แถม
.
.
“พรุ่งนี้ไปเป็นเพื่อนโฟร์ขายเฟรนช์ฟรายที่ไนท์บาร์ซานะครับ..” ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วกดริมฝีปากปิดเสียงนุ่มที่เอ่ยขัดการจูบส่งกลับบ้าน ผมกับโฟร์ แฟนเด็กที่สุดที่ผมเคยคบมา โฟร์มักจะเรียกแค่ชื่อเล่นผมอย่างเดียวเพื่อลดช่องว่างเรื่องอายุ ถึงผมจะไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่อยากขัดใจ ปล่อยให้เรียกจนเริ่มคุ้นเคย เด็กขี้อ้อนที่อ้อนให้ผมไปนั่งเป็นเพื่อนขายของที่ไนท์บาร์ซาหลายครั้ง ไม่ใช่ไม่อยากไปเฝ้า แต่ไม่อยากให้ติเห็นโฟร์ต่างหาก ไม่อยากให้โฟร์โดนมันแกล้ง..
“ไม่ต้องไปหรอก ให้เพื่อนขายไป โฟร์อยู่กับผมที่บ้านดีกว่า วันหยุด..ป้าไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ?” ผละจากริมฝีปากสีชมพูอ่อนแล้วใช้นิ้วเช็ดเบามือ โฟร์ลืมตาขึ้นมาสบตาผมช้า ๆ กระซิบเรียกชื่อผมเสียงแผ่ว ‘ต้อง..’ ยิ้มบางแล้วตอบน้ำเสียงระดับเดียวกันกลับไป ‘หืม?’ ริมฝีปากบางเคลื่อนเข้าหาริมฝีปากผม แตะลงมาเบา ๆ แล้วขยับจูบซึมซับความชื้นช้า ๆ หลับตารับสัมผัสอ่อนโยนของเด็กอายุ 13 เผยอปากส่งปลายลิ้นเข้าไปควานหาปลายลิ้นร้อน มือสอดเข้าไปในเสื้อลูบผิวลื่นมือ เสื้อร่นตามข้อมือที่สูงขึ้น จูบระลงมาที่ซอกคอหอม ดูดผิวเนื้ออ่อนจนขึ้นสีเข้ม หายใจเป่าลมร้อนใส่ปลายคาง วนขึ้นจูบที่ริมฝีปากนุ่ม..
“ต้อง..ผม..ต้องทำยังไงบ้างครับ?..” ลืมตามองริมฝีปากบางแล้วไล่สายตาขึ้นสบตาสวย ยื่นริมฝีปากจูบพร้อมคำตอบที่ริมฝีปากล่างที่เผยอรอ..
“แค่ปล่อยตัว ไม่ต้องเกร็งก็พอ..” โฟร์ขืนหน้าออกมองตาผม แล้วค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้ามาหา ลมหายใจอุ่นกระทบที่แก้มกับแรงพยักหน้าจนปลายจมูกแตะที่ใบหูผม เอี้ยวคอจูบหลังใบหู ซึมซับความหอมของเด็กอายุ 13 เด็กที่มีกลิ่นของความเดียงสาอยู่จาง ๆ
ฝ่ามือลูบไล้ผิวใสที่อยู่ในอ้อมกอด ไล้มือลงต่ำขยับรูดรั้งความต้องการที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อนเชื่องช้า ริมฝีปากรับรสหวานที่เป็นของผมคนเดียว ดื่มด่ำกับความอ่อนโยนของตัวเองและความเร่าร้อนที่มาจากธรรมชาติตรงหน้าอย่างอิ่มเอม กอดตระกองร่างกายที่หอบเหนื่อยกับการเสียน้ำรักครั้งแรกให้กับฝ่ามือผม
ก้มหอมแก้มชื้นเหงื่อ สบตาสีดำสนิทแล้วจูบเปลือกตาที่หลุบลงมองคอเสื้อผมเบา ๆ จูงมือไปส่งหน้าห้องน้ำ เดินออกมาหาผ้าเช็ดตัวส่งให้ มองโฟร์สวมเสื้อผ้าแล้วดึงเข้ามาหอมผมนุ่มอีกฟอดใหญ่ อ้อมแขนอุ่นโอบรอบคอผมแน่น
“คุณเป็นผู้ใหญ่ที่ดีจริง ๆ ด้วย..ขอบคุณที่ ‘ไม่เข้ามา’ นะครับ” สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อดทนอดกลั้นกับคำพูดยั่วอย่างไม่ตั้งใจของโฟร์ จูงมือนุ่มลงมาข้างล่าง เดินไปส่งที่หน้าบ้าน ดวงตาสวยมองผมเป็นประกาย ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนโยน..
“กลับดี ๆ นะครับ รัก..รักต้องนะครับ” ยิ้มกว้างกับคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากบาง โฟร์เป็นคนที่พูดอะไรอกมาจากใจและพูดออกมาตรง ๆ เสมอ พยักหน้าแล้วยื่นมือจับมือนุ่มบีบเบา ๆ แล้วปล่อยช้า ๆ หมุนหันหลังแล้วเดินกลับเข้าบ้านตัวเอง ปิดบ้านเรียบร้อยก็เดินกลับขึ้นห้อง อาบน้ำอีกรอบแล้วเดินมามองความงามของดาวที่ทอแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า หันมองมือถือที่สั่นตรงหัวเตียง เดินมาหยิบแล้วเปิดดูข้อความที่ส่งมากู๊ดไนท์ก่อนนอนของโฟร์
‘โฟร์แปรงฟันก่อนนอนแล้วนะครับ จะนอนแล้ว ฝันดีครับ..’ ยิ้มกว้างกับหน้าจอแล้วเลื่อนลงดูข้อความหลังจุดที่โฟร์ส่งมาให้ หายใจสะดุดกับข้อความที่ได้อ่าน
‘เมื่อกี้ก็ก่อคดีแล้วนะครับต้อง ลามกอนาจาร? หรือข้อหาอะไรดีล่ะ? ล้อเล่นนะครับ ฝันดีครับต้อง..’ เส้นเลือดฝอยที่ขมับปูดโปน วางมือถือลงข้างตัวช้า ๆ พยายามข่มความหงุดหงิดที่โดนโฟร์แกล้งให้นอนไม่หลับ
ข้อดีของโฟร์คือความตรงไปตรงมา แต่นั่นก็เป็นข้อเสียได้เหมือนกัน ในหัวให้คำจำกัดความแฟนตัวเองจนหลับ..ไม่ว่าจะเป็นคำไหน มันก็เหมาะกับหน้าใสผิวสวยพูดตรงแบบโฟร์ทั้งนั้นครับ..
‘ยักษ์..ปีศาจ..เด็กเปรต!’
END.
Fan fic Beautiful Eyes BY ZuuZuuRrrrrrrrเสียงโทรศัพท์ในยามเช้าเป็นเหมือนนาฬิกาปลุกชั้นดีที่ปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาหลังจากที่นอนไปได้แค่ 3ชั่วโมง เสียงเพลงพิเศษเฉพาะตัวทำให้ผมรู้ได้โดยไม่ต้องมองว่าใครโทรมา
“ครับโฟร์” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง คงเพราะน้ำเสียงของผมงัวเงียจนฟังไม่ค่อยเป็นคำ
“ต้องยังไม่ตื่นหรอครับ ผมโทรมากวนเวลานอนของต้องอีกแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงที่พูดมาประโยคแรกเหมือนจะรู้สึกผิด แต่ประโยคหลังเหมือนจะอ้อนให้ผมไม่โกรธอยู่กลาย ๆ
“ไม่เป็นไรครับ ผมกำลังจะตื่นพอดี โฟร์มีอะไรรึป่าว ถึงได้โทรมาหาผมแต่เช้า” ตอบอย่างเอาใจก่อนที่แฟนเด็กจะคิดมาก
“ผมอยากไปเดินเที่ยวในห้างน่ะครับ อยากทานไอศกรีมด้วย ต้องไปกับผมได้มั้ยครับ”
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมไปรับที่บ้านโฟร์นะ ขอเวลาผมจัดการตัวเอง 30 นาที”
“ครับ ใกล้ถึงบ้านผมแล้วโทรมานะ ผมจะได้ออกไปรอหน้าบ้าน” ให้ตายเหอะ ทำไมผมถึงไม่เคยปฏิเสธน้ำเสียงอ้อนของแฟนเด็กคนนี้ได้เลยนะ
หลังจากที่จัดการกับตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยผมก็ขับรถออกไปรับโฟร์ที่บ้าน ยังไม่ทันจะโทรเข้าหา สายตาก็เหลือบไปเห็นแฟนเด็กคนนี้ของผมยืนยิ้มแป้นรออยู่หน้าบ้านแล้ว
“ออกมายืนตากแดดร้อน ๆ ก่อนทำไมครับ โฟร์เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าถ้าถึงหน้าบ้านแล้วให้ผมโทรหา ผิวดำขึ้นมาอย่าบ่นอีกละ” หลังจากบ่นเสร็จเหลือบไปมองโฟร์นิดนึง ก็เห็นว่านั่งทำปากบู้ บ่นพึมพำอะไรคนเดียว เท่าที่ได้ยินเหมือนจะบอกว่า ตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวกับผม เพราะ 2-3 เดือนมานี้ผมแทบจะไม่ว่างได้ออกไปไหนเลย งานเข้ามาเยอะมาก เวลาว่างอันน้อยนิดของผมเลยทำได้แค่อยู่ที่บ้านแล้วโฟร์ก็มาหาบ้างเป็นบางเวลา เห็นอย่างนี้แล้วก็อดสงสารไม่ได้ ดูแล้วแฟนของผมคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยมาก แทบจะไม่แสดงนิสัยเด็ก ๆออกมาให้ผมเห็นเลย นอกจากเวลาที่อยากทานขนมหวาน หรืออยากจะขอให้ผมทำอะไรสักอย่าง ถึงจะได้เห็นโฟร์ในร่างที่เป็นเด็กอายุสมวัย 13 ย่าง 14 ปี เมื่อคิดได้แบบนั้นก็อดที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวแฟนเด็กแล้วพูดปลอบใจไม่ได้
“ผมก็ตื่นเต้นนะที่จะได้ออกไปเที่ยวกับโฟร์ แต่ก็ไม่อยากให้โฟร์ยืนตากแดดรอนานๆ เผื่อผมมาช้าเพราะรถติด โฟร์จะทำยังไงครับ แล้วนี่ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าด้วยใช่มั้ย ถ้าเป็นลมไปทำยังไงละครับ ที่ผมพูดเพราะผมเป็นห่วง ไม่โกรธผมนะครับ”
“ผมไม่ได้โกรธต้องซักหน่อย ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องคิดมาก” พูดจบโฟร์ก็เงยหน้ามายิ้มให้ผม เห็นแบบนี้แล้วไม่ยิ้มตอบก็คงจะไม่ได้แล้วละครับ น่ารักซะขนาดนี้
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวไปถึงห้างแล้วเราไปหาอะไรทานกันก่อน แล้วค่อยเดินเที่ยวดีมั้ยครับ แล้วก่อนกลับค่อยไปทานไอศกรีมกัน”
“ครับ”
เมื่อวนหาที่จอดรถได้เป็นที่เรียบร้อยพวกผมก็เดินไปหาอะไรทานกัน แล้วค่อยไปเดินดูเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตามที่แฟนเด็กของผมอยากจะดู
“ต้องครับ สีฟ้ากับสีเหลืองต้องว่าสีไหนสวยกว่ากันครับ” หลังจากที่โฟร์ยืนหน้าดำคร่ำเครียดกับการตัดสินใจเลือกสีของเสื้อยืดตรงหน้ามาไม่ได้พักใหญ่ๆก็หันมาถามผม
“จริงๆสีไหนโฟร์ก็ใส่ได้หมดนะครับ แต่ถ้าถามผม ผมชอบสีเหลืองมากกว่า อีกอย่างเสื้อสีฟ้าโฟร์มีเยอะแล้ว เอาสีเหลืองไปใส่บ้าง เปลี่ยนบรรยากาศให้ตู้เสื้อผ้าดีมั้ยครับ”
หลังจากยืนคิดตามคำแนะนำผมแป๊บนึง โฟร์ก็พยักหน้าเห็นด้วย แล้วหยิบเสื้อยืดตัวสีเหลืองส่งให้พนักงานไปคิดเงิน แต่ยังไม่ทันได้หยิบเงินส่งให้พนักงาน ผมก็ชิงส่งบัตรเครดิตให้ไปก่อน
“ต้องอ่ะ เสื้อตัวเดียวผมจ่ายเองได้ ต้องออกเงินจ่ายค่าเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ แล้วก็ค่ากินให้ผมหลายอย่างแล้วนะครับ”
“โฟร์อย่าคิดมากสิครับ ผมเต็มใจที่จะจ่ายให้ เลี้ยงแฟนคนเดียว ถ้ายังเลี้ยงไม่ไหวแล้วผมจะเลี้ยงอะไรได้ละครับ” หลังจากพูดจบแฟนเด็กของผมก็หน้าแดงระเรื่อแล้วพูดต่อว่า
“แต่ของที่ต้องจ่ายเงินให้ผมถ้ารวม ๆ กันก็เป็นเงินหลายบาทแล้วนะครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เงินของผมก็เหมือนกับเงินของโฟร์ อย่าคิดมากสิครับ หรือว่าโฟร์จะเอาบัตรเครดิตของผมไปไว้ใช้ซักใบมั้ย จะได้ดูเหมือนโฟร์เป็นคนจ่ายเงินเอง”
“แบบนั้นยิ่งไม่เอาเลยนะ!! โอเคครับ ต้องอยากจ่ายเงินแทนผมก็ตามสบายเลยครับ หมดตัวอย่ามาว่าผมนะ”
“ถ้าผมหมดตัว ผมก็ให้โฟร์เลี้ยงผมกลับไงครับดีมั้ย” พูดจบก็ยิ้มหวาน แฟนเด็กของผมเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มตอบ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะพาตัวไปเก็บไว้ที่บ้านจริงๆเลยครับ ไม่อยากให้ใครมองหรือเห็นเลย น่ารักไปแล้วจริงๆ
หลังจากที่เดินเลือกซื้อของกันจนทั่วห้างแล้ว ผมก็ชวนโฟร์ไปทานไอศกรีมก่อนกลับ ระหว่างทางที่เดินไปก็มีเสียงคนทักผมขึ้นมาซะก่อน
“ต้อง! นั่นต้องใช่มั้ย” ผมหันกลับไปมองแล้วนึกซักแป๊บว่าใครเป็นคนเรียก ก่อนจะส่งยิ้มให้แล้วทักทายตอบ
“ฟ้าใช่มั้ย ไปไงมาไงถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” ฟ้าเป็นเพื่อนสมัยเรียน เป็นบัดดี้เวลาทำงานแบบงานคู่ เพราะรหัสนักศึกษาของเรา 2 คนติดกัน ทำให้สนิทกันพอสมควร
“พอดีที่ทำงานของฟ้า ให้ฟ้าย้ายมาประจำที่สาขานี้น่ะจ๊ะ ต้องสบายดีนะ ดูดีไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ เมื่อก่อนหล่อยังไงก็ยังหล่อเหมือนเดิม อยากกลับไปเรียนอีกจัง” ระหว่างที่ยืนฟังฟ้ารำลึกถึงความหลังสมัยเรียนแฟนเด็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมก็กระตุกแขนเสื้อเบา ๆ 2-3 ครั้ง พอก้มลงไปมองเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา พอฟ้าเห็นว่าผมก้มไปมองใครก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองคุยเพลินจนลืมสังเกตว่ามีใครอีกคนมากับผมด้วย
“อุ๊ย มัวแต่คุยเพลิน ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าต้องมากับน้อง ชื่ออะไรคะสุดหล่อ พี่ชื่อฟ้านะคะ”
“.....” โฟร์เอาแต่ยืนเงียบไม่พูดอะไร ร้อนถึงผมต้องเป็นคนตอบแทน
“น้องชื่อโฟร์น่ะฟ้า โฟร์นี่พี่ฟ้านะ”
“สวัสดีจ๊ะน้องโฟร์”
“......” แฟนเด็กของผมเงียบอีกแล้วครับ ผิดปกติไปนะ แต่ ณ ตอนนั้นผมยังไม่ได้ใส่ใจถึงความผิดปกตินี้เท่าไหร่ คิดแค่ว่าโฟร์คงเขินอายที่จะพูดคุยกับคนที่เพิ่งจะรู้จัก จนผมชวนฟ้าไปทานไอศครีมด้วยกันนั่นแหละครับ ถึงได้คิดว่ามันไม่ใช่อาการของคนเขินอายแล้ว เพราะโฟร์ที่ไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ฟ้าเข้ามาทักจนถึงตอนนี้ กลับบอกว่าลืมไปว่ามีธุระด่วน จะกลับบ้านแล้ว ทำให้ผมเริ่มจะเอะใจขึ้นมา หรือว่าโฟร์จะไม่ชอบฟ้า ผมเลยต้องตามใจโฟร์ด้วยการพากลับบ้านทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทานไอศครีม พอขึ้นไปนั่งบนรถได้ผมก็เลยถามโฟร์ว่า
“โฟร์ครับ โฟร์ไม่พอใจอะไรรึป่าว บอกผมได้นะครับ เงียบแบบนี้ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าโฟร์ชอบหรือไม่ชอบอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ” ถึงโฟร์จะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แต่สีหน้าและน้ำเสียงที่พูดมันไม่ใช่เลย ทำให้ผมเริ่มคิดทบทวนดูว่าโฟร์เริ่มเงียบไปตั้งแต่ตอนไหน แล้วค่อยถามต่อ
“โฟร์ไม่ชอบฟ้าหรอครับ” พูดจบก็เห็นว่าหน้าของโฟร์ยังนิ่งเฉยเหมือนเดิม แต่แววตาของโฟร์มันฟ้องว่าเป็นเรื่องนี้จริง ๆ แต่เพราะโฟร์ไม่ได้รับมาตรง ๆ ว่าไม่ชอบฟ้า ทำให้ผมพูดอะไรมากไม่ได้ ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านโฟร์ก็นั่งเงียบ สายตาก็จ้องออกไปดูถนนด้านข้างตลอดเวลา พอมาถึงหน้าบ้านผมเลยตัดสินใจที่จะพูดในสิ่งที่ผมคิดมาตลอดทาง
“โฟร์ครับ ผมไม่รู้หรอกนะว่าโฟร์ไม่พอใจอะไรในตัวฟ้า แต่ฟ้าเป็นเพื่อนของผม ถ้าผมจะคุยกับเพื่อนบ้าง ชวนเพื่อนไปเที่ยวบ้างไม่ได้เลยใช่มั้ยครับ ผมก็ยังต้องมีสังคมในแบบของผมนะครับ ชีวิตนี้ไม่ใช่ว่าจะมีแค่โฟร์เพียงคนเดียว ก็เหมือนกับโฟร์ที่ชีวิตนี้ไม่ได้จำเป็นจะต้องมีผมแค่คนเดียว โฟร์ยังต้องไปเจอใครในสังคมอีกเยอะนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกลุ่มใหม่ อาจารย์คนใหม่ หรือใครก็ตามที่ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตโฟร์ โฟร์ต้องเปิดใจให้กว้างกว่านี้นะครับ ไม่ใช่เพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อผม แต่เพื่อตัวโฟร์เอง นะครับ ลองไปคิดดู” พูดจบก็หันไปมองโฟร์แล้วก็ต้องใจหายอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแฟนเด็กของผมคนนี้ร้องไห้ไปแล้ว แต่ก็ต้องทนใจแข็งไม่ดึงตัวเข้ามากอดหรือปลอบ เพราะต้องการให้โฟร์คิดได้เกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากที่เห็นโฟร์เดินเข้าบ้านไปแล้ว ผมก็กลับบ้านเพื่อจะเคลียร์งานส่วนที่เหลือต่อ แต่นั่งเคลียร์งานได้ไม่ทันไรก็มีเสียงเคาะประตู แล้วเปิดแง้ม ๆ ให้พอเห็นว่าใครเป็นคนเคาะประตู
“เข้ามาซิครับโฟร์” โฟร์เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าประตูก้มหน้าก้มตาเงียบ ๆ อยู่ตรงนั้นพักใหญ่ จนผมทนไม่ได้จึงเอ่ยปากถามต่อ
“มีอะไรรึป่าวครับโฟร์ ยืนเงียบ ๆ อยู่แบบนั้นผมไม่รู้จริง ๆ นะครับว่าโฟร์มาทำไม”
“ฮึก...ต้องอย่าเกลียดผมเลยนะครับ” โฟร์ตอบกลับมาเสียงสั่นๆ
“ผมผิดไปแล้ว ต่อไปผมจะทำตัวให้ดีกว่านี้ ต้องอย่าโกรธอย่าเกลียดผมเลยนะครับ” พูดจบโฟร์ก็เงยหน้ามามองผมด้วยหน้าตาที่มองยังไงก็รู้ว่าร้องไห้มาตลอดทางที่เดินมาหาผมแน่ๆ เห็นแบบนี้แล้วที่ตั้งใจว่าจะไม่ใจอ่อนให้เด็กดื้อคนนี้ง่าย ๆ ก็ต้องพักความคิดไป ใจอ่อนยวบเพราะสงสารแฟนเด็กคนนี้ จึงลุกจากโต๊ะทำงานไปกอดปลอบใจโฟร์อยู่พักใหญ่ หลังจากที่ยืนปลอบให้แฟนเด็กหยุดร้องได้ก็จูงมือมานั่งที่โซฟากลางห้อง แทนที่เจ้าแฟนเด็กจะนั่งข้างๆกลับปีนมานั่งบนตักกอดคอผมแน่น จนผมอดใจไม่ไหวต้องดันตัวโฟร์ออกมาเพื่อจูบหน้าผากและตาทั้งสองข้างเป็นการปลอบใจอีกครั้ง
“ร้องไห้ทำไมครับเนี่ย โฟร์คนเก่งของผมกลายร่างเป็นเด็กขี้แยไปแล้วหรอ”
“ก็ต้องโกรธผม...เกลียดผมแล้วนี่ครับ”
“ผมไม่ได้โกรธโฟร์เลยนะครับ เรื่องเกลียดยิ่งไม่ใช่ใหญ่ แค่ไม่ชอบที่โฟร์ไปแสดงท่าทางไม่ดีใส่ฟ้าแบบนั้น ครั้งนี้ฟ้าอาจจะไม่คิดมาก แต่ถ้าเจอกันครั้งต่อไปฟ้าจะดูว่าโฟร์เป็นเด็กไม่ดีนะครับ ผมไม่อยากให้ใครมองว่าแฟนผมเป็นเด็กมีปัญหา เข้ากับใครไม่ได้”
“ผมไม่ได้รังเกียจพี่ฟ้าเลยนะครับ แต่ผมแค่คิดว่าวันนี้ผมกับต้องไปเที่ยวกันแค่2คนก็ดีอยู่แล้ว... ทำไมต้องชวนคนอื่นไปด้วยละ” โฟร์พูดไปเสียงก็ค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ ถ้าไม่อยู่ใกล้กันจริงๆคงจะฟังไม่รู้เรื่อง พอฟังโฟร์พูดแบบนี้ก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าที่แฟนเด็กของผมไม่พอใจไม่ใช่ไม่พอใจเพื่อนผม แต่น่าจะเป็นตัวผมเองมากกว่าที่ไปชวนคนอื่นมารบกวนเวลาเที่ยวของเรา 2 คนที่กว่าจะหาได้อย่างยากลำบาก
“ขอโทษนะครับโฟร์ที่ผมลืมคิดถึงจุดนี้ไป ยกโทษให้ผมได้มั้ยครับ” พูดจบก็ไม่รอคำตอบของโฟร์ ยื่นหน้าเอาปากของตัวเองไปแตะกับริมฝีปากบางของแฟนเด็กซ้ำๆ แล้วกัดริมฝีปากล่างเบาๆเพื่อให้โฟร์เผยอปากขึ้นมา หลังจากที่ส่งปลายลิ้นเข้าไปกอดเกี่ยวกับลิ้นของแฟนเด็ก มือก็สอดเข้าไปลูบไล้แผ่นหลัง ก่อนจะอ้อมมือมาเล่นกับเม็ดสีชมพูเบา ๆ ให้พอได้ยินเสียงครางของโฟร์เบา ๆ จากนั้นก็ผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบางนิดหนึ่งเพื่อถอดเสื้อของเด็กดื้อออก แล้วก็ประกบริมฝีปากต่อเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แล้วก็รับรู้ได้ถึงความต้องการของแฟนเด็ก
มือที่เล่นอยู่กับเม็ดสีชมพูจึงละลงไปรูดรั้งความต้องการของโฟร์ ริมฝีปากก็ค่อย ๆ เคลื่อนลงมาจากปากบางมาที่ซอกคอและยอดอก เล่นอยู่ที่จุดนั้นอยู่สักพักก็เลื่อนหน้าขึ้นไปประกบปากกับปากบางต่อ มืออีกข้างที่ไม่ได้สัมผัสกับความต้องการของแฟนเด็กก็ค่อยๆเคลื่อนลงมาลูบไล้ตรงช่องทางสงวนของโฟร์ ในตอนที่ลากนิ้วไปแตะ โฟร์สะดุ้งเล็กๆก่อนจะปล่อยให้ผมสอดนิ้วเข้าไปสำรวจช่องทางนั้น ส่งนิ้วเข้าไปสำรวจได้เพียงนิดเดียวก็รู้สึกว่าโฟร์เกร็งตัวแน่นพร้อมทั้งผละริมฝีปากออกมากัดเพื่อบรรเทาความเจ็บ เห็นแบบนั้นก็ทนใจร้ายทรมานแฟนตัวเองไม่ได้ เลยดึงนิ้วออกมา จากที่โฟร์หลับตาขมวดคิ้วแน่นก็ลืมตาขึ้นมามอง เหมือนจะถามว่าผมจะไม่ทำต่อแล้วหรอ เห็นแบบนั้นจึงยิ้มให้ พร้อมทั้งประกบริมฝีปากเข้าหาปากบางแล้วบอกว่า ‘ไว้ให้โฟร์พร้อมกว่านี้ก็ได้ครับ’ แฟนเด็กได้ยินแบบนั้นก็ผละมือออกจากคอผมไปรูดรั้งความต้องการของผมพร้อมทั้งพูดว่า ‘งั้นให้ผมได้ช่วยต้องบ้างนะครับ’ มือเล็กของแฟนเด็กจับรวบความต้องการของผมแน่น ขยับข้อมือรูดรั้งเบา ๆ พร้อมกับเงยหน้าเผยอริมฝีปากยั่วเย้าให้ปลายลิ้นผมสอดเข้าควานหาลิ้นอุ่น ขยับเบียดดันหลังบางให้เดินไปที่เตียง เท้าแขนคร่อมข้างหนึ่งยันตัวเองไม่ให้ลงน้ำหนักตัวใส่โฟร์ ลมอุ่นจากปลายจมูกโด่งติดขัด มือเล็กที่จับความต้องการผมหยุดขยับก่อนจะผละมากอดคอผมแน่น ความแข็งขืนของโฟร์ที่อยู่ในมือผมร้อนรุ่ม ก่อนจะปลดปล่อยธารรักใส่ฝ่ามือ..ไหลระไปตามหลังมือผมอย่างท่วมท้น ผละริมฝีปากให้โฟร์ได้หายใจสะดวก ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ และทำความสะอาดให้โฟร์ นิ่งมองตาสวยฉ่ำปรือที่ลืมขึ้นมาสบ ผมควรเตรียมความพร้อมและสร้างความกล้าให้โฟร์..ทีละนิด
“ช่วยผมนะ..” เอ่ยปากบอกสั้น ๆ แล้วคลานเข่าขึ้นมาคร่อมหน้าเรียว จ่อความต้องการของตัวเองที่มีน้ำใสติดตรงปลายที่ริมฝีปากบาง น้องกลั้นหายใจก่อนจะอ้าปากเล็กใช้ลิ้นแตะชิมน้ำสีใสของผม ครางซี๊ดแล้วกลั้นหายใจเมื่อริมฝีปากนุ่มเริ่มครอบครองความยาวของผม กัดกรามแน่นข่มความเสียวในอกแล้วจับหมอนมาให้โฟร์หนุนไม่ให้เมื่อย ขยับสะโพกดันความยาวเข้าหาโพรงปากอุ่นทีละนิด กัดฟันกับความเจ็บเพราะความไม่เคยของโฟร์ ยิ้มบางแล้วลูบแก้มปลอบเมื่อดวงตาสวยบอกผมว่าขอโทษที่ทำให้เจ็บ ผมปล่อยให้โฟร์ได้ลองแตะปลายลิ้น ได้ลองครอบครองของผมในท่วงท่าที่..โฟร์คิดว่าโฟร์ถนัด ลิ้นร้อนกับความนุ่มในปากโฟร์ ส่งให้ผมไปถึงสวรรค์ในเวลาไม่นานนัก ถดสะโพกออกแล้วรูดรั้งท่อนร้อนของตัวเองรวดเร็วก่อนจะปล่อยน้ำรักใส่ฝ่ามือจนเต็มที่ ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วหันข้างดึงทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดตัวเอง
หลังจากที่เราสองคนผลัดกันให้ความสุขจนเสร็จก็จูงมือกันไปอาบน้ำก่อนที่จะมานอนกอดกันหลับไป แฟนเด็กของผมคนนี้ถึงจะดื้อไปหน่อย แต่ก็น่ารักนะครับ คุณๆคิดแบบนั้นไหม?
END.
กอดหมับ บวก ๆ ค่ะ
งานเยอะค่ะช่วงนี้ พฤหัสกับศุกร์ที่จะถึงนี้ก็ถูกเฉดหัวไปอบรม เสาร์ก็ไม่ได้เข้าบ้านต้องมาปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ถ้าเปรียบเป็นซุปตาร์..จิคงค่าตัวแพงน่าดูค่ะ55555
คุณ Mouse2U ฮาเนอะคะ จิแต่งเองก็ฮาเหมือนกันค่ะ5555 จิลองดูด้วยนะคะ เอาครีมนวดมาถูกับข้อพับที่หนีบแน่นของตัวเอง เข้าง่ายเลยล่ะค่ะ จิสนับสนุนทฤษฎีครีมนวดนะคะ >///<
คุณ nekko มันเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวนะคะ ความรักที่ยังต้องการตัวช่วย เราต้องขอบคุณครีมนวดล่ะค่ะ ไม่อยากจะบอกว่าจิลิงดูด้วยล่ะค่ะตอนเขียนเสร็จใหม่ ๆ อ่ะ เอาครีมนวดมาถูกับข้อพับที่หนีบแน่น..มันไหลเข้าไปปรื้ด ๆ สบาย ๆ เลยค่ะ5555
คุณ sirin_chadada ครีมนวดตอนท้ายฉีกอารมณ์แคว้กๆ เลยใช่ป่ะคะ555 ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ คุณช่วยจิไว้ได้มาก ๆ เลยค่ะ สำหรับคอมเม้นท์ที่มีให้ ขอบคุณมากค่ะ ^^
คุณ PURE LOVE ทุกคนมีจุดเริ่มต้นของความรักไม่เหมือนกันค่ะ บางคนสดใส บางคนมืดมน แต่ตอนจบมีความสุขเพราะรู้สึกเหมือนกันค่ะ....ขอบคุณเหมือนกันนะคะ ^^
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและติดตามค่ะ