Green Light 9 : กลับมาอีกครั้ง (ชยางกูรxอนาคิม)
[/size][/b]
ชยางกูร พาร์ทนับจากวันนั้น ผมกลายเป็นผู้จัดการนายแบบชื่อดังไปแล้ว งานการของผมไม่ต้องพูดถึง ถ้าผมไม่มีลูกน้องดีและทีมงานดี รับรองบริษัทผมเจ๊งแน่ ก็อาทิตย์หนึ่งผมเข้าบริษัทแค่วันเดียวคือวันที่จะต้องเซนเงินเดือนเท่านั้น
(“พี่กูร เข้าออฟฟิตไหมคะวันนี้”)
“ไม่รู้เลย คุณกรีนมีถ่ายแบบช่วงเช้าอ่ะ มิ้นมีอะไรหรือเปล่า”
(“มีคนมาขอพบพี่กูรคะ”)
“ใครหรอ เขามีธุระสำคัญไหม ถ้าไม่สำคัญให้เขารอก่อนหรือนัดอีกวันได้ไหม พอดีคุณกรีนยังถ่ายแบบไม่เสร็จเลย”
(“แหมมมม พี่กูร งั้นมิ้นนัดเขาเป็นพรุ่งนี้ตอนสิบโมงนะคะ”)
“อื้ม ตามนั้นนะ พี่ฝากด้วย แค่นี้นะ”ผมเอ่ยเสร็จจากน้องที่ทำงานก็จับมือถือยัดใส่กระเป๋า พร้อมหันไปยิ้มให้กับนายแบบที่กำลังโพสต์ท่าอยู่ตอนนี้ เขาดูดีมาก รอยยิ้มของเขา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาผมบอกได้เต็มปากเลยตอนนี้คือผมรักเขา รักมากเสียด้วย
“ดื่มน้ำหน่อยนะครับ”ผมเอ่ยพร้อมยื่นน้ำให้เขาเมื่อเขาต้องมาเปลี่ยนชุดเพื่อถ่ายต่อไป
“ใครโทรมาครับ”เขารับน้ำและเอ่ยถามผม อยากแกล้งเมียจัง เวลาเขางอนเขาจะน่ารักมากเพราะผมต้องง้อเขาได้หนักหน่วงและเขาก็จะเป็นใจกับผมให้ง้อ
“น้องที่ทำงานอ่ะ เดี๋ยวต้องไปถ่ายอีกมุมป่ะ”ผมเอ่ยถามเขาที่ทำหน้างอนๆอยู่ที่ผมไม่ยอมบอกว่าน้องที่ทำงานคือใคร
“น้องที่ทำงานหรอครับ ใครหรอคุณก้อง คุณมิ้นหรือคุณดรัม”ผมยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
“หื๋ม ถามแบบนี้เหมือนกำลังจับผิดผัวอยู่เลยอ่ะ ชอบจัง”ผมเอ่ยแซวเล่นก่อนจะยกยิ้มกว้างออกมาเมื่อเขาเองก็รู้ว่าผมแกล้งเขา
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย...เจ็บนะครับ มาตีผมทำไมเนี้ย”ผมเอ่ยขึ้นใช้มือลูบที่แขนเบาๆก่อนจะโอบที่ไหล่เขาไว้
หมับ
“อ๊ะ....อย่าครับ เดี๋ยวมีคนมาเห็น”เขาเอ่ยบอก ปากบอกอย่าแต่กลับเบียดกายเข้าหาอกผม
“ในห้องแต่งตัวไม่มีใครเข้ามาหรอก ถ้าเราไม่เรียก”ผมเอ่ยก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาเขาหวังจะกดจูบที่แก้มสักหน่อย ก็เขาน่ารักเกินไปแล้ว
“อย่าครับ...”เขาเอ่ยพร้อมดันผมไว้ก่อนจะเอ่ยถามผม
“สรุปว่าใครโทรมาครับ”เขายังย้ำคำถามเดิมอีก โอ๊ยสมกับเป็นคุณกรีนของผมจริงๆเลย
“มิ้นอ่ะ โทรมาบอกว่ามีคนมาหา...”ผมเอ่ยยังไม่ทันจบ เสียงเขาก็โวยขึ้น โอ๊ยน่ารักจริงๆ เวลาเขาดุผมช่างน่ารักจริงๆ
“อ้าว มีงานแล้วทำไมไม่รีบไปหล่ะครับ”
“รีบไปทำไม ตอนนี้ผมก็ทำงานอยู่นี่ไง อย่าลืมนะว่าผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวคุณนะ”ผมเอ่ยขึ้น เขารีบหันมาพร้อมทำหน้าไม่พอใจ
“ก็เข้าใจว่าเป็นผู้จัดการผม แต่ว่าอาทิตย์นี้คุณยังไม่ได้เข้าออฟฟิตเลยนะครับ และนี่มีงานด้วย สำคัญหรือเปล่าครับ ไปก่อนก็ได้นะแล้วค่อยมารับผม หรือเดี๋ยวผมให้เจ้าบลูมารับก็ได้”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงผม ใบหน้าดูจริงจังมาก ผมยกมือกุมใบหน้าขาวของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณหรอกนะครับ เรื่องของคุณ งานของคุณ สำคัญที่สุดสำหรับผม และไม่ต้องห่วงนะ ผมบอกมิ้นให้เลื่อนนัดเขาเป็นพรุ่งนี้แล้วหล่ะ”ผมเอ่ยขึ้น เขาเองก็ยกยิ้มหวานออกมา ใบหน้าดูมีความสุขนักเหมือนผมตอนนี้
“คุณกูร...”เขาเอ่ยเรียกผมเบาๆ โอ๊ยน่ารักจนอยากจะพากลับบ้านแล้วเนี้ย
จุ๊บ
“ถ่ายเสร็จเรากลับบ้านกันเลยเนอะ ไม่ต้องไปกินแล้วพิชซ่าอ่ะ”ผมเอ่ยบอกเขา ก็ตอนแรกผมบอกเขาว่าจะพาเขาไปกินพิซซ่าแถวทองหล่อ ร้านต้นตำหรับ เขาเองบ่นอยากกิน แต่ตอนนี้ผมอยากกินเขามากกว่า
“อ้าว ทำไมหล่ะ คุณไม่อยากกินพิซซ่ากับผมหรอครับ”โอ๊ย น่ารักเวลาอ้อนน่ารักจริงๆ ทำน้ำเสียงเหมือนโดนขัดใจ
“เปล่าครับ ผมอยากกินคุณมากกว่าพิซซ่าอ่ะ”เอาสิ ผมแม่งเล่นมุขเสี่ยวๆแบบนี้ ถามว่าผมเคยมีโมเมนต์แบบนี้ไหม แม้แต่กับแคทผมว่าก็ไม่น่าสนใจเท่าเขา
“บ้า...ผมไปทำงานก่อนนะ”น่ารักจริงๆ หูที่แดงเห็นได้ชัด ผมรีบรั้งมือเขาไว้ก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวเองและกดจูบที่ริมฝีปากของเขา ไม่ได้รุกล้ำอะไรและมันก็แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
จุ๊บ
“ตั้งใจทำงานนะครับที่รัก เดี๋ยวเราจะได้รีบไปกินกัน”ผมเอ่ยด้วยประโยคสองแง่สองง่ามออกมา เขารีบผลักผมออกและเดินออกจากห้องแต่งตัวไป
ผมนั่งรอเขาทำงานเกือบถึงบ่าย ผมเก็บของขึ้นรถเรียบร้อยหลังจากคุยเรื่องเช็คกับเจ้าของงาน ผมนั่งรอคนของผมที่กำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวาน
“รอนานไหมครับ”โอ๊ย เสียงจะหวานไปไหนเนี้ย ผมหันไปยกมือกุมที่ใบหน้าของเขาพร้อมลูบไปมา
“ไม่นานเลย แล้วนี่เหนื่อยไหม”ผมเอ่ยถามเขา ปลายนิ้มโป้งของผมลูบไล้ไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเขาเบาๆ
“ไม่เหนื่อยเลยครับ”เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหวาน
“งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปที่ที่หนึ่งนะครับ”ผมเอ่ยขึ้น
“แต่ขอไปกินก่อนได้ไหมอ่า คือตอนนี้ผมหิวมากเลยอ่ะ”เขาเอ่ยพร้อมลูบท้องไปมา ผมจึงยกมือลูบไปที่ท้องของเขาเบาๆ แต่ผมกลับลูบลงที่หน้าท้องน้อยนั้นและมันก็ค่อยๆต่ำลงเรื่อยๆ
หมับ!
“อย่าครับ คนเยอะแยะ”เขาหันมาดุผม น่ารักชะมัด ถ้าคนไม่เยอะก็แสดงว่าผมล้วงได้มากกว่านี้นะสิ ผมจึงยกยิ้มขึ้นและเอ่ยออกมา
“งั้น ไปที่คนไม่เยอะกันเถอะครับ”ผมเอ่ยออกมา นี่ผมกลายเป็นคนหื่นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
“นี่คุณกลายเป็นคนหื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี้ย”เขาเอ่ยขึ้น ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะขึ้นรถออกไป
ผมพาเขามาทานอาหาร พิซซ่าที่เขาอยากกิน ไอศกรีมรสชาเขียวที่เขาชอบ ผมพาเขาไปกินหมดไม่ว่าจะอยากกินอะไรผมก็พาเขาไปหมด ผมกลายเป็นคนตามใจแฟนตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมไม่ชอบที่เขาเป็นคนเอาแต่ใจ พูดจาก็ไม่เพราะ เอาใจใครก็ไม่เป็นจนผมเองก็เคยนึกสงสารไอ้ผู้จัดการจอมชั่วคนนั้นนะที่ต้องมาเอาใจเขา
“กินเลอะไปหมดแล้วเนี้ย กินเป็นเด็กๆไปได้นะครับ”ผมเอ่ยพร้อมยกนิ้วปาดที่ริมฝีปากเล็กของเขา ก่อนจะมากดที่ริมฝีปากตัวเอง จนเขาเองใบหน้าแดงเห่อออกมา
จุ๊บ
“อะไรของคุณเนี้ย”เขาเอ่ยทั้งๆที่หน้าแดง ผมว่าที่ไอ้ผู้จัดการนั้นหวงเขา อยากครอบครองเขาก็เพราะเขาเป็นคนแบบนี้หล่ะมั้ง ทั้งน่ารัก ทั้งขี้อ้อนและขี้ยั่วด้วย ผมคิดแบบนั้น
“อย่าทำเสียงแบบนั้นสิ รู้ไหมว่ามันทำให้ผมอยากกลับบ้านจะแย่แล้ว”ผมกระซิบบอกเขา ใบหน้าที่แดงเป็นทุน ยิ่งแดงเห่อเข้าไปกันใหญ่
“บ้าสิ ไหนบอกจะพาผมไปที่ไหนหรอครับ”เขาเอ่ยขึ้น จริงสิผมว่าจะพาเขาไปที่บ้านของผม ตอนนี้ไอ้เก้ามันคงจะแต่งบ้านผมเกือบเสร็จแล้วล่ะ ที่จริงน่าจะเรียกว่าเสร็จแล้วเพราะไอ้เก้าเพื่อนของผมมันโทรมาบอกตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว
“ทานให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ผมเอ่ยบอกเขา ใบหน้าน่ารักของเขาพยักหน้าทั้งๆที่ยังเคี้ยวอาหารเต็มปาก
ผมเดินออกมาเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันที่จะทำธุระเสร็จเสียงมือถือของผมก็สั่นขึ้น ผมยกมือถือขึ้นมาดูหน้าจอตอนแรกก็รู้สึกรำคาญนัก มือถือผมมันสั่นอยู่ตลอดเวลาและไหนจะข้อความอีกมากมายที่ถูกส่งเข้ามา
“ไอ้เก้า โทรมาทำไมว่ะ”ผมสบถกับตัวเองเมื่อปลายสายคือเพื่อนรักของผมเอง ผมกดรับสายทันทีเมื่อรู้ว่าคือไอ้เก้า
“ว่าไงมึง มีอะไรว่ะ”
(“ไอ้กูร มึงจะมาดูบ้านได้ยังว่ะ กูตกแต่งเสร็จตั้งแต่สามวันก่อนแล้วนะ และก็ได้เช็คแล้ว แต่แม่งมึงก็ไม่ยอมมาดูสักทีว่ะ ทีเมื่อก่อนเร่งกูจัง อยากให้เสร็จไวๆ แต่เสร็จแล้วมึงเสือกไม่มาดูนะ กูงานเยอะนะมึง ไหนจะต้องไปเป็นอาจารย์พิเศษอีก”)
“เออๆ วันนี้กูกำลังจะเข้าไป มึงเองก็รอกูอย่างที่บ้านนั่นหล่ะ เดี๋ยวตามไป”
(“มึงจะพาแฟนมาให้กูรู้จักใช่ม่ะ”)
“เออ แล้วนี่มึงถึงบ้านกูยัง”
(“กำลังจะถึง”)
“กำลังจะถึง หรือกำลังจะออกจากบ้าน”
(“มึงนี่สมกับเป็นเพื่อนกูชะมัด เออๆกูกำลังจะออกจากบ้าน”)
“มึงรอกูแปบแล้วกัน เดี๋ยวเจอกัน”
ผมวางสายจากไอ้เก้า ซึ่งไอ้เก้ากับผมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยม พอเรียนมหาวิทยาลัยเราสองคนก็ยังคงเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันแต่คนละสาขาแค่นั้นเอง ผมขับรถพาคุณกรีนมาที่บ้านของผม ที่เคยบอกว่ากำลังซ่อมแซมและตกแต่ง มันเป็นแค่บ้านไม้หลังไม่ใหญ่นัก บ้านไม้สีเขียวอ่อน ด้านหน้าเป็นคลองมีศาลาริมคลอง ร่มรื่น เย็นสบายไปด้วยต้นไม้ที่ผมชอบปลูก
“นี่บ้านใครครับ”เขาเอ่ยถามเมื่อผมจออดรถและพาเขาเข้ามา เขาดูชอบมันมาก อาจเพราะความเงียบสงบด้วยหล่ะมั้ง
“เรือนหอของเราไง”ผมเอ่ยขึ้น เขาหันมามองผมอย่างไม่เชื่อ ที่จริงมันก็ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด บ้านหลังนี้เป็นของแม่ผมและแม่ผมก็อยากให้ผมใช้เป็นเรือนหอตอนรับสะใภ้ของท่าน ซึ่งเมื่อก่อนผมเองเคยคิดให้มันเป็นสีอื่นไม่ใช่สีเขียวเหมือนตอนนี้
“ยังจะล้อเล่นอีกนะครับ”เขาเอ่ย
“เข้าไปข้างในกันครับ”ผมเอ่ยพร้อมโอบไหล่ของเขาเข้าบ้านไป ทันทีที่เขาเห็นข้างในยิ่งยิ้มออกมากว้างก่อนที่ไอ้เก้าจะเดินเข้ามา หลังจากที่ผมได้ยินเสียงรถของมัน
“ไอ้กูร...”
“ไอ้เก้า มาช้านักนะมึง เดี๋ยวก็หักเงินเลย”ผมเอ่ยแซวเพื่อที่เดินเข้ามาก่อนที่จะพาคุณกรีนมาแนะนำกับเพื่อนรักของผม
“หักอะไร แค่มึงเปลี่ยนใจกะทันหันกับสีบ้านนี่กูไม่คิดเงินเพิ่มก็บุญเท่าไหร่แล้ว ไอ้ห่านี่”ดูปากมันสิ แถมยังจะมองเมียผมตาหวานเชียว
“นี่ๆๆ มองอะไรเบอร์นั้น มองแทบจะแดกเมียกู”ผมเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว
กึก!
อึก!
“ไอ้ห่า มึงพูดอะไรให้เกียรติคุณกรีนด้วยดิ”ดูมันพูดดิ ด่าผมเฉยเลยและที่สำคัญท่าทางมันจะเอาใจเมียผมเหลือเกินและเมียผมก็ท่าทางจะชอบมันด้วยสิ
“เดี๋ยวๆ มึงมาด่ากูเพื่อ...”ผมหันไปด่ามัน
“เพื่อคุณกรีนง่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณกรีน เห็นแต่ในทีวีว่าหล่อแล้วนะครับ แต่เห็นตัวจริงแล้วผมว่าไม่หล่อเลย”ไอ้นี่ มันกวนตีนผมมากไปแล้ว ผมรีบโอบไหล่เขาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไอ้หล่อก็ช่างแต่ผมว่าคุณ....”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยอะไรเสียงไอ้เพื่อนรักของผมก็เอ่ยขึ้นตัดบท
“แต่คุณกรีนอ่ะ น่ารักมากกว่าหล่อเสียอีก เสียดายนะครับที่มาหลงไอ้เฒ่าแถวนี้”
“ไอ้ห่าปากดีนะมึง แล้วนี้กูจะเข้ามาอยู่ได้เลยใช่ม่ะ”ผมเอ่ยถามมัน
“อื้ม ได้เลย ว่าแต่มึงจะพาคุณกรีนมาอยู่อย่างลำบากกับบ้านไม้เก่าๆนี้หรอว่ะ”ปากหรอนั้น แต่ก็จริงนะบ้านของเขาใหญ่ยังกับวัง แล้วดูบ้านผมสิ
“ผมชอบนะ ผมว่ามันเล็กๆน่าอยู่ดี ร่มรื่นมากด้วย ว่าแต่ทำไมตกแต่งเป็นสีนี้หมดหล่ะครับ มันดูกลืนไปกับต้นไม้ข้างนอกมากเลย
“ก็ผมชอบสีเขียวนี่ครับ”ผมเอ่ยขึ้น แต่ก็ต้องหันไปมองไอ้เพื่อนรัก ตอนนี้ผมว่าจะเริ่มไม่รักมันแล้วหล่ะ
“ไอ้ตอแหล มึงชอบสีม่วงกูรู้ แล้วมึงชอบสีเขียวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”
“ตั้งแต่ตอนที่เจอคุณกรีนนี่หล่ะ ทำไมหรอมึงจะทำไม”ผมเอ่ยว่ามันก่อนจะวิ่งไล่เตะเพื่อนรักของผมออกไป รอยยิ้มที่แปะอยู่บนใบหน้าของเขาและของผม
“คุณจะอยู่ดื่มกับคุณเก้าก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมให้เจ้าบลูมารับ”
“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวผมไปส่งคุณก่อนค่อยกลับมาก็ได้”
“โธ่ จะขับไปขับกลับทำไมกันครับ ผมเป็นห่วงนะ พอดีเจ้าบลูก็อยู่แถวนี้ด้วยผมเห็นพิกัด เดี๋ยวให้เจ้าบลูมารับก็ได้ครับ”
“เอางั้นหรอ”
“อื้ม แต่ว่าอย่าดื่มมากนะครับ พรุ่งนี้นัดลูกค้าไว้”
“ครับผม พรุ่งนี้ผมไปรับนะ ไปออฟฟิตกัน”
“ผมขับรถไปก็ได้ครับ”
“ผมรักคุณครับ คุณกรีน”ผมเอ่ยออกมา ทำเอาเขาเขินไปเลยก่อนจะรีบยกจานกับแกล้มไปที่โต๊ะ คืนนี้ผมชวนเขานอนที่บ้านเขาเองก็ไม่ยอมนอน บอกว่าอยากให้ผมอยู่กับเพื่อนบ้าง ผมรักเขาจัง ผมว่าที่จริงเขามีอะไรที่น่ารักเสมอ
“คุณเก้ายังไม่มีแฟนหรอครับ”เมียผมถามผู้ชายแบบนี้ได้ไงกัน ผมรีบกระแอมออกมา
“แฮ่มมม ทำไมหรอ จะหาให้มันหรอไง บอกไว้ก่อนนะไอ้เก้าอ่ะมันเสือผู้หญิง”
“แล้วไงว่ะ มึงยังไม่รู้จักชีวิตที่มีรสชาติเว้ย กูอ่ะเป็นพวกหาประสบการณ์ไม่เหมือนมึงหรอกทั้งชีวิตก็คงมีคุณกรีนหล่ะมั้งเป็นคนที่สองที่มึงหยุด”ผมรีบหันไปทางคนข้างๆทันที เขาเองก็หันมาทางผม สายตาที่มองทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดทันที
อึก...
“คนที่สองหรอครับ แสดงว่ามีคนแรกใช่ไหมครับ”โอ๊ยนี่หล่ะเขาเรียกว่าเซ้นต์เมียแรง แต่ไอ้เพื่อนเวรมันจุดไฟมันก็ต้องดับไฟได้สิ ผมเตะไปที่ขามันแรงๆเพื่อเรียกสติ
ปึก!
“อ่อ นานแล้วครับ น่าจะห้าหกปีแล้วหล่ะ ตอนนี้มันก็มีแต่คุณนี่หล่ะ”ค่อยยังชั่ว อย่างน้อยมึงก็เพื่อนกู ซึ่งรอยยิ้มที่ถูกส่งมาก็ทำให้ผมรู้ว่าเขาเองก็มีเหตุผลพอ ก่อนที่เสียงรถของน้องชายของเขาก็แล่นมาจอดหน้าบ้าน
“รถคุณบลูหรือเปล่าครับ”ผมเอ่ยถาม
“อ่อ ใช่ครับ”เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมองน้องชายของเขาที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะยกมือไหว้ผม
“สวัสดีครับพี่กูร เฮีย แล้ววววว”
“อ๋อ นี่เพื่อสนิทพี่เองชื่อพี่เก้า คุณบลูน่าจะต้องเรียกพี่เก้าอ่ะ ถูกแล้ว”ผมเอ่ยแนะนำ
“สวัสดีครับพี่เก้า...”ไอ้เก้าเองกลับนิ่งไป อ้าปากจนเมลงวันจะบินเข้าปากแล้ว
“ไอ้เชี่ยเก้า น้องเขาสวัสดีมึงอ่ะ”ผมเอ่ยด่ามันเบาๆ
“อ่อ สวัสดีครับ”
“เฮียกลับกันเลยไหม”
“อื้ม งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณเก้า และคุณก็อย่าดื่มมากนะครับ พรุ่งนี้มีนัดลูกค้า”ดูเมียผมสั่งสิ โอ๊ยไม่อยากให้กลับเลยอ่ะ อยากให้นอนที่นี่จริงๆ
“ครับผม เดี๋ยวผมไปส่งหน้าบ้าน”ผมเอ่ยก่อนจะเดินออกไปส่งเขา ก่อนจะกลับมานั่งดื่มกับเพื่อนรักของผมต่อ สรุปคือคืนนี้ผมต้องมีไอ้เก้านอนเป็นเพื่อนแทน ไม่ต้องการเลยจริงๆ
เช้าวันรุ่งนี้ ไม่เช้าหรอกผมคิดน่าจะสายมากกว่า เกือบแปดโมงที่เสียงมือถือผมดังขึ้นตื่น ข้อความจากคุณกรีนที่ส่งมาบอกให้ผมรีบตื่นและรีบไปทำงานได้แล้ว
“อื้อออออ ไอ้เก้าตื่นได้แล้ว ไปทำงานได้แล้วมึง”ผมเตะเพื่อนรักที่นอนอยู่ที่พื้นห้องอีกฟาก
“งื้ออออ มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูล๊อคบ้านให้เอง”เอากับมันสิ นี่หล่ะผมว่ามันควรจะใช่ชีวิตเสเพลคนเดียวแบบนี้เหมาะที่สุด
ผมออกจากบ้านเก้าโมง และกว่าจะถึงออฟฟิตก็เกือบสิบโมงตามเวลานัด แต่คนที่มารอผมก่อนหน้าที่คือลมหายใจของผม เสียงออฟฟิตผมคึกคักเป็นพิเศษที่ตอนนี้มีดาราดังมานั่งอยู่ให้สาวๆแทะโมมอย่างสนุก
“คุณกรีนคะ รับกาแฟไหมคะ”
“คุณกรีน มีขนมด้วยนะคะ”
“คุณกรีน กลางวันนี้ไปทานข้าวกับพวกเราไหมคะ”
“คุณกรีนขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ จะเอาอวดเพื่อน”
เสียงจอแจของสาวๆออฟฟิตผมทำเอาผมอยากจะโยนมือถือลงตรงกลางวงจัง งานการไม่ต้องทำกันแระ แล้วนี่ผมจะต้องให้คนอื่นแทะโมเมียตัวเองอีกนานไหมเนี้ย
ปึง ปึง ปึง
“นี่ๆ งานการไม่ต้องทำกันแล้วใช่ปะ เจริญหล่ะออฟฟิตฉัน”ผมเอ่ยอย่างหงุดหงิด
“โธ่ พี่กูรอ่ะ แค่น้ำจิ้มหน่า พอหอมปากหอมคอ นานๆทีจะมีคนหล่อมาออฟฟิต วันๆเห็นแต่ไอ้หน้าโหดอย่างไอ้ก้องและไอ้หน้าจืดอย่างไอ้ดรัม มันน่าเบื่ออ่ะ”
“อะไร อะไรเจ๊...”
“ไม่ต้องพูดมากเลย แกอ่ะตัวดีเจ้ามิ้น แล้วนี่ลูกค้าที่นัดมาหรือยัง”ผมเอ่ยขึ้นถามก่อนจะหันไปบอกคนข้างๆให้เข้าไปในห้อง
“เมื่อสักครู่โทรมาบอกว่าถึงแล้วคะ”
“อ่อ งั้นคุณกรีนมาถึงนานยังครับ แล้วทานอะไรมาหรือยัง”เสียงและใบหน้าผมเปลี่ยนไปจากที่ดุมาเป็นเสียงหวานอ่อนโยน
“พี่กูรนี่สองมาตรฐานสุดๆเลยอ่ะ ทีกับลูกน้องนี่ดุชะมัดแต่ทีกับแฟนนี่เสียงหวานเชียว”
“แล้วไงอ่า อยากให้เสียงอ่อนเสียงหวานด้วย ก็เกิดเป็นคุณกรีนสิ ฮ่าๆๆ”ผมหัวเราะออกมาเสียงดังจนคนข้างๆฟาดมือมาที่แขนผมเบาๆ
“โอ๊ย เจ็บนะครับ ตีผมทำไมเนี้ย”
“คุณอ่ะ ชอบแกล้งน้องๆนะครับ ว่าแต่ทานอะไรหรือยังผมเอาอาหารเช้าจากที่บ้านมาให้ด้วยอยู่ในห้องทำงาน”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้าห้องทำงานผมไป
“ผมรักคุณจังเลยอ่ะ รักที่สุด”ผมเอ่ยคำหวานออกมาก่อนที่จะหันไปชี้หน้าลูกน้องในออฟฟิตที่ตอนนี้ทำหน้าตาทะเล้นกับผม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเดินเข้าห้องทำงานเสียงของเจ้ามิ้นก็ดังขึ้น
“พี่กูร ลูกค้ามาแล้วคะ จะให้มิ้นพาไปห้องทำงานหรือห้องประชุมคะ”ผมหันไปทางเจ้ามิ้นกะจะบอกให้พาไปห้องประชุมแต่แขกที่มาหาผมกลับทำให้ผมนิ่งไปทันที
“สวัสดีคะกูร สบายดีนะคะ”เสียงหวานหู ดวงตาที่สวยงาม ใบหน้าขาวสวยดูสง่า ริมฝีปากแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ผมไม่เคยลืม
“แคท...”ผมเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะหันไปทางห้องทำงาน เพราะตอนนี้ร่างสูงโปร่งตัวขาวที่จัดอาหารให้ผมอยู่ในห้อง กำลังเปิดประตูออกมา
“คุณกูร จะทานข้าวเลยไหมครับ”เสียงเอ่ยบอกผมเงียบลง แต่ผมไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะหันไปบอกมิ้น
“มิ้นพาคุณแคทไปที่ห้องประชุมก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”ผมเอ่ยขึ้นสายตาไม่สบตาแคทเลย เพราะผมกลัวว่าคนที่เดินมาข้างๆผมจะรุ้ว่าเธอเป็นใคร แต่ผมอยากรู้ว่าเธอมาทำไมที่นี่
“กูรคะ ถ้าไม่สะดวกแคทไปก่อนก็ได้คะ แค่ผ่านมาแถวนี้เลยอยากมาทักทายคนคุ้นเคยก็แค่นั้นเอง ไปก่อนนะคะแล้วแคทจะโทรหา”เธอเอ่ยเสร็จก็เดินออกไปทันที ผมไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร และรู้อะไรมาแต่ที่แน่ๆตอนนี้ผมเห็นคนข้างๆของผมนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“จะทานข้างไหมครับ หรือว่าไม่หิวแล้ว”เขาเอ่ยถามผม
“เข้าไปข้างในนะครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะพาเขาเข้ามาในห้องทำงาน ใบหน้าที่ดูฝืนยิ้มของเขามันเป็นคำถามที่อยากถามผมมาก และผมเองก็ไม่ปิดบังอะไรเขา ผมเล่าเรื่องราวให้เขาฟังทั้งหมด ไม่มีน้ำตาเลยสักนิด และผมเองก็ไม่ได้อยากให้เขามีน้ำตา
“เชื่อใจผมนะครับ ผมรักคุณ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากและหน้าผากของเขาเพื่อบอกความในใจของผม
“ครับ ผมเชื่อใจคุณ ผมรักคุณครับ”ผมยกยิ้มออกมา แม้จะดูคลุมเครือแต่ผมก็จะทำให้เขาเห็นว่าผมรักเขาจริงๆ และมีเขาเพียงคนเดียว
............................
"ของเก่าไม่รับรีเทิร์น"
[/size]