"ตอนที่ 24/4"
ผมเดินตามบูมขึ้นมาบนห้อง ก็เห็นบูมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ผมเลยเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ
“เป็นอะไรอีกละ”ผมพูดแล้วเอาหน้าไปซบที่ไหล่บูม
“เปล่า ก็แค่อยากมาอ่านหนังสือเงียบ ๆ”บูมพูดโดยไม่ได้ละสายตาจากหนังสือตรงหน้า
“ไม่จริงหรอก เรารู้นะ หึงอ่ะดิ”ผมเอามือไปจี้เอวบูมเบา ๆ
“ใครหึง เราไม่สนหรอก เพราะยังไงโยก็เป็นของตายอยู่แล้ว”บูมวางหนังสือลง พร้อม ๆ กับขยับตัวหนี
“ใครของตาย พูดมาดี ๆ นะ เดี๋ยวโดน”ผมเอามือไปจี้เอวบูมอีกครั้ง
“ไม่แล้วครับ ไม่เป็นของตายแล้ว 555 ยอมแล้ว ยอมแล้ว”บูมหัวเราะ ยอมแพ้
“ดี....”ผมกำลังจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมตทีวีมาเปิด แต่ก็โดนบูมดึงตัวเอาไว้
“จะไปไหนมานี่เลย”บูมคว้าแขนผมไว้ทำให้ผมเซล้มลงไปนอนบนเตียง จากนั้นบูมก็กระโดดขึ้นมาคล่อมที่ตัวผมทันที
“ปล่อยเลย เราจะไปเปิด..........”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ บูมก็ก้มลงจูบที่ปากผม จากนั้นบูมก็หันมาไซร้ที่ซอกคอผม
ส่วนมือทั้งสองข้างของบูมก็พยายามดันเสื้อผมออก จนตอนนี้ท่อนบนของผมเปลือยเปล่า บูมค่อย ๆ เลื่อนตัวลงต่ำอย่างช้า ๆ จนไปหยุดที่อยู่หัวนมของผม
บูมค่อย ๆ ใช้ลิ้นเขี่ยหัวนมของผมไปมา จนผมดิ้นไปมาเพราะรู้สึกเสียวมาก ๆ ผมพยายามดันบูมออกไป
แต่บูมก็ยังคงดื้อหันไปเล่นงานหัวนมของผมอีกข้างจนผมครางออกมาเบา ๆ จากนั้นบูมก็ลากลิ้นลงไปตามตัวของผมอย่างช้า ๆ
มือทั้งสองข้างก็พยายามถอดกางเกงของผมออก ตอนนี้อารมณ์ของผมมันเริ่มที่จะเคลิ้มจนหยุดไม่อยู่แล้ว
ผมพยายามดึงตัวบูมให้ลุกขึ้นมา ถอดเสื้อและกางเกงออกอย่างรวดเร็ว ผมจัดการไซร้ไปที่ซอกคอ เรื่อยไปจนถึงซอกหู
ใช้มือทั้งสองข้างบี้หัวนมบูมที่ตอนนี้เริ่มแข็งเป็นไต จนบูมร้องครางออกมาเช่นกัน ผมเริ่มเลียไปที่ร่างกายของบูมอย่างนุ่มนวล
ผมดันตัวบูมให้ล้มลงไปนอนบนเตียงแล้วจัดการปลดปราการสุดท้ายออกมาจากนั้น....................
(แค่นี้พอนะครับเดี๋ยวจะเป็นหนังเอ็กซ์ไปซะก่อน เอาเป็นว่า เรียบร้อยก็แล้วกันครับ)
หลังจากที่ สงครามสงบลง บูมกับผมก็นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนล้า จนลืมไปว่าตอนเย็นนี้ ผมมีนัดที่จะต้องเจอกับพี่วิทย์
ผมตกใจตื่นมาอีกที ก็เกือบจะ หกโมงเย็นแล้ว เพราะเพิ่งจะนึกได้ว่าพี่วิทย์จะมาหา ผมจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินมาปลุกบูม แต่บูมก็ยังไม่ยอมตื่น
ผมเลยต้องลงไปนั่งรอพี่วิทย์ข้างล่างคนเดียว
ผมนั่งรอพี่วิทย์ด้านล่างได้ไม่นานนัก เสียงแตรรถก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน ผมเลยเดินไปเปิดประตู
“พี่วิทย์สวัสดีครับ”ผมยิ้มทักทาย หลังจากที่พี่วิทย์ลงมาจากรถ
“น้องโย สวัสดีครับ สบายดีหรือเปล่าครับ เราน่ารักขึ้นจริง ๆ นะเนี่ย พี่ชักเริ่มจะอดใจไม่ไหวแล้วล่ะ”พี่วิทย์เดินยิ้มมาพร้อมกับหอบของฝากมาเยอะแยะเลย
“พี่วิทย์ทานอะไรมาหรือยังครับ” ผมยิ้มทักทายตอบ
“ยังเลยอ่ะ พี่กะจะชวนน้องโยไปทานข้าวข้างนอกกันน่ะ”
“อืมมม....งั้นเดี๋ยวผมเอาของไปเก็บก่อนนะ พี่วิทย์ไปนั่งรอในบ้านก่อนแล้วกันนะครับ”ผมเชิญพี่วิทย์เข้ามาในบ้าน
“อืมม ไป เราเข้าบ้านกัน” พี่วิทย์พยักหน้ารับ
จากนั้นผมก็เชิญพี่วิทย์ไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินไปเก็บของพร้อม ๆ กับหยิบน้ำมาให้ จากนั้นผมก็ขอตัวขึ้นไปบนห้อง โดยอ้างว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
แต่ที่จริงแล้วผมตั้งใจจะขึ้นไปบอกบูมก่อน เดี๋ยวจะมีเรื่องมีราวอีก
“บูม พี่วิทย์มาแล้วนะ เค้าชวนเราไปกินข้าวข้างนอก จะไปด้วยกันไหม”ผมสะกิดเรียก ชายหนุ่มที่กำลังนอนยิ้มอยู่บนเตียง
“บูม..........ได้ยินไหมเนี่ย ตื่น ตื่นเร็ว เราจะออกไปแล้วนะ” ผมสะกิดเรียกชายหนุ่มอีกที
“อะไร โยอ่ะ คนกำลังนอนสบายอยู่เลย หรือว่า....โยจะต่ออีก........”บูมงัวเงียมาจะดึงผมลงไปนอนบนเตียง
“ไม่เอาแล้ว พี่วิทย์มาแล้วนะ”ผมฝืนดันตัวบูมออกไป
“อ้าวมาแล้วหรอ” บูมลุกขึ้นนั่ง
“อืมม พี่เค้าชวนเราไปทานข้าวข้างนอก”
“งั้นเดี๋ยวเราลงไป รอแป๊ปนะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ
“อย่านานนะ เดี๋ยวพี่วิทย์จะคอยนาน”
จากนั้นผมก็ไปหยิบเสื้อผ้าเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงไป พอผมเดินลงไปก็เห็นพี่วิทย์นั่งยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อยู่ตรงโซฟาจนอดถามไม่ได้
“พี่วิทย์ยิ้มอะไรครับ ผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” ผมก้มลงสำรวจตัวเองอย่างแปลกใจ
“เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรครับน้องโย พี่แค่คิดว่าเราไม่เจอกันไม่กี่เดือนทำไมน้องโยน่ารักขึ้นขนาดนี้ พี่ชักไม่อยากกลับไปเชียงใหม่แล้วซิ” พี่วิทย์ยิ้ม
พร้อม ๆ กับหยอดคำหวานซะจนผมตัวแทบจะลอย
“อ้าว เป็นงั้นไป...ขอบคุณครับพี่ พี่วิทย์ชอบพูดแบบนี้จนผมนึกว่าเป็นเรื่องจริงแล้วนะเนี่ย” ผมยิ้มเขิน ๆ
“ก็พี่พูดเรื่องจริงนิครับน้องโย” หยอดอีกแล้วครับท่าน
“ไม่เอาแล้ว คุยกับพี่วิทย์เดี๋ยวผมตัวลอยไปโน้น”
“555 พี่พูดจริง ๆ ก็หาว่าแกล้งชม”
“จริงครับ พี่วิทย์แฟนผมน่ารักขึ้นจริง ๆ จนผมแทบจะอดใจไม่ไหวเลยครับพี่”บูมเดินลงมาจากชั้นบน
ทำให้ผมกับพี่วิทย์ต้องตกตะลึงเพราะบูมเล่นเดินลงมาด้วยผ้าขนหนูพันเอวแค่ตัวเดียว
“ขอโทษทีครับพี่ พอดีผมหา กางเกงไม่เจออ่ะครับ เลยลงมาตามแฟนให้ไปช่วยหา โยครับขึ้นไปช่วยบูมหาเสื้อผ้าหน่อยดิ ไม่รู้ไปเก็บไว้ไหนอ่ะ”
บูมพูดพร้อมกับมองพี่วิทย์ด้วยสีหน้าสะใจ
“เอ่อ..........คือ.......เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมมานะครับพี่” ผมจ้องบูมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจแล้วเดินไปหาบูม
จากนั้นบูมก็เดินลงมาจูงผมขึ้นไปบนห้อง ทันทีที่บูมเดินเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังจนผมต้องเดินมาหยิกที่แขนเป็นเชิงปราม
“555 โอ๊ย เจ็บนะ” บูมลูบแขนตัวเองอย่างเร็ว
“เจ็บหรอ ดูดิ๊ทำอะไรลงไป ไม่อายชาวบ้านบ้างหรอไง” ผมต่อว่าบูม
“อายทำไม คนเป็นแฟนกันจะอายทำไม ดูสีหน้าไอ้หน้าจืดนั่นดิ จ๋อยเลย ตาค้างเลยดิ สมน้ำหน้าอยากมายุ่งกับแฟนคนอื่นดีนัก”บูมเบ้ปากสะใจ
“เนี่ยพี่ไม่เห็นน้องโยมาไม่กี่เดือน น่ารักขึ้นนะ เชอะ”บูมแกล้งบีบเสียงเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยเป็นเชิงล้อเลียน
“เฮ้อออ.....แล้วตกลงจะไปด้วยกันไหมเนี่ย”ผมถามพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอา
“ไปดิครับ ใครจะกล้าปล่อยแฟนตัวเองไปกับไอ้คุณพี่วิทย์นั่นได้ล่ะครับ เดี๋ยว มคปด ซะก่อน รอแป๊ปนึงนะ”บูมรีบลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้า
“ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสิ มาแก้ผ้าอะไรแถวนี้”ผมตะโกนบอกแต่คิดว่าไม่ทันซะแล้วก็พี่บูมเล่นถอดผ้าขนหนูออกแถมยังทำท่าส่ายเอวโชว์ซะอย่างงั้น
“ทำไม อดใจไม่ไหวละซิ มาต่ออีกรอบมา”บูมเดินเข้ามาหาจนผมทำหน้าดุใส่ (ถ้าไม่ติดพี่วิทย์น่าดู)
“รีบไปใส่เสื้อผ้าเลย เราไม่รอแล้วนะ เดี๋ยวเราจะลงไปหาพี่วิทย์ก่อนขึ้นมานานแล้ว”ผมพูดจบก็หันหลังเดินลงไปข้างล่าง
พอผมเดินลงมาด้านล่างก็เห็นพี่วิทย์มีสีหน้าที่เศร้าลงไปอย่างถนัด จนผมอดที่จะสงสารพี่วิทย์ไม่ได้
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่วิทย์ พี่อย่าทำหน้าแบบนี้ดิครับ ดูไม่หล่อเลยนะ” ผมพูดกับชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่เบื้องหน้าผม
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับน้องโย”ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง
“อะไรครับ เมื่อไหร่ ผมไม่เข้าใจ”ผมถามด้วยความสงสัย
“พี่แค่อยากรู้ว่า น้องกับแฟน เอ่อ...บูม คืนดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่”พี่วิทย์เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“ก็ไม่กี่วันนี้เองครับ.....”ผมตอบด้วยความรู้สึกสงสารพี่วิทย์จับใจ นี่เป็นอีกคนแล้วสินะที่ต้องมาเจ็บปวดด้วยเรื่องระหว่างผมกับบูม
ผมได้แต่คิดและรู้สึกสงสารมาก ๆ
“งั้นพี่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับที่น้องโยได้กลับมาคืนดีกับบูมอีกครั้ง แต่ยังไงความรู้สึกของพี่ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ยังไงพี่ก็จะรอ รอจนกว่าน้องโยจะหันกลับมามองพี่และรักพี่จริง ๆ”พี่วิทย์ยิ้มให้ แต่มันเป็นยิ้มที่ดูเศร้ามาก ๆ
“พี่วิทย์ครับ เราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้ไหม ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจใครมากไปกว่านี้ จะเป็นการดีทั้งพี่ และ ก็ผม
ที่เราจะมายืนอยู่บนเส้นของคำว่าพี่-น้อง มากกว่าที่เราจะล้ำเส้นไปเป็นอย่างอื่น
ซึ่งมันอาจจะใช้เวลายาวนานเป็นปี ๆ หรือ อาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้ ผมไม่อยากให้พี่รอผมแบบนี้
ผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ครับพี่”
ผมระบายความอึดอัดออกมาพร้อมน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่ผมไม่อยากให้ใครต้องมาทนทุกข์เพราะผม
“รู้ไหมครับน้องโย ก็เพราะน้องโยเป็นคนแบบนี้ พี่ถึงได้รักน้องโย ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาของน้องหรอก
เพราะมีคนผ่านเข้ามาในชีวิตพี่ให้พี่เลือกมากมาย ทั้ง ๆ ที่เค้าเหล่านั้นหน้าตาดีกว่าน้องโยหลายเท่า
แต่น้องรู้ไหมครับว่าทำไมพี่ถึงไม่เลือกที่จะคบกับพวกเค้า.......”พี่วิทย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“.........”ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“พี่จะบอกให้ ก็เพราะความน่ารักที่รู้จักเห็นอกเห็นใจและอ่อนโยนกับผู้อื่นของน้องโยนั่นแหละ แว๊ปแรกที่พี่เห็นน้องโย
พี่ก็อาจจะเริ่มชอบน้องโยเพราะหน้าตาบ้างนิดหน่อย แต่พอพี่ได้รู้จัก ได้เรียนรู้นิสัยของน้องโยแล้ว
มันทำให้พี่ไม่สามารถที่จะถอนตัวออกจากความรู้สึกนี้ได้ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จนตอนนี้พี่แน่ใจแล้วว่า พี่รักเราจริง ๆ
พี่จะไม่ขอให้น้องยอมทิ้งบูมมาเป็นแฟนพี่เพราะพี่รู้ว่ามันคงจะยาก แต่พี่อยากจะขอรักน้องโยต่อไปจะได้ไหม
พี่ไม่สนว่าจะอีกนานเท่าไหร่ที่พี่จะได้หัวใจน้องโยมาครอบครอง หรือมันอาจจะใช้เวลาตลอดชีวิตของพี่ก็ได้ แต่พี่ก็เต็มใจที่จะรอ
ขออย่างเดียว ขอให้น้องโยสัญญาว่าจะไม่ลืมพี่ แค่นี้พี่ก็พอใจแล้ว”พี่วิทย์พูดจนผมน้ำตาซึมเลย
“พี่วิทย์ ผมขอบคุณมากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่พี่มีให้ผม”
“เอ่อ....งั้นวันนี้พี่ว่า พี่กลับก่อนดีกว่า เอาไว้เรานัดกันวันหลังละกันนะครับ ยังไงพี่ก็มากรุงเทพฯหลายวันอยู่แล้ว” พี่วิทย์พูดและลุกขึ้นยืน
“อ้าว....ไม่ไปทานข้าวกันก่อนหรอครับพี่วิทย์” ผมถามด้วยความสงสัย
“ไม่ดีกว่า....มันไม่สะดวกน่ะ ดูนั่นดิลงมาแล้ว พี่ไปก่อนนะครับ ฝากลาแฟนเราด้วยนะ” พี่วิทย์ทำท่าให้ผมมองกลับไปดูชายหนุ่มที่เพิ่งจะลงมาจากชั้นบน
“ครับได้ครับ......สวัสดีครับพี่วิทย์”
“ครับผม สวัสดีครับน้องโย”
“ไอ้พี่วิทย์กลับไปแล้วหรอ” บูมถามหลังจากเดินลงมาจากชั้นบน
“อืมม...ใครจะไปทนได้ เห็นชีเปลือยเดินลงมาขนาดนั้น” ผมแซวชายหนุ่มยิ้ม ๆ
“อ้าว....คนอุตส่าห์ลงทุนยอมเอาหุ่นตัวเองเข้าแรกขนาดนั้น ยังจะมาว่าเค้าอีก....เออ โย กลับไปบ้านเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ
พอดีแม่เราโทรมาตามน่ะ เราเลยอยากแนะนำโยให้แม่เรารู้จักด้วย” บูมชวนผม
“หา ตอนนี้เลยหรอ.....” ผมถามด้วยความตกใจ
“ก็ตอนนี้อ่ะดิทำไมหรอ....”
“เรายังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย” ผมเริ่มรู้สึกกังวล
“จะเตรียมไปทำไม ไปเหอะน่า”
ก็จะไม่ให้เตรียมใจได้ยังไงล่ะ ก็แม่บูมอ่ะใช่ย่อยที่ไหนเหมือนพวกซูสีไทเฮาอะไรแบบนั้น แบบประมาณว่า ระเบียบจัดมาก
ตั้งแต่ที่ผมรู้จักบูมมาผมยังไม่เคยเจอแม่ของบูมเลยสักที ได้ยินแต่กิตติศัพท์มาจากแพทบ้าง บูมบ้าง แต่ละอย่างชวนขนลุกทั้งนั้น
แล้วอยู่ดีดีบอกวันนี้จะพาไปหา กลุ้มใจจริง ๆ บูมนะบูม.......ผมได้แต่คิดไปคิดมาตลอดทาง
จบตอนที่ 24/4 เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะครับ ยังไงจะพยายามมาต่อให้จบก่อนจะต้องไปทำธุระอาทิตย์หน้า
เพราะเดี๋ยวต้องรออีกตั้งสองอาทิตย์กว่าจะกลับ
*********************************************************************