ตอนที่ 9
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ผมกังวลไม่น้อยกับการต้องย้ายเข้าไปอยู่กรุงเทพหลังจากไม่ได้ไปมาหลายปี ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆทั้งของผมและของน้องจีส่วนใหญ่ ถูกส่งไปก่อนล่วงหน้าแล้ว
เมื่อวานเป็นวันที่ทุกคนที่ผมคุ้นเคยจัดงานเลี้ยงส่งให้ ผมไม่ได้บอกเหตุผลเรื่องการย้ายเข้ากรุงเทพว่าต้องไปอยู่กับพ่อของน้องจี ความจริงเรื่องที่ผมเป็นแม่แท้ๆที่คลอดน้องจีออกมาไม่มีใครรู้เรื่องนอกจากคุณหมอนนต์ ผมให้เหตุผลเพียงแค่ว่าเรื่องอนาคตของน้องจีและเรื่องสุขภาพของผมเอง ทุกคนก็ต่างเห็นด้วยเพราะคุณหมอนนต์เองก็ย้ายเข้ากรุงเทพกะทันหันโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใครก่อนล่วงหน้า
“พ่อครับแม่ครับ เอฟไปก่อนนะครับ สิ้นเดือนจะมาเยี่ยม”ผมพูดบอกลาพร้อมกับยกมือไหว้ท่านทั้งสอง การไปกรุงเทพครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวผมหรือน้องจี แต่ไปเพราะโอกาสของผู้ชายตรงหน้าที่เข้าขอไว้ ผมหวังว่ามันจะเป็นความคิดที่ดีสำหรับผมที่ยอมให้โอกาสกับเขา
“จ๊ะ ไม่ต้องรีบมาหรอก เฉพาะเทศกาลก็ได้ น้องจีอย่าลืมมาหายายนะยายคิดถึง”แม่พูดพร้อมกับหอมแก้มน้องจีฟอดใหญ่
“คิๆๆ จีก็คิดถึงคุณยายฮะ”น้องจีหอมกลับด้วยริฝีปากเล็กเรียกเสียงหัวเราะจากแม่ของผมไม่น้อย
หลังจากล่ำลากันพักใหญ่ๆพวกผมก็พากันขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ ที่จริงถ้ากลับเครื่องบินคงเร็วกว่าแต่ติดที่เจ้าตัวเล็กนี่แหละกลัวจะงอแง ถึงคุณพ่อของเขาจะบอกให้นั่งที่นั่งเฟริสคลาสก็เถอะ แต่ก็กลัวจะรบกวนคนอื่นอยู่ดี
“แม่ฮะ จีปวดฉี่”น้องจีที่นอนหลับมาตลอดทางตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงงึมงำ
“ครับๆ คุณน้องจีอยากเข้าห้องน้ำแวะปั๊มข้างหน้าหน่อย”คุณพ่อของน้องจีพยักหน้าตอบรับก่อนที่เราจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดในปั๊ม
พอพาเจ้าตัวเล็กทำธุระเรียบร้อยแล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือต้องเข้าเซเว่น อาจจะเพราะบ้านของผมอยู่ในที่ๆค่อนข้างจะชนบทเลยไม่ค่อยมีเซเว่นนานๆทีถึงจะพาน้องจีเข้ามาเมือง แกก็เลยชอบอะไรแบบนี้จริงๆ
“แม่ฮะๆ จีอยากกินอันนั้น”เจ้าตัวน้อยส่งเสียงร้องเรียกเสียงดังจนคนด้านในหันมามองกันหมด และก็ยังคงมองต่อเมื่อน้องจีเรียกผมว่าแม่ เหอๆๆ เหมือนผมจะชินนะครับเพราะเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้วตั้งแต่เจ้าตัวน้อยเริ่มหัดพูด แต่ก็ไม่ชิน
“น้องจีเบาๆครับ”ผมพูดบอกก่อนจะรีบพาแกเดินมายังมุมขนมขบเขี้ยว
“น้องจีมาหาพ่อครับ”และก็มีคนที่ไม่รู้ถึงสถานการณ์เดินตรงเข้ามาอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นก่อนจะพาเลือกขนม คนที่ตอนแรกมองอยู่แล้ว ยิ่งมองกันเข้าไปใหญ่
“พ่อฮะ จีอยากได้อันนี้ อันนี้ อันนี้ด้วย”เจ้าตัวยุ่งชี้มั่วไปหมดจนคนเป็นพ่อหยิบตามไม่ทัน
“น้องจีครับเยอะไปแล้วลูก”ผมว่าพร้อมหยิบขนมวางคืนชั้นไปบางส่วน
“บู้ๆ”น้องจีทำปากยื่นมาข้างหน้าพร้อมเสียงประหลาดที่เจ้าตัวขอบทำเวลางอล
“แม่หนูขี้งกจัง”คนเป็นพ่อที่ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ช่วยลูกตลอดพูดกับน้องจี
“ขี้ง๊กคืออะไรฮะ”เจ้าตัวน้อยที่ไม่เข้าใจความหมายก็โผล่หน้ามาถามผมทันที
“อย่าไปฟังพ่อพูดเลย น้องจีมาหาแม่มา”ผมยื่นมืออกไปรับน้องจีมาอุ้มแทนปล่อยให้คนเป็นพ่อถือตระกร้าเดินตาม
หลังจากเลือกทุกอย่างจนครบและพอใจกับเจ้าตัวเล็กแล้ว ผมก็พากันมาคิดเงิน น้องจี ลงเดินเองเพราะเจ้าตัวชอบเข้าแถว ไม่รู้ทำไม เวลาเห็นมีคนต่อแถวน้องจีรีบวิ่งไปต่อทุกที ทำให้เราสามคนต้องมายื่นต่อแถวทั้งๆที่จ่ายเงินแค่ในตะกร้าเดียว
“แม่ฮะ จีอยากได้ลูกอม”น้องจีร้องขึ้นอีกครั้งเมื่อเรามาถือหน้าเคราเตอร์จ่ายเงิน
“ไม่เอาครับฟันผุ”ผมบอกพนักงานชายสองคนเริ่มมองมาที่ผมอย่างสนใจ
“อ่ะ”ก่อนทีคุณพ่อคนดีของเขาจะหยิบลูกอมถุงเล็กมาว่างให้พนักงานคิดเงินอีกครั้ง
“นี่คุณ”ผมเริ่มไม่พอใจ
“เอาน่า นานๆที เด็กๆยังไงก็ต้องกิน หรือตอนเด็กๆเอฟไม่กิน”ยังจะมาย้อนอีก
“คิกๆๆ จีรักพ่อทอสที่สุดดดเลย”น้องจีว่าเสียงดังพร้อมกอดขาพ่อเขาแน่นพนักงานสองคนก็มองหน้ากันใหญ่จะขำก็ไม่ขำ
“ใช่ซิ เดี๋ยวนี้มีพ่อแล้วนี่”ผมแกล้งบ่นและทำหน้าไม่พอใจพร้อมเดินออกไปนอกร้านเลย ผมคิดว่าน้องจีต้องร้องไห้แน่นนอนอยากจะรู้จริงๆคุณพ่อคนเก่งจะทำยังไง
แล้วก็เป็นไปตามคาดน้องจี ที่ตอนนี้ร้องไห้เสียงดังน้ำตาไหลอาบแก้มกำลังโดนคุณพ่อฉุดแขนไว้ ไม่ให้ออกวิ่งตามหาผม ดูหน้าดิ 555 กำลังกดโทรศัพท์หาผมยกใหญ่เลย ผมยืนดูสักพักก็ทนไม่ไหวสงสารลูกเลยเดินออกมาอุ้มน้องจีแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินกลับมาที่รถ โดยมีคุรณพ่อของน้องจีมองอย่างหัวเสีย
“ฮือๆๆ”น้องจียังคงตกใจไม่เลิก ผมเองก็เริ่มรู้สึกผิด อาจจะเพราะแกล้งลูกมากเกินไป
“โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะ แม่ไปเข้าห้องน้ำมา”ผมเริ่มปลอบ
“แม่ทิ้งจี แม่ทิ้งน้องจี”เด็กน้อยร้องไห้โยเยใหญ่
“555ไม่ทิ้งครับไม่ทิ้งคุณพ่อหนูก้อยู่ไม่ใช่หรอ”ผมอดหัวเราะไม่ได้จริงๆกับความใสซื่อของลูก
“แม่อ่า ฮือๆๆ”เจ้าตัวเล็กเริ่มรู้ว่าถูกแกล้ง เลยเริ่มทำเสียงไม่พอใจ
กว่าจะสงบกันได้ก็พาให้เจ้าตัวหลับอีกตามเคย
“เดี๋ยวจะมีเอาคืน”พ่อของน้องจียังคงไม่หายเคือง ก็คงตกใจไม่น้อยที่จู่ๆน้องจีก็ร้องลั่นไม่ยอมฟังอะไร
“อะไร คุณเองก็เหอะ แค่ลูกร้องยังจัดการอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้เรื่อง”ผมว่าขำก่อนจะก้มลงจุ๊ฟหน้าฝากเนียนของเด็กน้อยบนตัก
อีกครั้ง
“เออ แล้วเรื่องบ้านที่คุณบอกวันไหนเป็นไง”ผมถามย้อนไปเมื่อตอนที่เขาให้เลือกแบบบ้าน
“อืมก็เอาหลังนั้นแหละ แต่จะเปลี่ยนให้มันใหญ่ขึ้นอีกนิดคงต้องเข้าไปอยู่ก่อนแล้วค่อยต่อเติม”เขาว่าในขนาดที่ยังคงตั้งใจขับรถ
“แค่นั้นก็พอแล้ว เวลาทำความสะอาดลำบากแย่”ผมพูดเสนอแค่แบบที่เลือกวันนั้นผมว่ามันก็กว้างกว่าบ้านของผมต้องเท่าตัวแล้วนะ แล้วผมคงต้องทำความสะอาดคนเดียวอีก ไหนจะน้องจีอีก ทำไม่ไหวแน่น
“จ้างแม่บ้านไง”ว่า
“ไม่อ่ะ ผมไม่ชอบใช้คนอื่น เดี๋ยวผมทำเองก็ได้เดี๋ยวหางานที่มีเวลาอยู่บ้านเยอะๆเอา”ผมว่า
“ไม่ต้องทำหรอกงาน เมียคนเดียวเลี้ยงได้ ถ้าไม่อยากมีแม่บ้านก็อยู่บ้านเป็นแม่บ้านเองไปนั้นแหละ”
“ไม่เอาหรอก ผมก็ผู้ชายนะหาเลี้ยงตัวเองได้”ผมว่าแย้ง จะให้ผมมานั่งกินนอนกินมันไม่ใช่ผมอ่ะ
“ก็จ้างทำงานบ้านไง ค่าแรงเรียกได้ตามต้องการ จะเอาอะไรก็บอก”บ้างครั้งไอ้หน้านิ่งๆนั้นแต่ประโยคยียวนมันก็เข้ากันดีเสียจนผมเริ่มหมั่นไส้
“ไว้ค่อยคุยดีกว่า”ผมว่าก่อนจะงีบหลับบ้าง ใช้เวลานานพอสมควรกับการเข้ากรุงเทพแถมรถก็ยังติดอีกนี่ขนาด4ทุ่มแล้วนะ กรุงเทพเมื่อก่อนกับตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยจะต่างก็แค่มันติดมากกว่าเดิมนี่แหละ
“คุณขึ้นไปอาบน้ำนอนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวผมดูน้องจีเองขับรถมาทั้งวันแล้ว หรือจะกินอะไรก่อน ผมซื้ออาหารแช่แข็งจากเซเว่นมาเหมือนกันนะ กินไหม”ผมบอกเมื่อเราขนของลงจากรถเสร็จน้องจีที่นอนมาตลอดทั้งวันตอนนี้ก็ไม่มีวี่แววว่าจะหลับเจ้าตัวรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันทีที่เห็นบ้านใหม่
บ้านที่ผมเลือกเป็นบ้านสองชั้นสีขาวหลังขนาดกลางๆถ้าเทียบกับบ้านในระแวกนี้ บ้านนี้ถูกสร้างไว้เกือบเสร็จตั้งแต่ปลายปีที่แล้วแต่ยังไม่มีคนซื้อ พอเราตัดสินใจเลือกบ้านหลังนี้ก็จ้างคนสวนมาทำสวนเล็กๆให้ทันที บ้านมีเนื้อที่ค่อนข้างมากมีสระว่ายน้ำขนาดกลางๆอยู่ด้านหลังของบ้านด้านหน้าเป็นน้ำตกเล็กๆที่ถูกสร้างให้เข้ากับตัวอ่างปลา มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ พร้อมศาลาเล็กๆให้นั่งรับลม ต้นไม้ถูกปลูกอย่างร่มรื่นเขียวขจีไม่ต่างจากบ้านที่เชียงใหม่มากนัก
แถมยังมีแปลงดอกกุหลาบที่ตอนนี้กำลังจะขึ้นดอกอยู่อีก สำหรับผมแล้วบ้านหลังนี้เหมือนบ้านในฝันเลย ยิ่งเดิมสำรวจผมยิ่งหลงใหล
หมับ!
“ชอบไหม”อ้อมแขนของใครบ้างคนสวมกอดผมจากทางด้านหลัง ฉวยโอกาสตอนผมกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศตอนกลางคืนหน้าตาเฉย
“นี่คุณ ปล่อยเดี๋ยวน้องจีเห็น”ผมรีบแกะมือปลาหมึกออกทันที แต่ยิ่งแกมันก็ยิ่งแน่น
“เหนื่อย อย่าดิ้น”เอากระซิบข้างหูด้วยเสียงเหนื่อยๆทำเอาผมหยุดดิ้นทันที ไม่รู้ทำไม
“เหนื่อยก็ไปนอนพักซิ พรุ่งนี้ต้องทำงานไม่ใช่หรอ”ผมว่าก่อนที่จะมองตรงไปข้างหน้า ที่มีชิงช้าเล็กๆห้อยอยู่เหมือนบ้านที่เชียงใหม่เลย
“อืม 9โมง ปลุกด้วยนะ แล้วเรื่องที่ถามล่ะ”เขาว่าก่อนจะเอาคางมาเกยที่หัวของผมผมรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยจริงๆก็ตอนนี้แหละ
“ชอบ”ผมตอบเริ่มรู้สึกใจไม่ดีก็ตอนที่ใบหน้าของเขาเลื่อนมาอยู่บริเวณซอกคอนี่แหละ
“คนซื้อล่ะ”ไม่หน้าเชื่อว่าผู้ชายหน้าตายอย่างเขาจะถามอะไรแบบนี้ออกมา
“อ่ะ อะไรล่ะ”ผมไปไม่ถูกเลยเริ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบ
“ชอบไหม”ก่อนที่ผมจะรู้ถึงสัมผัสชื่นๆที่ต้นคอ
“แม่ฮะ!”ตามมาด้วยเสียงน้องจีที่วิ่งเข้าหาผม ทำเอาผมรีบผละออกจากพ่อของเขาทันที
“คะ ครับลูก”ผมอุ้มน้องจีขึ้น
“น้องจีเห็นหมีด้วยคุณหมีตัวใหญ่มาก”เจ้าตัวว่าอย่างตื่นเต้นพร้อมทำมือวาดออกจากกันแสดงถึงความใหญ่โตกับสิ่งที่เจ้าตัวเห็น
“หรอครับ พาแม่ไปดูหน่อย”ผมรีบหาทางหนีทันที ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากคนข้างหลัง แต่ผมไม่กล้าพอที่จะหันไปมอง ยิ่งนับวันเขายิ่งอันตราสำหรับผมจริงๆ
เมื่อคืนกว่าน้องจีจะนอนก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน คนเป็นพ่อที่ตอนแรกกะจะรอส่งลูกเข้านอน ก็เผลอหลับไปก่อนคงเพราะขับรถติดกันตลอดเป็น10ๆชั่วโมง
เช้านี้ดูเหมือนจะไม่วุ่นวายเท่าไหร่เมื่อเจ้าตัวน้อยของผมยังไม่ต้องไปโรงเรียน หรือจะพูดให้ถูกคือ ยังไม่มีโรงเรียนให้ไปนั้นเอง
ข้าวข้องมากมายยังไม่ได้ถูกจัดเข้าที่ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมไม่ต้องการแม่บ้านเพราะฉะนั้นทุกอย่างผมต้องจัดเอง แต่ก่อนหน้านั้น
“คุณ คุณ ตื่นได้แล้วแปดโมงแล้วนะ”มันจะมายากก็ตอนปลุกคนพ่อที่ดูยังไงๆก็ขี้เซากว่าลูกหลายเท่า
“อืม”ครั้งที่สามแล้วที่ตอบแบบนี้ ปลุกจนน้องจีตื่นแทน มานั่งมองคุณพ่อขี้เซาตาแป๊ว
“แม่ครับน้องจีเบื่อ”เด็กน้อยของผมล้มตัวลงนอนอีกครั้งแล้วกลิ้งไปมาอย่าเบื่อหน่าย
“อันนี้หนูต้องโทษคุณพ่อแล้วล่ะ”ผมว่าขำๆ
“บู้ๆ”น้องจีทำปากยื่นๆก่อนจะปีนลงจากเตียงแล้ววิ่งไปกดเปิดทีวีแล้วนั่งดูไม่สนใจพ่อของเขาอีกต่อไป
“ผมจะปลุกคุณเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ตื่น!”ผมก้มลงไปใกล้ๆใบหูก่อนจะตะโกนเสียงดัง แต่แทนที่เขาจะตื่นกลับคว้าแขนผมแล้วดึงลงในนอนบนเตียงโดยที่มีเขากอดแน่นอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ!”
“เอาน่า ไปสายก็ไม่มีใครไล่ออกหรอกน่า”เขาว่า
“ไม่ลุกก็เรื่องของคุณปล่อย ผมจะพาน้องจีไปกินข้าว”ผมว่าพร้อมดิ้นทั้งดิ้นทั้งแกะไอ้แขนบ้าๆนี่ออก
“โอเคๆ ยอมๆ”
ฟอด!
เขาว่าจบ ก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่แล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉยก่อนจะปิดประตูหนีหมอใบโตที่ผมปาไปได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียด
TBC.
หวานไปๆ เดี๋ยวมีมาม่า555เค้าล้อเล่นนะ
เรื่องนี้ตัวเองไม่ใช่พ่อทอสกับแม่เอฟนะ แต่เป็นน้องจี
เห็นเเบบนี้แต่น้องจีเป็นเมะนะ(?)555
ปล.เบื่อมหาลัยอ่ะ