย่างรับน้อง การเต้นบีบอย หรือแม้แต่เรื่องที่ความรักมันไปออเซาะจนผมได้แฟนมาหนึ่งคน ส่วนที่นี่ก็เป็นเรื่องลูกค้าแปลกๆ งานที่มากขึ้นและออเดอร์น้องหมาที่เริ่มเยอะ

เราเลิกกินกันตอนสามทุ่มกว่าๆ ข้อความและสายเรียกเข้าคาหน้าจออยู่เยอะทีเดียว ผมอุ้มความรักไว้บนตัก เปิดภาพที่พี่มะเดี่ยววาดสดส่งมาให้มันดู เป็นภาพของผมกับความรักนั่นแหละครับ แต่ละภาพน่ารักมาก...เซฟแม่งให้หมด มีโอกาสจะเอาไปใส่กรอบรูปเก็บไว้แม่งเลย หรือผมควรทำเป็นแกรอรี่ดีล่ะ เปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาชม นี่คือการ...ง้อแฟนของบีบอยมะเดี่ยววววว

ฮ่า...คิดแล้วคงน่ารักพิลึก

ตอนนี้ผมมีความสุข...มีความสุขมากๆ น่าจะสวนทางกับพี่มะเดี่ยวนะ พี่เขาคงไม่แฮปปี้เลย ข้อความหลังๆ พี่มะเดี่ยวบอกว่าโซฮานไปหาสามใช่ไหม มันไปพูดอะไรบ้าง มันบอกพี่ว่ามันไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้สามฟังแล้ว แล้วก็ง้อให้ผมกลับไป...ผมอยากตอบกลับนะ แต่เล่นตัวมาขนาดนี้แล้ว รออีกหน่อยก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้งครับ

เชื่อว่าถ้าเราเจอกัน...เราคงมีเรื่องมากมายที่จะคุยกัน ปกติต้องคุยกันทุกวัน แชร์เรื่องราวที่เราเจอในแต่ละวันให้กันและกันฟัง พี่มะเดี่ยวยังคงทำเหมือนตอนเราดีกันอยู่ มีแค่ผมฝ่ายเดียวที่ไม่ได้ทำแบบนั้น ไม่ได้ส่งข้อความหา ไม่ได้ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยหรือเปล่าเหมือนอย่างเคย แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงนะ...ผมเป็นห่วงเขา พี่มะเดี่ยวก็เหมือนผมตอนสอบนั่นแหละ ทุ่มเทกับการทำทีมอย่างกับอะไรดี บางทีบาดเจ็บจากการซ้อมพี่เขายังไม่ยอมพักเลย

ตอนนี้ผมก็อยากจะถามว่าพี่ได้พักหรือยัง...เหนื่อยมากไหม นอนพอหรือเปล่า ทว่าคำถามเหล่านั้นในหัวผมล้วนถูกตอบมาหมดแล้ว พี่มะเดี่ยวนอนไม่พอ เลิกซ้อมตีหนึ่งตีสองทุกวัน ไม่กล้าไปร้านน้าบอยเพื่อซื้อกาแฟ กลัวน้าบอยรู้จะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนวันนี้เลิกซ้อมเร็ว จะต้องเซฟร่างกายเอาไว้เพื่อวันพรุ่งนี้...

‘พี่ไม่อยากเลิกซ้อมเร็วเลย ไม่มีสามอยู่ด้วยก็ไม่อยากกลับห้อง...เราเปิดมือถือแล้ว อ่านข้อความพี่แล้วแต่ก็ไม่ตอบกลับมา มันทำให้พี่ร้อนใจยิ่งกว่าเคย โซฮานมันไปอธิบายเรื่องจริงใช่ไหม ไม่ได้ไปโกหกอะไรเพิ่มใช่หรือเปล่า พี่ห่วง...พี่กังวลไปหมด อ่านแล้วตอบข้อความพี่บ้างสิครับ สามอยากให้พี่นอนไม่หลับแล้วไม่มีแรงไปซ้อมเต้นเหรอ...’

โหย...เรียกร้องความสนใจขั้นสุด ผมอ่านไปยิ้มไป พี่เขาดูลนลานจริงๆ นั่นแหละ ส่งข้อความมาถี่ขนาดนี้ ผมนอนคิดอยู่นานว่าควรจะทำยังไงดี...ถ้าพี่เขานอนไม่หลับจริงๆ พรุ่งทำได้ไม่ดีทีมอาจจะแพ้ได้ ทั้งที่ทุ่มเทมามากขนาดนี้แล้วแท้ๆ

เอาวะ...แค่สติ้กเกอร์ก็ได้

ผมส่งสติ้กเกอร์บอกว่าฝันดีไปให้เขาหนึ่งตัว ทั้งที่ตั้งใจจะไม่ส่งอะไรกลับไปให้เขาเลย...แต่มันอดไม่ได้ เป็นห่วง กลัวนอนไม่พอ กลัวไม่มีแรง พี่มะเดี่ยวแกอ่านแล้วก็นิ่งไปพักใหญ่ ก่อนส่งสติ้กเกอร์กลับมา เป็นรูปดีใจและก็ฝันดี...

พี่อาจคิดว่าผมโกรธพี่อยู่ อาจกังวลว่าพี่โซฮานจะมาพูดจาไม่ดีใส่ผม และคงกลัวมากด้วยว่าระหว่างเราจะไม่เหมือนเดิม...แต่ที่พี่ไม่รู้คือ ผมมีความสุขโคตรเลยในเวลานี้ ไม่ได้มีความสุขเพราะพี่มีความทุกข์ แต่มีความสุขเพราะว่าพี่รักและเป็นห่วงความรู้สึกของผม...

ตอนเช้าผมรีบเดินทางโดยมีพี่หนึ่งมาส่ง ตอนแรกจะขึ้นทัวร์มาเองแต่พี่ไม่ยอม แกก็หน้ามึนๆ ขับกะบะมาส่งที่หน้าคอนโดนั่นแหละครับ เวลาตอนนี้คือเก้าโมงกว่า...จำได้ว่านักแข่งต้องไปลงทะเบียนตั้งแต่แปดโมงเช้า งี้พี่มะเดี่ยวก็ไม่อยู่สินะ ดีมาก รีบเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้อง ระหว่างเดินผมก็โทรหาวิ่งกับพีช

“พวกมึงอยู่ไหนวะ”

(อยู่ห้อง ว่าจะไปงานแข่ง…มึงอะ) พีชตอบเสียงเหนือยๆ

“กูเพิ่งกลับมาจากบ้าน จะไปงานแข่งเหมือนกัน” ผมถึงห้องแล้ว เอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บก่อนจัดกระเป๋าใบใหม่เพื่อความรัก

(เออ ไปเจอกันที่บีทีเอสแล้วกันมึง) วิ่งบอก

“เคๆ” พวกมันดูงัวเงียนะ ไม่รู้ว่าได้นอนไหม หรือไม่ได้นอนเลย

ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ลงมาข้างล่าง เดินไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ไกลคอนโดเพื่อซื้อผลไม้เก็บเอาไว้ให้ความรัก จากนั้นโบกรถสองแถวไปที่บีทีเอส ระหว่างทางก็ไลน์คุยกับวิ่งและพีช จนได้รู้ว่าที่ผ่านมาพวกมันก็กลับบ้านไปเหมือนกัน ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพิ่งกลับมาเมื่อวานกันหมดเพราะจะไปงานแข่งเนี่ยแหละ สภาพเดียวกันเลย

วิ่งกับพีชวันนี้แต่งตัวสบายๆ ไนกี้ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ปกติมันก็แต่งแบบนี้อะ...ผมด้วย เราพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ถามประสาเพื่อนที่หายหน้าหายตากันไปตั้งสามวัน เออ...สามสี่วันอะประมาณนั้น

“กูนึกว่ามึงจะไปพร้อมพี่มะเดี่ยวแล้วนะ” วิ่งมันถามขณะเดินเข้ารถไฟฟ้า

“เปล่า ที่จริงเข้าใจผิดกันนิดหน่อย กูเลยไม่ได้ติดต่อกับเขามาตั้งแต่วันสอบเสร็จอะ” ก็บอกไปตามตรง

“เข้าใจผิดกันเรื่องอะไรวะ” พีชแย่งความรักไปอุ้ม

“ไม่บอก...” ลอยหน้าลอยตาเสร็จก็มึนเข้าไว้

พีชกับวิ่งค่อนคอดว่าผมใจร้าย ไม่ยอมเล่าให้เพื่อนอย่างพวกมันฟัง ทั้งที่เราเป็นเพื่อนกันแต่ทำแบบนี้กับพวกมันได้ยังไง โห...เพื่อน กูเข้าใจว่าเพื่อนเว้ย แต่มึง...กูจะมีความลับบ้างไม่ได้เลยเหรอไง ผมขี้เกียจเล่าด้วยอะ เรื่องแม่งยาว ลากมาตั้งแต่วันพุธที่เราเข้าใจผิดกัน จนกระทั่งนี่วันอาทิตย์ผมยังไม่ยอมคุยกับพี่มะเดี่ยวเลย

ตรึ๊งงงง

เสียงไลน์ของผมดังขึ้นอีกแล้ว มันดังเมื่อเช้าหลายครั้งอยู่ พี่มะเดี่ยวตื่นและลงไปกินข้าว ถ่ายรูปข้าวมาให้ดูด้วยว่าเช้านี้กินข้าวผัดไก่เพิ่มไข่ดาว จะได้มีพลังเยอะๆ ในการแข่งขันวันนี้ บวกด้วยกาแฟ อยากจะบ่นเหลือเกินว่ากาแฟทำให้ใจสั่น กินมากๆ ไม่ดี แต่ก็ทำไม่ได้...ปล่อยเขาไป ส่วนตอนนี้ที่เข้ามาเป็นข้อความเสียง

(พี่กับทีมลงทะเบียนเสร็จแล้วนะ คนเยอะมาก…ทีมแข่งในวันนี้ก็เยอะ พี่เป็นทีมที่สาม ลักกี้เนอะ...เลขสวย แต่มันจะลักกี้กว่านี้ถ้าเราตอบข้อความพี่บ้าง หรือไม่ก็มาให้กำลังใจพี่ข้างเวที)

อยากกดสติ้กเกอร์ส่งไปสักตัว แต่ช่างใจไม่กดส่ง กลายเป็นกดออกจากหน้านั้นแทน...เล่นตัวเข้าไป พี่เขาจะเลิกกับผมเพราะผมมันง้อยากแบบนี้นี่แหละแม่ง ฮ่าๆ เดี๋ยวผมก็ไปถึงงานแล้ว...เดี๋ยวเราก็ได้เจอกัน

ใช่ว่าพี่เขารอเจอผมฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ผมเองก็รอจะเจอเขาเหมือนกันนะ...เหตุผลของเราก็คงเหมือนกันนั่นแหละ

คิอถึง...

“พี่มะเดี่ยวส่งไรมาวะ ฮั่นแน่...หยอดคำหวานกันแต่เช้า” ไม่เอาสิวิ่ง ไม่เสือกสิ

“มึงก็หาคนหยอดคำหวานมั้งดิ” ผมกอดคอวิ่ง และมันก็กอดคอผมตอบ

“กูชอบวันไนท์แสตนด์” ดาร์กไปเพื่อน

“ทำเป็นพูด อกหักมาสดๆ ร้อนๆ ก็บอกเพื่อนไป...” พีชตบหัววิ่งเบาๆ นี่ผมพลาดข่าวอะไรไปอีกแล้วเหรอ

“บอกมันทำไม มันผิดใจกับพี่มะเดี่ยวมันยังไม่บอกเราเลย” นั่น...มีน้อยจงน้อยใจ

“งี่เง่านะมึงเนี่ย...” มันเชิดหน้าใส่ มองออกไปทางอื่นทั้งที่เรายังกอดคอกันอยู่

ความรักในชุดเสื้อกล้ามของนักบาสหมายเลขสามประดับหราอยู่บนหลัง ตัวเสื้อเป็นตาข่ายสีเขียว ผมไปหามาตั้งนานกว่าจะหาให้มันได้ เด็กบีบอยส่วนหนึ่งก็ชอบใส่เสื้อบาสแบบนี้แหละครับ ผมก็เลยพามันแต่งตัวแบบนี้เพื่อจะได้เข้ากับสถานที่ในวันนี้นั่นเอง มีหมวกด้วยนะ...หมวกทรงต้อยหมวกแดงอะ มันชื่อทรงอะไรก็ไม่รู้ เรียกมันแบบนี้แหละ ชินปาก

รถไฟฟ้าเคลื่อนที่ไม่นานก็ถึงสถานนีที่ต้องลง จากนี้ไปก็พึ่งรถสองแถวครับ...อย่าคิดว่าที่ที่เราจะไปมันกันดานนะ มันก็ไม่กันดานหรอกแต่ด้วยเส้นทางที่พวกเรามามันจำเป็นต้องต่อสองแถวอะ ไม่งั้นก็รถเมล์ ไม่มีรถเป็นของตัวเองนี่นา

ระหว่างรอสองแถวผม พีชและวิ่งได้พึ่งร้านขายข้าวเหนียวข้างทางประทังท้องน้อยๆ ให้หายหิว พร้อมกับน้ำหนึ่งขวดกินกันสามคน ไม่ได้จนขนาดนั้นแค่ขี้เกียจถือ ฮ่าๆ จะเอาอะไรกับพวกเราล่ะจริงไหม กระเป๋าผมก็ใส่ของความรัก ส่วนใหญ่เป็นของกินด้วยสิ

“ถึงล่ะ...” มองจากภายนอกไม่รู้เลยว่าภายในห้างซีนี้จะมีการแข่งขันบีบอยระดับประเทศ

“คนเยอะวะ” ผมบ่นเบาๆ นักเต้นแต่งตัวกันสุดฤทธิ์สุดเดชเดินกันขวักไขว่ไปหมด เน้นไปที่ผู้หญิงนะ ผู้ชายบางคนก็แต่งตัวมอซอไปวะ

“ผู้หญิงเยอะดี...” วิ่งมองตามหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านหน้าเราไป เธอใส่เสื้อเอวลอยและกางเกงวอร์มเอวต่ำจนเห็นขอบบ็อกเซอร์ แซะซี่อ่า....

“อ่าว ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่นะเนี่ย” คนมาใหม่ทักทาย พวกเราสามคนหันไปเจอก็พากันยกมือไหว้

“หวัดดีครับพี่ออม” วันนี้พี่ออมใส่เต็มมาก เสื้อกล้ามครึ่งตัวทรงสปอร์ทกับกางเกงวอร์มเอวต่ำเหมือนผู้หญิงกลุ่มเมื่อกี้แต่สีแดง มีสนับกันศอกทั้งสองข้างและผมถักเปียคู่ เซ็กซี่อีกแล้ว...

“มาเชียร์ทีมดิสทินีย์อะสิ นู้นน่ะ...เขาเตรียมตัวกันอยู่ตรงนู้น” พี่ออมแกชี้ให้พวกเราดู

พี่มะเดี่ยวกำลังหกสูงวิดพื้น...ขนาดกลับหัวกลับหางผมยังมองแกในระยะไกลออกอะ ความคิดถึงคนเรามีอำนาจมากมายขนาดนั้นเลยนะคิดดู พี่มะเดี่ยวใส่เสื้อกล้ามของนักบาสหมายเลขสามสีดำ กับกางเกงวอร์มเนื้อผ้าร่มสีดำ ปกติแกก็ชอบใส่แบบนี้แหละ...เต้นถนัดแก

“ขอบคุณครับ แล้วพี่แข่งด้วยปะเนี่ย” ผมละสายตาจากพี่มะเดี่ยวมาที่พี่ออม

“ไม่อะ ไม่ได้แข่ง แต่มาโชว์แทนอะ...” ก็ไม่เข้าใจแต่ไม่ได้ถาม

“เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อน แล้วเจอกัน” พวกผมยกมือไหว้พี่ออมก่อนพี่แกจะเดินจากไป

“ไปหาพวกพี่ๆ กัน” วิ่งเตรียมเดินเข้าไป แต่ผมกลับแย่งความรักมากจากพีช

“เดี๋ยวกูตามไป...” พวกมันก็ทำหน้างงๆ

“อะไร ยังไม่หายโกรธกันเหรอ”

“เปล่า ไม่มีไร เดี๋ยวไป ไม่ต้องบอกพี่เขาว่ากูมานะ…” ผมปฏิเสธวิ่ง

“ทำไมอะ ฮั่นแน่…จะเซอร์ไพรส์พี่เขาอ๋อ” รู้ดีไปหมดเลยไอ้วิ่ง

“เออ เสือกจริง” ผมโบกมือให้พวกมันแล้วเดินแยกไปทางอื่น ไปทางไหนก็ได้ที่พี่มันจะไม่เห็นผมอะ

เดินหาทางที่สงบอยู่สักพัก ก็เจอมุมที่เขาจัดเอาไว้ให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อน คนส่วนใหญ่ไปมุงอยู่ที่การแข่งขัน ส่วนนี้เลยมีคนแค่ประปราย ผมเอาความรักมาวางไว้บนตักหลังนั่งลง ค้นเอามือถือตัวเองที่มีข้อความของพี่มะเดี่ยวส่งมาบอกว่าพวกพี่กำลังวอร์มอัพกันอยู่ รายงานตลอดเลยวุ้ย...

แฟนใครวะ...น่ารักเป็นบ้า!

งานอวยแฟนตัวเองก็มา เห่อๆ ปล่อยคนบ้าอย่างผมไปเหอะ ตอนนี้ผมตื่นเต้นมาก หัวใจระส่ำไปหมด มือยังสั่นด้วย แต่เพราะมีสิ่งที่ตั้งใจจะทำก็เลยต้องฮึ้ดขึ้นมา เปิดกล้องหน้าแล้วกดอัดวิดีโอ...

“ผมเห็นพี่แล้วนะ...อยากเข้าไปให้กำลังใจใกล้ๆ แต่คนเยอะเป็นบ้าเลย อ่า...ตื่นเต้นเนอะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้อะ พี่สู้ๆ นะ...ผมไม่รู้หรอกว่าถ้าพี่ได้แชมป์แล้วผมจะเอาอะไรให้พี่ดี พี่ก็ไม่เคยขอด้วยอะเนอะ เอาเป็นว่า...ตอนนี้ที่เท่าไหร่มันก็ไม่สำคัญหรอก แต่พี่ต้องทำให้เต็มที่แล้วกลับมาดูแลความรักร่วมกับผมนะ...”

อ๊า....เขินเป็นบ้า ผมเซฟวิดีโอเสร็จก็ส่งมันเข้าไปในข้อความไลน์ มืองี้สั่นไปหมด หน้าตาไม่ได้น่าเกลียดไปใช่ไหมนะ เผลอแป๊บเดียวพี่มะเดี่ยวก็กดอ่าน ผมไม่กล้าดูอะไรต่ออะ ปิดหน้าจอมือถือแล้วนั่งหายใจเข้าลึกๆ

ให้ตาย...วิดีโอคอลด้วยกันมันยังไม่ตื่นเต้นแบบนี้เลยแหะ

“ป๊าแกทำบ้าอะไรวะ...” ผมเอาหน้าผากตัวเองวางแนบชิดกับหน้าผากความรักแล้วกระซิบเบาๆ

“คร่อกๆ…”

“ไม่ได้หัวเราะป๊าใช่ไหม ฮ่า…ช่างเหอะ วันนี้เราจะได้เจอพี่มะเดี่ยวแล้ว แกดีใจปะ ดีใจให้ส่งเสียง...”

“คร่อกกกกก” ฮ่าๆ...น่ารักเป็นบ้า ผมเลื่อนปากไปฟัดที่พุงความรัก มันดิ้นรนแถมร้องหนักกว่าเดิมอีก อย่างน้อยเล่นกับมันก็ทำให้หายตื่นเต้นไปได้บ้าง มองตาขวางๆ และหน้าดำๆ แล้วน่าชังชะมัด...กี่ทีก็ไม่เบื่อเลย

….100%….

ขอสักห้าคอมเมนต์แล้วจะรีบเอาตอนจบมาเสิร์ฟฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

รอออออออออออออ พี่มะเดี๋ยวน่ารักอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ มะม่วงแรด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอออออออออออ :z3:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
หมั่นไส้สามมากอ่ะ บอกเลย โคตรเล่นตัว :hao3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ absolutepoison

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สามมาให้ง้อถึงเวทีอย่างนี้พี่มะเดี่ยวต้องชนะแล้วแหละ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
รออออออ  เขาดีกัน

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]<<

ผมเดินอ้อมๆ รอบนอกไปยังหน้าเวที หาจุดที่คนไม่เยอะมากนั่งเชียร์ ใกล้ไปเสียจะดังมากครับ...ดังมากกว่าตอนอยู่ที่ฟลออีก กลัวความรักมันจะรับเสียงจนปวดหัวอะ ส่วนหน้าๆ เวทีจะมีเหล่าเด็กบีบอยไปสุมกันอยู่...อย่าว่าแต่เด็กบีบอยเลยครับ ทั้งทีมงาน ทั้งตากล้องอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด

พีธีกรเริ่มดำเนินการ โดยวันนี้เป็นการแข่งประเภททีม โดยมีทีมจากระดับภูมิภาคต่างๆ มารวมกันซึ่งเอาที่หนึ่งของแต่ละที่มารวมกันในงานนี้ ส่วนทีมรองแชมป์อันดับสอง รองแชมป์อันดับหนึ่งและแชมป์ของปีก่อน จะได้สิทธิ์พิเศษในการเข้าสู่รอบนี้โดยไม่ต้องแข่งในระดับภูมิภาคอีก

ผมพอรู้คร่าวๆ มาบ้างแต่ไม่เคยถามถึงรายละเอียดการแข่งขัน ด้วยความที่มันชนกับช่วงผมสอบไง ผมเองก็เพิ่งจะเข้ามาในวงการนี้ ยังไม่รู้อะไรมากมายเท่าไหร่นัก นี่เป็นงานแข่งแรกที่ผมได้มาเห็นด้วยตัวเอง ดันเป็นงานแข่งระดับประเทศอีกต่างหาก

การแข่งขันเริ่มที่การโชว์ท่าทีม ลำดับจะได้จากตอนลงทะเบียน พี่มะเดี่ยวเคยบอกว่าที่เราต้องตั้งใจมาก...เพราะเราเป็นถึงรองแชมป์ปีก่อน จะเสียฟอร์มไม่ได้เด็ดขาด แต่ละทีมมีเวลาห้านาทีในการโชว์ สิบทีมที่ได้คะแนนมากสุดจะได้เข้าสู่รอบแบทเทิ่ลในวันนี้ ผมจำได้ว่าพี่มะเดี่ยวว่าเขาได้ลำดับที่สาม...

ผมกำลังนั่งรอเขาขึ้นเวลาที...

“มึงมาอยู่นี่เอง กูหาตั้งนาน ไหนบอกจะตามเข้าไปไงวะ” พีชกับวิ่งโพล่มาจากไหนไม่รู้ มันมานั่งข้างผม

“เสียงด้านในๆ มันดังวะ...กูเป็นห่วงความรัก”

“เหรอ พี่มะเดี่ยวแม่งชะเง้อคอมองหามึงจนคอจะยืดเป็นยีราฟอยู่แล้ว” นึกตามแล้วฮาแฮะ

“เหรอ…เอาหน่า เดี๋ยวก็ได้เจอกัน” ผมจับจ้องอยู่ที่หน้าเวที

ทีมแรกขึ้นแล้ว...ก็มองมันแบบสนุกๆ ไปงั้นแหละครับ ไม่ได้สนใจเพราะคนที่ผมเชียร์นั้นไม่ได้อยู่ในทีมนี้ ห้านาทีผ่านไปไวมาก ทีมที่สองตามมา ทีมนี้เล่นบีทรุนแรงและหนักหน่วง ท่วงท่าของพวกเขาก็ดุดันไม่ใช่เล่นๆ งั้นๆ แหละ...ผมเชียร์พี่มะเดี่ยวคนเดียวอยู่ดี

“แล้วทีมที่สามของวันนี้...เป็นทีมที่ได้รองแชมป์เมื่อปีที่แล้วนะครับ เอาล่ะ...ทุกคนต้องรู้แล้วแน่นอนว่าทีมนี้คือทีมอะไร!” สิ้นเสียงพิธีกรก็เกิดเสียงโห่แซ็วและเสียงปรบมือดังสนั่น

“ดิสทินีย์! ดิสทินีย์! ดิสทินีย์!” มากด้วยเสียงเรียกชื่อทีมดังก้อง ผมเองก็เป็นไปกับเขาด้วยเหมือนกัน...อารมณ์มันได้จริงครับ

ท่าทีมของพี่มะเดี่ยวผมเห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไง...สเต็ปไหนมาก่อน ตามด้วยสเต็ปไหนแทบจะจำได้หมด โดยเฉพาะ...จังหวะที่พี่มะเดี่ยวได้โชว์สกิวขั้นเทพของตัวเอง พวกเขาเป็นทีมที่เก็บบีทได้แน่นมาก และหาจุดที่พลาดแทบไม่เจอ

เอ่อ...ถ้าจะบอกว่าผมอวยทีมแฟนตัวเองมากไปก็...ตามนั้นครับ เรื่องจริง ผมไม่เถียง

“สมเป็นรองแชมป์วะ...เก็บทุกบีทเนียนกริบเลย” เสียงปรบมือดัสนั่นเมื่อทีมดิสทินีย์แสดงโชว์เสร็จ พวกเขาโค้งคำนับคนดูก่อนจะลงไป

ผมนี่จับมือเจ้าความรักปรบมือเปาะแปะๆ ให้พี่เขาเหมือนกัน...จากที่ซ้อมมา ทำได้อย่างนี้นับว่ายอดเยี่ยม หลังจากพี่มะเดี่ยวลงไปก็มีทีมอื่นๆ ขึ้นไปอีก ค่อนข้างเยอะครับ แต่ทีมพี่เขาก็ไม่ได้เดินมาเฉียดทางผมนะ เราต่างแยกกันอยู่ในช่วงเลานี้...

กว่าจะการแสดงโชว์ของแต่ละทีมจะหมด ผมก็ชักหิว...นี่มันเที่ยงกว่าจะบ่ายโมงแล้ว เราสามคนตัดสินใจสละที่เพื่อไปหาอะไรกินกัน โดยผมเนียนจะเดินเลี่ยงตรงที่พวกพี่มะเดี่ยวแกอยู่ ก็ไม่เชิงว่าเห็นพวกเขาชัดเจนหรอก แต่น่าจะอยู่ใกล้ๆ หน้าเวที...หวังว่าเขาจะกินเมื้อเที่ยงอิ่มนะ หลังจากนี้ยังมีการแบทเทิลทีมอีก

ช่วงบ่ายเป็นการประกาศผลของทีมที่จะได้เข้าสู่รอบแบทเทิล โดยระหว่างรอการลงคะแนนจะมีบีเกิร์ลขึ้นมาเต้น ในนั้นมีพี่ออมด้วย ถึงว่าพี่เขาบอกมาโชว์ไม่ได้มาแข่ง ปกติพี่ออมอยู่ฟลอจะดูแมนๆ ทว่าวันนี้โยกย้ายส่ายสะโพกได้เซ็กซี่เร้าใจมากฮ้าฟฟฟฟ เดอะสามคนนี้โคตรจะตื่นเต้นเลยให้ตาย เสียงวี้ดแซ็วของชายฉกรรจ์ด้านล่างดังกระหึ่มเป็นระยะๆ ยามที่ท่ามันค่อนข้างล่อแหลม

ผมเอาความรักทำท่าเลียนแบบดูบ้าง ส่ายตูด...ส่ายสะโพก ไม่เห็นมันจะสวยเลย มีแต่ตูดกับตูด เอวก็ไม่มี ดีนะ...สะโพกน่ากิน ว่าแล้วก็กัดมันเล่นฆ่าวลา เอาจริงๆ ผมไม่ใช่คนมานั่งดูอะไรแบบนี้ได้ทั้งวี่ทั้งวันอะ ผมก็เลยต้องหาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้มันถึงช่วงเวลามันๆ ได้

จบการแสดงคั่นเวลา เหล่ากรรมการประกาศรายชื่อผู้ที่จะเข้าสู่รอบแบทเทิล โอ้ย...จะไม่สนใจแบบตอนแรกไม่ได้แล้วครับ เพราะว่าทีมดิสทินีย์ก็เป็นหนึ่งในทีมที่ต้องลุ้นเหมือนกัน ทีมแรกผ่านไป...ไม่ใช่ ทีมที่สองผ่านไป…ก็ไม่ใช่ ลุ้แม่งอยู่นั่นแหละ เข้าแข่งได้แค่สิบทีมสุดท้ายด้วยอะ จากตอนแรกผมสามคนค่อนขะชิว...ตอนนี้ลุ้นกนยิ่งกว่าลุ้นหวยอีก

เอ่อ...ผมไม่เคยเล่นหวยนะ แค่เปรียบให้ดูลุ้นละทึกอะ

“และทีมที่เก้า...ทีมดิสทินีย์สเต็ป!”

“เฮฮฮฮฮ!!!” โดดเลยแล้วกัน...ความรักนะ ไม่ใช่ผม ฮ่าๆ

“ยังไงก็ต้องผ่านอยู่แล้ว...” พีชเปรยเบาๆ

“แหม เมื่อกี้ยังลุ้นอยู่กับกูจนเหงื่อแตกเลยเหอะ” ผมตีไหล่พีชเบาๆ ไอ้วิ่งนี่นั่งยิ้มร่าหน้าบาน

“ต่อไปสิของจริง...ตัวเก็งเข้ารอบหมดเลย ทั้งดิสทินีย์สเต็ป โรมิโอซีเรียสและบีทฮีโร่คูล” โรมิโอรู้จัก...แต่อีกทีมไม่แน่ใจ อาจต้องไปรื้อในเสี้ยวของความทรงจำ แต่น่าจะเป็นทีมที่ได้แชมป์กันเมื่อปีที่แล้วล่ะนะ

พอได้สิบทีมสุดท้ายก็จบฉลากกันว่าใครจะได้แบทเทิลกับใครก่อนคนแรก ทุกทีมมีโอกาสแค่ทีมละสามครั้ง...อืม ผมจะว่ายังไงดีล่ะ มันคือได้คนละสามราวด์ ผลัดกันเต้นอะครับ กรรมการมีทั้งหมดห้าคน ต้องได้สามเสียงจากห้าเสียงถึงจะผ่านเข้ารอบ

ทีมแรกเป็นทีมที่ผมโคตรจะลุ้น...แน่นอน ทีมแฟนผมครับ แฮ่...อวยแฟนออกหน้าออกตาคนจะแตะสามไหมวะเนี่ย ซึ่งทีมดิสทินีย์สเต็ปจะเจอกับทีมสาคูล ซึ่งแต่ละคนในทีมนั้นนี่ดูปรี๊ดๆ เป็นเด็กแนวทั้งนั้น ต่างจากทีมพี่มะเดี่ยวที่ดูโตกว่าและ...เก๋าเกมกว่า

ทันทีที่การเป่ายิงฉุบสิ้นสุดลง ทีมสาคูลได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน คนเชียร์อย่างเราก็เริ่มเดือดขึ้นมา พวกแบทเทิลผมได้ดูบ่อยๆ ตอนอยู่ฟลอเต้น แต่นี่มันกว่า...ด้วยจำนวนคน ด้วยความเอาจริงเอาจังของทุกๆ คนที่อยู่บนเวทีหรือการแข่งขัน

บนใบหน้าของพี่มะเดี่ยวประดับรอยยิ้มอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะได้ออกสเต็ปหรือไม่ก็ตามที บางช่วงจังหวะ...ถึงเราจะอยู่ห่างกันมาก แต่ผมรับรู้ได้ว่าพี่เขามองมาทางนี้ และเราก็สบตากัน ผมโบกมือให้กำลังใจ และส่งเสียงเชียร์ให้เขาคว้าแชมป์มาให้ได้ พี่เขาเก่งอยู่แล้ว...ยังไงพี่เขาก็ต้องได้เข้ารอบ

แต่ละราวด์ผ่านไปด้วยความเมามันของคนดู ทุกอย่างรอบด้านกระหึ่มไปหมดจนผมเป็นห่วงความรักตงิดๆ เลยกลายเป็นเชียร์ไป ดูความรักไป มันเอาหน้ามุดเข้ากระเป๋า ผมก็ต้องปล่อยมัน ถ้าในนั้นเสียงเบาลงหน่อยก็คงจะดี

ก่อนที่เสียงเชียร์ของคนดูจะหมดไป...ในที่สุดรอบตัดเชือกก็มาถึง ผมไม่สนแม้กระทั่งเวลาตอนนี้จะกี่โมงกี่ยามแล้ว สิ่งสำคัญคือพี่มะเดี่ยวและทีมเขากำลังจะแข่งรอบรองชนะเลิศ...

“เอาล่ะครับ...คู่สุดท้าย คู่ชิงของเราในวันนี้นี่เล่นเอาเดือดจริงๆ ไม่รู้เลยว่าปีนี้...จะมีการสลับตำแหน่งแชมป์หรือเปล่า” ทีมโรมิโอซีเรียสกำลังเผชิญหน้าอยู่กับทีมดิสทินีย์สเต็ปแม่งเป็นคู่หยุดทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบของจริง

“เราอย่ามามัวเสียเวลาเลยครับ...ตัดสินกันเลยดีกว่า!” สิ้นเสียงกรรมการ บีทเพลงก็เริ่มขึ้น...

แต่ละราวด์จะมีเวลาจำกัดในการเต้น และรอบชิงได้เวลาในการออกสเต็ปเยอะกว่ารอบอื่นๆ เรียกว่าทุกคนในทีมได้โชว์ความสามารถกันอย่างเต็มที่ จากที่ผมนั่งดู ก็ต้องเปลี่ยนเป็นยืนขึ้นเพราะ...มีคนบัง ครับ ตอนนี้ทุกคนยืนเชียร์ทีมในดวงใจกันอย่างเมามันและลุ้นละทึกอย่างที่สุดของที่สุด ผมเองก็พยายามส่งเสียงเย้วๆ กับเขาเหมือนกัน ไม่น่าดังถึงพี่เขาหรอก เพราะเสียงคนอื่นๆ ก็ดังไม่แพ้ผมเช่นกัน

เวทีเดือดมากขึ้นทุกขณะ ยิ่งกรรมการนับเวลาถอยหลังก็ยิ่งออกลวดลายแบบไม่มีใครยอมใคร อารมณ์แบบ...กูตายตอนนี้ไม่ได้! ต้องชนะเท่านั้น ผมดูไม่ออกเลยว่าใครจะชนะหรือใครจะแพ้ เพราะผมไม่ได้เก่งมากขนาดที่จะสามารถตัดสินการเต้นของใครได้ แต่พี่มะเดี่ยวทำเต็มที่มาก...มากกว่าทุกครั้งที่เขาซ้อม อยู่ห่างทว่าเห็นชัดถึงความตั้งใจและสนุกสนานในคราวเดียวกัน...

ผมไม่อยากหวัง...แต่ผมก็หวังว่าพี่เขาจะชนะในการแข่งขันครั้งนี้

“ฮู้ว....พูดยากนะพูดยาก การแข่งนี้เดือดจริงๆ เรารักพี่นะ…แต่เราก็เสียดายน้อง กรรมการเราพร้อมมากๆ แล้วเรา...มาลุ้นกันครับว่าใครจะได้แชมป์โบตี้ครั้งนี้ไปครอง!” หน้าที่ทั้งหมดถูกย้ายไปให้กรรมทั้งห้า รวมถึงสายตาของพวกเราทุกคนด้วย...

กรรมการคนแรกให้...โรมิโอซีเรียส ฮื่ออออ ทำไมเปิดมาไม่ดีแบบนี้ล่ะ อีกสี่เสียง...

คนที่สอง...โรมิโอซีเรียส ตอนนี้เสียงฝั่งโรมิโอซีเรียสกระหึ่มไปหมด แต่ฝั่งดิสทินีย์กำลังหงอย...

คนที่สาม...ดิสทินีย์สเต็ป อ๊ายยยยยย กรีดร้องแบบโหยหวนสุดใจ

คนที่สี่...ดิสทินีย์สเต็ป อ๊ากกกกกก กรี๊ดให้ดังกว่าเดิม

“ดิสทินีย์ ดิสทินีย์ ดิสทินีย์ ดิสทินีย์...” เสียงเชียร์ทีมดิสทินีย์ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกหน พร้อมเสียงของทีมโรมิโอซีเรียสก็ไม่แพ้กัน ตอนนี้เท่ากันสองสอง คนสุดท้ายจะเป็นคนตัดสิน

“และทีมที่จะชนะได้แก่...” พวกเราแทบหยุดหายใจ คำพูดกรรมการทำให้ทุกคนในฮอลเงียบเสียง

“ทีม....” โอ้ยยยยย ประกาศเร็วๆ สิวะ หัวใจจะวายตายแล้วเนี่ย!!!

“ทีม...ดิสทินีย์สเต็ปครับ!!!!”

“เฮฮฮฮฮ!!!!!” กรี๊ด...งานนี้กูกรี๊ด กูลุ้นมาทั้งวันว่าทีมแฟนกูต้องชนะ

ผมจับความรักโยนดึ้งๆ ปล่อยให้มันร้องเพราะผมดีใจมาก เหล่าสมาชิกทีมเองก็กระโดดจนตัวลอย พี่เรย์นี่แม่งถอดเสื้อปาทิ้งพื้นกันเลทีเดียว แหงสิ...ที่สุดของการซ้อมหนัก มันสำเร็จแล้วในวันนี้นี่นา...

กรรมการส่งถ้วยรางวัลให้กับพี่มะเดี่ยวซึ่งเป็นหัวหน้าทีม พี่มะเดี่ยวรับแล้วชูมันขึ้นสูงๆ ท่ามกลางเสียงร้องอย่างยินดีของคนที่มาเชียร์ ทีมโรมิโอก็เดินเข้าไปจับมือเช็กแฮนด์กับทีมดิสทินีย์สเต็ปเหมือนกัน...ผมก็มองอะนะ มองไปดิ้นไป ฮ่าๆ...มีความสุขวะ โคตรมีความสุขเลย

แล้วจู่ๆ...พี่มะเดี่ยวแกก็แย่งไมค์ไปจากกรรมการ

“น้องสามครับ...เดินมาหาพี่หน่อยดิ” ทุกอย่างเริ่มอยู่ในความสงบอีกครั้ง ทั้งที่เมื่อกี้นี้ดิ้นจะเป็นจะตาย ผมก็เอ๋อนะ...เดินเข้าไปหาแบบเอ๋อๆ อะ

เหล่าผู้คนแหวกทางให้เดินมาหยุดอยู่หน้าเวที พี่มะเดี่ยวคืนไมค์ ส่งถ้วยรางวัลให้เพื่อนถือก่อนเขาจะกระโดดลงมากอดผมที่อุ้มความรักเอาไว้แนบแน่น ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย

“เอาแชมป์มาง้อแล้วนะ...” เสียงเขากระซิบอยู่ที่ข้างหู ผมใช้มือหนึ่งกอดเขาเอาไว้

“ผมหายโกรธแล้ว...”

“ดีใจอะ ไม่มีเราอยู่...เหงามากเลย” พี่มะเดี่ยวคลายกอด เขามองสบตากับผมในระยะประชิด

“อื้อ เหมือนกันครับ” พี่เขายิ้มกว้าง...ก่อนภาพตรงหน้าเลือนรางลงเพราะพี่เขาเข้ามาใกล้เกินไป

“ฮิ้วววว วี้ดวิ้ววววว”

“โห่....โอ้ยยยยยย ไอ้คนมีคู่” เสียงพี่เรย์ตะโกนลั่นมาก แม้จะมีเสียงเป่าปากแซ็วดังแค่ไหนก็ตามที

ผมอายนะ...แต่ผมแสดงออกอะไรไม่ได้มาก เพราะปากของผมถูกพี่มะเดี่ยวยึดครองไว้ เขาไม่ได้จาบจ้วงขนาดนั้น แต่ก็ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความรู้สึกคิดถึงมากมาย อ้อมกอดที่รัดแน่นทว่าอบอุ่น...ทำให้รู้ว่าเขาโหยหาผมขนาดไหน

แต่พี่ครับ...ความรักจะแบนตายไหม

“คร่อกๆ....” ไม่ทันไร ความรักก็ส่งเสียงออกมา พี่มะเดี่ยวผละกายออก เขาแย่งความรักไปอุ้ม จูบที่หน้าผากมันแล้วมองสบตาผม

“พี่มาดูแลความรักของเราแล้วนะ...” เขาต่อคำในวิดีโอ เอาเถอะ...เขินยังไงก็บึ้มตัวเองตายไม่ได้

“ต้องดูแลมันให้ดีมากๆ...นะครับ”

“แน่นอน พี่จะดูแลมันด้วยหัวใจของพี่เลยครับ” แล้วพี่มะเดี่ยวก็จูบปากผมอีก...พี่ไม่อายคนอื่นเหรอ

เออ ถ้าอายจะจูบผมแบบนี้ไหม...งั้น ผมก็ไม่อายละนะ

ผมโอบกอดรอบคอพี่มะเดี่ยว…สัมผัสถึงเรียวลิ้นและริมฝีปากที่ฉีกยิ้มหวาน เขามีความสุขจนน่าหมั่นไส้ หนำซ้ำผมยังรู้สึกมีความสุขมาตามเขาไปด้วย ผมตอบสนองต่อลิ้นของเขาราวกับตอนนี้คือช่วงเวลาของเราสองคน เสียงอื้ออึงด้านนอกมันดังจนเงียบไปเองในความรู้สึกของผม...ในตอนนี้กลายเป็นมีแค่เรากำลังแสดงความรัก ความโหยหาต่อกันและกันเท่านั้น

มันยังไม่พอหรอก...แต่เราค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก ผมไม่กล้ามองรอบด้าน ได้แต่เบี่ยงตาหาความรักที่อยู่ในแขนของพี่มะเดี่ยว มันทำจมูกฟุดฟิด ซุกไซ้แขนพี่เขาทั้งที่พี่เขากำลังสนใจผมอยู่แค่คนเดียว

เริ่มต้นจากมันไปเข้าห้องเขา…

เริ่มต้นจากเขาเข้าใจผมผิดเพราะเป็นห่วงมัน…

แต่ขอโทษนะ…ที่สุดท้ายเขาก็รักผมมากกว่ามัน

เอาเป็นว่ายังไงก็ขอบคุณที่ความรักชักนำพี่มะเดี่ยวเข้ามา...ผมไม่รู้ว่าอนาคตเราจะไปกันได้ตลอดไหมหรอกนะ แต่ความรักพาพี่มะเดี่ยวเข้ามาทำให้ผมรู้จักคำว่ารักจริงๆ มันเป็นยังไง มันไม่ลึกซึ้งอะไรเลย...มันแค่เป็นสิ่งที่คำพูดไม่สามารถอธิบายได้

ผมรู้แล้วรู้ว่า...ความรักก็เหมือนตด แม้ไม่เห็นแต่เรารู้ว่ามันมีอยู่จริงน่ะ...มันเป็นแบบนั้นจริงๆ นะ

….TheEnd….
เรื่องนี้เป็นฟิวกู๊ดเพียวๆ คือก่อนหน้านี้เราเขียนฟิวกู๊ดแต่มีสืบสวนมาปนๆ ตอนแรกกลัวมากว่าจะเขียนไม่ได้ แต่ในที่สุดมันก็สำเร็จลุล่วงมาได้ด้วยดี ทุกครั้งที่ได้เขียน…มันคือทุกครั้งที่เราได้หวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ เราเลิกเต้นมานานแล้วด้วยเหตุผลหลายอย่าง หลักๆ คือดูแลพ่อ คือถ้าทำงานด้วยเต้นด้วยเราจะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ตอนหลังพ่อป่วยเราเลยทิ้งความฝันตัวเองเพื่ออยู่กับท่าน

การลงแข่งขันโบตี้คือความฝันของเรา แม้ว่าเราจะไปไม่ถึงฝันแต่วันนี้…เราเป็นนักเขียน เราไปถึงฝันได้แม้จะแค่จินตนาการ ขอบคุณพี่มะเดี่ยวที่น่ารัก ขอบคุณน้องสามที่น่าเอ็นดู และขอบคุณความรักตัวจุดประกายความคิดเรา

ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์มากค่ะ นิยายเรื่องนี้อาจจะไม่หวือหวา ไม่น่าตื่นเต้นและเรียบง่ายไปเสียหน่อย เราอยากเขียนความรักที่มันเข้าอกเข้าใจกัน จุดเริ่มต้นเราคือตอนอินโทรเรื่อง…เรามีแค่นั้นในตอนแรกที่คิดเรื่องนี้ ฮ่าๆ ขอบคุณนักอ่านทุกคนจริงๆ มีอะไรติติงได้นะคะ อะไรเราเอาไปปรับได้เราจะปรับ อะไรเราเอาไปพัฒนาต่อได้เราจะเอาไปพัฒนา

แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะคะ ^^
เลิฟยูทุกคนเลยยยยย <3

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ความรักดีดี
มีความสุข

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด