>>ตอนที่ 56 [100%]<<
“สาม...ใครโทรมาเต็มเลยวะ มะเดี่ยวทั้งนั้นเลยนี่....” เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ ไอ้พี่สองงงงง
“จริงดิ ผมไม่เห็นมีสายเข้าเลยนะ ไม่ได้ยินเสียงไรเลย”
“จะไปได้ยินได้ไงวะ มึงเปิดโหมดเครื่องบินไว้เนี่ย” ตาโตแป๊บ
“ผมลืมอะ” เออ จริงๆ นะ ผมลืมปิดโหมดเครื่องบิน ก็ว่า…ทำไมพี่เขาไม่โทรมาง้อ
คืองี้…วันที่ผมมาผมก็นอนคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย พอสรุปเรื่องราวในหัวตัวเองได้ว่าน่าจะเป็นแผนพี่โซฮาน ผมก็เริ่มสบายใจขึ้น แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่แกไม่ปิดโหมดเครื่องบิน...เกี่ยวดิ สบายใจแล้วก็หิวดิ เออ สบายใจแล้วหิว ไปหาข้าวหาปลากิน จากนั้นก็โดนพี่ๆ ใช้งานให้ไปดูหมาน้อยทั้งหลายแหล่ในฟาร์ม พ่อกับแม่เข้ามาช่วงบ่าย เลยอยู่ด้วยกันยาว ทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องมือถือเลย
ไอ้คิดถึงน่ะมันคิดถึงนะ...แต่เพราะไม่ได้กลับบ้านมานานมั้ง ก็เลยมีเรื่องเล่าจากผมสู่ครอบครัวมากมาย พี่ผมกลับมาแกล้งน้องเต็มที่ ประหนึ่งไม่มีน้องให้แกล้งมาสามสี่ชาติเศษ นี่แค่หนีพี่ตัวเองไปวันๆ ก็เหนื่อยจะตายแล้ว นี่ยังคิดอยู่เลยว่าทำไมพี่มะเดี่ยวไม่โทรหาผมสักที ผมก็เปิดมือถือไว้นะ เสียบสายชาจเก็บไว้เรียบร้อย แต่ไม่เห็นสายเรียกเข้า นี่เลยงอนไม่กลับไปทั้งที่อาทิตย์นี้พี่มะเดี่ยวแกจะลงแข่งระดับประเทศแล้ว
สรุป...กูเล่นตัวเพราะกูลืมปิดโหมดเครื่องบิน
โอ้ยยยยย เบ๊อะอะไรแบบนี้วะเนี่ย แล้วพี่สองก็ถือวิสาสะเข้ามาที่ห้องผมแต่เช้าเลยนะ ผมยังไม่ลุกจากที่นอนเลยอะ ความรักวิ่งเข้าหาพี่สอง ในขณะที่พี่ผมแม่งเสือกมือถือผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แฟนอ๋อ” แกเปิดภาพวาดที่ดูเหมือนภาพสีน้ำ เป็นพี่มะเดี่ยวอุ้มความรักพร้อมข้อความว่า...ดีกันนะ น่ารักวะ ทำไมกูไม่ปิดโหมดบ้านั่นให้เร็วกว่านี้จะได้กลับไปหา
“อื้อ”
“ทะเลาะไรกัน” พี่สองเดินมานั่งข้างเตียง
“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยอะพี่ ที่จริงรอเขาง้ออยู่”
“แต่ลืมปิดโหมดเครื่องบิน” ยิ้มหวานส่งให้เป็นการบอกว่า...ช่ายเลยพี่ชาย
“ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนหมูนะ สมองก็เหมือน...” นี่คือแปลได้ความว่ายังไง ไหนบอกหน่อย โง่หรือเปล่า หรือยังไง...ผมว่าความรักมันไม่โง่นะ มันก็ฉลาดอะ
“สามมีคนมาหา” จู่ๆ พี่หนึ่งก็เดินเข้ามา
“หืม…ใคร”
“ไปดูเอง รออยู่ที่ล็อบบี้ ล้างหน้าแปรงฟันก่อนไปด้วยนะ เน่า…” ครับพี่ชายสุดที่รัก
พี่สองวางมือถือไว้ข้างหมอน แกอุ้มความรักเดินไปพร้อมพี่หนึ่ง ไม่ปิดประตูให้ด้วย ผมต้องเดินไปปิดก่อนจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว อยากจะเปิดมือถือดูนั่นดูนี่ที่พี่มะเดี่ยวส่งมาให้จังเลย...
ผมว่าพี่มะเดี่ยวก็น่าจะรู้แล้วมั้งว่าต้องเป็นฝีมือพี่โซฮาน อีกเรื่องที่ผมรอดูคือพี่เขาจะบอกไหมว่าเป็นใครทำ หรือว่าจะบอกว่าเมาแล้วไม่รู้เรื่องเหมือนครั้งที่แกบอกผมในวันนั้น มันน่าเจ็บใจนะ...ผมในวันนั้นมีสติไม่มากไง ก็เลยเชื่ออะไรได้ง่ายไปหน่อย ผมแค่คิดว่า...พี่โซฮานแกชอบพี่มะเดี่ยว แล้วเกิดทั้งคู่เมาจนเลยเถิดจริงๆ มันก็ไม่แปลกอะไรไง ผมคิดถึงหลายๆ กรณีนะ...ถ้าเขามีอะไรกันจริงๆ ผมก็ต้องรอดูว่าพี่มะเดี่ยวจะว่ายังไง
ตรงๆ เลยคือมีความมั่นใจมากว่า…พี่มะเดี่ยวต้องเลือกผม
ฮ่าๆ บ้าบอไหมล่ะ ก็ไม่รู้ดิ ไม่งั้นวันนั้นเขาจะอ้อนวอนผมขนาดนั้นเหรอ ผมรู้ว่าพี่เขารักและเอ็นดูผมขนาดไหน เขาไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก มันเป็นความเชื่อใจละมั้ง นี่แหละ หายโกรธแล้วสติมันก็กลับมา..อีกอย่าง ผมไม่ทุกข์ใจมากนักเพราะครอบครัวของผมอบอุ่นมาก...
ผมทุกข์แค่วันที่มาวันเดียวนั่นแหละ คิดได้ปุ้บเลิกทุกข์ปั้บ เหมือนเราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันร้ายแรง แค่งอนๆ กันนิดหน่อยเดี๋ยวก็คืนดีกัน ยิ่งมีพี่ๆ พ่อแม่และสัตว์เลี้ยงอยู่รายล้อม ก็ยิ่งบรรเทาอะไรหลายๆ อย่างในความรู้สึกของผมได้ บอกแล้วว่า...ผมเป็นคนที่มีความสุขมากนะ มีพร้อมแล้วทุกอย่างอะ ยกเว้นเรื่องแฟน...รักพี่มะเดี่ยวมาก แต่เชื่อมั่นมากว่าพี่เขาต้องไม่ทำร้ายผมแน่ๆ ไอ้ไม่กลับไปเพราะงอนเขาไม่ง้อ
ที่ไหนได้...ลืมปิดโหมดเครื่องบิน
เออๆ ช่างมันเหอะ เดี๋ยวผมมาอ่านก็ได้ ไปเจอคนที่มาหาก่อน...ใครมาก็ไม่รู้ เพื่อนผมเปล่านะ เพื่อนที่เรียนที่เก่าเข้ามหาลัยแถวนี้เยอะเหมือนกันอะครับ ผมกลับมาหลายวันแล้วพวกมันน่าจะรู้บ้างแหละว่าผมมา พ่อแม่ก็เพื่อนๆ กันทั้งนั้น
“เอ่อ...” เดี๋ยวนะ ผิดคาดไปไกลวะ เพื่อนบ้าเพื่อนบออะไรวะ
นี่ผมจากมานานจนอะไรๆ เพี้ยนไปเยอะเหรอครับ...หรือเพราะไม่ยอมปิดโหมดเครื่องบินก็เลยตามอะไรไม่ทันโลกเสียแล้ว คอมพ์นี่ผมก็ไม่ได้ใช้ไง พี่ยึด...ฮ่าๆ เศร้าใจ เขาว่าผมชอบเล่นแต่เกม กลับบ้านมาทั้งทีไม่อยากให้เล่นเกมมากๆ อยากให้อยู่ด้วยกันพี่น้องพ่อแม่ลูกเยอะๆ ผมยอมเพราะนานๆ มาทีจริงอย่างที่พี่ว่าอะครับ
“เชิญนั่งก่อนครับ...” ผมผายมือเชิญพี่เขานั่งตรงโต๊ะไม่ห่างจากเคาน์เตอร์ล็อบบี้ พี่เขาก็เดินไปง่ายๆ
หน้าตาแบบนี้นี่...ร้องไห้มาใช่ไหม ไม่ได้นอนด้วยอะดิ คิดมากแน่เลยผมรู้ ผมเห็น ผมเข้าใจดี...ผมทุกข์ไม่มากเท่าเขา เพราะผมรู้แล้วว่ามันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ผมกับพี่มะเดี่ยวผิดใจกัน เอ่อ ไม่เชิงผิดใจปะ...เรียกว่าผมเข้าใจพี่เขาผิดคงจะถูกต้องกว่า แล้วคนที่ทำให้ผมเข้าใจแฟนผมผิดก็คือคนนี้...
ไม่คิดจริงๆ ว่าจะมาด้วยตัวเอง แค่คาดเอาไว้คร่าวๆ ว่าเขาส่งข้อความมาขอโทษ...อะไรนะ ว่าสามเป็นจอมวางแผนเหรอ บ้า ผมไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย งอนพี่มะเดี่ยวไม่โทรมาง้อล้วนๆ ส่วนที่คิดว่าพี่คนนี้จะส่งข้อความมาขอโทษนี่คิดไปเองล้วนๆ
“ดูเราสบายดีนี่” ผมยิ้มรับ พยักหน้า
“ก็สบายดีครับ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร” น้ำเสียงร่าเริงของผมทำให้เขาคิ้วขมวด
“ไอ้เดี่ยวมันแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ..เราไม่รับรู้เลยเหรอ” ไม่รู้อะ นี่ก็รอเขาง้อไง...เขาไม่มาง้อ ต้องย้ำอีกกี่รอบ ว่าลืมปิดโหมดเครื่องบิน
“เหรอครับ เขาทำตัวเองนี่” ทำเป็นไม่รู้ไว้ก่อน
“สำหรับผมนะ...ผมไม่ชอบที่แฟนผมนอกใจ นอกกายอะไรแบบนี้อะ มันสื่อถึงความไม่ซื่อสัตย์ ถ้าพี่เขาจะแย่ มันก็เพราะพี่เขาทำตัวเขาเอง ว่าแต่...พี่โซฮานมาหาผมมีอะไรหรือเปล่า” เข้าเรื่องเนียนๆ พี่เขาสีหน้าไม่ดีเลย...ก็เดาไม่ออกหรอกว่ามีอารมณ์ไหนบ้าง คร่าวๆ ที่แน่ใจคือเขาไม่พอใจในคำพูดผมนัก
“เราคิดง่ายๆ แค่นี้อะเหรอ ไม่คิดจะฟังมะเดี่ยวอธิบายหรือไง” คำพูดในเชิงให้ผมเห็นใจพี่มะเดี่ยวเหรอ...อืม ก็เหมือนก่อนที่เขาชอบพูดทำนองนี้ ให้ผมดูแลพี่มะเดี่ยว ให้ผมเอาแต่ตามพี่มะเดี่ยว เห่อๆ...
“พี่คิดว่าการคิดง่ายๆ นี่ทำง่ายเหรอครับ...พี่คิดว่าผมไม่เจ็บปวดเหรอ การที่ผมต้องฟังพี่มะเดี่ยวอธิบายโดยรู้สึกว่ามันเป็นคำโกหกนี่เท่ากับผมเอาตัวเองเข้าไปเจ็บนะ” ทำตาเศร้าแป๊บ...นี่แหละ ผมรู้พี่เขาไม่ชอบผม แต่คำพูดที่ดูเหมือนจะว่าร้ายพี่มะเดี่ยวน่าจะบีบอะไรในความรู้สึกพี่โซฮานได้บ้างละนะ
“มะเดี่ยวไม่ได้โกหกหรอก...”
“พี่หมายความว่าไง...พี่จะเข้าข้างคนผิดเหรอ”
“คนผิดคือพี่เอง!” เขาตะเบ็งเสียงขึ้นมา จ้องตาผมอย่างแน่วแน่ และดูท่าก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้เท่าไหร่
เขาเจออะไรมาน้า...อยากรู้จังว่าอะไรทำให้พี่โซฮานมาอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าผมพร้อมกับออกตัวแทนพี่มะเดี่ยว เขาทำแบบนี้เพื่อให้ผมกับพี่มะเดี่ยวเลิกรากันไม่ใช่เหรอ เพื่อจะได้พี่มะเดี่ยวไปเป็นของตัวเอง คิดว่า...คนที่ทำให้พี่เขามาหาผมได้น่าจะเป็นคนที่เขาอยากได้มาตลอดนั่นแหละมั้ง
“ผมไม่เข้าใจ...” เขาเหมือนจะด่าผมโง่ในแว้บหนึ่ง แล้วหายใจเข้าลึกๆ
“รู้จักโซแลมไหม” โซแลมคือแอลกอฮอล์อัดเม็ด นิยมใช้มอมสาวตามผับบาร์ ผมรู้…ผมเรียนมา
“ไม่รู้จักครับ” โง่อีกคำในแววตาของเขา
“มันเป็นแอลกอฮอล์อัดเม็ด พี่แอบใส่ในแก้วมะเดี่ยวเอง...กูเป็นคนมอมมันแล้วจัดฉากเอง ชัดพอไหมล่ะ!” เขาไม่มองหน้าผม แต่มองฝ่ามือที่สั่นไหวของตนเอง ในที่สุด...ความจริงก็ออกมาจากปากเขาจนได้
“มึงยิ้มอะไร!” อุ้ย...โทษที มาดหลุดอะ
“ก็...ดีใจมั้งครับ ที่พี่มีความกล้าขนาดนี้ นึกว่าจะกล้าแต่ลับหลังเสียอีก...” คำพูดของผมทำให้โกรธ พี่โซฮานมองออกแล้วว่าผมตีหน้าซื่อหลอกเขา อ่าว...ผมไม่เคยบอกเหรอ ว่าผมไม่สู้คน...แต่ผมไม่ยอมคนน่ะ
“ผมรู้อยู่แล้วล่ะ รู้ตั้งแต่พี่มะเดี่ยวบอกว่าพี่ชวนกินเหล้า...ผมก็แค่รอว่าพี่จะกล้ายอมรับไหม หรือว่าพี่มะเดี่ยวจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”
“งั้นที่มึงไม่ยอมทำอะไรเลยเพราะต้องการทำให้มะเดี่ยวมันช้ำใจใช่ไหมล่ะ มึงแม่ง...มึงรู้ไหมมะเดี่ยวมันแย่ขนาดไหนตอนนี้” ผมรีบยกมือห้าม
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ...พี่มะเดี่ยวเป็นแบบนั้นเพราะนั่นคือผลพวงมาจากการกระทำของพี่เอง พี่เป็นคนทำร้ายพี่มะเดี่ยวไม่ใช่ผม ผมรู้ว่าพี่รักพี่มะเดี่ยวมาก มากเกินคำว่าเพื่อน...รู้มาสักพักแล้ว แต่ไม่คิดว่าพี่จะกล้าหักหลังเพื่อนตัวเองแบบนี้ ผมมาทีหลังครับ ผมจะไปพูดอะไรมันก็ไม่เหมาะ...แต่ไหนๆ มันก็มาขนาดนี้แล้ว ผมไม่ได้อยากเข้ามาแย่งความรักพี่นะ ไม่อยากทำให้พี่ต้องเจ็บ แต่พี่ต้องยอมรับนะครับว่า...ตอนนี้พี่เป็นแค่เพื่อน และผมกับพี่มะเดี่ยวคบกันอยู่ หากเราเลิกกันด้วยตัวพวกเราเอง แล้วพี่จะเข้ามาเสียบ มาแทรก ผมก็จะไม่อะไรเลย...นั่นเป็นสิทธิ์ของพี่ แต่ในเมื่อมันไม่เป็นแบบนั้น พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงระหว่างเรา...ถูกไหมครับ” ผมพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด การที่พี่โซฮานมาอยู่ตรงนี้คงหมายถึงโดนอะไรมาจากที่นั่น ผมก็ไม่อยากทำร้ายซ้ำเติมแต่อยากให้พี่เขาเข้าใจและเคารพในความเป็นส่วนตัว
เราทั้งสองนั่งมองหน้ากันนิ่ง พี่โซฮานคงอยากเถียงอะไรสักอย่างแต่หาคำที่เหมาะสมไม่เจอ เป็นผม ผมก็คงเถียงไม่ออกหรอก ผมเผยแล้วว่าผมรู้มาตลอดเรื่องความรู้สึกพี่เขา ไม่ได้โง่นะ...แสดงออกน้อยไปหน่อยเท่านั้น เพราะการที่พี่โซฮานจะรักหรือชอบพี่มะเดี่ยวเกินเพื่อนมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาอะ เรื่องของหัวใจมันห้ามกันไม่ได้อันนั้นผมรู้ แต่อยากให้พี่เขาอยู่ในเขตของเขาไม่ล้ำเส้นมาแบบนี้
“เข้าใจแบบนี้มึงจะกลับไปไหม...” หลังผ่านไปหลายอึดใจ พี่โซฮานก็ถามขึ้น ทว่าผมยังไม่ทันตอบ พี่สองก็เดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ไอศกรีมกะทิสดฝีมือแม่
“อะ…แม่ให้เอามาให้” พี่แกวางห้วนๆ มองหน่าพี่โซฮานแว้บหนึ่งแล้วจากไป
“ทานก่อนสิครับ ฝีมือแม่ผมอร่อยนะ…” ผมหยิบส่งให้พี่เขาตรงหน้าถ้วยหนึ่ง
“ไม่อะ...”
“นะครับ ทานกับผม อร่อยมากผมคอนเฟิร์ม ส่วนเรื่องกลับไป ยังไงก็คงกลับครับ...” พี่โซฮานจำใจรับถ้วยอย่างเสียไม่ได้ เขามองหน้าผมนิดหน่อยก่อนมองไอศกรีมในถ้วย
พี่เขาจำใจตักชิม ส่วนผมจ้วงเอาจ้วงเอา อร่อยอย่าบอกใคร ผมชอบมากที่แม่ผมทำ อยากทำเองเป็นบ้างแต่คงได้แค่ในฝันเท่านั้น การทำไอศกรีมเป็นอะไรที่ยุ่งยากและต้องมีเครื่องไม่เครื่องมืออะ
“โกรธกูปะ” จู่ๆ พี่โซฮานก็ถามขึ้น
“อืม..จะว่าไงดี มันไม่ถึงกับโกรธ แต่ก็ไม่พอใจในการกระทำของพี่เท่าไหร่ ผมรู้พี่ไม่ชอบผม แต่ไม่เป็นไรฮะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ผมไม่มีซีเรียสหรอก” พูดจริง เพราะผมไม่โฟกัสที่คนไม่ชอบผมไง เราอยู่ห่างเขา ไม่แสดงตัวเป็นศัตรูกับเขาก็พอแล้ว ที่ผ่านมาผมก็เลยไม่ค่อยมีคนเกลียดนัก
“มึงมองโลกในแง่ดีไปนะ” พี่โซฮานบอกเบาๆ
“ก็คงงั้นมั้งครับ พี่ก็ลองมองอะไรแง่บวกดูบ้าง...มันดีกับตัวเรานะฮะ” ผมยิ้มหวานให้พี่โซฮาน ถึงแม้เขาจะเป็นตัวการในการทำให้ความรักของผมสั่นคลอนก็เหอะ ไม่สิ ความรักของผมไม่สั่นคลอน มันยังอยู่ดีมีสุข กินอิ่มนอนหลับและดูท่าจะสบายมากเสียด้วย
พี่โซฮานนั่งกินไอศกรีมเงียบๆ อยู่จนหมด เขามองผม มองรอบๆ แล้วก็ขอตัวกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่รั้งพี่เขาเอาเพราะว่าผมมีเรื่องที่อยากจะทำ อะไรเหรอ...โห่ เช็กมือถือสิครับ!
คว้าถ้วยทั้งสองใบวิ่งโล่ไปเก็บในครัว จากนั้นตรงกลับห้องตัวเอง ความรักมันอยู่กับพี่ๆ ผม ปล่อยมันไปเถอะ นี่คือช่วงเวลาของผมกับการได้เสพข้อความต่างๆ ของพี่มะเดี่ยว ตลอดสามวันที่ผ่านมา พี่เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ
สามร้อยเกือบสี่ร้อยสาย...กับอีกเกือบหกร้อยข้อความ!!!
กลิ้งแป๊บ ทุ่มทุนอะ เอาเวลาว่างทั้งหมดมาโทรหา มาส่งข้อความเลยปะเนี่ย ไม่ได้อยากยิ้มหรอกนะ...แต่ริมฝีปากมันฉีกไปเอง ผมรู้ช่วงนี้พี่เขาซ้อมหนักมาก แล้วยังเทียวโทรหา มาส่งข้อความหาตลอดแบบนี้มันก็คงเหนื่อยไม่น้อย
ผมไล่อ่านตั้งแต่ข้อความแรกซึ่งเป็นรูปความรัก ทำหน้าอ้อนๆ พี่มะเดี่ยวแกอธิบายเรื่องวันนั้นยาวยืด เล่าแทบทุกอย่างที่พอจะจำได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องเป็นราวกว่าตอนที่เขากอดผมแล้วอธิบาย หลังจากนั้นก็ถามทำอะไร อยู่ไหน พี่คิดถึง พี่ขอโทษ พี่ขอโอกาส...มันวนๆ อยู่แต่แบบนี้ไม่มีอะไรมากนัก ที่สำคัญ...พี่เขาไม่ขายเพื่อนตัวเองเลยแม้แต่ประโยคเดียว ถ้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นหน่อยผมก็คงโกรธไปแล้ว เพื่อนแบบนั้นจะปกป้องทำไม แต่อย่างว่า...เขาก็คงหาทางทำอะไรสักอย่างในแบบของเขาโดยที่ไม่ต้องเอาเพื่อนมาแฉ ซึ่งพี่โซฮานก็ได้มาพูดกับผมแล้ว
พี่มะเดี่ยวเรียบเรียงคำพูดหวานๆ ไม่เก่ง แต่วาดรูปง้ออะเก่งครับ...ผมนี่เซฟมันทุกรูป มีรูปที่ผมหลับคาโต๊ะคอมพ์ด้วย ไม่รู้ตอนไหนเหมือนกัน น่าจะช่วงเขาทำงาน ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งจะมาเห็นนี่แหละ...ชื่นใจจัง ถึงมันจะไม่ใช่ความพยายามที่เลิศเลออะไร แต่ก็คือได้พยายามที่จะทำอะไรสักอย่าง พี่มะเดี่ยวถ่ายรูปที่ฟลอส่งมาด้วย บอกด้วยว่าเขาตั้งใจซ้อมขนาดไหน เขากำลังพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ผมรู้...นั่นคือสิ่งที่พี่รัก ส่วนข้อความและทุกเวลาว่างที่พี่ได้มอบให้นั้นก็คือเพื่อคนที่พี่รัก...
ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมหายงอนพี่ตั้งแต่รูปแรกที่พี่ส่งมาแล้ว แต่ที่เพิ่งเห็นน่ะ…เพราะเพิ่งปิดโหมดเครื่องบิน ผมหัวเราะอยู่กับความบ้าบอของตัวเอง ตาก็ไล่อ่านและตอบข้อความเขาในใจไปด้วย
“พรุ่งนี้...ผมจะไปเชียร์นะ แต่วันนี้น่ะ รอไปก่อน...” บอกกับตัวเองยิ้มๆ ใกล้จะเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที...โถ ซึมมาตั้งหลายวัน ของยิ้มทั้งวันหน่อยจะเป็นไรไปเนอะ
….100%….
ความเปิ่นของน้องทำให้พี่มะเดี่ยวใจแทบขาดรอนๆ แต่นี่นับเป็นความแมนเพียงครั้งเดียวของโซฮาน ปรบมือ~