The Color of Love : ​Pink Loved ความรักสีชมพู (The End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Color of Love : ​Pink Loved ความรักสีชมพู (The End)  (อ่าน 27462 ครั้ง)

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #150 เมื่อ10-02-2018 19:44:02 »

Green Light 7 : ขอดูแล  (ชยางกูรxอนาคิม)
[/b][/size]

ชยางกูร พาร์ท
หลังจากที่ผมไปส่งเขาที่บ้านเสร็จ แม้ว่าผมจะอยากอยู่กับเขาและอยากดูแลเขามากก็ตามแต่ผมก็ต้องขอตัวมาทำธุระต่อ ผมมาที่ออฟฟิตทันทีเมื่อส่งเขาเสร็จ เพราะอยากจะมาสะสางงานและแก้งานของคุณอนาคินใหม่ ผมอยากให้งานของครอบครัวนี้เสร็จสมบูรณ์และดูดีมากกว่าที่ผมเคยเสนอไป
“สวัสดีทุกคน”ผมเอ่ยขึ้นเมื่อถึงออฟฟิต ทันทีที่ลูกน้องของผมทั้งสี่คนหันมามองผม รอยยิ้มที่แสนจะดีใจ และคำถามมากมายที่ต่างจอแจไม่มีที่ว่างจะให้ผมตอบนั้นมันมีแต่คำถามของคลิปนั้น
“พี่กูร มาไวจัง งานเสร็จเร็วหรอคะ”
“แหม ทำงานกับคนรู้ใจก็แบบนี้หล่ะนะ”
“โอ๊ย ไม่น่าเชื่อพี่กูรของหนูจะเป็นของคนอื่น”
“พี่กูร ขอลายเซ็นพี่กรีนให้หน่อยสิคะ”
“พี่กูร ใช่จริงๆหรอครับเนี้ย”
“พี่กูรโคตรเซอร์ไพรส์เลยอ่ะ”เสียงจอแจจนผมปวดหัวแล้วเนี้ย อะไรกันนักกันหนา ผมจึงโวยขึ้นกลางวงสนทนาทันที
“โอ๊ยยยยยย คิดว่าตลาดสดนะเนี้ย แล้วแทนที่จะถามพี่ว่างานโอเค ไหม แล้วนี่อะไรถามอะไรกันเนี้ย”ผมเอ่ยออกมาเสียงดังแต่ไม่ใช่น้ำเสียงดุเลย เพราะผมเองกลับชอบที่จะให้ลุกน้องผมถามถึงเรื่องนี้
“เรื่องงานอ่ะ พวกเรารู้คะ ว่าพี่กูรทำเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่เรื่องของพี่กับคุณกรีนนี่สิ มันยังไงกันแน่คะ”
“หยุดเลยนะมิว เราอ่ะตัวดีทำงานกับพี่ตั้งนานแล้วยังจะแซวพี่อีก เอาขนมไปกินและอีกสิบนาทีไปไประชุมกัน”ผมเอ่ยพร้อมยกยิ้มออกมา เดินเข้าห้องทำงานไปก่อนจะนั่งมองไปยังนอกหน้าต่าง และยกมือถือขึ้นมาดู
“เวลาคุณยิ้ม คุณน่ารักมากรู้ไหม ผมไม่อยากให้คุณเศร้าเลย”ผมเอ่ยกับคนในหน้าจอมือถือ เมื่อก่อนหน้าจอของผมจะมีรูปถ่ายของผู้หญิงคนนั้น เพื่อที่จะเตือนผมว่าผมต้องทำให้เขารู้ว่าผมต้องทำความสำเร็จด้วยมือของผม แต่ตอนนี้รู้ถ่ายของเขา เตือนให้ผมรู้ว่าผมต้องปกป้องเขาและทำให้เขายิ้มได้
เวลาไม่นานที่ผมกับลูกน้องประชุมกัน ก็เกือบจะห้าโมงเย็น ทันทีที่เลิกผมก็รีบขับรถมาที่บ้านหลังใหญ่นั้นทันที
(“คุณกูรอย่าลืมมาให้ได้นะครับ ผมอยากเลี้ยงขอบคุณคุณ”)
“ไม่ลืมหรอกครับ ผมเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณอนาคินเช่นกัน”
ผมอยากจะบอกคุณอนาคินเรื่องของผมกับเขา อยากจะทำให้มันถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นปมอยู่แบบนี้ แม้ว่ามันจะรวดเร็วเกินไป แต่ผมเองก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่มันเกิดมาแล้ว
“ผมว่า มันไม่ใช่เรื่องที่จะบังเอิญเลยสักนิดที่ทำให้เราได้รู้จักกัน”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะขับรถตรงไปบ้านหลังใหญ่
เวลาไม่นานผมก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ ตอนนี้รถมากมายจอดอยู่ ผมเองก็รู้สึกได้ว่าครอบครัวนี้ทำไมช่างดูอบอุ่นนัก ผมเดินมาหยุดที่ห้องโถงใหญ่ได้ยินเสียงสนทนาของพี่น้องทั้งหมด ก็ยกยิ้มขึ้น ผมว่าที่จริงเขาเองมีพื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่นมาก
“ขอโทษนะครับ ผมมารบกวนหรือเปล่า”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมเดินเข้าไป สิ่งแรกที่ผมมองคือร่างขาวสูงโปร่งของเขาที่นั่งอยู่ข้างคุณอนาคิน เมื่อเขาเห็นผมเขาถึงกับหน้าเหวอออกมา ผมแอบพอใจเพราะเขาน่ารักมาก
คุณอนาคินพาพวกเรามาที่โต๊ะอาหาร เหมือนทุกคนจะรู้ว่าวันนี้ผมจะมาทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่นี้ และเหมือนจะมีการเปิดตัวแฟนของพี่น้องคนที่สามอย่างคุณหมอไวท์อีกด้วย แต่ทันทีที่ผมเข้าไปที่ห้องอาหาร ผมกลับตกใจมากที่ผมเจอน้องซีก่อนที่คุณหมอไวท์จะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของอย่างเห็นได้ชัดเจน
“คุณกูรครับ นี่ซีแฟนผมเอง ซีนี่คุณกูรโปรดิวเซอร์โปรเจคของบริษัทและอนาคตก็จะมาเป็นผู้จัดการของเจ้ากรีน”ผมยกยิ้มให้น้องซีเมื่อเขาเอ่ยสวัสดีผม ที่จริงผมเองก็รู้ว่าน้องซีกลัวว่าคุณหมอจะรู้ว่าเรารู้จักกัน แม้ผมเองจะรู้สึกหน่วงไปบ้างที่รู้ว่าน้องซีมีแฟนอยู่แล้ว แต่ผมกลับไม่มากเท่าที่ผมเห็นใบหน้าของเขากำลังเศร้าอยู่ตอนนี้
“สวัสดีครับ”น้องซีเอ่ยพร้อมยกมือสวัสดี ผมยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น
“สวัสดีครับ น้องซี”ผมเอ่ยขึ้น ทำเอาน้องซีหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเรารู้จักกัน และอยู่คอนโดเดียวกัน คนอื่นๆก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่อ แต่สายตาของเขาคนนั้นกลับมีแววตาที่ไม่อยากจะได้คำตอบจากผม แม้ผมอยากจะให้เขาถามมากเพียงใด
หลังจากทานอาหารค่ำเรียบร้อย ผมจึงขอคุณธุระกับคุณอนาคินและคุณเกรย์เรื่องของผมกับเขา ผมเองก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะพูดตามตรง
“ผมไม่ได้จะมาพูดให้คุณกรีนเสียหายอะไรหรอกนะครับ ที่ผมมาพูดกับคุณทั้งสองก็เพราะผมต้องการรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นครับ”ผมเอ่ยตรงๆไปเมื่อเล่าเรื่องราวให้ทั้งสองฟัง
“ฟังจากเรื่องที่เกิด ผมคิดว่าคุณกูรไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรอกครับ เพราะสิ่งที่เกิดคือเจ้ากรีนบอกให้คุณทำ ซึ่งคุณเองก็ไม่ได้ขืนใจเจ้ากรีน”คุณเกรย์เอ่ยขึ้น
“ผมเห็นด้วยกับคุณเกรย์ ผมไม่โกรธและไม่โทษอะไรคุณหรอก เพราะถ้าไม่ได้คุณวันนั้นเจ้ากรีนก็ไม่รู้จะเป็นยังไง”คุณอนาคินเอ่ยขึ้น แทนที่ผมจะดีใจที่ครอบครัวนี้ไม่โกรธ ไม่ว่าอะไรผมที่ผมทำให้น้องของเขากลายเป็นผู้ชายที่มีอะไรกับผู้ชายด้วยกันแบบนี้ แต่ผมกลับหน่วงเฉยเลยถ้าแบบนี้เขาจะเป็นยังไงต่อ ถ้าพี่ชายทั้งสองของเขาไม่ได้ต้องการให้ผมดูแลน้องเขา
“ไม่ได้หรอกครับ แม้คุณกรีนจะยอม แต่ถ้าวันนั้นผมไม่ทำแบบนั้นคุณกรีนก็ไม่มีมลทินผิดธรรมชาติแบบนี้”ผมเอ่ยออกมา
“แล้วคุณกูรชอบผู้ชายแบบเจ้ากรีนจริงๆหรอครับ”คุณเกรย์เอ่ยถามผมตรงๆ ถามว่าผมชอบแบบเขาไหมบอกเลยว่าผมไม่ได้ชอบแบบเขาเลย ผมชอบคนอ่อนหวาน คนยิ้มสวยและคนที่พูดเพราะแต่ถ้าเป็นเขาที่ตรงกันข้าม ผมว่าผมยอมฟังเสียงคนที่พูดจาเอาแต่ใจ ไม่มีความอ่อนหวานอย่างเขา
“พูดตามตรง คุณกรีนไม่ใช่สเปคผมเลย…”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยต่อ อยู่ๆก็มีเสียงดังจากข้างนอกเหมือนมีอะไรตกแตก
เพล้ง!!
“เสียงอะไรอ่ะ”คุณเกรย์เอ่ยพร้อมลุกเดินออกไปดูที่หน้าห้องทันที ผมกับคุณอนาคินก็เดินตามออกไป ผมเห็นร่างสูงโปร่งของเจ้าของเรื่องกับสาวใช้ยืนนิ่งอยู่ โดยมีเศษแก้วที่ตกลงพื้นกระจายอยู่ข้างๆ
“มีอะไรกันหรอ”เสียงเอ่ยของคุณอนาคินเอ่ยขึ้น สาวใช้ที่ทำหน้าตกใจกลัวมากที่ทำข้าวของแตกเสียหาย
“มะลิขอโทษคะ พอดีมะลิเอาน้ำมาให้คุณๆแต่ไม่ทันเห็นคุณกรีนที่ยืนอยู่ มะลิเลยทำถาดหลุดมือคะ มะลิขอโทษจริงๆคะ”สาวใช้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่น ผมไม่ได้สนใจสาวใช้เลยแต่ผมสนใจคนที่ยืนนิ่งอยู่ตอนนี้มากกว่า น้ำตาที่กำลังจะไหลยิ่งทำผมรู้สึกได้ว่าเขาได้ยินทุกอย่างในห้องนั้น
“เก็บกวาดให้เรียบร้อย และเจ้ากรีนก็ระวังด้วย เดี๋ยวจะโดนแก้วบาดเอา”เสียงคุณอนาคินเอ่ยขึ้น
“แล้วเจ้ากรีนมีอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่พักผ่อน”คุณเกรย์เอ่ยขึ้น เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะหันหลังเดินออกไป ผมเองก็กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดจึงเอ่ยขึ้น
“สิ่งที่คุณได้ยิน ไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังเข้าใจนะครับ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปทางคุณอนาคินและคุณเกรย์
“ผมขอเคลียได้ไหมครับ”ผมเอ่ยถามเป็นเชิงขออนุญาต
“ผมรู้จักน้องชายผมดี ผมคิดว่าคุณกูรกลับก่อนดีกว่านะครับ”คุณเกรย์เอ่ยขึ้น ผมมองหน้าทั้งสองอย่างเข้าใจก่อนจะมองไปยังชั้นบน
“พรุ่งนี้ค่อยมารับเจ้ากรีนไปที่บริษัทก็แล้วกัน เรามีประชุมโปรเจคที่เพิ่งพังไป”คุณอนาคินเอ่ยขึ้น ผมยกยิ้มขึ้นทันที อย่างน้อยผมก็มีคนหนุนผมแล้ว
“ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ”ผมเอ่ยก่อนจะกลับ
ระหว่างทาง ผมคิดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องของเขา ผมส่งข้อความไปหาเขาเพื่ออธิบายว่าสิ่งที่เขากำลังคิดและที่ได้ยินนั้นมันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
ชยางกูร : เมื่อสักครู่คุณได้ยินแล้วใช่ไหม
ชยางกูร : ถ้าได้ยิน สิ่งที่ผมพูดมันคือเรื่องที่ผมต้องการจะบอก
ชยางกูร : จะไม่ถามหน่อยหรอว่าผมต้องการจะบอกอะไร
ไม่มีสถานะกดอ่านข้อความ ไม่มีสัญญาณตอบกลับ ไม่มีแม้แต่อะไรเคลื่อนไหวทั้งสิ้น ผมลองยกมือถือกดโทรออก แต่ปลายสารกลับไม่มีสัญญาณตอบรับ
ผมมาถึงคอนโดเกือบจะเที่ยงคืน สิ่งแรกที่ผมหันไปมองคือห้องตรงข้ามของผม ที่ตอนนี้ปิดไฟสนิท เพราะเจ้าของห้องตอนนี้กำลังนอนกอดอยู่กับคนที่เขารักอยู่ แต่สำหรับผมต้องนอนกอดตัวเองทั้งๆที่ผมอยากนอนกอดคนที่เคยนอนเตียงเดียวกับผมเมื่อเช้าก็ตาม
ฟู่วววววว
“นี่สินะ รักแรกพบที่มันจบทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่ม”ควันสีขาวอมเทาที่พ่นออกมาจากริมฝีปาก พร้อมคำสบถกับตัวเองที่พบกับรักที่เขาเรียกว่าแรกพบ แต่มันเพิ่งจบไปทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มจะรัก
“ตอนนี้คุณรู้สึกแบบผมไหม คิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงคุณไหม”ผมเอ่ยออกมาสายตาก็ยังไม่ละจากหน้าจอมือถือก่อนที่
++++++++++++
เช้าวันนี้ผมขับรถมาที่บ้านหลังใหญ่ คุณอนาคินโทรมาบอกแต่เช้าว่าให้ไปรับเขาที่บ้านด้วย และอยากให้ผมดูแลเขาในฐานะผู้จัดการส่วนตัว ซึ่งข้อนี้ผมเองก็ยอมรับข้อเสนอของคุณอนาคินโดยไม่รีรอหรือไตร่ตรองอะไร
“คุณกรีนยังไม่ลงมาเลย คุณกูรรอแปบนะคะเดี๋ยวป้าไปตามให้”ป้าแม่บ้านเอ่ยบอกผมก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน ผมได้แต่มองตาม เขาจะทำหน้าตายังไงเมื่อได้เห็นผมเช้านี้ ผมนั่งรอสักพักป้าแม่บ้านก็เดินลงมา
“เอ่อ คุณกรีนแกไม่ยอมเปิดห้องคะ”ผมเงยหน้ามองไปชั้นบนเมื่อป้าแม่บ้านเอ่ยบอก ก่อนจะคิดอะไรออกจึงกดมือถือโทรหาใครคนหนึ่ง
(“ครับคุณกูร”)
“ผมมารับคุณกรีนที่บ้านแล้วนะครับ แต่ท่าทางคุณกรีนจะงอแง ไม่ยอมลงมา”
(“หรอครับ ถ้ายังงั้นคุณกูร…”) ผมไม่รอปลายสายบอกอะไร ตอนนี้ผมขอเสนอตัวเพื่อได้ขึ้นไปห้องนั้นก่อน
“ถ้าคุณอนาคินไม่ว่าอะไร ผมขอขึ้นไปตามคุณกรีนที่ห้องได้ไหมครับ”
(“เอ่อ…เอางั้นหรอครับ”)
“เมื่อคืน ผมบอกคุณไปว่าผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง และขอดูแลคุณกรีน วันนี้ผมเองก็จะขอยืนยันคำนั้นครับ”ผมพูดด้วยใจแนวแน่ ก่อนที่จะยื่นมือถือให้กับป้าแม่บ้าน
ผมเดินขึ้นมาหยุดที่หน้าห้องตามที่แม่บ้านบอก ผมมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง หน้าประตูเขียนว่า Green ผมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะยกมือเคาะที่ประตูนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงยังคงเงียบอยู่ ผมจึงเคาะดังขึ้นและถี่ขึ้นกว่าเดิม เพราะข้างบนนี้ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะไปทำงานหรือไปเรียนกันแล้ว ผมจึงคิดว่าจะขอเคลียกับเขาวันนี้ให้จบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะรัวของผมมันได้ผลจริงๆ เมื่อบานประตูสวยนั้นถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงโปร่งที่ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นผมยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
แกรก!!
“บอกว่าไม่…”เขาเงียบไป ผมทำหน้านิ่งๆก่อนจะดันเขาเข้าห้องพร้อมปิดประตูล๊อคทันที
“คุณมาได้ยังไง และทำไมถึงขึ้นมาที่นี่ได้”เขาเอ่ยถามผมรัวเช่นกัน
“ผมมารับคุณไปบริษัท และผมเองก็มีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย”ผมเอ่ยขึ้น เขายามยามบิดขอมือของเขาออกจากข้อมือของผมที่กำไว้แน่น
“ปล่อยผมนะครับ ไม่งั้นผมจะร้องให้คนช่วย”เขาเอ่ยขู่ผม
“ร้องสิครับ ร้องไปก็ไม่มีคนช่วย เพราะที่ผมได้ขึ้นมาที่นี่ก็เพราะคุณอนาคินอนุญาต คงไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของคุณอนาคินหรอกว่าไหม”ผมเอ่ยออกมาพร้อมยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อใบหน้าเขานิ่งไป
“เดี๋ยวผมบอกเฮียเองแล้วกันว่าวันนี้ผมไม่สบาย ผมไม่ขอเข้าบริษัท”เขาเอ่ยขึ้นขึ้น ผมเองก็มองตามเขาที่กำลังเดินไปที่เตียงแต่ก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเขากำลังหาอะไรสักอย่าง
“หาอะไรหรอครับ”ผมเอ่ยถามขึ้น แต่เขาเองก็ไม่ตอบ ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาเองก็ระวังตัวอยู่มากพยายามจะเบี่ยงตัวหนี แต่กลับถูกผมรวบร่างของเขาไว้
หมับ
“อ๊ะ…ปล่อยผมนะ”เขาเอ่ยขึ้น ดวงตาเริ่มขึ้นสีแดงจากเดิมที่ดวงตาสวยนั้นมันก็บวมแดงอยู่แล้ว
“รังเกียจและเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยหรอครับ”ผมเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงเบาลง เขาเองก็หยุดดิ้น หายใจแรงขึ้นพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง
“คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ อย่ามารับผิดชอบกับสิ่งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้แบบนี้เลย ผมเองไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ผมไม่ได้โกรธคุณเลย ไม่ได้ต้องการให้คุณมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”เขาเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ผมพอจะรู้แล้วว่าเขาได้ยินทุกอย่างที่ผมพูดกับพี่ชายของเขาเมื่อคืนนี้
“แล้วไงต่อครับ”ผมเอ่ยสั้นๆ เขาหันหน้ามองผม ทั้งที่เขายังอยู่ในอ้อมกอดผมอยู่ ผมค่อยๆลูบไปที่แผ่นหลังและค่อยๆลูบที่ใบหน้าของเขา
“แม้เราสองคนจะอยู่ด้วยกัน แต่คุณไม่ได้ชอบผู้ชายแบบผม เพราะฉะนั้น…อุ๊ปห์”ผมไม่อยากให้เขาเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้แล้ว
ริมฝีปากของเขาถูกผมกดทับสนิท แม้จะตกใจนิดหน่อยสำหรับเขาแต่เขากลับให้ผมสอดลิ้นเข้าไปอย่างง่ายดาย เหมือนเขาเองก็ต้องการมันเช่นกัน ริมฝีปากล่างถูกผมกัดงับเบาๆ เสียงหายใจหอบเริ่มดังและถี่ขึ้นพร้อมกับเสียงสะอื้นในลำคอเล็กน้อย ผมค่อยๆผละจากริมฝีปากนั้นก่อนจะยกสองมือประคองใบหน้านั้น หน้าผากของเขาถูกผมชนแนบกับหน้าผากผม
“รู้ตัวไหม เวลาพูดมากและมีเสน่ห์มาก แต่ถ้าพูดจาไม่เพ้อเจ้อนะ”ผมเอ่ยขึ้น พร้อมเช็ดน้ำตาให้เขา
“อย่าทำแบบนี้กับผมเลยนะ ผมข้อร้อง”เขาเอ่ยขึ้น ผมกดจูบเขาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“อย่าดื้อกับผมสิ และเชื่อฟังผม และเชื่อใจผม เชื่อใจว่าผมจะดูแลคุณได้ ผมอยากดูแลคุณ ได้ไหม”ผมเอ่ยขึ้น สายตาที่ฉ่ำน้ำกลอกตาไปมาอย่างไม่เข้าใจ ผมไม่รอให้เขาเข้าใจอะไรแล้วตอนนี้ ไม่อยากให้เขาร้องไห้ ผมว่าเขาร้องไห้มามากพอแล้ว คนอย่างเขาต้องมีรอยยิ้มเท่านั้นที่จะเหมาะสมกับใบหน้าของเขา
จุ๊บ…
“อื่ออออ”ริมฝีปากที่กดทับกัน ผมบดขยี้ไปเบาๆก่อนจะค่อยๆหนักหน่วงขึ้น เมื่อเขาเองก็ตอบสนองผมเช่นกัน มือหนาของผมกลับเผลอลูบไปที่สะโพกของเขา และก้อนเนื้อกลมสองก้น ไม่รู้ว่าเขายังเจ็บตรงนั้นอยู่หรือเปล่า แต่ผมกลับหยุดไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงครางของเขา
“อ่าห์…”
ผมวางเขาลงบนเตียงแสนนุ่มนั้นอย่างเบามือ ซอกคอที่งามระหงของเขากลับถูกผมระดมจูบไปทั่วซอกคอ มือบางจับที่กลุ่มผมของผมไว้แน่น
“ยะ…อย่าทำแบบนี้กับผมเลยนะครับ อ่าห์…ได้โปรด”เขาเอ่ยออกมา เสียงครางหวานหูเอ่ยครางข้างหูผมจนตอนนี้แทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
“คุณกรีน คุณบอกผมได้ไหมว่าเมื่อคืนคุณไม่ได้คิดถึงผมเลย”ผมเอ่ยขึ้น ก่อนจะไล่ลิ้นมาที่ยอดอกสีสวยนั้น
“มะ…ไม่เลย ผมไม่ได้คิดถึงคุณเลย”เขาเอ่ยขึ้น ผมสอดมือทั้งห้านิ้วประสานเข้าด้วยกัน
“หรอครับ แต่ทำไมผมถึงคิดถึงแต่คุณ ได้โปรดให้ผมดูแลคุณนะครับ”ผมเอ่ยออกมา เขาเองก็พยายามดิ้นจากพันธการที่ผมผูกมัดด้วยอ้อมกอดตอนนี้ ก่อนจะหยุดดิ้นและผมเองก็หยุดที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง
“ทำไมถึงอยากดูแลผมครับ ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่ใช่คนที่คุณต้องการ”เขาเอ่ย
“ผมบอกตอนไหนครับว่าผมไม่ต้องการคุณ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องใบหน้าขาวของเขา ดวงตาฉ่ำน้ำส่งผ่านมายังผม ผมอยากจะดูแลเขาเหลือเกิน ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมกำลังหลงใหลเขาเข้าแล้ว
“คุณรู้ได้ไงว่าผมไม่ต้องการคุณ คุณรู้ได้ไงว่าผมแค่อยากจะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมได้ทำลงไป และคุณรู้ได้ไงว่าผมแค่สงสารคุณ”ผมเอ่ยย้ำถาม
“ก็เมื่อคืนผมได้ยินคุณพูด และคุณก็บอกเฮียแบบนั้น”เขาเอ่ย
“หึ คุณได้ยินแค่นั้นคุณก็คิดเอง เออเองแล้วก็คิดว่าผมต้องคิดแบบนั้น คิดแบบนี้”ผมเอ่ยขึ้น
“ก็พูดซะขนาดนั้น จะให้คิดว่าที่คุณพูดเพราะคุณรักผม และอยากดูแลผมอย่างนั้นหรอ”เขาเอ่ยพร้อมเบี่ยงหน้าหนี ผมเองจับใบหน้าเขาหันมาหาตัวเองก่อนจะเอ่ยขึ้น
“แล้วทำไมไม่คิดแบบนี้บ้างล่ะครับ คิดว่าผมกำลังหลงรักคุณ และที่อยากดูแลคุณเพราะผมอยากปกป้องคุณ ทำไมแค่นี้คิดไม่ได้ล่ะครับ”ผมเอ่ยออกมา เขาอ้าปากเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อว่าผมจะพูดออกมาแบบนั้น
ริมฝีปากของผมกดขยี้เข้าที่ริมฝีปากของเขา เรากำลังตกอยู่ในภวังค์ของความรู้สึกดี ความอบอุ่นที่ผมมอบให้เขา ไม่ใช่เพราะผมจะรังแกเขาเพียงเพราะเขาเคยมีอะไรกับผมมาก่อน แต่ที่ผมอยากสัมผัสและอย่างมีอะไรกับเขา ก็เพราะผมอยากจะสื่อให้เขารู้ว่า ผมอยากดูแลเขาจริงๆ
……………

"ถ้าไม่รักจะยอมแบบนี้หรือไง"
[/size]

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #151 เมื่อ10-02-2018 21:50:23 »

หวานอ่ะ แต่ มันค้างงงงงง อ่ะ อิอิ
ตัดฉากหนีเลยน่ะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #152 เมื่อ11-02-2018 14:35:45 »

ให้ฉันได้ดูแลตัวเธอได้ไหม ..

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #153 เมื่อ11-02-2018 16:11:52 »

จะได้ไปทำงานไหมวันนี้ ฮา

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #154 เมื่อ15-02-2018 19:16:21 »

Green Light 8 : ยอมเจ็บ  (ชยางกูรxอนาคิม)
[/size][/b]

อนาคิม พาร์ท
ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำไมต้องยอมเขามากขนาดนี้ ยอมให้เขาเข้ามาได้ถึงขนาดนี้ สัมผัสของเขาทำให้ผมลืมเจ็บ ความอ่อนโยนของเขาทำให้ผมลืมเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดนั้นได้
“อ่าห์…”เสียงครางของเขาที่ยังคงเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ผสมผสานกับเสียงครางของผมเองที่ไม่สามารถบังคับอารมณ์ของความสุขไม่ได้
“อื่ออออ”ผมแอ่นกายให้เขาเองโดยไม่ต้องรอให้เขาบอก ทุกท่าทางที่เขาส่งมาทางอารมณ์ ผมเองก็ทำตามทุกอย่าง
“อื่อ อื่อ อ่าห์”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าห์”
มือทั้งห้านิ้วประสานกันแน่น เมื่อตัวผมกำลังถูกพลิกกายขึ้นมาคร่อมร่างของเขา ลืมไปเลยว่าตอนนี้เป็นตอนเช้า เรือนร่างของเขาและผมที่เปลือยเปล่าไม่นึกอายกันและกัน กลางยุทธศาสตร์ของผมกำลังชี้ผงานอย่างไม่อายสายตาของเขา น้ำสีใสเป็นน้ำเชื่อมถูกเขาใช้มือบดขยี้มันเบาๆ
“อะ…อ่า อื่อออ”ปากบอกว่าอย่า แต่ผมกลัแอ่นช่วงล่างให้เขาอย่างไม่อาย ก่อนที่ช่องทางนั้นของผมกำลังกลืนกินกลางกายของเขาเข้าไป ครั้งที่สองของผมมันก็ยังเจ็บอยู่ดี แม้เขาจะหาตัวช่วยมาช่วยแล้วก็ตาม
จุ๊บ
“เชื่อใจผมนะ…อ่าห์”เขาเอ่ยบอกผมหลังจากกดจูบที่ริมฝีปากของผมอย่างปลอบใจเพื่อให้คลายความเจ็บ แต่ตอนนี้ผมเองกลับต้องการมากกว่าเจ็บด้วยซ้ำ
“อ่าห์…”ผมครางออกมา พร้อมขยับก้นของผมช้าๆขึ้นลงอย่างรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะบ้าตายไปแล้ว
“อ่าห์…ซี๊ดดดด นี่คือคำตอบใช่ไหมครับ”เอาเอ่ยขึ้นพร้อมมือหนาที่จับที่เอวผมแน่นเพื่อยกตัวผมขึ้นลงตามจังหวะความต้องการ ผมไม่พูดอะไรก่อนจะโน้มตัวลงตามแรงรั้งของเขาให้มากดจูบที่ริมฝีปากนั้น จากนิ่มนวลอ่อนโยน ค่อยๆแรงขึ้นเรื่อยๆและมันก็ทำให้ผมขยับสะโพกขึ้นลงตามแรงจูบของเขา
เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมกับเขาต่างสวมกอดกัน และมีอะไรกัน เราไม่ได้สนใจโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเกือบชั่วโมงนั้นเลย เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเฮียแบล็คที่โทรตามมากกว่า ผมหลับไปด้วยความเพลียในอ้อมกอดของเขาหลังจากที่เขาพาผมไปล้างเนื้อตัวเรียบร้อย
จุ๊บ จุ๊บ
“วันนี้ผมต้องเคลียกับพี่ชายคุณให้เรียบร้อย เพราะผมคงไม่ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวแน่นอน”ผมได้ยินเขาเอ่ยอะไรบางอย่างออกมาแบบนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจอะไรนักหรอกเพราะตอนนี้ผมเพลียมากจริงๆ
เกือบช่วงบ่ายแล้วที่เสียงดังกุกกักในห้องของผม และแรงยวบบนที่นอนของผมทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้น ผมปรือตามองไปยังร่างสูงของคนที่กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่ง มือข้างหนึ่งลูบกลุ่มผมนิ่มของผมไว้และอีกข้างหนึ่งกำลังยกมือถือคุยกับใครบางคน
“ผมจะรอครับ”ผมได้ยินเพียงแค่นี้ ก่อนที่จะหลับตาลงเมื่อเขาวางมือถือแล้ว
“ไม่รู้หรอกว่าเริ่มเมื่อไหร่ แต่ผมไม่ให้มีตอนจบหรอก เพราะตอนจบมันใช้กับเรื่องราวที่จะไม่มีตอนต่อไปอีก แต่สำหรับผมมันจะมีแต่เรื่องราวดีๆเรื่อยๆกับคุณ เพียงคนเดียว”ผมแอบยกยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อคนที่กำลังลูบแก้มผมอยู่เอ่ยขึ้น
“คุณกรีนครับ ตื่นได้แล้ว”เขาเอ่ยปลุกผมอย่างอ่อนโยน ผมรู้สึกดีชะมัดเลย พี่เต๋อเองก็เคยปลุกผมแบบนี้แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไร แต่กับผู้ชายคนนี้ผมกลับรู้สึกชอบให้เขาเอาใจและปราบพยศผมจัง
“คุณกรีนครับ”เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง ผมค่อยๆแกล้งปรือตาขึ้นและกระพริบตาเล็กน้อย ทั้งอายทั้งเจ็บและก็เขินมาก ก็เมื่อสักครู่ผมกับเขาทำรักกันอย่างลืมตัวว่าเราสองคนเป็นแค่คนที่รู้จักกันเท่านั้น
“คุณยังอยู่หรอ”ผมเอ่ยถามเขา ที่จริงก็รู้ว่าเขายังอยู่กับผมตั้งแต่เช้า
“อยู่สิ จะให้ผมไปไหนล่ะ”เขาเอ่ยพร้อมยกยิ้มขึ้น ช่างอบอุ่นนัก ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆพยุงตัวขึ้น เขาเองก็รีบเข้ามาช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นเช่นกัน
“จะไปไหนครับ”เขาเอ่ยถาม
“ไปห้องน้ำครับ และคุณก็ควรกลับไปได้แล้ว ป่านนี้แล้วเฮียคงไม่รอเราเข้าบริษัทหรอก”ผมเอ่ยขึ้นและพยายามเบี่ยงตัวออก แต่เขาก็ยังคงรั้งผมไว้
“เดี๋ยวผมไปส่งที่ห้องน้ำนะ และผมลงไปบอกป้ามณีแล้วให้เตรียมอาหารไว้ให้แล้ว”เขาเอ่ยอย่างไม่รู้สึกอะไร ผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ทำแบบนี้ทำไมครับ ไม่สงสารผมหรอครับ”ผมเอ่ยถามเขาตรงๆ ที่จริงผมน่าจะเข้าใจตั้งแต่แรกที่เขาบอกว่าเขาจะรับผิดชอบที่ทำกับผมไว้ และเขาก็ดื้อที่จะพยายามรับผิดชอบผม
“ไปอาบน้ำนะครับ อย่าดื้อกับผม เพราะนับจากวันนี้ผมคือเจ้าของคุณและคุณคือคนของผม และที่สำคัญคุณและผมเป็นของกันและกัน โอเคนะครับ”ผมกำลังจะอ้าปากเพื่อจะบ่นเขาแต่กลับถูกเขาเอ่ยขัดขึ้น
“และอีกครึ่งชั่วโมงคุณอนาคินจะมาถึง ผมจะบอกคุณไว้ก่อนนะครับ ว่าคุณหนีผมไม่พ้นหรอกคุณอนาคิม”ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ก่อนจะถอนหายใจและเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่พูดอะไรเพราะขืนหันไปพูดอะไรกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงมากกว่า
ผมใช้เวลาจัดการตัวเองไม่นาน มองตัวเองในกระจก สำรวจร่างกายที่ตอนนี้มีรอยจ้ำสีแดงอยู่บนร่างกาย แม้ไม่กี่รอยแต่ผมกลับรู้สึกไม่รังได้รังเกียจเลยสักนิด ไม่เหมือนครั้งที่พี่เต๋อเคยทำมัน รอยพวกนั้นผมนึกรังเกียจและขยะแขยงมันนัก
แกรก
“อ้าว ยังไม่กลับอีกหรอ”ผมเอ่ยหลังจากเดินออกจากห้องน้ำมา ยังเห็นเขานอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง
“จะให้กลับไปไหนหล่ะ ยังไม่ได้กินข้าวและคุยกับคุณอนาคินเลย”เขาเอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมและดึงผ้าขนหนูออกจากมือของผม
“คุณจะทำอะไร ปล่อยผม”ผมเอ่ยถามเขาที่ตอนนี้ดึงผมเข้าไปนั่งที่ตักตัวเอง ผมกลับรู้สึกเขินๆที่เขากำลังเช็ดผมให้ ทำให้ผมคิดถึงคุณแม่ ผมจำได้ดีว่าเวลาที่ใครสระผมเสร็จคุณแม่จะไล่ให้มาเช็ดผมทีละคน
“คุณอย่าดื้อนักสิ”เขาเอ่ยขึ้นเรียกสติผมที่ตอนนี้กำลังมีความสุขกับความอ่อนโยนนี้
“คุณรู้ไหม ว่าคุณเองก็ดื้อกว่าผมเสียอีก ผมไล่แล้วก็ยังไม่ไปอีก”ผมเอ่ยออกมาแต่น้ำเสียงอาจไม่จริงจังนักเพราะผมกำลังมีความสุขอยู่ลึกๆ
“ทำไมถึงชอบไล่ผมจังครับ คุณก็รู้ว่าถึงไล่ผมยังไงผมก็ไม่ไปอยู่ดี”เขาเอ่ยแบบไม่รู้สึกอะไร หรือว่าที่จริงแล้วเขารู้สึกแบบนั้นกับผมจริงๆ ผมหันไปมองเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“หน้าด้าน”ผมเอ่ยก่อนจะหันไปอมยิ้มกับตัวเอง
“ครับ หน้าด้าน รู้แบบนี้แล้วก็อย่าไล่ผมไปไหนจากคุณให้เปลืองน้ำลายเลย”เขาเอ่ยขึ้น ผมถูกเขาจับให้หันเข้าหาตัว ประโยคของเขาเองก็ทำให้ผมใจอ่อนไปเยอะ มันดูจริงจังและจริงใจจนผมเองกลับเอ่ยถามเขาเอง
“คุณจริงจังกับผมมากขนาดนั้นเลยหรอ หรือแค่คุณต้องการรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิด หรือเพราะคุณแค่สงสารผม”ผมเอ่ยถามเขาเบาๆ มือของผมถูกเขาค่อยๆจับขึ้นมากุมไว้ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้น
“มาถึงขนาดนี้แล้ว สัมผัสเมื่อกี้ของผมยังบอกคุณไม่ได้อีกหรอว่าผมจริงจังกับคุณมากแค่ไหน”เขาเอ่ยพร้อมกระชับอ้อมกอดไว้ ผมยังคงมองไปยังดวงตาคู่คมของเขา
“แต่คุณไม่ได้รักผมมาก่อนนะ เราสองคนแทบจะเรียกว่าคู่กัดกันเลยก็ว่าได้ แล้วทำไม...”เสียงผมหายเข้าไปในลำคอทันที เมื่อริมฝีปากนั้นกดลงมาที่ริมฝีปากของผม แม้ไม่ได้รุกล้ำอะไรแต่กลับทำให้ผมเองที่สอดลิ้นนั้นเข้าไปเอง ผมรู้สึกว่าเขากระตุกตัวเล็กน้อย คงตกใจที่ผมกล้าที่จะสอดลิ้นเข้าไปเอง ไม่ถึงนาทีที่เราจูบกันก่อนจะผละจูบออก
“คุณกรีน คุณบอกผมได้ไหมว่าตอนนี้คุณรู้สึกกับผมยังไง”เขาเอ่ยถามผม แล้วจะให้บอกยังไงได้หล่ะ ว่าตอนนี้ผมรู้สึกดีกับเขา อยากให้เขาปกป้องผม และผมอยากให้เขาเป็นคนที่อยู่ข้างผมตลอดไป แต่ที่ผมไม่ยอมให้มันเกิดตั้งแต่แรกเพราะผมกลัว ผมกลัวว่าผมจะผิดหวังเพราะเขาไม่ได้ชอบผม
“เอ่อ...”ผมอ้ำอึ้งอยู่ ไปไหนไม่ถูกจริงๆ เขากุมใบหน้าผมไว้ก่อนจะเอ่ยกับผมอีกครั้ง
“ตั้งแต่แรก ผมอาจจะไม่ได้ชอบคุณ เพราะคุณไม่ใช่แบบที่ผมชอบ แต่เมื่อผมได้รู้จักคุณ ผมบอกได้เลยว่าผมอยากดูแลคุณ แม่ตอนแรกจะสงสารคุณมากที่มาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ความสงสารกลับทำผมอยากดูแลคุณ”ผมกลอกตาไปมาก่อนจะยกมือกุมใบหน้าเขาไว้ และเอ่ยขึ้น
“คุณกูร ช่วยดูแลผมด้วยนะครับ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นหน้าไปกดจูบเขาเองโดยไม่ลังเลอะไร และเมื่อเขาจูบตอบผม ยิ่งทำให้ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้วถ้าอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“อื่อออออ”เสียงครางเบาๆของผมที่หลุดออกมาด้วยความรู้สึกดี ก่อนที่เขาจะจับผมนอนลงที่เตียงอีกครั้ง
“ผมจะดูแลคุณอย่างดี เชื่อใจผมนะครับ ผมสัญญาจะดูแลคุณอย่างดี”เขาเอ่ยออกมา ผมยกยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะหลับตาลงเมื่อรู้ว่าผมและเขากำลังต้องการขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณกรีน คุณกูรคะ คุณแบล็คกับคุณนิลมาถึงแล้วคะ”เสียงมาลีเอ่ยบอก เราสองคนที่ยังคงนอนกอดกันอยู่หันมองกันและยกยิ้มให้กัน
“เดี๋ยวลงไป บอกเฮียว่ารอหน่อย”ผมเอ่ยบอก ก่อนจะเอ่ยขึ้นกับคนบนร่างของผม
“พร้อมนะครับ”เสียงเขาเอ่ยบอกผม ผมพยักหน้าตอบเขาและยกยิ้มให้เขา
++++++
ผมนั่งมองหน้าเฮียและเขาที่ตอนนี้ยังคงไม่เอ่ยอะไรกัน หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จ ผมนั่งบีบมือไปมากลัวว่าเฮียจะย้อนถามผมว่าจะยอมให้เขาดูแลผมไหม ซึ่งที่กลัวคือผมอายเฮีย ก็ทำกับเขาไว้เยอะเหลือเกินนี่ แถมทำงานของเฮียล่มอีก
“ว่าไงเจ้ากรีน ที่คุณกูรขอเฮียไว้ นายโอเคไหม”เสียงเฮียเอ่ยถาม ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มแห้งๆออกมา
“เอ่อ...คือ...”
“เอาสิ เป็นใบ้ไปเลยหรอไง”เฮียยังคงเอ่ยแซวผม ตอนนี้ใบหน้าผมแดงเห่อออกมาจนซ้อใหญ่เอ่ยแซวผมอีกคน
“คุณก็ไปแซวน้องนะครับ ดูสิคุณกรีนหน้าแดงหมดแล้ว ถามตรงๆแบบนี้คุณกรีนก็เขินหมดสิครับ”
“ซ้อ กรีนไม่ได้เขินสักหน่อย”ผมเอ่ยออกมา รอยยิ้มผมคงติดอยู่ใบหน้ายังนั้น
“อะไรกัน ฉันแค่ถามเฉยๆ ถ้าฉันบังคับเจ้ากรีนนายก็จะดุฉันสิ”เสียงเฮียจะหวานอ้อนเมียไปถึงไหนกัน สงสัยลืมตัวมั้งว่ายังมีผมและคุณกูรอยู่ตรงนี้ ผมหันไปยิ้มให้กับคนข้างๆก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เฮีย จะหวานไปไหนเนี้ย แล้วเค้ากับคุณกูรยังจำเป็นอยู่ม่ะ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มออกมา
“นายเห็นไหมว่าเราได้คำตอบแล้ว”อยู่ๆเฮียก็เอ่ยขึ้นบอกซ้อ และยกยิ้มออกมา
“คุณกูร ยินดีตอนรับสู่ครอบครัวของเราครับ”ซ้อใหญ่ของผมเอ่ยขึ้นบอก ผมรีบหันมองและอ้าปากออกมาทันที แต่ไม่ได้พูดอะไร
“งั้นพรุ่งนี้ช่วยเข้าไปคุยกับโปรเจคของที่เหลือกับผมด้วยนะครับ และนายแบบของเฮียด้วย อย่าเบี้ยวงานหล่ะ ไม่งั้นเฮียจะเบี้ยวจ่ายเงิน”โอ๊ย มีความบ้าอำนาจกับน้อง แต่กับเมียอ้อนซะหงอเลยนะเฮีย ผมแอบคิดและยกยิ้มขึ้น
“คร๊าบบบบบ”ผมเอ่ยออกมา อยู่ๆเสียงเอ่ยทางประตูก็ดังขึ้น จากที่ผมยกยิ้มอยู่กลับหุบยิ้มเล็กน้อย เมื่อร่างสูงของพี่หมอและร่างบางของแฟนพี่หมอเดินเข้ามา
“สวัสดีครับทุกคน”เสียงแสนนุ่มนวลของพี่หมอและรอยยิ้มหวานของแฟนพี่หมอทำเอาคนข้างๆผมนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มขึ้นและเอ่ยทักทายทั้งพี่หมอและคุณซี
“สวัสดีครับคุณหมอ น้องซี”เขาเอ่ยขึ้น ผมปรายตามองเขาเล็กน้อย ใจกลับรู้สึกแปลกๆ
“อ้าวหมอกับซีมาแล้วหรอ”เฮียเอ่ยขึ้น ผมไม่ค่อยเข้าใจกับประโยคของเฮียนัก
“ครับ เฮียยังคุยธุระอยู่ เดี๋ยวผมกับแก้มยุ้ยขึ้นไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็นค่อยคุยกันก็ได้”
“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้เราคนกันเอง ว่าแต่แหวนที่ไปดูมาสวยไหมเอามาดูหน่อยสิ”ผมงงไปหมดแล้ว ผมหันมองเขาที่หน้าเสียเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าพี่หมอกับคุณซีกำลังจะหมั้นกัน
“ยินดีด้วยนะครับ”เสียงเขาเอ่ยบอกพี่หมอ แต่สายตากลับจ้องไปยังคุณซี ผมว่าเขาเองยังคงอาวรณ์คุณซีอยู่ ก็คุณซีคือสเปคของเขาเลยนี่ สำหรับผมก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นที่เขารู้สึก
“ขอบคุณมากครับ”พี่หมอเอ่ยพร้อมโอบไหล่คุณซีอย่างเป็นเจ้าของ
“ผมว่าผมขอตัวก่อนดีกว่า”เขาเอ่ยขึ้น ผมหันมองเขาทันที คงจะรับไม่ได้หล่ะมั้งที่คนที่เขาชอบกำลังจะเป็นพี่สะใภ้ของผม ผมหลบสายตาทันที
“อ้าว จะรีบไปไหนหล่ะครับ”เฮียแบล็คเอ่ยขึ้นถามทันที
“ผมว่าจะเข้าไปที่ออฟฟิตครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาโปรเจคไปคุยกับคุณอนาคินที่บริษัท”เขาเอ่ย คงจะรับไม่ได้จริงๆหล่ะสินะ สายตาที่เขามองไปยังแฟนพี่หมอผมไม่ชอบเลยจริงๆ เขาขอดูแลผมแต่สายตาเขากลับยังอาวรณ์ผู้ชายคนนั้นอยู่ ผมจึงเอ่ยขึ้นตัดบทไป
“เฮีย เค้าขอตัวก่อนนะ ปวดหัวจัง”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกออกไปโดยไม่ได้รอให้ใครเอ่ยตอบอะไร และไม่ได้สนใจเขาที่กำลังจะคว้ามือผมไว้
ผมนั่งอยู่ที่ศาลาหลังบ้านหลังจากที่เฮียแบล็คขอขึ้นไปพักและพี่หมอก็พาคุณซีขึ้นห้องไป ช่วงเย็นถึงจะนัดเจอกันอีกครั้ง ผมปลีกตัวออกมาเมื่อเขาขอตัวที่จะไปเคลียท่ำงานเพื่อนำฌปรเจคมาคุยพรุ่งนี้
“มานั่งตรงนี้เอง ผมก็ตามหาแทบแย่”เสียงเอ่ยขึ้นพร้อมวงแขนที่กำลังสวมกอดผมจากด้านหลัง
“อ้าว คุณยังไม่กลับหรอครับ”ผมเอ่ยถามเขา แต่ไม่ได้สบตาเขา
“จะให้กลับไปไหนหล่ะ”เขาย้อนถามผม
“ก็คุณขอไปเคลียงานไม่ใช่หรอไง”ผมเอ่ยขึ้นงอนๆ ตอบได้เต็มปากเลยว่าผมกำลังงอนเขาและน้อยใจเขาที่ยังคงอาวรณ์แฟนของพี่หมออยู่
“ใช่...”ผมหันมองเขา แต่ลืมไปว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเขาทำให้แก้มของผมไปชนกับจมูกของเขา
ฟอดดดดด
“ก็รู้นี่ แล้วทำไมถึงไม่รีบไปแต่งตัวหล่ะ”
“แต่งตัว ทำไมผมต้องแต่งตัวด้วยหล่ะ”ผมเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“อ้าว ผมจะออกไปออฟฟิตไง คุณอย่าบอกนะว่าจะให้ผมไปคนเดียวอ่ะ”ผมอมยิ้มเล็กน้อย รู้สึกว่าที่งอนไปมันหายไปหมดเลย
“คุณจะให้ผมไปกับคุณหรอ”ผมเอ่ยถาม
“ก็ใช่หน่ะสิ สามีไปไหนเมียควรไปด้วยไม่ใช่หรอไง”ผมอึ้งไปกับพูดของเขา หน้าผมร้อนผ่าวทันที
“อะ...อะไร ผัวเมียอะไรกันเล่า คุณพูดบ้าอะไรของคุณ เสียใจจนเพี้ยนหรือเปล่าเนี้ย”ผมเอ่ยออกมาอย่างเขินๆ
“หึ คุณไงเมีย ผมอ่ะผัว หรือคุณจะเถียง”เขาเอ่ยออกมา ผมยิ่งหูดับไปเลยก่อนจะรีบลุกขึ้นและเอ่ยขึ้นก่อนจะวิ่งออกไป
“ไม่คุยกับคุณแล้ว ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า”ผมเอ่ยเสร็จก็รีบวิ่งออกไป แต่กลับยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในรอบหลายวันหลัวจากเกิดเรื่อง
“ลองดูอีกครั้ง แม้จะเจ็บอีกก็ยอมรับมัน เพราะเราเลือกเอง”ผมเอ่ยกับตัวเองในกระจกพร้อมยกยิ้มกับตัวเอง และค่อยๆลูบที่รอยแผลเป็นนั้นเบาๆ
................................

"ถ้าหากเป็นเธอฉันจะยอม ช้ำก็จะยอมทุกข์ก็จะยอม ฉันจะไม่กลัวถ้าหากต้องเสียใจ"
[/b][/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2018 22:19:11 โดย Papai »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #155 เมื่อ15-02-2018 20:59:58 »

จ๊ะ อย่าท่าดีอย่างเดียวแล้วกันนะกูร

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #156 เมื่อ16-02-2018 07:40:58 »

 :impress3: :impress3: :impress3:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #157 เมื่อ16-02-2018 19:43:03 »

โอ๊ยๆๆๆๆๆเขินเบาๆๆแอบห่วงด้วยอ่ะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #158 เมื่อ17-02-2018 19:16:34 »

ยอมเพราะความรัก

ออฟไลน์ สาว801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #159 เมื่อ17-02-2018 19:48:55 »

เขินนน  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
« ตอบ #159 เมื่อ: 17-02-2018 19:48:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #160 เมื่อ17-02-2018 20:03:05 »

Green Light 9 : กลับมาอีกครั้ง  (ชยางกูรxอนาคิม)
[/size][/b]

ชยางกูร พาร์ท
นับจากวันนั้น ผมกลายเป็นผู้จัดการนายแบบชื่อดังไปแล้ว งานการของผมไม่ต้องพูดถึง ถ้าผมไม่มีลูกน้องดีและทีมงานดี รับรองบริษัทผมเจ๊งแน่ ก็อาทิตย์หนึ่งผมเข้าบริษัทแค่วันเดียวคือวันที่จะต้องเซนเงินเดือนเท่านั้น
(“พี่กูร เข้าออฟฟิตไหมคะวันนี้”)
“ไม่รู้เลย คุณกรีนมีถ่ายแบบช่วงเช้าอ่ะ มิ้นมีอะไรหรือเปล่า”
(“มีคนมาขอพบพี่กูรคะ”)
“ใครหรอ เขามีธุระสำคัญไหม ถ้าไม่สำคัญให้เขารอก่อนหรือนัดอีกวันได้ไหม พอดีคุณกรีนยังถ่ายแบบไม่เสร็จเลย”
(“แหมมมม พี่กูร งั้นมิ้นนัดเขาเป็นพรุ่งนี้ตอนสิบโมงนะคะ”)
“อื้ม ตามนั้นนะ พี่ฝากด้วย แค่นี้นะ”ผมเอ่ยเสร็จจากน้องที่ทำงานก็จับมือถือยัดใส่กระเป๋า พร้อมหันไปยิ้มให้กับนายแบบที่กำลังโพสต์ท่าอยู่ตอนนี้ เขาดูดีมาก รอยยิ้มของเขา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาผมบอกได้เต็มปากเลยตอนนี้คือผมรักเขา รักมากเสียด้วย
“ดื่มน้ำหน่อยนะครับ”ผมเอ่ยพร้อมยื่นน้ำให้เขาเมื่อเขาต้องมาเปลี่ยนชุดเพื่อถ่ายต่อไป
“ใครโทรมาครับ”เขารับน้ำและเอ่ยถามผม อยากแกล้งเมียจัง เวลาเขางอนเขาจะน่ารักมากเพราะผมต้องง้อเขาได้หนักหน่วงและเขาก็จะเป็นใจกับผมให้ง้อ
“น้องที่ทำงานอ่ะ เดี๋ยวต้องไปถ่ายอีกมุมป่ะ”ผมเอ่ยถามเขาที่ทำหน้างอนๆอยู่ที่ผมไม่ยอมบอกว่าน้องที่ทำงานคือใคร
“น้องที่ทำงานหรอครับ ใครหรอคุณก้อง คุณมิ้นหรือคุณดรัม”ผมยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
“หื๋ม ถามแบบนี้เหมือนกำลังจับผิดผัวอยู่เลยอ่ะ ชอบจัง”ผมเอ่ยแซวเล่นก่อนจะยกยิ้มกว้างออกมาเมื่อเขาเองก็รู้ว่าผมแกล้งเขา
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย...เจ็บนะครับ มาตีผมทำไมเนี้ย”ผมเอ่ยขึ้นใช้มือลูบที่แขนเบาๆก่อนจะโอบที่ไหล่เขาไว้
หมับ
“อ๊ะ....อย่าครับ เดี๋ยวมีคนมาเห็น”เขาเอ่ยบอก ปากบอกอย่าแต่กลับเบียดกายเข้าหาอกผม
“ในห้องแต่งตัวไม่มีใครเข้ามาหรอก ถ้าเราไม่เรียก”ผมเอ่ยก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาเขาหวังจะกดจูบที่แก้มสักหน่อย ก็เขาน่ารักเกินไปแล้ว
“อย่าครับ...”เขาเอ่ยพร้อมดันผมไว้ก่อนจะเอ่ยถามผม
“สรุปว่าใครโทรมาครับ”เขายังย้ำคำถามเดิมอีก โอ๊ยสมกับเป็นคุณกรีนของผมจริงๆเลย
“มิ้นอ่ะ โทรมาบอกว่ามีคนมาหา...”ผมเอ่ยยังไม่ทันจบ เสียงเขาก็โวยขึ้น โอ๊ยน่ารักจริงๆ เวลาเขาดุผมช่างน่ารักจริงๆ
“อ้าว มีงานแล้วทำไมไม่รีบไปหล่ะครับ”
“รีบไปทำไม ตอนนี้ผมก็ทำงานอยู่นี่ไง อย่าลืมนะว่าผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวคุณนะ”ผมเอ่ยขึ้น เขารีบหันมาพร้อมทำหน้าไม่พอใจ
“ก็เข้าใจว่าเป็นผู้จัดการผม แต่ว่าอาทิตย์นี้คุณยังไม่ได้เข้าออฟฟิตเลยนะครับ และนี่มีงานด้วย สำคัญหรือเปล่าครับ ไปก่อนก็ได้นะแล้วค่อยมารับผม หรือเดี๋ยวผมให้เจ้าบลูมารับก็ได้”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงผม ใบหน้าดูจริงจังมาก ผมยกมือกุมใบหน้าขาวของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณหรอกนะครับ เรื่องของคุณ งานของคุณ สำคัญที่สุดสำหรับผม และไม่ต้องห่วงนะ ผมบอกมิ้นให้เลื่อนนัดเขาเป็นพรุ่งนี้แล้วหล่ะ”ผมเอ่ยขึ้น เขาเองก็ยกยิ้มหวานออกมา ใบหน้าดูมีความสุขนักเหมือนผมตอนนี้
“คุณกูร...”เขาเอ่ยเรียกผมเบาๆ โอ๊ยน่ารักจนอยากจะพากลับบ้านแล้วเนี้ย
จุ๊บ
“ถ่ายเสร็จเรากลับบ้านกันเลยเนอะ ไม่ต้องไปกินแล้วพิชซ่าอ่ะ”ผมเอ่ยบอกเขา ก็ตอนแรกผมบอกเขาว่าจะพาเขาไปกินพิซซ่าแถวทองหล่อ ร้านต้นตำหรับ เขาเองบ่นอยากกิน แต่ตอนนี้ผมอยากกินเขามากกว่า
“อ้าว ทำไมหล่ะ คุณไม่อยากกินพิซซ่ากับผมหรอครับ”โอ๊ย น่ารักเวลาอ้อนน่ารักจริงๆ ทำน้ำเสียงเหมือนโดนขัดใจ
“เปล่าครับ ผมอยากกินคุณมากกว่าพิซซ่าอ่ะ”เอาสิ ผมแม่งเล่นมุขเสี่ยวๆแบบนี้ ถามว่าผมเคยมีโมเมนต์แบบนี้ไหม แม้แต่กับแคทผมว่าก็ไม่น่าสนใจเท่าเขา
“บ้า...ผมไปทำงานก่อนนะ”น่ารักจริงๆ หูที่แดงเห็นได้ชัด ผมรีบรั้งมือเขาไว้ก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวเองและกดจูบที่ริมฝีปากของเขา ไม่ได้รุกล้ำอะไรและมันก็แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
จุ๊บ
“ตั้งใจทำงานนะครับที่รัก เดี๋ยวเราจะได้รีบไปกินกัน”ผมเอ่ยด้วยประโยคสองแง่สองง่ามออกมา เขารีบผลักผมออกและเดินออกจากห้องแต่งตัวไป
ผมนั่งรอเขาทำงานเกือบถึงบ่าย ผมเก็บของขึ้นรถเรียบร้อยหลังจากคุยเรื่องเช็คกับเจ้าของงาน ผมนั่งรอคนของผมที่กำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวาน
“รอนานไหมครับ”โอ๊ย เสียงจะหวานไปไหนเนี้ย ผมหันไปยกมือกุมที่ใบหน้าของเขาพร้อมลูบไปมา
“ไม่นานเลย แล้วนี่เหนื่อยไหม”ผมเอ่ยถามเขา ปลายนิ้มโป้งของผมลูบไล้ไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเขาเบาๆ
“ไม่เหนื่อยเลยครับ”เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหวาน
“งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปที่ที่หนึ่งนะครับ”ผมเอ่ยขึ้น
“แต่ขอไปกินก่อนได้ไหมอ่า คือตอนนี้ผมหิวมากเลยอ่ะ”เขาเอ่ยพร้อมลูบท้องไปมา ผมจึงยกมือลูบไปที่ท้องของเขาเบาๆ แต่ผมกลับลูบลงที่หน้าท้องน้อยนั้นและมันก็ค่อยๆต่ำลงเรื่อยๆ
หมับ!
“อย่าครับ คนเยอะแยะ”เขาหันมาดุผม น่ารักชะมัด ถ้าคนไม่เยอะก็แสดงว่าผมล้วงได้มากกว่านี้นะสิ ผมจึงยกยิ้มขึ้นและเอ่ยออกมา
“งั้น ไปที่คนไม่เยอะกันเถอะครับ”ผมเอ่ยออกมา นี่ผมกลายเป็นคนหื่นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
“นี่คุณกลายเป็นคนหื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี้ย”เขาเอ่ยขึ้น ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะขึ้นรถออกไป
ผมพาเขามาทานอาหาร พิซซ่าที่เขาอยากกิน ไอศกรีมรสชาเขียวที่เขาชอบ ผมพาเขาไปกินหมดไม่ว่าจะอยากกินอะไรผมก็พาเขาไปหมด ผมกลายเป็นคนตามใจแฟนตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมไม่ชอบที่เขาเป็นคนเอาแต่ใจ พูดจาก็ไม่เพราะ เอาใจใครก็ไม่เป็นจนผมเองก็เคยนึกสงสารไอ้ผู้จัดการจอมชั่วคนนั้นนะที่ต้องมาเอาใจเขา
“กินเลอะไปหมดแล้วเนี้ย กินเป็นเด็กๆไปได้นะครับ”ผมเอ่ยพร้อมยกนิ้วปาดที่ริมฝีปากเล็กของเขา ก่อนจะมากดที่ริมฝีปากตัวเอง จนเขาเองใบหน้าแดงเห่อออกมา
จุ๊บ
“อะไรของคุณเนี้ย”เขาเอ่ยทั้งๆที่หน้าแดง ผมว่าที่ไอ้ผู้จัดการนั้นหวงเขา อยากครอบครองเขาก็เพราะเขาเป็นคนแบบนี้หล่ะมั้ง ทั้งน่ารัก ทั้งขี้อ้อนและขี้ยั่วด้วย ผมคิดแบบนั้น
“อย่าทำเสียงแบบนั้นสิ รู้ไหมว่ามันทำให้ผมอยากกลับบ้านจะแย่แล้ว”ผมกระซิบบอกเขา ใบหน้าที่แดงเป็นทุน ยิ่งแดงเห่อเข้าไปกันใหญ่
“บ้าสิ ไหนบอกจะพาผมไปที่ไหนหรอครับ”เขาเอ่ยขึ้น จริงสิผมว่าจะพาเขาไปที่บ้านของผม ตอนนี้ไอ้เก้ามันคงจะแต่งบ้านผมเกือบเสร็จแล้วล่ะ ที่จริงน่าจะเรียกว่าเสร็จแล้วเพราะไอ้เก้าเพื่อนของผมมันโทรมาบอกตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว
“ทานให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ผมเอ่ยบอกเขา ใบหน้าน่ารักของเขาพยักหน้าทั้งๆที่ยังเคี้ยวอาหารเต็มปาก
ผมเดินออกมาเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันที่จะทำธุระเสร็จเสียงมือถือของผมก็สั่นขึ้น ผมยกมือถือขึ้นมาดูหน้าจอตอนแรกก็รู้สึกรำคาญนัก มือถือผมมันสั่นอยู่ตลอดเวลาและไหนจะข้อความอีกมากมายที่ถูกส่งเข้ามา
“ไอ้เก้า โทรมาทำไมว่ะ”ผมสบถกับตัวเองเมื่อปลายสายคือเพื่อนรักของผมเอง ผมกดรับสายทันทีเมื่อรู้ว่าคือไอ้เก้า
“ว่าไงมึง มีอะไรว่ะ”
(“ไอ้กูร มึงจะมาดูบ้านได้ยังว่ะ กูตกแต่งเสร็จตั้งแต่สามวันก่อนแล้วนะ และก็ได้เช็คแล้ว แต่แม่งมึงก็ไม่ยอมมาดูสักทีว่ะ ทีเมื่อก่อนเร่งกูจัง อยากให้เสร็จไวๆ แต่เสร็จแล้วมึงเสือกไม่มาดูนะ กูงานเยอะนะมึง ไหนจะต้องไปเป็นอาจารย์พิเศษอีก”)
“เออๆ วันนี้กูกำลังจะเข้าไป มึงเองก็รอกูอย่างที่บ้านนั่นหล่ะ เดี๋ยวตามไป”
(“มึงจะพาแฟนมาให้กูรู้จักใช่ม่ะ”)
“เออ แล้วนี่มึงถึงบ้านกูยัง”
(“กำลังจะถึง”)
“กำลังจะถึง หรือกำลังจะออกจากบ้าน”
(“มึงนี่สมกับเป็นเพื่อนกูชะมัด เออๆกูกำลังจะออกจากบ้าน”)
“มึงรอกูแปบแล้วกัน เดี๋ยวเจอกัน”
ผมวางสายจากไอ้เก้า ซึ่งไอ้เก้ากับผมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยม พอเรียนมหาวิทยาลัยเราสองคนก็ยังคงเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันแต่คนละสาขาแค่นั้นเอง ผมขับรถพาคุณกรีนมาที่บ้านของผม ที่เคยบอกว่ากำลังซ่อมแซมและตกแต่ง มันเป็นแค่บ้านไม้หลังไม่ใหญ่นัก บ้านไม้สีเขียวอ่อน ด้านหน้าเป็นคลองมีศาลาริมคลอง ร่มรื่น เย็นสบายไปด้วยต้นไม้ที่ผมชอบปลูก
“นี่บ้านใครครับ”เขาเอ่ยถามเมื่อผมจออดรถและพาเขาเข้ามา เขาดูชอบมันมาก อาจเพราะความเงียบสงบด้วยหล่ะมั้ง
“เรือนหอของเราไง”ผมเอ่ยขึ้น เขาหันมามองผมอย่างไม่เชื่อ ที่จริงมันก็ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด บ้านหลังนี้เป็นของแม่ผมและแม่ผมก็อยากให้ผมใช้เป็นเรือนหอตอนรับสะใภ้ของท่าน ซึ่งเมื่อก่อนผมเองเคยคิดให้มันเป็นสีอื่นไม่ใช่สีเขียวเหมือนตอนนี้
“ยังจะล้อเล่นอีกนะครับ”เขาเอ่ย
“เข้าไปข้างในกันครับ”ผมเอ่ยพร้อมโอบไหล่ของเขาเข้าบ้านไป ทันทีที่เขาเห็นข้างในยิ่งยิ้มออกมากว้างก่อนที่ไอ้เก้าจะเดินเข้ามา หลังจากที่ผมได้ยินเสียงรถของมัน
“ไอ้กูร...”
“ไอ้เก้า มาช้านักนะมึง เดี๋ยวก็หักเงินเลย”ผมเอ่ยแซวเพื่อที่เดินเข้ามาก่อนที่จะพาคุณกรีนมาแนะนำกับเพื่อนรักของผม
“หักอะไร แค่มึงเปลี่ยนใจกะทันหันกับสีบ้านนี่กูไม่คิดเงินเพิ่มก็บุญเท่าไหร่แล้ว ไอ้ห่านี่”ดูปากมันสิ แถมยังจะมองเมียผมตาหวานเชียว
“นี่ๆๆ มองอะไรเบอร์นั้น มองแทบจะแดกเมียกู”ผมเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว
กึก!
อึก!
“ไอ้ห่า มึงพูดอะไรให้เกียรติคุณกรีนด้วยดิ”ดูมันพูดดิ ด่าผมเฉยเลยและที่สำคัญท่าทางมันจะเอาใจเมียผมเหลือเกินและเมียผมก็ท่าทางจะชอบมันด้วยสิ
“เดี๋ยวๆ มึงมาด่ากูเพื่อ...”ผมหันไปด่ามัน
“เพื่อคุณกรีนง่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณกรีน เห็นแต่ในทีวีว่าหล่อแล้วนะครับ แต่เห็นตัวจริงแล้วผมว่าไม่หล่อเลย”ไอ้นี่ มันกวนตีนผมมากไปแล้ว ผมรีบโอบไหล่เขาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไอ้หล่อก็ช่างแต่ผมว่าคุณ....”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยอะไรเสียงไอ้เพื่อนรักของผมก็เอ่ยขึ้นตัดบท
“แต่คุณกรีนอ่ะ น่ารักมากกว่าหล่อเสียอีก เสียดายนะครับที่มาหลงไอ้เฒ่าแถวนี้”
“ไอ้ห่าปากดีนะมึง แล้วนี้กูจะเข้ามาอยู่ได้เลยใช่ม่ะ”ผมเอ่ยถามมัน
“อื้ม ได้เลย ว่าแต่มึงจะพาคุณกรีนมาอยู่อย่างลำบากกับบ้านไม้เก่าๆนี้หรอว่ะ”ปากหรอนั้น แต่ก็จริงนะบ้านของเขาใหญ่ยังกับวัง แล้วดูบ้านผมสิ
“ผมชอบนะ ผมว่ามันเล็กๆน่าอยู่ดี ร่มรื่นมากด้วย ว่าแต่ทำไมตกแต่งเป็นสีนี้หมดหล่ะครับ มันดูกลืนไปกับต้นไม้ข้างนอกมากเลย
“ก็ผมชอบสีเขียวนี่ครับ”ผมเอ่ยขึ้น แต่ก็ต้องหันไปมองไอ้เพื่อนรัก ตอนนี้ผมว่าจะเริ่มไม่รักมันแล้วหล่ะ
“ไอ้ตอแหล มึงชอบสีม่วงกูรู้ แล้วมึงชอบสีเขียวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”
“ตั้งแต่ตอนที่เจอคุณกรีนนี่หล่ะ ทำไมหรอมึงจะทำไม”ผมเอ่ยว่ามันก่อนจะวิ่งไล่เตะเพื่อนรักของผมออกไป รอยยิ้มที่แปะอยู่บนใบหน้าของเขาและของผม
“คุณจะอยู่ดื่มกับคุณเก้าก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมให้เจ้าบลูมารับ”
“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวผมไปส่งคุณก่อนค่อยกลับมาก็ได้”
“โธ่ จะขับไปขับกลับทำไมกันครับ ผมเป็นห่วงนะ พอดีเจ้าบลูก็อยู่แถวนี้ด้วยผมเห็นพิกัด เดี๋ยวให้เจ้าบลูมารับก็ได้ครับ”
“เอางั้นหรอ”
“อื้ม แต่ว่าอย่าดื่มมากนะครับ พรุ่งนี้นัดลูกค้าไว้”
“ครับผม พรุ่งนี้ผมไปรับนะ ไปออฟฟิตกัน”
“ผมขับรถไปก็ได้ครับ”
“ผมรักคุณครับ คุณกรีน”ผมเอ่ยออกมา ทำเอาเขาเขินไปเลยก่อนจะรีบยกจานกับแกล้มไปที่โต๊ะ คืนนี้ผมชวนเขานอนที่บ้านเขาเองก็ไม่ยอมนอน บอกว่าอยากให้ผมอยู่กับเพื่อนบ้าง ผมรักเขาจัง ผมว่าที่จริงเขามีอะไรที่น่ารักเสมอ
“คุณเก้ายังไม่มีแฟนหรอครับ”เมียผมถามผู้ชายแบบนี้ได้ไงกัน ผมรีบกระแอมออกมา
“แฮ่มมม ทำไมหรอ จะหาให้มันหรอไง บอกไว้ก่อนนะไอ้เก้าอ่ะมันเสือผู้หญิง”
“แล้วไงว่ะ มึงยังไม่รู้จักชีวิตที่มีรสชาติเว้ย กูอ่ะเป็นพวกหาประสบการณ์ไม่เหมือนมึงหรอกทั้งชีวิตก็คงมีคุณกรีนหล่ะมั้งเป็นคนที่สองที่มึงหยุด”ผมรีบหันไปทางคนข้างๆทันที เขาเองก็หันมาทางผม สายตาที่มองทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดทันที
อึก...
“คนที่สองหรอครับ แสดงว่ามีคนแรกใช่ไหมครับ”โอ๊ยนี่หล่ะเขาเรียกว่าเซ้นต์เมียแรง แต่ไอ้เพื่อนเวรมันจุดไฟมันก็ต้องดับไฟได้สิ ผมเตะไปที่ขามันแรงๆเพื่อเรียกสติ
ปึก!
“อ่อ นานแล้วครับ น่าจะห้าหกปีแล้วหล่ะ ตอนนี้มันก็มีแต่คุณนี่หล่ะ”ค่อยยังชั่ว อย่างน้อยมึงก็เพื่อนกู ซึ่งรอยยิ้มที่ถูกส่งมาก็ทำให้ผมรู้ว่าเขาเองก็มีเหตุผลพอ ก่อนที่เสียงรถของน้องชายของเขาก็แล่นมาจอดหน้าบ้าน
“รถคุณบลูหรือเปล่าครับ”ผมเอ่ยถาม
“อ่อ ใช่ครับ”เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมองน้องชายของเขาที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะยกมือไหว้ผม
“สวัสดีครับพี่กูร เฮีย แล้ววววว”
“อ๋อ นี่เพื่อสนิทพี่เองชื่อพี่เก้า คุณบลูน่าจะต้องเรียกพี่เก้าอ่ะ ถูกแล้ว”ผมเอ่ยแนะนำ
“สวัสดีครับพี่เก้า...”ไอ้เก้าเองกลับนิ่งไป อ้าปากจนเมลงวันจะบินเข้าปากแล้ว
“ไอ้เชี่ยเก้า น้องเขาสวัสดีมึงอ่ะ”ผมเอ่ยด่ามันเบาๆ
“อ่อ สวัสดีครับ”
“เฮียกลับกันเลยไหม”
“อื้ม งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณเก้า และคุณก็อย่าดื่มมากนะครับ พรุ่งนี้มีนัดลูกค้า”ดูเมียผมสั่งสิ โอ๊ยไม่อยากให้กลับเลยอ่ะ อยากให้นอนที่นี่จริงๆ
“ครับผม เดี๋ยวผมไปส่งหน้าบ้าน”ผมเอ่ยก่อนจะเดินออกไปส่งเขา ก่อนจะกลับมานั่งดื่มกับเพื่อนรักของผมต่อ สรุปคือคืนนี้ผมต้องมีไอ้เก้านอนเป็นเพื่อนแทน ไม่ต้องการเลยจริงๆ
เช้าวันรุ่งนี้ ไม่เช้าหรอกผมคิดน่าจะสายมากกว่า เกือบแปดโมงที่เสียงมือถือผมดังขึ้นตื่น ข้อความจากคุณกรีนที่ส่งมาบอกให้ผมรีบตื่นและรีบไปทำงานได้แล้ว
“อื้อออออ ไอ้เก้าตื่นได้แล้ว ไปทำงานได้แล้วมึง”ผมเตะเพื่อนรักที่นอนอยู่ที่พื้นห้องอีกฟาก
“งื้ออออ มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูล๊อคบ้านให้เอง”เอากับมันสิ นี่หล่ะผมว่ามันควรจะใช่ชีวิตเสเพลคนเดียวแบบนี้เหมาะที่สุด
ผมออกจากบ้านเก้าโมง และกว่าจะถึงออฟฟิตก็เกือบสิบโมงตามเวลานัด แต่คนที่มารอผมก่อนหน้าที่คือลมหายใจของผม เสียงออฟฟิตผมคึกคักเป็นพิเศษที่ตอนนี้มีดาราดังมานั่งอยู่ให้สาวๆแทะโมมอย่างสนุก
“คุณกรีนคะ รับกาแฟไหมคะ”
“คุณกรีน มีขนมด้วยนะคะ”
“คุณกรีน กลางวันนี้ไปทานข้าวกับพวกเราไหมคะ”
“คุณกรีนขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ จะเอาอวดเพื่อน”
เสียงจอแจของสาวๆออฟฟิตผมทำเอาผมอยากจะโยนมือถือลงตรงกลางวงจัง งานการไม่ต้องทำกันแระ แล้วนี่ผมจะต้องให้คนอื่นแทะโมเมียตัวเองอีกนานไหมเนี้ย
ปึง ปึง ปึง
“นี่ๆ งานการไม่ต้องทำกันแล้วใช่ปะ เจริญหล่ะออฟฟิตฉัน”ผมเอ่ยอย่างหงุดหงิด
“โธ่ พี่กูรอ่ะ แค่น้ำจิ้มหน่า พอหอมปากหอมคอ นานๆทีจะมีคนหล่อมาออฟฟิต วันๆเห็นแต่ไอ้หน้าโหดอย่างไอ้ก้องและไอ้หน้าจืดอย่างไอ้ดรัม มันน่าเบื่ออ่ะ”
“อะไร อะไรเจ๊...”
“ไม่ต้องพูดมากเลย แกอ่ะตัวดีเจ้ามิ้น แล้วนี่ลูกค้าที่นัดมาหรือยัง”ผมเอ่ยขึ้นถามก่อนจะหันไปบอกคนข้างๆให้เข้าไปในห้อง
“เมื่อสักครู่โทรมาบอกว่าถึงแล้วคะ”
“อ่อ งั้นคุณกรีนมาถึงนานยังครับ แล้วทานอะไรมาหรือยัง”เสียงและใบหน้าผมเปลี่ยนไปจากที่ดุมาเป็นเสียงหวานอ่อนโยน
“พี่กูรนี่สองมาตรฐานสุดๆเลยอ่ะ ทีกับลูกน้องนี่ดุชะมัดแต่ทีกับแฟนนี่เสียงหวานเชียว”
“แล้วไงอ่า อยากให้เสียงอ่อนเสียงหวานด้วย ก็เกิดเป็นคุณกรีนสิ ฮ่าๆๆ”ผมหัวเราะออกมาเสียงดังจนคนข้างๆฟาดมือมาที่แขนผมเบาๆ
“โอ๊ย เจ็บนะครับ ตีผมทำไมเนี้ย”
“คุณอ่ะ ชอบแกล้งน้องๆนะครับ ว่าแต่ทานอะไรหรือยังผมเอาอาหารเช้าจากที่บ้านมาให้ด้วยอยู่ในห้องทำงาน”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้าห้องทำงานผมไป
“ผมรักคุณจังเลยอ่ะ รักที่สุด”ผมเอ่ยคำหวานออกมาก่อนที่จะหันไปชี้หน้าลูกน้องในออฟฟิตที่ตอนนี้ทำหน้าตาทะเล้นกับผม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเดินเข้าห้องทำงานเสียงของเจ้ามิ้นก็ดังขึ้น
“พี่กูร ลูกค้ามาแล้วคะ จะให้มิ้นพาไปห้องทำงานหรือห้องประชุมคะ”ผมหันไปทางเจ้ามิ้นกะจะบอกให้พาไปห้องประชุมแต่แขกที่มาหาผมกลับทำให้ผมนิ่งไปทันที
“สวัสดีคะกูร สบายดีนะคะ”เสียงหวานหู ดวงตาที่สวยงาม ใบหน้าขาวสวยดูสง่า ริมฝีปากแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ผมไม่เคยลืม
“แคท...”ผมเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะหันไปทางห้องทำงาน เพราะตอนนี้ร่างสูงโปร่งตัวขาวที่จัดอาหารให้ผมอยู่ในห้อง กำลังเปิดประตูออกมา
“คุณกูร จะทานข้าวเลยไหมครับ”เสียงเอ่ยบอกผมเงียบลง แต่ผมไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะหันไปบอกมิ้น
“มิ้นพาคุณแคทไปที่ห้องประชุมก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”ผมเอ่ยขึ้นสายตาไม่สบตาแคทเลย เพราะผมกลัวว่าคนที่เดินมาข้างๆผมจะรุ้ว่าเธอเป็นใคร แต่ผมอยากรู้ว่าเธอมาทำไมที่นี่
“กูรคะ ถ้าไม่สะดวกแคทไปก่อนก็ได้คะ แค่ผ่านมาแถวนี้เลยอยากมาทักทายคนคุ้นเคยก็แค่นั้นเอง ไปก่อนนะคะแล้วแคทจะโทรหา”เธอเอ่ยเสร็จก็เดินออกไปทันที ผมไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร และรู้อะไรมาแต่ที่แน่ๆตอนนี้ผมเห็นคนข้างๆของผมนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“จะทานข้างไหมครับ หรือว่าไม่หิวแล้ว”เขาเอ่ยถามผม
“เข้าไปข้างในนะครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะพาเขาเข้ามาในห้องทำงาน ใบหน้าที่ดูฝืนยิ้มของเขามันเป็นคำถามที่อยากถามผมมาก และผมเองก็ไม่ปิดบังอะไรเขา ผมเล่าเรื่องราวให้เขาฟังทั้งหมด ไม่มีน้ำตาเลยสักนิด และผมเองก็ไม่ได้อยากให้เขามีน้ำตา
“เชื่อใจผมนะครับ ผมรักคุณ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากและหน้าผากของเขาเพื่อบอกความในใจของผม
“ครับ ผมเชื่อใจคุณ ผมรักคุณครับ”ผมยกยิ้มออกมา แม้จะดูคลุมเครือแต่ผมก็จะทำให้เขาเห็นว่าผมรักเขาจริงๆ และมีเขาเพียงคนเดียว
............................
"ของเก่าไม่รับรีเทิร์น"
[/size]

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #161 เมื่อ17-02-2018 21:03:23 »

 :L2: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #162 เมื่อ17-02-2018 22:36:07 »

มาแบบนี้มีแผนแน่ะๆๆ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #163 เมื่อ18-02-2018 11:00:02 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #164 เมื่อ20-02-2018 12:28:00 »

เหมือนมีแผนการณ์

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน -The End-
«ตอบ #165 เมื่อ24-02-2018 19:44:35 »

Green Light 10 : หยุด  (ชยางกูรxอนาคิม)
ชยางกูร พาร์ท
ผมเดินเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมจำได้ดีว่าร้านนี้ผมเองไม่อยากจะเข้ามาก่อน เพราะราคาอาหารที่แสนจะแพงลิ่ว แถมมีแต่คนไฮโซทั้งนั้นที่มานั่ง นับจากครั้งที่แพทเคยชวนผมมาทานครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ไม่ใช่คนที่มีเงินมากมายนัก
“จองไว้ครับ”ผมเอ่ยบอกบริกรที่เดินเข้ามา เมื่อผมเดินเข้าร้าน
“คุณชยางกูรใช่ไหมครับ”
“ครับ”
“ทางนี้ครับ”ผมเดินตามบริกรมาที่มุมร้าน เป็นมุมวีไอพีของร้าน ร่างหญิงสาวในชุดเดรสสีน้ำเงินคราม ไหล่และหลังที่กำลังเผยออกมาจากชุดที่เว้าจนเห็นชัดนั้น ผมเองยอมรับว่าแพทยังสวยเหมือเดิม
ผมนั่งลงตรงหน้าหญิงสาว ใบหน้าขาวเรียว ริมฝีปากแสนจะได้รูป แต้มไปด้วยลิปสติกสีสวย แววตาและแววตาที่ผมเคยหลงใหล สายตาที่มองมายังผมแสนยั่วยวนนัก
“แพท”ผมเอ่ยทักเธอ เมื่อช่วงบ่ายเธอโทรหาผมบอกว่าธุระจะคุยด้วย ผมเองก็ไม่ได้บอกคุณกรีนว่าจะมาหาเธอ และอีกอย่างวันนี้เขาต้องไปทานข้าวที่บ้านใหญ่ด้วย ผมจึงไม่ได้บอกเธอ
“กูร มาแล้วหรอคะ ทานอะไรหรือยัง ให้แพทสั่งให้ไหม”เธอเอ่ยขึ้น ผมมองหน้าเธอนิ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คุณธุระอะไรก็ว่ามาเถอะ”ผมเอ่ยขึ้น กลัวว่าคุณกรีนจะโทรมาตอนนี้เพราะผมเองบอกเขาว่าจะรีบตามออกไป วันนี้พวกเราต้องไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่
“หึ ดูห่างเหินจังนะคะ คุณแพทหรอ คำนี้ช่างไม่ลื่นหูเอาเสียเลยนะคะ”เธอเอ่ยแหนบ
“ไม่ลื่นหูก็ไม่ลื่นหูครับ ว่าแต่คุณมีธุระอะไรก็พูดมาเถอะครับ เดี๋ยวผมต้องมีธุระต่อ”ผมเอ่ยขึ้น
“ธุระอะไรหรอคะ สำคัญกว่าแพทไหม”เธอเอ่ยแบบนี้คืออะไร ต้องการอะไรกันแน่
“ครับ สำคัญกว่าคุณ และเขาก็สำคัญกับชีวิตผมมาก”
“มากหรอคะ มากกว่าที่คุณเคยมีกับแพทหรอคะ”ผมปรายสายตามองเธอ ก่อนจะยกยิ้มให้
“ครับ มากกว่า”ผมเอ่ยอย่างไม่คิด เพราะมันคือเรื่องจริง ผมว่าผมรักคุณกรีนมากกว่าตอนที่ผมรักแพทเสียอีก ผู้ชายอย่างคุณกรีนคือคนที่ผมต้องการที่จะถนอมและปกป้องเขา
“หึ น่าอิจฉาผู้ชายคนนั้นนะคะ แพทคิดไว้อยู่แล้วว่าคุณต้องพูดออกมาแบบนี้”ผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะมองหน้าเธอที่ยกยิ้มหวานออกมา พร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มอีกคนที่กำลังเดินเข้ามา
“แพทริค”ผมงงไปหมดแล้ว ยิ่งเห็นแพทและชายหนุ่มที่เธอเรียกกำลังหวานชื่นกันผมยิ่งไม่เข้าใจ
“นี่มัน...”ผมเอ่ยออกมา
“ไม่มีอะไรคะ ที่แพทนัดคุณมาวันนี้แค่จะเชิญคุณไปงานแต่งของแพทแค่นั้นเอง”ผมได้ยินประดญคนี้ก็หัวเราะออกมาทันที
“นี่มันอะไรกันเนี้ย ทำไมไม่บอกผมดีๆหล่ะ เอาผมตกใจหมด”ผมเอ่ยอย่างโล่งใจ
“ก็แพทอยากแน่ใจก่อนนี่คะ ว่าคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับแพทแล้ว”
“โธ่ ยินดีด้วยนะ ผมไปแน่นอน”ผมเอ่ยพร้อมกับมองการ์ดที่กำลังยื่นมาให้ผม
“พาเขาไปด้วยนะคะ แพทออยากบอกเขาว่าคุณดีแค่ไหน”
“แน่นอนครับ ว่าแต่คุณแพทริคต้องเหนื่อยหน่อยนะครับที่มาเจอผู้หญิงบ้างานสังคม ฮ่าๆๆ”
“โธ่ กูรก็...”ผมหัวเราะออกมาพร้อมรอยยิ้ม ที่เรียกว่าความสุขที่แท้จริง ผมไม่มีอะไรค้างคากันอีกต่อไป
ผมขับรถมาที่บ้านหลังใหญ่ บ้านหลังที่ผมเพิ่งได้เป็นสมาชิกคนล่าสุด บ้านที่ผมกลับหลงรักสะใภ้ของที่นี่ตั้งสองคน ผมจอดรถเทียบรถอีกหลายคนที่จอดอยู่ แม้ว่าคุณเกรย์และคุณรอยด์จะไปอยู่เมืองนอกแล้วแต่บ้านนี้ยังคงคึกคักน่าดู
“สวัสดีครับ”ผมเอ่ยทักทุกคนที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกันอยู่
“อ้าว ไหนว่าจะมาดึกหน่อยครับ”ร่างโปร่งของคุณกรีนเอ่ยพร้อมยกจานอาหารเข้ามา เวลาเขาเป็นแม่บ้านแม่เรือนผมว่าเขาน่ารักมาก
“ก็จะดึกนั้นหล่ะ แต่เพราะคิดถึงคุณมากเลยรีบทำธุระให้เสร็จ”ผมเอ่ยหยอดเขา บางทีผมว่าไอ้เก้ามันก็พูดถูกนะที่บอกว่า ผมไม่เหมาะกับเล่นมุขอะไรเลยเพราะมันเสี่ยวเกินไป
“โอ๊ย หวานไปไหมฮะ เดี๋ยวจะทานข้าวไม่ได้กันซะก่อน”
“อิจฉาหรอไงเจ้าบลู”เสียงของคุณหมอไวท์เอ่ยแซวเมื่อทุกคนมานั่งประจำที่
“จริงสินะ มีเจ้าบลูกับหนูพิ้งค์ที่ยังไม่เคยพาใครมาแนะนำให้ที่บ้านรู้จัก”คุณแบล๊คเอ่ยขึ้น
“ตอนนี้หนูพิ้งค์ไม่มีหรอกฮะ แต่น่าจะเร็วๆนี้นะ ฮ่าๆๆ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนที่พวกเราจะหันไปมองตามเสียงที่ดังขึ้น
เคร้ง..!
“เจ้าเลิฟ เป็นอะไรเนี้ย ของคุณๆเลอะหมด หลบๆเดี๋ยวเศษจานบาดเอา”เสียงป้าลินโวยวายขึ้นด้านหลัง
“เสียงอะไรอ่ะป้าลิน”เสียงคุณแบล๊คเอ่ยขึ้นถาม
“ไม่มีอะไรคะนายท่าน แค่เจ้าเลิฟทำจานตกอ่าคะ”พวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะทานอาหารไปด้วย คุยกันไปด้วย
ผมและคุณกรีนเดินมาย่อยอาหารด้านริมสระน้ำของบ้าน มันก็เรื่องปกติสำหรับเราสองคน แต่วันนี้ผมเองกลับอยากจะบอกอะไรบ้างอย่างกับเขา บางอย่างที่เรียกว่า การใช้ชีวิต
“คุณกรีน”ผมเอ่ยเรียกเขา มือทั้งสองของเรายังคงประสานกันทั้งห้านิ้วไว้แน่น
“ครับ”เขาหันมาถามผม สายตาที่หันมาทางผม ริมฝีปากอวบอิ่มที่ผมหลงใหล ผมยกมือเชยที่ปลายค้างของเขาให้เชิดขึ้นก่อนทีจะกดจูบที่ริมฝีปากนั้นเบาๆ แต่ไม่มีการรุกล้ำใดๆทั้งนั้น
“อื่ออออ”เสียงครางเบาๆในลำคอ ผมผละจูบออกและเอ่ยขึ้น
“คุณกรีน แต่งงานกันนะครับ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับคุกเข่าลง มืออีกข้างล้วงกล่องกำมะหยี่สีเขียวขึ้นมา
“นี่มันอะไรกันครับ”ผมยกยิ้มขึ้นก่อนจะมีเสียงตะโกนดังขึ้นจากอีกทาง เมื่อผมจับแหวนขึ้นมาเพื่อจะขอมือเขามาเพื่อสวมแหวนที่นิ้ว
“อย่าเล่นตัวดิเฮีย เดี๋ยวพี่กูรเปลี่ยนใจ จะมานั่งร้องไห้ให้เค้าปลอบไม่เอานะ”
“ไอ้เด็กบ้า เล่นตัวที่ไหนกันเล่า แค่กำลังอึ้งอยู่ว่าเราต้องยื่นมือข้างไหนต่างหากหล่ะ”น่ารักที่สุดเลย ผมยิ้มออกมาก่อนจะดึงมือซ้ายและนิ้วนางข้างซ้ายที่ผมกำลังจะสวมแหวนให้กับเจ้าของหัวใจ
“ผมรักคุณนะครับคุณกรีน”
“ผมก็รักคุณครับ คุณโปรดิวเซอร์ ผู้จัดการชีวิตของผม”เราสองคนสวมกอดกันแน่น ก่อนจะยกมือทั้งสองมาทาบกันโดยมีแหวนที่นิ้วเป็นพยานว่าเขาเป็นของผมแล้ว
+++++++++



อนาคิม พาร์ท
จะถามผมว่า ผมทำไมถึงยอมผู้ชายคนนี้นักทั้งๆที่ปากบอกเกลียดตั้งแต่แรกพบ แต่ตอนนี้กลับยอมเขาทุกอย่าง ก็เพราะความรัก ความหวังดี ละความจริงใจที่เขาแสดงออกมา และตอนนี้ผมก็ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ของเราสองคน มันคือเรือนหอของผมและเขา
“บ้านน่ารักมากเลยอ่ะ ร่มรื่นด้วย”เสียงหนูพิ้งค์เอ่ยออกมา
“อากาศดีมากเลยนะ”เฮียแบล๊คเอ่ยขึ้นพร้อมโอบไหล่ซ้อใหญ่ของเราไว้แน่น จนเจ้าบลูต้องแซว
“เฮียไมม่ต้องกอดซ้อแน่นขนาดนั้นหรอก คุณกูรเขาไม่สนใจซ้อแล้วหล่ะ”
“อะไร เฮียแค่เคยชินเฉยๆ ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นคือใครอ่ะ”เพวกเราหันมองตามเฮียไปยังผู้ชายร่างสูง ผมยกยิ้มออกมา
“อ่อ นั่นคุณเก้าครับเป็นคนตกแต่งบ้านหลังนี้ เป็นเพื่อนสนิทคุณกูร”ผมเอ่ยก่อนจะยกมือบอกคุณกูเป็นเชิงบอกให้พาคุณเก้ามา
“สูงมากเลยนะครับ”เสียงหวานของซ้อผมเอ่ยขึ้น ก่อนที่สองร่างสูงบจะเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร วันนี้มีแต่ครอบครัวของเราเท่านั้นที่มาร่วมงานของเรา เป็นเพียงงานแต่งเล็กๆหลังจากเมื่อเช้าเราไปที่วัดเพื่อทำบุญและสวมแหวนต่อหน้าเฮียเท่านั้น
“สวัสดีครับทุกคน”เสียงเอ่ยของคุณกูรเอ่ยขึ้น ก่อนจะดึงมือเพื่อนรักของเขาเข้ามา
“ไอ้เก้านี่คุณ....”เขาเอ่ยเรียกเพื่อนเขาก่อนจะแนะนำว่าพี่น้องผมมีใครบ้างและตัวเพื่อนเขาเป็นใคร ซึ่งดูท่าทางเฮียแบล๊คจะชอบด้วยสิ เห็นคุยเรื่องตกแต่งที่ทำงานใหม่
......
“คุณเก้านี่เก่งนะครับ ไม่ได้เรียนด้านมัฑนาฯมาก่อนแต่สามารถตกแต่งได้สวยงามมาก”
“คุณอนาคินก็ชมเกินไปครับ เมื่อตอนเด็กๆผมชอบเรียนและเขียนแบบมาก แต่เพราะสอบไม่ติดเลยมาเรียนนิเทศฯ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความในนะครับ ก็ยังเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ก็พอทำได้บ้าง”
“ถ่อมตัวนะครับ แต่เห็นคุณบอกว่าชอบการเขียนแบบ  งั้นดีเลยเจ้าบลูเราเรียน Interior Design แถมจะจบแล้วนี่เรา ไปเรียนรู้กับคุณเก้าไหม”
“ไม่เป็นไรเฮีย เค้า...”ผมหันไปมองเจ้าบลูที่เอ่ยขึ้นแต่ยังเอ่ยไม่จบคุณกูก็เอ่ยสวนขึ้นมา
“เจ้าเก้าเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยด้วยนะครับ ปรึกษาได้เลยนะ”
“จริงหรอครับ งั้นตามนั้นเลยเจ้าบลู”คุณหมอเอ่ยขึ้นก่อนที่เสียงหวานของซ้อและน้องซีจะเอ่ยขึ้นตัดบท
“อาหารมาเพิ่มเล็กน้อยนะครับ พอดีว่าป้ารินแกเห็นด้านหลังบ้านมียอดตำลึงเยอะมากเลยอ่ะ เลยทำแกงจืดลูกรอกมาให้”เสียงหวานของซ้อเอ่ยขึ้น พวกเรายกยิ้มขึ้นก่อนที่เฮียจะเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวเฮียให้บัวมาอยู่ด้วยนะ ที่นี่ไม่ใครเลยจะได้ช่วยทำกับข้าวและทำความสะอาดบ้านให้”
“ไม่เป็นไรครับคุณอนาคิน บ้านก็ไม่ได้หลังใหญ่มาก และอีกอย่างเราสองคนก็กลับบ้านไม่เป็นเวลาด้วย”คุณกูรเอ่ยขึ้น ก็เรื่องจริงอย่างที่เขาว่า
“ใช่ ให้บัวช่วยที่บ้านนั่นดีแล้ว ส่วนที่นี่...”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยต่อเฮียก็ตัดบทผมซะแล้ว
“เฮียถามอะไรหน่อย ว่าตั้งแต่เกิดมาแกเคยจับไม้กวาดม่ะ เคยเปิดเตาแก๊สม่ะ และที่สำคัญ รู้ไหมว่าเครื่องซักผ้าของบ้านอยู่ตรงไหนแล้วต้องกดอะไรก่อน”เอาผมอ้าปากค้างเลย ก็ที่เฮียเอ่ยมาคือผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆตามที่เฮียพูดมา
“โธ่ เฮียอ่ะอย่ามาขายกันแบบนี้ดิ เค้าออกเรือนแล้วนะ ยังไงเค้าก็จะลองทำหรอกหน่า”ผมเอ่ยออกมา มือหนาโอบไหล่ผมไว้ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวมือของคุณจะด้านซะเปล่า ผมทำให้เอง”คำพูดดูไม่หวานมากแต่ทำให้ผมเขินได้มากขนาดนี้เลยหรอ ผมหันไปยิ้มหวานให้ก่อนที่เสียงเล็กของหนูพิ้งค์จะเอ่ยขึ้น
“วุ้ยยยยย แกงจืดนี่หวานไปนะฮะ”ใบหน้าน่ารักเอ่ยขึ้น พวกเราจึงพากันหัวเราะออกมากับความน่ารักของหนูพิ้งค์
“จริงหรอครับ ไหนผมลองหน่อยนะ”เสียงนุ่มของคุณเก้าเอ่ยขึ้นพร้อมตักแกงจืดขึ้นมาซด ก่อนจะทำหน้าตาบ่งบอกว่ามันหวานมากจริงๆ
“อื้อ จริงๆด้วยครับ หวานจนเลี่ยนเลยว่าไหมน้องพิ้งค์...”พวกเราเริ่มรู้แนวแล้วว่าเราคงได้สมาชิกใหม่เพิ่มอีกคน เพราะความชัดเจนของคุณเก้าที่บ่งบอกว่าชอบหนูพิ้งค์ของเรามาก
“เพื่อนบ้า อย่ามาล้อกันดิ”เสียงเอ่ยของคุณกูรเอ่ยขึ้น
งานเลี้ยงของเรา งานเลี้ยงของผมและคู่ชีวิตของผม หลังงานเลี้ยงเลิกราคืนนี้คือคืนแรกที่ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเจ้าของบ้าน หลังจากที่เราเข้ามาไหว้แม่ของเขาแล้ว เราทั้งสองก็พากันมาที่ห้องนอนของเรา
หมับ!
“อ๊ะ...คุณกูร อย่าเพิ่งสิครับ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะและคุณเองก็ควรจะไปอาบน้ำได้แล้วครับ”
“ไม่อ่ะ อยากกับคุณก่อน”ดูเขาพูดสิ ไม่อายเลยสักนิด ผมหน้าร้อนเห่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“พูดไม่อายเลยนะครับ หึ ว่าแต่อยากอะไรอ่ะ”ผมเอ่ยออกมาแบบยียวนเพราะรู้ดีว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมเองพูดอะไรไม่ออกนอกจากเสียงร้องครางออกมาเท่านั้น
ร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งสองที่กำลังขยับเบียดเข้าหากันอยู่บนเตียงสีเขียว ห้องนอนสีเขียว ผมได้รับความอบอุ่นและอ่อนโยนจากเขา เป็นความรู้สึกที่บอกได้เพียงคำเดียวว่ามันคือความรัก
จุ๊บ จุ๊บ
“อ่าห์...ผมพร้อมแล้ว คุณกูรของผม”เสียงนี้ผมเอ่ยบอกเขาเอง เอ่ยบอกและยั่วยวนเขา ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นผมเพิ่งไล่เขาไปอาบน้ำไม่ใช่หรอไง
“ร่างกายนี้เป็นของผมใช่ไหมที่รัก”
“อ่าห์...”
“ริมฝีปากนี้เป็นของผมใช่ไหม”
“อื่อ...”
“อกสวยนี้ มือนี้และตรงนี้เป็นของผมใช่ไหมครับ คุณกรีนของผม”
“อื้มมมม”
“หัวใจนี้เป็นของผมใช่ไหม...”ผมได้แต่เพียงครางออกมาทุกครั้งที่เขากดย้ำที่จุดต่างๆของผม ผมมอบทุกอย่างให้เขาไปหมด ทั้งๆที่ไม่เคยคิดว่าเราเพียงผ่านเข้ามาเจอกันในวันที่เราไม่รู้เลยว่าเราสองคนจะลงเอ่ยกันแบบนี้ได้ บางทีผมน่าจะขอบคุณประสบการณ์ที่ผมได้พบเจอมา เพราะถ้าไม่มีเรื่องราวของวันนั้น คงไม่มีเรื่องราวของวันนี้ เรื่องราวของคนที่ผมรักและรักผมแบบนี้
.....The End...
อีกมุมหนึ่งของบ้าน ที่ตอนนี้น้องคนเล็กสุดของบ้านอย่างหนูพิ้งค์ที่กำลังเดินมาส่งแขกอย่างเก้า ใบหน้าคมมองไปยังใบหน้าหวานสมกับชื่อของคนตัวเล็ก

"ขอบคุณมากนะครับที่มาส่งพี่"

"ไม่เป็นไรครับ เพราะยังไงหนูพิ้งค์ก็กลับกับเฮียบลูอยู่แล้ว ว่างไปเที่ยวที่บ้านได้นะครับ"

"ได้ครับ น้องพิ้งค์น่ารักจัง"

"หนูพิ้งค์ ขึ้นรถได้แล้ว และรีบลาคุณลุงเก้าด้วย"เสียงบลูเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ

"ลุงเลยหรอ เจ้าเด็กบ้านี่"เสียงเอ่ยในใจพร้อมสายตาที่หันไปมองคนที่ยืนอยู่ที่รถ

"ถ้าคุณจะจีบหนูพิ้งค์ ผมจะบอกอะไรให้นะครับว่าน้องผมยังเล็กอยู่"

"งั้นจีบคุณได้ไหมหล่ะ ในเมื่อคุณก็จะจบมหาวิทยาลัยแล้วนี่"

"ฝันไปเถอะครับ เพราะผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ถึงชอบก็ไม่ได้ชอบผู้ชายแก่ๆ"บลูเอ่ยเสร็จก็เดินขึ้นรถและขับออกไปทิ้งให้ชายแก่ๆที่ตอนนี้กำลังกำหมัดแน่น

"ไม่ชอบผู้ชายหรอ แถมแก่ด้วย เอาสิคอยดูสักตั้งพ่อหนุ่มน้อย สีฟ้า"
"วันหนึ่งคนที่เดินผ่านเราอาจจะเป็นคนที่เราจะอยู่ด้วยตลอดชีวิตก็ได้"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2018 19:49:28 โดย Papai »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #166 เมื่อ25-02-2018 08:34:12 »

เดาผิด อิอิ ดีใจทุกอย่างลงตัว

รอคู่บูลน่าจะกัดกันบ่อย อิอิ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Green Light เพียงแค่ผ่าน
«ตอบ #167 เมื่อ25-02-2018 11:32:13 »

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ อีก 1 เรื่อง ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics : ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #168 เมื่อ26-02-2018 19:48:15 »

​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
[/b][/size]


นพเก้า นิโสรมย์
[/b]
อาจารย์พิเศษแสนเจ้าเล่ห์และแสนยียวน อายุ 28 ปี เพราะเขาต้องไปช่วยงานเพื่อนสนิท ทำให้เขามาเจอผู้ชายคนหนึ่ง แรกเห็นกลับหลงใหล แรกสัมผัสกลับต้องการ เพียงเพราะคิดว่าหลงรักผู้ชายที่ทำอะไรดูจะขัดตาไปหมด ยิ่งโกรธยิ่งรัก ยิ่งงอนยิ่งง้อ ยิ่งด่ายิ่งหลงใหล และยิ่งเกลียดกลับต้องการ นพเก้าทำทุกอย่างเพื่อให้นาคินไปไหนมาไหนด้วย ยิ่งนาคินกันน้องชายคนเล็กจากนพเก้า ยิ่งทำให้ใกล้ชิดกัน ไม่เคยคิดว่าผู้ชายหน้านิ่งๆ ปากร้ายแต่ดูอ่นไหวเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอด

นาคิน กิจสุนทรวิริยะกุล
[/b]
ทายาทคนที่ห้า อายุ 22ปี ชายหนุ่มที่มาด้วยความเท่ห์ เรียนปีสุดท้ายด้านออกแบบ เพราะถูกพี่ชายคนโตบังคับให้เรียนทั้งๆที่เขาอยากเรียนนิเทศาสตร์มากกว่า แต่ก็รู้ว่าพี่ชายหวังดีกับเขา และสิ่งที่คิดว่าไม่ชอบกลับเป็นชอบ ด้วยความที่เป็นคนนิ่งๆ ไม่เคยจะโกรธใครเลยและเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงทำให้คนรอบข้างมองว่าเขาอยากเด่น อยากดังจึงไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยเพราะเขามีพี่น้องที่รักกันมาก จนวันหนึ่งเขากลับมีคนเข้ามาในชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งคน คนที่เป็นทุกอย่างที่ไม่อยากจะเจอ ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ ยิ่งไม่ชอบยิ่งรัก


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #169 เมื่อ26-02-2018 21:36:31 »

 :L2: :L1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
« ตอบ #169 เมื่อ: 26-02-2018 21:36:31 »





ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #170 เมื่อ27-02-2018 14:05:04 »

มาติดตาม สี ต่อไปกันต่อ ..

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #171 เมื่อ27-02-2018 14:36:14 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #172 เมื่อ27-02-2018 20:15:28 »

รอๆๆๆๆๆๆๆ
คู่นี้ท่าจะฟัดกันน่าดู อิอิ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #173 เมื่อ28-02-2018 19:38:15 »

Blue Lyrics 1: เผชิญ (นพเก้า xนาคิม)

นาคิน พาร์ท
ผมชื่อ นาคิน กิจสุนทรวิริยะกุล เป็นพี่น้องคนที่ห้าของตระกูล สีที่ผมชอบคือสีฟ้า เพราะชื่อของผมคือสีฟ้า ผมเรียนดีไซน์ ปีสุดท้ายแล้ว เฮียแบล็คอยากให้ผมไปช่วยงานที่บริษัท ชีวิตผมไม่มีอะไรที่น่าหวือหวานัก ผมอาจเป็นคนเรียบง่ายในบรรดาพี่น้อง ผมจะสนิทกับเฮียกรีนและหนูพิ้งค์มาก ในบรรดาพี่น้องของผม คงมีแต่ผมเท่านั้นที่ยังไม่รู้สึกว่าอยากจะมีใคร
“พี่บลูคะ”ผมหันมองตามเสียงเรียก
“อ้าวน้องฟาง มีอะไรหรอครับ”ผมเอ่ยพร้อมยิ้มให้กับรุ่นน้อง เธอชื่อน้องฟางเป็นน้องปีสอง เราสองคนมักจะถูกมองว่าเป็นแฟนกัน เพราะเธอจะมาหาผมบ่อยๆถามว่าเธอน่ารักไหม บอกเลยว่าเธอคืออดีตดาวมหาวัทยาลัยปีที่แล้ว
“อยากให้พี่ช่วยอธิบายวิชานี้ให้หน่อยคะ”ผมยกยิ้มและพาเธอเดินมาที่นั่งใต้ตึก ก่อนจะติววิชาที่เธอเองไม่เข้าใจ
เราใช้เวลาไม่นานนัก เธอเองก็บอกว่าเข้าใจแล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจเธอทำไมไม่ไปสักที ผมเองได้แต่ยิ้มอย่างเดียวอาจเป็นคนพูดน้อยผมจึงไม่มีอะไรจะคุยต่อ
“ฟางว่าเราไปหาอะไรกินกันไหมคะ”
“เอ่อ พอดีพี่ไม่ค่อยหิวอ่ะ น้องฟางไปทานคนเดียวได้ไหมคะ”ผมเอ่ย ก่อนจะเห็นคนตัวสูงที่กำลังเดินยิ้มเข้ามา ไม่อยากเจอก็ต้องเจอแล้วมาทำอะไรที่นี่ว่ะ ผมคิด
“ว้าว นี่ใช่ไหมอาจารย์พิเศษของคณะเราอ่ะ”ผมหันไปมองสาวๆที่กำลังชื่นชมผู้ชายที่เดินเข้ามา ผมคสดว่าเขามองเห็นผมแต่ผมเองไม่ได้ใส่ใจ ก่อนจะคว้ามือเล็กของน้องฟางและเดินออกจากตรงนั้น
“ไปทานข้าวกันคะ ไปที่ตึกสองนะ”ผมเอ่ย
“ทำไมต้องตึกสองคะ ตั้งไกลเรากินที่ตึกนี้ไม่ได้หรอคะ”จะมาดื้ออะไรตอนนีเนี้ยสาวน้อย ไปกินด้วยก็บุญแล้วมั้ย ผมคิด
“ตึกโน้นอร่อยกว่าคะ เดี๋ยวพี่พาไปกินของอร่อย”ผมเอ่ยพร้อมดึงมือหญิงสาวออกไปแต่ไม่ทันเท่าไอ้คนที่กำลังเอ่ยเรียกชื่อผม
“น้องบลู…น้องบลูใช่ไหม”เรียกดังขนาดนี้ไม่ใช่ไมค์เลยล่ะ ผมหยุดเท้าทันทีไม่ทันเท้ายาวของอีตาลุงนั่นจริงๆ
“นี่อาจารย์กับพี่บลูรู้จักกันด้วยหรอคะ”เรียกชื่อถูกขนาดนี้ น้องฟางคิดว่าเราคงไม่รู้จักกันมั้ง
“แค่เผินๆอ่ะ”ผมเอ่ยก่อนจะหันไปมองคนตัวสูงกว่า ผมว่าผมสูงตั้งร้อยแปดสิบกว่าแล้ว อีตาลุงนี่สูงแค่ไหนว่ะ ขายาวยังกับเปรต
“ไม่เผินๆนะ เพื่อนสนิทพี่เป็นผัวพี่ชายน้องบลูและพี่เองก็กำลังจีบ…”ไม่รอให้อีตาลุงบ้านี่พูดจบผมก็สวนขึ้นทันที
หมับ
อึก…
“ไม่มีทางที่ผมจะให้คุณจีบน้องชายผมหรอกนะ”ผมเอ่ยขึ้นสวนทันที ทำเอาสาวน้อยข้างๆนิ่งเล็กน้อยคงคิดว่าผมกับไอ้ลุงนี้ทำไมต้องทะเลาะกัน
“เอ่อ…คือ…”สาวน้อยข้างๆอึกอักน่าดูเพราะมือของผมมันกำลังอุดปากผู้ชายตัวสูงตรงหน้า ใบหน้าผมกลับแดงเห่อขึ้นเมื่อมือของอีตาลุงนั่นมันอยู่ที่เอวของผม
“ปล่อยเอวผมเดี๋ยวนี้นะ”ผมเอ่ยขู่ขึ้นเบาๆ อีตาลุงนี้ท่าจะเป็นพวกสวนกระแสหรอไง บอกให้ปล่อยเสือกกอดกูแน่นเชียว
“เอ่อ…คือ…”เสียงของน้องฟางยังคงอึกอักอยู่ แต่ผมกลับได้ยินแต่เสียงหัวเราะในลำคอของอีตาลุง
“เห็นตัวสูงๆ เอวเล็กจัง”โอ๊ย ต่อยปากคนแก่จะบาปไหมว่ะ ผมรีบสะบัดตัวหนีออก
“คุณ…”ผมเอ่ยออกมาแค่นั้นก่อนที่อีตาลุงจะหันไปหาสาวน้อยข้างๆผมที่ตอนนี้ยืนทำหน้าแดงอยู่
“นี่แฟนน้องบลูหรอ น่ารักจังเลยนะ”วุ่นวายฉิบหายเลย ผมรีบเอ่ยขึ้นทันที
“อย่าพูดพล่อยๆสิ น้องเขาจะเสียหายได้ ไปเถอะพี่หิวแล้ว”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนอยู่
“จะไปไหนกันหรอ ผมไปด้วยได้ไหม”ยังจะหน้าด้านตามมาอีกหรอ ผมทำท่าจะให้ไปบอกว่าไม่ต้องตามมา แต่กลับถูกน้องฟางตัดหน้าทันที
“เรากำลังจะไปทานข้าวที่ตึกสองคะ อาจารย์ไปด้วยกันไหมคะ”ผมอยากจะเดินหนีจากตรงนั้นจริงๆ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้ร่างสูงของอีตาลุงเดินลิ่วไปกับร่างบางของน้องฟางเรียบร้อยแล้ว
“อะไรของเขาว่ะ”ผมสบถกับตัวเองเบาๆ นับตั้งแต่วันที่ผมได้รู้จักอีตาลุงวันนั้น ช่างไม่ถูกชะตากับความเจ้าชู้และพูดไม่มีหลักการของเขาเลย คนแบบนี้หรอที่จะมาเป็นอาจารย์
ผมนั่งมองอีตาลุงที่ตอนนี้ดูท่าทางจะคุยเข้าขาดีกับน้องฟางเหลือเกิน ผมเบ้ปากเล็กน้อยเมื่อเห็นเขากำลังตักอาหารใส่จานของน้องฟาง
“ร้านนี้อร่อยอย่างที่พี่บลูบอกเลยนะคะ”ผมยกยิ้มอ่อนๆ
“ใช่ งั้นเรากินกินด้วยกันบ่อยๆดีไหม”ผมเบ้ปากใส่คนตรงหน้า
“ดีคะอาจารย์ ว่าแต่อาจารย์จะมีบรรยายปีสองด้วยไหมคะ หรือแค่ปีสี่อย่างเดียว”
“ปีสี่อย่างเดียวครับ เพราะว่าเด็กปีสี่ต้องมีพี่เลี้ยงและคนดูแลเพื่อที่จะจบออกไปสู่ตลาดภายนอก”
“ไม่จำเป็น”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มลงตักอาหารใส่ปาก
“น้องเมียเพื่อนนี่ตัวดีครับ คุณกรีนเขาฝากฝังผมเอาไว้และผมก็รับปากคุณกรีนเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมอยู่ของผมแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ต้องมาดูแลอะไรผมเลย”ผมรีบโวยวายขึ้นทันทีก่อนที่เสียงหวานของน้องฟางจะดังขึ้น
“ดูๆไปอาจารย์กับพี่บลูไม่น่าจะแค่รู้จักกันเพียงเผินๆเลยนะคะ ดูเหมือนคู่รักกันมากกว่าดูสนิทกันจัง”
“ไม่ใช่แบบนั้นเลยนะน้องฟาง พี่กับอีตาลุง…เอ่อ อาจารย์นพเก้าเราแค่รู้จักกันจริงๆ”
“งั้น เรามาสนิทกันก็ได้นะ สนิทตอนนี้เลยแล้วกัน”อีตาบ้านี่ ไม่พูดเปล่ายังจะย้ายก้นมานั่งข้างๆผมอีก โอ๊ยคนอะไรโตไม่รู้จักโต
ปึก
“อ๊ะ…คุณจะทำอะไรเนี้ย”ผมเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เมื่อร่างสูงตรงหน้าหย่อนก้นมานั่งข้างๆผมแล้ว
“ก็เริ่มสนิทไง เริ่มตอนนี้เลยนะ”ผมจะพูดอะไรออกได้หล่ะ ก็อีตาลงมันเล่นถ่ายรูปผมกับเขาพร้อมส่งไปให้เฮียกรีนดู พร้อมกับบอกว่าอยู่กับผมและกำลังเทคแคร์ผมอยู่
“เฮ้อออออ”ผมถอนหายใจออกมา ในเมื่อตอนนี้อีตาลุงมันตักนั่นตักนี่ให้ทั้งผมและน้องฟาง เกลียดอีตาบ้านี่จริงๆ ผมคิดแต่ก็ต้องนั่งกินต่อ
++++++++++
ผมขับรถมาถึงคอนโดก็เกือบจะสองทุ่ม เหนื่อยใจกับอีตาลุงมากไม่รู้ว่าผมทำเวรทำกรรมอะไรกับเขาไว้เมื่อชาติปางก่อนหรือเปล่า
“คนแก่อะไรว่ะ ดื้อชิบ”ผมสบถเบาๆกับข้อความที่ดังขึ้นต่อเนื่องก่อนจะทิ้งมือถือไว้ที่เตียงและคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมใช้เวลาไม่นานกับการอาบน้ำแต่ก็นานกว่าทุกครั้งที่ผมเคยทำ เพราะอยากจะพักสายตาและสมองในอ่างน้ำอุ่นๆมากกว่า
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง
“น่ารำคาญว่ะ”ผมสบถกับตัวเอง ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสนใจอะไรมากนักถ้าไม่ใช่เรื่องของครอบครัวผม ส่วนตัวผมเองจะชอบสันโดมากกว่า แต่เจออีตาลุงนี่แล้วผมอยากจะบ้าตายจริง
“ไม่รู้ว่าพี่กูรไปคบคนแบบนี้ได้ยังไง น่ารำคาญชะมัด”ผมเอ่ยขึ้นสายตาก็ยังคงมองข้อความนั้นอยู่กำลังจะกดปิดมือถือแต่กลับมีสายเข้ามาพอด ผมกดรับสายทันที
“ครับเฮีย”
(“ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”) เอาผมงงไปทันที
“เป็นอะไร หมายถึงอะไรอ่ะเฮีย”
(“ตอนนี้อยู่ไหน”)
“คอนโดไง เฮียเป็นอะไรเนี้ย”
(“ก็คุณเก้าโทรมาหาคุณกูร บอกว่าส่งข้อความไปหานายตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นอ่าน โทรไปตั้งหลายสายไม่เห็นตอบเลย”)
“ยุ่งอะไรด้วย…”
(“ว่าอะไรนะ”)
“เปล่าๆ เค้าไม่ได้ว่าอะไรเฮียนะ แค่ว่าไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเค้าโทรกลับอาจารย์เอง”
(“อื้มๆ เขาเป็นห่วงนายมากนะ คุณกูรฝากฝังไว้อย่างดี”)
“อ่อ กลัวพี่กูรว่านี่เอง เดี๋ยวเค้ารับสายอีตา…เอ้ย อาจารย์ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวจะรู้สึกผิดจนฆ่าตัวตายซะก่อน”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะกดวางสายพี่สายตัวเอง และก็ถอนหายใจขึ้นพร้อมกดรับสายที่กำลังร้องโหยหวนอยู่ตอนนี้
“ครับ”
(“สั้นจังเลย ทำไมไม่รับสายหล่ะ ทำไมไม่อ่านไลน์ครับ แล้วนี่ถึงบ้านหรือยัง อาบน้ำหรือยัง”) โอ๊ย ถามเป็นชุดแบบนี้ใครจะตอบทันว่ะ
“อื้อ ค่นี้นะจะนอนครับ”ผมเอ่ยเสร็จก็กดวางสายอย่างคนไม่มีมารยาท ก่อนจะปิดมือถือทันที ผมดิ่งไปที่โต๊ะคอมและเปิดมันขึ้นมาท่องอินเตอร์เนตตามที่ผมชอบ แต่ก็ทำให้ผมหงุดหงิดใจอยู่ดี เมื่อไลน์ที่อยู่ในคอมยังคงเด้งต่อเนื่อง แถมคราวนี้กลับเป็นวีดีโอคอลด้วย
อีตาลุง : ปิดมือถือทำไมครับ พี่โทรบอกเจ้ากูรและคุณกรีน ให้ขออนุญาตคุณแบล็คแล้ว ว่ากำลังจะไปหาคุณที่คอนโด เดี๋ยวพี่โทรหาเมื่อถึงแล้ว
ยังไม่ทันจะตอบว่าไม่ต้อง กลับมีวีดีโอคอลขึ้นทันที ผมไม่รู้จะทำยังไง เรื่องถึงเฮียแบล็คแล้วด้วย ไอ้บ้านี่ต้องการอะไรกันแน่เนี้ย ผมก็ชัดเจนไปแล้วว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ถึงชอบก็ไม่ใช่ตาแก่นี่แน่นอน
“จะมาทำไมครับ ผมกำลังจะนอนแล้ว”
(“ก็น้องบลูอ่ะกดวางสายพี่ทำไมหล่ะครับ พี่คิดว่าเป็นอะไรไปเสียอีก แถมยังจะโทรไม่ติดอีก”)
“คุณเป็นอะไรมากมั้ยครับ ผมอยากอยู่เงียบๆ ได้ไหม”
(“ได้ๆ เดี๋ยวพี่ไปถึงแล้วพี่จะเงียบๆนะ”)
“โอ๊ยยยย คนแก่อะไรเนี้ย ดื้อชะมัดเลย ผมบอกว่าผมจะนอนแล้วและผมก็มีเรียนพรุ่งนี้เช้า ไม่ต้องมาหรอก แค่นี้นะครับ”
(“โอเคๆ ถ้าไม่ให้พี่ไปหาตอนนี้ ถ้ายังนั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับนะ มีเรียนกี่โมงครับ”)
“จิ๊…อะไรเนี้ย บอกว่า…” ยังไม่ทันผมจะเอ่ยขึ้นต่อเขาก็สวนขึ้นทันที
(“งั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับหนูพิ้งค์ก็ได้ครับ เพราะพี่บอกคุณแบล็คไว้แล้วว่าจะขออนุญาตรับส่งน้องชายของเขา แต่ยังไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ยังไงถ้าน้องบลูไม่ให้พี่ไปรับเดี๋ยวพี่ไปรับน้องพิ้งค์เองก็ได้”)
“ก็ได้ พรุ่งนี้มารับผมตอนเจ็ดโมงครึ่ง แค่นี้นะจะนอนแล้ว”ผมเอ่ยออกมาเสร็จก็กดวางทันที ใบหน้าผมมันร้อนผ่าวออกมาเพราะความโกรธ แต่เวลาผมโกรธผมไม่ค่อยน่าร้อนนะ
++++++++
ผมเดินลงจากคอนโดช่วงเจ็ดโมงตรง กะว่าจะรีบออกไปก่อนที่อีตาลุงจะมา และผมก็จะบอกเขาว่าผมลืมนัดเขา แต่ยังไม่ทันจะมาที่รถของตัวเอง อยู่ๆร่างสูงของอีตาลุงก็มาขวางหน้าผมพอดี
“จะไปไหนครับน้องบลู เรานัดกันเจ็ดโมงครึ่งไม่ใช่หรอครับ”โอ๊ย จะมาทำไมแต่เช้าว่ะ
“โอ๊ะ…มาไงเนี้ย”ผมเอ่ยขึ้นถามคนตรงหน้าอย่างตกใจ
“ก็ขับรถมาสิ ว่าแต่เรานัดกันเจ็ดโมงครึ่งนี่ นี่เพิ่งเจ็ดโมงเองนะ”ผมทำหน้าเลิกลั่กออกมาก่อนจะมองซ้ายมองขวา และเห็นพี่ รปภ.ตรงป้อมกำลังนั่งกินปาท่องโก๋อยู่พอดี
“เอ่อ จะไปหารัยกิน”ผมเอ่ยพร้อมเดินออกไป แต่กลับถูกอีตาลุงดึงแขนไว้
“ไปด้วยสิ”ผมทำหน้าเบื่อหน่ายออกมาก่อนจะสะบัดมือออกและเดินนำไปที่ร้านโจ๊กด้านหน้าคอนโด
ผมกับตาลุงนั่งทานโจ๊กกันไม่นานนัก ผมเป็นพวกกินเร็ว อิ่มเร็ว ผมวางช้อนทำท่าจะจ่ายเงินให้พ่อค้าเสียงของคนตรงหน้าผมเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องจ่ายหรอก เดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
“ไม่ต้อง กินเองก็จ่ายเองได้ครับ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะส่งเงินให้กับพ่อค้าก่อนจะเดินออกไป
“น้องบลูรอพี่ด้วยสิครับ”ผมเองก็ไม่ได้สนใจ น่ารำคาญชะมัดเลยผมคิดแต่ก็ไม่ได้หยุดรอเขา
“ที่รักครับ รอเค้าด้วย”
เอี๊ยดดดดดดดด
“ใครที่รักคุณ”ผมเบรกเท้าทันทีก่อนจะหันไปแว๊ดใส่เขาอย่างลืมตัวก่อนจะหน้าแดงออกมา
“อ้าว ไม่ใช่หรอกหรอ ขอโทษทีลืมไปเลยว่าน้องบลูเคยบอกว่าไม่ชอบผู้ชายนี่นา”โอ๊ยหน้าตายียวนกวนตีนเหลือเกิน ผมโมโหสุดๆก่อนจะตรงเข้าไปหวังจะแค่ผลักเขาแต่ถนนเมืองไทยทำไมทำออกมาไม่เท่าว่ะ เท้าผมกลับสะดุดพื้นถนนและพาตัวเองไปสู่อ้อมอกของอีตาลุง
หมับ
“โอ๊ะ.…”
ฟอดดดดดด
“แก้มหอมจัง”ผมตาโตทันที และพยายามสะบัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา
“คุณมันบ้า”ผมพูดแค่นี้ก่อนจะเดินออกไป เขาก็วิ่งเขามาคว้ามือผม
“เดี๋ยวสิ รถอยู่ทางนี้”ผมหน้าแดง หูแดงไปหมดแล้ว อายแสนอายคนเยอะแยะเดินไปเดินมา จนผมเองทำตัวไม่ถูกแล้วตอนนี้ ทำได้เพียงนั่งนิ่งๆให้เขาเป็นคนขับรถไป ก็แค่นั้น ผมจะเจออะไรกับผู้ชายคนนี้อีกไหมเนี้ย และเพื่อที่เขาจะไม่ต้องไปยุ่งกับหนูพิ้งค์ผมก็ต้องกันเขาแบบนี้เรื่อยๆหรือไง
……………….
"ช่วยน้องแต่ทำไมลำบากเรา"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2018 19:47:42 โดย Papai »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #174 เมื่อ28-02-2018 22:32:07 »

พี่เก้า รุกไวมากๆๆๆ เขาว่าอนาคตเข้าชมรมคนติดเมีย อิอิ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #175 เมื่อ01-03-2018 13:11:45 »

ตอนแรกก็ตามติดน่าดู ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #176 เมื่อ04-03-2018 07:58:47 »

Blue Lyrics 2: อยากกวน (นพเก้า xนาคิม)
นพเก้า พาร์ท
ผมชื่อ นพเก้า นิโสรมย์ อายุปีนี้ก็ 28 ปีแล้ว ผมทำงานเป็นนักตกแต่ง แต่ถามว่าจบสถาปัตย์หรือมัฑณาศิลป์ไหม ไม่เลยอาศัยความชอบและความสามารถพิเศษของตัวเองล้วนๆ และก็ถามว่าทำไมยังไม่แต่งงาน ตอบตรงนี้เลยว่าผมไม่ชอบการผูกมัด ไม่ชอบความจำเจ ผมชอบที่จะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญแบบนี้ เจอใครถูกใจก็จีบ ถ้าใช่ก็จบกันเพียงแค่นั้น แต่ถามว่าบางครั้งผมเหงาบ้างไหม มันก็มีบ้างที่ผมรู้สึกเหงาทำให้ผมต้องออกเที่ยวกลางคืนแทบทุกวัน มีคู่นอนแทบไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่ต้องห่วงผมเป็นครู้จักป้องกันและรู้จัดพอ
ผมเป็นอาจารย์พิเศษสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง วันแรกที่มารายงานตัวเข้าเป็นอาจารย์ ผมจอดรถข้างๆกับรถบีเอมสีขาวคันสวยกะว่าคนที่เดินลงรถมาต้องเป็นสาวสวย นักศึกษากระโปรงสั้นๆเสื้อฟิดๆแน่ๆเลย แต่ผมกลับรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อคนที่เดินลงรถมา คือผู้ชายผมสีทองหน่อยๆ ใบหน้าขาว ริมฝีปากแดงฉ่ำ ดวงตาหวาน รอยยิ้มก็หวานเมื่อเห็นเขากำลังยิ้มกับมือถือที่กำลังหนีอยู่
“ทำไมดูดีจังว่ะ”ผมเอ่ยกับตัวเอง ก่อนจะเห็นเขาขึ้นตึกไป
“แสดงว่าเรียนที่นี่”ผมเอ่ย หัวใจกลับเต้นแปลกๆกับผู้ชายด้วยกันเองหรอเนี้ย หรือผมเองจะเริ่มเหมือนเพื่อนรักผมแล้ว ที่ตอนนี้มันกำลังหลงรักผู้ชายด้วยกันถึงขนาดที่ให้ผมตกแต่งบ้านของมันใหม่ เพียงเพราะคนที่มันรักชอบสีเขียว
“นี่กูกำลังเป็นเหมือนไอ้กูรหรอว่ะ แต่ว่าผู้ชายคนเมื่อกี้น่ารักชะมัดเลย”ผมเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเดินขึ้นตึกไปเพื่อรายงานตัว และเริ่มสอนอาทิตย์หน้า
หลังจากรายงานตัวเรียบร้อย ผมก็ยกมือถือหาเพื่อนรักเพื่อที่จะโทรหาไอ้กูรให้มาดูบ้านมันหน่อย มันปล่อยให้ผมตกแต่งจนเสร็จแถมจ่ายเงินผมเรียบร้อย ป่านนี้มันยังไม่เข้าไปดูบ้านมันเลย เอาแต่หลงเมีย ผมคิดแบบนั้น และวันนี้ผมเองก็นัดมันไปดูบ้านด้วยสิ
“กกเมียอยู่หรือไงว่ะ ไม่รับสายสักทีนะมึง”ผมเอ่ยบ่นเพื่อนเบาๆก่อนจะสอดตัวเขาไปนั่งในรถ สายตาก็มองไปยังรถคันสีขาวข้างๆ อยากเจอเจ้าของรถจังเลยว่ะ ผมคิดแบบนั้น ก่อนจะสนใจไอ้เสียงเพื่อนรักที่มันทักทายผมด้วยคำยินดีที่ว่า มีอะไรว่ะ มันน่าไหมเนี้ย
(“ว่าไงมึง มีอะไรว่ะ”) เสนาะหูกูเหลือเกิน รู้งี้ไม่รับปากเปลี่ยนสีบ้านให้ใหม่ซะเลยนี่ แก้แล้วก็แก้อีกเนี้ย
“ไอ้กูร มึงจะมาดูบ้านได้ยังว่ะ กูตกแต่งเสร็จตั้งแต่สามวันก่อนแล้วนะ และก็ได้เช็คแล้ว แต่แม่งมึงก็ไม่ยอมมาดูสักทีว่ะ ทีเมื่อก่อนเร่งกูจัง อยากให้เสร็จไวๆ แต่เสร็จแล้วมึงเสือกไม่มาดูนะ กูงานเยอะนะมึง ไหนจะต้องไปเป็นอาจารย์พิเศษอีก” ผมเอ่ยบอกมัน
(“เออๆ วันนี้กูกำลังจะเข้าไป มึงเองก็รอกูอย่างที่บ้านนั่นหล่ะ เดี๋ยวตามไป”)
“มึงจะพาแฟนมาให้กูรู้จักใช่ม่ะ”
(“เออ แล้วนี่มึงถึงบ้านกูยัง”)
“กำลังจะถึง”
(“กำลังจะถึง หรือกำลังจะออกจากบ้าน”)
“มึงนี่สมกับเป็นเพื่อนกูชะมัด เออๆกูกำลังจะออกจากบ้าน”
(“มึงรอกูแปบแล้วกัน เดี๋ยวเจอกัน”)
ผมวางสายจากไอ้กูรเสร็จก็นั่งอยู่ในรถสักพัก กะว่าเจ้าของรถสีขาวข้างๆอาจจะเดินกลับมาก็ได้ แต่รอเกือบห้านาทีผมก็ยังไม่เห็นวี่แวว สงสัยเรียนหรือเปล่านะ เพราะเท่าที่สังเกตคือเขาใส่เสื้อนักศึกษา น่าจะเป็นนักศึกษาอยู่แน่ๆ
“ไม่รอแล้วหล่ะ ถ้าคู่กันแล้วคงได้เจอกันนะครับน้องบีเอ็ม”ผมเอ่ยขึ้นกับตัวเองก่อนจะขับรถออกไป เพราะไอ้เพื่อนรักของผมมันกำลังโทรตามจิ๊กผมอย่างกับไก่แล้ว
ผมขับรถมาถึงที่บ้านริมคลองของเพื่อนรัก ผมมองไปยังบ้านหลังสีเขียวอย่างภูมิใจก่อนจะเห็นไอ้กูรมันโอบไหล่ผู้ชายอีกคนไว้ ผมรู้สึกว่าความรักมันมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะ ถ้าได้รักไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรือเป็นเพศไหน ผมไม่เคยเห็นไอ้กูรมันยิ้มกว้างแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่เลิกกับแคทไป ผมเดินเข้าไปทักทั้งสองเพื่อขัดความหวานของทั้งคู่นิดหน่อย
“ไอ้กูร...”ผมเอ่ยพร้อมยกยิ้มออกมา สายตาผมกลับมองเห็นใบหน้าของเพื่อไอ้กูร ผมกลับคิดถึงน้องบีเอ็มคนนั้นทันที โอ๊ยอยากให้น้องคนนั้นเป็นญาติของเมียไอ้กูรจัง
“ไอ้เก้า มาช้านักนะมึง เดี๋ยวก็หักเงินเลย และนี่คุณกรีนแฟนกูเอง และนี่ไอ้เก้าเพื่อนรักผมที่เล่าให้ฟังครับ”หักเงินก็ไม่ทันแล้วเพื่อรัก เพราะกูใช้จะหมดแล้ว ผมคิดก่อนจะยิ้มทักทายแฟนไอ้กูรที่มันแนะนำ
“หักอะไร แค่มึงเปลี่ยนใจกะทันหันกับสีบ้านนี่กูไม่คิดเงินเพิ่มก็บุญเท่าไหร่แล้ว ไอ้ห่านี่
“นี่ๆๆ มองอะไรเบอร์นั้น มองแทบจะแดกเมียกู”
“ไอ้ห่า มึงพูดอะไรให้เกียรติคุณกรีนด้วยดิ”
“เดี๋ยวๆ มึงมาด่ากูเพื่อ...”
“เพื่อคุณกรีนง่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณกรีน เห็นแต่ในทีวีว่าหล่อแล้วนะครับ แต่เห็นตัวจริงแล้วผมว่าไม่หล่อเลย”
“ไครหล่อก็ช่างแต่ผมว่าคุณ....”
“แต่คุณกรีนอ่ะ น่ารักมากกว่าหล่อเสียอีก เสียดายนะครับที่มาหลงไอ้เฒ่าแถวนี้”
“ไอ้ห่าปากดีนะมึง แล้วนี้กูจะเข้ามาอยู่ได้เลยใช่ม่ะ”
“อื้ม ได้เลย ว่าแต่มึงจะพาคุณกรีนมาอยู่อย่างลำบากกับบ้านไม้เก่าๆนี้หรอว่ะ”
“ผมชอบนะ ผมว่ามันเล็กๆน่าอยู่ดี ร่มรื่นมากด้วย ว่าแต่ทำไมตกแต่งเป็นสีนี้หมดหล่ะครับ มันดูกลืนไปกับต้นไม้ข้างนอกมากเลย”
“ก็ผมชอบสีเขียวนี่ครับ”
“ไอ้ตอแหล มึงชอบสีม่วงกูรู้ แล้วมึงชอบสีเขียวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”
“ตั้งแต่ตอนที่เจอคุณกรีนนี่หล่ะ ทำไมหรอมึงจะทำไม”
“คุณจะอยู่ดื่มกับคุณเก้าก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมให้เจ้าบลูมารับ”
“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวผมไปส่งคุณก่อนค่อยกลับมาก็ได้”
“โธ่ จะขับไปขับกลับทำไมกันครับ ผมเป็นห่วงนะ พอดีเจ้าบลูก็อยู่แถวนี้ด้วยผมเห็นพิกัด เดี๋ยวให้เจ้าบลูมารับก็ได้ครับ”
“เอางั้นหรอ”ผมยิ้มกับทั้งสอง ผมว่าน่ารักดีเท่าที่คบกับไอ้กูรมาผมไม่เคยเห็นมันเป็นมากขนาดนี้เลยนะ การได้รักใครสักคนมันช่างดีขนาดนี้เลยหรอ
“คุณเก้ายังไม่มีแฟนหรอครับ”ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะโดนไอ้กูรมันดักทาง มันจะหวงอะไรของมันนักว่ะ
“แฮ่มมม ทำไมหรอ จะหาให้มันหรอไง บอกไว้ก่อนนะไอ้เก้าอ่ะมันเสือผู้หญิง”มึงมันเลว ขายเพื่อนชะมัด
“แล้วไงว่ะ มึงยังไม่รู้จักชีวิตที่มีรสชาติเว้ย กูอ่ะเป็นพวกหาประสบการณ์ไม่เหมือนมึงหรอกทั้งชีวิตก็คงมีคุณกรีนหล่ะมั้งเป็นคนที่สองที่มึงหยุด”ผมเอ่ยบอกไป ก่อนจะเอาคืนมันบ้าง
“คนที่สองหรอครับ แสดงว่ามีคนแรกใช่ไหมครับ”
“อ่อ นานแล้วครับ น่าจะห้าหกปีแล้วหล่ะ ตอนนี้มันก็มีแต่คุณนี่หล่ะ”ผมเอ่ยแก้ไป ไม่งั้นมันโดนเมียมันงอนแน่ๆ ก่อนที่จะหันไปทางหน้าบ้านเมื่อไอ้กูรมันเอ่ยขึ้น
“รถคุณบลูหรือเปล่าครับ”ผมมองตามรถบีเอ็มคันสีขาวที่จอดเทียบอยู่นอกรั้ว เห้ยโลกกลมไปไหนเนี้ย เพราะคนที่เดินลงมาตอนนี้คือน้องบีเอ็มคนนั้น ผมอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะคิดอะไรบางอย่างได้
ร่างสูงตัวขาว หน้าขาวปากแดงเดินเข้ามาพร้อมยกมือไหว้ทักทายไอ้กูรและคุณกรีน ก่อนจะหยุดอยู่ที่ผม สายตาหวานน่ารักชะมัดเลย ผมชักจะชอบแล้วสิ
“สวัสดีครับพี่กูร เฮีย แล้ววววว”
“อ๋อ นี่เพื่อสนิทพี่เองชื่อพี่เก้า คุณบลูน่าจะต้องเรียกพี่เก้าอ่ะ ถูกแล้ว”
“สวัสดีครับพี่เก้า…”เสียงก็เพราะ หน้าก็หวาน รูปร่างก็ดี โอ๊ยดูดีไปหมด ผมเหมือนตกอยู่ในมนต์ของผู้ชายด้วยกัน จนไอ้กูรมันตะโกนเรียกผม
“ไอ้เชี่ยเก้า น้องเขาสวัสดีมึงอ่ะ”
“อ่อ สวัสดีครับ”
“เฮียกลับกันเลยไหม”
ผมมองใบหน้าขาวนั้นอย่างต้องมนต์ โอ๊ยน่ารักจัง ฝันที่เป็นจริงจากบรีสจริงๆที่ผมได้เจอน้องอีกครั้ง และแถมน้องบีเอ็มเป็นนักศึกษาปีสี่ ถ้ายังนั้นเขาต้องเป็นนักศึกษาของผมนะสิ
“ไอ้กูร น้องเมียมึงมีแฟนยังว่ะ”ผมเอ่ยถามเพื่อนเมื่อผมกับไอ้กูรยังคงนั่งดื่มกันต่อ
“ทำไมว่ะ”มันถามผม ผมยิ้มออกมาอย่างมีอะไรบางอย่างจนมันเองรีบพูดขึ้น
“ไอ้ห่า อย่าแม้แต่จะคิดนะ อย่ายุ่งกับน้องเมียกูนะมึง”
“ทำไม มึงจะเก็บไว้เคลมเองหรือไง”ผมรีบสวนมันทันที ถ้าจริงผมจะต่อยปากมันตรงนี้หล่ะ
“ไอ้เลวคิดเรื่องอุบาทว์ กูอ่ะรักคุณกรีนยิ่งกว่าอะไร ที่บอกคือไม่อยากให้มึงไปเล่นๆกับคุณบลูเขาแค่นั้นเอง”
“กูไม่ได้เล่นๆนะมึง กูว่ากูชอบน้องเมียมึงว่ะ”เรื่องจริง ผมว่าผมชอบน้องเมียไอ้กูรจริงๆ เพราะไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็ดูดีไปหมด
“อย่ามาตอแหล ครั้งที่แล้วมึงก็บอกแบบนี้ตอนที่เจอกับน้องหวาน แล้วเป็นง่ะ ไม่ถึงเดือนมึงก็ทิ้งเขา”กูต่างหากที่ถูกทิ้งป่ะ ก็น้องมันไม่ชอบกูที่กูจนง่ะ แต่กูจะบอกมึงตรงๆว่ากูโดนทิ้งก็กลัวมึงล้อกูง่ะ
“นั้นมันนานมาแล้ว แต่นี่กูสัญญาว่ากูจะดูแลน้องเมียอย่างดีเลย มึงช่วยกูจีบน้องบลูหน่อยสิ นะชยางกูรเพื่อนเลิฟ”สัญญาจริงๆนะเพื่อนรัก ผมทำหน้าตาอ้อนวอนสุดๆแต่ไอ้เพื่อนเวรกลับยกเท้าให้ผมอย่างใจดำ
“นี่อะไร กูจะถีบมึงลงเก้าอี้ อย่างกูเนี้ยจะช่วยมึงจีบคุณบลู ฝันไปเถอะมึง”ผมทรุดตัวลงเกาะแข้งเกาะขาเพื่อนรักก่อนจะเอาหน้าถูไถไปมาที่ขาของมัน
“นะๆชยางกูรเพื่อนรัก ถ้ามึงช่วยกู กูสัญญาว่ากูจะไม่เอาเรื่องที่มึงเคยบอกว่าคุณกรีนเป็นนายแบบเรื่องมาก เอาแต่ใจและเป็นคนที่ไม่เอาไหน....”
อุ๊ป...
“ไอ้เลว เล่นแบบนี้เลยหรอมึง”มือเค็มๆของมันปิดที่ปากผมก่อนที่มันจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ ช่วยก็ช่วย วันศุกร์นี้กูจะขึ้นบ้านใหม่และครอบครัวคุณกรีนก็มาทั้งบ้าน ถ้ามึงอยากจะทำคะแนนมึงต้องเข้าหาคุณแบล็ค...”
“คุณแบล็คหรอก ใครว่ะ พ่อน้องบลูหรอ”
“ไอ้ห่านี่ พ่อบ้านมึงดิ พี่ชายคนโตเว้ย คนนี้ฟันธงได้ทุกอย่างเว้ย เข้าหาเขารับรองมึงได้น้องเขาเหมือนกูง่ะ ฮ่าๆๆ”มึงหัวเราะได้โจรมากไอ้เพื่อนรัก ผมยกยิ้มออกมาอย่างมีแผนการ
++++++++++
คืนวันศุกร์ที่ผมรอคอยก็มาถึง เพราะนับตั้งแต่วันนั้นที่เจอน้องบลู ผมเองก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเกือบสองวันแล้วเนี้ย และวันนี้ผมเองก็ได้เจอเขา และก็ได้เจอครอบครัวของเขาทำไมน่ารักอย่างนี้นะ
“คุณเก้านี่เก่งนะครับ ไม่ได้เรียนด้านมัณฑนาฯมาก่อน แต่สามารถตกแต่งได้สวยงามมาก”
“คุณอนาคินก็ชมเกินไปครับ เมื่อตอนเด็กๆผมชอบและสนใจเรียนและเขียนแบบมาก แต่เพราะสอบไม่ติดเลยมาเรียนนิเทศฯ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความฝันนะครับ ก็ยังเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ก็พอทำได้บ้าง”
“ถ่อมตัวนะครับ แต่เห็นคุณบอกว่าชอบการเขียนแบบ  งั้นดีเลยเจ้าบลูเราเรียน Interior Design แถมจะจบแล้วนี่เรา ไปเรียนรู้กับคุณเก้าไหม”
“ไม่เป็นไรเฮีย เค้า...”
“เจ้าเก้าเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยเดียวกับคุณบลูด้วยนะครับ ปรึกษาได้เลยนะ”ขอบใจเพื่อนรักมาก ผมยิ้มกว้างออกมาแต่ใบหน้าขาวกลับเฉยๆ
“จริงหรอครับ งั้นตามนั้นเลยเจ้าบลู”พี่ชายของเขาที่เป็นหมอเอ่ยขึ้น ผมเองยังไม่หุบยิ้มเพราะกำลังดีใจที่ครอบครัวของน้องบลูกำลังตอนรับผมอย่างดี และดีมาที่สุด
ผมพยายามที่จะเดินตามและนั่งใกล้เขา แต่ท่าทางเขาเป็นคนที่โลกส่วนตัวจะสูง เพราะเขาชอบที่นั่งนิ่งๆฟังพี่ๆพูดมากกว่า ไม่เหมือนคนตัวเล็กรูปร่างยังกับผู้หญิงที่กำลังจ้ออยู่ไม่หยุดปาก
“เฮียบลู ตักไข่เจียวให้หน่อย”เสียงหว๊านหวานของน้องคนเล็กที่ใครๆก็เรียกหนูพิ้งค์
“เดี๋ยวพี่ตักให้นะครับ”เสนอนิดหนึ่งจะได้มีแนวร่วมเพิ่มอีกคน ผมกำลังจะตักไข่เจียวให้หนูพิ้งค์อยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ ผมตักให้น้องผมเอง”ผมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างเข้าใจอะไรบางอย่าง ไม่รู้จักนพเก้าซะแล้ว แบบนี้ก็ง่ายหล่ะสิ ผมคิด
นับจากที่นั่งทานอาหาร จนนั่งจิบกาแฟเรื่อยๆผมเองก็ขอตัวกลับ เพราะอยากให้เจ้าของบ้านได้พักผ่อน และอีกอย่างครอบครัวของน้องบลูก็ขอตัวกลับเช่นกัน ผมจึงหันทางหนูพิ้งค์และเอ่ยขึ้น
“พี่กลับก่อนนะ หนูพิ้งค์จะกลับยังไครับเห็นคุณอนาคินและคุณหมอขับรถไปแล้ว”ก็จริงนะ ทั้งสองมีแฟนแล้ว ต่างคนต่างพากันกลับ
“หนูพิ้งค์ กลับบ้านเจ้าเลิฟรออยู่ที่รถแล้ว”ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจเมื่อเสียงไม่ลื่นหูของคนที่ตะโกนออกมานั้น ผมจึงเดินเข้าไปหาหนูพิ้งค์พร้อมร่างสูงหน้าขาวนั้นเดินเข้ามา
“ตามนั้นเลยครับ เดี๋ยวหนูพิ้งค์เดินไปส่งนะครับ”โอ๊ยน่ารักชะมัด แต่ผมอยากจะจีบพี่ชายหนูพิ้งค์มากกว่า
“งั้นเราเดินไปพร้อมกันที่หน้าบ้านเนอะ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปยังหน้าบ้าน
"ขอบคุณมากนะครับที่มาส่งพี่"
"ไม่เป็นไรครับ เพราะยังไงหนูพิ้งค์ก็กลับกับเฮียบลูอยู่แล้ว ว่างไปเที่ยวที่บ้านได้นะครับ"
"ได้ครับ น้องพิ้งค์น่ารักจัง"
"หนูพิ้งค์ ขึ้นรถได้แล้ว และรีบลาคุณลุงเก้าด้วย"เสียงบลูเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ
"ลุงเลยหรอ เจ้าเด็กบ้านี่"โอ๊ยอยากจับตีก้นจริงๆ ลุงที่ไหนจะหล่อขนาดนี้นะ เดี๋ยวเหอะจะทำให้เรียกพี่ไม่หยุดเลย
"ถ้าคุณจะจีบหนูพิ้งค์ ผมจะบอกอะไรให้นะครับว่าน้องผมยังเล็กอยู่"
"งั้นจีบคุณได้ไหมหล่ะ ในเมื่อคุณก็จะจบมหาวิทยาลัยแล้วนี่ ไม่น่าจะเล็กนะ"
"ฝันไปเถอะครับ เพราะผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ถึงชอบก็ไม่ได้ชอบผู้ชายแก่ๆ"
"ไม่ชอบผู้ชายหรอ แถมแก่ด้วย เอาสิคอยดูสักตั้งพ่อหนุ่มน้อย สีฟ้า"ผมชี้หน้าเขาผ่านกระจกมองหลังถ้าเขามองมา เอาสิเจอคนแก่สักครั้งสองครั้งรับรองจะไม่พูดแบบนี้แน่
ผมขับรถมาเรื่อยๆ ในมือกำลังกดส่งข้อความไปยังใครคนหนึ่งที่ผมเพิ่งอ้อนวอนเพื่อนรักเพื่อแลกกับการที่ไม่ให้ผมบอกคุณกรีนว่าเมื่อก่อนมันนินทาเมียตัวเองมากแค่ไหน
นพเก้า : ขับรถดีๆนะครับ เป็นห่วง
บลู : ใครอ่ะ
นพเก้า : คนที่ห่วงใย แค่คนมีใจที่ห่วงคุณ
บลู : ถามว่าใคร
นพเก้า : ไม่ต้องรู้ว่าผมเป็นใคร แค่รู้ว่าในใจผมมีแค่คุณ
บลู : โรคจิตใช่ไหม ถ้าใช่ผมแจ้งตำรวจนะ
นพเก้า : พี่เก้าเองนะครับน้องบลูผู้น่ารัก
บลู : เอาไลน์มาจากไหน
นพเก้า : ไลน์ได้มาจากไหนไม่จำเป็น ตอนนี้แค่รู้ว่าห่วงใยก็พอ
บลู : ลุงถ้าจะมุขเสี่ยวขนาดนี้เป็นตลกดีไหม
นพเก้า : ไม่ดีอ่ะ พี่อยากเป็นแฟนน้องบลูอ่ะ ได้ม่ะ
บลู : ><
นพเก้า : ไม่ให้จีบน้องพิ้งค์ พี่จีบน้องบลูนะครับ
บลู : ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบผู้ชาย แถมเป็นคนแก่ด้วยยิ่งไม่ชอบ โปรดเข้าใจนะครับ
นพเก้า : ไม่อ่ะ
บลู : ไม่คุยด้วยแล้ว ผมขับรถอยู่ และไม่ต้องส่งข้อความมาอีกนะ เพราะถึงบ้านแล้วผมจะเข้านอนเลย
นพเก้า : โอเค ขับรถดีๆ ฝันดีนะครับที่รัก จุ๊บๆ อาบน้ำด้วยนะครับอย่ารีบเข้านอนทันที จุ๊บๆ
ผมวางมือถือลงพร้อมยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ อย่าคิดว่าผมบ้านะที่โดนน้องด่าแล้วผมยังยิ้ม เพราะผมคิดว่าผมกำลังทำให้เขาสนใจผมได้ระดับหนึ่งแล้ว ก่อนจะส่งข้อความไปให้เพื่อนรักของผม
//“ไอ้กูร พรุ่งนี้พิกัดบ้านว่าที่เมียให้กูหน่อย”//
..................................
"ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2018 08:20:05 โดย Papai »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #177 เมื่อ04-03-2018 10:16:39 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #178 เมื่อ04-03-2018 11:42:36 »

ตื้อกับด้านใกล้เคียงกัน อิอิ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #179 เมื่อ04-03-2018 12:20:22 »

ตามติดเลย ...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด