[story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ  (อ่าน 103051 ครั้ง)

beta

  • บุคคลทั่วไป
กรรมเก่าผ่านไป กรรมใหม่มาอีกแล้ว

เป็นกำลังใจให้ครับ  :-[ :-[ :-[

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :impress2:  ชอบเรื่องนี้จังเลยอ่าครับพูห์..... มีเรื่องให้ลุ้นตลอดเวลาเลย...


แต่ถ้าตัวเองเป็นบูมกะโยคงเหนื่อยน่าดู เหอๆๆ :try2:


นี่อาร์ทกับปอนด์ก้แก้ไปได้หน่อยแล้ว มีพี่วิทย์เจ้าเก่ามาอีก หู้ว :sad5:


ๆๆๆ  โยนี่เสน่ห์แรงจริงๆ (จอิจฉาดีมั้ยนี่ :untrust:)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 24/4"

ผมเดินตามบูมขึ้นมาบนห้อง ก็เห็นบูมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ผมเลยเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ

“เป็นอะไรอีกละ”ผมพูดแล้วเอาหน้าไปซบที่ไหล่บูม

“เปล่า ก็แค่อยากมาอ่านหนังสือเงียบ ๆ”บูมพูดโดยไม่ได้ละสายตาจากหนังสือตรงหน้า

“ไม่จริงหรอก เรารู้นะ หึงอ่ะดิ”ผมเอามือไปจี้เอวบูมเบา ๆ

“ใครหึง เราไม่สนหรอก เพราะยังไงโยก็เป็นของตายอยู่แล้ว”บูมวางหนังสือลง พร้อม ๆ กับขยับตัวหนี

“ใครของตาย พูดมาดี ๆ นะ เดี๋ยวโดน”ผมเอามือไปจี้เอวบูมอีกครั้ง

“ไม่แล้วครับ ไม่เป็นของตายแล้ว 555 ยอมแล้ว ยอมแล้ว”บูมหัวเราะ ยอมแพ้


“ดี....”ผมกำลังจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมตทีวีมาเปิด แต่ก็โดนบูมดึงตัวเอาไว้

“จะไปไหนมานี่เลย”บูมคว้าแขนผมไว้ทำให้ผมเซล้มลงไปนอนบนเตียง จากนั้นบูมก็กระโดดขึ้นมาคล่อมที่ตัวผมทันที

“ปล่อยเลย เราจะไปเปิด..........”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ บูมก็ก้มลงจูบที่ปากผม จากนั้นบูมก็หันมาไซร้ที่ซอกคอผม

ส่วนมือทั้งสองข้างของบูมก็พยายามดันเสื้อผมออก จนตอนนี้ท่อนบนของผมเปลือยเปล่า บูมค่อย ๆ เลื่อนตัวลงต่ำอย่างช้า ๆ จนไปหยุดที่อยู่หัวนมของผม

บูมค่อย ๆ ใช้ลิ้นเขี่ยหัวนมของผมไปมา จนผมดิ้นไปมาเพราะรู้สึกเสียวมาก ๆ ผมพยายามดันบูมออกไป

แต่บูมก็ยังคงดื้อหันไปเล่นงานหัวนมของผมอีกข้างจนผมครางออกมาเบา ๆ จากนั้นบูมก็ลากลิ้นลงไปตามตัวของผมอย่างช้า ๆ

มือทั้งสองข้างก็พยายามถอดกางเกงของผมออก ตอนนี้อารมณ์ของผมมันเริ่มที่จะเคลิ้มจนหยุดไม่อยู่แล้ว

ผมพยายามดึงตัวบูมให้ลุกขึ้นมา ถอดเสื้อและกางเกงออกอย่างรวดเร็ว ผมจัดการไซร้ไปที่ซอกคอ เรื่อยไปจนถึงซอกหู

ใช้มือทั้งสองข้างบี้หัวนมบูมที่ตอนนี้เริ่มแข็งเป็นไต จนบูมร้องครางออกมาเช่นกัน ผมเริ่มเลียไปที่ร่างกายของบูมอย่างนุ่มนวล

ผมดันตัวบูมให้ล้มลงไปนอนบนเตียงแล้วจัดการปลดปราการสุดท้ายออกมาจากนั้น....................

(แค่นี้พอนะครับเดี๋ยวจะเป็นหนังเอ็กซ์ไปซะก่อน เอาเป็นว่า เรียบร้อยก็แล้วกันครับ)

หลังจากที่ สงครามสงบลง บูมกับผมก็นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนล้า จนลืมไปว่าตอนเย็นนี้ ผมมีนัดที่จะต้องเจอกับพี่วิทย์

ผมตกใจตื่นมาอีกที ก็เกือบจะ หกโมงเย็นแล้ว เพราะเพิ่งจะนึกได้ว่าพี่วิทย์จะมาหา ผมจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินมาปลุกบูม แต่บูมก็ยังไม่ยอมตื่น

ผมเลยต้องลงไปนั่งรอพี่วิทย์ข้างล่างคนเดียว

ผมนั่งรอพี่วิทย์ด้านล่างได้ไม่นานนัก เสียงแตรรถก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน ผมเลยเดินไปเปิดประตู

“พี่วิทย์สวัสดีครับ”ผมยิ้มทักทาย หลังจากที่พี่วิทย์ลงมาจากรถ

“น้องโย สวัสดีครับ สบายดีหรือเปล่าครับ เราน่ารักขึ้นจริง ๆ นะเนี่ย พี่ชักเริ่มจะอดใจไม่ไหวแล้วล่ะ”พี่วิทย์เดินยิ้มมาพร้อมกับหอบของฝากมาเยอะแยะเลย

“พี่วิทย์ทานอะไรมาหรือยังครับ” ผมยิ้มทักทายตอบ

“ยังเลยอ่ะ พี่กะจะชวนน้องโยไปทานข้าวข้างนอกกันน่ะ”

“อืมมม....งั้นเดี๋ยวผมเอาของไปเก็บก่อนนะ พี่วิทย์ไปนั่งรอในบ้านก่อนแล้วกันนะครับ”ผมเชิญพี่วิทย์เข้ามาในบ้าน

“อืมม ไป เราเข้าบ้านกัน” พี่วิทย์พยักหน้ารับ

จากนั้นผมก็เชิญพี่วิทย์ไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินไปเก็บของพร้อม ๆ กับหยิบน้ำมาให้ จากนั้นผมก็ขอตัวขึ้นไปบนห้อง โดยอ้างว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

 แต่ที่จริงแล้วผมตั้งใจจะขึ้นไปบอกบูมก่อน เดี๋ยวจะมีเรื่องมีราวอีก

“บูม พี่วิทย์มาแล้วนะ เค้าชวนเราไปกินข้าวข้างนอก จะไปด้วยกันไหม”ผมสะกิดเรียก ชายหนุ่มที่กำลังนอนยิ้มอยู่บนเตียง

“บูม..........ได้ยินไหมเนี่ย ตื่น ตื่นเร็ว เราจะออกไปแล้วนะ” ผมสะกิดเรียกชายหนุ่มอีกที

“อะไร โยอ่ะ คนกำลังนอนสบายอยู่เลย หรือว่า....โยจะต่ออีก........”บูมงัวเงียมาจะดึงผมลงไปนอนบนเตียง

“ไม่เอาแล้ว พี่วิทย์มาแล้วนะ”ผมฝืนดันตัวบูมออกไป

“อ้าวมาแล้วหรอ” บูมลุกขึ้นนั่ง

“อืมม พี่เค้าชวนเราไปทานข้าวข้างนอก”

“งั้นเดี๋ยวเราลงไป รอแป๊ปนะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ

“อย่านานนะ เดี๋ยวพี่วิทย์จะคอยนาน”

จากนั้นผมก็ไปหยิบเสื้อผ้าเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงไป พอผมเดินลงไปก็เห็นพี่วิทย์นั่งยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อยู่ตรงโซฟาจนอดถามไม่ได้

“พี่วิทย์ยิ้มอะไรครับ ผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” ผมก้มลงสำรวจตัวเองอย่างแปลกใจ

“เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรครับน้องโย พี่แค่คิดว่าเราไม่เจอกันไม่กี่เดือนทำไมน้องโยน่ารักขึ้นขนาดนี้ พี่ชักไม่อยากกลับไปเชียงใหม่แล้วซิ” พี่วิทย์ยิ้ม

พร้อม ๆ กับหยอดคำหวานซะจนผมตัวแทบจะลอย

“อ้าว เป็นงั้นไป...ขอบคุณครับพี่ พี่วิทย์ชอบพูดแบบนี้จนผมนึกว่าเป็นเรื่องจริงแล้วนะเนี่ย” ผมยิ้มเขิน ๆ

“ก็พี่พูดเรื่องจริงนิครับน้องโย” หยอดอีกแล้วครับท่าน

“ไม่เอาแล้ว คุยกับพี่วิทย์เดี๋ยวผมตัวลอยไปโน้น”

“555 พี่พูดจริง ๆ ก็หาว่าแกล้งชม”

“จริงครับ พี่วิทย์แฟนผมน่ารักขึ้นจริง ๆ จนผมแทบจะอดใจไม่ไหวเลยครับพี่”บูมเดินลงมาจากชั้นบน

ทำให้ผมกับพี่วิทย์ต้องตกตะลึงเพราะบูมเล่นเดินลงมาด้วยผ้าขนหนูพันเอวแค่ตัวเดียว

“ขอโทษทีครับพี่ พอดีผมหา กางเกงไม่เจออ่ะครับ เลยลงมาตามแฟนให้ไปช่วยหา โยครับขึ้นไปช่วยบูมหาเสื้อผ้าหน่อยดิ ไม่รู้ไปเก็บไว้ไหนอ่ะ”

บูมพูดพร้อมกับมองพี่วิทย์ด้วยสีหน้าสะใจ

“เอ่อ..........คือ.......เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมมานะครับพี่” ผมจ้องบูมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจแล้วเดินไปหาบูม

จากนั้นบูมก็เดินลงมาจูงผมขึ้นไปบนห้อง ทันทีที่บูมเดินเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังจนผมต้องเดินมาหยิกที่แขนเป็นเชิงปราม

“555 โอ๊ย เจ็บนะ” บูมลูบแขนตัวเองอย่างเร็ว

“เจ็บหรอ ดูดิ๊ทำอะไรลงไป ไม่อายชาวบ้านบ้างหรอไง” ผมต่อว่าบูม

“อายทำไม คนเป็นแฟนกันจะอายทำไม ดูสีหน้าไอ้หน้าจืดนั่นดิ จ๋อยเลย ตาค้างเลยดิ สมน้ำหน้าอยากมายุ่งกับแฟนคนอื่นดีนัก”บูมเบ้ปากสะใจ

“เนี่ยพี่ไม่เห็นน้องโยมาไม่กี่เดือน น่ารักขึ้นนะ เชอะ”บูมแกล้งบีบเสียงเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยเป็นเชิงล้อเลียน

“เฮ้อออ.....แล้วตกลงจะไปด้วยกันไหมเนี่ย”ผมถามพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอา

“ไปดิครับ ใครจะกล้าปล่อยแฟนตัวเองไปกับไอ้คุณพี่วิทย์นั่นได้ล่ะครับ เดี๋ยว มคปด ซะก่อน รอแป๊ปนึงนะ”บูมรีบลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้า

“ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสิ มาแก้ผ้าอะไรแถวนี้”ผมตะโกนบอกแต่คิดว่าไม่ทันซะแล้วก็พี่บูมเล่นถอดผ้าขนหนูออกแถมยังทำท่าส่ายเอวโชว์ซะอย่างงั้น

“ทำไม อดใจไม่ไหวละซิ มาต่ออีกรอบมา”บูมเดินเข้ามาหาจนผมทำหน้าดุใส่ (ถ้าไม่ติดพี่วิทย์น่าดู)

“รีบไปใส่เสื้อผ้าเลย เราไม่รอแล้วนะ เดี๋ยวเราจะลงไปหาพี่วิทย์ก่อนขึ้นมานานแล้ว”ผมพูดจบก็หันหลังเดินลงไปข้างล่าง

พอผมเดินลงมาด้านล่างก็เห็นพี่วิทย์มีสีหน้าที่เศร้าลงไปอย่างถนัด จนผมอดที่จะสงสารพี่วิทย์ไม่ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่วิทย์ พี่อย่าทำหน้าแบบนี้ดิครับ ดูไม่หล่อเลยนะ” ผมพูดกับชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่เบื้องหน้าผม

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับน้องโย”ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง

“อะไรครับ เมื่อไหร่ ผมไม่เข้าใจ”ผมถามด้วยความสงสัย

“พี่แค่อยากรู้ว่า น้องกับแฟน เอ่อ...บูม คืนดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่”พี่วิทย์เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยแววตาที่เจ็บปวด

“ก็ไม่กี่วันนี้เองครับ.....”ผมตอบด้วยความรู้สึกสงสารพี่วิทย์จับใจ นี่เป็นอีกคนแล้วสินะที่ต้องมาเจ็บปวดด้วยเรื่องระหว่างผมกับบูม

ผมได้แต่คิดและรู้สึกสงสารมาก ๆ

“งั้นพี่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับที่น้องโยได้กลับมาคืนดีกับบูมอีกครั้ง แต่ยังไงความรู้สึกของพี่ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

ยังไงพี่ก็จะรอ รอจนกว่าน้องโยจะหันกลับมามองพี่และรักพี่จริง ๆ”พี่วิทย์ยิ้มให้ แต่มันเป็นยิ้มที่ดูเศร้ามาก ๆ

“พี่วิทย์ครับ เราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้ไหม ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจใครมากไปกว่านี้ จะเป็นการดีทั้งพี่ และ ก็ผม

ที่เราจะมายืนอยู่บนเส้นของคำว่าพี่-น้อง มากกว่าที่เราจะล้ำเส้นไปเป็นอย่างอื่น

ซึ่งมันอาจจะใช้เวลายาวนานเป็นปี ๆ หรือ อาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้ ผมไม่อยากให้พี่รอผมแบบนี้

ผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ครับพี่”

ผมระบายความอึดอัดออกมาพร้อมน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่ผมไม่อยากให้ใครต้องมาทนทุกข์เพราะผม

“รู้ไหมครับน้องโย ก็เพราะน้องโยเป็นคนแบบนี้ พี่ถึงได้รักน้องโย ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาของน้องหรอก

เพราะมีคนผ่านเข้ามาในชีวิตพี่ให้พี่เลือกมากมาย ทั้ง ๆ ที่เค้าเหล่านั้นหน้าตาดีกว่าน้องโยหลายเท่า

แต่น้องรู้ไหมครับว่าทำไมพี่ถึงไม่เลือกที่จะคบกับพวกเค้า.......”พี่วิทย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“.........”ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“พี่จะบอกให้ ก็เพราะความน่ารักที่รู้จักเห็นอกเห็นใจและอ่อนโยนกับผู้อื่นของน้องโยนั่นแหละ แว๊ปแรกที่พี่เห็นน้องโย

 พี่ก็อาจจะเริ่มชอบน้องโยเพราะหน้าตาบ้างนิดหน่อย แต่พอพี่ได้รู้จัก ได้เรียนรู้นิสัยของน้องโยแล้ว

มันทำให้พี่ไม่สามารถที่จะถอนตัวออกจากความรู้สึกนี้ได้ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จนตอนนี้พี่แน่ใจแล้วว่า พี่รักเราจริง ๆ

พี่จะไม่ขอให้น้องยอมทิ้งบูมมาเป็นแฟนพี่เพราะพี่รู้ว่ามันคงจะยาก แต่พี่อยากจะขอรักน้องโยต่อไปจะได้ไหม

พี่ไม่สนว่าจะอีกนานเท่าไหร่ที่พี่จะได้หัวใจน้องโยมาครอบครอง หรือมันอาจจะใช้เวลาตลอดชีวิตของพี่ก็ได้ แต่พี่ก็เต็มใจที่จะรอ

ขออย่างเดียว ขอให้น้องโยสัญญาว่าจะไม่ลืมพี่ แค่นี้พี่ก็พอใจแล้ว”พี่วิทย์พูดจนผมน้ำตาซึมเลย

“พี่วิทย์ ผมขอบคุณมากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่พี่มีให้ผม”

“เอ่อ....งั้นวันนี้พี่ว่า พี่กลับก่อนดีกว่า เอาไว้เรานัดกันวันหลังละกันนะครับ ยังไงพี่ก็มากรุงเทพฯหลายวันอยู่แล้ว” พี่วิทย์พูดและลุกขึ้นยืน

“อ้าว....ไม่ไปทานข้าวกันก่อนหรอครับพี่วิทย์” ผมถามด้วยความสงสัย

“ไม่ดีกว่า....มันไม่สะดวกน่ะ ดูนั่นดิลงมาแล้ว พี่ไปก่อนนะครับ ฝากลาแฟนเราด้วยนะ” พี่วิทย์ทำท่าให้ผมมองกลับไปดูชายหนุ่มที่เพิ่งจะลงมาจากชั้นบน

“ครับได้ครับ......สวัสดีครับพี่วิทย์”

“ครับผม สวัสดีครับน้องโย”

“ไอ้พี่วิทย์กลับไปแล้วหรอ” บูมถามหลังจากเดินลงมาจากชั้นบน

“อืมม...ใครจะไปทนได้ เห็นชีเปลือยเดินลงมาขนาดนั้น” ผมแซวชายหนุ่มยิ้ม ๆ

“อ้าว....คนอุตส่าห์ลงทุนยอมเอาหุ่นตัวเองเข้าแรกขนาดนั้น ยังจะมาว่าเค้าอีก....เออ โย กลับไปบ้านเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ

พอดีแม่เราโทรมาตามน่ะ เราเลยอยากแนะนำโยให้แม่เรารู้จักด้วย” บูมชวนผม

“หา ตอนนี้เลยหรอ.....” ผมถามด้วยความตกใจ

“ก็ตอนนี้อ่ะดิทำไมหรอ....”

“เรายังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย” ผมเริ่มรู้สึกกังวล

“จะเตรียมไปทำไม ไปเหอะน่า”

ก็จะไม่ให้เตรียมใจได้ยังไงล่ะ ก็แม่บูมอ่ะใช่ย่อยที่ไหนเหมือนพวกซูสีไทเฮาอะไรแบบนั้น แบบประมาณว่า ระเบียบจัดมาก

ตั้งแต่ที่ผมรู้จักบูมมาผมยังไม่เคยเจอแม่ของบูมเลยสักที ได้ยินแต่กิตติศัพท์มาจากแพทบ้าง บูมบ้าง แต่ละอย่างชวนขนลุกทั้งนั้น

แล้วอยู่ดีดีบอกวันนี้จะพาไปหา กลุ้มใจจริง ๆ บูมนะบูม.......ผมได้แต่คิดไปคิดมาตลอดทาง

จบตอนที่ 24/4 เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะครับ ยังไงจะพยายามมาต่อให้จบก่อนจะต้องไปทำธุระอาทิตย์หน้า

เพราะเดี๋ยวต้องรออีกตั้งสองอาทิตย์กว่าจะกลับ
*********************************************************************

dokebi

  • บุคคลทั่วไป
 :try2: หวังว่าแม่บูม คงชอบโย นะ ครับ ฮึฮึ  :try2:

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
จามีปัญหาอีกป่าวหว่า (แม่สามีลูกสะใภ้ ฮิฮิ) ... :laugh:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
บูมนี่ร้ายจริง ๆ นุ่งผ้าเช็ดตัวลงมาเย้ยวิทย์  :kikkik:  :kikkik:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: ตัดฉากนั้นไปทำไม ของชอบเลย อิอิ รอฉากนี้ของโยกะบูมนานแล้ว


ในที่สุดโยก็ตกร้องปล่องชิ้นกับบูมเรียบร้อย หุหุ :haun6:


ว่าไปพี่วิทน์นี่น่าสงสารนะ ปอนด์ก็ด้วย  บูมนี่ร้ายใช่ย่อย แต่ก้นะ แฟนhot ขนาดนั้น ไม่แสดงความเป็นเจ้าชองให้เห็นบ้างก็กะไรอยู่


ทีนี้กต้องว่าลุ้นแม่สามีกะลูกสะใภ้ สู้ตายคับ :yeb:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่า . . . เสร็จสมอารมณ์หมาย :myeye:

พี่วิทย์น่าสงสารจัง มามะมาซบอกหมี

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 25/1"

ผมนั่งไม่เป็นสุข กระวนกระวายจนบูมเริ่มสังเกตเห็นเลยเอื้อมมือมาจับมือผมเอาไว้

ผมได้แต่หันไปมองหน้าบูมแล้วก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ จนรถขับมาจอดยังที่จอดรถที่บ้านบูม

ผมกับบูมเดินเข้าไปยังห้องรับแขกซึ่งแม่ของบูมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว บูมเดินเข้าไปสวัสดีทักทายแม่ของเค้าพร้อมกับแนะนำตัวผมให้แม่รู้จัก

“ม๊าครับ นี่โยเพื่อนสนิทของผมที่คณะครับ” เฮ้อโล่งอก ถ้าบอกว่าเป็นอย่างอื่นมีหวังชะตาขาดแน่ ๆ เลย

“โยนี่แม่เราเอง”บูมหันมาบอกผม

“สวัสดีครับ...ผมชื่อโยครับ ต้องขออนุญาตคุณแม่ที่มารบกวนนะครับ” ผมพูดด้วยท่าทางนอบน้อมสุด ๆ

“.............”แม่ของบูมไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้ารับแล้วก็หันไปพูดกับบูม

“บูม นี่ก็ปิดเทอมแล้วทำไมไม่ไปฝึกงานที่บริษัท ม๊าบอกกี่ครั้งแล้วให้ไปหัดเอาไว้ เวลาทำจริง ๆ จะได้รู้เรื่อง

ไม่ใช่วัน ๆ เอาแต่ไปเที่ยวกับคนโน๊นทีคนนี้ทีแบบนี้ ม๊าไม่ชอบเลยนะ”

ประโยคหลังที่แม่บูมพูดโดยหันมาจ้องผมจนผมเสียวสันหลังวาบ...

งานนี้โดนอย่างจัง จนผมหน้าเจือนลงไป

“ผมเพิ่งจะปิดเทอมไม่เท่าไหร่เอง ขอเวลาพักผ่อนบ้างดิครับม๊า

แล้วโยก็ไม่ได้มาชวนผมไปไหนสักหน่อยมีแต่ผมที่เป็นคนชวนเค้าไปเที่ยว”บูมช่วยแก้ต่างให้ผม

แต่ผมกลับรู้สึกไม่ดียิ่งขึ้นไปอีกเพราะสายตาที่แม่ของบูมมองมาที่ผมไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

“จะยังไงก็แล้วแต่ ม๊าให้เวลาแค่อาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว วันจันทร์หน้าต้องไปทำงานที่บริษัทนะ”แม่บูมพูดแบบตัดความ

“โห.....ไม่เอาหรอก ผมขอเวลาเป็นเดือนหน้าแล้วกันนะครับม๊า”บูมทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

“ได้ ม๊าจะให้เวลาอีกหน่อย เป็นอันว่าเดือนหน้าก็ได้...แล้วนี่จะออกไปไหนกันอีกเห็นเด็กรับใช้บอกว่า บูมขนเสื้อผ้าออกไปข้างนอก”

“อ๋อ วันนี้เดี๋ยวผมจะไปค้างบ้านของโยเค้าอ่ะครับม๊า”บูมตอบ ส่วนผมก็ยิ้มรับ

“ไปค้างทำไม บ้านตัวเองไม่มีหรือไง จะไปรบกวนเค้าทำไมกัน บ้านตัวเองก็ออกจะใหญ่โต

มีห้องตั้งหลายห้องจะไปพักบ้านคนอื่นทำไม”แม่บูมพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนซูสีไทเฮาเปี๊ยบเลย

“เอ่อ....................”บูมเริ่มพูดไม่ออกได้แต่สะกิดให้ผมช่วยพูด แต่ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไงมือไม้ก็เริ่มสั่นเหมือนกัน

“ช่างเถอะ ๆ จะไปไหนก็ไป เออ...บูมช่วยไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้อยู่บนเตียงในห้องนอนให้ม๊าหน่อยไป ม๊าจะไปธุระต่อ”

“ครับม๊า”บูมพูดแล้วก็เดินออกไปจากห้องรับแขก ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวขึ้นเป็นสองเท่า

“เราชื่อโยใช่ไหม ม๊าเคยได้ยินอาร์ทพูดถึงเราให้ม๊าฟัง”หา....อะไรนะ อาร์ทหรอ เอาละสิงานนี้มีเฮแน่

“ครับ ผมโยครับ”ผมตอบหน้าจ๋อย ๆ

“ม๊าจะไม่พูดอ้อมนะเพราะม๊าไม่ชอบ เอาเป็นว่า โยเลิกคบกับบูมได้ไหม ม๊ารู้ว่าอะไรเป็นอะไร

แต่ม๊าอยากจะให้โยเข้าใจนะว่าคนภายนอกจะคิดยังไงถ้ารู้เรื่องนี้เข้า

ครอบครัวเรามีหน้ามีตาทางสังคมนะ ม๊าเลยอยากขอร้องให้โยเลิกกับลูกชายม๊าได้ไหม

เพราะม๊ารู้ดีว่าถ้าม๊าพูดกับบูมเค้าก็คงจะไม่เชื่อม๊าหรอก”แม่ของบูมพูดจนผมรู้สึกอึ้ง ตัวชาไปหมด

“เอ่อ คือว่าผม........”ความรู้สึกผมในตอนนี้มันเหมือนโดนอะไรมาบีบรัดจนหายใจแทบจะไม่ออก

“ถือว่า ม๊าขอร้องเถอะนะ เราน่ะมีคนเข้ามาอีกมากมาย ขอเว้นลูกม๊าสักคนเถอะนะ จะได้ไหม”

ม๊าพูดด้วยท่าทางจริงจัง จนผมเริ่มรู้สึกเหมือนถูกกดดัน

“เอาเป็นว่า ม๊าขอร้องละกันนะ อย่าทำให้ม๊ากับพ่อของบูมต้องลำบากใจที่จะต้องตัดสินใจทำอะไรลงไปเลยนะ”

“…………………….”ผมได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบอะไร ในใจก็คิดทบทวนในสิ่งที่แม่ของบูมพูด

“ได้ไหมโย จะให้ม๊าทำอะไรก็ได้ ขออย่างเดียว ปล่อยบูมให้เค้าไปมีชีวิตที่ปกติเหมือนคนทั่วไปเถอะนะ”

แม่ของบูมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แถมแววตาที่เคยดุดันกลับอ่อนลงพร้อม ๆ กับน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา จนผมรู้สึกสงสารมาก

“คือ.....ผมขอเวลาหน่อยจะได้ไหมครับ ถ้าอยู่ดี ๆ ผมบอกเลิกกับบูมเค้าคงจะไม่เชื่อหรอก

แต่ยังไงผมสัญญาว่าผมจะยอมเป็นฝ่ายถอยออกไปเองครับ”ผมพูดอย่างตัดสินใจแล้ว ผมไม่รู้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะถูกหรือไม่

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับรู้ในตอนนั้นคือความรู้สึกเสียใจของคนที่เป็นแม่คน

มันทำให้ผมต้องยอมที่จะทนเจ็บปวด และ ถอยออกมาทั้ง ๆ ทีใจจริงไม่อยากก็ตาม

“ขอบใจโยมากนะ ม๊ารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร ม๊าขอโทษแต่โยคงจะเข้าใจม๊านะ”แม่ของบูมถามผม

“ครับผมเข้าใจครับ”

หลังจากที่ผมกับแม่ของบูมพูดกันเสร็จเรียบร้อยแม่ของบูมก็ขอตัวไปเตรียมตัวเพื่อไปทำธุระข้างนอกต่อ

ผมนั่งรอจนกระทั่งบูมถือกระเป๋าลงมา

“อ้าว....ม๊าไปไหนแล้ว”บูมถามผม

“ไปเตรียมตัวน่ะ...บูมเราต้องกลับแล้วนะ พอดีแม่บอกว่าให้เรารีบกลับไปเฝ้าบ้านน่ะ”

ผมโกหกบูมทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วแม่ผมไม่ได้บอกหรอกครับ

“เออ ๆ ๆ ไปดิ ไป กลับกัน”บูมทำท่าจะกลับไปด้วยแต่ผมต้องรีบห้ามเอาไว้

“บูมอยู่ที่นี่แหละ พอดีม๊าบูมเค้าบอกให้รอเค้าก่อนนะ ไว้มีโอกาสค่อยไปค้างด้วยกันก็ได้”ผมพยายามสะกดอารมณ์เศร้าเอาไว้ในใจ

“ไม่เอา โยรอเราแป๊ปนึงดิ เราอยากไปค้างด้วยอ่ะ นะ นะ นะ”

“ไม่ได้.....เรารีบจริง ๆ นะ ไว้วันหลังนะ” ผมพยายามรีบตัดบท

“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปส่งที่หน้าหมู่บ้านนะ” บูมพูดงอน ๆ

“.....................”ผมได้แต่ยิ้มตอบ

ผมกลับมาเก็บตัวเงียบ ๆ และนึกทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา เอาทุกอย่างมาเทียบกัน

ระหว่าง ความรักและความรู้สึกระหว่างผมกับบูม และ ความรักและความห่วงใยระหว่างแม่ของบูมกับบูมเอง

รวมไปถึงสิ่งที่บูมจะได้รับถ้าเกิดมีใครรู้เรื่องระหว่างเรา ผมยอมรับว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมา

เพราะการตัดสินใจในครั้งนี้มันส่งผลกระทบต่อคนที่ผมรักรวมไปถึงตัวผมด้วย ผมอยากจะเป็นคนที่เข็มแข็งที่จะไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง

ไม่แคร์สายตาคนอื่นเวลาที่มองผมกับบูม แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะผมและบูมยังคงต้องอยู่บนโลกและสังคมแห่งความเป็นจริงใบนี้ 

ซึ่งเป็นสังคมที่ยังไม่เปิดใจกว้างพอที่จะรับในสิ่งที่เราเป็นอยู่

รวมทั้งผมไม่อยากให้บูมกับแม่ของเค้าต้องมาทะเลาะกันและผิดใจกันเพราะเรื่องระหว่างเค้ากับผม ฉะนั้นผมจึงต้องเป็นฝ่ายที่ถอยออกมา

แม้ว่าตัวเองจะต้องเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ผมคิดและร้องไห้ออกมาเพราะความรู้สึกกดดันและเจ็บปวดภายในใจมันมากมายเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาได้

“ขอโทษนะบูม เราจำเป็นจริง ๆ เราขอโทษ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกมาเบา ๆ

*************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2007 10:30:55 โดย น้องแม้ว »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ผมอยากจะเป็นคนที่เข็มแข็งที่จะไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง
ไม่แคร์สายตาคนอื่นเวลาที่มองผมกับบูม แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะผมและบูมยังคงต้องอยู่บนโลกและสังคมแห่งความเป็นจริงใบนี้ 
ซึ่งเป็นสังคมที่ยังไม่เปิดใจกว้างพอที่จะรับในสิ่งที่เราเป็นอยู่

 :sad4:  :sad4:  :sad4:
 :monkeysad:  :monkeysad:  :monkeysad:

เข้มแข็งไว้ ทั้งโยและบูม เอาใจช่วยค่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: :sad5: :sad4:

ไม่นะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยย  คุณแม่ไม่ปลื้มซะงั้น


แต่ก็เข้าใจหัวอกพ่อแม่นะครับ เฮ้อ พูดแล้วพาลให้นึกถึงตัวเอง ถ้าต้องเจอแบบนั้นจะทำไงนะ


เมื่อไหร่นะเราจะเจอแบบนี้ แต่คงปิดไปได้อีกไม่นานนักหรอก กลุ้มๆๆๆ  (ขอให้พ่อแม่เข้าใจ) :monkeysad:

frank

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ ความรักช่างมีอุปสรรคเจงๆ
ความเข้าใจกันและกัน น่าจะทำให้ผ่านมันไปได้ สู้ๆ 

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
เจอเรื่องหนักเข้าแล้ว.... เฮ้อ!!  :try2:

อยากให้พ่อแม่และสังคมยอมรับเรื่องแบบนี้จัง ( :dont2: รวมถึงพ่อแม่ผมด้วยนะคร้าบ...)

อึดอัดเหมือนกันเวลาที่หลบ ๆ ซ่อน ๆ คบกันนี่  :serius2:

หน้าเห็นใจมากมายครับ ๆ (เห็นจัยตัวเองด้วย ถ้าพ่อแม่รู้จะว่าไงดี คิดแล้ว sad  :sad4:)


BAPE*

  • บุคคลทั่วไป
 :oเอาใจช่วยความรักของโยกับบูมนะ
ม๊ามาแรง...เจอแบบนี้ใครจะกล้าเสี่ยง...แต่ไม่เสี่ยงก็ไม่รู้เนอะ
สู้ๆ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ไง๋ เป็นงี้อ่ะ . . .  :monkeysad:

เซ็งเรยยยยยย

ที่จริงพ่อแม่น่าจะยอมรับได้นะ เรื่องแค่นี้เอง มันไม่ใช่ความผิดซะหน่อย
อันที่จริงตอนผมบอกพ่อแม่ของผม ก็เล่นเอาอึ้งไปตามๆกันเหมือนกันแฮะ
แต่เค้าก็โอเค ขอแค่ให้ผมเป็นคนดีก็พอ :like6:
รักพ่อกับแม่ที่สุดเล้ยยยยยยยยย

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 25/2"

หลังจากคืนนั้นผมก็พยายามหลบหน้าบูมตลอด เวลาเค้าโทรมาผมก็พยายามไม่รับสายบ้าง บอกว่าติดธุระบ้าง เค้าให้โทรกลับผมก็ไม่โทรกลับ

จนกระทั้งใกล้จะถึงวันที่บูมต้องไปฝึกงานที่บริษัทเค้า

“ฮัลโหล โยหรอ แพทเองนะ ว่างอยู่หรือเปล่า”เสียงสาวสวยดังมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง

“ว่างสิแพท สบายดีหรือเปล่า แพทเป็นไงบ้างปิดเทอมไปเที่ยวไหนมาบ้างล่ะ ไม่เห็นชวนเราเลย”ผมตอบกลับไป

“ก็ไปนั่นไปนี่ไปเรื่อยน่ะ เดี๋ยวนะ เดี๋ยวเรามาคุยต่อ มีคนเค้าอยากจะคุยด้วย”แพทพูดแล้วเปลี่ยนให้อีกคนเข้ามาคุยต่อ

“โยเป็นอะไรไปอีกอ่ะ โกรธอะไรเราหรือเปล่า ทำไมไปหาก็ไม่ยอมมาเจอ โทรไปก็ไม่ยอมคุยด้วย”บูมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าปนน้อยใจ

“เปล่า....ไม่มีอะไร แค่เบื่อ ๆ น่ะ บูมมีอะไรหรือเปล่า ไม่มีเราจะวางสายแล้วนะ”ผมพยายามเก็บความรู้สึกเสียใจเอาไว้ข้างใน แล้วพยายามตัดบท

“เดี๋ยวดิ โยเป็นอะไรไป เราผิดอะไรบอกเราได้หรือเปล่า เราขอโทษ....”

“บูมไม่ผิดหรอก ไม่มีอะไรจริง ๆ แค่เราเหนื่อย ๆ เบื่อ ๆ แค่นี้เอง ไว้เราโทรไปหานะ”ผมพยายามตัดบทจะวางสายเพราะไม่งั้นผมต้องร้องไห้ออกมาแน่ ๆ

“เดี๋ยวดิ มันต้องมีอะไรแน่ ๆเลย อย่าเพิ่งวางสายนะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนไม่งั้นเราจะไปหาที่บ้านนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ

“บูม...เราว่าตอนนี้เราห่างกันสักพักเถอะ เราว่าบางทีความรู้สึกที่เรามีให้กันมันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้นะ

เพราะฉะนั้นเราอยากจะขอเวลาให้เรากับบูมอยู่ห่าง ๆ กันสักพัก

แล้วต่างคนต่างคิดทบทวนให้ดีก่อนจะดีกว่ามั้ย”ผมพยายามพูดไม่ให้บูมรู้สึกเสียใจมากเกินไป

“ทำไมต้องขอเวลา เท่าที่ผ่านมามันยังพิสูจน์ไม่ได้ใช่ไหมว่าเราคิดยังไงกับโย

เราว่าคุยอย่างงี้ไม่รู้เรื่องหรอกเอาเป็นว่าเดี๋ยวเราไปหาละกันนะ”บูมพูดแล้ววางสายลงไป

ผมพยายามสะกดอารมณ์สะเทือนใจเอาไว้ แล้วพยายามคิดหาวิธีทางออกของเรื่องนี้ เพราะผมไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกของบูม

เพราะผมรู้ดีว่าบูมเป็นคนยังไงเค้าคงจะไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่ ๆ ผมจึงตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากพี่วิทย

ผมเล่าทุกอย่างที่แม่ของบูมพูดกับผม รวมไปถึงสิ่งที่ผมคิดให้พี่วิทย์ฟัง ทีแรกพี่วิทย์ก็จะคัดค้านแล้วให้ผมทำตามสิ่งที่ใจผมและบูมต้องการ

แต่ผมก็ยังคงยืนยันในความคิดของผมซึ่งอาจจะดูงี่เง่า แต่ผมคิดและตัดสินใจแล้ว พี่วิทย์จึงยอมช่วยผม และรีบนั่งรถมาที่บ้านผม

ดีนะที่พี่วิทย์อยู่บ้านเพื่อนที่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก จึงมาทันเวลาพอดี

ทันทีที่รถบูมมาจอดที่บ้านผมแผนการณ์ต่าง ๆ ที่ถูกเตรียมไว้แล้วก็เริ่มขึ้น ผมเดินเข้าไปหาแล้วพาบูมไปที่ห้องรับแขก

“ตกลงโยจะบอกได้หรือยังว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะอะไร”บูมพูดขณะกำลังจะนั่งลงที่โซฟา

“ก็อย่างที่เราบอกไง เราบอกไปหมดแล้ว”ผมตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“เราไม่เข้าใจ ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่”บูมลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผมพร้อม ๆ รวบตัวผมไปกอด

“เอาเป็นว่าเราห่างกันสักพักเถอะ อย่าให้เราต้องบอกอะไรมากไปกว่านี้เลย”ผมตอบพร้อมกับผละตัวเองออกมา

“เพราะอะไร เราไม่เข้าใจ มันเป็นเพราะอะไรกัน”บูมเดินตามผมมาหยุดอยู่ที่บันได

“เอ้า ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง นี่รับไป...กระเป๋านาย แล้ววันหลังอย่ามาตามตื้อน้องโยอีกนะ

จำไว้ด้วย”พี่วิทย์โยนกระเป๋าให้บูมแล้วเดินลงมาจากห้องผมตามแผนที่วางไว้

“นี่มันอะไรกันเนี่ยเราไม่เข้าใจ”บูมตกใจกับสิ่งที่เห็น

“ก็ไม่ยังไงหรอก ตอนนี้โยกับพี่ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว ส่วนนายก็น่าจะรู้นะว่าต้องทำยังไง 5555555” พี่วิทย์หัวเราะออกมาอย่างสะใจ

บูมได้แต่กัดฟันมองหน้าผม

“ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกัน มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามาอำซะให้ยากเลย”บูมพูดอย่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง

“ใครอำ...คนเค้าไม่สนใจแล้วยังจะมาตามตื้อเค้าทำไม ไม่เชื่อไปถามน้องโยดูดิ เค้าอุตส่าห์พูดดี ๆ แล้วนะ

หรือว่าจะให้เค้าพูดตามตรง”พี่วิทยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน (สมบทบาทมาก ๆ)

“ถอยไป กูไม่ได้พูดกับมึง” บูมต่อยพี่วิทย์ไปหมัดนึงจนผมต้องรีบเข้าไปขวาง

“หยุด...พอได้แล้ว...บูมไปเถอะ ....เราเลิกกันเถอะนะ”ผมห้ามเอาไว้ แล้วตะโกนใส่บูมเพราะไม่งั้นพี่วิทย์ต้องโดนต่อยอีกแน่ ๆ

“ไม่จริงหรอก โยแกล้งเราใช่ไหม เรายอมแล้ว วันหลังเราจะไม่แกล้งใครแบบนี้แล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”

บูมพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ พร้อม ๆ กับน้ำตาที่เอ่อออกมา

“บูมฟังเรานะ ใช่แต่ก่อนเราอาจจะรักบูม แต่พอเราเลิกกันตอนนั้น ความรู้สึกของเรามันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว เรามารู้ใจตัวเองจริง ๆ

ก็ตอนที่บูมไปแกล้งพี่วิทย์วันก่อน เราเลยแน่ใจตัวเองว่าที่จริงเรารักใคร เราขอโทษ

แต่เราไม่อยากหลอกตัวเองไม่อยากหลอกบูม...หวังว่าบูมคงจะเข้าใจเรานะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติทั้ง ๆ ที่ในใจผมมันสั่นไม่เป็นจังหวะแล้ว

“ได้ยินไหมว่าโยพูดยังไง...นายไปเหอะ นายยังมีโอกาสได้เจอคนดี ๆ อีกเยอะ ปล่อยโยไปเถอะนะ”

พี่วิทย์ช่วยเสริม พลางจะลุกขึ้นยืน ผมเลยรีบเข้าไปช่วยประคอง

“โอเค เราเข้าใจแล้ว เราจะไม่มาวุ่นวายกับโยอีก เราขอโทษ.....”บูมกัดฟันแน่นแล้วเดินออกไป

ผมเดินเข้าไปขอโทษพี่วิทย์ที่ทำให้พี่เค้าต้องมาเจ็บตัวกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องของผม พี่วิทย์ยิ้มอย่างเข้าใจ ไม่ว่าอะไร

ผมเลยเสนอตัวเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทนในวันรุ่งขึ้น เพราะมันจะเป็นแผนตอกย้ำส่งท้ายแผนการณ์นี้ด้วย แล้วพี่วิทย์ก็ขอตัวกลับ

หลังจากที่พี่วิทย์กลับไปแล้ว ผมก็โทรไปที่บ้านบูมเพื่อขอเบอร์มือถือของแม่ของบูม

“สวัสดีครับ ผมโยนะครับ เรื่องที่ม๊าขอไว้ผมทำตามสัญญาแล้ว แต่อยากจะขอร้องม๊าให้ช่วยผมหน่อยนึง

พรุ่งนี้ผมจะไปทานข้าวกับคนที่บูมคิดว่าเป็นแฟนใหม่ผมที่.....ตอนหกโมงเย็น นะครับ

ผมอยากจะขอให้ม๊าช่วยพาบูมไปนั่งทานข้าวที่นั่นด้วยนะครับ เค้าจะได้เชื่ออย่างสนิทใจ”

“ได้ ม๊าขอบใจเรามากนะที่เข้าใจ แล้วม๊าจะพาเค้าไปตามนั้น”

“ขอบคุณครับ”

ผมเดินไปนั่งบนเตียงผมอย่างอ่อนแรง มันยากมากกับการที่เลิกกับใครสักคนที่เรารักทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทะเลาะกัน และต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีคนอื่น

ยิ่งผมต้องเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมาเองด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าบูมเป็นทวีคูณ

เพราะบูมเองคงจะเข้าใจว่าผมมีคนอื่น เค้าอาจจะเจ็บปวดในตอนนี้ แต่เวลาก็คงจะเป็นสิ่งที่เยียวยาเค้าได้ในที่สุด

ผิดกับผมที่แม้ว่าจะผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่ก็ตาม ตราบาปและสิ่งที่ผมทำก็ยังคงจะคอยตามมาหลอกหลอนทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปเรื่อย ๆ

เพราะผมเองก็ยังคงรักบูมต่อไป ซึ่งมันก็คงจะไม่ได้ลดน้อยลงไปตามเวลา
 
เย็นวันรุ่งขึ้นพี่วิทย์มารับผมไปทานข้าวที่ร้านที่ผมนัดแนะกับแม่ของบูมเอาไว้ เรามาถึงที่ร้านและเลือกนั่งโต๊ะที่ผมคิดว่าน่าจะสังเกตได้ง่าย

ผมกับพี่วิทย์สั่งอาหารมานั่งทาน สักพักก็เห็นแม่ของบูมเดินเข้ามาพร้อม ๆ กับคนที่ผมรอคอยอยู่ แม่ของบูมเห็นผมแล้วพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

พี่วิทย์ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็น่าจะเดาออกว่าเพราะอะไรผมถึงเลือกมานั่งโต๊ะตัวนั้นทั้ง ๆ ที่ปกติผมจะเลือกโต๊ะที่เป็นมุมสงบ ๆ ที่สุดของร้าน

“พี่เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมโยต้องมาเลือกนั่งที่นี่ แต่พี่ว่าสิ่งที่น้องโยทำกับบูมมันจะไม่มากไปหรอครับน้องโย”พี่วิทย์พูดเตือน

“ไม่หรอกครับพี่ ผมว่าไหน ๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่วิทย์ช่วยผมอีกสักครั้งได้ไหม

ถือว่าผมขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย”ผมขอร้องด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เศร้าลงไป

“อันที่จริง ๆ พี่ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจน้องโยเลยนะครับ ถ้าเป็นพี่ พี่จะไม่ทำกับแฟนแบบนี้ แต่ยังไงพี่ก็จะเคารพในการตัดสินใจของน้องโยนะครับ”

“ขอบคุณครับ”

“แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ ถ้าวันไหนน้องโยลืมบูมได้จริง ๆ พี่จะขอจีบน้องโยอีกครั้งนะครับ”พี่วิทย์ยิ้มให้

“ครับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่นะครับ ผมว่า.......”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดประโยคต่อไปพี่วิทย์ก็รีบพูดแทรก

“ไม่เป็นไรพี่รอได้ พี่จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ขอแค่ให้มีโอกาสสักนิดพี่ก็พร้อมที่จะรอ”พี่วิทย์เอื้อมมือมาจับมือผมไว้

ผมกำลังจะเอามือออกแต่พี่วิทย์ทำตากระพริบเป็นเชิงว่าบูมเห็นผมกับพี่วิทย์แล้ว...

ผมเลยจำเป็นต้องเล่นละครต่อไปให้จบ ผมตักอาหารไปป้อนให้พี่วิทย์ สลับกับพี่วิทย์ตักอาหารมาให้ผม

จนสักพักนึง แม่ของบูมเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับกล่าวขอบใจเพราะบูมรีบลุกเดินหนีออกไปแล้ว

หลังจากนั้นตลอดช่วงปิดเทอมผมก็ไม่ค่อยได้เจอและติดต่อพูดคุยบูมอีกเลย....

จนกระทั่งเปิดเรียนตอนปี 3 ผมกับบูมก็ดูเหมือนจะกลายเป็นคนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น....

เป็นอันว่าในตอนนั้นผมกับบูมได้เลิกกันอย่างจริงจังแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เราทั้งคู่ต้องการ แต่มันเป็นสิ่งที่โลกใบนี้และสังคมแห่งนี้ต้องการ

 ผมขอยอมแพ้ต่อโชคชะตา ใครจะว่า ว่าผมอ่อนแอ ผมก็ยอมรับ

แต่สิ่งที่ผมตัดสินใจมันเป็นประโยชน์กับคนหลายฝ่าย ไม่ใช่แค่แม่ของบูมเท่านั้น ผมคิดว่าผมได้ทำในสิ่งที่ถูกแล้ว....

ขอบคุณฟ้าที่ทำให้เราได้มาพบกัน ได้รักกัน แต่ต้องโทษที่โชคชะตาที่ทำให้เราต้องมีอันต้องแยกจากกัน

สิ่งที่เหลือไว้มีแต่เพียงน้ำตาแห่งความพ่ายแพ้และเสียใจ....

ผมอยากจะขอโทษบูมจริงๆ ถึงแม้ว่ารักของผมจะส่งผ่านไปถึงจิตใจบูมแล้ว

แต่ความรักระหว่างเรามันยังเข้มแข็งไม่พอที่จะทำลายอุปสรรคที่ได้ชื่อว่า สังคม ไปได้....

ผมจะไม่โทษแม่ของบูมหรือใครทั้งนั้น แต่คนที่ผมจะโทษคือตัวของผมเอง

ขอโทษด้วยที่เราไม่เข้มแข็งพอ ขอโทษจริง ๆ....

ไม่ว่าจะนานแค่ไหนอยากให้รับรู้เอาไว้ว่าเรารักบูมเสมอ....

จบแล้วครับสำหรับ คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงใจเธอบ้างไหม.......

อาจจะไม่ได้เป็นเหมือนใครหลายคนคาดคิด แค่น่าจะมีหลายท่านที่เดาเรื่องถูกนะครับ...

ที่ผมว่าเรื่องนี้จบได้ถูกที่เพราะ ช่วงนี้นิยายหลายเรื่องจบด้วยความ happy ending ไปเยอะแล้ว

ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เสียความรู้สึกไปบ้างนะครับ

***************************************THE END**************************************************************

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ  :monkeysad:
มีอะไร ทำไมไม่คุยกันน๊า . . . ทำไมต้องปล่อยอะไรๆให้เป็นแบบนี้ด้วย
ถ้าผมเป็นโย ผมจะไม่ทำแบบนั้นกับแฟนของผมเด็ดขาด อย่างน้อยๆเค้าต้องได้รับรู้ทุกอย่าง
และช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่สรุป ตัดสินใจเอาเองแบบนี้ . . .  :monkeysad:

ขอบคุณมากนะครับที่ได้สร้างเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน มันทำให้ผมได้คิดอะไรเยอะเลยครับ
ขอบคุณคุณคนโพสต์ด้วยครับ ที่เอาเรื่องนี้มาลงที่บอร์ดแห่งนี้ ทำให้ผมได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณมากๆครับ

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeycry2: :monkeycry2: :monkeycry2:

อ่านจบแล้วแทบจะไม่มีคำพุดอะไร เพราะน้ำตามันซึมออกมา


ได้แต่เพียงภาวนาว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดกับผม เพราะผมก็คงไม่เข้มแข็งพอเช่นกัน...


ขอบคุณครับที่เอาเรื่องนี้มาให้อ่านกัน.... :monkeysad:


การที่ต้องจากการคนที่เรารักทั้งๆที่ยังรักกัน แล้วเราเป็นฝ่ายที่ต้องสร้างเรื่องขึ้นมา มันช่างน่าเจ็บปวดจริงๆ

BAPE*

  • บุคคลทั่วไป
แงง...เศร้าอ่ะ
ไอเราก็แอบลุ้นอยู่ว่าเออ...ท่านแม่คงจะเข้าใจ
แต่ไหง...กลายเป็นแบบเน้...จะบร้าตาย
มีสเปเชี่ยลมั้ยค่ะ หุหุ

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมยอมแพ้ด้วยกานทั้งคู่นี่  ขัดจัย ๆ  :like2:
น่าจะคุย ๆ กันนะ เรื่องแบบนี้ โยม่ะน่ายอมแพ้เลย...  :no2:
อยากให้กลับมาคืนดีกันจาง... :impress:

ขอบคุณนะคร้าบ เรื่องสนุกมากเลย ^^...  :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
แต่ความรักระหว่างเรามันยังเข้มแข็งไม่พอที่จะทำลายอุปสรรคที่ได้ชื่อว่า สังคม ไปได้....
ขอโทษด้วยที่เราไม่เข้มแข็งพอ ขอโทษจริง ๆ....

 :impress3:  :impress3:  :impress3:

อุปสรรคที่ชื่อว่าสังคมนี่ยากที่ฟันฝ่าจริง ๆ ต้องใช้กำลังใจมหาศาลทั้งจากตัวเองและคนที่เรารัก
หวังว่าซักวันเมื่อความรักมีอำนาจพอ โยจะเข้มแข็งและฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ และเมื่อถึงเวลานั้นเชื่อเหลือเกินว่าโยจะมีบูมอยู่ข้างกายอีกครั้งหนึ่ง  :monkeysad:  :monkeysad:

ขอบคุณคนแต่ง สำหรับเรื่องราวดี ๆ
ขอบคุณคนโพสต์ ที่นำเรื่องราวมาให้ได้อ่านกัน
ขอบคุณมากค่ะ  :impress3:

BlackySheep

  • บุคคลทั่วไป
โหยยยยย จบแบบคนอ่านจะร้องไห้ตาม  :monkeysad:

อาม๊านะอาม๊า...แต่อย่างว่าแหละเรื่องแบบนี้ในสังคมยังไม่ใช่เรื่องที่เปิดกว้างอะนะ

ขนาดพูดเรื่องแนวๆนี้กะเพื่อนที มันยังมองหน้าแปลกๆเลยอ่ะ  :serius2:

ขอบคุณสำหรับเรื่องซึ้งๆอีกหนึ่งครับ  :monkeysad:

box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
       ขอบคุณค้าบ .. สำหรับเรื่องราวดีๆ  ถึงแม้ตอนจบจะยังไม่ค่อยถูกใจผมซะเท่าไหร่ (เพราะ บูม น่าสงสารมากมายอ่ะ)  แต่มันก็สะท้อนความเป็นจริงในสังคมได้ดีเลยทีเดียว !!

       เพราะแม่ของแฟนผมก็เป็นแบบนี้อ่ะ  เค้าโคดเกลียดผมเลย   เจอกันทีไร ... ด่ากันทุกที  แต่ผมก็ไม่สนใจอ่ะ ในเมื่อผมรักแฟนผมนี่นา  ผมก็ต้องยอมโดนด่า ... แต่ผมเองก็ไม่ได้ยอมให้เค้าด่าอย่างเดียวหรอกนะคับ  ผมก็ตอกกลับเค้าไปเหมือนกัน แต่ก็ไม่รุนแรงอะไร เพราะยังไงเค้าก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา

                                                                 :monkeysad:

       
 


dokebi

  • บุคคลทั่วไป
:sad4: เศร้า แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ ต้องเจอ  :sad4:

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ LiliLiN

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-10
คือว่า อยากรู้ว่าสุดท้ายของท้ายสุดเนี่ย บูมเป็นยังไงต่ออ่ะ

แบบว่า ยังรักมั่นคงต่อโยเหมือนเดิม  หรือกลับไปคบกะอาร์ท หรือกลับใจไปใช้ชีวิตแบบปกติล่ะ (ไม่น่าเป็นไปได้)

แล้วม๊าอ่ะ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ แต่ยอมญาติดีกะอาร์ทเหรอ  :pigangry2:  (หมายความว่าไงเนี่ย)

แล้วในเมื่อโยก็ยังรักบูมอยู่ ทำไม ทำไม ทำไม ต้องทำแบบนี้ด้วยอ่ะ ใจร้ายจังเลย

แต่ก็เห็นใจล่ะนะ จริงๆถ้าเปิดอกคุยไปเลย แล้วบูมพิสูจน์ความรักตัวเองให้ม๊าเห็น ม๊าก็น่าจะเข้าใจนี่นา ยังไม่ได้ลองทำอะไรกันเลย แค่ม๊ามาพูดบั่นทอนนิดหน่อย ก็...... :อกหัก:

ยังไงก็ตาม ขอบคุณคุณโย ที่นำเรื่องราวดีดี (แต่...ไม่ประทับใจตอนจบ) มาให้อ่านกัน
มันอาจจะเป็นชีวิตจริงๆของใครหลายๆคน แต่เราก็มั่นใจนะ ว่าถ้าความรักที่ทั้งสองมีต่อกันเป็นเรื่องจริงและมีมากพอ ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคใหญ่ที่เรียกว่า สังคม ได้

ออฟไลน์ Oḇlivïaté℠

  • I believe I can fly ~ ~ *
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :sad4: :dont2: :sad4: :dont2: o9 :serius2: o9 :serius2: o9 :serius2: :monkeysad: :monkeysad: :monkeycry2: :monkeycry2: :monkeycry2: :โฮๆ1: :โฮๆ1: :3024: :monkeycry4:

ม่ายน้า....บูมจะต้องอยู่กะโย

ม่าย

ม่าย

ม่าย

-
-
-

จบได้เศร้ากินจัยจิงเรยคับ

น้ำตาหลายหยดและ

ยังงัยสังคมก้อยังเปนกำแพงสำหรับพวกเราอยู่เสมอ

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ม่าย

ม่าย

ปล.ขอบคุณผู้เขียน
ขอบคุณผู้โพสต์
ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องคับ

T^T

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
-*-  ง่ะ....ไมอ่า...อ๊ากกกกกกกก ((สติหลุดไปแล้ว))  :serius2:

น่าสงสารบูมนะที่ต้อง....เจ็บ....เพราะว่าโยหวังดี....แล้วโยก็เจ็บด้วยอ่ะ

ถ้าเปนเราๆ เลือกท่จะเห็นแก่ตัวมากกว่านะ....ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้แม่เขายอมรับเราให้ได้

แต่เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วก็ช่างมันเถอะ....ขอให้ชีวิตของโยได้เริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่ดี  และรักจริง  ร่วมถึง...รักเขามากจนกล้าที่จะเห็นแก่ตัวเพื่อความรักบ้างนะ

ไม่ว่ายังไงก็จะเเป็นกำลังใจให้ค่า   o15

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1


                    เห็นด้วยกับคุณ CaribbeaN อะ เราไม่ควรทำลายความรักที่บริสุทธิ์ของเรา เพื่อแค่ตอบสนองต่อสังคมที่มันแคบ ๆ  นี้         ชีวิตเรานั้นมันกว้างใหญ่และมีคุณค่ามาก    :a5: :a2:   

         เรื่องติดตามดี ประทับใจมาก   มาติดที่สังคมอันเน่าแฟะ แท้ ไม่นั้น ประทับใจตายเลย  :seng2ped: :a5: :o12:

                                                                            Cargo Boy  :a9: :a1:

audreyjunk

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ...คือว่า...ไหงเป็นงี้อ่ะ :a10:
งงไปเลยทีเดียวพี่น้องงงงงงงงงง
เราว่าโยมีจิตใจที่คล้ายผู้หญิงมากเลยนะ :เฮ้อ:

nara

  • บุคคลทั่วไป
อยากไห้สองคนนี้

มีสุขด้วยกัจังง

แต่จะว่าล่ะในเมื่อแม่และสังคมมันบังคับ

ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แต่เต็มไปด้วยขวากหนามที่เราต้องผเชิญ o7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด