แฝด ตอนที่ 15
“ไปไหนกันต่อดีน้า~” หลังจากที่คุยเรื่องบ้านกับสถาปนิกเสร็จแล้วมินก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว…ก็แน่แหละวันนี้เจ้าตัวเจอแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลยนี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกหรือเรื่องบ้านที่เคยฝันเอาไว้
“จะไปไหนอีกล่ะ ไม่เหนื่อยรึไงฮึ?” แม็กถาม
“ม่ายยย…วันนี้มินอารมณ์ดีเลยมีแรงเหลือเยอะ” เจ้าตัวตอบอย่างน่ารัก
“ถ้างั้นเก็บแรงไว้คืนนี้ด้วยนะ” แม็กบอกเสียงหื่น
“ตลกเถอะ! มินจะมีแรงเหลือถึงแค่หกโมงเย็นเท่านั้นแหละ” ยู่หน้าบอกอย่างเซ็งๆ เมื่อคนรักกลายเป็นหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์อีกแล้ว
“รู้ดีขนาดนั้นเชียว” แกล้งถามไปงั้น เพราะถึงแม้ว่าจะอยากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยงหรอก แม้ว่าจะได้รับการยืนยันกับหมอว่าทำได้ แต่ตัวเขาเองก็รู้ดีว่าลูกเขาบอบบางกว่าเด็กคนอื่นขนาดไหน…ไม่ขอเสี่ยงดีกว่า
“แน่นอน มินรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี” กอดอกบอกด้วยท่าทางมั่นใจเต็มร้อย ถึงจะโม้ก็เถอะ
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับบ้านตอนนี้เลยแล้วกัน ยังเหลือเวลาอีก หนึ่ง สอง สาม สี่ โห...ตั้งสี่ชั่วโมงกว่ากูได้สองสามรอบแบบชิวๆเลยนะมิน” แต่แม็กก็ยังเป็นแม็ก ถ้าวันไหนไม่ได้แกล้งคนรักแล้วเขารู้สึกเหมือนว่าชีวิตมันขาดอะไรบางอย่างไป…แหย่เมียวันละนิดจิตแจ่มใส ฮ่าๆ
“ไม่ๆ พอถึงบ้านปุ๊บมินจะนอนปั๊บเลย ไม่อาบน้ำด้วย” แถต่อไป แถให้สีข้างถลอกกันไป
“ไม่เป็นไรกูไม่ถือ มึงนอนเฉยๆแหละดีแล้ว ที่เหลือกูจัดการเอง” นี่ก็สนุกใหญ่โต
“แม็ก!!!”
“อ่อนว่ะ สู้ไม่ได้แล้วขึ้นเสียงตลอด รอให้ลูกคลอดก่อนเถอะ พ่อจะจัดให้ลืมชื่อตัวเองเลย” แต่ยังไม่ทันที่มินจะได้โต้ตอบอะไรคนหน้ามึนอีก โทรศัพท์ในกระเป๋าของเจ้าตัวก็ดังแทรกการสนทนา(?)ของเขาทั้งสองคนขึ้นมาเสียก่อน มินนี่แทบอยากจะพรุ่งตัวใส่โทรศัพท์เข้าไปกราบตักนมน้อมเสียจริงๆที่โทรมาถูกเวลาอย่างนี้ เพราะเขาไม่สามารถโต้ตอบคนปากจัดหน้ามึนอย่างแม็กได้หรอก ยันตายก็สู้ไม่ชนะ
Tru…Tru…Tru…
“ว่าไงฮะนม” มินรีบกรอกเสียงรับสายไปก่อนที่สายจะตัดลง
//…..//
“แค่นี้ใช่มั้ยฮะ? ฮะๆ ได้ฮะ แล้วมินจะแวะซื้อเข้าไปให้นะฮะ”
“นมว่าไงบ้าง” แม็กถามหลังจากที่เห็นว่ามินเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไปแล้ว
“นมโทรมาเตือนว่าของใช้ส่วนตัวของพวกเราจะหมดแล้ว นมจะไปซื้อให้ก็กลัวไม่ถูกใจ ให้เราซื้อไปก่อนแล้วเดี๋ยวครั้งหน้าให้มินจดรายละเอียดไว้ให้นมจะได้ออกมาซื้อเอง” มินบอก เพราะปกติแล้วหน้าที่ทุกอย่างในบ้านเป็นของมินทั้งหมด ส่วนนมน้อมที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ด้วยก็กลัวว่าจะซื้อผิดซื้อถูกเลยให้พวกเขาแวะซื้ออย่างที่เคยทำไปก่อน แล้วจดรายละเอียดไว้ ครั้งหน้านมจะได้ออกมาซื้อเอง เพราะบอกตรงๆว่าทั้งแม็กและตัวเขาเองค่อนข้างจะละเอียดและเรื่องมากมากในส่วนนี้ ถ้าอันไหนไม่ใช่ไม่ถูกใจก็จะไม่แตะหรือไม่ก็โยนทิ้งไปเลย นมถึงไม่กล้าที่จะไปซื้อโดยพละการยังไงล่ะเพราะรู้นิสัย(สันดาน)ของพวกเขาดี
“ถ้างั้นก็แวะเข้าห้างเลยแล้วกัน” แม็กบอกพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าห้างของตนแต่เป็นสาขาย่อยไม่ใช่สาขาใหญ่ที่เขาทำงานอยู่
..
..
..
“แม็ก…ที่บ้านยังมีอันนี้อยู่มั้ย?” มินชูขวดครีมโกนหนวดขึ้นถามคนรักที่ยืนดูของอยู่ไม่ห่างกันนัก เพราะเขายังไม่ได้เช็คเลยว่าที่ซื้อไปให้แม็กครั้งที่แล้วมันยังอยู่รึเปล่า เพราะเขาไม่ได้ใช้ด้วยกันกับเจ้าตัว เพราะเขาไม่มีอย่าว่าแต่หนวดเลย ขนหน้าแข้งเขายังไม่มีเลย สงสัยจะเขาจะได้เชื้อแม่มาเยอะ เพราะตาเขาก็ไม่ดุไม่คมไม่เฉี่ยวและไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างของแม็กด้วย เลยโดนแม็กล้อยู่บ่อยๆว่าเหมือนลูกหมา…เอากับพี่เขาเถอะ! ชอบมโนว่าตัวเองหล่ออยู่คนเดียว…เซ็ง!
“จะหมดแล้ว ซื้อไปด้วย” แม็กบอกก่อนจะหันกลับไปสนใจของในมือตัวเองต่อ ส่วนมินเมื่อได้คำตอบแล้วก็หยิบครีมโกนหนวดใส่ตะกร้าทันทีก่อนที่จะหันไปเลือกของใช้อย่างอื่นต่อเหมือนกัน อย่างนี้แหละ ต่างคนต่างดู ต่างคนต่างซื้อ แต่ไม่ได้ห่างกันไปไหนไกล มากสุดก็ไม่เกินสี่ห้าเมตร…เพราะแม็กชอบบอกว่าเขาโง่ ปล่อยให้ห่างหูห่างตาไม่ได้ เดี๋ยวหลง…อืม..จ้ะ!
“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าห้องน้ำไปทางไหน” แต่อยู่ในโลกส่วนตัวได้ไม่นาน แม็กก็จำต้องละความสนใจจากของในมือ เพราะโดนกวนใจจากหญิงสาวลูกครึ่งคนหนึ่งที่เขายอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่าสวยมาก แต่ขอโทษที…มันไม่ใช่แนวเขาว่ะ!
“ไม่รู้” เขาตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ ก่อนที่จะหันมาเปรียบเทียบของที่อยู่ในมือทั้งสองข้างต่อ เพราะวันนี้เขามาในฐานะลูกค้าไม่ใช่เจ้าของห้าง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาภาพพจน์อะไร
“ถ้าอย่างนั้นช่วยเดินไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้มั้ยคะ? พอดีว่าฉันเพิ่งกลับมาอยู่ไทย เลยไม่กล้าที่จะเดินไปคนเดียว” เธอยังคงตื้อต่อ
“ไม่ว่าง” แม็กยังคงตอบกลับไปอย่างไร้ยื่อใย เขาล่ะอยากจะถามจริงๆว่าถ้าไม่กล้าไปไหนคนเดียวแล้วเธอมาห้างกับใคร…ปัญญาอ่อนจริงๆ
“โธ่! สุดหล่อ…อย่าใจร้ายกับฉันนักเลยนะคะ แค่เดินไปเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง” เธอบอกพร้อมกับเอื้อมมือเข้ามาแตะแขนแม็กอย่างถือวิสาสะ แต่แม็กก็ขยับตัวหนีทันทีเช่นกัน เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งย่ามกับร่างกายของเขานัก…จะเรียกว่าถือตัวก็คงใช่
“มีอะไรกันหรอแม็ก” มินที่ยืนสังเกตอยู่นานก็ทนไม่ได้ที่จะเข้ามายุ่งเมื่อเขารู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดของคนรักที่แผ่ออกมาจากทางสายตา ที่ถ้าไม่สนิทกันจริงๆก็จะดูไม่ออกเลย เพราะตาของแม็กมันดุอย่างเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก เลือกของเสร็จยังจะได้กลับบ้านสักที…ลำคาน” แม็กว่าพลางเดินเข้าไปยกแขนวาดกอดเอวมินส่วนอีกข้างที่เหลือก็ใช้เข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยของใช้
“พี่น้องกันหรอคะ? หน้าเหมือนกันเลย น่ารักจังเลย” หลังจากที่สับสนงงงวยกับท่าทีของแม็กและมินอยู่นานคุณผู้หญิงแปลกหน้าก็ค้นหาเสียงของตัวเองจนเจอ แต่แม็กก็เหมินเฉยพร้อมทั้งประคองมินเดินออกบริเวณนั้นให้พ้นๆ แต่มินกลับไม่ยอมเดินตามแรงแม็กพร้อมทั้งขืนตัวยืนอยู่กับที่
ก่อนที่จะ…
“ผู้ชายคนนี้น่ะ ‘สามี’ ผมเองฮะพี่สาว” มินหันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนที่จะยกมือขึ้นทาบอกของแม็กเบาๆพร้อมทั้งพูดบอกออกไปด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงหวานช้าๆชัดๆ จนแม็กเองก็เริ่มระแวง
“จริงหรอคะ?” ถึงแม้ว่าจะช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน แต่เธอก็ยังคงที่จะถาหาคำยืนยันจากแม็ก เพราะว่าแวบแรกที่เธอได้เห็นหน้ามินกับแม็กใกล้ๆ เธอกล้าฟันธงได้เลยว่าถ้าไม่ใช่พี่น้องก็ฝาแฝด แต่นี่มาบอกว่าเป็นสามี…หรือว่าจะจริงอย่างที่เขาบอกว่า…คนเป็นเนื้อคู่กันมักจะหน้าเหมือนกัน? มันเป็นไปได้หรอ?
“ตามนั้น” แม็กบอกแค่นั้นก่อนที่จะพามินเดินผละออกไป โดยที่ครั้งนี้มินเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเช่นกัน
..
..
..
“เลิกงอนเถอะน่า…แค่เรื่องไร้สาระว่ะ” แม็กหิ้วถุงของใช้ต่างๆเดินตามมินที่ยังคงนิ่งเงียบและทำหน้ายุ่งตั้งแต่แยกตัวออกมาจากหญิงสาวแปลกหน้าคนนั้นแล้ว ซึ่งแม็กเองก็รับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้คนรักอยู่ในสภาวะที่ ‘งอน’ โคตรๆอยู่ เขาจึงพยายามที่จะ ‘ง้อ’ คนรักอยู่เช่นกัน เพราะไม่อยากจะให้เจ้าตัวอารมณ์ติดลบไปมากกว่านี้ แต่ก็อย่างว่า…อารมณ์ของคนท้อง อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว คุณรามิณทร์ผู้แสนอ่อนหวานจะหันมาวีนเขาอย่างนี้หรือ?
“ไม่ต้องมาพูดเลยนะแม็ก มินเผลอแป๊บเดียวแม็กไปคุยกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้!” มินว่าเสียงแข็งกระด้างอย่างชัดเจน แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน จนแม็กถึงกลับต้องตวัดสายตากลับมามองมิน อีกครั้งหลังจากที่วางของในมือลงบนโต๊ะรับแขก
“อย่ามางี่เง่าน่ามิน มึงก็เห็นอยู่ว่ากูไม่ได้สนใจอะไรมันเลย” แม็กหันกลับมาว่ามินบ้าง
“แต่…” ก็ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจแล้วว่าแม็กไม่สนใจเธอคนนั้นเลย แต่มินไม่สามารถก็ห้ามอาการหงุดหงิดฟุ้งซ่านของตัวเองได้เลย…นี่เขาเป็นอะไรไปเนี่ย!!!
“อย่าให้เรื่องไม่เป็นเรื่องของใครก็ไม่รู้มาเป็นปัญหาของเราสองคนนะมิน” แม็กพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนที่จะหันหลังเดินหนีเข้าห้องนอนไป เพราะเขาไม่อยากที่จะมีปัญหากับมินไปมากกว่านี้ อีกทั้งเขายังรู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่คนใจเย็นสักเท่าไหร่ ติดจะอารมณ์ร้อนมากถึงมากที่สุดเสียด้วยซ้ำ ซึ่งข้อนี้มินเองก็น่าจะรู้ดีแก่ใจ แม็กถึงเลือกที่จะแยกตัวไปสงบสติอารมณ์ด้วยตัวเองเงียบๆดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้น เขาอาจจะเผลอพูดหรือทำอะไรกับมินรุนแรงเกินไป ถ้าหากว่ามันเกินขีดจำกัดของตัวเองไป
ปึง!!!
“เสียงดังอะไรกันคะคุณ…ว๊าย! ตายแล้ว ร้องไห้ทำไมคะคุณมิน” นมน้อมที่เพิ่งเดินออกมาจากในครัวเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของเจ้านายทั้งสองของตน ก็ต้องร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าคุณหนูมินของเธอยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ข้างโซฟารับแขก เธอจึงค่อยๆประคองมินให้นั่งลงดีๆ เสียก่อนที่จะเป็นลมเป็นแล้งไปซะอีก
“ฮึก! มินงี่เง่าเองฮะนม…” มินว่าตัวเองก่อนที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นสาเหตุให้ตนกับแม็กเป็นอย่างนี้ให้กับนมน้อมฟังด้วยเสียงสะอื้นไห้แทบจะขาดใจ
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ ไม่ร้องน้า…คุณชายเธอคงไม่อยากจะทะเลาะกับคุณหนูมินละมั้งคะเธอเลยแยกตัวออกไปสงบสติอารมณ์ก่อน คุณหนูก็ทราบนี่คะว่าคุณชายเธอเป็นคนอารมณ์ร้อนขนาดไหน เดี๋ยวอารมณ์ดีขึ้นคุณเขาก็ออกมาเองแหละค่ะ คุณหนูอย่าคิดมากเลยนะคะ เดี๋ยวจะพาลล้มป่วยไปอีก พักผ่อนก่อนนะคะ” เธอพูดปลอบมินก่อนที่จะจัดแจงปูผ้านวมผืนหนาให้มินนอนพักอยู่หน้าโทรทัศน์อย่างที่เจ้าตัวชอบทำเวลามานอนกลางวัน ก่อนที่จะผละเดินออกไป เมื่อเห็นว่ามินหลับสนิทดีแล้ว…คนท้องก็เหนื่อยง่าย หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวนไปหมดแบบนี้นี่แหละ ถือว่าเป็นอาการปกติธรรมดาๆอย่างหนึ่ง
ก๊อก…ก๊อก…
“คุณชายคะขอป้าคุยด้วยสักเดี๋ยวได้ไหมคะ” หลังจากที่จัดการกับคนท้องเสร็จแล้ว นมน้อมเธอก็เดินตรงมาที่ประตูห้องนอนใหญ่เพื่อที่จะคุยกับคุณชายของเธออีกคนทันที
แอ๊ดด…
“ว่าไงครับป้า” ถึงแม้ว่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าหญิงสูงวัยที่เขารักและเคารพไม่ต่างจากแม่แท้ๆคนนี้จะมาคุยกับเขาเรื่องอะไร แต่แม็กก็ยังคงเลือกที่จะเอ่ยถามตามมารยาทอยู่ดี
“เรื่องคุณหนูมินน่ะค่ะ คุณชายช่วยเข้าใจเธอสักหน่อยได้มั้ยคะ?” เธอพูดเข้าประเด็นทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลาและไม่อยากที่จะยืดเยื้อให้คุณชายจอมใจร้อนของเธอต้องอารมณ์เสียไปด้วย
“…..”
“เรื่องหงุดหงิด งี่เง่า เจ้าอารมณ์ มันเป็นเรื่องปกติของคนท้องที่คุณมินเองก็ไม่สามารถรับมือกับภาวะอารมณ์ของตัวเองได้หรอกนะคะ ป้าเลยอยากให้คุณชายช่วยเข้าใจคุณหนูเธอหน่อย เพราะขืนปล่อยให้เธอร้องไห้อย่างนี้บ่อยๆคงจะไม่ดีต่อทั้งคุณมินและคุณหนูเล็กในท้องแน่ๆค่ะ ป้าก็มีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละค่ะ ขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ” เมื่อเห็นว่าแม็กยังคงรับฟังเธอด้วยความนิ่งเฉย เธอจึงเลือกที่จะพูดต่อให้จบความตามที่เธอตั้งใจ ก่อนที่จะขอตัวไปทำหน้าที่ของตัวเองในครัวต่อ ส่วนแม็กเองที่พอได้ยินว่ามินร้องไห้ก็รีบก้าวเดินไปทางห้องนั่งเล่นอย่างอัตโนมัติทันทีไม่ต้องให้ใครมาพูดย้ำอีก
แม็กย่อตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างตัวคนรักอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าจะทำให้มินนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนข้างกันกับมินและช้อนศีรษะมินขึ้นมาหนุนแขนตนไว้อย่างระมัดระวัง
“กูไม่อยากทำร้ายมึงอีกแล้วนะมินว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำก็ตาม” แม็กกระซิบบอกข้างหูคนรักพร้อมทั้งกดจูบข้างแก้มของมินเบาๆ ก่อนที่จะกระชับตัวมินเข้ามากอดไว้และหลับตาลงนอนกลางวันไปด้วยกัน…หวังว่าในห้วงนิทราของทั้งสองคนในครั้งนี้จะมีแต่ฝันดี
..
..
..
แม็กตื่นขึ้นมาอีกทีดวงตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว อีกทั้งคนที่เขานอนกอดอยู่ก่อนนอนนั้นก็หายตัวไปแล้วเช่นกัน เขาบิดตัวไปมาไล่ความขี้เกียจและความง่วงงุนออกจากตัวก่อนที่จะลุกเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องให้สดชื่นเสียก่อนที่จะทำอย่างอื่น
“อะ…ตื่นแล้วหรอแม็ก?” มินที่เอาผ้ามาเก็บในห้องแต่งตัวซึ่งซ่อนอยู่ตรงทางเข้าระหว่างฝั่งที่เป็นห้องนอนกับห้องน้ำ ก็เอ่ยทักเสียงใสอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่าแม็กเดินหน้าอึนเข้ามา
“ยังมั้ง” แม็กบอกเสียงราบเรียบ
“หรอ” ส่วนมินก็เริ่มใจหาย เพราะคิดว่าคนรักยังโกรธตัวเองอยู่ จึงเลือกที่จะหุบปากเงียบและผละเดินจากไปช้าๆ
“มิน” แต่มินก็ไม่สามารถไปได้อย่างใจคิด เมื่ออยู่ดีๆแม็กก็เดินเข้ามาโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง
“…..”
“สาวแตกขึ้นทุกวันนะมึงอ่ะ กูแหย่แค่นี้ก็เดินหนีซะแล้ว” แม็กพูดบอกพร้อมกับขบกัดดูดดึงตรงท้ายทอยขาวของมินจนขึ้นรอยเขี้ยวชัดเจน
“โอ้ย! มินเจ็บนะแม็ก” มินว่าเสียงแง้วๆเหมือนลูกแมวกำลังขู่ในขณะที่หัวใจกำลังเต้นแรง เพราะเขารับรู้ได้ว่านี้คือการ ‘ง้อ’ ตามแบบฉบับคนซึนอย่างลูกพี่แม็กเขาล่ะ
“เดี๋ยวนี้ดุแฮะ นมน้อมเอาน้ำตาลให้กินไปกี่ก้อนเนี่ยฮึ?” แม็กยังคงพูดแหย่มินต่อไป ในขณะที่ริมฝีปากก็คลอเคลียไม่ห่างจากซอกคอและท้ายทอยขาวของมินแม้แต่น้อย จนมินเริ่มจะรู้สึกขนลุกขึ้นมาบ้างแล้ว
“มินไม่ใช่หมานะแม็ก!” มินว่าเสียงสะบัดทั้งยังทำท่าเหมือนว่าจะหันกลับมาหาแม็ก แต่ก็โดนมือใหญ่ๆของแม็กดันหน้าเอาไว้เสียก่อน
“อ้าว! นี่กูเข้าในผิดมาตลอดเลยหรอเนี่ย? ที่ผ่านมานี่กูคิดว่าตัวเองมีเมียเป็นหมามาตลอดเลยนะเนี่ย!~”
“ถ้ามินเป็นหมาแม็กก็ต้องเป็นหมาเหมือนกันแหละ เพราะมันผสมข้ามสายพันธ์ไม่ได้” มินกัดปากตอกแม็กกลับไปอย่างเจ็บแสบไม่แพ้กกัน ถึงแม้ว่าจะต้องรวบรวมความกล้าหน้าด้านออกมาใช้จนหมดก็เถอะ!!
“สงสัยจะจริง เพราะนั่นน่ะท่าโปรดกูเลย หึๆ” นอกจากจะไม่สะทกสะท้านในคำจิกกัดของมินแล้ว แม็กยังคงตีหน้ามึนพามินเข้าเรื่องหื่นไปอย่างเนียนๆ ส่วนมินก็เขินจนหน้าแดงหูแดงคอแดงไปหมดแล้ว…เลือดลมมันจะมาเดินดีอะไรตอนนี้เนี่ยห้ะ!!
“แม๊กอ่า~” มินเบะปากร้องเรียกชื่อคนรักเสียงหลงอย่างขัดใจเมื่อไม่สามารถโต้ตอบแม็กได้เลยแม้แต่น้อย…แพ้ทุกที!!
“แต่มึงรู้อะไรมั้ยมิน” แม็กขยับปากเข้าไปกระซิบอยู่ข้างหูของมินเบาๆ
“…..” ส่วนมินก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“สิ่งที่กูรักกูหวงและห่วงมากกว่าชีวิตของกูเองก็มีแต่ ‘หมาแบ๊ว’ อย่างมึงเท่านั้นแหละ” พูดบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบธรรมดาๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงใจและมั่นคง ก่อนที่จะหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาตามความตั้งใจแรกของตัวเอง ทิ้งมินไว้ให้ยืนใจสั่นอยู่ที่เดิมตามลำพังคนเดียวด้วยหัวใจพองโต…โตเสียจนเขากลัวว่ามันจะระเบิดออกมา
…………………………………………………………………………..TBC.