ตอนที่ 4 จูบมั้ยล่ะ
ร้าน XXX "แล้วผมไปหาป๋าได้ตอนไหนบ้างเหรอฮะ"
"ทุกเวลาเลยจ้ะ ป๋าว่างยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าเข้าห้องน้ำอยู่ก็จะรีบล้างก้นแล้วไปรับหนูเลยจ้ะ" ผมตอบกลับเด็กตรงหน้าเสียงอ่อนเสียงหวานจนเจ้าตัวบิดตัวกระมิดกระเมี้ยน แก้มขาวขึ้นสีแดงเรื่อดูดีอยู่ไม่หยอก อิหนูเอ้ย น่ากินจังเลยโว้ย!
เด็กน้อยน่ารักตรงหน้าผมชื่อน้องฟาง เด็กนิเทศปีหนึ่งมหา'ลัยใกล้ๆนี้ ผมดันป๊ะไปเจอกับเจ้าตัวเข้าในผับของตัวเองไม่กี่วันที่ผ่านมา แล้วดั๊นดันเกิดถูกใจกัน ก็เกิดเป็นที่มาของการชวนนัดกันกินข้าวในร้านเหล้าริมทะเลในเวลาพระอาทิตย์กำลังตกดิน บรรยากาศก็ช่างเป็นใจเสียเหลือเกิน
"กินข้าวเสร็จแล้วหนูจะไปไหนต่อมั้ย" ผมหรี่ตาถามลองเชิง เด็กหนุ่มตรงหน้าช้อนตาขึ้นมองสบตาอย่างรู้กัน แก้มนวลขึ้นสีแดงเรื่ออย่างขวยเขิน เอาซะคนมองอย่างผมเคลิ้มตามหน้าแทบไถลฟาดขอบโต๊ะ
"ไปห้องป๋าจะได้ไหมฮะ"
"ห้องนอนป๋ายินดีต้อนรับน้องฟางเสมอทุกเวลาเลยจ่ะ" ผมเอ่ยหยอดเสียงอ่อนเสียงหวาน เจ้าตัวก็ยิ่งมุดตัวกระมิดกระเมี้ยนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจเสียไม่มี
"ป๋าเจ้าชู้อะ! ฟางไปห้องน้ำก่อนดีกว่า" คนตัวเล็กว่าก่อนจะรีบเดินหนีเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมนั่งเหม่อมองชมบรรยากาศริมทะเลยามเย็นอย่างเพลิดเพลิน
ร้านบาร์ถูกจัดตกแต่งเอาไว้อย่างมีสไตล์ มีนักร้องเสียงดีร้องเพลงสมัยนิยมคลอไปกับเสียงลมทะเล แสงทองอร่ามของพระอาทิตย์ตกกระทบกับผิวน้ำทะเลเปล่งประกายระยิบระยับน่ามอง ผมท้าวคางกวาดตามองบรรยากาศรอบๆไปเพื่อฆ่าเวลา ก่อนจะชะงักทันทีเมื่อสายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นสมาชิกคนใหม่ที่เดินเข้ามาในร้าน
"เชี่ย!" ผมอ้าปากค้างมองตามชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสีดำทรงกระบอกซึ่งกำลังย่างก้าวเข้ามาภายในร้าน รัศมีน่ากดดันอย่างคนมีอำนาจแผ่กระจายไปทั่วตามระยะทางทุกฝีก้าวทีเดิน มีบอดี้การ์ดสองสามคนปั้นหน้าเดินตามประกบเป็นเงา ผมจำหน้าเขาได้เพราะเป็นนักการเมืองชื่อดัง เห็นได้บ่อยครั้งในถ่ายทอดสดประชุมสภา แต่บาปบุญ ไอ้ที่พีคกว่านั้นคือคนที่เดินตามมาด้วยดันเป็นคนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี
ไอ้ธาม มึงไปสนิทชิดเชื้อกับนักการเมืองตั้งแต่ตอนไหน กูไม่ได้เชียร์พรรคนี้ด้วยนะโว้ยไอ้เห็ดเผาะ!
สิ่งที่น่าสงสัยคือ นักการเมืองระดับนั้นมาโผล่หน้าในร้านเหล้าเล็กๆแถวนี้ได้ยังไงวะและที่น่าสงสัยไปกว่านั้นคือ ไอ้ธามได้รับสิทธิพิเศษอะไร ทำไมเสือกไปนั่งหน้าสลอนอยู่กับคนระดับนั้นได้
น้องฟางเดินกลับเข้ามานั่งประจำที่นั่งตรงข้ามพอดี เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สองคนนั้นเลือกที่จะนั่งลงบริเวณโต๊ะวีไอพีที่ทางร้านจัดไว้ให้ มีเจ้าของร้านลงทุนมาต้อนรับแถมจดออเดอร์เองอย่างเอาอกเอาใจ ผมเบะปากมองตามอย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นบอดี้การ์ดมายืนคุ้มกันปิดท้ายไอ้ธามทันทีที่มันนั่งลง
"ป๋ามองอะไรอยู่เหรอฮะ" น้องฟางเอียงคอถามตาใสเมื่อเห็นผมเอาแต่จ้องอยู่แต่ตรงเดิมไม่เบนสายตาไปไหน ยังไม่รอทันให้ผมตอบ เจ้าตัวก็หันหน้าไปมองเองไม่รับฟังเสียงทึกทักจากผมก่อนแม้แต่น้อย ไม่มีใครบอกเหรอหนู เวลาจะเสือกต้องเสือกอย่างมีชั้นเชิง เล่นหันมองจนคอแทบเคล็ดขนาดนี้คนเขาคงจะไม่รู้หรอกมั้งว่ากำลังกลายเป็นประเด็น
"อ้อ คุณชลากร โอ๊ะ! วันนี้มากับพี่ธามด้วย!" น้องฟางพูดเสียงตื่นเต้นตาวาว อย่างกับว่าไอ้เหตุการณ์แบบนี้ร้อยวันพันปีจะสามารถเกิดขึ้นได้สักที ผมเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจแล้วท้าวคางอ้าปากถามเสียงเนือยนาบ
"แล้วไอ้ธามมันไปเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ"
"เอ้าป๋า ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน"
"ห้ะ!!!!' ผมหลุดปากเหวอเสียงดังกับความจริงเรื่องใหม่ที่เพิ่งจะได้รับรู้ โต๊ะข้างๆถึงกับทำแก้วหลุดมือจนมันกลิ้งตกลงบนโต๊ะเพราะตกใจ กูนี่แทบจะเอารองเท้าเตะอุดปากตัวเอง ดีที่ไอ้ธามมันนั่งอยู่ไกลพอสมควรก็เลยไม่รับรู้ว่าผมกำลังนั่งอยู่ตรงนี้
แล้วกูจะระแวงมันทำไมวะ
"ป๋าเบาหน่อยสิ! นี่ไม่รู้เลยเหรอฮะ"
"ใครจะไปรู้ล่ะหนู วันนึงก็ไม่เห็นมันจะอยู่กับใครเยอะ" ไอ้โอกาสแอบแซะประชดมันไปที บอกจากเพื่อนกับสาวในคลังแดกตับของมัน ผมก็ไม่เห็นว่าวันนึงมันจะไปสุงสิงกับใคร ยิ่งคนชั่วระดับมหากาฬอย่างมัน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพ่อเป็นคนใหญ่คนโตขนาดนี้
"พี่ธามนี่เดาใจยากจัง ป๋าฮะ ผมสั่งอาหารเพิ่มได้หรือเปล่า" ร่างบางพูดพึมพัมบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นกระทันหัน ทำเอาคนต้องคอยตามใจอย่างผมกลับหัวเรือเปลี่ยนเรื่องตามเจ้าตัวไปแทบไม่ทัน
"สำหรับน้องฟาง ได้เสมอเลยจ่ะ" พูดตอบกลับไปอย่างพะเน้าพะนอ เด็กน้อยโปรยรอยยิ้มขวยเขินก่อนจะเริ่มร่ายเมนูให้กับพนักงานเหยียดยาวเป็นหางว่าวจนผมชักจะเริ่มรู้สึกเหงื่อแตกถ้าต้องจินตนาการถึงตัวเลขที่จะปรากฏอยู่ในบิล
หนูหิวโซมาจากไหน
ผมเหลือบตามองไปยังโต๊ะที่ไอ้ธามนั่งอยู่อีกครั้ง เห็นคุณชลากรกำลังพูดอะไรกับมัันอย่างกับเป็นเรื่องจริงจังระดับชาติ แต่กลับกัน ใบหน้าและแววตาของไอ้ธาม ไม่ได้ความรู้สึกอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย ว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเกินไป ว่างเปล่าเหมือนไม่ใช่มัน
+++++++++++++++++++++
19.30 น.
"วันนี้อิ่มมากเลยฮะ ป๋าธัชน่ารักที่สุดเลย" น้องฟางเอ่ยว่าเสียงหวาน ประจบคลอเคลียอย่างเอาใจในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดเลขในหัวว่าวันนี้เสียเงินไปเท่าไหร่ ขนหน้าแข้งร่วงไปกี่เส้น แดกอย่างกับห่าจะลง แต่เพื่อเด็ก เพื่อตับเด็ก ป๋าธัชต้องอดทน
"อิ่มแล้วก็ให้รางวัลป๋าสักทีสิ" ผมทวงถามอย่างทีเล่นทีจริง คนตัวเล็กเอียงหน้าหนีเมื่อผมจะโน้มตัวไปหา หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจที่ปั่นประสาทผมได้สำเร็จ
"ให้เร็วป๋าก็เบื่อฟางเร็วน่ะสิฮะ เล่นตัวเอาไว้ก่อนดีกว่า" คนหน้าสวยพูดแล้วยิ้มหวานในแบบที่คิดว่าเป็นสเน่ห์มากที่สุด ผมยิ้มรับแล้วแอบกรอกตามองบนในใจ ชวดอีกแล้ว ผลัดไปเรื่อยๆแบบนี้มุกประจำ ถูกหลอกแดกอีกแล้วมึง!
"ยังไงวันนี้ฟางขอกลับก่อนนะฮะ มีทำรายงานกับเพื่อน อ้อ ไว้วันหลังมาอีกนะฮะ" ไม่รอให้คำตอบใดๆหลุดออกมาจากปากผม เจ้าตัวก็รีบสะบัดตูดเดินหนีออกจากบาร์อย่างเฉิดฉายด้วยพุงที่อิ่มแปล้ ผมถอนหายใจ หยิบกระเป๋าขึ้นมานับเงินที่ยังคงเหลือ เอาวะ อย่างน้อยก็ยังเหลือเงินเติมน้ำมัน
ปัง!!!
ผมเตรียมตัวจะลุกขึ้นจากโต๊ะกลับไปทำงานทำการที่มันเป็นประโยชน์สักที หากแต่เสียงมือทุบโต๊ะอย่างเกรี้ยวกราดทำให้ผมที่กำลังใจลอยเป็นอันต้องสะดุ้ง เสียงทุ้มก้องกังวานด้วยอำนาจที่กำลังตวาดแปรเปลี่ยนให้บรรยากาศรอบกายภายในร้านบาร์แห่งนี้ดูย่ำแย่ลงไปได้ภายในพริบตา
"แกอย่ามาลองดีกับฉันนะไอ้ลูกทรพี!!!!"
"เชี่ยมึง!" ผมเผลอหลุดปากพูดออกมาอย่างตกใจ พยายามเพ่งมองปฏิกิริยาจากไอ้ธามทันที ผมคิดว่ามันคงจะโวยวายกลับตามประสาคนสันดานอย่างมัน กูจะได้เตรียมพร้อมวิ่งเข้าไปห้ามถ้าเกิดมีเหตุพ่อลูกตระกูลดังตีกันตายในร้าน แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด
"......"
มันไม่พูดอะไรเลย....มันไม่ขยับตัว ไม่ตอบโต้ คปฏิกิริยาของลูกในไส้ที่กำลังถูกด่าว่าเป็นลูกทรพี มีเพียงความนิ่งสงบ เงียบงัน และว่างเปล่า
ผมไม่ชอบเวลาไอ้ธามเป็นแบบนี้เลยว่ะ
"แกมันไม่รักดี ไม่เคยทำให้ที่บ้านภูมิใจได้สักอย่าง"
"......"
"ที่บ้านมีทุกอย่างให้แกมันยังไม่พอใช่ไหม ห้ะ!!! ถึงได้ทำตัวเสเพลสกปรกไม่ต่างจากพวกข้างถนนแบบนี้!"
"......"
"อย่าให้เห็นอีก ถ้าฉันต้องขับรถมาจากกรุงเทพเพื่อมาตามล้างตามเช็ดเรื่องต่ำๆที่แกไปทำเอาไว้อีก ก็อย่าหวังว่าจะได้เรียนต่อที่นี่อีก กลับไปอยู่กับย่าแกที่โน่น ไม่ต้องกลับมาอีก!"
"ไอ้ธาม" ผมรีบวิ่งปรี่เข้าไปหามันทันทีที่บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาเดินออกไป เขาดูหัวเสียอย่างหน้ก ทุกคนในร้านยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก ผู้หญิงบางคนถึงกับตัวสั่นกับน้ำเสียงและคำพูดที่ได้ยิน เพลงในร้านที่หรี่ลงถูกกลับมาเปิดให้สถานการณ์กลับมาเป็นอย่างปกติอีกครั้งเพื่อพัดพาบรรยากาศอึมครึมออกไป
"ไอ้ธาม มึงโอเคมั้ยวะ" ผมก้มหน้าลงถามอีกครั้ง คนตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม ที่เดิม และแววตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึก กระดกแก้วเหล้าเข้าปากอึกเดียวอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะฟาดมันลงกับโต๊ะอย่างแรงจนคนสะดุ้งกันทั้งร้าน
ห่าเอ้ย!
"พรุ่งนี้มึงมีเรียนนะเว้ย แดกแบบนี้จะไปเรียนไหวได้ยังไงวะ!" ผมไม่ได้ไปรู้เรื่องอะไรกับมันมากหรอก แต่พอได้ยินมาลางๆจากไอ้เป้ว่าพรุ่งนี้มันมีเรียนเช้า ไอ้ธามถอนหายใจอย่างรำคาญ ตวัดสายตาขึ้นมองผมอย่างไม่สบอารมณ์
เออ ก็ยังดีกว่าแววตาเย็นชาแบบเมื่อกี้แหละวะ
"จิ้ ป๋า...ทำไมชอบยุ่งนักวะ"
"เออ! กูมันยุ่ง กูมันขี้เสือก จะแดกก็แดกไปเลยเรื่องของมึง!" ผมพูดตอบกลับอย่างเหลืออด กูอุตส่าห์หวังดี เป็นห่วงมึง แม่งตัดน้ำใจกูแบบนี้เลยเหรอวะ พอทำท่าจะเดินออกจากร้านจริงๆ ผมก็ยังจะสาระแนหันกลับไปมองมันอีก
RRRRRRRRRRR
ไอ้ธามเพียงแค่หลุบสายตาลงมองรายชื่อของสายเรีบกเข้าก่อนจะเลือกที่จะเพิกเฉยต่อมัน เทเหล้าใส่แก้วจนเต็มเตรียมจะกระดกแดกอีกครั้ง ผมก็เสือกตาดีไง ชะเง้อไปมองว่าใครโทรมา เท่านั้นแหละ ทิศทางเท้าที่จะก้าวออกจากร้านก็หันกลับมาที่โต๊ะวีไอพีเหมือนเดิม
สายตาอ่อนโยนที่มันเคยมีให้คนอื่น แต่ทำไมมันถึงเย็นชากับพ่อแม่ตัวเองได้ขนาดนี้
"นั่นแม่มึง" ผมพูดเรียกสติ พลางหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงกันข้าม อีกฝ่ายไม่ได้สนใจใยดีต่อคำดังกล่าว ปล่อยให้โทรศัพท์แผดเสียงสั้นครืนเรียกร้องความสนใจอยู่อย่างนั้น
"น้องพี่ขอแบบนี้อีกขวดนึง" สั่งออเดอร์กับบริกรแล้วก็หน้าด้านนั่งหน้าสลอนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไอ้ธามช้อนตาขึ้นมองค้อนอย่างเอาเรื่อง ผมแค่ยักไหล่เบ้ปากใส่อย่างไม่สำนึกผิดต่อสิ่งใด ไม่รู้ว่ะ สายตาของมันทำให้ผมรู้ ว่าอย่าปล่อยให้มันอยู่คนเดียวเด็ดขาด
"จะแดกเท่าไหร่ก็แดกไปเลย เดี๋ยวสามทุ่มกูลากมึงกลับ"
"ยุ่ง"
"เออกูยุ่ง กูสาระแน เลิกว่ากูแล้วแดกไปเหอะ เอาให้ตับแข็งตายไปเลยยิ่งดี!" ผมพูดประชด ไอ้ธามแสยะยิ้มแค่นหัวเราะ เหมือนจะประชดประชันตัวเอง หรือหัวเราะสมเพชอะไรสักอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ไม่มีบทสนทนาหลังจากนั้นระหว่างเรา มีเพียงขวดเหล้าที่พร่องน้ำซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องมานั่งแดกเป็นเพื่อนมัน แต่แม่งไม่ไหวว่ะ ไอ้ธามเย็นชามากเกินไป เย็นชาต่อทุกสิ่งอย่างรอบตัว
"สุดหล่อ คืนนี้ว่างไหมคะ ไปต่อไหม" แม่สาวอวบอึ๋มผิวขาวผ่อง อายุน่าจะมากกว่าไอ้ธามไม่เท่าไหร่ เธอเอ่ยชวนอย่างเย้ายวน บดเบียดหน้าอกและสะโพกกลมกลึงเข้ากับร่างกายตัวผู้ ไอ้ธามเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจช้าๆแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ ปฏิบัติต่อเธอไม่ต่างกับธาตุอากาศจนหล่อนหน้าเสีย
"ตัวเอง..."
"ไม่ล่ะ ไม่มีอารมณ์"
"แต่---"
"บอกว่าไม่ไง" เสียงของไอ้ธามราบเรียบไร้ซึ่งความรู้สึก แม่สาวหุ่นอวบยิ้มแหยแล้วค่อยๆลุกเดินหนีอย่างเสียหน้า โถอิหนูเอ้ย เขาไม่เอาแต่ป๋าเอานะจ๊ะ ทำไมไม่ชายตาแลมองมาทางนี้บ้างเลย
แล้วสถานการณ์ก็กลับเข้าสู่อิหรอบเดิมอ้กครั้ง ไอ้ธามนั่งแดกเงียบๆไม่พูดคุยหรือโวยวายอะไรกับใคร มีบ้างที่เหลือบสายตามองผม แต่ก็ทำท่าทีไม่สนใจโลกเหมือนเดิม ส่วนผมก็ยังนั่งแช่อยู่กับมันไม่ไปไหน ทั้งๆที่ในหัวก็ถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าได้ประโยชน์อะไรจากการทำเรื่องโง่ๆแบบนี้
เวลาล่วงเลยไปจนเกือบสี่ทุ่ม ไอ้ธามไม่มีท่าทีที่จะหยุดลง ส่วนผมถ้าไม่หยุดตั้งแต่ตอนนี้คงได้เป็นฝ่ายนอนสลบคาโต๊ะเฝ้าร้านให้อย่างแน่นอน ดวงตาหน้าตอนนี้แต้มสีแดงเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ คงต้องยอมรับว่าไอ้ธามตอนเมาแม่งเซ็กซี่ชิบหาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาชมมัน หาทางแบกร่างควายๆของมันออกจากร้านไปให้ได้ก่อน
"ไอ้ธาม! ลุกโว้ย จะแดกให้ตายไปเลยรึไง" ไอ้ธามตวัดสายตามองมาทันทีอย่างหัวเสีย
"บอกว่าอย่ามายุ่งไงวะ!"
"แต่กูจะยุ่ง กูมันไม่มียางอายอยู่แล้ว ลุก! แม่งตัวอย่างกับควาย!" พูดไปบ่นไป แต่ตัวเองก็จัดการแบกร่างของไอ้คนเด็กกว่าพาเดินออกมาจากร้านอย่างทุลักทุเล วางเงินสดเกินราคาไว้บนโต๊ะเพราะไม่มีปัญญามายืนรอเงินทอน ไอ้นี่ก็ขยันหายใจรดต้นคอกูจัง เมาแล้วขี้ยั่วนะมึง
"ไหนรถมึง"
"มารถเขา" ผมใช้เวลาคิดประมวลผลกับเสียงตอบอ้อแอ้ของมันอยู่พักใหญ่ เขานี่คือพ่อมึงใช่มั้ย หมายความว่ามึงแดกแบบไม่ได้วางแผนเลยใช่มั้ยว่าเมาแล้าจะเอาร่างเน่าๆไปกองไว้ตรงไหน หรือมึงกะจะให้ตัวเองขึ้นอืดตายห่าริมทะเลนี่ไปเลย
"ควาย! แล้วกูจะไปส่งมึงที่ไหน ปล่อยทิ้งข้างถังขยะเลยดีมั้ย"
"เออ! ไม่ต้องมายุ่ง!!"
"เออ ผลักไสกูเข้าไป....มึงพักอยู่ไหน" ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะเริ่มถามข้อมูลที่อยู่ของมัน ไอ้ธามขมวดคิ้วรำคาญผมที่พูดซักถามไม่หยุด บวกกับอาการเมาที่คงอยากจะเทร่างนอนเต็มที่แต่เสือกถูกจับแขวนเอาไว้มันคงจะรู้สึกขัดใจพอดู
"คอนโด X คีย์การ์ดอยู่ใน...กระเป๋า" ผมพยักหน้ารับแล้วรีบค้นตัวหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋ามันมาไว้ในมือทันที พอผลักมันขึ้นรถตัวเองได้ก็ขับรถดิ่งตรงไปยังชื่อคอนโดที่มันพักอยู่ทันที ขับไปก็ทุลักทุเลชิบหาย หลงไปสามซอย คอนโดเหี้ยอะไรหายากชิบหาย กว่าจะหาเจอก็ล่อซะเหงื่อตก แล้วก็เจอปัญหาใหม่อีก
"ห้องไหนวะ ไอ้ธาม มึงห้องไหน"
"ห้องไหนก็ได้ที่เอาป๋าได้อะ เลิกถามดิ้ ในคีย์การ์ดก็มีเขียน" มันตอบกลับเสียงหงุดหงิดอย่างคนเมา ดีแค่ไหนแล้วที่มันยังเหลือสติมาตอบ แสดงว่าคอแข็งมากพอสมควร ถ้าเป็นคนอื่นแม่งคอพับตายห่าคาร้านเหล้าไปแล้ว ไอ้นี่ยังมีแรงมาด่ากูได้อยูาแปลว่าไม่ธรรมดา
แล้วใครจะเอากับมึงวะ! ไอ้เด็กเวรเอ้ย!!
"ใครจะเอากับมึง โดนกูเสียบขึ้นมาละอย่ามาร้อง"
"เหอะ!" ไอ้ธามแค่นยิ้มหัวเราะอย่างกับได้ยินเรื่องตลก ดวงตาคมหลับลงอย่างอ่อนล้า ใบหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อยเพื่อสูดดมกลิ่นเครื่องปรับอากาศเรียกสติ ผมเผลอมองมันนานจนลืมตัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ดวงตาสีนิลตวัดมาสบเข้ากับผมอย่างจัง
"...มองอะไร..."
"มึงแม่งหล่อเนอะ" ผมพูดบอกออกมาตามความรู้สึก ไอ้ธามขมวดคิ้วนิดๆอย่างพิจารณาว่าผมจะมาไม้ไหน แต่แม่งเมาอยู่ไง คิดยังไงก็คิดไมาออกหรอกมันน่ะ
"......"
"แต่เสียดายสันดานเหี้ยไปหน่อย"
"หึ ปากดี"
"เออกูมันปากดี ลงสิวะ แดกไม่ดูวันเลยนะมึง ไปเรียนไม่ไหวกูจะสมน้ำหน้าให้" ผมบ่นไป ชักจะเริ่มรู้สึกกึ่มๆเพราะเสือกแดกอัดไปหลายแก้ว เปิดประตูรถออกมาฝั่งข้างคนขับเพื่อจะลากไอ้ตัวดีออกมา แต่ผลคือไอ้ธามมันหลับตาไม่ไหวแล้ว เหมือนจะแฮงค์หนัก เมื่อกี้ยังด่ากูปากดีได้อยู่เลย ไม่ถึงนาทีมึงน็อคเอาท์ไปแล้วเหรอวะ
ผมก้มหน้ามุดตัวลงไปจะปลดเข็มขัดนิรภัยออกให้ เป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้ธามหันหน้าเปลี่ยนท่านอนมาทางนี้พอดี ปลายจมูกเฉียดกันไปเพียงเสี้ยววิ ลมหายใจอุ่นร้อนผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ตลบอบอวลไปพร้อมกับกลิ่นโคโรลและน้ำหอมราคาแพงแบบผู้ชาย ผมยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก เหมือนถูกดูดเข้าไปในวงโคจรของมัน
เคยมีคนกลายคนเล่าต่อๆกันมา ว่าไอ้ธามเป็นผู้ชายที่มีสเน่ห์มากโดนเฉพาะเวลาที่มันเมา ไม่ใช่เพราะเมาแล้วมีปฏิกิริยาอะไรออกมา มันก็เหมือนคนปกติ หากแต่เวลาเมา ไอ้ธามเหมือนจะปล่อยคาริสมาอะไรสักอย่างออกมา ให้คนที่มองอยู่ละสายตาไปมองใครไม่ได้อีกเลยนอกจากมัน ผมไม่เคยเชื่อและไม่เคยสัมผัส จนกระทั่งวันนี้
น่ากลัว เป็นผู้ชายที่มีสเน่ห์จนน่ากลัว
"...ป๋า...."
"จ้องอะไรนัก" ไอ้ธามลืมตารู้สึกตัวมาตั้งแต่ตอนไหนไม่อาจทราบ มันเอ่ยถามเสียงเบาแต่แหบแห้ง ดวงตาหลุบลงไปโฟกัสกับริมฝีปากตรงหน้า ปากบาง เป็นกระจับ แถมสีชมพูสดอย่างคนสุขภาพดี ยิ่งเวลามันขยับพูดไปมา ผมยิ่งมีความรู้สึกว่าอยากจะลองสัมผัสมันดูสักที
"ป๋า"
"...ไอ้ธาม..."
"......"
"ปากมึง....สวยดี" ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมพูดออกไปอย่างนั้น สติคงจะเลือนลางเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หรือปัจจัยอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมล่องลอยห้ามตัวเองไม่ได้ถึงขนาดนี้ ไอ้ธามนิ่งชะงักไป ฝ่ามือเรียวลูบไล้ที่ริมฝีปากล่างของผมแผ่วเบาก่อนจะถาม
"จูบมั้ยล่ะ""....อืม"
ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผมเคยฟังเด็กในผับเล่ากันมา
ถ้าเผลอตัวไปจูบกับไอ้ธามแล้ว ไม่มีทางที่ค่ำคืนนั้นจะได้จบลงแค่จูบTBC
[/b]