บทที่ 11 คุณสว่างไสว
“ไอ้พี! มึงไปเอาแมวมาจากไหนเนี่ย”
ไอ้แกรมหน้าเหวอเมื่อเห็นผมอุ้มคุณสว่างไสวขึ้นมาหน้าประตูฟิตเนส ผมกวักมือเรียกให้มันออกมาหา เพราะเอาสัตว์เข้าไปไม่ได้
“เก็บได้หน้าตึก”
“มึงใช้คำว่าเก็บได้ ?”
“เออดิ”
ตอนแรกไอ้แกรมมันก็เล่นกับแมวดีครับ ไอ้นี่มันเป็นคนรักแมว แต่เวลาถ่ายรูปทีไรเหมือนแมวไม่รักมันทุกทีเลย พอผมบอกว่าจะเลี้ยงคุณสว่างไสวมันก็นิ่งไป นึกว่าจะดุซะอีก แต่ถ้าเป็นพี่อิงล่ะก็คงดุแน่ๆ (ใช่ มึงโดนแน่ๆ ไอ้พี)
“เอาดิ”
“เฮ้ย! ไม่ห้ามเหรอ”
“ก็มึงอยากเลี้ยง อีกอย่างกูก็รักแมว” มันว่าพลางลูบหัวแมวดำน้อย คุณสว่างไสวเองก็ดูเหมือนจะชอบสัมผัสของไอ้แกรมไม่น้อย หลับตาพริ้มเชียว
“แต่กูว่าพี่อิงต้องไม่ยอมแน่เลยว่ะ”
“เออก็ลองดูก่อน มีไรค่อยปรึกษากันอีกที”
“ไม่ ให้ เลี้ยง!”
“ทำไมเล่า! พี่ไม่สงสารคุณสว่างไสวเหรอ”
“กูต้องสงสารตัวเองก่อน กูแพ้ขนแมว”
“แต่พี่ก็เล่นกับแมวได้นี่ ยังถ่ายรูปกับแมวให้พีถ่ายอยู่เลยอะ”
“นั่นมันแค่แป๊บเดียวมั้ยไอ้พี นี่เอามาอยู่ด้วย ขนเต็มห้องพอดี”
“แต่คุณสว่างน่าสงสารนะ”
“ยังไงก็เลี้ยงไม่ได้”
“ก็ได้ งั้นจะเอาไปให้ไอ้แกรมเลี้ยง”
“ดีมาก”
“แล้วพีก็จะย้ายไปอยู่กับแกรม!”
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะพี!”
“ไม่หยุด พี่ใจร้าย!”
กริ๊ก!
ไอ้พีพ่นไฟใส่ผมเสร็จแล้วก็วิ่งหนีเข้าห้องไปพร้อมกับล็อกประตูเสร็จสรรพ เดี๋ยวนะ มึงบอกว่ามึงจะย้ายไปที่อื่น แต่เข้าห้องขังตัวเองไว้นี่คืออะไร ที่สำคัญคือขังกูด้วย เพราะกุญแจรถอยู่ในนั้น
พี่ว่าพีควรกินปลา
เมี้ยว
และที่สำคัญกว่านั้นคือทิ้งแมวไว้กับผมด้วย!
“ไอ้พี! มาเอาแมวมึงไปด้วยสิวะ!”
เงียบกริบ ไร้สัญญาณตอบรับ ทิ้งไว้เพียงคนแพ้แมวกับแมวหนึ่งตัวที่กำลังเดินพันแข้งพันขาเขา และเขาคนนั้นก็คือผมเอง
“สว่างไสว นี่ชื่อมึงเหรอ” ผมอุ้มไอ้แมวดำเจ้าปัญหาขึ้นมามองหน้า มันร้องเบาๆ เหมือนจะตอบว่าใช่
“ถ้ามึงทำกูจาม กูเฉดหัวมึงออกไปแน่”
เมี้ยว
“ยังจะมาทำตาแป๋วอีก แม่มึงงอนแล้วเนี่ย เพราะมึงแท้ๆ เลย”
“สรุปงานนี้กูต้องง้อเหรอวะ”
P Part
ไอ้พี่อิงแม่งใจร้าย
ผมนอนปาดน้ำตาพลางคุยไลน์กับไอ้แกรม ก่อนหน้านี้ผมวิ่งอ้วกไปแล้วรอบนึง เดี๋ยวนี้ร่างกายผมไม่สู้ดีเท่าไหร่ เหนื่อยง่าย อารมณ์เหวี่ยงเป็นไวกิ้งเลย โกรธง่าย พอโกรธมากๆ ก็จะอ้วก
PP : พี่อิงไม่ให้เลี้ยงจริงๆ ด้วยว่ะ
G : แล้วมึงทำไงอะ
PP : กูบอกว่ากูจะหนีไปอยู่กับมึง
G : เฮ้ย! เอาจริงดิ
PP : เออดิ มึงสะดวกปะล่ะ
G : มันก็ได้อยู่ แต่กูไม่คิดว่ามึงจะมาได้ว่ะ
PP : ทำไมวะ
ก๊อกๆ
“พี เปิดประตูให้พี่หน่อย”
“ไม่!”
“โอเค พี่ยอมแล้ว ยอมให้เลี้ยงก็ได้ เปิดประตูมาคุยกันดีๆ พี่ได้ยินนะว่าพีอ้วกอะ”
ผมชั่งใจแป๊บนึงก่อนจะยอมเปิดประตูให้พี่มัน กลายเป็นว่าคุณสว่างไสววิ่งปรู๊ดเข้ามาก่อนจะตามมาด้วยเจ้าของห้องอีกคน
“พี่ยอมให้เลี้ยงแมวจริงปะ”
“กูมีทางเลือกด้วยเหรอ”
“มีสิ อีกทางก็คือให้พีไปอยู่กับแกรมไง”
“เดี๋ยวจะโดนไอ้ตัวดี”
ผมดีดหน้าผากไอ้พีทีหนึ่ง มันลูบหน้าผากป้อยๆ ก่อนจะลุกไปเล่นกับแมว ผมสังเกตท่าทางที่กึ่งเดินกึ่งเซของมันอย่างไม่ค่อยสบายใจ พีดูอ่อนเพลียกว่าปกติ ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้เริ่มซ้อมกันเลยด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะไหวรึเปล่า
“พี่อิง ดูคุณสว่างสิ ขี้อ้อนมากเลยอะ”
“มันก็นิสัยแมวมั้ยล่ะ”
“ไม่นะ แกรมบอกว่าแมวบางตัวอะหยิ่งมาก แต่บางตัวก็ขี้อ้อนมาก”
“อะไรก็แกรมๆ”
“แกรมเป็นพ่อแมวนี่นา”
“มึงว่าไงนะ”
“ก็แกรมมันเลี้ยงแมว มันก็เป็นพ่อแมวไง”
“แมวตัวนี้อยู่ในห้องกู มึงก็เป็นของกู เพราะฉะนั้นพ่อแมวก็ต้องเป็นกู”
Eing Part
หลังจากน็อคไอ้พีไปด้วยร่างกายและจิตใจ งานหนักก็ตกอยู่ที่ผม ตอนฟัดกันอะไรๆ ก็ดูเป็นใจ แต่พอเสร็จสิ้นภารกิจเท่านั้นแหละ ไอ้พีก็หลับไปตามสภาพ ส่วนผมที่กำลังจะพักผ่อนตามไปติดๆ กลับต้องชะงักเพราะไอ้ลูกแมว สว่างไสวอะไรนั่นน่ะดันตื่นมาร้องแง้วๆ ไม่ยอมหยุด แถมยังปีนขึ้นเตียงมาอีกต่างหาก ช่วงนี้ไอ้พีมันไม่ค่อยแข็งแรง ผมอยากให้มันพักผ่อนเต็มที่ ผมเลยจัดการอุ้มไอ้ตัวเล็กออกไปข้างนอก
“หยุดร้องสิ เดี๋ยวแม่มึงก็ตื่นหรอก”
เมี้ยว เมี้ยว
ผมเกาหัวจนปัญญา จับคุณสว่างไสวไว้ที่ตักแล้วเกาหัวให้มันเคลิ้ม มันจะได้ไม่ไปกวนหน้าห้องนอน อีกมือหนึ่งก็เปิดกูเกิลหาวิธีเลี้ยงแมว ผลที่ได้คือมันอาจจะหิว และแน่นอนว่าที่ห้องผมไม่มีอาหารแมว
อ๊ะๆ คนเลี้ยงแมวมือใหม่ เลือกอาหารดีๆ นะคะ แมวเด็กกับแมวโตกินไม่เหมือนกันน้า
อ๊ะๆ พ่อง งานละเอียดอีกกู
ไอ้พีนะไอ้พี หายดีเมื่อไหร่จะจับมาเตะสักป้าบ
นี่เป็นเจ้าป่าจริงๆ นะ
LingLom : ก็แพ้แมวไง แพ้แม่แมวอะ พี่เขาเก้วกาดมากเว่อออ ประกาศศักดาเว่อ สิ่งโตเจ้าป่าสุดๆ เออนี่ห้องเขานะ นี่ก็คนของเขา คุณสว่างจะไปเป็นแมวคนอื่นไม่ได้